Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สามก๊ก (1)

สามก๊ก (1)

Published by ชุติมา สุทธิพรหมมา, 2021-09-13 13:53:55

Description: สามก๊ก (1)

Keywords: สามก๊ก

Search

Read the Text Version

ตอนกวนอูไสปารมา กช๊กการกับโจโฉ นางสาวปาณิสรา ช่วยเมือง เลขที่ 38 ม6/8

ผู้แต่งสามก๊ก ซึ่งผู้เรียบเรียงต้นฉบับเรื่องสามก๊กนี้ มีชื่อว่า ล่อกวนตง หรือ หลอกว้านจง นักประพันธ์ชาวจีนผู้มีฝีมือทั้ง การแต่งนิทาน และบทละครร้อง (งิ้ว) โดยล่อกวนตงได้นำ เนื้อหาของตันซิ่ว (ผู้เขียนจดหมายเหตุสามก๊ก) มาแต่งใหม่ เรียกว่า สามก๊กจี่ทงซกเอี้ยนหงี ต่อมาเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ได้นำสามก๊กมาแปลเป็นฉบับภาษาไทย และได้รับการ ยกย่องจากวรรณคดีสโมสรให้เป็นยอดของวรรณคดีประเภท นิทาน เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ผู้แปลสามก๊กนี้ นับเป็นกวีคน สำคัญในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เพราะมีผลงานทั้งร้อย แก้ว และร้อยกรองที่เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินมา บ้าง เช่น ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์กุมาร และกัณฑ์ มัทรี ราชาธิราช อิเหนาคำฉันท์ กากีคำกลอน ฯลฯ

ที่มาของยุคสามก๊ก และวรรณคดีสามก๊ก เป็นเรื่องแต่งที่อิงจากพงศาวดารจีนในยุคสามก๊ก (ค.ศ.220-ค.ศ.280) เริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายสมัยราชวงศ์ฮั่น ตะวันออก ขณะที่พระเจ้าเลนเต้เริ่มเสื่อมอำนาจจึงเกิดกบฏโจร โพกผ้าเหลืองขึ้น ซึ่งโจรเหล่านี้ได้ทำลายทั้งสถานที่ราชการและ ผู้คนแทบทุกพื้นที่ของประเทศ จนราชสำนักไม่อาจต้านทานได้ ไหว จึงมอบอำนาจทางการปกครองและการทหารให้กับเจ้าเมือง ต่าง ๆ เกิดเป็นช่องว่างให้แต่ละเมืองเริ่มสะสมกองกำลังของ ตนเอง และเริ่มสู้รบกันเองเพื่อขยายอำนาจ หลังจากการสู้รบและความแตกแยกที่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน จักรวรรดิจีนได้แบ่งแยกออกเป็น 3 แคว้น (ก๊ก) ได้แก่ วุยก๊ก (WEI) จ๊กก๊ก (SHU) และง่อก๊ก (WU) ซึ่งเป็นที่มาของการสิ้น สุดราชวงศ์ฮั่น และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสามก๊ก

แนะนำตัวละครสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ พอจะรู้ที่มาที่ไปของสามก๊กคร่าว ๆ แล้ว ถึงเวลาทำความรู้จักกับตัวละครหลักใน เรื่องสามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉกันแล้ว ซึ่งในตอนนี้มีตัวละครหลัก ๆ 4 ตัว ด้วยกัน ได้แก่ 1.โจโฉ (วุยก๊ก) : เป็นผู้ต่อกรกับเหล่าโจรโพกผ้าเหลือง และเคยพยายามลอบฆ่าตั๋ง โต๊ะ แต่ไม่สำเร็จ จึงแยกตัวออกมาเพื่อสะสมกำลังพล จนกลายเป็นอุปราชแห่งวุ ยก๊ก โจโฉโดดเด่นเรื่องความเป็นผู้นำ เฉลียวฉลาด และเป็นที่ยำเกรงของลูกน้อง เขาเชี่ยวชาญด้านการรบ รู้จักใช้คน และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ทำให้ สามารถครอบครองพื้นที่ของแผ่นดินจีนไว้ได้มากที่สุด 2.เล่าปี่ (จ๊กก๊ก) : มีพี่น้องร่วมสาบานคือ กวนอู และเตียวหุย เล่าปี่ เป็นคนแก้ปัญหา ได้รวดเร็ว รักพี่น้อง และเป็นที่รักของผู้คนรอบข้าง ก่อนหน้านี้เล่าปี่ เคยเป็นเจ้า เมืองชีจิ๋ว ก่อนจะสามารถครอบครองดินแดนที่ชื่อว่า จ๊กก๊ก ได้ในที่สุด 3.กวนอู (จ๊กก๊ก) : ครองเมืองแห้ฝือ เป็นผู้ดูแลภรรยาของเล่าปี่ (พี่สะใภ้) มีความ โดดเด่นด้านความซื่อสัตย์ และกตัญญู ซึ่งต่อมาผู้คนได้ยกย่องและบูชากวนอูใน ฐานะเทพเจ้าผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความภักดี ความซื่อสัตย์ และความกตัญญู 4.เตียวเลี้ยว (วุยก๊ก) : ทหารคนสำคัญของโจโฉ มีวาทศิลป์ รู้จักการเจรจา เป็นผู้ที่ เสนอความคิดเห็นได้อย่างมีเหตุผล รวมทั้งเป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้กวนอูมาอยู่กับโจโฉ และยังทำให้กวนอูเคารพนับถือในความสามารถและความซื่อสัตย์แม้จะไม่ได้อยู่ ฝ่ายเดียวกันก็ตาม

สรุปสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉในบทความนี้ นับเป็นตอนที่ 22 ตามฉบับ แปลของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ซึ่งสรุปเนื้อหาได้ดังนี้ โจโฉต้องการยกทัพไปปราบเล่าปี่ ที่เมืองชีจิ๋ว เมื่อเล่าปี่ รู้ จึงเขียนจดหมายขอความช่วย เหลือไปยังอ้วนเสี้ยวเพื่อนรัก แต่อ้วนเสี้ยวปฏิเสธการออกรบ โดยอ้างว่ายังไม่พร้อม แต่ยินดีช่วยเหลือในทางอื่น ๆ เล่าปี่ กังวลใจมากเพราะหากออกรบตอนนี้ กำลังพลของ ตนเองต้องไม่เพียงพออย่างแน่นอน เล่าปี่ จึงปรึกษาเตียวหุย ทหารผู้สาบานตนเป็นพี่ น้องกับเล่าปี่ และกวนอู เตียวหุยเลยอาสาออกไปปล้นค่ายของฝั่ งโจโฉ เพื่อให้ฝ่ายนั้นมี เสบียงไม่เพียงพอและยุติการออกรบ ระหว่างที่โจโฉเดินทัพมา ได้เกิดเหตุการณ์ลมพายุพัดธงชัยบนเกวียนหัก โจโฉใจคอไม่ดี เลยไปปรึกษาโหรคู่ใจซึ่งทำนายไว้ว่า “ธงหักแบบนี้ต้องระวังการถูกปล้นค่ายนะ !” โจ โฉได้ยินดังนั้นจึงไม่นิ่งนอนใจ รีบวางแผนรับมือไว้ก่อน โดยแบ่งทหารออกเป็น 11 กอง 8 กองแรกให้ไปล้อมรอบค่าย 8 ทิศ ส่วนอีก 1 กองให้อยู่ในค่ายตามเดิม และอีก 2 กองให้ไปดักเมืองของข้าศึกที่เมืองแห้ฝือกับเมืองชีจิ๋ว เมื่อแบ่งทหารทั้ง 11 กอง เรียบร้อยแล้ว เตียวหุยก็เดินทางมาถึงค่ายของโจโฉ แต่แทนที่จะได้บุกปล้นค่ายตามที่ มุ่งหมายไว้ตั้งแต่แรก เขาก็ดันถูกทหารที่แอบซุ้มอยู่ล้อมไว้ทั้ง 8 ทิศ เมื่อเตียวหุยเริ่มรู้ ว่าตัวเองหลงกลอุบายของฝั่ งโจโฉ เตียวหุยเลยสู้สุดใจตีฝ่าวงล้อมหนีขึ้นเขาไป ส่วนเล่า ปี่ ที่ขี่ม้าตามมานั้น ก็ต้องตีฝ่าวงล้อมออกไปจากกองทัพของโจโฉเช่นกัน แต่เขาได้หนี ไปอยู่กับอ้วนเสี้ยวเพื่อนรักแทน

สรุปสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ เมื่อโจโฉยึดเมืองเสี่ยวพ่าย กับเมืองชีจิ๋วได้แล้ว ก็คิดจะยึดเมืองแห้ฝือต่อ แต่ เสนาธิการทหารได้เตือนโจโฉว่า ที่เมืองแห้ฝือมีกวนอูปกครองอยู่ และคอยดูแลภรรยา ของเล่าปี่ ทั้งสองคน (นางกำฮูหยิน และนางบิฮูหยิน) ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของกวนอู อีกทั้งกวนอูยังเป็นที่ยำเกรงของผู้คนมากมาย เพราะเก่งกาจทั้งเรื่องการสงคราม และ มีไหวพริบเป็นเลิศ เสนาธิการบางคนจึงเสนอว่าให้ไปเกลี้ยกล่อมกวนอูมาเป็นพวกแทน จะดีกว่า แต่บางคนกลับไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่ากวนอูต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน ระหว่าง การถกเถียงของเหล่าเสนาธิการ เตียวเลี้ยว ทหารคู่ใจของโจโฉได้ขออาสาไปเจรจากับ กวนอูด้วยตนเองเพราะเตียวเลี้ยวเคยรู้จักกับกวนอูมาก่อน น่าจะช่วยเจรจาได้ไม่ยากนัก แต่ปัญหาคือ จะทำยังไงให้กวนอูออกมาจากเมือง เทียหยกจึงเสนอว่าให้จ้างทหารของ เล่าปี่ ที่จับได้ไปเป็นไส้ศึกในเมืองของกวนอู พร้อมกับส่งทหารอีกกองหนึ่งไปยืนอยู่ที่ หน้าเมือง เมื่อโจโฉได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าเห็นด้วย รีบส่งทหารที่จับมาส่วนหนึ่งไปเป็นไส้ศึก ส่วน ทหารอีกกองหนึ่งให้ไปยืนหน้าประตูเมืองคอยด่าทอกวนอู จนกวนอูทนไม่ไหว พาทหาร ออกมารบหน้าเมือง เมื่อกวนอูออกมา ปรากฏว่าโดนทหารจากฝ่ายของโจโฉล้อมไว้ เรียบร้อย กวนอูตกใจ จะหนีกลับเข้าไปในเมืองก็ไม่ได้ เลยต้องหนีขึ้นเขาไป ทำให้โจโฉ ยึดเมืองแห้ฝือได้สำเร็จ ส่วนเตียวเลี้ยวเองก็มีโอกาสได้ไปเจรจากับกวนอูที่อยู่บนเขา ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ กวนอูเสนอเงื่อนไข 3 ข้อ ได้แก่ 1. ขอเป็นข้าขึ้นต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้เท่านั้น 2.ขอปฏิบัติดูแลพี่สะใภ้ และขอเบี้ยหวัดของเล่าปี่ มอบให้แก่พี่สะใภ้ทั้งสอง 3.ถ้ารู้ว่าเล่าปี่ อยู่ที่ใด จะไปหาในทันที

สรุปสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ ตอนแรกโจโฉไม่ยอมรับเงื่อนไขสามข้อ แต่เตียวเลี้ยวได้เกลี้ยกล่อมโจโฉด้วยนิทาน โบราณที่ชื่อว่า ‘นิทานอิเยียง’ ซึ่งมีเรื่องราวดังนี้ ตอนแรกโจโฉไม่ยอมรับเงื่อนไขสามข้อ แต่เตียวเลี้ยวได้เกลี้ยกล่อมโจโฉด้วยนิทาน โบราณที่ชื่อว่า ‘นิทานอิเยียง’ ซึ่งมีเรื่องราวดังนี้

สรุปสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ ระหว่างนั้นโจโฉพยายามซื้อใจกวนอูด้วยวิธีต่าง ๆ แต่กวนอูก็ยังคงหนักแน่นและภักดี ต่อเล่าปี่ เพราะได้สาบานตนกันไว้แล้ว อย่างเหตุการณ์ที่โจโฉชวนกวนอูมากินโต๊ะ (การ กินเลี้ยงบนโต๊ะ ด้วยอาหารอย่างดี) โจโฉสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของกวนอูทั้งเก่าและขาด จึงมอบเสื้อใหม่ให้กวนอู แต่กวนอูกลับใส่เสื้อตัวใหม่ไว้ข้างใน ตัวเก่าไว้ข้างนอก โดยให้ เหตุผลว่า อยากจะใส่เสื้อเก่าที่เล่าปี่ ให้ไว้ข้างนอกเพื่อดูต่างหน้า และไม่อยากให้ผู้คน ครหาว่าได้หน้าแล้วลืมหลัง หรือตอนที่โจโฉให้ม้าเซ็กเธาว์แก่กวนอู กวนอูก็ดีใจมาก เพราะเมื่อรู้ว่าเล่าปี่ อยู่ที่ไหนจะได้ใช้ม้าพละกำลังมากตัวนี้ขี่ไปหาเล่าปี่ ให้ได้เร็วที่สุด ซึ่ง เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้โจโฉน้อยใจเป็นอย่างมาก แต่กวนอูก็ได้ให้เหตุผลว่า แม้โจโฉจะมี บุญคุณกับตนมาก แต่เล่าปี่ มีบุญคุณกับตนมาก่อนและกวนอูก็ได้สาบานตนเป็นพี่น้อง กับเล่าปี่ ไปแล้ว เมื่อรู้ว่าซื้อใจกวนอูไม่ได้ ซุนฮกจึงเสนอโจโฉว่าให้เลี้ยงกวนอูไว้ และไม่ ต้องให้กวนอูทำอะไร กวนอูจะได้ไม่ต้องแทนคุณแก่โจโฉ และอยู่กับโจโฉต่อไปได้โดยไม่ เกิดความขัดแย้งกัน

คณุ ค่าด้านเนื้อหา เป็นประโยชน์ต่อราชการในสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะในยุคสมัยนั้นยังมีสงครามและ การสู้รบกับดินแดนต่าง ๆ สามก๊กจึงเป็นวรรณคดีที่เปรียบเสมือนตำราที่ถ่ายทอด กลยุทธ์การทำสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการคน การทำงาน การ วางแผนให้แยบคายต่าง ๆ เป็นแบบอย่างในการแปลหนังสือ เพราะสำนวนภาษายังอ่านเข้าใจง่ายและสละ สลวย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ซึ่งนับว่าเป็นวรรณคดีแปลแสนคลาสสิก ของคนหลายยุคสมัยเลยทีเดียว

คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การใช้สำนวนเปรียบเทียบที่คมคาย เพิ่มอรรถรสในการอ่าน และทำให้เข้าใจความ คิดและความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชัดเจน บทสนทนาที่มีวาทศิลป์ มากกว่าบทสนทนาโต้ตอบกันทั่วไป คือการสอดแทรกแง่ คิดหรือความคมคายเข้าไปในประโยคในบทสนทนานั้นด้วย มีการแต่งแบบนิทานซ้อนนิทาน เห็นได้จากการสอดแทรกนิทานโบราณอย่าง ‘นิ ทานอิเยียง’ เพื่อเป็นตัวอย่างเรื่องความซื่อสัตย์และกตัญญู ซึ่งนับเป็นกลวิธีการ แต่งที่ซับซ้อนมากขึ้น และทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้นิทานโบราณของจีนอีกเรื่องหนึ่งไป ด้วย

คณุ ค่าด้านสังคม สะท้อนค่านิยมเรื่องความซื่อสัตย์และกตัญญู เห็นได้จากตัวละครในเรื่องที่ยกย่อง การกระทำของอิเยียงที่ภักดีจนยอมแก้แค้นพร้อมสละชีวิตเพื่อคิเป๊ก รวมทั้งการ ยกย่องกวนอูผู้ภักดีต่อเล่าปี่ สะท้อนความเชื่อเรื่องโชคลาง และโหราศาสตร์ เห็นได้จากตอนที่โจโฉเชื่อและ วางแผนตามคำทำนายของโหรที่บอกว่า ธงหักแสดงถึงการปล้นเสบียงในค่ายของ โจโฉ สะท้อนกลยุทธ์การทำสงครามที่มากกว่าการสู้รบ แม้สงครามจะมีภาพลักษณ์ของ การเสียเลือดเนื้อและใช้กำลัง แต่ในเรื่องกลับมีการใช้กลยุทธ์การวางแผน ไม่ว่าจะ เป็นการแบ่งทหารเป็น 11 กองของโจโฉ การใช้ผู้ที่มีคุณสมบัตินักการทูตอย่าง เตียวเลี้ยวเพื่อเจรจาให้กวนอูมาเป็นพวก มากกว่าจะใช้วิธีการสู้รบ หรือการใช้ กลยุทธ์ไส้ศึกและทหารเพื่อหลอกให้กวนอูออกมารบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook