เวสสันดรชาดก

หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ เรอ่ื ง เวสสันดรชาดก

เวสสันดรชาดก หรือ มหาเวสสันดรชาดก เป็นชีวประวัติเรื่อง หนึ่งในทศชาติชาดก เป็นชีว ประวัติ เรื่องหนึ่งในทศชาติชาดก กล่าวถึงพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ในการบำเพ็ญทานบาร มี ก่อนที่จะทรวงเสวยพระชาติเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีชื่อเรียก อีก อย่างว่า “มหาชาติชาดก” ในการเทศนา เรียกว่า “เทศน์มหาชาติ” ซง่ึ แบ่งได้ทง้ั หมด ๑๓ กัณฑ์ พระชาติสดุ ทา้ ยของพระโพธิสัตว์ ในการบำเพ็ญทานบารมกี ่อนเสวยพระชาติเปน็ พระพทุ ธเจ้า

เวสสันดรชาดก เปน็ เรื่องราวท่ีใชเ้ ทศนม์ หาชาติ ซ่งึ ผรู้ ับกัณฑเ์ ทศนแ์ ต่ละกณั ฑ์จะได้ บุญกศุ ลต่างกนั ไป

เวสสันดรชาดก แบง่ ออกเปน็ ๑๓ กณั ฑ์ ดงั น้ี ๑. กัณฑ์ทศพร ๘. กัณฑ์กมุ าร ๒. กัณฑ์หมิ พานต์ ๙. กัณฑ์มทั รี ๓. กณั ฑท์ านกัณฑ์ ๑๐. กณั ฑ์สกั กบรรพ ๔. กัณฑ์วนปเวสน์ ๑๑. กัณฑม์ หาราช ๕. กัณฑช์ ชู ก ๑๒. กัณฑ์ฉกษัตริย์ ๖. กัณฑ์จลุ พน ๑๓. กณั ฑน์ ครกณั ฑ์ ๗. กัณฑ์มหาพน

เนื้อเร่ืองย่อ เวสสันดรชาดก

กัณฑ์ที่ ๑ ทศพร พระอินทรท์ รงประสาทพร ๑๐ ประการ ให้แก่พระนางผุสดี ก่อนทีจ่ ะจตุ ิลงมาเป็นมารดาของพระเวสสันดร คอื ๑.ใหไ้ ด้อยูใ่ นปราสาทแห่งนครสีพี ๒.ขอใหม้ จี กั ษุดำดจุ นยั นต์ าลูกเนือ้ ๓.ขอใหม้ คี ว้ิ ดำสนิท ๔.ขอให้พระนามวา่ ผุสดี ๕.ขอใหม้ ีโอรสทย่ี ่งิ ใหญ่เหนอื กษัตริยท์ ั้งหลายและมีใจบญุ ๖.ขอใหม้ พี ระครรภแ์ บนราบ เม่ือต้ังครรภ์ ๗.ขอใหม้ ีถนั งามไม่หยอ่ นยาน ๘.ขอใหม้ เี กศาดำสนทิ ๙.ขอใหม้ ีผวิ งาม ๑๐.ขอให้มอี ำนาจปลดปลอ่ ยนักโทษได้



กัณฑ์ท่ี ๒ หิมพานต์ พระเวสสันดรประสูติ และในวันนั้นได้มี นางช้างฉัททันต์ตก ลูกเป็นช้างเผือกขาวบริสุทธิ์เป็นช้างคู่บารมี มีนามว่า \"ปัจจัยนาค\" เมื่อพระเวสสันดรเจริญชนม์ ทรงอภิเษกกับนางมัทรี มีพระโอรส ๑ องค์ชื่อ ชาลี ราชธิดาชื่อ กัณหา ต่อมาเจ้าเมืองนครกาลิงคะได้ส่ง พราหมณม์ าขอชา้ งปัจจัยนาค พระองค์จงึ พระราชทาน ให้ชาวกรุงสัญ ชยั โกรธจึงเนรเทศพระเวสสนั ดรออกจากพระนคร



กัณฑท์ ่ี ๓ ทานกณั ฑ์ ก่อนท่ีพระเวสสันดรพร้อมด้วยพระนางมทั รีและพระกุมารออก จากพระนคร จึงทลู ขอพระราชทานโอกาสบำเพญ็ ทานคร้ังยงิ่ ใหญ่ อัน ได้แก่การให้ทาน ช้าง ม้า โคนม นารี ทาสี ทาสา สรรพวัตถาภรณ์ ต่างๆ รวมทง้ั สรุ าบานอย่างละ ๗๐๐



กณั ฑ์ท่ี ๔ วนปเวสน์ พระเวสสันดร พระนางมัทรีและพระกุมาร เสด็จไป เขาวงกตกษัตรยิ ์ทงั้ สีท่ รงผนวชเปน็ ฤๅษีพำนกั ในอาศรมสืบมา



กณั ฑท์ ่ี ๕ ชชู ก พราหมณ์แก่ชื่อชูชก ได้เมียสาวชื่อ “นางอมิตดา” จากการ ใช้หนี้ของพราหมณ์ผัวเมียคู่ นางปรนนิบัติชูชกอย่างดี ทำให้ชายใน หมู่บ้านเปรียบเทียบกับภรรยาตน หญิงในหมู่บ้านจึงเกลียดชังและรุม ทำร้ายนางอมิตดา ชูชกจึงเดินทางไปขอกัณหาชาลี เพื่อนำมาเป็นทาส รบั ใช้ แต่ถกู ขดั ขวางจากพรานเจตบุตรผู้รกั ษาประตปู ่า



กัณฑ์ท่ี ๖ จลุ พน ชูชกได้หลอกพรานเจตบุตรโดยอ้างว่าได้รับ พระราชสาสน์ ของพระเจ้ากรุงสญั ชยั ใหพ้ าไปหาฤๅษีท่ีรู้ทางไปเขาวงกต



กัณฑท์ ่ี ๗ มหาพน เมอื่ ถึงอาศรมอจตุ ฤๅษี ชูชกใช้คารมหลอกลอ่ จนอจุตฤๅษี ใหบ้ อกเสน้ ทางไปยงั อาศรมพระเวสสันดร



กัณฑ์ท่ี ๘ กมุ าร พระนางมัทรฝี ันรา้ ยบอกเหตุพลัดพราก จนรงุ่ เชา้ เมื่อนางมัทรี ได้เข้าป่าหาอาหารแล้ว ชูชกจึงแอบเข้าเฝ้าทูลขอสองกุมาร พระ เวสสนั ดร จึงมอบกุมารทง้ั สองให้แกช่ ชู ก



กัณฑท์ ่ี ๙ มัทรี พระนางมัทรีเดินเข้าไปหาผลไม้ในป่าลึกจนเย็น จึงเดินทาง กลับอาศรม เมื่อไม่พบสองกุมาร จึงออกเที่ยวหากุมารทั้งสองและ กลับมาสิ้นสติต่อเบื้องพระพักตร์ พระเวสสันดรจึงบอกความจริงว่า ได้ประทานสองกุมารแก่ชูชกแลว้ นางจงึ ไดท้ รงอนโุ มทนาด้วย



กัณฑท์ ่ี ๑๐ สกั กบรรพ ท้าวสักกะเทวราชเสด็จแปลงเป็นพราหมณ์เพื่อมาทูลขอพระ นางมทั รจี ากพระเวสสันดร กันไม่ใหผ้ ้อู ่ืนมาขอพระนางไปพระนางมทั รี ยินดีอนุโมทนาเพื่อร่วมบำเพ็ญทานบารมีให้สำเร็จ แต่ท้าวสักกะ เทวราชได้ฝากนางมทั รไี วก้ ่อนยงั ไมร่ บั ตวั ไป



กัณฑ์ท่ี ๑๑ มหาราช ชูชกพาสองกุมารเดินทางมาถึงนครสีพี พระเจ้าสัญชัย ทอดพระเนตรเห็นชูชกพากุมารน้อยสององค์มา ก็ทรงจำได้และขอไถ่ ตวั กุมารคืน ต่อมาชชู กกต็ ายดว้ ยเพราะอาหารไม่ย่อย



กณั ฑท์ ่ี ๑๒ ฉกกษัตริย์ เจ้าเมืองกาลิงคะนำช้างปัจจัยนาคมาคืน พระเจ้าสัญชัยจึงไป ตามพระเวสสันดรกลับ เมื่อหกกษัตริย์ได้พบหน้ากัน ก็ร้องไห้อย่าง หนักจนสิ้นสติไป ท้าวสักกะเทวราชจึงได้ทรงบันดาลให้ฝนโบกขร พรรษตกลงมาถกู ตวั ทั้งหกกษัตริยจ์ ึงฟน้ื ข้ึน



กัณฑ์ที่ ๑๓ นครกณั ฑ์ หกกษัตริย์นำพยุหโยธาเสด็จนิวัติพระนคร พระเวสสันดรได้ เถลิงราชสมบัติปกครองนครสีพีโดยทศพิธราชธรรมบ้านเมืองร่มเย็น เปน็ สขุ ตลอดพระชนมา



“ ทานบารมี “ มงคลสงู สุดของการบำเพ็ญเพยี ร…