Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1/2566

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1/2566

Published by นายชัยธวัช สมนึก, 2023-07-06 13:18:20

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1/2566 ระดับประถมศึกษา สกร.อำเภอแสวงหา สกร.จังหวัดอ่างทอง

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน ระดับประถมศึกษา รปู แบบพบกลมุ่ นายชัยธวชั สมนึก ตาแหน่ง ครู ศนู ยส์ ่งเสรมิ การเรยี นรู้อาเภอแสวงหา สานกั งานสง่ เสริมการเรยี นรู้จงั หวดั อ่างทอง ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566

สารบัญ หน้า การตรวจสอบแผนการจดั การเรียนร…ู๎ …………………………………………………………………………..………….1 ปฏิทนิ การจัดการเรียนร…ู๎ …………………………………………………..…………………………………………………..2 รายวชิ าศลิ ปศึกษา ทช 11003..........................................................................................................3 รายวชิ าภาษาอังกฤษพื้นฐาน พต 1100๑.......................................................................................19 รายวชิ าศาสนาและหนาทพี่ ลเมอื ง สค 11002...............................................................................64 รายวชิ าพฒั นาอาชพี ใหม๎ อี ยํมู กี ิน อช 11003 .............................................................................. 105 รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ชาติไทย สค 12024 ................................................................................. 130

~1~ บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ กศน.อําเภอแสวงหา ที่ ศธ ๐๒๑๐.๖๘๐๗/ วนั ที่ พฤษภาคม ๒๕๖6 เร่อื ง การตรวจสอบแผนการจดั การเรียนรู๎ เรยี น ผอ๎ู าํ นวยการศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อําเภอแสวงหา ด๎วย กศน.อาํ เภอแสวงหา ได๎จัดทําแผนการจดั การเรียนร๎ู รายสัปดาห์ เพ่ือใช๎จัดการ เรียนรู๎ในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 เป็นท่ีเรียบร๎อยแล๎ว เพ่ือให๎กระบวนการจัดการเรียนรู๎ เป็นไปตามเปูาหมายการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จึงได๎เสนอแผนการจัดการเรียนร๎ูมาเพื่อ ตรวจสอบคุณภาพกํอนนําไปใชจ๎ ดั การเรียนรู๎ รายละเอียดตามเอกสารแนบมานี้ จงึ เรียนมาเพอื่ โปรดพจิ ารณา (นายชัยธวชั สมนกึ ) ครู ท่ี รายละเอยี ด ผลการตรวจสอบ มี ไมม่ ี 1 องคป์ ระกอบของแผนครบถ๎วน 2 การจัดการเรียนรเู๎ ปน็ ไปตามเปาู หมายของสถานศกึ ษา 3 เนือ้ หาสาระตรงตามโครงสร๎าง หลกั สูตร 4 ใชก๎ ระบวนการจดั การเรียนรทู๎ เ่ี นน๎ ผู๎เรียนเปน็ สาํ คญั 5 ส่อื การเรียนร๎ู เหมาะสม 6 การวดั ผลประเมินผลทห่ี ลากหลาย ขอ๎ เสนอแนะ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ความเหน็ ของผอู๎ ํานวยการสถานศกึ ษา .......................................................................................... ลงชื่อ........................................ กรรมการ ........................................................................................... (นางสาวณตั ิฐญิ า พรหมทอง) .......................................................................................... หัวหนา๎ งานการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน  อนมุ ัตใิ หด๎ ําเนินการได๎  ไมํอนมุ ตั ิ (นางจริ ชั ยา เฟื่องฟรู ตั น์) ลงชอ่ื ..........................................ประธาน ผู๎อํานวยการ กศน.อาํ เภอสามโก๎ (นางจริ ชั ยา เฟอ่ื งฟรู ัตน์) ผอู๎ าํ นวยการสถานศึกษา รกั ษาการในตาํ แหนงํ ผอู๎ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอแสวงหา แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~2~ แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~3~ รายวชิ าศิลปศกึ ษา ทช 11003 กจิ กรรมการเรียนรู้ รายวิชาศิลปศกึ ษา ทช 11003 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2566 หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ครง้ั ที่ กิจกรรมการเรยี นรู้ สถานที่ กศน.อาํ เภอแสวงหา 1 กิจกรรมการเรยี นการสอน คร้งั ที่ 1 วิชาศลิ ปศึกษา ทช 11003 กศน.อําเภอแสวงหา เรอ่ื ง ทัศนศลิ ปพ์ น้ื บา๎ น กศน.อาํ เภอแสวงหา 2 กิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งท่ี 2 วิชาศิลปศึกษา ทช 11003 เรื่อง ดนตรพี ืน้ บ๎าน 3 กิจกรรมการเรยี นการสอน คร้งั ที่ 3 วชิ าศลิ ปศึกษา ทช 11003 เร่อื ง นาฏศิลปพ์ น้ื บา๎ น และการผลติ เคร่อื งดนตรี แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~4~ คาอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าศลิ ปศกึ ษา (ทช 11003) จานวน 2 หนว่ ยกติ (80 ชัว่ โมง) ระดับประถมศึกษา มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู๎ความเข๎าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณคําความงามความไพเราะ ธรรมชาติ ส่ิงแวดล๎อม ทางทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์พ้ืนบ๎าน และวิเคราะห์ได๎อยํางเหมาะสม ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกับวิชาศิลปศึกษา ดังนี้ ทัศนศิลป์พ้ืนบ๎าน ศิลปะท่ีรับรู๎ได๎ด๎วยการมอง ได๎แกํรูปภาพทิวทัศน์ทั่วไปเป็นสําคัญ อันดับ ตน๎ ๆ ดนตรีพื้นบ๎าน ดนตรีที่มีมาตั่งแตํดั่งเดิมในกลํุมสังคมทุกกลุํมทั่วโลก เพลงพ้ืนบ๎านมักจะเป็น เพลงที่มกี ารรอ๎ งประกอบกันสวํ นมาก นาฏศิลป์พื้นบ๎าน เป็นการแสดที่เกิดข้ึนตามท๎องถ่ินตําง ๆ มักเลํนเพ่ือความสนุกสนาน บันเทิง ผํอนคลายความเหน็ดเหน่ือย หรือเป็นการแสดงที่เก่ียวกับการประกอบอาชีพของประชาชน ตามภาคนั้น ๆ การผลิตเคร่ืองดนตรี ส่ิงสําคัญของการเร่ิมต๎นประกอบอาชีพอิสระ ต๎องพิจารณาวําจะ ประกอบอาชีพอิสระอะไร โอกาสและความสําเร็จมีมากน๎อยเพียงไร และต๎องเตรียมตัวอยํางไรจึงจะ ทําใหป๎ ระสบผลสาํ เร็จ การวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ผ๎เู รยี นต๎องวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน ดงั นี้ 1. ระหวํางภาค วัดผลจากการทํากจิ กรรมหรืองานที่ไดร๎ ับมอบหมายระหวาํ งเรยี น รายบุคคล 2. ปลายภาค วดั ผลจากการทําขอ๎ สอบวดั ผลสัมฤทธปิ์ ลายภาค แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~5~ รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวิชา รายวิชาศลิ ปศกึ ษา (ทช 11003) จานวน 2 หนว่ ยกติ (80 ชว่ั โมง) ระดบั ประถมศึกษา มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มีความร๎ู ความเข๎าใจ ในพื้นฐานของทัศนศิลป์ พื้นบ๎าน สามารถอธิบาย สร๎างสรรค์ อนุรักษ์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์เกี่ยวกบั ความงาม ดา๎ นทศั นศิลป์ พื้นบ๎าน ได๎อยํางเหมาะสม ที่ หวั เรื่อง ตัวช้ีวัด เนอื้ หา จานวน 80 ชม. 1 ทัศนศลิ ป์ 1. อธบิ ายความหมายของธรรมชาติ ความงาม 1. ทศั นศลิ ป์ พ้นื บา๎ น พน้ื บา๎ น 20 ความไพเราะของทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศลิ ป์ 2. องคป์ ระกอบทาง 2. อธบิ ายความรพู๎ ื้นฐานของ ทศั นศลิ ป์ ดนตรี ทัศนศลิ ป์ และนาฏศลิ ปพ์ ื้นบา๎ น 3. รูปแบบและวิวฒั นาการ 3. สรา๎ งสรรค์ผลงานโดยใช๎ความรพู๎ ้ืนฐานด๎าน ของทัศนศิลป์พนื้ บา๎ น ทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พ้ืนบา๎ น 4. รูปแบบและความงาม 4. ชืน่ ชม เหน็ คณุ คําของ ทัศนศิลป์ ดนตรี และ ของทัศนศิลป์ พืน้ บา๎ น นาฏศลิ ปพ์ ืน้ บา๎ น 5. ทศั นศิลปพ์ ื้นบ๎านกับ 5. วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ งานดา๎ น การแตงํ กาย ทศั นศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พ้นื บา๎ น 6. การตกแตํงที่อยูํอาศัย 6. อนุรักษส์ ืบทอดภมู ิปัญญาดา๎ นทศั นศิลป์ 7. คณุ คาํ ของทศั นศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พ้ืนบ๎าน พน้ื บ๎าน 2 ดนตรพี น้ื บา๎ น 1. มีความร๎ู ความเขา๎ ใจ ในพ้นื ฐานของดนตรี 1. ลักษณะของดนตรี 30 30 3 นาฏศลิ ป์ พนื้ พ้นื บา๎ น สามารถอธบิ าย สร๎างสรรค์ อนุรกั ษ์ พ้นื บ๎าน บ๎าน และการ ผลิตเครอ่ื งดนตรี วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์เกี่ยวกบั ความไพเราะ 2. ดนตรีพื้นบ๎านของไทย ของดนตรพี ้นื บ๎านไดอ๎ ยาํ งเหมาะสม 3. ภมู ปิ ัญญาทางดนตรี 4. คุณคําของเพลงพ้ืนบ๎าน 5. พัฒนาการของเพลง พน้ื บ๎าน 6. คณุ คาํ และการอนรุ กั ษ์ เพลงพ้นื บา๎ น 1. บอกประวตั ิความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ 1. นาฏศลิ ปพ์ น้ื บ๎านและ พ้ืนบ๎านแตลํ ะภาคได๎ ภูมปิ ญั ญาท๎องถิน่ 2. บอกความสมั พนั ธ์ระหวํางนาฏศลิ ป์ พน้ื บา๎ น 2. นาฏศลิ ปพ์ นื้ บ๎าน กับวฒั นธรรมประเพณี ภาคเหนือ 3. บอกความสมั พันธร์ ะหวาํ งนาฏศลิ ป์ พื้นบ๎าน 3. นาฏศลิ ปพ์ น้ื บา๎ นภาค กับภมู ปิ ัญญาท๎องถิน่ ได๎ กลาง 4. นาํ นาฏศลิ ป์ พืน้ บา๎ น ภมู ิปญั ญาท๎องถิ่นมา 4. นาฏศิลป์ พนื้ บ๎านภาค ประยกุ ต์ใช๎ไดอ๎ ยาํ งเหมาะสม อสี าน 5. นาฏศิลป์ พื้นบา๎ น ภาคใต๎ แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~6~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุํ สาระความรพู๎ น้ื ฐาน รายวชิ าศลิ ปศึกษา ทช 11003 ระดับประถมศกึ ษา แผนการจัดการเรียนรู๎เรอ่ื งท่ี 1 ทศั นศิลปพ์ นื้ บ๎าน เวลา 3 ช่วั โมง สอนวนั ที.่ ..................วนั ท.่ี ...............เดอื น....................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั ร๎ูเข๎าใจ มีคณุ ธรรม จริยธรรม ช่ืนชม เห็นคณุ คําความงามทางทัศนศลิ ป์ของศลิ ปะพ้นื บ๎าน และสามารถ วเิ คราะหว์ ิพากษ์ วิจารณ์ได๎อยาํ งเหมาะสม ตวั ช้วี ดั 1. อธิบายความหมายของธรรมชาติ ความงามความไพเราะของทัศนศิลป์ ดนตรีและ นาฏศลิ ป์ 2. อธิบายความร๎พู ื้นฐานของ ทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พื้นบ๎าน 3. สรา๎ งสรรค์ผลงานโดยใชค๎ วามร๎ูพืน้ ฐานดา๎ นทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พน้ื บา๎ น 4. ชน่ื ชม เห็นคณุ คําของทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พื้นบ๎าน 5. วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์งานด๎านทศั นศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์พน้ื บ๎าน สาระสาคัญ ทัศนศิลป์ หมายถึง ศิลปะที่รับรู๎ได๎ด๎วยการมอง ได๎แกํรูปภาพทิวทัศน์ท่ัวไปเป็นสําคัญอันดับ ต๎นๆ รูปภาพคนเหมือน ภาพล๎อเลียน ภาพสิ่งของตําง ๆ ก็ล๎วนแล๎วแตํเป็นเร่ืองของทัศนศิลป์ด๎วยกัน ท่ังสิ้น ซึ่งถ๎ากลําววําทัศนศิลป์ เป็นความงามทางศิลปะ เชํน งานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรม งานสิ่งพมิ พ์ ฯลฯ ที่ได๎จากการมอง หรือทัศนานั่นเอง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เพือ่ ใหม๎ ีความรู๎ ความเขา๎ ใจในพน้ื ฐานของทัศนศิลปพ์ ้นื บ๎าน 2. เพื่อสามารถอธิบาย สร๎างสรรค์ อนุรักษ์วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์เก่ียวกับความงาม ด๎านทัศนศลิ ปพ์ ้ืนบา๎ นได๎ สาระการเรียนรู้ 1. ทัศนศิลปพ์ ้ืนบา๎ น 2. องค์ประกอบทางทศั นศลิ ป์ 3. รปู แบบและวิวฒั นาการของทัศนศลิ ป์พืน้ บ๎าน 4. รูปแบบและความงามของทัศนศลิ ป์พ้ืนบา๎ น 5. ทัศนศลิ ปพ์ ื้นบา๎ นกับการแตงํ กาย 6. การตกแตํงท่ีอยอูํ าศยั 7. คณุ คาํ ของทศั นศลิ ป์พ้ืนบ๎าน แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~7~ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝรุ ๎ูไผํเรยี น ศึกษาใบความร๎ู จากแบบเรยี น 2. มีวินัย ทาํ งานตามท่คี รมู อบหมายไดท๎ นั เวลา 3. ขยัน มงํุ ม่นั ในการทํางาน ทาํ ใบงาน ทาํ กจิ กรรมกลํุม 4. มคี วามสามัคคี มีน้าํ ใจ มีความรบั ผิดชอบ ชํวยเหลอื กันทํากจิ กรรมกลํมุ ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบความร๎ู 2. หนงั สอื แบบเรยี น 3. ใบงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 กําหนดสภาพปัญหา ความตอ๎ งการในการเรียนร๎ู (O:Orientation) - ครูทักทายผู๎เรียนและเกร่ินเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนร๎ูในครั้งน้ีหลังจากน้ันให๎ผู๎เรียนทํา แบบทดสอบกอํ นเรียนวิชาศิลปศึกษา ระดับประถมศึกษา และสอนเสริมความหมายและหลักแนวคิด ของหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อนาํ มาใชใ๎ นการประกอบอาชีพและนาํ ไปใช๎ในชวี ติ ประจําวนั ขน้ั ที่ 2 ขัน้ แสดงหาขอ๎ มลู และจดั การเรียนรู๎ (N:New ways of learning) - ครูให๎ผ๎ูเรียนศึกษาเร่ือง ทัศนศิลป์ พื้นบ๎านเพิ่มเติมจากหนังสือเรียนรายวิชาศิลปศึกษา ระดบั ประถมศกึ ษา ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละนาํ ไปประยกุ ต์ใช๎ (I:Implementation) - ผ๎เู รยี นนําความรู๎จากการเรียนในชวี ติ ประจําวัน พรอ๎ มจดบนั ทึกและทาํ รายงาน ข้นั ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู๎ (E:Evaluation) - ครูมอบหมายใหผ๎ ๎ูเรยี นทําใบงานเก่ียวกับทัศนศลิ ป์ พืน้ บ๎าน ส่อื การเรียนการสอน 1. ใบความรู๎ 2. หนงั สือบทเรียน 3. ห๎องสมดุ ประชาชน 4. ใบงาน 5. สอ่ื ออนไลน์ การวดั ผลประเมินผล 1. วธิ กี ารวัด - สงั เกตพฤติกรรมระหวาํ งการเรยี นรแู๎ ละกระบวนการกลุํม - วัดความรจ๎ู ากการทาํ กิจกรรมในใบงาน 2. เครอ่ื งมือ - ใบงาน - หนงั สือเรียนศิลปศกึ ษา ระดับประถมศึกษา แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~8~ เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 1. นกั ศึกษามผี ลคะแนนในการทดสอบไมนํ อ๎ ยกวาํ ร๎อยละ 50 2. การมสี วํ นรํวมในกจิ กรรมกลุํม แหล่งการเรยี นรู/้ สืบคน้ ขอ้ มูลเพ่มิ เติม 1. หอ๎ งสมดุ ประชาชน 2. กศน.ตําบล 3. แหลงํ เรียนรู๎สารสนเทศ 4. Internet แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~9~ ใบงานท่ี 1 รายวิชาศลิ ปศกึ ษา ทช 11003 ระดับประถมศกึ ษา คาชี้แจง เติมคําตอบลงในชอํ งวาํ งให๎ถูกต๎อง ข๎อท่ี 1 หมายถึงศิลปะท่รี ับรไู๎ ดด๎ ๎วยการมอง ได๎แกํ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ที่ 2 1. จุด หมายถงึ ......................................................................................................................... 2. เส๎น หมายถึง ....................................................................................................................... 3. สี หมายถึง ........................................................................................................................... 4. พื้นผิว หมายถึง ................................................................................................................... 5. รูปรําง หมายถึง ................................................................................................................... 6. รูปทรง หมายถงึ .................................................................................................................. ขอ๎ ท่ี 3 เรือนไทยโบราณแบงํ ออกเป็น 2 ประเภทใหญํ ๆ คอื ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ท่ี 4 ความหมายของเครอื่ งแตงํ กาย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 10 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ กลมํุ สาระความร๎ูพน้ื ฐาน รายวิชาศิลปศกึ ษา ทช 11003 ระดับประถมศึกษา แผนการจัดการเรยี นรูเ๎ รื่องท่ี 2 ดนตรีพื้นบา๎ น เวลา 3 ช่ัวโมง สอนวันท.ี่ ..................วนั ท.ี่ ...............เดอื น....................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั รูเ๎ ขา๎ ใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ชื่นชม เห็นคณุ คาํ ความงามทางดนตรพี ื้นบ๎านและสามารถ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ได๎อยํางเหมาะสม ตวั ชว้ี ัด มีความร๎ู ความเข๎าใจ ในพ้ืนฐานของดนตรีพ้ืนบ๎าน สามารถอธิบาย สร๎างสรรค์ อนุรักษ์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์เก่ียวกับความไพเราะของดนตรพี ้ืนบา๎ นได๎อยํางเหมาะสม สาระสาคญั เพลงพ้ืนบา๎ นมคี ุณคาํ ตอํ สงั คมสํวนรวมและประเทศชาติที่ปรากฏให๎เห็นอยาํ งชัดเจน นอกจาก มคี ุณคําให๎ความบันเทิงท่ีมีอยูํเป็นหลักแล๎ว ยังมีคุณคําให๎การศึกษาแกํคนในสังคมทั่งโดยทางตรงและ โดยทางอ๎อม จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพอื่ มคี วามร๎ู ความเข๎าใจ ในพ้ืนฐานของดนตรพี ื้นบา๎ น 2. เพือ่ ใหส๎ ามารถอธิบาย สร๎างสรรค์ อนุรักษ์วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณเ์ ก่ียวกับความไพเราะ ของดนตรพี น้ื บา๎ นได๎ 3. บอกความรเู๎ ก่ียวกับดนตรีพืน้ บ๎านพน้ื ฐานได๎ สาระการเรียนรู้ 1. ลักษณะของดนตรีพน้ื บา๎ น 2. ดนตรพี ้ืนบา๎ นของไทย 3. ภมู ปิ ญั ญาทางดนตรี 4. คณุ คาํ ของเพลงพน้ื บา๎ น 5. พฒั นาการของเพลงพ้นื บ๎าน 6. คณุ คาํ และการอนรุ ักษ์เพลงพ้นื บ๎าน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝรุ ๎ไู ผํเรียน ศึกษาใบความรู๎จากแบบเรียน 2. มวี ินัย ทาํ งานตามท่ีครูมอบหมายได๎ทนั เวลา 3. ขยัน มํงุ มนั่ ในการทาํ งาน ทาํ ใบงาน ทาํ กิจกรรมกลมํุ 4. มคี วามสามัคคี มีน้าํ ใจ มีความรบั ผิดชอบ ชํวยเหลือกันทาํ กจิ กรรมกลุมํ แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 11 ~ ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน 3. หนังสอื แบบเรยี น กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 กําหนดสภาพปญั หา ความต๎องการในการเรยี นร๎ู (O:Orientation) - ครูทกั ทายผู๎เรียนและเกริ่นเก่ียวกับเนื้อหาท่ีเรียนรู๎ในครั้งน้ีหลังจากน้ันให๎ผู๎เรียนบอกเคร่ือง ดนตรพี ืน้ บ๎านที่ตนเองรู๎จากทอ๎ งถ่ินตนเองกํอนเรยี นเรือ่ ง ดนตรีพ้นื บ๎าน ขัน้ ที่ 2 ขั้นแสดงหาขอ๎ มูลและจดั การเรยี นร๎ู (N:New ways of learning) - ครใู หผ๎ ูเ๎ รียนศึกษาเรื่อง การเรยี นร๎ูด๎วยตนเอง เพิ่มเติมจากหนังสือเรียนรายวิชา ศิลปศึกษา ม.ตน๎ ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ตั ิและนําไปประยกุ ตใ์ ช๎ (I:Implementation) - ผ๎ูเรยี นนําหาความร๎ูเพิ่มเติมเก่ียวกับดนตรีพ้ืนบ๎านในท๎องถ่ินตนเอง พร๎อมจดบันทึกและทํา รายงาน ขัน้ ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู๎ (E:Evaluation) - ให๎ผ๎เู รียนทาํ รายงานเกยี่ วกบั ดนตรพี ้นื บา๎ นท่ีตนเองมคี วามสนใจมาหนงึ่ ชนิด ส่อื การเรียนการสอน 1. ใบความร๎ู 2. หนังสือบทเรยี น 3. ใบงาน การวดั ผลประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารวดั - สงั เกตพฤติกรรมระหวํางการเรยี นร๎แู ละกระบวนการกลํุม - วดั ความร๎ูจากการทํากจิ กรรมในใบงาน 2. เคร่ืองมอื - ใบงาน เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล 1. นักศกึ ษามีผลคะแนนในการทดสอบไมํนอ๎ ยกวําร๎อยละ 50 2. การมสี วํ นรวํ มในกิจกรรมกลํุม แหลง่ การเรยี นร้/ู สืบค้นขอ้ มลู เพิม่ เติม 1. ห๎องสมุดประชาชน 2. แหลํลงเรียนรูส๎ ารสนเทศ 3. Internet แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 12 ~ ใบงานท่ี 2 รายวชิ าศิลปศกึ ษา ทช 11003 ระดบั ประถมศกึ ษา คาชแี้ จง เติมคาํ ตอบลงในชํองวาํ งใหถ๎ ูกต๎อง ข๎อที่ 1 ใหผ๎ ๎เู รียนอธิบายลกั ษณะของดนตรพี ้ืนบา๎ นเปน็ ขอ๎ ๆ ตามทเี่ รยี นมา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ที่ 2 ให๎ผู๎เรยี นศึกษาดนตรีพ้ืนบ๎านในท๎องถิ่นของผู๎เรียน แล๎วจดบันทึกไว๎ จากนั้นนํามาอภิปรายใน ชั้นเรียน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข๎อที่ 3 ให๎ผูเ๎ รยี นลองหัดเลนํ ดนตรพี ื้นบ๎านจากผ๎รู ูใ๎ นท๎องถิ่น แลว๎ นาํ มาเลนํ ใหช๎ มในช้ันเรียน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข๎อที่ 4 ผู๎เรียนมีแนวความคิดในการอนุรักษ์เพลงพ้ืนบ๎านในท๎องถ่ินของผ๎ูเรียนอยํางไรบ๎าง ให๎ผ๎ูเรียน บนั ทกึ เปน็ รายงานและนาํ แสดงแลกเปล่ียนความคิดเห็นกันในชัน้ เรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 13 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลํุมสาระความรู๎พ้นื ฐาน รายวิชาศิลปศึกษา ทช 11003 ระดับประถมศึกษา แผนการจัดการเรียนร๎เู รอื่ งท่ี 3 นาฏศลิ ป์ พ้ืนบ๎าน และการผลติ เคร่ืองดนตรี เวลา 3 ชว่ั โมง สอนวันที่...................วนั ท่ี................เดือน.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ 1. นาฏศลิ ปพ์ ื้นบา๎ นและภมู ปิ ัญญาท๎องถน่ิ 2. คณุ คําและการอนุรักษ์นาฏศิลป์พนื้ บ๎าน วฒั นธรรมประเพณีและภูมปิ ัญญาทอ๎ งถิ่น 3. สิ่งสาํ คัญของการเร่ิมต๎นประกอบอาชพี อสิ ระ ตวั ชว้ี ัด 1. บอกประวัติความเปน็ มาของนาฏศิลป์ พื้นบา๎ นแตลํ ะภาคได๎ 2. บอกความสมั พันธร์ ะหวํางนาฏศิลป์ พนื้ บ๎านกบั วฒั นธรรมประเพณี 3. บอกความสัมพันธร์ ะหวํางนาฏศิลป์ พื้นบ๎านกับภูมปิ ญั ญาทอ๎ งถน่ิ ได๎ 4. นาํ นาฏศิลป์ พนื้ บ๎าน ภมู ิปัญญาทอ๎ งถ่ินมาประยกุ ต์ใชไ๎ ด๎อยํางเหมาะสม สาระสาคญั นาฏศิลป์ พ้ืนบ๎าน เป็นการแสดงท่ีเกิดข้ึนตามท๎องถ่ินตําง ๆ มักเลํนเพื่อความสนุกสนาน บันเทิง ผํอนคลายความเหน็ดเหนื่อย หรือเป็นการแสดงที่เก่ียวกับการประกอบอาชีพของประชาชน ตามภาคนั้น ๆ นาฏศิลป์พ้ืนบ๎านเป็นการแสดงท่ีสะท๎อนความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคตําง ๆ ของ ประเทศไทย ตามลักษณะพ้ืนที่วัฒนธรรมท๎องถิ่นประเพณีที่มีอยํูคํูกับสังคมชนบทซึ่งสอดแทรกความ สนุกสนาน ความบันเทิงควบคํูไปกับการใชช๎ ีวิตประจาํ วนั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพอ่ื สามารถบอกประวัติความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์พืน้ บา๎ นแตลํ ะภาคได๎ 2. เพื่อบอกความสมั พันธร์ ะหวาํ งนาฏศิลป์พนื้ บ๎านกบั วฒั นธรรมประเพณไี ด๎ 3. เพื่อนาํ ความรู๎เก่ียวกับการผลติ ดนตรีพ้นื บ๎านไปใชใ๎ นชีวิตประจําวันได๎ สาระการเรยี นรู้ 1. นาฏศิลปพ์ ื้นบ๎านและภูมปิ ญั ญาท๎องถน่ิ 2. นาฏศลิ ปพ์ น้ื บา๎ นภาคเหนือ 3. นาฏศิลปพ์ นื้ บ๎านภาคกลาง 4. นาฏศลิ ปพ์ ืน้ บา๎ นภาคอสี าน 5. นาฏศิลปพ์ นื้ บา๎ นภาคใต๎ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝรุ ไู๎ ผํเรยี น ศึกษาใบความรู๎จากแบบเรยี น 2. มวี ินัย ทาํ งานตามทีค่ รมู อบหมายไดท๎ ันเวลา แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 14 ~ 3. ขยนั มงุํ มน่ั ในการทํางาน ทําใบงาน ทาํ กจิ กรรมกลมํุ 4. มคี วามสามัคคี มนี ้ําใจ มีความรบั ผิดชอบ ชํวยเหลอื กันทํากิจกรรมกลุํม ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน 3. หนงั สือแบบเรียน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 กําหนดสภาพปัญหา ความต๎องการในการเรยี นรู๎ (O:Orientation) - ครูทักทายผ๎ูเรียนและเกริ่นเกี่ยวกับเรียนเรื่อง นาฏศิลป์พ้ืนบ๎าน และการผลิตเคร่ืองดนตรี พร๎อมสอดแทรกหลกั ปรชั ญาของเศรษกิจพอเพียง ( 2 3 4) และบุญคณุ ของในหลวงรัชกาลท่ี 9 และ พระราชกรณียกิจการทรงดนตรี การรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของท๎องถิ่นและประเทศชาติและสืบ ทอดให๎คนรํุนหลังได๎ศกึ ษาตํอไป ขนั้ ที่ 2 ขัน้ แสดงหาข๎อมลู และจดั การเรยี นร๎ู (N:New ways of learning) - ครูให๎ผู๎เรียนศึกษาเรื่อง การเรียนร๎ูด๎วยตนเอง เพิ่มเติมจากหนังสือเรียนรายวิชาศิลปศึกษา ม.ตน๎ ขั้นท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละนําไปประยุกต์ใช๎ (I:Implementation) - ผ๎ูเรียนนาํ ความรู๎จากการเรยี นและนําไปประยกุ ต์ใชใ๎ นการผลิตเครื่องดนตรี ขั้นที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนร๎ู (E:Evaluation) - ให๎ผเ๎ู รียนทําแบบทดสอบหลังเรียน วิชาศลิ ปศกึ ษา ระดับประถมศึกษา - ครูเฉลยแบบทดสอบ พร๎อมสรุปส่ิงท่ีได๎ เรียนรู๎รํวมกับผ๎ูเรียน และซักถามประเด็นข๎อสงสัย เพิ่มเติมอ่ืน ๆ ส่ือการเรียนการสอน 1. ใบความร๎ู 2. หนงั สอื บทเรยี น 3. ใบงาน การวัดผลประเมนิ ผล 1. วธิ ีการวดั - สังเกตพฤติกรรมระหวาํ งการเรยี นรแู๎ ละกระบวนการกลํุม - วดั ความรจ๎ู ากการทาํ กจิ กรรมในใบงาน 2. เครื่องมอื - ใบงาน แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 15 ~ เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผล 1. นกั ศกึ ษามีผลคะแนนในการทดสอบไมนํ ๎อยกวาํ ร๎อยละ 50 2. การมสี วํ นรํวมในกิจกรรมกลํมุ แหล่งการเรียนร้/ู สบื คน้ ข้อมูลเพ่มิ เตมิ 1. หอ๎ งสมุดประชาชน 2. กศน. ตําบล 3. แหลํงเรียนรสู๎ ารสนเทศ 4. เวบ็ ไซต์ www.1213.or.th เฟซบุ๏กwww.facebook.com/hotline1213 แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 16 ~ ใบงานท่ี 3 รายวิชาศลิ ปศึกษา ทช 11003 ระดบั ประถมศึกษา คาช้ีแจง เติมคําตอบลงในชํองวาํ งให๎ถกู ตอ๎ ง ข๎อท่ี 1 จงอธิบายความรูเ๎ ก่ียวกบั นาฏศิลปพ์ นื้ บ๎านของไทยมาพอสงั เขป ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................... ข๎อท่ี 2 ให๎ผ๎ูเรียนศึกษาการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ๎านของท๎องถ่ินตนเอง โดยศึกษาประวัติความเป็นมา รูปแบบการแสดง วิธกี ารแสดงและฝกึ หัดการแสดงอยาํ งนอ๎ ย 1 ชดุ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ท่ี 3 อธบิ ายข้ันตอนแนวทางการประกอบอาชีพการผลิตขลุํย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ๎ ที่ 4 อธบิ ายขั้นตอนแนวทางการประกอบอาชีพการผลติ แคน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ข๎อที่ 5 อธิบายข้นั ตอนแนวทางการประกอบอาชพี การผลติ กลองแขก ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 17 ~ แบบทดสอบก่อนเรียน รายวชิ าศลิ ปศกึ ษา ทช 11003 ระดับประถมศกึ ษา คาชแ้ี จง จงเลือกคําตอบทถ่ี ูกต๎องที่สดุ เพยี งคาํ ตอบเดียว (10 คะแนน) 1. ทัศนศิลป์พื้นบ๎าน หมายถึงข๎อใด * 6. จะเข๎ เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทใด * ก. ความงามของศิลปิน ก. เคร่ืองดีด ข. ความงามของลายเส๎น ข. เคร่ืองสี ค. ความงามแบบเหมือนจริง ค. เคร่ืองตี ง. ความงามทางศิลปะแบบพื้นบ๎าน ง. เคร่ืองเปุา 2. สาเหตุท่ีทาํ ให๎เกิดงานทัศนศิลป์พ้ืนบ๎านคือ 7. เสียงของซึง มีลักษณะอยํางไร ข๎อใด * ก. เสียงสูงแหลม ข. เสียงดังกังวาน ก. ความเช่อื ภูติ ผี ค. เสียงเบาและเสียงท๎ุม ข. การประกอบอาชีพ ง. เสียงเบาและนํุมนวล ค. อาชีพและวิถีชีวิต ง. การใช๎เวลาวํางให๎เกิดประโยชน์ 8. เสียงของเคร่ืองดนตรที ี่คล๎ายกับระนาด 3. การสรา๎ งพระเมรุมาศเป็นงานทัศนศิลป์ แตํเสียงเบาและท๎ุมกวํา ตรงกับข๎อใด * ประเภทใด * ก. ประติมากรรม ก. กรับ ข. สถาปัตยกรรม ข. ตะโพน ค. จิตรกรรม ค. โปงลาง ง. หัตถกรรม ง. กลองสองหน๎า 4. สีในข๎อใดเป็นแมํสี * 9. ข๎อใดเป็นเครื่องตีท่ีทาํ ด๎วยหนัง * ก. แดง เขียว ดาํ ก. กลองทัด ข. เหลือง แดง เขียว ข. ระนาดท๎ุม ค. แดง น้าํ เงิน เขียว ค. ฆ๎องวงเล็ก ง. เหลือง แดง นาํ้ เงิน ง. ฆ๎องวงใหญํ 5. กระติบ เป็นงานหัตถกรรมของภาคใด * 10.ข๎อใดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่อง ก. ภาคใต๎ เปุา * ข. ภาคกลาง ก. ตะโพน ค. ภาคเหนือ ข. ราํ มะนา ง. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค. เปิงมางคอก ง. ขลํุยเพียงออ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 18 ~ แบบทดสอบหลังเรียน รายวิชาศิลปศึกษา ทช 11003 ระดบั ประถมศึกษา คาช้ีแจง จงเลอื กคําตอบทถี่ ูกตอ๎ งทีส่ ุดเพียงคาํ ตอบเดยี ว (10 คะแนน) 1. ทัศนศิลป์พื้นบ๎าน หมายถึงข๎อใด * 7. เสียงของซึง มีลักษณะอยํางไร ก. ความงามของศิลปิน ก. เสียงสูงแหลม ข. ความงามของลายเส๎น ข. เสียงดังกังวาน ค. ความงามแบบเหมือนจริง ค. เสียงเบาและเสียงท๎ุม ง. ความงามทางศิลปะแบบพ้ืนบ๎าน ง. เสียงเบาและนุํมนวล 2. สาเหตุท่ีทาํ ให๎เกิดงานทัศนศิลป์พื้นบ๎านคือ 8. เสียงของเคร่ืองดนตรที ี่คล๎ายกับระนาด ข๎อใด * แตํเสียงเบาและทุ๎มกวํา ตรงกับข๎อใด * ก. ความเช่อื ภูติ ผี ก. กรับ ข. การประกอบอาชีพ ข. ตะโพน ค. อาชีพและวิถีชีวิต ค. โปงลาง ง. การใช๎เวลาวํางให๎เกิดประโยชน์ ง. กลองสองหน๎า 3. การสร๎างพระเมรุมาศเป็นงานทัศนศิลป์ 9. ข๎อใดเป็นเคร่ืองตีที่ทาํ ด๎วยหนัง * ประเภทใด * ก. กลองทัด ก. ประติมากรรม ข. ระนาดท๎ุม ข. สถาปัตยกรรม ค. ฆ๎องวงเล็ก ค. จิตรกรรม ง. ฆ๎องวงใหญํ ง. หัตถกรรม 10.ข๎อใดเป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่อง 4. สีในข๎อใดเป็นแมํสี * เปุา * ก. แดง เขียว ดาํ ก. ตะโพน ข. เหลือง แดง เขียว ข. ราํ มะนา ค. แดง น้ําเงิน เขียว ค. เปิงมางคอก ง. เหลือง แดง นาํ้ เงิน ง. ขลํุยเพียงออ 5. กระติบ เป็นงานหัตถกรรมของภาคใด * ก. ภาคใต๎ ข. ภาคกลาง ค. ภาคเหนือ ง. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6. จระเข๎ เป็นเครื่องดนตรีประเภทใด * ก. เคร่ืองดีด ข. เคร่ืองสี ค. เคร่ืองตี ง. เคร่ืองเปุา แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 19 ~ รายวิชาภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน พต 1100๑ กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน พต 1100๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2566 หลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ที่ กจิ กรรมการเรียนรู้ สถานท่ี กศน.อาํ เภอแสวงหา 1 กจิ กรรมการเรียนการสอน คร้ังท่ี 1 กศน.อําเภอแสวงหา 1. การทกั ทายและตอบรบั การทักทายเพอื่ สร๎างความสัมพันธร์ ะหวาํ งบคุ คล กศน.อําเภอแสวงหา 2. แนะนําตวั เองและแนะนาํ ผ๎ูอนื่ ตามมารยาทท่ีดีทางสังคม กศน.อําเภอแสวงหา ๒ กิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งที่ ๒ กศน.อาํ เภอแสวงหา 1.การกลาํ วลาและตอบรับการกลาํ วลาตามความเหมาะสมในโอกาสตาํ ง ๆ 2.เขยี น อํานพยัญชนะ สระ และประสมคําภาษาอังกฤษ ๓ กิจกรรมการเรียนการสอน คร้งั ท่ี ๓ ๑.ใช๎จาํ นวนนับและลาํ ดบั ทไ่ี ดถ๎ กู ตอ๎ ง 2.ร๎ูจักคํานามและวิธกี ารใช๎รวมท้งั ใช๎คาํ ศัพท์เกย่ี วกบั วัน เดือน ปี สี เครือญาติ เคร่ืองใช๎ และสภาพดินฟาู อากาศ ๔ กจิ กรรมการเรียนการสอน ครัง้ ที่ ๔ 1.เขา๎ ใจความหมายของสัญลักษณ์ทีใ่ ชท๎ ั่วไป 2.ใช๎ประโยคขอรอ๎ ง ออกคําสัง่ และขอโทษ ๕ กิจกรรมการเรียนการสอน คร้งั ท่ี ๕ 1.สร๎างประโยคความเดยี วและเลําเร่อื งเกย่ี วกบั ตนเองโดยใช๎PresentSimple Tense, Present, Continuous Tense และ Future Simple Tense 2.ใชป๎ ระโยคคาํ ถามประโยคคาํ ตอบและใชค๎ าํ สรรพนาม คาํ บุพบท และ คําคุณศพั ทไ์ ดถ๎ ูกต๎อง แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 20 ~ คาอธิบายรายวชิ า รายวิชาภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (พต 11001) จานวน 3 หน่วยกติ ระดบั ประถมศกึ ษา มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั มีความร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ การฟัง พูด อําน เขียน ภาษาตํางประเทศ เพ่ือ การ สอื่ สารในชีวิตประจาํ วนั ไดถ๎ ูกต๎องตามหลักภาษาและวฒั นธรรมของเจ๎าของภาษา ศึกษาและฝกึ ทักษะเกยี่ วกับเร่อื งดังตอ่ ไปนี้ ๑. วธิ กี ารทกั ทาย (Greeting) การแนะนาํ (Introduction) ตวั เองและผอ๎ู นื่ และการกลาํ วลา (Leave Taking) รวมท้ังการตอบรับทั้งอยํางเป็นทางการและไมํเป็นทางการที่ถูกต๎องตามหลักภาษาและ วัฒนธรรมของเจา๎ ของภาษา ๒. การอําน เขยี น และออกเสียงพยญั ชนะ สระ และการประสมคําภาษาองั กฤษที่ถูกตอ๎ ง การใช๎ จาํ นวนนับ ลาํ ดบั ที่ และการใช๎คาํ ศัพทร์ วมท้งั สญั ลกั ษณ์ตําง ๆ ที่พบในชวี ติ ประจําวันโดยทั่วไป ๓. การใชป๎ ระโยคขอร๎อง คําส่ัง และขอโทษทีถ่ กู ตอ๎ งตามกาลเทศะ โครงสร๎างของประโยคความ เดียว (Simple Sentence) ใน Present Simple Tense, Present Continuous Tense และ Future Simple Tense การใช๎ประโยคคําถามและคําตอบงําย ๆ รวมท้ังการใช๎คําสรรพนาม คําบุพบท และ คําคุณศัพทพ์ ื้นฐาน การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ๑. ฝึกฟัง พดู อาํ น เขยี นในการทกั ทาย แนะนาํ และ กลําวลา ท่สี ามารถนําไปใชใ๎ นชีวิตประจําวนั ๒. ฝึกฟงั พูด อําน เขียน ใหถ๎ ูกตอ๎ งและเหมาะสมกบั สถานการณ์ ๓. ฝึกการใช๎ประโยคตําง ๆ คําสรรพนาม คําบุพบท และคําคุณศัพท์ได๎สอดคล๎องกับ ชีวิตประจําวันและการประกอบอาชีพ การวัดและประเมนิ ผล ๑. ตรวจสอบด๎วยวิธกี ารท่เี หมาะสมและแสดงใหเ๎ ห็นวาํ สามารถนาํ ไปใชใ๎ นชวี ติ จรงิ ๒. ตรวจสอบการอํานคําศัพท์ จํานวนนับ ลําดับท่ี และสัญลักษณ์ได๎ถูกต๎อง และอธิบาย ความหมายของคาํ ศัพท์ จาํ นวนนบั ลําดบั ที่และสญั ลกั ษณต์ าํ ง ๆ ๓. ตรวจสอบการใช๎ประโยค คําสรรพนาม คาํ บุพบท และคาํ คณุ ศพั ทใ์ ห๎ถูกต๎องตามสถานการณ์ แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 21 ~ รายละเอียดคาอธิบายรายวชิ า รายวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน (พต 11001) จานวน 3 หนวยกติ 80 ชวั่ โมง ระดบั ประถมศกึ ษา มาตรฐานการเรยี นร๎ูระดับ มคี วามร๎ู ความเข๎าใจ ทักษะและเจตคตเิ กี่ยวกับ การฟงั พดู อาํ น เขียน ภาษาตาํ งประเทศ เพือ่ การส่ือสารในชวี ติ ประจําวนั ไดถ๎ ูกต๎องตามหลกั ภาษาและวัฒนธรรมของเจา๎ ของภาษา ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวดั เนื้อหา จานวน ช่วั โมง ๑ การทักทาย 1.ทักทายและตอบรับการการทักทายและ 1. การทกั ทายชวํ งเวลาตาํ งๆ Good morning. 2 และ การ ตอบ ตอบรับการทกั ทายเพือ่ Good afternoon. 3 Good evening. รับ การ 2. ทักทายเพ่ือสร๎างความสัมพนั ธส์ รา๎ ง 2. การทกั ทายบุคคลเมื่อพบคร้งั แรก 4 A : How do you do? ทักทาย ความสัมพันธ์ระหวํางบุคคล B : How do you do? 4 A : Nice to meet you. (Greeting) ระหวาํ งบคุ คล B : Nice to meet you, too. 6 3. การทกั ทายบคุ คลทรี่ ูจ๎ กั มากอํ น 2 การแนะนํา แนะนาํ ตนเองและ แนะนําผูอ๎ นื่ ตาม A : How are you? ตนเอง และ มารยาท ที่ดที างสังคม B : Fine, thanks. การแนะนํา And you? ผ๎อู ่นื (Introducing) 1. การแนะนาํ คนเองและการแนะนํา ผ๎ูอืน่ ตามมารยาทที่ดที างสังคม I. การแนะนําตนเองกับผ๎ูอืน่ Rose : Hello, I am Rose. Cherry : Hello, I am Cherry. 2 การแนะนําผู๎อ่ืนใหร๎ ๎จู ักกัน John : Hi Judy. Judy : Hi John. John : Judy this is Sandra. Judy : Hello Sandra, please to meet you. Sandra : Hello Judy, I'm please to meet you, too. แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 22 ~ ที่ หวั เร่ือง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จานวน ช่วั โมง 3 การกลาํ วลา กลาํ วลาและตอบรับ การกลําวลาตามความ การกลาํ วลาและตอบรบั การกลาํ วถา และการตอบ เหมาะสมในโอกาส ตําง ๆ ตามความเหมาะสมในโอกาสตําง ๆ 3 รบั การกลาํ ว 1. การกลําวลาในโอกาสตําง ๆ ได๎แกํ ลา (Leave 1.1 การกลําวลาหลังพดู คยุ กันแลว๎ 3 Taking) A : Good-bye. 3 B : Good-bye. See you later. 3 1.2 การกลําวลากํอนเดนิ ทาง 3 12 1 กรณีสํงชาวตาํ งชาติดนิ ทาง 6 กลบั บา๎ น A : Hneasde jumy bok hme. B : Thank you. 1.2.2 อาจพูดดว๎ ยขอ๎ ความสนั้ ๆ A : Bon voyage! B : Thank you. A : I'll have a meeting in five minutes. Bye now. B : O.K. Bye. I'll call you later. 1.3 การกลําวลาหลงั งานเล้ียงเลกิ A : Thank you for this lovely meal. B : You're welcome. Byc. A : Bye! 1.4 การกลําวลากอํ นเขา๎ นอบ A : Good night B : Good night. A : Sleep well. Good night B : Thank you. Good night 2. การตอบรบั การกลาํ วลาในโอกาส ตาํ ง ๆ - Good-bye. - Bye. - See you. - Good night. - See you later -. I'll call you later. แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 23 ~ ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ชว้ี ดั เนอ้ื หา จานวน ชวั่ โมง 4 การเขยี นการ เขยี นอาํ นพยญั ชนะ สระ และประสมคํา พชัญชนะ สระ และการประสมคาํ อาํ นพยัญชนะ ภาษาอังกฤษ 1. การเขยี นพชญั ชนะ 2 สระและการ การเพเี นพยญั ชะตวั พมิ พใ์ หญํ เละ 4 ประสมคํา ตวั พิมพ์ ดก็ 10 ดว๎ ขียนใหญแํ ละตวั เขียนเล็ก 5 จํานวนนับและ ใช๎จํานวนนับและ ลําดับทไี่ ด๎ถูกตอ๎ ง 2. การออกเสียงสระเทแ๎ ละสระ 2 ลําดบั ที่ ประสม 3. วธิ กี ารประสมคํา 2 3.1 คาํ ประกอบด๎วยพชัญชนะและ สระแท๎ a, c,i, ๓, u เชํน d*o- do 3.2 คําประกอบด๎วยพชัญชนะ สระ แท๎ และ ตวั สะกด เชํน bratt - bal s*i+i - sil s+u+n - sมท 3.3 คาํ ประกอบดว๎ ยอกั ษรนํา 2 ตัว เชํน gltatd \" glad pl+atn - plan 3+0+-spo pl-uim . plum จํานวนนบั และลําดบั ที่ 1. การอาํ นและการเขียนจาํ นวนนบั เชํน one-ten eleven-twenty twenty one - ninety nine one hundred one thousand one million etc. 2. การอาํ นและการเขียนลาํ ดบั ท่ี เชนํ first, second, third, fourth, fitth. sixth, seventh, eighth. ninth.tenth etc. แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 24 ~ ที่ หัวเร่ือง ตวั ชว้ี ัด เนือ้ หา จานวน ชัว่ โมง 6 คาํ นาม ร๎จู กั คํานามและวธิ กี ารใช๎ รวมทงั้ ใช๎คําศพั ท์ ลักษณะคาํ นามและวธิ กี ารใช๎คํานาม (Noun) และ เก่ยี วกับวนั เดือน ปี สี เครือญาติ เครื่องใช๎ และคาํ ศพั ท์ คาํ ศพั ท์หมวด ในชีวติ ประจําวนั และสภาพดินฟาู อากาศ หมวดตํางๆ ตําง ๆ อยํางงาํ ย ลักษณะและวิธีการใชค๎ าํ นาม 1.1 คํานามมี 2 ลักษณะ คือ คาํ นาม 2 นบั ได๎ (Countable Noun) และคาํ นามนบั ไมไํ ด๎ (Uncountable Noun) 1.2 คาํ นามนบั ได๎ เชนํ a cat, two 2 sisters, five stars, seven horses เปน็ ต๎น คาํ นามนับไมํได๎ เชํน milk, sugar, butter, water เป็นตน๎ 2. คาํ สัพท์เก่ยี วกบั วนั เดอื น ปี 2.1 คําศพั ทเ์ ก่ียวกบั วนั เชํน 1 Sunday, Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday,Saturday 2.2 ดาํ ศพั ท์เกย่ี วกับเตอื น เชนํ 2 January,February, March, Aprl, May, June,July, August, Seplember, October,November,December 2.3 คําศพั ท์เกยี่ วกบั ปี เชํน 2008 - hwo thousand and cight 1995 - nineteen minely 2 live last year, this yeur, next year ele. 3. คาํ สัพท์เกยี่ วกับสี เชํน black, red, purple yelluw, gray, green, light blue, dark brown เป็นตน๎ 1 4. คาํ ศัพทเ์ ต๋ยี วกบั เครอื ญาติ เชํน fitber, mother, sister, brother, aunt, nde เปน็ ต๎น แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 25 ~ ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ช้ีวัด เนื้อหา จานวน ชวั่ โมง ร. คําศพั ทเ์ ท่ียวกับเครือ่ งไช๎ใน ชีวิตประจาํ วัน เชนํ plate, lork and ypoon, glass, tuble, char, bed, bench, pun. lamp, beille เปน็ ตน๎ คาํ คพั ทเ่ี ต๋ยี วกบั สภาพดินพอิ ากาศ เชํน cludy, winly ,rimy.sunny.cold warm เป็นตน๎ 7 สญั ลักษณ์ เขา๎ ใจความหมายของ สัญลักษณท์ ่ีใช๎ทั่วไป สัญลักษณ์ 1. สญั ลกั ษณต์ ามท๎องถนน เชํน No 2 2 Parking, 2 No Entry, Turn left, Turn Right, 6 U-Turn เปน็ ตน๎ 2. สญั ลักษณต์ ามโรงพยาบาล เชนํ Danger, In /Out, Entrance, Exit , No Smoking, No Mobile Phone เป็นต๎น 3. สัญลักษณ์บริเวณโรงเรยี น เชนํ Keep off the grass, Toilet , Roundabout, One-way, School Zone เป็นต๎น สัญลกั ษณ์ตามร๎านอาหาร เชนํ No Pets, Telephonc, Reserved เป็นตน๎ 8 การขอร๎อง ใชป๎ ระโยคขอร๎อง ออกคาํ ส่ังและขอโทษ ประโยคขอร๎อง ออกคําสั่งและขอไทษ การออกคาํ ส่ัง 1. การพดู ขอร๎องและการตอบรบั และ การขอ 1.1 ประโยคขอร๎อง เชํน โทษ - Please open the window. - Please wash these dishes. - Quiet please. - Speak louder, please. elc. 1.2 การตอบรับ เชํน Alright. No problem O.K. elc. แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 26 ~ ที่ หัวเร่อื ง ตัวชวี้ ัด เนื้อหา จานวน ชั่วโมง 9 ประโยค ความ สรา๎ งประโยคความเดียว และเลาํ เรื่อง 2. การออกคําสั่งและการตอบรับ เดยี ว (Simple เก่ียวกบั ตนเองโดยใช๎ Present Simple 2.1 ประโยคคําสงั่ เชนํ 6 Sentence ) Tense, Present Continuous Tense - Come here. และ Future Simple Tense Stop. 6 - Sit down. - Stand up 6 etc. 2.2 การตอบรับ เชนํ -O.K. - Alright etc 3. ประโยดขอโทยและการคอบรบั 3.1 ประโขคขอไทย เชนํ - I'm sorry. I don't know the answer I'm sorry. I'm late. I'm surry. I forget to do my home work. eie 3.2 การตอบรบั งชน That's alnght Thal'sOk Don t worty การใช๎ Tense อยาํ งงํายสร๎างประ โยค ความเดยี ว เพ่อื เลาํ เรอ่ื งเก่ียวกบั ตนเอง 1. ลักษณะของประโยคท่ใี ช๎ Present-Simple Tense เลาํ เรอ่ื งเกี่ยวกบั ตนเอง เชํน - My name is Sam. - I am Sam. - I am a worker. - I live in Bangkok. - I will move to my new office. - I will work in a Japanese แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 27 ~ factory. - I will stay near my office. - I will walk to my office. etc. ที่ หัวเร่ือง ตวั ช้ีวัด เน้อื หา จานวน ชั่วโมง 10 ประโยค ใชป๎ ระโยคคําถาม ประโยคคําตอบ และใช๎ คําถาม คาํ สรรพนาม คาํ บพุ บท และ คาํ คุณศัพท์ ประโยคคาํ ถามและประโยคคาํ ตอบ ประโยค อยาํ งงํายไดถ๎ ูกต๎อง คาํ ตอบ คาํ คาํ สรรพนามคาํ บุพบท และ สรรพนาม คาํ บพุ บท และ คําคุณศพั ท์ คาํ คุณศพั ท์ 1. คาํ สรรพนาม เชนํ I, you, he, 3 she; it, we, they, me, her, him, them, our เปน็ ต๎น 2. คาํ บพุ บท เชนํ in, at, on, under, 3 of, by, out เปน็ ต๎น 3.คําคณุ ศัพท์ เชนํ grcen, yellow, 2 warm, cool, fat, small, tall, shor, long, good เป็นตน๎ 4ประโยคคําถามและประ โยคคําตอบ 2 เชนํ - What is your name? - My name is Sally - Where is your home? - My home is on New Road. - When do you get up? - I get up at six o'clock. - What time do you go to bed? .- I go to bed at ten. etc. แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 28 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ กลํุมสาระความรู๎พ้นื ฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (พต1100๑) ระดบั ประถมศกึ ษา แผนการจัดการเรียนร๎ูเร่ืองท่ี 1 การทกั ทายและการตอบรับการทกั ทาย เวลา 3 ชัว่ โมง สอนวันท.่ี ..................วนั ท่.ี ...............เดอื น.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดับ มคี วามรู๎ ความเขา๎ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กย่ี วกับ การฟัง พดู อาํ น เขียน ภาษาตํางประเทศ เพ่ือ การ สอ่ื สารในชีวติ ประจาํ วนั ได๎ถกู ต๎องตามหลกั ภาษาและวฒั นธรรมของเจ๎าของภาษา ตัวชวี้ ดั 1. การทกั ทายและตอบรบั การทกั ทายเพอื่ สร๎างความสมั พันธ์ระหวาํ งบคุ คล 2. แนะนําตัวเองและแนะนาํ ผอู๎ น่ื ตามมารยาททด่ี ที างสังคม สาระสาคัญ 1.การทักทายและการตบั รบั การทักทายเพ่อื สรา๎ งความสมั พันธ์ระหวาํ งบคุ คล 1.1 การทักทายชวํ งเวลาตําง ๆ 1.2 การทักทายบุคคลเมือ่ พบครงั้ แรก 1.3 การทักทายบคุ คลทร่ี ๎ูจกั มากอํ น 2.การแนะนําตนเองและการแนะนาํ ผู๎อ่ืนตามมารยาทที่ดีทางสงั คม 2.1 การแนะนาํ ตนเองกบั ผ๎ูอนื่ 2.2 การแนะนําผอ๎ู น่ื ใหร๎ จ๎ู กั กัน ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 1 การกาํ หนดสภาพ ปญั หาความต๎องการในการเรยี นรู๎ O : (Orientation) 1.1 ครทู ักทายผู๎เรียนและตอบรับการทกั ทายเพือ่ สรา๎ งความสัมพันธร์ ะหวาํ งบุคคล โดยใช๎ให๎ นกั ศกึ ษาทักทายกัน 1.2 ครูสนทนาแลกเปลีย่ นผ๎เู รียนในการทักทายและแนะน าตัวเองกบั บุคคลทพ่ี บกันครง้ั แรก และบคุ คลทเี่ คย รู๎จักกนั มากํอน ข้ันตอนท่ี 2 การแสวงหาขอ๎ มลู และจัดการเรยี นรู๎ N:New( ways of learning) 2.1 ครใู หผ๎ ๎ูเรียนจบั คูํ เพื่อแสดงบทบาทสมมตุ ิ ในการทักทายและแนะนําตัวเอง แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 29 ~ 2.2 ครใู ห๎ผู๎เรียนVCD ดเู ร่ืองการทกั ทายและความหมายในการทกั ทายแตลํ ะชํวงเวลาจากเวบ็ ไซด์ https://www.youtube.com/watch?v=wz2ZHtwDWRA (เวลา 4.17 นาท)ี 2.3 .ครใู ห๎ผู๎เรียนVCDดเู รือ่ งการแนะนาํ ตวั เองจาก เว็บไซด์ https://www.youtube.com/watch?v=BG6CoAKaBYg (เวลา 4.15 นาท)ี 2.4 ครแู ละผ๎เู รียนสรปุ ส่งิ ท่ไี ดเ๎ รียนรร๎ู วํ มกัน และผเ๎ู รยี นบนั ทกึ สรปุ สง่ิ ได๎เรยี นร๎ูลงใบงาน ขนั้ ตอนที่ 3 การปฏิบัตแิ ละนําไปประยกุ ตใ์ ช๎(I:Implementation) 3.1 ครูใหผ๎ เู๎ รยี นออกมานาํ เสนอการทกั ทายชวํ งเวลาตาํ ง ๆ การแนะนาํ ตวั เองทกั ทายบุคคลเมอื่ พบคร้ังการแรก การทกั ทายบคุ คลทีร่ จ๎ู กั มากอํ น และการแนะนาํ ตนเองและการแนะนาํ ผ๎ูอ่ืนตามมารยาทท่ี ดที างสังคม 3.2 ใหผ๎ ู๎เรยี นแสดงความคดิ เหน็ เพ่มิ เตมิ จากการนําเสนอของแตํละคนวําจะนาํ ไประยกุ ตใ์ ชใ๎ น ชีวติ ประจาํ วนั ได๎อยาํ งไร 3.3 ครแู ละผ๎เู รียนสรุปสิ่งทีไ่ ดเ๎ รียนร๎รู วํ มกนั และผ๎ูเรยี นบันทกึ สรุปสง่ิ ไดเ๎ รียนรลู๎ งในสมดุ ขนั้ ตอนท่ี 4 การประเมนิ ผล (E: Evaluation) 4.1 ครูสํุมผเ๎ู รยี นประมาณ3-5คน ให๎ตอบคาํ ถามในประเดน็ ผู๎เรยี นจะนาํ สิ่งท่ีได๎เรียนรูเ๎ ร่ืองการทกั ทายและการตอบเพ่อื สรา๎ งความสัมพนั ธ์ระหวาํ งบคุ คลบเป็นการ ทักทายบุคคลเม่ือพบครง้ั แรก การทกั ทายบคุ คลที่รูจ๎ กั มากอํ นการแนะนาํ ตนเองและการแนะนาํ ผ๎อู ื่นตาม มารยาท่ดี ีทางสังคม 4.2 ครูและผู๎เรียนสรุปสิง่ ที่ได๎เรียนร๎รู วํ มกนั และผ๎ูเรียนบนั ทกึ สรปุ สงิ่ ไดเ๎ รยี นรูล๎ งในสมดุ 4.3 แบบทดสอบความร๎ู และการมอบหมายงานให๎ผู๎เรยี นรดู๎ ๎วยตนเอง โดยใหผ๎ ู๎เรียนไปเรยี นรู๎ ดว๎ ยตนเองและนดั หมายการสงํ งานทร่ี ับผดิ ชอบตามรายวิชาและเนอ้ื หา ดงั นี้ รายวชิ า/หัวเร่ือง ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน เนอ้ื หา 1.การกลําวลาและการตอบรบั การกลําวลาLeave( Taking) 2.การเขียน การอําน พยญั ชนะ สระ และการประสมคาํ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 1.คลิปวดี ที ัศน์เรื่องการทักทายและความหมายในการทกั ทายแตํละชวํ งเวลา 2.คลิปวดี ที ัศนก์ ารแนะนําตนเอง 3.สมดุ บันทึกกิจกรรม 4.ใบความรูเ๎ รอ่ื งการทักทาย การแนะน าตนเอง 5.ใบงาน 6.แบบทดสอบ แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 30 ~ การวดั และประเมินผล 1.สังเกตพุ ฤตกิ รรม การมสี วํ นรวํ มของผ๎เู รียนในการแลกเปลยี่ นเรยี นรูค๎ วามสนใจความตัง้ ใจ 2.ผลงาน/ชน้ิ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 31 ~ ใบงานท1่ี ให๎ผเ๎ู รยี นVCDดูเรอ่ื งการทักทายและความหมายในการทกั ทายแตํละชวํ งเวลาจากเว็บ ไซด์https://www.youtube.com/watch?v=wz2ZHtwDWRA (เวลา 4.17 นาที) Exercise 1 Complete the following dialogue about Introducing. ใหผ๎ ู๎เรียนเติมให๎ครบถ๎วนตามทไี่ ดฟ๎ งั จาก VCD A: How are you? B:…………………………………….…. A: How do you do? B:……………………………………….. Anna: Lizzy, this is my friend, Tommy. Lizzy: ……………………………. Tommy: ……………………………. Jack: Bob,__________________ to meet my friend, Clinton. Bob: How do you do? Clinton: _____________________. Tom: Carolyn, this is _____________. Carolyn: Hi. I’m glad to meet you. Ken: ______________, too. Exercise 2 Complete the conversation. Sopa: ___________. My name is Sopa. Siree: ___________ . I’m Siree. How do you do? Sopa: ___________ . It’s nice to meet you. Siree: ___________ too. Exercise 3 Write a short conversation for each of the following. (เขยี นบทสนทนาสนั้ ๆ ในสถานการณ์ตอไปน้ี) Situation A บุคคล 2 คน ทกั ทายและแนะนําตนเอง A : ________________________________________ B : ________________________________________ A : ________________________________________ B : _______________________________________ แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 32 ~ แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุํ สาระความร๎ูพน้ื ฐาน รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน (พต1100๑) ระดับประถมศึกษา แผนการจัดการเรียนรู๎เรือ่ งท่ี 2 เขียน อาํ นพยัญชนะ สระ และประสมคาํ เวลา 3 ชว่ั โมง สอนวนั ที.่ ..................วนั ท.ี่ ...............เดอื น.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มคี วามร๎ู ความเข๎าใจ ทกั ษะและเจตคตเิ กย่ี วกบั การฟงั พดู อาํ น เขียน ภาษาตํางประเทศ เพื่อ การ สือ่ สารในชีวติ ประจาํ วันไดถ๎ กู ตอ๎ งตามหลักภาษาและวัฒนธรรมของเจา๎ ของภาษา ตัวชีว้ ดั 1. การกลาํ วลาและตอบรบั การกลาํ วลาตามความเหมาะสมในโอกาสตาํ ง ๆ 2. เขียน อํานพยัญชนะ สระ และประสมคําภาษาองั กฤษ เนือ้ หา 1.การกลําวลาและตอบรบั การกลาํ วลาตามความเหมาะสมในโอกาสตาํ ง ๆ 1.1 การกลาํ วลาในโอกาสตาํ ง ๆ 1.2 การตอบรับการกลําวลาในโอกาสตาํ ง ๆ 2. การเขยี นพยัญชนะ การเขยี นพยัญชนะตวั พิมพ์ใหญํ และตวั พิมพเ์ ลก็ ตวั เขียนใหญํ และ ตัวเขียนเล็ก 3. คาํ ประกอบดว๎ ยพยัญชนะ สระแท๎ และตัวสะกด เชํน 4. คําประกอบดว๎ ยอกั ษรนาํ 2 ตัว 5. คาํ ประกอบดว๎ ยตวั สะกด 2 ตัว ขั้นตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ข้ันตอนท่ี 1 การกาํ หนดสภาพปัญหาความตอ๎ งการในการเรียนร๎ู (O : Orientation) 1.1 ครยู กตวั อยาํ งการกลาํ วลาและตอบรบั การกลาํ วลาตามความเหมาะสมในโอกาสตาํ งๆให๎ ผูเ๎ รยี น โดยใช๎สื่อ นวตั กรรมงาํ ย ๆ หรอื ส่ือเทคโนโลยที ่ีใชอ๎ ยใูํ นปจั จุบนั 1.2 ครูสนทนาแลกเปล่ียนผู๎เรยี นในการการกลาํ วลาและตอบรบั การกลําวลาตามความเหมาะสม ในโอกาสตาํ ง ๆ ครอู ธิบาย การเขียน การอาํ น พยญั ชนะ สระ และการประสมคํา ใหผ๎ ูเ๎ รียนฝกึ เขียนยญั ชนะ สระและอํานการประสมคํา ข้ันตอนที่ 2 การแสวงหาขอ๎ มลู และจัดการเรยี นร๎ู (N : New ways of learning) 2.1 ครใู หผ๎ ูเ๎ รียนจับคํู เพ่ือแสดงบทบาทสมมตุ ิ ในการกลาํ วลาและการตอบรบั การกลําวลาตาม ความ เหมาะสมในโอกาสตําง ๆ การเขยี น การอาํ น พยญั ชนะ สระ และการประสมคาํ แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 33 ~ 2.2 ครใู หผ๎ เู๎ รยี นดู VCD เรอ่ื งการการกลาํ วลาและตอบรับการกลาํ วลาตามความเหมาะสมใน โอกาสตาํ ง ๆ จากเวบ็ ไซด์ https://sites.google.com/site/patchamart69/kar-bxk-la-phasa- xangkvs-farewell-ni-xokas-tangเวลา 4.17 นาที) 2.3 ครูใหผ๎ ู๎เรียน VCD ดเู รื่องการเขยี น การอาํ น พยญั ชนะ สระ และการประสมคาํ จากเวบ็ ไซด์ https://www.google.com/search?q (เวลา 4.15 นาที) 2.4 ครูและผู๎เรียนสรุปส่งิ ท่ีได๎เรยี นร๎ูรวํ มกันและผ๎เู รยี นบนั ทึกสรปุ สงิ่ ได๎เรยี นร๎ูลงในสมุดบนั ทึก กิจกรรม ขั้นตอนท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละนาํ ไปประยกุ ต์ใช๎ (I : Implementation) 3.1 ครใู หผ๎ ูเ๎ รยี นออกมานาํ เสนอการการกลาํ วลาและตอบรบั การกลาํ วลาตามความเหมาะสมใน โอกาสตาํ ง ๆ การเขียน การอาํ น พยัญชนะสระ และการประสมคาํ 3.2 ให๎ผเ๎ู รียนแสดงความคิดเหน็ เพิ่มเตมิ จากการนาํ เสนอของแตลํ ะคนวําจะนาํ ไปประยกุ ต์ใช๎ใน ชวี ติ ประจาํ วันได๎อยาํ งไร 3.3 ครแู ละผเ๎ู รียนสรุปสง่ิ ท่ีได๎เรียนรูร๎ วํ มกนั และผู๎เรยี นบนั ทกึ สรุปสิง่ ไดเ๎ รยี นร๎ูลงในสม ข้ันตอนที่ 4 การประเมนิ ผล (E : Evaluation) 1. ครูสํมุ ผเู๎ รยี นประมาณ3-5 คน ใหต๎ อบคําถามในประเด็นผเ๎ู รยี นจะนําสงิ่ ท่ีไดเ๎ รยี นรูเ๎ ร่อื งการ กลาํ วลาและการตอบรบั การกลาํ วลาตามความเหมาะสมในโอกาสตําง ๆ การเขียน การอาํ น พยัญชนะ สระ และการประสมคาํ 2. ครแู ละผูเ๎ รยี นสรุปสิ่งทีไ่ ด๎เรียนรู๎รวํ มกันละผ๎เู รยี นบนั ทึกสรปุ ส่งิ ได๎เรียนบนั ทกึ กกิ รรมรู๎ลงใน สมดุ บันทึก 3. แบบทดสอบความร๎ู การมอบหมายงานให๎ผูเ๎ รยี นรด๎ู ว๎ ยตนเอง ครูมอบหมายงานใหผ๎ ๎ูเรยี นไปเรียนรด๎ู ๎วยตนเองและนัดหมายการสงํ งานทร่ี บั ผดิ ชอบตามรายวชิ า และ เน้ือหาดังน้ี 1.การกลาํ วลาและการตอบรับการกลําวลาLeave (Taking) 2.การเขียน การอาํ น พยัญชนะ สระ และการประสมคาํ ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. คลปิ วดี ีทศั น์เร่อื งการการกลาํ วลาและการตอบรบั การกลาํ วลา (Leave Taking) 2. คลิปวดี ีทศั น์การเขียน การอาํ น พยญั ชนะ สระ และการประสมคํา 3. สมดุ บันทึกกจิ กรรม 4. ใบงาน เรื่องการกลาํ วลา ๕. แบบทดสอบ แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 34 ~ การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ํวนรวํ มของผ๎เู รียนในการแลกเปล่ยี นเรียนรู๎ ความต้งั ใจ ความสนใจ 2. ใบงาน แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 35 ~ ใบงานท่ี ๒ Exercise 1 Choose the best answer about leave taking. (จงเลือกคําตอบที่ถูกตองเกยี่ วกบั การกลาวลา ) Miss Aliz: I wish you luck. Mr.Bob: ……………..,Good bye. a. You too b. You will c. You wish 2. Miss Suda: Have a safe journey back home. Mr.Tom: ………………………... a. Good bye b. Thank you c. You’re welcome 3. Miss Cathy: Well, Thanks for the information. Mr. Dan: ………………….. Good bye. a. I call you later b. You’re welcome c. Thanks for the information 4. Miss Kate: I look forward to hearing from you. Mr. Danael: ………………………………. a. I’m much obliged to you. b. I’ll speak to you tomorrow. c. I look forward to hearing from you too. 5. Mr. Ken: What a nice party! Miss Suda: ……………………. a. Thanks for coming b. I’m glad you liked it c. Thank you for inviting me แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 36 ~ 6. Mr.Ken: Thanks for the meal. MissSuda: …………………….. a. That’s all right b. I’m glad you liked it c. It’s nice of you to say so 7. Miss Suda: I must be going………………… Mr.Tom: You’re welcome. a. I’m glad you liked it b. It’s nice of you to say so c. Thank you for this lovely meal 8. Miss Anna: Sleep well……………. Mr. Bill: Good night. a. Good bye b. Good night c. See you again 9. Miss Sue: …………… Good night. Mr. Jack: Thank you, Good night. a. Good bye b. See you again c. Have a good dream Miss Cathy : Give my regards to Mr. A.J. Miss Suda : Yes, ……….. a. I will b. see you again c. I have to go now แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 37 ~ Exercise 2 Complete the following dialogue about leave taking . (เตมิ บทสนทนาเก่ยี วกับกาวลาใหสมบูรณรกล) Miss Suda: See you later. Mr.Tom: Yes, ……………. Miss Cathy : Give my regards to Mr. A.J. Miss Suda : Yes, ………... Miss Carolyn: ………………….., bye. Miss Aliz: I wish you luck. Mr.Bob: ………….,Good bye. Miss Suda: Good bye. Miss Sue: Have a nice trip. Mr. Jack: ………………,Bye. Miss Sue: Bye. Miss Lauca: Have a good time,Joe. Mr. Joe: ……………………….Good bye. Miss Lauca: Good bye. Mr.Tom: Thank you for inviting me. Mr.Dan: ………………………….. Mr.Tom: Good night. Miss Anna: Sleep well.Good night. Mr. Bill: …… แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 38 ~ ใบงาน ๓ ตัวอยํางตวั พมิ พใ์ หญํและตวั พมิ พเ์ ลก็ ตัวอยาํ งตัวเขยี นใหญตํ ัวเขียนเล็ก แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 39 ~ Exercise 1 จงเขียนA – Z ด๎วยตวั พมิ พ์ใหญํ เขยี นคําศพั ท์อยูดํ ว๎ ยตวั พมิ พใ์ หญอํ ยํางงํายมา 10 คาํ เชํน ปากกา = PEN คาภาษาไทย คาภาษาองั กฤษ (ตวั พมิ พใ์ หญ่) กระดาษ หมอ๎ แมว มด นก ส๎อม Exercise 2 จงเขยี นA – Z ด๎วยตวั พมิ พ์เล็ก เขียนคําศัพท์อยูดํ ว๎ ยตวั พมิ พเ์ ลก็ อยํางงาํ ยมา10 คาํ เชนํ ปากกา= PEN คาภาษาไทย คาภาษาองั กฤษ (ตัวพมิ พใ์ หญ)่ โตะ๏ เก๎าอี้ ไมบ๎ รรทดั รถต๎ู กระเปา๋ เงนิ จาน แกว๎ คอมพิวเตอร์ แมํน้ํา ต๎นไม๎ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 40 ~ ใบงาน ๔ Exercise 3 จงเขียน A – Z ด๎วยตวั เขียนใหญํ Exercise 4 จงเขียนA – Z ด๎วยตวั เขียนเลก็ Exercise 5 จงเขยี นสระแทใ๎ นภาษาองั กฤษ Exercise 6 จงสรา๎ งคาํ โดยใชส๎ ระประสมตอํ ไปนตี้ วั อยํางเชนํ meet, fade , boot, ull, home.etc. ee ……………………………………………. a_e ……………………………………………. oo ……………………………………………. ull ……………………………………………. o_e ……………………………………………. i_e ……………………………………………. oi ……………………………………………. ou ……………………………………………. แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 41 ~ Exercise 7 จงนาํ พยญั ชนะในภาษาองั กฤษ มาประสมกับสระแทต๎ วั อยํางเชนํ da, me, hi, go, ru.etc a : …........................................................................... e : …........................................................................... i : …........................................................................... o : …........................................................................... u : …........................................................................... แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 42 ~ ใบงาน ๕ Exercise 8 จงนาํ พยญั ชนะในภาษาอังกฤษ มาประสมกับสระแท๎และตวั สะกดตัวอยาํ งเชนํ cat, van, ten, six. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. Exercise 9 จงนาํ พยญั ชนะในภาษาองั กฤษ/ ตัวอกั ษรนาํ 2 ตวั มาประสมกับสระตวั อยาํ งเชนํ glad, star, spot. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. Exercise 10 จงเขียนคําในภาษาอังกฤษที่มตี ัวสะกด ตวั อยํางเชํน 2 long, Wash, fork, walk, sold. Etc. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. Exercise 11 จงเขียนคําในภาษาองั กฤษโดยใช๎สระประสมตวั อยาํ งเชํนgood, keep, meet, roof, goat. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 43 ~ Exercise 12 จงเขยี นคําในภาษาอังกฤษทข่ี น้ึ ตน๎ ดว๎ ยสระตัวอยาํ งเชํนof, on, or, is it. ete. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. Exercise 13 จงเขยี นคําในภาษาอังกฤษที่ข้นึ ตน๎ ด๎วยchและshตวั อยาํ งเชนํ chat, show, shop, shot.ete. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………..………………. แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 44 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุํ สาระความรูพ๎ ื้นฐาน รายวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน (พต1100๑) ระดับประถมศกึ ษา แผนการจดั การเรียนรู๎เร่ืองที่ 3 จาํ นวนนับ ลําดบั ท่ี และคาํ นามในชีวิตประจําวนั เวลา 3 ชว่ั โมง สอนวันท.ี่ ..................วันท่ี................เดอื น.......................................พ.ศ..................เวลา....................น. มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มีความร๎ู ความเข๎าใจ ทกั ษะและเจตคตเิ ก่ียวกับ การฟงั พดู อาํ น เขยี น ภาษาตาํ งประเทศ เพื่อ การ สื่อสารในชีวติ ประจาํ วนั ได๎ถกู ต๎องตามหลักภาษาและวฒั นธรรมของเจา๎ ของภาษา ตัวชีว้ ัด 1. ใชจ๎ าํ นวนนบั และลาํ ดบั ท่ีได๎ถูกต๎อง 2. รจู๎ กั คํานามและวธิ กี ารใช๎รวมท้ังใชค๎ ําศพั ทเ์ กี่ยวกับ วนั เดอื น ปี สี เครอื ญาติ เครอื่ งใช และ สภาพดินฟูาอากาศ เนือ้ หา 1.จาํ นวนนบั และลําดบั ที่ 1.1การอาํ นและการเขียนจาํ นวนนบั เชนํ 1.2. การอาํ นและการเขยี นลําดับที่ เชนํ 1.3. การเขยี นประโยคที่มจี าํ นวนนับหรอื ลาํ ดบั ทีเ่ ชํน 1.4. การพูดประโยคที่มจี าํ นวนนับหรอื ลําดับท่ี เชนํ 2.ลักษณะคํานามและวธิ กี ารใช๎คํานามและคาํ ศัพท์หมวดตาํ ง ๆ 3. คําศพั ทเ์ ก่ียวกับวัน เดือน ปี ขั้นตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั ตอนท่ี1การกาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต๎องการในการเรยี นรู๎ (O:Orientation) 1.1 ครูอธบิ ายจาํ นวนนบั และลําดับที่และให๎ร๎จู ักคาํ นาม และวธิ กี ารใชร๎ วมท้งั ใช๎คาํ ศพั ทเ์ กี่ยว เครือญาติ เครอ่ื งใชใ๎ นชวี ติ ประจําวนั และสภาพดนิ ฟาู อากาศอยาํ งงาํ ย ขนั้ ตอนท่ี2การแสวงหาขอ๎ มูลและจัดการเรียนรNู๎ (: New ways of learning) 2.1 ครแู บงํ ผเ๎ู รยี นกลุํมละ3-5 คน 2.2 ครูให๎ผเู๎ รยี นVCD ดเู รอ่ื งจํานวนนบั และลาํ ดบั ท่ี จากเว็บไซต์ https://www.englishfitandfirm.com (เวลา 3.17 นาที) 2.3 ครูใหผ๎ เู๎ รยี น ดVู CD เร่อื งคํานาม(Noun)และคาํ ศพั ทห์ มวดตาํ ง ๆ จาก เว็บไซด์ https://www.youtube.Pratic/watch?v=BG6CoAKaBYg (เวลา 5.15 นาที) แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 45 ~ 2.4 ครแู ละผ๎เู รียนสรุปสิง่ ที่ได๎เรยี นรูร๎ วํ มกนั ปสิ่งไดเ๎ รียนรล๎ู งในสมุดบนั ทกึ กกิ รรมและผู๎เรยี น บันทกึ สรปุ ขั้นตอนท่ี 3 การปฏิบัติและนําไปประยกุ ตใ์ ช๎ (I:Implementation) 3.1 ครใู ห๎ผ๎เู รยี นออกมานําเสนอการนับจาํ นวนเลขและลําดบั ที่ การใช๎คาํ นามท่นี ับไดแ๎ ละการใช๎ คาํ นับไมไํ ด๎ 3.2 ใหผ๎ ๎ูเรียนแสดงความคิดเหน็ เพ่มิ เตมิ จากการนแตลํ ะคนวาํ จะนาเสนอของนําไปประยกุ ตใ์ ช๎ใน ชวี ติ ประจาํ วนั ได๎อยาํ งไร 3.3 ครแู ละผเ๎ู รียนสรุปสิง่ ท่ไี ดเ๎ รยี นรรู๎ วํ มกัน และผเ๎ู รยี นบนั ทึกสรปุ สิ่งได๎เรียนรู๎ลงในสมดุ ข้นั ตอนที่4การประเมนิ ผล (E: Evaluation) 4.1 ครสู มุํ ผเู๎ รียนประมาณ3-5 คน ให๎ตอบคําถามในประเดน็ “ผเ๎ู รียนจะนําสิง่ ทีไ่ ด๎เรยี นรเ๎ู ร่ืองการนับจาํ นวนเลขและการใชค๎ าํ นามทีน่ ับไดแ๎ ละการใช๎คาํ นาม” 4.2 ครูและผเ๎ู รียนสรุปสง่ิ ทไี่ ด๎เรียนรู๎รวํ มกนั และผู๎เรียนบนั ทึกสรปุ สงิ่ ไดเ๎ รียนรล๎ู งในสมุด 4.3 ใบงาน การมอบหมายงานให๎ผูเ๎ รยี นไปเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง ครมู อบหมายงานให๎ผเู๎ รยี นไปเรียนร๎ดู ว๎ ยตนเองและนดั หมายการสํงงานทร่ี บั ผิดชอบตามรายวชิ า และ เนื้อหา ดังนี้ รายวชิ า/หวั เรื่อง รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน11001(พต)ระดบั ประถมศกึ ษา. เนอ้ื หาการเรียนรู๎ดว๎ ยตนเอง 1.สัญลกั ษณ์ 2.ประโยคขอรอ๎ ง บอกคาํ สงั่ และขอโทษ ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ 1. คลิปวดี ที ศั นเ์ รื่องสญั ญลกั ษณ์ 2. คลิปวีดีทศั น์การใชป๎ ระโยคขอรอ๎ ง ออกคาํ ส่งั และขอโทษ 3. สมุดบันทกึ กจิ กรรม 4. ใบความร๎เู ร่ืองการทกั ทาย การแนะนําตนเอง 5. แบบทดสอบ การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ํวนรํวมของผเ๎ู รยี นในการแลกเปลยี่ นเรียนร๎ู ความตัง้ ใจ ความสนใจ 2. ใบงาน แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๖

~ 46 ~ ใบงานที่ ๖ Exercise 1 Complete the sentences.จงทาประโยคใหส้ มบรู ณ์ (เตมิ จานวนให้ถกู ต้อง) I have____________ dogs. ฉันมหี มาหาตัว She buys__________ skirts. เธอซอื้ กระโปรงสามตวั They are ____________baht. มันราคาหนงึ่ รอ๎ ยบาท Please wait at the __________building. กรณุ ารอทต่ี กึ แรก Somsri is the ________ girl in this line. สมศรีเปนคนทห่ี กในแถวน้ี Wichai lives in the __________room. วชิ ยั อาศยั อยใู นหองทีห่ า The _____________ bus is full. รถบัสคันท่ีสองเต็มแลว She washes _________ dishess. เธอลางจานส่ใี บ My room ison the__________ floor. หองของฉันอยูบนชนั้ ทส่ี อง We have__________________baht. เรามีเงนิ สองลานบาท

~ 47 ~ Exercise 2 เขียนประโยคตอไปนเี้ ปนภาษาองั กฤษ ตัวอยาํ งเชนํ ฉันอยํหู อ๎ งแรก=Ilive in the first room ฉนั เปนคนที่หนึง่ ------------------------------------------------------------------ สมชายมีเสือ้ เชิตสองตัว ------------------------------------------------------------------- กระโปรงตัวนร้ี าคาหนึ่งรอยบาท ------------------------------------------------------------------- ฉนั อยูทชี่ น้ั สอง ------------------------------------------------------------------ บานของเขามีสามหอง ------------------------------------------------------------------ เขาอยูหองทสี่ าม ------------------------------------------------------------------- แมวตวั ท่สี ีเ่ ปนของฉัน ---------------------------------------------------------------- ฉันมนี องสองคน ------------------------------------------------------------- บานของฉันอยทู ถ่ี นนพระรามสาม -------------------------------------------------------------- สมศรมี หี นงั สอื หาเล -----------------------------------------------------------------


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook