1 บทท่ี 1 บทนำ1.1 ควำมเป็นมำและควำมสำคัญ นำ้ เปน็ ส่ิงท่ีสำ้ คญั ในกำรด้ำรงชวี ติ ของส่ิงมีชีวิต น้ำทสี่ ะอำดเปน็ สง่ิ ท่ีจ้ำเป็น อย่ำงย่ิงในกำรด้ำรงชีวิตของมนุษย์ เนื่องจำกในกำรดำ้ เนนิ ชวี ิตในแตล่ ะวนั ถ้ำเรำอุปโภคหรือบรโิ ภคนำ้ ท่ีไม่สะอำดยอ่ มส่งผลถึงคุณภำพชีวิตของมนุษย์ได้ ปจั จุบันนำ้ ท่นี ยิ มใชท้ ่ัวไปตำมบ้ำนเรอื นตำ่ งๆ จะเปน็ น้ำประปำ หรอื น้ำก๊อก คือ น้ำที่ไหลออกมำจำกกอ๊ กน้ำ เริม่ ใช้กันมำตงั แตป่ ลำยคริสตศ์ ตวรรษที่ 19 และเป็นสำธำรณูปโภคพืนฐำนที่จ้ำเป็นในปัจจุบัน นำ้ ประปำผลติ มำจำกนำ้ ดิบ สบู เข้ำไปยงั ถงั พักตกตะกอน และผำ่ นกรรมวิธฆี ่ำเชือโรค จำกนันจึงเพิ่มแรงดนั และสง่ ไปยงั ท่อน้ำต่ำงๆในบำ้ นของผใู้ ชน้ ้ำ น้ำประปำมี กำรเติม สำรเคมี ที่เรยี กว่ำ คลอรนี เพื่อฆ่ำ เชือโรค น้ำประปำสำมำรถนำ้ มำอปุ โภค บริโภคได้ ในเขตอำ้ เภอเมอื งฉะเชงิ เทรำ จงั หวัดฉะเชิงเทรำ น้ำประปำมักมีลักษณะขุ นบ่อยครัง และมีปัญหำนำ้ ประปำขุน่ มำตอ่ เนอ่ื งยำวนำนหลำยปี โดยนำ้ ประปำทข่ี ่นุ นนั อำจจะมีหรือไมมีผลตอสุขภำพอนำมัย น้ำมีควำมขุนอำจจะไมมีผลกระทบตอสขุ ภำพของผูบรโิ ภคมำกนัก แตน้ำนนั ไมนำใชในกำรอปุ โภค บรโิ ภค ท้ำให น ำรงั เกียจและมผี ลต่อระบบกำรนำ้ นำ้ มำใชประโยขน เชน มีผลกระทบตอระบบกำรกรองทำ้ ใหเคร่ืองกรองอุดตันและเสยี เร็วและมีผลตอระบบกำรฆำเชือดวยคลอรีน เน่อื งจำกสำรแขวนลอยจะหอหุมจุลนิ ทรียไวท้ำให คลอรีนไมสำมำรถท้ำลำยจลุ ินทรียได เพื่อเป็นกำรพัฒนำคณุ ภำพชีวติ ของมนษุ ย์ ผู้วจิ ยั ได้เลง็ เห็นปญั หำเรือ่ งน้ำประปำท่ีใช้ตำมบำ้ นบำงครงัขนุ่ หรอื มีสดี ำ้ เปน็ ปัญหำสำ้ คัญอย่ำงยิ่ง จึงสนใจพัฒนำงำนวิจัย ขนุ่ ไม่ไหล ขนึ มำโดยมีหลักกำรคือตรวจจบัควำมขุน่ หรอื สดี ำ้ ของน้ำประปำทเ่ี ขำ้ มำยงั บำ้ นพักอำศยั เม่ือตรวจจบั พบว่ำนำ้ มคี วำมข่นุ หรอื มสี ดี ำ้ เกินค่ำท่ีตงั ไว้จะไม่ให้น้ำนนั ไหลไปใช้งำนโดยตรง แตจ่ ะสลบั น้ำนนั ไปกรองใหม้ ีควำมใสมำกขนึ ก่อนทีน่ ำ้ มำใช้อปุ โภคบริโภคต่อไป และผ้วู ิจยั มีควำมคดิ ที่จะน้ำนำ้ ที่ใช้แล้วมำบ้ำบดั เพ่ือเกบ็ ไว้ใช้ซำ้ อกี ครังเป็นกำรใช้ทรัพยำกรน้ำอย่ำงร้คู ณุ คำ่ ทำ้ ใหช้ ่วยลดค่ำใช้จำ่ ยในกำรด้ำเนนิ ชวี ติ ประจ้ำวันได้1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรวจิ ัย 1.2.1 เพอ่ื สร้ำงและศกึ ษำประสทิ ธิภำพของเคร่ืองตรวจจับควำมขุน่ ของนำ้ 1.2.2 เพอ่ื สรำ้ งและศึกษำประสิทธิภำพของระบบบำ้ บัดนำ้ ท่ีใชแ้ ล้วน้ำกลับมำใชใ้ หม่1.3 ขอบเขตกำรวจิ ยั 1.3.1 สร้ำงเครอ่ื งตรวจจับควำมข่นุ ของน้ำท่คี วบคุมด้วยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ภำษำซี 1.3.2 สรำ้ งระบบบำ้ บดั น้ำทีใ่ ชแ้ ล้วนำ้ กลบั มำใช้ใหมด่ ว้ ยวัสดุทใี่ ช้ประกอบกำรกรองนำ้
21.4 ข้อจำกัด 1.4.1 เครอ่ื งตรวจจับควำมขนุ่ ของนำ้ ประปำใชง้ ำนกบั ทอ่ ประปำขนำด 4 หนุ 1.4.2 ระบบบ้ำบัดน้ำทีใ่ ช้แลว้ นำ้ กลับมำใชใ้ หม่ใช้ส้ำหรับติดตังภำยในตู้ซิงคล์ ้ำงจำน1.5 สมมตฐิ ำนกำรวิจัย 1.5.1 เครื่องตรวจจับควำมขุน่ ของนำ้ ประปำมปี ระสทิ ธภิ ำพอยู่ในระดบั ดีขึนไป 1.5.2 ระบบบำ้ บัดนำ้ ทใ่ี ช้แล้วนำ้ กลบั มำใช้ใหม่ทมี่ ปี ระสิทธภิ ำพอยู่ในระดับดขี ึนไป1.6 คำจำกัดควำมท่ีใชใ้ นงำนวจิ ัย 1.6.1 น้ำประปำ หมำยถึง น้ำท่เี กรำะกรองให้สะอำด ไดม้ ำจำก แม่นำ้ ลำ้ คลอง ห้วย หนองคลอง บงึ สระเก็บน้ำ น้ำบำดำล เปน็ ตน้ ผำ่ นขบวนกำรตำ่ งๆ มำกมำย มขี ันตอนกำรผลิตหลำยขนั ตอน และต้องมกี ำรลงทุนสงู มำก 1.6.2 ขนุ่ ไม่ไหล หมำยถึง กำรตรวจจบั ควำมขุ่นของน้ำประปำ เม่อื พบวำ่ น้ำประปำขุน่ หรือมสี ีด้ำจะตัดไม่ใหน้ ้ำประปำไหลไปใช้งำนโดยตรง แต่จะนำ้ น้ำประปำนนั ไปกรองกอ่ นทีน่ ำ้ ไปใช้ 1.6.3 เครอ่ื งตรวจจบั ควำมขุ่นของนำ้ ประปำ หมำยถึง กำรตรวจจับควำมขนุ่ ของน้ำประปำดว้ ยหลักกำรตรวจวดั แสงทผ่ี ่ำนน้ำ 1.6.4 ระบบบำ้ บัดนำ้ ทีใ่ ช้แล้วน้ำกลบั มำใชใ้ หม่ หมำยถึง กำรน้ำนำ้ ทใ่ี ชแ้ ล้วที่ผ่ำนตู้ซิงค์ล้ำงจำนมำบำ้ บดั และเก็บนำ้ ทบ่ี ำ้ บัดแลว้ ไว้ใช้ซ้ำอกี ครัง 1.6.5 ประสิทธิภำพของกำรใชง้ ำน หมำยถงึ นำ้ ทผ่ี ่ำนกระบวนกำรสำมำรถน้ำมำใชอ้ ปุ โภคได้1.7 ประโยชนท์ คี่ ำดว่ำจะได้รบั 1.7.1 เป็นเคร่อื งส้ำหรับใช้งำนบ้ำบดั น้ำท่ีขุ่นไมใ่ ห้ไหลไปใช้ โดยน้ำนำ้ ท่ขี นุ่ ไปบำ้ บัดใหม้ ีควำมใสกอ่ นกำรนำ้ นำ้ ไปใช้ 1.7.2 ใช้ส้ำหรับบำ้ บัดนำ้ ทีใ่ ชแ้ ล้วนำ้ กลับมำใชใ้ หม่ เปน็ กำรใชท้ รัพยำกรนำ้ อย่ำงค้มุ ค่ำและชว่ ยลดคำ่ น้ำประปำได้ 1.7.3 ตัวเครือ่ งมีควำมสะดวกในกำรใชง้ ำนโดยติดตงั อยู่ภำยในตอู้ ำ่ งลำ้ งจำนตำมบ้ำนท่ัวไปได้ 1.7.4 มีถังสำ้ รองนำ้ ไวใ้ ช้ในยำมที่น้ำไม่ไหลได้ อีกทงั ยังสำมำรถเก็บนำ้ ทีใ่ ชแ้ ล้วน้ำกลบั มำใชใ้ หม่
3 บทท่ี 2แนวคิด ทฤษฎี เอกสำรและงำนวจิ ัยทเี่ ก่ียวข้อง2.1 ควำมขนุ่ ควำมขนุ่ (turbidity) หมำยถงึ ภำวะท่ีของไหลมีควำมขนุ่ หรอื มัวเพรำะได้รบั กำรปนเปื้อนจำกอนุภำคต่ำงๆ หรือสำรแขวนลอยหลำกขนำด ภำวะนไี ม่อำจมองเหน็ ได้ดว้ ยตำเปล่ำเชน่ เดียวกับหมอกควันในอำกำศและยังใช้เป็นมำตรส้ำคญั มำตรหน่ึงในกำรทดสอบคณุ ภำพของน้ำและกำรวัดควำมขุน่ ในของไหลอน่ื อีกด้วย ของไหลสำมำรถมวี ัตถุแขวนลอยอย่ไู ด้ ซงึ่ อำจประกอบจำกอนภุ ำคทีม่ ขี นำดแตกตำ่ งกนั ได้ ซ่งึ กรณีของเหลวมวี ัตถแุ ขวนลอย หำกวตั ถุแขวนลอยนนั มีขนำดใหญ่และหนักพอวัตถนุ นั ก็จะจมลงอย่ำงรวดเร็วสูก่ ้นภำชนะ ขณะทีอ่ นภุ ำคทเ่ี ลก็ มำกจะค่อยๆ จมลงหรอื ไมจ่ มลงเลยถ้ำของเหลวนนั ได้รับกำรส่ันอยเู่ ปน็ ประจ้ำหรอื อนภุ ำคนนั มลี กั ษณะเป็นคอลลอยด์ ของแข็งจนำดเล็กเหล่ำนีกเ็ ป็นสำเหตุให้ของเหลวเกดิ กำรขนุ่ ได้เชน่ กนั ควำมขุ่นเปน็ คุณลกั ษณะที่ส้ำคัญอย่ำงหน่งึ ของนำ้ ซึ่งเป็นดชั นที ใ่ี ชก้ ันมำกพอสมควร โดยท่ัวไป ควำมขุ่นจะมีหลำยประเภท1 ตัวอย่ำงเช่น Turbidity2, Absolute turbidity3, Jackson candle turbidity4 และNephelometric turbidity5 เปนตน โดยสำมำรถใหนิยำมไดดงั นีคือ ควำมขุนคือสมบัติ ทำงออฟติกของสำรแขวนลอย (Suspension) ซ่ึงท้ำใหแสงกระเจงิ มำกกวำจะผำนสำรตัวอยำงนนั ส้ำหรับเม็ดของสำรที่มีขนำดเสนผำศูนยกลำงนอยกวำ1/20 ของควำมยำวคลื่นของแสงท่ีตกกระทบ แสง ท่ีกระเจิงไปจะมีควำมเข ม ดังสมกำร Is = (V2 /L4 ) N เม่ือ L = wavelength ของแสงตกกระทบ Is= ควำมเขมของแสงกระเจิง V = ปริมำตรของเมด็ สำร N = จำ้ นวนของเมด็ สำรควำมขุนเกดิ จำกกำรท่ีในน้ำมีสำรที่ไมละลำยน้ำขนำดเล็กแขวนลอยซงึ่ เปนไปไดทังสำรอนิ ทรยี และสำรอนินทรยี เชน ดิน ทรำยละเอยี ดมำกแพลงคตอน สำรอนิ ทรียขนำดเล็กหรือจุลินทรยี เปนตน ถ ำในน้ำมีปริมำณสำรแขวนลอยดงั กลำวอยูในปรมิ ำณมำกเมอ่ื แสงสองมำกระทบสำรแขวนลอยนีจะท้ำให เกิดกำรหักเหของแสงกระจัดกระจำยไปท้ำใหมองเห็นนำ้ มลี กั ษณะขุน สำรแขวนลอยทอ่ี ยูในน้ำนี อำจจะ มหี รอื ไมมผี ลตอสุขภำพอนำมยั หรือระบบนิเวศนวิทยำของแหลงน้ำกไ็ ดสำรแขวนลอยบำงชนิดท่ที ำ้ ให นำ้ มีควำมขุ นอำจจะไมมีผลกระทบตอสขุ ภำพของผูบริโภคมำกนักแตทำ้ ใหน้ำนนั ไมนำใชในกำรอปุ โภค บรโิ ภค ท้ำใหนำรังเกียจ
41 ASTM D1889 - 812 Reduction of transparency of a sample due to the presence of particulate matter.3 The fractional decrease of incident monochromatic light through the sample, integrating both scatteredand transmitted light.4 An empirical measure of turbidity in a special apparatus, based on a measurement of the depth of acolumn of water sample that is just sufficient to extinguish the image of a burning standard candleobserved vertically through the sample.5 An empirical measure of turbidity based on a measurement of the light-scattering characteristics of theparticulate matter in the sample.ของแสงกระจัดกระจำยไปท้ำใหมองเห็นนำ้ มีลกั ษณะขุน สำรแขวนลอยที่อยูในนำ้ นี อำจจะ มหี รอื ไมมผี ลตอสขุ ภำพอนำมัยหรอื ระบบนเิ วศนวทิ ยำของแหลงน้ำกไ็ ดสำรแขวนลอยบำงชนิดทท่ี ้ำให น้ำมีควำมขุ นอำจจะไมมผี ลกระทบตอสขุ ภำพของผูบรโิ ภคมำกนักแตทำ้ ใหนำ้ นันไมนำใชในกำรอุปโภค บรโิ ภค ทำ้ ใหนำรงั เกียจและมีผลตอระบบกำรนำ้ นำ้ มำใชประโยขน เชน มผี ลกระทบตอระบบกำรกรองท้ำให เคร่ืองกรองอุดตันและเสยี เร็วและมีผลตอระบบกำรฆำเชือดวยคลอรนี เนือ่ งจำกสำรแขวนลอยจะหอหุมจลุ ินทรีย ไวท้ำให คลอรีนไมสำมำรถท้ำลำยจุลินทรียได นอกจำกนี ควำมขุนในแหลงนำ้ ยังทำ้ ใหกำรสังเครำะหแสงของพืชในน้ำเป นไปไดไมเต็มที่เนื่องจำกควำมขุนจะบดบงั แสงอำทติ ยทจ่ี ะผำนลงไปในน้ำท้ำให ปริมำณออกซิเจนในน้ำมีน อยและมีผลตอกำรมองเหน็ ของสตั วน้ำดวยแตกม็ ี สำรแขวนลอยบำงชนิดท่ีไม ละลำยในน้ำท้ำให น้ำขุ นและเป นอันตรำยตอส่งิ มชี ีวิตท่อี ำศัยอยูในน้ำและไม สำมำรถจะน้ำนำ้ นนั มำเพ่อื ใชประโยชนไดสำรประเภทนีสวนมำกจะมำจำกกำรประกอบกิจกำรโรงงำน อตุ สำหกรรม โรงพยำบำลและแหล งก้ำเนิดสำรพิษ (Hazardous Waste)ตำงๆ จะผำนลงไปในน้ำท้ำใหปรมิ ำณออกซิเจนในนำ้ มีนอยและมผี ลตอกำรมองเห็นของสตั วน้ำดวยแตก็มี สำรแขวนลอยบำงชนิดท่ไี มละลำยในน้ำท้ำใหน้ำขุนและเปนอันตรำยตอส่ิงมีชีวิตที่อำศัยอยู ในน้ำและไม สำมำรถจะนำ้ น้ำนันมำเพอ่ื ใชประโยชนไดสำรประเภทนสี วนมำกจะมำจำกกำรประกอบกิจกำรโรงงำน อุตสำหกรรมโรงพยำบำลและแหลงกำ้ เนิดสำรพษิ (Hazardous Waste) ตำงๆ กำรตรวจวัดควำมขุ นสำมำรถกระท้ำได หลำยวิธีแตท่ีใช กันมำกคือกำรใช เคร่ืองวัดควำมขุ น(Nephelometer) ซงึ่ เปนเครอ่ื งมือท ่ใี ชในกำรเปรียบเทยี บควำมเขมของแสงทีก่ ระเจงิ ออกมำของ ตัวอย ำงน้ำเทยี บกบั ของสำรมำตรฐำนภำยใตสภำวะท่ีก้ำหนดโดยถำควำมเข มของแสงที่กระเจิงออกมำ มำกขึนน่ันคือตัวอยำงน้ำนนั จะมคี วำมขุนมำกขนึ สำรมำตรฐำนท่ีใชมีหลำยชนดิ เชน สำรควำมขุ น มำตรฐำนทิเทเนียมไดออกไซดในโพลสี ตรัยรีน (Titanium dioxide in partially polymerized polystyrene) และสำรควำมขุนมำตรฐำนฟอร มำซีน(Formazin Suspension) ซ่ึงเปนสำรมำตรฐำนท่ีใช กันมำก (เตรียมได จำกกำรน้ำHydrazine sulfate มำทำ้ ปฏิกิริยำกบั Hexamethylene tetramine ภำยใตสภำวะท่เี หมำะสม) โดยหน วยท่ีใชคอื เอน็ ทียู (Nephelometric Turbidity Unit, NTU) สำ้ หรบั นำ้ ดื่ม องคกำรอนำมัยโลกก้ำหนดให มีควำมขุ่นไดไมเกิน 25 เอ็นทยี ู
5 ภำพที่ 2.1 สำรควำมขุน่กำรวดั ควำมขุนของน้ำในแมนำ้ จะใชเครื่องมอื ในกำรวดั ณ จุดตรวจวัดนำ้ ในสนำมทนั ที หรือจะเก็บตัวอย ำงน้ำมำวดั ควำมขุนในหองปฏบิ ตั กิ ำรกไ็ ด ตัวอยำงเครือ่ งมือที่ใชในกำรวัดควำมขุน 1. Turbidity Meter, Hach Model 2100P Portable Turbidimeter และ Model Ratio/XRTurbidimeter, Hach Company, Loveland, Colorado, USA 2. Water Quality Monitor, Solomat Model WP803, Solomat Neotronics, USA2.2 แอลดอี ำร์ แอลดอี ำร์ (LDR : Light Dependent Resistor) คือ ควำมตำ้ นทำนชนดิ ทไ่ี วต่อแสง กลำ่ วคอื ตวัควำมตำ้ นทำนนีสำมำรถเปลี่ยนสภำพทำงควำมน้ำไฟฟำ้ ได้เมื่อมีแสงมำตกกระทบ บำงครงั เรียกว่ำโฟโตรีซีสเตอร์ ( Photo Resistor) หรือ โฟโตคอนดัคเตอร์ (Photo Conductor) เป็นตัวต้ำนทำนท่ีท้ำมำจำกสำรกึ่งตัวน้ำ สวิตซ์ทำ้ งำนดว้ ยแสง กำร ใช้ LDR ทำ้ งำนในวงจรปิดเปดิ สวิตซ์ เรำก็ จะใช้เพยี ง 2 อยำ่ งเทำ่ นัน คือ มแี สง หรือ ไมม่ แี สง.โดย ท่ัวไปเรำจะ ใช้วธิ ีเอำมำอนกุ รมกบั ตวั ตำ้ นทำนตวั หนึ่ง แล้วตอ่ เปน็ วงจรแบ่งแรงดันออกมำตำมรูปที่ 2.2อยำ่ งในรูป ( ก ) จะท้ำงำนดังนี คือ ถำ้ มแี สงสวำ่ ง LDR จะมีควำมตำ้ นทำนตำ้่ ทำ้ ให้แรงดนั ส่วนใหญ่มำตกคร่อม R 1 เสยี หมด แรงดันเอำตพ์ ตุ จงึ สงู เกอื บเท่ำ แรงดนั ไฟเลียง และ ถำ้ ไมม่ ี แสง LDR จะมีควำมต้ำนทำนสงู แรงดันสว่ นใหญ่จะ ไปตกท่ี LDR แรงดนั เอำตพ์ ตุ จึงเกอื บเปน็ 0 โวลต์ ภำพท่ี 2.2 หลักกำรใช้ LDR
6 ใน รปู ท่ี 2.2 (ข) วงจรจะทำ้ งำน ในทำงตรงข้ำม เพยี งแตส่ ลับทร่ี ะหว่ำง LDR กบั R 1 เวลำมีแสงสวำ่ งเอำตพ์ ุตกจ็ ะเกอื บ เป็น 0 โวลต์ เวลำไม่มแี สงสว่ำงเอำตพ์ ุตกเ็ กอื บเทำ่ แรงดันไฟเลียงจะเหน็ ไดว้ ำ่ กลับกับ กรณีแรก2.3 แอลอีดี หลอดแอลอีดี LED หรอื ไดโอดเปลง่ แสง โครงสรำ้ งประกอบไปดว้ ยสำรกึง่ ตวั น้ำสองชนดิ (สำรกง่ึตัวน้ำชนิด N และสำรกึ่งตัวนำ้ ชนิด P) ประกบเขำ้ ด้วยกัน มีผวิ ขำ้ งหนง่ึ เรยี บคล้ำยกระจกเมอื่ จำ่ ยไฟฟำ้กระแสตรงผำ่ นตัว LED โดยจำ่ ยไฟบวกใหข้ ำแอโนต (A) จำ่ ยไฟลบใหข้ ำแคโทด (K) ท้ำให้อเิ ลก็ ตรอนที่สำรก่ึงตัวนำ้ ชนดิ N มีพลังงำนสูงขนึ จนสำมำรถว่ิงขำ้ มรอยตอ่ จำกสำรชนดิ N ไปรวมกับโฮลในสำรชนดิ P กำรท่ีอิเลก็ ตรอนเคลอ่ื นทีผ่ ำ่ นรอยต่อ PN ท้ำให้เกดิ กระแสไหล เป็นผลให้ระดับพลงั งำนของอิเล็กตรอนเปลยี่ นไปและคำยพลงั งำนออกมำในรปู คลนื่ แสง ภำพที่ 2.3 รปู ร่ำงของ LED สีของแสงท่ีเกดิ จำกรอยตอ่ จะขนึ อย่กู บั ชนิดของวสั ดุทีน่ ำ้ มำใช้ในกำรสรำ้ ง LED ทงั ชนิดทเ่ี ป็นของเหลวและกำ๊ ซ เช่น ใช้แกลเลียมฟอสไฟด์ (GALLIUM PHOSPHIDE,GaP) ท้ำให้เกดิ แสงสแี ดง ใช้แกลเลยี มอำซไี นด์ ฟอสไฟด์ (GALLIUM ARSENIDE PHOSPHIDE,GaAsP) เกดิ แสงสเี หลืองและเขียวกำรควบคุมปรมิ ำณแสงสวำ่ งจะควบคุมกระแสที่ไหลผ่ำน หลอด LED หำกกระแสทไ่ี หลสงู มำกไปจะทำ้ ให้หลอดมีควำมสว่ำงมำก แตห่ ำกปอ้ นกระแสสงู มำไปจะท้ำใหบ้ รเิ วณรอยตอ่ ของสำรก่ึงตัวน้ำเกิดควำมรอ้ น ปรมิ ำณมำกจนทำ้ ใหโ้ ครงสรำ้ งหลอดเสยี หำยไม่สำมำรถใชง้ ำนได้อกี2.4 แผงวงจรควบคุม ภำพที่ 2.4 แผงวงจรควบคุม ATX2
7ATX2 เปน็ แผงวงจรแบบโปรแกรมได้ ทขี่ บั มอเตอร์ไฟตรงได้ 6 ตวั และเซอร์โวมอเตอร์ อีก 8 ตัวพร้อมกัน ทังยงั มจี ดุ ต่ออนิ พตุ เอำต์พตุ เพ่อื เช่ือมต่อกับแผงวงจรตัวตรวจจับแบบตำ่ งๆ ทังอะนำลอกและดิจิตอลจ้ำนวนมำกจึงน้ำไปใชเ้ ป็นแผงวงจรควบคมุ ของหุน่ ยนต์ อตั โนมตั ิ เพ่ือกำรศกึ ษำขนำดกลำง และน้ำไปใช้สร้ำงโครงงำนวิทยำศำสตร์ และเทคโนโลยี ทสี่ อดคล้องกบั กำรเรียนรู้สะเตม็ ศึกษำได้เป็นอยำ่ งดีด้ำนกำรพฒั นำโปรแกรม แผงวงจร ATX2 รองรบั โปรแกรมท่ีพฒั นำดว้ ยภำษำ C/C++ โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงกับซอฟตแ์ วร์ ในโครงกำรพฒั นำระบบควบคมุ ขนำดเล็กเพ่ือประยกุ ต์ใช้งำนดำ้ นซอฟตแ์ วร์ และฮำร์ดแวร์ในแบบโอเพน่ ซอร์สทีช่ ื่อ Arduino (www.arduino.cc)คุณสมบตั ขิ องแผงวงจรควบคมุ หลัก • กำรควบคมุ หลักใชไ้ มโครคอนโทรลเลอร์ 8 บิตเบอร์ ATmega644P มีหน่วยควำมจ้ำ โปรแกรมแบบแฟลช 64 กิโลไบต์ โปรแกรมใหม่ได้ 10,000 ครัง มีหน่วยควำมจ้ำข้อมูลอีอีพรอม 4 กิโลไบต์ และหน่วยควำมจำ้ ข้อมูลแรม 4 กิโลไบต์ สญั ญำณนำฬกิ ำ 20MHz จำกครสิ ตอล • ในสว่ นของอปุ กรณ์อนิ พุต เอำตพ์ ุตเสริมใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ 8 บิต เบอร์ ATmega88A ของAtmel ทำ้ หนำ้ ที่จดั กำรอนิ พุตเอำตพ์ ตุ เพิม่ เติมใหก้ บั แผงวงจร • กำ้ หนดชอ่ื ขำพอรต์ ในกำรติดต่ออุปกรณ์ตำมข้อก้ำหนดของฮำรด์ แวร์ Arduino มำตรฐำน • มจี ุดต่อพอรต์ 3 ขำ (ขำไฟเลยี ง, สัญญำณ และกรำวด)์ แบบโปรแกรมได้ จ้ำนวน 18 จุด แบ่งเป็นขำพอร์ตแบบดิจติ อลหรอื อะนำลอก (ก้ำหนดได้) 8 จุด (พอร์ต 24 หรือ A0 ถึงพอร์ต 31 หรือ A7), จุดต่ออนิ พตุ อะนำลอกอยำ่ งเดยี ว 5 จดุ (A8 ถงึ A12), จุดต่ออิ นพุตเอำต์พุตแบบดิจติ อลทรี่ องรับกำรอินเตอรร์ ัปต์1 จุด (พอร์ต 18 หรอื INT2), จดุ ตอ่ ขำพอรต์ สำ้ หรับบสั สือ่ สำรข้อมูล 2 สำย (TWI) 1 ชดุ (2 จุดคือ พอร์ต 9-SCL และพอร์ต 9-SDA) และจุดตอ่ บสั ส่อื สำรขอ้ มูลอนุกรมหรือ UART 1 ชุด (2 จุด ประกอบด้วยพอร์ต 2-RXD1 และพอรต์ 3-TXD1) สำ้ หรบั จุดต่อพอร์ต TWI และ UART สำมำรถก้ำหนดให้เป็นขำพอร์ตอินพุตเอำตพ์ ตุ ดจิ ติ อลส้ำหรับงำนทวั่ ไปได้ นอกจำกนันทจี่ ุด UART ยังใช้งำนเป็นอนิ พุตดจิ ติ อลท่ีรองรับกำรอินเตอร์รปั ตไ์ ดอ้ ีก 2 จดุ ดว้ ย น่นั คือ RXD1 คืออินพุตอินเตอร์รัปต์ ช่อง 0 หรือ INT0 และ TXD1 คืออินพุตอินเตอร์รปั ต์ ชอ่ ง 1 หรือ INT1 • จุดตอ่ พอรต์ อินพุตอะนำลอกทงั 13 จดุ (A0 ถงึ A12) รองรับแรงดันได้ ตังแต่ 0 ถึง +5V มีควำมละเอยี ดในกำรแปลงสัญญำณเป็นขอ้ มูลดจิ ติ อล 10 บติ ใหผ้ ลกำรทำ้ งำนในชว่ ง 0 ถงึ 1,023 • มตี วั ต้ำนทำนปรบั ค่ำได้ หรอื KNOB ส้ำหรับทดลองกำรท้ำงำนของวงจรแปลงสัญญำณอะนำลอกเป็นดจิ ติ อลได้ โดยไม่ตอ้ งตอ่ อุปกรณ์ภำยนอก • มีสวิตช์ OK เปน็ สวติ ชแ์ บบกดติดปลอ่ ยดบั ทมี่ กี ำรต่อตวั ตำ้ นทำนพูลอัปไว้แล้วส้ำหรับทดสอบกำรอำ่ นคำ่ อนิ พุตดิจิตอลอย่ำงง่ำย • มลี ำ้ โพงเปยี โซส้ำหรบั ขบั เสียง • มจี อแสดงผลแบบกรำฟิก LCD สี ควำมละเอียด 128 x 160 จุด แสดงตัวอักษรได้ 21 ตัว 16บรรทดั
8 • มจี ดุ ต่อพอรต์ ส่อื สำรข้อมลู อนกุ รม UART 1 ชดุ ส้ำหรบั ติดต่อกบั อุปกรณ์อนกุ รม อำทิ โมดูล กล้องPixy, โมดลู บลูทูธ BlueStick, โมดลู ส่อื สำร XBEE และ XBEE PRO, โมดูล WiFi, แผงวงจรขับเซอร์โวหลำยชอ่ งแบบอนกุ รม, โมดลู LCD แบบอนุกรม เป็นตน้ • มวี งจรขบั มอเตอรไ์ ฟตรง 6 ช่อง พร้อมไฟแสดงกำรทำ้ งำน รองรบั มอเตอร์ไฟตรงขนำด 4.5 ถึง 9Vขบั กระแสไฟฟำ้ ได้สงู สดุ 3A และ 1.2A หำกเป็นกำรขับต่อเน่อื ง • มจี ุดตอ่ RC เซอรโ์ วมอเตอร์ขนำดเล็ก 8 ชอ่ ง รองรับเซอร์โวมอเตอร์ ขนำด 4.8 ถงึ 7.2V • มี LED แสดงสภำวะไฟเลยี งของวงจรขบั มอเตอร์ และเซอร์โวมอเตอร์ปกติจะติดสว่ำง และดับลงหำกมอเตอร์ มีกำรลดั วงจร • มวี งจรตรวจสอบระดบั ไฟเลยี งของระบบแสดงผลดว้ ย LED เม่ือไฟเลียงต้่ำกวำ่ 6V • ดำวน์โหลดและสอื่ สำรข้อมลู กบั คอมพวิ เตอร์ผ่ำนพอร์ต USB มไี ฟแสดงกำรท้ำงำน • มีสวติ ช์ RESET ส้ำหรบั รเี ซตกำรท้ำงำน • รองรบั กำรขยำยพอรต์ ผ่ำนจดุ ตอ่ พอรต์ บัส 2 สำยหรือ TWI โดยใชอ้ ุปกรณ์เพมิ่ เติม • ใชไ้ ฟเลียง +6 ถงึ +9V กระแสไฟฟำ้ 1100mA (เป็นอยำ่ งน้อย หำกใชก้ บั มอเตอร์ 4 ตัว) • มวี งจรควบคมุ แรงดนั คงที่ +5V ส้ำหรบั ไมโครคอนโทรลเลอร์ และควบคุมแรงดันคงท่ี + 6V ส้ำหรับวงจรขับเซอร์โวมอเตอร์ ทงั นเี พอื่ ปอ้ งกนั ควำมเสยี หำยกรณีจ่ำยไฟเกนิ แกเ่ ซอรโ์ วมอเตอร์2.5 โซลินอยดว์ ำลว์ วำล์ว คอื อุปกรณ์ควบคมุ กำรปดิ -เปิดทำงไหลเข้ำออกของนำ้ หรือของไหลอนื่ ๆ ภำพท่ี 2.5 แสดงกำรท้ำงำนของวำลว์ โซลีนอยด์วำล์ว คือ อุปกรณท์ ำงอิเล็คโตร แมคเนตคิ ทีใ่ ชค้ วบคุมปริมำตรของของไหลที่ไหลผ่ำนท่อโดยกำรเปดิ หรือปิดทร่ี ู orifices ของตวั วำลว์
9 ภำพที่ 2.6 แสดงกำรทำ้ งำนของโซลนิ อยด์วำล์วโครงสร้ำงของโซลีนอยด์วำล์ว เป็นกำรรวมกันของ 2 รูปแบบกำรท้ำงำน คือ SOLENOID - (Electro-magnetic) coil จะเป็นตวั ท้ำหน้ำท่ีสรำ้ งสนำมแม่เหล็กและเหนี่ยวน้ำให้ plunger เคลื่อนที่ขึนลง VALVE –ตวั วำล์วจะมีรู orifice ที่มี disc คอยปิดและเปิดใหข้ องไหลไหลผ่ำนวำล์ว รูปท่ี 2.7 แสดงโครงสรำ้ งของโซลินอยดว์ ำล์วกำรทำ้ งำนพนื ฐำนของคอยล์ไฟฟำ้ รปู ท่ี 2.8 คอยลข์ องโซลนิ อยด์วำล์วขณะยงั ไม่จำ่ ยไฟคอยล์ของโซลินอยด์วำล์วขณะท่ีไมม่ กี ำรจำ่ ยไฟ รูปที่ 2.9 คอยล์ของโซลนิ อยด์วำลว์ ขณะจำ่ ยไฟ
102.6 งำนวจิ ัยท่ีเกยี่ วขอ้ ง นำงสำวกฤษณช์ ฎำภรณ์ เขียนปัญญำ นำงสำวสิริภำดำ คุรุวำศรี ได้ท้ำกำรวิจัยเรื่องกำรศกึ ษำคุณภำพนำ้ ในแก่งละวำ้ จังหวัดขอนแก่น ในปี 2554 พบว่ำ แกง่ ละวำ้ ตังอย่ใู นเขตพืนท่ีอ้ำเภอบ้ำนไผ่และอำ้ เภอบำ้ นแฮด จงหั วัดขอนแก่น เนือที่ประมำณ 7,000 ไร่ อย่สู งู จำกระดบั น้ำทะเลปำนกลำง 160 เมตรปริมำณน้ำฝนเฉลี่ยรำยปี 1,127 มิลลเิ มตร ประชำกรใน พนื ท่ีใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์จำกแหล่งน้ำ นีในกำรอปุ โภค กำรเกษตร และกำรประมง คณะผ้วู ิจัยจึงมี วัตถุประสงค์ท่ีจะศึกษำคุณภำพน้ำ ในแก่งละว้ำ ได้แก่ควำมเป็นกรด-เบส ออกซิเจนละลำยน้ำ อุณหภมู ขิ องนำ้ ควำมโปร่งใสของน้ำ และกำรน้ำไฟฟ้ำของน้ำ ในระหว่ำงเดอื นกันยำยน – ตุลำคม 2554 เพื่อ เป็นขอ้ มูลในกำรให้ค้ำแนะน้ำในกำรดูแลรักษำ แหล่งน้ำ ให้มีคุณภำพดีและเป็นประโยชนต์ อ่ ไป เกวลนิ คุ้มรักษ์ อนุมัติ อิงคนินันท์ และ อมรฤทธิ์ พุทธิพิพัฒน์ขจร ได้ท้ำกำรวิจัยเรื่องระบบตดิ ตำมสภำพนำ้ บ่อปลำเพอ่ื ธุรกจิ ปลำสวยงำม พบว่ำ ธุรกิจเพำะพันธุ์ปลำสวยงำมเป็นธุรกิจที่มีกำรลงทนุ สงู ผู้ประกอบกำรจึงต้องค้ำนึงถึงคุณภำพของน้ำ หำกคุณภำพน้ำที่เหมำะสมและดีแล้ว ปลำก็จะเจรญิ เตบิ โต มสี ุขภำพและมคี ณุ ภำพทีด่ ีจงึ สำมำรถจำ้ หน่ำยได้ในรำคำท่ีสงู เมื่อมีกำรเพำะเลียงปลำท่ี สำมำรถจดั กำรควบคมุ คณุ ภำพนำ้ ได้ก็จะชว่ ยให้กำรเพำะเลียงปลำสวยงำมประสบควำมส้ำ เร็จได้ ดังนันจึงคิดค้นระบบตดิ ตำมสภำพน้ำบ่อปลำ เพื่อธุรกิจปลำสวยงำมขึนมำโดยมีแนวคิดท่ีจะออกแบบและค วบคุมผ่ำนไมโครคอนโทรลเลอร์ ซึ่งไมโครคอนโทรลเลอรจ์ ะทำ้ หน้ำท่ีรบั ส่งข้อมูลจำกเซ็นเซอร์ทงั 4 ชนิด คือ เซ็นเซอร์วัดอณุ หภมู ิ เซ็นเซอร์ วัดคำ่ กรด-เบส เซ็นเซอร์วัดระดับของน้ำและเซ็นเซอร์วัดควำมขุ่น ในกำรตรวจสอบคณุ ภำพน้ำ2.7 กรอบแนวคดิ ในกำรวจิ ยั ปัจจัยสว่ นบุคคล ประสทิ ธิภาพของเครื่องตรวจจบั-เพศ ความข่นุ ของนา้ ประปาและระบบ-อายุ บ้ำบดั นำ้ ท่ีใช้แล้วน้ำกลบั มำใช้ใหม่-ประสบการณ์ทางาน ปัจจยั อ่ืนๆ-ด้านรูปแบบการทางาน-ด้านรูปแบบความสวยงาม-ด้านประโยชนท์ ี่ได้รับ
11 บทที่ 3วธิ ีดำเนินกำรวจิ ยักำรศกึ ษำวิจยั เร่ือง ขุ่นไมไ่ หล ผวู้ จิ ัยเสนอวิธีกำรด้ำเนินกำรวจิ ยั ดังนี3.1 ประชำกรและกำรสมุ่ กลุม่ ตัวอยำ่ ง 3.1.1 ประชำกร ครูประจำ้ สำขำวิชำคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ วทิ ยำลยั อำชวี ศกึ ษำฉะเชิงเทรำ จ้ำนวน 10 คน 3.1.2 กำรส่มุ กลุม่ ตวั อย่ำง ครูประจ้ำสำขำวชิ ำคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วทิ ยำลัยอำชีวศึกษำฉะเชิงเทรำ ภำคเรียนท่ี 1/2559จ้ำนวน 10 คน ได้จำกกำรสุ่มตัวอย่ำงแบบง่ำย (Simple Random Sampling) และก้ำหนดขนำดกลุ่มตัวอย่ำงโดยใช้ตำรำงสำ้ เร็จรูปของ Krejcie and Morgan ทรี่ ะดับควำมคำดเคลอ่ื น ±5% (พรรณี ลีกิจวัฒนะ.2549 : 101)3.2 เครือ่ งมอื ในกำรวจิ ัยและกำรตรวจสอบคุณภำพเครื่องมอื กำรวิจัยเร่อื งขุ่นไมไ่ หล ผวู้ จิ ยั ไดใ้ ช้เคร่ืองมอื ใน 2 ลักษณะ ดังนี 1.เครื่องตร วจ จับควำ มขุ่น ของน้ำ ปร ะปำและระบบบ้ำ บัดน้ำ ที่ใช้แล้วน้ำ กลับมำ ใช้ใหม่ 2.แบบประเมนิ คณุ ภำพของครูเก่ียวกบั คณุ ภำพของเครอ่ื งตรวจจบั ควำมขุ่นของน้ำประปำและระบบ บ้ำบัดน้ำทใ่ี ชแ้ ล้วน้ำกลับมำใชใ้ หม่ 3.2.1 เครอื่ งตรวจจับควำมขนุ่ ของนำประปำและชุดจำลองกำรไหลของนำประปำ แบ่งได้ 4 สว่ นดงั นี 3.2.1.1 เซนเซอร์ตรวจจับควำมขนุ่ ของนำ้ ประปำ 3.2.1.2 แผงวงจรควบคมุ กำรท้ำงำนควบคุมดว้ ยภำษำซี 3.2.1.3 ระบบควบคุมกำรไหลของนำ้ 3.2.1.4 ระบบกำรกรองน้ำ 3.2.2 แบบประเมินคณุ ภำพของเคร่ืองตรวจจับควำมขนุ่ ของนำประปำและระบบบ้ำบดั นำ้ ท่ีใช้แล้วน้ำกลับมำใช้ใหม่ ในกำรสรำ้ งเครื่องมอื ทใ่ี ช้ในกำรวิจัย ผู้วจิ ัยได้ดำ้ เนินกำรดงั ต่อไปนี 1) ศกึ ษำทฤษฎี เอกสำร ต้ำรำ และงำนวจิ ัยทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับงำนวจิ ยั 2) ศกึ ษำวธิ ีกำรสร้ำงแบบประเมินคณุ ภำพจำกเอกสำรและงำนวิจยั ที่เกี่ยวข้อง 3) ทำ้ กำรก้ำหนดประเดน็ และขอบข่ำยของค้ำถำมใหส้ อดคลอ้ งกับวัตถปุ ระสงค์ของงำนวจิ ัย โดยกำรหำคำ่ ดัชนีควำมสอดคล้อง IOC
12ตำรำงท่ี 3.1 แสดงคะแนน เกณฑ์ค่ำเฉล่ยี และระดับคุณภำพของเครื่องตรวจจับควำมขนุ่ ของน้ำประปำและระบบบำ้ บดั น้ำทใ่ี ชแ้ ล้วนำ้ กลบั มำใชใ้ หม่คะแนน เกณฑ์คำ่ เฉล่ีย ( x ) ระดบั คุณภำพ5 4.50 – 5.00 ดมี ำก4 3.50 – 4.49 ดี3 2.50 – 3.49 ปำนกลำง2 1.50 – 2.49 พอใช้1 1.00 – 1.49 ควรปรับปรุง3.3 กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล กำรวิจยั นีผู้วิจยั ได้ท้ำกำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ดงั นี 1) ท้ำบันทกึ ข้อควำมขออนญุ ำตท้ำแบบประเมนิ คุณภำพเครื่องตรวจจบั ควำมขนุ่ ของน้ำประปำและระบบบ้ำบดั นำ้ ทใ่ี ช้แลว้ น้ำกลบั มำใช้ใหม่ 2) น้ำแบบประเมินพรอ้ มบันทึกขอ้ ควำมเพ่อื ขออนุญำตให้ครทู ำ้ กำรประเมนิ คุณภำพ 3) นำ้ แบบประเมินทีไ่ ด้รบั กำรประเมินแลว้ ไปวเิ ครำะหข์ ้อมลู3.4 กำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู ผ้วู ิจัยได้ดำ้ เนินกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ดงั นี 1.วิเครำะหข์ อ้ มูลคุณภำพของระบบและควำมคิดเหน็ ที่มีตอ่ กำรใช้เคร่ืองตรวจจับควำมขนุ่ ของน้ำประปำและระบบบ้ำบดั นำ้ ทใ่ี ช้แลว้ น้ำกลบั มำใชใ้ หม่ นำ้ ขอ้ มลู ทีไ่ ด้จำกกำรสำ้ รวจขอ้ มลู ในกำรวจิ ยั กำรพฒั นำเคร่อื งตรวจจบั ควำมข่นุ ของน้ำประปำและระบบบำ้ บดั น้ำที่ใช้แล้วนำ้ กลับมำใชใ้ หม่ ดำ้ เนินกำรวเิ ครำะห์หำคำ่ เฉล่ยี ค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน ดงั นี- กำรหำค่ำเฉลีย่ (รวีวรรณ ชนิ ะตระกูล.2540 : 183) ใชส้ ูตรเมื่อ X X n X หมำยถึง ค่ำเฉลี่ย X หมำยถึง ผลรวมของข้อมลู ทังหมดn หมำยถงึ จ้ำนวนข้อมูลทังหมด
13- กำรหำค่ำสว่ นเบ่ยี งเบนมำตรฐำน (รววี รรณ ชินะตระกูล. 2540 : 204) ใชส้ ตู ร S.D. X X 2 n 1เม่อืS.D. หมำยถงึ ส่วนเบยี่ งเบนมำตรฐำน หมำยถงึ ผลรวมX หมำยถึง ข้อมูลแต่ละจ้ำนวนX หมำยถงึ คำ่ เฉล่ียของข้อมลู ทังหมดn หมำยถงึ จำ้ นวนขอ้ มูลทังหมด
14 บทที่ 4 ผลกำรวิจยั ผ้วู จิ ยั ได้ดำ้ เนินกำรศกึ ษำและพัฒนำเคร่อื งตรวจจบั ควำมขนุ่ ของนำ้ ประปำและระบบบำ้ บัดนำ้ ท่ีใช้แล้วน้ำกลบั มำใชใ้ หม่ ได้มีกำรเกบ็ ขอ้ มูลและท้ำกำรวิเครำะหข์ ้อมูลได้ผลดังนี4.1 คุณภำพของเครอ่ื งตรวจจบั ควำมขุ่นของนำประปำและระบบบำ้ บดั นำ้ ทใ่ี ช้แลว้ นำ้ กลบั มำใช้ใหม่ กำรประเมินคณุ ภำพของเครอ่ื งตรวจจับควำมขนุ่ ของน้ำประปำและระบบบ้ำบดั น้ำที่ใช้แล้วน้ำกลบั มำใชใ้ หม่ ผูว้ จิ ยั ได้สอบถำมควำมคดิ เห็นเกย่ี วกบั กำรพัฒนำระบบงำนนี โดยแบง่ ออกเปน็ 3 ด้ำน ซึ่งประกอบดว้ ยดำ้ นกำรท้ำงำน ด้ำนรูปแบบกำรน้ำเสนอ และดำ้ นประโยชนท์ ี่ไดร้ บัตำรำงที่ 4.1 คำ่ เฉลี่ย ส่วนเบ่ยี งเบนมำตรฐำน ระดบั คณุ ภำพ และลำ้ ดับท่ีระดบั คณุ ภำพของระบบฯ ภำพรวม รำยกำร ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ระดบั ลำ้ ดบั ท่ี (n = 10) คุณภำพ x S.D.1. ดำ้ นกำรทำ้ งำน 4.42 0.57 ดี 22. ด้ำนรูปแบบควำมสวยงำม 4.34 0.62 ดี 33. ด้ำนประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ 4.50 0.57 ดมี ำก 1 รวม 4.42 0.59 ดี - จำกตำรำงท่ี 4.1 พบว่ำภำพรวมมคี ุณภำพอยใู่ นระดบั ดี โดยมีค่ำเฉล่ีย ( x ) เท่ำกับ 4.42 และส่วนเบยี่ งเบนมำตรฐำน (S.D.) เท่ำกับ 0.59 และเม่ือพิจำรณำเปน็ รำยดำ้ นพบว่ำ ด้ำนประโยชน์ที่ได้รับ มีคุณภำพระดับดมี ำกเปน็ ล้ำดับแรก มคี ำ่ เฉลีย่ ( x ) เท่ำกับ 4.50 รองลงมำคือ ด้ำนกำรท้ำงำน มีคุณภำพระดับดี มีคำ่ เฉลี่ย ( x ) เทำ่ กบั 4.42 และลำ้ ดบั สุดท้ำย คอื ด้ำนรูปแบบควำมสวยงำม มีคุณภำพระดับดี มีค่ำเฉล่ีย ( x )เทำ่ กบั 4.34
15ตำรำงที่ 4.2 คำ่ เฉล่ยี สว่ นเบย่ี งเบนมำตรฐำน ระดับคณุ ภำพ และล้ำดบั ทรี่ ะดบั คณุ ภำพของเคร่ืองฯ ในดำ้ นกำรท้ำงำนของระบบดำ้ นกำรทำ้ งำนของระบบ ผ้ทู รงคุณวุฒิ ระดับ ล้ำดับท่ี (n = 10) คณุ ภำพ x S.D.1.1 ควำมเหมำะสมของวสั ดทุ ่ีนำ้ มำท้ำส่งิ ประดิษฐ์ 4.50 0.50 ดมี ำก 21.2 ควำมทนทำนของสิง่ ประดษิ ฐ์ 4.30 0.64 ดี 41.3 กำรตรวจจับนำ้ ขุ่น 4.40 0.49 ดี 31.4 กำรควบคุมกำรไหลของน้ำ 4.70 0.46 ดีมำก 11.5 ควำมปลอดภยั ในกำรใชง้ ำน 4.20 0.6 ดี 5 รวม 4.42 0.57 ดี -ตำรำงท่ี 4.3 ค่ำเฉล่ยี ส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำน ระดับคณุ ภำพ และลำ้ ดบั ท่ีระดบั คุณภำพของเครือ่ งฯ ในด้ำนรปู แบบกำรนำ้ เสนอด้ำนรูปแบบกำรนำ้ เสนอ ผู้ทรงคณุ วุฒิ ระดับ ลำ้ ดับที่ (n = 10) คุณภำพ x S.D.2.1 ส่งิ ประดษิ ฐ์จำกควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ 4.70 0.46 ดมี ำก 12.2 ควำมประณตี สวยงำมของสงิ่ ประดษิ ฐ์ 4.20 0.75 ดี 42.3 น้ำหนกั และควำมเหมำะสม 4.40 0.66 ดี 22.4 ควำมน่ำสนใจของสง่ิ ประดษิ ฐใ์ นเชงิ พำณชิ ย์ 4.30 0.46 ดี 32.5 สือ่ ทแ่ี สดงมคี วำมเหมำะสม 4.10 0.54 ดี 5 รวม 4.34 0.62 ดีมำก -
16ตำรำงที่ 4.4 ค่ำเฉลย่ี สว่ นเบยี่ งเบนมำตรฐำน ระดบั คุณภำพ และลำ้ ดบั ทร่ี ะดับคณุ ภำพของเครื่องฯ ในด้ำนประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับดำ้ นประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ ผ้ทู รงคุณวุฒิ ระดับ ล้ำดบั ที่ (n = 10) คุณภำพ x S.D.3.1 สำมำรถนำ้ ไปใช้งำนได้ 4.40 0.49 ดี 43.2 นักเรียน ได้ควำ มรู้ใน กำ ร เขียน โปร แกร ม 4.70 0.46 ดีมำก 2คอมพวิ เตอร์ 53.3 นกั เรียนได้ควำมรู้เกยี่ วกับไฟฟำ้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ 4.10 0.70 ดี3.4 สำมำรถบรู ณำกำรควำมรูไ้ ปใช้ประโยชน์ได้ 4.80 0.40 ดีมำก 13.5 ช่วยพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ ดขี นึ 4.50 0.50 ดีมำก 3รวม 4.50 0.57 ดีมำก -
17 บทท่ี 5สรุปผลกำรวิจัยอภิปรำยผลและขอ้ เสนอแนะกำรวิจยั ครังนีเป็นวจิ ัยและพฒั นำ เรือ่ ง ข่นุ ไม่ไหล ซึ่งสรปุ ผลกำรวจิ ัย อภิปรำยผล และขอ้ เสนอแนะดังนี5.1 สรุปผลกำรวจิ ยั 5.1.1 วตั ถปุ ระสงค์กำรวิจยั 5.1.1.1 เพือ่ สรำ้ งและศกึ ษำประสิทธภิ ำพของเครื่องตรวจจบั ควำมขุน่ ของนำ้ 5.1.1.2 เพอ่ื สรำ้ งและศึกษำประสิทธภิ ำพของระบบบ้ำบัดน้ำท่ีใช้แลว้ นำ้ กลบั มำใช้ใหม่ 5.1.2 ประชำกรและกลมุ่ ตัวอยำ่ ง ครูประจ้ำสำขำวิชำคอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ วทิ ยำลัยอำชีวศึกษำฉะเชงิ เทรำ จ้ำนวน 10 คน 5.1.3 เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ในกำรวิจยั เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นกำรวจิ ยั ประกอบด้วย 1.เครอ่ื งตรวจจับควำมข่นุ ของน้ำประปำและและระบบบ้ำบดั นำ้ ที่ใช้แลว้ น้ำกลบั มำใช้ใหม่ 2.แบบประเมนิ คุณภำพของครเู กีย่ วกับคุณภำพของเครอ่ื งตรวจจับควำมข่นุ ของน้ำประปำ และระบบบำ้ บดั นำ้ ทีใ่ ชแ้ ล้วนำ้ กลบั มำใช้ใหม่ 5.1.4 ขนั ตอนกำรสรำ้ งเครือ่ งตรวจจบั ควำมขุน่ ของนำ้ ประปำและและระบบบ้ำบัดน้ำท่ีใช้แล้วน้ำกลบั มำใช้ใหม่ ในกำรสรำ้ งเครอื่ งตรวจจับควำมขนุ่ ของนำ้ ประปำและและระบบบ้ำบดั น้ำทใ่ี ช้แล้วน้ำกลับมำใช้ใหม่ ผูว้ จิ ยั ได้ด้ำเนินกำรตำมขนั ตอนต่ำงๆ ตำมท่ีก้ำหนดไว้ 5.1.5 กำรเก็บรวบรวมข้อมูล ในกำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลผวู้ จิ ัยไดด้ ำ้ เนินกำรเก็บขอ้ มลู โดยติดต่อทำงสำขำวิชำคอมพิวเตอร์ธรุ กิจเพ่อื เตรยี มอปุ กรณ์ และน้ำแบบประเมนิ ไปใหก้ ลมุ่ ตวั อย่ำงครูสำขำวิชำคอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ จ้ำนวน 10 ชุด 5.1.6 กำรวิเครำะห์ขอ้ มูล ในกำรวิเครำะหข์ อ้ มูล ผู้วิจัยวิเครำะหข์ ้อมลู ทีร่ วบรวมได้ทังหมดโดยคำ้ นวณค่ำเฉล่ยี( x ) และคำ่ สว่ นเบยี่ งเบนมำตรฐำน (S.D.) ด้วยโปรแกรมส้ำเร็จรูปวิเครำะห์ข้อมูล และแปลควำมหมำยของค่ำเฉลีย่ ตำมเกณฑ์ 5.1.7 สรุปผลกำรวจิ ัยและพัฒนำ จำกกำรวิจัยทำ้ ให้ได้เคร่ืองตรวจจับควำมขุ่นของน้ำประปำและชุดจ้ำลองกำรไหลของนำ้ ประปำ ขึนมำระบบหน่ึง ซ่ึงสำมำรถน้ำไปใช้งำนจับควำมขุ่นของนำ้ ประปำและสำมำรถจ้ำลองกำรไหลของน้ำประปำเพอ่ื ทดสอบกำรท้ำงำนได้
185.2 อภิปรำยผล กำรพัฒนำเครอื่ งตรวจจบั ควำมขุน่ ของนำ้ ประปำและชดุ จ้ำลองกำรไหลของน้ำประปำ สำมำรถใช้งำนได้ โดยงำนวิจยั ทพี่ ัฒนำขนึ สำมำรถชว่ ยในเรือ่ งกำรตรวจจับน้ำขุ่นและป้องกันไม่ให้น้ำขุ่นไหลเข้ำสู่ภำยในบำ้ นพักอำศยั และสำมำรถน้ำไปผลติ ในเชิงพำณชิ ยไ์ ด้5.3 ขอ้ เสนอแนะในกำรนำผลกำรวจิ ยั ไปใช้ พบว่ำนักเรียนสำมำรถน้ำควำ มรู้เรื่องกำร เขียน โปรแกรมไปบูรณำ กำรกับควำ มรู้ทำ งไฟฟ้ำอิเล็กทรอนิกส์ในกำรพฒั นำเคร่อื งตรวจจบั ควำมขุ่นของน้ำประปำและชุดจ้ำลองกำรไหลของน้ำประปำขึนมำเพื่อแก้ปัญหำท่ีเกดิ ในพนื ที่อยอู่ ำศัยได้5.4 ขอ้ เสนอแนะในกำรทำวิจัยครังต่อไป กำรเลอื กวัสดุทนี่ ้ำมำใชป้ ระกอบโครงสร้ำงของชินงำน ขอ้ ตอ่ นำ้ ควรเลอื กแบบทม่ี มี ำตรฐำน มอก. จะมคี ุณภำพและทนทำน
19บรรณำนกุ รมเวชยันต์ สงั ข์จุ้ย.2554. ค่มู ือเรียนกำรเขยี นโปรแกรมภำษำซี. สำ้ นกั พมิ พ์แห่งจุฬำลงกรณ์ มหำวิทยำลยั .โอภำส เอี่ยมสิรวิ งศ์.2559.กำรออกแบบและพัฒนำโปรแกรม . ซีเอด็ ยเู คชั่น.ทีมงำนสมำร์ทเลริ น์ นิ่ง.2554. Advanced PIC Microcontroller in C. สมำร์ทเลิร์นนิง่ .เล่ือน พทุ ธกฤษณ์.2556.กำรเดินทอ่ และตดิ ตังระบบประปำ.สำ้ นกั พิมพ์คอร์ฟังก์ชัน่ .สมพงษ์ หริ ญั มำศสุวรรณ.2552.กระบวนกำรบำบดั นำเสยี ทำงชวี ภำพพนื ฐำนและ กำรคำนวณออกแบบ.ซเี อด็ ยูเคชัน่ .
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: