ปญั หาสใังนคปมจั ไจทุบันย
ความหมายของปญั หาสงั คม (Social Problems) ปัญหาสังคม (Social Problems) หมายถงึ สภาวการณ์ทีเ่ ลวรา้ ยมพี ษิ เป็นภยั ไม่สอดคล้องกับค่านิยม เป็นผลกระทบต่อ คนเป็นจานวนมาก คุมคามก่ออันตราย เสียหายแก่สังคม คนจานวนมากเดือดร้อน เกิดความรู้สึกไม่พอใจและคนเหล่าน้ันคิดว่า ปัญหานั้น ๆ มีวิถีทางจะแก้ไขได้ และ พิจารณาเห็นว่าควรจะร่วมกันแก้ไขปัญหา นนั้ ใหห้ มดไปหรอื เบาบางลงไป
ลกั ษณะของปัญหาสงั คม ปญั หาสงั คม มีลักษณะสาคัญ ๆ พอสรปุ ได้ดงั น้ี 1. เป็นสภาวการณท์ ี่มผี ลกระทบกระเทอื นต่อคนเปน็ จานวนมากหรอื สภาวการณ์ท่ีเกิดขึน้ ในขนาดมากพอท่ีจะกระตุ้นคนจานวนมากให้เกิด ความรสู้ ึกเดอื ดรอ้ น
ลักษณะของปัญหาสงั คม(ต่อ) 2. เปน็ สิง่ ที่คนสว่ นใหญพ่ ิจารณาว่าเป็นสภาวการณ์ทีไ่ มพ่ งึ ปรารถนาหรอื เห็น วา่ จะเป็นอันตรายต่อสมาชกิ ถ้าปล่อยท้ิงไวอ้ ยา่ งนัน้ เปน็ สิ่งท่คี นสว่ นใหญ่พจิ ารณา เหน็ วา่ เปน็ สภาวะที่ไมต่ อ้ ง การให้ปรากฏ ไม่อยากให้มี 3. เปน็ สภาวการณอ์ ยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ที่ไม่สอดคลอ้ งกบั ค่านยิ มของคน จานวนมาก จนเป็นเหตุใหเ้ ขาตกลงใจทจี่ ะกระทาการแก้ไขสถานการณ์ นั้นเปน็ สภาวการณซ์ ่งึ คนจานวนมากพอสมควร เหน็ ว่าเบย่ี งเบนไปจาก บรรทดั ฐานของสงั คมบางประการท่ีเขายดึ มั่น
ลกั ษณะของปญั หาสังคม(ตอ่ ) 4. เป็นสภาวการณ์ท่สี ังคมเห็นวา่ สามารถจะปรบั ปรงุ แกไ้ ขให้หมดไป หรือ บรรเทาลงได้ เปน็ สภาวการณ์ที่จะต้องมกี ารกระทาการบางสิ่งบางอย่างเพ่อื แกไ้ ข เป็นต้น 5. มกี ารรว่ มมอื กนั ในหมู่สมาชิกของสงั คม ในท่ีจะขจัดแกไ้ ข ป้องกนั มกี ารแสดงออกในรูปของการกระทารว่ มกนั เปน็ ต้น 6. ปัญหาสงั คมย่อมมีผลมาจากนโยบายของรัฐหรือจากพฤตกิ รรมทส่ี ังคม มไิ ดค้ าดคดิ ล่วงหนา้ ไวก้ อ่ น
ลักษณะของปัญหาสงั คม(ตอ่ ) 7. บุคคลมชี นช้ันทางสงั คมท่ีแตกต่างกนั ย่อมมคี วามคดิ เหน็ การแกป้ ญั หา สังคมที่แตกต่างกัน ทุกคนยอมรบั การแก้ปญั หาสังคมทีเ่ ป็นประโยชน์แกต่ วั เอง มากท่ีสุด 8. เป็นสภาวการณ์ทซี่ ับซ้อน เป็นเรอ่ื งผ้คู นพากนั ห่วงใย และ นามาวพิ ากษ์วจิ ารณอ์ ภิปราย และการแก้ไขปัญหาน้ันต้องอาศยั ความร่วมมอื จากบคุ คลหลายฝา่ ยในสังคมช่วยกัน เป็นตน้ 9. เปน็ สภาวการณท์ ี่มอี ย่จู ริงและคนในสงั คมนั้น กาหนดให้เปน็ ปญั หาสังคม อาจเป็นปัญหาท่ีเกีย่ วข้องกบั ความตอ้ งการขนั้ พื้นฐานของประชาชนในสังคม ได้แก่ ปจั จยั 4 เปน็ ตน้
ทมี่ าของปัญหาสังคม ท่ีมาของปัญหาสังคมเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมท่ีเกิดขึ้นในทุก สังคม ไม่ว่าสังคมนั้นจะเป็นสังคมที่เจริญแล้ว หรือเป็นสังคมที่ยังล้าหลังอยู่ก็ ตาม และปัญหาสังคมที่เกิดข้ึนน้ันส่วนใหญ่น้ัน คนในสังคมนั้น ๆ เป็น ผสู้ รา้ งหรอื กาหนดขึ้น แตก่ ็มบี างปัญหาซึ่งเกิดขึ้นจากสภาพธรรมชาติ และ บางปัญหาก็เกิดจากท้ังสภาพธรรมชาติและคนในสังคมเป็นตัวช่วย ก่อให้เกิดปัญหาสังคมน้ัน ๆ ขึ้น ดังน้ัน จึงอาจแยกที่มาของปัญหาสังคมได้ ดงั นี้
ทมี่ าของปัญหาสังคม 1.ปญั หาสงั คมทีเ่ กดิ จากมนษุ ย์ จากการที่ผู้คนในสังคมน้ันสร้างขึ้นหรือกาหนดขึ้น เน่ืองความผิดปกติใน องค์ประกอบของร่างกาย เช่น โครโมโซมเพศผิดปกติ ต่อมไร้ท่อทางานผิดปกติ ความคิดความเช่ือของมนุษย์บางประการที่อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ เช่น เช่ือว่าการ ตายเพื่อพระเจ้าจะได้บุญอย่างยิ่ง ตัวอย่างของปัญหาสังคมท่ีเกิดจากมนุษย์ เช่น โสเภณี ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาสงครามและปัญหา ส่งิ แวดลอ้ มเปน็ พษิ ฯลฯ
ท่มี าของปญั หาสังคม 2.ปัญหาสงั คมมนุษย์ทีเ่ กดิ จากสภาพแวดลอ้ ม โดยทว่ั ไปแล้วสภาพธรรมชาติ มักจะเป็นสาเหตุทางอ้อม หรือเป็นปัจจัยท่ีจะ ก่อให้เกิดปัญหาสังคมมากกว่าที่จะเป็นสาเหตุโดยตรงของปัญหาสังคม เช่น ความแห้งแล้ง ทาให้เกิดปัญหาความยากจน ปัญหาอพยพ ปัญหาทาง การเมืองการปกครอง หรือฝนตกหนักทาให้เกิดปัญหาน้าท่วมและมีผล สืบเน่ืองถงึ ปัญหาจราจร ปัญหาโรคระบาด ฯลฯ สภาพแวดลอ้ มทางสังคมกอ็ าจกอ่ ให้เกิดปญั หาสงั คมได้ ตวั อยา่ งเชน่ ถ้าชุมชนมีแหลง่ สบู กัญชา โรงยาฝิ่น ก็อาจทาใหอ้ าณาบริเวณน้นั มผี ู้ติดยาเสพยต์ ิดมากข้ึน เพราะเหน็ คนเขาสบู กัญชาเป็นเร่ืองธรรมดา จึงเป็นเหตใุ หเ้ กดิ ปัญหายาเสพย์ติด ฯลฯ
ทม่ี าของปญั หาสงั คม 3.ปัญหาสงั คมท่ีเกิดจากมนุษย์และสภาพธรรมชาติ ปัญหาสังคมบางปัญหามี ส า เ ห ตุ ม า จ า ก ทั้ ง ม นุ ษ ย์ แ ล ะ ธรรมชาติเป็นต้นเหตุประกอบกัน เช่น ปัญหาน้าท่วม อาจเกิดจากฝน ตกหนัก ประกอบกับมีผู้คนสร้างสิ่ง กีดขวางทางระบายน้า หรือสร้าง เข่ือนก้ันน้า ทาให้น้าท่วมบริเวณ ที่ดินทามาหากินของผู้คนที่อยู่เหนือ เข่ือน
ประเภทของปญั หาสงั คม นกั สงั คมวิทยามักแบ่งประเภทของปญั หาสังคมที่มผี ลกระทบตอ่ ความมัน่ คง ดังน้ี 1. ปญั หาสังคมที่เกดิ จากการเปลย่ี นแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีต่างๆ (Social Problems Technological Changes) 1. ปัญหาความยากจน (Poverty) 6. ปญั หาการว่างงาน (Unemployment) 2. ปญั หาชุมชนแออัด (Slum) 7. ปัญหาวยั รุ่น (Teenager) 3. ปัญหามลภาวะ (Pollution) 8. ปญั หาครอบครัว (Family) 4. ปัญหาจราจร (Traffic) 9. ปญั หาหนี้สิน (Debt) 5. ปญั หาอุบตั ิเหตุ (Accident)
2. ปญั หาสงั คมทเี่ กดิ จากความไร้ระเบียบวนิ ัยและขาดจติ สานกึ หรือมพี ฤตกิ รรม เบี่ยงเบนของมนษุ ยใ์ นสังคม (Social Disorganization and Deviant Behavior) ๑. ปญั หาอาชากรรม (Criminal Problem) ๒. ปญั หายาเสพตดิ (Drug Problem) ๓. ปญั หาแรงงาน (Labor Problem) ๔. ปญั หาโรคเอดส์ (AIDS Problem) ๕. ปญั หาทุจริตคอรรปั ชัน่ (Corruption Problem) ๖. ปัญหาการฆ่าตัวตาย (Suicide Problem) ๗. ปญั หาโสเภณี (Prostitution Problem) ๘. ปัญหาความม่นั คงของชาติ (National Problem) ๙. ปัญหาการพนันและอบายมขุ (Gambling Problem)
ทฤษฎอี ธบิ ายสาเหตขุ องปัญหาสงั คม ๑ ทฤษฎกี ารเปลยี่ นแปลงทางสงั คม และการล้าหลงั ทางวัฒนธรรม Social change and cultural lag theory ปัญหาสังคมหลายปัญหาเป็นผลสืบเน่ืองมาจากการเปล่ียนแปลงทางสังคม โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงความเจรญิ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยใี นสมยั ปัจจุบัน ทาให้วิถีการดาเนิน ชีวิตของคนเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้คนต้องเปลี่ยนแปลงและปรับตัวเองให้ทันกับการ เปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึน หากไม่สามารถทาได้ทันในเวลาท่ีต้องการก็อาจนาไปสู่ปัญหา สังคมได้ในทีส่ ดุ
ทฤษฎอี ธบิ ายสาเหตุของปัญหาสงั คม (ตอ่ ) การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เห็นได้ชัด คือ การนาเอาระบบ อุตสาหกรรมเขา้ มาใช้ รวมท้ังการกลายมาเป็นเมืองของชุมชนหลายแห่ง ทา ให้คนที่อยู่ตามท้องไร่ท้องนาท่ีมีอาชีพเกษตรกรรม พากันอพยพเข้ามาหา งานทาในเขตเมืองต่างๆมากมาย บางคนก็หางานทาไม่ได้เพราะเป็นแรงงานที่ ไร้ฝีมือ Unskilled labour ก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน หรือได้ค่าจ้าง แรงงานต่า เกิดปัญหาไม่มีที่อยู่อาศัย เกิดชุมชนแออัด บางคนหางานทาไม่ได้ก็ หาทางออกด้วยการก่ออาชญากรรม เช่น ลักขโมย ปล้นจี้ เกิดปัญหาสุขภาพจิต เสอ่ื ม รวมทั้งขาดแคลนทีพักผ่อนหย่อนใจ
ทฤษฎอี ธิบายสาเหตุของปญั หาสงั คม (ต่อ) ๒ ทฤษฎคี วามไมเ่ ปน็ ระเบียบทางสงั คม Social disorganization theory ทฤษฎที อี่ ธิบายถึงสภาพท่ีสถาบันทางสงั คม ไม่สามารถทาหนา้ ทค่ี วบคุมสมาชกิ ใน สงั คมได้กอ่ ให้เกดิ ความบกพรอ่ งในหน้าท่ี รวมทั้งไม่มกี ลไกทเี่ พยี งพอในการ ควบคมุ สมาชิกให้ปฏิบตั ิตามบรรทดั ฐานของสงั คม สถาบันต่าง ๆ ทาหนา้ ท่อี ยา่ ง ไมป่ ระสานสอดคล้องกนั ตา่ งคนตา่ งทา สมาชิกในสังคมจึงเกิดความ สบั สน วนุ่ วายทาตวั ไม่ถกู เกดิ พฤติกรรมทเี่ บ่ียงเบนไปจากปรกติ เช่น ปญั หาการกระทา ผดิ ของเดก็ ปญั หาอาชญากรรม การฆ่าตัวตาย เป็นตน้ แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม ไมจ่ าเป็น ว่า ทุกสภาพท่ีไม่เป็นระเบยี บจะต้องเป็นปญั หาสังคมเสมอไป ท้ังนี้ขนึ้ อย่กู บั ระดับ ความรนุ แรงของปญั หาอีกดว้ ย
๓ ทฤษฎกี ารขดั กันในคุณคา่ หรือคา่ นิยม The value conflict theory ปัญหาสังคมจะเกิดข้ึนเม่ือกลุ่มคนบางคนบางกลุ่มหรือหลายกลุ่มใน สังคม พยายามเปล่ียนแปลง แก้ไขสภาวการณ์ต่าง ๆ ในสังคมแต่การพยายาม ดงั กล่าว ไม่เป็นที่สบอารมณ์ของกลุ่มอื่น ๆ เพราะเป็นการขัดผลประโยชน์และคา นยิ มของเขาเหลา่ นั้น ดังน้ันตราบใดที่การขัดกันในค่านิยมยงั มีอยู่ ปัญหาก็ยงั คงมีอยู่ ตลอดไป
สาเหตุของปัญหาสังคม ๑. การเปล่ยี นแปลงทางสังคม (Social Change) ๒. การเสียระเบียบหรอื ความไมเ่ ปน็ ระเบยี บในสังคม (Social Disorganization) ๓. บุคลกิ ภาพ (Personality) หรือพฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ ๔. พฤติกรรมเบ่ยี งเบนไปจากบรรทดั ฐานของสังคม
สาเหตุของปญั หาสงั คม ๑ การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม (Social Change) การเปล่ียนแปลงทางสังคมในระบบความสัมพันธ์ของมนุษย์ท่ีอยู่ รวมกันในสังคม เป็นการเปล่ียนแปลงท่ีเห็นได้ด้วยตา มีผลสะท้อนให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงในระบบความสัมพันธ์ของบุคคลแตกต่างไปจากที่เคยเป็นอยมู่ าแต่ เดิม
สาเหตุของปญั หาสังคม ๑ การเปล่ยี นแปลงทางสงั คม (Social Change) ๑) การเปลีย่ นเป็นอุตสาหกรรม ๑.๑) การเปลี่ยนกระบวนการและ วิธีการในการผลิต ระบบโรงงานมีเพียง ผู้ดาเนินการ และผู้ควบคุมเครื่องจักร เท่าน้ันก็พอ คนงานไม่ได้เป็นผู้ทา จึงลด ความสาคัญลงไป เพราะเครื่องจักรเป็น ปัจจัยสาคัญในการผลิต เช่น การท่ี เคร่ืองจักรมีประสิทธิภาพเป็นการช่วย เพิ่มผลผลิตออกสู่ท้องตลาด ปัญหาท่ี ตามมาคือสินค้าผลิตมากเกินไป ทาให้ คนนับพันตอ้ งวา่ งงาน
สาเหตุของปญั หาสังคม ๑ การเปล่ยี นแปลงทางสังคม (Social Change) ๑) การเปล่ยี นเป็นอุตสาหกรรม ๑.๒) การเปลี่ยนแปลงเร่ืองความเป็น เจ้าของและการควบคุมโดยรวมธุรกิจ เข้าเป็นรูปบริษัท เจ้าของบริษัทสนใจ แต่ ความม่ันคงในการลงทุน ผลประ โ ย ช น ที่ จ ะ ไ ด้ รั บ ก า ร ร ว ม ตั ว ข อ ง อุตสาหกรรม และธุรกิจเข้าเป็นอันหน่ึง อันเดียวกัน กลับกลายเป็นการทาลาย ความเจรญิ ก้าวหน้าและการอย่รู อดของ ธุรกิจย่อยๆ
สาเหตุของปัญหาสังคม ๑ การเปล่ยี นแปลงทางสงั คม (Social Change) ๒) การอพยพเคลื่อนย้าย ปัญหาที่ตามมา คือ จานวนคนท่ีอพยพจากชนบทเข้ามาทางานใน เมืองตลอดจนนักธุรกิจท่ีลงทุนในกิจการอุตสาหกรรมมีมากข้ึน ส่วนทางด้าน เกษตรกรรมก็เริ่มใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคน พวกชาวนาหรือคนงานจึงต้อง อพยพเขา้ มาทางานในโรงงานแทน
สาเหตุของปัญหาสงั คม ๑ การเปลย่ี นแปลงทางสังคม (Social Change) ๓) เมืองและสงั คมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เมอื งใหญๆ่ ในสมยั ปัจจุบันเกดิ ความก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์ เชน่ มีการวางทอ่ สายโทรเลข โทรศพั ท์ สายไฟ ทอ่ ระบายนา้ ทอ่ ประปา เป็นตน้ สิ่งเหลา่ นี้มีข้ึนเพื่อสนองความตอ้ งการและความสะดวกสบาย แกช่ วี ติ ประจาวนั ของคน แต่ในขณะเดยี วกนั เมอื งมกี ารแขง่ ขันกนั มาก ค่าครองชพี สงู ทาใหห้ ลายกล่มุ ปรบั ตัวไม่ได้
สาเหตุของปญั หาสังคม ๑ การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม (Social Change) ๔) ค่านยิ ม คือ สงิ่ ทก่ี ลุ่มสงั คมหน่งึ เห็นว่าเปน็ สง่ิ ท่ีมคี า่ ควรแก่การกระทา นา่ กระทา หรอื เหน็ วา่ ถกู ต้อง ซ่ึงค่านยิ มในปัจจุบนั ไดม้ กี ารย้าผดิ ๆ กันในหลายเร่อื งเช่น เร่ืองเงนิ อานาจ ตาแหนง่ วัตถมุ ากกวา่ เร่อื งอืน่ ๆ บุคคลจึงถกู บบี ให้พยายาม ไขวค่ ว้าในสงิ ทต่ี นหวัง บางคนทาดีเทา่ ไรกไ็ มไ่ ด้ดกี อ็ อกมาในรูปทาชั่ว เช่น พอ่ เล้า แม่เล้า เมยี เช่า โสเภณี การทาสินค้าปลอม เปน็ ตน้
สาเหตุของปญั หาสงั คม ๑ การเปล่ยี นแปลงทางสงั คม (Social Change) ๕) ปญั หาท่เี กิดจากวิทยาการ ในปัจจุบันน้ีวิทยาศาสตร์และวิทยาการมีอิทธิพลสาคัญท่ีกระทบกระเทือนต่อชีวิต ของบคุ คล และรูปการปกครอง รวมตลอดถงึ กระบวนการทางการเมอื ง วทิ ยาการก่อให้เกิดสถานการณ์ใหม่ๆ ในโลก เช่น มีการเพ่ิมกาลังอาวุธ การสะสม และการใช้จ่ายในทางทหาร วิทยาศาสตร์และวิทยาการทาให้มนุษย์มีความเจริญ ในด้านการศกึ ษาความเข้าใจและความสานกึ ตา่ งๆ ประชาชนก็เริม่ ตน่ื ตัวตอ้ งการมี สว่ นในการปกครองการไดบ้ ริการตา่ งๆ จากรัฐ และต้องการให้เกิดความยุติธรรมใน การแบง่ ปนั รายได้ รวมท้ัง ใหม้ ีการยอมรับในเร่ืองศกั ด์ิศรีของบคุ ล
สาเหตุของปญั หาสังคม ๒ การเสียระเบียบหรือความไมเ่ ป็นระเบยี บในสงั คม (Social Disorganization) สังคมท่ีไม่เป็นระเบียบ คือ สังคมที่ไม่ สามารถจะควบคุมสมาชิกของสังคมให้ ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนที่วาง ไว้ โดยทั่วไปทุกสังคมมักจะวางกฎเกณฑ์ หรือ บ ร ร ทั ด ฐ า น บ า ง อ ย่ า ง ใ ห้ ส ม า ชิ ก ท่ี ม า อ ยู่ ร่วมกันได้ใช้เป็นแนวทางในการอยู่รวมกัน อย่างมีระเบียบ ความเป็นระเบียบนี้ไม่ใช่เกิด จากการใชอ้ านาจแตเ่ ป็นการยอมรบั กฎเกณฑ์ ร่วมกันอย่างไรก็ตาม ความไม่เป็นระเบียบใน สังคมมีสาเหตุสาคัญ ๒ ประการ คือ
สาเหตุของปญั หาสังคม ๒ การเสยี ระเบียบหรือความไม่เปน็ ระเบยี บในสงั คม (Social Disorganization) ๑) ความลม้ เหลวของกล่มุ จารีตประเพณี ปกตแิ ตล่ ะบุคคลจะรกั ษาคา่ นิยมและความมงุ่ หวงั ตลอดจนกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของสังคมทตี่ นเปน็ สมาชิกวิธกี ารถา่ ยทอด ก็อาจออกมาในรูปบังคับให้ทกุ คนกระทาตาม ซ่งึ วธิ ีนีจ้ ะได้ผลก็ต่อเม่ือสถาบันถา่ ยทอดความรู้ เชน่ ครอบครัว โรงเรยี น รัฐบาลมเี สถียรภาพ แต่ถ้าขาดหลักสาคญั ในการ ทางานร่วมกนั หรอื ไม่ประสานกนั จะทาให้สถาบนั ไมอ่ าจถา่ ยทอดและ รกั ษาคา่ นยิ มตา่ งๆ ของสังคมได้เพราะขาดความยึดม่นั หรือขาดความ ศักดิ์สทิ ธ์ิ ซง่ึ ความไม่เป็นระเบียบในสังคมน้เี ป็นมลู ฐานเบอ้ื งตน้ ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาสังคมต่าง ๆ ได้ เชน่ เดก็ กระทาผดิ อาชญากรรม เปน็ ตน้
สาเหตุของปญั หาสงั คม ๒ การเสียระเบยี บหรอื ความไม่เปน็ ระเบยี บในสงั คม (Social Disorganization) ๒) ความขัดแยง้ ระหว่างกฎเกณฑก์ ับความมุ่งหวัง เม่ือกลมุ่ จารีตประเพณี ในสังคมสลายลง หรอื ไมร่ ักษาหนา้ ท่ีของตนได้ สมาชกิ ของ กลุม่ จะขาดความศรทั ธาดงั น้ัน คา่ นยิ มของ กล่มุ อาจจะมีผลในทางตรงกันขา้ ม เพราะ ไมม่ อี ะไรเป็นเครอ่ื งยึดเหนยี่ วใหก้ ลุ่มมี ความเข้าใจหรอื ปฏบิ ัติสอดคลอ้ งในแนว เดยี วกนั
จากขอ้ มลู เบือ้ งต้นเกี่ยวกับความไม่เปน็ ระเบยี บของสงั คม ซงึ่ เป็นภาวะที่สังคมหรอื สถาบนั พื้นฐานทางสังคมไม่สามารถจะควบคมุ สมาชิกของสังคม ใหป้ ฏิบตั ิตามระเบียบซง่ึ ใหเ้ กิด ปญั หาสังคมท่สี าคญั สามารถสรุปได้ ๕ ประการดว้ ยกนั คือ ๑. ความลม้ เหลวของกลุม่ จารตี ประเพณีหรือสถาบนั พ้ืนฐาน ๒. ผลประโยชน์ของกลุ่มชนขัดกนั ๓. หน้าทต่ี ามสถานภาพและบทบาทท่ีขดั แยง้ กัน ๔. ความผดิ พลาดในการอบรมใหเ้ รียนรู้ระเบยี บแบบแผนของสังคม สถาบันหรือหนา้ ท่ี ๕. ความขัดแยง้ ระหวา่ งกฎเกณฑ์กับความมุ่งหวัง กฎเกณฑต์ า่ ง ๆ ที่กาหนดกาหนดไว้ให้ ประชาชนในสังคมปฏิบตั ติ าม
สาเหตุของปญั หาสงั คม ๓ บุคลิกภาพ (Personality) หรอื พฤติกรรมที่เกดิ จากการเรยี นรู้ บคุ คลทเี่ กิดมาแตล่ ะคนจะมีลกั ษณะทเ่ี ปน็ ของตัวเองโดยเฉพาะไมซ้าแบบใคร เพราะจะไม่มีใครเหมือนกับใครในทุกด้าน และบุคลิกภาพพัฒนาไปพร้อมกับ การพัฒนาทางกาย อารมณ์ และด้านอ่ืน ๆ ของจิตใจ และแม้บุคคลจะมี ลักษณะทางกายเหมือนกัน การ เรียนรู้ก็ไม่เหมือนกัน แม้จะมี สภาพแวดล้อมอย่างเดียวกนั
บุคลิกภาพในสังคมมีท้ังที่สังคมยอมรับและไม่ยอมรับ ท่ีสังคมยอมรับ เช่น เคารพผู้ใหญ่ มีความมีความซ่ือสัตย์ ขยันขันแข็ง เป็นต้น ส่วนที่สังคมไม่ ยอมรับ เช่น ลักขโมย เสพสุรา เสพยา ฆ่าคนตาย เป็นต้น ซึ่งสังคมจะต้อง หาทางแก้ไขปรบั ปรงุ ใหด้ ขี ึ้น
สาเหตขุ องปญั หาสังคม ๔ พฤติกรรมเบีย่ งเบนไปจากบรรทัดฐานของสงั คม พฤตกิ รรมเบีย่ งเบนไปจากบรรทัดฐานของสงั คม เป็นพฤติกรรมท่สี งั คมไม่ ยอมรบั และไม่อาจทาได้ สังคมเห็นวา่ เปน็ ความรับผดิ ชอบของสังคมและ มผี ลกระทบตอ่ สงั คมโดยสว่ นรวม เชน่ ผ้เู สพสิง่ เสพตดิ ให้โทษ
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: