แผนกลยทุ ธ์การจัดการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน โรงเรียนบ้านโต ปีงบประมาณ ๒๕๖๓-๒๕๖๕ สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษายะลา เขต ๓ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
~๒~ คานา แผนกลยทุ ธข์ องโรงเรยี นบ้านโตจดั ทาข้นึ เพื่อเปน็ เครอื่ งมือในการจดั การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน ให้ สอดคล้องกนั พระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ และแกไ้ ขเพ่มิ เติม ฉบบั ที่ ๒ พุทธศักราช ๒๕๔๕ และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ซ่งึ แผนกลยุทธ์ ประกอบดว้ ย การศกึ ษาสภาพปจั จุบนั ผลการศกึ ษาสถานภาพของสถานศึกษา ทิศทางของการศึกษา กลยุทธ์ การจัดการศึกษา ซึ่งคณะผู้จัดทา ได้ทาการวเิ คราะหส์ ถานภาพของโรงเรยี น ปัจจยั สง่ิ แวดล้อม นามาทาขอ้ มลู ใช้เปน็ แนวทางในการกาหนดวิสยั ทศั น์ พันธกจิ วตั ถปุ ระสงค์ กลยุทธ์ และตัวชีว้ ดั และไดน้ ามาจัดทาแผนงานที่ ประกอบดว้ ยโครงการต่างๆ วธิ ีดาเนินงานใหบ้ รรลผุ ลสาเรจ็ ตามกลยุทธ์ทกี่ าหนด ในระหว่างปงี บประมาณ ๒๕๖๓ – ๒๕๖๕ แผนกลยุทธ์ จงึ เปน็ แผนแมบ่ ทของโรงเรียน อนั จะนาโรงเรยี นเปน็ ไปตามเปา้ ประสงคท์ วี่ างไว้ คณะผู้จัดทา
~๓~ หนา้ ก สารบญั ข ค เร่ือง ๑ บทคดั ยอ่ ๑๒ คานา ๒๘ สารบัญ ๓๒ สว่ นท่ี ๑ บทนา ๓๕ สว่ นท่ี ๒ ผลการศกึ ษาสถานภาพของสถานศกึ ษา ๔๐ ส่วนที่ ๓ ทศิ ทางของโรงเรยี นบา้ นโต สว่ นที่ ๔ กลยุทธ์การจัดการศกึ ษา ส่วนที่ ๕ การวางแผนงบประมาณระยะปานกลาง ตอนที่ ๖ ภาคผนวก
~๔~ บทคดั ยอ่ จากการศึกษาสภาพปัจจุบันของโรงเรียนบ้านโตเพื่อนาข้อมูลมาใช้ในการจัดทาแผนกลยุทธ์ของ โรงเรียนบ้านโตพบว่าปัจจัยแวดล้อมภายนอกของโรงเรียนท้ังด้านสังคมวัฒนธรรม ด้านเทคโนโลยี ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นการเมืองและกฎหมาย มสี ถานภาพเปน็ โอกาสที่เอื้อตอ่ การพฒั นา สภาพแวดล้อมภายใน ซ่ึงศึกษามาจาก ปัจจัยด้านโครงสร้าง และนโยบายของโรงเรียนด้าน การบริการและผลผลิต ด้านบุคลากร ด้านการเงิน ด้านส่ือวัสดุอุปกรณ์ และด้านบริหารการจัดการ โดยภาพรวม มีลักษณะทีเ่ ออ้ื ต่อการพัฒนา จึงได้กาหนดวิสยั ทศั นข์ องโรงเรียนดงั น้ี “ ภายในปี ๒๕๖๕ โรงเรียนบ้านโต จัดการศึกษามุ่งพัฒนาให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถ อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขคล่อง มีทักษะการคิดขั้นสูง สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือการศึกษา มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ครูสามารถสร้างนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอน สมู่ าตรฐานวิชาชีพ มภี ูมิทศั น์ทีเ่ ออื้ ต่อการเรยี นรู้ และชุมชนมสี ่วนร่วมในการจดั การศกึ ษา ทั้งได้กาหนดพันธกิจวางแผนกลยุทธ์ตามวิสัยทัศน์ที่กาหนดไว้ คือ เปิดโอกาสให้เด็กท่ีอยู่ในเกณฑ์ การศึกษาภาคบงั คบั ได้เข้าเรียนทกุ คนอยา่ งเท่าเทียมและทั่วถึงอย่างมีคุณภาพตามจดุ เน้นการพฒั นาคุณภาพ ผู้เรียน จัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล เพ่ิมระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษาสูงขึ้นอย่าง ต่อเน่อื ง จดั การศึกษาให้นักเรยี นมีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ ดารงความ เปน็ ไทยบน พื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง สง่ เสรมิ บุคลากรในโรงเรยี นใหเ้ ป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ มีทกั ษะในการ แสวงหาความรอู้ ยา่ งหลากหลายเพือ่ นามาใช้ในการปฏบิ ัตงิ านได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ จัดให้มีระบบประเมิน คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง สร้างความตระหนักให้ชมุ ชนเหน็ ความสาคัญของการศกึ ษา และมี ส่วนร่วมในการจดั การศึกษา จดั ระบบการใชเ้ ทคโนโลยีในการพฒั นาการเรยี นการสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพ จัดภูมิทศั น์ภายในโรงเรยี นใหเ้ ออื้ ต่อการจัดกระบวนการเรยี นรู้ โรงเรียนได้กาหนดเปา้ ประสงค์ในทิศทางที่ต้องการอยู่ในรูปของการขยาย สง่ เสริม การสนับสนนุ คือ นักเรยี นทอ่ี ย่ใู นเกณฑก์ ารศกึ ษาภาคบังคบั ในเขตบรกิ ารเข้าเรียนครบ ๑๐๐ % มีระบบการบรหิ ารเกดิ ความ คล่องตัวและมีประสิทธ์ิภาพ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทุกกลุ่มสาระเพ่ิมขึ้นร้อยละ ๓ และเรียนร้อู ย่างมีความสขุ ภายใต้สภาพแวดลอ้ มในโรงเรียนเออ้ื ต่อการเรียนการสอน และเปน็ เขตปลอดยาเสพ ตดิ มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือการส่ือสาร และสืบค้นข้อมูล ครูทุกคนได้รับการ พฒั นาตนเองตามมาตรฐานวิชาชีพ อยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ๒ ครง้ั / คน และ สามารถใชห้ ลักการวิจัยแบบงา่ ย ๆ เพือ่ พฒั นาคุณภาพนักเรยี น และมผี ลการทดสอบระดับชาติเพม่ิ ขน้ึ ปีละ ๓%
~๕~ กลยุทธ์ของโรงเรียนในอันท่ีจะนาโรงเรยี นไปสูเ่ ป้าประสงค์ในทิศทางทต่ี ้องการอย่ใู นรปู ของการขยาย สง่ เสริม การสนบั สนนุ คือ พฒั นาระบบการบริหารโดยยึดหลกั มุ่งผลสัมฤทธ์ิ ตามหลักธรรมาภิบาล โดยเน้น กระจายอานาจ และการมีส่วนร่วมของบคุ ลากรภายในโรงเรียน และชุมชนในการบรหิ ารจดั การศึกษา ปฏริ ูป การจดั กระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรยี นไดเ้ รียนรแู้ ละพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมความสมั พันธ์อันดีระหว่าง โรงเรียนกบั ชมุ ชน พฒั นาบุคลากรครตู ามเกณฑ์มาตรฐานวชิ าชีพครู
~๖~ ส่วนที่ ๑ บทนา สภาพปจั จบุ ัน ๑. ชือ่ และที่ตั้ง โรงเรียนบ้านโต ต้ังอยู่เลขท่ี ๘๖ ถนนสุขยางค์ สายยะลา – เบตง หมู่ที่ ๗ (หมู่บ้านคอกช้าง) ตาบลแมห่ วาด อาเภอธารโต จงั หวดั ยะลา (ตรงหลักกโิ ลเมตรท่ี ๘๑) รหสั ไปรษณยี ์ ๙๕๑๗๐ โทรศพั ท์ ๐- ๗๓๒๘-๐๑๖๒ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษายะลาเขต ๓ สานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานกระทรวงศึกษาธกิ าร ๒. ประวตั แิ ละความเป็นมา โรงเรยี นบ้านโตเปดิ ทาการสอนเมอื่ ปี พ.ศ.๒๔๘๓ โดยขุนผดงุ นคิ มเขต นายอาเภอบนั นังสตา และขนุ ดาเกงิ เกยี รติ กานนั ตาบลแมห่ วาด เปน็ ผูก้ ่อสร้างและใชช้ ่อื ว่า โรงเรียนประชาบาลแมห่ วาด ตงั้ อยหู่ ม่ทู ่ี ๑ ตาบลแม่หวาด อาเภอบนั นงั สตาจังหวัดยะลา เปดิ ทาการสอนตงั้ แต่ชน้ั ป.๑-ป.๔ สังกดั กรมสามญั ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ.๒๕๐๙ โรงเรียนได้โอนไปสงั กัดองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัดยะลาและได้ขยายการศึกษาจนถึง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๗ และโรงเรยี นไดเ้ ปลย่ี นชื่อเปน็ โรงเรียนบา้ นโต พ.ศ.๒๕๑๙ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้แยกท้องที่ตาบลแมห่ วาด อาเภอบันนังสตา โดยยกฐานะเปน็ กิ่งอาเภอธารโต และยกฐานะเปน็ อาเภอธารโตในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ พ.ศ.๒๕๒๓ การไฟฟ้าฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทยได้ทาการปดิ กนั้ แมน่ า้ ปัตตานเี พือ่ จดั เขื่อนโดยใช้ ชือ่ ว่าเขอื่ นบางลาง ทาให้พ้นื ทที่ ีต่ ้ังของโรงเรียนถูกน้าท่วม การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ จึงไดอ้ พยพราษฎรแ์ ละโรงเรียน มาจดั สร้างใหใ้ หม่ ณ หมู่บา้ นคอกชา้ ง หมทู่ ่ี ๗ ตาบลแม่หวาด อาเภอธารโต ซึ่งเป็นทต่ี ั้งปจั จุบนั ในขณะนี้ มีพน้ื ทที่ งั้ หมด ๔๘ ไร่ พ.ศ.๒๕๒๓ โรงเรียนได้โอนไปสังกัดสานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ และขยายการศึกษาในก่อนระดับประถมศึกษา (ชั้นเด็กเล็ก) และปี พ.ศ.๒๕๓๔ ได้ เปลย่ี นเป็นชัน้ อนุบาล ๑-๒ เพือ่ เตรียมความพรอ้ มให้กบั เดก็ ก่อนเข้าเรยี นในระดับประถมศึกษา พ.ศ.๒๕๓๔ โรงเรียนได้เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นตามโครงการขยายโอกาสทาง การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการตามมตขิ องคณะรฐั มนตรี เมือ่ วนั ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๓๓ พ.ศ.๒๕๔๔ โรงเรียนเปิดสอนโครงการโรงเรียนนาร่องการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๒ ปี ภาค บงั คบั ๙ ปี และเปน็ การนาร่องการจดั การศกึ ษาทง้ั อาเภอในส่วนของการเกณฑ์เดก็ เข้าเรียนอายุย่างเข้าปที ่ี ๗ (อายุ ๖/๔ –๑๕/๔ป)ี
~๗~ ปัจจุบันโรงเรียนทาการเปิดสอน ๓ ระดับ ได้แก่ ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีจานวนนักเรียน ๓๓๖ คน (ข้อมูลพื้นฐาน ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓) ข้าราชการครู ๑๘ คน พนักงานราชการ ๕ คน เจ้าหน้าที่ธุรการ ๑ คน ครูพ่ีเลี้ยงเด็กพิการ ๑ คน และ พนักงานบริการ ๒ คน และพนักงานรักษาความปลอดภัย ๑ คน โรงเรียนมีอาคารเรียน ๔ หลัง จานวน อาคารอเนกประสงค์ ๒ หลัง บา้ นพักครู ๑๓ หลงั หอ้ งน้า/หอ้ งสว้ ม ๕ หลงั / ๒๓ ทีน่ ง่ั ถงั เก็บน้าฝน ๓ ถงั การจัดห้องเรียน ระดับอนุบาล (ก่อนประถม) จานวน ๔ ห้องเรียน มีนักเรียน ๖๕ คน ระดับประถมศกึ ษา จานวน ๑๒ ห้องเรยี น มนี ักเรียน ๒๕๘ คน ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ – ๓ มี ๒ หอ้ งเรียน มีนักเรยี น ๑๓ คน รวม ๑๘ หอ้ งเรียน จานวนนักเรียน ๓๓๖ คน ภารกิจของโรงเรียน โรงเรยี นบ้านโตมีภารกจิ ในการดาเนนิ การจดั การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน คือ ๑. การจัดการศกึ ษาปฐมวัย กาหนดให้มหี ลกั สูตรการศึกษาปฐมวัยเปน็ การเฉพาะ มจี ุดมงุ่ หมายเพือ่ เป็น การเสรมิ สร้างพฒั นาการและเตรยี มผเู้ รียนใหม้ ีความพรอ้ มในการเข้าเรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ๒. การจดั การศกึ ษาระดบั การศึกษาภาคบังคับและการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน เปน็ การจัดการศึกษาตาม หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานพุทธศกั ราช๒๕๕๑ ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษา ปีท่ี ๑ - มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ผลการดาเนินงาน ๑. ดา้ นปรมิ าณ ๑.๑ การเกณฑเ์ ดก็ เข้าเรยี นโรงเรียนสามารถเกณฑเ์ ดก็ ในพน้ื ทบ่ี ริการเขา้ เรยี นได้ รอ้ ยละ ๑๐๐ นอกจากนไี้ ด้มีนกั เรยี นนอกเขตบรกิ ารเข้ามาเรียนในอตั ราเพ่มิ ข้ึนทกุ ปี ๑.๒ อัตราการออกกลางคันไมม่ ี ๑.๓ นกั เรียนทจ่ี บชว่ งชัน้ ที่ ๓ เขา้ ศึกษาตอ่ ทุกคน เป็นไปตาม พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษา ๒๕๔๒ ๒. ดา้ นคุณภาพ ๒.๑ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรยี น ตั้งแตช่ ้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ถึงมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ อย่ใู น ระดบั พอใช้ การปฏริ ูปกระบวนการเรียนรู้ ทางโรงเรยี นไดด้ าเนนิ การส่งเสรมิ สนับสนุนใหค้ รู
ภาษาไทย ~๘~ ค ิณตศาสตร์ ิวทยาศาสตร์นารปู แบบการจัดกระบวนการเรียนรทู้ ่ีหลากหลาย โดยเน้นการจัดการเรียนการสอนตามสภาพจรงิ สังคมศึกษาฯเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง เรยี นรู้ดว้ ยการปฏิบตั จิ รงิ และเรียนรู้ร่วมกัน โดยเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ประ ัว ิตศาสตร์ ภาษา ัองกฤษ๒.๓ ระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน สุข ึศกษาฯ1) ร้อยละของผเู้ รยี นทมี่ เี กรดเฉลยี่ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนแต่ละรายวิชาในระดบั 3 ขนึ้ ไป ิศลปะ การงานอา ีชพฯระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ถงึ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ปีการศกึ ษา 2562 รายวิชา(พ้ืนฐาน) ระดบั ช้ัน ป.1 26 28 25 35 35 23 36 45 37 ป.2 20 18 8 21 21 15 38 39 14 ป.3 27 22 13 29 27 19 36 25 15 ป.4 22 23 21 29 31 21 26 18 20 ป.5 24 22 13 22 22 27 36 23 16 ป.6 23 19 16 22 20 21 28 33 23 ม.1 - - 2 1 - 2 3 2 4 ม.2 1 2 3 4 - 3 7 7 7 ม.3 2 1 3 2 - 3 4 3 3 รวม 145 135 104 165 156 134 214 195 139 รอ้ ยละ 52.53 48.91 37.68 59.78 56.52 45.55 77.53 70.65 50.36
~๙~ 2) รอ้ ยละของผเู้ รียนท่มี ผี ลการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ในระดบั ดีขน้ึ ไป ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ถงึ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ปกี ารศึกษา 2562 ระดับชั้น จานวน ไมผ่ ่าน ผลการประเมนิ ดเี ยย่ี ม ระดับดี ร้อยละ ผ้เู รยี น ผ่าน ดี ขนึ้ ไป 86.27 ป.1 51 1 6 29 15 44 57.50 89.19 ป.2 40 4 13 5 18 23 78.72 78.72 ป.3 37 - 4 6 27 33 68.57 20.00 ป.4 47 1 9 19 18 37 28.57 42.86 ป.5 47 2 8 24 13 37 73.91 ป.6 35 - 11 18 6 24 ม.1 5 - 4 1 - 1 ม.2 7 - 5 2 - 2 ม.3 7 - 4 2 1 3 รวม 276 8 64 106 98 204
~ ๑๐ ~ 3) รอ้ ยละของผเู้ รยี นทีม่ ผี ลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ในระดบั ดีข้นึ ไป ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 ถึงระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2562 ระดบั ชน้ั จานวน ไมผ่ ่าน ผลการประเมนิ ดีเยย่ี ม ระดบั ดี ร้อยละ ผเู้ รียน ผา่ น ดี ขึ้นไป 98.03 ป.1 51 1 - 32 18 50 90.00 91.89 ป.2 40 - 4 16 20 36 95.74 ป.3 37 - 3 13 21 34 ป.4 47 1 1 26 19 45
~ ๑๑ ~ ป.5 47 1 2 25 19 44 93.61 ป.6 35 - 9 20 6 26 74.28 ม.1 5 - 2 2 1 3 60.00 ม.2 7 - 3 2 2 4 57.14 ม.3 7 - 4 2 1 3 42.86 รวม 276 3 28 138 107 245 88.76 4) ร้อยละของผเู้ รียนทม่ี ผี ลการประเมนิ สมรรถนะสาคัญตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ปีการศกึ ษา 2562 ของผูเ้ รียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 ถงึ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ในระดับผา่ นขน้ึ ไป
~ ๑๒ ~ สมรรถนะสาคัญ ผลการประเมนิ ระดับผา่ น รอ้ ยละ ไมผ่ ่าน ผ่าน ดี ดีเยย่ี ม ขนึ้ ไป 99.27 44 114 116 274 1. ความสามารถ 2 61 111 ในการสือ่ สาร 61 99 2. ความสามารถ 2 102 274 99.27 35 97 ในการคิด 41 121 -- 3. ความสามารถ 2 114 274 99.27 ในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถใน 2 142 274 99.27 การใช้ทกั ษะชีวติ 112 274 99.27 - - 99.27 5. ความสามารถใน 2 การใชเ้ ทคโนโลยี รวม -
~ ๑๓ ~ 1.5 ผลการทดสอบระดบั ชาติของผู้เรยี น ผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอ่านออกของผู้เรียน (RT) ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 1) ผลการประเมินความสามารถดา้ นการอ่านออกของผเู้ รยี น (RT) ปีการศกึ ษา 2562 ดา้ น คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ ระดบั โรงเรยี น ระดบั สพฐ. ระดบั ประเทศ การอ่านออกเสียง 36.91 67.49 68.50 การอา่ นรเู้ รอื่ ง 42.48 72.51 72.81 รวม 2 ดา้ น 39.70 70.00 70.66
~ ๑๔ ~ 2) การเปรียบเทยี บผลการประเมินความสามารถดา้ นการอ่านออกของผู้เรียน (RT) ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1ปีการศึกษา 2561- 2562 ด้าน ปีการศึกษา ปกี ารศึกษา ร้อยละของผลตา่ ง 2561 2562 ระหวา่ งปกี ารศึกษา การอ่านออกเสยี ง 39.77 36.91 - 2.86 การอา่ นรเู้ รอ่ื ง 57.36 42.48 - 14.88 รวม 2 ดา้ น 48.57 39.70 - 8.87
~ ๑๕ ~ ผลการประเมนิ คุณภาพผูเ้ รยี น (NT) ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 1) ผลการประเมนิ การทดสอบความสามารถพื้นฐานของผเู้ รยี นระดับชาติ (NT) ปีการศกึ ษา 2562 ความสามารถ ระดบั โรงเรยี น คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ ระดบั ประเทศ ระดับ สพฐ. ด้านภาษาไทย 29.87 46.00 46.46 ด้านคณิตศาสตร์ 33.86 45.64 44.94 รวมความสามารถทงั้ 2 ด้าน 34.36 45.70 45.82
~ ๑๖ ~ 2) การเปรียบเทยี บผลการประเมินทดสอบความสามารถพืน้ ฐานของผเู้ รยี นระดบั ชาติ (NT) ปีการศึกษา 2561- 2562 ความสามารถ ปกี ารศึกษา ปีการศึกษา รอ้ ยละของผลต่าง 2561 2562 ระหว่างปีการศกึ ษา ด้านภาษาไทย 36.83 29.87 - 6.96 ด้านคณิตศาสตร์ 33.41 33.86 + 0.45 ดา้ นเหตผุ ล 30.31 รวมความสามารถทั้ง 3 ดา้ น 33.51 34.36 + 0.85
~ ๑๗ ~ ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้นั พื้นฐาน (O-NET) ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 1) ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562 รายวชิ า ระดับโรงเรียน คะแนนเฉล่ีย ระดับประเทศ ระดบั สพฐ. ภาษาไทย 41.77 47.95 49.07 คณติ ศาสตร์ 25.17 31.60 32.90 วิทยาศาสตร์ 32.04 34.30 35.55 ภาษาองั กฤษ 25.67 30.86 34.42 2) การเปรียบเทยี บผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ นั้ พนื้ ฐาน (O-NET) ปีการศกึ ษา 2561 - 2562 คะแนนเฉลย่ี รายวิชา ปีการศกึ ษา 2561 ปีการศึกษา 2562 ผลต่าง ระหว่างปกี ารศึกษา
ภาษาไทย ~ ๑๘ ~ - 0.59 คณติ ศาสตร์ - 0.31 วิทยาศาสตร์ 42.36 41.77 - 0.82 ภาษาองั กฤษ 25.48 25.17 - 5.82 32.86 32.04 31.49 25.67 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 1) ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขนั้ พื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562 รายวิชา ระดับโรงเรียน คะแนนเฉลย่ี ระดบั ประเทศ ระดบั สพฐ. 55.14 26.73 ภาษาไทย 41.50 55.91 30.07 33.25 คณิตศาสตร์ 20.00 26.98 วิทยาศาสตร์ 31.75 30.22 ภาษาองั กฤษ 27.67 32.98
~ ๑๙ ~ 2) การเปรยี บเทยี บผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ น้ั พ้ืนฐาน (O-NET) ปีการศกึ ษา 2561 - 2562 คะแนนเฉล่ีย รายวิชา ปีการศกึ ษา 2561 ปกี ารศึกษา 2562 ผลต่าง ระหว่างปกี ารศกึ ษา ภาษาไทย 50.00 41.50 - 8.50 คณติ ศาสตร์ 19.00 20.00 + 1.00 วิทยาศาสตร์ 32.00 31.75 - 0.25 ภาษาองั กฤษ 22.25 27.67 + 5.42
~ ๒๐ ~
~ 21 ~
~ ๑๒ ~ สว่ นที่ ๒ ผลการศกึ ษาสถานภาพของสถานศกึ ษา ๑. ผลการประเมนิ สถานภาพการศกึ ษา ปัจจยั ภายนอก จากการศกึ ษาวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอกโรงเรียน พบวา่ สภาพแวดล้อมภายนอกเปน็ ปจั จัยเออื้ หรือเป็นโอกาสในการพฒั นาการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น ในด้านสังคมวัฒนธรรม คือ มวี ฒั นธรรมทหี่ ลากหลาย แต่ไม่แตกแยก ผปู้ กครองเอาใจใส่นกั เรยี น ตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของการใหก้ ารศกึ ษามเี จตคติท่ดี ีและไว้วางใจใน ประสทิ ธภิ าพ การจดั การศกึ ษาของโรงเรียน สภาพการคมนาคม มคี วามสะดวกในการเดนิ ทางมาเรยี น โดยมี ผูป้ กครองมาสง่ และรถยนตร์ บั ส่งนกั เรยี นประจา อีกทั้งในชมุ ชนมีภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ และแหลง่ การเรยี นร้ตู าม ศักยภาพ ชมุ ชนมีบ้านเรอื นใกล้เคยี งและเป็นญาติมิตรมชี าวไทยอิสลาม ชาวไทยเชอ้ื สายจีนและชาวไทยพทุ ธ มี ความสัมพนั ธท์ ่ีดีต่อกนั ด้านเศรษฐกจิ โดยภาพรวมแล้วผ้ปู กครองและชมุ ชนมีอาชพี และมีรายไดป้ ระจาจากการทา เกษตรทสี่ ามารถสง่ เสริมให้ลกู หลานเรยี นได้ นอกจากนโี้ รงเรียนยงั ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากองคก์ รสว่ นทอ้ งถ่ิน ประกอบกบั พระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ ๒๕๔๒ เอือ้ ให้โรงเรยี นสามารถดาเนินการพฒั นาการศึกษาไดอ้ ย่าง มีประสิทธภิ าพ ส่วนจุดออ่ นทีพ่ บในดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม คือ สถาบันครอบครัว มีปญั หาการหยา่ รา้ งกันมาก และ การสรา้ งคา่ นิยมทางด้านวตั ถใุ ห้กบั ลกู หลาน ๑.๑ ผลดา้ นบวก คอื ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม ๑. สภาพการคมนาคม มคี วามสะดวกในการเดนิ ทางมาเรยี น ๒. สภาพที่ตงั้ ของชุมชน ตง้ั อยู่ในเขตเทศบาลตาบลคอกชา้ ง สภาพสงั คมมคี วามเขม้ แขง็ เน่ืองจากมี สภาพสังคมแบบญาติพ่ีนอ้ ง และมพี ื้นท่นี อกเขตบรกิ ารโรงเรยี นนานกั เรียนมาเรยี นร่วม ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ชมุ ชนท้องถิน่ ตาบลคอกช้างเป็นชมุ ชนเมอื งจงึ มคี วามเจริญกา้ วหน้าในดา้ นการสอ่ื สาร เทคโนโลยเี ป็นอยา่ งมากมีการใหบ้ ริการขอ้ มลู สอ่ื สารทางอนิ เตอรเ์ นต็ ทัง้ ของทางราชการและเอกชนมกี ารเชื่อมโยง เครือขา่ ยครอบคลมุ พื้นที่ ด้านปัจจัยเกยี่ วกับการปฏิบตั ิงาน
~ ๑๓ ~ โรงเรยี นเป็นสถานศึกษาที่ได้รบั การสนบั สนุนท้งั ภาครฐั และเอกชนในการก่อสร้างอาคาร เรียนการสนบั สนนุ วสั ดุ ครุภัณฑ์ มาโดยตลอด และมผี ู้อปุ ถมั ภ์ปจั จัยในการจดั การศกึ ษาอยา่ งพอเพยี ง ผปู้ กครอง สว่ นใหญใ่ หค้ วามสาคญั ในการบรจิ าคเพ่อื พฒั นาการศึกษา ดา้ นประสิทธภิ าพทางการเงนิ โรงเรียนไดร้ ับการสนบั สนนุ งบประมาณจากรัฐบาลเป็นเงินอดุ หนุนด้านการศึกษาและเงนิ ทผ่ี มู้ จี ติ ศรัทธาบรจิ าคใหส้ ่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ได้มงี บประมาณสนับสนนุ ภายใตก้ รอบการบรหิ ารงบงบประมาณ โรงเรียนมแี ผนปฏบิ ัติการประจาปเี ป็นการควบคุมกากับ ด้านปรมิ าณ คุณภาพ บุคลากร โรงเรียนมีจานวนครูเพียงพอตอ่ การจัดการศึกษา คณะครูมคี วามร้คู วามสามารถประสบการณ์ใน การสอนและทุ่มเทต่อการทางาน ดา้ นผลผลติ และการบรกิ าร การจดั การศึกษาข้ันพ้ืนฐานไดร้ บั การประเมนิ ตามมาตรฐานของสานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พ้ืนอยูใ่ นระดบั ดี ดา้ นเศรษฐกิจ อาชีพของประชาชนส่วนใหญ่ อาชพี รบั จา้ ง การคา้ ขาย และการเกษตร รายไดข้ องประชากร โดย เฉลย่ี อยใู่ นระดับดี ดา้ นกฎหมายและการเมอื ง ในด้านการปฏิรูปการศึกษาโดยกฎหมายรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย เป็นกฎหมายที่เอื้อ ต่อการจัดการศึกษาท่ีมีส่วนร่วมขององค์กร ชุมชนท้องถ่ิน ครอบครัว สถานประกอบการและมีทิศทางการจัด การศกึ ษาทเ่ี ป็นรปู ธรรม ปจั จัยภายนอกด้านลบ
~ ๑๔ ~ ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม สถาบนั ครอบครวั มปี ญั หาการหย่าร้างกันมากและปัญหาเสยี ชีวิตของบิดามารดากอ่ นวัยอันควร ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การใหอ้ งค์ความรทู้ ี่ถกู ต้องในการใช้งานโรงเรยี นไดจ้ ดั ขบวนการสอนท้งั คอมพิวเตอรก์ ารสอนสื่อ ทางไกลผ่านดาวเทียม แต่ไม่เพียงพอกับจานวนความต้องการของนักเรียนและประชาชนเนือ่ งจากขาดเคร่ืองมือ ส่ืออุปกรณ์ จานวนมากอีกประการของภาคเอกชนมีการเล่นเกมทางอินเตอร์เน็ต เป็นแหลง่ ม่ัวสมุ ของเด็กและ เยาวชน ดา้ นปัจจยั การปฏิบัติงาน โรงเรียนมกี ารประสานงานกบั ชุมชนและหนว่ ยงานตา่ งๆนอ้ ย และโรงเรียนขาดการนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านของบคุ ลากรไมต่ อ่ เนอื่ ง การจัดทาข่าวสารเผยแพรแ่ ละประชาสัมพันธไ์ มค่ ่อย ต่อเนอ่ื ง การจดั ทาข่าวสารเผยแพรแ่ ละเผยแพร่และประชาสมั พันธไ์ ม่ค่อยต่อเนื่อง ดา้ นประสิทธภิ าพทางการเงิน ในการบรหิ ารงบประมาณมขี อ้ จากัดเชิงระเบยี บปฏบิ ตั มิ ากไมเ่ ออื้ ตอ่ การบรหิ ารจดั การและการโอน เงินงวดไม่ตรงกาหนดระยะเวลา ดา้ นปรมิ าณและคุณภาพบคุ ลากร โรงเรียนขาดแคลนครสู าขาวิชาเอก ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และการพัฒนาครใู ห้ได้มาตรฐาน วิชาชพี ด้านผลผลิตและบรกิ าร ต้องพัฒนาหลักสูตรกระบวนการจัดการเรียนการสอนด้านส่ืออุปกรณ์การเรียนการสอน ด้าน เทคโนโลยี สารสนเทศ
~ ๑๕ ~ ดา้ นเศรษฐกิจ รายได้ของประชากรมีลกั ษณะเป็นกระจกุ ในกลุม่ ค้าขายและกลมุ่ ท่ีมีฐานะดง้ั เดมิ ช่องว่างระหว่างคน จนและคนรวย ด้านกฎหมายและการเมอื ง การดาเนนิ การแก่กฎหมายประกอบรฐั ธรรมนญู มจี านวนมาก การบงั คับใช้ล่าช้าไมท่ นั กาหนดเวลา และความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ความขัดแย้งค่อนข้างสูงในทุกระดับการช่วยเหลือสนับสนุนจากท้องถ่ินมีน้อยเป็น อปุ สรรคอย่างมากในการจดั การศกึ ษาโดยการมสี ่วนรว่ ม ปัจจยั ภายใน ดา้ นโครงสร้างและนโยบายโรงเรยี น โรงเรยี นมโี ครงสร้างการจดั การศึกษาโดยใชโ้ รงเรยี นเปน็ ฐาน ใหท้ ุกภาคมสี ว่ นร่วมการบริหารงานใน รูปแบบองค์คณะบคุ คล ส่ิงท่เี ป็นจุดออ่ นในด้านการกาหนดโครงสรา้ งและนโยบาย ได้แก่ การประสานงาน ดาเนินการ การประชาสมั พันธ์ ทาความเขา้ ใจต่อบทบาทอานาจหนา้ ทใี่ นองคค์ ณะบุคคล ผปู้ กครองนกั เรียน และ ประชาชนโดยทัว่ ไป ด้านบริหารจัดการ โรงเรียนมรี ะบบการบริหารการจดั การแบบกระจายอานาจโดยเน้นการมีส่วนร่วมอย่างเปน็ ระบบ บคุ ลากรทกุ ฝา่ ยมคี วามตง้ั ใจในการปฏบิ ัตงิ านจดุ ออ่ นทเี่ ปน็ อุปสรรคการบรหิ ารจดั การบคุ ลากรบางท่านยงั มีความรู้ ความเขา้ ใจในหน้าที่นอ้ ย ด้านปัจจัยเกย่ี วกับการปฏบิ ตั ิงาน โรงเรียนเป็นสถานศึกษาทไี่ ดร้ บั การสนับสนนุ ทงั้ ภาครัฐ ภาคประชาชน ในการสนบั สนนุ และบริจาค ให้ความช่วยเหลือ การก่อสร้างอาคารเรียน การสนับสนุนวัสดุ ครุภัณฑ์ ทุนการศึกษา มาโดยตลอด และมีผู้ อุปถัมภ์ปัจจัยในการจัดการศึกษา อย่างพอเพียง ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความสาคัญในการบริจาคเพ่ือพัฒนา การศกึ ษา
~ ๑๖ ~ ด้านประสทิ ธิภาพทางการเงิน โรงเรียนได้รับการสนบั สนุนงบประมาณจากรฐั บาล เป็นเงนิ อุดหนุนทางการศึกษา และเงินที่ผูม้ ีจิต ศรัทธาบริจาคให้ ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ได้มงี บประมาณสนับสนุนภายใต้กรอบการบริหารงบประมาณ จุดออ่ นการระดมทรัพยากรมาจัดการศึกษา ด้านความคดิ ที่ว่ารัฐจดั การศึกษาโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย จึงเป็นปจั จัย สาคญั ตอ่ การรณรงค์ระดมทรัพยากรและมีปญั หาในเชงิ ปฏบิ ตั ิ ประสทิ ธภิ าพทางการเงนิ โรงเรียนมแี ผนการบริหารจดั การโดยแผนปฏบิ ัติการประจาปีและ แผนพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนเป็นการควบคมุ กากบั จดุ อ่อนในการบรหิ ารงบประมาณ มีข้อจากัดเชิงระเบยี บปฏิบัติ มาก ไมเ่ อือ้ ตอ่ การบรหิ ารจดั การ และการโอนเงินงวดจากหนว่ ยงานต้นสงั กัดไมต่ รงกาหนดระยะเวลา ด้านปริมาณและคณุ ภาพบุคลากร โรงเรียนขาดแคลนครูสาขาวชิ าเอก คณติ ศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณุ ครขู าดประสบการณใ์ นการทางาน ครูบางสว่ นสอนในวิชาที่ไม่ตรงกบั สาขาวชิ าเอกทีเ่ รยี นจบมา ด้านผลผลิตและการบริการ การจัดการศึกษาด้านขั้นพ้ืนฐาน ไดร้ ับการรับรองคุณภาพการประเมินตามมาตรฐานของสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน อยใู่ นระดับดี จุดอ่อนท่ตี ้องพัฒนาในเรือ่ งหลักสูตร กระบวนการจัดการเรยี น การสอนดา้ นสือ่ อปุ กรณ์การสอน ด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ สขุ ภาพอนามัย นกั เรียนได้รบั การจดั สรรงบประมารอาหารกลางวนั โดยนักเรียนทกุ คนได้ รับประทานอาหารกลางของโรงเรยี นทุกคนและได้สารอาหารท่ีถกู หลักอนามัยเพอ่ื พัฒนาส่งเสรมิ ให้นกั เรยี น เจริญเตบิ โตได้ตามวัย และมีการจดั กิจกรรมพฒั นาดา้ นร่างกาย เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ นักเรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม สง่ิ ทีต่ อ้ งพฒั นานกั เรียนขาดระเบยี บวินยั และความรับผิดชอบ ขาดทกั ษะในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง ขาดความใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน การใหบ้ ริการ โรงเรยี นจัดบริการดา้ นห้องสมุด สนามกีฬา จดุ สบื คน้ ข้อมลู ทางอินเตอรเ์ นต็ บริการ นกั เรยี น เยาวชน ประชาชน และหนว่ ยงานทางราชการ
~ ๑๗ ~ สรุปสาเหตขุ องปญั หา ตัวนักเรียน ๑. นกั เรยี นสว่ นใหญข่ าดคณุ ลกั ษณะทพี่ ่ึงประสงคส์ ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรมของนักเรียนด้านการเรียนและ ความประพฤติ ๒. นกั เรียนบางสว่ นมปี ญั หาดา้ นครอบครวั ส่งผลกระทบตอ่ ดา้ นสุขภาพจติ และด้านการเรยี น ๓. นักเรยี นขาดทักษะในการแสวงหาความรขู้ าดความใฝ่ร้ใู ฝเ่ รียน ๔. นักเรยี นขาดระเบียบวนิ ยั ตวั ครู ๑. ครูบางคนขาดทักษะการใช้สือ่ เทคโนโลยที ่ีทนั สมยั ใช้สอื่ ไมเ่ ต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้นกั เรยี น เรียนรไู้ ม่เตม็ ศกั ยภาพ ๒. ครูขาดความรเู้ ฉพาะด้านส่งผลต่อการเรียนรู้ของนกั เรยี น ๓. ครูขาดประสบการณ์ในการทางาน ขาดความมั่นใจในตนเองในการตัดสนิ ใจ ๔. ครไู ด้รับการอบรมไม่ท่ัวถงึ ในแต่ระดบั ช้ัน ๕. ครูไม่มเี ครือข่ายท่ชี ัดเจนในกลมุ่ สาระวชิ า ๖. ครูมีอัตราการโยกย้ายสงู สง่ ผลในการปฏบิ ัติงานไมต่ อ่ เนอ่ื งและขาดประสทิ ธภิ าพ ๗. ครยู ังขาดความรแู้ ละจติ สานึกในการปฏิบตั หิ น้าท่ขี องความเป็นครทู ดี่ ี การบริหาร ๑. การนเิ ทศตดิ ตามยังไม่ต่อเนอื่ ง ๒. แหล่งเรียนรนู้ อกหอ้ งเรียนยังมนี อ้ ย ๓. วสั ดุครุภณั ฑ์ไม่เพียงพอกบั ความตอ้ งการใชแ้ ละบางส่วนชารดุ เสือ่ มสภาพไมส่ ามารถนามาใชใ้ ห้ เกดิ ประโยชนส์ งู สุดได้
~ ๑๘ ~ ปัจจัยสนับสนุน จากชุมชน องคค์ ณะบุคคลทมี่ ี ส่งผลตอ่ โรงเรียนใหเ้ ปน็ องคก์ รแห่งความเปน็ เลศิ ในการจัดการศกึ ษามี ความรบั ผิดชอบตอ่ องค์กร ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ในการขับเคล่ือนการจัดการศกึ ษาไปส่คู วามสาเรจ็ และเป็น ทมี งานทสี่ มบรูณ์แบบ ผู้ปกครองนักเรียนเป็นเจา้ ของโรงเรยี นยอมรบั และพงึ พอใจรว่ มมอื สง่ เสรมิ สนบั สนุนการจัด การศึกษา ใหน้ กั เรยี นประสบผลสาเรจ็ จนจบหลักสตู รการศกึ ษาภาคบังคบั ได้รบั คดั เลอื กใหเ้ ปน็ โรงเรยี นดีใกลบ้ ้าน และโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล ผลการประเมนิ สถานภาพของสถานศกึ ษา จากการศกึ ษาวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอกและภายในของโรงเรียนบา้ นโตแล้ว นาข้อมูลมาประเมนิ สถานภาพ ปรากฏว่าโรงเรียนบา้ นโต มสี ภาพภายนอกเป็นโอกาสทเ่ี ออื้ ต่อการพฒั นาและจัดการศกึ ษา สว่ นปจั จยั ภายในก็เปน็ จุดแขง็ ที่เออื้ และสนับสนนุ ตอ่ การบริหารจดั การศกึ ษา ทีม่ กี ารกระจายอานาจ และการมสี ว่ นร่วมของ บุคลากรและชุมชน จงึ ทาให้โรงเรยี นบา้ นโตสามารถจดั การศึกษาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และตรงความต้องการ ของชมุ ชน สรุปโดยรวมสถานภาพบรบิ ทของโรงเรียนต่อการจดั การศกึ ษาระดบั ขั้นพื้นฐาน(การศึกษาภาคบังคบั ) เอ้ือและมีโอกาส ดังน้ันยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียน ควรเป็นเชิงรุก มุ่งเน้นคุณภาพ การศึกษา และสรา้ งโรงเรยี นสมบรู ณแ์ บบของภาคประชาชน
~ ๑๙ ~ ๒. ผลการทาวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก ๑. ปัจจยั ทางสังคมและวฒั นธรรม โอกาส อุปสรรค ๑. ปจั จยั ดา้ นสังคมวัฒนธรรม ๑.๑ การศึกษาของประชากรในชมุ ชน จบ ๑.๑ ปัญหาครอบครวั การหยา่ ร้างทาใหน้ กั เรยี นมี การศึกษาภาคบังคบั มีความรอู้ ่านออกเขยี นได้ ภาวะซึมเศร้าและแสดงพฤติกรรมทีไ่ ม่ สามารถให้คาปรกึ ษาแนะนาแก่บตุ รหลานได้ เหมาะสม ๑.๒ ชุมชนเห็นความสาคญั ในการอนรุ กั ษ์ ประเพณี วัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ และใหค้ วาม ๑.๒ ผ้ปู กครองไม่ได้เปน็ แบบอยา่ งในดา้ น ร่วมมอื อยา่ งดี ระเบียบวนิ ัย ส่งผลให้นกั เรียนเลยี นแบบ ๑.๓ ชุมชนมีความสัมพันธ์อันดีตอ่ กนั และให้ พฤติกรรมจากที่บ้านมาใช้ทีโ่ รงเรยี น ความช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกัน ๑.๔ มีภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ท่ีสง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษาในโรงเรยี น ๒. ด้านเทคโนโลยี โอกาส อปุ สรรค ๒.๑ ชมุ ชนเหน็ ความสาคญั ของเทคโนโลยี มี ๒.๑ เยาวชนบางส่วนไม่สามารถประยกุ ต์ใช้ เทคโนโลยที ่ที ันสมัย สามารถนามาใช้ใหเ้ กดิ เทคโนโลยีใหเ้ กดิ ประโยชน์และเหมาะสม ประโยชนต์ ่อการศกึ ษาของบตุ รหลาน ๒.๒ ผปู้ กครองบางคนใชเ้ ทคโนโลยดี ้านบนั เทงิ ท่ี ๒.๒ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ให้ความสาคัญ ไม่เหมาะสมทาใหเ้ กดิ ปญั หาครอบครัวและ และสนับสนนุ งบประมาณดา้ น ICT ปัญหาสงั คม
~ ๒๐ ~ ๓ ด้านเศรษฐกิจ โอกาส อุปสรรค ๓.๑ ผปู้ กครองสว่ นใหญม่ รี ายได้เพยี งพอ และมี ๓.๑ สภาพภมู ิอากาศฝนตกชุกเกือบตลอดปี เป็น ความสามารถในการสนบั สนุนดา้ น อปุ สรรคตอ่ การประกอบอาชพี การศึกษาแกบ่ ตุ รหลาน ๓.๒ ผูป้ กครองไมไ่ ดป้ ลูกฝังการใชจ้ ่ายเงนิ อย่าง ประหยัดและไมฟ่ ุ่มเฟอื ย ๔. ดา้ นการเมอื งและกฎหมาย โอกาส อุปสรรค ๔.๑ องค์การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน มีส่วนร่วม ๔.๑องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ ไมไ่ ดห้ ารือกับ และสนับสนุนการจัดการศกึ ษาดา้ น สถานศึกษาในการวางนโยบายท่ีเก่ียวกับการศกึ ษา งบประมาณ ทาใหน้ โยบายขาดการปฏิบตั แิ ละไมเ่ ออ้ื ตอ่ การ พัฒนาการศกึ ษา
~ ๒๑ ~ ๓. ผลการศึกษาการจดั สภาพแวดล้อมภายใน ๑. โครงสร้างและนโยบาย จดุ แขง็ จุดอ่อน ๑. ดา้ นโครงสรา้ งงานและนโยบาย ๑.๑ จัดทาธรรมนญู โรงเรยี น เพื่อเป็นแนวทาง ๑.๑ การปฏิบตั งิ าน ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนท่วี างไวไ้ ด้ ในการพัฒนาระบบการปฏิบตั งิ านของ ให้ครบหมดทกุ กจิ กรรม โรงเรยี นให้มีประสทิ ธภิ าพ ๑.๒ บุคลากรบางทา่ นปฏิบัตงิ านตามโครงสรา้ งท่ี ๑.๒ มแี ผนปฏบิ ัติงาน แผนพัฒนาคุณภาพ วางไวไ้ ดไ้ มช่ ดั เจน ผ้เู รยี นกากบั ติดตามและประเมนิ ผล ๒. ผลผลิตของการบริการ จุดแข็ง จุดออ่ น ๒.๑ นักเรยี นมีสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตดเี รียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสว่ นใหญ่ขาดความรบั ผดิ ชอบ อยา่ งมีความสุข ระเบยี บวินัย คณุ ธรรมและจริยธรรม ๒.๒นักเรยี นทีเ่ รียนจบการศกึ ษาภาคบังคบั และ ๒.๒ นกั เรียนไม่ใฝ่เรยี นรู้และแสวงหาความรู้ด้วย มีอัตราการศึกษาตอ่ ๑๐๐ % ตนเอง ทาใหผ้ ลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นต่าใน กลมุ่ ทกั ษะ
~ ๒๒ ~ ๓. ดา้ นบุคลากร จดุ แขง็ จุดอ่อน ๓.๑ ครมู ีความตื่นตัวและกระตือรอื ร้นในการ ๓.๑ บุคลากรบางคนขาดทกั ษะการใช้สอื่ พัฒนาตนเอง นาความร้ทู ไ่ี ดม้ าใช้ในการ เทคโนโลยที ีท่ นั สมยั ใชส้ ่อื ไม่เต็ม จัดการเรยี นการสอน ประสิทธภิ าพ ส่งผลใหน้ ักเรยี น เรยี นร้ไู มเ่ ตม็ ๓.๒ บคุ ลากรมคี วามสามคั คใี นหม่คู ณะ ทาให้การ ศกั ยภาพ ปฏบิ ัติงานประสบความสาเรจ็ และมี ๓.๒ บุคลากรบางคนมีประสบการณใ์ นการ ประสทิ ธิภาพ ทางานนอ้ ยจงึ ทาใหข้ าดความม่ันใจในการ ๓.๓ ครูนาภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ มาจัดการเรียนการ ปฏิบัติงาน สอน สง่ ผลให้นักเรียนไดเ้ รียนรอู้ ยา่ ง หลากหลาย ตามความถนัดและความสนใจ ๓.๔ บคุ ลากรอยใู่ นช่วงวยั ทางาน ๓.๕ บคุ ลากรรกั ศรทั ธาในวิชาชีพครู และมีเจตคติ ทดี่ ีตอ่ วชิ าชพี ครู
~ ๒๓ ~ ๔. การเงิน จุดแขง็ จดุ ออ่ น ๔.๑โรงเรยี นมรี ะบบการบรหิ ารการเงนิ ถกู ตอ้ ง ๔.๑บคุ ลากรทรี่ ับผดิ ชอบงานมีความรูใ้ นการ ตามระเบยี บของทางราชการ และสามารถ ปฏิบัติงานนอ้ ย ตรวจสอบได้ ๔.๒บุคลากรทรี่ ับผิดชอบไม่ได้รบั การพัฒนา ๔.๒ ครูและกรรมการโรงเรยี นมสี ว่ นร่วมในการ ความร้เู ก่ยี วกับการเงินและพสั ดุ พิจารณาเบกิ จา่ ยเงนิ ของโรงเรยี น ๔.๓ มกี ารบรหิ ารงานด้านการเงินได้อย่างคุม้ ทนุ ๕.วัสดุอปุ กรณ์ จดุ แขง็ จุดออ่ น ๕.๑โรงเรยี นมสี อื่ เทคโนโลยที างการศึกษาท่ี ๕.๑ วสั ดุครุภณั ฑท์ ช่ี ารุด ขาดการซอ่ มบารงุ ทนั สมัย ๕.๒ ครูใชส้ ือ่ อุปกรณ์ยงั ไม่คมุ้ ค่า การจัดเกบ็ ๕.๒ ครูนาวัสดุในทอ้ งถ่ินมาใช้ประกอบการเรียน เบกิ จ่ายไมเ่ ปน็ ระบบ การสอนสง่ ผลให้นักเรยี นไดร้ บั ๕.๓ ครูขาดความรูแ้ ละเทคนิควิธกี ารใช้ ประสบการณต์ รง เทคโนโลยที ถ่ี กู ตอ้ ง ๕.๔ โรงเรยี นมโี สตทศั นูปกรณ์และเทคโนโลยีท่ี ทันสมยั แต่ขาดการนามาใช้
~ ๒๔ ~ ๖. การบรหิ ารจัดการ จุดแขง็ จุดอ่อน ๖.๑โรงเรยี นจดั การบรหิ ารแบบมสี ว่ นรว่ มและ ๖.๑ การจดั เกบ็ ข้อมลู สารสนเทศไมเ่ ป็นระบบ กระจายอานาจ สามารถปฏบิ ตั งิ านได้อยา่ งมี ปจั จบุ ัน ทาใหข้ าดความคลอ่ งตวั ในการ ประสิทธภิ าพ ปฏบิ ตั ิงาน ๖.๒โรงเรยี นมีการทาแผนปฏิบัติการและ ๖.๒ โรงเรียนขาดการเผยแพรข่ า่ วสาร แผนพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นโดยครทู กุ คนมสี ว่ น ประชาสมั พันธอ์ ยา่ งต่อเน่ือง ร่วมในการปฏบิ ัติงาน ๖.๔ การนิเทศตดิ ตามยงั ไมต่ อ่ เน่อื ง ๖.๓โรงเรยี นมกี ารจดั สภาพแวดล้อมทเี่ อ้ือต่อการ ๖.๕ ขาดการจัดทาทะเบียนแหลง่ เรียนรู้ เรียนรู้ ๖.๔ ระบบสร้างขวัญกาลังใจในการบรหิ าร โปรง่ ใสเป็นธรรม
~ ๒๕ ~ สรปุ ปัญหาและความตอ้ งการของโรงเรยี น ปญั หาจากบุคลากรครู แนวทางแก้ไข ๑.คณะครขู าดการทาวิจยั เน่ืองจากไมม่ ีความรู้ ๑.จัดอบรมความรู้กบั คณะครเู รอ่ื งการทาวิจัย ๒.ครูยงั ขาดความรูค้ วามเขา้ ใจในการนาหลักสตู รมาใช้ ๒.จัดอบรมใหค้ วามรูแ้ ละสง่ เสรมิ การใช้หลักสูตร ๓.ครขู าดการผลิตสอื่ มาใชใ้ นการเรียนการสอน ๓.จดั โครงการผลิตสือ่ การสอนสาหรับครทู กุ คน ๔. ครขู าดการวดั ผลประเมนิ ผลอย่างต่อเน่ืองและหลากหลาย ๔.ครคู วรออกแบบเครือ่ งมือวัดผลอย่างตอ่ เน่ือง ๕.ครูสอนไม่ตรงกบั สาขาวชิ าท่เี รยี น ๕.การสรรหาบุคลากรควรคานึงวิชาเอกที่ขาด แคลน ๖.ครขู าดเทคนิคการสอนที่หลากหลาย ๖.จดั อบรมให้ความรู้ ปญั หาดา้ นคณุ ภาพนักเรยี น แนวทางแก้ไข ผลสัมฤทธ์ิ ๑.ครูขาดความรใู้ นเรอ่ื งการประกนั คณุ ภาพภายใน ๑.จัดอบรมความรู้ ๒.ครูยังขาดความรู้ความเขา้ ใจในการนาหลักสูตรมาใช้ ๑.จัดอบรมใหค้ วามรู้และสง่ เสรมิ การใช้หลักสตู ร ๓.ครูขาดการวัดผลประเมินผลอย่างต่อเน่อื งและหลากหลาย ๓.ครูจัดการวัดผลประเมนิ ผลอย่างตอ่ เนื่องและ หลากหลาย ๔.ครขู าดการเตรยี มการสอนที่ดี ๔.ครูตอ้ งตระหนกั ในหนา้ ทค่ี วามรบั ผิดชอบ ๕.นักเรยี น อ่านไม่ออก เขียนไมไ่ ด้ ๕.จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่าน การเขยี น ๖.นกั เรียนขาดทกั ษะในดา้ นการคดิ คานวณ ๖.จดั กจิ กรรมสง่ เสริมการคิดคานวณ
~ ๒๖ ~ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑.นกั เรียนขาดความรบั ผิดชอบในหนา้ ท่ี ๑.ครคู วรตดิ ตามพฤตกิ รรมและอบรมใหร้ ูจ้ กั หนา้ ที่ ๒.ครูขาดการเอาใจใส่ในการปลกู ฝักนกั เรียน ๒.ครูควรปลกู ฝกั นกั เรยี นใหส้ ม่าเสมอตามหนา้ ท่ี อา่ นคิด วิเคราะห์ ๑.นกั เรียนขาดทกั ษะพ้ืนฐานในการอ่าน คิด วิเคราะห์ ๑.จดั กจิ กรรมทสี่ ง่ เสรมิ ให้นักเรียนมคี วามคิดริเริม่ พืน้ ฐานใน การอ่าน คิด วเิ คราะห์ ๒.ครขู าดการสรา้ งเครอ่ื งมือการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ ๒.สนบั สนนุ การสร้างเครื่องมืออย่างตอ่ เนอื่ ง กจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน ๑.นักเรยี นรว่ มกจิ กรรมศกึ ษาดงู านน้อย ๑.กาหนดเวลาและ สถานท่ศี ึกษาดูงานใหช้ ดั เจน ๒.ควรมกี ารมอบหมายงานให้ชัดเจน ๒.กิจกรรมชุมนมุ ไมส่ อดคลอ้ งกบั ความสนใจของนักเรยี น ๑.เพม่ิ กิจกรรมทส่ี อดคล้องกบั ความต้องการของ นกั เรียน ปญั หาจากการบรหิ ารจดั การ แนวทางแก้ไข ๑.การจัดซอื้ อปุ กรณ์ วสั ดลุ ่าชา้ ๑.เจา้ หนา้ ทฝ่ี ่ายพัสดุควรจดั เตรียมการจดั ซื้อให้ พรอ้ ม ทนั เวลา ๒.การนิเทศการสอนดาเนนิ การไดไ้ มเ่ ป็นไปตาม ๒.จัดทาแผนการนเิ ทศการสอนไว้ลว่ งหน้า เปา้ ที่วางไวเ้ ดือนละ ๑ ครง้ั ๓.หอ้ งสมุดไมม่ ีความพรอ้ มทด่ี ใี นการใหบ้ ริการ ๑.จดั สรรงบประมาณในการจดั ซื้อหนงั สือ วารสาร นิตยสาร หนงั สือพมิ พ์ ๒. จัดบคุ ลากรเพิม่ เตมิ ใหเ้ พยี งพอกับงาน
~ ๒๗ ~ สว่ นท่ี ๓ ทศิ ทางของโรงเรยี นบา้ นโต วสิ ัยทัศน์ (vision) “ ภายในปี ๒๕๖๔ โรงเรยี นบา้ นโตเปน็ องค์กรแหง่ การเรียนรู้ มุง่ พฒั นาคุณภาพการศึกษาสู่ มาตรฐานสากล ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม สบื สานวัฒนธรรมทอ้ งถิ่น น้อมนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มีทกั ษะ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ครมู มี าตรฐานวิชาชีพ ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ” พันธกจิ (Mission) ๑. พฒั นาระบบบริหารจดั การศกึ ษาใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพเกิดผลประโยชน์สงู สุดต่อนกั เรยี น ๒. พัฒนากระบวนการจดั การเรียนการสอนของครู เพอ่ื เพมิ่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นใหส้ งู ขน้ึ ๓. เด็กทอ่ี ยู่ในเกณฑก์ ารศกึ ษาภาคบงั คบั ไดเ้ รยี นอย่างเท่าเทยี มและทั่วถงึ ๔. จัดการศึกษาใหน้ ักเรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม มคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ ดารงความ เป็นไทยบนพืน้ ฐานเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๕. สง่ เสริมบคุ ลากรในโรงเรียนใหเ้ ป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีทักษะในการแสวงหาความรอู้ ยา่ ง หลากหลายเพื่อนามาใชใ้ นการปฏิบัตงิ านได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ๖. จัดใหม้ ีระบบประเมนิ คุณภาพภายในสถานศกึ ษาอยา่ งตอ่ เน่ือง ๗. สรา้ งความตระหนักให้ชุมชนเหน็ ความสาคัญของการศกึ ษาและมีส่วนรว่ มในการจัดการศกึ ษา ๘. จัดระบบการใชเ้ ทคโนโลยใี นการพฒั นาการเรียนการสอนอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๙. จดั ภูมทิ ศั น์ภายในโรงเรยี นใหเ้ ออื้ ตอ่ การจดั กระบวนการเรียนรู้ เปา้ ประสงค์ (Goal) 1. นกั เรียนทอี่ ยู่ในเกณฑ์การศกึ ษาภาคบังคบั ในเขตบรกิ ารเข้าเรียนครบ ๑๐๐ % 2. ระบบการบรหิ ารเกดิ ความคลอ่ งตวั และมปี ระสทิ ธภ์ิ าพ 3. นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นทกุ กลมุ่ สาระเพ่มิ ขนึ้ รอ้ ยละ ๓ 4. นกั เรียนเรยี นอย่างมีความสขุ ภายใต้สภาพแวดล้อมในโรงเรยี นเอือ้ ตอ่ การเรยี นการสอน และเปน็ เขต ปลอดยาเสพติด
~ ๒๘ ~ 5. นกั เรยี นทุกระดับชนั้ มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เพอื่ การส่อื สารและสบื ค้นข้อมลู 6. ครทู ุกคนได้รบั การพฒั นาตนเองตามมาตรฐานวชิ าชีพ อย่างนอ้ ยปีละ ๒ คร้ัง / คน และ สามารถใช้ หลักการวจิ ยั แบบง่าย ๆ เพอื่ พฒั นาคุณภาพนักเรียน 7. ผลการทดสอบระดบั ชาติเพม่ิ ขึ้นปีละ ๓% 8. ชมุ ชนมสี ่วนร่วมในการจดั การศกึ ษา การนานโยบายสู่การปฏิบัติ เพอ่ื สนองกลยุทธ์และนโยบายดงั กลา่ ว โรงเรยี นบา้ นโตได้ร่วมกนั กาหนดกรอบแนวทางในการ ปฏิบัตงิ าน ของโรงเรยี นและได้แจง้ แนวปฏบิ ัตใิ หผ้ ปู้ กครองนกั เรยี น พร้อมกบั นกั เรียนทุกคน เมอ่ื คราวประชมุ ผปู้ กครองนกั เรียน คร้งั ท่ี ๒/๒๕๖๓ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เพอ่ื ใหแ้ ต่ละฝา่ ยไดป้ ฏบิ ัตติ ามบทบาทและหนา้ ที่ ของตนเองไดอ้ ย่างถูกต้อง ประกอบดว้ ยสาระสาคัญ ดังน้ี ๑. แนวทางการปฏบิ ัติตนของบคุ ลากรแตล่ ะฝ่าย เพอ่ื ให้กลยทุ ธ์และนโยบายดงั กล่าวบรรลผุ ลตามเป้าหมาย บุคลากรทกุ ฝ่ายจะต้องปฏิบตั ิตามบทบาท และหนา้ ท่ขี องตนเอง ดังน้ี ๑.๑ ครูผู้สอน ๑) เตรียมการสอนใหพ้ ร้อม ๒) จดั ทาขอ้ มลู นกั เรยี นเปน็ รายบคุ คลให้เปน็ ปจั จบุ ัน และนามาใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพนักเรียน ๓) เข้าสอนตามเวลา และสอนเต็มเวลา ๔) ตรวจงานเดก็ อย่างสม่าเสมอ ๕) ไม่ใช้คาหยาบกบั นกั เรยี นทกุ คนและบุคคลท่วั ไป ๖) ให้ความเสมอภาคกับนกั เรยี นทุกคน และเคารพในสิทธิเด็ก ๗) ใหค้ าแนะนา ช่วยเหลือ สง่ เสรมิ สนับสนุนเพือ่ ให้นกั เรยี นได้พฒั นาตนเองตามศักยภาพ ๘) เปน็ กลั ยาณมิตรกับนกั เรยี นและชมุ ชน ๙) ไม่ลงโทษนักเรยี นด้วยวิธีการทรี่ นุ แรงและขาดเหตผุ ลอนั สมควรโดยเด็ดขาด ๑๐) ปรบั ปรงุ ตกแตง่ ห้องเรยี นและสภาพแวดลอ้ มใหเ้ อ้ือต่อการเรียนรขู้ องนกั เรยี น ๑๑) พฒั นาตนเอง พัฒนางานใหม้ คี วามกา้ วหนา้ อยู่เสมอ ๑๒) เสยี สละและอุทศิ เวลาใหก้ บั ราชการอยา่ งเต็มที่ ๑๓) สง่ เสริมความสามัคคีในหมู่คณะ ๑๔) ให้ความร่วมมอื กบั ทุกฝ่ายเพื่อพฒั นาโรงเรียน / ชุมชน ๑๕) ปฏบิ ัติงานอืน่ ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ๑.๒ พนักงานบริการ (นักการภารโรง) ๑) เปิด – ปดิ โรงเรียนตามกาหนดเวลา ๒) ใหบ้ รกิ ารแก่ครู นกั เรียน และบุคคลทั่วไปด้วยความจรงิ ใจ
~ ๒๙ ~ ๓) ดูแลความเรียบรอ้ ยทวั่ ไปทงั้ ในเวลาและนอกเวลาราชการ ๔) ปรบั ปรุง ซ่อมแซม อาคารสถานทีใ่ หอ้ ยู่ในสภาพใชง้ านไดต้ ามปกติ และเกดิ ความปลอดภยั ตลอดเวลา ๕) ปรบั ปรุง ตกแตง่ สภาพแวดล้อมในโรงเรยี นใหส้ ะอาด ร่มร่นื สวยงาม ๖) รกั ษาทรพั ย์สมบตั ขิ องทางราชการ ๗) เสียสละและอทุ ศิ เวลาใหก้ ับราชการอย่างเตม็ ที่ ๘) ใหค้ วามร่วมมือกบั บคุ ลากรทุกฝา่ ยในการพฒั นาโรงเรียน / ชมุ ชน ๙) ปฏิบตั ิงานอืน่ ตามที่ไดร้ บั มอบหมาย ๑.๓ นกั เรียน ๑) มาโรงเรยี นสมา่ เสมอ ไม่ขาดเรยี นโดยปราศจากเหตุผลทส่ี มควร ๒) แต่งกายถกู ต้องตามระเบียบของโรงเรียน ๓) ดแู ล รักษารา่ งกายและเครอ่ื งแต่งกายใหส้ ะอาดอยูเ่ สมอ ๔) มสี ว่ นรว่ มในการปรบั ปรงุ ดูแล อาคารสถานทีแ่ ละสภาพแวดล้อมในโรงเรียนใหส้ ะอาด รม่ รนื่ สวยงาม ตลอดจนการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม ๕) ไมเ่ ป็นต้นเหตขุ องการทะเลาะววิ าท หรือสร้างความแตกแยกในหมูค่ ณะ ๖) ใช้ส่ิงของเคร่ืองใช้ อปุ กรณ์การเรียนอย่างประหยดั คุ้มค่า ๗) เปน็ สมาชกิ กจิ กรรมในโรงเรยี น ท่ีดาเนินการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๘) มีความสามารถในการอ่าน เขียน คิดคานวณ สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั ชั้น ๙) สามารถคน้ คว้าหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ ทัง้ ภายใน/นอกโรงเรยี นได้ ๑๐) กลา้ แสดงออก และมีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ ๑๑) ซ่ือสัตย์ สุภาพ ออ่ นนอ้ ม เสียสละ ตรงตอ่ เวลา มีความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าทแ่ี ละงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ๑๒) ไมย่ ุ่งเก่ียวกบั สง่ิ เสพตดิ ทกุ ชนิด ๑.๔ คณะกรรมการสถานศึกษา / ชุมชน ๑) เป็นที่ปรึกษา และใหค้ าเสนอแนะแนวทางในการพฒั นาโรงเรียน ๒) กากับ ตดิ ตาม ใหก้ ารสนบั สนนุ บุตรหลานในการเรยี นรอู้ ยา่ งสม่าเสมอ ๓) สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนมีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามที่สถานศึกษากาหนด ๔) มีส่วนรว่ มในการบรหิ ารจดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคุณภาพนกั เรียน ๕) ระดมทรัพยากรจากทกุ ฝา่ ยเพ่อื พฒั นาการศกึ ษา ๖) เข้ารว่ มกจิ กรรมต่าง ๆ ท่โี รงเรียนจัด ๗) สละแรงงานช่วยพฒั นาโรงเรยี น ๘) ช่วยเหลือ สนับสนุนการดาเนินงานของโรงเรียน เพ่อื ผลทีจ่ ะเกิดกบั นกั เรียนอยา่ งต่อเนือ่ ง ๙) ดูแล รักษาทรพั ย์สนิ ของทางราชการ ๑๐) เผยแพร่ ประชาสมั พันธผ์ ลงานโรงเรียนให้ชมุ ชน / สาธารณชนทราบ
~ ๓๐ ~ สว่ นท่ี ๔ กลยทุ ธก์ ารจัดการศกึ ษา กลยทุ ธร์ ะดบั องค์กร ๑. พัฒนาระบบการบรหิ ารโดยยดึ หลกั มุ่งผลสมั ฤทธิ์ ตามหลกั ธรรมาภิบาล โดยเน้นกระจายอานาจ และ การมสี ่วนรว่ มของบุคลากรภายในโรงเรยี น และชมุ ชนในการบรหิ ารจดั การศกึ ษา ๒. ปฏริ ปู การจดั กระบวนการเรยี นร้โู ดยเน้นผเู้ รียนผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั ใหผ้ ้เู รียนไดเ้ รยี นรู้และพัฒนาเต็ม ตามศักยภาพ ๓. ส่งเสริมความสมั พนั ธ์อนั ดรี ะหว่างโรงเรียนกบั ชมุ ชน ๔. พัฒนาบุคลากรครูตามเกณฑม์ าตรฐานวชิ าชพี ครู กลยทุ ธแ์ ผนงาน ๑. พฒั นาสภาพแวดลอ้ มในโรงเรียนใหเ้ อือ้ ตอ่ การเรยี นรู้ ๒. พฒั นาระบบการจดั เกบ็ ขอ้ มลู สารสนเทศ ๓. พัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การและบรกิ าร ด้านส่ือการเรียนการสอนเทคโนโลยที างการศึกษา ใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพ ๔. พัฒนาการจัดการเรียนการสอนดว้ ยวธิ ีการสอนทห่ี ลากหลาย โดยเน้นผ้เู รยี นเปน็ สาคญั ตามแนวทาง ปฏิรปู การเรียนรู้ ๕. พัฒนาผเู้ รียนใหม้ ที กั ษะการอา่ น คิด วิเคราะห์ และเขียน เต็มตามศักยภาพ ๖. ส่งเสริมใหน้ กั เรียนมีคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ๗. สง่ เสริมให้นกั เรยี นรว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น รว่ มทง้ั กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๘. สง่ เสริมให้นกั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ๙. สง่ เสริม สนบั สนุน และประสานงานใหผ้ ปู้ กครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชมุ ชน มสี ่วนร่วม ในการจัดการศกึ ษา ๑๐.พัฒนาคณุ ภาพของครู ใหไ้ ดม้ าตรฐานตามเกณฑม์ าตรฐานวชิ าชีพครู
~ ๓๑ ~ กลยุทธต์ ัวช้วี ัดการจดั การศึกษา กลยทุ ธ์องคก์ ร กลยทุ ธ์แผนงาน วัตถปุ ระสงค์เชงิ ตวั ชวี้ ัดความสาเรจ็ จดุ มุ่งหมาย ๑. พัฒนาระบบ ๑.๑ พฒั นา ๑. โรงเรียนจดั สภาพ ๑.โรงเรียนไดร้ บั การประกัน บริการจดั การท่ีดเี น้น สภาพแวดลอ้ มใน แวดลอ้ มที่เอือ้ ต่อ คุณภาพ การกระจายอานาจ โรงเรียนใหเ้ อ้อื ตอ่ ๒. รอ้ ยละของกระบวนการ และการมีส่วนรว่ ม การเรียนรู้ การเรยี นรู้ จดั เกบ็ ข้อมลู ท่ีมปี ระสิทธิภาพ ของบคุ ลากรใน ๓.ร้อยละของการใหบ้ รกิ าร โรงเรยี นและชมุ ชน ๑.๒ พฒั นาระบบการ ๒.โรงเรียนมรี ะบบการ ด้านส่ือการเรียนการสอน ในการบรหิ ารการจัด จดั เกบ็ ขอ้ มลู จัดเก็บขอ้ มลู การศึกษา สารสนเทศ สารสนเทศที่มี ๑.๓ พัฒนาระบบการ จัดการและการ ประสทิ ธภิ าพ บรกิ ารดา้ นส่อื การ เรยี นการสอนและ ๓.โรงเรียนมีระบบการ เทคโนโลยที างการ จดั การและบรกิ าร ศกึ ษาให้มี ประสทิ ธิภาพ ด้านสอื่ การเรยี นการ สอนและเทคโนโลยี การศกึ ษาทมี่ ี ประสทิ ธิภาพ ๒. ปฏริ ูปกระบวนการ ๒.๑ พฒั นาการเรยี นการ ๑. ครูพัฒนาการจดั การ ๑. นกั เรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ิทุก เรียนร้ใู หผ้ ูเ้ รียนได้รบั การ สอนด้วยวิธกี ารสอนท่ี กลมุ่ สาระการเรียนรู้ เพิ่มข้ึน พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ หลากหลาย โดยเนน้ เรยี นการสอนด้วย ร้อยละ ๓ ผู้เรียนเปน็ สาคญั ตาม วิธกี ารสอนที่ ๒.นกั เรียนมีทกั ษะการอา่ น แนวทางปฏิรปู หลากหลาย โดยเนน้ คิด วเิ คราะห์ และเขยี น กระบวนการเรยี นรู้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละ ๓ ๓.นกั เรียนมีคณุ ลักษณะทีพ่ ึง ๒.๒พฒั นาผ้เู รียนใหม้ ี ๒. นักเรยี นมที กั ษะการ ประสงค์ รอ้ ยละ ๑๐๐ อ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น เตม็ ตาม กลยุทธ์องคก์ ร กลยทุ ธ์แผนงาน วัตถุประสงคเ์ ชิง ตัวชี้วัดความสาเรจ็
~ ๓๒ ~ จุดมุ่งหมาย ทักษะการอ่าน คิด ศกั ยภาพ วเิ คราะห์ และเขยี น เตม็ นกั เรยี นมี ตามศักยภาพ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ดี เกง่ และ ๒.๓ สง่ เสริมใหน้ กั เรยี นมี มีความสขุ คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ๒.๔ ส่งเสรมิ ให้นกั เรยี น ๔.นกั เรียนเข้าร่วม ร้อยละ ๑๐๐ ของนกั เรยี นได้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน เขา้ รว่ มกจิ กรรม ร่วมทงั้ กจิ กรรมเพอ่ื สงั คม ร่วมท้งั กิจกรรมเพอื่ สงั คม และสาธารณะประโยชน์ และสาธารณะประโยชน์ ๓. พฒั นาและส่งเสริมการ ๓.๑ สง่ เสรมิ สนับสนนุ การ ๑.ผปู้ กครองและชุมชนมี ๑.จานวนคร้ังของผปู้ กครอง จัดการศึกษาแบบมสี ่วน ประสานใหม้ ีผปู้ กครอง สว่ นร่วมในการวางแผน ชมุ ชน องค์กรปกครองส่วน รว่ ม ๓.๒ องคก์ ารบรหิ ารส่วน และพฒั นาโรงเรียน ให้ ทอ้ งถน่ิ มสี ว่ นร่วมในการ วางแผนและพฒั นาโรงเรียน ท้องถิ่นและชุมชนมสี ่วน เขา้ สู่เกณฑ์มาตรฐาน ผ่านเกณฑม์ าตรฐาน ร่วมในการจัดการศึกษา ๔.พฒั นาครตู ามเกณฑ์ ๔.๑ พฒั นาคณุ ภาพของ ๑. ครูมีการพัฒนาความรู้ ๑.ร้อยละของครูทผี่ า่ นเกณฑ์ มาตรฐานวชิ าชีพครู ครใู หไ้ ด้มาตรฐานตาม ความสามารถตามเกณฑ์ มาตรฐานวชิ าชพี ครู เกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู มาตรฐาน ๔.๒ สง่ เสรมิ ให้ครทู าวจิ ยั ๒. ครูมีการทาวจิ ัยชนั้ ๒.รอ้ ยละของครทู ี่มกี ารทาวิจัย ช้ันเรียน เรียน ชน้ั เรยี น
~ ๓๓ ~ ส่วนท่ี ๕ การวางแผนงบประมาณระยะปานกลาง การวางแผนงบประมาณ ๓ ปี สรุปการคานวณค่าใช้จา่ ยและการควบคมุ การใช้จา่ ยตามแผน ท่ี กจิ กรรม งบประมาณที่ใช้ หมายเหตุ กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ๑ โครงการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ ๒ โครงการจัดบรรยากาศที่เอือ้ ตอ่ การเรยี นการสอน ๕๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๓๘,๐๐๐ ๓๘,๐๐๐ ๔๐,๐๐๐ ๓ โครงการสง่ เสรมิ การจัดการเรยี นรดู้ ว้ ยเทคโนโลยี สารสนเทศ ๔,๐๐๐ ๕๐,๐๐๐ ๖๐,๐๐๐ ๔ โครงการวัดผลและประเมนิ ผล ๓๒,๓๐๐ ๕๐,๐๐๐ ๖๐,๐๐๐ ๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๓,๐๐๐ ๕ โครงการนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา ๕๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๖ โครงการการพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอนดว้ ย กระบวนการวจิ ัยในชัน้ เรียน ๗ โครงการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ๕๐๐ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๘ โครงการหอ้ งสมดุ อิเล็กทรอนกิ สม์ ชี วี ิต ๑๐,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๙ โครงการชุมนมุ พฒั นาผเู้ รยี น ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๑๐ โครงการลกู เสือไทยใจพฒั นา ๕๐๐ ๒๐,๐๐๐ ๒๕,๐๐๐ ๑๑ โครงการสง่ เสรมิ ความเปน็ เลิศทางวิชาการ ๒๐,๐๐๐ ๕๐,๐๐๐ ๕๕,๐๐๐ ๑๒ โครงการพัฒนาส่ือนวตั กรรมการเรยี นการสอน ๒๐,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๑๓ โครงการสรา้ งเครื่องมอื ประเมนิ คุณภาพผเู้ รยี น ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๕๐๐ ๑,๐๐๐
~ ๓๔ ~ ๑๔ โครงการสง่ เสรมิ การอ่าน ๖,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๑๕ โครงการพัฒนางานธรุ การและระบบสารสนเทศ ๒,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๕๐๐ ๓,๐๐๐ ๓,๕๐๐ ๑๖ โครงการชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ ๑,๕๐๐ ๕,๐๐๐ ๖,๐๐๐ ๑๗ โครงการบ้านนกั วิทยาศาสตร์นอ้ ย ๕๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑๘ โครงการแนะแนวการศึกษา และอาชีพ ๑๙ โครงการเร่งรดั พฒั นาการจดั การเรยี นรเู้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ๙,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ และวิทยาการคานวณ (โรงเรียนคณุ ภาพ) ๒๐ โครงการครูรนุ่ ใหม่กบั ส่ือเทคโนโลยี และActive learning *๔๕,๐๐๐ - - รวมงบประมาณ ๑๔๗,๘๐๐ ๒๘๕,๐๐๐ ๓๓๔,๕๐๐ ปฐมวัย ๒๑ โครงการพัฒนาการเรียนรู้ระดบั ปฐมวัย ๓๖,๐๐๐ ๓๔,๐๐๐ ๓๔,๕๐๐ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๑๔,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๑๕,๕๐๐ ๑๔,๐๐๐ ๑๔,๐๐๐ ๑๔,๕๐๐ ๒๒ โครงการพฒั นาทักษะภาษาไทย ๑๒,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๒๓ โครงการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ๑๐,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ ๑๒,๐๐๐ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ๒๔ โครงการพัฒนานกั วิทยาศาสตรร์ ุน่ เยาว์ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๒๕ โครงการพฒั นากลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาอังกฤษ ๒๖ โครงการพัฒนาสอื่ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
~ ๓๕ ~ ท่ี กิจกรรม งบประมาณทใี่ ช้ หมายเหตุ ๒๕๖๓ ๒๕๖๔ ๒๕๖๕ กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานพ้นื ฐานอาชีพและเทคโนโลยี ๔,๐๐๐ ๘,๐๐๐ ๙,๐๐๐ ๒๗ โครงการพฒั นาส่งเสรมิ การเรียนการสอน กลมุ่ สาระ ๓,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐ การเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา ๔,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๒๘ โครงการพัฒนาคุณภาพการสอนสุขศึกษาและพล ศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนศลิ ปะ ๒๙ โครงการส่งเสริมศักยภาพนักเรียน ด้านศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ ๓๐ โครงการเดก็ พเิ ศษเรยี นรว่ ม ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑๐๒,๐๐๐ ๑๑๑,๐๐๐ ๑๑๒,๕๐๐ รวมงบประมาณ ๖๕,๓๔๐ ๑๐๐,๐๐๐ ๑๐๐,๐๐๐ กลุ่มงานบรหิ ารงานบุคคลกร ๓๑ โครงการพัฒนาบุคคลากร รวมงบประมาณ ๖๕,๓๔๐ ๑๐๐,๐๐๐ ๑๐๐,๐๐๐ กลมุ่ งานบรหิ ารงานงบประมาณและสนิ ทรัพย์ ๓,๐๐๐ ๓,๐๐๐ ๓,๐๐๐ ๓๒ โครงการจัดทาแผนปฏบิ ัติการ ๑๖๐,๐๐๐ ๑๖๐,๐๐๐ ๑๖๐,๐๐๐ ๓๓ โครงการจัดการค่าสาธารณปู โภค ๕๐,๐๐๐ ๓๔ โครงการจัดซ้อื จดั หา – ซ่อมบารงุ วสั ดุครภุ ณั ฑ์ ๓๔,๐๐๐ ๕๐,๐๐๐ ๓๕ โครงการวสั ดุ – อปุ กรณส์ านกั งาน ๖,๕๖๐ ๗,๐๐๐ ๗,๐๐๐ รวมงบประมาณ ๒๐๓,๕๖๐ ๒๒๐,๐๐๐ ๒๒๐,๐๐๐ กลุ่มงานบรหิ ารงานบรหิ ารทัว่ ไป ๒๐,๐๓๕ ๒๑,๐๐๐ ๒๑,๐๐๐ ๓๖ โครงการโรงเรียนสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ๗๕๐ ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๒๕,๐๐๐ ๒๕,๐๐๐ ๓๗ โครงการสานสมั พันธช์ ุมชน ๒๔,๐๐๐ ๓๘ โครงการจัดกจิ กรรมวันสาคญั
~ ๓๖ ~ ๓๙ โครงการพฒั นาระบบงานธรุ การและข้อมลู สารสนเทศ ๑๗,๖๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๔๐ โครงการกีฬาสคู่ วามเป็นเลศิ ๑๗,๖๐๐ ๒๐,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ ๔๑ โครงการปรบั ภมู ทิ ัศนใ์ นโรงเรียน *๙๔,๙๑๕ ๙๕,๐๐๐ ๙๕,๐๐๐ ๔๒ โครงการประชาสมั พันธส์ รา้ งสรรคส์ ู่ชมุ ชน ๖,๔๐๐ ๖,๔๐๐ ๖,๔๐๐ ๔๓ โครงการประชาธปิ ไตยและวนิ ยั ในโรงเรยี น ๖,๗๕๐ ๖,๗๕๐ ๖,๗๕๐ ๔๔ โครงการขมุ ทรพั ย์บนกองขยะ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๔๕ โครงการศกึ ษาแหล่งเรียนร้นู อกสถานศกึ ษา ๑๐๐,๔๔๐ ๑๐๐,๔๔๐ ๑๐๐,๔๔๐ ๔๖ โครงการระบบดแู ลช่วยเหลือ ๔,๙๕๐ ๔,๙๕๐ ๔,๙๕๐ ๔๗ โครงการเถ้าแกน่ ้อย ๑,๕๐๐ ๑,๕๐๐ ๑,๕๐๐ ๔๘ โครงการสหกรณร์ า้ นค้า *๑๐,๒๔๐ *๑๐,๒๔๐ *๑๐,๒๔๐ ๔๙ โครงการเศรษฐกจิ พอเพยี งเพอ่ื สง่ ผลผลติ อาหาร *๙,๑๖๐ *๙,๑๖๐ *๙,๑๖๐ กลางวัน รวมงบประมาณ ๒๐๒,๐๒๕ ๓๑๗,๔๔๐ ๓๑๗,๔๔๐ รวมงบประมาณทัง้ หมด / ปี ๗๒๐,๗๒๕ ๑,๐๓๓,๔๔๐ ๑,๐๘๔,๔๔๐
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: