1 เทคนิคการวิเคราะหข์ ้อมูลคุณภาพ (Qualitative Data Analysis Technic : QDAT) นอ.ดร.นภทั ร์ แกว้ นาค (นกั วจิ ยั แห่งชาติตงั้ แต่ พ.ศ. 2538) เกร่ินนา “การวจิ ยั ” เป็นทงั้ ศาสตรแ์ ละศลิ ปะรวมถงึ ตอ้ งมีเทคนิคและประสบการณท์ ่ีจะทาใหเ้ กดิ การคน้ ควา้ ใหข้ อ้ สรุปและมีขอ้ คน้ พบ ท่ีเป็นความจรงิ (ในระดบั หนง่ึ ) ท่ีผวู้ จิ ยั คาดหวงั กระบวนการ “วิเคราะหข์ ้อมูลเชิงคุณภาพ” เป็นทงั้ ศาสตร์ ศิลปะ และเทคนิค ท่ีจะตอ้ งเรยี นรูเ้ ชิง หลกั การ มีการประยกุ ตใ์ ชด้ ้วยศิลปะเชิงศาสตรอ์ ย่างเหมาะสมพรอ้ มทงั้ มีทกั ษะเชิงเทคนิคการวิเคราะห์ ขอ้ มลู ท่ีดี จึงจะทาใหไ้ ดผ้ ลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ท่ีดีมีความถกู ตอ้ ง (มากกว่าความถูกใจ) มีความเช่ือถือได้ เป็นผลงานการวจิ ยั ท่ีมีคณุ ภาพมีคณุ คา่ และมคี ณุ ประโยชน.์ .. ความหมายของข้อมลู การวิจยั เชิงคุณภาพ คาว่า “ข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ” มิไดห้ มายถึงเพียงขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการวิจยั เชิงคุณลกั ษณะ (Quality Research) หรือรูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ แต่เป็นคุณลักษณะของข้อมูลการวิจัยท่ีอยู่ใน ประเภทขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ (Qualitative Data) ท่ีไดม้ าจากกระบวนการวิจยั ทงั้ เชิงปรมิ าณ หรอื การวิจยั เชิง คณุ ภาพ แตเ่ ป็นขอ้ มลู การวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณท่สี ามารถนบั จานวนได้ คานวณได้ หรอื เป็นตวั เลข เป็นสถิติขอ้ มูล การวิเคราะหก์ ็จะมีรูปแบบการวิเคราะหด์ ว้ ยสถิติเชิงบรรยาย (Descriptive Analysis statistic) หรอื การใช้ สถิติการวิเคราะห์เชิงอ้างอิง (Inferential Analysis statistic) หรือสถิติการวิเคราะห์ขั้นสูงท่ีเรียกว่า Advance Statistical Analysis ซ่งึ ผวู้ ิจยั หรอื นกั สถติ ิ สามารถเรยี นรู้ ศกึ ษา และมีเทคนิคการวิเคราะห์ ตาม ระบบความรูห้ รอื การใชโ้ ปรแกรมสถิติสาเรจ็ รูป ดาเนินการวิเคราะห์ ไดค้ าตอบโดยง่ายและแปลความสรุป ความได้ โดยไม่ยาก เพราะมีเคร่ืองมือวิเคราะหข์ อ้ มูลให้มีตัวเลขไวอ้ ธิบาย มีสถิติการยืนยันใหผ้ ูว้ ิจัย อธิบายหรือภิปรายผลไดอ้ ยา่ งม่นั ใจ แต่หากเป็นขอ้ มลู การวิจยั ท่ีเป็นลกั ษณะขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ เป็นขอ้ มลู เชิงคณุ ลกั ษณะ เป็นขอ้ มลู เชิงเนือ้ หา ผวู้ ิจยั ไม่สามารถใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รูปไดง้ ่ายนัก (แมจ้ ะมี Qualitative Analysis Software) จึง ต้องมีการเรียนรู้ทาความเข้าใจและฝึ กทักษะการวิเคราะหข์ ้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพให้มีความ ชานาญก่อน จึงจะมองเห็นข้อมูลการวิจัยมีชีวิตทาข้อมูลการวิจัยให้มีความหมายเห็นข้อมูลการ วิจยั อยา่ งมคี ุณค่า แล้วจะเกิดความรัก ความภาคภมู ใิ จในการวิจยั ทกุ ประเภทมากยง่ิ ขึน้
2 คุณลักษณะข้อมูลเชงิ คุณภาพ ขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพเป็นขอ้ มลู การวิจยั ท่ีนอกเหนือจากขอ้ มลู เชิงปรมิ าณทงั้ มวล เป็นขอ้ มลู ท่ีผวู้ ิจัย รบั รูไ้ ด้ สมั ผสั ได้ มองเห็นได้ และมองไม่เห็นแต่ทาความเขา้ ใจได้ โดยมิใช่การนบั จานวนการคานวณ หรือ การรวบรวมดว้ ยการแปลงค่าขอ้ มลู เป็นสถิติ ตวั เลขแต่เป็นขอ้ มลู การวิจัยท่ีมีความประณีต ละเอียดอ่อน หรอื มีความลกึ ซงึ้ แยบยล ทงั้ โดยวธิ ีการไดม้ า และคณุ ลกั ษณะของตวั ขอ้ มลู เชน่ ขอ้ มลู เชิงจติ วิญญาณความเป็ นคนไทย - ความศรทั ธาในหลกั ธรรมของคนไทย - ความเช่ือในกฎแห่งกรรม - ความกตญั ญกู ตเวทขี องคนดี - ประวตั ิศาสตรแ์ หง่ การกาเนิดรฐั ไทย - ปรากฏการณท์ างการเมืองในระบบประชาธิปไตย - พทุ ธธรรรมในวถิ ีชีวิตของคนไทย - ความเมตตาของผใู้ หญ่ท่ีมีตอ่ เดก็ - ความเอือ้ อาทรของ แมท่ ีมตี อ่ ลกู - มติ ิความผกู พนั ทางจิตวิญญาณของหนมุ่ สาวขา้ มภพ - พฤตกิ รรมความรกั ท่ีบรสิ ทุ ธิ์ของ พอ่ แม่ ท่ีมีตอ่ ลกู ทงั้ คนและสตั ว์ - จิตสานกึ ความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ - แนวโนม้ เศรษฐกิจไทย ภายใตห้ ลกั ปรชั ญาทนุ นิยม - คณุ ธรรมนาชีวิตดว้ ยเศรษฐกจิ พอเพียง ฯลฯ กลา่ วไดว้ ่า คณุ ลกั ษณะของขอ้ มลู เช่นนีโ้ ดยเนือ้ หาของขอ้ มลู เอง ย่อมมีคณุ คา่ มีความหมาย โดยตวั เอง ท่ีไม่สามารถแปลงค่าเป็นตวั เลขในเชิงปรมิ าณได้อย่างแทจ้ รงิ การอธิบายความหมายของขอ้ มลู เหลา่ นีจ้ งึ มเี ทคนิควธิ ีวิทยา โดยเฉพาะท่ีเรยี กวา่ “เทคนิคการวิเคราะหข์ อ้ มูล เชิงคุณภาพ : QDAT” เครื่องมอื การวจิ ยั เชงิ คุณภาพ (Qualitative Research instrument) ขอ้ มลู เชิงคณุ ลกั ษณะ หรือขอ้ มลู การวิจยั เชิงคณุ ภาพ ย่อมเกิดจาก เคร่ืองมือ หรือวิธีการวิจยั เชิง คณุ ภาพ เชน่
3 ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการสมั ภาษณ์ ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากประสบการณต์ รง ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการสงั เกต ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการประชมุ กลมุ่ ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการเสวนา ทศั นคติ ความเห็น ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการสบื คน้ เสาะหา ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการบนั ทกึ เรยี บเรยี ง ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากหลกั ฐานประวตั ิศาสตร์ ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาปรากฏการณ์ ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากการระลกึ รูด้ ว้ ยจิตสภาวะ ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการรวบรวมเอกสารวรรณกรรมตา่ งๆ ฯลฯ จะเห็นไดว้ า่ คณุ ลกั ษณะของขอ้ มลู เหลา่ นี้ ไดม้ าจากวิธีการวิจยั หลากหลาย ท่ีมิใช่เพียงการสารวจ นบั จานวน หรอื ใหแ้ สดงระดบั ความคดิ เห็น เป็นระดบั คา่ (สมมตุ ิ) สถิติแทนขอ้ มลู ของการวจิ ยั แบบผิวเผิน คุณภาพของข้อมลู การวจิ ยั เชงิ คุณภาพ (The Quality of Quality Data) คณุ ภาพของขอ้ มลู เชิงคณุ ลกั ษณะ หรอื อาจเรียกวา่ เป็นความเช่ือถือได้ (Creditability) ของขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ ท่ีกลา่ วขา้ งตน้ ย่อมเกิดจากหลากเหตปุ ัจจยั ในการท่ีจะทาให้ ไดม้ าซง่ึ คณุ ลกั ษณะ ขอ้ มลู การ วจิ ยั ท่ีมีคณุ ภาพ มีคณุ คา่ และมีคณุ ประโยชน์ เช่ือถือไดจ้ รงิ คอื 1. ผวู้ ิจยั มีคณุ ภาพในวธิ ีวิทยาการวิจยั 2. เครื่องมือการวิจยั มคี ณุ ภาพ 3. กระบวนการเก็บขอ้ มลู การวจิ ยั มีคณุ ภาพ 4. ผใู้ หข้ อ้ มลู /แหลง่ ขอ้ มลู มีคณุ ภาพ
4 5. มีเทคนิคการยืนยนั ความเท่ียงตรงของขอ้ มลู เชน่ 5.1 เทคนคิ การยืนยนั 3 เสา้ (Triangulation Technic) 5.2 เทคนิค Snowball Sampling (การสมุ่ เลือกผรู้ ูแ้ บบบอลไหลตอ่ เน่ือง) 5.3 เทคนคิ Expertise Opinion (ความคดิ เหน็ ผเู้ ช่ียวชาญ) 5.4 เทคนิค Data Saturated (การอ่มิ ตวั ของขอ้ มลู ) 5.5 เทคนิค Subjectivity confirm Subjectivity (อตั ตวสิ ยั ยืนยนั อตั ตวสิ ยั ) 5.6 เทคนิค Reality Confrontation (การเผชิญความจรงิ ) 5.7 เทคนคิ Recheck & Crosscheck Data (การตรวจซา้ และตรวจสอบขา้ มแบบ) 5.8 เทคนิค ลกั ษณะหลากวธิ ีหลาย (Multi Data Multi Method) โดยท่ีแต่ละเทคนิควิธีมีสาระสาคญั ของการปฏิบตั ิ ดงั นี้ ลาดับ Data Creditability Technic วิธดี าเนินการกบั ข้อมลู 1 Triangulation Technic เป็นการเก็บขอ้ มูลเชิงคุณภาพแบบยืนยัน 3 2 Snowball Sampling เสา้ จะดว้ ยแหล่งขอ้ มลู 3 แหล่ง , ดว้ ยคน 3 3 Expertise Opinion คน จาก 3 เหตุการณ์ 3 พืน้ ท่ี หรือ 3 เทคนิค วธิ ีวิจยั ....ฯลฯ แลว้ ไดผ้ ลลพั ธต์ รงกนั 4 Data Saturated หรอื Data Maturity เป็นการแสวงหา ขอ้ มูลท่ีตอ้ งการ จากคนท่ี เหมาะสม ดว้ ยการมีจดุ เร่มิ ตน้ ของคนท่ีรูจ้ รงิ คนแรกแลว้ ขอใหท้ ่านไดแ้ นะนาผรู้ ูค้ นต่อๆไป ใหด้ ว้ ยในการไปเก็บขอ้ มลู การวจิ ยั ตอ่ เน่ือง เป็ นการระบุความเป็ นผู้เช่ียวชาญ ด้วย คุณ สมบัติ คุณ วุฒิ หรือประสบการณ์ท่ี เหมาะสม ในระดบั เป็นผเู้ ชียวชาญ ในการให้ ขอ้ คิดเห็น ขอ้ มูลการวิจัยหรือขอ้ เสนอแนะท่ี เช่ือถือได้ เป็นการเก็บขอ้ มลู การวิจัย ท่ีใหค้ วามสาคัญ กบั ความอ่ิมตวั ของขอ้ มลู การน่ิงของขอ้ มลู ท่ี ต้องการคือ ไม่เกิดประเด็นใหม่...ไม่มีข้อ คน้ พบใหม่ จากการเก็บขอ้ มลู จนถึงขนั้ เรียก ไดว้ ่า ขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการนนั้ มีสภาวะคงท่ี มีวฒุ ิ ภาวะ หรอื ตกผลกึ เพยี งพอแลว้
ลาดับ Data Creditability Technic 5 5 Subjectivity confirm Subjectivity วิธดี าเนินการกบั ข้อมลู 6 Reality confrontation ผใู้ หข้ อ้ มลู มีการนาเสนอขอ้ มลู จากการแสดง 7 Recheck & Crosscheck Data ความเห็น การสัมภาษณ์ เป็ นการแสดง ความรู้ ความคิดจากความเป็นอัตตวิสัย มี 8 Multi- Data Multi – Method ความเป็น ความเห็นสว่ นตวั แตถ่ า้ ทกุ ประเด็น (ลกั ษณะหลากวธิ ีหลาย) ผใู้ หส้ มั ภาษณ์ มีความเป็นอตั ตวิสยั ท่ีตรงกนั แสดงว่า ขอ้ มลู มีความเท่ียงตรงท่ีดีกลายเป็น ปรนยั วสิ ยั เป็ นการให้ข้อมูลหรือข้อสรุปการวิจัย ข้อ คน้ พบการวจิ ยั ไดน้ าไป เผชิญกบั สถานการณ์ ปัญหาจริง หรือการวิจัยก่ึงทดลอง แลว้ มีผล การเผชญิ หนา้ ท่ีดี ก็จะมีความเช่ือถือได้ เป็นการสืบคน้ หรือเสาะหาขอ้ มูล ขอ้ เท็จจริง อย่างรอบคอบ ดว้ ยการเจาะลึกและแสวงหา ผู้ยืนยันหรือตรวจสอบ ความแม่นตรงของ ขอ้ มลู ทงั้ การสอบซา้ สืบชา้ หรอื วิเคราะหไ์ ขว้ ขอ้ มลู (Crosscheck) เป็นเทคนิควิธีเชิงการวดั -ประเมินผลเพ่ือการ หาความเท่ียง (Reliability) ของผลการเก็บ ข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูลท่ีต้องใช้วิธีการ หลายอย่าง เทคนิคหลายแบบ ใช้เคร่ืองมือ หลายชนิ้ กบั การเกบ็ ขอ้ มลู ท่ีหลากหลายแบบ เช่นกนั กล่าวไดว้ ่า ขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพท่ีจะนามาวิเคราะห์ ใหม้ ีคณุ ภาพ จะตอ้ งมีเทคนิควิธีการวิจยั ท่ีบ่งชี้ เพาะไดว้ ่า ขอ้ มลู เหล่านนั้ เช่ือถือไดจ้ รงิ มิฉะนนั้ จะเขา้ หลกั Gabase in Gabase out ทงั้ ขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ หรือขอ้ มูลเชิงคุณภาพ ผูว้ ิจัยจึงตอ้ งศึกษา เทคนิควิธีวิทยา (Technic of Methodology) เหล่านีใ้ หด้ ี จะ อธิบายคณุ ภาพของขอ้ มลู การวิจยั ไดด้ ขี นึ้
6 เทคนิคการวิเคราะหข์ อ้ มูลเชงิ คุณภาพ ขอ้ มลู การวิจยั ในกล่มุ ขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพทงั้ มวล สามารถเลือกใชเ้ ทคนิควิธีการวิเคราะหต์ ่อไปนีไ้ ด้ โดยพจิ ารณา ใหเ้ หมาะสมกบั คณุ ลกั ษณะขอ้ มลู การวิจยั ท่ีมีอยู่ 1. 6’ C. Technic Analysis ขอ้ มลู ดงั นี้ เป็นเทคนิคการวิเคราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพท่ีมีวงจรการจดั การวิเคราะหแ์ ละการสงั เคราะห์ แผนภาพ : เทคนิค 6’ C กระบวนการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวิจยั เชงิ คณุ ภาพ เม่ือผวู้ ิจยั ไดข้ อ้ มลู ดิบ (Raw Data) มาแลว้ จะเป็นประเภทขอ้ มลู แบบใดก็แลว้ แตผ่ วู้ จิ ยั สามารถ นา ขอ้ มลู เหลา่ นนั้ มาเขา้ สกู่ ระบวนการวิเคราะห์ และสงั เคราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยเทคนิค 6’ C (ตามตวั อยา่ ง) แลว้ จะ ทาใหผ้ วู้ จิ ยั ไดเ้ ปล่ยี นจากขอ้ มลู ดบิ เป็นสารสนเทศการวิจยั เป็นบทสรุปของการวจิ ยั ใหร้ ะบบความคิด และเป็นกรอบแนวคิดผลการวิจยั ท่ีเกิดจากการวเิ คราะหอ์ ย่างเป็นระบบ ตวั อย่าง : การวิเคราะหข์ อ้ มลู ผลการสัมภาษณ์ : นักเศรษฐศาสตร์ หวั ขอ้ “สภาวการณด์ ้านเศรษฐกิจไทยในวกิ ฤตโิ ลก” 1. Concept (มโนทศั น)์ ผวู้ จิ ยั กาหนดประเด็นการศกึ ษา คือ
7 1. ทิศทางของเศรษฐกิจไทย... 2. ปัจจยั สาคญั การวเิ คราะห.์ .. 3. การจดั การเสถียรภาพเศรษฐกิจ... 4. สภาพปัญหาเศรษฐกจิ ไทย... 2. Contents (สาระสาคัญท่ีได้จากการสัมภาษณ์ แล้วสรุปประเด็นสาคัญ) 1. พืน้ ฐานเศรษฐกิจไทย 2. นโยบายของรฐั 3. การลงทนุ จากตา่ งประเทศ 4. โครงสรา้ งพืน้ ฐาน 5. หนีภ้ าครฐั 6. การบรหิ ารสภาพคลอ่ ง 7. ปัจจยั เส่ยี ง 8. ภาวะเศรษฐกิจถดถอย 9. การเคล่อื นยา้ ยทนุ 10. ตลาดเงินตลาดทนุ 11. เครอื่ งมอื แกป้ ัญญาเศรษฐกิจ 12. สถาบนั การเงิน 13. ธุรกรรมทางการเงิน 14. ระบบเศรษฐกจิ 15. ระบบเศรษฐกจิ อเมรกิ า 16. ระบบเศรษฐกจิ ยโุ รป 17. ราคานา้ มนั 18. ตลาดทองคา 19. ระบบการเงนิ โลก 20. ภาวการณส์ ง่ ออก – นาเขา้ 21. ภาวะเงินเฟอ้ 22. ราคาสินคา้ 23. ปรมิ าณเงินไหลเขา้ – ออก 24. มาตรการทางการเงนิ 25. อตั ราดอกเบีย้ 26. อตั ราคา่ เงิน 27. อตั ราคา่ จา้ ง 28. ปัจจยั ทางการเมือง 29. วินยั การเงนิ – คลงั 30. แบบจาลองทางเศรษฐศาสตร์ ฯลฯ 3. Classify : นาข้อมูล ข้อ (2) มา เป็ นข้อมูลสาคัญและประเด็นข้อมูลการ จาแนกกลุ่ม / ระบปุ ระเด็นสาคัญ เชน่ 1. “ความเขม้ แข็ง ของเศรษฐกิจไทย” มีขอ้ มลู จาก
8 ขอ้ 1 , 2 , 3 , 4 , 6 , 10 , 12 , 13 , 18 , 20 , 30 2. “ความสาคญั ของเศรษฐกจิ โลก” มีขอ้ มลู จาก ขอ้ 3 , 9 , 14 , 15 , 16 , 19 , 23 3. “การจัดการภาครัฐ” มีขอ้ มลู จาก ขอ้ 2 , 5 , 6 , 7 , 8 , 11 , 17 , 20 , 21 , 22 , 24 , 25 , 26 27 , 28 , 29 4. Category : นาขอ้ มูลในขั้น (3) มาจัดหมวดหมู่ : การสรุปเนือ้ หาใหม่ (1) ความเขม้ แขง็ ของเศรษฐกิจไทย เก่ียวข้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจไทย การจัดการ นโยบายภาครัฐ ภาวการณ์ลงทุน จากต่างประเทศ โครงสร้างพื้นฐานการประกอบการ การบริหารสภาพคล่อง ภายในประเทศ ผลประกอบการตลาดเงินตลาดทนุ ความเขม้ แข็งของสถาบนั การเงิน การจดั การธุรกรรม ทางการเงิน ราคาทองในตลาดทองคา การนาเขา้ สง่ ออก และการนาเขา้ ส่งออกและการสรา้ งแบบจาลอง ทางเศรษฐศาสตร์ (2) ความสาคญั ของเศรษฐกิจโลก มีความเก่ียวขอ้ งกบั ภาวการณ์ การลงทนุ จากตา่ งประเทศ การเคล่อื น ทนุ ระบบเศรษฐกิจของประเทศยโุ รป รวมถึงปรมิ าณเงนิ ท่ีมีการไกลเขา้ – ออก ประเทศ (3) การจัดการของภาครัฐ มีความเก่ียวขอ้ งกบั การจดั การเชิงนโยบาย การบรหิ ารหนีภ้ าครฐั การบริหารสภาพคล่อง การควบคุมปัจจัยเส่ียง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย การใชเ้ ครื่องมือแกป้ ัญญาทาง เศรษฐกิจ การบรหิ ารราคานา้ มนั การนาเขา้ – ส่งออก ภาวะเงินเฟ้อราคาสินคา้ การกาหนดมาตรการทาง การเงิน อตั ราดอกเบีย้ อตั ราแลกเปล่ียน ค่าเงิน อตั ราค่าจา้ งปัจจยั ทางการเมือง และการบรหิ ารวินยั ทาง การเงิน – การคลงั 5. Communication : การแปลความ ตคี วามขอ้ มูล กล่าวได้ว่า สภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจไทยในภาวะเศรษฐกิจโลก รัฐบาลต้องให้ ความสาคญั กบั การจดั การระบบและองคป์ ระกอบของ”ความเข้มแขง็ ของเศรษฐกิจไทย” การให้
9 ”ความสาคญั กับองคป์ ระกอบของเศรษฐกิจโลก” ตลอดจนรูปแบบและระบบการจัดการภาครัฐท่ตี อ้ ง มีการจัดการเชิงนโยบาย เพ่ือการบริหารหนีส้ าธารณะ สภาพคล่อง ความเส่ียงการลงทุน ภาวะเงินเฟ้อ อตั ราคา่ จา้ งและความมีวินยั ทางการเงิน – การคลงั ภาครฐั และภาคเอกชน... 6. Conceptualize : การจัดทากรอบความคิดการวิจัย สรุปไดว้ ่า สภาวะการณด์ า้ นเศรษฐกิจของไทย มีความเก่ียวขอ้ งกบั โครงสรา้ งระบบความ เขม้ แข็งเศรษฐกิจโลก ตลอดจน รูปแบบและระบบเศรษฐกิจโลก ระบบการจัดการภาครฐั ท่ีสามารถจัด กรอบความคดิ เป็นบทสรุปไดด้ งั นี้ สภาวะการณ์ด้าน เศรษฐกจิ ของไทย สภาพปัญหาเศรษฐกจิ ทิศทางการบริหาร การจดั การเสถยี รภาพ ปัจจยั สาคญั เพอ่ื การวเิ คราะห์ ระบบความเข้มแขง็ ของเศรษฐกจิ ไทย ความสาคญั ของเศรษฐกจิ โลก ระบบรูปแบบการจดั การภาครัฐ 2. เทคนิค Cause & Effect Analysis (การวิเคราะหส์ าเหตุและผลกระทบ) ถา้ เป็นการเก็บขอ้ มลู ในเชงิ การมีเหตุปัจจัยแลว้ มผี ลกระทบ มีผลลทั ธต์ ่อสิ่งใด ปรากฏการณใ์ ด ก็สามารถใชแ้ บบจาลองการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพ ดว้ ยเทคนคิ Cause & Effect Analysis ไดด้ งั นี้ เชน่ การวิเคราะห์ “พฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของคนในสงั คมไทย” Cause The Effect (ผลกระทบ) บทสรุป
10 สาเหตุ 1.การเลอื กตงั้ 2.การเสนอกฎหมาย 3.การตดิ ตามผลงาน 1.ความรูท้ าง การเมอื ง ขอ้ มลู ขอ้ มลู ขอ้ มลู พฤตกิ รรมจากเหตุ 2.ทศั นคติ ปัจจยั ดา้ นความรู้ ทางการเมือง ขอ้ มลู ขอ้ มลู ขอ้ มลู พฤติกรรมจากเหตุ บทสรุป พฤติกรรมการไป พฤติกรรมการติดตาม ปัจจยั ดา้ นทศั นคติ เลอื กตงั้ งานการเสนอกฎหมาย พฤติกรรมการตดิ ตาม สรุปรวม ผลงานการเมือง กลา่ วไดว้ า่ ผวู้ ิจยั สามารถนาประเดน็ ขอ้ มลู ดิบมาเขา้ สกู้ รอบการวิเคราะหข์ อ้ มลู ไดท้ งั้ แนวนอน และ แนวด่ิงแลว้ จะไดข้ อ้ สรุปท่ีบง่ บอกถงึ ความเป็นเหตุ-ผล (Cause and Effects) ทงั้ ในแนวนอนและแนวด่งิ ท่ี จะนามาสรุปรวม (Conceptualize) ขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ 3. การวเิ คราะห์ Contents Analysis จาก Document Research 3.1 กระบวนการวเิ คราะหค์ ุณภาพเอกสารทจ่ี ะวจิ ยั ประเภทเอกสาร ความสมสมยั คณุ ภาพ แหลง่ ท่ีมาเอกสาร ความเชือ่ ถือได้ เอกสารท่วี ิจยั สาระสาคญั ของเอกสาร คณุ ค่า ของเนือ้ หา 3.2 การวเิ คราะหต์ วั เนือ้ หา / ประเดน็ การวิจัย โดยใชห้ ลกั 6’C Technic หรอื Cause & Effects Analysis ก็ได้
11 Raw Data Analysis 6’C สาระเนือ้ หา 1. Concept (ประเด็น) ทงั้ หมด 2. Content (สาระสาคญั ) 3.Classify(การจาแนกกลมุ่ ) 4.Category (จดั หมวดหม่)ู 5.Communication(การอธิบาย) 6.Conceptualize(การจดั กรอบคดิ ) จากขอ้ มลู ดิบแลว้ มีการวเิ คราะหเ์ นือ้ หาหรอื สาระสาคญั ของเอกสาร สกู่ ารวิเคราะหด์ ว้ ย เทคนคิ ท่ีเหมาะสมจะชว่ ยทาใหไ้ ดผ้ ลการสงั เคราะหข์ อ้ มลู เป็นกรอบแนวคิดผลการวจิ ยั ได้ อยา่ งเป็นระบบ (Conceptualize Data) 4. The Dialectic process Analysis : วภิ าษวิธี เป็นเทคนิคการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพดว้ ยการจดั กลมุ่ ขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพดว้ ยการจดั กลมุ่ ขอ้ มลู เป็น 3 รูปแบบทงั้ ขอ้ มลู เชงิ ขอ้ เสนอ (Thesis) เชิงปฏิเสธ (Anti Thesis) และขอ้ มลู เชงิ สรุป/ สงั เคราะห์ (Synthesis) ในทกุ มิตขิ องประเดน็ การวจิ ยั ซง่ึ จะทาใหก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มลู และการ วิเคราะหข์ อ้ มลู มีความรอบคอบ รอบดา้ นในทกุ มมุ มองของประเดน็ สาคญั การวิจยั ประเดน็ การวิจัย การวิเคราะหข์ ้อมูล ขอ้ มลู เชิงทฤษฏีหลกั การ เช่น มิ ิ Thesis Data มิ ิ Anti-Thesis Data ขอ้ มลู เชงิ นเิ สธ/โตแ้ ยง้ มิ ิ SynThesis Data ขอ้ มลู เชงิ สงั เคราะหห์ รอื Dilemma Data จากแผนภาพอธิบายไดว้ า่ ในแต่ละมติ ขิ องการเก็บขอ้ มลู และวิเคราะหข์ อ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ เชน่ ขอ้ มลู ไดจ้ ากการสมั ภาษณ์ หรอื การทา Focus Group หรอื ขอ้ มลู จากการสงั เกตแบบมีสว่ นรว่ ม (PAR)
12 กต็ ามผวู้ จิ ยั จะวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทกุ ประเดน็ การวจิ ยั ในแตล่ ะมติ ิ (หวั ขอ้ ) ดว้ ย 3 มมุ มอง เสมอจนกระท่งั ได้ ขอ้ สรุปรวมท่เี ป็นการสงั เคราะห์ (SynThesis) ขอ้ มลู อยา่ งเป็นระบบแทจ้ รงิ 5. หลักโยนิโสมนสกิ าร การวเิ คราะหข์ ้อมลู เชิงคณุ ภาพ 5.1 แนวคดิ The content หลักการวเิ คราะห์ ข้ อสรุ ป เชน่ -Text 1. ปรโตโ สะ 1. แปลความ... - Message 2. โยนิโสมนสกิ าร 2. ตีความ.. 3. ส่ือความ... - Picture (1 วิธี) 4. รวมความ.. - Medic - Behaviors 5.2 วธิ กี ารวเิ คราะห์ เม่ือผวู้ จิ ยั ไดร้ วบรวมขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ เป็นขอ้ ความ เป็น คาพดู เป็นเอกสาร เป็นสาระเนือ้ หา เป็นภาพ เป็นพฤตกิ รรมตา่ งๆ แลว้ ผวู้ ิจยั ก็ดาเนินการวิเคราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพเหลา่ นนั้ โดยการใชห้ ลกั การคดิ เพ่ือวเิ คราะหท์ ่ปี ระณีตแยบยล ละเอียดออ่ นตาม หลกั พทุ ธวธิ ี คดิ ท่ีเป็นปรโตโฆสะ และหลกั โยนิโสมนสิการ (10 วธิ ีคิด) ซง่ึ เป็นการคิดวเิ คราะหแ์ ละแปลความ จาก 1. การมีสติมีสมาธิการวิเคราะหจ์ ากสภาวะจติ วา่ ง 2. การโนม้ ใจสกู่ ารคิดวเิ คราะห์ 3. ใชใ้ จในการชว่ ยสมองวิเคราะห์ 4. เลอื กเทคนิคการสงั เคราะหจ์ ากโยนโิ สมนสกิ าร (10 วิธี) 5. ไดผ้ ลการวเิ คราะหต์ ามความเป็นจรงิ ตามหลกั ธรรมชาติ ตวั อยา่ งเชน่ การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมการไหวศ้ าลพระภมู ิของ ” หญิงคนหนง่ึ กบั ลกู วยั 3 ขวบ” ถา้ แปลความโดยขอ้ เท็จจรงิ จากการท่ีหญิงกบั ลกู วยั 3 ขวบ ไหวศ้ าลพระภมู ิ อาจแปลความไดว้ า่ ทงั้ 2 คน มคี วามเช่ือศรทั ธาในศาลพระภมู นิ นั้ ...แตถ่ า้ ใชห้ ลกั ความจรงิ จากวธิ ีคิด โยนิโสมนสกิ าร มาวิเคราะห์ ขอ้ มลู แลว้ จะแปลความไดว้ า่ 1. หญิงคนนีม้ ีความเช่ือศรทั ธา ศาลพระภมู ิ จงึ ไหวศ้ าลrit4^,b
13 2. เด็ก 3 ขวบ ไหวศ้ าลพระภมู ิ เชน่ กนั แตม่ ิใช่ เกดิ จากความเช่ือศรทั ธา ในศาลพระ ภมู ิ 3. เดก็ 3 ขวบ ยงั ไม่มีทศั นความเช่ือ ศรทั ธาเรอ่ื งศาลพระภมู ิ 4. แต่เดก็ 3 ขวบ ไหวศ้ าลพระภมู ิเพราะเช่ือแม่และทาตามแมเ่ ทา่ นนั้ ผวู้ จิ ยั ท่ีจะใชห้ ลกั โยนิโสมนสิการ เพ่อื การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพ ไดจ้ ะตอ้ งมคี ณุ สมบตั ิ ดงั นี้ 1. เป็นผมู้ ีความประณีตในการวิเคราะหข์ อ้ มลู 2. เป็นผเู้ ขา้ ใจความหมายและความลกึ ซงึ้ ของคณุ ค่า โยนิโสมนสิการ 3. เป็นผมู้ ีความเขา้ ใจ หลกั คิดและการเห็น แบบปรโตโฆสะ อย่างถอ่ งแท้ 4. เป็นผไู้ มย่ ดึ ตดิ กบั ความคิดและระบบความเช่ือเดมิ ซง่ึ ไม่ยนื ยนั ความถกู ตอ้ ง 5. สามารถอธิบายหรอื ตอบคาถามท่ีแยบยลไดเ้ ป็นพืน้ ฐาน เชน่ 5.1 พระพทุ ธรูปบงั พระพทุ ธเจา้ หมายความอย่างไร 5.2 พระสงฆเ์ ป็นลกู ของใคร ใช่ลกู คนท่วั ไปหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด 5.3 ใบลานบงั พระธรรมมีความหมาย อยา่ งไร 5.4 เกลือเค็ม เคม็ ท่ไี หนเพราะเหตใุ ด 5.5 วนั วิสาฃบชู า มีความหมายเชิง “นยั ยะ” อย่างไร 5.6 “พระอาทติ ย์ ขนึ้ ทางทศิ ตะวนั ออก ตกทางทศิ ตะวนั ตก” เป็น ความจรงิ แทห้ รอื เทียม ? 5.7 ชาวบา้ นบอกผวู้ ิจยั วา่ “มีพ่นี อ้ งในบา้ น พ่สี ่ี นอ้ งส่ี รวมเป็น 5 คน” ถกู ตอ้ ง หรอื ไม่เพราะเหตใุ ด ? 6. เทคนิค Triangulation : การยนื ยัน 3 เส้า เป็นเทคนิคการวิเคราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพใหม้ ีความเช่อื ถือไดจ้ าก การรวบรวมขอ้ มลู แลว้ วิเคราะหข์ อ้ มลู จากการยนื ยนั 3 ปัจจยั ท่ที าใหไ้ ดข้ อ้ สรุปท่สี อดคลอ้ งกนั พอ้ งกนั เสรมิ กนั หรอื เป็นเรอ่ื ง เดยี วกนั เชน่ 6.1 การยนื ยันดว้ ยบุคคล 3 คน / 3 ที่
14 นาย ก อยู่ จ.เชยี งใหม่ ประเดน็ วิเคราะห์ นาย ข นาย ค อยู่ จ.ขอนแก่น อยู่ จ.พทั ลุง โดยทงั้ 3 คน ใหข้ อ้ มลู สอดคลอ้ งกนั 6.2 การยนื ยันดว้ ยร่องรอยหลกั ฐาน 3 อย่าง ร่องรอย จากบนั ทกึ ประวตั ศิ าสตร์ ร่องรอย ประเดน็ วเิ คราะห์ ร่องรอย จาก ศาสนสถาน จากภาพถา่ ยในอดตี โดย ทงั้ 3 รอ่ งรอย หลกั ฐาน มีสาระเนือ้ หาสอดคลอ้ งกนั เสรมิ กนั จงึ เป็นอนั วา่ เช่ือถือได้ 6.3 การยนื ยนั ดว้ ยวธิ กี ารวิจยั 3 แบบ การวจิ ัย R&D ผลการวจิ ยั การวิจยั การวิจัย เชิงสารวจ เชงิ ปฏิบัตกิ าร มีการวิจยั 3 แบบ ในหวั ขอ้ เดียวกนั ไดผ้ ลการวิจยั ตรงกนั เช่ือไดว้ า่ มีการยืนยนั 3 มติ ิ 3 เสา้ ผลการวิจยั จงึ เช่ือถือได้ การสรุปผลการวเิ คราะห์ ขอ้ มูลเชงิ คุณภาพ
15 ขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ เม่ือมีการวเิ คราะหแ์ ลว้ จะทาใหไ้ ดข้ อ้ สรุป เชงิ สงั เคราะห์ กต็ อ่ เม่อื มีกระบวนการ สรุปผลการวเิ คราะหด์ งั นี้ การสรปความ (Conceptualize) การส่ือความ (Communication) การ คี วาม (Interpretation) การแปลความ (Translation) กจิ กรรม คือ จากแผนภาพอธิบายไดว้ า่ กระบวนการวเิ คราะหข์ อ้ มลู สกู่ ารสงั เคราะหข์ อ้ มลู ตอ้ งทา 4 1. มีการแปลความขอ้ มลู อย่างถกู ตอ้ ง 2. มีการตีความขอ้ มลู อย่างถกู ตอ้ ง 3. มีการสือ่ ความขอ้ มลู อย่างถกู ตอ้ ง 4. มีการสรุปความขอ้ มลู อยา่ งถกู ตอ้ ง บทสรุป
16 การวิจยั ท่ีดี จาเป็นตอ้ งมกี ระบวนการวิจยั มีวธิ ีวิทยาการวจิ ยั ท่ถี กู ตอ้ งเหมาะสม จงึ จะทาให้ กระบวนการเรยี นรูม้ ีคณุ ค่า ผลการเรียนรู้ มีความหมาย โดยเฉพาะการศกึ ษาระดบั บณั ทติ ศกึ ษา ทงั้ ระดบั ปรญิ ญาโทและปรญิ ญาเอก ตอ้ งรูเ้ ขา้ ใจ มใี จรกั และมีทกั ษะการวจิ ยั อย่างลกึ ซงึ้ จงึ จะทาใหก้ ารวจิ ยั มีชีวิต การวิเคราะหข์ อ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ ท่ีดีผวู้ จิ ยั จะตอ้ งรูแ้ ละเขา้ ใจในสงิ่ ตา่ งๆ มีท่ีกลา่ วแลว้ คือ 1. ความหมายของขอ้ มลู การวิจยั เชิงคณุ ภาพ 2. คณุ ลกั ษณะขอ้ มลู การวิจยั เชงิ คณุ ภาพ 3. เครอื่ งมอื การวิจยั เชงิ คณุ ภาพ 4. คณุ ภาพของขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ 5. เทคนคิ การยนื ยนั ความเท่ียงตรงของขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ 6. เทคนคิ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชิงคณุ ภาพ 6.1 6’ C Technic Analysis 6.2 Cause & Effect Analysis 6.3 Content Analysis Technic 6.4 Dialectic Process Analysis 6.5 หลกั โยนิโสมนสิการการวิเคราะหข์ อ้ มลู 6.6 Triangulation Technic 7. การสรุปผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: