ผลการจดั การเรียนรู้รูปแบบออนไลน์รว่ มกบั การใช้แอปพลเิ คชนั Quizizz ในรายวิชาการใช้พลงั งานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจาวัน เพื่อพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ของนักศึกษาระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา ชยั ธวชั สมนกึ ณตั ิฐญิ า พรหมทอง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอแสวงหา สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั อ่างทอง สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภาคการศกึ ษาท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอแสวงหา ท่ี ศธ 0210.8607/786 วนั ท่ี 29 สิงหาคม 2565 เรื่อง ขออนุมัตริ ายงานผลการวิจยั ในชัน้ เรยี น เรยี น ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอแสวงหา ด้วยข้าพเจ้า นายชัยธวัช สมนึก ตาแหน่ง ครูผู้ช่วย กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน. จงั หวัดอา่ งทอง ได้จดั ทารายงานวิจยั ในชั้นเรยี น เรื่อง ผลการจดั การเรยี นรรู้ ูปแบบออนไลนร์ ว่ มกับการใช้แอป พลิเคชัน Quizizz ในรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักศึกษาระดบั ประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน รายวิชา การใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน รหัสวิชา พว 12010 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สาระความรพู้ ้นื ฐาน รายละเอียดตามเอกสารแนบ จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบและพจิ ารณา ลงช่ือ................................................... (นายชยั ธวชั สมนกึ ) ครผู ชู้ ่วย พิจารณา อนมุ ตั ิ ลงชอ่ื ................................................... (นางจิรชั ยา เฟือ่ งฟรู ัตน)์ ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รักษาการในตาแหน่ง ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอแสวงหา
~ก~ บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูา ในชีวิตประจาวัน โดยการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz กับ ผู้เรียนระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง ที่ลงทะเบียนเรียน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จานวน 9 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการ เรยี นรู้ แบบฝึกหดั ออนไลน์ ด้วยโปรแกรม Quizizz และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การ วเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยสถิตพิ ้ืนฐาน ไดแ้ ก่ ค่าเฉลี่ย รอ้ ยละ และรอ้ ยละความก้าวหน้า ผลการวจิ ัยพบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนมีคะแนนก่อนเรียนเฉลี่ย 7.26 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 37.78 มีคะแนนหลังเรียนเฉล่ีย 15.33 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 76.67 เม่ือวิเคราะห์เปรียบเทียบ ความแตกตา่ งดว้ ยรอ้ ยละความกา้ วหน้าพบว่า ผู้เรียนมีคะแนนเฉลย่ี หลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อน เรยี น คิดเป็นร้อยละ 38.85
~ข~ กิตตกิ รรมประกาศ รายงานการวิจัยฉบับนี้สาเร็จลุล่วงได้ด้วยความอนุเคราะห์และความเอาใจใส่อย่างดียิ่งจาก นางจิรัชยา เฟ่ือฟูรัตน์ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รักษาการในตาแหน่ง ผู้อานวยการ กศน. อาเภอแสวงหา ในการให้คาปรึกษาท่ีเป็นประโยชน์ แนะนาแนวทางในการทาวิจัย ตลอดจนให้ ขอ้ เสนอแนะทางวชิ าการอนั ทรงคณุ ค่า เพอื่ ให้งานวจิ ัยฉบับนีม้ ีความสมบรู ณ์ ผู้วิจัยขอขอบพระคุณนายสมบัติ เกตุถาวร นางนพวรรณ ศรีเคลือบ และนายศุภโชค บตุ รตะวงศ์ ท่กี รณุ ารับเป็นผู้เช่ียวชาญ ตรวจและให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขเครื่องมือวิจัย ท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ด้วยความเอาใจใส่เป็นอยา่ งดี ผู้วิจัยขอขอบพระคุณนางจิรัชยา เฟื่อฟูรัตน์ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอสามโก้ รักษาการใน ตาแหน่งผู้อานวยการ กศน.อาเภอแสวงหา ท่ีให้ความอนุเคราะห์สถานท่ีเก็บรวบรวมข้อมูล ขอขอบคุณนักศึกษาระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา ท่ีให้ความร่วมมือในการเก็บรวบรวม ขอ้ มูลในการวิจัย จนทาให้งานวจิ ยั มคี วามสมบรู ณย์ ง่ิ ข้นึ คุณค่าและประโยชนใ์ ด ๆ อนั จะเกิดจากงานวิจัยคร้ังน้ี ผู้วิจัยขอมอบเป็นเคร่ืองบูชาพระคุณ ของบดิ า มารดา ครู อาจารยท์ กุ ทา่ น ท่ปี ระสทิ ธป์ิ ระสาทวิชาแกผ่ วู้ ิจัย ชัยธวัช สมนกึ
~ค~ สารบัญ หน้า บทคดั ย่อ............................................................................................................................................ ก กิตตกิ รรมประกาศ ............................................................................................................................. ข สารบัญ .............................................................................................................................................. ค บทท่ี 1 บทนา................................................................................................................................... 1 ที่มาและความสาคัญ...................................................................................................................... 1 วัตถุประสงค์การวจิ ยั ..................................................................................................................... 2 คาถามการวจิ ยั .............................................................................................................................. 2 สมมตฐิ านการวิจยั ......................................................................................................................... 2 ขอบเขตการวิจยั ............................................................................................................................ 2 นิยามศพั ท์เฉพาะ........................................................................................................................... 3 ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากการวจิ ยั ........................................................................................................ 3 บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ยี วข้อง ............................................................................................. 4 การจดั การเรียนรู้รปู แบบออนไลน์ ................................................................................................. 4 แอปพลิเคชนั ................................................................................................................................. 6 แอปพลิเคชนั Quizizz................................................................................................................... 8 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ................................................................................................................. 8 งานวิจัยทเี่ ก่ยี วข้อง ...................................................................................................................... 11 บทที่ 3 วิธีดาเนินการวจิ ยั ................................................................................................................ 13 ประชากรและกลมุ่ เปูาหมาย........................................................................................................ 13 เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการวิจัย .............................................................................................................. 13 1. แผนการจดั การเรียนรู้ ......................................................................................................... 14 2. แบบฝกึ หดั ออนไลนด์ ้วยแอปพลเิ คชัน Quizizz ................................................................... 14 3. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน............................................................................... 15 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ................................................................................................................. 15 การวเิ คราะห์ข้อมลู ...................................................................................................................... 16 สถิตทิ ่ีใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล..................................................................................................... 16 บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล........................................................................................................ 18 บทที่ 5 สรุป อภปิ ราย และข้อเสนอแนะ ........................................................................................ 20
~ง~ วัตถปุ ระสงค์การวจิ ยั ................................................................................................................... 20 ขอบเขตการวิจยั .......................................................................................................................... 20 การเก็บรวบรวมข้อมูล ................................................................................................................. 20 สรุปผลการวิจัย............................................................................................................................ 21 อภปิ รายผล.................................................................................................................................. 21 ข้อเสนอแนะ................................................................................................................................ 22 บรรณานกุ รม ................................................................................................................................... 23 ภาคผนวก ........................................................................................................................................ 24 ภาคผนวก ก รายนามผู้เชย่ี วชาญที่ตรวจสอบเครื่องมือ ............................................................... 25 ภาคผนวก ข เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจัย ......................................................................................... 27 ภาคผนวก ค การหาคณุ ภาพเคร่ืองมือวจิ ัย (IOC)...........................................................................45
~1~ บทที่ 1 บทนา ทม่ี าและความสาคัญ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนเปรียบเสมือนตัวช้ีวัดความสาเร็จของการเรียนในระดับความรู้ ความ เข้าใจในเนอื้ หาสาระหรือรายวิชานั้น ๆ ซึ่งเกิดจากการที่ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ ผ่านกิจกรรมการ เรียนรู้ท่ีจัดโดยครูประจากลุ่ม การใช้เครื่องมือวัดผล และประเมินผลเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ สถานศึกษากาหนด และเป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้เรียนผ่านจุดมุ่งหมายตามตัวชี้วัดของรายวิชา และสามารถ ใช้ประเมินผลสาเร็จทางการเรียนได้ (สุภาภรณ์ อุ้ยนอง, 2561) ซึ่งจากการวิเคราะห์ผลการประเมิน การทดสอบหลังเรียนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน ระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอ แสวงหา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 พบว่า ผู้เรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นก่อนเรียน อยู่ระดับ ต่ากว่าเกณฑ์ถึงร้อยละ ๗๗.๗๘ ชี้ให้เห็นถึงความสาคัญในการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้กับ ผูเ้ รียนระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา ในภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 การเข้ามามีบทบาทสาคัญของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ รอบ ด้านอย่างรวดเร็ว ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนการศึกษา ท่ีเป็นปัจจัยสาคัญที่นาไปสู่แนว ทางการจัดการเรียนรู้รูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถพัฒนาผู้เรียน และตอบรับความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีด้านการศกึ ษา อีกทง้ั ยังชว่ ยสง่ เสริมการจัดกระบวนการเรียนรขู้ องครูให้มีความหลากหลาย มากยง่ิ ขึ้น เกดิ ผลสาเร็จกับผู้เรียนในการไดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจ เข้าถึงเน้ือหาบทเรียน และสามารถ นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ (คณะกรรมการจัดการความรู้, 2563) การจัดการเรียนรู้รูปแบบ ออนไลน์ โดยเลือกใช้แอปพลิเคชันที่เหมาะสม เช่น เพิ่มความสนุกสนาน ลดเวลาการเรียนรู้ สร้าง แรงจูงใจในการเรียน จึงเป็นสิ่งสาคัญที่ครูต้องคานึงถึงในการเลือกใช้แอปพลิเคชัน เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียน โดยไม่เน้นเน้ือหาวิชาการมาเกินไป แต่สามารถให้ผู้เรียนเกิด ความรู้ ความเข้าใจ ไปพร้อม ๆ กับความสนุกสนานและสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจาวันได้ (ETS, 2565) ผู้วิจัยเล็งเห็นถึงปัญหาของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาใน ชีวิตประจาวัน รหัสวิชา พว 12010 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 จึงได้ จดั การเรยี นรรู้ ปู แบบออนไลน์รว่ มกับการใช้แอปพลเิ คชนั Quizizz เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวชิ าดงั กล่าว ให้กบั ผเู้ รยี นระดับประถมศกึ ษา กศน.อาเภอแสวงหา
~2~ วัตถปุ ระสงคก์ ารวจิ ยั เ พื่ อ พั ฒ น า ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ ท า ง ก า ร เ รี ย น ร า ย วิ ช า ก า ร ใ ช้ พ ลั ง ง า น ไ ฟ ฟู า ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จ า วั น โดยการจัดการเรยี นร้รู ูปแบบออนไลน์ร่วมกบั การใชแ้ อปพลิเคชัน Quizizz คาถามการวจิ ยั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวันหลังจากจัดการเรียนรู้ รูปแบบออนไลน์ร่วมกบั การใช้แอปพลเิ คชนั Quizizz สงู กว่ากอ่ นเรยี นหรอื ไม่ สมมตฐิ านการวจิ ยั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวันหลังจากจัดการเรียนรู้ รูปแบบออนไลน์ร่วมกบั การใช้แอปพลิเคชัน Quizizz สูงกวา่ กอ่ นเรยี น ขอบเขตการวิจัย 1. ประชากรและกลุ่มเปูาหมาย ผู้เรียนระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง ทล่ี งทะเบียนเรียนในภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 จานวน 9 คน 2. เนือ้ หา รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน จานวน 4 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ 1) รู้จักไฟฟูา 2) พลังงานไฟฟูาของประเทศไทย และ 3) อุปกรณ์ วงจรไฟฟูา และ 4) การประหยัด พลงั งานไฟฟาู 3. ตวั แปรท่ีศึกษา ตัวแปรต้น การจัดการเรยี นรู้รปู แบบออนไลน์รว่ มกับแอปพลิเคชนั Quizizz ตัวแปรตาม ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น 4. ระยะเวลา เดอื นกรกฎาคม – เดือนสงิ หาคม พ.ศ. 2565
~3~ นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 1. การจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ หมายถึง การเรียนรู้แบบพบกลุ่มผ่านตัวกลางที่เป็น ส่ือเทคโนโลยีออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันไลน์ (LINE) สามารถช่วยลดข้อจากัดด้านเวลา และสถานที่ เรยี น ผู้เรยี นสามารถเรียนในชว่ งเวลาท่ีตนเองสะดวก 2. แอปพลิเคชัน Quizizz หมายถึง แอปพลิเคชันที่ช่วยสร้างแบบทดสอบ หรือแบบฝึกหัด ออนไลน์ E-Testing ท่ีผู้เรียนสามารถทาแบบทดสอบผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Notebook Tablet SmartPhone ที่เชื่อมต่อระบบ Internet ผู้เรียนทราบผลการสอบทันที และผู้สอนได้รับรายงาน (Report) ผลการสอบและบนั ทึกลงเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ได้ 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความสามารถของบุคคลที่เกิดจากผลของความรู้ ความจา ความเข้าใจและทักษะต่าง ๆ ในเนื้อหาวิชาท่ีได้เรียนรู้มาแล้ว และสามารถวัดได้ด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน 4. ผู้เรียนระดับประถมศึกษา หมายถึง นักศึกษาระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน.จงั หวัดอ่างทอง ที่ลงทะเบยี นเรยี นในภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการวจิ ยั 1. เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษาระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา ในรายวิชาการใชพ้ ลงั งานไฟฟูาในชีวติ ประจาวัน ด้วยแอปพลเิ คชัน Quizizz 2. เป็นแนวทางในการพัฒนาวิธีการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนให้มีความน่าสนใจและ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ รวมทั้งเป็นแนวทางให้ผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าวิจัยในประเด็นท่ี เกีย่ วขอ้ งต่อไป
~4~ บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กีย่ วข้อง ผลการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ในรายวิชาการใช้ พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษาระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา ผวู้ ิจยั ไดศ้ กึ ษาเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กี่ยวข้อง นาเสนอตามหัวข้อต่อไปน้ี 1. การจัดการเรยี นรู้รปู แบบออนไลน์ 2. แอปพลเิ คชัน 2. แอปพลิเคชัน Quizizz 3. ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน 4. งานวิจัยท่ีเก่ยี วข้อง การจัดการเรียนรรู้ ปู แบบออนไลน์ ความหมายการจัดการเรียนร้รู ูปแบบออนไลน์ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) เป็นเรียนทางผ่านทาง อินเทอร์เน็ต โดยอยู่ในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ เป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ บวกเข้ากับเครือข่าย อนิ เทอรเ์ นต็ สร้างการศึกษาทม่ี ปี ฏิสัมพันธค์ ณุ ภาพสงู โดยไม่จาเป็นต้องเดนิ ทาง เกิดความสะดวกและ เข้าถงึ ได้อยา่ งรวดเรว็ ทุกสถานท่ี ทุกเวลา เปน็ การสร้างการศึกษาตลอดชวี ติ ใหก้ บั ประชากร ลกั ษณะสาคัญของการเรยี นรรู้ ปู แบบออนไลน์ (Online learning) ผู้เรียนเป็นใครก็ได้ อยู่ที่ใดก็ได้ เรียนเวลาก็ใด เอาตามความสะดวกของผู้เรียนเป็น สาคัญ เนื่องจากโรงเรียนออนไลน์ได้เปิดเว็บไซต์ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีสื่อทุกประเภทท่ี นาเสนอในเว็บไซต์ ไมว่ า่ จะทัง้ ข้อความ, ภาพนิง่ , ภาพเคลื่อนไหว, เสียง, VDO ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความ สนใจ ในการเรียนรูข้ องผู้เรียนได้เปน็ อย่างดี อีกท้ังยังทาให้เหตุภาพของเนื้อหาต่าง ๆ ง่ายดายมากข้ึน ผเู้ รยี นสามารถเลือกวชิ าเรียนได้ตามความต้องการเอกสารบนเว็บไซต์ที่มี Links ต่อไปยังแหล่งความรู้ อ่นื ๆ ทาให้ขอบเขตการเรียนรู้กวา้ งออกไป และเรียนอย่างรลู้ ึกมากข้นึ
~5~ ประโยชน์ของการเรียนร้รู ูปแบบออนไลน์ (Online learning) ช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพในการเรียนการสอน เนื่องจากไม่ได้จากัดอยู่ในสถานที่เดียว เท่านั้น เกิดเครือข่ายความรู้ โยงใยออกไปไกล เน้นการเรียนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และช่วยลด ชอ่ งว่างระหวา่ งการเรียนรใู้ นเมืองกับท้องถนิ่ ได้ แนวทางในการจดั การเรยี นรรู้ ูปแบบออนไลน์ (เจรญิ ภวู ิจิตร์, 2560, หน้า 11-12) 1. การวิเคราะห์ประสบการณ์ของผู้เรียน เพื่อนาไปสู่การกาหนดแนวทางและการ ออกแบบการเรยี นการสอนผา่ นออนไลน์ เพ่ือสร้างการเรียนรู้ท่ีคาดหมายว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์และ เปูาหมายของหลกั สูตร 2. ครูผู้สอนมีทักษะรู้เท่าทันการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา และการสร้างสรรค์เพื่อ ความสะดวกและราบร่ืนในการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังผู้เรียน รวมทั้งถ่ายทอดทักษะการใช้งาน เทคโนโลยใี หแ้ ก่ผเู้ รียนให้มีความสามารถในการแกไ้ ขปัญหาข้อขัดข้องท่ีอาจเกิดข้ึนระหว่างการจัดการ เรียนการสอนได้ อนั จะทาใหก้ ารเรียนการสอนดาเนนิ การได้อยา่ งราบรนื่ มากยงิ่ ข้ึน 3. กาหนดแนวทางที่ชดั เจน ผสู้ อนตอ้ งกาหนดแนวทางท่ีชัดเจนสาหรับผู้เรียนเพ่ือให้ เข้าถึงการสอนออนไลน์ รวมไปถึงตารางเวลาในการสอน ความคาดหวังที่จะได้รับจากผู้เรียนจากใบ งานท่คี รผู ้สู อนไดม้ อบหมายใหผ้ เู้ รียน 4. ออกแบบการสอนท่ีนา่ สนใจ เพ่อื สร้างแรงจงู ใจในการเรียนและการมีส่วนร่วมของ ผู้เรยี นขณะเรียนออนไลน์เพ่อื พัฒนาประสบการณ์การเรียนร้ทู ีด่ ีของผู้เรียน 5. รูปแบบการเรียนการสอนมีความหลากหลาย เพื่อที่จะทาให้ผู้สอนและผู้เรียนมี ปฏสิ ัมพันธ์รว่ มกนั (Interactive) อนั จะส่งผลใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ผลลัพธ์การเรยี นรตู้ ามวตั ถุประสงค์ 6. เลือกเคร่ืองมือการสอนที่เหมาะสม เคร่ืองมือการสอนที่ดีจะช่วยให้การสอน ออนไลนส์ นเป็นไปไดอ้ ยา่ งราบร่ืน การเลอื กใช้แพลตฟอร์มหรือแอปพลเิ คชันในการเรียนออนไลน์ใด ๆ ก็ตาม จาเป็นต้องมีการฝึกอบรมในการใช้งานใหท้ งั้ ผ้สู อนและผูเ้ รียนเพอื่ ใหส้ ามารถใช้งานได้คล่องและ มปี ระสทิ ธภิ าพ รวมถึงการมีความเสถยี รของสัญญาณอินเทอรเ์ น็ตท้งั ของฝาุ ยผสู้ อนและผเู้ รียนดว้ ย 7. เสริมสร้างการเรียนรู้เชิงรุกนอกชั้นเรียน เช่น มอบหมายงานให้รับผิดชอบ อาทิ แบบฝึกหัด การบา้ น ใบงาน หรือการทาโครงงาน โครงการ เป็นตน้ 8. ให้ผู้เรยี น Feedback โดยผู้สอนควรขอความเห็นจากผู้เรียนโดยตรงเก่ียวกับส่ิงท่ี เกิดข้ึน และควรจะให้ผู้เรียนแสดงความเห็นให้ครอบคลุมทุกอย่าง ต้ังแต่เน้ือหาไปจนถึงวิธีการสอน และส่ิงที่ต้องปรับปรุง โดยให้ผู้เรียนโพสต์ความคิดเห็นลงบนกระดานสาหรับการ Feedback โดยเฉพาะ
~6~ 9.บริหารและจัดเวลาการเรียนที่ยืดหยุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการออกแบบการ เรียน การสอนท่ีใช้เวลาน้อยลงแต่ยังคงเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งข้ึน ผ่านการศึกษาจากสื่อต่างๆ ท่ีครู มอบหมาย หรือเรียนรู้ผ่านค้นคว้าข้อมูล ท้ังน้ี การปรับเวลาเรียนควรต้องถามความเห็นชอบร่วมกัน ภายในชน้ั เรียน ยดึ ตัวผู้เรียนเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอน อันจะเป็นแนวทางและวิธีการสร้าง การเรยี นรู้ทีท่ าใหผ้ ู้เรยี นเกิด การเรียนรู้และพัฒนาทักษะสาคญั จากกระบวนการทีค่ รูออกแบบ 10. กาหนดแนวทางประเมินผล และให้คาแนะนาที่มีคุณภาพและเหมาะสม การ ประเมินผลและให้คาแนะนาเพ่ือการพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเหมาะสมกับความสามารถและความถนัด ของแต่ละคนถือเป็นประเด็นที่ครูผู้สอนจะต้องมีการจัดการที่ดี โปร่งใสและเป็นที่รับรู้ร่วมกัน โดย ครูผู้สอนจะต้องปรับลักษณะของงานและการทากิจกรรมท่ีมอบหมายให้เกิดความสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด เพื่อการพัฒนานักเรียนให้เป็นไปตามเปูาหมายตัวช้ีวัดของหลักสูตร ท้ังนี้ หากสามารถประเมินแบบ ๓๖๐ องศา ได้จะเป็นการดี เช่นผู้เรียนประเมินการสอน ครูประเมินการ เรยี นรู้ เพ่ือนประเมินผูเ้ รียนด้วยกัน และผู้ปกครองประเมินการสอนและการเรยี นรู้ เป็นต้น แอปพลเิ คชนั ความหมายของแอปพลเิ คชนั แอปพลิเคชัน คือโปรแกรม หรือ กลุ่มของโปรแกรม ท่ีถูกออกแบบสาหรับอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เป็นต้น โดยในปัจจุบันมีการพัฒนา แอปพลิเคชันเกี่ยวกับการศึกษาออกมากมาย ซึ่งสามารถช่วยเหลือการสอนของครูทั้งในและนอกชั้น เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยงั ช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรูข้ องผู้เรียนในด้านต่าง ๆ ได้ รวมถึงทั้ง ผสู้ อนและผเู้ รยี นสามารถเข้าถึงการใช้แอปพลิเคชันได้ตลอดเวลา องคป์ ระกอบของแอปพลิเคชัน Application Component คือ Component หลักท่ีใช้ในการสร้าง Android Application โดย Application Component แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ Activity, Service, Content Provider, และ Broadcast Receiver ซ่ึงแต่ละประเภทของ Application Component น้ีมีเปูาหมายในการใช้งานที่แตกต่างกัน มีรูปแบบการกระตุ้นให้เกิดการทางานท่ีแตกต่างกัน รวมถึงมี วงจรชีวิตท่ีแตกต่างกัน
~7~ คุณลักษณะของแอปพลิเคชัน แอปพลิเคชันท่ีทางานบนโทรศัพท์มือถือ เรียกว่า \"โมบายแอปพลิเคชัน\" หรือ \"Mobile Application\" ซึ่งถูกออกแบบให้ใช้งานได้บนสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต มีความรวดเร็ว สะดวก และงา่ ยตอ่ การใช้งาน แบง่ คุณลักษณะของโมบายแอปพลิเคชนั เปน็ 2 ประเภท ดังน้ี 1. แอปพลเิ คชันระบบ เป็นสว่ นชอฟต์แวร์ระบบที่รองรับการใช้งานของแอปพลเิ คชันหรอื โปรแกรมต่าง ๆ ได้ ปจั จบุ ันระบบปฏบิ ัตกิ ารทนี่ ยิ มจากค่ายอุปกรณเ์ คลื่อนท่ีตา่ ง ๆ มดี งั นี้ 1.1 Symbian OS จุดเด่นอยู่ท่ีรูปแบบของส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (UI) ที่ดูเรียบง่าย มี ฟังกช์ ันการใช้งานพื้นฐานอยา่ งครบ เหมาะสาหรับผทู้ ่ีชอบความงา่ ยในการติดตงั้ โปรแกรมและลงเพลง ต่าง ๆ และรองรับการใชง้ านท่หี ลากหลาย 1.2 Windows Mobile พัฒนาโดยบริษัทไมโครชอฟท์ ท่ีผลิตระบบปฏิบัติการที่ รองรับการทางานของคอมพิวเตอร์มากมาย ได้แก่ Window XP (7) , Windows Vista (8) หรือ Window 10 เป็นต้น ตัวอย่างสมาร์ทโฟนที่ใช้ Windows Mobile ไดแ้ ก่ HTC , Acer เปน็ ต้น 1.3 BlackBerry OS พัฒนโดยบริษัท RM เพ่ือรองรับการทางานของแอปพลิเคชัน ต่าง ๆ ของ BlackBerry โดยตรง จะเน้นการใช้งานทางด้านอีเมล์เป็นหลัก ระบบการสนทนาผ่าน BlackBery Messenger เหมาะสาหรับผู้ท่ีต้องติดต่องานต่างๆผ่านอีเมล์และกลุ่มวัยรุ่นท่ีรักการ สนทนาผ่านคอมพิวเตอร์ 1.4 iPhone OS พัฒนโดยบริษัท Apple เพ่ือรองรับการทางานของแอปพลิเคชัน ตา่ ง ๆ ของ iphone โดยตรง โดยกลุม่ ที่นยิ มใช้ iPhone มักจะเป็นผทู้ ี่ช่นื ชอบด้านมลั ตมิ ีเดีย 1.5 Android พัฒนาโดยบริษัท Google เป็นระบบปฏิบัติการล่าสุดท่ีกาลังเป็นที่ นิยมท้ัง Search Engine , Gmail , Google Docs , Google Maps เป็นต้น มีจุดเด่น คือ เป็น ระบบปฏิบัติการแบบ Open Source ซึ่งทาให้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เหมาะสาหรับผู้ที่ต้องใช้ งานบรกิ ารต่าง ๆ จากทาง Google รวมท้ังตอ้ งการเชอ่ื มตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ อยูต่ ลอดเวลา 2. แอปพลิเคชันท่ีตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ เน่ืองจากผู้ใช้มีความต้องการใช้แอป พลเิ คชนั แตกต่างกัน จึงมีผู้ผลิตลพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆข้ึนเป็นจานวนมาก ได้แก่ แอปพลิเคชันใน กล่มุ เกม ผ้ผู ลติ เกมจงึ คดิ ค้นเกมส์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดมากข้ึน ซึ่งผู้เล่นมักนิยมเล่น เกมออนไลน์ รวมท้ัง มีการเชอื่ มโยงกบั กลุ่มเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking) เช่น เกมที่อยู่ใน Twitter หรือ Facebook เป็นตน้ 3. แอปพลิเคชันในกลุ่มเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับข้อมูลให้ทันสมัย ตลอดเวลา เช่น ใน Facebook , MySpace เป็นตน้ 4. แอปพลิเคชนั ในกลุ่มมัลตมิ ีเดีย ได้แก่ เสียงท่ีเป็นไฟล์ในแบบ mp3 , wav เป็นต้น ภาพนิ่ง ในรูปแบบ gif , jps เป็นตน้ ภาพเคลอื่ นไหว คลิปวิดโี อในรปู แบบ mp4 หรอื avi เปน็ ต้น
~8~ แอปพลเิ คชนั Quizizz https://quizizz.com เป็นเว็บไซต์หน่ึงที่ ช่วยสร้าง แบบทดสอบออนไลน์ E-Testing ได้ฟรี ผู้เรียนทาแบบทดสอบผ่าน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Notebook Tablet Smartphone ที่เชื่อมต่อระบบ Internet ผเู้ รยี นทราบผลการสอบทันที และผูส้ ่อน ได้รับรายงาน (Report) ผลการสอบและบันทึกลง เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ Quizizz เหมาะกับการนามาประยุกต์ใช้กับการทาข้อสอบก่อนเรียน หลังเรียน เพ่ือวัดผลการเรียนรู้ของผู้เรียน หรือจัดกิจกรรมการสอบแบบเกม เพ่ือเพิ่มความสนุกสนานในการ เรียนได้ อีกทั้งช่วยให้สถาบันการศึกษาประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเตรียมสอบ และเป็นการใช้ เทคโนโลยีได้อย่างเกิด ประโยชน์ ช่วยให้ผู้สอนลดเวลาในการทาข้อสอบและจัดชุดทดสอบ อีกทั้งจะ ทราบจุดบกพร่องการเรียนของนักเรียนแต่ละคนในแต่ละเน้ือหา ว่านักเรียนไม่เข้าใจในเน้ือหาการ เรียนเรื่องใด เพื่อนามาปรับปรุง แก้ไขกระบวนการจัดการเรียนการสอนได้ดียิ่งข้ึน ในด้านของผู้เรียน เอง ก็จะได้ทราบข้อมูลและประเมินตนเองได้ว่าไม่เข้าใจเนื้อหา ตรงส่วนใดเพื่อจะได้กลับไปทบทวน และทาความเข้าใจในเน้ือหานั้นอีกคร้ังหน่ึง เสมือนการสร้างแรงจูงใจในการเรียนให้ผู้เรียนต้อง เตรยี มพรอ้ มในการเรยี นอยเู่ สมอ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีความสาคัญอย่างย่ิงต่อกระบวนการเรียนการสอนของครู ไม่ว่าจะ เป็นการปรับปรุงเปล่ียนแปลงวิธีการสอน และการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ของครู โดยเป็น ความรู้ความสามารถของนักเรียนในด้านต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากนักเรียนได้รับประสบการณ์ ผ่าน กระบวนการเรียนการสอนของครูผู้สอน ครูต้องศึกษาแนวทางในการวัดและประเมินผลรวมถึงการ สรา้ งเครือ่ งมอื วัดใหม้ คี ณุ ภาพ ได้มผี ู้ใหค้ วามหมายของผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นไว้ดังนี้ ความหมายของผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น จานงค์ ทองช่วย (2551, หน้า 23) กล่าวว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายถึง ความสามารถในการเรียนรู้ด้านเนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ ที่วัดได้จากคะแนนในการตอบแบบทดสอบ วดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวทิ ยาศาสตร์ ณัฐวุฒิ จันละมุด (2554, หน้า 48) กล่าวว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายถึง ความสาเรจ็ ทไี่ ดจ้ ากกระบวนการเรยี นการสอนทงั้ ดา้ นพุทธพิ ิสัย จิตพิสัย และทกั ษะพิสยั นัสรินทร์ บอื ซา (2558, หนา้ 20) ไดส้ รุปความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ ว่า เป็นความสามารถของแต่ละบุคคลหลังจากได้รับการเรียนรู้ การอบรม การฝึกฝนจนเกิดความ ชานาญ โดยจะอาศยั เครอื่ งมอื ในการประเมนิ และวดั ผลสิง่ ทไี่ ด้เรียนรู้น้ันดว้ ย
~9~ วรรณธนะ ปัดชา (2559, หน้า 33) กล่าวว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู้ ทักษะกระบวนการต่าง ๆ และความสามารถที่ผู้เรียนได้รับหลังจากได้ศึกษาจากแขนงวิชา ต่าง ๆ ซึ่งผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนอาจจะได้มาจากกระบวนการที่ไม่ต้องมีการทดสอบ เช่น การสังเกต พฤติกรรม มาเรยี ม วทั นาด (2559, หน้า 53) กล่าวว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายถึง ผลท่ี เกิดขึ้นจากการเรียนการสอน การค้นคว้า ประสบการณ์ท้ังหมด ซึ่งทาให้ผู้เรียนเกิดการเปล่ียนแปลง พฤติกรรม ซง่ึ สามารถสงั เกตได้ ดังนั้นสรุปได้ว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายถึง ความสาเร็จด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัยของแต่ละบุคคลในวิชาใด ๆ หลังจากได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ โดย อาศยั เคร่อื งมือในการวดั และประเมนิ ผลการเปลย่ี นแปลงนั้นได้ แบบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีหลายประเภทตามเกณฑ์การจาแนกที่ กาหนดขึน้ มีผรู้ ูแ้ ละนกั การศกึ ษาไดแ้ บง่ ประเภทของแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนไว้ ดังนี้ เพชรศิรินทร์ ตุ่นคา (2559, หน้า 45-47) ได้แบ่งประเภทของแบบทดสอบวัดผล สมั ฤทธท์ิ างการเรยี นตามเกณฑ์ทใี่ ช้จาแนกไว้ ดงั น้ี 1. จาแนกตามผู้สร้าง 1.1 แบบทดสอบมาตรฐาน (Standardize tests) เปน็ แบบทดสอบ ท่ีสร้างข้ึนโดยมีกระบวนการมาตรฐาน โดยสร้างจากสานักทดสอบ หรือบริษัทสร้างแบบทดสอบ เพื่อให้ใช้ได้กับสถาบันการศึกษาท่ัวไป โดยเนื้อหาครอบคลุมในหลักสูตรอย่างกว้าง ๆ ซึ่งมีรูปแบบใน การใหบ้ ริการการดาเนินการสอบ การให้คะแนน การแปรผล การรายงานผล และการรายงาคุณภาพ ของแบบทดสอบทีเ่ ปน็ มาตรฐาน 1.2 แบบทดสอบที่ครูสร้าง (Teacher-made tests) เป็น แบบทดสอบที่ครอบคลุมเนื้อหาเฉพาะตามหลักสูตรของสถาบันน้ัน ๆ ซึ่งครูเป็นผู้สร้างเอง การตรวจ ให้คะแนนและการแปลผลจะทาการเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ครูกาหนด หรือเปรียบเทียบเฉพาะกลุ่มที่ สอบดว้ ยกนั 2. จาแนกตามเนื้อหาวชิ า แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธส์ิ ามารถทดสอบได้ทุก รายวิชา จึงสามารถจาแนกแบบทดสอบได้ตามวิชาต่าง ๆ เช่น แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทาง ภาษาไทย คณิตศาสตรว์ ิทยาศาสตรภ์ าษาองั กฤษ คอมพวิ เตอร์
~ 10 ~ 3. จาแนกตามการใช้ 3.1 แบบทดสอบความพร้อม (Readiness test) เป็นแบบทดสอบ ที่สร้างข้ึนเพ่ือตรวจสอบความพร้อมในการเรียนของนักเรียนว่า มีความรู้พ้ืนฐานมากน้อยเพียงใด จะได้ทบทวนก่อนเริ่มเรียนในหน่วยการเรียน บทเรียน หรือวิชานั้น ๆ โดยเน้นวัดทักษะท่ีจาเป็น สาหรบั การเรยี นร้ใู นหนว่ ยการเรยี น บทเรยี นหรอื วชิ า 3.2 แบบทดสอบวนิ จิ ฉัย (Diagnosis test) เป็นแบบทดสอบท่ีสร้าง ขึ้นเพอ่ื ระบุว่านักเรียนมปี ญั หาในการเรยี นรู้อยา่ งไรบา้ ง เพือ่ ปรับปรงุ แกไ้ ขและสอนซ่อมเสริม โดยเน้น วัดจุดเด่นจุดด้อยของทักษะการเรียนรู้ สาคัญ และตรวจสอบกลไกขององค์ประกอบย่อยท่ีเป็น เปูาหมายของการเรยี นรู้ 3.3 แบบทดสอบสมรรถภาพ (Proficiency test) เป็นแบบทดสอบ ท่สี ร้างขึน้ เพือ่ ใช้เปน็ ตัวบ่งบอกระดับความสามารถในการคัดเลือกหรือให้สิทธิบางประการ โดยใช้วัด วา่ ผ้ทู ดสอบมีความสามารถอยู่ในระดับท่ีเหมาะสมหรือยัง เช่น การสอบความสามารถทางภาษา การ สอบใบขับขีร่ ถยนต์ 3.4 แบบทดสอบเชงิ สารวจ (Survey test) เปน็ แบบทดสอบท่ีสร้าง ขน้ึ เพื่อทดสอบผลการเรียนท่ัวไป โดยใช้วัดความรู้ทั่วไปของนักเรียน หรือนิสิตนักศึกษาในวิชาเฉพาะ แบบทดสอบจึงควรคลอบคลมุ เนอื้ หาอย่างกว้างขวาง อาทิ แบบทดสอบปลายภาคเรียน 4. จาแนกตามการแปลผล 4.1 แบบทดสอบอิงกลุ่ม (Norm-referenced tests) เป็น แบบทดสอบท่ีสร้างข้ึนเพ่ือจาแนกระดับความสามารถท่ีแตกต่างกันของผู้สอบ โดยใช้วัดผลการ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างความรู้ ความสามารถของผู้สอบ คะแนนสอบจึงนาไปใช้แปล ความหมายโดยเปรยี บเทียบกับความรู้ความสามารถของผ้ทู ่สี อบดว้ ยกันเอง 4.2 แบบทดสอบอิงเกณฑ์ (Criterion-referenced tests) เป็น แบบทดสอบท่สี ร้างข้ึนเพื่อวดั ระดับการเรียนรู้ ของนักเรียนว่ามีความรู้ ความสามารถด้านใดบ้าง โดย สร้างให้ครอบคลุมความรแู้ ละทกั ษะสาคญั ที่ต้องการใหเ้ กิด จึงแปลผลจากการเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ กาหนดไว้ 5. จาแนกตามรปู แบบการตอบ 5.1 แบบทดสอบความเรียง (Supply type) ประกอบด้วย แบบทดสอบความเรียง (Essay test) แบบทดสอบแบบตอบสั้น (Short answer) และแบบทดสอบ แบบเติมคา (Completion)
~ 11 ~ 5.2 แบบทดสอบประเภทเลือกคาตอบ ( Selection type) ประกอบด้วยแบบทดสอบแบบถูก-ผิด (True-false) แบบทดสอบแบบจับคู่ (Matching) และ แบบทดสอบแบบหลายตวั เลอื ก (Multiple-choice) งานวจิ ยั ที่เกยี่ วขอ้ ง นุชจิรา แดงวันสี, ปริญวรรณ สุนทรักษ์ และสนธิ พลชัยยา (2561: บทคัดย่อ) ได้ เปรยี บเทียบผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนเรื่องตารางธาตุ โดยใช้การจดั การเรียนรู้แบบร่วมมือกับแอปพลิเค ชันบนระบบปฏิบัตกิ ารแอนดรอยด์ แบบแผนการวิจัยท่ีใช้คือ การทดลองแบบกลุ่มเดียว โดยการสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 25 คน ในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านเขานาใน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนแบบปรนัยจานวน 30 ข้อ แอปพลิเคชัน ได้แก่ แอปพลิเคชันตารางธาตุ แอปพลิเคชันตารางธาตุเค็มนินจาและแอปพลิเคชันมา จองเคม ในกูเกิลเพลย์สโตร์บนโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ พรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นักเรียนมีความพึง พอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เฉลี่ยเท่ากับ 4.58 อยู่ในระดับมากที่สุด และดัชนีประสิทธิผลของ แอปพลเิ คชันมคี า่ เท่ากบั 0.81 รวีพร จรูญพันธ์เกษม (2561: บทคัดย่อ) ได้พัฒนารูปแบบการสอนโดยอาศัยแอปพลิเคชัน การอ่านออกเสียงด้วยระบบรู้จาเสียงพูดและเกมทายคาศัพท์ภาษาอังกฤษ หาประสิทธิภาพของแอป พลิเคชันทพ่ี ัฒนาข้ึน เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแอปพลิเคชันที่ พัฒนาข้ึน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อแอปพลิเคชันการอ่านออกเสียงด้วยระบบรู้จา เสียงพูด และทายคาศัพท์ภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยครั้งน้ี ได้ แก่ นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประเสริฐอิสลาม จานวน 30 คน โดยเลือกแบบเจาะจง การพัฒนาแอป พลิเคชันใช้โปรแกรม Construct 2 และโปรแกรม Intel XDK การพัฒนาในด้านของ speech recognition พัฒนาโดยใช้ plugin speech recognition ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า ผลการประเมิน คุณภาพของแอปพลิเคชันที่พัฒนาข้ึนในภาพรวมมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก ( ̅ = 4.13, S.D. = 0.67) ผลการประเมินประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.53/90.00 ซ่ึงสูง กว่าเกณฑ์ที่กาหนดไว้ 80/80 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนท่ีเรียนด้วยแอปพลิเคชันท่ีพัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 และผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนท่ีเรียนด้วยสื่อที่พัฒนาขึ้นมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่
~ 12 ~ แอปพลิเคชันมีเสียงชัดเจน ( ̅ = 4.80, S.D. = 0.44) และในภาพรวมมีความพึงพอใจส่ืออยู่ในระดับ มากที่สดุ ( ̅ = 4.50, S.D. = 0.51) ศุภเศรษฐ์ พ่ึงบัว, เกรียงศักด์ิ บุญญา, ธนะวัฒน์ วรรณประภา, และแดน ทองอินทร์ (2562: บทคัดย่อ) ได้พัฒนาบทเรียนออนไลน์ วิชา อินเทอร์เน็ต ด้วยแอปพลิเคชัน Google classroom สาหรบั นักเรยี น ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 หลักสูตรการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ประชากรที่ใช้ ในการศึกษาครั้งน้ี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนบ้าน มหาเจริญ ตาบลทุ่งมหาเจริญ อาเภอวังน้าเย็น จังหวัดสระแก้ว จานวน 2 ห้องเรียน รวมจานวน นักเรยี นท้ังหมด 67 คน กล่มุ ตัวอยา่ งท่ีใช้ในการศึกษาครั้งน้ี เป็นนักเรียนที่กาลังศึกษาช้ันมัธยมศึกษา ปีท่ี 1/1 ซงึ่ ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling Random.) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม จานวน 34 คน เครอื่ งมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ บทเรียนออนไลน์ วิชาอินเทอร์เน็ต ด้วย แอปพลิเคชัน Google classroom สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 4 บทเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จานวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจท่ีมีต่อการ เรียนโดยใช้บทเรียนออนไลน์ วิชา อินเทอร์เน็ต ด้วยแอปพลิเคชัน Google classroom จานวน 20 ข้อ สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉล่ีย ค่าร้อยละ ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test) ผลการศึกษาพบว่า บทเรียนออนไลน์ วิชา อินเทอร์เน็ต ด้วยแอปพลิเคชัน Google Classroom สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1 มีค่า เท่ากับ 82.06, E2 มีค่า มีค่าเท่ากับ 81.10 ซึ่งผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน พบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อน เรยี นอยา่ งมีนยั สาคัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .01 และความพงึ พอใจของนกั เรยี นท่ีมีต่อการเรียนหลังเรียนอยู่ ในระดบั มากที่สุด ซง่ึ สงู กว่าสมมตฐิ านที่ตง้ั ไว้ในระดับมาก รจนา ศรพี ัฒนาพนั ธเ์ุ ลิศ, รงุ่ อรุณ บโิ ข่, และวริ ะภรณ์ ไหมทอง (2564: บทคัดย่อ) ได้ส่ือการ เรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง ระบบสุริยะ สาหรับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 เพื่อเปรียบเทียบ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ทม่ี ตี ่อการใช้สื่อการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง เร่ือง ระบบสุริยะ จากกลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 ของโรงเรียนบ้านสันคะยอม จานวน 20 คน ซ่ึงได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) จากนักเรียนทั้งหมด โดยเครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบทดสอบ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ซึง่ เป็นแบบทดสอบกอ่ น – หลงั การจัดการเรียนรู้มีลักษณะ เป็นแบบทดสอบ ปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จานวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ผลการวิจัย พบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังจากที่เรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 และความพงึ พอใจของนักเรียน อย่ใู นระดบั พึงพอใจมาก
~ 13 ~ บทที่ 3 วิธีดาเนนิ การวิจัย การวิจัยเร่ือง ผลการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ในรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา ระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา ผู้วิจยั ได้ดาเนนิ การตามขัน้ ตอน ดังนี้ 1. ประชากรและกลมุ่ เปูาหมาย 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจยั 3. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 4. การวเิ คราะหข์ ้อมลู 5. สถติ ิที่ใชใ้ นการวิเคราะหข์ ้อมูล ประชากรและกลมุ่ เป้าหมาย ผู้เรียนระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง ทีล่ งทะเบยี นเรยี นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จานวน 9 คน เครื่องมือทใี่ ช้ในการวจิ ัย เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 แบบ คือ เคร่ืองมือท่ีใช้ในการจัดการเรียนรู้ และเครื่องมือที่ใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมลู 1. เครื่องมือที่ใช้ในการจดั การเรียนรู้ ประกอบดว้ ย 1.1 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน โดยใช้ วิธกี ารสอนภาษาแบบองคร์ วม จานวน 4 แผน ระยะเวลา 12 ชั่วโมง 1.2 แบบฝกึ หดั ออนไลน์ ดว้ ยโปรแกรม Quizizz จานวน 4 ชดุ 2. เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู คอื แบบสอบวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น สาหรบั เครอ่ื งมอื ท่ผี ูว้ จิ ัยสร้างขน้ึ เพ่ือมาใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ มีรายละเอียดในการสร้างและ พฒั นาดงั ต่อไปนี้
~ 14 ~ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ ผวู้ จิ ยั ไดด้ าเนนิ การตามขน้ั ตอน ดังน้ี 1.1 กาหนดจุดประสงค์ในการสรา้ งเคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการวจิ ัย 1.2 ศึกษาเอกสาร ทฤษฏี และงานวจิ ยั ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั แนวการสอน จากแหล่งเรียนรู้ ทางอินเทอร์เนต็ เพ่อื เป็นแนวทางในการสร้างแผนการจดั การเรียนรู้ 1.3 วางแผนการสรา้ งแผนการจดั การเรียนรู้ โดยมกี ารกาหนดเรอ่ื งทจ่ี ะสอน จานวน ชั่วโมงท่ีใชส้ อน และระยะเวลาในการสอน 1.4 สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 4 แผน ประกอบด้วย 3 ข้ันตอน คือ 1) ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 2) ข้นั สอน และ 3) ข้นั สรุป ใช้เวลาสอน 12 ชวั่ โมง 1.5 นาแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างข้ึนให้ผู้เชี่ยวชาญ พิจารณาตรวจสอบความ เที่ยงตรงเชงิ เนอื้ หา (IOC) และความเหมาะสมของขอ้ มูล 1.6 ปรับปรุงแกไ้ ขแผนการจดั การเรียนร้ตู ามคาแนะนาของผูเ้ ชย่ี วชาญ 1.7 จัดพิมพ์แผนการจัดการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ และนาไปใช้กับประชากรและ กลมุ่ เปูาหมายตอ่ ไป 2. แบบฝกึ หัดออนไลน์ดว้ ยแอปพลเิ คชนั Quizizz ผู้วจิ ยั ได้ดาเนนิ การตามข้ันตอน ดังน้ี 1.1 กาหนดจุดประสงค์ในการสร้างเครอื่ งมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั 1.2 ศึกษาเอกสาร ทฤษฏี และงานวิจยั ที่เกย่ี วขอ้ ง จากแหล่งเรียนรู้ทางอินเทอร์เน็ต เพ่ือเป็นแนวทางในการสร้างแบบฝกึ หัดออนไลน์ด้วยแอพพลเิ คชนั Quizizz 1.3 วางแผนการสร้างแบบฝึกหดั ออนไลน์ ดวยแอพพลเิ คชัน Quizizz 1.4 สร้างแบบฝกึ หดั ออนไลน์ดว้ ยแอพพลิเคชัน Quizizz 1.5 นาแบบฝึกหัดออนไลน์ด้วยแอพพลิเคชัน Quizizz ท่ีสร้างขึ้นให้ผู้เช่ียวชาญ พิจารณาตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) และความเหมาะสมของข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนา ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นและการมสี ่วนรว่ มในการเรียน 1.6 ปรับปรุงแก้ไขแบบฝึกหัดออนไลน์ด้วยแอพพลิเคชัน Quizizz ตามคาแนะนา ของผู้เชย่ี วชาญ 1.7 จัดเตรียมแบบฝึกหัดออนไลน์ด้วยแอพพลิเคชัน Quizizz และนาไปใช้กับ ประชากรและกลุ่มเปูาหมายตอ่ ไป
~ 15 ~ 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ผู้วิจยั ได้ดาเนินการตามข้นั ตอน ดงั นี้ 3.1 กาหนดจุดประสงค์ในการสรา้ งเคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการวจิ ยั 3.2 ศึกษาเอกสาร ทฤษฏี และงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับแบบวัดผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชาการใช้ พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน ระดบั ประถมศกึ ษา 3.3 วางแผนและสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาการใช้ พลงั งานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน จานวน 1 ฉบับ ซึ่งเป็นแบบทดสอบอิงเกณฑ์ประเภทเลือกคาตอบ 20 โดยหน่งึ คาถามมี 4 ตัวเลือกคาตอบ ซงึ่ มคี าตอบทีถ่ ูกต้องที่สดุ เพยี งข้อเดียว 3.4 นาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาใน ชีวิตประจาวัน ที่สร้างข้ึนไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาตรวจสอบความเท่ียงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) และ ความเหมาะสมของขอ้ มูลท่ีใชใ้ นการวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน 3.5 ปรับปรุงแก้ไขแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาการใช้พลังงาน ไฟฟูาในชวี ิตประจาวัน ตามคาแนะนาของผู้เชย่ี วชาญ 3.6 จัดพิมพ์แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาใน ชีวิตประจาวัน จานวน 20 ข้อ คะแนนรวม 20 คะแนน และนาไปใช้กับประชากรและกลุ่มเปูาหมายใน งานวิจยั ตอ่ ไป การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยทาการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จานวน 9 ช่วั โมง โดยดาเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดงั นี้ 1. ผู้วิจัยประเมินแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และวิเคราะห์ปัญหา ผลสัมฤทธิก์ อ่ นเรยี นในรายวชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟูาในชวี ติ ประจาวนั จากบนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ของผู้เรียนระดับประถมศึกษา ท่ีลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 โดยใช้วิธีการ เลือกแบบเจาะจงมาเป็นประชากรและกลุ่มเปูาหมายในการวจิ ยั 2. ปฐมนิเทศ ช้ีแจงวัตถุประสงค์ของการวิจัยให้ครูผู้สอนระดับประถมศึกษา และ กลมุ่ เปาู หมายรับทราบ รวมทั้งอธบิ ายถงึ บทบาทหน้าทข่ี องครู และผู้เรียน 3. ดาเนนิ การจดั การเรียนรู้รปู แบบออนไลน์ตามแผนการจัดการเรียนรู้ 3 ขั้นตอน จานวน 4 แผน ระยะเวลา 12 ชวั่ โมง โดยใชแ้ บบฝกึ หดั ออนไลน์ด้วยแอพพลิเคชนั Quizizz
~ 16 ~ 4. เมอ่ื เสร็จส้ินการจดั การเรยี นรู้แล้ว ผู้วจิ ยั ประเมนิ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน หลังการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้ แอปพลิเคชนั Quizizz 5. ผู้วิจัยนาข้อมูลที่ได้จากผลคะแนนประเมินแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง การจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz มาวิเคราะห์ด้วยวิธีการทาง สถติ ิพ้นื ฐาน การวิเคราะหข์ ้อมลู การวิจัยในครั้งนี้ ผลการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ในรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษา ระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา โดยใชค้ ่าเฉลย่ี ร้อยละ และรอ้ ยละความกา้ วหนา้ สถิตทิ ใี่ ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู 1. สถิตพิ นื้ ฐาน 1.1 ค่าเฉลย่ี ∑ ̅ เม่ือ ̅ แทน คะแนนเฉล่ีย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนท้ังหมด แทน จานวนนกั เรียนท้งั หมดในกลุ่มตวั อยา่ ง 1.2 ร้อยละ เมอ่ื แทน คะแนนคา่ ร้อยละ แทน ความถ่ีท่ีต้องการเปล่ียนแปลงให้เป็นรอ้ ยละ แทน จานวนความถี่ทง้ั หมด 1.3 รอ้ ยละความก้าวหน้า ร้อยละความก้าวหน้า คะแนนเตม็ เม่ือ แทน คะแนนก่อนเรียน แทน คะแนนหลงั เรยี น
~ 17 ~ 2. สถิตเิ พอื่ ตรวจสอบคุณภาพเคร่อื งมือ คา่ ความเท่ยี งตรง ∑ เมือ่ แทน ดชั นคี วามสอดคล้อง ∑ แทน ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผเู้ ช่ยี วชาญ แทน จานวนผเู้ ชีย่ วชาญ
~ 18 ~ บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล การวิจัยเร่ือง ผลการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ในรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษา ระดับประถมศกึ ษา กศน.อาเภอแสวงหา มีผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู นาเสนอ ดังน้ี เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวัน โดยการจดั การเรยี นรูร้ ูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ดงั ตาราง 1 ตาราง 1 แสดงคะแนนเฉล่ีย ร้อยละ และร้อยละความก้าวหน้าจากประชากรและกลุ่มเปูาหมาย (n = 9) คนท่ี คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ ร้อยละ แปลผล กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น หลังเรยี น หลังเรียน ความกา้ วหนา้ สงู ขึ้น 18 40 16 80 40 สูงขน้ึ 15 75 30 สงู ข้ึน 29 45 14 70 45 สูงขึ้น 13 65 40 สูงขนึ้ 35 25 15 75 45 สูงขนึ้ 19 95 35 สูงขึ้น 45 25 18 90 45 สูงขึ้น 16 80 30 สูงข้นึ 56 30 12 60 40 สูงขนึ้ 15.33 76.67 38.85 6 12 60 79 45 8 10 50 94 20 ̅ 7.56 37.78 จากตาราง 1 คะแนนเฉล่ียก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับ การใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ในรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน พบว่า ผู้เรียนมี คะแนนก่อนเรยี นเฉล่ยี 7.26 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 37.78 มีคะแนนหลังเรียนเฉลี่ย 15.33 คะแนน คดิ เป็นรอ้ ยละ 76.67 เม่ือวเิ คราะห์เปรยี บเทียบความแตกตา่ งดว้ ยรอ้ ยละความกา้ วหน้าพบว่า ผู้เรียน
คะแนนเ ็ตม ~ 19 ~ มีคะแนนเฉลยี่ หลังเรียนสงู กวา่ คะแนนเฉลี่ยก่อนเรยี น คดิ เป็นรอ้ ยละ 38.85 โดยผู้เรียนทั้งหมด 9 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงข้ึน แสดงแผนภูมิการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน รายบุคคล ดงั ภาพ 1 แผนภมู กิ ารเปรียบเทียบคะแนนกอ่ นเรียนและหลงั เรยี นรายบุคคล 20 18 16 14 12 10 8 ก่อนเรียน 6 หลังเรยี น 4 2 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 คะแนนรายบคุ คล กอ่ นเรียน 8 9 5 5 6 12 9 10 4 หลังเรยี น 16 15 14 13 15 19 18 16 12 ภาพ 1 การเปรยี บเทียบคะแนนเฉลี่ยกอ่ นและหลงั เรียนรายบุคคล
~ 20 ~ บทที่ 5 สรุป อภิปราย และขอ้ เสนอแนะ การวิจัยเร่ือง ผลการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ในรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา ระดบั ประถมศกึ ษา กศน.อาเภอแสวงหา มสี รุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ ดังน้ี วตั ถปุ ระสงค์การวิจยั เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน โดยการจดั การเรยี นรรู้ ูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใชแ้ อปพลิเคชนั Quizizz ขอบเขตการวจิ ยั 1. ประชากรและกลุ่มเปาู หมาย ผู้เรียนระดับประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง ท่ลี งทะเบยี นเรยี นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 จานวน 9 คน 2. เนือ้ หา รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน จานวน 4 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ 1) รู้จักไฟฟูา 2) พลังงานไฟฟูาของประเทศไทย และ 3) อุปกรณ์ วงจรไฟฟูา และ 4) การประหยัด พลังงานไฟฟาู 3. ตวั แปรทศี่ ึกษา ตวั แปรตน้ การจดั การเรียนร้รู ูปแบบออนไลน์ร่วมกับแอปพลเิ คชัน Quizizz ตวั แปรตาม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4. ระยะเวลา เดือนกรกฎาคม – เดือนสงิ หาคม พ.ศ. 2565 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ในการวิจัยคร้ังน้ี ผู้วิจัยทาการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จานวน 9 ชัว่ โมง โดยดาเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ดงั นี้
~ 21 ~ 1. ผู้วิจัยประเมินแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน และวิเคราะห์ปัญหา ผลสัมฤทธิ์กอ่ นเรียนในรายวิชาการใชพ้ ลงั งานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน จากบนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ของผู้เรียนระดับประถมศึกษา ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 โดยใช้วิธีการ เลอื กแบบเจาะจงมาเป็นประชากรและกลุ่มเปาู หมายในการวิจัย 2. ปฐมนิเทศ ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการวิจัยให้ครูผู้สอนระดับประถมศึกษา และ กล่มุ เปูาหมายรบั ทราบ รวมทั้งอธบิ ายถึงบทบาทหนา้ ที่ของครู และผู้เรียน 3. ดาเนนิ การจัดการเรียนรรู้ ูปแบบออนไลน์ตามแผนการจัดการเรียนรู้ 3 ขั้นตอน จานวน 4 แผน ระยะเวลา 12 ชว่ั โมง โดยใช้แบบฝึกหดั ออนไลนด์ ว้ ยแอพพลิเคชนั Quizizz 4. เมือ่ เสรจ็ สน้ิ การจัดการเรยี นร้แู ลว้ ผู้วิจยั ประเมินแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน หลังการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้ แอปพลเิ คชนั Quizizz 5. ผู้วิจัยนาข้อมูลที่ได้จากผลคะแนนประเมินแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง การจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz มาวิเคราะห์ด้วยวิธีการทาง สถติ พิ ้นื ฐาน สรุปผลการวจิ ัย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนมีคะแนนก่อนเรียนเฉล่ีย 7.26 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 37.78 มีคะแนนหลังเรียนเฉลี่ย 15.33 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 76.67 เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบ ความแตกตา่ งด้วยร้อยละความก้าวหน้าพบวา่ ผเู้ รียนมีคะแนนเฉล่ียหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉล่ียก่อน เรียน คิดเป็นร้อยละ 38.85 สรุปได้ว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟูาใน ชีวิตประจาวันหลังจากจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz สูงกว่า กอ่ นเรียน อภิปรายผล จากการวิจัยในคร้ังนี้ ผู้วิจัยจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz เพื่อพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นรายวชิ าการใช้พลงั งานไฟฟาู ในชีวิตประจาวันได้บรรลุตาม วัตถุประสงค์และเป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้ โดยผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาการใช้พลังงาน ไฟฟูาในชีวิตประจาวันหลังจากจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz สูงกว่าก่อนเรียน เน่ืองจาก ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Quizizz ในลักษณะของเกมที่ครูให้ผู้เรียนเล่นท้ายกิจกรรม เพ่ือ
~ 22 ~ ตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งแอปพลิเคชัน Quizizz สามารถสร้างแบบฝึกหัดออนไลน์ ที่ครู สามารถมอบหมายเป็นการบ้านออนไลน์ ผู้เรียนสามารถเข้าปีส่วนร่วมในช่วงเวลาที่ตนเองสะดวก ตลอดจนผู้เรียนสามารถเข้าไปทบทวนความรู้ได้อย่างต่อเนื่องไม่จากัดจานวนครั้ง ส่งผลให้ผู้เรียนเกิด ความรู้ ความเข้าใจในเน้ือหาสาระของบทเรียนได้ดีย่ิงข้ึน สอดคล้องกับผลการวิจัยของ นุชจิรา แดง วันสี, ปริญวรรณ สุนทรักษ์ และสนธิ พลชัยยา (2561) ได้เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ตารางธาตุ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกับแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 และสอดคลอ้ งกบั รวีพร จรูญพันธเ์ กษม (2561) ไดพ้ ฒั นารปู แบบการสอนโดยอาศัยแอปพลิเค ชันการอ่านออกเสียงด้วยระบบรู้จาเสียงพูดและเกมทายคาศัพท์ภาษาอังกฤษ พบว่าผลการ เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแอปพลิเคชันที่ พัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 อีกท้ังยังสอดคล้องกับ รจนา ศรี พัฒนาพันธ์ุเลิศ, รุ่งอรุณ บิโข่, และวิระภรณ์ ไหมทอง (2564) ได้ส่ือการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีเสมือน จริง เรื่อง ระบบสุริยะ สาหรับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ นักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 พบว่า ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนหลงั จากทีเ่ รียนสงู กวา่ ก่อนเรียน อย่างมี นยั สาคญั ทางสถติ ิ ทรี่ ะดับ .05 ขอ้ เสนอแนะ จากการวิจัยคร้ังน้ีผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะท่ีเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนและการวิจัยใน คร้ังตอ่ ไป ดังน้ี ขอ้ เสนอแนะท่วั ไป การจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน Quizizz ครูควร ติดตามผู้เรียนในการเข้าเรียนในรูปแบบออนไลน์ และการทบทวนความรู้ผ่านแอปพลิเคชัน Quizizz อย่างตอ่ เนื่อง ขอ้ เสนอแนะในการทาวิจัยครง้ั ตอ่ ไป 1. ควรพฒั นาการจัดการเรียนรู้รูปแบบออนไลน์ โดยนาแอปพลิเคชัน Quizizz เป็น สื่อในรายวิชาอื่น ๆ เพื่อศกึ ษาผลการพฒั นาด้านสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของผูเ้ รยี น 2. ควรเปรียบเทยี บผลการใชแ้ อปพลเิ คชัน Quizizz กบั สอ่ื เทคโนโลยรี ูปแบบอืน่ ๆ
~ 23 ~ บรรณานุกรม คณะกรรมการจดั การความร.ู้ (2563). คูม่ อื จัดการความรู้ การใช้เทคโนโลยเี พอ่ื ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ใน แนวทางที่หลากหลาย. เอกสารค่มู ือ. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. นชุ จิรา แดงวันสี, ปรญิ วรรณ สนุ ทรักษ์, สนธพิ ล ชยั ยา, และกานต์ตะรัตน์ วฒุ เิ สลา. (2561). ผลการ จัดการเรียนรแู้ บบร่วมมือกับแอปพลเิ คชันบนระบบปฏิบตั ิการแอนดรอยด์ทม่ี ีต่อผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน เรื่อง ตารางธาตุสาหรบั นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4. วารสารวทิ ยาศาสตรแ์ ละ วทิ ยาศาสตร์ ศึกษา (JSSE), 1(1), 61-73. รจนา ศรพี ัฒนาพันธ์เุ ลิศ, ร่งุ อรณุ บิโข,่ และวริ ะภรณ์ ไหมทอง. (2564). สือ่ การเรยี นร้ดู ว้ ย เทคโนโลยี เสมือนจรงิ เร่ือง ระบบสุรยิ ะสาหรบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4. วารสารครุ ุศกึ ษา มหาวิทยาลัย ราชภัฏอดุ รธานี, 3(1), 51-62. รวพี ร จรูญพนั ธ์เกษม. (2561). การพัฒนารูปแบบการสอนโดยอาศัยแอปพลเิ คชนั การอ่านออกเสยี ง ด้วยระบบร้จู าเสยี งพดู และเกมทายคาศัพทภ์ าษาองั กฤษ. วารสารวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยีหัวเฉยี วเฉลมิ พระเกยี รติ ISSN 2651-2483 (Online)(TCI Tier 2), 4(1), 56-68. ศภุ เศรษฐ์ พึง่ บวั , เกรยี งศักดิ์ บญุ ญา, ธนะวัฒน์ วรรณประภา, และแดน ทองอินทร์. (2562). การ พัฒนาบทเรยี นออนไลนว์ ิชาอินเทอรเ์ นต็ ด้วยแอปพลิเคชัน Google classroom สาหรบั นกั เรียน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสงั คม มหาวิทยาลัยบูรพา , 15(2), 241-254. สภุ าภรณ์ อ้ยุ นอง. (2561). ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น. สืบค้น สิงหาคม 12, 2565, จาก https://supapornouinong.blogspot.com/2018/04/blog-post_25.html ETS. (2565). คู่มือการใช้งาน QUIZIZZ. สืบค้น สงิ หาคม 18, 2565, จาก http://human.skru.ac.th/file/Quizizz164.pdf
~ 24 ~ ภาคผนวก
~ 25 ~ ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญท่ีตรวจสอบเครอ่ื งมอื
~ 26 ~ 1. นายสมบตั ิ เกตถุ าวร รายนามผู้เชย่ี วชาญ 2. นางนพวรรณ ศรีเคลือบ ตรวจสอบคุณภาพเคร่อื งมือ 3. นายศุภโชค บุตรตะวงศ์ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น ครู กศน.ตาบล ครู กศน.ตาบล
~ 27 ~ ภาคผนวก ข เคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั
~ 28 ~ รายวชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชีวติ ประจาวัน 1 พว 12010 กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าการใช้พลงั งานไฟฟา้ ในชีวิตประจาวนั 1 พว 120111 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ครั้งท่ี กิจกรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี 1 กิจกรรมการเรียนการสอน คร้ังท่ี 1 กศน.ตาบล วิชาการใชพ้ ลงั งานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน 1 (พว 12010) เรือ่ ง ร้จู กั ไฟฟูา กศน.ตาบล 2 กิจกรรมการเรยี นการสอน ครั้งที่ 2 วิชาการใช้พลงั งานไฟฟูาในชีวิตประจาวัน 1 (พว 12010) กศน.ตาบล เรื่อง พลังงานไฟฟูาของประเทศไทย 3 กิจกรรมการเรียนการสอน คร้ังที่ 3 กศน.ตาบล วชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟาู ในชวี ิตประจาวัน 1 (พว 12010) เร่ือง อปุ กรณไ์ ฟฟูาและวงจรไฟฟาู 4 กิจกรรมการเรียนการสอน คร้ังที่ 4 วชิ าการใช้พลังงานไฟฟูาในชวี ติ ประจาวนั 1 (พว 12010) เรอ่ื ง การประหยดั พลงั งานไฟฟูา
~ 29 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 1 สาระความรพู้ ้นื ฐาน รายวิชา การใช้พลังงานไฟฟ้าในชวี ิตประจาวนั 1 พว 12011 ระดบั ประถมศึกษา แผนการจัดการเรยี นรเู้ รอ่ื งท่ี 1 รู้จกั ไฟฟ้า เวลา 3 ช่วั โมง สอนวันที่…….……เดือน……………..……..พ.ศ................. ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งมีชีวิตระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ในท้องถิ่นประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลย่ี นแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ในการ ดาเนนิ ชวี ติ ตวั ช้ีวดั 1. บอกความหมายของไฟฟาู 2. บอกประโยชน์ของพลังงานไฟฟาู 3. บอกผลกระทบจากการขาดแคลนพลังงานไฟฟูา 4. บอกประวัติความเป็นมาของไฟฟูาในประเทศไทย 5. บอกประเภทของไฟฟูา สาระสาคญั พลังงานไฟฟูาเป็นพลังงานรูปหน่ึงท่ีมีความสาคัญและมีการใช้งานกันมาอย่างยา วนานมี ประโยชน์และผล กระทบต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การคมนาคม ด้านเศรษฐกิจ ด้านอตุ สาหกรรม ดา้ นเกษตรกรรม ดา้ นบริการ และด้านคุณภาพชีวิต ประเทศไทยเริ่มมีไฟฟูาใช้คร้ัง แรกในสมยั รชั กาลท่ี 5 ซ่งึ ไฟฟูามี 2 ประเภท ได้แก่ ไฟฟูาสถติ และไฟฟูากระแส จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.เพือ่ สามารถใช้ความร้แู ละกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วธิ ีการและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ได้ 2. เพื่อใหม้ ีทกั ษะ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์และวางแผนการทาโครงงานได้ 3. เพื่อนาความรเู้ กย่ี วกบั วิทยาศาสตร์กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละโครงงานไปใชไ้ ด้
~ 30 ~ สาระการเรียนรู้ 1. ความหมาย และความสาคัญของไฟฟูา 1.1 ความหมาย และความสาคัญของไฟฟาู 1.2 ประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟาู 1.2.1 ประโยชน์และผลกระทบของพลังงานไฟฟาู ด้านคมนาคม 1.2.2 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งานไฟฟูาด้านอุตสาหกรรม 1.2.3 ประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟูาดา้ นเศรษฐกิจ 1.2.4 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งานไฟฟาู ดา้ นคณุ ภาพชวี ิต 2. ประวตั คิ วามเปน็ มาของไฟฟูาในประเทศไทย 3. ประเภทของไฟฟูา 3.1 ประเภทของไฟฟาู 3.1.1 ไฟฟาู สถิต 3.1.2 ไฟฟูากระแส 3.1.2.1 ไฟฟูากระแสตรง (DC) 3.1.2.2 ไฟฟูากระแสสลบั (AC) 3.2 การกาเนิดของไฟฟูา คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝรุ ูไ้ ผ่เรยี น ศึกษาใบความรู้ จากแบบเรยี น 2. มวี นิ ยั ทางานตามท่ีครูมอบหมายได้ทันเวลา 3. ขยนั ม่งุ มน่ั ในการทางาน ทาใบงาน ทากิจกรรมกล่มุ 4. มคี วามสามัคคี มนี ้าใจ มีความรบั ผิดชอบ ช่วยเหลือกันทากิจกรรมกลมุ่ ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน - ครูและผู้เรยี นรว่ มกนั สรา้ งความเข้าใจกระบวนการความหมาย และความสาคัญของไฟฟาู ขน้ั สอน - ผู้เรยี นศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกับความหมายและความสาคญั ของไฟฟูา
~ 31 ~ - ครูและผู้เรยี นแลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยใช้คาถามปลายเปิดในการชวนคดิ ชวนคุย เพื่อหา ขอ้ สรปุ ในการเลือกใช้เทคโนโลยไี ด้อยา่ งเหมาะสม - ครูและผู้เรียนร่วมกนั แสดงความเข้าใจเก่ยี วกับประเภทของไฟฟูา และผลกระทบของ พลังงานไฟฟาู - ครูและผเู้ รียนอภปิ รายร่วมกันถงึ การนาเสนอโครงงานและประโยชน์ของการทา ข้นั สรปุ - ครูผู้สอนสรปุ เนื้อหาและเติมเตม็ องค์ความรูพ้ ร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาด้วยตนเอง เพม่ิ เติม สือ่ การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนังสือบทเรียน 3. ปากกาเคมี 4. ใบงาน 5.สื่อออนไลน์ การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ ีการวดั 1. สังเกตพฤติกรรมระหว่างการเรียนรู้และกระบวนการกล่มุ 2. วดั ความร้จู ากการทากิจกรรมในใบงาน เครอ่ื งมอื 1. ใบงาน เกณฑก์ ารวัดผลประเมนิ ผล 1. นกั ศึกษามีผลคะแนนในการทดสอบไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 50 2. การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมกลมุ่ แหล่งการเรยี นร้/ู สบื ค้นข้อมูลเพิม่ เตมิ 1. หอ้ งสมดุ ประชาชน 2. กศน. ตาบล 3. แหลล่ งเรยี นรู้สารสนเทศ 4. lnternet
~ 32 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ ครัง้ ที่ 2 สาระความร้พู ้นื ฐาน รายวชิ า การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชีวติ ประจาวัน 1 พว 12011 ระดับประถมศกึ ษา แผนการจัดการเรยี นรู้เรือ่ งที่ 2 พลังงานไฟฟ้าในชวี ิตประจาวนั เวลา 3 ชวั่ โมง สอนวันท่ี…….……เดอื น……………..……..พ.ศ................. ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ส่ิงมีชีวิตระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในท้องถ่ินประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ในการ ดาเนนิ ชวี ติ ตัวช้วี ัด 1. บอกสัดส่วนเช้อื เพลิงทใี่ ชใ้ นการผลิตไฟฟาู ของประเทศไทย 2. บอกการใช้ไฟฟาู ในแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน 3. อธบิ ายสถานการณ์พลงั งานไฟฟูาของประเทศไทย 4. ระบชุ ื่อและสังกัดของหน่วยงานทเี่ กีย่ วข้องดา้ นพลังงานไฟฟาู ในประเทศไทย 5. บอกบทบาทหนา้ ที่ของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องด้านพลังงานไฟฟาู สาระสาคัญ ในปัจจุบันประเทศไทย ใช้เช้ือเพลิงท่ีหลากหลายในการผลิตไฟฟูา โดยส่วนใหญ่ผลิตไฟฟูา โดยส่วนใหญ่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ หากพิจารณาการใช้ฟฟูาในแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน พบว่ามี ปริมาณการใช้ไฟฟูาไม่สม่าเสมอข้ึนอยู่กับความต้องการของประชาชน ซึ่งมีแนวโน้มการใช้พลังงาน ไฟฟูาเพิ่มข้ึนทุกปีตามภูมิอากาศ ประชากรท่ีเพ่ิมข้ึนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม โดยมีหน่วยงานท่ีรับผิดชอบเกี่ยวข้องด้านพลังงานไฟฟูาหลายหน่วยงาน ได้แก่ คณะกรรมการกากับ กิจการพลังงาน (กกพ.) การไฟฟูาฝูายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟูาส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟาู นครหลวง (กฟน.) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เพอื่ สามารถใช้มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกยี่ วกับสถานการณ์พลังงานไฟฟูาของไทยได้ 2. เพอ่ื ให้มีทกั ษะ เจตคติทางวิทยาศาสตรแ์ ละวางแผนการทาโครงงานได้ 3. เพอ่ื นาความรูเ้ ก่ยี วกบั หนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้องด้านพลงั งานไฟฟูาไปใช้ได้
~ 33 ~ สาระการเรียนรู้ 1. สถานการณ์พลังงานไฟฟูาของประเทศไทย 1.1 สัดสว่ นการผลิตไฟฟูาจากเชือ้ เพลิงประเภทตา่ ง ๆ 1.2 การใชไ้ ฟฟาู ในแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน 1.3 สภาพปัจจบุ ันและแนวโนม้ การใชพ้ ลังงานไฟฟูา 2. หน่วยงานที่เกีย่ วข้องด้านหลงั งานไฟฟาู ในประเทศไทย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝรุ ู้ไผเ่ รียน ศึกษาใบความรู้ จากแบบเรียน 2. มวี นิ ัย ทางานตามท่ีครมู อบหมายได้ทันเวลา 3. ขยนั มุ่งม่นั ในการทางาน ทาใบงาน ทากิจกรรมกลุ่ม 4. มีความสามัคคี มนี ้าใจ มีความรบั ผิดชอบ ชว่ ยเหลอื กันทากิจกรรมกล่มุ ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน - ครูและผู้เรยี นรว่ มกันสร้างความเขา้ ใจกระบวนการสถานการณ์พลังงานไฟฟาู ของไทย ขัน้ สอน - ผูเ้ รียนศกึ ษาค้นคว้าเกีย่ วกบั ความหมายและความสาคัญของพลงั งานไฟฟูา - ครูและผเู้ รียนแลกเปลย่ี นเรียนรู้ โดยใชค้ าถามปลายเปิดในการชวนคิด ชวนคยุ เพอ่ื หา ขอ้ สรปุ ในการเลอื กใชเ้ ทคโนโลยไี ดอ้ ย่างเหมาะสม - ครูและผเู้ รยี นรว่ มกันแสดงความเข้าใจเกย่ี วกับหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้องด้านพลังงานไฟฟูาในประเทศไทย - ครูและผู้เรยี นอภิปรายรว่ มกันถึงการนาเสนอเกี่ยวกับหน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องด้านพลังงาน ไฟฟาู ในประเทศไทย ข้ันสรปุ - ครผู ้สู อนสรปุ เน้อื หาและเติมเตม็ องคค์ วามรพู้ ร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาด้วยตนเอง เพ่ิมเติม
~ 34 ~ สอ่ื การเรยี นการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนงั สอื บทเรียน 3. ใบงาน 4.สื่อออนไลน์ เวบ็ ไซต์ https:www.yoututube.com/ ชุดไฟฟาู น่ารู้ เร่อื งทาไมคา่ ไฟแพง ไฟฟูาซื้อหรือสร้าง การวัดผลประเมินผล วิธีการวัด 1. สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรยี นรูแ้ ละกระบวนการกลุ่ม 2. วดั ความรู้จากการทากจิ กรรมในใบงาน เคร่อื งมอื 1. ใบงาน เกณฑก์ ารวัดผลประเมนิ ผล 1. นักศกึ ษามีผลคะแนนในการทดสอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 2. การมีสว่ นร่วมในกิจกรรมกลุ่ม แหล่งการเรียนรู/้ สบื ค้นข้อมูลเพิ่มเติม 1. ห้องสมุดประชาชน 2. กศน. ตาบล 3. แหลล่ งเรียนรูส้ ารสนเทศ 4. lnternet
~ 35 ~ แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 3 สาระความร้พู น้ื ฐาน รายวิชา การใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวนั 1 พว 12011 ระดับประถมศึกษา แผนการจดั การเรียนร้เู รอื่ งที่ 3 อปุ กรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า เวลา 3 ช่วั โมง สอนวนั ที่…….……เดอื น……………..……..พ.ศ................. ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งมีชีวิตระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในท้องถิ่นประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลยี่ นแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ในการ ดาเนินชีวติ ตัวชว้ี ัด 1. บอกชอื่ และหน้าท่ีของอปุ กรณ์ไฟฟูา 2. อธบิ ายการต่อวงจรไฟฟาู แบบตา่ ง ๆ สาระสาคญั การดาเนนิ ชวี ิตของมนุษย์ในปัจจบุ ันมพี ลงั งานไฟฟูาเขา้ มาเกย่ี วข้องอยตู่ ลอดเวลา ดังน้ัน เพ่อื ให้การใช้พลังงานไฟฟูามีความปลอดภยั ผใู้ ช้ต้องรู้จักอุปกรณ์ไฟฟาู วงจรไฟฟาู และเลอื กใช้ อปุ กรณ์และเคร่อื งใช้ไฟฟาู ได้อยา่ งเหมาะสม จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพ่อื สามารถบอกช่ือและหน้าท่ีของอปุ กรณ์ไฟฟูาได้ 2. เพอื่ ใหม้ ีทกั ษะ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 3. เพ่ือนาความรู้จากการตอ่ วงจรไฟฟูาข้นั พนื้ ฐานได้ สาระการเรยี นรู้ 1. อุปกรณ์ไฟฟาู 1.1 สายไฟ 1.2 ฟวิ ส์ 1.3 อุปกรณ์ตดั ตอน หรือ เบรกเกอร์
~ 36 ~ 1.4 สวติ ช์ 1.5 สะพานไฟ หรือ คทั เอาท์ 1.6 เครอ่ื งตัดไฟรว่ั 1.7 เตา้ รบั และเตา้ เสยี บ 2. วงจรไฟฟาู 3. สายดินและหลกั ดิน 3.1 สายดิน 3.2 หลกั ดิน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝุรู้ไผ่เรียน ศกึ ษาใบความรู้ จากแบบเรียน 2. มวี ินัย ทางานตามท่ีครมู อบหมายไดท้ ันเวลา 3. ขยัน มุ่งมน่ั ในการทางาน ทาใบงาน ทากจิ กรรมกล่มุ 4. มคี วามสามคั คี มีน้าใจ มีความรับผดิ ชอบ ช่วยเหลอื กันทากิจกรรมกลุ่ม ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน - ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันสร้างความเข้าใจเรื่องของอุปกรณ์ไฟฟาู ข้นั สอน - ผู้เรียนศึกษาค้นควา้ เกย่ี วกับความหมายของอปุ กรณไ์ ฟฟูา - ครแู ละผู้เรยี นแลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยใช้คาถามปลายเปดิ ในการชวนคิด ชวนคุย เพอื่ หา ข้อสรปุ ในการเลือกใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม - ครูและผเู้ รียนร่วมกันแสดงความเข้าใจเกยี่ วกับหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้องของสายดินและหลกั ดนิ - ครูและผู้เรยี นอภิปรายรว่ มกันถึงการนาเสนอเกยี่ วกับหน่วยงานทีเ่ ก่ียวกับวงจรไฟฟูา ขัน้ สรปุ - ครูผ้สู อนสรปุ เนือ้ หาและเติมเตม็ องค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ยตนเอง เพมิ่ เติม สือ่ การเรียนการสอน 1. ใบความรู้
~ 37 ~ 2. หนงั สอื บทเรียน 3. ใบงาน 4. ชุดสาธิตการต่อวงจรไฟฟูา 4. สื่อออนไลน์ การวัดผลประเมนิ ผล วิธีการวัด 1. สังเกตพฤติกรรมระหวา่ งการเรยี นรแู้ ละกระบวนการกลมุ่ 2. วดั ความรู้จากการทากจิ กรรมในใบงาน เคร่ืองมอื 1. ใบงาน เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 1. นกั ศกึ ษามีผลคะแนนในการทดสอบไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 50 2. การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ แหล่งการเรียนร้/ู สบื ค้นข้อมูลเพ่มิ เติม 1. ห้องสมุดประชาชน 2. กศน. ตาบล 3. แหลล่ งเรยี นรูส้ ารสนเทศ 4. lnternet
~ 38 ~ แผนการจดั การเรยี นรู้ คร้ังท่ี 4 สาระความรู้พนื้ ฐาน รายวิชา การใช้พลังงานไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวนั 1 พว 12011 ระดบั ประถมศึกษา แผนการจัดการเรียนร้เู รื่องที่ 4 การประหยดั พลงั งานไฟฟา้ เวลา 3 ชั่วโมง สอนวันที่…….……เดือน……………..……..พ.ศ................. ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเก่ียวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ส่ิงมีชีวิตระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ในท้องถ่ินประเทศและโลก สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ในการ ดาเนนิ ชีวิต ตวั ชี้วัด 1. บอกกลยุทธ์การประหยัดพลังงานไฟฟูา 2. จาแนกฉลากเบอร์ 5 ของแท้กบั ของลอกเลยี นแบบ 3. เลอื กใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟูาได้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กาหนดให้ 4. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ประหยัดพลงั งานไฟฟูาในครัวเรือน สาระสาคัญ การใชพ้ ลงั งานไฟฟูาให้เกิดความคมุ้ ค่าและประหยัด ผู้ใช้ต้องรูจ้ กั วิธกี ารประหยดั พลังงาน ไฟฟูาและวางแผนการใช้พลงั งานไฟฟูาในครวั เรอื นอยา่ งเหมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพือ่ สามารถบอกกลยุทธ์การประหยัดพลงั งานไฟฟูาได้ 2. เพ่อื ให้มีทักษะ เจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 3. เพอื่ นาความรไู้ ปเป็นแนวปฏบิ ตั ิการประหยัดพลงั งานไฟฟาู ในครวั เรือน สาระการเรยี นรู้ 1. กลยทุ ธ์การประหยัดพลงั งานไฟฟูา 2. แนวปฏิบตั ิการประหยดั พลังงานไฟฟาู ในครวั เรือน
~ 39 ~ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝุร้ไู ผเ่ รยี น ศกึ ษาใบความรู้ จากแบบเรียน 2. มีวินยั ทางานตามที่ครมู อบหมายไดท้ ันเวลา 3. ขยัน มงุ่ มน่ั ในการทางาน ทาใบงาน ทากจิ กรรมกลุ่ม 4. มคี วามสามัคคี มีน้าใจ มีความรับผดิ ชอบ ช่วยเหลือกนั ทากิจกรรมกลุ่ม ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. ใบงาน 2. รายงาน กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน - ครูและผเู้ รยี นร่วมกันสรา้ งความเขา้ ใจของกลยุทธก์ ารประหยัดพลงั งานไฟฟูา ขัน้ สอน - ผเู้ รยี นศึกษาค้นควา้ เกี่ยวกับความหมายของการประหยัดพลงั งานไฟฟูา - ครแู ละผูเ้ รยี นแลกเปล่ียนเรียนรู้ โดยใชค้ าถามปลายเปิดในการชวนคิด ชวนคุย เพอื่ หา ขอ้ สรปุ ในการเลือกใชเ้ ทคโนโลยไี ด้อย่างเหมาะสม - ครแู ละผ้เู รยี นร่วมกันแสดงความเขา้ ใจเก่ียวกบั การประหยัดพลังงานไฟฟูาในครัวเรือน - ครูและผเู้ รียนอภิปรายรว่ มกันถึงการนาเสนอเกย่ี วกับการประหยดั พลงั งานไฟฟูาใน ครัวเรอื น ขั้นสรุป - ครูผสู้ อนสรปุ เนอ้ื หาและเติมเต็มองค์ความรู้พร้อมมอบหมายงานให้ไปศึกษาดว้ ยตนเอง เพิ่มเติม สอื่ การเรียนการสอน 1. ใบความรู้ 2. หนงั สอื บทเรียน 3. สื่อออนไลน์ การวัดผลประเมนิ ผล วธิ ีการวดั 1. สงั เกตพฤติกรรมระหว่างการเรยี นรู้และกระบวนการกลมุ่ 2. วดั ความรูจ้ ากการทากิจกรรมในใบงาน
~ 40 ~ เครือ่ งมอื 1. ใบงาน เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 1. นกั ศกึ ษามีผลคะแนนในการทดสอบไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 50 2. การมสี ่วนร่วมในกิจกรรมกลมุ่ แหล่งการเรยี นร้/ู สืบค้นขอ้ มูลเพม่ิ เติม 1. หอ้ งสมุดประชาชน 2. กศน. ตาบล 3. แหล่ลงเรียนรสู้ ารสนเทศ 4. lnternet
~ 41 ~ แบบทดสอบความรู้ออนไลน์ รายวิชาพลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวนั 1 (พว12010) ระดบั ประถมศึกษา กศน.อาเภอแสวงหา สานักงาน กศน.จังหวดั คาช้ีแจง จงเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. ข้อใดเปน็ อปุ กรณ์ในการต่อเซลล์ไฟฟาู อย่าง 5. ของใชช้ นิดใดที่มีทงั้ สว่ นประกอบทเ่ี ปน็ ง่าย ตัวนาไฟฟูาและฉนวนไฟฟูา ก. หลอดไฟ สายไฟ เซลล์ไฟฟูา สวิตช์ ก. ชอ้ น ข. หลอดไฟ มอเตอร์ ออดไฟฟูา ข. ไขควง ค. สายไฟ หลอดไฟ แหลง่ กาเนิดไฟฟาู ค. ตะเกยี บ ง. เซลล์ไฟฟูา แบตเตอร่ี มอเตอร์ ง. ส้อม 2. อุปกรณ์ไฟฟาู จะทางานได้เมอ่ื วงจรไฟฟูามี 6. ต้องใชว้ ตั ถุใดเช่ือมต่อกับวงจรไฟฟูาจงึ จะ ลกั ษณะเป็นอย่างไร ทาให้หลอดไฟสวา่ ง ก. วงจรลัด ก. คลปิ ข. วงจรสนั้ ข. หนังยาง ค. วงจรปิด ค. ดินสอ ง. วงจรเปิด ง. เชอื ก 3. ทิศทางการไหลของกระแสไฟฟูาเปน็ 7. วตั ถุใดนาไฟฟาู ไดด้ ที ่สี ดุ อย่างไร ก. เหล็ก ก. ออกจากข้ัว - ไปยงั ข้วั + ข. เงิน ข. ออกจากขวั้ + ไปยงั ขัว้ - ค. ทองแดง ค. ออกจากข้ัว + และข้ัว - สลบั กัน ง. อลมู ิเนยี ม ง. ไหลไปในทศิ ทางเดียวกัน 4. ของเลน่ ในข้อใดไม่มสี ว่ นประกอบของ 8. เพราะเหตใุ ดจงึ ไม่ควรพาดสายไฟบนร้ัว วงจรไฟฟูา สังกะสี ก. รถบงั คับวทิ ยุ ก. จะทาใหร้ ้ัวชารุด ข. ปนื ท่ยี ิงแล้วมแี สง ข. จะทาใหร้ ้วั เป็นสนิม ค. หุ่นยนต์ทีเ่ ดินได้ ค. จะทาใหฉ้ นวนท่ีหุ้มฉีกขาด ง. ตุ๊กตาล้มลุก ง. จะทาให้กระแสไฟฟาู ลดลง
~ 42 ~ 9. ส่ิงใดที่ใช้หลกั การของแมเ่ หล็กไฟฟูาในการ 13. ข้อใดไม่ใชว่ ิธปี อู งกนั อนั ตรายทเี่ กิดจาก ทางานโดยตรง ไฟฟาู ก. วิทยุสอ่ื สาร ก. สวมถุงมอื ยางระหว่างปฏบิ ัตงิ าน ข. กระดงิ่ ไฟฟาู ข. ใช้มือดงึ ตวั ผ้กู ่อนโดนไฟดูดอย่างรวดเร็ว ค. เคร่ืองสบู น้า ค. ตอ่ สายดินอปุ กรณ์ไฟฟาู ง. รโี มทคอนโทรล ง. ตัดวงจรไฟฟูาก่อนปฏบิ ัตงิ าน 10. ปน้ั จัน่ สาหรับเคลือ่ นยา้ ยสงิ่ ของ ท่ีใช้ 14. ข้อใดไม่ใช่หลักความปลอดภยั ในงาน หลกั การของแม่เหลก็ ไฟฟาู จะใชไ้ ด้กับส่ิงใด ไฟฟูาและอเิ ล็กทรอนิกส์ ก. ยางรถยนต์ ก. ใช้กระดาษพลางหลอดไฟ ข. ซากรถยนต์ ข. ตรวจสอบความสมบรู ณข์ องเครื่องมอื ก่อน ค. ขดลวดทองแดง ใช้งานทุกคร้ัง ง. กองขวดพลาสติก ค. ตัดวงจรไฟฟาู ก่อนปฏบิ ตั งิ าน ง. เขยี นปูายแจ้งเตือนทุกครั้งก่อนปฏบิ ตั ิงาน 11. รถไฟความเร็วสูงเปน็ ประโยชน์ของ แมเ่ หล็กไฟฟาู ด้านใด 15. ขอ้ ใดคอื ไม่ใช่ การปฐมพยาบาลผู้ได้รบั ก. การส่ือสาร อันตรายจากกระแสไฟฟาู ข. การแยกโลหะ ก. วางผปู้ ุวยให้นอนหงายแล้วช้อนคอให้แหงน ค. การคมนาคม ข้ึน ง. การประกอบเคร่ืองใช้ไฟฟูา ข. นาสิ่งอุดตนั ออกจากช่องปาก ค. ปลดแหลง่ จ่ายไฟฟูาทันที 12. ขอ้ ใดคือลักษณะของการถกู ไฟฟูาดดู ง. นวดหวั ใจ ก. กระแสไฟฟาู รว่ั ลงโครงอุปกรณ์ ข. กระแสไฟฟาู ไหลผ่านรา่ งกายมนุษย์ลงสดู่ นิ 16. ข้อใดไม่เก่ียวขอ้ งกบั ค่าความจุของ ค. สายไลนก์ ับสายนวิ ตรอนสัมผัสกนั แบตเตอร่ี ง. ถูกทุกข้อ ก. จานวนขั้ว ข. กระแสที่จา่ ยออก ค. อุณหภมู ิ ง. เวลาในการจา่ ยกระแส
~ 43 ~ 17. ข้อใดจัดเปน็ องค์ประกอบหลกั ของ 19. ขอ้ ใดเป็นส่วนผสมของฟิวส์ วงจรไฟฟูา ก. ตะกว่ั ผสมทองแดง ก. แผงวงจร ข. ตะกว่ั ผสมดบี ุก ข. ตัวนา ค. ตะกว่ั ผสมเงิน ค. โวลทม์ เิ ตอร์ ง. ตะกั่วผสมอะลูมเิ นยี ม ง. โคมไฟ 20. ฟิวส์ทาหน้าท่ีอะไรในวงจรไฟฟูา 18. การตอ่ วงจรปลกั๊ ตามบ้านพักอาศยั ต่อ ก. ตัดวงจรไฟฟูาเม่ือมีกระแสไฟฟาู เกินใน วงจรแบบใด วงจร ก. อนุกรม ข. ตดั วงจรไฟฟาู เม่ือมีกระแสไฟฟูาในวงจรตก ข. ผสม ค. ตัดวงจรไฟฟูาเมื่อเกิดไฟดูด ค. อนั ดับ ง. รกั ษาระดับแรงดันไฟฟาู ง. ขนาน
Search