MATHAYOM 3 STRUCTURE: PRESENT SIMPLE TENSE LET’S LEARN TOGETHER TEACHER Miss Patitta Soongsumal
Present Simple Tense ลักษณะการใช้ Present Simple Tense Present แปลวา่ ปัจจบุ นั ดงั นนั5 Present Simple Tense จงึ เป็นประโยคทีFมีโครงสร้างแบบงา่ ย ๆ เพืFอ ใช้พดู ถงึ เหตกุ ารณ์ในปัจจบุ นั นนFั เอง โดยมีลกั ษณะตา่ ง ๆ ดงั นี 5 1. ใช้เพFือพดู ถงึ ความเป็นจริงในชีวิตประจําวนั หรือความเป็นจริงตามธรรมชาติ ถงึ แม้วา่ เหตกุ ารณ์นนั5 จะเป็นอดีตหรืออนาคตก็ตาม เชน่ - When the earth moves around itself, it makes Day and Night. (เมFือโลกหมนุ รอบตวั เอง มนั ทําให้เกิดกลางวนั กลางคืน) - Durian is the king of fruit. (ทเุ รียนเป็นราชาผลไม้) 2. ใช้เพFือพดู ถงึ เหตกุ ารณ์ นิสยั หรือการกระทําทFีเกิดขนึ 5 ซํา5 ๆ บอ่ ย ๆ เป็นประจําทกุ วนั เชน่ - I walk to school every day. (ฉนั เดนิ ไปโรงเรียนทกุ วนั น) - Nuda always help other people so everyone loves her. (นดุ าชว่ ยเหลอื คนอFืนเป็นประจํา ดงั นนั5 ทกุ คนจงึ รักหลอ่ น) 3. ใช้เพFือให้คําแนะนําหรือการบอกทิศทาง เชน่ - Turn off the television before going to bed. (ปิดโทรทศั น์ก่อนเข้านอน) - You go straight for 300 meters, then the destination is on your left. (คณุ เดนิ ตรงไป yzz เมตรและจดุ หมายปลายทางจะอยทู่ างซ้ายมือของคณุ ) รูปประโยคของ Present Simple Tense ดงั ทFีได้กลา่ วข้างต้นวา่ Present Simple Tense คือประโยคทีFบอกเลา่ เรFืองราวตา่ ง ๆ เชน่ ฉนั วา่ ยนํา5 ทกุ ๆ วนั โดยรูปประโยคของ Present Simple Tense มีรูปแบบดงั ตอ่ ไปนี 5 1. ประโยคบอกเล่า โครงสร้างของประโยคบอกเลา่ : Subject + Verb.1 + Object + (คําบอกเวลา) ทงั5 นีค5 ํากริยาชอ่ งทFี • นนั5 จะมีการเตมิ s หรือ es ถ้าหากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) แตถ่ ้าประธานเป็น I, You หรือประธานพหพู จน์ (You (หลายคน), We, They) ให้คงรูปคํากริยานนั5 ๆ ไว้เชน่ เดมิ เชน่
- I go to university by bus every morning. (ฉนั ไปมหาวิทยาลยั โดยรถโดยสารประจําทางทกุ เช้า) **ประโยคนีป5 ระธานคือ I แม้จะเป็นเอกพจน์แตเ่ ป็นข้อยกเว้น ดงั กริยา go จงึ ไมต่ ้องเตมิ s หรือ es - He plays guitar very well. (เขาเลน่ กีตาร์เก่งมาก) **ประโยคนีป5 ระธานคือ He เป็นเอกพจน์ กริยาคือ play จงึ ต้องเตมิ s - They enjoy playing the football. (พวกเขาสนกุ กบั การเลน่ ฟตุ บอล) **ประโยคนีป5 ระธานคือ They เป็นพหพู จน์ กริยาคือ enjoy จงึ ไมต่ ้องเตมิ s หรือ es ความรู้เพFิมเตมิ : หลกั การเตมิ s,es นนั5 งา่ ยนิดเดียว คือ คํากริยาทีFลงท้ายด้วย ch, o, s, ss, sh, x ให้เตมิ es เมืFอประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) เชน่ - She washes her car. ประธานของประโยคคือ She ซงFึ เป็นเอกพจน์ คํากริยาคือ wash ทีFลงท้ายด้วย sh จงึ ต้องเตมิ es ตอ่ ท้าย สว่ นคํากริยาอFืน ๆ ทFีไมไ่ ด้ลงท้ายด้วยพยญั ชนะทงั5 ‡ ตวั นนั5 ให้เตมิ s หลงั คํากริยาในประโยคทีFมี ประธานเป็นเอกพจน์ได้เลย เชน่ - My mom cooks some food for me. ประธานของประโยคคือ My mom ซงึF เป็นเอกพจน์ เราใช้ She แทน My mom ได้ คํากริยาคือ cook ทีFไมไ่ ด้ลงท้ายด้วยพยญั ชนะตามกฎ จงึ เตมิ s ได้ทนั ที และถ้าหากคํากริยานนั5 ลงท้ายด้วย y ให้เปลยีF น y เป็น i แล้วเตมิ es ท้ายคํากริยานนั5 เชน่ study - studies, fly - flies, carry - carries เป็นต้น แตม่ ีข้อยกเว้นคือ ถ้าหากหน้า y เป็นสระ (A, E, I, O, U) ให้เตมิ s ได้ทนั ที เชน่ play - plays, buy - buys, stay – stays
2. ประโยคคาํ ถาม โครงสร้างของประโยคคําถามใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคือ แบบทFี • : Verb to be + Subject + Object/สว่ นขยาย + (คําบอกเวลา) ? ใช้เมFือในประโยคนนั5 มี V. to be (Is, Am, Are) ปรากฎอยู่ เชน่ - She is my sister. ---> Is she your sister ? (หลอ่ นเป็นน้องสาวคณุ หรือเปลา่ ?) เมืFอเหน็ V. to be ในประโยคให้นํา V. to be ขนึ 5 ต้นประโยคนําหน้าประธานได้เลย เพียงเทา่ นีก5 ็ จะกลายเป็นประโยคคําถาม (และอยา่ ลมื เปลยีF นคําสรรพนามด้วยนะคะ จาก my เป็น your) แบบทีF ’ : Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คําบอกเวลา)? ใช้เมFือประโยคนนั5 ไมม่ ี V. to be จงึ ต้องนํา V. to do ได้แก่ do กบั does เข้ามาชว่ ย โดยขนึ 5 ต้น ประโยคนําหน้าประธาน ซงึF มีวิธีการใช้ทีFแตกตา่ งกนั คือ Do ใช้นําหน้า I, You และประธานทีFเป็นพหพู จน์ (You, We, They) สว่ น Does ใช้นําหน้าประธานทFีเป็นเอกพจน์ (He, She, It) และคํากริยาคงรูปชอ่ งทีF • เหมือนเดมิ โดยไมต่ ้องเตมิ s, es เชน่ - They play football every evening. ---> Do they play football every evening? (พวก เขาเลน่ ฟตุ บอลทกุ เยน็ หรือเปลา่ ?) ประโยคนีไ5 มม่ ี V. to be อยใู่ นประโยค จงึ นํา V. to do มาใช้ขนึ 5 ต้นประโยคนําหน้า they ซงึF เป็นประธานพหพู จน์ - That cat eats fish. ---> Does that cat eat fish ? (แมวตวั นนั5 กินปลาหรือเปลา่ ?) ประโยคนีไ5 มม่ ี V. to be อยใู่ นประโยค จงึ นํา V. to do นนัF ก็คือ does มาใช้ขนึ 5 ต้นประโยค นําหน้า that cat หรือก็คือ it ซงึF เป็นประธานเอกพจน์ โดยคํากริยาคือ eat มีการตดั s ออกใน ประโยคคําถาม 3. ประโยคปฏเิ สธ รูปแบบประโยคปฏิเสธใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคล้ายกบั รูปแบบประโยคคําถาม คือ แบบทFี • : Subject + Verb to be + not + Object/สว่ นขยาย + (คําบอกเวลา) ใช้เมืFอในประโยคนนั5 มี V. to be (Is, Am, Are) ปรากฎอยู่ เชน่ - I am your servant. ---> I am not your servant. (ฉนั ไมไ่ ด้เป็นคนรับใช้ของคณุ ) เมืFอเหน็ V. to be ในประโยคให้เตมิ not ไว้หลงั V. to be ได้ทนั ที เพียงเทา่ นีก5 ็จะกลายเป็น ประโยคปฏิเสธ
แบบทีF ’ : Subject + Verb to do + not + Verb.1 + Object + (คําบอกเวลา) แบบทFีสองใช้เมFือประโยคนนั5 ไมม่ ี V. to be จงึ ต้องนํา V. to do ได้แก่ do กบั does เข้ามาชว่ ยแล้ว ตามหลงั ด้วย not เพFือบอกความปฏิเสธ สว่ นคํากริยาให้คงรูปชอ่ งทFี • เหมือนเดมิ โดยไมต่ ้องเตมิ s,es เชน่ - He watches television at home. ---> He does not watch television at home. (เขา ไมไ่ ด้ดโู ทรทศั น์อยทู่ Fีบ้าน) ประโยคนีไ5 มม่ ี V. to be อยใู่ นประโยค จงึ นํา V. to do นนัF ก็คือ does มาเป็นกริยาชว่ ยและ ตามด้วย not เพืFอบอกรูปปฏิเสธ สว่ นคํากริยาเมFืออยใู่ นรูปปฏิเสธแล้วให้ตดั s,es ทิง5 คงเหลอื คํากริยาชอ่ งทีF • รูปเดมิ
THANK YOU! I HOPE THIS BOOK WILL MAKE YOU UNDERSTAND ABOUT PRESENT SIMPLE TENSE MORE, HAVE A GOOD DAY GUYS! TEACHER PATITTA
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: