Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์

Published by chitnarong Anunchiyakron, 2021-01-30 11:22:45

Description: คอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

คำนำ คอมพวิ เตอร์ถกู ประดษิ ฐ์ออกมำให้ประกอบไปด้วยควำมจำรูปแบบต่ำง ๆ เพ่ือเกบ็ ข้อมูล อย่ำงน้อยหน่ึง ส่วนท่ีมีหน้ำทด่ี ำเนนิ กำรคำนวณเกย่ี วกบั ตัวดำเนินกำรทำงตรรกศำสตร์ และตัวดำเนินกำรทำงคณติ ศำสตร์ และ ส่วนควบคมุ ทใี่ ช้เปลย่ี นแปลงลำดับของตัวดำเนินกำรโดยยึดสำรสนเทศทีถ่ กู เกบ็ ไว้เป็ นหลกั อปุ กรณ์เหล่ำนีจ้ ะ ยอมให้นำเข้ำข้อมูลจำกแหล่งภำยนอก และส่งผลจำกกำรคำนวณตวั ดำเนินกำรออกไป หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้ำท่ดี ำเนินกำรกบั คำสั่งต่ำง ๆ ทีค่ อยสั่งให้อ่ำน ประมวล และเกบ็ ข้อมูลไว้ คำสั่งต่ำง ๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำส่ังให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เป็ นฟังก์ชันทส่ี ถำนะปัจจุบนั คอมพวิ เตอร์อเิ ลก็ ทรอนิกส์เคร่ืองแรกถูกพฒั นำขนึ้ ในช่วงกลำงคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มน้นั คอมพวิ เตอร์มขี นำดเท่ำกบั ห้องขนำดใหญ่ ซึ่งใช้พลงั งำนมำกเท่ำกับเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ส่วน บุคคล (พซี ี) สมัยใหม่หลำยร้อยเครื่องรวมกนั

วตั ถุประสงค์กำรเรียนรู้ 1.สามารถบอกองคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์เบ้ืองตน้ ได้ 2. สามารถอธิบายความหมายของฮาร์ดแวร์ได้ 3. สามารถอธิบายความหมายของซอฟตแ์ วร์ได้ 4. สามารถอธิบายความหมายของผใู้ ชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ได้ 5. สามารถอธิบายถึงการทางานของระบบของคอมพิวเตอร์ได้ 6.เพ่ือใหน้ กั เรียนอธิบายความสาคญั ของคอมพิวเตอร์และการประยกุ ตใ์ ชใ้ นโอการสตา่ งๆได้ 7.สามารถบอกส่วนประกอบตา่ งๆของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ได้ 8.สามารถเรียกใชง้ านเครื่องคอมพิวเตอร์ไดท้ ้งั ในระบบเครือข่ายและเครื่องเดี่ยวๆได้ 9.สามารถบอกความสาคญั และความแจกตา่ งของระบบปฏิบตั ิการดอสและวินโดวส์ได้

ประวตั ิของกำรคำนวณโดยใช้คอมพวิ เตอร์ มีการบนั ทึกไวว้ า่ คร้ังแรกท่ีมีการใชค้ าวา่ \"คอมพิวเตอร์\" คอื เมื่อ ค.ศ. 1613 ซ่ึงหมายถึงบคุ คลท่ีทาหนา้ ท่ีคาดการณ์ หรือคิดคานวณ และมีความหมายเช่นน้ีเร่ือยมาจนถึงกลางคริสตศ์ ตวรรษท่ี 20 และต้งั แตป่ ลายคริสตศ์ ตวรรษที่ 19 มา ความหมายของคาวา่ คอมพิวเตอร์น้ีเร่ิมมีใชก้ บั เครื่องจกั รท่ีทาหนา้ ท่ีคิดคานวณมากข้นึ [5] คอมพวิ เตอร์ยคุ แรกท่ีมฟี ังก์ชันจำกดั ประวตั ิของคอมพิวเตอร์สมยั ใหม่น้นั เริ่มตน้ จากเทคโนโลยสี องชนิดท่ีแตกต่างกนั ไดแ้ ก่ การคานวณโดยอตั โนมตั ิ กบั การคานวณท่ีสามารถโปรแกรมได้ (หมายถึงสร้างวิธีการทางานและปรับแต่งได)้ แต่ระบุแน่ชดั ไม่ไดว้ า่ เทคโนโลยชี นิดใด เกิดข้ึนก่อน ส่วนหน่ึงเป็นเพราะการคานวณแต่ละชนิดน้นั ไม่มีความสอดคลอ้ งกนั อุปกรณ์บางชนิดก็มีความสาคญั ที่จะเอ่ยถึง อยา่ งเช่นเครื่องมือเชิงกลเพ่อื การคานวณบางชนิดท่ีประสบความสาเร็จและยงั ใชก้ นั อยหู่ ลายศตวรรษก่อนท่ีจะมีเคร่ืองคดิ เลข อิเลก็ ทรอนิกส์ อาทิลูกคดิ ของชาวสุเมเรียนที่ถกู ออกแบบข้นึ ราว 2,500 ปี ก่อนคริสตกาล ชนะการแข่งขนั ความเร็วในการ คานวณต่อเครื่องคานวณต้งั โตะ๊ เมื่อ ค.ศ. 1946 ที่ประเทศญ่ีป่ นุ ต่อมาในคริสตท์ ศวรรษ 1620 มีการประดิษฐ์สไลดร์ ูล ซ่ึงถกู นา ข้ึนยานอวกาศในภารกิจของโครงการอะพอลโลถึง 5 คร้ัง รวมถึงเมื่อคร้ังท่ีสารวจดวงจนั ทร์ดว้ ย นอกจากน้ียงั มี เคร่ืองทานาย ตาแหน่งดาวฤกษ์ (Astrolabe) และ กลไกอนั ติคอื เธรา ซ่ึงเป็นเครื่องคานวณ (คอมพวิ เตอร์) เก่ียวกบั ดาราศาสตร์ยคุ โบราณท่ี ชาวกรีกเป็นผสู้ ร้างข้ึนราว 80 ปี ก่อนคริสตกาล ท่ีมาของระบบการสง่ั การโปรแกรมเกิดข้นึ เม่ือ ฮีโรแห่งอเลก็ ซานเดรีย (c.10- 70 AD) นกั คณิตศาสตร์ชาวกรีกสร้างโรงละครที่ประกอบดว้ ยเครื่องจกั ร ใชแ้ สดงละครความยาว 10 นาที และทางานโดยมี กลไกเชือกและอิฐบลอ็ กทรงกระบอกท่ีซบั ซอ้ น ซ่ึงสามารถตดั สินใจเลือกไดว้ า่ จะชิ้นส่วนกลไกใดใชใ้ นการแสดงฉากใดและ เมื่อใด ราว ๆ ปลายศตวรรษท่ี 10 สมเด็จพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ท่ี 2 นกั บวชชาวฝรั่งเศส ไดน้ าลิ้นชกั บรรจุอปุ กรณ์ชนิด หน่ึงท่ีจะตอบคาถามไดว้ า่ ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ เม่ือถูกถามคาถาม (ดว้ ยเลขฐานสอง) ซ่ึงชาวมวั ร์ประดิษฐ์ไวก้ ลบั มาจากประเทศ สเปน ในศตวรรษที่ 13 นกั บญุ อลั แบร์ตุส มาญุส และโรเจอร์ เบคอน นกั ปราชญช์ าวองั กฤษ ไดส้ ร้างหุ่นยนตแ์ อน ดรอยด์ (android) พดู ได้ โดยไม่ไดพ้ ฒั นาใด ๆ ต่ออีก (นกั บญุ อลั แบร์ตสุ มาญสุ บ่นออกมาวา่ เขาเสียเวลาเปล่าไป 40 ปี ในชีวิต เมื่อนกั บุญโทมสั อควนี าสตกใจกบั เคร่ืองน้ีและไดท้ าลายมนั เสีย) ในปี ค.ศ. 1642 แห่งยคุ ฟ้ื นฟูศิลปวิทยา มีการประดิษฐ์เครื่องคานวณของปาสคาลซ่ึงเป็นเครื่องคานวณตวั เลข เชิงกล เป็นอุปกรณ์ท่ีจะสามารถคานวณโดยใชต้ วั ดาเนินการทางคณิตศาสตร์โดยไมต่ อ้ งพ่ึงสติปัญญามนุษยเ์ คร่ืองคานวณ เชิงกลน้ียงั ถือเป็นรากฐานของการพฒั นาคอมพิวเตอร์ในสองทาง แรกเริ่มน้นั ความพยายามที่จะพฒั นาเครื่องคานวณที่มี สมรรถภาพสูงและยดื หยนุ่ ซ่ึงทฤษฎีน้ีถกู สร้างโดยชาร์ลส แบบเบจ[16][17] และไดร้ ับการพฒั นาในเวลาต่อมานาไปสู่การพฒั นา เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (คอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่) ข้นึ ในคริสตท์ ศวรรษ 1960 และในขณะเดียวกนั อินเทล กส็ ามารถประดิษฐ์

ประเภทของคอมพวิ เตอร์ ในปัจจุบนั คอมพิวเตอร์ไดใ้ ชว้ งจรเบด็ เสร็จขนาดใหญ่มาก (very large scale integrated circuit) ซ่ึง สามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ไดม้ ากกวา่ สิบลา้ นตวั เราสามารถแบ่งคอมพิวเตอร์ในรุ่นปัจจุบนั ออกเป็น 4 ประเภทดงั ต่อไปน้ี ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ (supercomputer) ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ ถือไดว้ า่ เป็นคอมพวิ เตอร์ท่ีมีความเร็วมาก และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบ กบั คอมพวิ เตอร์ชนิดอื่น ๆ เคร่ืองซูเปอร์คอมพวิ เตอร์มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่ สามารถคานวณทาง คณิตศาสตร์ไดห้ ลายแสนลา้ นคร้ังต่อวินาที และไดร้ ับการออกแบบ เพื่อใหใ้ ชแ้ กป้ ัญหาขนาดใหญ่มากทาง วิทยาศาสตร์และทางวิศวกรรมศาสตร์ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว เช่น การพยากรณ์อากาศลว่ งหนา้ เป็นเวลาหลายวนั การศึกษาผลกระทบของมลพษิ กบั สภาวะแวดลอ้ มซ่ึงหากใชค้ อมพิวเตอร์ชนิดอ่ืน ๆ แกไ้ ขปัญหาประเภทน้ี อาจจะตอ้ งใชเ้ วลาในการคานวณหลายปี กวา่ จะเสร็จสิ้น ในขณะท่ีซูเปอร์คอมพวิ เตอร์สามารถแกไ้ ขปัญหาได้ ภายในเวลาไม่ก่ีชว่ั โมงเทา่ น้นั เนื่องจากการแกป้ ัญหาใหญ่ ๆ จะตอ้ งใชห้ น่วยความจาสูง ดงั น้นั ซูเปอร์ คอมพิวเตอร์จึงมีหน่วยความจาท่ีใหญม่ าก ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์มีหลายประเภท ต้งั แต่รุ่นที่มีหน่วยประมวลผล (processing unit) 1 หน่วย จนถึงรุ่นท่ีมีหน่วยประมวลผลหลายหมื่นหน่วยซ่ึงสามารถทางานหลายอยา่ งไดพ้ ร้อม ๆ กนั เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (mainframe computer) เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มีสมรรถภาพท่ีต่ากวา่ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาก แต่ยงั มีความเร็วสูง และมี ประสิทธิภาพสูงกวา่ มินิคอมพวิ เตอร์หรือไมโครคอมพวิ เตอร์ เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์สามารถใหบ้ ริการผใู้ ช้ จานวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ กนั ฉะน้นั จึงสามารถใชโ้ ปรแกรมจานวนนบั ร้อยแบบในเวลาเดียวกนั ได้ โดยเฉพาะถา้ ตอ่ เครื่องเขา้ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผใู้ ชส้ ามารถใชไ้ ดจ้ ากทว่ั โลก ปัจจุบนั องคก์ รใหญ่ ๆ เช่น ธนาคาร จะใชค้ อมพวิ เตอร์ประเภทน้ีในการทาบญั ชีลูกคา้ หรือการใหบ้ ริการจากเครื่องฝากและถอนเงินแบบ อตั โนมตั ิ (automatic teller machine) เน่ืองจากเคร่ืองเมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ไดถ้ กู ใชง้ านมากในการบริการผใู้ ช้ พร้อม ๆ กนั เมนเฟรมคอมพิวเตอร์จึงตอ้ งมีหน่วยความจาท่ีใหญม่ าก

มนิ ิคอมพวิ เตอร์ (minicomputer) มินิคอมพวิ เตอร์ คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเลก็ ๆ ซ่ึงสามารถบริการผใู้ ชง้ านไดห้ ลายคนพร้อม ๆ กนั แตจ่ ะไมม่ ีสมรรถภาพเพียงพอที่จะบริการผใู้ ชใ้ นจานวนท่ีเทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ จึงทาให้ มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสาหรับองคก์ รขนาดกลาง หรือสาหรับแผนกหน่ึงหรือสาขาหน่ึงขององคก์ รขนาดใหญ่ เท่าน้นั ไมโครคอมพวิ เตอร์ (microcomputer) หรือ พซี ี (personal computer หรือ PC) ไมโครคอมพิวเตอร์ คอื คอมพิวเตอร์ขนาดเลก็ แบบขนาดต้งั โต๊ะ (desktop computer) หรือขนาดเลก็ กวา่ น้นั เช่น ขนาดสมุดบนั ทึก (notebook computer) และขนาดฝ่ามือ (palmtop computer) ไมโครคอมพวิ เตอร์ได้ เริ่มมีข้นึ ในปี พ.ศ. 2518 ถึงแมว้ า่ ในระยะหลงั เครื่องชนิดน้ีจะมีประสิทธิภาพท่ีสูง แตเ่ นื่องจากมีราคาไม่แพง และมีขนาดกะทดั รัด ไมโครคอมพวิ เตอร์จึงยงั เหมาะสาหรับใชส้ ่วนตวั ไมโครคอมพวิ เตอร์ไดถ้ กู ออกแบบ สาหรับใชท้ ี่บา้ น โรงเรียน และสานกั งานสาหรับที่บา้ น เราสามารถใชไ้ มโครคอมพวิ เตอร์ในการทางบประมาณ รายรับรายจ่ายของครอบครัวช่วยทาการบา้ นของลูก ๆ การคน้ ควา้ ขอ้ มลู และขา่ วสาร การส่งจดหมาย อิเลก็ ทรอนิกส์ (electronic mail หรือ email) หรือโทรศพั ทท์ างอินเทอร์เน็ต (internet phone) ในการติดต่อท้งั ใน และนอกประเทศ หรือแมก้ ระทงั่ ทางบนั เทิง เช่น การเล่นเกมบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ สาหรับที่โรงเรียน เราสามารถใชไ้ มโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยสอนนกั เรียนในการคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากทวั่ โลกสาหรับที่สานกั งาน เราสามารถใชไ้ มโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยพมิ พจ์ ดหมายและขอ้ มลู อื่น ๆ เกบ็ และคน้ ขอ้ มลู วิเคราะหแ์ ละ ทานายยอดซ้ือขายลว่ งหนา้ โน้ตบ๊คุ (notebook or laptop) โนต้ บคุ๊ คอื คอมพวิ เตอร์ท่ีมีขนาดเลก็ กวา่ ไมโครคอมพวิ เตอร์ ถูกออกแบบไวเ้ พื่อนาติดตวั ไปใชต้ ามที่ ต่าง ๆ มีขนาดเลก็ และน้าหนกั เบา ในปัจจุบนั มีขนาดพอ ๆ กบั สมดุ ท่ีทาดว้ ยกระดาษ เนต็ บ๊คุ (netbook or laptop) เนต็ บุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเลก็ กวา่ คอมพวิ เตอร์โน๊ตบุ๊คและเลก็ กวา่ โนต้ บุ๊ค ไม่มีไดรฟ์ สาหรับอ่าน และเขียนแผน่ และใชฮ้ าร์ดดิสแบบ SSD ทาใหน้ ้าหนกั เบา ถูกออกแบบไวเ้ พ่ือนาติดตวั ไปใชต้ ามท่ีต่าง ๆ มี ขนาดเลก็ และน้าหนกั เบา ปัจจุบนั ไม่ไดร้ ับความนิยม

อลั ตร้ำบุ๊ค (ultrabook) อลั ตร้าบ๊คุ คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเลก็ กวา่ ไมโครคอมพิวเตอร์และมีขนาดเท่ากบั โนต้ บุค๊ ถกู ออกแบบ ไวเ้ พื่อนาติดตวั ไปใชต้ ามท่ีต่าง ๆ และน้าหนกั เบากวา่ โนต้ บ๊คุ และเนน้ ความสวยงาม ทนั สมยั แปลกใหม่ แทบ็ เลต็ คอมพวิ เตอร์ (tablet computer) แทบ็ เลต็ คอมพิวเตอร์ หรือเรียกส้นั ๆ วา่ แทบ็ เลต็ คือเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีสามารถใชใ้ นขณะเคล่ือนที่ได้ ขนาดกลางและใชห้ นา้ จอสมั ผสั ในการทางานเป็นอนั ดบั แรก มีคยี บ์ อร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้ งานแทนท่ีแป้นพมิ พค์ ยี บ์ อร์ด และมีความหมายครอบคลมุ ถึงโน๊คบุ๊คแบบ convertible ที่มีหนา้ จอแบบสัมผสั และมีแป้นพิมพค์ ยี บ์ อร์ดติดมาดว้ ยไมว่ า่ จะเป็นแบบหมุนหรือแบบสไลดก์ ต็ าม [21] ตวั อย่ำงประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์มีประโยชนก์ บั เรามากมาย เช่น 1. กำรใช้งำนภำครัฐ งานทะเบียนราษฎร์ของรัฐบาล เช่น การแจง้ เกิด ตาย ยา้ ยที่อยู่ การทาบตั ร ประจาตวั ประชาชน งานภาษี เช่น ยนื่ แบบประเมินภาษีภาษีผา่ นอินเทอร์เน็ต เก็บทะเบียน ประวตั ิผเู้ สียภาษี ตรวจสอบการเสียภาษี 2. งำนสำยกำรบิน การสารองที่นงั่ ผโู้ ดยสาร การลดงานเอกสาร 3. ทำงด้ำนกำรศึกษำ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเรียนออนไลน์ใหก้ บั ผเู้ รียนที่อยหู่ ่างไกล 4. ธุรกจิ กำรนำเข้ำสินค้ำและส่งออก การทาธุรกิจแบบพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ 5. ธุรกจิ ธนำคำร ช่วยดา้ นงานขอ้ มลู ธนาคาร รับ-จ่ายเงิน เกบ็ ประวตั ิลูกคา้ ธนาคารอิเลก็ ทรอนิกส์ การทาธุรกรรมผา่ นโทรศพั ทม์ ือถือ 6. วิทยำศำสตร์และกำรแพทย์ การเก็บขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประวตั ิการรักษาของคนไข้ วจิ ยั คานวณ และ การจาลองแบบ 7. งำนสถำปนิก ช่วยออกแบบ เขยี นแบบ หรือทาแบบจาลองสามมิติ 8. งำนภำพยนตร์ กำร์ตูน แอนิเมชัน ช่วยสร้างตวั การ์ตนู เคลื่อนไหว ออกแบบตวั การ์ตูน จาลองตวั การ์ตูนสามมิติ การตดั ต่อภาพยนตร์ 9. งำนด้ำนสถติ ิ ช่วยเกบ็ บนั ทึกขอ้ มูล วเิ คราะห์ จาลองแบบขอ้ มลู และการเผยแพร่ขอ้ มลู 10. ด้ำนนนั ทนำกำร ช่วยใหค้ วามบนั เทิง ดูหนงั ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ เลน่ เกม

สรุป คอมพิวเตอร์เขา้ มามีบทบาทที่สาคญั ยง่ิ ตอ่ สงั คมของมนุษยเ์ ราในปัจจุบนั แทบทุกวงการลว้ น นาคอมพิวเตอร์เขา้ ไปเก่ียวขอ้ งกบั การใชง้ าน จนกลา่ วไดว้ า่ คอมพวิ เตอร์เป็นปัจจยั ที่สาคญั อยา่ งยง่ิ ตอ่ การดาเนินชีวิตและการทางานในชีวติ ประจาวนั ฉะน้นั การเรียนรู้เพอ่ื ทาความรู้จกั กบั คอมพวิ เตอร์จึง ถือเป็นส่ิงท่ีมีความจาเป็นเป็นอยา่ งยงิ่ เพอ่ื ท่ีจะทราบวา่ คอมพวิ เตอร์คอื อะไร ทางานอยา่ งไร และมี ความสาคญั ตอ่ มนุษยอ์ ยา่ งไร เราจึงควรทาการศกึ ษาในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี ภาพคอมพวิ เตอร์ ที่มา https://pixabay.com/ , kaboompics คอมพิวเตอร์น้นั เป็นคาท่ีมาจากภาษาละตินวา่ Computare ซ่ึงหมายถึง\"การนบั หรือ\"การ คานวณ\" คอมพวิ เตอร์มาจากภาษาละตินวา่ Computare ซ่ึงหมายถึง การนบั หรือ การ คานวณ พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2525 ใหค้ วามหมายของคอมพิวเตอร์ไวว้ า่ \"เคร่ืองอเิ ลก็ ทรอนิกส์แบบอตั โนมตั ิ ทาหน้าท่ีเหมือนสมองกล ใชส้ าหรับแกป้ ัญหาตา่ งๆ ท่ีงา่ ยและ ซบั ซอ้ นโดยวธิ ีทางคณิตศาสตร์\" คอมพวิ เตอร์จึงเป็นเครื่องจกั รอเิ ลก็ ทรอนิกส์ที่ถกู สร้างข้ึนเพอื่ ใช้ ทางานแทนมนุษย์ ในดา้ นการคิดคานวณและสามารถจาขอ้ มลู ท้งั ตวั เลขและตวั อกั ษรไดเ้ พอ่ื การ เรียกใชง้ านในคร้ังตอ่ ไป นอกจากน้ี ยงั สามารถจดั การกบั สญั ลกั ษณ์ไดด้ ว้ ยความเร็วสูง โดยปฏบิ ตั ิ

ตามข้นั ตอนของโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ยงั มีความสามารถในดา้ นต่างๆ อีกมาก อาทเิ ช่น การ เปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งขอ้ มูล การจดั เก็บขอ้ มูลในตวั เครื่องและสามารถประมวลผล จากขอ้ มลู ตา่ งๆ ได้ หรืออาจสรุปไดง้ า่ ย ๆวา่ คอมพวิ เตอร์ คือ อปุ กรณ์ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (electronic device) ที่มนุษยใ์ ชเ้ ป็นเคร่ืองมือชว่ ยในการจดั การกบั ขอ้ มูลท่อี าจเป็นได้ ท้งั ตวั เลข ตวั อกั ษร หรือ สัญลกั ษณ์ที่ใชแ้ ทนความหมายในส่ิงตา่ ง ๆ โดยคุณสมบตั ิท่ีสาคญั ของคอมพิวเตอร์คือการที่สามารถ กาหนดชุดคาสง่ั ล่วงหนา้ หรือโปรแกรมได้ (programmable) นน่ั คือคอมพวิ เตอร์สามารถ ทางานไดห้ ลากหลายรูปแบบ ข้ึนอยกู่ บั ชุดคาส่งั ที่เลอื กมาใชง้ าน ทาใหส้ ามารถนาคอมพวิ เตอร์ไป ประยกุ ตใ์ ชง้ านไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง เช่น ใชใ้ นการตรวจคลื่นความถ่ีของหวั ใจ การฝาก - ถอนเงินใน ธนาคาร การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นตน้

อ้ำงองิ 1. ↑ Government unveils world's fastest computer จากซีเอ็นเอ็น 2. ↑ ศพั ทท์ ี่ราชบณั ฑติ ยสถานบญั ญตั ิและไม่ไดบ้ ญั ญตั ิ (๒) โดย รศ. ดร.นิตยา กาญจนะวรรณ 3. ↑ ศพั ทว์ ทิ ยาศาสตร์ราชมงคล 4. ↑ In 1946, ENIAC required an estimated 174 kW. By comparison, a modern laptop computer may use around 30 W; nearly six thousand times less. \"Approximate Desktop & Notebook Power Usage\". University of Pennsylvania. สืบค้นเมื่อ 2009-06-20. 5. ↑ \"computer, n.\". Oxford English Dictionary (2 ed.). Oxford University Press. 1989. สืบค้นเม่ือ 2009- 04-10. 6. ↑ * Ifrah, Georges (2001). The Universal History of Computing: From the Abacus to the Quantum Computer. New York: John Wiley & Sons. ISBN 0471396710. From 2700 to 2300 BC, Georges Ifrah, pp.11 7. ↑ Berkeley, Edmund (1949). Giant Brains, or Machines That Think. John Wiley & Sons. p. 19. Edmund Berkeley 8. ↑ According to advertising on Pickett's N600 slide rule boxes.\"Pickett Apollo Box Scans\". Copland.udel.edu. สืบค้นเม่ือ 2010-02-20.

จดั ทำโดย นำงสำว นวพรรณ ประชัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook