Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง เค็มบักนัดศึกษา (เค็มบักนัดฮิมโขง เชื่อมโยงสู่โรงเรียน)

หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง เค็มบักนัดศึกษา (เค็มบักนัดฮิมโขง เชื่อมโยงสู่โรงเรียน)

Published by aon ann, 2022-03-28 00:19:22

Description: หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง เค็มบักนัดศึกษา (เค็มบักนัดฮิมโขง เชื่อมโยงสู่โรงเรียน)

Search

Read the Text Version



ก คำนำ รายงานเล่มนีเ้ ป็นสว่ นหน่ึงของรายวชิ า 1123002การออกแบบหลักสตู รและการเรียนร้แู บบบูรณาการใน ชนั้ เรยี นประถมศึกษา จดั ทาขึ้นเพ่ือเป็นหลักฐานในการออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ ซงึ่ มหี น่วยการเรยี นรู้ท้งั หมด 6 หนว่ ย ตง้ั แต่ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 จนถึงระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ในเรอ่ื งของการูมิปญั ญาอีสาน เร่ือง “เค็มบกั นดั ” มาจัดทาเป็นหนว่ ยการเรียนรู้ โดยคณะผู้จัดทาได้ออกแบบการเรียนรู้ในรูปแบบบรู ณาการ โดยใชร้ ูปแบบบรู ณาการ Webbed คณะผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ รายงานเล่มนจ้ี ะมีประโยชนต์ อ่ ผอู้ ่านหรอื ผูท้ ี่สนใจศึกษาในเรื่องน้ีไม่มากก็ น้อย หากมีขอ้ เสนอแนะหรอื มีข้อผดิ พลาดประการใด คณะผจู้ ดั ขอน้อมรบั ไว้และขออภัยมา ณ ท่นี ีด้ ้วย คณะผ้จู ดั ทา

ข สำรบัญ หน้ำ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง รจู้ ักเคม็ บักนัด…………………………………………………………………….……….…1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง บกั นัดลัดทุ่ง…………………………………………………………………………….……..7 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรื่อง บ่ปลามหาสนุก………………………………………………………………………….….15 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง มหัศจรรยเ์ ค็มบกั นัด………………………………………………………………….…..22 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เร่ือง สินคา้ น่ารู้สู่อาชีพ………………………………………………………..………………...27 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เรอ่ื ง ตลาดนัดหรรษา……………………………………………………………………….…...34

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 1 ชือ่ หน่วย ร้จู กั เค็มบักนัด เร่ือง เคม็ บกั นดั ศึกษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลาเรียน 5 ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรยี นร้บู ูรณาการ 1. สาระ/มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด สาระที่ 4 หลกั การใช้ภาษาไทย ,มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักของภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความจากเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความ คดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล สาระที่ 2 ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถ่ายทอดความรสู ึก ความคิดตอ่ ดนตรอี ยา่ งอิสระ ช่นื ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวัน สาระที่ 3 การเคล่อื นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม การเล่นกีฬาไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า 2. ตวั ชว้ี ัด ท 4.1 ป.1/4 ต่อคาคลอ้ งจองงา่ ยๆ ต 1.1 ป.1/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของกล่มุ คาท่ีฟงั ศ 2.1 ป.1/4 มีส่วนรว่ มในกิจกรรมดนตรีอย่างสนุกสนาน พ 3.1 ป.1/1 เคล่ือนไหวรา่ งกายคณะอยู่กบั ที่ เคลอื่ นท่ี และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ

2 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เขา้ ใจและอธบิ ายลกั ษณะของคาคล้องจองได้ (K) 2. สามารถต่อคาคล้องจอง และจับคู่คาศัพท์ทม่ี ีความหมายตรงกบั ภาพได้ (P) 3. มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมท่คี รูพาทาอยา่ งต้งั ใจ (A) 4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด คาคล้องจอง คือ คาทม่ี สี ระเสียงเดยี วกันหรือคาท่ีมีเสยี งสระและตวั สะกดในมาตราเดยี วกัน ขอ้ สาคัญ ในการแต่งคาประพันธ์ทุกชนิดคือคาคล้องจอง ผู้ฝึกหัดแต่งต้องฝึกฝนเรื่องการเลือกคาท่ีมีความหมายคล้อง จองกนั มีความไพเราะดว้ ยพยญั ชนะ เสยี งสระควรมีความหมาย เจาะจงกนิ ความได้ลึกซึ้งด้วย 5. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ - คาคล้องจอง - ศกึ ษาคาทใ่ี ชส้ อื่ สารในทอ้ งถนิ่ 6. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น/คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร (ทักษะการอ่าน 1. มวี นิ ยั เขียน ฟงั ดู และพดู ) 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ความสามารถในการคิด (การจาแนก วิเคราะห)์ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมที่ 1 (1ชวั่ โมง) ขัน้ ที่ 1 ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1.1 ครูชวนผู้เรียนพูดคุยเก่ยี วกบั ผลติ ภัณฑท์ ี่ผู้เรียนรู้จกั ในทอ้ งถิน่ 1.2 ครูตัง้ คาถามเพื่อทดสอบความรู้ของผู้เรยี นวา่ รู้จกั หรือเคยเหน็ เค็มบักนดั หรอื ไม่

3 ข้นั ที่ 2 ข้ันสอน 2.1 ครูเปิดเพลง “เค็มบักนัดล้ันลา” ให้ผู้เรียนฟัง พร้อมต้ังคาถามทบทวนเนื้อหาในกิจกรรม ท่ีผ่านมา 2.2 ครูผู้นกั เรยี นเต้นและทาทา่ ประกอบจังหวะ ข้ันท่ี 3 ขั้นสรปุ 3.1 ครพู าผู้เรียนแปลคาศัพท์ทอ้ งถิน่ จากเพลง เช่น บักนดั คือ สับปะรด , สม้ คอื เปรยี้ ว 3.2 ครพู าผู้เรยี นสะท้อนผลเกยี่ วกบั กิจกรรมที่ผ่านมาว่าได้ความรู้อะไรและรู้สึกอยา่ งไรบ้าง กจิ กรรมท่ี 2 (1ชั่วโมง ) ข้นั ที่ 1 ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.1 ครูพาผู้เรียนทบทวนกจิ กรรมทไี่ ดป้ ฏิบตั เิ มื่อชั่วโมงท่แี ลว้ 1.2 ครูพาผู้เรยี นเต้นเพลง เค็มบักนัดลนั้ ลา อกี ครั้ง ข้นั ท่ี 2 ข้ันสอน 2.1 ครนู าเค็มบกั นัดมาให้ผู้เรยี นดูแล้วสอบถามวา่ มใี ครรู้จักหรอื ไม่ 2.2 ครูอธิบายให้ผู้เรียนฟังเก่ียวกับความรู้เบื้องต้นของเค็มบักนัด (ที่มา ส่วนประกอบ ประโยชน์) 2.3 ครพู าผู้เรียนเขียนคาศพั ทส์ าคญั ตา่ งๆท่ีไดจ้ ากการฟังเพลง ขน้ั ที่ 3 ขั้นสอน 3.1 ครพู าผู้เรียนสะท้อนผลเกย่ี วกบั กิจกรรมทผ่ี า่ นมาวา่ ได้ความรู้อะไรและรสู้ ึกอยา่ งไรบ้าง 3.2 ครูให้ผู้เรียนวาดภาพ เค็มบกั นัด พร้อมระบายสีใหส้ วยงาม กิจกรรมท่ี 3 (1ชวั่ โมง) ขั้นที่ 1 ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน 1.1 ครเู ปิดเพลงเค็มบักนัดล้ันลาให้ผู้เรยี นฟัง ข้นั ท่ี 2 ขนั้ สอน 2.1 ครูอธิบายเก่ียวกับเร่ือง คาคล้องจอง เร่ิมต้นต้ัง 1 พยางค์ เช่น ไป ไถ ไห ใส และ 2 พยางค์ เช่น บักนัด ลัดทุ่ง ยงุ ลาย 2.2 ผู้เรยี นหาคาคล้องจองท่ีได้จากเพลง เคม็ บักนดั ลัน้ ลา

4 ขั้นท่ี 3 ขนั้ สรปุ 3.1 ครูพาผู้เรยี นสะท้อนผลเกี่ยวกบั กิจกรรมที่ผา่ นมาว่าได้ความรู้อะไรและรู้สึกอยา่ งไรบา้ ง กิจกรรมที่ 4 (1ชั่วโมง ) ขั้นที่ 1 ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1.2 ครูพาผู้เรียนเล่นเกม “คล้องจองกัน อย่าซ้ากับฉันนะ” เป็นเกมที่ให้ผู้เรียนพูดคาคล้อง จองต่อกัน โดยทีห่ ้ามซ้ากับคนอื่น เป็นการบทวนความรคู้ วามเขา้ ใจของผู้เรียน ขั้นท่ี 2 ข้นั สอน 2.1 ครูพาผู้เรียนอ่าน เขียน และท่องคาศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่ได้จากการฟังเพลง เช่น Fish = ปลา , Water = นา้ , Pineapple = สปั ปะรด ขั้นท่ี 3 ขั้นสรปุ 3.1 ครูพาผู้เรยี นสะทอ้ นผลเกีย่ วกบั กิจกรรมท่ผี า่ นมาวา่ ไดค้ วามรู้อะไรและรสู้ ึกอย่างไรบา้ ง 3.2 ผู้เรยี นทาใบงานและเฉลยใบงานรว่ มกนั (ใบงานจบั คู่ คาศพั ท-์ รปู ภาพ) กิจกรรมที่ 5 (1ช่วั โมง ) ข้นั ท่ี 1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1.1 ครูพาผู้เรียนเตน้ ประกอบจงั หวะเพลงเค็มบักนดั ลนั้ ลา ข้นั ที่ 2 ข้ันสอน 2.1 ครพู าผู้เรียนเล่มเกม ติดบัตรภาพ เปน็ เกมที่ต้องเลน่ เป็นทมี โดยแบ่งทีมผู้เรยี นออกเป็น 2 ทีม วิธีการเล่นคือ ถ้าหากครูพูดหรือเขียนคาใด ให้ผู้เรียนช่วยกันนาภาพที่มีความหมายตรงกันน้ันมาติดท่ี หน้ากระดาน ทมี ใดทีต่ ดิ เสร็จก่อนและกดกระดงิ่ ได้ก่อนกจ็ ะได้แต้มไป ขน้ั ที่ 3 ข้นั สรปุ 3.1 ครูพาผู้เรยี นสะทอ้ นผลเกย่ี วกับกิจกรรมท่ผี ่านมาวา่ ได้ความรู้อะไรและรสู้ ึกอย่างไร

8. ชิน้ งาน/ภาระงาน 5 1. ใบงาน 2. บตั รภาพ เกณฑ์การประเมิน 3. เพลงเค็มบักนัด ร้อยละ 80 ร้อยละ 80 9. การวัดและประเมินผล ร้อยละ 80 สิง่ ที่ตอ้ งการประเมนิ เครื่องมือ 1. เข้าใจและอธิบายลักษณะของคา แบบประเมินใบงาน คลอ้ งจองได้ (K) 2. สามารถต่อคาคล้องจอง และจับคู่ แบบประเมินใบงาน คาศัพท์ที่มีความหมายตรงกับภาพได้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม (P) 3. มีส่วนร่วมในกิจกรรมท่ีครูพาทา แบบสังเกตพฤติกรรม อยา่ งตงั้ ใจ (A) 10. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. บัตรคา 2. เพลง เคม็ บักนดั ลั้นลา โดยมีเนอ้ื เพลง ดังน้ี เคม็ บกั นัดล้ลั ลา โอ.้ .มาแลว้ ลกู เค็มบักนัดที่หนูอยากเห็นใช่ม้ยั พรอ้ มหรือยงั วยั รนุ่ เค็มบักนัด มาแล้วลกู จา๋ เคม็ บักนดั ที่หนูอยากได้ เคม็ บกั นัดส้มๆนี่ไง เคม็ บักนัดคิมซิ ึนิดา มาแล้วลูกจ๋า เค็มบักนัดทีห่ นูอยากได้ เค็มบกั นดั ส้มๆนี่ไง เคม็ บกั นดั คิมิซนึ ิดา เด็กๆร้องวา้ ว คณุ ครรู ้องเย่ เค็มบักนดั ทาไมโคตรเท่ คุณครูไปเอามาจากท่ีไหน

6 เดก็ ๆดนั ถามเพราะความสงสัย คือครูไม่ไดไ้ ปเอามาจากวัดหรือวา่ ที่อ่ืนทไ่ี กล แตค่ รูไปเอามาจากโขงเจียมน้ันไง ผลิตภณั ฑ์บา้ นเรารับรองไม่เชย (เคม็ บักนดั คุณครนู ่าสนใจจังเลย) มาแล้วลกู จา๋ เคม็ บักนดั ทห่ี นูอยากได้ เคม็ บกั นัดส้มๆนไ่ี ง เค็มบักนัดคิมิซนึ ิดา มาแล้วลูกจา๋ เค็มบักนัดทีห่ นูอยากได้ เคม็ บักนดั ส้มๆน่ีไง เคม็ บักนัดคิมซิ ึนิดา เค็มบักนัด เคม็ บักนัด เคม็ บักนัด เอย๋ เคม็ บักนดั เค็มบักนัด เค็มบักนัด เค็มบักนดั เอย๋ เคม็ บักนัด เคม็ บักนัด เค็มบักนดั เคม็ บักนดั เอ๋ยเคม็ บักนดั เคม็ บกั นดั เคม็ บักนดั เคม็ บักนดั เอย๋ เค็มบักนดั เค็มบกั นัดคมิ ซิ นึ ิดา

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 7 ชื่อหน่วย บักนดั ลัดทุง่ เร่ือง เค็มบักนดั ศกึ ษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรียน 6 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้บูรณาการ 1. สาระ/มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออก จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของ โครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่างๆ ของพืชท่ีทางานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ สาระท่ี 1 การดารงชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ง 1. 1 เขา้ ใจการทางาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการ จัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึก ในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพ่ือการดารงชีวิต และครอบครัว สาระท่ี 2 การออกแบบและเทคโนโลยี มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ่งของเคร่ืองใช้ หรือวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อ ชีวิต สังคม สิง่ แวดลอ้ ม และมสี ่วนรว่ มในการจัดการเทคโนโลยที ยี่ ัง่ ยืน สาระที่ 2 การวัด มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้ืนฐานเก่ียวกบั การวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทตี่ ้องการวัด สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตผุ ล

8 2.ตวั ชี้วัด ว 1.2 ป.2/1 ระบุว่าพืชต้องการแสงและน้าเพ่ือการเจริญเติบโตโดยใช้ข้อมูลจากหลักฐานเชิง ประจักษ์ ว 1.2 ป.2/2 ตระหนักถึงความจาเป็นท่ีพืชต้องได้รับน้าและแสง เพ่ือการเจริญเติบโต โดยดูแลพืชให้ ได้รบั ส่ิงดังกล่าวอย่างเหมาะสม ง 1.1 ป.2/1 บอกวิธกี ารและประโยชน์การทางานเพอื่ ชว่ ยเหลือตนเองและครอบครวั ง. 1.1 ป.2/2 ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครือ่ งมอื ในการทางานอยา่ งเหมาะสมกบั งานและประหยดั ง. 1.1 ป.2/3 ทางานเพอื่ ช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั อย่างปลอดภยั ค 2.1 ป.2 /1 บอกความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร และเปรียบเทยี บความยาวในหน่วย เดียวกนั ค 2.1 ป.2 /5 บอกเวลาบนหนา้ ปัดนาฬกิ า (ช่วง 5 นาท)ี ต 1.1 ป.3/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยคและบทพูดเข้าจังหวะ(chant)ง่ายๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น ต 1.1 ป.3/3 เลือก/ระบุภาพหรือสัญลักษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและ ขอ้ ความส้นั ๆทฟ่ี งั 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ระบวุ า่ น้าและแสงเป็นปจั จัยท่ีจาเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โตของพืชได้ (K) 2. อธิบายปัจจัยที่จาเป็นตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื ได้ (K) 3. ปฏบิ ตั กิ ารทดลองตามขั้นตอนไดถ้ กู ตอ้ ง (P) 4. มคี วามสนใจและกระตอื รือรน้ ในการเรยี นรู้ (A) 4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด พืชเป็นส่ิงมีชีวิตท่ีมีการเจริญเติบโตและจะดารงชีวิตอยู่ได้ต้องอาศัยแสงและน้าในการดาร งชีวิต รวมท้ัง อาศัยสิ่งแวดล้อมต่างๆ ด้วย ปัจจัยท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตของพืชคือ น้า แสงแดด อากาศ และแร่ ธาตุต่าง ๆ เพ่ือนาไปใช้ในการสร้างอาหาร แร่ธาตุที่จาเป็นต่อพืชมีหลายชนิด เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แร่ธาตุอาหารต่างๆ เหล่าน้ี พืชได้มาจากหลายทาง ที่สาคัญคือได้จากปุ๋ย ปุ๋ยให้ธาตุอาหารท่ี จาเปน็ แกพ่ ชื เพ่ือใช้บารงุ ลาตน้ ให้เจรญิ เติบโต และมีดอก มีผล

9 5. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้ทู อ้ งถน่ิ - เศรษฐกิจพอเพยี งในทอ้ งถนิ่ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - พืชตอ้ งการนา้ แสง เพื่อการเจรญิ เตบิ โต 6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน/คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. กลา้ แสดงออก 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมท่ี 1 (1 ช่วั โมง) ขน้ั ท่ี 1 ข้ันสอน ครทู บทวนความรู้เกี่ยวกับเค็มบักนดั โดยพานกั เรยี นรอ้ งเพลงเคม็ บกั นัดล้ันลาพรอ้ ม ทาทา่ ประกอบเพลง ข้นั ท่ี 2 ขั้นนำ ครแู ละผูเ้ รียนร่วมกันออกแบบกิจกรรมโดยมีหวั ข้อดังนี้ 1. การเจริญเติบโตของพืช เช่นสบั ปะรด 2. วธิ กี ารปลกู สบั ปะรดและเครอื่ งมือในการทางาน 3. การหาพ้นื ที่ และหาปรมิ าตรในการทาแปลงผกั 4 ระยะเวลาในการปลูกสับปะรดตง้ั แตเ่ ร่ิมปลูกจนถึงขน้ั ตอนเกบ็ เกี่ยวผลผลติ 5. หาคาศัพทภ์ าษาองั กฤษทเี่ กีย่ วข้องกับการปลูกพชื และเคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการทางาน ขน้ั ที่ 3 ขั้นสรุป ครูและผ้เู รยี นรว่ มกันสรุปแผนการทากิจกรรมบักนัดลัดท่งุ โดยมเี นื้อหาดังนี้ 1. การเจรญิ เติบโตของพชื และวิธีการปลูกสบั ปะรด 2. การจัดเตรียมอุปกรณเ์ คร่ืองมือในการทากิจกรรม 3. การหาพืน้ ทแ่ี ละปริมาตรในการทาแปลงผัก 4. ระยะเวลาในการปลูกตั้งแตเ่ ริม่ ปลกู จนถงึ ขัน้ ตอนเกบ็ เก่ียวผลผลติ

10 กิจกรรมที่ 2 (1 ชวั่ โมง) ข้นั ท่ี 1 ขน้ั นำ ครูแจ้งเน้ือหาในการเรยี นการ ครูแจ้งเนื้อหาในการเรียนการสอนเรื่องการเจรญิ เติบโต ของพชื เจรญิ เตบิ โตของพืช ขนั้ ที่ 2 ขน้ั สอน ครแู ละผู้เรียนแลกเปลี่ยนเนอื้ หาในเรอ่ื งการเจริญเติบโตของพืช โดยมหี ัวขอ้ ดงั นี้ 1. ลกั ษณะการเจริญเตบิ โตของพืชแตล่ ะชนิด 2. ปัจจยั ในการเจริญเติบโตของพืชแต่ละชนดิ 3. ตัวอย่างลกั ษณะและปจั จัยในการเจริญเติบโตของสับปะรด 4. ประโยชน์ของสับปะรด และการนาสับปะไปใชป้ ระกอบอาหาร 5. คาศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับพืช เช่น สบั ปะรด = pineapple, กล้วย = banana เปน็ ต้น ขน้ั ท่ี 3 ขั้นสรุป ครูและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปสาระสาคญั เรื่องลกั ษณะและปัจจยั ในการเจริญเตบิ โตของ พชื และการเจริญเตบิ โตของสับปะรด กจิ กรรมท่ี 3 (1 ชั่วโมง) ขนั้ ที่ 1 ขน้ั นำ ทบทวนความรู้เกยี่ วกบั ลักษณะและปจั จยั ในการเจรญิ เติบโตของสับปะรดพร้อมแจ้ง จดุ ประสงค์การเรียนการสอนเร่อื งการปลูกสับปะรดและเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการทางาน ขั้นที่ 2 ขน้ั สอน ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั แลกเปลี่ยนเน้ือหาในเร่อื งวิธีการปลูกสบั ปะรดและเคร่อื งมอื ท่ี ใชใ้ นการทากจิ กรรมดังนี้ 1. การปลูกสับปะรดมีวธิ ีขัน้ ตอนอยา่ งไรบ้าง 2. เครอื่ งมือในการปลูกสบั ปะรดมีอะไรบา้ ง 3. การดแู ลรกั ษาเครอื่ งมือจากการใชง้ านเสร็จแล้ว ขน้ั ท่ี 3 ขั้นสรุป ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ เนอื้ หาดังนี้ 1 ผู้เรียนอธิบายวิธีและขนั้ ตอนในการปลูกสบั ปะรด 2 ผ้เู รยี นอธบิ ายลักษณะและวธิ กี ารดูแลรกั ษาเครอ่ื งมือ กิจกรรมที่ 4 (1 ชว่ั โมง) ขั้นที่ 1 ข้ันนำ ทบทวนความรู้เกี่ยวกบั วธิ แี ละข้ันตอนในการปลกู สับปะรด เครื่องมือและวธิ ีการดูแล รักษาเคร่ืองมือในการทากจิ กรรม พร้อมทัง้ แจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ เรอื่ งการหาพนื้ ท่ีและปรมิ าตรในการทา แปลงสบั ปะรด

11 ข้ันท่ี 2 ขั้นสอน ศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูลเกีย่ วกับ 1 การวัดพ้นื ท่ีและหาปริมาตรในการทาแปลงสบั ปะรด 2 การเปรยี บเทียบความกวา้ ง ความยาว ของแปลงสับปะรด 3 ระยะห่างของแถวสบั ปะรดตอ่ แปลงสับปะรด 1 แปลง ขัน้ ท่ี 3 ขนั้ สรุป ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ สาระสาคญั เป็นแผนผังความคดิ กจิ กรรมท่ี 5 (2 ชวั่ โมง) ขน้ั ที่ 1 ขั้นนำ ครูแจง้ เนื้อหาในการเรียนรเู้ ก่ียวกับเรอ่ื งการลงมือปลูกสับปะรด ขน้ั ท่ี 2 ข้ันสอน โดยมขี ้ันตอนในการลงมือปฏิบตั ิดังน้ี 1. การลงมอื ทาแปลงสัปปะรด 2. การขดุ หลุมและพวนดนิ 3. การการเตรียมต้นสบั ปะรด เพอื่ นาไปลงหลุมเตรียมปลูก 4. การปลกู สับปะรดและการกลบดิน 5. อัตราส่วนของทใ่ี ชใ้ นการปลูก 6. การดแู ลรดน้าและติดตามผล 7. ระยะเวลาในการดาเนินงานตัง้ แต่เรมิ่ ปลูกจนถงึ ขนั้ ตอนการเก็บเกยี่ วผลผลิต 8. การเกบ็ เก่ยี วผลผลิต การเก็บเกี่ยวผลผลิตเพอื่ สง่ ตอ่ ไปสู่การแปรรูปอาหารเป็นเค็มบกั นัด ขน้ั ท่ี 3 ขั้นสรุป นักเรียนสรปุ สาระสาคญั ดงั น้ี 1. องคค์ วามรู้ท่ีไดเ้ ป็นแผนผงั ความคิด 2. อธิบายการนาไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งไร จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. ระบุสิ่งเป็นปัจจยั ท่จี าเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพชื ได้ (K) 2. สามารถอธิบายวิธีและขัน้ ตอนการปลูกสับปะรดได้ (K) 3. สามรถเปรยี บเทยี บและลงมอื ปฏบิ ัตปิ ลูกสับปะรดตามข้ันตอนได้ถกู ต้อง (P) 4. มีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A)

8. ชน้ิ งำน/ภำระงำน 12 1.ใบงาน เกณฑก์ ำรประเมนิ 2. ใบกจิ กรรมกล่มุ /เดีย่ ว ร้อยละ 70 ข้ึนไป 3. ผลการตดิ ตามการเจรญิ เติบโตของตน้ สบั ปะรด ร้อยละ 70 ข้นึ ไป 4. ผลิตผลของสับปะรด ร้อยละ 70 ขึ้นไป 9. กำรวดั และประเมนิ ผล สิ่งทต่ี ้องกำรประเมนิ เครือ่ งมอื 1. ระบสุ งิ่ เปน็ ปจั จยั ที่จาเป็นต่อการเจริญเติบโต ของพืชได้ (K) แบบใบงาน/ใบกิจกรรม 2. สามารถอธบิ ายวิธแี ละขนั้ ตอนการปลูก สบั ปะรดได้ (K) 3. สามรถเปรียบเทียบและลงมือปฏิบัติปลูก แบบประเมนิ ชิ้นงาน สบั ปะรดตามขั้นตอนได้ถกู ตอ้ ง (P) 4. มคี วามสนใจและกระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ (A) แบบประเมินพฤติกรรม 10. ส่ือ/แหล่งกำรเรียนรู้ 1. บตั รภาพ 2. บัตรคา 3. ใบงาน / ใบกิจกรรม 4. อุปกรณ์/เคร่อื งมือการเกษตร

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 13 ชอ่ื หน่วย บ่อปลามหาสนกุ เร่ือง เคม็ บักนัดศึกษา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี3 เวลา 6 ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้บูรณาการ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสมั พนั ธ์กัน รวมท้งั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ง 1.1 เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสรรคม์ ีทักษะกระบวนการการทางานทักษะการจดั การ ทักษะ กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยใน การทางานมีจติ สานึกในการใชพ้ ลงั งานทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมเพื่อการดารงชวี ติ และครอบครวั ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเก่ยี วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่ิงทีต่ ้องการวัดและนาไปใช้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต และมีนสิ ัยรักการอา่ น ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนแผนส่ือสารเขียนเรียงความย่อความและเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศเเละรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ แล้วพูดแสดงความรู้ความคิดและความรู้สึกใน โอกาสตา่ งๆอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ 2. ตวั ชว้ี ดั ว 1.2 ป.3/1 บรรยายสิ่งที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต และการเจริญเติบโตของมนุษย์และสัตว์โดยใช้ ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ ว 1.2 ป.3/3 สร้างแบบจาลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว์และเปรียบเทียบวัฏจักรชีวิตของสัตว์ บางชนดิ

14 ง 1.1 ป.3/2 เลือกใช้ส่ิงของเคร่ืองใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ การสร้างของเล่นหรือของใช้ อย่างเป็นขน้ั ตอนตัง้ แต่กาหนดปัญหาหรือความต้องการรวบรวมข้อมูลออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดออกแบบ รอบ 2 มิติก่อนลงมอื สรา้ งและประเมินผลทาให้ผู้เรียนทางานอยา่ งมีกระบวนการ ค 2.1 ป.3/3 เลอื กใช้เครื่องวดั ความยาวท่ีเหมาะสมวัดและบอกความยาวของสิ่งต่างๆเปน็ เซนติเมตร และมิลลิเมตรเมตรและเซนติเมตร ค 2.1 ป.3/4 คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเปน็ เซนติเมตร ค 2.1 ป.3/5 เปรียบเทียบความยาวระหว่างเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตรกิโลเมตรกบั เมตรจากสถานการณต์ า่ ง ๆ ท 1.1 ป.3/4 ลาดับเหตุการณแ์ ละคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองที่อา่ นโดยระบุเหตผุ ลประกอบ ท 2.1 ป 3/2 เขยี นบรรยายเกยี่ วกบั สิ่งใดสงิ่ หนง่ึ ได้อยา่ งชดั เจน ท 3.1 ป 3/6 พดู ส่ือสารได้ชัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ 3.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายวฏั จักรของปลาสมบตั ิของส่ิงมชี ีวิตไดถ้ ูกต้อง (K) 2. คานวณหาความยาวในการสร้างบ่อปลาตามความเหมาะสมในการเล้ียงปลา (K) 3. อธิบายและคาดการณ์การเจริญเตบิ โตของปลา (K) 4. ใชอ้ ุปกรณ์ในการดูแลและจัดเตรียมการเลี้ยงปลาได้ถูกต้อง (P) 5. คณุ คา่ ของสารอาหารในการดารงชีวติ ท่ีได้จากการ (A) 6. เห็นคณุ คา่ ของสิง่ มีชีวติ ในการดารงชวี ิต (A) 4. สาระการเรียนรู้ - มนษุ ย์และสตั วต์ อ้ งการอาหาร น้า และอากาศเพื่อการดารงชวี ิตและการเจริญเติบโต - สัตว์เมื่อเป็นตัวเต็มวัยจะสืบพันธุ์มีลูก เม่ือลูกเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยก็สืบพันธุ์มีลูกต่อไปได้อีก หมนุ เวยี นต่อเนือ่ งเปน็ วฏั จกั รชวี ติ ของสัตว์ ซง่ึ สัตวแ์ ตล่ ะชนิด เช่น ผีเสอื้ กบ ไก่ มนษุ ย์จะมวี ัฏจักรชีวิตทีเ่ ฉพาะ และแตกต่างกนั

15 - การสร้างของเล่นหรือของใช้อย่างเป็นข้ันตอนตั้งแต่กาหนดปัญหาหรือความต้องการรวบรวมข้อมูล ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดออกแบบรอบ 2 มิติก่อนลงมือสร้างและประเมินผลทาให้ผู้เรียนทางานอย่างมี กระบวนการ - การเลอื กเคร่ืองวดั ความยาวทีเ่ หมาะสม - การคาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร - การเปรยี บเทียบความยาวโดยใชค้ วามสมั พันธ์ระหว่างหนว่ ยความยาว - การลาดับเหตกุ ารณแ์ ละเขยี นบรรยายผู้ส่ือสารและนาเสนอหน้าชนั้ เรียนได้อย่างชัดเจน 5.สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด สารอารหารและขนาดการอยู่อาศัยที่เป็นปัจจัยในการเจริญเติบโตของปลาและอุปกรณ์ต่างๆท่ีใช้ใน การเลย้ี งดูแลปลา 6.สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 7.กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี 1 (1 ช่ัวโมง) ขั้นที่ 1 ขั้นนา ครูทบทวนความรู้ท่ีเก่ียวกับเค็มบักนัดว่า ส่วนท่ีผู้เรียนได้เรียนมาน้ันมีอะไรบ้าง ครูแจง้ วัตถปุ ระสงคใ์ นการจัดกจิ กรรมการสร้างบ่อปลาและเลยี้ งปลาท่ีเปน็ สว่ นประกอบของการทาเค็มบกั นัด ขนั้ ที่ 2 ขั้นสอน ผเู้ รยี นและครูรว่ มกันออกแบบกจิ กรรมโดยมหี ัวข้อ 1.การวัดขนาดบ่อปลาเพ่ือจดั เลยี้ งปลาใหต้ รงตอ่ การเจริญเตบิ โต 2.วัฏจกั รและการเติบโตของปลา 3.อุปกรณ์และอาหารในการเล้ยี งปลา 4.การขายปลาเพื่อหารายได้

16 ขั้นท่ี 3 ข้ันสรุป ครูและผู้เรียนร่วมกันวางแผนทากิจกรรมบ่อปลามหาสนุกโดยสรุปมีเนื้อหามี 1.การวดั ขนาดของบ่อและวฏั จกั รและการเตบิ โตของปลา 2.การจัดเตรยี มอปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรม 3.การขายเพื่อหารายได้ กจิ กรรมที่ 2 ( 1 ชว่ั โมง) ขน้ั ที่ 1 ขน้ั นา ครูแจ้งเน้อื หาในการเรียนการสอนในเร่อื งวฏั จักรของปลา ข้ันที่ 2 ขนั้ สอน ผู้เรียนและครแู ลกเปลย่ี นเนอ้ื หาในเรอื่ งการเจริญเติบโตโดยมหี วั ขอ้ 1.ลักษณะของปลาแตล่ ะชนดิ ในการเตบิ โต 2.ปัจจัยในการเติบโตของปลาแตล่ ะชนิด 3.การคาดคะเนขนาดและความยาวในการเลย้ี งปลาในระยะเวลาต่างๆ ขน้ั ที่ 3 ขั้นสรุป 1.ผู้เรียนนาเสนอลกั ษณะของปลาและการเจรญิ เติบโต 2.ผู้เรียนช่วยกันตอบคาถามเก่ียวกับปจั จัยการเจริญเติบโตของปลา 3.ผู้เรยี นช่วยกนั ตอบคาถามและคาดคะเนการเจริญเติบโตของปลาในระยะต่างๆที่ครู กาหนดให้ กจิ กรรมท่ี 3 ( 1 ชั่วโมง) ข้ันที่ 1 ขั้นนา ครูแจ้งวัตถุประสงค์การจัดการเรียนการสอนเร่ืองการวัดขนาดเพื่อสร้างบ่อปลา และการเลยี้ งปลา ขั้นท่ี 2 ขน้ั สอน เขา้ สู่เน้ือหาการเรียนการสอนโดยมหี ัวข้อ 1.ความยาวเซนตเิ มตรและเมตรต่างกนั อย่างไร 2.การคาดคะเนถึงขนาดการเลีย้ งปลา ระหว่างบ่อปลาและจานวนการเล้ียงปลา 3.การคาดคะเนถึงความยาวและขนาดของปลาที่เล้ียงได้ในระยะต่างๆโดยมีหน่วยเป็นเมตร และเซนติเมตร 4.เครือ่ งมอื ในการวดั ความยาว ขน้ั ท่ี 3 ขั้นสรุป 1.ผ้เู รยี นอธบิ ายเครอ่ื งมอื ในการวัดขนาด ที่เหมาะสม 2.ผู้เรยี นผอู้ ธิบายและคาดคะเนถึงขนาดการสรา้ งบ่อปลาในจานวนท่ีเหมาะสมกบั การ

17 เจริญเตบิ โตของปลา 3.ผู้เรียนเขียนอธิบายความยาวและขนาดขอบ่อปลา 4.ผเู้ รยี นรว่ มกันอภปิ รายถงึ หนว่ ยการวัดเมตรละเซนตเิ มตรจากการสร้างบ่อปลาและการวัด ขนาดปลาท่ีกาหนดให้ กจิ กรรมท่ี 4 ( 1 ช่ัวโมง) ขั้นที่ 1 ขน้ั นา ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้เร่ืองการเลี้ยงและการเจริญเติบโตของปลา ขั้นท่ี 2 ขั้นสอน โดยมหี วั ขอ้ 1.การคาดการณ์การเจรญิ เตบิ โตของปลา 2.องคป์ ระกอบในการเจรญิ เติบโตของปลา เชน่ อาหารและนา้ อากาศ 3.ลักษณะของแหล่งอาศัยของปลาในชนิดต่างๆ 4.ลักษณะอาหารของปลาในชนิดตา่ งๆ ขน้ั ท่ี 3 ขัน้ สรปุ 1.ผู้เรียนอธิบายถึงการเจริญเติบโตของปลาทั้งดา้ นอาหารและสงิ่ แวดล้อม 2.ผู้เรยี นคาดการณ์ถึงการเจรญิ เติบโตของปลาท่ไี ด้รบั การเลี้ยงดูและตามธรรมชาติ กจิ กรรมท่ี 5 (1 ช่วั โมง) ขั้นที่ 1 ข้นั นา แจง้ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการทากจิ กรรมในเรื่องวัสดุอปุ กรณ์ในการเลย้ี งปลา ขัน้ ท่ี 2 ขนั้ สอน การดาเนินการ 1.แจ้งถึงลกั ษณะอุปกรณ์ในการเรยี นอุปกรณ์ในการเลี้ยงและดแู ลบอ่ ปลามีอะไรบ้าง 2.การคานวณหาความยาวเพ่ือทาบ่อปลาระยะเวลาในการเล้ยี งปลา ข้ันที่ 3 ขน้ั สรุป 1.ผู้เรยี นอภปิ รายและพูดในเรือ่ งการจดั เตรียมอปุ กรณ์ในการทาบ่อปลาและการ เตรียม อปุ กรณ์ในการเล้ยี งปลา 2.ผู้เรียนอภิปรายรว่ มกบั ครูในเร่ืองระยะเวลาการเล้ียงปลาและการจัดเตรยี มอุปกรณ์ที่ เหมาะสมเพื่อเลย้ี งปลา

18 กจิ กรรมท่ี 6 (1 ชว่ั โมง) ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั นา แจง้ จดุ ประสงค์ในการทากจิ กรรมการเลีย้ งปลาโดยแบ่งหน้าท่กี ารดแู ล ข้ันท่ี 2 ขั้นสอน การดาเนินงาน 1.ผู้เรียนและครรู วมกันลงปลาในบอ่ ที่เตรยี มไว้ 2.มอบหมายหน้าทีใ่ นการดูแลปลาโดยให้แบบกลุม่ เพ่ือดูแล 3.ผู้เรยี นดแู ลปลาเพ่อื ในไปขายเม่อื ปลาเจรญิ เติบโตเต็มที่ ข้ันท่ี 3 ขนั้ สรปุ 1.ผู้เรียนเขียนแผนผังข้ันตอนกจิ กรรมท่ีไดท้ าในครงั้ นี้ 2.ผู้เรียนสรุปตารางกิจกรรมท่ีได้ทาวา่ มปี ระโยชน์และสามารถนาไปใช้ในชีวิตได้อย่างไร 8. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการประเมนิ เคร่อื งมอื การประเมิน เกณฑ์การประเมิน อธบิ ายวฏั จกั รของปลาสมบัติของ แบบประเมนิ สรุปกจิ กรรม ผ่านร้อยละ 80 ส่งิ มชี ีวติ ไดถ้ ูกต้อง(K) คานวณหาความยาวในการสร้างบ่อ แบบประเมินพฤตกิ รรม ผ่านร้อยละ 80 ปลาตามความเหมาะสมในการ เล้ยี งปลา(K) อธิบายและคาดการณก์ าร แบบประเมินสรปุ กจิ กรรม ผ่านรอ้ ยละ 80 เจรญิ เตบิ โตของปลา(K) ใชอ้ ุปกรณ์ในการดูแลและจดั แบบประเมนิ พฤติกรรม ผ่านรอ้ ยละ 80 เตรยี มการเลี้ยงปลาไดถ้ ูกต้อง(P) คณุ ค่าของสารอาหารในการ แบบประเมินพฤตกิ รรม ผา่ นร้อยละ 80 ดารงชวี ติ ท่ีได้จากการ(A)

เห็นคณุ ค่าของสง่ิ มชี วี ติ ในการ แบบประเมนิ สรปุ กจิ กรรม 19 ดารงชีวติ (A) ผา่ นร้อยละ 80 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1.อุปกรณ์การวดั เชน่ เชอื ก ตลับเมตร ไม้บรรทัด 2.อปุ กรณเ์ ลีย้ งปลา เช่น ตาขาย อาหารปลา กระชอนตกั ปลา 3.ตารางบันทึกการเจริญเตบิ โต 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1.บอ่ ปลา

20 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง มหศั จรรยเ์ ค็มบกั นดั เร่ือง เคม็ บักนดั ศึกษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 5 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรบู้ รู ณาการ 1.มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั /สาระ สาระที่ 2 การวดั มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจพน้ื ฐานเกีย่ วกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการวัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตุผล สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี และธารงรักษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนับถอื 2.ตัวช้ีวัด ค 2.2 ป.4/1 แก้ปัญหาเก่ียวกับการวดั ความยาว การช่ัง การตวง เงนิ และเวลา ต 1.1 ป.4/3 เลือกสัญลักษณห์ รอื เครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคที่ฟัง หรืออา่ น ท 2.1 ป.4/2 เขยี นสื่อสารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน และเหมาะสม ส 1.2 ป.4/3 ปฏิบัติตนในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวันสาคัญทางศาสนาตามทีก่ าหนดไดถ้ กู ต้อง 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เขา้ ใจและอธบิ ายขน้ั ตอนในการลงมือปฏบิ ตั ิภาระงานได้ (K) 2. สามารถลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามขั้นตอนไดถ้ ูกต้อง (P) 3. มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมทคี่ รพู าทาอยา่ งตงั้ ใจ (A) 4.สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด เรียนรู้เรื่องการชั่งและการตวง โดยการช่ังและตวงวัตถุและส่ิงของต่างๆ เพ่ือหาปริมานที่เหมาะสมใน การเปรยี บเทียบค่าตา่ งๆของวตั ถหุ รอื ส่งิ ของนั้นๆ

21 5.สาระการเรียนรู้ 1. โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับการชงั่ 2. โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั การตวง 4.สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร (ทักษะการอา่ น เขียน ฟัง ดู และพดู ) 2. ความสามารถในการคิด (การจาแนก วิเคราะห์) 5.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 4. มงุ่ มั่นในการทางาน 5.กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมที่ 1 (1 ชวั่ โมง) ขน้ั ท่ี 1 ข้นั นา ครตู ้ังคาถามเพ่ือทดสอบความเขา้ ใจของผู้เรยี น 1.1 ครูตั้งคาถามและให้ผู้เรียนร่วมกันตอบ โดยถามว่า “สับปะรดสามารถนาไปทาอะไรได้ บา้ ง” 1.2 ครูถามความคิดเห็นของผู้เรียนทุกคนเกี่ยวกับเค็มบักนัด เพ่ือประเมินความเข้าใจของ ผู้เรยี นตอ่ เคม็ บักนัด ข้ันท่ี 2 ขน้ั สอน ครอู ธิบายเนอื้ หาการเรียนการสอน 2.1 ครอู ธบิ ายความเป็นมาและความหมายของเค็มบักนัด 2.2 ครูอธิบายเกี่ยวกับวัตถุดิบ เคร่ืองมือ และอุปกรณ์ในการทาเค็มบักนัด โดยสอนคาศัพท์ ภาษาอังกฤษประกอบการอธบิ ายวตั ถดุ ิบและอุปกรณ์ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั เค็มบักนัด 2.3 ครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ จากสิ่งท่ีนักเรยี นศึกษาค้นคว้า และให้ผู้เรยี นหาคาศัพทภ์ าษาอังกฤษท่ี เก่ียวกบั เค็มบักนดั ใหไ้ ดม้ ากท่สี ดุ แล้วสมุ่ ให้ผู้เรียนออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียนเกีย่ วกับคาศัพท์ท่เี กี่ยวข้อง กับเค็มบกั นดั ขั้นท่ี 3 ขั้นสรุป ครูและผู้เรียนร่วมกันสะท้อนผลเก่ียวกับคาศัพท์ต่างๆ และสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับเค็ม บักนัด

22 กจิ กรรมที่ 2 (1 ช่วั โมง) ข้นั ที่ 1 ข้ันนา ครูทบทวนความรเู้ ดมิ จากคาบเรียนทแ่ี ล้ว 1.1 ครูถามคาถามและให้ผู้เรยี นร่วมกันตอบเกย่ี วกบั เคม็ บกั นัดวา่ มีทีม่ าและมีความหมายว่าอย่างไร 1.2 ครูให้ผู้เรยี นยกตัวอย่างคนละ 1 คาศพั ท์ทีม่ คี วามเกีย่ วขอ้ งกับเค็มบกั นัด ข้นั ท่ี 2 ข้ันสอน ครูอธิบายเนือ้ หาการเรยี นการสอน 2.1 ครอู ธบิ ายการทาเค็มบักนดั โดยการอธิบายถงึ ขัน้ ตอนการลงมือทาเคม็ บักนดั 2.2 ครูอธบิ ายเก่ียวกบั ขนั้ ตอนการเตรยี มวัตถุดิบ เครอ่ื งมือ และอปุ กรณ์ในการทาเคม็ บักนดั 2.3 ครูอธิบายเพิ่มเติมจากสิง่ ที่ผู้เรยี นศึกษาค้นคว้า และให้ผู้เรียนเข้ากลมุ่ เดิมจากกิจกรรมที่ แล้ว จากน้ันให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มร่วมกันเขียนขั้นตอนการทาเค็มบักนัด และขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ เคร่อื งมือ และอุปกรณ์ในการทาเค็มบักนดั แล้วนาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน ขนั้ ที่ 3 ขน้ั สรปุ ผู้เรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั สะทอ้ นผลและเขยี นแผนผังความคิด กจิ กรรมท่ี 3 (1 ชั่วโมง) ขั้นที่ 1 ขน้ั นา ครทู บทวนความรู้เดมิ จากคาบเรียนทแ่ี ลว้ 1.1 ผู้เรยี นบอกวัตถดุ ิบทนี่ ามาประกอบในการทาเค็มบักนดั ขน้ั ที่ 2 ขนั้ สอน 2.1 ครอู ธบิ ายข้นั ตอนการเตรยี มวตั ถดุ ิบ เคร่อื งมือ และอุปกรณใ์ นการทาเคม็ บักนัด 2.2 ครสู าธติ ข้ันตอนการชง่ั การตวง วตั ถดุ ิบและเครอ่ื งปรุงต่างๆในการทาเค็มบกั นดั 2.3 ผู้เรียนเข้ากลุ่มเดิมจากกิจกรรมที่แล้ว จากน้ันสมาชิกทุกคนในกลุ่มร่วมกันเขียนขั้นตอนในการ จัดเตรียมวัตถุดิบ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆในการทาเค็มบักนัด และเขียนขั้นตอนในการชั่ง การตวง วตั ถดุ ิบและเครอื่ งปรงุ ต่างๆในการทาเคม็ บักนัด ข้ันที่ 3 ขั้นสรุป ผู้เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกนั สะท้อนผลและเขียนแผนผงั ความคิด

23 กิจกรรมที่ 4 (1 ชว่ั โมง) ขน้ั ที่ 1 ขัน้ นา ครูทบทวนความรูเ้ ดิมจากคาบเรยี นทแ่ี ลว้ 1.1 ผู้เรียนเตรียมวัตถดุ ิบ เครอ่ื งมือ และอุปกรณต์ า่ งๆในการทาเคม็ บักนดั 1.2 ผู้เรยี นทาการชง่ั การตวง วตั ถุดิบและเครอื่ งปรุงต่างๆใหพ้ รอ้ มตอ่ การลงมือทาเคม็ บักนัด ข้นั ที่ 2 ขน้ั สอน 2.1 ครอู ธบิ ายข้ันตอนในการลงมือทาเคม็ บักนัด 2.2 ครสู าธิตขั้นตอนตา่ งๆในการทาเคม็ บกั นัด 2.3 ผู้เรียนเข้ากลุ่มเดิมจากกิจกรรมที่แล้ว จากนั้นให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มร่วมกันลงมือทา เคม็ บกั นัด โดยสมาชกิ ทุกคนในกลมุ่ ตอ้ งมีสว่ นรว่ มในการทาเคม็ บักนัด ขัน้ ท่ี 3 ขนั้ สรปุ ผู้เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันสะท้อนผลและเขยี นแผนผงั ความคิด กิจกรรมท่ี 5 (1 ชวั่ โมง) ขั้นที่ 1 ครทู บทวนความรูเ้ ดมิ จากคาบเรยี นทแ่ี ล้ว 1.1 ครถู ามคาถามกับผู้เรยี นเก่ียวกบั ข้ันตอนการทาเคม็ บกั นดั ขั้นที่ 2 ครูอธิบายเนื้อหาการเรยี นการสอน 2.1 ครูนาผู้เรยี นเขา้ วดั ทาบญุ ฟงั พระเทศนาธรรมตา่ งๆในช่วงภาคเช้า 2.2 ครูนาผู้เรียนถวายภตั ตาหาร (โดยการนาเค็มบกั นัดไปประกอบในการทาเปน็ อาหาร) 2.3 ผู้เรียนนาเค็มบักนัดของแต่ละกลุ่มนาไปประกอบในการทาอาหาร โดยเลือกนาไป ประกอบการทาอาหารกลุ่มละ 1 เมนู จากน้ันใหน้ ามาถวายภตั ตาหารรว่ มกับผู้เรยี นกลุ่มอื่นๆ ขน้ั ที่ 3 ขั้นสรปุ ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันสะท้อนผลและเขียนแผนผังความคดิ 6.ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบกิจกรรม 2. เค็มบักนดั

7.การวดั และประเมินผล 24 ส่งิ ท่ตี ้องการประเมิน เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80 1. เขา้ ใจและอธิบายขน้ั ตอนในการ แบบทดสอบ/ใบงาน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ลงมอื ปฏิบตั ิภาระงานได้ (K) 2. สามารถลงมือปฏิบัติตาม แบบสังเกตพฤติกรรม ขั้นตอนได้ถกู ต้อง (P) 3. มีส่วนร่วมในกจิ กรรมทค่ี รูพาทา แบบสงั เกตพฤติกรรม อย่างตง้ั ใจ (A) 6. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 1. บตั รคา 2. บตั รภาพ 3. ใบความรู้ 4. อุปกรณ์เครื่องครวั

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 25 ช่ือหน่วย สินคา้ น่ารูส้ ูอ่ าชีพ เรอื่ ง เค็มบกั นัดศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน 6 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรียนรูบ้ รู ณาการ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรคงานทศั นศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค วเิ คราะห วิพากษ วิจารณคุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยางอิสระ ช่ืนชม และประยุกตใชใน ชวี ิตประจาวนั มาตรฐาน ค 1.3 ใช้การประมาณค่าในการคานวณและแกป้ ัญหา มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ที่ตอ้ งการวดั มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการ จัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ ลักษณะ นิสัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพ่ือการ ดารงชีวิตและ ครอบครัว มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจ มีทักษะทจ่ี าเป็น มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือ พัฒนาอาชพี มคี ณุ ธรรมและมีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ อาชีพ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพรูเ้ ท่าทัน และมีจริยธรรม มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ ทรัพยากรท่ีมีอยู่จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือการ ดารงชวี ติ อย่างมีดุลยภาพ

26 ตัวชวี้ ัด ศ 1.1 ป.5/3 วาดภาพ โดยใชเทคนคิ ของแสงเงา น้าหนกั และวรรณะสี ค 1.3 ป.5/1 บอกค่าประมาณใกล้เคียงจานวนเต็ม สิบ เต็มร้อย และเต็มพันของจานวนนับ และ นาไปใชไ้ ด้ ค 2.1 ป5/4 การวัดขนาดของมมุ และสิ่งของ ง 1.1 ป.5/1 อธบิ าย เหตผุ ลในการทางานแตล่ ะขั้นตอนถูกต้อง ตามกระบวนการทางาน ง 1.1 ป.5/2 ใชท้ กั ษะการจดั การในการทางานอย่างเปน็ ระบบ ประณีตและมี ความคิด สรา้ งสรรค์ ง 1.1 ป.5/4 มีจิตสานึกใน การใช้พลังงาน และทรพั ยากร อยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ ง 2.1 ป.5/1 สารวจข้อมลู เกีย่ วกับอาชีพต่าง ๆ ในชมุ ชน ง 2.1 ป.5/2 ระบุความแตกต่างของอาชพี ว 4.2 ป.5/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่ายตรวจหาข้อผิดพลาด และแกไ้ ข ว 4.2 ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั มีมารยาทเข้าใจสทิ ธิและหนา้ ที่ของตน เคารพใน สิทธิของผู้อืน่ แจ้งผู้เกย่ี วข้องเม่ือพบข้อมลู หรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม ส 3.1 ป.5/1 อธิบายปัจจยั การผลติ สนิ ค้า และบรกิ าร ส 3.1 ป.5/2 ประยุกต์ใช้แนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการทา กิจกรรมต่างๆ ใน ครอบครวั โรงเรียน และชุมชน 2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การออกแบบ คือ การถ่ายทอดรูปแบบจากความคดิ ออกมาเป็นผลงาน ทีผ่ อู้ ืน่ สามารถมองเห็น รบั รู้ หรอื สมั ผสั ได้ เพ่ือให้มีความเข้าใจในผลงานร่วมกนั การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือการความคดิ สรา้ งสรรค์เกี่ยวกบั รูปรา่ งลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑท์ ่ี แตกต่างไปจากเดิม ในการออกแบบผลิตภณั ฑ์แตล่ ะประเภทอาจแตกต่างกนั ไป ขน้ึ อยู่กับลกั ษณะการใช้งาน ของผลติ ภัณฑ์นน้ั ๆ จงึ มคี วามจาเปน็ อย่างยิง่ ทีจ่ ะส่งเสริมให้ผลติ ภัณฑน์ ั้นเดน่ ข้ึนมาและน่าสนใจตอ่ ผบู้ รโิ ภค 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เขา้ ใจและอธิบายขัน้ ตอนในการลงมอื ปฏิบตั กิ ิจกรรมได้ (K) 2. สามารถเปรยี บเทยี บและลงมอื ปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอนไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 3. มมี ุ่งมั่นในการทางานทไี่ ด้รับมอบหมาย (A)

27 4. สาระการเรยี นรู้ 1.ความสาคัญของการประกอบอาชีพ และแนวทางการนาเทคโนโลยีมาพัฒนางาน 2. ทักษะการจัดการเป็นการจัด ระบบงานและระบบคน เพ่ือให้ทางาน สาเร็จตามเป้าหมายอย่างมี ประสทิ ธิภาพ 3. ความหมายและประเภท ของปัจจัยการผลิตประกอบด้วย ท่ีดิน แรงงาน ทุน และ ผู้ประกอบการ เทคโนโลยีในการผลิตสินค้า และบรกิ าร 4. ตัวอยา่ งการผลิตสินคา้ และ บรกิ ารในชมุ ชน เชน่ หน่งึ ตาบล หน่ึงผลติ ภณั ฑห์ รือโอทอ็ ป 5. เทคนิคการใชส้ ี และการออกแบบผลิตภัณฑ์ 6. การใช้เทคโนโลยใี นการออกแบบผลิตภัณฑ์ในโปรแกรม Photoshop 7. มารยาทในการตดิ ต่อส่อื สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ต 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซอื่ สัตย์สุจรติ 2. มีวินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อย่อู ยา่ งพอเพียง 5. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 6. รกั ความเป็นไทย 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมท่ี 1 (1 ช่ัวโมง) ขัน้ ท่ี 1 ขนั้ นา ผู้เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ าถาม - ผู้เรยี นรู้จักคาวา่ อาชพี หรือไม่ แลว้ มีอาชพี อะไรบา้ งที่ผู้เรยี นรูจ้ กั พร้อมให้ผู้เรียนยกตัวอย่าง อาชพี มาคนละ 1 อยา่ ง

28 ข้ันที่ 2 ข้ันสอน ให้ผู้เรียนศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ เรอ่ื ง - อาชีพในชวี ติ ประจาวันที่ผู้เรียนรู้จัก - ประเภทและลักษณะของอาชีพ - การแบ่งอาชีพตามลักษณะของการประกอบอาชพี - องคป์ ระกอบในการตัดสินใจเลือกอาชีพ - การประกอบอาชพี อุตสาหกรรมตามขนาด - ผู้เรียนจับกลุ่ม 4-5 คน เลือกอาชีพมากลุ่มละ 1 อาชีพแล้วออกมาอภิปรายหน้าชั้นเรียน เก่ียวกับประเภทและลักษณะของอาชพี และมีแนวทางในการพฒั นาและส่งเสรมิ อาชพี นอ้ี ย่างไรบ้าง ขั้นที่ 3 ขั้นสรปุ ผู้เรียนสรปุ สาระสาคัญเปน็ แผนผงั ความคดิ กิจกรรมที่ 2 (1 ชว่ั โมง) ขั้นท่ี 1 ขั้นนา ครูทบทวนความรู้จากชั่วโมงที่แล้ว เรื่อง ประเภทและลักษณะของอาชีพ พร้อมท้ังให้ ผู้เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ าถามทา้ ทาย - ทราบหรอื ไม่วา่ การผลิตหมายถงึ อะไรและมปี ัจจยั ของการผลิตอย่างไรบา้ ง ขั้นท่ี 2 ข้นั สอน ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าความรู้ เร่ือง - ความหมายของการผลิต - ความหมายของปจั จยั ในการผลติ - ประเภทของปจั จัยในการผลติ - ปญั หาพน้ื ฐานในการผลติ - ระบบเศรษฐกจิ - ผู้เรียนจับกลุ่ม 2-3 คน ทาใบงานท่ีครูมอบหมายให้ และออกมานาเสนอผลงานหน้าช้ัน เรียน พร้อมท้ังให้ผู้เรียนเสนอสินคา้ ท่นี ักเรียนสนใจจะผลิตออกมาขายว่ามีความน่าสนใจอยา่ งไร ขั้นที่ 3 ขนั้ สรปุ ผู้เรยี นสรปุ สาระสาคัญเปน็ แผนผังความคิด กจิ กรรมที่ 3 (1 ช่ัวโมง) ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั นา ครูเกริ่นนาเขา้ สู่บทเรียน เรอ่ื งการใช้สี ความสาคัญของสี ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ สอน ผู้เรียนดูบตั รภาพสแี ต่ละชนิด เช่น - สแี ดง - สีเหลือง - สนี ้าตาล - สนี า้ เงิน

29 - สีเขียว - สดี า - สขี าว - สีมว่ ง ผู้เรยี นบอกความรู้สกึ หลงั จากดูบตั รภาพสีแต่ละชนดิ วา่ มีความรูอ้ ย่างไร เช่น รูส้ บายตา รสู้ ึกใจ เย็นลง ร้สู กึ ผอ่ นคลาย และผู้เรียนศกึ ษาค้นคว้าความรู้ เรื่อง - ประเภทของสี - หลักการใช้สี - การผสมสี - การใชส้ วี รรณะเดยี ว - การใชส้ ตี ่างวรรณะ - การใช้สีตรงกนั ข้าม - สกี ับการให้ความรสู้ กึ - ผู้เรียนจับกลุ่ม 5-6 คน ระบายสีรูปภาพที่ครูกาหนดให้ตามหลักการการใช้สีท่ีผู้เรียนได้ ศึกษามา แลว้ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น พรอ้ มทัง้ อธิบายการใช้สีในรูปภาพนี้ และภาพน้ีให้ความรู้สึก อย่างไร ขนั้ ท่ี 3 ขั้นสรุป ผู้เรยี นสรุปสาระสาคญั เป็นแผนผงั ความคิด กิจกรรมท่ี 4 (1 ช่ัวโมง) ขั้นที่ 1 ขัน้ นา ครทู บทวนความรู้จากช่วั โมงท่แี ล้ว เรื่อง ประเภทของสี หลักการใช้สี สแี ละความรู้สึก ขน้ั ท่ี 2 ข้ันสอน ผู้เรียนศึกษาคน้ คว้าความรู้ เร่อื ง - ความหมายการออกแบบ - องค์ประกอบการออกแบบ - จุดมุ่งหมายในการออกแบบ - การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ผู้เรยี นออกแบบโลโกส้ นิ คา้ เค็มบกั นดั ท่ีเปน็ สินค้าจากแหล่งชุมชนของโรงเรียน - ออกแบบโลโก้สนิ ค้าเค็มบักนัดในกระดาษวาดรปู - ลงสีโลโกส้ ินคา้ เค็มบกั นัดท่เี ราออกแบบไวใ้ นกระดาษวาดรปู - ผู้เรียนออกมานาเสนอผลงานโลโก้สินค้าเค็มบักนัดที่ออกแบบไว้หน้าชั้นเรียนพร้อมท้ัง อธบิ ายจดุ เดน่ และสิง่ ทคี่ ดิ ว่าสามารถดงึ ดูดความสนใจของลกู ค้าให้มาซือ้ สินค้าของเราได้ ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ สรปุ ผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเปน็ แผนผงั ความคิด

30 กจิ กรรมท่ี 5 (1 ช่ัวโมง) ขั้นที่ 1 ขั้นนา ครูทบทวนความรู้จากชั่วโมงที่แลว้ เรอื่ ง การออกแบบ องคป์ ระกอบของการออกแบบ และออกแบบผลิตภณั ฑ์ ขั้นที่ 2 ข้นั สอน ผู้เรียนศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ เรือ่ ง - - การใชโ้ ปรแกรม Photoshop - การใชโ้ ปรแกรม Photoshop ในการออกแบบ - ประโยชนข์ องการใชโ้ ปรแกรม Photoshop ในการออกแบบ ผู้เรยี นออกแบบโลโกส้ นิ ค้าเคม็ บักนัดที่เปน็ สินคา้ จากแหล่งชมุ ชนของโรงเรยี น - ออกแบบโลโก้สินค้าเค็มบักนัดโดยใช้โปรแกรม Photoshop ตามแบบท่ีออกแบบไว้ใน กระดาษวาดรูปของช่ัวโมงท่ีแลว้ - ลงสโี ลโกส้ ินค้าเคม็ บกั นัดในโปรแกรม Photoshop ทอ่ี อกแบบไว้ - ผู้เรียนออกมานาเสนอผลงานโลโก้สินค้าเค็มบักนัดที่ออกแบบไว้หน้าชั้นเรียนพร้อมทั้ง อธบิ ายจดุ เดน่ และสงิ่ ทคี่ ิดว่าสามารถดงึ ดูดความสนใจของลกู ค้าใหม้ าซ้อื สนิ ค้าของเราได้ - ครูและผู้เรียนร่วมกันเลือกแบบโลโก้สินค้าเค็มบักนัดที่ถูกใจที่สุดมาหนึ่งอัน เพื่อเป็นโลโก้ ให้กบั สินคา้ เคม็ บักนดั ของโรงเรียนท่จี ะนาออกขายสตู่ ลาด ขั้นท่ี 3 ขั้นสรปุ ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั สรปุ สาระสาคญั เป็นแผนผงั ความคิด กจิ กรรมท่ี 6 (ช่วั โมงท่ี 1) ขั้นที่ 1 ข้ันนา ครูเกร่ินนาเข้าสู่บทเรียน เรื่อง การวัด การตวง และการคานวณปริมาณส้ินค้าท่ีจะ บรรจตุ ่อ 1 บรรจุภัณฑ์ ขนั้ ที่ 2 ข้นั สอน ผู้เรียนศึกษาความรู้ เรอื่ ง - การวัดขนาดของบรรจภุ ณั ฑท์ ่จี ะใชบ้ รรจุสินคา้ เค็มบักนดั - การคานวณปริมาณเคม็ บักนัดทจ่ี ะบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ 1 บรรจุภัณฑ์ - การตวงสนิ ค้าและแพค็ สินคา้ เพอื่ สง่ ขาย - ผู้เรยี นจับกลุ่ม 6-7 คน รว่ มกนั บรรจุสินค้าเค็มบักนดั ลงบรรจภุ ัณฑ์ พรอ้ มแพค็ สินค้าเตรียม สง่ ออกขายสู่ตลาด ข้ันที่ 3 ข้นั สรปุ ครูและผู้เรยี นร่วมกันสรปุ สาระสาคัญทไ่ี ดใ้ นช่วั โมงเรียนนี้

8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน เครอ่ื งมอื 31 1. ใบงาน ใบงาน 2. โลโกส้ ินคา้ เคม็ บกั นดั แบบประเมนิ ช้นิ งาน เกณฑ์ 3. ผลติ ภณั ฑ์สินคา้ เค็มบักนดั แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นร้อยละ 80 ผา่ นรอ้ ยละ 80 9. การวัดและประเมินผล ผา่ นรอ้ ยละ 80 วิธกี ารประเมนิ ตรวจใบงาน ตรวจชิน้ งาน สงั เกตพฤติกรรม 10. สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ 1. ใบงาน 2. กระดาษวาดรปู 3. ดินสอสี 4. บัตรภาพ 5. ทต่ี วงเคม็ บกั นัด

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 6 32 ชื่อหน่วย ตลาดนดั หรรษา เรือ่ ง เค็มบกั นัดศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลาเรียน 6 ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรบู้ ูรณาการ 1. สาระ/มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั สาระท่ี 1 จานวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของ จานวน ผลทีเ่ กดิ ขึ้นจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้ สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความจากเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ คดิ เหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล สาระท่ี 1 การดารงชีวิตและครอบครวั มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการ จัดการ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะการทางานรว่ มกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรม และ ลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เพื่อการดารงชีวิตและ ครอบครัว สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ ทรัพยากรท่ีมีอยู่จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการ ดารงชวี ติ อย่างมีดลุ ยภาพ สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ ความรูส้ ึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ 2. ตัวชว้ี ดั ค 1.1 ป.6/7 หาผลลัพธข์ องการบวก ลบ คณู หารระคนของเศษส่วนและจานวนคละ ต 1.1 ป.6/1 ปฏบิ ตั ิตามคาส่ัง คาขอรอ้ ง และคาแนะนาท่ฟี ังและอา่ น ง 1.1 ป.6/2 ใช้ทกั ษะการจดั การในการทางานและมีทักษะการทางานรว่ มกัน ส 3.1 ป.6/1 อธบิ ายบทบาทของผู้ผลิตท่มี คี วามรบั ผิดชอบ ท 3.1 ป.6/5 พดู โน้มน้าวอยา่ งมเี หตุผลและนา่ เชื่อถอื

33 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ผูเ้ รียนสามารถอธิบายเกี่ยวกบั เค็มบกั นัดได้ (K) 2) ผู้เรียนสามารถบอกประโยชนข์ องการค้าขายได้ (K) 3) ผู้เรยี นเขา้ ใจหลักการพูดและการเขยี นโฆษณา (K) 4) ผเู้ รยี นสามารถพดู สนทนาการซอื้ ขายในภาษาต่างประเทศได้ (P) 5) ผู้เรียนสามารถพดู โนม้ น้าวใจอย่างมเี หตผุ ลและน่าเชือ่ ถอื (P) 6) ผเู้ รียนมที ักษะการขายและแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ ได้ (P) 7) ผเู้ รยี นเห็นความสาคัญของเค็มบกั นดั ที่เปน็ ผลิตภัณฑใ์ นชุมชน (A) 8) ผเู้ รยี นเหน็ ความสาคัญของการออมและการลงทุน (A) 9) ผู้เรียนเหน็ ความสาคัญของคุณธรรมจรยิ ธรรมในการประกอบอาชีพ (A) 4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การจาหน่ายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ (เค็มบักนัด) เป็นส่ิงท่ีมีการแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อให้ได้สินคา้ นั้นมา จึงมีการติดต่อส่ือสารกันระหว่างผู้ขายและผู้บริโภค และเม่ือผู้บริโภคเป็นชาวต่างชาติจึงจาเป็นต้องมี ทักษะการส่ือสารภาษาอังกฤษ ตลอดจนการโฆษณาสินค้าให้น่าสนใจ ชี้จุดเด่นของสินค้าตามความเป็นจริง มี ทักษะในการพูดโน้มน้าวใจ.ให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อ รู้จักวางแผนการลงทุนและการออมโดยทาบัญชี รายรบั รายจา่ ย และมีคุณธรรมในการประกอบอาชีพ 5. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ - การบวก การลบ การคูณ และการหาร - - การคานวณรายรบั รายจา่ ย - คาสั่ง คาขอร้อง ภาษาท่าทาง และคาแนะนาใน การเล่นเกม การวาดภาพ การทาอาหารและ เคร่อื งด่ืม และการประดิษฐ์ - การบันทึกรายรบั - รายจ่าย - บทบาทของผู้ผลิตท่ีมีคุณภาพ,ประโยชน์ของการ ผลิตสินค้าท่ีมคี ุณภาพ - การพูดโนม้ น้าวใจในสถานการณ์ต่าง ๆ

34 6. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน/คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร (ทักษะการส่ือสาร 1. มวี นิ ยั และการพดู โนม้ นา้ วใจ) 2. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ความสามารถในการคดิ (การจาแนก วิเคราะห์) 3. อยอู่ ย่างพอเพียง 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต (ทักษะการขาย 4. มุง่ ม่นั ในการทางาน การออม และการลงทนุ ) 4. คว ามสามารถในการใช้เทคโ นโ ลยี (การ ประชาสัมพนั ธส์ นิ ค้าผ่านส่อื ออนไลน์) 7. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี 1 (1ชั่วโมงที่) ขนั้ ที่ 1 ขัน้ นา ครูสอบถามเก่ียวกับผลิตภัณฑ์แปรรูปและถนอมอาหารท่ีนักเรียนรู้จัก และสินค้าOTOPประจาตาบล ท่อี ย่ใู นท้องถ่ินของผู้เรียน ขน้ั ที่ 2 ขั้นสอน 1. ครูนาเสนอผลิตภณั ฑก์ ารถนอมอาหารเคม็ บกั นัดให้ผเู้ รยี นไดศ้ ึกษาและชว่ ยกนั วางแผนสาหรับ การขาย 2. ผูเ้ รยี นศึกษาการทาบัญชีรายรบั รายจ่ายจากวิดโี อทีค่ รูนาเสนอ 3. ผู้เรียนศึกษาคาศัพท์หรือประโยคสนทนาท่ีเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้า เช่น Customer : How much does it cost ? Business : 25 Baht. ขนั้ ท่ี 3 ข้นั สรุป ครูและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปบทเรียนดงั ต่อไปนี้ 1. ผลติ ภัณฑ์การถนอมอาหารเคม็ บกั นดั มสี ว่ นประกอบอะไรบา้ ง มีขน้ั ตอนวธิ ีการผลิตอย่างไร และจะ วางแผนการขายได้อยา่ งไร 2. สรปุ วธิ กี ารทาบญั ชีรายรบั - รายจา่ ย 3. คาศพั ท์หรอื ประโยคสนทนาทเี่ ก่ียวขอ้ งกับการซือ้ ขายสินคา้ มอี ะไรบา้ ง ผู้เรียนศึกษาคาศัพท์หรือประโยคสนทนาท่ีเก่ียวข้องกับการซื้อขายสินค้า เช่น Customer : How much does it cost ? Business : 25 Baht.

35 กจิ กรรมท่ี 2 (1 ชว่ั โมงที่ ) ข้นั ที่ 1 ขนั้ นา ครทู บทวนความเข้าใจเก่ยี วกับการทาบัญชีรายรับรายจ่ายและประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในการซื้อ ขายสินค้า ขน้ั ที่ 2 ขั้นสอน 1. ผเู้ รยี นฝึกทาบญั ชรี ายรบั รายจ่ายใน 2 สัปดาห์ เพื่อให้เข้าใจกระบวนการในการวางแผนการใช้จ่าย และการออมเงนิ 2. ผ้เู รียนทาความเขา้ ใจเก่ียวกับหลักการโฆษณาสนิ ค้าและการพดู โนม้ น้าวใจจากใบความรูท้ ่ีครแู จก 3. ผู้เรียนทาความเขา้ ใจเกยี่ วกบั หลกั คุณธรรมในการประกอบอาชีพและบทบาทของผผู้ ลิตทด่ี ี ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันสรุปบทเรยี นดังต่อไปนี้ 1. การวางแผนการใช้จา่ ยและการออมเงนิ มกี ระบวนการอย่างไร 2. หลกั การโฆษณาสินคา้ และการพูดโนม้ น้าวใจมอี ะไรบา้ ง 3. หลักคณุ ธรรมในการประกอบอาชพี และบทบาทของผ้ผู ลิตท่ีดเี ปน็ อย่างไร กิจกรรมท่ี 3 (1ชวั่ โมง) ขั้นที่ 1 ขั้นนา ครูทบทวนความรูเ้ ดิมเกีย่ วกบั หลักการโฆษณาสินค้าและการพูดโนม้ น้าวใจใหเ้ ลือกซื้อสินค้า ข้นั ที่ 2 ข้นั สอน 1.ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบการใชค้ าในการโฆษณาสนิ ค้าที่ถูกต้องเหมาะสมหรือรูจ้ ักใช้คาท่ีไม่กล่าว เกินจรงิ รวมถึงหลักคณุ ธรรมในการประกอบอาชพี และบทบาทของผูผ้ ลติ ทดี่ ี 2.ผู้เรยี นแลกเปลยี่ นกนั ตรวจสอบคาตอบ 3.ครูนาผลิตภัณฑ์เค็มบักนัดให้ผู้เรียนเขียนโฆษณาให้น่าสนใจและน่าเลือกซื้อโดยให้ใช้คาจากัด ความ3 คา เชน่ อร่อย แซบ่ นวั , ของดี เมอื ง ดอกบัว เปน็ ต้น ขั้นท่ี 3 ขน้ั สรปุ ครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั สรปุ บทเรียนดงั ต่อไปน้ี 1. การรู้จักใช้คาในการโฆษณาสินค้าที่ถูกต้องเหมาะสมหรือรู้จักใช้คาที่ไม่กล่าวเกินจริงจะเกิด ประโยชนอ์ ย่างไรบา้ ง 2. ผู้เรยี นนาเสนอสโลแกนการโฆษณาเกีย่ วกับเค็มบกั นัด

36 กจิ กรรมท่ี 4 (1ชว่ั โมง) ขน้ั ที่ 1 ข้นั นา ผู้เรียนทบทวนสโลแกนการโฆษณาขายเค็มบักนัดท่ีแต่ละคนคิดค้น และให้ทาท่าทางประกอบให้ สอดคลอ้ งกบั สโลแกนดังกล่าว ข้ันที่ 2 ขน้ั สอน 1. ผู้เรียนแสดงบทบาทกลุ่มแมบ่ ้านสินค้าOTOP โดยขายเค็มบักนัดในงานจดั แสดงสินค้า ซ่ึงแบ่งเปน็ กลมุ่ ละ 4 คน สาหรบั แสดงบทบาทแม่ค้าและลูกคา้ และกลมุ่ ลูกคา้ ชาวตา่ งชาติ 2. ผู้เรยี นซื้อขายสินคา้ และโฆษณาให้น่าสนใจ 3. ครูสังเกตการสนทนาในกลุม่ ทีเ่ ปน็ ลูกค้าชาวตา่ งชาติ วา่ ใชค้ าไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและผู้เรยี นสนกุ กับการ ทากิจกรรมมากน้อยเพยี งใด 4. ผู้เรยี นบันทึกรายการขายทั้งหมดเมอื่ เทียบกับต้นทนุ ว่าไดก้ าไรหรือขาดทุนอย่างไร 5. กลุ่มท่ีขายได้กาไรเยอะที่สุดจะได้สติกเกอร์รูปดาวแปะท่ีร้านค้าของตนสาหรับการยกระดับของ สินคา้ ต่อไป ขนั้ ท่ี 3 ขัน้ สรปุ ครแู ละผู้เรียนร่วมกันสรุปบทเรยี นดังต่อไปนี้ 1. การสนทนากับชาวตา่ งชาตเิ กี่ยวกบั การซอ้ื สินคา้ มปี ระโยชน์อย่างไรบ้าง 2. การแสดงบทบาทสมมติดังกล่าวทาใหเ้ รยี นรเู้ ช่นเดยี วกับสถานการณ์จรงิ 3. การบนั ทกึ รายการขายทง้ั หมดเพอ่ื หากาไรสามารถทาได้อย่างไร กจิ กรรมท่ี 5 (1ช่วั โมง) ขั้นที่ 1 ขั้นนา ครูทบทวนเก่ียวกับวิธีการทาบันทึกรายการขายสินค้าท้ังหมดลบกับต้นทุนเพ่ือหากาไรท่ีได้ และ หลกั การโฆษณาสินค้าท่ีถกู ต้อง ขั้นที่ 2 ขน้ั สอน 1. ผู้เรียนลงพ้ืนที่จริงโดยจัดนิทรรศการตลาดนัดฟันน้านมในโรงเรียน โดยใช้กลุ่มเดิมจากกิจกรรม บทบาทสมมติ 2. ผู้เรยี นโฆษณาขายสินคา้ (เคม็ บักนัด)ให้มีความนา่ สนใจ และใช้สโลแกนดึงดดู ลกู ค้า 3. ผู้เรียนบันทึกรายการขายทง้ั หมดเพื่อหากาไรที่ไดเ้ มื่อเทยี บกับตน้ ทุน ขั้นที่ 3 ขนั้ สรปุ ครูและผู้เรียนร่วมกันสรปุ การเรียนรจู้ ากการลงมือปฏิบัติการขายสนิ ค้าดังกล่าว ดงั ต่อไปนี้ 1. การขายเค็มบักนัดให้กับครูในโรงเรียน กลุ่มเพ่ือน และผู้ปกครองทาให้ผู้เรียนสนุกกับการทา กิจกรรมมากนอ้ ยเพยี งใด

37 2. ได้ฝกึ ทกั ษะการขายและทกั ษะการแกป้ ัญหาอย่างไรบ้าง 3. ทกั ษะการพดู โนม้ นา้ วใจใหผ้ ูบ้ ริโภคตัดสินใจเลือกซือ้ สินค้ามปี ระโยชนม์ ากนอ้ ยเพยี งใด กิจกรรมท่ี 6 (1ช่วั โมง) ข้นั ท่ี 1 ข้นั นา ครูทบทวนข้อมูลเก่ียวกับผลิตภัณฑ์ถนอมอาหาร(เค็มบักนัด),บทสนทนาการซ้ือขายกับชาวต่างชาติ, การทาบัญชรี ายรบั - รายจา่ ย การออม และการลงทุนที่สมดุล และหลักการพดู /เขียนโฆษณาทีถ่ กู ตอ้ งเหมาะสม ข้ันที่ 2 ข้นั สอน 1. หลังจากปฏิบัติการขายเค็มบักนัดในสถานการณ์จริงให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปราย กระบวนการทางานหนา้ ช้นั เรียน 2. แต่ละกลมุ่ เขยี นสรุปผังความคิดเกยี่ วกับประโยชน์ที่ได้จากกจิ กรรมตลาดนัดฟนั นา้ นม 3. แต่ละกลุม่ ร่วมกนั เขยี นประชาสัมพนั ธใ์ นการขายเค็มบักนดั ผา่ นสอ่ื ออนไลน์ ขัน้ ที่ 3 ขัน้ สรุป ครแู ละผู้เรียนร่วมกันสรปุ บทเรยี นดงั ตอ่ ไปนี้ 1. กระบวนการทางานในสถานการณ์จริง (ขายเค็มบักนัดในกิจกรรมตลาดนัดฟันน้านม) ทาให้เรียนรู้ ทกั ษะอะไรบา้ ง 2. ประโยชน์จากการปฏิบัติกจิ กรรมดงั กล่าวมีอะไรบา้ ง 3. สามารถประชาสัมพนั ธ์ในการขายเค็มบักนัดผ่านสื่อออนไลน์ในช่องทางใดบ้างและจะใช้รปู แบบใด ในการโฆษณาให้น่าสนใจ 8. ช้ินงาน/ภาระงาน - ศึกษาการทาบญั ชีรายรับรายจา่ ยและคาศพั ท์ที่เก่ียวขอ้ งกบั การซ้อื ขายสินค้า - ศึกษาใบความรู้ - แสดงบทบาทสมมติ - การขายในสถานการณจ์ รงิ - การอภิปรายหน้าชัน้ เรียน - ทาบัญชีรายรับราย-จา่ ย - เขยี นโฆษณา - สมดุ บนั ทึกรายการขาย - สมุดบนั ทกึ รายการขาย - เขยี นสรุปผงั ความคดิ

38 9. การวดั และประเมนิ ผล ส่ิงทีต่ อ้ งการประเมิน เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมิน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 80 1. ผเู้ รียนสามารถอธบิ ายเกยี่ วกบั ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 80 เค็มบกั นดั ได้ (K) 2 . ผู้เรียนสามารถบอกประโยชน์ของการค้าขายได้ แบบทดสอบ/ใบงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 80 (K) 3. ผู้เรียนเข้าใจหลักการพูดและการเขยี นโฆษณา (K) 4. ผู้ เ รี ย น ส า ม า ร ถ พู ด ส น ท น า ก า ร ซ้ื อ ข า ย ใ น ภาษาตา่ งประเทศได้ (P) 5. ผู้เรียนสามารถพูดโน้มน้าวใจอย่างมีเหตุผลและ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นา่ เชอื่ ถือ (P) 6. ผู้เรียนมีทักษะการขายและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ (P) 7. ผู้เรียนเห็นความสาคัญของเค็มบักนัดท่ีเป็น ผลิตภัณฑใ์ นชุมชน (A) 8. ผู้เรียนเห็นความสาคัญของการออมและการลงทุน แบบสังเกตพฤตกิ รรม (A) 9. ผู้เรียนเห็นความสาคัญของคุณธรรมจริยธรรมใน การประกอบอาชพี (A) 10. สอื่ การเรียนรู้ 1. ผลติ ภัณฑ์เค็มบักนัด 2. ใบความรู้ 3. ธนบัตรสาหรับบทบาทสมมติ 4. ใบงาน 5. แบบทดสอบหลักการเขยี นโฆษณา 11. แหล่งการเรียนรู้ 1. โรงเรียน 2. ชมุ ชน 3. โซเชยี ลเนต็ เวิรก์

39 คณะผูจ้ ัดทา 1.นางสาวพชิ ญาพัชร์ ช่างพละดิษ รหสั นักศึกษา 62121880122 2.นางสาวธดิ ารัตน์ ดอกดวง รหัสนกั ศึกษา 62121880214 3.นางสาวนาทฤดี ปุยฝา้ ย รหัสนักศึกษา 62121880216 4.นางสาวปภสั รา ตะเกดิ มี รหสั นกั ศึกษา 62121880219 5.นางสาววิภาดา ศรีนาด รหสั นักศกึ ษา 62121880228 6.นางสาวศรนิ ยา พรมสุข รหัสนกั ศึกษา 62121880230 7.นางสาวอรอนงค์ ยงคะวิสยั รหสั นกั ศกึ ษา 6212188023 นักศึกษาชั้นปที ่ี 3 สาขาวชิ าการประถมศกึ ษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั อุบลราชธานี 1123002การออกแบบหลักสูตรและการเรียนรู้แบบบรู ณาการในช้นั เรยี นประถมศึกษา อาจารย์ประจาวิชา อาจารยอ์ ภิญญา สขุ ชว่ ย

40

41