Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 164326_พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550

164326_พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550

Published by Dr.Panjachat Ratanamongkol,MD, 2018-06-17 09:03:19

Description: 164326_พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550

Search

Read the Text Version

พระราชบญั ญตั วิ าดวยการกระทาํ ความผิดเกยี่ วกบั คอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐

ช่อื กฎหมาย พระราชบญั ญตั ิวาดวยการกระทาํ ความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๒๔ / ตอนที่ ๒๗ ก / หนา ๔ / วันท่ี ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๐เรม่ิ บงั คบั ใช วันท่ี ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๐ผูรกั ษาการ รัฐมนตรีวาการกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร

เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก หนา ๔ ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๐ ราชกจิ จานุเบกษา พระราชบญั ญัติ วาดวยการกระทาํ ความผิดเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไ ว ณ วนั ที่ ๑๐ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๐ เปน ปที่ ๖๒ ในรชั กาลปจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯใหประกาศวา โดยท่เี ปนการสมควรมกี ฎหมายวา ดวยการกระทําความผิดเกยี่ วกับคอมพิวเตอร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบัญญัติขึ้นไวโดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบญั ญตั แิ หงชาติ ดงั ตอไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกวา “พระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับเม่ือพนกําหนดสามสิบวันนับแตวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปนตน ไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “ระบบคอมพวิ เตอร” หมายความวา อปุ กรณหรือชดุ อุปกรณของคอมพวิ เตอรทีเ่ ชื่อมการทํางานเขาดวยกัน โดยไดมีการกําหนดคําสั่ง ชุดคําส่ัง หรือส่ิงอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานใหอุปกรณหรือชุดอุปกรณทําหนา ทป่ี ระมวลผลขอ มูลโดยอตั โนมัติ

เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๒๗ ก หนา ๕ ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๕๐ ราชกจิ จานเุ บกษา “ขอมลู คอมพิวเตอร” หมายความวา ขอมูล ขอความ คําสั่ง ชุดคําสั่ง หรือส่ิงอ่ืนใดบรรดาทอี่ ยใู นระบบคอมพวิ เตอรใ นสภาพที่ระบบคอมพิวเตอรอาจประมวลผลได และใหหมายความรวมถึงขอ มลู อเิ ล็กทรอนิกสตามกฎหมายวา ดวยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกสด ว ย “ขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอร” หมายความวา ขอมูลเกี่ยวกับการติดตอสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร ซ่ึงแสดงถึงแหลงกําเนิด ตนทาง ปลายทาง เสนทาง เวลา วันท่ี ปริมาณ ระยะเวลาชนดิ ของบริการ หรอื อ่นื ๆ ท่ีเกยี่ วขอ งกบั การติดตอ สือ่ สารของระบบคอมพวิ เตอรนนั้ “ผใู หบรกิ าร” หมายความวา (๑) ผูใหบริการแกบุคคลอื่นในการเขาสูอินเทอรเน็ต หรือใหสามารถติดตอถึงกันโดยประการอ่นื โดยผา นทางระบบคอมพิวเตอร ทงั้ น้ี ไมวา จะเปนการใหบริการในนามของตนเอง หรือในนามหรอื เพ่ือประโยชนของบุคคลอื่น (๒) ผูใ หบ รกิ ารเก็บรกั ษาขอ มลู คอมพิวเตอรเ พ่ือประโยชนข องบุคคลอน่ื “ผใู ชบรกิ าร” หมายความวา ผูใชบ รกิ ารของผใู หบ รกิ ารไมวา ตองเสยี คาใชบ รกิ ารหรอื ไมกต็ าม “พนกั งานเจาหนาที”่ หมายความวา ผซู ึ่งรฐั มนตรีแตงตั้งใหป ฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญัติน้ี “รฐั มนตร”ี หมายความวา รัฐมนตรีผรู ักษาการตามพระราชบญั ญัติน้ี มาตรา ๔ ใหรฐั มนตรีวา การกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี และใหม อี ํานาจออกกฎกระทรวงเพ่อื ปฏบิ ตั ิการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎกระทรวงนัน้ เมื่อไดประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลวใหใชบังคับได หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร มาตรา ๕ ผูใดเขาถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอรที่มีมาตรการปองกันการเขาถึงโดยเฉพาะและมาตรการน้ันมิไดมไี วสาํ หรับตน ตอ งระวางโทษจําคุกไมเกินหกเดือน หรือปรับไมเกินหน่งึ หมนื่ บาท หรอื ทงั้ จาํ ทงั้ ปรับ มาตรา ๖ ผูใดลว งรมู าตรการปอ งกนั การเขาถงึ ระบบคอมพิวเตอรท ่ีผูอ่นื จดั ทาํ ข้นึ เปน การเฉพาะถา นาํ มาตรการดงั กลา วไปเปด เผยโดยมิชอบในประการที่นา จะเกิดความเสียหายแกผูอื่น ตองระวางโทษจําคุกไมเกนิ หนึง่ ป หรอื ปรบั ไมเกนิ สองหมนื่ บาท หรือท้งั จําทั้งปรบั

เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก หนา ๖ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๕๐ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๗ ผใู ดเขา ถึงโดยมชิ อบซึง่ ขอ มลู คอมพิวเตอรที่มีมาตรการปองกันการเขาถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิไดมีไวสําหรับตน ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสองปหรือปรับไมเกินสี่หมื่นบาทหรอื ทัง้ จาํ ทง้ั ปรบั มาตรา ๘ ผใู ดกระทําดวยประการใดโดยมิชอบดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสเพื่อดักรับไวซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรของผูอื่นท่ีอยูระหวางการสงในระบบคอมพิวเตอร และขอมูลคอมพิวเตอรนั้นมิไดมีไวเพื่อประโยชนสาธารณะหรือเพ่ือใหบุคคลทั่วไปใชประโยชนไดตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือปรบั ไมเกินหกหมนื่ บาท หรือทง้ั จําท้ังปรับ มาตรา ๙ ผูใ ดทําใหเ สียหาย ทําลาย แกไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไมวาท้ังหมดหรือบางสวน ซ่งึ ขอมลู คอมพวิ เตอรข องผอู ื่นโดยมชิ อบ ตอ งระวางโทษจําคุกไมเกินหาป หรือปรับไมเกินหนงึ่ แสนบาท หรือทง้ั จาํ ทงั้ ปรบั มาตรา ๑๐ ผูใดกระทําดว ยประการใดโดยมชิ อบ เพื่อใหการทํางานของระบบคอมพิวเตอรของผอู ่นื ถกู ระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไมสามารถทํางานตามปกติไดตองระวางโทษจําคุกไมเ กนิ หา ป หรือปรบั ไมเ กินหนึง่ แสนบาท หรือทง้ั จาํ ทั้งปรบั มาตรา ๑๑ ผูใดสงขอมูลคอมพิวเตอรหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกสแกบุคคลอ่ืนโดยปกปดหรอื ปลอมแปลงแหลงทม่ี าของการสงขอมูลดังกลาว อันเปน การรบกวนการใชระบบคอมพิวเตอรของบคุ คลอื่นโดยปกตสิ ขุ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเ กินหนง่ึ แสนบาท มาตรา ๑๒ ถา การกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๙ หรอื มาตรา ๑๐ (๑) กอใหเกิดความเสียหายแกประชาชน ไมวาความเสียหายนั้นจะเกิดข้ึนในทันทีหรือในภายหลังและไมวาจะเกิดขึ้นพรอมกันหรือไม ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสิบป และปรับไมเกินสองแสนบาท (๒) เปนการกระทําโดยประการท่ีนาจะเกิดความเสียหายตอขอมูลคอมพิวเตอร หรือระบบคอมพิวเตอรท ีเ่ กี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกจิ ของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรอื เปนการกระทําตอขอมูลคอมพิวเตอรหรือระบบคอมพิวเตอรที่มีไวเพ่ือประโยชนสาธารณะ ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสามปถึงสิบหาป และปรับต้งั แตห กหมืน่ บาทถึงสามแสนบาท ถาการกระทาํ ความผิดตาม (๒) เปนเหตุใหผูอ่ืนถึงแกความตาย ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสิบปถงึ ยส่ี บิ ป

เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก หนา ๗ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๑๓ ผใู ดจําหนา ยหรอื เผยแพรช ดุ คําสง่ั ทจี่ ัดทําขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนําไปใชเปนเคร่ืองมือในการกระทําความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ตองระวางโทษจาํ คุกไมเกินหนงึ่ ป หรือปรับไมเกินสองหมน่ื บาท หรอื ท้งั จําทงั้ ปรับ มาตรา ๑๔ ผูใดกระทําความผิดท่รี ะบุไวดังตอไปนี้ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหาป หรือปรับไมเ กนิ หนงึ่ แสนบาท หรอื ท้ังจาํ ทงั้ ปรับ (๑) นําเขา สรู ะบบคอมพิวเตอรซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรปลอมไมวาทั้งหมดหรือบางสวน หรือขอ มลู คอมพิวเตอรอ นั เปนเทจ็ โดยประการทน่ี าจะเกดิ ความเสยี หายแกผ ูอ นื่ หรือประชาชน (๒) นําเขาสูระบบคอมพิวเตอรซ่ึงขอมูลคอมพิวเตอรอันเปนเท็จ โดยประการท่ีนาจะเกิดความเสียหายตอ ความม่นั คงของประเทศหรอื กอ ใหเ กิดความตืน่ ตระหนกแกประชาชน (๓) นําเขาสูระบบคอมพิวเตอรซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรใด ๆ อันเปนความผิดเก่ียวกับความมั่นคงแหง ราชอาณาจกั รหรือความผิดเก่ยี วกบั การกอการรา ยตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นําเขาสูระบบคอมพิวเตอรซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรใด ๆ ท่ีมีลักษณะอันลามกและขอมลู คอมพิวเตอรนัน้ ประชาชนท่วั ไปอาจเขา ถงึ ได (๕) เผยแพรห รอื สงตอ ซ่ึงขอมูลคอมพิวเตอรโดยรูอยูแลววาเปนขอมูลคอมพิวเตอรตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๕ ผใู หบ ริการผใู ดจงใจสนบั สนุนหรือยินยอมใหม ีการกระทาํ ความผิดตามมาตรา ๑๔ในระบบคอมพิวเตอรที่อยูในความควบคุมของตน ตองระวางโทษเชนเดียวกับผูกระทําความผิดตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๑๖ ผูใดนําเขาสูระบบคอมพิวเตอรท่ีประชาชนท่ัวไปอาจเขาถึงไดซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรที่ปรากฏเปนภาพของผูอื่น และภาพน้ันเปนภาพท่ีเกิดจากการสรางขึ้น ตัดตอ เติมหรอื ดดั แปลงดว ยวธิ กี ารทางอิเล็กทรอนิกสหรือวิธีการอ่ืนใด ทั้งน้ี โดยประการท่ีนาจะทําใหผูอ่ืนนั้นเสียชอ่ื เสยี ง ถูกดหู มนิ่ ถูกเกลียดชัง หรือไดรับความอับอาย ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือปรับไมเกนิ หกหมืน่ บาท หรือทงั้ จําทงั้ ปรับ ถาการกระทาํ ตามวรรคหนง่ึ เปนการนาํ เขาขอ มูลคอมพิวเตอรโดยสุจริต ผกู ระทาํ ไมม ีความผดิ ความผิดตามวรรคหน่ึงเปนความผดิ อนั ยอมความได ถาผูเสียหายในความผิดตามวรรคหน่ึงตายเสียกอนรองทุกข ใหบิดา มารดา คูสมรส หรือบตุ รของผเู สยี หายรอ งทุกขไ ด และใหถือวาเปนผูเสียหาย มาตรา ๑๗ ผูใดกระทําความผิดตามพระราชบญั ญตั ินนี้ อกราชอาณาจกั รและ

เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๒๗ ก หนา ๘ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๕๐ ราชกิจจานุเบกษา (๑) ผูกระทําความผิดน้ันเปนคนไทย และรัฐบาลแหงประเทศที่ความผิดไดเกิดข้ึนหรือผเู สียหายไดรอ งขอใหลงโทษ หรอื (๒) ผูกระทําความผิดน้ันเปนคนตางดาว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเปนผูเสียหายและผูเสียหายไดร องขอใหล งโทษ จะตองรับโทษภายในราชอาณาจักร หมวด ๒ พนกั งานเจา หนาที่ มาตรา ๑๘ ภายใตบังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชนใ นการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตอุ นั ควรเชือ่ ไดว า มกี ารกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจอยางหน่ึงอยา งใด ดังตอไปน้ี เฉพาะที่จําเปนเพ่ือประโยชนในการใชเปนหลักฐานเกี่ยวกับการกระทําความผิดและหาตัวผูกระทําความผดิ (๑) มีหนังสอื สอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกีย่ วขอ งกับการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติน้ีมาเพ่อื ใหถอยคํา สงคาํ ชีแ้ จงเปน หนงั สอื หรอื สงเอกสาร ขอ มูล หรือหลักฐานอื่นใดท่ีอยูในรูปแบบที่สามารถเขา ใจได (๒) เรียกขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอรจากผูใหบริการเก่ียวกับการติดตอสื่อสารผานระบบคอมพวิ เตอรห รอื จากบุคคลอ่ืนทเ่ี กี่ยวขอ ง (๓) ส่งั ใหผใู หบ รกิ ารสงมอบขอมูลเก่ียวกับผูใชบริการท่ีตองเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยูในความครอบครองหรือควบคมุ ของผูใหบ รกิ ารใหแกพนกั งานเจาหนา ที่ (๔) ทําสําเนาขอมูลคอมพิวเตอร ขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอร จากระบบคอมพิวเตอรทม่ี เี หตอุ นั ควรเชอ่ื ไดว า มีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีท่ีระบบคอมพิวเตอรนั้นยังมิไดอยูใ นความครอบครองของพนกั งานเจาหนาที่ (๕) สั่งใหบุคคลซ่ึงครอบครองหรือควบคุมขอมูลคอมพิวเตอร หรืออุปกรณที่ใชเก็บขอ มูลคอมพิวเตอร สงมอบขอ มลู คอมพิวเตอร หรอื อปุ กรณดงั กลาวใหแกพ นักงานเจาหนา ท่ี (๖) ตรวจสอบหรือเขา ถึงระบบคอมพิวเตอร ขอมูลคอมพวิ เตอร ขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอรหรอื อุปกรณทีใ่ ชเ ก็บขอ มูลคอมพิวเตอรของบุคคลใด อนั เปนหลกั ฐานหรืออาจใชเปนหลักฐานเก่ียวกับการกระทําความผดิ หรือเพือ่ สบื สวนหาตัวผูกระทําความผิดและสั่งใหบุคคลน้ันสงขอมูลคอมพิวเตอรขอมูลจราจรทางคอมพวิ เตอร ที่เกยี่ วขอ งเทาท่ีจาํ เปน ใหดว ยก็ได

เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๒๗ ก หนา ๙ ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๐ ราชกิจจานุเบกษา (๗) ถอดรหัสลับของขอมูลคอมพิวเตอรของบุคคลใด หรือส่ังใหบุคคลที่เก่ียวของกับการเขา รหัสลับของขอมูลคอมพวิ เตอร ทําการถอดรหัสลับ หรือใหความรวมมือกับพนักงานเจาหนาที่ในการถอดรหัสลับดงั กลา ว (๘) ยดึ หรอื อายัดระบบคอมพิวเตอรเ ทา ทจ่ี ําเปนเฉพาะเพอื่ ประโยชนในการทราบรายละเอียดแหงความผิดและผูกระทาํ ความผดิ ตามพระราชบัญญตั นิ ี้ มาตรา ๑๙ การใชอํานาจของพนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) ใหพนักงานเจาหนาที่ย่ืนคํารองตอศาลที่มีเขตอํานาจเพื่อมีคําส่ังอนุญาตใหพนักงานเจาหนาที่ดําเนนิ การตามคํารอ ง ท้งั น้ี คํารองตอ งระบเุ หตุอันควรเช่อื ไดว าบุคคลใดกระทาํ หรือกําลงั จะกระทําการอยางหน่ึงอยางใดอันเปนความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี เหตุท่ีตองใชอํานาจ ลักษณะของการกระทําความผิด รายละเอียดเก่ียวกับอุปกรณที่ใชในการกระทําความผิดและผูกระทําความผิด เทาท่ีสามารถจะระบไุ ด ประกอบคาํ รอ งดว ยในการพิจารณาคํารองใหศาลพิจารณาคาํ รอ งดังกลา วโดยเรว็ เม่ือศาลมคี าํ ส่งั อนุญาตแลว กอนดาํ เนินการตามคําสง่ั ของศาล ใหพ นกั งานเจาหนาที่สงสําเนาบันทึกเหตุอันควรเช่ือท่ีทําใหตองใชอํานาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบใหเจาของหรือผูครอบครองระบบคอมพิวเตอรนั้นไวเปนหลักฐาน แตถาไมมีเจาของหรือผูครอบครองเคร่ืองคอมพิวเตอรอยู ณ ที่นั้น ใหพนักงานเจาหนาที่สงมอบสําเนาบันทึกน้ันใหแกเจาของหรือผคู รอบครองดังกลา วในทนั ทที ี่กระทาํ ได ใหพ นกั งานเจาหนา ที่ผูเ ปนหัวหนา ในการดาํ เนนิ การตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) สงสําเนาบันทึกรายละเอียดการดําเนินการและเหตุผลแหงการดําเนินการใหศาลท่ีมีเขตอํานาจภายในส่ีสิบแปดชวั่ โมงนับแตเวลาลงมอื ดาํ เนินการ เพอ่ื เปน หลักฐาน การทําสาํ เนาขอ มลู คอมพวิ เตอรตามมาตรา ๑๘ (๔) ใหก ระทาํ ไดเ ฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเช่ือไดวามีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และตองไมเปนอุปสรรคในการดําเนินกิจการของเจาของหรือผูครอบครองขอ มลู คอมพิวเตอรนัน้ เกินความจําเปน การยดึ หรอื อายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะตองสงมอบสําเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบใหเ จาของหรอื ผูค รอบครองระบบคอมพิวเตอรน้ันไวเปนหลักฐานแลวพนักงานเจาหนาท่ีจะสง่ั ยึดหรอื อายดั ไวเกินสามสิบวันมิได ในกรณีจําเปนท่ีตองยึดหรืออายัดไวนานกวานั้น ใหย่ืนคํารองตอศาลท่ีมีเขตอํานาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได แตศาลจะอนุญาตใหขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันไดอีกไมเกินหกสิบวัน เม่ือหมดความจําเปนท่ีจะยึดหรืออายัดหรือครบกําหนดเวลาดังกลาวแลว พนักงานเจา หนา ทีต่ องสง คนื ระบบคอมพิวเตอรท ่ยี ดึ หรอื ถอนการอายัดโดยพลัน

เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก หนา ๑๐ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ ราชกิจจานุเบกษา หนงั สอื แสดงการยดึ หรืออายดั ตามวรรคหา ใหเปน ไปตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๒๐ ในกรณีท่ีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เปนการทําใหแพรหลายซ่ึงขอ มูลคอมพวิ เตอรท ี่อาจกระทบกระเทือนตอ ความม่นั คงแหงราชอาณาจักรตามท่ีกําหนดไวในภาคสองลกั ษณะ ๑ หรือลกั ษณะ ๑/๑ แหงประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดตอความสงบเรียบรอยหรอื ศีลธรรมอันดขี องประชาชน พนกั งานเจาหนาทีโ่ ดยไดรบั ความเหน็ ชอบจากรฐั มนตรีอาจย่ืนคํารองพรอมแสดงพยานหลักฐานตอศาลท่ีมีเขตอํานาจขอใหมีคําสั่งระงับการทําใหแพรหลายซ่ึงขอมูลคอมพวิ เตอรน ัน้ ได ในกรณีท่ีศาลมีคําส่ังใหระงับการทําใหแพรหลายซึ่งขอมูลคอมพิวเตอรตามวรรคหนึ่ง ใหพนักงานเจาหนาท่ีทําการระงับการทําใหแพรหลายน้ันเอง หรือสั่งใหผูใหบริการระงับการทําใหแพรห ลายซ่ึงขอมลู คอมพวิ เตอรนนั้ ก็ได มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พนักงานเจาหนาท่ีพบวา ขอมูลคอมพิวเตอรใดมีชุดคําส่ังไมพึงประสงครวมอยูดวย พนักงานเจาหนาท่ีอาจยื่นคํารองตอศาลที่มีเขตอํานาจเพ่ือขอใหมีคําส่ังหามจาํ หนายหรือเผยแพร หรือสั่งใหเจาของหรือผูครอบครองขอมูลคอมพิวเตอรน้ันระงับการใช ทําลายหรือแกไขขอมูลคอมพิวเตอรนั้นได หรือจะกําหนดเง่ือนไขในการใช มีไวในครอบครอง หรือเผยแพรช ุดคําส่ังไมพ งึ ประสงคดงั กลาวกไ็ ด ชดุ คําสง่ั ไมพ ึงประสงคตามวรรคหน่ึงหมายถึงชุดคําสั่งท่ีมีผลทําใหขอมูลคอมพิวเตอร หรือระบบคอมพิวเตอรหรือชุดคําส่ังอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทําลาย ถูกแกไขเปล่ียนแปลงหรือเพิ่มเติมขดั ของ หรือปฏบิ ัตงิ านไมตรงตามคําสง่ั ท่กี ําหนดไว หรอื โดยประการอน่ื ตามทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวงทง้ั น้ี เวน แตเปนชุดคําสั่งท่ีมุงหมายในการปองกันหรือแกไขชุดคําส่ังดังกลาวขางตน ตามท่ีรัฐมนตรีประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๒๒ หามมิใหพนักงานเจาหนาที่เปดเผยหรือสงมอบขอมูลคอมพิวเตอร ขอมูลจราจรทางคอมพวิ เตอร หรอื ขอมูลของผูใ ชบ รกิ าร ที่ไดมาตามมาตรา ๑๘ ใหแกบุคคลใด ความในวรรคหนงึ่ มิใหใ ชบ ังคบั กับการกระทําเพ่ือประโยชนในการดําเนินคดีกับผูกระทําความผิดตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ หรือเพื่อประโยชนในการดําเนนิ คดีกับพนักงานเจาหนาท่ีเก่ียวกับการใชอํานาจหนาที่โดยมิชอบ หรอื เปนการกระทําตามคําสง่ั หรือท่ไี ดร บั อนญุ าตจากศาล พนักงานเจาหนาที่ผูใดฝาฝนวรรคหน่ึงตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือปรับไมเกินหกหม่ืนบาท หรอื ทงั้ จําทัง้ ปรับ

เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๒๗ ก หนา ๑๑ ๑๘ มิถนุ ายน ๒๕๕๐ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๒๓ พนกั งานเจา หนาทผ่ี ใู ดกระทําโดยประมาทเปนเหตุใหผูอื่นลวงรูขอมูลคอมพิวเตอรขอ มลู จราจรทางคอมพิวเตอร หรือขอ มูลของผใู ชบริการ ทไี่ ดม าตามมาตรา ๑๘ ตองระวางโทษจําคุกไมเ กินหน่ึงป หรือปรบั ไมเกนิ สองหม่นื บาท หรือทั้งจาํ ท้งั ปรบั มาตรา ๒๔ ผูใดลวงรูขอมูลคอมพิวเตอร ขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอรหรือขอมูลของผใู ชบรกิ าร ทพี่ นักงานเจา หนาท่ีไดม าตามมาตรา ๑๘ และเปดเผยขอมูลน้ันตอผูหน่ึงผูใด ตองระวางโทษจาํ คุกไมเ กนิ สองป หรอื ปรบั ไมเ กินสี่หม่ืนบาท หรอื ทั้งจําทงั้ ปรับ มาตรา ๒๕ ขอ มลู ขอ มูลคอมพวิ เตอร หรอื ขอ มลู จราจรทางคอมพิวเตอรท่ีพนักงานเจาหนาท่ีไดมาตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ใหอางและรับฟงเปนพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแหงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันวาดวยการสบื พยานได แตต องเปนชนิดที่มิไดเกิดข้ึนจากการจูงใจมีคําม่นั สัญญา ขเู ข็ญ หลอกลวง หรือโดยมชิ อบประการอ่นื มาตรา ๒๖ ผูใหบ รกิ ารตองเกบ็ รักษาขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอรไวไมนอยกวาเกาสิบวันนับแตวันท่ขี อมูลน้นั เขาสรู ะบบคอมพวิ เตอร แตในกรณีจําเปนพนักงานเจาหนาที่จะสั่งใหผูใหบริการผใู ดเก็บรักษาขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอรไวเกินเกาสิบวันแตไมเกินหนึ่งปเปนกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได ผูใหบ ริการจะตองเก็บรักษาขอ มลู ของผใู ชบริการเทาท่ีจําเปนเพื่อใหสามารถระบุตัวผูใชบริการนบั ต้งั แตเริม่ ใชบรกิ ารและตองเก็บรักษาไวเ ปน เวลาไมนอ ยกวาเกา สบิ วนั นับต้งั แตการใชบรกิ ารสิน้ สดุ ลง ความในวรรคหน่งึ จะใชก บั ผูใ หบ ริการประเภทใด อยางไร และเมือ่ ใด ใหเปนไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ผใู หบ ริการผูใดไมป ฏบิ ตั ิตามมาตราน้ี ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หา แสนบาท มาตรา ๒๗ ผูใดไมปฏิบัติตามคําส่ังของศาลหรือพนักงานเจาหนาที่ท่ีส่ังตามมาตรา ๑๘หรือมาตรา ๒๐ หรอื ไมปฏิบัติตามคําสงั่ ของศาลตามมาตรา ๒๑ ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ สองแสนบาทและปรับเปน รายวันอกี ไมเกนิ วันละหาพนั บาทจนกวา จะปฏิบัติใหถ กู ตอง มาตรา ๒๘ การแตง ต้งั พนักงานเจา หนา ทีต่ ามพระราชบัญญตั ินี้ ใหรฐั มนตรแี ตง ตัง้ จากผูม คี วามรูและความชํานาญเกย่ี วกับระบบคอมพวิ เตอรและมคี ณุ สมบตั ิตามทร่ี ัฐมนตรกี าํ หนด มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหนาท่ีตามพระราชบัญญัตินี้ ใหพนักงานเจาหนาท่ีเปนพนักงานฝา ยปกครองหรือตาํ รวจช้ันผูใหญตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอํานาจรับคํารองทุกขหรือรบั คาํ กลาวโทษ และมอี าํ นาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบญั ญตั นิ ี้

เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๒๗ ก หนา ๑๒ ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๕๐ ราชกิจจานุเบกษา ในการจับ ควบคุม คน การทําสํานวนสอบสวนและดําเนินคดีผูกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี บรรดาท่ีเปนอํานาจของพนักงานฝายปกครองหรือตํารวจชั้นผูใหญ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา ใหพนักงานเจาหนาท่ีประสานงานกับพนักงานสอบสวนผรู ับผิดชอบเพอื่ ดาํ เนินการตามอํานาจหนาท่ตี อ ไป ใหนายกรฐั มนตรใี นฐานะผกู าํ กบั ดูแลสาํ นักงานตํารวจแหงชาติและรัฐมนตรีมีอํานาจรวมกันกําหนดระเบยี บเกี่ยวกับแนวทางและวิธปี ฏบิ ตั ิในการดําเนนิ การตามวรรคสอง มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหนาที่ พนักงานเจาหนาท่ีตองแสดงบัตรประจําตัวตอบุคคลซึ่งเกยี่ วของ บตั รประจาํ ตัวของพนักงานเจา หนาท่ใี หเปน ไปตามแบบท่รี ฐั มนตรีประกาศในราชกิจจานเุ บกษาผรู ับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สรุ ยุทธ จุลานนท นายกรัฐมนตรี

เลม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก หนา ๑๓ ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๕๐ ราชกิจจานเุ บกษาหมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ เน่ืองจากในปจจุบันระบบคอมพิวเตอรไดเปนสวนสําคัญของการประกอบกิจการและการดํารงชีวิตของมนุษย หากมีผูกระทําดวยประการใด ๆ ใหระบบคอมพิวเตอรไมส ามารถทํางานตามคําส่ังที่กําหนดไวหรือทําใหการทํางานผิดพลาดไปจากคําสั่งที่กําหนดไว หรือใชวิธีการใด ๆ เขาลวงรูขอมูล แกไข หรือทําลายขอมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอรโดยมิชอบ หรือใชระบบคอมพิวเตอรเพื่อเผยแพรขอมูลคอมพิวเตอรอันเปนเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ยอมกอใหเกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนตอเศรษฐกิจ สังคม และความม่ันคงของรัฐ รวมท้ังความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกําหนดมาตรการเพื่อปองกันและปราบปรามการกระทําดังกลาว จึงจําเปนตองตราพระราชบัญญตั ินี้