Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือประวัติศาสตร์ตำบลชัยบุรี

หนังสือประวัติศาสตร์ตำบลชัยบุรี

Published by Worranat Temram, 2021-11-29 11:16:47

Description: หนังสือประวัติศาสตร์ตำบลชัยบุรี อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

จัดทำโดย วิศวกรสังคมตำบลชัยบุรี
โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

Search

Read the Text Version

วิ ศ ว ก ร สั ง ค ม ตํ า บ ล ชั ย บุ รี อํ า เ ภ อ ชั ย บุ รี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดําเนินการตามภารกิจโครงการ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ ( ๑ ตํ า บ ล ๑ ม ห า วิ ท ย า ลั ย ) ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ สุ ร า ษ ฎ ร์ ธ า นี โ ด ย จั ด ห นั ง สื อ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ชุ ม ช น จากการลงพ้ื นที่เก็บข้อมูลของวิศวกรสังคมตําบลชัยบุรี และได้รวบรวมประวัติศาสตร์ของตําบลชัยบุรี และข้อมูล พื้ นฐานของตําบล ได้แก่ พื้ นที่ อาณาเขต ลักษณะภูมิ ประเทศ จํานวนประชากร การประกอบอาชีพ สถานท่ี สําคัญ สถานท่ีท่องเท่ียว ผลิตภัณฑ์ชุมชน ข้อมูลหมู่บ้าน เกษตรกรและปราชญ์ชาวบ้านภายในหมู่บ้าน เพื่อให้ทราบ ถึงข้อมูลภายในตําบล โดยมีรายงานผลการดําเนิน โครงการฯ ซ่ึงดําเนินได้ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ทกี่ ําหนดไว้ หนังสือเล่มน้ีจัดทําขึ้นเพื่ อสร้างความเข้าใจ แ ล ะ อํ า น ว ย ค ว า ม ส ะ ด ว ก แ ก่ เ จ้ า ห น้ า ที่ ผู้ นํ า ชุ ม ช น ตล อดจ น ผู้ เ กี่ ย วข้ อ ง ใน กา รใช้ ข้ อมู ล ป ระ กอบ กา ร ปรับปรุงและพั ฒนาชุมชนภายในตําบล หรือใช้ประโยชน์ ในด้านอื่น ๆ ซ่ึงสามารถประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับหนังสือ เล่มนี้ ห วั ง เ ป็ น อ ย่ า ง ย่ิ ง ว่ า ห นั ง สื อ เ ล่ ม น้ี จ ะ เ ป็ น ประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ ผู้นําชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมีข้อเสนอแนะประการใด คณะผู้จัดทํายินดีน้อมรับไว้ เพ่ือปรบั ปรุงใหส้ มบูรณย์ ิง่ ขึ้นตอ่ ไป วิศวกรสงั คมตําบลชัยบุรี -ก-

คํานาํ ก สารบัญ ข สารบญั ภาพ ง ๑ ตาํ บลชัยบรุ ี ๑ ขนาดและที่ต้งั ๑ ลกั ษณะภมู ิประเทศ ๑ ภูมอิ ากาศ ๑ แมน่ ้ําทีส่ าํ คัญ ๑ ทรัพยากรธรรมชาติ ๑ การคมนาคม ๒ ประวัตติ าํ บลชัยบุรี ๓ คาํ ขวญั ประจาํ ตาํ บล ๓ โครงสร้างดา้ นเศรษฐกจิ และอาชีพ ๔ ความเช่อื ประเพณแี ละพิธกี รรม ๕ สถานที่สาํ คญั ๖ การเปลย่ี นแปลงทางด้านสงั คมและวัฒนธรรม ๘ แผนที่แสดงรายละเอยี ดตาํ บลชัยบรุ ี ๙ สถานที่ท่องเทีย่ วในชุมชน ๑๓ ผลิตภณั ฑช์ มุ ชน ๒๐ หมบู่ า้ น ๒๐ ๒๓ หมู่ที่ ๑ บ้านคลองพังกลาง ๒๗ หมู่ท่ี ๒ บา้ นปากพัง ๓๐ หมู่ที่ ๓ บ้านยวนปลา ๓๓ หมทู่ ่ี ๔ บ้านสะพานไทร ๓๕ หมทู่ ี่ ๕ บา้ นปลายคลอง ๔๑ หมู่ที่ ๖ บา้ นบ้านฝายท่า (บ้านควนสงู ) ๔๔ หมทู่ ี่ ๗ บา้ นควนพุ น ๔๗ หม่ทู ี่ ๘ บา้ นบางแตน ๕๒ หมทู่ ี่ ๙ บ้านทงุ่ คา หม่ทู ี่ ๑๐ บ้านคลองพังเหนอื -ข-

การดาํ เนนิ งานโครงการยกระดบั เศรษฐกจิ ๕๕ และสังคมรายตาํ บลแบบบูรณาการ ๕๕ การดําเนนิ งานโครงการยกระดบั เศรษฐกิจ ๕๕ และสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ ๕๖ ๕๖ การพัฒนาสมั มาชพี และสร้างอาชพี ใหม่ ๕๖ (การยกระดับสนิ ค้า OTOP/อาชพี อน่ื ) ๕๗ ๕๘ การสรา้ งและพัฒนา Creative Economy (การยกระดบั การทอ่ งเท่ยี ว) การนําองคค์ วามรูไ้ ปช่วยบริการชุมชน (Health Care/เทคโนโลยตี า่ ง ๆ) การส่งเสริมดา้ นส่งิ แวดล้อม/Circular Economy (การเพ่ิมรายได้หมนุ เวียนใหแ้ กช่ ุมชน) บรรณานกุ รม บุคลานุกรม -ค-

ภาพที่ ๑ แผนท่ตี ําบลชยั บุรี ๑ ภาพท่ี ๓๒ ผลิตภณั ฑ์ไม้กวาดพันปี ๑๔ ภาพที่ ๒ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภาพท่ี ๓๓ ป้ายประชาสมั พันธผ์ ลติ ภัณฑ์ ๑๔ ภูมิพลอดลุ ยเดช (พระนามในขณะนั้น ๒ ไมก้ วาดพันปี ภาพท่ี ๓ สวนยางพารา ภาพท่ี ๔ หมอแมธ่ าร ๓ ภาพที่ ๓๔ ป้ายประชาสมั พันธผ์ ลติ ภณั ฑ์ ภาพที่ ๕ ครูหมอมโนราห์ ภาพที่ ๖ วนั สารทเดือนสิบ ๔ เครอื่ งแกงบา้ นยวนปลา ๑๕ ภาพที่ ๗ ประเพณีทอดกฐนิ ภาพท่ี ๘ ท่ีวา่ การอําเภอชัยบุรี ๔ ภาพที่ ๓๕ ผลิตภัณฑเ์ ครอื่ งแกงบา้ นยวนปลา ๑๕ ภาพท่ี ๙ ห้องสมดุ ประชาชนอาํ เภอชยั บรุ ี ภาพท่ี ๑๐ การแต่งกายของชาวตาํ บลชยั บรุ ี ๔ ภาพที่ ๓๖ ผลิตภณั ฑเ์ ครื่องแกงบา้ นยวนปลา ๑๕ ภาพท่ี ๑๑ ผกั แกล้ม (ผกั เหนาะ) ภาพท่ี ๑๒ แกงส้มภาคใต้ ๔ ภาพที่ ๓๗ ผลิตภัณฑเ์ ครื่องแกงบา้ นยวนปลา ๑๖ ภาพท่ี ๑๓ ค่วั กล้งิ ภาพที่ ๑๔ การทาํ ขวัญขา้ ว ๕ ภาพที่ ๓๘ ป้ายประชาสัมพันธผ์ ลติ ภัณฑ์ ๑๗ ภาพที่ ๑๕ แกะเกย่ี วขา้ ว ภาพที่ ๑๖ การลงแขกเกย่ี วขา้ ว ๕ ขา้ วไรบ่ า้ นบางแตน ภาพที่ ๑๗ ต้นทุเรียน ๒๐๐ ปี ภาพที่ ๑๘ ตน้ ทเุ รียน ๒๐๐ ปี ๖ ภาพท่ี ๓๙ แกะเก่ยี วข้าว ๑๘ ภาพที่ ๑๙ ตน้ ทุเรยี น ๒๐๐ ปี ภาพที่ ๒๐ ปลาในเขตอนรุ กั ษ์พันธส์ ัตว์นํา้ ๖ ภาพที่ ๔๐ ผลติ ภณั ฑข์ ้าวไร่หอมบอน ๑๙ คลองโตรม ๖ ภาพที่ ๔๑ ผลติ ภณั ฑ์ข้าวไรห่ อมบอน ๑๙ ภาพที่ ๒๑ น้ําตกแอ่งอโศก ภาพที่ ๒๒ น้าํ ตกแอง่ อโศก ๖ ภาพท่ี ๔๒ ผลิตภัณฑข์ ้าวไรห่ อมบอน ๑๙ ภาพที่ ๒๓ นาํ้ ตกแอ่งอโศก ภาพท่ี ๒๔ นา้ํ ตกแอ่งอโศก ๗ ภาพท่ี ๔๓ ผลติ ภณั ฑข์ ้าวไรห่ อมบอน ๑๙ ภาพท่ี ๒๕ น้าํ ตกแอง่ อโศก ภาพที่ ๒๖ อา่ งเกบ็ นํ้าแอ่งอโศก ๗ ภาพท่ี ๔๔ อโุ บสถวัดนคิ มคณาราม ๒๐ ภาพที่ ๒๗ อา่ งเกบ็ นา้ํ แอ่งอโศก ภาพท่ี ๒๘ หนองนํา้ หกั คง ภาพท่ี ๔๕ ที่ทาํ การองคก์ ารบริหารสว่ นตําบล ภาพท่ี ๒๙ หนองน้าํ หักคง ๗ ชยั บรุ ี ภาพที่ ๓๐ ป้ายบริเวณทางเขา้ ๒๑ หนองนํา้ หักคง ๙ ภาพท่ี ๔๖ อุโบสถวัดนคิ มคณาราม ๒๑ ภาพที่ ๓๑ ไมก้ วาดพันปีจากขวดพลาสติก ๙ ภาพท่ี ๔๗ นางกระจา่ ง ณ อาวธุ ๒๒ ๙ ภาพที่ ๔๘ สวนมลั เบอร่ีของเกษตรกรหมทู่ ่ี ๑ ๒๒ ภาพที่ ๔๙ ศาลาประชมุ หมทู่ ่ี ๒ บ้านปากพัง ๒๓ ๑๐ ภาพที่ ๕๐ หนองน้าํ หกั คง ๑๐ ๒๔ ๑๐ ภาพที่ ๔๑ โรงเรยี นบ้านคลองพังกลาง ๒๔ ๑๑ ภาพท่ี ๕๒ นายอดุ ม วงษ์จินดา ๒๕ ๑๑ ภาพท่ี ๕๓ นายสุวรรณ ฉิมภกั ดี ๒๕ ๑๑ ภาพท่ี ๕๔ นายประจวบ ฉิมภกั ดี ๒๕ ๑๑ ภาพที่ ๕๕ พื้นทีท่ าํ การเกษตร หมทู่ ่ี ๒ ๒๖ ๑๑ ภาพที่ ๕๖ โรงเรียนบ้านยวนปลา ๒๗ ๑๒ ภาพท่ี ๕๗ ศาลาประชุมหมู่บา้ นบา้ นยวนปลา ๒๘ ๑๒ ภาพที่ ๕๘ นายเกษม นอ้ ยชาตรี ๒๙ ๑๒ ภาพที่ ๕๙ ไร่ออ้ ยของเกษตรกรหม่ทู ี่ ๓ ๒๙ ภาพที่ ๖๐ เล้าไกข่ องเกษตรหมูหม่ทู ่ี ๓ ๒๙ ๑๓ ภาพที่ ๖๑ ฝายชะลอนํา้ คลองโตรม ๓๐ บา้ นสะพานไทร -ง-

ภาพท่ี ๖๒ ตน้ ทเุ รยี นสองร้อยปี ๓๑ ภาพที่ ๙๓ นายโสภณ คงสกุล ๔๓ ภาพท่ี ๖๓ เขตอนรุ กั ษพ์ ันธส์ุ ตั ว์น้ํา ๓๑ ภาพท่ี ๖๔ นายบญุ นาค หะรินทร์ ๓๒ ภาพท่ี ๙๔ การปลกู พืชของเกษตรกรหมู่ท่ี ๙ ๔๓ ภาพท่ี ๖๕ นายป่ ิน น้อยชาตรี ๓๒ ภาพท่ี ๖๖ การเลี้ยงแพะของเกษตรกรหม่ทู ี่ ๔ ๓๒ ภาพที่ ๙๕ แหล่งเรียนรศู้ าสตรพ์ ระราชา ๔๔ ภาพที่ ๖๗ การเล้ียงหมขู องเกษตรกรหมูท่ ่ี ๔ ๓๒ ภาพท่ี ๖๘ น้ําผดุ สวนปาล์มพันศรี ๓๓ ภาพท่ี ๙๖ แหล่งเรียนรู้ศาสตรพ์ ระราชา ๔๕ ภาพท่ี ๖๙ น้ําตกหินลาด ๓๔ ภาพท่ี ๗๐ ศาลาประชุมหมทู่ ี่ ๕ ภาพที่ ๙๗ ขา้ วไรบ่ า้ นบางแตน ๔๕ ๓๔ บา้ นปลายคลอง ๓๔ ภาพที่ ๙๘ ไรข่ ้าวสังหยดของเกษตรกร ๔๕ ภาพท่ี ๗๑ สนามกีฬาหมู่ท่ี ๕ บา้ นปลายคลอง ๓๕ ภาพที่ ๗๒ คลองฝายท่า ๓๖ ภาพท่ี ๙๙ นายร่าน แกว้ ควนสูง ๔๖ ภาพท่ี ๗๓ นายวิเชียร มีพรอ้ ม ๓๖ ภาพท่ี ๗๔ นายเขต รว่ มพัน ๓๖ ภาพท่ี ๑๐๐ การทําเกษตรข้าวสังหยด ๔๖ ภาพที่ ๗๕ นายสมพร ชนู าวา ๓๖ ภาพที่ ๗๖ การเลี้ยงไขไ่ ก่ของเกษตรกรหมู่ท่ี ๕ ๓๖ ภาพที่ ๑๐๑ ป้ายหมู่บ้านทุ่งคา ๔๗ ภาพท่ี ๗๗ การเลย้ี งแพะของเกษตรหมทู่ ่ี ๕ ๓๖ ภาพท่ี ๗๘ การเลี้ยงหมขู องเกษตรหมู่ที่ ๕ ๓๙ ภาพท่ี ๑๐๒ ป้ายหม่บู ้านทุ่งคา ๔๘ ภาพที่ ๗๙ ป้ายทที่ ําการวิสาหกจิ ชมุ ชน ๓๙ ภาพที่ ๑๐๓ ประปาหมบู่ ้านทงุ่ คาลูกที่ ๒ ๔๘ กลมุ่ คนปลกู ต้นไม้ ๓๙ (หนา้ เขาเพรง็ ) ภาพท่ี ๘๐ ศาลาประชมุ หมทู่ ่ี ๖ บา้ นฝายท่า ๔๐ ภาพท่ี ๘๑ กฏุ พิ ระสงฆ์ วัดควรสงู ๔๐ ภาพท่ี ๑๐๔ นายบุญทบ เกษสุต ๔๙ ภาพที่ ๘๒ นายประธาน หีตสองแพรก ๔๐ ภาพท่ี ๘๓ นางเพียร หีตสองแพรก ๔๐ ภาพท่ี ๑๐๕ นายศริ ิ ทองนุ่น ๔๙ ภาพที่ ๘๔ นายอดุ ม แตง่ ต้งั ภาพท่ี ๘๕ นายไชยัน ทรัพยส์ มบูรณ์ ๔๐ ภาพท่ี ๑๐๖ นายสธุ ีร์ ชูศรี ๔๙ ภาพที่ ๘๖ โรงเรอื นไม้พะยอมของเกษตรกร ๔๑ ๔๒ ภาพที่ ๑๐๗ นางวรรณา สทิ ธิดาํ รง ๕๐ หมู่ท่ี ๖ ๔๒ ภาพท่ี ๘๗ โครงการก่อสรา้ งฝายชะลอนํ้า ๔๓ ภาพที่ ๑๐๘ นางแกว้ แก้วบวั ทอง ๕๐ ภาพท่ี ๘๘ อ่างเก็บน้ําแอง่ อโศก ๔๓ ภาพที่ ๘๙ น้าํ ตกแอง่ อโศก ๔๓ ภาพท่ี ๑๐๙ นางสดุ ใจ กําเหนิด ๕๐ ภาพท่ี ๙๐ นายบุญช่นื เข็มเพชร ภาพที่ ๙๑ นายจวน บานเยน็ ภาพที่ ๑๑๐ การเลย้ี งไกข่ องเกษตรกรหมทู่ ่ี ๙ ๕๑ ภาพท่ี ๙๒ นางสุด อินทรีกลู ภาพท่ี ๑๑๒ การทาํ การเกษตรของเกษตรกร ๕๑ หม่ทู ่ี ๙ ภาพท่ี ๑๑๓ ไร่มะละกอของเกษตรกรหมู่ที่ ๙ ๕๑ ภาพท่ี ๑๑๔ คลองบ้านคลองพังเหนอื ๔๒ ภาพท่ี ๑๑๕ คลองบ้านคลองพังเหนอื ๕๓ ภาพที่ ๑๑๖ ศาลาประชมุ หมู่บา้ นคลองพังเหนือ ๕๓ ภาพที่ ๑๑๗ นางเอี้ยน รกั ษายศ ๕๔ ภาพที่ ๑๑๘ นางส้ม ศรีวเิ วก ๕๔ ภาพที่ ๑๑๙ การปลกู ผกั สวนครัวของเกษตรกร ๕๔ หมทู่ ี่ ๑๐ ภาพท่ี ๑๒๐ ป้ายประชาสัมพันธข์ า้ วสงั หยด ๕๕ ภาพท่ี ๑๒๑ ป้ายประชาสมั พันธ์ไม้กวาดพันปี ๕๕ ภาพท่ี ๑๒๒ ป้ายประชาสมั พันธ์นํ้าผดุ ๕๖ @สวนปาล์มพั นศรี -จ-

-ฉ-

ตําบลชัยบุรี ภาพท่ี ๑ แผนทีต่ าํ บลชยั บุรี ๑. ขนาดและทีต่ งั้ ๔. แม่นํ้าทีส่ าํ คัญ ตําบลชัยบุรีต้ังอยู่ในอําเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ แหล่งน้ําธรรมชาติ แหล่งนา้ํ ทีส่ ร้างข้นึ ธานี ห่างจากอําเภอชัยบุรีไปทางทิศเหนือ ๒ กิโลเมตร ห่างจากสุราษฎร์ธานีประมาณ ๑๑๕ กิโลเมตร มีพ้ื นท่ี ลาํ น้ํา ลําห้วย ๓๒ สาย ฝาย ๑๒ แห่ง ท้ังหมด ๙๗,๗๔๗ ไร่ หรือ ๑๕๖ ตารางกิโลเมตร บึง หนอง ๘ แหง่ บอ่ นาํ้ ต้นื ๒๗๘ แห่ง มอี าณาเขตติดตอ่ ดงั น้ี บ่อบาดาล ๑๖ แหง่ ทิ ศ เ ห นื อ ติ ด ต่ อ กั บ ต . ส อ ง แ พ ร ก อ . ชั ย บุ รี ประปาหมบู่ า้ น ๑๐ แหง่ จ.สุราษฎร์ธานี ทิศใต้ ติดตอ่ กบั ต.ไทรทอง อ.ชยั บุรี จ.สรุ าษฎร์ธานี ๕. ทรพั ยากรธรรมชาติ ทิ ศ ต ะ วั น อ อ ก ติ ด ต่ อ กั บ ต . เ จ ริ ญ อ . พระ แ ส ง จ.สรุ าษฎร์ธานี ๑. มีลาํ คลองไหลผ่านแต่ละหมบู่ า้ น ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ต.ปลายพระยา อ.ปลาย ๒. พ้ืนท่เี หมาะแก่การเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ พระยา จงั หวดั กระบ่ี ๓. ชุมชนมีนาํ้ ใชเ้ พื่ออุปโภค - บริโภคตลอดปี ๔. แหล่งป่าไม้ ๑ แห่ง ขนาด ๗๐๐ ไร่ ๒. ลกั ษณะภมู ิประเทศ ๕. ป่าชุมชนเขาเพรง็ ขนาด ๑๔ ไร่ ๖. แหล่งตน้ นํ้าปลายคลอง ขนาด ๗๔ ไร่ ลักษณ ะ ภูมิประ เท ศส่วนใหญ่ของตําบลชัยบุรี ๗. หน่วยพิทักษป์ ่า ขนาด ๑,๐๐๐ ไร่ เป็นท่ีลาดชัน ท่ีเนิน แล้วค่อยลาดตํ่าไปทางทิศตะวันออก ๘. ป่าชุมชน ป่าเขานยุ้ ป่าสันเขาเพรง็ ท่ีส่วนใหญ่เป็นสภาพป่าเสื่อมโทรม เน่ืองจากมีการตัด ต้นไม้ทําลายป่ามาก สภาพท่ัวไปเหมาะสมต่อการปลูก ๖. การคมนาคม ยางพารา และปาล์มนํ้ามัน เพราะสภาพพ้ื นท่ีเป็นที่เนิน และท่ีลาดชัน ขาดแหล่งน้ําธรรมชาติ ระดับนํ้าใต้ดินลึก ถนนทางหลวงหมายเลข ๔๐๓๗ เป็นถนนสายหลัก มลี าํ คลองทส่ี าํ คญั คอื คลองโตรม เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับจังหวัดกระบี่ มีรถโดยสารประจําทาง รถตู้โดยสาร และรถสองแถว ๓. ภูมอิ ากาศ วิ่งผา่ นท่สี าํ คญั ๓ สายคือ วนั ละ ๕ เท่ยี ว ๑. สายกระบ่ี-สุราษฎร์ มภี ูมิอากาศแบบรอ้ นชืน้ ตลอดปี มี ๒ ฤดู คอื ฤดฝู น ๒. สายกระบี่-กรุงเทพ วันละ ๒ เที่ยว และฤดรู ้อน ๓. สายชยั บุรี-เวียงสระ วนั ละ ๕ เทีย่ ว ทมี่ า : หนงั สอื ประวัติศาสตรต์ าํ บลชัยบุรี (๒๕๖๔) -๑-

๗. ประวตั ิตําบลชัยบรุ ี อําเภอชัยบุรีเดิมคือตําบลสองแพรก เป็นตําบลหน่ึง ของอําเภอพระแสง มีพื้ นที่กว้างขวางและห่างไกลจาก ตัวอําเภอพระแสง ราษฎรไปติดต่อราชการเดินทางด้วย ความยากลําบาก ราษฎรในพื้ นท่ีนําโดยนายวีระเลิศ ตระกูล กํานันตําบลสองแพรกและผู้ใหญ่บ้านได้ประชุม ปรึกษาหารือกันเพื่ อขอแยกออกมาจากอําเภอพระแสง ต้ังเป็นกิ่งอําเภอโดยเสนอความเห็นผ่านหม่อมเจ้าหญิง วิภาวดีรังสิต ขณะที่ท่านได้เดินทางมาท่ีอําเภอพระแสง และได้เดินทางโดยทางเรือ มาที่ตําบลสองแพรกเพื่ อ เย่ียมราษฎร โดยพั กค้างที่บ้าน นายวีระ เลิศตระกูล กํ า นั น ตํ า บ ล ส อง แ พรก ซ่ึง อยู่ใกล้ วั ดส มั ย สุวรรณ หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดีรังสิตเดินทางมาเป็นคร้ังท่ี ๓ เพื่ อต้องการให้หม่อมหญิงวิภาวดีรังสิต กราบบังคมทูล เชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ทรงมาเยี่ยมราษฎร ทต่ี าํ บลสองแพรกในวนั ท่ี ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๕ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า อ ยู่ หั ว ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช ภาพท่ี ๒ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สมเด็จ (พระนามในขณะน้นั ) พระเทพรัตนราชสุดาสยามมกุฎราชกุมารี เจ้าฟา้ หญิง จุ ฬ า ภ ร ณ์ ว ลั ย ลั ก ษ ณ์ อั ค ร ร า ช กุ ม า รี ไ ด้ ท ร ง เ ส ด็ จ เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๔ โดยโอนพ้ื นท่ีของ พระราชดําเนินมาเย่ียมราษฎรที่วัดสมัยสุวรรณ ซ่ึงต้ังอยู่ ตํ า บ ล ส อ ง แ พ ร ก แ ล ะ ตํ า บ ล ชั ย บุ รี ข อ ง อํ า เ ภ อ พ ร ะ แ ส ง ตําบลสองแพรกอําเภอพระแสง และพระบาทสมเด็จ เป็นกิ่งอําเภอชัยบุรี ได้เปิดทําการให้บริการประชาชน พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้เข้ากราบเจ้าอาวาส ครั้งแรกเม่ือวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๒๔ โดยใช้ ซ่ึงตอนน่ันคือท่านพระครูสุวรรณโอกาส และได้ทรงถาม ศาลาการเปรียญของวัดสมัยสุวรรณหมู่ท่ี ๑ ตําบล ท่านพระครูฯ ว่าจะให้ทางพระราชวังช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ส อ ง แ พ ร ก เ ป็ น ท่ี ทํ า ก า ร ช่ั ว ค ร า ว โ ด ย มี น า ย วิ สู ต ร ท่านพระครูฯ บอกไปว่าขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตันสุทธิวัฒน์ เป็นปลัดอําเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจํา ภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานก่ิงอําเภอให้กับราษฎร กิ่งอาํ เภอคนแรก ตําบลสองแพรก เพราะมีพื้ นท่ีกว้างขวางห่างไกลกับตัว อําเภอพระแสง ราษฎรเดินทางไปติดต่อราชการท่ีอําเภอ ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้ประกาศแยกหมู่บ้าน พระแสงด้วยความยากลําบาก ไม่มีถนนหนทางที่จะ เมื่อวันท่ี ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๓ มีหมู่ ๓ บ้านปลาย เดินทางไป โดยมีการเดินทางได้แค่เส้นทางเรือเท่าน้ัน ศอก หมู่ ๔ บ้านบางหอย หมู่ ๗ บ้านปลายคลองศอก และลําคลองก็คดเคี้ยวต้ืนเขิน จึงไม่สะดวกและเกิด หมู่ ๘ บ้านควนฮาย หมู่ ๙ บ้านนํ้าแดง หมู่ ๑๐ บ้านหิน อันตรายในการเดินทางอยู่เป็นประจํา กุ้งต้ังหมู่ ๑๑ บ้านปลายคลองบางปัด ตําบลสองแพรก ออกเป็นตําบลคลองน้อย และแยกหมู่ ๕ บ้านบางปาน ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้ประกาศแยกหมู่ ๖ หมู่ ๖ บ้านสองแพรก หมู่ ๙ บ้านไทรงาม หมู่ ๑๐ บ้าน บ้านคลองพั งกลางหมู่ ๗ บ้านยวนปลา หมู่ ๘ บ้านบาง ควนสระ หมู่ ๑๑ บ้านควนสินชัย หมู่ ๑๒ บ้านสองแพรก ปานหมู่ ๙ บ้านสองแพรก หมู่ ๑๐ บ้านสระพั ง หมู่ ๑๑ ใหม่ ตําบลชัยบุรีออกเป็นตําบลไทรทองเมื่อวันที่ ๑๐ บ้านสะพานไทร ตําบลสองแพรก มาเป็นตําบลชัยบุรี กันยายน พ.ศ.๒๕๒๔ โดยนายนภา กาญจนกีรณา เม่ือวันท่ี ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๑ และกระทรวงมหาดไทย ปลัดอําเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจําก่ิงอําเภอ ได้ประกาศยก ได้ประกาศตั้งก่ิงอําเภอชัยบุรี ช่ือท่ีต้ังข้ึนนั่นเพ่ื อเป็น ฐานะจากกง่ิ อําเภอมาเป็นอาํ เภอ เกียรติแก่ขนุ ชัยบรุ ซี ่ึงเป็นนายอําเภอพระแสงคนแรก -๒-

หมทู่ ่ี ๘ บา้ นบางแตน หมู่ท่ี ๙ บา้ นทุ่งคา หมูท่ ่ี ๑๐ บา้ นคลองพังเหนอื ต่อม า เ มื่ อปี พ.ศ .๒๕๒๖ กระ ท รวง ม ห า ดไ ท ย - ด้านประชากร จํานวน (คน) ได้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างที่ว่าการกิ่งอําเภอ เพศ ชัยบุรี ณ พ้ื นที่หมู่ท่ี ๑ ซ่ึงเป็นศูนย์กลางของพื้ นท่ี โดยนายลัก ศักดิ์จันทร์ และนายทวี นาวา ได้บริจาคที่ดิน ชาย ๒,๔๓๕ ประมาณ ๔๒ ไร่และได้ดําเนินการเปิดให้บริการประชาชน เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๗ โดยมีนายนิพั นธ์ หญิง ๒,๒๘๔ ชลวิทย์ เป็นนายอําเภอคนแรก กระทรวงมหาดไทยได้ ประ กาศให้ตําบล ชัยบุรีมีเขตปกครอง ๑๐ หมู่บ้าน รวม ๔,๗๑๙ ตําบลคลองน้อยมีเขตปกครอง ๑๐ หมู่บ้าน ตําบล ไทรทองมีเขตปกครอง ๘ หมู่บ้าน ตําบลสองแพรก - ดา้ นการศึกษา มี เ ข ต ป ก ค ร อ ง ๙ ห มู่ บ้ า น แ ล ะ เ ม่ื อ พ . ศ . ๒ ๕ ๒ ๖ ไม่เคยศกึ ษา ๘๕ คน กระ ท รวง ม ห า ด ไ ท ย ไ ด้ อ นุ มั ติ ง บ ป ระ ม า ณ ก่ อ ส ร้ า ง จบประถมศึกษา ๒,๕๗๘ คน ท่ีว่าการอําเภอขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่ชํารุดเสื่อมโทรม จบมัธยมต้น ๗๘๖ คน แ ล ะ ไ ด้ เ ร่ิ ม เ ปิ ด ใ ห้ บ ริ ก า ร แ ก่ ป ร ะ ช า ช น ค ร้ั ง แ ร ก จบมธั ยมปลาย ๕๘๑ คน เมื่อวันท่ี ๒๓ กุมภาพั นธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ โดยนายสุรพล จบอนุปริญญา ๗๑ คน ล้ิมศิลา เป็นนายอาํ เภอ จบปริญญาตรี ๔๙๑ คน จบสงู กวา่ ปรญิ ญาตรี ๑๘ คน ต่อมาในวันท่ี ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๙ นายพิรุณ วมิ ลอักษร นายอําเภอชัยบุรีในขณะน้ัน ได้สร้างอนุสาวรีย์ - ด้านศาสนา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ลักษณะองค์ ศาสนาพุ ทธ รอ้ ยละ ๙๙ ยืนประดิษฐานไว้หน้าท่ีว่าการอําเภอเพื่ อเป็นที่ยึดเหน่ียว ศาสนาครสิ ต์ รอ้ ยละ ๑ จิตใจของพี่นอ้ งอาํ เภอชยั บรุ ีและพ้ืนท่ใี กล้เคยี ง ๑๐. โครงสรา้ งเศรษฐกจิ และอาชพี ทีม่ า : สมใจ ศกั ด์จิ ันทร,์ ผู้ใหส้ ัมภาษณ์, ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔ ประชาชนในตําบลประกอบอาชีพหลัก ทําสวน ยางพารา สวนปาล์มนํ้ามัน อาชีพข้าราชการ ค้าขาย และรับจ้างท่ัวไป ๘. คําขวัญประจาํ ตาํ บล แผน่ ดินปาล์ม งามแอง่ อโศก สง่ เสริมประเพณี มงั่ มีคณุ ธรรม นอ้ มนาํ พระราชดาํ ริ ๙. โครงสรา้ งชมุ ชน ภาพท่ี ๓ สวนยางพารา - ด้านการปกครอง แบง่ ออกเป็น ๑๐ หมบู่ ้าน หมทู่ ่ี ๑ บ้านคลองพังกลาง หม่ทู ่ี ๒ บ้านปากพัง หมู่ที่ ๓ บ้านยวนปลา หมู่ที่ ๔ บ้านสะพานไทร หมู่ที่ ๕ บ้านปลายคลอง หมู่ที่ ๖ บ้านฝ่ายท่า หมู่ที่ ๗ บา้ นควนพุ น -๓-

๑๑. ความเชื่อ ประเพณี และพิธกี รรม ๑. ความเชอื่ เร่ืองครูหมอมโนราห์ ๒. ความเช่ือเรื่องหมอแมธ่ าร ๓. ประเพณวี ันสารทเดือนสบิ ๔. ประเพณีทอดกฐิน ๕. ประเพณสี รงนํา้ พระ (ปากปีปากเดือน) ภาพที่ ๔ หมอแม่ธาร ภาพที่ ๕ ครหู มอมโนราห์ ภาพที่ ๖ วันสารทเดือนสิบ ภาพที่ ๗ ประเพณีทอดกฐิน -๔-

๑๒. สถานท่ีสาํ คัญ ๑. ท่ีวา่ การอาํ เภอชยั บุรี ๒. ทท่ี ําการองคก์ ารบรกิ ารส่วนตําบลชัยบรุ ี ๓. สํานักงานสาธารณสุขอําเภอชัยบรุ ี ๔. ศูนยก์ ู้ชีพชยั บุรี ๕. หอ้ งสมดุ ประชาชนอาํ เภอชยั บรุ ี ๖. สํานกั งานเกษตรอาํ เภอชยั บรุ ี ๗. ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน ตําบลชยั บรุ ี ภาพท่ี ๘ ท่วี า่ การอาํ เภอชัยบุรี ตําบลชยั บุรี ๘. วัดนคิ มคณาราม ๙. วัดควนสูง ๑๐. โรงเรยี นบ้านคลองพังกลาง ๑๑. โรงเรยี นบ้านยวนปลา ๑๒. โรงเรียนอนุบาลปิยะพัฒน์ ๑๓. ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กวัดนคิ มคณาราม ๑๔. ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กบา้ นควนพุ น ภาพที่ ๙ ห้องสมุดประชาชนอําเภอชัยบรุ ี -๕-

๑๓. การเปล่ียนแปลงทางสงั คม และวัฒนธรรม วฒั นธรรมการแต่งกาย การแต่งกายของคนในตําบลชัยบุรี เป็นการแต่ง กายท่ีใช้ผ้าหลายรูปแบบ ท้ังผ้าฝ้าย ผ้าแพร ผ้ามัดย้อม ชาวตําบลชัยบุรีท่ัวไป แบบเดิมนิยมนุ่งผ้าคล้ายผ้าขาวม้า มีสีแดง การนุ่งผ้าปาเต๊ะหรือบาติกท่ีมีลวดลายสีสัน หลากหลายเป็นความนิยมในช่วงหลัง จากการรับอิทธิพล ของผ้ามาเลเซีย อินโดนีเซีย ชาวไทยมุสลิมภาคใต้นิยม นุง่ โสร่งท่ีมีความคลา้ ยกับกับผ้าข้าวม้าของทางภาคอีสาน ผู้ชายส่วนใหญ่จะนิยมนุ่งผ้าโสร่ง และขาวม้าแต่ผู้หญิงจะ นุ่งผ้าปาเต๊ะหรือผ้าบาติก แต่ในปัจจุบันชาวตําบลชัยบุรี ส่วน ใหญ่ ก็จ ะ นุ่ง เ ส้ือผ้า ตา ม แ ฟชั่น ที่มีขา ย อยู่ตา ม ทอ้ งตลาดท่วั ไป ภาพที่ ๑๐ การแต่งกายของชาวตาํ บลชัยบุรี ภาพท่ี ๑๑ ผักแกล้ม (ผักเหนาะ) วัฒนธรรมทางด้านอาหาร ภาพที่ ๑๒ แกงส้มภาคใต้ ในอดีตชาวตําบลชัยบุรี มีการบริโภคพื ชผักชนิด ต่าง ๆ มากมาย ด้วยเหตุนี้วัฒนธรรมการกินของ ชาวตําบลชัยบุรี จะนิยมรับประทานอาหารเผ็ดร้อน จึงต้องมีผักแ กล้ม เพ่ื อช่วยบรรเทาความเผ็ดแ ละ เพ่ื อชูรสชาติอาหาร อาหารท้องถิ่นของชาวตําบลชัยบุรี ยั ง นิ ย ม ใ ส่ ข ม้ิ น ใ น อ า ห า ร จ ะ เ รี ย ก ว่ า ทุ ก ป ร ะ เ ภ ท ก็ ว่ า ไ ด้ ไม่ว่าจะเป็นแกงเหลือง (แกงส้ม) และคั่วกลิ้ง ซ่ึงเป็น อาหารท่ีอร่อยและน่าล้ิมลอง แต่สิ่งหน่ึงท่ีประทับใจผู้คน คือความเผ็ดร้อนของรสชาติอาหาร มีรสอาหารที่เผ็ดจัด เค็ม เปร้ียว แต่ไม่นิยมรสหวาน รสเผ็ดที่มาจากพริกขี้หนู สด พริกข้ีหนูแห้งและพริกไทย ส่วนรสเค็มได้จากกะปิ เกลือ ส่วนรสเปร้ียวได้จากส้มควาย ตะลิงปลิง ระกํา มะนาว มะขามเปียก ใบชะมวง และมะขามสด เป็นตน้ ซ่ึงใน ปัจ จุบัน วัฒ น ธรรม ทางด้าน อาหารไ ด้ เปล่ียนแปลงไปตามยุคสมัย เริ่มมีการบริโภคอาหารทาง ตะวันตกกันมากยิ่งขึ้น เช่น สเต็ก พิ ซซ่า สปาเก็ตตี้ เป็นตน้ ภาพที่ ๑๓ คัว่ กล้งิ -๖-

วัฒนธรรมดา้ นพิธกี รรมและความเชื่อ ตําบลชัยบุรี มีพิ ธีกรรมและความเชื่อที่ผูกพั น กับข้าว และเป็นพิ ธีกรรมท่ีสืบทอดกันมาเป็นวัฒนธรรม คือ พิธีกรรมการทําขวัญข้าว โดยที่พิธีกรรมการทําขวัญ ข้าวเป็นประเพณีบวงสรวงแม่โพสพ ผู้เป็นวิญญาณ แห่งข้าว โดยเชื่อว่าถ้าข้าวมีขวัญสิงอยู่ประจําไม่หลีกหนี ไปไหน ต้นข้าวก็จะงอกงามสมบูรณ์ให้ผลผลิตสูง ไม่มี โรคภัยเบียดเบียน หรือเฉาตาย ส่วนที่เก็บเก่ียวขึ้นสู่ยุ้ง ฉางแล้ว แม้จะจําหน่ายขายหรือกินก็ส้ินเปลืองไปน้อย ที่ สุ ด ช า ว บ้ า น ใ น ส มั ย ก่ อ น เ ชื่ อ กั น ว่ า แ ม่ โ พ ส พ เ ป็ น วิญญาณของข้าว ฉะนั้นจึงเกิดความเคารพยําเกรง และต้องการที่จะแสดงความกตัญuูกตเวทีต่อแม่โพสพ จึงมีการบวงสรวงบูชาแม่โพสพขึ้น การทําขวัญข้าว จะนิยมทํา ๒ คร้ัง คือ ครั้งแรก เม่ือข้าวในนาเริ่มสุก และ ค รั้ ง ที่ ส อ ง ห ลั ง จ า ก เ ก็ บ เ ก่ี ย ว แ ล ะ ข น ข้ า ว ข้ึ น ยุ้ ง ฉ า ง เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านในตําบลชัยบุรีเช่ือว่าการทําขวัญ ข้าวเป็นการประกอบพิธีเพื่อสดุดีแม่โพสพ เพ่ือความเป็น สิริมงคลและเพ่ื อแสดงความชื่นชมยินดีท่ีได้ทํานาประสบ ผลสาํ เรจ็ ภาพที่ ๑๔ การทําขวญั ขา้ ว วัฒนธรรมที่ผูกพั นกับข้าวอีกวัฒนธรรมหน่ึงของ ภาพที่ ๑๕ แกะเก่ียวขา้ ว ชาวชัยบุรี คือ การลงแขกเก่ียวข้าว ซึ่งเจ้าของนาจะบอก เพ่ื อนบ้านให้ทราบว่าจะเก่ียวข้าวเม่ือใด และเมื่อถึงวัน ที่กําหนดเจ้าของนาก็จะต้องปักธงในท่ีนาของตนเพื่ อให้ เพื่ อนบ้านหรือแขกที่รู้จะได้มาช่วยเกี่ยวได้ถูกต้องทั้งน้ี เจ้าของนาจะต้องจัดเตรียมอาหาร คาวหวาน สุรา บุหรี่ นํ้ า ด่ื ม ไ ว้ ร อ ง รั บ ด้ ว ย ช า ว บ้ า น ท่ี ม า ช่ ว ย จ ะ ใ ช้ แ ก ะ ในการเก่ียวข้าว และในขณะเก่ียวข้าวก็จะมีการละเล่น ร้องเพลงเก่ียวข้องระหว่างหนุ่มสาว เป็นที่สนุกสนาน แ ล ะ เ พ ลิ ด เ พ ลิ น เ พ่ื อ ค ล า ย ค ว า ม เ ห น็ ด เ ห น่ื อ ย ไ ด้ การลงแขกเกี่ยวข้าวจึงเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้าง ความรกั ภคาวพามทส่ี ๑ามแคั กคงีขสอม้ งภคานคใในตช้ ุมชนเป็นอยา่ งดี ภาพที่ ๑ ค่ัวกลิง้ ปั จ จุ บั น ค ว า ม เ ชื่ อ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร ทํ า ข วั ญ ข้ า ว ภาพที่ ๑๖ การลงแขกเก่ียวขา้ ว สามารถพบเห็นได้จากผู้สูงอายุในชุมชนเท่าน้ัน เนื่องจาก ส ภ า พ สั ง ค ม ใ น ปั จ จุ บั น ที่ บุ ต ร ห ล า น ใ น ค ร อ บ ค รั ว มักเดินทางไปทํางานต่างจังหวัดหรือทํางานประจํา ทําให้ ไ ม่สา ม า รถเ ดิน ท า ง กลับ หรือล า ง า น ม า เ พ่ื อร่วม กัน ลงแขกเก่ียวข้าวได้ ส่งผลให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตถูก ป รั บ เ ป ลี่ ย น ไ ป ใ น รู ป แ บ บ ข อ ง ก า ร เ ก็ บ เ ก่ี ย ว โ ด ย ใ ช้ เทคโนโลยีและเคร่ืองจักรทางการเกษตรที่สามารถและลด การใช้แรงงานมนุษย์ และลดระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว ผลผลิต -๗-

๑๔. แผนที่แสดงรายละเอยี ดตําบลชัยบุรี -๘-

๑๕. สถานทท่ี ่องเทีย่ วตาํ บลชยั บรุ ี ๑. ตน้ ทุเรียน ๒๐๐ ปี ต้นทุเรียน ๒๐๐ ปี ตั้งอยู่ในสวนของนางวารินทร์ หมู่ท่ี ๔ บ้านสะพานไทร ตําบลชัยบุรี อําเภอชัยบุรี จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี คน ภาพที่ ๑๗-๑๙ ตน้ ทเุ รยี น ๒๐๐ ปี ต้นทุเรียน ๒๐๐ ปี เป็นต้นทุเรียนเก่าแก่ท่ีพระได้ เอามาปลูกไว้ท่ีวัดหัวท่า และตอนปลูกท่านได้อธิษฐาน ใ ห้ ต้ น ทุ เ รี ย น นี้ ส า ม า ร ถ กิ น ไ ด้ ๕ ช่ั ว อ า ยุ เ ส้ น ผ่ า น ศูนย์กลาง ๑.๘๐ เมตร เส้นรอบวง ๕.๖๕ เมตร สูงกว่า ๒๐ เมตร ออกผลทุกปีประมาณเดือน มิถุนายน คร้ังละ ๒๐๐ ลกู ระยะหา่ งจากอาํ เภอ ๘ กโิ ลเมตร -๙-

๒. เขตอนุรกั ษ์พันธส์ ัตวน์ ํา้ คลองโตรม เ ข ต อ นุ รั ก ษ์ พั น ธ์ สั ต ว์ นํ้ า ค ล อ ง โ ต ร ม เ ป็ น เ ข ต อภัยทานสัตว์น้ําคลองโตรม มีพื้ นที่ท่ีปลาอาศัยอยู่ ประมาณ ๑ เมตร เป็นเขตใหอ้ าหารปลา มีปลาหลากหลาย ชนิด ท้ังปลาสวาย ปลาหางแดง ปลาตะเพี ยน ปลาช่อน ปลาทวิ ฯลฯ ระยะห่างจากอาํ เภอ ๘ กโิ ลเมตร ภาพที่ ๒๐ ปลาในเขตอนรุ ักษพ์ ันธส์ ัตวน์ ้ําคลองโตรม ภาพท่ี ๒๑-๒๒ น้าํ ตกแอ่งอโศก ๓. นาํ้ ตกแอ่งอโศก และอ่างเกบ็ น้ําแอง่ อโศก น้ําตกแอ่งอโศกเดิม ช่ือน้ําราดเป็นพ้ื นที่เขตป่า สงวน เม่ือปี พ.ศ.๒๕๒๘ บริษัทพันศรี ได้เข้ามาสัมปทาน พ้ื นที่เพ่ื อปลูกปาล์มน้ํามัน แต่ทางบริษัทไม่ได้เข้าไป ดําเนินการในพื้ นที่นํ้าตก เมื่อก่อนมีเส้นทางท่ีทุระกันดาร ไม่มีใครสนใจ ต่อมานายวิรัตน์ ไชยขาว ได้เข้าไปพั ฒนา พ้ื นที่เพ่ื อคิดท่ีจะทําเป็นสถานท่ีเล่นน้ําให้กับคนในชุมชน ต่ อ ม า เ ม่ื อ ปี พ . ศ . ๒ ๕ ๔ ๕ ผู้ นํ า ชุ ม ช น ใ น ข ณ ะ น้ั น คื อ ผู้ใหญ่นิคม เข็มเพชร ได้ประสานกับทางอดีต สจ.บุญโชค สัสดีเดช เพื่ อของบประมาณในการพั ฒนา ซ่ึงได้รับ ง บ ป ระ ม า ณ ม า ณ ทํ า ท า ง เ ท้ า ร ะ ย ะ ท า ง ๑ ๕ ๐ เ ม ต ร และสร้างห้องน้ํา จํานวน ๔ ห้อง ซึ่งท่านได้เป็นคนทําพิ ธี เปิดแหล่งท่องเที่ยวเป็นคร้ังแรก โดยมีรองนายก อบจ. นายสุเทพ มะลิเผือก มาเป็นประธานในพิ ธี ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๔๖ ผู้ใหญ่บ้านคนที่ ๓ นายอุดม หนูรักษา (กํานัน ตําบลชัยบุรี) ได้รับงบประมาณจากโครงการ SML ๒๕๐,๐๐๐ บาท เพ่ื อสร้างศาลาเอนกประสงค์และปรับ พื้ นท่ีบริเวณลานเอนกประสงค์เพ่ื อใช้สําหรับการทํา กิจกรรมต่าง ๆ ต่อมา ปี พ.ศ.๒๕๔๘ ได้รับงบประมาณ จ า ก โ ค ร ง ก า ร อ ยู่ ดี มี สุ ข จํ า น ว น ๕ ๐ ๐ ,๐ ๐ ๐ บ า ท เพื่ อสร้างทางเท้าเพิ่ มอีก ๑๕๐ เมตร พร้อมท้ังสร้าง ศาลาพักผ่อนบริเวณข้างนํา้ ตก - ๑๐ -

อีกจํานวน ๑ หลัง และได้รับงบประมาณจากโครงการ ตําบลละ ๕ ล้าน ซึ่งทางหมู่ท่ี ๗ บ้านควนพุ น ได้รับ งบประมาณจํานวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เพ่ื อสร้างถนน คอนกรีตระยะทาง ๒๐๐ เมตร และทําทางเท้ารอบลาน ออกกําลังกาย เป็นระยะทาง ๑๕๐ เมตร ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้งบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืน จํานวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เพื่ อสร้างสระน้ํา ๓ ระดับ ขนาด ๔x๘ เมตร ลึก ๒ เมตร และจากการสํารวจแล้ว บริเวณ นํ้า ตก มีต้น อโ ศ กขึ้น อยู่เ รีย ง รา ย ตล อดแ น วนํ้า ตก ท่านกํานันอุดม หนูรักษา จึงได้ให้ชื่อว่าน้ําตกแอ่งอโศก และต่อมาบริษัทพั นศรีได้หมดสัญญาลง ท่านกํานันอุดม หนูรักษา และผู้นําชุมชน จึงเขียนโครงการเสนอต่อ กรมชลประทาน สร้างอ่างเก็บนํ้าเพื่ อให้ประชากรในหมู่ที่ ๗ บ้านควนพุ น ได้ใช้น้ํากันอย่างทั่วถึงทุกครัวเรือน และไม่ขาดแคลนน้ําในฤดูแล้ง กรมชลประทานจึงอนุมัติ ให้สร้างอ่างเก็บน้ําด้วยงบประมาณ ๖๕ ล้านบาท จึงทํา ให้เกิดเป็นอ่างเก็บน้ําและนํ้าตกแอ่งอโศก ซ่ึงเป็นสถานที่ ทอ่ งเที่ยวประจําตาํ บลชยั บรุ มี าจนถงึ ปัจจุบัน ภาพท่ี ๒๓-๒๕ นํ้าตกแอง่ อโศก ภาพที่ ๒๖-๒๗ อ่างเกบ็ นํ้าแอง่ อโศก - ๑๑ -

๔. หนองนํ้าหักคง ปี ๒๕๔๒ ผู้ใหญ่ ประจักษ์ ชัยสิทธ์ิ เป็นคนริเริ่มทํา หนองน้ําหักคง พื้ นท่ี ๒๘ ไร่ ในหนองน้ําหัก คงมีการเล้ียงปลา ซึ่งได้เงินบริจาคพั นปลา ๓๕,๐๐๐ บาท ได้ปลามาแสนกว่าตัว และมี การเรม่ิ ปลกู ปาลม์ ในหนองน้าํ หักคง ปี ๒๕๔๙ มี ก า ร จั ด ง า น ใ น ห น อ ง นํ้ า หั ก ค ง ข้ึ น คร้ังแรก คอื งานปีใหม่ ปี ๒๕๕๐ การจัดงานวันเด็กในหนองน้ําหักคง ซ่ึงมี กิจกรรมแข่งเรือ การแสดง และเปิดจับปลา ในหนองน้ําหักคง จําหน่ายบัตรในการจับปลา ใบละ ๒๐๐ บาทหลังจากปี ๒๕๕๐ เกิดน้ํา ท่วมในหนองน้ําหักคงข้ึนทุกปี ซ่ึงไม่ได้มีการ ปรับปรุงและ ปล่อยรา้ ง ปี ๒๕๖๓ อําเภอชัยบุรีได้จัดตั้ง หนองน้ําหักคงเป็น สวนเฉลิมพระเกียรตริ ัชกาลที่ ๑๐ ปี ๒๕๖๔ ไดร้ บั ป้ายสวนเฉลมิ พระเกียรติ ในการพั ฒนาจะได้งบมาจากทางภาครัฐ มาเร่ือย ๆ และมี อบต. กับ อําเภอ มาช่วย พัฒนา แตย่ งั ไม่ไดเ้ ริ่มปรับปรุง มีโครงการในการพั ฒนาปรับปรุง คือ ทําคอนกรีตทางเท้า ทําสนามเด็กเล่น ทํา ที่ออกกําลังกาย และลอกคลองน้ําใหม่ ให้นํ้า กลับมาสะอาดเหมอื นเดิม ภาพที่ ๒๘-๒๙ หนองนา้ํ หกั คง ภาพที่ ๓๐ ป้ายบรเิ วณทางเขา้ หนองนา้ํ หักคง - ๑๒ -

- ๑๓ -

- ๑๔ -

- ๑๕ -

- ๑๖ -

- ๑๗ -

- ๑๘ -

- ๑๙ -

- ๒๐ -

- ๒๑ -

- ๒๒ -

- ๒๓ -

- ๒๔ -

- ๒๕ -

- ๒๖ -

- ๒๗ -

- ๒๘ -

- ๒๙ -

- ๓๐ -

- ๓๑ -

- ๓๒ -

- ๓๓ -

- ๓๔ -

บา้ นฝายท่า (บา้ นควนสูง) - ๓๕ -

- ๓๖ -

- ๓๗ -

- ๓๘ -

- ๓๙ -

- ๔๐ -

- ๔๑ -


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook