Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 05 - ณัฐพร พันธ์พฤกษ์โอชา

05 - ณัฐพร พันธ์พฤกษ์โอชา

Published by Hommer ASsa, 2021-04-29 04:28:51

Description: 05 - ณัฐพร พันธ์พฤกษ์โอชา

Search

Read the Text Version

รายงานการศกึ ษา เรอื่ ง ความพร้อมและศักยภาพของชมุ ชนในการบรหิ ารจดั การอทุ กภยั ของตาบลแกม้ อ้น อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบรุ ี จดั ทาโดย นางสาวณฐั พร พนั ธพ์ ฤกษ์โอชา รหัสประจาตัวนักศกึ ษา 05 เอกสารฉบบั น้เี ป็นสว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษาอบรม หลักสตู ร นักบริหารงานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั (นบ.ปภ.) รนุ่ ท่ี 10 วทิ ยาลัยปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย

-ก- คานา ประเทศไทยของเราต้องเผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติเป็นประจาทุกปี โดยเฉพาะอุทกภัยท่ีมักเกิด ตามพ้ืนท่ีลุ่มน้า ซ่ึงกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดข้ึน มีระดับความรุนแรงและ ความเสียหายมากน้อยแตกต่างกันไปตามตาแหน่งที่ตั้งและลักษณะภูมิประเทศ การเกิดอุทกภัยในแต่ละคร้ัง สร้างความเสียหายท้ังต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โครงสร้างพ้ืนฐาน สภาพแวดล้อม ระบบนิเวศใน พน้ื ทน่ี ั้น ๆ และยงั ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ ในระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา การ เกดิ อุทกภัยในประเทศไดก้ ่อให้เกิดความเสียหายรวมกนั เปน็ มูลคา่ มากกวา่ 100,000 ล้านบาท จังหวัดราชบุรี เป็นจังหวัดหน่ึงท่ีเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย โดยในปี 2555 ได้เกิดอุทกภัยสร้างความ เดือดร้อนใหป้ ระชาชนกว่า 9 อาเภอ 72 ตาบล 451 หมูบ่ า้ น ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 7,813 ครัวเรือน โดยองค์การบรหิ ารส่วนตาบลแก้มอ้น เป็นพ้ืนท่ีท่ีได้รับผลกระทบจากการเกิดอุทกภัย สร้างความเสียหายให้กับ ทรพั ยส์ ินของประชาชนและสิ่งสาธารณะประโยชน์เป็นจานวนมาก จึงมีความจาเป็นต้องศึกษาหาแนวทางในการ ปอู งกนั และแก้ไขปัญหาดังกลา่ ว เพอื่ ไมใ่ หเ้ กิดซ้าขึน้ อกี หรือใหม้ ีการสูญเสียนอ้ ยท่ีสดุ นางสาวณัฐพร พันธพ์ ฤกษโ์ อชา มนี าคม 2557

-ข- กติ ตกิ รรมประกาศ เอกสารงานวิจัยส่วนบุคคลน้ีสาเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะได้รับความเมตตาและความกรุณาให้ คาแนะนาจากบุคคลหลายท่าน ผู้วิจัยขอกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสน้ี คือ อาจารย์ท่ีปรึกษา อาจารย์ วรชพร เพชรสุวรรณ ดร.ปิยวัตร์ ขนิษฐบุตร นางสาวลักขณา มนิมนากร ผู้อานวยการวิทย าลัยปูองกัน และบรรเทาสาธารณภัย และผู้อานวยการโครงการฝึกอบรม ดร.วิจารณ์ เหล่าธรรมย่ิงยง ที่ได้ให้คาแนะนา แนวทางการเขียนงานวิจัย แก้ไขผลงานช้ินน้ีจนสาเร็จ และให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดมา และขอขอบคุณ ผู้ให้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้นาชุมชน และผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี และสานักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี ที่กรุณาให้ข้อมูล ผู้วิจัยหวังว่า ผลงานวิจัยฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมและการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในการบริหาร จัดการอุทกภัย เพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากมีข้อบกพร่อง หรือผิดพลาดประการใด ผวู้ จิ ัยขอน้อมรบั และจะไดน้ าไปแก้ไขให้เกดิ ความสมบรู ณ์ย่ิงข้ึนในโอกาสต่อไป นางสาวณัฐพร พนั ธพ์ ฤกษโ์ อชา

-ค- บทสรุปผู้บริหาร การศึกษา เรื่อง ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของตาบล แก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โดยศึกษาเฉพาะพ้ืนที่ที่เส่ียงต่ออุทกภัยขององค์การบริหารส่วน ตาบลแก้มอ้น จานวน 5 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านทุ่งแฝก หมู่ที่ 2 บ้านทุ่งแจง หมู่ที่ 5 บ้านวังปลา หมู่ที่ 9 บ้านสนั ดอน และหมู่ท่ี 15 บ้านห้วยตาม่วง ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความพร้อมของชุมชน และศึกษาศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบุรี จากผลการวิจัย พบว่า ชุมชนบ้านทุ่งแฝก หมู่ท่ี 1 บ้านทุ่งแจง หมู่ท่ี 2 บ้านวังปลา หมู่ท่ี 5 บ้านสันดอน หมู่ที่ 9 บ้านห้วยตาม่วง หมู่ท่ี 15 ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี มีการเตรียม ความพรอ้ มในการปูองกันอุทกภัยในพ้ืนที่ โดยการติดต้ังเคร่ืองวัดปริมาณน้าฝน เพ่ือวัดปริมาณน้าฝนในพื้นท่ี เสยี่ งภัย ใช้ในการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชน พร้อมทั้งติดต้ังเครื่องไซเรนเตือนภัยแบบมือหมุนสาหรับใช้เตือน ภัยในช่วงที่กระแสไฟฟูาดับ และยังได้ดาเนินการเตรียมความพร้อมให้กับชุมชนโดยการฝึกซ้อมแผนอพยพ ประชาชนในพื้นท่ีเสี่ยงอุทกภัย และดินโคลนถล่ม เพ่ือเป็นการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ และอาสาสมัคร ให้มีทักษะความชานาญในการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เคร่ืองใช้ ตลอดจนวิธีการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยการอพยพ การเคล่ือนย้ายผู้ประสบภัย และเพื่อทดสอบระบบ แจ้งเตอื นภยั และอุปกรณ์ เคร่ืองมอื เครือ่ งใช้ ให้พรอ้ มใช้งานไดต้ ลอดเวลา ด้านการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัย องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ได้พัฒนาศักยภาพเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนโดยการจัดฝึกอบรมการจัดการความเสี่ยงจากภัย พิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐานให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่ประชาชน ในการรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดข้ึนกับชุมชน และจัดฝึกอบรมอาสาสมัครปูองกันภัย พลเรือน (อปพร.) เพ่ือเพ่ิมศักยภาพ และเสริมสร้างความเข้มแข็งในการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กับ ชุมชน พร้อมคัดเลือกสมาชิก อปพร. ท่ีมีความรู้ ความสามารถและมีความเสียสละในการทางานเพ่ือสังคม เข้าฝึกอบรม “ มิสเตอร์เตือนภัย ” เพื่อทาหน้าท่ีติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศ การอ่านค่าเครื่องวัด ปริมาณน้าฝน เฝูาสังเกตปริมาณน้าในแม่น้า ลาธาร ลาห้วย การเปล่ียนเส้นทางของน้าพร้อมทั้งประสานการ แจ้งเตอื นภัยไปยังผใู้ หญบ่ า้ นหรือหวั หนา้ คุ้ม เพ่ือประกาศเตือนภัยให้ลูกบ้าน เตรียมอพยพประชาชนจากท่ีอยู่ อาศัยไปยังสถานท่ีปลอดภัยบริเวณที่สูงในทันที และยังจัดฝึกอบรมโครงการหน่ึงตาบลหน่ึงทีมกู้ภัย (ONE TAMBON ONE SEARCH AND RESCUE TEAM : OTOS) เพื่อพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพบุคลากร ท่ีปฏิบัติหน้าที่หน่วยเผชิญเหตุระดับตาบล ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการค้นหาและช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการเพ่ือเสริมสร้างความมั่นใจให้กับ ผู้ป ฏิบัติง า น ทุกค น แ ล ะ ผู้ประสบภัย ให้ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นและสามารถนาผู้บาดเจ็บส่งสถานบริการสาธารณสุขท่ีเหมาะสม ไดอ้ ย่างรวดเร็วและปลอดภยั

-ง- สารบัญ คานา หนา้ กิตตกิ รรมประกาศ ก บทสรุปผู้บรหิ าร ข สารบญั ค บทที่ 1 บทนา ง 1 ความสาคัญและทีม่ าของปัญหาวจิ ยั 2 วัตถุประสงค์ของการศึกษา 3 ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รบั 5 บทท่ี 2 แนวคดิ ทฤษฎี และงานวิจยั ทีเ่ ก่ียวข้อง 5 แนวคิดเกี่ยวกบั การเตรยี มความพร้อม 7 แนวคิดเกย่ี วกบั การเสรมิ สร้างศักยภาพชุมชน 8 แนวคิดการใชช้ มุ ชนเปน็ ฐาน 10 งานวจิ ัยที่เก่ยี วข้อง 11 กรอบแนวคิดในการศึกษา 13 บทที่ 3 ระเบยี บวิธีดาเนินการวจิ ัย 14 ชมุ ชนพ้ืนทีศ่ ึกษา 14 ระเบียบวิธีวจิ ัย 15 เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการศกึ ษา 18 การเก็บรวบรวมข้อมูล 18 การวเิ คราะห์ข้อมลู 20 บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 20 การวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์แบบเชงิ ลึก ศกั ยภาพ และการเตรยี มความพร้อมในการบริหารจัดการอุทกภัยของชมุ ชน 24 การสนับสนนุ ของหนว่ ยงานภาครฐั ในการเสริมสร้างความเขม้ แข็งใหก้ บั ชุมชน 25 ด้านศกั ยภาพของชุมชนในการบรหิ ารจัดการอุทกภัย 25 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 26 สรปุ ผลการเตรียมความพรอ้ มและการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในการบรหิ าร จัดการอุทกภัย ศักยภาพ และความพรอ้ มในการบรหิ ารจดั การอุทกภัยขององค์การบรหิ าร ส่วนตาบลแก้มอน้ ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะในการทาวจิ ัยคร้ังตอ่ ไป บรรณานุกรม ภาคผนวก

บทท่ี 1 บทนา ความสาคญั และท่ีมาของปัญหาวิจัย ภัยธรรมชาติ เกิดจากการเปล่ียนแปลงของธรรมชาติ หรือในบางคร้ัง อาจมาจากฝีมือมนุษย์ มีส่วนทาให้มันเกิดข้ึนมา ภัยธรรมชาติมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไป บางอย่างเกิดความรุนแรงน้อย บางอย่างเกิด ความรุนแรงมาก ซ่ึงอาจทาให้เกิดผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ภัยธรรมชาติท่ีเกิดจากอุทกภัยหรือน้าท่วม ดินโคลนถลม่ นา้ ปาุ ไหลหลาก พายุหมุนเขตร้อน พายุฝนฟาู คะนอง แผ่นดนิ ไหว สึนามิ เป็นต้น ภัยธรรมชาติต่าง ๆ เหล่าน้ี ไมว่ า่ จะรา้ ยแรงมากหรือนอ้ ย ก็เกิดขึน้ ไดท้ ุกเวลา จากการเร่งรัดพัฒนาความเจริญของประเทศไทย ในช่วง 2 - 3 ทศวรรษท่ีผ่านมา เพื่อก้าวให้ทันต่อ ความเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเน้นทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก ในลักษณะของการก้าวกระโดด โดยขาดความ พร้อมในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงขาดความเข้าใจถึงผลเสียท่ีจะตามมาเป็นการพัฒนาท่ีขาดความสมดุล เนื่องจาก เปน็ การพฒั นาทม่ี ุ่งเนน้ ทางเศรษฐกิจแตเ่ พียงอย่างเดียว ขาดการพัฒนาที่เชอื่ มโยงเน้นทกุ ด้าน ขาดการวางแผน ในการจัดระบบผังเมือง ขาดการวางแผนการใช้ทรัพยากร ธรรมชาติที่ใช้เป็นปัจจัยการผลิต รวมท้ังการเพ่ิมข้ึนของ จานวนประชากรอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีการทาลายทรัพยากรธรรมชาติ ปุาไม้ ดิน และน้า ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศ มคี วามแปรปรวนมากข้ึน ปจั จัยท้งั หลายเหลา่ น้ีลว้ นเป็นสาเหตุสาคัญท่ีทาให้เกิดภัยธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดปัญหา ส่ิงแวดล้อมท่ีรุนแรงตามมาเช่นกัน ตลอดระยะเวลาที่ ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกต้องประสบกับปัญหาภัย ธรรมชาติ เชน่ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว ดินถลม่ ฯลฯ เป็นต้น ภัยธรรมชาติเหล่าน้ีมีแนวโน้มของความรุนแรง และความถี่เพ่ิมมากขนึ้ รวมทงั้ ส่งผลกระทบและความเสยี หายตอ่ ประชาชนมากท่ีสดุ ประเทศไทยของเราต้องเผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติเป็นประจาทุกปี โดยเฉพาะอุทกภัยท่ีมัก เกิดตามพื้นที่ลุ่มน้า ซ่ึงกระจายอยู่ท่ัวทุกภาคของประเทศ สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น มีระดับความรุนแรง และความเสยี หายมากนอ้ ยแตกตา่ งกนั ไปตามตาแหน่งที่ตั้งและลักษณะภูมิประเทศ การเกิดอุทกภัยในแต่ละคร้ัง สร้างความเสียหายท้ังต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โครงสร้างพื้นฐาน สภาพแวดล้อม ระบบนิเวศ ในพืน้ ที่นน้ั ๆ และยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ อย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ ในระยะเวลา 20 ปี ท่ีผ่านมา การเกิดอุทกภัยในประเทศได้ก่อให้เกิดความเสียหายรวมกันเป็นมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท โดย ปี พ.ศ. 2554 มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ลา้ นบาท จังหวัดราชบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งท่ีเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย โดยในปี 2555 ได้เกิดอุทกภัย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 9 อาเภอ 72 ตาบล 451 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 7,813 ครัวเรือน พืชผลทางการเกษตรเสียหาย 10,243 ไร่ ส่ิงสาธารณประโยชน์ 16 แห่ง ถนนชารุด สัญจรใช้ไม่ได้ 65 แห่ง พบว่า อาเภอจอมบึง เสียหาย 6 ตาบล 67 หมู่บ้าน ชาวบ้าน 480 ครัวเรือน นาข้าว เสียหาย 213 ไร่ พืชไร่ 2,780 ไร่ ถนนสัญจรไม่ได้ 28 แห่ง ท่อเหล่ียมคสล./ฝายน้าล้นเสียหาย 7 แห่ง จังหวัดราชบุรี จังหวัดต้องจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และซ่อมแซมสิ่ง สาธารณประโยชน์ จานวน 5,263,182 บาท องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น เป็นพ้ืนที่หนึ่งท่ีต้ังอยู่ใน ทรี่ าบลุม่ โดยมแี มน่ ้าลาภาชีไหลกลางพ้นื ท่ี และมพี ้นื ทบี่ างส่วนตดิ กับเทือกเขาสูง ทาให้น้าจากลาห้วยบนภูเขา และจากแม่นา้ ลาภาชีไหลล้นเข้าท่วมหมู่บ้านในช่วงฝนตกหนัก จึงเป็นพ้ืนที่ท่ีมีความเสี่ยงอย่างมากต่อการ

-2- เกิดอทุ กภยั โดยไม่มีทางหลกี เลย่ี งได้ สรา้ งความเสยี ใหก้ บั ทรัพยส์ นิ ของประชาชนและ ส่ิงสาธารณะประโยชน์ เป็นจานวนมาก (สานกั งานปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดราชบรุ ี ,2555) การเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับอุทกภัย จึงเป็นสิ่งที่จาเป็นและสาคัญย่ิง เพ่ือลดความ สูญเสียจากภัยพิบัติท่ีอาจจะเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด ดังนั้น ในการรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในชุมชนต้อง อาศัยการมีส่วนร่วมจากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน ประชาชน และชุมชน ร่วมกันเตรียมความ พร้อมโดยจัดทาแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการปูองกันและบรรเทาสา ธารณภยั ของชมุ ชนข้ึน เพื่อทาหนา้ บริหารจัดการสาธารณภัย เตรียมพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ และ จัดหาสถานที่ปลอดภัยในอพยพเม่ือเกิดภัยข้ึนให้กับชุมชน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการบริหาร จัดการสาธารณภัยตามวัฏจักรของสาธารณภัย ต้ังแต่การเตรียมความพร้อมรับกับภัยพิบัติ การปูองกันและลด ผลกระทบการจัดการในภาวะฉุกเฉิน และการฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการ ดาเนินการปูองกัน แก้ไข บรรเทา ฟื้นฟู ความเสียหายจากอุทกภัย โดยชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผน ตัดสินใจ กาหนดแนวทางแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการภัย โดยใช้ทรัพยากรและบุคลากรภายในชุมชน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความเสยี่ งของชมุ ชน และเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการภัยพิบัติต่าง ๆ ให้กับคน ในชมุ ชนเองกอ่ นท่ีหน่วยงานภายนอกจะเขา้ ไปให้ความชว่ ยเหลือ นอกจากการเตรียมความพร้อมแล้ว “ชุมชน” จะต้องเสริมสร้างศักยภาพ เพื่อเพ่ิมขีด ความสามารถในการบริหารจัดการกับอุทกภัย ในมิติต่างๆ ท่ีสูงข้ึน ท้ังขีดความสามารถในการเตรียมความ พร้อมให้กับชุมชน การเสริมสร้างศักยภาพของผู้นา การให้ความรู้และการสร้างจิตสานึกด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม รวมไปถึงการให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ วางแผน ตัดสินใจดาเนินงานและติดตามประเมินผลการดาเนินงานของชุมชนในกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีภาครัฐหรือ องค์กร ตา่ ง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั สาธารณภยั ดาเนินการ เพอ่ื ให้เกิดความเข้าใจถึงสภาพปัญหาท่ีเกิดขึ้น ตลอดจนวิธีการ ปูองกันตนเอง เพอ่ื เตรยี มพร้อมรบั สถานการณฉ์ ุกเฉนิ ท่ีอาจจะเกดิ ขน้ึ ได้ในอนาคต ดังนน้ั ผทู้ าวจิ ัยจึงทาการศึกษา เรอ่ื ง ความพร้อมและศกั ยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการ อุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้าลาภาชีเกิดอุทกภัย บอ่ ยครั้ง โดยกรมปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดให้เป็นพื้นที่ที่เส่ียงต่อการเกิดอุทกภัย และพ้ืนที่ดังกล่าว ยังได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านนาร่องในการจัดทาโครงการ “ชุมชนเข้มแข็งเตรียมพร้อมปูองกันภัย” โดยเนน้ การสร้างความพรอ้ มและศกั ยภาพของชุมชนในการดาเนินการปูองกันอุทกภัย ตลอดจนการลดความ เส่ียงและลดความล่อแหลมในพื้นที่ชุมชน ท้ังน้ี เพ่ือจะได้ทราบว่าชุมชน มีความพร้อม และศักยภาพในการ บริหารจัดการอุทกภยั หรอื ไม่ อยา่ งไร ในการปกปอู งตนเองเมอ่ื เกิดอุทกภยั ข้นึ เพ่อื นาผลในการศึกษาครั้งน้ีเป็นแนวทาง ในการพฒั นาให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ ประชาชนและสว่ นรวมต่อไป วตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษา จากการเกิดอุทกภยั จากพายโุ ซนรอ้ น “ แกมี ” ในปี พ.ศ. 2555 ทาให้มหี ลายอาเภอได้รับความ เสียหายจากพายุดังกลา่ ว โดยเฉพาะตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบรุ ี ซ่ึงเป็นพน้ื ท่ตี ิดกบั แมน่ ้า

-3- ลาภาชี ทาใหส้ ร้างความเสยี ให้กับทรัพย์สินของประชาชนและราชการเป็นจานวนมาก จึงมีความจาเป็นต้องศึกษา ถึงศักยภาพและความพรอ้ มในการบริหารจดั การของชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาถึงความพร้อมของชุมชนในการปูองกันอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี 2. เพ่ือศึกษาศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ขอบเขตการศึกษา ขอบเขตพนื้ ท่ี เป็นการศึกษาเฉพาะพื้นท่ีองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลแก้มอ้น หมู่ท่ี 1 บ้านทงุ่ แฝก หมู่ท่ี 2 บ้านท่งุ แจง หมทู่ ่ี 5 บ้านวังปลา หมทู่ ่ี 9 บา้ นสนั ดอน และหมู่ที่ 15 บ้านหว้ ยตามว่ ง ซ่ึงเปน็ พ้นื ที่ ท่ีได้รบั ผลกระทบจากการเกดิ อทุ กภยั จากพายุ “ แกมี ” ปี 2555 ประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ ง ลาดับที่ หมทู่ ี่ ช่ือ-สกุล ตาแหนง่ 12 นายก อบต. แก้มอ้น 22 นายชศู กั ด์ิ เนตรธวุ กุล รองนายก อบต.แก้มอน้ 31 รองนายก อบต.แก้มอ้น 44 นายสาอางค์ ศรทั ธาผล ประธานสภา อบต. 51 ผู้ใหญ่บา้ น หมู่ท่ี 1 62 นายเสนอ ไผล่ อ้ ม ผู้ใหญบ่ ้าน หมู่ที่ 2 75 ผใู้ หญบ่ ้าน หม่ทู ่ี 5 89 นายสมศักด์ิ แซต่ นั ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ท่ี 9 9 15 ผู้ใหญบ่ ้าน หมทู่ ่ี 15 10 2 นายภูธเนศ ไผ่ล้อม เจา้ หน้าที่ อบต.แกม้ อ้น นายสมชาย มงคลรตั นาสทิ ธ์ิ นายทวน แปูนโก๋ นายวนิ จั สงิ ห์งาม นายสมชาย มปี อง นางสาวกาญจนาพร เกตทุ อง วธิ กี ารศึกษา เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใชก้ ารสมั ภาษณจ์ ากกลุ่มตวั อย่างผู้นาชุมชนและ ประชาชนในพนื้ ที่ จากการสังเกต และวิเคราะหจ์ ากเอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ 1. การศึกษาทาให้ทราบความพร้อมของชุมชน สามารถนาผลการศึกษาไปใช้ในการสร้างความพรอ้ ม ให้กับชมุ ชน เพือ่ ปูองกันและลดผลกระทบจากอุทกภยั ทต่ี าบลแกม้ อ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบรุ ี 2. การศกึ ษาทาให้ทราบศัยกภาพในการบรหิ ารการจดั การอุทกภยั ท่ตี าบลแกม้ อ้นอาเภอจอมบงึ จงั หวัดราชบุรี 3. หนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องนาผลการศึกษาไปใช้ประกอบการวางแผน ในการปอู งกันอทุ กภยั ในพน้ื ท่ีเสีย่ งภยั พร้อมท้ังจดั หาวสั ดุ อุปกรณ์ให้กบั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน เพ่ือใช้ในการปูองกนั อุทกภัยในพนื้ ท่ี

-4- 4. การศึกษาทาให้ทราบความเส่ียงของชุมชน คณะกรรมการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยของ ชมุ ชน สามารถนาขอ้ มลู ไปวางแผนในการเฝาู ระวงั และแจง้ เตือนประชาชนทอี่ ยใู่ นพน้ื ท่ีเสย่ี งภัย นิยามศัพทเ์ ฉพาะ คานิยามศัพทเ์ ฉพาะในการศึกษาในครัง้ นี้ใชใ้ นการวจิ ยั ได้แก่ 1. ชุมชน หมายถึง กลุ่มท่ีอาจจะมีส่ิงหน่ึงหรือมากกว่าเหมือนกัน เช่น อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อม เดียวกัน เผชิญกับสถานการณ์ด้านภัยพิบัติประเภทเดียวกันและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัตินั้น แต่ส่ิงน้ี ไม่ได้ หมายความว่า ทั้งชุมชนจะมีความล่อแหลมและความสามารถในการรับมือได้ในระดับเดียวกัน อาจจะมีบางกลุ่ม หรือบางครอบครวั ภายในชุมชนที่อาจจะมีความเส่ยี งจากภยั พิบตั มิ ากกว่าหรือกล่มุ หรือครอบครวั อื่น ความหมายกว้างๆ ของชุมชน คือ ชุมชนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความสนใจและความ ต้องการเหมือนกัน มีค่านิยมและจุดมุ่งหมายร่วมกัน คานิยามดังกล่าวน้ีแสดงให้เห็นว่าชุมชนมีความเหมือนกัน แตใ่ นความเปน็ จริง ชมุ ชนอาจมีความแตกต่างและความหลากหลายทางสงั คม เพศ ชนช้ัน วรรณะ ความม่ังมี อายุ เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และลักษณะอ่ืนๆ ทาให้สังคมมีการแบ่งแยกแตกต่างกันออกไป สมาชิกในชุมชนอาจ มีความเชื่อ ความสนใจและค่านิยมท่ีขัดแย้งกัน ดังนั้น ชุมชนจึงไม่เหมือนกันทั้งหมด (ศูนย์เตรียมความพร้อม ปอู งกันภัยพบิ ัตแิ ห่งเอเชยี ADPC, 2546) 2. อทุ กภัย หมายถึง ภัยหรอื อนั ตรายทเ่ี กิดจากน้าท่วมหรืออนั ตรายอนั เกิดจากสภาวะท่ีน้าไหลเอ่อ

บทท่ี 2 แนวคดิ ทฤษฎแี ละงานวจิ ัยท่เี กยี่ วขอ้ ง 2.1 แนวคิดทฤษฎีทเ่ี กย่ี วขอ้ ง การศึกษาเรื่อง ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยแลของ ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ผู้ศึกษาได้ทาการค้าคว้าแนวคิด และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อ นามาใชเ้ ป็นข้อมูลพน้ื ฐานและแนวทางการศึกษา โดยนาเสนอเน้อื หาตามลาดบั ดงั นี้ 2.1.1 แนวคิดเกยี่ วกบั การเตรียมพร้อม การดาเนินงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยในประเทศไทยตามพระราชบัญญัติ ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มีเปูาหมายหลักเพื่อปูองกันมิให้เกิดภัยร้ายแรงขึ้นจนก่อให้เกิด ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและของรัฐหรือหากเกิดภัยร้ายแรงข้ึนจนก่อให้เกิดความ เสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและของรัฐหรือหากเกิดภัยร้ายแรงขึ้นต้องสามารถบรรเทา อนั ตราย หรือลดความเสียหายทีอ่ าจเกิดขึน้ ให้เหลือน้อยท่ีสุด การที่จะดาเนินงานให้บรรลุเปูาหมาย ส่ิงสาคัญ ที่สุด คือ การเตรียมความพร้อม (Preparedness) ของทุกฝุายท่ีเก่ียวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผน ปูองกันภัยฝุายพลเรือนในทุกระดับต้ังแต่ระดับประเทศจนระดับท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับ กระทรวง กรม จังหวัด อาเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน ประชาชน ชุมชน ต้องมีส่วนร่วมใน การจัดเตรียมความพรอ้ มดา้ นต่างๆ ดงั นี้ (กรมปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ,2553) 1. การจดั ทาแผนหลักการปูองกนั และบรรเทาสาธารณภัย มกี ารกาหนดผรู้ บั ผิดชอบในแต่ ละระดบั และขน้ั ตอนตา่ งๆ การฝึกซอ้ มแผน การประสานแผน การแก้ไข ปรบั ปรงุ แผนใหท้ นั สมัยและใชไ้ ดผ้ ลอยเู่ สมอ 2. การจดั เตรียมทรพั ยากร ทง้ั ดา้ นบคุ ลากร ยานพาหนะ เคร่ืองมือและอุปกรณส์ าหรบั กู้ภยั และช่วยชวี ติ ระบบปอู งกนั ทรพั ย์สิน อปุ กรณ์ และระบบการติดต่อสื่อสารตลอดจนปัจจยั ในการดารงชีวติ 3. การจัดเตรียมสถานทห่ี ลบภยั สาหรับประชาชนและเจา้ หน้าที่ รวมตลอดถงึ เสน้ ทางในการอพยพ 4. จดั ตงั้ ศนู ย์อานวยการเฉพาะกจิ เตรยี มการปูองกันภัยในระยะที่กาลังจะเกิดภยั ข้ึน เพ่ือให้ หน่วยงานที่มีหน้าท่ีในการปฏิบัติต่าง ๆ ได้ซักซ้อม และเตรียมการเผชิญภัยได้อย่างเอกภาพไม่สับสน ตลอดจนสามารถปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล 2.1.2 แนวคิดเก่ียวกบั การเสรมิ สร้างศักยภาพชมุ ชน นิยามและความหมาย กติ ชิ ัย รัตนะ (2549) กล่าวว่า ศักยภาพของชุมชน หมายถึง ขีดความสามารถของ ชุมชนในการจัดการทรัพยากรเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนรวมทั้งให้เกิดการอนุรักษ์ และจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามหลักการ อนุรักษ์วิทยา (Conservation Practice) นอกจากนี้ยังหมายรวมถึงความสามารถในการประยุกต์ใช้ เครอื่ งมอื และเทคโนโลยีตา่ ง ๆ เพ่ือการดารงชวี ติ ทส่ี อดคล้องกับสภาพภมู นิ ิเวศของชุมชนและยังครอบคลมุ

-6- ถึงการพัฒนากระบวนทัศน์ทางความคิดสติปัญญาและภูมิปัญญาท้องถ่ินในการสนับสนุนการจัดการปัจจัย แวดล้อมต่างๆภายในชุมชนอีกด้วย ศักยภาพชุมชนเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงขีดความสามารถสูงสุดท่ีชุมชนจะ ตอบสนองตอ่ การแกไ้ ขปญั หาและการจดั การชุมชนบนพื้นฐานของทรัพยากรท่ีชุมชนมีอยู่ฉะนั้นในแต่ละชุมชน จงึ มศี ักยภาพทแี่ ตกต่างกนั และความแตกตา่ งกนั เหล่าน้ีขน้ึ อยู่กับปจั จยั สนับสนนุ หลายประการดังนี้ 1) ขีดความสามารถในการเรียนรใู้ นที่นีห้ มายถึงขีดความสามารถของบุคคลหรือกลุ่ม องค์กรชุมชนหรือสมาชิกในสถาบันต่างๆในชุมชนที่จะเข้าถึงความรู้และสามารถจัดการความรู้ได้อย่างเป็น ระบบหมวดหมู่และประยุกต์ใช้ในการดารงชีวิตได้ตามครรลองของชุมชนโดยท่ัวไปขีดความสามารถในการ เรียนรยู้ ังขนึ้ อยกู่ บั พน้ื ฐานทางการศึกษาแหล่งความรู้โดยรอบความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ถ่ายทอดความรู้รวมถึง สภาพแวดลอ้ มทเี่ อื้อตอ่ การเรยี นรู้ของบุคคล 2) ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชนในที่น้ีหมายถึงทรัพยากรที่เกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติและมนุษย์สามารถนามาใช้ประโยชน์ตามความต้องการได้เช่นทรัพยากรดินและการใช้ท่ีดิน ทรัพยากรน้าและแหล่งน้าทรัพยากรปุาไม้และสัตว์ปุาโดยทรัพยากรต่างๆเหล่าน้ีเปรียบเสมือนกับเป็นทุนของ ชุมชนท่ีสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้ 3) สมาชิกในชุมชนในท่ีนี้หมายรวมถึงบทบาทของสมาชิกในชุมชนศักยภาพของ ค ว า ม เ ป็ น ผู้ น า ใ น ชุ ม ช น ร ะ บ บ ก า ร ไ ด้ ม า ซึ่ ง ผู้ น า ต ล อ ด จ น ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ส ม า ชิ ก ใ น ชุ ม ช น ต่ อ กระบวนการพฒั นาชมุ ชนในด้านตา่ งๆอย่างแขง็ ขันการแสดงบทบาทของสมาชิกในชมุ ชน 4) ระบบการบรหิ ารจัดการชุมชนเกี่ยวข้องกบั องคป์ ระกอบ ตา่ ง ๆ เชน่ การระดม สมาชิกในชุมชน การระดมทุน การกาหนดกฎเกณฑก์ ติกาในการจัดการชมุ ชน การจัดตั้งกลุ่มตามวตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื เพมิ่ พลังอานาจในการตอ่ รองกับกลุ่มภายนอกนอกจากนย้ี ังสมั พนั ธ์ 28 การเสรมิ สร้างศักยภาพชุมชน การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพชุมชนหมายถงึ กระบวนการดาเนินงานเพอ่ื เป็นการกระตุ้นส่งเสริม สนับสนุนประสานให้ชุมชนมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการในมิติต่างๆที่สูงขึ้นท้ังขีดความสามารถใน การเตรียมความพรอ้ มชุมชน การเสรมิ สร้างศกั ยภาพของผู้นาการให้ความรู้และจิตสานึกด้านอนุรักษ์แก่ชุมชน รวมไปถึงการให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์วางแผนตัดสินใจดาเนินงานและการติดตาม ประเมนิ ผลการดาเนินงานของชุมชนอันเป็นการตอบสนองต่อเปูาหมายที่วางไว้การเสริมสร้างศักยภาพชุมชน ต้องดาเนินไปอย่างไม่รีบร้อนและสอดคล้องกับค่านิยมและวัฒนธรรมของชุมชนห รือหากต้องปรับเปลี่ยนวิถี ปกติของชุมชนก็ควรปรับเปล่ียนแบบค่อยเป็นค่อยไปสาหรับการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนมีแนวทางปฏิบัติ หลายแนวทางการเลือกใช้แนวทางใดน้ันก็ควรพิจารณาจากความพร้อมของชุมชนเป็นสาคัญรวมไปถึง พิจารณาจากประเด็นอ่นื ๆดงั น้ี 1) ความต้องการของชมุ ชนหมายถึงชมุ ชนควรระบุความต้องการท่ีแทจ้ รงิ ต่อการสนับสนนุ การดาเนินงานของชมุ ชนในการแกไ้ ขปญั หา 2) ความวิกฤตของปัญหาหมายถงึ ควรพจิ ารณาจากความรุนแรงของปัญหาทจี่ ะสง่ ผลกระทบในวงกวา้ งและเชื่อมโยงไปสู่การดาเนนิ ชีวติ ของสมาชิกในชมุ ชน

-7- 3) ความเป็นได้ในทางปฏิบตั ิหมายถงึ ความสามารถในการนาแนวทางการเสรมิ สร้างศกั ยภาพ ชุมชนไปปฏบิ ตั ไิ ด้อยา่ งเปน็ รูปธรรม แนวทางการเสรมิ สร้างศักยภาพชุมชน แนวทางในการเสรมิ สร้างศกั ยภาพชมุ ชนเปน็ การกาหนดกรอบแผนการปฏิบัติ เพื่อสนับสนุน การจดั การทรพั ยากรในลมุ่ นา้ โดยมุง่ เน้นให้ชุมชนมีขีดความสามารถในการจัดการท่ีสูงขึ้นโดยมีประเด็นในการ ดาเนินงาน ดงั นี้ 1) การประยกุ ตใ์ ช้ทนุ ทางสงั คมของชุมชน 2) การสนบั สนุนการจัดทาแผนแม่บทชมุ ชน 3) การพฒั นาศกั ยภาพและบทบาทผู้นาชุมชน 4) การสรา้ งและพฒั นาศนู ย์การเรยี นร้ชู มุ ชน 5) การเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มและองค์กรเครือข่ายภมู ปิ ัญญาท้องถ่ินในการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 6) สนับสนนุ ใหเ้ กิดการวจิ ัยไทบ้านด้วยภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่น 7) พัฒนาบทบาทการเปน็ วิทยากรกระบวนการชุมชน 8) จดั ลาดับความสาคญั ของกลุ่มผ้มู สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย 9) ส่งเสริมความเขม้ แข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ 10) จดั ทาเวทชี าวบา้ นเพ่ือสนบั สนนุ การตดั สินใจของชุมชน 11) ส่งเสรมิ การดาเนนิ ชีวิตของชมุ ชนแบบเศรษฐกจิ พอเพยี ง 12) ปรับเปล่ยี นบทบาทการทางานขององคก์ รสนับสนุนชุมชนการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมของ องคก์ รเปน็ สิ่งจาเป็นต่อการพัฒนาศักยภาพขององค์กรยุคใหม่ให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงและนาพาองค์กร ใหส้ ามารถทางานสนองตอบต่อความ 2.2 แนวคดิ เก่ียวกบั การจัดการความเสยี่ งจากภยั พบิ ตั ิโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน แนวคิดการใชช้ มุ ชนเปน็ ฐาน (Community-Based Approach) การใช้ชุมชนเป็นฐานเป็นการนาชุมชนมาเป็นหลักในการปฏิบัติงาน โดยสร้างให้ประชาชน กลุ่มเปูาหมายเกิดจิตสานึกในการมีส่วนร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ และร่วมประเมินผลจนเกิด อุดมการณ์ร่วมกันว่าชุมชนเป็นของตน ทางานเพ่ือชุมชนและโดยชุมชนซึ่งอยู่บนพื้นฐานของหลักการ ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมการใช้ชุมชนเป็นฐานได้นามาประยุกต์ใช้ในหน่วยงานภาครัฐ เช่น งานสาธารณสุขมูลฐานของกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจาหมู่บ้านของกรม ประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และการจัดต้ังชมรมผู้สูงอายุโดยศูนย์บริการ สาธารณสุขสานักอนามัยกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ส่วนงานด้านองค์การเอกชนได้นาแนวคิดการใช้ชุมชน เป็นฐานมาใช้ ในการจดั ฝึกอบรมฟ้นื ฟูสมรรถภาพคนพิการของมูลนิธิอนุเคราะห์และฟื้นฟูคนพิการ สภาสังคม สงเคราะหแ์ ห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถัมภ์ การสงั คมสงเคราะห์ชุมชนจึงเป็นมุมมองของการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ในลักษณะรูปธรรม โดยใช้ “ ชุมชนเปน็ ฐาน ” (Community-Based) ทจี่ ะช่วยให้เห็นผลของการปฏิบตั ิงาน

-8- ชดั เจนขึ้น แตใ่ นกระบวนการปฏบิ ตั ิงานสงั คมสงเคราะห์ชุมชนที่เป็นมุมมองด้านนามธรรมน้ันยังคงต้องอาศัย ความรู้ความเข้าใจในหลักการ วิธีการ และกระบวนการจัดระเบียบชุมชนนั่นเอง ในท้ายท่ีสุดเพ่ือรวมลักษณะ ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมของการสังคมสงเคราะห์ชุมชนแล้ว จึงครอบคลุมถึงรูปแบบปฏิบัติงานสังคม สงเคราะหช์ ุมชน ทง้ั การพัฒนาชุมชน การวางแผนทางสังคม และการปฏิบัติการทางสังคม รูปแบบเหล่าน้ีจะ เป็นพื้นฐานความเข้าใจสาหรับผู้ปฏิบัติสามารถเลือกนาไปใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาและความต้องการ ของชุมชนในเขตพ้ืนท่ีที่ปฏิบัติ และวัตถุประสงค์ของหน่วยงานผู้จ้างหรือหน่วยงานที่ต้นสังกัด โดยมุ่งหวัง ผลสาเร็จในการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถพึ่งตนเองต่อไปได้ในอนาคตอย่างย่ังยืน สะท้อนถึงผลการพัฒนา คุณภาพชวี ติ และการพัฒนาสงั คมอย่างควบคกู่ นั ไป องค์ประกอบของการใช้ชุมชนเป็นฐาน มี 7 ส่วน คือ (1) การสร้างองค์กรประชาชน โดยการรวมกลุ่มประชาชนในชุมชนเป็นแบบทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ (2) การสร้างเครือข่ายในการ ติดต่อสื่อสารกันระหว่างบุคคลที่อยู่ในชุมชนน้ัน (3) จัดการฝึกอบรมให้องค์กรประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และ ความสามารถในการทางานเฉพาะดา้ น (4) การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการดาเนินงาน โดยให้ประชาชนในชุมชนเป็นผู้ พิจารณาคัดเลือก ตามระบอบประชาธิปไตย และกาหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ (5) กาหนดกรอบกิจกรรม หรือกิจกรรมเฉพาะ (6) การติดต่อประสานงาน และร่วมมือกันระหว่างหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง (7) การติดตาม ประเมนิ ผล เพ่ือขจดั ปัญหาและอปุ สรรคในการดาเนินงาน (ทัศนยี ์ ลกั ขณาภิชนชชั 2534, หนา้ 2) 2.3 งานวิจัยที่เกยี่ วข้อง พล เชื้อทหาร (2553 : 20 – 21) ได้ศึกษาความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการปูองกัน อุทกภัยและโคลนถลม่ ของ ตาบลบ้านตึก อาเภอศรสี ชั นาลัย จังหวัดสุโขทัย พบว่า การเตรียมความพร้อมและ ศักยภาพชุมชนในการปอู งกันอบุ ัติภัยจากอุทกภยั ดินโคลนถล่มในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง แสดงให้เห็น ว่าประชาชนยังไม่ให้ความสาคัญเท่าท่ีควรว่าพ้ืนท่ีท่ีตนเองอยู่ มีความเสี่ยงภัยจากดินโคลนถล่ม ทั้งน้ีอาจเป็น เพราะมีทัศนคติหรือความน่าเช่ือว่าไม่น่าจะเกิดข้ึนอีก หรือเม่ือมีการเตรียมความพร้อมบ่อยๆ แล้วไม่มี เหตุการณ์เกิดข้ึนจริง ประชาชนเองก็เกิดอาการเบ่ือหน่ายข้ึนมาได้ จึงทาให้ศักยภาพในการปูองกันลดน้อย ถอยลง หรือผู้ตอบแบบสอบถามอาจไมไ่ ดป้ ระสบปัญหาดินโคลนถล่มด้วยตนเอง ประกอบกับเม่ือเตรียมความ พร้อมบ่อยๆแล้วไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงหลายฝุายโดยเฉพาะฝุายภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาจเกดิ ความเสียดายงบประมาณการปูองกันและบรรเทาปญั หาอทุ กภยั โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน อาทิ การสร้างเข่ือนหรือกาแพงก้ันน้าเพ่ือจากัดพ้ืนท่ีการไหลให้อยู่ในเฉพาะลาน้า ไม่ท่วมล้นตล่ิง เป็นหน้าท่ีท่ีต้อง กระทาของหน่วยงานภาครฐั กัณฑณา นิลกาแหง (2552 : 86) ได้ศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหาร จัดการอุทกภัย : ศึกษาเฉพาะกรณีบ้านตองเปอะ หมู่ 1 ตาบลสามโคก อาเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีการจัดการเกี่ยวกับอุทกภัยของชุมชน ในด้านการเฝูาระวังเหตุจากการเกิด อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือด้วยความรวดเร็ว เมื่อเกิดอุทกภัย รองลงมา คือ การแจ้งชุมชนให้อพยพ การร่วมแสดงความคิดเห็นว่าอุทกภัยรูปแบบใดอาจจะเกิดขึ้นในชุมชน การร่วมวิเคราะห์สาเหตุของการ เกดิ อทุ กภัย การประสานขอความช่วยเหลือจากภายนอก การรายงานหนว่ ยงานที่เก่ียวข้องทนั ที รว่ มสารวจ

-9- ความสญู เสีย และการรว่ มกบั ภาครฐั หาทางปูองกนั การเกิดอทุ กภัยข้ึนในอนาคต ตามลาดับและสิทธิศักดิ์ เท่าธุรี (2546 : 112) ได้ศึกษาการรับรู้และการปรับตัวของประชาชนบ้านน้าก้อ ภายหลังเกิดภัยพิบัติจากอุทกภัย ในปี พ.ศ. 2544 พบว่า สภาพทว่ั ไปของบ้านนา้ กอ้ ภายหลังการเกิดอทุ กภัย มีการเปลี่ยนแปลงพ้ืนที่การต้ังถ่ิน ฐานจากท่ีอยู่ใกล้บริเวณลาน้าไปอยู่ในพื้นท่ีท่ีมีความสูงกว่าเดิมและมีประชาชนบางส่วนท่ีอพยพไปอยู่ที่อื่น ปลอ่ ยพ้นื ทเี่ คยเปน็ ท่ีอย่อู าศยั และพน้ื ท่ีการเกษตรให้เป็นพืน้ ท่ีรกรา้ ง ส่งิ สาธารณปู โภคต่าง ๆ และสถานบริการของ ภาครัฐที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยได้ดาเนินการปรับปรุงและสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ ตามปกติ และกาลังมีการดาเนินการของภาครัฐในการก่อสร้างอ่างเก็บน้าการขุดลาห้วย คลองต่าง ๆ ในพื้นท่ี บ้านน้าก้อ เพ่ือประโยชน์ในการทาการเกษตรและการปูองกันความรุนแรงจากอุทกภัย ในการรับรู้ของ ประชาชนอยู่ในระดับสูงท้ังในด้านสาเหตุของการเกิดอุทกภัย ด้านความรุนแรงจากการเกิดอุทกภัย และด้าน การบรรเทาความรุนแรงจากการเกิดอุทกภัย ส่วนในด้านของการปรับตัวของประชาชนมีการปรับตัวอยู่ใน ระดับสูง ท้ังในด้านการยอมรับความสูญเสียด้านการลดความสูญเสียและการแสวงหาทางเลือกใหม่ เพ่ือบรรเทาความรุนแรงจากอุทกภัย นอกจากนี้ความเสียหาย จากอุทกภัยบ้านน้าก้อส่งผลให้ประชาชน หมบู่ า้ นอนื่ มีความต่นื ตวั และมีความตระหนักต่ออุทกภัยมากกวา่ เดิม และภาครัฐกใ็ ห้ความสาคัญกบั อทุ กภัยมากขึ้น ซ่ึงภาครัฐมกี ารดาเนนิ การในด้านการเตือนภัย การชว่ ยเหลอื และฟ้ืนฟูส่ิงต่าง ๆ ภายหลังเกดิ อุทกภัยด้วยความรวดเร็วย่ิงขึ้น เดชา เรืองอ่อน (2555 : 22 - 23) ได้ศึกษาความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหาร จัดการอุทกภัยและน้าปุาไหลหลากของตาบลสวนผ้ึง อาเภอสวนผ้ึง จังหวัดราชบุรี พบว่า ชุมชน มีการ เตรียมความพร้อมในการปูองกันอุทกภัยและน้าปุาไหลหลากในพื้นท่ีโดยการติดตั้ง เคร่ืองวัดปริมาณน้าฝนใน พ้ืนท่ีเส่ียงภัย เพื่อนาข้อมูลปริมาณน้าฝนมาใช้ในการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชน พร้อมท้ังติดต้ังเคร่ืองไซเรน เตือนภัยแบบมือหมุนสาหรับใช้เตือนภัยในช่วงท่ีกระแสไฟฟูาดับ และยังได้รับระบบเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย จากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งสามารถรับข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ โดยตรง หากมีภัยพิบัติเกิดขึ้นองค์การบริหารส่วนตาบลสวนผ้ึง สามารถที่จะแจ้งเตือนภัยผ่านหอกระจายข่าว ประจาหมู่บา้ นให้ประชาชนในพน้ื ทไี่ ดร้ ับทราบทนั ที ด้านการพัฒนาศักยภาพของชุมชน ได้พัฒนาศักยภาพเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยการจัดฝึกอบรมการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐานให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ใน พื้นท่เี ส่ยี งภยั เพือ่ ให้ความรู้ ความเข้าใจแกป่ ระชาชน ในการรับมอื กบั ภัยพบิ ตั ิท่ีอาจจะเกิดขึ้นกับชุมชน และ จัดฝึกอบรมอาสาสมัครปูองกันภัยพลเรือน (อปพร.) เพื่อเพ่ิมศักยภาพ และเสริมสร้างความเข้มแข็งในการ ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยใหก้ ับชมุ ชน พร้อมคัดเลอื กสมาชกิ อปพร. ที่ความรู้ ความสามารถและมีความ เสียสละในการทางานเพ่อื สงั คมเข้าฝึกอบรม “ มิสเตอรเ์ ตอื นภยั ” จากวรรณกรรมและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้อง พบว่า ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการ บริหารจัดการอุทกภัยเป็นการเตรียมการปูองกัน โดยเฉพาะการตระหนักถึงภัยพิบัติท่ีจะเกิดข้ึนในชุมชน ที่ห่างไกลเครื่องมือ เคร่ืองใช้ และระยะเวลาในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือมักไม่ทันกาล ฉะน้ัน การท่ปี ระชาชนสามารถเขา้ ใจถึงภัยและหนา้ ที่ของแต่ละบคุ คลตามวิธีการ บริหารจัดการ ประกอบไปด้วยการ ให้การศึกษา อบรม แนะนา เกี่ยวกับสาเหตุความรุนแรงและความเสียหายท่ีเกิดขึ้นเพ่ือสร้างจิตสานึก ให้กับป ร ะช า ช น ใ นพื้น ที่ก า ร จัด ก าร ท าง ด้าน ง าน เ อ กส า รแ ล ะรูป แ บ บ กา ร ป ระ ส าน ง าน กับห น่ว ย ง า น ที่เกี่ยวข้อง การเตรียมความพร้อมของทีมงานและโครงข่ายการประสานงาน โดยผู้นาชุมชนจะต้องเป็น

- 10 - ผู้ประสานงานให้มีการประชุมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภัยพิบัติต่าง ๆ โดยวิเคราะห์หาสาเหตุของการ เกดิ ภยั พิบัติ และหาวธิ กี ารท่ีเหมาะสมในการปูองกันและเตรยี มพรอ้ มรับมอื กับภัย ด้วยเหตุน้ีผู้วิจัย จึงต้องการ ศึกษาพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เพอ่ื วิเคราะห์ความพร้อมและศักยภาพในการบรหิ ารจัดการอุทกภยั ดังกล่าว กรอบแนวคดิ ในการศกึ ษา ความพรอ้ ม ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนใน - คน การบรหิ ารจัดการอุทกภยั - เงนิ - เครือ่ งมือ อปุ กรณฯ์ ศกั ยภาพ - ความรู้ - ความเขา้ ใจ - การฝึกซ้อมแผนอุทกภยั

บทที่ 3 ระเบียบวธิ ีดาเนนิ การวจิ ยั ในการศึกษาเรื่องความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี และได้กาหนดขอบเขตการศึกษาโดยกาหนดขอบเขตพื้นที่ศึกษาเฉพาะพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น หมู่ที่ 1 บ้านทุ่งแฝก หมู่ท่ี 2 บ้านทุ่งแจง หมู่ที่ 5 บ้านวังปลา หมู่ที่ 9 บ้านสันดอน และหมู่ท่ี 15 บ้านห้วยตาม่วง ซึ่งเป็นพ้ืนท่ีท่ีได้รับผลกระทบจากการเกิดอุทกภัยจากพายุ “แกมี ” ปี พ.ศ. 2555 มขี ้อมูลสภาพทัว่ ไป ดังน้ี ชมุ ชนพน้ื ทีศ่ ึกษา บ้านแกม้ อ้น เดมิ เปน็ หมทู่ ี่ 7 ของตาบลด่านทับตะโก ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2520 ได้รับการจัดตั้งเป็น ตาบลแก้มอ้น ปัจจุบันแบ่งการปกครองออกเป็น 15 หมู่บ้าน ตามประวัติเล่าว่าตาบลแก้มอ้น ในอดีตเป็นชุมชน เผาถ่านมาก่อน คือ ผู้คนท่ีอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นมักยึดอาชีพเผาถ่านขาย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นปุาเบญจพรรณ และ มีตัวอ้นซึ่งเป็นสัตว์คล้ายหนูอาศัยอยู่อย่างชุกชุม ผู้คนที่อาศัยอยู่ย่านน้ัน จึงมักจับเอาตัวอ้นมาประกอบเป็น อาหารแกล้มกับสุรา จนต่อมาเม่ือชุมชนขยายตัวใหญ่ข้ึนและได้รับการจัดต้ังเป็นหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงมี ความเห็นกนั ว่าน่าจะเอาลักษณะเดน่ ของชุมชนมาตั้งเป็นช่อื หมู่บ้าน จงึ ได้นาเอาคาว่า แกล้มอ้น อันหมายถึง การนาเอาตัวอ้นมาทาเป็นกับแกล้มมาต้ังเป็นชื่อหมู่บ้าน และได้เรียกหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านแกล้มอ้น จนต่อมา ได้ เรียกเพ้ียน คาว่า “แกล้มอ้น” มาเป็น “แก้มอ้น” ในปัจจุบัน และในปี พ.ศ.2539 ได้ยกฐานะของ สภาตาบลเป็น องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น แบ่งการปกครองท้ังหมด 15 หมู่บ้าน มีอาณาเขตพื้นที่ 129.505 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันมีประชากรทั้งสิ้น 8,792 คน โดยเป็นประชากรชายทั้งสิ้น 4,408 คน และเป็นประชากรหญงิ ท้งั สนิ้ 4,384 คน และมีจานวนหลังคาเรอื น 2,280 หลังคาเรอื น สภาพท่ัวไปของตาบล องค์การบริหารส่วนตาบลตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอาเภอจอมบึง ระยะทางห่างจากท่ีว่าการ อาเภอจอมบึงประมาณ 26 กิโเลมตร - ทิศเหนอื จรด จ.กาญจนบรุ ีทศิ ใต้ - จรด ต.ด่านทับตะโก ตาบลเบิกไพร อาเภอจอมบึง จงั หวัดราชบุรี - ทศิ ตะวนั ออก จรด ตาบลหนองกวาง อาเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เสน้ ทางการคมนาคม การเดินทางเขา้ สู่ตาบล - ถนนสายราชบุรี - จอมบึง (ทางหลวงหมายเลข 3087) - ถนนสายจอมบงึ - ดา่ นทบั ตะโก (ทางหลวงหมายเลข 3274) - ระยะทางจากอาเภอจอมบงึ - ตาบลแกม้ อ้น ประมาณ 26 กโิ ลเมตร สภาพพนื้ ท่ีและระบบสาธารณูปโภค - มีไฟฟูาใชร้ อ้ ยละ 95 - มนี ้าประปาใช้ร้อยละ 90 - มโี ทรศัพท์สาธารณะ จานวน 14 ตู้

-12- การรวมกลุม่ ชุมชนและของประชาชนในตาบล - กล่มุ ตดั เยบ็ รองเท้าแก้มอ้น ตั้งอยู่เลขท่ี 318 หมทู่ ี่ 3 บ้านแก้มอ้น ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จงั หวัดราชบุรี - กล่มุ ผลติ ภัณฑห์ วาย ต้ังอยู่เลขที่ 114 หมทู่ ี่ 7 บ้านกาแพงแสน ตาบลแก้มอน้ อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี - กลมุ่ ผลิตรองเทา้ ต้งั อยเู่ ลขท่ี 310/2 แก้มอ้น หมู่ 3 ตาบลแก้มอน้ อาเภอจอมบึง จงั หวดั ราชบุรี - กลมุ่ รองเท้าหนังสตรี ตัง้ อย่เู ลขที่ 24 หมู่ 7 บา้ นพุม่วง ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบงึ จังหวดั ราชบรุ ี - กลุ่มอาสาพัฒนาชุมชนบ้านโปุงกก ตั้งอยู่ท่ีบ้านโปุงกก 67 หมู่ 11 ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบรุ ี สภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังจากเกิดเหตุการณ์อุทกภัยเป็นประจาส่งผลให้ สภาพดินท่ีใช้ในการเกษตรมีการเปล่ียนแปลงไปโดยสภาพดินเส่ือมโทรม ความอุดมสมบูรณ์ ก็ลดลงตามไป ด้วย และในช่วงหลังมีการบุกรุกพื้นท่ีปุา เพ่ือทาไร่ ซ่ึงในบางพ้ืนท่ีมีการถางปุาบริเวณภูเขา ประกอบกับใน พื้นที่มีแม่ลาภาชี ท่ีมีต้นน้าอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรีบริเวณอาเภอสวนผ้ึงและบ้านคา ไหลผ่านใจกลางตาบล เพ่ือไปลงแม่น้าแม่กลอง ที่จังหวัดกาญจนบุรี ทาให้ช่วงฤดูฝนจะทาให้เกิดน้าปุาไหลหลากเข้าท่วมพ้ืนท่ีเกือบ ทั้งตาบล และในช่วงฤดูแล้ง แม่น้าลาคลองเร่ิมแห้งและมีปริมาณที่น้อยลงน้าใต้ดิน บ่อน้าตื้น บางแห่งก็แห้ง นา้ บาดาลส่วนใหญจ่ ะเปน็ สนมิ ใช้ประโยชน์ไม่ได้ จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ความแปรปรวนของภูมิอากาศ ความไม่สมดุล ในระบบนิเวศ มีแนวโน้มที่จะทวีจานวนความถี่และความรุนแรง เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสาธารณภัยที่เกิดจากธรรมชาติและเกิดจาก การกระทาของมนุษย์ในเขตพื้นทข่ี ององค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น มสี าธารณภยั ที่เกดิ ขึ้นเปน็ ประจาทุกปี ดงั นี้ 1. วาตภัย จะเกิดขึน้ ไดต้ ลอดเวลา ตัง้ แต่ชว่ งเดือน มนี าคม - มิถุนายน ซงึ่ มแี นวโน้มท่ีจะเกดิ ขึ้นได้ งา่ ยเพราะใกล้ภเู ขา 2. อทุ กภยั จะเกิดขน้ึ ทุกปี ระหวา่ งเดือนสงิ หาคม - ตุลาคม ลักษณะการเกิดเป็นประเภทน้าปุาไหลหลาก เข้าท่วมพนื้ ทีบ่ า้ นเรือน พชื สวนไรน่ า เสยี หายมาเรว็ แตเ่ ข้าทว่ มไมน่ าน 3. อคั คภี ยั อาจเกดิ ข้นึ ไดต้ ลอดเวลาตง้ั แต่ชว่ งเดือน พฤศจิกายน - พฤษภาคมของปีถดั ไป เชน่ ไฟไหม้ปุา พชื ไร่ สวนอ้อย 4. ภัยแลง้ จะเกิดขึ้นช่วงเดือนมกราคม - สงิ หาคมของทุกปี เนื่องจากพน้ื ท่ีไมส่ ามารถรับนา้ ไวไ้ ด้ ในฤดูแลง้ เพราะเปน็ พน้ื ทด่ี ินทราย 5. ภยั หนาว จะเกิดข้นึ ชว่ งเดือนธันวาคม-กมุ ภาพันธ์ ของทุกปี เนือ่ งจากติดกับภเู ขา ซึง่ มอี ากาศ หนาวเยน็ และในเดือนธนั วาคม 2556 จงั หวัดราชบุรี ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั พิบตั ิกรณี ฉกุ เฉิน (ภัยหนาว) ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ในพ้นื ท่ีอาเภอจอมบึงทกุ ตาบล (ขอ้ มูล : สานกั งาน ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยราชบุรี ปี 2556)

- 13 - ลักษณะการเกิดภัย ลักษณะการเกิดภัยจะมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ฝนส่วนใหญ่จะตกบริเวณภูเขา แลว้ นา้ ไหลลงแมน่ ้าลาภาชี ท่มี ีความลาดชันสงู ทาให้ไหลอยา่ งรวดเร็วเข้าท่วมพ้ืนท่ีสองฝั่งแม่น้าอย่างฉับพลัน สรา้ งความเสียหายให้กบั ทรัพย์สนิ พนื้ ท่กี ารเกษตรของประชาชน และสงิ่ สาธารณประโยชนจ์ านวนมาก ระเบยี บวธิ ีวจิ ยั ขอบเขตด้านเน้ือหางานวิจัยในครั้งน้ีเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเก็บข้อมูลทุติยภูมิจาก สถิติการเกิดภัย ความพร้อมด้านบุคลากร เคร่ืองมือ อุปกรณ์ท่ีใช้ในการปูองกันอุทกภัย จากรายงานของ สานักงานปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดราชบุรี รายงานของอาเภอจอมบึงรายงานขององค์การบริหาร ส่วนตาบลแก้มอ้น และรายงานอื่นๆ และเก็บข้อมูลปฐมภูมิ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้นาชุมชน และผู้นา ท้องถิ่นในพ้ืนที่ศึกษา หลังจากเก็บข้อมูลครบถ้วนจะนาข้อมูล มาจาแนกเป็นหมวดหมู่ตามวัตถุประสงค์ที่วาง ไว้ แลว้ ทาการวิเคราะห์ข้อมูล และนาผลขอ้ มูลมาทาการบรรยาย หรอื พรรณนาความเชิงวิเคราะห์ ขอบเขตด้านพื้นท่ี การศึกษาครั้งน้ีได้เลือกพื้นท่ีศึกษาแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยเลือกศึกษาในชุมชนหมู่ท่ี 1 หมู่ท่ี 2 หมู่ที่ 5 หมู่ท่ี 9 หมู่ที่ 15 ขององค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี อยู่ในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย (ทุกครั้งท่ีมีฝนตกหนักในพ้ืนท่ี ) ยังไม่มีผ้วู จิ ัยทม่ี คี วามสนใจที่จะศกึ ษาเร่อื งน้ี ขอบเขตดา้ นเวลา เร่ิมต้นศึกษาวิจัยเดือน มกราคม – มนี าคม 2557 กล่มุ ตัวอยา่ งประชากรในการรวบรวมขอ้ มูล ในการศึกษาคร้ังน้ีผู้ศึกษาได้ลงพื้นท่ีสัมภาษณ์ผู้นาชุมชนและผู้เกี่ยวข้องในเขตองค์การบริหาร ส่วนตาบลแกม้ อน้ จานวน 10 คน ดังน้ี ลาดับท่ี หมูท่ ่ี ชอ่ื -สกลุ ตาแหนง่ 1 2 นายชูศกั ดิ์ เนตรธวุ กุล นายก อบต. แก้มอ้น 2 2 นายสาอางค์ ศรัทธาผล รองนายก อบต.แก้มอ้น 3 1 นายเสนอ ไผ่ล้อม รองนายก อบต.แก้มอน้ 4 4 นายสมศกั ด์ิ แซ่ตัน ประธานสภา อบต. 5 1 นายภธู เนศ ไผ่ลอ้ ม ผู้ใหญ่บ้าน หมูท่ ี่ 1 6 2 นายสมชาย มงคลรตั นาสิทธ์ิ ผ้ใู หญบ่ า้ น หมทู่ ่ี 2 7 5 นายทวน แปูนโก๋ ผใู้ หญบ่ ้าน หมทู่ ่ี 5 8 9 นายวินัจ สิงหง์ าม ผใู้ หญ่บา้ น หมู่ท่ี 9 9 15 นายสมชาย มปี อง ผู้ใหญบ่ า้ น หม่ทู ่ี 15 10 2 นางสาวกาญจนาพร เกตทุ อง เจ้าหนา้ ที่ อบต.แก้มอ้น

- 14 - เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการศกึ ษา การศึกษาคร้ังน้ี เป็นการศึกษาวิจัยเชิงสารวจชุมชน (Community Survey) เพ่ือให้ได้มา ซึ่งข้อมูลเชิงลึก และนาไปสู่กระบวนการวิเคราะห์การมีส่วนร่วมในการบริหารการจัดการอุทกภัยในเขตพื้นท่ี องคก์ ารบริหารส่วนตาบลแกม้ อน้ ผู้วิจัยได้ใช้วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ภาคสนาม 2 วิธี ดงั นี้ 1. การสังเกต (Observation) โดยการสังเกต ผู้วิจัยได้ใช้การสังเกตแบบมีส่วนร่วมและ ไม่มี สว่ นรว่ ม โดยได้ตงั้ ประเดน็ การสงั เกตและจดบนั ทึกไว้ ดังนี้ 1.1 ลักษณะทางกายภาพและทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน โดยการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ ขนาดชมุ ชน ลักษณะภูมิประเทศ แมน่ ้าลาคลอง ถนนและทางภายในหมู่บ้าน ตลอดจนแบบแผนในการดาเนิน ชีวิตประจาวันของชาวบ้าน เพ่ือหาข้อมูลสนับสนุนลักษณะความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหาร จดั การอทุ กภัยของชมุ ชน 1.2 ลกั ษณะการเกดิ สาธารณภัยในของชุมชน ไดแ้ ก่ อุทกภยั วาตภยั ภยั แลง้ ภยั หนาว ฯลฯ 2. การสัมภาษณ์ (Interview) ในการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้เลือกใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) โดย ผู้วิจัยจะมีแนวคาถามในการเข้าไปสัมภาษณ์ตามท่ีได้จัดทาไว้ล่วงหน้า (Interview Guide) สาหรับใช้ สัมภาษณ์ประชากรกลุ่มตัวอย่าง แต่แนวคาถาม การสัมภาษณ์สามารถปรับเปล่ียนไปตามสถานการณ์ ทั้งนี้ เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีมีประโยชน์และตรงตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย โดยแบ่งแบบสัมภาษณ์ออกเป็นกลุ่มผู้รู้ และ ผูท้ เ่ี กี่ยวขอ้ ง เปน็ คาถามเก่ยี วกับข้อมูลทั่วไปของพ้ืนทศี่ ึกษาเก่ยี วกับความพรอ้ มและศักยภาพของชุมชนในการ บริหารจดั การอทุ กภัย ในพื้นท่ี 5 หมูบ่ า้ นขององค์การบรหิ ารส่วนตาบลแก้มอ้น ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จงั หวดั ราชบุรี การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การศกึ ษาคร้ังนี้ผ้วู จิ ยั ไดก้ าหนดการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยมวี ธิ ีการดาเนินการข้ันตอน ดังน้ี 1. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู จากเอกสาร (Documentary Research) ผู้วิจัยได้ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลขั้นทุติยภูมิ (Secondary Source) โดยแบ่งการศึกษา ค้นคว้าจากเอกสารและงานวิจยั ท่เี ก่ียวข้องออกเปน็ 2 กลมุ่ ดงั นี้ 1.1 เอกสารทางวชิ าการ ได้แก่ การรวบรวมเอกสารประเภทหนังสือวิทยานิพนธ์งานวิจัยต่าง ๆ ท่ีมี เน้ือหาเก่ียวกับการการเกิดสาธารณภัยต่างๆ เช่น อุทกภัย วาตภัย ภัยแล้ง ภัยหนาว ฯลฯ โดยสามารถค้นหา ไดจ้ ากแหลง่ ข้อมูลจากกรมปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรธรณี ศูนยป์ อู งกนั ภยั พบิ ตั ิแห่งชาติ 1.2 เอกสารประเภทอ่ืน ๆ ได้แก่ บทความจากวารสาร เอกสารอา้ งองิ ท่ีเปน็ ของชมุ ชน และเอกสาร ราชการ คือ เอกสารเกย่ี วกบั ขอ้ มลู ทัว่ ของชมุ ชนหมทู่ ่ี 1 หม่ทู ่ี 2 หมู่ท่ี 5 หมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 15 ขององค์การบริหาร ส่วนตาบลแก้มอน้ เอกสารเกยี่ วกับขอ้ มลู ท่วั ไปของอาเภอจอมบึง และจังหวัดราชบรุ ี 2. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากภาคสนาม (Field Research) ผู้วิจัยได้ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลขั้นปฐมภูมิ (Primary Source) โดยการสารวจพื้นที่ ภาคสนามเบอื้ งต้นกอ่ นทาการศึกษาจรงิ มวี ธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มูลภาคสนาม ดังน้ี

- 15 - 2.1 การเตรียมพื้นท่ี โดยการเข้าไปแนะนาสถานภาพของผู้วิจัยและช้ีแจงถึงวัตถุประสงค์ ของการวจิ ยั พรอ้ มทง้ั ขอความรว่ มมอื ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ท่เี กิดขึ้นภายในชุมชน ตลอดระยะเวลาท่ีเข้าไป ทาการศกึ ษาในชมุ ชน 2.2 ทาการเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนาม โดยการสัมภาษณ์และการสนทนาเกี่ยวกับความ พร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยกับกลุ่มตัวอย่าง ตามที่ระบุไว้ในข้างต้น รวมท้ังทา การสังเกตและบันทึกเหตุการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีสังเกตด้วยเครื่องมือวิจัย ซ่ึงประกอบด้วย สมุดบันทึก เทปบันทึกเสยี ง กล้องถา่ ยภาพ แบบสงั เกต และแบบสมั ภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมลู การศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทาการศึกษาเรื่องความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหาร จัดการอุทกภัยของชุมชนหมู่ท่ี 1 หมู่ท่ี 2 หมู่ท่ี 5 หมู่ท่ี 9 และหมู่ที่ 15 โดยยึดตามวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้ มาเป็นเคร่ืองมือในการวิเคราะห์ และได้ดาเนินการตรวจสอบความเป็นเหตุเป็นผลอยู่ตลอดเวลา เพ่ือให้ได้ ข้อมูลที่เช่ือถือได้และถูกต้องสมบูรณ์และเน่ืองจากการศึกษาคร้ังน้ีจาเป็นต้องอาศัยข้อมูลด้านเอกเกี่ยวกับ สาธารณภัย เป็นส่วนประกอบจึงนาหลักการวิเคราะห์สาธารณภัย เชิงภูมิศาสตร์เข้ามาประยุกต์ใช้ด้วยการ วิเคราะหข์ ้อมลู มขี นั้ ตอน ดงั น้ี 1. ทาการวิเคราะห์ข้อมูลและจาแนกข้อมูลจากการสัมภาษณ์ออกเป็นหมวดหมู่ เพ่ือตอบ วัตถุประสงค์ของการวิจัยที่ตั้งไว้โดยทาการวิเคราะห์เน้ือหาในด้านภูมิประเทศ ปัจจัยและเงื่อนไขท่ีทาให้เกิด การเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติ และผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงน้ีทาให้เกิดอุทกภัย ปัญหาและอุปสรรค ท่ีเกิดจากการวางแผนปอู งกันภยั ตา่ งๆ ตลอดจนแนวทางชว่ ยเหลือจากหน่วยงานในอาเภอ และภายนอก 2. ทาการตรวจสอบข้อมูลแบบย้อนกลับ โดยกรณีท่ีมีความสงสัยจะนาเอาข้อมูลที่ได้มาจากการ สงั เกตและการสัมภาษณ์ แล้ว กลบั ไปถามผู้ใหข้ อ้ มูลอกี ครงั้ หน่ึง เพ่อื ตรวจสอบความถูกต้องและนาเอาข้อมูลที่ได้ บางอย่างไปเทียบเคียงกับงานวิจัย เอกสารทางวิชาการ แนวคิดทฤษฎีที่เก่ียวข้อง และทัศนะของผู้รู้ เพ่ือให้ ข้อมูลท่ีได้มีความสมบูรณ์และน่าเชื่อถือมากที่สุด แล้วนาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ซ่ึงทาให้ได้ข้อมูลที่มีความ สมบูรณ์มากย่งิ ขึน้ 3. ประมวลเน้ือหาสาระและเรียบเรียงให้สัมพันธ์ต่อเนื่องกัน เพ่ือนาเสนอลักษณะการเตรียม ความพร้อมและศักยภาพในการบริหารจัดการชุมชนขององค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โดยแสดงให้เห็นความเป็นมา วิถีชีวิตความเป็นอยู่การเตรียมความพร้อมท่ีจะ รับมือกับภัยพิบัติท่ีอาจจะเกิดข้ึน การเสริมสร้างศักยภาพชุมชน พร้อมทั้งวิเคราะห์ปัจจัยเงื่อนไขที่ทาให้เกิด การเปลี่ยนแปลงจากการเกิดอุทกภัยที่ผ่านมา และศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคจากการช่วยเหลือจาก หนว่ ยงานอ่ืนๆ เพ่อื นาผลการศึกษาไปใช้ในการเตรียมความพร้อมกบั ชมุ ชน ใหเ้ ปน็ ศนู ย์กลางในการดาเนินการ ปูองกัน แกไ้ ข บรรเทา ฟืน้ ฟคู วามเสยี หายจากการเกิดอุทกภัยต่อไป

บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล การศกึ ษาวิจยั เรื่อง ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โดยศึกษาเฉพาะพื้นที่ที่เสี่ยงต่ออุทกภัยขององค์การบริหารสวนตาบลแก้มอ้น จานวน 5 หมู่บ้าน คือ หมู่ท่ี 1 บ้านทุ่งแฝก หมู่ที่ 2 บ้านทุ่งแจง หมู่ที่ 5 บ้านวังปลา หมู่ท่ี 9 บ้านสันดอน และหมทู่ ่ี 15 บ้านห้วยตาม่วง ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี จากการตรวจสอบเอกสารผลงาน กิจกรรม/โครงการขององค์การบริหารส่วนตาบล แก้มอ้น และการรายงานผลการดาเนินงานท่ีเก่ียวข้องกับ การปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งศึกษาค้นคว้าทฤษฏีแนวความคิด กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องและการ สัมภาษณ์ผู้นาชุมชนเพื่อนาข้อมูลมาอภิปรายผลตามวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ ด้านความพร้อมของชุมชนในการ ปูองกนั อุทกภยั และดา้ นศักยภาพของชุมชนในการบรหิ ารจัดการอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบงึ จังหวัดราชบุรี ข้อมลู จากการสัมภาษณ์แบบเชงิ ลึก คาถามจากการสัมภาษณ์ ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของ ตาบลแก้มอน้ อาเภอจอมบึง จงั หวดั ราชบุรี 1. ในพืน้ ทีห่ รอื หมบู่ า้ นของทา่ นเกดิ อุทกภัยเป็นประจาทุกปหี รือไม่ อย่างไร นายชศู ักดิ์ เนตรธวุ กุล กล่าวว่า ตาบลแก้มอ้น เกดิ อุทกภยั เปน็ ประจาทกุ ปี หรือเกือบทุกปี โดยในแตล่ ะปีมีพนื้ ท่เี สียหายส่วนใหญ่เปน็ พ้ืนท่กี ารเกษตร ซึ่งสอดคล้องกบั นายสาอางค์ ศรัทธาผล ได้กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพน้ื ท่แี กม้ อ้น มอี าชพี เกษตร และทุกปไี ด้เกดิ อทุ กภยั เป็นประจา และสรา้ งความเสียหายในพืน้ ท่ดี ังกลา่ ว และนายสมศักด์ิ แซต่ นั กลา่ วว่า พ้นื ที่ตาบลแก้มอ้น ไดเ้ กิดอทุ กภัยเป็นประจาทุกปี และ สรา้ งความเสยี หายในพ้นื ท่กี ารเกษตรของชาวบ้านตาบลแก้มอ้นเปน็ อยา่ งมาก สรปุ ความเห็นของผ้ใู ห้สมั ภาษณ์ พบวา่ : พ้นื ทตี่ าบลแก้มอน้ เกิดอทุ กภยั เปน็ ประจาเกอื บทกุ ปี และสร้างความเสียหายแกพ่ ื้นท่กี ารเกษตรเป็นสว่ นใหญ่ 2. ทา่ นมคี วามรูส้ กึ อยา่ งไรกบั การเกดิ อุทกภัยในพน้ื ที่หรอื หมบู่ ้านของท่าน นายชศู กั ด์ิ เนตรธุวกลุ กล่าวว่า ชาวบ้านตาบลแกม้ อ้น มีความรสู้ กึ หวาดกลวั กบั การเกิด อทุ กภัยวา่ น้าจะมากหรอื ไม่ ซง่ึ สอดคลอ้ งกับนายสาอางค์ ศรัทธาผล กล่าวว่า หวาดกลวั กับอทุ กภัย หรือน้าท่ีจะมากหรือไม่ และนายสมศกั ด์ิ แซต่ นั กล่าวว่า รสู้ ึกหวาดกลัวกบั การเกิดอทุ กภยั สรปุ ความเหน็ ของผู้ใหส้ มั ภาษณ์ พบวา่ : ชาวบ้านตาบลแกม้ อน้ มีความรสู้ ึกหวาดกลวั กบั การเกดิ อทุ กภัยในพนื้ ที่ 3. ทา่ นมีความคิดเห็นอย่างไรในการปูองกันและแก้ไขปัญหาอุทกภยั ในพ้นื ท่ีหรือหมบู่ ้านของท่าน นายชูศกั ดิ์ เนตรธุวกุล กลา่ วว่า ควรใหค้ วามรู้ในเรอ่ื งเกย่ี วกับอุทกภัยแก่ชมุ ชน และควรสรา้ ง อา่ งเก็บน้า/ฝายน้าลน้ ขุดลอกลาห้วย ซึ่งสอดคลอ้ งกบั นายเสนอ ไผล่ ้อม กล่าวว่า ควรสร้างอา่ งเกบ็ นา้ /ฝายนา้ ล้น ขดุ ลอกลาหว้ ย และนายสมศกั ด์ิ แซต่ ัน กลา่ ววา่ ควรสรา้ งอ่างเก็บน้า ขุดลอกลาหว้ ย และสรา้ งฝายนา้ ลน้

-17- สรปุ ความเห็นของผ้ใู ห้สมั ภาษณ์ พบว่า : ใหค้ วามรู้เก่ยี วกบั อุทกภัยแก่ชุมชน และสรา้ ง อา่ งเก็บนา้ ฝายน้าล้น และขุดลอกลาหว้ ยเพ่ิม 4. ในพ้ืนที่หรอื หมบู่ า้ นของทา่ น มหี นว่ ยงานของรฐั หน่วยใดบ้างทไ่ี ดใ้ ห้ความรูใ้ นการปอู งกนั และแก้ไข ปญั หาอุทกภัย และหน่วยงานนน้ั ไดด้ าเนินการอะไรบา้ ง นายชูศกั ดิ์ เนตรธุวกลุ กลา่ วว่า มที หารมาให้ความรู้ ชลประทานใหค้ วามรเู้ ก่ียวกบั การ บารุงรกั ษาอ่างเกบ็ น้า กรมทรพั ยากรธรณี ทรัพยากรนา้ ใหค้ วามร้กู ารแจ้งเตอื น และ ปภ.จังหวัดราชบุรี มีการอบรมเกย่ี วกบั การปูองกนั และบรรเทาภยั พบิ ตั ิ เช่น การจดั การความเส่ียงจากภัยพิบตั ิ โดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน หน่งึ ตาบลหนงึ่ ทมี กชู้ ีพกูภ้ ัย เปน็ ต้น ซง่ึ สอดคล้องกับนายสาอางค์ ศรัทธาผล ได้กลา่ ววา่ ปภ.จงั หวัดราชบุรี มีการอบรมการปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัย ชลประทานจงั หวดั มาใหค้ วามรูก้ ารบารงุ อา่ งเก็บนา้ ทรพั ยากรนา้ ใหค้ วามร้กู ารแจ้งเตอื น และนายสมศกั ด์ิ แซ่ตนั กล่าวว่า ได้มีหลายหนว่ ยงานท้ังภาครฐั ทหาร เข้ามาอบรม ให้ความร้ใู นเรือ่ งการปอู งกนั และแก้ไขปัญหาอุทกภัย เช่น การเตือนภยั อบรมการจัดการความเสีย่ ง จากภัยพบิ ัติ และหนึง่ ตาบลหน่ึงทมี กู้ชพี กภู้ ัย สรปุ ความเหน็ ของผ้ใู หส้ ัมภาษณ์ พบว่า : หนว่ ยทหารของจงั หวัดให้ความรู้ กรมชลประทาน ให้ความรเู้ กยี่ วกบั การบารงุ รักษาอ่างเกบ็ น้า กรมทรัพยากรธรณี และกรมทรัพยากรน้า ภาค 7 ราชบรุ ี ให้ความรู้เกี่ยวกับการแจ้งเตือน และสานักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี มีการอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการปูองกันและบรรเทาภัยพิบัติ อาทิเช่น การจัดการความเส่ียง จากภัยพบิ ัติโดยอาศยั ชมุ ชนเป็นฐาน หนึ่งตาบลหนง่ึ ทีมก้ชู พี กภู้ ยั เปน็ ตน้ 5. ในพื้นท่ีหรือหมู่บ้านของท่าน มีคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือคณะกรรมการอื่น ๆ อะไรบ้าง และมีบทบาทในการบริหารจัดการอุทกภัยอย่างไร นายชศู กั ดิ์ เนตรธวุ กลุ กลา่ ววา่ ตาบลแก้มอน้ มีคณะกรรมการหมู่บ้าน อปพร. ซงึ่ มี บทบาทในการช่วยเหลืองานทุกอยา่ งในตาบลแก้มอน้ ซ่ึงสอดคล้องกบั นายภธู เนศ ไผล่ อ้ ม กล่าววา่ ตาบลแก้มอ้นมีอาสาสมคั ร อปพร. ช่วยเหลืองานในตาบลแก้มอน้ ซ่ึงมคี ณะกรรมการหมบู่ ้านกากับ ดูแล ชาวบ้านตาบลแก้มอน้ และนายทวน แปูนโก๋ กลา่ ววา่ แก้มอน้ มอี าสาสมคั ร อปพร. และคณะกรรมการหมู่บ้าน ในการช่วยเหลอื งานในตาบลแกม้ อ้น สรุปความเห็นของผใู้ ห้สัมภาษณ์ พบว่า : ตาบลแก้มอน้ มีคณะกรรมการหมบู่ ้าน และอปพร. มบี ทบาทในการชว่ ยเหลอื งานทกุ อยา่ งในชมุ ชน 6. ในพื้นที่หรอื หมูบ่ ้านของทา่ น มีเครอื่ งมอื เคร่อื งใช้ และอุปกรณ์สาหรบั การแจง้ เตือนการเกิดอทุ กภยั หรอื ไม่ และตดิ ตง้ั อยทู่ ี่ใด อยูใ่ นสภาพพรอ้ มใชง้ านหรอื ไม่ หนว่ ยงาน/บุคคลใดเป็นผู้รับผิดชอบ นายสาอางค์ ศรัทธาผล กลา่ วว่า ตาบลแก้มอ้นมีเครื่องวัดปริมาณนา้ ฝน เครื่องไซเรน มือหมุน หอกระจายข่าว และหอเตอื นภัย ซ่งึ สอดคล้องกบั นายเสนอ ไผ่ลอ้ ม กล่าววา่ ตาบลแก้มอ้นมีเครื่องวัดปริมาณนา้ ฝน เคร่ืองไซเรนมือหมุน หอกระจายข่าว และหอเตอื นภัย

-18- และนายสมศักด์ิ แซต่ นั กลา่ วว่า มีเคร่ืองวัดปริมาณน้าฝน เครื่องไซเรนมือหมุน หอกระจายข่าว และหอเตือนภัย สรปุ ความเหน็ ของผู้ให้สมั ภาษณ์ พบวา่ : มีเครอื่ งวัดปริมาณน้าฝน เคร่อื งไซเรนมือหมนุ หอกระจายข่าว และหอเตือนภัย 7. ท่านไดร้ ับการแจง้ เตอื นหรือข่าวสารเกยี่ วกับการเกดิ อุทกภยั เป็นประจาหรือไม/่ จากหน่วยงานใด/ ช่องทางใดบา้ ง โปรดระบุ นายวินัจ สิงหง์ าม กลา่ วว่า ได้รบั แจง้ เตือนจากกรมอตุ นุ ิยมวิทยา สถานวี ิทยุ และโทรทศั น์ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั นายสมชาย มงคลรตั นาสทิ ธ์ิ กลา่ ววา่ ได้รบั แจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา สถานวี ทิ ยุ และโทรทศั น์ และนายภูธเนศ ไผล่ อ้ ม กลา่ ววา่ ได้รบั แจ้งเตือนจากกรมอุตนุ ยิ มวิทยา สถานีวทิ ยุ และโทรทศั น์ สรุปความเหน็ ของผู้ใหส้ มั ภาษณ์ พบว่า : จากข่าวกรมอุตุนิยมวิทยา ขา่ วทางสถานวี ทิ ยุ และโทรทัศน์ 8. ขอ้ เสนอแนะ/สิ่งทตี่ อ้ งการ ใหห้ น่วยงานของรฐั หรอื หน่วยงานท่เี กีย่ วข้องดาเนนิ การในการปอู งกัน และแกไ้ ขปญั หาอุทกภัยในพืน้ ทีห่ รอื หม่บู ้านของทา่ น โปรดระบุตามความจาเป็นเร่งดว่ น นายชูศักดิ์ เนตรธุวกุล กล่าวว่า ใหค้ วามรู้เก่ียวกบั อุทกภยั ตลอดจนภยั พบิ ัติอน่ื ๆ แก่ประชาชน และมกี ารปลกู จติ สานกึ ในการรกั ษาธรรมชาติ เชน่ ปาุ ไม้ และสงิ่ แวดลอ้ ม ซ่ึงสอดคล้องกับนายสาอางค์ ศรทั ธาผล กล่าววา่ ให้มีการอบรมความรู้เกี่ยวกับอุทกภัย แกป่ ระชาชน และสรา้ งจิตสานึกในการรกั ษาธรรมชาติ และนายเสนอ ไผล่ อ้ ม กลา่ วว่า ควรให้ความรู้เก่ียวกบั อุทกภยั และภยั พบิ ตั อิ ่ืน ๆ สรปุ ความเห็นของผใู้ ห้สมั ภาษณ์ พบวา่ : มีการอบรมใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั อทุ กภยั ตลอดจนภยั พบิ ัตอิ นื่ ๆ แก่ประชาชน และมีการปลกู จิตสานึกในการรักษาธรรมชาติ เช่น ปุาไม้ และสงิ่ แวดล้อม การวิเคราะห์ขอ้ มูลจากการสมั ภาษณแ์ บบเชงิ ลึก สรปุ ผลการวิเคราะห์จากการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลึกผู้นาชุมชนในพนื้ ทป่ี ระสบภยั พิบัติ โดยสมั ภาษณเ์ กี่ยวกับศักยภาพ และความพร้อมในการบริหารจัดการอุทกภัยขององค์การบริหาร ตาบลแกม้ อ้น บริบทชุมชน การบรหิ ารจดั การสาธารณภัยของชุมชน ลักษณะการเกิดภัย การแจ้งเตือนภัยให้กับ ประชาชน การอพยพผู้ประสบภัย การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างศักยภาพ ของประชาชน เพอ่ื ให้ชุมชนได้รบั ผลกระทบการเกิดอุทกภยั น้อยทสี่ ุด ตามคาถามข้างต้น สรปุ ผลการศกึ ษาได้ ดงั น้ี ศกั ยภาพ และการเตรียมความพรอ้ มในการบรหิ ารจดั การอทุ กภยั ของชุมชน 1.ศักยภาพ และความพร้อมในการบริหารจัดการอุทกภัยขององค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบุรี องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลแกม้ อน้ มีอุปกรณ์ที่ใช้ในด้านการกู้ภัย เช่น เล่ือยยนต์ เล่อื ยมือ รถบรรทุกน้าอเนกประสงค์ เรือท้องแบน เปลสนาม กระเป๋ายา เชือกสนาม วิทยุสนาม สามารถเข้า ไปชว่ ยเหลอื ประชาชนได้ อบต.สามารถประสานขอรับความช่วยเหลือจากอาเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใกลเ้ คียง เชน่ เทศบาล อบต. หากเกินขดี ความสามารถ

-19- 2. ด้านการรับรู้และความรู้สึกกับการเกิดอุทกภัย ผู้นาชุมชนและประชาชนในพ้ืนที่มีการรับรู้ และมคี วามร้สู ึกเป็นปกติ เพราะว่าอุทกภัยได้เกิดข้ึนเกือบเป็นประจา แต่ก็ยังมีความรู้สึกกลัว หวาดผวา และ ห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ท่ีรุนแรงและไม่คาดคิดมาก่อน แต่ก็รู้ดีว่าเป็นเรื่องของภัย ธรรมชาตทิ เี่ กิดขึ้น 3. ด้านความคิดเห็นด้านการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ในพื้นที่มีอ่างเก็บน้า ฝายน้าล้นอยู่ บา้ งท่ชี ่วยเกบ็ นา้ ในฤดูฝน และเกบ็ กกั น้าไว้ใชฤ้ ดูแล้ง แต่ชมุ ชนยงั มคี วามตอ้ งการใหก้ ารสรา้ งอา่ งเกบ็ นา้ ฝายน้าล้น เพิม่ เตมิ เน่ืองจากมองเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อชุมชน และสิ่งสาคัญเร่ืองปุาไม้ ชุมชนมีความหวงแหน อนุรักษ์ปุาไม้ มีการปลูกปุาทดแทนทุกปี อยากให้หน่วยงานของรัฐมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอุทกภัย รวมถึงภัยพิบัติอื่น ๆ แก่ชาวบา้ น ปลูกจิตสานึกของคนทุกระดับ เพ่ือให้มีความรู้สึกตระหนักถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ เน่ืองจาก การเปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศของโลก 4. ด้านบุคลากร มีการจัดฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ เช่น อาสาสมัครปูองกันภัยฝุายพลเรือน (อปพร.) การจัดต้ังมิสเตอร์เตือนภัยประจาหมู่บ้าน การสนับสนุนงบประมาณการอบรมชุดกู้ชีพ -กู้ภัย มกี ารจดั ตัง้ ศูนยเ์ ตรยี มพรอ้ มปูองกนั ภยั ประจาหมู่บ้าน เพ่ือเป็นศูนย์ย่อยสาหรับใช้ในการปูองกันระงับเหตุใน พ้ืนทเ่ี สยี่ งภัยดา้ นอุทกภยั และยงั มคี ณะกรรมการหมบู่ ้าน และชดุ หนง่ึ ตาบลหน่งึ ทีมกชู้ ีพกู้ภยั (OTOS) 5. ด้านงบประมาณปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ขององค์กรบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ไดจ้ ดั ตงั้ งบประมาณสาหรบั การปอู งกนั และแกไ้ ขปญั หาอทุ กภยั ทุกปี หากไมเ่ พยี งพอกจ็ ะประสานขอรับการ สนับสนนุ งบประมาณจากภาครฐั สาหรบั ความคิดเห็นของผศู้ ึกษาวจิ ยั เห็นวา่ คนชุมชนในพืน้ ท่ีเสย่ี งภยั จะต้องตระหนักถึงภัยท่ีจะ เกิดขึ้นตลอดเวลาและไม่ประมาท หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรต่าง ๆ ต้องเข้าไปให้ความรู้ ความเข้าใจใน สถานการณ์ภัยพิบัติต้ังแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เน่ืองจากสภาวะโลกร้อน และความผันแปรของ ธรรมชาติ และที่สาคัญคนในชุมชนต้องมีจิตสานึกที่ดีในการปูองกันภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้นาชุมชนและ คณะกรรมการชุมชนทเ่ี ข้มแข็งจะสามารถนาชมุ ชนใหร้ อดพ้นจากภัยพิบตั ไิ ด้ และจากการสังเกต พบว่า ชุมชนดังกล่าวมีการเตรียมความพร้อมในการปูองกันอุทกภัย กล่าวคือ 1. ผู้นาชุมชนและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีความตระหนักถึงภัยพิบัติต่าง ๆ โดยเฉพาะใหค้ วามสาคัญในการปูองกันอุทกภัยซ่งึ เกิดขนึ้ เกือบประจา 2. ในชุมชนมีผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย เช่น อาสาสมัครปูองกันภัยฝุายพลเรือน มิสเตอร์เตือนภัย หน่ึงตาบลหน่ึงทีมกู้ชีพกู้ภัย การบริหารจัดการความ เสี่ยงโดยอาศยั ชมุ ชนเป็นฐาน ซ่งึ ถือวา่ มคี วามพร้อมด้านบคุ ลากร 3. ระบบแจง้ เตือนภยั ชมุ ชนมรี ะบบแจ้งเตอื นภยั ค่อนขา้ งครอบคลุม ซ่ึงมีทั้งแบบอัตโนมัติและ แบบเมนวล เม่ือเกิดภยั สามารถแจง้ เตอื นภัยได้ทนั ท่วงที

-20- การสนบั สนุนของหน่วยงานภาครัฐในการเสรมิ สรา้ งความเขม้ แข็งให้กับชมุ ชน ในการเตรยี มความพร้อมของชมุ ชนในการปูองกนั อุทกภยั ดงั น้ี 1. ติดตั้ง เคร่ืองวัดปริมาณน้าฝน เป็นเคร่ืองมือรูปทรงกระบอกมีสเกลวัดจานวนปริมาณน้าฝนโดย ติดต้ังไว้กลางแจ้งเพื่อบอกจานวนน้าฝนโดยบอกเป็นสี เช่น สีเขียว หมายถึง ปกติ สีเหลือง หมายถึง เตรียม ความพร้อม และสีแดง หมายถงึ การอพยพประชาชนออกจากพ้ืนท่ีท่ีเกิดภัย โดยมีอาสาสมัครปูองกันภัยฝุาย พลเรือนที่ผ่านการฝึกอบรมมิสเตอร์เตือนภัยเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจวัดปริมาณน้าฝนเพ่ือแจ้งเตือนภัย ใหก้ ับประชาชน พร้อมท้ังไดป้ ระชาสัมพันธใ์ ห้ประชาชนได้รับทราบ เห็นความสาคัญถึงเคร่ืองวัดปริมาณน้าฝน และเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษา โดยองค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ได้มีการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้าฝนไว้ที่องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น และกระบอกวัดปริมาณน้าฝนท่ี ชาวบา้ นสามารถทาเองไดใ้ นพน้ื ที่ ซ่งึ สานกั งานปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวัดราชบุรี ได้ดาเนินการฝึกอบรมให้ 2. ติดตั้งเคร่ืองไซเรนเตือนภัยแบบมือหมุนเป็นเครื่องมือสาหรับใช้แจ้งเตือนภัย โดยใช้มือหมุน จะเกดิ เสยี งดังไกลเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เน่ืองจากช่วงที่เกิดฝนตกหนักเกิดอุทกภัย มักเป็นช่วงท่ี ไฟฟูาดับ ทาให้ไม่สามารถใช้หอกระจายข่าวประจาหมู่บ้านแจ้งเตือนประชาชนได้ ดังนั้น เครื่องไซเรนเตือน ภัยแบบมือหมุน จึงเป็นเคร่อื งมอื ที่ใช้แจ้งเตือนประชาชนในชว่ งที่เกดิ อทุ กภัยไดด้ ีทสี่ ุด โดยองค์การบริหารส่วน ตาบลแกม้ อ้น ไดท้ าการติดต้งั ไซเรนในพน้ื ทที่ ีเ่ สย่ี งภัย 3. ติดตั้งระบบเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย (โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเม่ือ ปี พ.ศ.2552) ซ่ึงเป็นโครงการติดต้ังระบบเตือนภัย พิบัติทางธรรมชาติพร้อมอุปกรณ์เชื่อมโยงสัญญาณเตือนภัยไป ยังระบบเสียงตามสายและระบบเตือนภัยในท้องถิ่นในพ้ืนท่ีเสี่ยงภัยโดยในส่วนของจังหวัดราชบุรี ได้รับการ สนับสนุน จานวน 3 แห่ง คือ ท่ีอาเภอปากท่อ อาเภอจอมบึง และอาเภอสวนผึ้ง ในส่วนของอาเภอจอมบึง ไดต้ ิดตัง้ ทีอ่ งค์การบรหิ ารส่วนตาบลแกม้ อ้น ซงึ่ อยใู่ นความรบั ผิดชอบของนายกองค์การบริหารส่วนตาบลแก้ม อ้น หากได้รับการเตือนภัยจากระบบเตือนภัยดังกล่าว อบต.แก้มอ้น สามารถท่ีจะแจ้งเตือนภัยผ่านหอ กระจายข่าวประจาหม่บู ้านให้ประชาชน ในพื้นทไ่ี ด้ทราบทันที ดา้ นศักยภาพของชมุ ชนในการบริหารจดั การอทุ กภยั ดา้ นการพัฒนาศกั ยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัย องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ได้พัฒนาศักยภาพเพ่ือเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนโดยอบรมให้ความรู้เก่ียวกับการเฝูาระวัง การแจ้ง เตือนภัย จัดต้ังทีมกู้ชีพ กู้ภัย ให้กับชุมชน พร้อมทั้งการให้ความรู้ ความเข้าใจในการเตรียมความพร้อม การปอู งกนั การอพยพไปทีป่ ลอดภยั แก่ประชาชน ดังนี้ 1. การฝึกอบรมโครงการอาสาสมัครเตือนภัย “มสิ เตอร์เตือนภยั ” การฝึกอบรมโครงการอาสาสมัครเตือนภัย “มิสเตอร์เตือนภัย” เพื่อทาหน้าที่ประสานงาน เกย่ี วกบั การแจง้ เตอื นภัย ใหก้ บั ชมุ ชนในพ้ืนท่ีเส่ียงภัย โดยการแจ้งเตือนให้ชุมชนทราบล่วงหน้าก่อนที่จะมีภัย พิบตั ิต่าง ๆ เกิดขึ้น เนื่องจากอาเภอจอมบึง มีฝนตกในช่วงฤดูฝนเป็นจานวนมาก ซ่ึงประชาชนจะต้องเตรียม ความพรอ้ มรบั มือกับภยั ตลอดเวลา โดยทางราชการและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง

-21- จะต้องสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้กับประชาชนในเรื่องการเกิดดินโคลนถล่ม และวิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดภัยขึ้น หน้าที่หลักของ “ มิสเตอร์เตือนภัย” ในช่วงฤดูฝน คือ การทาหน้าที่ติดตามข่าวสาร การอ่านค่าเครื่องมือวัด ปริมาณน้าฝน จากกระบอกวัดปริมาณน้าฝนท่ีอ่านค่าได้ในแต่ละวัน ซึ่งหากมีฝนตกหนักติดต่อกัน เป็นเวลา หลายวัน จะต้องเฝูาสังเกตปริมาณน้าในแม่น้า ลาธาร ลาห้วย การเปล่ียนเส้นทางของน้า นา้ เปลย่ี นสี มีดินโคลน หิน ท่อนซุง ไม้ และอ่ืน ๆ ปนไหลมากับน้า ซึ่งน้ามีปริมาณมากผิดปกติ หรือมีลักษณะบ่งช้ีว่า อาจจะเกิดน้าท่วมหนักหรือดินโคลนถล่มขึ้น หรือมีการแจ้งเตือนจากทางราชการให้อพยพประชาชนไปยังท่ี ปลอดภัย “มสิ เตอรเ์ ตอื นภยั ” จะทาหน้าทคี่ อยเฝูาสงั เกตเมื่อมีสัญญาณอะไรเกิดขึ้น อาสาสมัครมิสเตอร์เตือน ภัยจะแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้าน หรือหัวหน้าคุ้ม เพื่อประกาศเตือนภัยให้ลูกบ้าน เตรียมอพยพประชาชนจากท่ีอยู่ อาศัยไปยงั สถานทีป่ ลอดภยั บรเิ วณทีส่ งู ในทนั ที หรือโดยการประกาศเสียงตามสาย หอกระจายข่าว การหมุน ไซเรน ตีกลอง เปุานกหวดี หรอื วิธกี ารตามทต่ี กลงกนั ไวใ้ นการแจ้งเตอื นภัย องคก์ ารบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น คัดเลือกตัวแทนหมู่บ้านเสี่ยงภัยหมู่บ้านละ 2 คน เข้ารับ การฝกึ อบรมโครงการอาสาสมคั ร “ มสิ เตอรเ์ ตือนภัย ” เพ่ือฝึกอบรมให้ประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจ และ การเตรียมความพร้อมในการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ในพื้นท่ีเส่ียงภัย อุทกภัย และดินโคลนถล่ม ในการปฏิบัติหน้าท่ีเฝูาระวัง ประสานงาน แจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นท่ีเส่ียงภัย โดยสานักงานปูองกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรีไดใ้ ห้การสนับสนุนงบประมาณในการฝึกอบรมดังกล่าวผูเ้ ข้าฝึกอบรม ดงั น้ี หมทู่ ี่ สถานทบี่ า้ น ระดบั ความ ชอ่ื -สกลุ 1 บา้ นทงุ่ แฝก เส่ียงภัย มิสเตอรเ์ ตือนภยั 2 บา้ นทุ่งแจง 1.นายภูธเนศ ไผ่ล้อม 5 บ้านวงั ปลา 1 2.นายสถุ ทั ธ์ สาระ 9 บา้ นสนั ดอน 1.นายสมชาย มงคลรัตนาสทิ ธิ์ 15 บา้ นหว้ ยตามว่ ง 2 2.นายบญุ เลิศ ไผล่ อ้ ม 1.นายทวน แปนู โก๋ 2 2.นายอานาจ ทองคา 1.นายวนิ ัจ สงิ หง์ าม 1 2.นายสว่าง ฉมิ เงิน 1.นายสมชาย มปี อง 1 2.นายจรูญศักด์ิ ไผล่ อ้ ม 2. การจัดการความเส่ียงจากภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน( Community-Based Disaster Risk Management : CBDRM ถือเป็นนวัตกรรม ( Innovation ) ในการบริหารจัดการด้านภัยพิบัติ ระดับชุมชนในเชิงปูองกัน เป็นกระบวนการที่ได้รับการยอมรับและถือปฏิบัติอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจาก เป็นระบบท่ีมีข้อมูลการบริหารทรัพยากรการวางแผนการมีส่วนร่วมและการจัดระดับองค์กร

-22- ท้องถ่ินท่ีชัดเจนมีขบวนการเป็นขั้นตอนและพัฒนาอย่างต่อเน่ือง โดยได้มีการฝึกอบรมร่วมกับจังหวัดราชบุรี จานวน 1 คร้ัง คือ รุ่นท่ี 2 ในวันท่ี 14 - 15 มิถุนายน 2550 ณ วัดแก้มอ้น ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบุรี โดยมีผเู้ ข้ารว่ มรบั การฝกึ อบรมประมาณ 50 คน 3. โครงการหนง่ึ ตาบลหนง่ึ ทมี กู้ชีพกูภ้ ยั ในพื้นทห่ี มู่บ้านเสี่ยงภัย ในปัจจุบันหลายพื้นท่ีของประเทศไทย ต้องประสบกับภัยพิบัติท่ีทวีมีความรุนแรงเพ่ิมมากขึ้น สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากอุทกภัย และ ดินโคลนถลม่ ท่เี กิดข้ึนเป็นประจาในพ้ืนท่ีเส่ียงภัย และบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณภูเขา หรือหุบเขา จึงมี ความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้าปุาไหลหลากหรือดินโคลนถล่ม และชุมชนยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และความ ตระหนักถึงภัยพิบัติที่เกิดข้ึน ดังน้ัน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพเกิดผล สัมฤทธิ์ จึงเห็นควรจัดต้ังทีมกู้ชีพกู้ภัย ในพื้นท่ีหมู่บ้านที่ เสี่ยงภัย และเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับการ ปฏบิ ตั ิงานอย่างเป็นเครือข่ายต่อไป กรมปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ซ่ึงเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการ เชื่อมโยงหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถ่ิน สานักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข และสภากาชาดไทย จงึ ได้จดั ตั้งโครงการหนึ่งตาบลหนึ่งทีมกู้ภัย (ONE TAMBON ONE SEARCH AND RESCUE TEAM : OTOS) ขน้ึ มาโดยรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัตโิ ครงการดังกล่าว เมอ่ื วันท่ี 2 พฤศจกิ ายน 2548 โดยมีวัตถปุ ระสงค์ เพอื่ พฒั นาบุคลากรและสร้างทมี กชู้ พี กูภ้ ัยประจาตาบล ให้สามารถปฏิบตั ภิ ารกจิ ดา้ นการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาศักยภาพ และประสิทธิภาพบุคลากร ท่ีปฏิบัติหน้าที่หน่วยเผชิญเหตุระดับตาบล ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับ ผู้ปฏิบัติงานทุกคน และผู้ประสบภัยให้ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นและสามารถนาผู้บาดเจ็บส่งสถานบริการ สาธารณสุขที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยองค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ได้คัดเลือก ประชาชนในพื้นที่ จานวน 10 คน เข้าร่วมโครงการหนึ่งตาบลหน่ึงทีมกู้ชีพกู้ภัย โดยมีสานักงานปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบรุ ี จดั อบรมให้องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลทม่ี ีพ้ืนทีเ่ ส่ยี งต่อการเกิดอุทกภัยและดนิ ถลม่ องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ได้พิจารณาตั้งงบประมาณรายจ่ายเพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการ ฝกึ อบรม และการจัดหาอุปกรณ์ที่จาเป็นต่อการ ปฏิบัติงาน รวมท้ังการสนับสนุนการดาเนินงานของทีมกู้ชีพ- กู้ภยั ประจาตาบล จานวน 10 คน ดังนี้

-23- ท่ี ช่อื -สกลุ ทีอ่ ยู่ 1 นายกลม สร้อยคา หมู่ 4 ต.แกม้ อน้ 2 นายเสถยี ร พนั ธุ์มา หมู่ 9 ต.แกม้ อน้ 3 นายจรูญศกั ดิ์ ไผ่ล้อม หมู่ 15 ต.แกม้ อน้ 4 นายอานาจ ทองคา หมู่ 4 ต.แกม้ อ้น 5 นายจรสั ตะสน หมู่ 5 ต.แก้มอน้ 6 นายสว่าง ฉมิ เงนิ หมู่ 9 ต.แก้มอ้น 7 นายบุญเชดิ ทพั โพธ์ิ หมู่ 13 ต.แกม้ อ้น 8 นายบญุ เลิศ ไผ่ลอ้ ม หมู่ 1 ต.แก้มอน้ 9 นายสถุ ทั ธ์ สาระ หมู่ 1 ต.แก้มอน้ 10 นายสมชาย มงคลรตั นาสิทธิ์ หมู่ 2 ต.แก้มอน้ 4. ฝกึ อบรมจัดต้ังอาสาสมคั รปอ้ งกนั ภัยพลเรอื น (อปพร.) จัดต้ังและฝึกอบรมอาสาสมัครปูองกันภัยฝุายพลเรือน(อปพร.) โดยได้ดาเนินการตาม ระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยอาสาสมัครปูองกันภัยฝุายพลเรือนพ.ศ.2547 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2549 ในส่วนนี้องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ได้จัดงบประมาณในการฝึกอบรม สมาชิกอาสาสมัคร ปูองกันภัยฝุายพลเรือน(อปพร.) จานวน 100 คน และได้มีการจัดฝึกอบรมทบทวนอาสาสมัครปูองกันภัย ฝาุ ยพลเรอื น (อปพร.) ปีละ 1 ครง้ั เพือ่ เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งใหอ้ าสาสมัครปูองกนั ภยั ฝาุ ยพลเรือน (อปพร.)

บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ จากการศึกษาวิจัย เรื่อง ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของ ตาบลแกม้ อน้ อาเภอจอมบึง จงั หวัดราชบรุ ี โดยไดเ้ ก็บรวบรวมข้อมูลการเตรียมความพร้อมและการพัฒนา ศักยภาพชุมชน จากรายงานขององค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น และรายงานของสานักงานปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี พรอ้ มท้งั ได้ทาการสัมภาษณเ์ ชิงลึก ผูน้ าชมุ ชนถงึ แนวทางในการสร้างความ พร้อม และการพัฒนาศักยภาพให้กับชุมชนเพ่ือปูองกันและลดผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อให้คณะกรรมการ ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยของชุมชน สามารถนาข้อมูลไปวางแผนในการเฝูาระวัง และแจ้งเตือนประชาชน ท่ีอยู่ในพื้นที่เส่ียงภัย รวมทั้งเพ่ือจัดหาวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการปูองกันอุทกภัยให้กับองค์การบริหารส่วน ตาบลแก้มอ้น สามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังน้ี สรุปผลการเตรยี มความพร้อมและการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอทุ กภยั จากผลการวิจัย พบว่า ชุมชนบ้านทุ่งแฝก หมู่ที่ 1 บ้านทุ่งแจง หมู่ที่ 2 บ้านวังปลา หมู่ที่ 5 บ้านสันดอน หมู่ท่ี 9 บ้านห้วยตาม่วง หมู่ท่ี 15 ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี มีการเตรียม ความพร้อมในการปูองกันอุทกภัยในพ้ืนท่ีโดยการติดตั้งเคร่ืองวัดปริมาณน้าฝนในพ้ืนที่เสี่ยงภัย เพ่ือนาข้อมูล ปริมาณน้าฝนมาใช้ในการแจ้งเตอื นภยั ให้กับประชาชน พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องไซเรนเตือนภัยแบบมือหมุนสาหรับ ใช้เตือนภัยในช่วงท่ีกระแสไฟฟูาดับ และองค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ยังได้รับระบบเตือนภัยในพ้ืนที่เสี่ยงภัย จากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ซ่ึงสามารถรับข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ โดยตรง หากมีภัยพิบัติเกิดข้ึนองค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น สามารถที่จะแจ้งเตือนภัยผ่านหอกระจายข่าว ประจาหมู่บ้านให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบทันที นอกจากเตรียมความพร้อมด้านเคร่ืองมืออุปกรณ์แล้ว องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ได้ร่วมกับอาเภอ และสานักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี ดาเนินการเตรียมความพร้อมให้กับชุมชนโดยการฝึกซ้อมแผนอพยพประชาชนในพ้ืนท่ีเสี่ยงอุทกภัย และดินโคลนถล่ม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ และอาสาสมัคร ให้มีทักษะความ ชานาญในการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เคร่ืองใช้ ตลอดจนวิธีการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การอพยพ การเคล่ือนยา้ ยผปู้ ระสบภัย และเพ่ือทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย และอุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ ให้พร้อมใช้งาน ไดต้ ลอดเวลา และเปน็ การ ใหค้ วามรู้แกป่ ระชาชน ชุมชน ในการปฏิบัติตนก่อนเกดิ ภยั ขณะเกดิ ภยั และหลังเกิดภัยให้ รู้จกั ปูองกนั ตนเอง และแกไ้ ขปัญหาดา้ นสาธารณภยั ตา่ ง ๆ ในเบอ้ื งตน้ ด้านการพัฒนาศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัย องค์การบริหารส่วนตาบล แก้มอ้น ได้พัฒนาศักยภาพเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนโดยการ จัดฝึกอบรมการจัดการ ความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐานให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน ในการรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นกับชุมชน และจัด ฝึกอบรมอาสา สมัครปูองกันภัยพลเรือน (อปพร.) เพื่อเพิ่มศักยภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัยให้กับชุมชน พร้อมคัดเลือกสมาชิก อปพร. ท่ีมีความรู้ ความสามารถและมีความ

- 25 - เสียสละในการทางานเพ่ือสังคมเข้าฝึกอบรม “ มิสเตอร์เตือนภัย ” เพื่อทาหน้าที่ติดตามข่าวสารการพยากรณ์ อากาศ การอา่ นค่าเครื่องวัดปริมาณน้าฝน เฝูาสังเกตปริมาณน้าในแม่น้า ลาธาร ลาห้วย การเปล่ียนเส้นทาง ของน้าพร้อมทั้งประสานการแจ้งเตือนภัยไปยังผู้ใหญ่บ้าน หรือหัวหน้าคุ้ม เพื่อประกาศเตือนภัยให้ลูกบ้าน เตรียมอพยพประชาชนจากท่ีอยู่อาศัย ไปยังสถานท่ีปลอดภัย บริเวณท่ีสูงในทันที และยังคัดเลือกสมาชิก อปพร.ท่ีมีความรู้ ความสามารถ เข้ารับการฝึกอบรมโครงการหนึ่งตาบลหน่ึงทีมกู้ภัย (ONE TAMBON ONE SEARCH AND RESCUE TEAM : OTOS) กับสานักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี เพ่ือพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพบุคลากร ท่ีปฏิบัติหน้าที่หน่วยเผชิญเหตุระดับตาบล ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อ เสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคน พร้อมจัดต้ังทีมกู้ชีพ กู้ภัยขององค์การบริหารส่วนตาบล เพ่ือ เป็นหน่วยปฏิบัติภารกิจด้านการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพ้ืนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนา ผู้บาดเจ็บส่งสถานบริการสาธารณสขุ ทีเ่ หมาะสมได้อยา่ งรวดเร็วและปลอดภยั ศักยภาพ และความพร้อมในการบริหารจัดการอทุ กภยั ขององค์การบรหิ ารสว่ นตาบลแกม้ อ้น ศักยภาพ และความพร้อมในการบริหารจัดการอุทกภัยขององค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น พบว่า องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสลับกับที่ราบ ทาให้ท่ีตั้งแต่ละหมู่บ้านอยู่อย่าง ห่างไกลกันมาก เม่ือเกิดอุทกภัยขึ้นพร้อมกันหลายหมู่บ้าน การเดินทางเข้าไปช่วยเหลือประชาชนค่อนข้าง ยากลาบาก ประกอบกับ อบต. มีอุปกรณ์ที่ใช้ในด้านการกู้ภัย เช่น เล่ือยยนต์ เลื่อยมือ รถบรรทุกน้าอเนกประสงค์ เรอื ท้องแบน เปลสนาม กระเป๋ายา เชือกสนาม วิทยุสนาม สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ อบต.สามารถ ประสานขอรับความชว่ ยเหลือจากอาเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ใกล้เคียง เช่น เทศบาล อบต. หากเกนิ ขีดความสามารถ ด้านบุคลากร มีการจัดฝึกอบรมในด้านต่างๆ เช่น อาสาสมัครปูองกันภัยฝุายพลเรือน (อปพร.) การจัดต้ังมิสเตอร์เตือนภัยประจาหมู่บ้าน การสนับสนุนงบประมาณฝึกอบรมชุดกู้ชีพ-กู้ภัยมีการจัดต้ังศูนย์ เตรียมพรอ้ มปูองกนั ภยั ประจาหมู่บ้าน เพื่อเป็นศูนย์ย่อยสาหรับใช้ในการปอู งกันระงับเหตุในพ้ืนที่เส่ียงภัยด้าน อุทกภัย โดยมคี ณะกรรมการหมบู่ ้าน และชุด OTOS ด้านงบประมาณปอู งกันและบรรเทาสาธารณภัย องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลแก้มอน้ ได้จดั ตงั้ งบประมาณ สาหรบั การปอู งกันและแก้ไขปญั หาอทุ กภยั ทุกปี หากไมเ่ พียงพอก็จะประสานขอรับการสนบั สนุนงบประมาณจากภาครฐั ข้อเสนอแนะ 1. ปัจจุบัน ลาห้วย ลาคลอง ในหมู่บ้าน ตื้นเขิน และแคบเกินไป และบางแห่งได้รับผลกระทบ จากการเกิดอุทกภยั และดนิ ถล่ม มีดินและหนิ ลงมาทับถมในลาห้วย ลาคลอง เป็นจานวนมาก การขุดลอกแหล่งน้า เพ่ือให้สามารถรองรับปริมาณน้าฝนได้ในปริมาณท่ีพอเพียงต้องใช้งบประมาณจานวนมาก องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นไม่มีงบประมาณในการดาเนินการ ทาให้ช่วงท่ีฝนตกหนัก น้าไหลไม่ทันทาให้เข้าท่วมหมู่บ้านเกือบทุกปี ดังน้ัน องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ควรขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด สานกั งานทรัพยากรน้าภาค 7 และโครงการชลประทาน เพ่ือทาการขุดลอกแหล่งน้าดังกล่าว เพ่ือให้น้าท่ีลง มาจากภเู ขาไหลได้สะดวก

- 26 - 2. จากสภาพพื้นท่ีเป็นท่ีราบสลับกับภูเขา ประกอบกับประชาชนนิยมต้ังบ้านเรือนในพ้ืนที่ การเกษตรของตัวเองทาให้บ้านเรือนอยู่ห่างกัน การแจ้งเตือนภัยไม่ค่อยท่ัวถึงควรติดต้ังสัญญาณเตือนภัย ทม่ี ีรัศมแี จง้ เตอื นในระยะไกลได้ 3. ปัจจบุ นั ยงั ติดต้ังอปุ กรณ์แจ้งเตอื นภัยยังไม่ครอบคลุมพ้ืนที่เส่ียงภัย จึงขอให้หน่วยงานภาครัฐ ตดิ ตัง้ เครือ่ งวัดปรมิ าณน้าฝน และไซเรนเตือนภยั ให้ครบทุกพน้ื ที่เสยี่ งภยั และใหม้ จี านวนเพ่ิมมากขึ้น 4. ใหม้ กี ารจดั ฝกึ อบรมเพ่มิ ความรดู้ ้านการเสรมิ สร้างศกั ยภาพของชุมชนในพน้ื ทที่ เ่ี สี่ยงภัยเพ่ือสร้าง จิตสึกนึกให้กับประชาชน และฝึกทบทวนชุดปฏิบัติการกู้ชีพกู้ภัยให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานด้านการ ปูองกัน ชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัย 5. ให้องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง จัดหาเคร่ืองมือ อุปกรณ์ กู้ชพี กภู้ ยั และรถกภู้ ัย ไว้ในพ้นื ท่ที เ่ี สยี่ งต่อการเกิดภัย 6. ให้ภาครฐั ทกุ ภาคส่วนรว่ มมือกันรณรงคใ์ ห้ประชาชน มีจติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรปุาไม้ ไม่ให้ถกู ทาลายซง่ึ จะกอ่ ให้เกดิ สาธารณภยั ทางธรรมชาติไดง้ ่าย 7. ให้องค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้นจัดสรรงบประมาณในการปูองกันและบรรเทา สาธารณภัยให้มากขึ้นจากเดิม เพราะตาบลแก้มอ้นมีพื้นท่ีท่ีประสบอุทกภัยเป็นประจาทุกปี ซ่ึงในแต่ละปี สรา้ งความเสียหายทางด้านการเกษตร และสาธารณูปโภคเป็นจานวนมาก ข้อเสนอแนะในการทาวจิ ยั ครงั้ ต่อไป ควรศึกษาวิจัยถึงความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยในพื้นท่ีเสี่ยง ภัยท้ังจงั หวดั ราชบรุ ี

บรรณานกุ รม กรมปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย. 2553. แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 2553-2557. กรุงเทพมหานคร. กณั ฑณา นิลกาแหง. 2552. การมีสว่ นรว่ มของประชาชนในการบริหารจัดการอุทกภัย : ศึกษาเฉพาะกรณี บ้านตองเปอะ หมู่ 1 ตาบลสามโคก อาเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี.ปริญญานิพนธ์รัฐศาสตร มหาบัณฑติ (ร.ม.) . คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั รามคาแหง. กิติชัย รัตนะ.2549. การมีส่วนร่วมในการจัดการลุ่มน้า. ภาควิชาอนุรักษวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ พล เชือ้ ทหาร. 2553. ความพรอ้ มและศักยภาพของชมุ ชนในการป้องกันอุทกภัยและโคลนถล่มของ ตาบล บ้านตึก อาเภอศรีสัชนาลยั จังหวัดสโุ ขทยั . เอกสารวจิ ัยส่วนบุคคลหลักสูตรนักบริหารงานปูองกัน และบรรเทาสาธารณภัย รุ่นท่ี 6. วิทยาลัยปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมปูองกันและบรรเทา สาธารณภยั . ศูนย์เตรียมความพร้อมปูองกันภัยพิบัติแห่งเอเซีย (ADFC). 2546. คู่มือฝึกอบรมการจัดการความเสี่ยงจาก ภยั พิบตั โิ ดยอาศัยชมุ ชนเปน็ ฐาน. กรงุ เทพนคร. สิทธศิ กั ดิ์ เทา่ ธรุ ี. 2546. การรบั รู้และการปรบั ตัวของประชาชนบา้ นนา้ กอ้ ภายหลังเกดิ ภัยพบิ ตั ิจากอุทกภัย ในปี พ.ศ.2544. ปริญญานิพนธ์ ศศ.ม. (การจัดการมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม).เชียงใหม่ : บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่. เดชา เรืองอ่อน. 2555. ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยและน้าป่าไหล หลากของตาบลสวนผึ้ง อาเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี. เอกสารวิจัยส่วนบุคคลหลักสูตร นักบริหารงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย รุ่นท่ี 8. วิทยาลัยปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภัย. ทัศนีย์ ลักขณาภิชนชัช. 2534. องค์ประกอบของการใช้ชุมชนเป็นฐาน : ศึกษาชุมชนเป็นฐาน ปริญญา นพิ นธร์ ฐั ศาสตรมหาบณั ฑติ (ร.ม.) คณะรฐั ศาศตร์ มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง. สานักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี.2555. สรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดราชบุรี ปี 2555. จงั หวัดราชบรุ .ี

ภาคผนวก

แบบสัมภาษณ์ ประกอบการศกึ ษาวิจัย เรือ่ ง ความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัย ของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ----------------------------------------- ส่วนที่ 1 รายละเอียดผู้ใหส้ ัมภาษณ์ (ขอ้ มลู ทั่วไป) 1. เพศ หญิง ชาย 2. อายุ > 21 ปี 21-30 ปี 31-40 ปี 41-50 ปี มากกว่า 50 ปี 3. ระดับการศกึ ษา ประถมศกึ ษา-มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 อนปุ รญิ ญา ปรญิ ญาตรี สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี อืน่ ๆ ................................ ส่วนที่ 2 ความพรอ้ มและศักยภาพของชมุ ชนในการบริหารจดั การอุทกภัย ของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี 1. ในพ้นื ท่ีหรอื หมู่บา้ นของทา่ นเกิดอุทกภยั เปน็ ประจาทุกปหี รือไม่ อย่างไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................

2. ทา่ นมคี วามรสู้ ึกอย่างไรกบั การเกิดอทุ กภยั ในพ้ืนท่ี หรอื หมู่บ้านของทา่ น ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 3. ทา่ นมคี วามคดิ เหน็ อย่างไรในการปูองกนั และแก้ไขปัญหาอทุ กภัยในพืน้ ท่ีหรือหมู่บ้าน ของทา่ น ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 4. ในพน้ื ทห่ี รือหมู่บา้ นของทา่ น มหี น่วยงานของรฐั หนว่ ยใดบา้ งที่ได้ใหค้ วามรู้ในการ ปอู งกันและแก้ไขปญั หาอุทกภัย และหน่วยงานนั้นไดด้ าเนนิ การอะไรบา้ ง ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 5. ในพนื้ ท่ีหรอื หมู่บา้ นของทา่ น มีคณะกรรมการหมู่บา้ น หรอื คณะกรรมการอื่น ๆ อะไรบา้ ง และมีบทบาทในการบริหารจัดการอทุ กภยั อย่างไร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................

6. ในพนื้ ทีห่ รอื หมู่บา้ นของทา่ น มีเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ และอปุ กรณ์สาหรับการแจง้ เตือน การเกดิ อทุ กภยั หรือไม่ และตดิ ตั้งอยทู่ ี่ใด อยู่ในสภาพพร้อมใชง้ านหรอื ไม่ หน่วยงาน/ บุคคลใดเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 7. ท่านได้รับการแจง้ เตอื นหรือข่าวสารเกย่ี วกับการเกิดอุทกภัยเป็นประจาหรอื ไม่ / จากหน่วยงานใด / ช่องทางใดบ้าง โปรดระบุ ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... 8. ข้อเสนอแนะ / สง่ิ ทต่ี ้องการ ให้หน่วยงานของรัฐหรอื หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งดาเนนิ การ ในการปอู งกันและแก้ไขปัญหาอทุ กภยั ในพ้นื ที่หรือหม่บู า้ นของทา่ น โปรดระบุ ตามความจาเป็นเร่งด่วน ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................

แบบการเสนอโครงร่างการศึกษาวิจัยส่วนบุคคล หลกั สตู รนกั บริหารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นบ.ปภ.) รุ่นที่ ๑๐ ๑. ช่ือผู้จดั ทา นางสาวณัฐพร พันธ์พฤกษโ์ อชา เลขท่ปี ระจาตัว ๐๕ ๒. ชอื่ เรือ่ งความพร้อมและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการอุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ๓. ความเป็นมาของเรอื่ งและสถานการณ์ปจั จุบัน ภยั ธรรมชาติ เกิดจากการเปลีย่ นแปลงของธรรมชาติ หรอื ในบางครัง้ อาจมาจากฝีมือมนุษย์มีส่วนทา ให้มันเกิดข้ึนมา ภัยธรรมชาติมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไป บางอย่างเกิดความรุนแรงน้อย บางอย่างเกิดความ รุนแรงมาก ซึ่งอาจทาให้เกิดผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ภัยธรรมชาติที่เกิดจากอุทกภัย หรือน้าท่วม ดิน โคลนถล่ม น้าปุาไหลหลาก พายุหมุนเขตร้อน พายุฝนฟูาคะนอง แผ่นดินไหว สึนามิ เป็นต้น ภัยธรรมชาติต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะรา้ ยแรงมากหรือนอ้ ย ก็สามารถเกิดข้นึ ได้ทุกเวลา จากการเร่งรดั พฒั นาความเจริญของประเทศไทย ในช่วง 2 - 3 ทศวรรษท่ีผ่านมา เพื่อก้าวให้ทันต่อ ความเปลยี่ นแปลงของโลก โดยเนน้ การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก ในลักษณะของการก้าวกระโดดโดยขาด ความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงขาดความเข้าใจถึงผลเสียท่ีจะตามมาเป็นการพัฒนาที่ขาดความสมดุล เนื่องจากเป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว ขาดการพัฒนาท่ีเช่ือมโยงเน้นทุกด้าน ขาดการ วางแผนในการจัดระบบผังเมือง ขาดการวางแผนการใช้ทรัพยากร ธรรมชาติที่ใช้เป็นปัจจัยการผลิต รวมท้ังการ เพมิ่ ข้นึ ของจานวนประชากรอยา่ งรวดเร็ว อกี ทั้งมีการทาลายทรัพยากรธรรมชาติ ปุาไม้ ดิน และน้า ส่งผลให้สภาพ ภูมิอากาศมคี วามแปรปรวนมากขน้ึ ปจั จยั ท้ังหลายเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุสาคัญท่ีทาให้เกิดภัยธรรมชาติ ส่งผลให้ เกิดปัญหาส่ิงแวดล้อมที่รุนแรงตามมาเช่นกัน ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมาหลายประเทศท่ัวโลกต้องประสบกับ ปญั หาภัยธรรมชาติ เชน่ อุทกภยั วาตภยั แผน่ ดนิ ไหว ดนิ ถลม่ ฯลฯ เปน็ ต้น ภยั ธรรมชาตเิ หล่าน้ีมีแนวโน้มของ ความรุนแรงและความถีเ่ พิม่ มากข้ึน รวมทง้ั ส่งผลกระทบและความเสยี หายต่อประชาชนมากทีส่ ดุ ประเทศไทยของเราต้องเผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติเป็นประจาทุกปี โดยเฉพาะอุทกภัย ท่ีมัก เกิดตามพ้ืนท่ีลุ่มน้า ซ่ึงกระจายอยู่ท่ัวทุกภาคของประเทศ สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น มีระดับความรุนแรง และความเสียหายมากน้อยแตกต่างกันไปตามตาแหน่งที่ตั้งและลักษณะภูมิประเทศการเกิดอุทกภัยในแต่ละคร้ัง สร้างความเสียหายท้ังต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โครงสร้างพ้ืนฐาน สภาพแวดล้อม ระบบนิเวศใน พืน้ ท่ีนน้ั ๆ และยังส่งผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา การ เกิดอุทกภัยในประเทศได้ก่อให้เกิดความเสียหายรวมกันเป็นมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท โดยปี พ.ศ. 2554 มี มูลคา่ ความเสียหายมากกว่า 10,000 ลา้ นบาท

-๒- ๔. เหตุผลและความจาเปน็ ในการศึกษาและคาถามในการวิจัย จังหวัดราชบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยโดยในปี2555 ได้เกิดอุทกภัย สร้างความ เดือดร้อนให้ประชาชนกว่า 9 อาเภอ 72 ตาบล 451 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 7,813 ครัวเรือน พืชผล ทางการเกษตรเสียหาย 10,243 ไร่ สิ่งสาธารณประโยชน์ 16แห่ง ถนนชารุดสัญจรใช้ไม่ได้ 65 แห่ง พบว่าอาเภอจอม บงึ เสียหาย 6 ตาบล 67 หมบู่ า้ น ชาวบ้าน 480 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 213 ไร่ พืชไร่ 2,780 ไร่ ถนนสัญจรไม่ได้ 28 แห่ง ท่อเหลี่ยม คสล./ฝายน้าล้นเสียหาย 7 แห่ง จังหวัดราชบุรี ต้องจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และซอ่ มแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ จานวน 5,263,182 บาท องค์การบริหารสว่ นตาบลแก้มอ้น เป็นพื้นท่ีหนึ่งท่ีต้ังอยู่ใน ท่ีราบลุ่มโดยมีแม่น้าลาภาชีไหลกลางพ้ืนท่ี และมีพ้ืนที่บางส่วนติดกับเทือกเขาสูง ทาให้น้าจากลาห้วยบนภูเขา และ จากแมน่ า้ ลาภาชีไหลลน้ เข้าทว่ มหมูบ่ ้านในชว่ งฝนตกหนัก จึงเป็นพ้ืนที่ท่ีมีความเส่ียงอย่างมากต่อการเกิดอุทกภัยและ น้าปุาไหลหลาก โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ สร้างความเสียให้กับทรัพย์สินของประชาชนและสิ่งสาธารณะประโยชน์เป็น จานวนมาก (สานกั งานปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ราชบุรี,2555) การเตรียมความพร้อม เพ่ือรับมือกับอุทกภัย จึงเป็นส่ิงท่ีจาเป็นและสาคัญยิ่งเพื่อลดความสูญเสียจากภัย พิบัติท่ีอาจจะเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด ดังนั้นในการรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในชุมชนต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ประชาชน และชุมชน ร่วมกันเตรียมความพร้อมโดยจัดทาแผนปูองกันและ บรรเทาสาธารณภัย พร้อมทงั้ จดั ตง้ั คณะกรรมการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยของชุมชนข้ึน เพื่อทาหน้าบริหารจัดการ สาธารณภัย เตรยี มพร้อมด้านบุคลากร เคร่ืองมอื อปุ กรณ์ และจัดหาสถานท่ีปลอดภัยในอพยพเม่ือเกิดภัยขึ้นให้กับชุมชน รวมถึงการเสรมิ สร้างความรู้ความเขา้ ใจในการบริหารจัดการสาธารณภัยตามวัฏจักรของสาธารณภัย ตั้งแต่การเตรียมความ พรอ้ มรบั กบั ภยั พบิ ัติ การปูองกนั และลดผลกระทบการจัดการในภาวะฉุกเฉิน และการฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้ ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการดาเนินการปูองกัน แก้ไข บรรเทา ฟื้นฟู ความเสียหายจากอุทกภัย โดยชุมชนมีส่วนร่วมใน การวางแผนตดั สินใจ กาหนดแนวทางแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการภัย โดยใช้ทรัพยากรและบุคลากรภายในชุมชน โดยมี จุดมุ่งหมายเพ่ือลดความเส่ียงของชุมชน และเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการภัยพิบัติต่างๆให้กับคนในชุมชนเองก่อน ท่ีหนว่ ยงานภายนอกจะเข้าไปให้ความชว่ ยเหลือ นอกจากการเตรียมความพร้อมแล้ว “ชุมชน” จะต้องเสริมสร้างศักยภาพ เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถในการ บริหารจัดการกับอุทกภัย ในมิติต่างๆ ท่ีสูงข้ึน ทั้งขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อมให้กับชุมชน การเสริมสร้าง ศกั ยภาพของผู้นา การใหค้ วามรู้และการสร้างจิตสานึกดา้ นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการ ให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ วางแผน ตัดสินใจ ดาเนินงานและติดตามประเมินผลการดาเนินงานของ ชุมชนในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ภาครัฐหรือองค์กรต่าง ๆที่เก่ียวข้องกับสาธารณภัยดาเนินการ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจถึงสภาพ ปญั หาทีเ่ กิดข้นึ ตลอดจนวิธกี ารปูองกนั ตนเอง เพอื่ เตรยี มพรอ้ มรบั สถานการณฉ์ ุกเฉินท่ีอาจจะเกิดขน้ึ ได้ในอนาคต ดังนนั้ ผทู้ าวิจยั จึงทาการศกึ ษา เร่ือง ความพรอ้ มและศกั ยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการ อุทกภัยของตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้าลาภาชีเกิด อุทกภัยบ่อยครั้ง โดยกรมปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดให้เป็นพื้นท่ีท่ีเส่ียงต่อการเกิดอุทกภัยและพื้นที่ ดังกล่าวยังได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านนาร่องในการจัดทาโครงการ “ชุมชนเข้มแข็งเตรียมพร้อม ปูองกันภัย” โดยเนน้ การสร้างความพรอ้ มและศักยภาพของชุมชนในการดาเนนิ การปูองกันอุทกภัย ตลอดจน การลดความเส่ียงและลดความลอ่ แหลมในพนื้ ทช่ี มุ ชน ทั้งนี้ เพอ่ื จะไดท้ ราบว่าชุมชนมคี วามพรอ้ ม

-๓- และศกั ยภาพในการบริหารจัดการอุทกภัยหรือไม่ อย่างไร ในการปกปูองตนเองเมื่อเกิดอุทกภัยข้ึน เพื่อนาผล ในการศกึ ษาครง้ั น้เี ป็นแนวทางในการพัฒนาให้เกิดประโยชนต์ ่อประชาชนและสว่ นรวมต่อไป ๕. วตั ถุประสงค์ของการศกึ ษา จากการเกิดอุทกภัยจากพายุโซนร้อน “ แกมี ” ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ทาให้มีหลายอาเภอได้รับความ เสยี หายจากพายุดงั กล่าว โดยเฉพาะตาบลแกม้ อ้น อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบรุ ี ซง่ึ เป็นพนื้ ทตี่ ดิ กับแม่นา้ ลาภาชี ทาให้ สร้างความเสียให้กับทรัพย์สินของประชาชนและราชการเป็นจานวนมาก จึงมีความจาเป็นต้องศึกษาถึงศักยภาพและ ความพร้อมในการบรหิ ารจัดการของชมุ ชน โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ ๕.๑ เพือ่ ศึกษาถงึ ความพรอ้ มของชุมชนในการปอ้ งกนั อุทกภยั ของตาบลแกม้ อน้ อาเภอจอมบงึ จงั หวดั ราชบุรี ๕.๒ เพ่ือศกึ ษาศักยภาพของชมุ ชนในการบรหิ ารจดั การอุทกภยั ของตาบลแกม้ อน้ อาเภอจอมบงึ จังหวดั ราชบรุ ี ๖. วิธีการและขอบเขตการศึกษา ๖.๑วธิ กี ารศกึ ษาเป็นเชิงคุณภาพโดยเก็บขอ้ มูลทุติยภูมิ จากสถิติการเกิดภัย ความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการปูองกันอุทกภัย จากรายงานของสานักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี รายงานของอาเภอจอมบึงรายงานของ อบต. แก้มอ้น และรายงานอื่นๆ และเก็บข้อมูลปฐมภูมิ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้นาชุมชน และผู้นาท้องถิ่นในพ้ืนที่ศึกษา หลังจากเก็บข้อมูลครบถ้วนจะนาข้อมูลมาจาแนกเป็นหมวดหมู่ตาม วัตถุประสงค์ที่วางไว้ แล้วทาการวิเคราะห์ข้อมูล และนาผลข้อมูลมาทาการบรรยาย หรือพรรณนาความเชิงวิเคราะห์ การศึกษาครั้งนี้ได้เลือกพ้ืนท่ีศึกษาแบบเจาะจง(PurposiveSampling) โดยเลือกศึกษาในชุมชนหมู่ท่ี 1 หมู่ท่ี 2 หมู่ท่ี 5 หมู่ท่ี 9 หมู่ที่ 15 ขององค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ตาบลแก้มอ้น อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีอยู่ในเขตพ้ืนที่ ประสบอุทกภัย(ทุกครั้งท่ีมฝี นตกหนักในพื้นท่ี ) เคร่ืองมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัยเชิงสารวจชุมชน (Community Survey) เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึก และนาไปสกู่ ระบวนการวิเคราะห์การมสี ่วนร่วมในการบริหารการจัดการอุทกภัยในเขตพื้นท่ีองค์การบริหารส่วนตาบลแก้มอ้น ผ้วู ิจยั ไดใ้ ชว้ ธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนาม 2วิธี ดงั นี้(1) การสังเกต (Observation) (2) การสัมภาษณ์ (Interview) ๖.๒ ขอบเขตการศึกษา ขอบเขตพ้ืนท่ี เปน็ การศึกษาเฉพาะพืน้ ท่ีองค์การบรหิ ารส่วนตาบลแก้มอ้นหมู่ท่ี 1บ้านทุ่งแฝกหมู่ 2 บา้ นทงุ่ แจง หม่ทู ี่ 5บ้านวังปลา หมู่ที่ 9 บ้านสนั ดอน และหมู่ท่ี 15 บ้านห้วยตามว่ งซึ่งเป็นพื้นท่ี ท่ีไดร้ ับผลกระทบจากการเกิดอุทกภยั จากพายุ “ แกมี ” ปี 2555 ๖.๓ กรอบแนวคิดในการศึกษา ความพร้อม ความพรอ้ มและศักยภาพของชุมชน - คน ในการบริหารจัดการอุทกภัย - เงิน - เคร่อื งมือ อุปกรณฯ์ ศกั ยภาพ - ความรู้ - ความเข้าใจ - การฝึกซอ้ มแผนอุทกภยั



ประวัตผิ ศู้ กึ ษาวจิ ยั ชอื่ -นามสกุล นางสาวณฐั พร พันธพ์ ฤกษ์โอชา รหัสประจาตัวนกั ศึกษา 05 ตาแหน่ง นกั วิชาการเงนิ และบญั ชีชานาญการ การศกึ ษา ปริญญาตรี ศลิ ปศาสตรบ์ ณั ฑติ สาขาบริหารธรุ กจิ และการจัดการ ปรญิ ญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ เอกการเงนิ และธนาคาร (MBA) สถานที่ปฏบิ ัตงิ าน สานกั งานปูองกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัดราชบรุ ี ประวตั ิการรับราชการ เจา้ หนา้ ทพ่ี ิมพด์ ีด 1 สานกั งานเร่งรัดพัฒนาชนบทจงั หวัดราชบุรี 24 ก.ค. 2534 เจา้ หนา้ ที่พมิ พด์ ีด 2 สานักงานเร่งรัดพฒั นาชนบทจงั หวดั ราชบรุ ี 24 ก.ค. 2536 เจ้าหน้าทบี่ นั ทึกขอ้ มูล 2 สานักงานเรง่ รัดพัฒนาชนบทจงั หวดั ราชบรุ ี 3 ธ.ค. 2536 เจา้ หน้าทีบ่ ันทึกข้อมลู 3 สานกั งานเร่งรัดพฒั นาชนบทจงั หวดั ราชบุ รี 2 ต.ค. 2538 เจา้ หนา้ ทบ่ี นั ทกึ ขอ้ มูล 4 สานักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดราชบุรี 11 พ.ย. 2540 เจา้ หน้าที่บนั ทึกขอ้ มูล 5 สานกั งานเร่งรดั พฒั นาชนบทจังหวัดราชบรุ ี 9 ส.ค. 2544 เจา้ หน้าที่ธุรการ 5 สานักงานเรง่ รดั พฒั นาชนบทจังหวัดราชบรุ ี 25 ม.ค. 2545 เจา้ พนกั งานธรุ การ 5 สานักงานเทศบาลตาบลห้วยชนิ สีห์ 29 ก.ค. 2546 เจ้าหน้าทบี่ นั ทกึ ขอ้ มลู 5 สานกั งาน ปภ.จงั หวัดราชบุรี 29 ก.ย. 2546 จนท.บริหารงานการเงนิ และบัญชี 6 สังกัดกองคลัง ปฏิบตั งิ าน 27 ก.ค. 2550 สานักงาน ปภ.จงั หวัดราชบรุ ี 11 ธ.ค. 2551 นักวิชาการเงินและบัญชีชานาญการ สานักงาน ปภ.จังหวัดราชบุรี 23 ก.พ. 2552 จนท.บรหิ ารงานการเงินและบญั ชี 7 สงั กดั ศนู ย์ ปภ. เขต 7 สกลนคร 1 เม.ย. 2552 ปฏิบัติงานสานกั งาน ปภ.จงั หวัดราชบรุ ี นักวิชาการเงินและบัญชีชานาญการ สังกัดศนู ย์ ปภ. เขต 7 สกลนคร 15 ก.พ. 2553 ปฏิบัติงานสานกั งาน ปภ.จงั หวดั ราชบุรี นกั วชิ าการเงินและบญั ชชี านาญการ สานกั งาน ปภ.จังหวดั ราชบรุ ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook