หิ น (Rocks)
ก คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส ์ (E-book) เล่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชานวัตกรรมการ ศึกษา ในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) แบบฝึกหัด ทางนักศึกษาได้จัดทำหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์(E-book) เล่มนี้ขึ้นมาเพื่อ ที่จะนำเสนอรูปแบบการสอนแบบใหม่ที่ น่าสนใจมากขึ้น และเพื่อที่จะทำให้ นักเรียนที่สนใจเรื่อง หิน ได้ศึกษา ทำความเข้าใจมากขึ้น หากมีความผิด พลาดประการใดพวกเราคณะผู้จัดทำ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ
ข สารบัญ เรื่อง หน้า --หปินระ(Rเภoทckข)องหินวัฏ จักร 1 2 -หิน(Rock cycle) 2-3 -หินอัคนี 4-6 -หินตะกอน -หินแปร 7-8 -ประโยชน์ของหิน 9-12 -แบบฝึกหัด 13-14 -สมาชิกกลุ่ม 15 16
หิ น (Ro cks) 1 คือ มวลของแข็งที่ประกอบไปด้วยแร่ ชนิดเดียวกันหรือหลายชนิดรวมตัวกัน อยู่ตามธรรมชาติเปลือกโลกส่วนใหญ่มัก เป็นแร่ตระกูลซิลิเกต นอกจากนั้นยังมีแร่ ตระกูลคาร์บอเนตเนื่องจากบรรยากาศ โลกในอดีตส่วนใหญ่เป็น คาร์บอนไดออกไซด์น้ำฝนได้ละลาย คาร์บอนไดออกไซด์บนบรรยากาศลงมา สะสมบนพื้นดินและมหาสมุทรสิ่งมีชีวิต อาศัยคาร์บอนสร้างธาตุอาหารและ ร่างกายแพลงตอนบางชนิดอาศัยซิลิกา สร้างเปลือกเมื่อตายลงทับถมกันเป็น ตะกอน
ประเภทของหิน 2 นักธรณีวิทยาแบ่งหินออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการเกิด คือ หินอัคนี หินตะกอน หินแปร วัฏจักรหิน (Rock cycle) เมื่อหินหนืดร้อนภายในโลก (MAGMA) และ หินหนืดร้อนบนพื้นผิวโลก (LAVA) เย็นตัวลงกลายเป็น หินอัคนี ลมฟ้าอากาศ น้ำ และแสงแดด ทำให้หินผุพังสึกกร่อน เป็นตะกอน ทับถมกันเป็นเวลานานหลาย ล้านปี แรงดันและปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิด การรวมตัวเป็น หินตะกอน หรือ หินชั้น
3 การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกและความ ร้อนจากแมนเทิลข้างล่าง ทำให้เกิดการแปร สภาพเป็น หินแปร กระบวนการเหล่านี้เกิด ขึ้นเป็นวงรอบเรียกว่า วัฏจักรหิน (ROCK CYCLE) อย่างไรก็ตามกระบวนการไม่ จำเป็นต้องเรียงลำดับ หินอัคนี หินชั้น และ หินแปร การเปลี่ยนแปลงประเภทหินอาจ เกิดขึ้นย้อนกลับไปมาได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัย แวดล้อม
หินอัคนี 4 หินอัคนี (IGNEOUS ROCKS) เป็นหินที่เกิด จากการแข็ง ตัวของหินหนืด (MAGMA) จาก ชั้นแมนเทิลที่โผล่ขึ้นมา เราแบ่งหินอัคนีตาม แหล่งที่มาออกเป็น 2 ประเภท คือ หินอัคนีแทรกซอน (INTRUSIVE IGNEOUS ROCKS) เป็นหินที่เกิดจากหินหนืดที่เย็นตัว ลงภายในเปลือกโลกอย่างช้าๆ ทำให้ผลึกแร่ มีขนาดใหญ่ และเนื้อหยาบ เช่น หินแกรนิต หินไดออไรต์ และหินแกรโบร หินอัคนีพุ (EXTRUSIVE INGNEOUS ROCKS) บางทีเรียกว่า หินภูเขาไฟ เป็น หินหนืดที่เกิดจากลาวาบนพื้นผิวโลกเย็น ตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลึกมีขนาดเล็ก และ เนื้อละเอียด เช่น หินบะซอลต์ หินไรออไรต์ และหินแอนดีไซต์
หินอัคนี 5
หินอัคนี 6
หินตะกอน 7 หินตะกอ น หรือ หินชั้น (SEDIMENTARY ROCKS) เป็น หินที่ถูกแสงแดด ลมฟ้า อากาศ และน้ำ หรือ ถูกกระแทก แล้วแตก เป็นก้อนเล็กๆ หรือผุกร่อน เสื่อมสภาพลง เศษหินที่ผุพังทั้งอนุภาคใหญ่และเล็กถูก พัดพาไปสะสมอัดตัวกัน เป็นชั้นๆ เกิด ความกดดันและปฏิกิริยาเคมีจนกลับ กลายเป็นหินอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิด หินตะกอนหรือหินชั้น คือ การผุพัง (WEATHERING) การกร่อน (EROSION) และการพัดพา (TRANSPORTATION)
ตัวอย่างหินตะ กอ น 8
หินแปร 9 หินแปร ค ือ หินที่แปรสภาพไปจากโดย การกระทำของความร้อน แรงดัน และ ปฏิกิริยาเคมี หินแปรบางชนิดยังแสดง เค้าเดิม บางชนิดผิดไ ปจากเดิมมากจน ต้องอาศัยดูรายละเอียดของเนื้อใน หรือ สภาพสิ่งแวดล้อมจึงจะทราบที่มา อย่างไรก็ตามหินแปรชนิดหนึ่งๆ จะมีองค์ ประกอบเดียวกันกับหินต้นกำเนิด แต่อาจ จะมีการตกผลึกของแร่ใหม่ เช่น หินชนวนแปรมาจากหินดินดาน หินอ่อน แปรมาจากหินปูน เป็นต้น หินแปรส่วน ใหญ่เกิดขึ้นในระดับลึกใต้เปลือกโลก หลายกิโลเมตร ที่ซึ่งมีความดันสูงและอยู่ ใกล้กลับหินหนืดร้อนในชั้นแอสทีโน สเฟียร์ แต่การแปรสภาพในบริเวณใกล้ พื้นผิวโลกเนื่องจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบก็ คงมี นักธรณีวิทยาแบ่งการแปรสภาพ ออกเป็น 2 ประเภท คือ
หินแปร 10 1. การแป รสภาพสัมผัส (Contact metamorphism) เป็นการแปรสภาพเพราะ ความร้อน เกิดขึ้น ณ บริเวณที่หินหนืดหรือ ลาวาแทรกดันขึ้นมาสัม ผัสกับหินท้องที่ ความร้อนและสารจากหินหนืดหรือลาวา ทำให้หินท้องที่ในบริเวณนั้นแปรเปลี่ยน สภาพผิดไปจากเดิม 2. การแปรสภาพบริเวณไพศาล (Regional metamophic) เป็นการแปรสภาพของหิน ซึ่งเกิดเป็นบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล เนื่องจากอุณหภูมิและความกดดัน โดยปกติ การเปรสภาพแบบนี้จะไม่มีความเกี่ยวพัน กับมวลหินอัคนี และมักจะมี ริ่วขนาน (Foliation) จนแลดูเป็นแถบลายสลับสี บิด ย้วยแบบลูกคลื่น ซึ่งพบในหินชีสต์ หินไนส์ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการการตกผลึกใหม่ของ แร่ในหิน ทั้งนี้ริ้วขนานอาจจะแยกออกได้ เป็นแผ่นๆ และมีผิวหน้าเรียบเนียน เช่น หินชนวน
ตัวอย่างหิน แ ปร 11
ตัวอย่างหิน แป ร 12
ประโยชน์ ขอ งห ิน 13 1. ใช้ในกา รก่อนสร้างสิ่งต่าง ๆ เช่น อาคาร บ้านเรือน เขื่อน ถนน กำแพง 2. ใช้ทำรูปแกะสลักหรืออนุสาวรีย์ 3. ใช้ทำสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ครก โม่ หิน หินลับมีด 4. ใช้ประดับตกแต่งอาคารสถานที่ต่าง ๆ หินอัคนี • หินแกรนิต ใช้ทำหินประดับ หินแกะ สลักทำอนุสาวรีย์ และวัสดุก่อสร้าง • หินบะซอลต์ ใช้ทำไยหินฉนวนกันความ ร้อน วัสดุก่อสร้าง • หินพัมมิช ใช้ทำวัสดุกรอง วัสดุก่อสร้าง และใช้ทำผงขัดพื้น
ประโยชน์ของ หิน 14 หิน•ตหะิกนอกนรว ดมน ใช้ทำหินประดับ หินก่อสร้าง • หินทราย ใช้ทำหินประดับ หินแกะสลัก หิน ลับมีด • หินดินดาน ใช้ทำเครื่องปั้ นดินเผา เซรามิก ใช้เป็นส่วนประกอบปูนซีเมนต์ • หินปูน ใช้ทำหินประดับ ปูนซีเมนต์ ปูนขาว และอุตสาหกรรมเคมี หินแปร • หินไนส์ ใช้ทำหินประดับ หินแกะสลัก ครก หิน และหินก่อสร้าง • หินชนวน ใช้ทำกระดานชนวน หินประดับ และกระเบื้องมุงหลังคา • หินอ่อน ใช้ทำหินประดับ หินแกะสลัก อุตสาหกรรมเคมี • หินควอต์ไซต์ ใช้ทำหินก่อสร้าง อุตสาหกรรมแก้ว
15
16 จัดทำโดย นางสาวลูฏฟา อาบ๊ะ รหัสนักศึ กษา 6110941221 นางสาวอายาตี ยูโซ๊ะ รหัสนักศึ กษา 6110941227 คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาตร์ทั่วไป เสนอ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์ บริเวธานันท์
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: