รายงาน วชิ าวทิ ยาการคาํ นวณ รหัส ว30118 จดั ทาํ โดย 1. นางสาวนิชาภทั ร แจง้ ประจกั ษ์ เลขที่ 25 2. นางสาวนนั ทิตา วงษม์ ะเซาะ เลขที่ 31 3. นางสาววาทินี เฮมกลาง เลขที่ 35 4. นางสาวกชศร เอียดวารี เลขที่ 42 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/8 เสนอ ครูจิรายุ ทองดี รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ าวทิ ยาการคาํ นวณ รหสั ว30118 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษานอ้ มเกลา้ ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 สงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ
คาํ นํา รายงานเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาวิทยาการคาํ นวณรหสั ว30118 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 โดยมีจุดประสงคเ์ พื่อศึกษาเกี่ยวกบั หลกั การเขียนโปรแกรม ข้นั ตอนการเขียนโปรแกรม โครงสร้างภาษาคอมพิวเตอร์ กระบวนการเขียนโปรแกรม ในการจดั ทาํ รายงานประกอบสื่อการเรียนรู้ในคร้ังน้ี ผจู้ ดั ทาํ ขอขอบคุณ ครูจิรายุ ทองดี ผใู้ หค้ วามรู้ และแนวทางการศึกษา และเพอื่ นๆ ที่ใหค้ วามช่วยเหลือมาโดยตลอด คณะ ผจู้ ดั ทาํ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ รายงานฉบบั น้ีจะอาํ นวยประโยชนต์ อ่ ผทู้ ี่สนใจและศึกษาเน้ือหา เพิ่มเติม และพฒั นาศกั ยภาพ และบรรลุตามเป้ าหมาย กชศร เอียดวารี ผจู้ ดั ทาํ
สารบญั เรื่อง หนา้ คาํ นาํ ก สารบญั ข 1. วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ 1 2. กระบวนการเทคโนโลยี 9 3. พ้นื ฐานของภาษาซี 16 4. เทคโนโลยปี ระยกุ ต์ 18 5. บรรณานุกรม 22 6. ภาคผนวก 23
1 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ หมายถึง ศาสตร์ท่ีเรียนรู้เกี่ยวกบั การศกึ ษาทฤษฎีการคาํ นวนสาํ หรับ คอมพิวเตอร์ และทฤษฎีการประมวลผลสารสนเทศ ประกอบดว้ ย ฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์ซ่ึงใน ปัจจุบนั มีการพฒั นาไปอยา่ งรวดเร็วท้งั ดา้ นอุปกรณ์และซอฟตแ์ วร์ 1.Internet of Things (loT) อินเทอร์เนต็ เพอื่ ทุกสรรพส่ิง หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งคือ การนาํ อุปกรณ์ ต่างๆมาเช่ือมโยงกบั เครือข่ายอินเทอร์เนต็ ซ่ึงสามารถสื่อสารและควบคุมการใชง้ านผา่ นอุปกรณ์ เคล่ือนท่ี เช่น Smart Phone หรือTablet มีแอปพลิเคชนั ในการสง่ั การรวมไปถึงการใชง้ านเครื่องจกั รใน โรงงาน 2.การนาํ เทคโนโลยี Internet of Things ประยกุ ตใ์ ชใ้ นดา้ นต่าง ๆ 2.1smart Industry การนาํ เทคโนโลยี Intemet of Things มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพใน การผลิต แกป้ ัญหา และลดความผดิ พลาดในการผลติ ช่วยแกป้ ัญหาเรื่องการขาดแคลนคนงานช่วยเพิ่ม ผลผลิต ลดตน้ ทุนการผลิต เพ่มิ คุณภาพของสินคา้ และลดความเสี่ยงจากการใชง้ านของอุปกรณ์ เครื่องจกั รท่ีมีอนั ตรายสูง 2.2 Smart Ciy การนาํ เทคโนโลยี Intemet of Things มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พือ่ ช่วยปรับใชก้ บั โครงสร้าง พ้นื ฐานและระบบต่างๆ ของเมืองที่เนน้ การอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม และการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื ครบวงร ยกตวั อยา่ ง เช่น ระบบโดยสารใชร้ ะบบพลงั งานไฟฟ้ าท้งั หมด ประเทศไทยไดเ้ ร่ิมจดั ทาํ โครงการนาํ ร่อง Smart City เมืองน่าอยู่ ๒ แห่ง ประกอบดว้ ยเขตเทศบาลเมืองป่ าตองและเขตเทศบาลนครภเู กต็ 2.3 Smart Life การนาํ เทคโนโลยี Internet of Things มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั เพอื่ ตอบสนอง รูปแบบการใชช้ ีวติ ในยคุ ปัจจุบนั ทาํ ใหส้ ามารถจดั การกบั อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆใหท้ าํ งานผา่ นระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซ่ึงอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ จะมีชิปประมวลผลฝังตวั อยเู่ ช่นตูเ้ ยน็ อจั ฉริยะ เครื่อง ซกั ผา้ อจั ฉริยะ
2 3. ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ปัญญาประดิษฐเ์ ป็นระบบคอมพิวเตอร์ท่ีถูกพฒั นาใหม้ ี ความสามารถในการเรียนรู้ ใชเ้ หตุผลพฒั นาและปรับปรุงขอ้ บกพร่องใหด้ ีข้ึน การทาํ งานใกลเ้ คียงกบั ระบบประมวลผลและการตอบสนองของมนุษยแ์ ต่ละสถานการณ์ 3.1 การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) เป็นการพฒั นาใหร้ ะบบ คอมพวิ เตอร์เขา้ ใจภาษามนุษยท์ ี่ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั เช่น ภาษาองั กฤษ ภาษาไทย หรือภาษาจีน โดย ระบบคอมพวิ เตอร์จะสามารถอ่าน พดู ฟัง และเขา้ ใจภาษาทาํ ใหก้ ารติดต่อสื่อสารระหวา่ ง 3.2 ระบบการรับรู้กาพ (Vision System) ถกู พฒั นาข้ึนเพ่ือเลียนแบบการมองเห็นของบุคคลมีส่วนรับ สัญญาณภาพ การประมวลผล และรายงานผลตามที่ถูกกาํ หนดไว้ 3.3 โครงข่ายประสาทเทียม (Articial Neural Network) เป็นระบบคอมพิวเตอร์ท่ีพฒั นาใหม้ ีการจาํ ลอง การทาํ งานของสมองและระบบเสน้ ประสาทของมนุษย์ ซ่ึงจะมีความสามารถในการสงั เกตการเรียนรู้ การจดจาํ การทาํ ซ้าํ และการแยกแยะส่ิงต่างๆ 3.4 หุ่นยนต์ (Robotis) เป็นการพฒั นาระบบคอมพิวเตอร์ เพอ่ื จาํ ลองการทาํ งานของมนุษยโ์ ดยทาํ การ ออกแบบอุปกรณ์ และกาํ หนดคาํ สง่ั ใหห้ ุ่นยนตป์ ฏิบตั ิงานน้นั ๆ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 3.5 ระบบผเู้ ช่ียวชาญ (Expert System) ระบบคอมพวิ เตอร์ท่ีถกู พฒั นาใหส้ ามารถรับรู้และทาํ งาน เฉพาะดา้ นไดอ้ ยา่ งผเู้ ชี่ยวชาญ โดยนาํ องคค์ วามรู้และประสบการณ์จากผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะสาขาหรือ เฉพาะดา้ นจดั เกบ็ ในระบบฐานขอ้ มูล
3 4.การนาํ ปัญญาประดิษฐม์ าประยกุ ตใ์ ชใ้ นดา้ นต่างๆ 4.1ดา้ นการคมนาคมอจั ฉริยะ เป็นการใชร้ ะบบปัญญาประดิษฐค์ วบคุมการทาํ งานของรถหรือ ยานพาหนะ เพือ่ ใหเ้ กิดเป็นจกั รกลอจั ฉริยะท่ีสามารถควบคุมความช้ืนภายในรถยนตห์ รืออุณหภูมิ ภายในรถยนตเ์ พ่อื ใหเ้ กิดความเหมาะสมกบั ตวั ของผขู้ บั ข่ีน้นั และยงั สามารถคน้ หาตาํ แหน่ง 4.2 ดา้ นการประมาลผลภาษาเป็นการใชร้ ะบบปัญญาประดิษฐป์ ระมวลผลทางดา้ นภาษา จะแปลง ภาษาจากภาษาหน่ึงเป็นอีกภาษาหน่ึง เพ่ือใหผ้ ฟู้ ังหรือผทู้ ี่ตอ้ งการรับข่าวสารไดเ้ ขา้ ใจถึงขอ้ ความที่ ตอ้ งการจะแปลงของขอ้ ความน้นั ๆ 4.3ดา้ นระบบเครือข่ายต่าง ๆเช่น ในการคน้ หาขอ้ มลู หรือข่าวสารขอ้ ความท่ีตอ้ งการอยากรู้บนระบบ เครือข่าย โดยใชค้ ียเ์ วริ ์ดในการคน้ หากจ็ ะสามารถหาไดโ้ ดยไม่ยาก 4.4 ดา้ นการแพทยห์ รือดา้ นสุขภาพต่างๆ เป็นการใชร้ ะบบปัญญาประดิษฐวดั ความดนั ของผปู้ วยหรือผู้ ที่มารับบริการน้นั ๆ โดยระบบจกั รกลอจั ฉริยะน้ีจะมีการเรียนรู้โดยการบีบรัดจากตน้ แขนของผปู้ ่ วย หรือผรู้ ับบริการ แลว้ นาํ ค่าที่ไดน้ ้นั มาวเิ คราะห์และแปลงเป็นตวั เลขใหเ้ ขา้ ใจ 4.5 ดา้ นการคา้ ในเชิงธุรกิจพาณิชย์ เป็นการใชร้ ะบบปัญญาประดิษฐว์ เิ คราะหแ์ ละประมวลผลได้ รวดเร็วกวา่ มนุษย์ 4.6 ดา้ นระบบรักษาความปลอดภยั เป็นการใชร้ ะบบปัญญาประดิษฐส์ แกนหรือตรวจจบั ส่ิงผดิ ปกติ เพอ่ื หาวตั ถุตอ้ งสงสัยหรือไม่พึงประสงคโ์ ดยใชเ้ วลาในการตรวจสอบไม่น
4 5.การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) 5.1Cloud Computing คือ การประมวลผลผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เนต็ การใหบ้ ริการท่ีครอบคลุมถึงการ ใชจ้ ดั เตรียมทรัพยากรสาํ หรับการประมวลผล แอปพลิเคชนั หน่วยจดั เกบ็ ขอ้ มลู และระบบออนไลน์ ต่างๆ โดยผใู้ ชง้ านจะตอ้ งเช่ือมต่อระบบอินเทอร์เน็ต ขอ้ ดี คือ ไม่จาํ เป็นตอ้ งลงทุนซ้ือฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟดแ์ วร์ (Sofiware) เองท้งั ระบบ ไม่ตอ้ งวางระบบเครือข่ายเอง ลดความรับผดิ ชอบ ในการดูแล 5.2การประมวลผลกลุ่มเมฆ สามารถแบ่งเป็น ๓ ประเภท ตามลกั ษณะการใหบ้ ริการไดด้ งั น้ี 1. Software-as-a Service (SaaS) เป็นการใหบ้ ริการใชห้ รือใหเ้ ช่าบริการซอฟดแ์ วร์หรือแอปพลิเคชนั ผา่ นอินเทอร์เนต็ โดยประมวลผลบนระบบของผใู้ หบ้ ริการ ทาํ ใหไ้ ม่ตอ้ งลงทุนในการสร้างระบบ คอมพวิ เตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟดแ์ วร์เอง ลดภาระค่าใชจ้ ่ายในการดูแลระบบ 2.Platform-as-a-Service (PaaS) เป็นการใหบ้ ริการสาํ หรับการพฒั นาเวบ็ แอปพลิเคชนั ซ่ึงประมวลผล บนเชิร์ฟเวอร์ ระบบจะจดั เตรียมเครื่องมือและสภาพแวดลอ้ มท่ีจาํ เป็นมาใหท้ ้งั หมดติดต้งั ระบบ ฐานขอ้ มูล 3. Infrastructure as a Service (laas) เป็นการใหบ้ ริการโครงสร้างพ้นื ฐานของระบบคอมพวิ เตอร์ระบบ การประมวลผล ระบบการจดั เกบ็ ขอ้ มูล และระบบรูปแบบเสมือน (Virtualization) โดยไม่ตอ้ งลงทุน เองและยงั สามารถเพิม่ หรือลดขนาดตามขนาดของธุรกิจได้ การเช่าพ้นื ที่เกบ็ ขอ้ มูล (Cloud Storage) ตวั อยา่ งเช่น DropBox
5 2.) สื่อดิจิทลั ในชีวติ ประจาํ วนั ส่ือดิจิทลั (Digital Media) หมายถึง ส่ือที่มีการนาํ ขอ้ ความ กราฟิ ก ภาพเคลื่อนไหว เสียง มาจดั รูปแบบ โดยอาศยั เทคโนโลยคี วามเจริญกา้ วหนา้ ทางดา้ นคอมพิวเตอร์ ส่ือสารทางออนไลน์ เพอ่ื ใหเ้ กิด ประโยชนใ์ นการใชง้ าน เช่น การพิมพร์ ายงานจากโปรแกรมประมวลผลคาํ การเสนอผลงานจาก โปรแกรมนาํ เสนอขอ้ มูล การถ่ายภาพหรือวดิ ีโอจากกลอ้ งดิจิทลั เทคโนโลยดี า้ นคอมพิวเตอร์และกาส่ือสารในปัจจุบนั ไดเ้ ปลี่ยนแปลงกระบวนการทาํ สื่อและเน้ือหา ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว โดยส่ือมีความน่าสนใจยง่ิ ข้ึนอีกท้งั ยงั สามารถเผยแพร่สื่อผา่ นช่องทางต่างๆ ได้ หลากหลาย รวดเร็ว และครอบคลุมท้งั ออฟไลนแ์ ละออนไน์ 1. สื่อดิจิทลั ที่ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั โดยทวั่ ไปบุคคลจะรับรู้เน้ือหาดา้ นต่าง ๆ จากส่ือรูปแบบต่างๆ เช่น โทรทศั น์ วทิ ยุ หนงั สือพิมพซ์ ่ึงในปัจจุบนั ระบบคอมพวิ เตอร์เขา้ มาพฒั นากระบวนการดา้ นต่างๆ ของ ส่ือ ต้งั แต่การผลิตเน้ือหา(Content) สื่อกลางในการส่ือสาร (Media) ช่องทางการสื่อสาร (Channel) รูปแบบการส่ือสารที่สามารถทาํ ใหผ้ สู้ ่งสารและผรู้ ับสารสามารถโตต้ อบกนั ไดง้ ่ายข้ึน รวดเร็วข้ึน 3.) เทคโนโลยสี ารสนเทศในชีวติ ประจาํ วนั ยคุ ปัจจุบนั การเขา้ ถึงระบบสารสนเทศมีความง่าย สะดวก รวดเร็ว ครบถว้ น และมีความถูกตอ้ ง น่าเชื่อถือ รวมถึงตรงกบั ความตอ้ งการในการนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ เน่ืองจากเทคโนโลยมี ีการพฒั นาอยา่ ง รวดเร็วจนกลายเป็นเคร่ืองมือที่สาํ คญั ในการทาํ งานของทุกส่วน ไม่วา่ จะเป็นดา้ นการศึกษา การเกษตร อุดลาหกรรม รวมถึงความกา้ วหนา้ ของระบบการสื่อสารโทรคมนาคมทาํ ใหก้ ารสื่อสารขอ้ มูล สารสนเทศมีประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน
6 1. เทคโนโลยสี ารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ชค้ อมพิวเตอร์ เพ่อื จดั เกบ็ การคน้ หา การส่งผา่ น และการ ดาํ เนินการขอ้ มูลขององคก์ รท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ธุรกิจหรือองคก์ รดา้ นอ่ืนๆ ที่ตอ้ งใชค้ อมพิวเตอร์และ เครือข่ายคอมพิวเตอร์รวมถึงเทคโนโลยอี ่ืน ๆ เพื่อใหเ้ กิดประโยชนจ์ ากการใชง้ านท่ีส่งต่อหรือสื่อสาร ระหวา่ งกนั มีความสาํ คญั ต่อวถิ ีชีวติ ของประชาชนดา้ นการติดต่อส่ือสาร 2. ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ การประยกุ ตค์ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์มาใชใ้ นระบบ สารสนเทศ ต้งั แต่กระบวนการจดั เกบ็ ประมวลผล และการเผยแพร่สารสนเทศ เพอ่ื ช่วยใหไ้ ด้ สารสนเทศท่ีมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วทนั ต่อเหตุการณ์ โดยเทคโนโลยสี ารสนเทศ อาจประกอบดว้ ย 2.1. เคร่ืองมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องคอมพวิ เตอร์ เครื่องใชส้ าํ นกั งาน อุปกรณ์สื่อสาร โทรคมนาคมต่าง ๆ รวมท้งั ชอฟตแ์ วร์แบบสาํ เร็จรูป และแบบพฒั นาข้ึนเพ่ือใชใ้ นงานเฉพาะดา้ น 2.2.กระบวนการในการนาํ อุปกรณ์เคร่ืองมือต่าง ๆ มาใชง้ านเพอื่ รวบรวม จดั เกบ็ ประมวลผล และ แสดงผลลพั ธ์เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดต้ ่อไป 3. ความหมายของสารสนเทศ สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มลู ที่ผา่ นการประมวลผลดว้ ยวธิ ีการท่ีเหมาะสม และถกู ตอ้ ง เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ รงตามความตอ้ งการของผใู้ ชอ้ ยใู่ นรูปแบบที่ใชง้ านได้ และจะตอ้ งอยู่ ในช่วงเวลาที่ตอ้ งการขอ้ มูลซ่ึงสามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชนต์ ามตอ้ งการ 4. องคป์ ระกอบของสารสนเทศ ขอ้ มูล คือ ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเป็นตวั เลข ขอ้ ความ หรือรายละเอียดซ่ึงอาจอยู่ ในรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพ เสียงวดิ ีโอ หรือขอ้ มูล คือ ขอ้ เทจ็ จริงของสิ่งที่สนใจ การประมวลผลขอ้ มลู คือ กระบวนการยอ่ ยหลายกระบวนการ ต้งั แต่การรวบรวมขอ้ มูล การแยกแยะ การตรวจสอบความถกู ตอ้ ง การคาํ นวณ การจดั ลาํ ดบั การรายงานผล รวมถึงการส่งส่ือสารขอ้ มูลหรือ การแจกจ่ายขอ้ มูลน้นั สารสนเทศ คือ ส่ิงที่ไดจ้ ากการนาํ ขอ้ มลู ท่ีเกบ็ รวบรวมไวม้ าประมวลผล เพอ่ื นาํ มาใชป้ ระโยชนต์ าม จุดประสงค์
7 5. ความสาํ คญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยพ้นื ฐานของเทดโนโลยี ยอ่ มมีประโยชนต์ ่อการพฒั นา ประเทศชาติใหเ้ จริญกา้ วหนา้ ไดแ้ ต่เทคโนโลยสี ารสนเทศเป็นเร่ืองท่ีเก่ียวขอ้ งกบั วิถีความเป็นอยขู่ อง สงั คมสมยั ใหม่อยมู่ าก ลกั ษณะเด่นที่สาํ คญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ มีดงั น้ี 5.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยใหก้ ารทาํ งานรวดเร็ว ถูกตอ้ ง และแม่นยาํ ในระบบการจดั การขององคร์ ทุกแห่งตอ้ งใชข้ อ้ มลู เพื่อการดาํ เนินการและตดั สินใจ 5.2 เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยทาํ ใหก้ ารบริการกวา้ งขวางข้ึน เมื่อมีการพฒั นาระบบเกบ็ และใชข้ อ้ มลู ทาํ ใหก้ ารบริการต่าง ๆ อยใู่ นรูปแบบการบริการแบบกระจาย 5.3 เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยดาํ เนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบนั ทุกหน่วยงานต่างพฒั นาระบบ จดั เกบ็ ขอ้ มูลและรวบรวมขอ้ มูลเพือ่ ใชใ้ นองคก์ ร 6. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ระบบสารสนเทศมีการนาํ เทคโนโลยหี ลายดา้ นมาใช้ ประโยชนใ์ นการนาํ ขอ้ มูลมาประมวลผลและส่ือสารสารสนเทศไปยงั ผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว องคป์ ระกอบท่ีสาํ คญั คือฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟตแ์ วร์ (Software) บุคลากรกรทางคอมพิวเตอร์ (Peopleware) ขอ้ มลู (Data) ข้นั ตอนการปฏิบตั ิงาน(Procedure) และระบบการส่ือสารขอ้ มูล (Data Communication System) การนาํ เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาช่วยปฏิบตั ิงานในดา้ นต่างๆ อยา่ งมี ประสิทธิผลหลากหลายดา้ น ไดแ้ ก่ 6.1การประยกุ ตใ์ ชท้ คโนโลยสี ารสนเทศในสาํ นกั งาน การปฏิบตั ิงานในสาํ นกั งาน เป็นงานที่เกี่ยวขอ้ ง กบั งานต่างๆ ภายในสาํ นกั งาน ไดแ้ ก่การจดั การเอกสารรับส่ง แจกจ่าย แจง้ เวยี น และจดั เกบ็ การนดั หมายการประชุม การนาํ ระบบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยดี า้ นการส่ือสารช่วยใหก้ ารทาํ งานมี ประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึนใชโ้ ปรแกรมชุดสาํ นกั งานในการจดั ทาํ เอกสาร 6.2การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานอุตสาหกรรม โรงงานอุดสาหกรรมนาํ เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการจดั การเขา้ มาช่วยในการจดั การระบบงาน การผลิต การส่งั ซ้ือพสั ดุ การเงิน บุคลากร และงานดา้ นอ่ืนๆ ในโรงงาน เป็นเครื่องมือสาํ หรับการวางแผน การออกแบบผลิตภณั ฑ์ รวมถึงการ วจิ ยั และพฒั นาผลิตภณั ฑ์
8 6.3 การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ในงานการเงินมีการพฒั นาอยา่ งรวดเร็วและกา้ วไปสู่ยคุ ของสงั คมไร้เงินสด (Cashless Society) มีการ นาํ เทคโนโลยมี าประยกุ ตใ์ ชห้ รือสร้างบริการในธุรกิจการเงินและชีวติ ประจาํ วนั มากข้ึน มีการใช้ Mobile Banking มาใชใ้ นการทาํ ธุรกรรมทางการเงิน 6.4 การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานดา้ นการส่ือสาร เทคโนโลยดี า้ นการสื่อสารมีการ พฒั นาไปอยา่ งรวดเร็วมาก ซ่ึงในปัจจุบนั การสื่อสารผา่ นสังคมออนไลนไ์ ดร้ ับความนิยมอยา่ งมาก รวมถึงมีการพฒั นารูปแบบของขอ้ มลู ท่ีไม่ไดเ้ ป็นขอ้ ความเพียงอยา่ งเดียว 6.5 การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนทศในงานดา้ นสาธารณสุข 1.ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล นาํ มาใชใ้ นระบบงานเวชระเบียน ระบบขอ้ มูลยา การรักษาพยาบาล การชาํ ระเงิน รวมท้งั การส่งเวชระเบียนผา่ นระบบโทรคมนาคมหรือเรียกวา่ โทรเวช 2. ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยสี ารสนเทศนาํ มาใชใ้ นการตรวจสอบและควบคุมโรคระบาดใน ทอ้ งถิ่น 3. ระบบผเู้ ชี่ยวชาญเป็นระบบท่ีใชค้ อมพิวเตอร์ในการวนิ ิจฉยั โรค เช่น ระบบ Mycin ของมหาวทิ ยาวยั สแตนฟอร์ดโดยเริ่มมาใชใ้ นการวนิ ิจฉยั โรคพืชและโรคสัตว์ ที่ใชห้ ลกั การเกบ็ ขอ้ มลู ต่างๆ โดย ละเอียดแลว้ ใชห้ ลกั ปัญญาประดิทฐเ์ ขา้ มาช่วยวเิ คราะห์ 6.6 การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศกนั งานดา้ นการฝึ กอบรมการศึกษา เป็นการศึกษาท่ี ครอบคลุมการศึกษาจากทางไกล ท่ีนาํ เทคโนโลยเี ขา้ มาใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนผา่ นสื่อวทิ ยุ โทรทศั น์ ใชร้ ะบบการเผยแพร่ผา่ นดาวเทียม การใชเ้ ครือข่ายเพอ่ื ใหบ้ ริการกบั ครูและนกั เรียนได้ แสวงหาความรู้บนโลกออนไลน์ และการใหบ้ ริการต่างๆ รวมท้งั การใชง้ านหอ้ งสมุดที่ไดน้ าํ เทคโนโลยเี ขา้ มาใชใ้ นการดาํ เนินงาน เพ่ือสืบดนั หนงั สือ
กระบวนการเทคโนโลยี 9 1.)การจดั การขอ้ มูล บทบาทและความสาํ คญั ของการจดั การขอ้ มูล ขอ้ มลู (Data) เกิดข้ึนในเหตุการณ์ต่างๆที่ไดจ้ ากการสังเกตการจดบนั ทึกการสมั ภาษณ์และการ สอบถาม แต่ตอ้ งไม่มีการประมวลผลไม่มีการวเิ คราะห์หรือท่ีเรียกวา่ ขอ้ มลู ดิบ หลกั ในการจดั การขอ้ มลู 1. การเขา้ ถึงขอ้ มูล (Data Access) คือ ความสามารถในการเขา้ ถึงขอ้ มูลไดง้ ่าย รวดเร็ว และถูกตอ้ ง 2. ความปลอดภยั ของขอ้ มูล (Data Security) ขอ้ มลู ท่ีจดั เกบ็ ไวจ้ ะตอ้ งมีระบบรักษาความปลอดภยั เพื่อ ป้ องกนั การจารกรรมขอ้ มูล 3. การแกไ้ ขขขอ้ มลู (Data Edit) คือ การเปล่ียนแปลง แกไ้ ขขอ้ มูลพร้อมท้งั จดั หาขอ้ มลู เพ่ิมเติม 4.การปรับปรุงขอ้ มูล (Data Update) คือ การจดั แบ่งเป็นส่วนหรือสร้างเป็นตาราง เพ่ือง่ายแก่การ ปรับปรุงขอ้ มูล 2.)ประเภทขอ้ มูล 1.ชนิดของขอ้ มลู แบ่งตามแหล่งที่มาของขอ้ มูลมี 2 ชนิด คือ 1.1 ขอ้ มูลปฐมภมู ิ (primary data) คือ ขอ้ มูลที่เกบ็ รวบรวมมาจากแหล่งขอ้ มลู โดยตรง (ขอ้ มลู ที่ไดจ้ ะมี ความถกู ตอ้ ง ทนั สมยั และเป็นปัจจุบนั มากกวา่ ขอ้ มลู ทุติยภูมิ) เป็นขอ้ มลู ท่ีผปู้ ระเมินผลไดพ้ บเห็น เหตุการณ์ต่างๆ ลงมือสาํ รวจศึกษาคน้ ควา้ หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นเริ่มแรกดว้ ยตนเอง มิได้ คดั ลอกมาจากผอู้ ่ืน 1.2 ขอ้ มูลทุติยภูมิ (secondary data)คือ ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากแหล่งที่รวบรวมขอ้ มูลไวแ้ ลว้ โดยมีผหู้ น่ึงผใู้ ด หรือหน่วยงานไดท้ าํ การเกบ็ รวบรวมหรือเรียบเรียงไว้ ซ่ึงขอ้ มลู เหล่าน้นั สามารถนาํ มาใชอ้ า้ งอิงไดเ้ ลย เป็นขอ้ มลู ที่ไดค้ ดั ลอกมาจากบุคคลอ่ืน แลว้ นาํ มาเรียบเรียงใหม่
10 2.ชนิดของขอ้ มลู แบ่งตามรูปแบบการแทนขอ้ มลู 2.1ขอ้ มูลเชิงปริมาณ เป็นขอ้ มลู ที่เป็นตวั เลขหรือหน่วยนบั ได้ เช่น ขอ้ มลู จาํ นวนประชากร รายได้ ยอดขายในแต่ละเดือน 2.2 ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ เป็นขอ้ มลู ที่บรรยายลกั ษณะหรือ คุณสมบตั ิของสิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถระบุเป็น หน่วยนบั หรือตวั เลขได้ เช่น เพศ เช้ือชาติ ศาสนา ทศั นคติ ความคิดเห็น ขอ้ แนะนาํ 3.)พจิ ารณาจากหลกั เกณฑล์ กั ษณะของการจดั ทาํ ขอ้ มลู 1.ขอ้ มูลดิบ เป็นขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวม ซ่ึงยงั ไม่ไดผ้ า่ นการประมวลผลหรือเปล่ียนแปลงใดๆ ท้งั สิ้น ขอ้ มูลประเภทน้ีจึงมีลกั ษณะกระจดั กระจาย ปะปนกนั ทาํ ใหไ้ ม่สะดวกต่อการคาํ นวณหรือ นาํ ไปใชป้ ระโยชน์ 2.ขอ้ มลู จดั กลุ่มหรือผา่ นการประมวลผลแลว้ เป็นขอ้ มูลที่ผา่ นระบบ หรือกระบวนการประมวลผล ขอ้ มลู แลว้ เพอื่ ทาํ ใหข้ อ้ มลู อยใู่ นรูปแบบท่ีเป็นหมวดหมู่ มีการแจกแจงความถ่ี กะทดั รัด มีความหมาย สะดวกต่อการนาํ ไปคาํ นวณเป็นค่าทางสถิติต่างๆ จึงเป็นประโยชนใ์ นการคน้ หาความจริง และนาํ ไป เผยแพร่
11 4.)พิจารณาจากการจดั เกบ็ ในส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ แบ่งตามลกั ษณะขอ้ มูลตามชนิดและนามสกลุ ของ ขอ้ มูลน้นั ๆ ซ่ึงจะต้งั ตามประเภทของขอ้ มลู และ โปรแกรมท่ีใชส้ ร้างขอ้ มูล 1.ขอ้ มลู ตวั อกั ษร เช่นตวั หนงั สือ ตวั เลข และสญั ลกั ษณ์ ขอ้ มูลประเภทน้ี มกั มีนามสกลุ ต่อทา้ ยไฟล์ เป็น .txt .doc docx 2.ขอ้ มูลภาพ เช่น ภาพกราฟิ กต่างๆ และภาพถ่ายจากกลอ้ งดิจิทลั ขอ้ มลู ประเภทน้ีมกั มีนามสกลุ ต่อทา้ ย ไฟลเ์ ป็น .bmp .jpg .png .gif 3.ขอ้ มูลเสียง เช่นเสียงพดู เสียงดนตรี และเสียงเพลง ขอ้ มลู ประเภทน้ี มีนามสกลุ ต่อทา้ ยชื่อไฟลเ์ ป็น .wav .mp3 4.ขอ้ มูลภาพเคลื่อนไหว เช่น ภาพเคล่ือนไหว ภาพยนตร์ คลิปวดิ ีโอ ขอ้ มูลประเภทน้ีมีนามสกลุ ต่อทา้ ย ชื่อไฟลเ์ ป็น .avi .mov .mp4
12 5.)พจิ ารณาตามระบบคอมพิวเตอร์ มุ่งเนน้ การนาํ ขอ้ มูลไปใชง้ านในระบบคอมพิวเตอร์ แบ่งไดเ้ ป็น 4 ประเภท 1.ขอ้ มูลเชิงจาํ นวน (Numeric Data) มีลกั ษณะเป็นตวั เลขที่สามารถนาํ มาคาํ นวณดว้ ยคอมพิวเตอร์ได้ เช่น จาํ นวนเงินในบญั ชี 2.ขอ้ มลู อกั ขระ (Character Data) มลั กั ษณะเป็นตวั อกั ษร ตวั หนงั สือ และสัญลกั ษณ์ต่างๆซ่ึงสามารถ นาํ เสนอขอ้ มูลและเรียบเรียงลาํ ดบั ได้ แต่ไม่สามารถนาํ มาคาํ นวณได้ เช่น หมายเลขโทรศพั ท์ และช่ือท่ี อยขู่ องนกั เรียน 3.ขอ้ มูลกราฟิ ก (Graphical Data) เป็นขอ้ มูลที่เกิดจากจุดพกิ ดั ทางคอมพวิ เตอร์ ทาํ ใหเ้ กิดรูปภาพหรือ แผนที่ เช่น เครื่องหมายการคา้ แบบก่อสร้างอาคาร และกราฟ 4.ขอ้ มูลภาพ (Image Data) เป็นขอ้ มลู แสดงความเขม้ และสีของรูปภาพที่เกิดจากการแสกนจากเครื่อง แสกนเนอร์หรือจากการถ่ายรูปจากกลอ้ งดิจิทลั ซ่ึงสามารถนาํ เสนอขอ้ มลู ยอ่ หรือขยาย และตดั ต่อได้ แต่ไม่สามารถนาํ มาคาํ นวณหรือดาํ เนินการอยา่ งอ่ืนได้
13 การประมวลผลขอ้ มูล การประมวลผลขอ้ มลู หมายถึง การนาํ เอาขอ้ มลู ท่ีเกบ็ รวบรวมมาจากแหล่ง ต่างๆ มาจดั ประเภท หมวดหมู่ และคาํ นวณ เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ที่เหมาะสมและมีรูปแบบตรงตามความ ตอ้ งการของผใู้ ชง้ าน เเบ่งออกเป็น 3 ข้นั ตอน ดงั น้ี ข้นั ตอนที่ 1 การนาํ ขอ้ มลู เขา้ (Input Data) 1.การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล (Data Collections) หมายถึง การนาํ ขอ้ มูลต้งั แต่สองชุดข้ึนไปมารวมกนั ให้ เป็ นชุดเดียว คุณสมบตั ิของขอ้ มลู 1.1ความถูกตอ้ งแม่นยาํ (Accuracy) 1.2ความทนั เวลา (Timeliness) 1.3ความสมบรู ณ์ครบถว้ น (Completeness) 1.4ความกะทดั รัด (conciseness) 1.5ความตรงกบั ความตอ้ งการของผใู ช้ (Relevance) 1.6ความต่อเน่ือง (Continuity) วธิ ีการการเปลี่ยนสภาพขอ้ มลู 2.การเปลี่ยนสภาพขอ้ มลู (Data Conversion) เป็นการจดั เตรียมขอ้ มลู ท่ีรวบรวมมาไดแ้ ลว้ ใหอ้ ยใู่ นรูป ที่สามารถนาํ ไปประมวลผลที่สะดวกยงิ่ ข้ึน 2.1การบรรณาธิกร (Editing) คือ การตรวจความถกู ตอ้ งสมบูรณ์ของแบบสอบถามแต่ละชุด ต้งั แต่การ ตรวจนบั จาํ นวนแบบสอบถาม จดั เรียงหมายเลขแบบสอบถามแต่ละชุด หลงั จากน้นั จึงเริ่มตรวจสอบ ความมสมบูรณ์ คือ ตอบครบและตามเง่ือนไขท่ีตอ้ งการ 2.2การลงรหสั (Coding) การลงรหสั สามารถทาํ ไดท้ ้งั ในข้นั ท่ีตรวจสอบขอ้ มูลเสร็จเรียบร้อยแลว้ หรือ จะทาํ ไปพร้อมกบั การตรวจสอบขอ้ มูลกไ็ ด้ รหสั ท่ีใชอ้ าจอยใู่ นรูปของตวั เลขหรือตวั อกั ษรกไ็ ด้ ซ่ึงจะ ใชร้ หสั บนั ทึกขอ้ มูลไดน้ ้นั จะตอ้ งมีการกาํ หนดไวล้ ่วงหนา้ วา่ จะใชก้ ลุ่มตวั เลขหรือตวั อกั ษรเป็นรหสั
14 3.การจดั ระเบียบขอ้ มลู (Data Tabulation) เป็นการนาํ ขอ้ มูลไปคาํ นวณและวเิ คราะห์ทางสถิติ เพ่อื แบ่ง ขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชนต์ ่อไป นาํ ไปสู่ข้นั ของการวเิ คาระหแ์ ละตีความหมายอยา่ งถูกตอ้ ง 4.การแปรสภาพขอ้ มูล (Data Transforming) เป็นการนาํ ขอ้ มลู ท่ีอยใู่ นรูปรหสั จากแต่ละคาํ ถามใน แบบสอบถามหรือขอ้ มลู ท่ีเกบ็ รวบรวมมาบนั ทึกลงในแบบฟอร์มการลงรหสั เช่น แฟลชไดร์ฟ ข้นั ตอนท่ี 2 การประมวลผล (Process) เป็นการนาํ ขอ้ มลู ท่ีไดม้ าเปลี่ยนสภาพแลว้ นาํ มาวเิ คราะห์ 1.การจดั แบ่งกลุ่มขอ้ มูล (Data Classify) หมายถึง การจดั ขอ้ มลู โดยการแยกออกเป็นกลุ่มหรือประเภท ต่างๆ ทาํ ใหก้ ารคน้ หาขอ้ มูลทาํ ไดง้ ่ายข้ึน และสะดวกสาํ หรับทาํ รายงานต่างๆ 2.การจดั เรียงขอ้ มูล (Data Surting) เป็นการเรียงขอ้ มลู จากนอ้ ยไปหามาก หรือมากไปหานอ้ ย เพอื่ ทาํ ใหด้ ูง่ายข้ึน คน้ หาขอ้ มูลที่ตอ้ งการไดเ้ ร็วข้ึน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ -การเรียงขอ้ มูลที่เป็นตวั เลข (Numeric) -การเรียงขอ้ มลู ท่ีเป็นตวั อกั ษร (Alphabetic) (จะจดั เรียงตามลาํ ดบั ของระหสั แทนขอ้ มูล) 3.การสรุปผลขอ้ มลู (Data Summarizing) เป็นการสรุปโดยยอ่ เอาเฉพาะส่วนท่ีเป็นใจความสาํ คญั เพ่ือ เนน้ จุดสาํ คญั 4.การคาํ นวนขอ้ มลู (Data Calculation) เป็น การนาํ ขอ้ มลู ที่เป็นตวั เลขมาทาํ การบวก ลบ คูณ หาร ยก กาํ ลงั เช่น การคาํ นวณภาษี การคาํ นวณค่าแรง 5.การวเิ คราะห์ขอ้ มลู (Data Analysis) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดบั คือ -การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ข้นั ตน้ เป็นการหาค่าสถิติพ้นื ฐาน เช่น ร้อยละ ค่าเฉล่ีย มธั ยฐาน ฐานนิยม -การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ข้นั สูง เป็นการวอเคราะห์ท่ีมีความซบั ซอ้ น เช่น วเิ คราะห์ความความถดถอย วเิ คราะหค์ วามแปรปรวน
15 ข้นั ตอนที่ 3 แสดงผลลพั ธ์ (Output Information) ผลลพั ธข์ องขอ้ มลู น้ีเรียกวา่ สารสนเทศ (Information) เม่ือขอ้ มูลท่ีเกบ็ รวบรวมมาผา่ นกระบวนการท่ีเรียกวา่ ประมวลผลขอ้ มูลแลว้ ควรจดั ทาํ หรือหา ผลลพั ธ์ที่ไดร้ ูปแบบที่เขา้ ใจง่ายสะดวกต่อการนาํ ไปใชง้ าน เช่น รูปแบบรายงาน ประกอบดว้ ย ตาราง กราฟต่างๆ 1.การดึงขอ้ มลู (Retrieving) หมายถึง การคน้ หา และการนาํ ขอ้ มลู ที่ตอ้ งการมาจากแหล่งเกบ็ เพอ่ื นาํ ไปใชง้ าน 2.การทาํ รายงาน (Reporting) หมายถึง การนาํ ขอ้ มูลมาจดั พิมพร์ ายงานในรูปแบบต่างๆ 3.การบนั ทึก (Recording) หมายถึง การจดบนั ทึกขอ้ มลู โดยทาํ การคดั ลอกขอ้ มลู จากตน้ ฉบบั แลว้ จดั เกบ็ เขา้ แฟ้ ม (Filing) 4.การปรับปรุงรักษาขอ้ มลู (Updating) หมายถึง การเพม่ิ (Add) หรือการลบ (Delete) และการเปล่ียน ค่า (Change) ขอ้ มลู ที่อยใู่ นแฟ้ มใหท้ นั สมยั อยเู่ สมอ
พนื้ ฐานของภาษาซี 16 ตน้ กาํ เนิดภาษาซี ผคู้ ิดคน้ พฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ภาษาซีข้ึนคือ นายเดนนิส ริทช่ี ที่ศนู ยว์ จิ ยั เบล ประเทศสหรัฐอเมริกาเม่ือปี ค.ศ.1972 และเป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ที่ใชเ้ ขียนระบบปฏิบตั ิการยนู ิกส์ ซ่ึง ใชก้ นั แพร่หลายในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในปัจจุบนั ภาษาซีเป็นภาษาที่มีความใกลเ้ คียงกบั ภาษาระดบั ต่าํ นกั พฒั นาโปรแกรมสามารถท่ีจะกาํ หนดรายละเอียดของโปรแกรมใหเ้ ขา้ ถึงการทาํ งาน ในส่วนต่าง ๆ ของคอมพวิ เตอร์ใหม้ ากท่ีสุดเพ่อื ใหเ้ กิดความเร็วในการทาํ งานสูงสุด และใน ขณะเดียวกนั ภาษาซีกย็ งั มีความเป็นภาษาระดบั สูงทาํ ใหผ้ พู้ ฒั นาสามารถที่จะพฒั นาโปรแกรมได้ โดย เนน้ ไปที่การแกป้ ัญหาท่ีตอ้ งการไดอ้ ยา่ งอิสระโดยไม่ตอ้ งคาํ นึงถึงฮาร์ดแวร์ใดๆ พฒั นาภาษา C++ (ซีพลสั พลสั ) ข้ึนมา โดยที่ภาษา C++ มีความสามารถในการทาํ งานไดท้ ุกอยา่ งเหมือนกบั ภาษาซี ซ่ึงมีรูปแบบและโครงสร้างของภาษาใกลเ้ คียงกนั แต่ภาษา C++ ใชห้ ลกั การออกแบบโปแกรมเชิงวตั ถุ ขอ้ ดีขอ้ เสียของภาษาซี ขอ้ ดี คือ ส้ัน กะทดั รัด ภาษาซี มีรูปแบบยอ่ ทาํ ใหเ้ ขียนส้ันลงอยมู่ าก ซ่ึงขอ้ ดีกค็ ือ ส้นั ดี ขอ้ เสีย ซบั ซอ้ น อ่านยาก เวลาอ่านกเ็ หมือนกบั การแกส้ มการ ซ่ึงการเขียนจะยาก
17 การประยกุ ตใ์ ชง้ านโปรแกรมดว้ ยภาษาซี ภาษาซีเป็นภาษาระดบั สูงที่สามารถทาํ งานแบบ ภาษาระดบั ต่าํ ได้ ดว้ ยลกั ษณะการใชง้ านของ ภาษาและตวั แปลภาษาท่ีมีความสามารถแปลงโปรแกรม ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ การประยกุ ตใ์ ชง้ านภาษาซีเพอื่ เขียนโปรแกรมจึงสามารถทาํ ไดอ้ ยา่ งหลาก สามารถแบ่งข้นั ตอนต่างๆ ไดเ้ ป็น 1.1การระบุความตอ้ งการใชง้ าน 1.2การระบุรายละเอียดการทาํ งานของโปรแกรม 1.3การออกแบบโปรแกรม เป็นข้นั ตอนท่ีนาํ รายละเอียดการ 1.4 การเขียนโปรแกรม 1.5 การทดสอบโปรแกรม 1.6 การแกไ้ ขโปรแกรม 1.7 การนาํ โปรแกรมไปใชง้ าน 1.8 การบาํ รุงรักษาโปรแกรม 1.9 การปรับปรุงและเปล่ียนแปลงโปรแกรม
เทคโนโลยปี ระยกุ ต์ 18 เทคโนโลยปี ระยกุ ต์ ( Application Technology ) เทคโนโลยสี ารสนเทศเป็นเครื่องมือในการจดั การ และการกระจายสารสนเทศไปยงั ผใู้ ชไ้ ดอ้ ยา่ งทวั่ ถึงและมีประสิทธิภาพ อีกท้งั ผใู้ ชส้ ามารถนาํ สารสนเทศไปใชป้ ระโยชนใ์ นการตดั สินใจไดเ้ ป็นอยา่ งดี ดงั น้นั ในทุกสาขาอาชีพจาํ เป็นตอ้ งไดร้ ับ ขอ้ มูลและสารสนเทศจากแหล่งต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือ เพ่ือใชใ้ นการพฒั นาตนเอง พฒั นาอาชีพ รวมท้งั พฒั นาสงั คมและประเทศชาติ แยกออกเป็น 3 หวั ขอ้ ได้ ดงั น้ี 1.) เทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษา มีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื กระจายการศกึ ษาใหเ้ ขา้ ถึงประชาชนใหม้ ากท่ีสุด มีดงั น้ี 1.1 วดี ิทศั นต์ ามอธั ยาศยั (Video on Demand : VOD) เป็นระบบที่นาํ ภาพวดิ ีโอมาบนั ทึกเป็นไฟลใ์ น ระบบคอมพิวเตอร์และนาํ ไฟลด์ งั กล่าวมาเผยแพร่ผา่ นระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนท่ีอยู่ ห่างไกลมีโอกาสเรียนรู้ไดใ้ นเวลาท่ีสะดวกรวมท้งั ยงั จาํ ลองสภาพจริงท่ีช่วยใหเ้ กิดการเรียนรู้อยา่ ง ชดั เจน ดงั น้นั ในทอ้ งถิ่นห่างไกลท่ีขาดบุคลากรทางการศึกษาเฉพาะทาง ขาดอุปกรณ์การทดลองหรือ อุปกรณ์ทางการศกึ ษาต่าง ๆ กย็ งั คงสามารถเรียนรู้ไดเ้ ท่าเทียมกบั เดก็ ในเมือง 1.2 หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (e-books) เป็นหนงั สือที่อยใู่ นรูปแบบของไฟลอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีไม่ตอ้ งใช้ กระดาษ หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์สามารถอ่านไดโ้ ดยใชเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ประเภทพกพาและ ซอฟตแ์ วร์ที่ใชอ้ ่าน เช่น เคร่ืองคอมพิวเตอร์โนต้ บุ๊ก นอกจากน้ีหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ยงั สามารถดาวน์ โหลดหรืออ่านไดจ้ ากเวบ็ ไซดท์ างอินเทอร์เน็ต
19 หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์มีความน่าสนใจมากข้ึนดว้ ยเหตุผลดงั น้ี 1.สามารถอ่านไดส้ ะดวก อ่านไดท้ ุกท่ี 2.มีภาพ เสียง ที่น่าสนใจ 3.ใชง้ านไดง้ ่ายและสะดวกมากข้ึน 1.3 หอ้ งสมุดอิเลก็ ทรอนิกส์ (e-library) เป็นแหล่งรวมความรู้ท่ีมีระบบการทาํ งานของหอ้ งสมุดใหอ้ ยู่ ในรูปแบบอตั โนมตั ิ เช่น ระบบบริการยมื –คืนทรัพยากรดว้ ยรหสั บาร์โคด้ ดงั น้นั หอ้ งสมุด อิเลก็ ทรอนิกส์จะเกบ็ ขอ้ มูลไวใ้ นเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ และใหบ้ ริการขอ้ มลู ผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 1.4 การเรียนรู้แบบออนไลน์ (e-learning) เป็นการจดั การเรียนการสอนใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนผา่ นเครือข่าย คอมพวิ เตอร์อินเทอร์เน็ต (internet) หรืออินทราเนต็ (intranet) ผเู้ รียนสามารถเลือกเรียนรู้ไดต้ าม ความสามารถและความสนใจ ซ่ึงผเู้ รียนจะตอ้ งมีโปรแกรมเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ (web browser) ในการ แสดงผลการเรียน การเรียนรู้แบบออนไลนจ์ ะทาํ ใหผ้ เู้ รียน ผสู้ อน และเพอ่ื นร่วมช้นั เรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษา แลกเปล่ียนความคิดเห็นระหวา่ งกนั ได้ การเรียนรู้ออนไลน์ จึงเป็นการเรียน สาํ หรับทุกคนท่ีสามารถเรียนรู้ไดท้ ุกเวลา และทุกสถานที่
2.) เทคโนโลยใี นงานธุรกิจ มีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื เพิม่ ประสิทธิภาพในการผลิตและการบริการ 20 จาํ แนกได้ ดงั น้ี 2.1 การพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (e-commerce) คือ การทาํ กิจกรรมทางธุรกิจผา่ นช่องทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ในทุกช่องทางเช่น อินเทอร์เน็ต โทรศพั ท์ วทิ ยุ แฟกซ์ เป็นตน้ ท้งั ในรูปแบบขอ้ ความ เสียง และภาพ โดยกิจกรรมทางธุรกิจจะเนน้ การขายสินคา้ หรือบริการ ส่วนของผซู้ ้ือ : สามารถดาํ เนินการเลือกซ้ือสินคา้ หรือบริการ คาํ นวณเงิน ชาํ ระเงิน รวมถึงการไดร้ ับ บริการหลงั การขายไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ ส่วนของผขู้ าย : สามารถนาํ เสนอสินคา้ รับเงินชาํ ระค่าสินคา้ ตดั สินคา้ จากคลงั สินคา้ และประสานงานไปยงั ผจู้ ดั ส่งสินคา้ รวมถึงการบริหารหลงั การขายไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ ประโยชนข์ องการพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ ไดแ้ ก่ 1. เพม่ิ ช่องทางการขายจากช่องทางปกติ ไดแ้ ก่ การขายหนา้ ร้านคา้ เป็นการขายผา่ นเวบ็ ไซต์ 2. ลดค่าใชจ้ ่าย เช่น ทาํ เลท่ีต้งั หอ้ งแสดงสินคา้ รวมถึงพนกั งานขาย เป็นตน้ 3. สามารถใหบ้ ริการขายไดต้ ลอด 24 ชว่ั โมง ทุกวนั และตลอดเวลา 4. สามารถใหบ้ ริการหลงั การขายและแกไ้ ขปัญหาที่เกิดข้ึนกบั สินคา้ ไดร้ วดเร็ว สาํ นกั งานอตั โนมตั ิ (office automation) เป็นการนาํ เอาเทคโนโลยสี มยั ใหม่ ไดแ้ ก่ เครื่องคอมพวิ เตอร์ ซอฟตแ์ วร์ โทรศพั ท์ เครื่องเขียนตามคาํ บอกอตั โนมตั ิ (dictating machines) เครื่องถ่ายเอกสารแบบ หน่วยความจาํ มาใชช้ ่วยใหก้ ารปฏิบตั ิงานในสาํ นกั งาน เกิดประสิทธิภาพและความสะดวกรวดเร็วมาก ข้ึน
21 3.) เทคโนโลยดี า้ นการแพทย์ มีวตั ถุประสงคห์ ลกั เพื่อใหป้ ระชาชนมีสุขภาพอนามยั ท่ีดีข้ึน ตลอดจน ไดร้ ับการรักษาพยาบาลท่ีดีข้ึน ดงั น้ี 3.1 ระบบแพทยท์ างไกล (telemedicine) เป็นโครงการของรัฐบาลท่ียกระดบั การใหบ้ ริการรักษาผปู้ ่ วย ในทอ้ งถิ่นทุรกนั ดารผา่ นเครือข่ายโทรคมนาคม โดยเริ่มจากส่งขอ้ มลู ผปู้ ่ วยดว้ ยการถ่ายทอดสดผา่ น ทางดาวเทียมในการประชุมทางไกลผา่ นเครือข่าย (video conference system) ขณะตรวจอาการผปู้ ่ วย จากสถานีอนามยั เชื่อมไปยงั เคร่ืองปลายทางที่โรงพยาบาลประจาํ อาํ เภอ เพอ่ื ใหแ้ พทยผ์ เู้ ชี่ยวชาญของ โรงพยาบาลปลายทางไดด้ ูภาพลกั ษณะของผปู้ ่ วย พร้อมกบั ใหค้ าํ แนะนาํ ในการรักษากลบั มายงั เจา้ หนา้ ท่ีสถานีอนามยั เพอ่ื ใหก้ ารรักษาพยาบาลเป็นไปอยา่ งถูกตอ้ งและถกู วิธีท่ีสุด 3.2 ระบบการปรึกษาแพทยท์ างไกล (medical consultation) เป็นระบบการปรึกษาระหวา่ งโรงพยาบาล ชุมชนกบั โรงพยาบาลท่ีมีแพทยผ์ เู้ ช่ียวชาญผา่ นสัญญาณดาวเทียม ซ่ึงสามารถส่งไดท้ ้งั ขอ้ มลู ภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง
บรรณานุกรม 22 1.)วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ : https://sites.google.com/ntun.ac.th/kitsune- technology/home?fbclid=IwAR0N8VfYUseJsJdf5lvfgFwdnjwcb0JZEaVlJi9ULA_nz39HxDe7lA8h 9zA 2.)กระบวนการเทคโนโลยี : https://sites.google.com/ntun.ac.th/onnanan/home?fbclid=IwAR3eKzGwgh6E5YypqPAfHTC4rXnN Owyw5SONqYXK8U_IkKofDUH5mh2PGPU 3.)พ้นื ฐานของภาษาซี : https://sites.google.com/ntun.ac.th/dalsy/home?fbclid=IwAR2OYuan3jIz- sxNZUiC5dQw2k5ecdzwHsgWtq68oerUoGsJpPoKy8FDAmM 4.)เทคโนโลยปี ระยกุ ต์ : https://sites.google.com/ntun.ac.th/kodchasorn5-8-42/home?fbclid=IwAR0MxD0- o2G07EsVjsTezCG4EHXWnimGzkxI8fvdF0C2e8pCpBl-tLM03HI
ภาคผนวก 23 แนบภาพสถิติเก่ียวผเู้ ขา้ ชมการ (live) หรือนาํ เสนอออนไลน์ ยอดววิ 100 หรือ ยอดแชร์ 100
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: