Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กาพย์เห่เรือ

กาพย์เห่เรือ

Published by pearyzaa, 2023-07-06 01:11:44

Description: กาพย์เห่เรือ

Search

Read the Text Version

ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖

จดุ เริ่มตน้ ของการเหเ่ รือ ใช้เพ่ือกำกับจังหวะพายเรือ และใช้ เพือ่ ความสนุกสนาน การเหเ่ รอื จะชว่ ยใหฝ้ ีพายมีกำลังใจ บรรเทา ความเหน่อื ยระหว่างทางลงไปได้ การเหเ่ รอื แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ได้แก่ ๑. การเหเ่ รอื เลน่ เป็นกจิ กรรมสนั ทนาการของเจ้านายหรือ ชาวบ้านทัว่ ๆไป ๒. การเห่เรอื หลวง เปน็ กจิ กรรมที่เกี่ยวข้องกบั พระราชพธิ ตี า่ ง ๆ ของกษัตรยิ ์ สำหรบั กาพย์เห่เรือเจา้ ฟ้าธรรมธิเบศร ได้รบั การยก ย่องใหเ้ ปน็ กาพย์เห่เรือหลวงในสมยั รชั กาลท่ี ๔ แหง่ กรงุ รตั นโกสินทร์ และเปน็ แบบแผนการแต่งกาพย์เห่เรือจนถึงปจั จบุ นั

• ชา้ ลวะเห่ (ช้า-ละ-วะ-เห)่ ท่วงทำนองช้า เพราะใชต้ อนทเี่ รอื เร่ิมเคลอ่ื นที่ ฝพี าย ตอ้ งใชแ้ รงมาก และมกั จะใช้ในโอกาสทีเ่ ป็นการพายเรือตามนา้ • มลู เห่ (มนู -ละ-เห)่ เพิม่ ความดุดนั และรวดเร็วข้ึน ใช้พายในระหวา่ งพายเรอื กลางลำนา้ มีความสนกุ สนาน ครกึ คร้นื • สวะเห่ (สะ-วะ-เห)่ ใช้เมอ่ื เรอื จะจอดเทียบท่า ท่วงทำนองจะชา้ ลง เหมือนกับชา้ ลวะเห่ เน่ืองจากใกลถ้ งึ ฝง่ั

ผู้แต่งกาพย์เหเ่ รอื คอื เจ้าฟา้ ธรรมธเิ บศไชยเชษฐส์ รุ ยิ วงศ์ (เจา้ ฟา้ กงุ้ ) พระราชโอรสพระองค์โตในสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั บรมโกศ ดยแตง่ ขึ้นช่วงปลายสมัยอยุธยาตอนปลาย และนับวา่ พระองค์เป็น กวเี อกในสมัยอยธุ ยาตอนปลาย มีความสามารถทงั้ ในดา้ นภาษาและ การประพนั ธ์ มีผลงานโดดเด่นหลายเรอื่ ง บทเห่เรือ่ งกากี ๓ ตอน บทเหส่ งั วาสและเห่ครวญ กาพย์ห่อโคลงนริ าศธารโศก กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง พระมาลัยคำหลวง เพลงยาวเจ้าฟา้ ธรรมธิเบศร

เนอื่ งจากในสมยั นัน้ ต้องเดินทางจากกรุงศรีอยุธยาไปนมสั การพระ พทุ ธบาทที่จังหวดั สระบรุ ี ซึง่ คาดวา่ เจา้ ฟา้ กงุ้ นา่ จะเดินทางตามเสดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั บรมโกศจากท่าวาสกุ รี ไปขึน้ บกทที่ ่าเจา้ สนกุ ก่อนจะเดินเทา้ ตอ่ ไป วดั พระพทุ ธบาท ๑. เพ่ือกำกับจังหวะของพลพายให้สามารถพายเรอื ขนาดใหญไ่ ด้ อยา่ งพรอ้ มเพรียงกนั ๒. เพ่ือสร้างความสนกุ สำราญ ให้กบั ตนเองและพลพาย ๓. เพอ่ื ประกาศการเสด็จของพระมหากษัตริย์ การเห่เรือจะทำให้ ชาวบ้านทราบและสามารถออกมารับเสด็จ และชืน่ ชมพระบารมีริมฝ่งั แม่น้าได้

ลักษณะคำประพันธ์ของกาพยเ์ ห่เรอื เปน็ รูปแบบของกาพย์เห่ คือ เริ่มด้วย โคลงสส่ี ภุ าพ และตามดว้ ยกาพย์ยานี ๑๑ ท่แี ต่งใหม้ ี เนื้อความตามโคลงสีส่ ภุ าพ และไมจ่ ำกัดจำนวนบท

กาพย์เหเ่ รอื เจา้ ฟา้ กุ้ง แบ่งออกเป็น ๒ ตอน และแบง่ ตามชว่ งเวลา ดงั น้ี ตอนที่ ๑ : บทเห่ชมเรอื ชมปลา ชมไม้ ชมนก ตอนท่ี ๒ : บทเห่ครวญ เช้า บา่ ย ดึก ชมเรอื ชมไม้ บทครวญ สาย เย็น ชมปลา ชมนก

เวลาเชา้ เห่ชมกระบวนเรอื

โคลงสี่สุภาพ ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย ทรงรัตนพิมานชยั กง่ิ แก้ว พร่งั พรอ้ มพวกพลไกร แหนแห่ เรือกระบวนต้นแพรว้ เพริศพริ้งพายทอง กาพย์ยานี ๑๑ ทรงเรอื ตน้ งามเฉิดฉาย เมอื่ พระเจ้าอยู่หวั บรมโกศเสดจ็ ทาง พายอ่อนหยบั จับงามงอน พระเสดจ็ โดยแดนชล ลว้ นรูปสตั ว์แสนยากร น้า ทรงประทบั เรอื กงิ่ ซ่งึ พรงั่ พรอ้ มด้วย ก่ิงเเก้วแพรว้ พรรณราย สาครลั่นครนั่ ครนื้ ฟอง กำลงั พลทหารห้อมลอ้ ม ขบวนเรือต้น นาวาแน่นเปน็ ขนัด งดงามแวววาวระยับจากพายสที อง เรอื รว้ิ ทวิ ธงสลอน ขบวนเรอื แนน่ เป็นแนว ประกอบดว้ ยเรือท่หี ัวเรอื เป็นรูปสตั ว์ หลายชนดิ มองเหน็ ธงเดน่ มา ขบวน เรอื ทำให้เกิดคลื่นนา้ ระลอก

เรือตน้ เรอื พระทีน่ งั่ อนันตนาคราช เรอื ตน้ หมายถงึ เรือลำ ทพี่ ระเจ้าแผน่ ดินประทับ ปัจจบุ นั มี ๔ ลำ เรอื พระทนี่ ง่ั สพุ รรณหงส์

เรอื พระท่ีนงั่ นารายณ์ทรงสบุ รรณ เรอื พระทน่ี ง่ั เอนกชาตภิ ุชงค์

เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิว่ ลอยมาพาผันผยอง พลพายกรายพายทอง ร้องโหเ่ หโ่ อ้เห่มา เพียงพิมานผา่ นเมฆา สรมขุ มุขสี่ด้าน หลงั คาแดงแยง่ มงั กร ม่านกรองทองรจนา แสงแวววบั จบั สาคร ดงั่ ร่อนฟา้ มาแดนดนิ สมรรถชยั ไกรกาบแกว้ เรียบเรยี งเคียงคจู่ ร เรอื ครฑุ มพี ลทหารกำลงั พายเรืออย่างเปน็ จังหวะพร้อมกับ เปล่งเสยี งโห่รอ้ ง เรอื สรมขุ ลอยมาเปรียบความสวยงามดัง่ พมิ านบนสวรรค์ท่กี ำลังเคล่ือนท่ีผา่ นหมเู่ มฆ ตกแต่งไปดว้ ยม่าน สีทอง หลงั คาสแี ดงมลี วดลายมังกรประดบั อยู่ เรอื สมรรถชัย กำลงั แล่นมา ประกอบไปด้วยกาบแกว้ ขนาด ใหญ่ เกดิ แสงแวววับสะท้อนกับ แม่นา้ งดงามมากเหมือนด่งั วา่ กำลังร่อนลงจากสวรรคล์ งสพู่ ืน้ ดิน

สพุ รรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลงั สินธุ์ เพยี งหงส์ทรงพรมมินทร์ ลนิ ลาศเล่ือนเตือนตาชม รวดเร็วจรงิ ยง่ิ อย่างลม เรอื ชยั ไวว่องวิ่ง หม่ ท้ายเยิ่นเดนิ คู่กัน เสียงเส้าเรา้ ระดม เรอื สวุ รรรณหงส์ มพี ู่ห้อยอยา่ งสวยงาม ลอ่ งลอยอยบู่ นสายนา้ เปรยี บดงั่ หงส์ทเ่ี ป็น พาหนะของพระพรหมเตือนตาให้ชม เรอื ชยั แลน่ ด้วยความรวดเร็วเหมือนด่งั ลม มีเสียงเส้าทคี่ อยให้จงั หวะท้ายเรอื ให้ แลน่ ไปเคียงคู่กนั ไปกบั เรอื ลำอนื่ ๆ

คชสหี ์ทผี าดเผ่น ดดู ังเป็นเห็นขบขัน ราชสหี ์ทยี นื ยนั คัน่ สองคู่ดยู ่ิงยง เรือม้าหนา้ มุ่งนา้ แลน่ เฉ่ือยฉ่าลำระหง เพียงม้าอาชาทรงองค์ พระพายผายผันผยอง เรอื คชสหี ์ ทกี่ ำลังแลน่ ไปน้ัน ดูแล้วชวนขบขนั เรือราชสีห์ ที่แล่นมาเคียงกนั น้ันดูมนั่ คงแขง็ แรง เรือม้า กำลงั มุ่งหนา้ ไปข้างหน้าซ่ึงเรอื มา้ ทีลักษณะท่ีสงู โปรง่ เหมือนกับมา้ ทรงอันเปน็ พาหนะของพระพาย

เรือสิงหว์ ่งิ เผน่ โผน โจนตามคลนื่ ฝนื ฝาฟอง ดูยิ่งสิงห์ลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกนั ดูเขมน้ เห็นขบขนั นาคาหนา้ ดังเปน็ ทนั แขง่ หนา้ วาสุกรี มงั กรถอนพายพนั เรอื สงิ ห์ ดูเหมือนกบั ว่ากำลังจะกระโจนลงสู่แม่น้า และมคี วามลำพองใจนัน้ ก็แลน่ ป็นแถวตามๆกันมา เรอื นาค นั้นมองดเู หมอื นกบั มีชีวิตแล้วชวน ขบขันกำลังจะถกู เรือมงั กรแลน่ ตามมาทนั

เลียงผางา่ เท้าโผน เพยี งโจนไปในวารี นาวาหน้าอนิ ทรี ท่ปี กี เหมือนเล่อื นลอยโพยม กอ้ งกาหลพลแห่โหม ดนตรีมอี่ ึงอล โสมนสั ชื่นร่นื เรงิ พล โห่ฮึกครกึ ครน้ื โครม จากนคเรศโดยสาชล ยลมัจฉาสารพนั มี ฯ กรธี าหมนู่ าเวศ เหมิ หน่ื ชืน่ กระมล เรือเลยี งผา นัน้ ทำทา่ เหมอื นกบั กำลังจะกระโจนลงแมน่ า้ เรืออนิ ทรี กม็ ปี กี ทีเ่ หมือนกบั กำลงั จะลอยไปในอากาศ เสยี งดนตรนี น้ั ดังล่นั มีเสยี งก้องมาจากแตรงอน เสียงพล ทหารโหร่ ้องอยา่ งครึกครน้ื ขบวนเรอื ออกจากเมืองมาน้นั ดู เขม้ แขง็ เปน็ ภาพท่ที ำใหช้ ่ืนอกชน่ื ใจ

เวลาสาย เหช่ มปลา

โคลงสีส่ ภุ าพ คลงึ กนั แจม่ หนา้ พิศพรรณปลาวา่ ยเคลา้ พศิ วาส ถวลิ สุดาดวงจันทร์ เคล้าคลึงชม มตั สยายอ่ มพวั พนั ควรฤพรากนอ้ งช้าชวด กาพย์ยานี ๑๑ คิดถึงเจ้าเศรา้ อารมณ์ มองดปู ลาว่ายนา้ ทำใหร้ ู้สึกคิดถึง สาสมใจไมพ่ ามา น้องนางอันเปน็ ที่รกั เวลาเหน็ พิศพรรณปลาว่ายเคลา้ เจา้ งามพร้ิงย่งิ นวลปลา ปลาว่ายอยคู่ ู่กนั กย็ ิง่ ทำให้รู้สกึ วา่ มตั สยายังรู้ชม ไม่งามเท่าเจา้ เบอื นชาย ทำไมพก่ี บั น้องถงึ ตอ้ งแยกจากกัน ร้สู ึกเศร้าที่พ่ีไม่ไดพ้ านอ้ งมา ปลา นวลจันทร์เป็นนวลจริง นวลจันทร์มีสีนวลมากแต่นอ้ งมี คางเบือนเบอื นหน้ามา ผิวพรรณทีน่ วลยิง่ กวา่ ปลา คางเบอื นหันหน้ามากย็ งั ไมง่ ามเท่า ปลาคางเบือน น้องหันหนา้ มามองพี่ ปลา นวลจนั ทร์

เพยี นทองงามดง่ั ทอง ไมเ่ หมือนน้องหม่ ตาดพราย ปลาตะเพยี นท่ีมสี ีทองกย็ ัง กระแหแหหา่ งชาย ดง่ั สายสวาทคลาดจากสม ไม่งามเท่าน้องสวมผา้ ตาด อันแกม้ นอ้ งชา้ เพราะชม ปลากระแหว่ายนา้ ห่างกัน แกม้ ชา้ ชา้ ใครตอ้ ง เหมือนทกุ ข์พที่ ่ีจากนาง เปรยี บกบั น้องทอี่ ยหู่ ่างจากพี่ ปลาทกุ ทกุ ขอ์ กกรม ปลาแก้มชา้ ช้าเพราะใครไมร่ ู้ แต่ท่แี กม้ นอ้ งช้าเพราะถูกชม ปลา ปลาทกุ ทกุ ข์เพราะอมทกุ ขไ์ ว้ ตะเพยี น เหมอื นพี่ท่ีอมทกุ ข์เพราะต้อง จากนอ้ งมา ปลาทกุ ปลากระแห ปลาแกม้ ชา้

น้าเงนิ คอื เงนิ ยวง ขาวพรายชว่ งสสี ำอาง ปลานา้ เงินมีสีดั่งเงินยวงขาว ไมเ่ ทยี บเปรยี บโฉมนาง งามเรอื งเรอ่ื เนอ้ื สองสี ผอ่ งมนั วาว แตก่ ไ็ มเ่ ท่าความงาม เคลา้ กันอยู่ดูงามดี ของน้องงามราวกบั มเี นือ้ ตวั สองสี ปลากรายว่ายเคียงคู่ เห็นปลาเคล้าเศร้าใจจร ปลากรายว่ายนำา้ เคียงคู่ดสู วยแต่ แต่นางหา่ งเหินพ่ี นอ้ งตอ้ งห่างกบั พ่พี อเห็นปลา กรายว่ายคู่กันแล้วรู้สึกเศร้าใจ ปลากราย ปลาน้าเงิน

หางไกว่ ่ายแหวกว่าย หางไก่คลา้ ยไม่มีหงอน คิดอนงค์องคเ์ อวอร ผมประบา่ อ่าเอยี่ มไร วา่ ยเวียนวนปนกนั ไป ปลาสร้อยลอยล่องชล ไม่เห็นเจา้ เศรา้ บ่วาย เหมือนสรอ้ ยทรงทรามวัย ปลาหางไก่ ปลาหางไก่มีมคี รีบหางเหมอื นกบั หางไก่ ไม่มหี งอน เพราะไม่ใชไ่ กแ่ ต่ เป็นปลา ลำตัวของปลานั้น เรยี ว ยาว ทำให้คดิ ถงึ ทรวดทรงเอวและผมยาว ประบา่ ของนางอนั เป็นทรี่ กั ท่ยี าวสลวย ประบ่า เวลาปลาสรอ้ ยเกล็ดน้ัน เป็น สีเงินวาวๆ เหมือนกบั สรอ้ ยของน้อง นางอนั เปน็ ที่รัก ปลาสร้อย

เนอ้ื อ่อนอ่อนแตช่ อ่ื เน้ือนอ้ งฤๅอ่อนทง้ั กาย ปลาเน้อื อ่อนอ่อนแตเ่ พียง ใครต้องขอ้ งจติ ชาย ไมว่ ายนึกตรึกตรึงทรวง ชอ่ื ส่วนเนอ้ื น้องนนั้ อ่อนไปทง้ั เล่อื นแหลมกว่าปลาทง้ั ปวง กาย ใครจับตอ้ งก็หลงใหลไม่ ปลาเสือเหลือที่ตา ดูแหลมล้าขำเพราคม คลายคดิ ถงึ แตน่ าง ปลาเสือตา เหมอื นตาสดุ าดวง แหลมกว่าปลาทัง้ หลาย เปรียบเสมอื นดวงตาของน้องท่ี ปลา ดูแหลมคมสวยซ้ึงนา่ มอง เนอ้ื อ่อน ปลาเสือ

แมลงภูค่ ูเ่ คยี งวา่ ย เหน็ คลา้ ยคลา้ ยน่าเชยชม คดิ ความยามเมื่อสม สนทิ เคล้าเจา้ เอวบาง คดิ สุดาอา่ องค์นาง หวเี กศเพศชอ่ื ปลา เส้นเกศสลวยรวยกลน่ิ หอม หวเี กล้าเจา้ สระสาง ปลาหวเี กศ ปลาแมลงภูว่ ่ายมาเป็นคู่ ๆ เหน็ แลว้ นา่ เชยชม ทำให้คิดถงึ ตอนทไี่ ด้ใกลช้ ิดกบั น้อง เห็นปลาหวีเกศแลว้ ทำใหพ้ ค่ี ิดถึงน้อง คิดถึงตอนทีน่ อ้ งหวผี มสระสางเส้นผมเสน้ ผมของนอ้ งสลวยและมกี ล่ินหอม ปลาแมลงภู่

ชะแวงแฝงฝัง่ แนบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม เหมือนพแี่ อบแนบถนอม จอมสวาทนาฏบังอร พิศดหู มมู่ จั ฉา วา่ ยแหวกมาในสาคร ปลาชะแวงวา่ ยวนปะปนกับ ปลาชะวาดและปลาแปบ คะนงึ นุชสดุ สายสมร มาดว้ ยพ่จี ะดใี จ เหมือนกบั พ่ีแอบใกลช้ ิดน้อง ด้วยแรงของความรัก มองดู ปลาชะวาด พนั ธปุ์ ลาตา่ ง ๆ แหวกวา่ ยมา ในแม่นา้ ทำให้คิดถงึ นอ้ ง ปลาชะแวง หากน้องมาด้วยพีค่ งจะดีใจมาก ปลาแปบ

เวลาบา่ ย เหช่ มไม้

โคลงสส่ี ภุ าพ มีพรรณ กล่นิ เกลยี้ ง เรอื ชายชมมิง่ ไม้ ชูชอ่ รมิ ท่าสาครคันธ์ กลิน่ เนอ้ื นวลนาง เพลด็ ดอกออกแกมกัน หอมหน่ื ร่ืนรสเพย้ี ง กาพย์ยานี ๑๑ เรือชายชมมิง่ ไม้ รมิ ทา่ ไสวหลากหลายพรรณ เพล็ดดอกออกแกมกนั สง่ กลนิ่ เกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร เรือแลน่ คลอ้ ยไปจนพบพรรณไมต้ า่ ง ๆ อยู่รมิ ทา่ น้า มีกล่นิ หอมสดช่นื ผลิดอกออกชอ่ สลับกนั กลิ่น หอมมากชา่ งนา่ ชน่ื เชยเหมอื นกลิน่ เนื้อของนอ้ ง

จำปา ชมดวงพวงนางแย้ม บานแสล้มแย้มเกสร คิดความยามบงั อร แยม้ โอษฐย์ ้มิ พริ้มพรายงาม จำปาหนาแนน่ เน่ือง คลกี่ ลีบเหลืองเรืองอร่าม คดิ คนึงถึงนงราม ผิวเหลอื งกวา่ จำปาทอง นางแย้ม มองดอกนางแยม้ เปน็ พวง บานแย้มกลบี ชดชอ้ ยเหน็ เกสร ทำใหน้ กึ ถงึ น้องยามแย้ม ปากยมิ้ ช่างงดงาม ดอกจำปาดกแน่นต้น ลว้ น คลกี่ ลีบสเี หลืองอร่ามสวย ทำใหค้ ดิ ถงึ ผวิ ของ นอ้ งที่เปน็ สเี หลืองสวยกวา่ สขี องดอกจำปา

ประยงค์ทรงพวงห้อย ระย้ายอ้ ยห้อยพวงกรอง ประยงค์ เหมอื นอบุ ะนวลลออง เจา้ แขวนไวใ้ ห้เรยี มชม พดุ จีบกลีบแสล้ม พิกลุ แกมแซมสกุ รม หอมชวยรวยตามลม เหมือนกล่ินน้องต้องติดใจ ดอกประยงค์เปน็ พวงหอ้ ยระยา้ เหมอื น อบุ ะทนี่ อ้ งรอ้ ยแขวนประดับใหพ้ ่ีดู ดอกพุด จบี มกี ลีบสวย อกี ทั้งดอกพกิ ุลขึ้นแซมกับดอก สกุ รมตา่ งโชยกลิ่นหอมระรวยมาตามลม หอม พกิ ลุ เหมอื นกลน่ิ ของน้องทพ่ี ี่ติดใจ

สาวหยุดพทุ ธชาด บานเกล่ือนกลาดดาษดาไป สายหยุด นึกน้องกรองมาลยั วางใหพ้ ข่ี ้างท่นี อน กล่นิ หอมหวานซา่ นขจร พิกลุ บนุ นาคบาน เห็นจะวอนออ้ นพ่ีชาย แมน้ นชุ สดุ สายสมร พุทธชาด ดอกสายหยุด ดอกพทุ ธชาด บาน บนุ นาค เกล่ือนกลาดเตม็ ไปหมด ทำใหพ้ นี่ ึกถงึ น้องซึง่ เคยรอ้ ยมาลยั วางไวข้ า้ งทนี่ อนให้ พี่ ดอกพิกลุ ดอกบุนนาคนนั้ บานสง่ กลิน่ หอมหวานกระจายไปท่วั หากน้อง มาเห็นกค็ งออ้ นวอนใหพ้ ี่เกบ็ ให้

แตว้ เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงสง่ กลน่ิ อาย เต็ว จกิ หอมอยู่ไมร่ ู้หาย คล้ายกล่ินผ้าเจ้าตราตรู มะลิวลั ยพ์ ันจิกจวง ดอกเป็นพวงรว่ งเรณู หอมมานา่ เอน็ ดู ชูช่นื จติ คดิ วนดิ า แกว้ มะลวิ ัลย์ ตน้ เต็ง ต้นแต้ว ต้นแก้ว และตน้ กาหลง กาหลง ตา่ งก็มดี อกบานหอมอบอวนไมร่ ูห้ าย เหมอื นกลิ่นผ้าของนอ้ ง ดอกมะลวิ ลั ย์พัน อยู่กับดอกจอกและดอกจวง เป็นพวง สง่ กลิน่ หอม ทำใหค้ ิดถึงน้องนาง จวง

รวยรินกลิน่ รำเพย คิดพี่เชยเคยกลิน่ ปราง น่งั แนบแอบเอวบาง หอ่ นแหห่างว่างเวน้ วัน ศรเี สาวภาคยห์ ลากหลายพรรณ ชมดวงพวงมาลี จะอ้อนพช่ี ช้ี มเชย วนิดามาด้วยกนั กล่นิ ดอกไม้หอมรวยรนิ มากับสายลม ทำให้พ่ีคดิ ถงึ กล่ินแก้มนอ้ ง ยามนัง่ แนบชดิ ไมเ่ คยเว้นวา่ งหา่ งไกลกนั ชมดอกไมห้ ลากหลายชนิดท่สี วยงาม ทำ ให้พี่คิดว่าหากนอ้ งมาดว้ ยคงออ้ นวอนให้พ่ี ชว่ ยช้ชี มดอกไม้ด้วยกนั

เวลาเยน็ เหช่ มไม้

โคลงส่ีสภุ าพ อสั ดง คา่ แล้ว รอนรอนสรุ ยิ โอ้ นุชพี่ เพยี งแม่ เรือ่ ยเรอ่ื ยลับเมรุลง คลับคลา้ ยเรยี มเหลียว รอนรอนจิตจำนง เรอ่ื ยเรือ่ ยเรยี มคอยแก้ว กาพย์ยานี ๑๑ ทิพากรจะตกตา่ คำนึงหนา้ เจ้าตราตรู เรือ่ ยเร่อื ยมารอนรอน สนธยาจะใกลค้ ่า เวลาย่าค่ามาถึง พระอาทิตย์กล็ บั เหลย่ี มเขา พค่ี ิดคำนงึ ถงึ นางอนั เปน็ ทร่ี ัก พค่ี อยรอน้องเมือ่ เหน็ ใคร คลับคลา้ ยคลบั คลาก็ตอ้ งเหลียวมอง เพราะนกึ วา่ เป็นนางเร่มิ เข้ายามค่าคืน พี่กย็ ังคำนงึ ถงึ นางอนั เปน็ ท่รี ัก

เรอ่ื ยเร่อื ยมาเรยี งเรยี ง นกบนิ เฉยี งไปทัง้ หมู่ ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพีอ่ ยู่ผ้เู ดยี วดาย คดิ บงั อรร่อนรำกราย เหน็ ฝูงยูงรำฟ้อน เหมือนสายสวาทนาดนวยจร สรอ้ ยทองยอ่ งเยื้องชาย สร้อยทอง นกยงู มองเหน็ นกท่บี นิ มากนั เป็นหมู่ แตม่ ตี วั หน่ึง พลัดออกมาเหมอื นพ่ีท่ีต้อง อยเู่ ดยี วดายเพราะ จากน้อง เห็นนกยงู รำแพนทำให้พ่คี ิดถงึ เมือ่ ตอนทนี่ อ้ งรำใหด้ ู เหน็ นกสรอ้ ยทองกำลังเดนิ เบา ๆ บนดินกน็ กึ ถงึ ตอนนอ้ งเดิน

สาลกิ า สาลิกามาตามคู่ ชมกนั อยสู่ ู่สมสมร แตพ่ ่นี อ้ี าวรณ์ หอ่ นเหน็ เจ้าเศร้าใจครวญ นางนวลนวลน่ารัก ไมน่ วลพกั ตรเ์ หมอื นทรามสงวน แกว้ พี่น้สี ุดนวล ดัง่ นางฟา้ นา่ ยองใย นางนวล นกสาลิกามาตามคู่ของมนั แต่ พี่นไี้ ด้แต่อาวรณค์ ิดถึงนอ้ งจนเศร้า ใจ นกนางนวลสนี วลน่ารกั แตก่ ็ไม่ นวลเท่าใบหน้าของน้อง หนา้ น้อง นวลท่สี ุดและผดุ ผ่องดง่ั นางฟา้

แขกเตา้ เคลา้ คเู่ คียง เรยี งจบั ไม้ไซป้ กี หาง ดเุ หวา่ เรียมคะนงึ ถึงเอวบาง เคยแนบข้างรา้ งแรมนาน สนน่ั กอ้ งซอ้ งเสยี งหวาน ดุเหวา่ เจ่าจบั รอ้ ง ปานเสยี งน้องรอ้ งส่ังชาย ไพเราะเพราะกังวาน แขกเต้า นกแขกเต้าอยู่กันเปน็ คูอ่ ยู่บนต้นไม้ไซ้ ปีกไซ้หางให้กัน พน่ี ้นั ก็คดิ ถงึ ตอนทพ่ี ่ีได้ กอดนอ้ งแบบแนบชดิ แล้วมาจากไปเป็น เวลานาน นกดเุ หว่ารอ้ งเสยี งหวานสนัน่ ก้อง ไพเราะกังวานเหมอื นเสียงนอ้ งทพ่ี ดู กับพี่

โนรีสีปานชาด เหมือนชา่ งฉลาดวาดแต้มลาย โนรี ไม่เท่าเจ้าโฉมฉาย ห่มตาดพรายกรายกรมา คอยหาคู่อยเู่ อกา สัตวาน่าเอน็ ดู ครวญหาเจ้าเศรา้ เสียใจ เหมอื นพี่ท่จี ากมา บ้างชมกันขนั เพรยี กไพร ลว้ นหลายหลากมากภาษา ปกั ษีมีหลายพรรณ ยิ่งฟังวงั เวงใจ นกโนรีสเี หมอื นสีชาดเหมือนช่างวาดลวดลายช่าง สวยงาม แตก่ ส็ วยไมเ่ ทา่ นอ้ งที่ห่มผ้าตาดพรายมาหาพ่ี นกสัตวาน่าเอ็นดคู อยหาคู่ตลอดเวลา เหมอื นพ่ีที่ต้อง สตั วา จากน้องมา พก่ี ็คดิ ถึงน้องจนเศรา้ เสียใจตลอดเวลา นก นานาพนั ธ์ุตา่ งมองกันและสง่ เสียงในปา่ พไี่ ด้ฟังก็รูส้ ึก วังเวงใจเพราะภายในใจมีหลายเรอ่ื งราว

เวลาดกึ บทเหค่ รวญ

โคลงสส่ี ภุ าพ เสยี งใด ใคร่รู้ เสียงสรวลระรนี่ ้ี นชุ พ่ี มาแม่ เสียงนุชพ่ีฤๅใคร อนื่ น้ันฤๅมี เสียงสรวลเสียงทรามวยั เสียงบังอรสมรผู้ กาพยย์ านี ๑๑ เสยี งแกว้ พห่ี รือเสียงใคร เสียงหัวเราะนีเ้ ป็นของใคร เสียง สดุ สายใจพี่ตามมา นอ้ งของพ่หี รือใคร พ่ไี ม่รู้ เสียงหวั เราะ เสยี งสรวลระรี่นี้ ของน้องเหมอื นตามพ่มี าเสียงของนาง เสยี งสรวลเสยี งทรามวยั อันเป็นท่ีรกั น้ันเพราะจนหาคนอน่ื เทยี บไม่ได้ เสยี งหวั เราะนี้เสยี งน้อง ของพหี่ รอื เสียงใคร เสียงหวั เราะเสยี ง ของนางผเู้ ปน็ ทร่ี กั เหมือนตามพีม่ า

ลมชวยรวยกล่นิ นอ้ ง หอมเรือ่ ยต้องคลองนาสา เคลอื บเคล้นเหน็ คลา้ ยมา เหลยี วหาเจา้ เปล่าวงั เวง ทุกคนื คา่ ย่าอกเอง ยามสองฆ้องยามยา่ เหมือนเรียมคร่าร่าครวญนาน เสยี งป่ีมค่ี รวญเครง ลมแผ่วๆ ช่วยพดั กล่ินหอมของน้องมา จนถึงจมูก เหลือบมองเห็นเหมือนนอ้ งมาพอ มองหากลบั ไมเ่ ห็นน้อง ตีสองเสียงฆ้องดัง บอกเวลา ทกุ คืนพ่ีอยคู่ นเดยี ว มเี สียงปี่ บรรเลงเหมอื นเสียงของนอ้ งทพ่ี ี่คดิ ถงึ มานาน

ลว่ งสามยามปลายแลว้ จนไก่แกว้ แวว่ ขันขาน ม่อยหลับกลบั บันดาล ฝนั เห็นนอ้ งตอ้ งติดตา แสนกำสรดอกโอชา เพรางายวายเสพรส อม่ิ โศกาหนา้ นองชล อมิ่ ทกุ ข์อ่มิ ชลนา ล่วงตีสามใกล้เชา้ จนไก่ขนั เคลิ้มหลบั ไปพ่ี กลบั ฝนั เหน็ นอ้ ง ตดิ ตาอยใู่ นฝันของพ่ี เวลาเชา้ จนถงึ เยน็ พน่ี ้ไี มว่ ายเศรา้ หมอง อดกนิ ของรส อร่อย เพราะอ่มิ ไปด้วยความทกุ ขอ์ ิม่ ไปด้วยน้าตา และอิ่มความเศร้าโศกน้าตานองหน้า

เวรามันแลว้ จงึ จำแคล้วแกว้ โกมล ใหแ้ ค้นแสนสดุ ทน ทุกขถ์ งึ เจ้าเศรา้ เสียดาย งามมารยาทนาดกรกราย งามทรงวงดงั่ วาด งามคำหวานลานใจถวลิ งามพรม้ิ ย้ิมแยม้ พราย เวรกรรมตามมาทันแล้ว พี่จึงต้องจากนอ้ ง พ่คี ิดแลว้ ก็แค้นใจนกั ท่ีต้องจากน้องมาเปน็ ทกุ ข์คิดถงึ นอ้ ง เศรา้ และเสยี ดายย่ิงนกั น้องงามเปรยี บด่ังภาพวาด งามทั้งมารยาท งามท้งั รอยยม้ิ รวมทง้ั คำพูดของนอ้ งทำให้พี่ คิดถึงนอ้ ง

แต่เช้าเท่าถึงเย็น กลา้ กลนื เข็ญเปน็ อาจณิ ชายใดในแผ่นดนิ ไมเ่ หมือนพที่ ่ีตรอมใจ เรยี มทนทกุ ขแ์ ต่เชา้ ถงึ เย็น มาสู่สุขคืนเขญ็ หมน่ ไหม้ ชายใดจากสมรเป็น ทกุ ขเ์ ท่า เรยี มเลย จากคู่วันเดยี วได้ ทกุ ขป์ ิ้มปานปี *เรียม = คำสรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๑ ใช้ ตั้งแตเ่ ยน็ พต่ี อ้ งทนทุกข์เสมอ ๆ ชายคนใดใน แทนตวั ผู้ชายเมื่อพูดกบั ผหู้ ญงิ ท่รี ัก แผ่นดนิ น้คี งไมท่ กุ ข์ใจเหมอื นพ่ที ่จี ากนอ้ งเชา้ ถงึ พ่ี ทนทุกข์แต่เชา้ ถงึ เยน็ จะไดพ้ บสุขคงยาก ชายคน ใดได้จากหญงิ อนั เปน็ ที่รักจะทกุ ข์เท่าพี่หามไี ม่ จากนอ้ งเพยี งวันเดียวพที่ กุ ข์ราวกับหน่ึงปี

คณุ ค่าของวรรณคดี (เจ้าฟา้ ก้งุ )

คุณคา่ ด้านเนอื้ หา ๑. บอกประเภทของเรอื ที่ใชใ้ นกระบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค เชน่ เรือต้น เรอื พระทน่ี งั่ ก่ิง เรือแสนยากร เรือรปู สตั ว์ ๒. บอกประเภทปลาแบบตา่ งๆ เช่น ปลาเสือ ปลานา้ เงิน ปลา ๓. บอกประเภทพนั ธไุ์ มแ้ บบตา่ งๆ เชน่ นางแย้ม ประยงค์ จำปา ๔. บอกประเภทของนกสายพนั ธต์ุ า่ งๆ เช่น สาลิกา สัตวา โนรี

คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ ๑. การเลอื กใชค้ ำทเี่ หมาะสมแกเ่ นอ้ื เรอื่ ง และฐานะของบคุ คล ใชค้ ำเหมาะกบั ฐานะของกษัตริย์ พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือตน้ งามเฉิดฉาย กิ่งเเกว้ แพรว้ พรรณราย พายอ่อนหยับจบั งามงอน ๒. เล่นคำพอ้ งเสยี ง ซา้ คำ ทำใหส้ มั ผสั คำในวรรคราบรน่ื นวลจนั ทรเ์ ป็นนวลจรงิ เจ้างามพริ้งยง่ิ นวลปลา คางเบือนเบอื นหน้ามา ไมง่ ามเทา่ เจ้าเบือนชาย ๓. การอปุ มา ปลาเสือเหลอื ที่ตา เล่อื นแหลมกว่าปลาท้ังปวง เหมือนตาสดุ าดวง ดูแหลมล้าขำเพราคม

คุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ ๔. ดีเด่นทางดา้ นการพรรณนาใหเ้ หน็ ภาพและใหอ้ ารมณค์ วามรสู้ กึ ดี แต่เชา้ เทา่ ถงึ เย็น กล้ากลืนเข็ญเป็นอาจณิ ชายใดในแผน่ ดิน ไม่เหมอื นพี่ที่ตรอมใจ ๕. การหลากคำ โดยใชค้ ำไวพจนห์ ลายคำเพอื่ สอ่ื ถงึ ความหมายเดยี ว เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบษุ บงส่งกลิน่ อาย หอมอย่ไู ม่รหู้ าย คล้ายกล่ินผ้าเจ้าตราตรู มะลิวัลย์พนั จกิ จวง ดอกเปน็ พวงรว่ งเรณู หอมมาน่าเอ็นดู ชชู ่นื จิตคดิ วนดิ า

เสาวรจนี บทพรรณนาความงามของสถานทีธ่ รรมชาติ ชมนาง งามทรงวงด่งั วาด งามมารยาทนาดกรกราย งามพรมิ้ ยิ้มแย้มพราย งามคำหวานลานใจถวิล สัลลาปงั คพสิ ยั บทพรรณนาถึงความโศกเศร้า อาลยั รัก พศิ พรรณปลาวา่ ยเคล้า คิดถึงเจา้ เศรา้ อารมณ์ มัตสยายงั รชู้ ม สมสาใจไมพ่ ามา

คณุ คา่ ดา้ นสงั คม ๑. สะทอ้ นภาพชวี ติ ของคนไทย ในปลายกรุงศรอี ยุธยาทีใ่ ชก้ ารสัญจร ทางน้าเป็นสำคัญ เน่อื งจากประเทศไทยมแี ม่นา้ ลำคลองมาก ๒. ให้ความรเู้ กย่ี วกบั ขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค ประเพณีการเหเ่ รือ พันธป์ ลา พันธ์ไม้ และพนั ธน์ กต่างๆ ๓. สะทอ้ นใหเ้ หน็ ขนบธรรมเนยี มประเพณี คา่ นยิ ม และความเชือ่ ของ คนไทย เชน่ ค่านิยมเก่ยี ว กับความงามของสตรีว่าจะตอ้ งงามพร้อมทั้ง รปู ทรง มารยาท ยม้ิ แย้มแจ่มใส และพูดจาไพเราะ ผหู้ ญงิ หม่ ผา้ สไบคลมุ ไหลก่ ารไวท้ รงผม ผ้หู ญงิ นิยมไว้ผมยาวประบ่า แลว้ เกบ็ ไรท่ถี อนผม

คุณค่าด้านสงั คม ๔. แสดงถงึ ขนบธรรมเนยี มประเพณใี นอดตี ทแ่ี บ่งออกเป็นวงกลมการบอก เวลา นิยมใช้กลอง ฆ้องเปน็ เครอ่ื งบอกเปลย่ี น เวลายามสองฆอ้ งยามย่า ทุกคนื ค่าย่าอกเอง เสยี งปมี่ ค่ี รวญเครง เหมือนเรยี มคร่ารา่ ครวญนาน ๕. ความเชอื่ เรอ่ื งเวรกรรมตามหลกั พระพทุ ธศาสนา ดงั บทประพันธ์ท่ีวา่ เวรามนั แล้ว จึงจำแคลว้ แกว้ โกมล ให้แคน้ แสนสุดทน ทุกข์ถึงเจ้าเศรา้ เสียดาย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook