Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบประเมินผลด้านคุณลักษณะความเป็นผู้นำของผู้ใหญ่ นางสาวน้ำผึ้ง ชะรุดรัมย์ หมู่ที่ 11 บ้านรวมโชค ตำบลบัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

แบบประเมินผลด้านคุณลักษณะความเป็นผู้นำของผู้ใหญ่ นางสาวน้ำผึ้ง ชะรุดรัมย์ หมู่ที่ 11 บ้านรวมโชค ตำบลบัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

Published by กศน.ตำบลบัวทอง, 2021-11-24 15:26:12

Description: แบบประเมินผลด้านคุณลักษณะความเป็นผู้นำของผู้ใหญ่ นางสาวน้ำผึ้ง ชะรุดรัมย์ หมู่ที่ 11 บ้านรวมโชค ตำบลบัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

Search

Read the Text Version

๑๙. ประพฤติตนและแนะนาให้ผชู้ ว่ ยผูใ้ หญบ่ า้ น สารวัตรกานนั แพทย์ ประจาตาบลวางตวั เปน็ กลางทางการเมือง สนับสนุนตามหลักการ ประชาธิปไตย เป็นแบบอย่างทีด่ ีแก่ราษฎรไม่สนับสนุนผู้สมคั รรบั เลอื กต้ัง ทุกระดบั กระทาการทีไ่ ม่ทุจริตและเที่ยงธรรม

ดา้ นการประสานหรอื อานวยความสะดวกแกร่ าษฎรในหมบู่ า้ น ในการ ติดตอ่ หรือรบั บริการกับสว่ นราชการหนว่ ยงานของรัฐ ๒๐. แนะนาขน้ั ตอนการตดิ ตอ่ ราชการให้ราษฎรทราบด้วยวิธกี ารใดๆ ประชาสมั พันธข์ ัน้ ตอนการขอรับการบรกิ ารจากหน่วยงานของรฐั ผา่ นช่องทาง หรอื สื่อต่างๆ ในพนื้ ท่ี เชน่ หอกระจายขา่ ว เสียงตามสาย วทิ ยชุ ุมชน

๕.การปฏบิ ัติหน้าที่ การนาหลกั การทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั มาใช้เปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ิงาน ดังน้ี ๑.ศึกษาขอ้ มูลอยา่ งเป็นระบบ การจะทาภารกิจได้ศกึ ษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ จากเอกสารแผนท่ี สอบถามจากผู้เก่ียวข้อง ใหไ้ ดร้ ายละเอยี ดทถ่ี ูกตอ้ ง เพอื่ ให้ ความชว่ ยเหลือไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง รวดเรว็ ตรงตามความต้องการของราษฎร เช่น มกี ารจดั เกบ็ และจัดทาขอ้ มูลพน้ื ฐานต่างๆ ของหมู่บ้าน/ตาบล ไวอ้ ยา่ ง เปน็ ระบบ อาทิ บัญชสี ามะโนครวั ทรัพย์สนิ ของหม่บู า้ น สาธารณสมบตั ติ ่างๆ ในหม่บู า้ น/ตาบล

๒. ระเบิดจากขา้ งใน มีการพฒั นา โดยสรา้ งความเข้มแข็งใหค้ นในชุมชนมี ความพร้อมทจี่ ะรบั การพฒั นาหรอื เตรียมพรอ้ มก่อน จึงนาเอาการพฒั นา เข้าไปหาชมุ ชน เชน่ การจัดประชุม ประชาคมในหม่บู ้าน เพ่อื นาความเห็น ของราษฎรมาจัดทาโครงการ การจัดประชุมร่วมกนั ของราษฎรในหมูบ่ ้าน เพ่อื หาจดุ เดน่ (เอกลักษณ์) ของหม่บู า้ น การผลกั ดนั ให้เกิดผลติ ภัณฑ์ ในชุมชน เปน็ ต้น

๓. แกป้ ญั หาทีจ่ ดุ เล็ก มอฃปญั หาในภาพรวม (Micro) แตก่ ารแกไ้ ข ปัญหาได้เร่มิ จากจุดเล็ก (Micro) คอื การแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ เชน่ หากหม่บู ้านมีปัญหาความไม่สะอาดมีปรมิ าณขยะ ให้เพมิ่ จุดตง้ั ถงั ขยะให้ เพียงพอหรอื จัดกิจกรรมโครงการสนบั สนนุ ใหห้ มู่บา้ นสะอาด เช่น จัดให้ ราษฎรในหม่บู า้ นจัดกิจกรรมร่วมทาความสะอาดภายในชมุ ชน “Big Cleaning” เป็นต้น

๔. ทาตามลาดบั ข้นั การจดั ลาดบั ความสาคัญของงาน ใหเ้ รม่ิ ต้นจากงานที่มีความจาเปน็ ท่ีสดุ สาหรับประชาชนกอ่ น เชน่ การสาธารณสุขเพ่อื ใหป้ ระชาชนมรี า่ งกายทีแ่ ข็งแรง จากนนั้ เป็นเรอ่ื งส่ิงจาเปน็ ในการประกอบอาชพี โดยการดาเนนิ การดงั กลา่ งต้องไมท่ าลาย ทรพั ยากรธรรมชาติ รวมถึงการให้ความรทู้ างวิชาการและเทคโนโลยที ่ีเรยี บงา่ ย เนน้ การปรับ ใช้ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินทรี่ าษฎรสามารถนาไปปฏิบัติได้และเกดิ ประโยชนส์ งู สดุ หรอื การ ประชาสัมพนั ธด์ ้านการดูแลรักษาปอ้ งกันโรคท่ีกาลังระบาดในปัจจุบนั เพือ่ ให้ลกู บ้านรูจ้ ักการ ดูแลตัวเองในเบอ้ื งตน้ หรอื ผใู้ หญบ่ า้ นเป็นผ้นู าในการประสานงานกบั ผู้เชี่ยวชาญดา้ นตา่ งๆ เชน่ ครู อาจารย์ หรอื ปราชญช์ าวบา้ นมาใหค้ วามรู้ และถา่ ยทอด ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ และการ ใชท้ รพั ยากรในท้องถนิ่ อย่างประหยัดค้มุ ค่า เปน็ ตน้

๕. ภมู สิ ังคม ในการพัฒนา ตอ้ งคานงึ ถึงสภาพภมู ปิ ระเทศและลกั ษณะ นสิ ัยใจคอของคนในพื้นที่ ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณี เชน่ มกี ารสง่ เสริม วฒั นธรรมประเพณที ีส่ าคัญของหมบู่ ้าน โดยจัดกิจกรรมเปน็ งานเผยแพร่ ประเพณี (ประจาปี) เพื่อเป็นการอนรุ ักษ์วฒั นธรรม ประเพณีอนั ดงี าม เปน็ ตน้

๖. องค์รวม มวี ธิ ีคิดอยา่ งองคร์ ว (Holistis) หรือมองอยา่ งครบวงจร โดยมอง เหตกุ ารณท์ จ่ี ะเกิดข้นึ และแนวทางแก้ไขอย่างเชื่อมโยง เชน่ “ทฤษฎีใหม”๋ ของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว โดยพระองค์มองอย่างองคร์ วมวา่ หากประกอบอาชีพ เกษตรกรรมตอ้ งมีการบรหิ ารจัดการทด่ี นิ และแหลง่ นา้ อนั เป็นปจั จยั พื้นฐานทส่ี าคญั ในการ ประกอบอาชพี และจะตอ้ งรูจ้ ักวิธกี ารจัดการและการตลาด รวมถึงการรวมกลมุ่ รวมพลัง ชุมชนใหม้ ีความเขม้ แขง็ เพ่อื พร้อมที่จะออกสู่การเปล่ยี นแปลงของสงั คมภายนอกไดอ้ ย่าง ครบวงจร เขน่ มกี ารลงพ้ืนท่เี พื่อมองให้ถงึ ปญั หาดา้ นการจัดการนา้ ดา้ นการเกษตรอุปโภค/ บริโภคอย่างเพยี งพอ หรือการประสานใหผ้ ูเ้ ช่ียวชาญใหค้ วามรทู้ ถี่ กู ตอ้ งดา้ นการตลาดของ ชุมชนหรอื มีการประสานให้ผเู้ ชี่ยวชาญให้ความรู้ท่ีถกู ตอ้ ง ด้านการตลาดและด้านอน่ื ๆ ของชุมชน

๗. ไม่ติดตารา มกี ารพัฒนาที่ไม่ผกู มัดตดิ กับวชิ าการและเทคโนโลยีและ สามารถเขา้ กบั สภาพธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ มและสภาพของสังคมในชุมชน เชน่ มีการสนับสนุนหรอื แนวทางพัฒนาที่มคี วามสอดคลอ้ งกบั วัฒนธรรม ประเพณีหรือวถิ ชี วี ติ ของราษฎรในพ้นื ที่

๘. ประหยดั เรยี บงา่ ย ได้ประโยชน์สูงสดุ การพฒั นาปละชว่ ยเหลอื ราษฎร โดยใขห้ ลกั ในการแก้ไขปญั หาดว้ ยความเรยี บง่ายและประหยดั ราษฎร สามารถทาได้เอง ประยุกตใ์ ช้สง่ิ ทีม่ อี ยใู่ นภูมิภาคนัน้ ๆ มาแกไ้ ขปญั หาโดยไม่ ต้องลงทนุ สูงหนือใช้เทคโนโลยที ีไ่ ม่ยงุ่ ยากนัก เชน่ การแก้ปญั หาโดยการ ประยุกต์นาเอาภูมิปญั หาท้องถ่นิ หรือใช้ทรพั ยากรที่มีในชุมชนใหค้ มุ้ คา่ ด้านคน ปา่ ไม้ และงบประมาณ หรอื ด้านอนื่

๙. ทาให้ง่าย การคิดค้น ดัดแปลฃ ปรบั ปรงุ และแก้ไขงานการพัฒนา หมู่บ้าน ตาบลดาเนนิ ตามแนวทางพระราชดาริเป็นไปอยา่ งง่ายๆ ไมย่ ่งุ ยาก และสอดคลอ้ งกับสภาพความเปน็ อยู่และระบบนิเวศน์โดยสว่ นรวม เข่น ประยกุ ต์แนวทางพระราชดาระมาปรบั ใชใ้ นหมบู่ ้านใหเ้ กิดความเหมาะสมกับ สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ เช่น หากพื้นที่ฝนไม่ตก เขา้ ไม่ถึง ชลประทานต้องมกี ารใหค้ วามรู้และมีการขุดสระเพม่ิ ข้นึ หรือขดุ ลอกคลอง เพ่อื รองรับการอุปโภค/บริโภคหรอื ใชใ้ นการเกษตรท่เี พยี งพอหรอื ชว่ งเวลา ใดมีน้าน้อย ใหห้ ันมาปลูกพืชที่ใชน้ า้ น้อย เป็นตน้

๑๐. การมสี ่วนร่วม มีการรบั ฟงั ความคิดเห็น ระดมสติปัญญาและ ประสบการณอ์ นั หลากหลาย เพือ่ เปดิ โอกาสให้ประชาชน หรือเจ้าหน้าท่ีทุก ระดับ รว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรอ่ื งทจี่ ะต้องคานงึ ถึงความคดิ เห็น ของประชาชน เช่น มกี ารนา “ประชาพจิ ารณ์”มาใช้ในการบริหารจัดการ หมบู่ า้ น โดยเปดิ โอกาสให้ราษฎรในพนื้ ที่ไดม้ กี ารแสดงความคดิ เห็นตลอดจน รับฟังความคดิ เห็นจากราษฎรในพืน้ ท่ี

๑๑. ประโยชน์ส่วนรวม มกี ารเสยี สละประโยชน์สว่ นตน เพ่อื ประโยชน์ของ สว่ นรวม เชน่ การเสียสละเวลาสว่ นตนเพ่อื มาทากจิ กรรมหรือปฏิบัตหิ นา้ ท่ี เพือ่ สว่ นรวม เมอ่ื ราษฎรตอ้ งการชว่ ยเหลือ

๑๒. บรกิ ารรวมทจ่ี ุดเดียว มีการบรกิ ารรวมท่ีจุดเดยี วหรอื รูปแบบการ บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Servoces)เพื่อประหยดั เวลาและ คา่ ใช้จ่ายของราษฎรทม่ี าตดิ ต่อโดยมหี น่วยงานราชการตา่ งๆ มารว่ ม ดาเนินการ เชน่ มกี ารจัดตัง้ ศูนย์บรกิ ารประชาชนประจาหมู่บา้ น/ตาบล รวมถงึ มีการประชาสมั พันธ์ถึงจดุ บริการ (ตาแหนง่ ที่ต้งั ) การให้ความ ชว่ ยเหลอื ในด้านใดบ้าง และขัน้ ตอนการติดตอ่ ประสานงาน กบั ราษฎรให้ ชดั เจน และทัว่ ถงึ เพอื่ ใหร้ าษฎรเข้าใจและสามารถเข้ามาตดิ ต่อขอความ ชว่ ยเหลอื ได้อยา่ งรวดเร็ว และเปน็ การลดภาระหน้าทีข่ องเจา้ หนา้ ท่ีอีกด้วย

๑๓. ใชธ้ รรมขาตขิ ว่ ยธรรมชาติ เขา้ ใจถงึ ธรรมชาตใิ นหมู่บ้าน ตาบล และ พยายามทาใหป้ ระชาชนใกลช้ ดิ กับธรรมชาติ และมองปัญหาธรรมชาติ และ หากต้องการแก้ไขธรรมชาติ มกี ารใช้ธรรมชาตเิ ขา้ ช่วยเหลอื เช่น การแกไ้ ข ปญั หาปา่ เสื่อมโทรม ดว้ ยวิธกี ารปลูกป่า โดยไมต่ อ้ งปลกู ปล่อยให้ ธรรมชาติชว่ ยในการฟ้ืนฟธู รรมชาติ การปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง ไดแ้ ก่ ปลูกไม้เศรษฐกิจ ไมผ้ ล และไมฟ้ นื ซ่งึ จะช่วยรกั ษาความชุม่ ชน้ื ใหแ้ กพ่ ้ืนดนิ ดว้ ย และทาใหค้ นอยรู่ ่วมกับปา่ ได้อย่างยัง่ ยนื หรอื การศกึ ษาสภาพแวดล้อมของชมุ ชนและเขา้ ใจถึงธรรมชาตขิ อง สภาพแวดลอ้ มของชุมชน เพอ่ื สามารถวเิ คราะหแ์ ละแก้ไขไดเ้ ปน็ อย่างดี รวมถงึ การธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของชมุ ชนในการแกป้ ญั หา เช่น การ แก้ปัญหาน้าทว่ ม

๑๔. ใช้อธรรมปราบอธรรม มีการนากฎเกฯฑ์ของธรรมชาตมิ าแกป้ ญั หา เชน่ การนานา้ ดขี ับไล่นา้ เสีย เพ่อื ให้เป็นนา้ ดตี ามจงั หวะการขนึ้ ลงตาม ธรรมชาตขิ องน้า เปน็ ต้น โดยมกี ารจดั ทาโครงการเกย่ี วกับการพัฒนา หมู่บ้าน ตาบล กับคณะทางานต่างๆ เพ่อื ดาเนินการหรอื เสนอขอรับการ สนับสนุนงบประมาณจากหนว่ ยงานอ่นื การแยกขยะ นาขยะไปรไี ซเคลิ นามาประยุกต์ทาเปน็ ของประดษิ ฐ์ OTOP ในชมุ ชน

๑๕. การปลกู ป่าในใจคน มกี ารปลูกจติ สานึกใหแ้ ก่ราษฎรในพนื้ ท่หี ม่บู า้ น ตาบล ในการรักผนื ปา่ และทรพั ยากรธรรมชาติ เชน่ การรณรงคห์ รือจดั โครงการให้ราษฎรมีจิตสานึกในการรกั ษาทรพั ยากรในชมุ ชน ใหร้ าษฎรไดล้ ง มือปฏบิ ตั แิ ละมสี ว่ นรว่ มในโครงการ หรอื ปลูกต้นไม้บรวิ เณบา้ น หรอื ตาม แนวทางถนนในหมู่บ้านถือเป็นการปลูกจติ สานกึ การอนุรกั ษแ์ ละสิ่งแวดลอ้ ม ในพ้ืนทชี่ ุมชน เป็นตน้

๑๖. ขาดทุนคือกาไร มีกานาหลักการทรงงาน เรื่องขาดทนุ คอื กาไรมาใชใ้ น การปฏบิ ัติหน้าที่กลา่ วคือมี “การให”้ และ “การเสียสละ” ซ่ึงเป็นการกระทา อันมีผลเปน็ กาไรคือความอยูด่ ีมสี ขุ ของราษฎร มคี วามเสียสละในการ ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่เี พ่อื ราษฎร เช่น “การให”้ คือ การใช้ความรู้ สร้างความเขา้ ใจ และแรงจงู ใจในการพฒั นาหมบู่ ้าน หรือการใหค้ าปรึกษาหาผู้เช่ยี วชาญ แนะนา หรือใหก้ ารสนับสนุนการดาเนินงานตามพระราชดาริ “การเสียสละ” เสยี สละเวลา ตรวจสอบดูแลทุกข์สุขของราษฎร พรอ้ มให้ความชว่ ยเหลือ ราษฎรท่ีได้รบั ความเดอื ดรอ้ นทกุ เวลา เมอื่ เกดิ ภัยพิบตั ติ ่างๆ โดยเนน้ บรกิ าร เพ่ือให้ราษฎรมีความสุข

๑๗. การพ่ึงตนเอง มกี ารพัฒนาให้ประชาชนสามารถอย่ใู นสงั คมได้ตาม สภาพแวดลอ้ มและสามารถ “พง่ึ ตนเองได”้ การจัดให้ความรแู้ ละอบรม วิธกี ารให้ราษฎรสามารถพึ่งตนเองในการดารงชีวิตในชุมชน เช่น จดั การ สอนเพอ่ื หารายได้ โดยพึ่งมาจากสิง่ ทท่ี าไดเ้ องในชมุ ชน ซึง่ ขายในชมุ ชน และส่งออกไปยังนอกชมุ ชนได้

๑๘. พออยพู่ อกนิ ให้ความช่วยเหลอื ในการพฒั นาอาชพี เพื่อใหร้ าษฎรใน พ้ืนทมี่ คี วามเป็นอยทู่ ี่ดี หรอื พออยู่พอกินกอ่ นแล้วจงึ ขยบั ขยายใหก้ า้ วหน้า ตอ่ ไป

๑๙. เศรษฐกจิ พอเพยี ง รณรงคใ์ หร้ าษฎรนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาเป็นแนวทางในการดารงชีวิต โดยยดึ ทางสายกลางความ พอเพยี ง หมายถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ลรวมถงึ ความจาเปน็ ที่ จะตอ้ งมีระบบภูมิคมุ้ กันในตวั ทดี่ ีโดยอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และ ความระมดั ระวัง โดยตอ้ งเสรมิ สรา้ งพื้นฐานจติ ใจของราษฎรในหมู่บ้าน ตาบลใหม้ ีคณุ ธรรม ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต ดาเนนิ ชีวติ ดว้ ยความอดทน ความ เพยี รมีสตปิ ัญญาและความรอบคอบ

๒๐. ความซื่อสตั ย์ สจุ รติ จรงิ ใจต่อกนั ปฏิบัติหน้าท่ดี ว้ ยความซ่อื สัตย์ สจุ รติ และจรงิ ใจตอ่ ราษฎร การแสดงออกอยา่ งเปดิ เผยถึงความซ่ือสตั ย์ และความโปรง่ ใสในการทางาน เช่น เปดิ เผยสรปุ ผลงานในการพัฒนา ชุมชนโดยมีรายละเอยี ดงบประมาณในสว่ นตา่ งๆ หรือไม่ทางานเพือ่ หวัง ผลประโยชน์

๒๑. ทางานอยา่ งมีความสุข มีความสุขกับการทาประโยชน์ใหก้ ับ ประเทศชาตแิ ละราษฎรในพ้ืนที่

๒๒. ความเพยี ร : พระมหาชนก ปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ดว้ ยความซือสัตยส์ จุ รติ และจรงิ ใจต่อราษฎรรวมท้งั ความเพียรพยายามในการปฏิบัตหิ น้าท่ี โดย การศกึ ษาทาความเข้าใจใหถ้ อ่ งแท้ เชน่ ปฏบิ ตั ิหน้าที่ทีไ่ ด้รบั มอบหมายให้ ประสบความสาเรจ็ หากยังไมม่ ีความพรอ้ มในการทาภารกิจตอ้ งมคี วาม พยายามในการศกึ ษาทาความเขา้ ใจกบั ภารกจิ เพือ่ ใหส้ ามารถทาได้สาเร็จ

๒๓. รู้ รัก สามคั คี มีการดาเนนิ การตามพระราชดารัสในเรอ่ื ง “รู้ รกั สามคั คี” คือ รู้ : การท่ีจะลงมอื สงิ่ ใด จะต้องร้เู สียกอ่ น รถู้ ึงปจั จยั ทง้ั หมด รถู้ งึ ปัญหา และรู้ถึงวธิ ีการแกป้ ัญหา เชน่ ศึกษาหาขอ้ มูลของปัญหาให้ละเอยี ดและ ชดั เจน วิคราะห์การแกป้ ัญหาอยา่ งรอบคอบ รัก : คือความรัก เม่อื รคู้ รบถว้ นกระบวนความแลว้ จะต้องมคี วามรกั การ พิจารณาที่จะเข้าไปลงมอื ปฏิบตั ิแก้ไขปัญหานน้ั ๆ เชน่ มคี วามเต็มใจ สมัคร ใจ และมีความต้องการที่จะแก้ปญั หานนั้ ๆและช่วยเหลือราษฎรอยา่ งแท้จรงิ สามัคคี : การทจี่ ะลงมอื ปฏบิ ัตนิ น้ั ต้องทางานร่วมมือร่วมใจเปน็ องคก์ ร เป็นหม่คู ณะ จงึ จะมีพลงั เขา้ ไปแก้ปัญหาใหล้ ลุ ่วงไปได้ด้วยดี เช่น การให้ ทกุ ฝา่ ยในหมบู่ ้าน มสี ว่ นรว่ มมือกนั ในการแก้ปญั หาของชุมชน

ภาคผนวก

ร่วมโครงการ จิตอาสา

ร่วมโครงการ จิตอาสา

ร่วมโครงการ จิตอาสา

ร่วมโครงการ จิตอาสา

ร่วมกิจกรรมพฒั นา หมู่บา้ น

ร่วมกิจกรรมพฒั นา หมู่บา้ น

ร่วมกิจกรรมพฒั นา หมู่บา้ น

ร่วมแกไ้ ขปัญหาเดือนรอ้ นของชาวบา้ น

ร่วมแกไ้ ขปัญหาเดือนรอ้ นของชาวบา้ น

ร่วมแกไ้ ขปัญหาเดือนรอ้ นของชาวบา้ น

ร่วมแกไ้ ขปัญหาเดือนรอ้ นของชาวบา้ น

ร่วมแกไ้ ขปัญหาเดือนรอ้ นของชาวบา้ น

ร่วมสืบสานงานบญุ หม่บู า้ น

สรา้ งงาน สรา้ งอาชีพ ใหก้ บั ชาวบา้ น

สรา้ งงาน สรา้ งอาชีพ ใหก้ บั ชาวบา้ น

สรา้ งงาน สรา้ งอาชีพ ใหก้ บั ชาวบา้ น

ปฏิบตั ิงานตามคาสงั่ ผบู้ งั คบั บญั ชา

ปฏิบตั ิงานตามคาสงั่ ผบู้ งั คบั บญั ชา

ปฏิบตั ิงานตามคาสงั่ ผบู้ งั คบั บญั ชา

ปฏิบตั ิงานตามคาสงั่ ผบู้ งั คบั บญั ชา

ปฏิบตั ิงานตามคาสงั่ ผบู้ งั คบั บญั ชา

ผลงาน ดีเด่น

ผลงาน ดีเด่น