วดั พระธาตุหริภุญไชยวรมหาวหิ าร เป็นปูชนียสถานสาคญั ในภาคเหนือส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีอยคู่ ู่เมือง ลาพนู มาอยา่ งยาวนานต้งั อดีตนบั เวลามากกวา่ พนั ปี ต้งั อยใู่ จกลางเมืองลาพนู ห่างจากศาลา กลางจงั หวดั ประมาณ 150 เมตร มีถนนลอ้ มรอบส่ีดา้ น คือ ถนนอฏั ฐารสทางทิศเหนือ ถนนชยั มงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวนั ออก นอกจากน้นั ยงั เป็นองคพ์ ระธาตุประจาปี เกิด ของคนเกิดปี ระกา อีกดว้ ย ภายในบริเวณวดั พระธาตุหริภุญไชย ยงั มสี ิ่งทนี่ ่าสนใจ คอื พระบรมธาตุหริภุญไชย เป็นเจดียแ์ บบลา้ นนาไทยแทๆ้ ท่ีลงตวั สวยงาม ภายในบรรจุพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศ ทองคา ประดิษฐานในพระเจดีย์ ประกอบดว้ ยฐานปัทม์ แบบฐานบวั ลกู แกว้ ยอ่ เกจ็ ต่อจากฐาน บวั ลูกแกว้ เป็นฐานเขียงกลมสามช้นั ต้งั รับองคร์ ะฆงั กลม บลั ลงั กย์ อ่ เหล่ียม เจดียม์ ีลกั ษณะ ใกลเ้ คียงกบั พระธาตุดอยสุเทพที่จงั หวดั เชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกวา้ ง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บญั ชร (ร้ัวเหลก็ และทองเหลือง) 2 ช้นั สาเภาทอง ประดิษฐานอยปู่ ระจาร้ัวช้นั นอกท้งั ทิศเหนือ และทิศใต้ มีซุม้ กมุ ภณั ฑ์ และฉตั รประจาส่ีมุม และหอคอยประจาทุกดา้ นรวม 4 หอ บรรจุพระพทุ ธรูป นงั่ ทุกหอ นอกจากน้ียงั มีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจาไวเ้ พื่อเป็นที่ สกั การะบชู าของพทุ ธศาสนิกชนทวั่ ไป ซุ้มประตู ก่อนที่จะเขา้ ไปในบริเวณวดั ตอ้ งผา่ นซุม้ ประตูก่ออิฐถือปูนประดบั ลวดลายวจิ ิตรพิสดาร เป็น ฝีมือโบราณสมยั ศรีวชิ ยั ประกอบดว้ ยซุม้ ยอดเป็นช้นั ๆ เบ้ืองหนา้ ซุม้ ประตมู ีสิงห์ใหญ่คู่หน่ึงยนื เป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1 เมตร สิงหค์ ู่น้ีป้ันข้ึนใน สมยั พระเจา้ อาทิตยราช เมื่อทรงถวาย
วงั ใหเ้ ป็นสงั ฆาราม วหิ ารหลวง เม่ือผา่ นซุม้ ประตเู ขา้ ไปแลว้ จะเห็นวหิ ารหลงั ใหญ่เรียกวา่ \"วหิ ารหลวง\" เป็นวหิ ารหลงั ใหญ่มี พระระเบียงรอบดา้ น และมีมุขออกท้งั ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั เป็นวหิ ารท่ีสร้างข้ึนใหม่แทนวหิ าร หลงั เก่า ซ่ึงถูกพายพุ ดั พงั ทลายไปเม่ือ พ.ศ. 2466 วหิ ารหลวงใชเ้ ป็นที่บาเพญ็ กศุ ล และประกอบ ศาสนากิจทุกวนั พระ ภายในวหิ ารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิ ดทอง บน แท่นแกว้ รวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมยั เชียงแสน ช้นั ตน้ และช้นั กลางอีกหลายองค์ สุวรรณเจดยี ์หรือปทุมวดเี จดีย์ ต้งั อยทู่ างทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือขององคพ์ ระธาตุหริภุญชยั เป็นเจดียท์ ี่มีลกั ษณะการก่อสร้าง แบบเดียว กบั เจดียส์ ี่เหล่ียมหรือเจดียก์ ่กู ดุ ท่ีวดั จามเทวี จงั หวดั ลาพนู องคเ์ จดียส์ ร้างดว้ ยศลิ าแลง และอิฐ เป็นเจดียท์ รงปราสาทมีฐานส่ีเหล่ียมซอ้ นช้ึนไป หา้ ช้นั แต่ละช้นั ประดบั ซุม้ จระนาท้งั สี่ ดา้ น ดา้ นละสามซุม้ ภายในซุม้ จะประดิษฐานพระพทุ ธรูปดินเผาประทบั ยนื ประทบั อยู่ ซ่ึงมี ร่องรอย ของการลงรักปิ ดทอง ปัจจุบนั เหลือใหเ้ ห็นเพียงไม่กี่องค์ ส่วนบนสุดของเจดียเ์ ป็นกลีบ บวั ปนู ป้ันหุม้ ดว้ ยโลหะแผน่ ส่วนยอดปลายสุดทาเป็น กรวยแหลมเรียวยาวข้ึนไปสุวรรณเจดีย์ องคน์ ้ีมีพระพิมพท์ ี่สาคญั และ มีชื่อเสียงของเมืองลาพนู บรรจุอยภู่ ายใน คือ พระเปิ ม หอระฆงั ต้งั อยทู่ างทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือขององคพ์ ระธาตุหริภุญชยั เป็นหอสาหรับแขวนระฆงั และ กงั สดาลขนาดใหญ่ สร้างข้ึนโดย พระครูพทิ กั ษเ์ จติยานุกิจ (ครูบาคาฟ)ู เม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๑ ดา้ นบนแขวนระฆงั ขนาดใหญ่ซ่ึงหล่อข้ึนในสมยั เจา้ หลวงดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ เจา้ ผคู้ รอง นครลาพนู องคท์ ่ี ๗ และช้นั ล่างหอ้ ยกงั สดาลขนาดใหญ่ซ่ึงหล่อข้ึนเม่ือ พ.ศ. ๒๔๐๓ ฝีมือครูบา สูงเม่นโดยกญั จนมหาเถระ เจา้ อาวาส วดั ป่ าเมืองแพร่ และเจา้ หลวงเมือง เชียงใหม่ เป็นศรัทธา สร้างหล่อกงั สดาลน้ี ในวดั พระสิงห์เมืองเชียงใหม่เพอ่ื ไวเ้ ป็นเคร่ืองบูชาพระธาตุหริภุญชยั นอกจากน้นั ภายในวดั ยงั จดั แสดงวตั ถุโบราณท่ีอาคารพิพิธภณั ฑ์ 50 ปี ทางดา้ นในจดั แสดงวตั ถุ
โบราณและส่ิงของต่าง ๆ มากมาย นอจากเป็นสถานที่ พกั ผอ่ นแลว้ เรายงั สามารถใชเ้ ป็นแหล่ง ศึกษาหาความรู้ไดอ้ ีกทางหน่ึงอีกดว้ ย พระธาตุหริภุญชยั มีงานนมสั การประจาปี ในวนั เพญ็ เดือน 6 คือ วนั วสิ าขบชู า (งานประเพณี สรงน้าพระธาตุหริภุญชยั น้าท่ีสรงนามาจากบ่อน้าทิพยบ์ น ยอดดอยขะมอั ) นอกจาก โบราณสถานท่ีกล่าวมาแลว้ ภายในวดั ยงั มีโบราณสถานท่ีสาคญั อีกหลายอยา่ ง ไหเ้ ราไดก้ ราบ ไหวบ้ ชู า อาที วหิ ารพระเจา้ ทนั ใจ,วหิ ารพระเจา้ องคแ์ ดง,รอยพระพุทธบาทสี่ดวง,วหิ ารพระ นอน พระธาตุหริภุญไชย ลาพูน
ประวตั ิพระธาตุหริภุญไชย คร้ังหน่ึงพระเจา้ อาทิตยราช โปรดใหช้ ่างสร้างปราสาท แลว้ ปลกู หอจณั ฑาคาร (ท่ีพระบงั คน) ไวใ้ กลก้ บั ปราสาทน้นั โดยพระองคม์ ิไดท้ รงทราบว่าท่ีน้นั มีพระบรมสารีริกธาตุ ของพระ
สัมมาสัมพุทธเจา้ ประดิษฐานอยู่ เม่ือสร้างเสร็จแลว้ เวลาพระองคเ์ สดจ็ ไปลงพระบงั คนคร้ังใด ก็ จะมีกาตวั หน่ึงที่เฝ้ าอยู่ น้นั บินมาถ่ายมลู ตอ้ งพระเศยี ร กระพือปี กบินโฉบพระเศยี ร ทากิริยาขบั ไล่พระองคใ์ หไ้ ปพน้ จากที่น้นั พระเจา้ อาทิตยราช ท้งั ทรงพิโรธ ท้งั อศั จรรย์ พระทยั จึงรับสัง่ ให้ ขา้ ราชบริพาร ช่วยจบั กาตวั น้นั มาใหไ้ ด้ แต่ทาอยา่ งไรกจ็ บั กาตวั น้นั ไม่ได้ จนพระเจา้ อาทิตยราช ตอ้ งบนบานต่อเทวดาผรู้ ักษา พระนครใหจ้ บั กาตวั ต้นั ในที่สุดกจ็ บั ได้ แลว้ นาไปขงั ไว้ คืนน้นั ทรงพระสุบินวา่ เทพยดามาแจง้ แก่พระองคว์ า่ ใหเ้ อาทารกเกิดได้ 7 วนั ไปขงั รวมกบั กา ทารก ไดฟ้ ังเสียงกาทุกวนั กจ็ ะฟังภาษากาออกคร้ังบรรทมต่ืนแลว้ พระเจา้ อาทิตยราช กโ็ ปรดใหท้ า ตามที่ทรงพระสุบินทุกประการ เมื่อทารกอายไุ ด้ 9 ขวบ กส็ ามารถรู้ภาษา และพดู กบั กาได้ พระ เจา้ อาทิตยราช กโ็ ปรดใหถ้ ามสาเหตุท่ีกาประพฤติต่อพระองคแ์ ต่หนหลงั กท็ รงทราบวา่ บริเวณ หอจณั ฑา คาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระบรมศาสดา และกาไดร้ ับคาสง่ั ให้ เฝ้ ารักษาสถานท่ีน้ี จึงไดท้ าอาการทกั ทว้ ง พระเจา้ อาทิตยราช ทรงเล่ือมใสศรัทธาในพระบรม ศาสดาเป็นอนั มาก จึงโปรดใหร้ ้ือหอจณั ฑาคาร และขดุ ดินไม่ดีออกไปทิ้งนอกพระนคร แลว้ นา ดินดีมาถมปราบพ้นื ใหเ้ รียบ แลว้ โรยดว้ ยทราย ต้งั พิธีมณฑลปักราชวตั รฉตั รธง แต่งดว้ ยดอกไม้ หอม และจุดเทียนทาการสกั การะบชู าพระบรมสารีริกธาตุ ท้งั ยงั ป่ าว ประกาศชาวเมือง ใหม้ า สักการะบชู าดว้ ย เมื่อประกอบพิธีสกั การะบชู าแลว้ ผอบแวขนาดเท่าปลีกลว้ ย ซ่ึงบรรจุพระบรม สารีริกธาตุ กผ็ ดุ ข้ึนมาจากพ้ืนดิน ใหเ้ ห็นเป็นปาฏิหาริยท์ วั่ กนั ทุกคนที่อยู่ ณ ที่น้นั ต่างปี ติยนิ ดี อยา่ งยงิ่ พระเจา้ อาทิตยราช โปรดใหส้ ร้างพระธาตุ สูง 3 วา เป็นแบบเจดียม์ อญ แลว้ สร้าง พระ วหิ ารการเปรียญ มีซุม้ ท้งั 4 ดา้ น ครอบโกศทองคาสูง 3 ศอก ซ่ึงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แลว้ สร้างพระวหิ ารการเปรียญ ศาลานอ้ ยใหญ่ข้ึน ประกอบ จึงกลายเป็นวดั สาคญั ประจาพระนคร เสร็จแลว้ โปรดใหจ้ ดั งานฉลองใหญ่ โดยเหตุน้ี จึงใหถ้ ือกนั ในโบราณวา่ หากผใู้ ดจะปลูกบา้ น สร้างเรือน ในเมืองลาพนู น้นั จะตอ้ งมีความสูง ไม่เกิน 3 วา เพราะเกรงวา่ จะสูงกวา่ พระธาตุ ในรัชกาลพระเจา้ สพั พสิทธิ โปรดใหส้ ร้างโกศทองเสริมต่ออีก 1 ศอก และสร้างมณฑปเสริมต่อ พระธาตุข้ึนไปอีก 2 วา กษตั ริย์ รัชกาลหลงั ๆ ทรงทะนุบารุง จนกระทงั่ เมืองหริภุญชยั ตกอยใู่ น อานาจของพ่อขนั เมง็ รายมหาราช พระองคโ์ ปรดใหส้ ร้างมณฑปเสริมต่อพระบรมธาตุข้ึนอีก 10 วา และเอาทองสักโก (ทองที่ตีเป็นแผน่ ๆ) หุม้ พระธาตุ ต้งั แต่ชานจนถึงยอดแลดูเหลืองอร่าม งดงาม ต่อมามีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุน้ีอีกหลาย คร้ัง ในรัชกาลพระเจา้ ติโลกราช เม่ือ พ.ศ. 1986 ไดโ้ ปรดใหเ้ สริมพระธาตุเป็น 23 วา ฐานกวา้ ง 12 วา 2 ศอก ยอดมีฉตั ร 7 ช้นั
ต่อมาพระเมืองแกว้ ไดท้ รงบรู ณะปฏิสังขรณ์ และสร้างระเบียงหอก ซ่ึงเป็นร้ัวลอ้ มเมืองแกว้ 500 เล่ม แลว้ ทรงสร้างวหิ ารหลวง พ.ศ. 2329 ซ่ึงพระเจา้ กาวลิ ะทรงทาการ บรู ณะพระบรมธาตุ และทรงสร้างฉตั รหลวงข้ึน 4 มุม พร้อมกบั สร้างฉตั รยอดเจดียด์ ว้ ยทองคาเป็น 9 ช้นั ฐานพระ ธาตุเป็นรูปสี่เหล่ียมจตั ุรัส กวา้ งดา้ นละ 10 วา และสร้างร้ัวทองเหลืองลอ้ มรอบองคเ์ จดีย์ ดา้ นใน องคพ์ ระธาตุเป็นสีทองอร่าม
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: