Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book บทที่1

E-book บทที่1

Published by kanyaweenon kanyaweenon, 2019-11-16 20:23:52

Description: E-book บทที่1

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 1 ความปลอดภยั ในงานไฟฟา้

4         รูปที่ 1.1 การผลิตไฟฟ้ าและการนาไฟฟ้ าไปใชง้ าน ไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานท่ีสามารถเปลี่ยนแปลงรูปพลงั งานได้ โดยอาศยั ค่าแรงดนั และกระแส จ่ายไปให้ อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องใชไ้ ฟฟ้ าให้เกิดการทางาน โดยจ่ายไปในรูปกระแสไหล ไฟฟ้ าเคลื่อนท่ีไดด้ ีใน วตั ถุตวั นาจาพวกโลหะชนิดต่างๆ เช่น ทองคา ทองแดง เงิน เหล็ก ตะกว่ั และอะลูมิเนียม เป็ นตน้ ไฟฟ้ าไม่ สามารถเคล่ือนที่ผา่ นไปไดห้ รือเคลื่อนท่ีไปไดล้ าบากในวตั ถุท่ีเป็ นพวกฉนวน เช่น พลาสติก ยาง แกว้ ไม้ และ เซรามิก เป็นตน้ ไฟฟ้ าเป็นส่ิงที่มองไมเ่ ห็น ไมส่ ามารถรับรู้ไดน้ อกจากไปสมั ผสั โดยตรง ก่อใหเ้ กิดอนั ตรายต่อผู้ สัมผสั ถูกไฟฟ้ า จึงมกั เรียกวา่ ภยั มืด การทดสอบวา่ สายไฟฟ้ ามีไฟฟ้ าหรือไม่ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้ าท่ีติดต้งั พร้อม ใชง้ านมีไฟฟ้ าหรือไม่ จะตอ้ งทดลองใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้ าเหล่าน้นั หรือใชเ้ คร่ืองมือวดั ไฟฟ้ าตรวจวดั ทดสอบดู ไฟฟ้ ามีประโยชน์อนันต์และมีโทษมหันต์ เป็ นคากล่าวท่ีทนั สมัยอยู่เสมอ ผูท้ ี่ใช้ไฟฟ้ าทุกคน จาเป็นตอ้ งคานึงถึงความปลอดภยั ในการใชง้ านทุกคร้ัง และใชง้ านดว้ ยความระมดั ระวงั โดยไม่ตกอยใู่ นความ ประมาท 1.1.1 ประโยชน์ของไฟฟ้ า ประโยชน์ของไฟฟ้ า มีมากมายมหาศาล ถูกนาไปใช้งานอยา่ งแพร่หลายทวั่ ไป เช่น งานการ ผลิตทางอุตสาหกรรม งานทางการเกษตร งานดา้ นส่ือสารโทรคมนาคม งานดา้ นให้บริการ งานดา้ นอานวย ความสะดวก และการให้ความรู้ ความบนั เทิง เป็ นตน้ ประโยชน์ของไฟฟ้ าเมื่อพิจารณาทางดา้ นการนาไปใช้ งาน แบ่งออกไดด้ งั น้ี 1. ให้ความร้อน โดยเปล่ียนพลงั งานไฟฟ้ าให้เป็ นความร้อน เช่น เตาไฟฟ้ า เตาอบ เตารีดไฟฟ้ า หมอ้ หุงขา้ วไฟฟ้ า เคร่ืองเป่ าผม และหวั แร้งบดั กรี เป็นตน้ 2. ให้ความเยน็ โดยเปล่ียนพลงั งานไฟฟ้ าให้เป็ นความเยน็ เช่น ตูแ้ ช่แข็ง ตูเ้ ยน็ ตูน้ ้าเยน็ และ เคร่ืองปรับอากาศ เป็นตน้ 3. ให้พลังงานกล โดยเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ าให้เป็ นพลังงานกล เช่น มอเตอร์ พดั ลม สวา่ นไฟฟ้ า เคร่ืองซกั ผา้ และเครื่องดูดฝ่ นุ เป็นตน้

5 4. ให้อานาจแม่เหล็ก โดยเปล่ียนพลงั งานไฟฟ้ าให้เป็ นสนามแม่เหล็ก เช่น กระด่ิง ไฟฟ้ า หมอ้ แปลงไฟฟ้ า ลาโพง และแม่เหลก็ ไฟฟ้ า เป็นตน้ 5. ให้แสงสวา่ ง โดยเปล่ียนพลงั งานไฟฟ้ าใหเ้ ป็ นแสงสวา่ ง เช่น ไฟฉาย หลอดไฟฟ้ า และการ เกิดประกายไฟจากการเช่ือมไฟฟ้ า เป็นตน้ 6. ให้ความสะดวกสบาย โดยจ่ายพลงั งานไฟฟ้ าไปให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทาให้เกิดการ ทางานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดต่างๆ เช่น เครื่องรับวิทยุ เคร่ืองรับโทรทศั น์ เครื่องขยายเสียง เคร่ืองเล่นวี ดีทศั น์ คอมพวิ เตอร์ โทรศพั ท์ และวทิ ยสุ ่ือสาร เป็นตน้ 1.1.2 โทษของไฟฟ้ า โทษของไฟฟ้ ามีมากมายมหาศาลเช่นเดียวกนั ส่วนใหญ่เกิดจากการใชไ้ ฟฟ้ าอยา่ งผิดวธิ ี ขาด ความระมดั ระวงั หรือใช้ไฟฟ้ าด้วยความประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดอนั ตรายตามมาอย่างมากมาย ท้งั ต่อ ทรัพยส์ ิน เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ชารุดเสียหาย และทาใหเ้ กิดเพลิงไหม้ เป็ นตน้ หรือต่อร่างกาย มนุษย์ เช่น ร่างกายพิการ และเสียชีวติ เป็ นตน้ จึงจาเป็ นตอ้ งมีการป้ องกนั อนั ตรายท่ีอาจเกิดข้ึนจากการใชไ้ ฟฟ้ า อนั ตรายเกิดจากไฟฟ้ าแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ คือ ไฟฟ้ าช็อต (Short Circuit) และไฟฟ้ าดูด (Electric Shock) ท้งั สองลกั ษณะน้ีมีสาเหตุของการเกิดท่ีตา่ งกนั และอนั ตรายท่ีไดร้ ับกต็ ่างกนั ดว้ ย 1. ไฟฟ้ าช็อต หรือเรียกอีกชื่อ วา่ ไฟฟ้ าลดั วงจร คือ สภาวะที่กระแสไฟฟ้ าไหล ไดค้ รบวงจร โดยไม่ผา่ นอุปกรณ์ไฟฟ้ า เคร่ือง ใชไ้ ฟฟ้ า หรือภาระ (Load) ผลของไฟฟ้ าช็อต จะทาใหเ้ กิดความร้อนสูง เม่ือความร้อนถึงจุด ลุกไหม้ ทาให้เกิดเพลิงไหมข้ ้ึนได้ การเกิดไฟฟ้ า ช็อต แสดงดงั รูปท่ี 1.2 รูปที่ 1.2 เพลิงไหมเ้ กิดจากไฟฟ้ าช็อต รูปที่ 1.3 ไฟฟ้ าดูด 2. ไฟฟ้ าดูด คือ สภาวะท่ีกระแสไฟฟ้ า ไหลผ่านร่างกายมนุษยล์ งพ้ืนดิน หรือไหลผ่าน ร่างกายมนุษยค์ รบวงจร จะก่อให้เกิดอาการเกร็ง ของกล้ามเน้ือ จนร่างกายมนุษยไ์ ม่สามารถดิ้น หรือสะบดั ให้หลุดออกจากไฟฟ้ าได้ ผลที่เกิด จากไฟฟ้ าดูดอาจทาใหพ้ ิการ หรือถึงเสียชีวิตได้ การเกิดไฟฟ้ าดูด แสดงดงั รูปท่ี 1.3

6 1.2 อนั ตรายของไฟฟ้ าต่อร่างกายมนุษย์ ไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานที่สามารถเคลื่อนที่ได้ การนาไฟฟ้ าไปใชง้ านโดยใช้ปริมาณของแรงดนั ท่ีแหล่งกาเนิด ไฟฟ้ าผลิตข้ึนมา และปริมาณของกระแสที่เกิดจากภาระตอ้ งการใชง้ าน คุณสมบตั ิของไฟฟ้ า คือกระแสไหลผา่ น ไดด้ ีในวตั ถุตวั นาจาพวกโลหะทุกชนิด โดยท่ีขณะกระแสไหลไม่สามารถมองเห็น เพียงแต่รับรู้ไดจ้ ากการท่ี อุปกรณ์ เคร่ืองมือ และเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ าเกิดการทางาน และจากการตรวจวดั ดว้ ยเคร่ืองมือวดั ทดสอบทางไฟฟ้ า หรือจากการสัมผสั โดยตรงของร่างกายมนุษยท์ ่ีทาให้เกิดกระแสไหลครบวงจร นนั่ คือเป็ นผลของการเกิดไฟฟ้ า ดูดร่างกายมนุษยเ์ ป็นตวั นาไฟฟ้ าเช่นเดียวกบั ตวั นาอ่ืนๆ ไฟฟ้ าสามารถผา่ นร่างกายไปไดอ้ ยา่ งสะดวก ดงั น้นั จึง ควรระมดั ระวงั ไมใ่ หร้ ่างกายทุกส่วนสมั ผสั ถูกตวั นาไฟฟ้ าท่ีตอ่ รับพลงั งานอยกู่ บั แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า หรือในขณะ ท่ีมีกระแสไหลผา่ นตวั นาไฟฟ้ าเหล่าน้นั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ขณะที่ส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายมนุษยส์ ัมผสั อยกู่ บั พ้ืนน้า พ้ืนดิน พ้ืนปูน หรือโลหะท่ีต่อถึงพ้ืนดินหรือพ้ืนน้า กระแสสามารถไหลผา่ นร่างกายลงสู่พ้ืนดินหรือ พ้ืนน้าได้สะดวก หรือในอีกกรณีหน่ึงท่ีร่างกายมนุษยส์ ัมผสั ถูกสายตวั นาไฟฟ้ าพร้อมกนั มากกว่าหน่ึงเส้น ร่างกายมนุษยจ์ ะกลายเป็นภาระไฟฟ้ าทนั ทีแทนเครื่องใชไ้ ฟฟ้ า จะทาใหเ้ กิดกระแสไหลผา่ นร่างกายมนุษยค์ รบ วงจร เรียกการเกิดกระแสไหลในลกั ษณะน้ีวา่ ไฟฟ้ าดูด การถูกไฟฟ้ าดูดของร่างกายมนุษยจ์ ากการสัมผสั ส่วนท่ี มีไฟฟ้ า สามารถแยกตามลกั ษณะของการสัมผสั ไฟฟ้ าได้ 2 แบบ คือ การสัมผสั โดยตรง (Direct Contact) และ การสมั ผสั โดยออ้ ม (Indirect Contact) 1.2.1 การสัมผสั ไฟฟ้ าโดยตรง การสัมผสั ไฟฟ้ าโดยตรง คือ เป็ น รูปที่ 1.4 การสัมผสั ไฟฟ้ าโดยตรง กรณีท่ีส่วนของร่างกายคนสัมผสั ถูกส่วนที่มีไฟฟ้ า จา่ ยมาโดยตรง เช่น สายไฟฟ้ าร่ัวเพราะฉนวนชารุด มี คนใช้มือจบั สายไฟฟ้ าท่ีร่ัว และจากการท่ีใช้นิ้วมือ หรือโลหะขนาดเล็ก เช่น ลวด ไขควง หรือโลหะอื่นๆ แหย่เข้าไปในรูเตา้ รับไฟฟ้ า เป็ นตน้ ลักษณะการ สัมผสั ไฟฟ้ าโดยตรงน้ี จะมีผลให้เกิดกระแสจานวน มากไหลผ่านเขา้ สู่ร่างกายคนไปลงดิน ทาให้เกิด อนั ตรายมาก คนอาจพิการหรือถึงเสียชีวิตได้ การ สมั ผสั ไฟฟ้ าโดยตรง แสดงดงั รูปท่ี 1.4

7 1.2.2 การสัมผสั ไฟฟ้ าโดยอ้อม การสัมผสั ไฟฟ้ าโดยออ้ ม เป็ นการ สัมผสั ท่ีคนไมไ่ ดส้ ัมผสั กบั ส่วนท่ีมีไฟฟ้ าโดยตรง แต่ เกิดจากคนสัมผสั กบั อุปกรณ์ไฟฟ้ า หรือเครื่องใช้ ไฟฟ้ าตามปกติ ซ่ึงโดยปกติจะไม่มีไฟฟ้ าจ่ายออกมาท่ี ตวั ถงั โลหะ แต่ถ้าเมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้ า หรือเคร่ืองใช้ ไฟฟ้ าเกิดไฟฟ้ ารั่ว จึงมีไฟฟ้ าจ่ายอย่ทู ี่ตวั ถงั โลหะ ของอุปกรณ์ไฟฟ้ า หรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ าน้นั เม่ือคน ไปสัมผสั จึงเกิดกระแสไหลผา่ นเขา้ สู่ร่างกายคนไป รูปที่ 1.5 การสัมผสั ไฟฟ้ าโดยออ้ ม ลงดิน เช่นเดียวกับการสัมผสั ส่วนที่มีไฟฟ้ า การ สมั ผสั ไฟฟ้ าโดยออ้ มมีอนั ตรายสูงมาก เพราะจาก การขาดความระมดั ระวงั ของผใู้ ชง้ าน การสัมผสั ไฟฟ้ าโดยออ้ ม แสดงดงั รูปท่ี 1.5 ร่างกายคนเม่ือถูกไฟฟ้ าดูด จะเกิดอาการเกร็งของกลา้ มเน้ือจนไม่มีแรงสะบดั ให้หลุดออกจากไฟฟ้ าได้ ผลของไฟฟ้ าดูดอาจทาให้บาดเจ็บ พิการ หรืออาจถึงเสียชีวิตได้ อนั ตรายท่ีเกิดข้ึนจะมากหรือน้อยข้ึนอยกู่ บั ขนาดของกระแสท่ีไหลผา่ นร่างกายไป กระแสไหลผา่ นนอ้ ยเกิดอนั ตรายนอ้ ย กระแสไหลผา่ นมากเกิดอนั ตราย มาก ความสมั พนั ธ์ของปริมาณกระแสไหลผา่ นร่างกายคนมีผลต่อปฏิกิริยาท่ีเกิดข้ึน แสดงดงั ตารางท่ี 1.1 ตารางท่ี 1.1 ความสัมพนั ธ์ของปริมาณกระแสไหลผา่ นร่างกายคนมีผลต่อปฏิกิริยาที่เกิดข้ึน ปริมาณกระแสไหลผ่าน ปฏกิ ริ ิยาทเ่ี กดิ ขนึ้ ร่างกายคน ยงั ไมม่ ีผลหรือไม่รู้สึก ต่ากวา่ 0.5 มิลลิแอมป์ (mA) รู้สึกจก๊ั จ้ีหรือกระตุกเลก็ นอ้ ย 1 mA รู้สึกสั่นเล็กนอ้ ย แต่ไม่เจบ็ คนส่วนใหญ่สามารถหนีได้ 5 mA แตก่ ารเคลื่อนที่อยา่ งไม่ระวงั จะทาใหเ้ กิดอนั ตรายได้ รู้สึกเจ็บปวด สูญเสียการควบคุมกลา้ มเน้ือ น่ีคือปริมาณ 6 – 25 mA (ผหู้ ญิง) กระแสที่ร่างกายไมส่ ามารถขยบั เขย้อื นได้ 9 – 30 mA (ผชู้ าย) ได้รับความเจ็บปวดเป็ นอย่างมาก อวยั วะที่เกี่ยวกบั การ หายใจหยดุ ทางาน กลา้ มเน้ือหดตวั อยา่ งรุนแรง กลา้ มเน้ือขอ้ 50 – 150 mA ต่อจะแขง็ ทาใหเ้ สียชีวติ ได้ หวั ใจหยดุ เตน้ กลา้ มเน้ือหดตวั เส้นประสาทถูกทาลาย 1 – 4.3 แอมแปร์ (A) ทาใหเ้ สียชีวติ

8 10 A หวั ใจหยดุ เตน้ และถูกเผาไหมอ้ ยา่ งรุนแรง เสียชีวติ 15 A กระแสเกินค่าต่าสุดที่ฟิ วส์ หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์จะตดั วงจร นอกจากน้นั ระยะเวลาท่ีกระแสไหลผา่ นร่างกายคน จะส่งผลถึงอนั ตรายท่ีจะเกิดข้ึนนอ้ ยหรือมากดว้ ย กระแสไหลผา่ นใชเ้ วลานอ้ ยเกิดอนั ตรายนอ้ ย กระแสไหลผา่ นใชเ้ วลามากเกิดอนั ตรายมาก ระยะเวลาที่ถูกไฟฟ้ าดูด ดงั น้นั ถา้ ไม่มีบุคคลอ่ืนช่วยเหลืออยา่ งทนั ท่วงที อนั ตรายที่ไดร้ ับก็จะสาหสั มากข้ึน คือหวั ใจเตน้ รัวเร็วหรือชา้ ซ่ึงอาจไดร้ ับอนั ตรายถึงเสียชีวิต เม่ือระยะเวลาท่ีถูกไฟฟ้ าดูดนานเกินกวา่ ระยะเวลากาหนดท่ีบอกไว้ แสดงดงั ตารางท่ี 1.2 ตารางที่ 1.2 ความสัมพนั ธ์ของปริมาณกระแสไหลผา่ นร่างกายคนกบั ระยะเวลาที่ทาใหเ้ สียชีวติ ปริมาณกระแสไหลผ่าน ระยะเวลา หมายเหตุ ร่างกายคน เสียชีวติ 2 นาที 15 mA นานกวา่ 1 นาที 20 mA นานกวา่ 35 วนิ าที 30 mA นานกวา่ 3 วนิ าที 100 mA นานกวา่ 0.11 วนิ าที 500 mA นานกวา่ 0.01 วนิ าที 1 A นานกวา่ 1.3 ข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการใช้ไฟฟ้ าอย่างถูกต้องปลอดภยั การใชไ้ ฟฟ้ าทุกคร้ังควรคานึงถึงความปลอดภยั ใชอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ มีความคุม้ ค่า เกิดประโยชน์ สูงสุด และใชอ้ ยา่ งประหยดั ซ่ึงนอกจากจะเป็นการช่วยประหยดั พลงั งานแลว้ ยงั มีผลดีต่อส่วนรวมของประเทศ ในแง่ของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ยงั ช่วยลดภาวะโลกร้อนไดอ้ ีกดว้ ย ผใู้ ช้ไฟฟ้ าจึงจาเป็ นตอ้ ง เรียนรู้วธิ ีการใชไ้ ฟฟ้ าอยา่ งถูกตอ้ ง ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการใชไ้ ฟฟ้ าอยา่ งถูกตอ้ งปลอดภยั ปฏิบตั ิไดด้ งั น้ี 1. ควรตรวจสอบให้แน่ชดั ก่อนจา้ งงานหรือทาสัญญากบั บริษทั หรือช่างที่จะดาเนินการออกแบบ และ เดินสายไฟติดต้งั ระบบไฟฟ้ าวา่ เป็ นผทู้ ่ีมีประสบการณ์ มีความรู้ความชานาญเช่ือถือไดเ้ ทา่ น้นั 2. อุปกรณ์การติดต้งั ทางไฟฟ้ าตอ้ งเป็ นชนิดท่ีไดร้ ับการรับรองจากมาตรฐานต่างๆ ท่ีน่าเชื่อถือ เช่น สานกั งานมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม (สมอ.), UL, VDE และ IEC เป็ นตน้ เครื่องหมายมาตรฐานอุปกรณ์ ไฟฟ้ าประเทศตา่ งๆ แสดงดงั รูปท่ี 1.6

9 มอก. มาตรฐานไทย มาตรฐานอเมริกา มาตรฐานเยอรมนั มาตรฐานยโุ รป รูปท่ี 1.6 เคร่ืองหมายมาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้ าประเทศตา่ งๆ 3. การเดินสายไฟ และติดต้งั อุปกรณ์ไฟฟ้ า ตอ้ งเป็นไปตามกฎการเดินสายและติดต้งั อุปกรณ์ไฟฟ้ าของ การไฟฟ้ านครหลวง และการไฟฟ้ าส่วนภูมิภาค หรือมาตรฐานการติดต้งั ทางไฟฟ้ าท่ีการไฟฟ้ าท้งั สองยอมรับ 4. ก่อนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ า ผูใ้ ชต้ อ้ งอ่านและศึกษาคู่มือแนะนาการใชง้ านให้เขา้ ใจ และปฏิบตั ิตาม คาแนะนาอยา่ งเคร่งครัด 5. ทุกคร้ังท่ีจะใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้ า ควรตรวจสอบสายไฟ เตา้ เสียบ และเตา้ รับ ท่ีจะใชง้ านวา่ มีร่องรอยของ การชารุดหรือไม่ 6. เครื่องใชไ้ ฟฟ้ าที่มีเปลือกหุ้มภายนอกทาดว้ ยโลหะทุกชนิด หรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ าที่อาจมี ไฟฟ้ าร่ัวมากบั น้า จาเป็ นตอ้ งต่อสายดินของเคร่ืองใช้ ไฟฟ้ าเขา้ กบั ระบบสายดิน หมายถึงจะตอ้ งมีการติดต้งั ระบบสายดินที่ถูกตอ้ งภายในบา้ น และใชเ้ ตาเสียบชนิดมี  ข้วั สายดิน กบั เต้ารับชนิดมีข้วั สายดินท่ีเป็ นมาตรฐาน เดียวกนั เครื่องใชไ้ ฟฟ้ าเหล่าน้ี เช่น ตูเ้ ยน็ เตารีด หมอ้ หุง ขา้ ว เตาไมโครเวฟ เตาไฟฟ้ า กระทะไฟฟ้ า หมอ้ ตม้ น้า ร้อน เคร่ืองทาน้าอุ่น เครื่องปรับอากาศ และเคร่ืองซกั ผา้ เป็นตน้ ลกั ษณะเตา้ เสียบเตา้ รับชนิดมีข้วั สายดิน แสดงดงั รูปที่ 1.7 เตา้ เสียบเตา้ รับชนิดมีข้วั สาย รูปที่ 1.7 ดิน 7. เม่ือร่างกายเปี ยกช้ืน ห้ามแตะตอ้ งส่วนท่ีมี รูปที่ 1.8 เครื่องทาน้าอุ่นท่ีมีระบบตดั ไฟฟ้ า หรือเครื่องใชไ้ ฟฟ้ าโดยเด็ดขาด เพราะอาจมีไฟรั่ว ท่ีอุปกรณ์เหล่าน้ัน และความต้านทานต่อไฟฟ้ าของ ผิวหนงั ท่ีเปี ยกช้ืนจะลดลงอยา่ งมาก ทาให้กระแสไฟฟ้ า สามารถไหลผา่ นร่างกายไดส้ ะดวก ในกรณีที่จาเป็ นตอ้ งใช้ ไฟฟ้ าขณะที่ร่างกายเปี ยกช้ืน เช่น การใชเ้ ครื่องทาน้าอุ่น ในการอาบน้า นอกจากจะตอ้ งติดต้งั สายดินแลว้ จะตอ้ ง ติดต้งั เครื่องตดั ไฟร่ัวช่วยเสริมการทางานร่วมกบั สายดิน ใหป้ ลอดภยั ย่ิงข้ึนดว้ ย เครื่องทาน้าอุ่นท่ีมีระบบตดั ไฟร่ัว

10 แสดงดงั รูปที่ 1.8 ไฟร่ัว 8. ในการเดินสายไฟ หรือลากสายไฟไปใชง้ านนอกอาคารเป็นการชวั่ คราว หรือถาวร เช่น งานก่อสร้าง ต่อเติม ปรับปรุงนอกอาคาร นอกจากอุปกรณ์ไฟฟ้ าและสายไฟฟ้ าตอ้ งเป็ นชนิดท่ีกนั น้าและทนทานต่อสภาวะ แวดลอ้ มทางกลและแสงแดดแลว้ วงจรไฟฟ้ าหรือเตา้ รับน้นั ตอ้ งมีเครื่องตดั ไฟรั่วดว้ ยจึงจะปลอดภยั 9. ควรแยกวงจรไฟฟ้ าท่ีน้าอาจท่วมถึงออกต่างหาก เช่น ในบริเวณช้นั ล่างของอาคาร เพ่ือใหส้ ามารถ ปลดไฟออกไดท้ นั ทีเม่ือเกิดน้าท่วม หรืออาจติดต้งั เครื่องตดั ไฟรั่วร่วมดว้ ยก็ได้ 10. หมน่ั ตรวจสอบอุปกรณ์ติดต้งั ทางไฟฟ้ า และเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ า เป็นประจาอยา่ งนอ้ ยปี ละ 1 คร้ัง 11. ฝึ กให้เป็ นคนช่างสังเกตสิ่งผิดปกติจากสี กลิ่น เสียง และการสัมผสั อุณหภูมิ รวม ท้ังการใช้ เครื่องมือง่ายๆ ในการตรวจสอบ เช่น ไขควงลองไฟ เป็ น ตน้ การสังเกต เช่น สีของสายไฟเปลี่ยนไป มีกลิ่นเหม็น ไหม้ มีรอยเขม่า หรือรอยไหม้ มือจบั สวิตช์ไฟหรือ เตา้ เสียบแลว้ รู้สึกอุ่น เป็ นตน้ เหล่าน้ีแสดงวา่ มีความร้อน ผดิ ปกติเกิดข้ึน อาจเกิดจากจุดต่อต่างๆ ไม่แน่น เตา้ เสียบ เตา้ รับหลวม เป็ นตน้ การใชไ้ ขควงลองไฟทดสอบไฟร่ัว รูปท่ี 1.9 การใชไ้ ขควงลองไฟทดสอบ แสดงดงั รูปที่ 1.9 ไฟร่ัว 12. อยา่ พยายามใชไ้ ฟฟ้ าหรือเปิ ดสวิตช์เครื่องใชไ้ ฟฟ้ า เช่น พดั ลมระบายอากาศในบริเวณท่ีมีไอของสาร ระเหยหรือก๊าซท่ีไวไฟปกคลุมอยเู่ ตม็ พ้ืนท่ี เช่น กา๊ ซหุงตม้ ทินเนอร์ หรือไอน้ามนั เบนซิน เป็นตน้ 13. ระมดั ระวงั การใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้ าราคาถูกจากบางประเทศที่ผลิตแบบไม่ไดม้ าตรฐาน นอกจากจะมี อายกุ ารใชง้ านส้ันแลว้ อาจไม่ปลอดภยั ในการใชง้ านโดยเฉพาะในเรื่องของอคั คีภยั 14. อุปกรณ์ท่ีมีการเสียบปลกั๊ ทิ้งไวน้ านๆ โดยไม่มีผูด้ ูแล เช่น หลอดไฟทางเดิน หรือบนั ได หมอ้ แปลงไฟขนาดเล็ก (อะแดปเตอร์) และเคร่ือง ชาร์จแบตเตอร่ีขนาดเล็ก เป็ นตน้ หากมีความจาเป็ น ตอ้ งใชใ้ ห้หลีกเลี่ยงการใชใ้ นบริเวณที่มีวสั ดุท่ีติดไฟ ไดง้ ่ายอยใู่ กลๆ้ 15. ทุกคร้ังที่เลิกใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้ า ควรปิ ด สวติ ช์ท่ีเครื่องใชไ้ ฟฟ้ าก่อน และถอดเตา้ เสียบออก จากเตา้ รับทุกคร้ัง เพื่อไม่ให้เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าชารุด

11 เสียหายง่าย การถอดเตา้ เสียบออกจากเตา้ รับทุกคร้ัง เม่ือเลิกใชง้ านเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ า แสดงดงั รูปท่ี 1.10 16. อย่าพยายามซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ าด้วยตวั เอง หรือโดยช่างซ่อมที่มีความรู้ความชานาญไม่เพียงพอ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ าบางประเภทจาเป็นตอ้ งอาศยั อุปกรณ์ตรวจสอบดา้ นความปลอดภยั เช่น เตาไมโครเวฟ ตอ้ งมีการ ตรวจสอบการรั่วออกมาของคล่ืนไมโครเวฟ ไม่ให้มีมากเกินอตั ราที่กาหนดหรือเครื่องใช้ท่ีมีสายดินตอ้ ง ตรวจสอบความต่อเนื่องและฉนวนของสายดินกบั สายศูนย์ เป็นตน้ 17. หลีกเลี่ยงการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าใน ขณะท่ีมีฝนตกฟ้ าคะนอง โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเป็ น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศพั ท์ อุปกรณ์ ส่ือสาร โทรทศั น์ เครื่องเล่นวดี ีทศั น์ เครื่องเสียง และคอมพิวเตอร์ เป็ นตน้ เพ่ือเป็ นการป้ องกนั ไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้ าเหล่าน้ีชารุดเสียหาย เมื่อมี ฟ้ าผ่าเกิดข้ึนในบริเวณใกล้เคียง ให้ปิ ดเครื่องถอด เตา้ เสียบออก รวมท้งั สายอากาศ และสายโทรศพั ท์ รูปท่ี 1.11 การเกิดฟ้ าผา่ ออกจากเครื่องทุกคร้ัง การเกิดฟ้ าผา่ แสดงดงั รูป ท่ี 1.11 18. เครื่องใชไ้ ฟฟ้ าท่ีควบคุมการเปิ ด ปิ ดดว้ ยป่ ุมสัมผสั อิเล็กทรอนิกส์ หรือรีโมท คอนโทรล เช่น โทรทศั น์ เคร่ืองเล่นวีดีทศั น์ เคร่ืองเสียง และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็ นต้น เครื่องใช้ไฟฟ้ าเหล่าน้ีเมื่อปิ ดเคร่ืองแล้วยงั มี ไฟเล้ ี ยงวงจรควบคุ มภายในเครื่ องอยู่ตลอด เวลา จึงมีโอกาสทาให้เกิดอุปกรณ์ควบคุม ภายในชารุดได้ หรือบางคร้ังอาจทาให้เกิด เพลิงไหมท้ รัพยส์ ินเสียหายได้ ดงั น้ันจึงควร ถอดเตา้ เสียบออก หรือติดต้งั วงจรสวติ ช์ตดั รูปท่ี 1.12 การเกิดเพลิงไหมเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ ต่อวงจร เพื่อตดั ไฟออกทุกคร้ังที่เลิกใช้งาน การเกิดเพลิงไหมข้ องคอมพิวเตอร์ แสดงดงั รูปที่ 1.12 19. เม่ือไฟฟ้ าที่จ่ายมาจากการไฟฟ้ าดบั ให้ดบั สวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้ าทุกชนิดที่เปิ ดคา้ งอยู่ทนั ที เพื่อ ป้ องกนั สาเหตุท่ีจะเกิดข้ึน ดงั น้ี  เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าชารุดจากแรงดนั ที่ผิดปกติขณะไฟฟ้ าดบั ไม่สนิท แรงดนั อาจต่ากว่าปกติ

12 หรือขณะที่เริ่มมีไฟฟ้ ากลบั เขา้ มาใหม่ แรงดนั อาจมากเกินปกติ  อุปกรณ์ตดั วงจรอาจทางานอีกคร้ัง เมื่อมีไฟกลบั เขา้ มา และมีเครื่องใชไ้ ฟฟ้ าท่ีกินไฟในการ เร่ิมทางานมากเปิ ดใชง้ านอยู่ จะทาใหเ้ กิดไฟดบั อีกคร้ังได้  อันตรายจากเครื่องใช้ไฟฟ้ าท่ีมีความร้อนติดค้างอยู่ เช่น เตารีด และเตาไฟฟ้ า เป็ นต้น ในขณะท่ีมีไฟกลบั เขา้ มาโดยไมร่ ู้ตวั 20. ฝึกฝนใหร้ ู้จกั วธิ ีแกไ้ ขและป้ องกนั รวมท้งั ช่วยเหลือปฐมพยาบาล เม่ือมีอุบตั ิเหตุทางไฟฟ้ าเกิดข้ึน 1.4 การปฏบิ ตั งิ านด้านไฟฟ้ าทป่ี ลอดภยั การสัมผสั จบั ตอ้ งไฟฟ้ าถือเป็ นอนั ตรายต่อร่างกายคนอย่างร้ายแรง ดงั น้นั การปฏิบตั ิงานทางดา้ นท่ีตอ้ ง เก่ียวขอ้ งกบั ไฟฟ้ าจาเป็ นตอ้ งมีความระมดั ระวงั อย่างมาก ตอ้ งมนั่ ใจว่าเกิดความปลอดภยั ขณะปฏิบตั ิงาน จะตอ้ งมีอุปกรณ์อานวยความสะดวก และอุปกรณ์ป้ องกนั อนั ตรายท่ีเพียงพอ ตอ้ งปฏิบตั ิงานให้ถูกข้นั ตอน ทางานอยา่ งเป็นระบบและมีความรอบคอบ หลกั การปฏิบตั ิ งานทางดา้ นไฟฟ้ าที่ปลอดภยั มีดงั น้ี 1. ควรคานึงถึงกฎแห่งความปลอดภยั ทุกคร้ัง ขณะทางานหรือซ่อมบารุงเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ า อุปกรณ์ไฟฟ้ า และอยา่ ทางานดว้ ยความประมาท 2. ก่อนการปฏิบตั ิงานเกี่ยวกบั ไฟฟ้ า ต้อง ถือวา่ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ า อุปกรณ์ไฟฟ้ าเหล่าน้ันมีไฟฟ้ า จ่ายอยู่ ตอ้ งตรวจสอบจนแน่ใจก่อนว่าไม่มีไฟฟ้ า จ่ายให้แล้ว ตัดไฟฟ้ าทุกคร้ังก่อนการปฏิบตั ิงาน แสดงดงั รูปที่ 1.13 3. จะปฏิบตั ิงานเก่ียวกบั ไฟฟ้ าเรื่องใด ตอ้ งมี ความรู้ความเข้าใจในเรื่องน้ันก่อนการปฏิบตั ิงาน หรือถา้ ไม่รู้ไม่เขา้ ใจควรสอบถามผรู้ ู้ และให้ผูร้ ู้เป็ น รูปที่ 1.13 ตดั ไฟฟ้ าทุกคร้ังก่อนการ ผกู้ ระทา ปฏิบตั ิงาน 4. อุปกรณ์และเครื่องมือท่ีใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน หากมีส่วนชารุดหรือไมส่ มบรู ณ์ไม่ควรนามาใชง้ าน 5. อยา่ ปฏิบตั ิงานเมื่อรู้สึก เหนื่อย ออ่ นเพลีย ง่วงนอน หรือรับประทานยาทาใหเ้ กิดอาการง่วงซึม 6. อย่าปฏิบตั ิงานในขณะมือเปี ยกน้า หรือ ยืนอยู่บนพ้ืนท่ีเปี ยกน้า ทาให้เกิดอนั ตรายได้ง่าย อนั ตรายเกิดจากไฟฟ้ ากบั น้า แสดงดงั รูปที่ 1.14 7. ถา้ จาเป็นตอ้ งปฏิบตั ิงานในบริเวณท่ีมีคน พลุกพล่าน หรือมีการปฏิบตั ิงานอ่ืนๆ ร่วมดว้ ย ตอ้ ง

13 แขวนป้ ายหรือเขียนป้ ายแสดงการงดใช้ไฟฟ้ าไวใ้ ห้ มองเห็นชดั เจนทุกคร้ังก่อนเริ่มการปฏิบตั ิงาน 8. ถ้าจาเป็ นตอ้ งปฏิบตั ิงานในบริเวณที่ไม่ สามารถตดั ไฟออกได้ ตอ้ งก้นั บริเวณหรือป้ องกนั ไมใ่ หผ้ ไู้ มเ่ ก่ียวขอ้ งเขา้ ใกลไ้ ด้ รูปที่ 1.14 อนั ตรายเกิดจากไฟฟ้ ากบั น้า 9. การปฏิบตั ิงานถา้ มีการละงานไปชว่ั คราว เช่น พกั เที่ยง เม่ือกลบั มาปฏิบตั ิงานต่อ ตอ้ งตรวจสอบ สวติ ชต์ ดั ตอน สะพานไฟ ตลอดจนเครื่องหมายตา่ งๆ ท่ีทาไวต้ อ้ งอยใู่ นสภาพเดิมก่อนปฏิบตั ิงานต่อไป 10. การปฏิบตั ิงานแต่ละคร้ัง ควรมีผรู้ ่วมปฏิบตั ิงานดว้ ยอยา่ งนอ้ ย 2 คน 11. การปฏิบตั ิงานเกี่ยวกบั ไฟฟ้ าแรงสูง ควรใชเ้ คร่ืองช่วยป้ องกนั ไฟฟ้ าใหม้ ากข้ึนกวา่ ปกติ เช่น ใชเ้ ส่ือ ยางฉนวนปูพ้นื สวมถุงมือฉนวน และปลอกแขนฉนวน เป็นตน้ ก่อนการปฏิบตั ิ งานทุกคร้ัง 1.5 การช่วยเหลอื ผู้ประสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด การช่วยเหลือผูป้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูดนับเป็ นส่ิงจาเป็ น และสาคญั อย่างย่ิงท่ีตอ้ งกระทาด้วย ความรวดเร็วอย่างถูกวิธี มีความรอบคอบ และดว้ ยความระมดั ระวงั เพ่ือใหผ้ ปู้ ระสบอนั ตรายมีโอกาสรอดพน้ จากอนั ตรายข้นั ร้ายแรง และผใู้ หค้ วามช่วยเหลือเกิดความปลอดภยั ไม่เป็ นอนั ตรายตามไปดว้ ย ส่ิงสาคญั คือผใู้ ห้ ความช่วยเหลือตอ้ งรู้จกั วธิ ีใหค้ วามช่วยเหลือที่ถูกตอ้ ง และถูกวธิ ี การปฏิบตั ิทาไดด้ งั น้ี 1. อย่าใชม้ ือเปล่าแตะตอ้ งตวั ผูท้ ่ีกาลงั ติดอยู่กบั สายไฟฟ้ า หรือตวั นาไฟฟ้ าที่มีกระแสไหลผา่ น เพ่ือ ป้ องกนั ไม่ใหผ้ ใู้ หค้ วามช่วยเหลือเกิดอนั ตรายตามไปดว้ ยอีกคน 2. รีบหาทางตดั ทางเดินของไฟฟ้ าก่อน โดยถอดเตา้ เสียบ ตดั สวิตช์ตดั วงจรอตั โนมตั ิ หรือสวิตช์ ประธาน ถ้าทาไม่ไดใ้ ห้ใช้วสั ดุที่ไม่เป็ นส่ือตวั นาไฟฟ้ า เช่น ผา้ แห้ง เชือกแห้ง ไมแ้ ห้ง สายยางแห้ง หรือผา้ พลาสติกท่ีแห้งสนิท ลากตวั ผปู้ ระสบอนั ตรายให้พน้ จากส่ิงท่ีมีไฟฟ้ า หรือใช้ไมแ้ ห้งเข่ียสายไฟฟ้ าให้หลุดพน้ ออกจากตวั ผปู้ ระสบอนั ตราย หรือเข่ียส่วนของร่างกายผปู้ ระสบอนั ตรายใหห้ ลุดพน้ ออกจากสายไฟฟ้ าโดยเร็ว การช่วยผูป้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด แสดง ดงั รูปที่ 1.15

14 3. เม่ือไม่สามารถทาวิธีอ่ืนใดได้แล้ว ให้ใช้มีด ขวาน หรือของมีคมท่ีมีดา้ มไมห้ รือ ดา้ มที่เป็ นฉนวน ฟันสายไฟฟ้ าให้ขาดหลุดออก จากผูป้ ระสบภยั โดยเร็วที่สุด และตอ้ งแน่ใจว่า สามารถทาไดด้ ว้ ยความปลอดภยั 4. ในกรณีที่มีกระแสอยู่ในบริเวณที่มี น้าขงั อยา่ ลงไปในน้า ให้หาทางเขี่ยสายไฟฟ้ า ออกไปใหพ้ น้ น้า หรือตดั ไฟฟ้ าออกก่อนจะลง ไปช่วยผปู้ ระสบอนั ตรายท่ีอยใู่ นบริเวณน้นั รูปท่ี 1.15 การช่วยผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ า ดูด 5. ถ้ากรณีท่ีเป็ นสายไฟฟ้ าแรงสูง ให้พยายามหลีกเลี่ยงอย่าเข้าไปใกล้ และรีบแจ้งการไฟฟ้ าที่ รับผดิ ชอบใหท้ ราบโดยเร็วท่ีสุด 1.6 การปฐมพยาบาลผ้ปู ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด ผปู้ ระสบอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้ าดูด ส่วนมากจะหมดสติไม่รู้สึกตวั ซ่ึงอาจจะไม่หายใจ และมีสภาวะ หวั ใจหยดุ เตน้ สังเกตไดจ้ ากอาการที่เกิดข้ึนดงั น้ี ริมฝีปากเขียว สีหนา้ ซีดเขียวคล้า ทรวงอกเคล่ือนไหวนอ้ ยมาก หรือไม่เคลื่อนไหว ชีพจรเตน้ ชา้ และเบามาก หากหวั ใจหยุดเตน้ จะคลาชีพจรไม่พบ ม่านตาขยายคา้ งไม่หดเล็ก ลง การหมดสติเช่นน้ีตอ้ งรีบใหก้ ารปฐมพยาบาลทนั ที เพ่ือให้ปอดและหวั ใจทางาน เรียกการช่วยเหลือน้ีวา่ การ ปฏิบตั ิการช่วยฟ้ื นคืนชีพ (Cardio Pulmonary Resuscitation ; CPR) โดยวิธีการช่วยฟ้ื นคืนชีพข้นั พ้ืนฐาน (Basic Life Support ; BLS) ไดแ้ ก่ การผายปอดดว้ ยการให้ลมหายใจทางปากท่ีเรียกวา่ การเป่ าปาก ร่วมกบั การนวด หวั ใจภายนอก ก่อนนาผปู้ ่ วยส่งแพทย์ 1.6.1 การผายปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปาก ภาวะหยุดหายใจ (Respiratory Arrest) เป็ นภาวะที่มีการหยดุ การทางานของอวยั วะในระบบ ทางเดินหายใจและการไหลเวยี นของโลหิต ส่วนมากมกั จะพบวา่ มีการหยุดหายใจก่อนเกิดภาวะหวั ใจหยดุ เตน้ และถา้ ไม่ไดร้ ับการช่วยเหลือท่ีถูกตอ้ ง จะทาให้เสียชีวติ ได้ การผายปอดดว้ ยการให้ลมหายใจทางปาก เป็ นวธิ ี พ้นื ฐานท่ีจาเป็นตอ้ งปฏิบตั ิในเบ้ืองตน้ ทาไดด้ งั น้ี

15 1. ให้ผูป้ ่ วยนอนหงายราบกับ รูปที่ 1.16 การจดั ทา่ นอนที่ถูกตอ้ งเหมาะสมให้ พ้ืน จดั ท่านอนให้เหมาะสม เพื่อเปิ ดทางให้มี ผปู้ ่ วย อากาศเขา้ สู่ปอดไดส้ ะดวก โดยผปู้ ฐมพยาบาล จะอยู่ทางด้านขวา หรือดา้ นซ้ายบริเวณศีรษะ ของผูป้ ่ วยก็ได้ ลกั ษณะการจดั ท่านอนที่ถูกตอ้ ง เหมาะสมใหผ้ ปู้ ่ วย แสดงดงั รูปที่ 1.16 2. ใช้มือขา้ งหน่ึงดึงคางผูป้ ่ วย หรือดนั ใตค้ อพร้อมกบั ใชม้ ืออีกขา้ งดนั หนา้ ผาก ใหห้ นา้ แหงน เป็นวธิ ีป้ องกนั ไม่ใหล้ ิ้นตกไปอุด รูปท่ี 1.17 การใชม้ ือจบั ศีรษะผปู้ ่ วยใหห้ นา้ ปิ ดทางเดินหายใจ และตอ้ งระวงั ไม่ให้นิ้วมือที่ แหงน ดึงคางน้ัน กดลึกลงไปในส่วนของเน้ือใตค้ าง เพราะจะทาใหอ้ ุดก้นั ทางเดินหายใจไดโ้ ดยเฉพาะ อย่างยิ่งในเด็กเล็ก สาหรับในเด็กแรกเกิด ไม่ ควรหงายคอมากเกินไป เพราะอาจทาให้เกิด หลอดลมแฟบ และเกิดอุดตนั ทางเดินหายใจได้ ลกั ษณะการใช้มือจบั ศีรษะผปู้ ่ วยให้หน้าแหงน แสดงดงั รูปท่ี 1.17 3. สอดนิ้วหวั แม่มือเขา้ ในปากผปู้ ่ วย จบั ขากรรไกรล่างยกข้ึนจนปากอา้ ออก 4. ลว้ งเอาสิ่งอ่ืนๆ ท่ีอาจมีติดคา้ งอยใู่ นปากและลาคอออกใหห้ มด เช่น ฟันปลอม และเศษอาหาร เป็นตน้ เพ่อื ไมใ่ หข้ วางทางลม 5. ตรวจสอบการหายใจของ ผูป้ ่ วย โดยเอียงหน้ามองไปทางปลายเท้าผูป้ ่ วย ให้หูชิดปากผูป้ ่ วย เพื่อฟังเสียงหายใจ ตาดูการ เคลื่อนไหวของทรวงอก ถา้ ผูป้ ่ วยหายใจได้เอง อยา่ งเพียงพอ ใหจ้ ดั ท่านอนใหผ้ ปู้ ่ วยใหม่ โดยจดั ให้นอนตะแคงก่ึงคว่าเพื่อนอนพกั การจดั ท่า นอนให้ผูป้ ่ วยนอนตะแคงก่ึงคว่า แสดงตาม รูปที่ 1.18 การจดั ท่านอนให้ผปู้ ่ วยนอนตะแคง ข้นั ตอนท่ี 1 – 4 ตามรูปท่ี 1.18 ก่ึงคว่า

16 6. ถา้ ผปู้ ่ วยไม่หายใจ ใหผ้ ปู้ ฐมพยาบาลทาการผายปอดดว้ ยการเป่ าปากผปู้ ่ วย ผปู้ ฐมพยาบาลอา้ ปากให้กวา้ งหายใจเขา้ ปอดเต็มที่ มือขา้ งหน่ึงบีบจมูกผปู้ ่ วยให้แน่นสนิท มืออีกขา้ งหน่ึงยงั อยูท่ ่ีคางผูป้ ่ วยอยู่ แลว้ จึงประกบปากปิ ดปากผปู้ ่ วยใหส้ นิท พร้อมกบั เป่ าลมเขา้ ไป รูปท่ี 1.19 การผายปอดดว้ ยการเป่ าลมเขา้ ปาก เป็นจงั หวะประมาณ 12 – 15 คร้ัง/นาที ในเด็กเล็ก ประมาณ 20 – 30 คร้ัง/นาที การผายปอดดว้ ยการ เป่ าลมเขา้ ปาก แสดงดงั รูปที่ 1.19 7. ขณะทาการเป่ าปากผู้ป่ วย ตาตอ้ งเหลือบดูด้วยว่า หน้าอกผูป้ ่ วยมีอาการ ขยายข้ึนลงหรือไม่ หากไมม่ ีการกระเพื่อมข้ึนลง อาจเป็ นเพราะท่านอนไม่ดีหรือมีส่ิงกีดขวาง ทางเดินหายใจ ซ่ึงตอ้ งรีบแกไ้ ขจดั ท่าใหม่ และ อย่าให้มีสิ่งกีดขวางทางเดินหายใจ การดูหน้าอก ผปู้ ่ วยขยายข้ึนลง แสดงดงั รูปท่ี 1.20 8. ถ้ากรณีที่ไม่สามารถอา้ ปาก รูปท่ี 1.20 การดูหนา้ อกผปู้ ่ วยขยายข้ึนลง ของผปู้ ่ วยได้ ให้ใชม้ ือปิ ดปากผปู้ ่ วยใหส้ นิท และ เป่ าลมเขา้ ทางจมูกแทน โดยใช้วิธีการปฏิบตั ิใน ทานองเดียวกบั การเป่ าปาก 9. ขณะนาส่งโรงพยาบาล ให้ ทาการเป่ าปากไปด้วยจนกว่าผูป้ ่ วยจะฟ้ื น หรือ เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากแพทยเ์ ป็ นที่เรียบร้อย แลว้ 1.6.2 การนวดหัวใจภายนอก ภาวะหวั ใจหยดุ เตน้ หมายถึงการไหลเวียนเลือดหยดุ ลงอยา่ งสิ้นเชิง ซ่ึงทราบไดจ้ ากการหมด สติไม่มีการเคล่ือนไหว ไม่มีอาการไอ คลาชีพจรไม่ได้ ไม่มีการหายใจอย่างท่ีเป็ นตามปกติ ภาวะหวั ใจหยุด เตน้ เกิดข้ึนหลงั จากภาวะหยดุ หายใจ คนที่หยดุ การหายใจและหวั ใจหยดุ เตน้ ไปแลว้ ยงั มีโอกาสฟ้ื นข้ึนได้ ตอ้ ง รีบทาการช่วยใหห้ วั ใจกลบั เตน้ ข้ึนมาทนั ทีดว้ ยการนวดหวั ใจ มีวธิ ีการปฏิบตั ิดงั น้ี

17 1. ให้ผูป้ ่ วยนอนราบกบั พ้ืนแข็งๆ หรือ ใช้ไมก้ ระดานรองหลงั ของผปู้ ่ วย ผปู้ ฐมพยาบาลนงั่ คุก เขา่ ลงขา้ งขวา หรือขา้ งซา้ ยบริเวณหนา้ อกผปู้ ่ วย 2. คลาหาส่วนล่างสุดของกระดูกอกท่ี ตอ่ กบั กระดูกซ่ีโครง โดยใชส้ องนิ้วสัมผสั ส่วนล่างกระดูก อก ใชฝ้ ่ ามืออีกขา้ งวางไล่ข้ึนมา ถา้ คุกเขา้ ขา้ งขวาใชม้ ือขวา รูปท่ี 1.21 ตาแหน่งการวางมือเพ่ือนวด คลาหาส่วนล่างกระดูกอก หากคุกเขา่ ขา้ งซา้ ยใชม้ ือ หวั ใจ ซา้ ยคลาหาส่วนล่างกระดูกอก ตาแหน่งการวางมือเพื่อนวดหวั ใจ แสดงดงั รูปที่ 1.21 3. วางมืออีกขา้ งทบั บนหลังมือท่ีวางไว้ แล้วในตาแหน่งท่ีถูกตอ้ ง เหยียดนิ้วมือตรง และ เก่ียวนิ้วมือ 2 ขา้ งเขา้ ดว้ ยกนั เหยยี ดแขนตรงโนม้ ตวั ต้งั ฉากกบั หนา้ อกผปู้ ่ วย ทิ้งน้าหนกั ลงบนแขน ขณะกดหนา้ อกผปู้ ่ วยให้กระดูกลดระดบั ลง 1.5 – 2 นิ้ว หรือ 4 – 5 ซม. เมื่อกดสุดให้ผ่อนมือข้ึนทนั ที โดยท่ีตาแหน่งมือไม่ต้องเล่ือนจากจุดที่กาหนด รูปที่ 1.22 ตาแหน่งการวางมือบนหนา้ อกผปู้ ่ วย ขณะกดหนา้ อกนวดหวั ใจ ห้ามใชน้ ิ้วมือกดลงบน ซ่ีโครงผปู้ ่ วย ลกั ษณะการวางมือ บนหนา้ อกผปู้ ่ วย แสดงดงั รูปที่ 1.22 4. ขณะท่ีกดหนา้ อกแต่ละคร้ังตอ้ งนบั จานวนคร้ังที่กดดงั น้ี หน่ึง และสอง และ สาม และสี่ และห้า ….. โดยกดหนา้ อกทุกคร้ังท่ีนบั ตวั เลข และปล่อยมือจากการกดตอนคาว่า “และ” สลบั กนั ไปใหไ้ ดอ้ ตั ราการกดประมาณ 90 – 100 คร้ัง/นาที การกด หนา้ อกผปู้ ่ วย แสดงดงั รูปที่ 1.23 5. ถา้ ผปู้ ฏิบตั ิมีคนเดียว ให้นวดหัวใจ 15 คร้ัง สลบั กบั การเป่ าปาก 2 คร้ัง ทาสลบั กนั เช่นน้ีจน ครบ 4 รอบ แลว้ ตรวจชีพจรและการหายใจ หากคลา รูปที่ 1.23 การกดหนา้ อกผปู้ ่ วย ชีพจรไม่ไดต้ อ้ งนวดหวั ใจต่อ แต่ถา้ คลาชีพจรได้ และยงั ไม่หายใจตอ้ งเป่ าปากต่อไปอยา่ งเดียว 6. ถา้ มีผปู้ ฏิบตั ิ 2 คน ใหน้ วดหวั ใจ 5 คร้ัง สลบั กบั การเป่ าปาก 1 คร้ัง โดยขณะที่เป่ าปาก อีก คนตอ้ งหยดุ นวดหวั ใจ

18 7. ในกรณีช่วยเหลือเด็กอ่อน หรือเด็ก รูปที่ 1.24 การนวดหวั ใจเดก็ อ่อน แรกเกิด การนวดหัวใจให้ใช้นิ้วเพียง 2 นิ้ว กดบริเวณ ก่ึงกลางกระดูกหน้าอกให้ได้อตั ราการกด 100 – 120 คร้ัง/นาที การนวดหวั ใจเด็กออ่ น แสดงดงั รูปที่ 1.24 8. การนวดหวั ใจไม่วา่ ผใู้ หญ่ หรือเด็ก ตอ้ งทาอยา่ งระมดั ระวงั และถูกวิธี มิเช่นน้นั อาจทาให้ กระดูกซี่โครงหกั ตบั แตก และมา้ มแตกได้ โดยเฉพาะ ในเด็กเล็กตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ 1.7 บทสรุป ไฟฟ้ าเป็ นพลงั งานชนิดหน่ึง มีท้งั โทษและประโยชน์ในเวลาเดียวกนั หากใช้ถูกวิธีจะเกิดประโยชน์ มากมายมหาศาล หากใชผ้ ิดวธิ ีจะมีโทษมากมายมหาศาลเช่นเดียวกนั ไฟฟ้ าเคลื่อนที่ไดด้ ีในวตั ถุตวั นาจาพวก โลหะชนิดต่างๆ ไฟฟ้ าไม่สามารถเคล่ือนที่ผา่ นไปไดห้ รือเคล่ือนท่ีไปไดล้ าบากในวตั ถุที่เป็ นพวกฉนวน ไฟฟ้ า สามารถไหลผ่านร่างกายคนไดอ้ ย่างสะดวก เกิดไฟฟ้ าดูดหรือไฟฟ้ าช็อต ปริมาณกระแสท่ีไหลผ่านร่างกาย แตกต่างกนั เกิดอนั ตรายต่อร่างกายแตกต่างกนั ไป กระแสไหลผา่ นนอ้ ยเป็ นอนั ตรายนอ้ ย กระแสไหลผา่ นมาก เป็นอนั ตรายมาก มีผลทาใหบ้ าดเจบ็ พกิ าร หรือถึงเสียชีวติ ได้ การปฏิบตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้ าท่ีปลอดภยั ผใู้ ช้ไฟฟ้ าจะตอ้ งทราบและเขา้ ใจคุณสมบตั ิของไฟฟ้ า ตอ้ ง ระมดั ระวงั ไม่ประมาท ทางานอยา่ งเป็ นระบบและรอบคอบ คานึงถึงกฎแห่งความปลอดภยั ขณะทางาน ผใู้ ช้ ไฟฟ้ าจึงจาเป็ นตอ้ งเรียนรู้วิธีการใช้ไฟฟ้ าอย่างถูกตอ้ ง และเรียนรู้ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการใช้ไฟฟ้ าอย่างถูกตอ้ ง ปลอดภยั ผปู้ ระสบอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้ าดูด ส่วนมากจะหมดสติไม่รู้สึกตวั ซ่ึงอาจจะไม่หายใจ และมีสภาวะ หวั ใจหยุดเตน้ ดว้ ย การหมดสติเช่นน้ีตอ้ งรีบให้การปฐมพยาบาลทนั ที เพ่ือให้ปอดและหวั ใจทางาน เรียกการ ช่วยเหลือน้ีวา่ การปฏิบตั ิการช่วยฟ้ื นคืนชีพ (CPR) โดยวธิ ีการช่วยฟ้ื นคืนชีพข้นั พ้ืนฐาน (BLS) ไดแ้ ก่ การผาย ปอดด้วยการให้ลมหายใจทางปาก ร่วมกบั การนวดหัวใจภายนอก ก่อนนาผูป้ ่ วยส่งแพทย์ การช่วยเหลือผู้ ประสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าเป็นสิ่งจาเป็น สาคญั อยา่ งยง่ิ ตอ้ งกระทาอยา่ งถูกวธิ ี รวดเร็ว รอบคอบ และระมดั ระวงั ทาใหผ้ ปู้ ระสบอนั ตรายมีโอกาสรอดพน้ จากอนั ตราย

19 • ด้านทกั ษะ(ปฏบิ ัต)ิ (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 5) 1. ใบปฏิบตั ิงานที่ 1.1 การช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด และ ใบปฏิบตั ิงานท่ี 1.2 การนวด หวั ใจผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด 2. แบบฝึกหดั บทที่ 1 • ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 6-7) 1. การเตรียมความพร้อมดา้ นการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์นกั ศึกษาจะตอ้ งกระจายงานไดท้ วั่ ถึง และตรง ตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง 2. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบตั ิงาน ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นกั ศึกษาจะตอ้ งมีการใช้ เทคนิคท่ีแปลกใหม่ ใชส้ ่ือและเทคโนโลยี ประกอบการ นาเสนอที่น่าสนใจ นาวสั ดุในทอ้ งถ่ินมาประยกุ ตใ์ ช้ อยา่ งคุม้ ค่าและประหยดั

20 กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (15 นาที ) 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (15 นาที ) 1. จดั เตรียมเอกสาร พร้อมกบั แนะนารายวชิ า 1. จดั เตรียมเอกสาร ฟังอาจารยผ์ ูส้ อนแนะนา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง ระบบความ รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรี ยนเรื่ อง ปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและอิเลก็ ทรอนิกส์ องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ 2. ผสู้ อนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหน่วย 2. ผเู้ รียนทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั จุดประสงค์การ เรียนที่ 1 และการใหค้ วามร่วมมือของนกั ศึกษาใน เรียนของหน่วยเรียนที่ 1 และการใหค้ วามร่วมมือใน การทากิจกรรม การทากิจกรรม 3. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนยกตวั อยา่ งการปฏิบตั ิงาน 3. ผเู้ รียนยกตวั อยา่ ง เรื่อง การปฏิบตั ิงานทางดา้ น ทางดา้ นไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภยั ไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ีปลอดภยั ตามความเขา้ ใจ ของตนเอง 4. ผสู้ อนให้ผเู้ รียนทาแบบฝึ กหัดก่อนเรียนบท 4. ผูเ้ รียนทาแบบฝึ กหัดก่อนเรียนบทท่ี 1 เร่ือง ท่ี 1 เร่ือง ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟ้ าและ ระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์ แล้วให้นักศึกษาสลับกันตรวจ แลว้ สลบั กนั ตรวจคาตอบดว้ ยความซ่ือสัตย์ คาตอบ และใหค้ ะแนน 2. ข้นั ให้ความรู้ (75 นาท)ี 2. ข้ันให้ความรู้ (75 นาที ) 1. ผูส้ อนฉายแผ่นใส บทที่ 1 เร่ือง ระบบ 1. ผูเ้ รียนดูบทเรียนจากแผ่นใส บทท่ี 1 เรื่อง ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกบั จดบนั ทึกเน้ือที่ไดเ้ รียน 2. ผู้ส อ นร่ วมมื อกับผู้เ รี ย นอธิ บาย แล ะ 2. ผเู้ รียนร่วมมือกบั ผสู้ อนอธิบายและยกตวั อยา่ ง ยกตัวอย่างอันตรายของไฟฟ้ าต่อร่ างกายมนุษย์ อนั ตรายของไฟฟ้ าต่อร่างกายมนุษย์ การปฏิบตั ิงาน การปฏิบตั ิงานทางด้านไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ี ทางด้านไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัย และ ปลอดภยั และการปฏิบตั ิงานทางดา้ นการซ่อมบารุง การปฏิบัติงานทางด้านการซ่อมบารุงเก่ียวกับไฟฟ้ า เก่ียวกบั ไฟฟ้ า ตามท่ีไดด้ ูบทเรียนจากแผน่ ใส 3. ข้นั ประยุกต์ใช้ ( 90 นาที ) 3. ข้นั ประยกุ ต์ใช้ ( 90 นาที ) 1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนทาการแบง่ นกั เรียนออกเป็น 5 1. ผเู้ รียนแบง่ กลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่ม คือ กลุ่มท่ี 1 อนั ตรายตอ่ ร่างกายมนุษย์

21 กลุ่มที่ 2 การปฏิบตั ิงานดา้ นไฟฟ้ าและ อิเลก็ ทรอนิกส์ กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ข้นั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้นั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรียน กลุ่มที่ 3 การซ่อมบารุงไฟฟ้ า กลุ่มที่ 4 ช่วยเหลือผถู้ ูกไฟฟ้ าดูด กลุ่มท่ี 5 การปฐมพยาบาล 2. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนนาเสนอ หนา้ ช้นั เรียน ผสู้ อน 2. ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มอธิบายหนา้ ช้นั เรียนโดยขอ คอยสรุปเน้ือหาแต่ละกลุ่ม คาแนะนาจากผสู้ อน 3. ผูส้ อนแนะนาลาดบั ข้นั ตอนการทดลอง ตามใบ 3. ผู้เรี ยนทาใบปฏิบัติงานท่ี 1.1 เร่ื อง การ ปฏิบตั ิงานที่ 1.1 เรื่อง การช่วยเหลือผูป้ ระสบอนั ตราย ช่วยเหลือผูป้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด และใบ จากไฟฟ้ าดูด และใบปฏิบตั ิงานที่ 1.2 เร่ือง การนวด ปฏิบัติงานที่ 1.2 เร่ื อง การนวดหัวใจผู้ประสบ หวั ใจผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด อนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด 4. ข้นั สรุปและประเมินผล ( 60 นาที ) 4. ข้ันสรุปและประเมนิ ผล ( 60 นาที ) 1. ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาที่ไดเ้ รียน 1. ผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาที่ได้ ใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เรียนใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั 2. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนทาแบบฝึ กหัดการเรียนรู้ 2. ผเู้ รียนทาแบบฝึกหดั การเรียนรู้บทที่ 1 บทที่ 1 3. แจกแบบฝึ กหัดบทที่ 1 เรื่อง ระบบความ 3. ผูเ้ รียนทาแบบฝึ กหัดบทที่ 1 ด้วยความ ปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ ซ่ือสตั ย์ 4. ผูส้ อนตรวจแบบฝึ กหัดหลงั เรียนพร้อมกับ 4. ผูเ้ รียนนาคะแนนจากแบบฝึ กหัด เพื่อดู บนั ทึกคะแนน ความกา้ วหนา้ ของตนเอง (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-7) (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-7) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน)

22 งานทีม่ อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. จดั เตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนตามท่ีอาจารยผ์ สู้ อนและบทเรียนกาหนด 2. ทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั จุดประสงคก์ ารเรียนของบทที่ 1 และการใหค้ วามร่วมมือในการทากิจกรรม ในบทที่ 1 ขณะเรียน 1. ศึกษาเน้ือหา ในบทท่ี 1 เรื่อง ระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 2. รายงานผลหนา้ ช้นั เรียน 3. ปฏิบตั ิใบปฏิบตั ิงานที่ 1.1 เร่ือง การช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด และ ใบปฏิบตั ิงานท่ี 1.2 เร่ือง การนวดหวั ใจผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด 4. สรุปผลการทดลอง หลงั เรียน 1. ทาแบบฝึกหดั บทที่ 1 ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน 1. แบบฝึกหดั บทท่ี 1 ใบปฏิบตั ิงานที่ 1.1 ใบปฏิบตั ิงานที่ 1.2 2. ตรวจผลงาน การสาธิต การปฐมพยาบาลผถู้ ูกไฟฟ้ าดูด

23 สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ ส่ือสิ่งพมิ พ์ 1. หนงั สือเรียนวชิ า งานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์เบ้ืองตน้ (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-7) 2. แผน่ ใส บทท่ี 1 เรื่อง ระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ (ใชป้ ระกอบการเรียน การสอนข้นั สอน เพื่อใหบ้ รรลุจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 1-5) 3. ใบปฏิบตั ิงานที่ 1.1 เรื่อง การช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด (ใชป้ ระกอบการเรียนการ สอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 4) 4. ใบปฏิบตั ิงานที่ 1.2 เร่ือง การนวดหวั ใจผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าดูด (ใชป้ ระกอบการเรียนการ สอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 5) 5. แบบฝึกหดั บทท่ี 1 ใชป้ ระกอบการสอนข้นั เตรียม ขอ้ 2 6. แบบฝึกหดั ผลงานตามใบปฏิบตั ิงาน ใชป้ ระกอบการสอนข้นั การเรียนการสอน ขอ้ 2 7. แบบฝึกหดั พฤติกรรมการทางานกลุ่ม ใชป้ ระกอบการสอนข้นั การเรียนการสอน ขอ้ 2 ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ มี) 1. เคร่ืองฉาย ภาพ โปรเจคเตอร์ (PROJECTOR) 2. เครื่องฉายแผน่ ใส (OVERHEAD) ส่ือของจริง 1 ทอ่ น 1. ไมแ้ หง้ ขนาดพอเหมาะยาวประมาณ 1.5 ม. ถึง 2 ม. 1 ท่อน 2. ทอ่ PVC ขนาด 6 หุล ยาวประมาณ 105 ม. ถึง 2 ม. 1 เส้น 3. เชือกหรือเขม็ ขดั ยาว 1 ม.ถึง 1.5 ม. 1 ผนื 4. ผา้ พลาสติกใชป้ นู อน 1 ผนื 5. ผา้ พลาสติกใชป้ นู อน

24 แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุด 2. หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาขอ้ มลู ทาง INTERNET นอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถิ่น การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอนื่ 1. บรู ณาการกบั วชิ าชีวติ และวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพดู การอ่าน การเขียน และการฝึกปฏิบตั ิตนทาง สงั คมดา้ นการเตรียมความพร้อม ความรับผดิ ชอบ และความสนใจใฝ่ รู้ 2. บรู ณาการกบั วชิ าการบริหารการจดั ซ้ือ ดา้ นการซ้ือ การแสวงหาผลิตภณั ฑ์ 3. บูรณาการกบั วชิ ากีฬาเพอื่ พฒั นาสุขภาพและบุคลิกภาพ ดา้ นบุคลิกภาพในการนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน การประเมนิ ผลการเรียนรู้ หลกั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ขณะเรียน 1. ตรวจผลงานตามใบปฏิบตั ิงานท่ี 1.1 และ ใบปฏิบตั ิงานที่ 1.2 2. สงั เกตการทางานกลุ่ม หลงั เรียน 1. ตรวจแบบฝึกหดั บทที่ 1 2. ตรวจแบบแบบฝึกหดั ผลการเรียนรู้

25 คาถาม อธิบายใหไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์และแสดงวธิ ีทาใหส้ มบูรณ์ถูกตอ้ ง 1. ไฟฟ้ าคืออะไร มีอนั ตรายต่อมนุษยอ์ ยา่ งไร 2. ไฟฟ้ ามีประโยชน์อะไรบา้ งบอกมาเป็นขอ้ ๆ 3. ปริมาณกระแสไหลผา่ นร่างกายคนแตกตา่ งกนั จะเกิดผลต่อปฏิกิริยาที่เกิดข้ึนกบั ร่างกายคนอยา่ งไร 4. บอกหลกั การปฏิบตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้ าที่ปลอดภยั มาเป็นขอ้ ๆ ตามลาดบั 5. อธิบายการผายปอดดว้ ยการใหล้ มหายใจทางปากมาเป็นขอ้ ๆ ตามลาดบั ผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสาเร็จของผ้เู รียน ตรวจผลงาน การสาธิตการปฐมพยาบาลผถู้ ูกไฟฟ้ าดูด รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียนรู้  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 1 อธิบายอนั ตรายของไฟฟ้ าตอ่ ร่างกายมนุษย์ ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบฝึกหดั 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธิบายอนั ตรายของไฟฟ้ าตอ่ ร่างกายมนุษย์ ได้ จะได้ 2 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 2 ยกตวั อยา่ งการปฏิบตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภยั ได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบฝึกหดั 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ยกตวั อยา่ งการปฏิบตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้ าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ีปลอดภยั  ไดจ้ ะได้ 3 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 3 ยกตวั อยา่ งการปฏิบตั ิงานทางดา้ นการซ่อมบารุงเก่ียวกบั ไฟฟ้ าได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบฝึกหดั 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ยกตวั อยา่ งการปฏิบตั ิงานทางดา้ นการซ่อมบารุงเก่ียวกบั ไฟฟ้ าได้ จะได้ 3 คะแนน

26  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 บอกวธิ ีการช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ าได้ 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบฝึกหดั 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บอกวธิ ีการช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้ า จะได้ 5 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 5 สาธิตการปฐมพยาบาลผถู้ ูกไฟฟ้ าดูด 1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2. เคร่ืองมือ : แบบฝึกหดั 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : สาธิตการปฐมพยาบาลผถู้ ูกไฟฟ้ าดูด 15 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 6 เตรียมความพร้อมดา้ น วสั ดุ อุปกรณ์สอดคลอ้ งกบั งานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 1. วธิ ีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เคร่ืองมือ : แบบฝึกหดั กระบวนการทางานกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : เตรียมความพร้อมดา้ น วสั ดุ อุปกรณ์สอดคลอ้ งกบั งานไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง จะได้ 6 คะแนน  จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ที่ 7 ปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และสาเร็จภายใน เวลาที่กาหนดอยา่ งมีเหตุ และผลตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. วธิ ีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบฝึกหดั กระบวนการทางานกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : ปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และสาเร็จภายใน เวลาที่กาหนดอยา่ งมีเหตุ และผลตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะได้ 6 คะแนน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook