P แผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมงวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาช้ันปที ่ี 5 ครผู ูส้ อน นายยทุ ธนา ว่องทิพากรหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง สมบัตขิ องวสั ดุในชีวิตประจาวัน ครผู ูส้ อน ……………………………………..แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง ความยืดหยุ่นของวัสดุชั้น ป.5/1 วันที่ ........................................ คาบที.่ ......... ช้ัน ป.5/3 วนั ท่ี ........................................ คาบที.่ .........ชั้น ป.5/2 วันที่ ........................................ คาบที่.......... เวลา 2 ช่วั โมง ภาคเรียนที่ 1/25611. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบัติของสารกบั โครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนภุ าค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ้ ละจติ วิทยาศาสตร์ สอ่ื สารสง่ิ ทเี่ รยี นรู้ และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้ีวดั สง่ิ ท่นี ักเรยี นต้องรู้ สง่ิ นกั เรียนต้องปฏบิ ัติว 3.1 ป.5/1 ทดลองและ สมบัตขิ องวสั ดชุ นิดตา่ ง ๆ 1. สืบค้นความหมายและสมบัตเิ กย่ี วกบั ความยืดหยุน่ ของวสั ดชุ นิดอธิบายสมบตั ิของวัสดุชนิด เก่ยี วกบั ความยดื หยุ่น ต่าง ๆตา่ ง ๆ เกยี่ วกับความ ความแขง็ ความเหนียว 2. ทดลอง เปรียบเทียบ และระบสุ มบัตเิ กย่ี วกับความยืดหยนุ่ ของวัสดุยดื หย่นุ ความแข็ง ความ การนาความร้อน การนา ชนิดตา่ ง ๆเหนียว การนาความรอ้ น ไฟฟา้ และความหนาแน่น 3. อธิบายสมบตั ิเก่ียวกับความยืดหยนุ่ ของวัสดชุ นิดตา่ ง ๆการนาไฟฟา้ และความ 4. รายงานแสดงสมบตั ิเก่ยี วกับความยืดหยุน่ ของวัสดชุ นิดต่าง ๆหนาแนน่ 5. ใบกิจกรรมกลุม่ 6. กจิ กรรมท่ี 1.3 ในชุดกจิ กรรมการพฒั นาการเรยี นรู้ วิชา วิทยาศาสตร์ ป.5 ของ พว.ว 3.1 ป.5/2 สบื คน้ ขอ้ มลู การนาวสั ดไุ ปใช้ใน 1. สืบค้นขอ้ มลู การนาสมบตั เิ ก่ยี วกบั ความยืดหยนุ่ ของวสั ดชุ นิดตา่ ง ๆและอภปิ รายการนาวัสดุ ชีวติ ประจาวัน ไปใชใ้ นชีวิตประจาวันไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 2. อภิปรายการนาสมบตั ิเกย่ี วกับความยืดหยนุ่ ของวสั ดุชนดิ ตา่ ง ๆ ไป ใชใ้ นชีวิตประจาวัน มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหาความรู้ การแกป้ ญั หา รู้วา่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ เ่ี กดิ ขนึ้ สว่ นใหญม่ รี ปู แบบทแี่ นน่ อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเคร่ืองมือทมี่ ีอยใู่ นชว่ งเวลาน้นั ๆ เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดลอ้ มมีความเกยี่ วข้องสมั พันธก์ ัน ตวั ชีว้ ดั สงิ่ ท่นี ักเรียนตอ้ งรู้ ส่งิ นักเรยี นต้องปฏบิ ัติว 8.1 ป.5/1 ตัง้ คาถาม เกย่ี วกบั ประเดน็ หรอื ตงั้ คาถามเกยี่ วกับสมบตั เิ กยี่ วกบั ความยืดหยุ่นของ ต้งั คาถามเร่ือง หรอื สถานการณ์ท่จี ะศกึ ษา ตามท่ี วัสดุชนดิ ต่าง ๆกาหนดให้และตามความสนใจว 8.1 ป.5/2 วางแผน การสังเกต เสนอการ วางแผนการสังเกตเก่ียวกบั สมบตั เิ กย่ี วกบั ความ วางแผนการสังเกตสารวจตรวจสอบ หรือศกึ ษาคน้ ควา้ และ ยืดหยนุ่ ของวัสดุชนดิ ต่าง ๆคาดการณส์ ่ิงทจี่ ะพบจากการสารวจตรวจสอบ
ตวั ชวี้ ัด สง่ิ ทนี่ ักเรยี นตอ้ งรู้ สงิ่ นักเรียนต้องปฏบิ ัติว 8.1 ป.5/3 เลอื กอปุ กรณ์ทถ่ี ูกตอ้ งเหมาะสมใน เลอื กอปุ กรณท์ ถี่ กู ตอ้ งเหมาะสมในการสารวจ เลอื กอุปกรณท์ ่ีใช้ในการการสารวจ ตรวจสอบใหไ้ ด้ขอ้ มูลที่เชอ่ื ถือได้ ตรวจสอบเกี่ยวกบั สมบัติเกย่ี วกับความยืดหยุ่นของ ทดลอง วัสดชุ นดิ ตา่ ง ๆว 8.1 ป.5/4 บนั ทกึ ขอ้ มูลในเชิงปริมาณและ บันทกึ ขอ้ มลู ในเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพ เกยี่ วกบั บนั ทกึ ขอ้ มูลคณุ ภาพ และตรวจสอบผลกับสง่ิ ที่คาดการณ์ไว้ สมบตั เิ ก่ียวกบั ความยดื หยนุ่ ของวสั ดชุ นิดตา่ ง ๆนาเสนอผลและข้อสรปุว 8.1 ป.5/5 สร้างคาถามใหม่เพือ่ การสารวจ สร้างคาถามใหมเ่ พ่อื การสารวจตรวจสอบตอ่ ไป สรา้ งคาถามใหม่ตรวจสอบตอ่ ไป เกย่ี วกับสมบตั เิ กี่ยวกบั ความยดื หยุ่นของวสั ดชุ นดิ ต่าง ๆว 8.1 ป.5/6 แสดงความคดิ เห็นอยา่ งอสิ ระ แสดงความคดิ เหน็ อย่างอสิ ระเกีย่ วกบั สมบัตเิ ก่ียวกับ แสดงความคดิ เหน็อธิบาย และสรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้ เรยี นรู้ ความยืดหยุ่นของวัสดชุ นิดตา่ ง ๆว 8.1 ป.5/7 บันทึกและอธิบายผลการสารวจ บันทึกและอธบิ ายผล เก่ยี วกับสมบัติเกี่ยวกับความ บนั ทึกและอธิบายผลตรวจสอบตามความเปน็ จรงิ มกี ารอ้างองิ ยดื หยุ่นของวัสดุชนดิ ตา่ ง ๆว 8.1 ป.5/8 นาเสนอ จดั แสดง ผลงาน โดย นาเสนอผล เก่ียวกบั สมบตั เิ กี่ยวกบั ความยดื หยนุ่ นาเสนอผลการทดลองอธบิ ายดว้ ยวาจา หรือเขียนอธบิ ายแสดง ของวัสดชุ นดิ ต่าง ๆ สารวจ และสรปุ ผลการกระบวนการและผลของงานให้ผูอ้ น่ื เข้าใจ ทดลอง2. จุดประสงค์การเรยี นรู้สู่ตัวชี้วดั 2.1. ทดสอบความยดื หยนุ่ ของวสั ดุต่าง ๆ ได้ (P) 2.2. อธบิ ายสภาพยดื หยุ่น และไมย่ ืดหยนุ่ ของวัสดไุ ด้ (K) 2.3. บอกไดว้ า่ ความยดื หยุ่นเป็นสมบตั อิ ยา่ งหน่ึงของวสั ดุ (K) 2.4. เปน็ คนชา่ งสงั เกต ชา่ งคดิ ช่างสงสยั และเปน็ ผู้ทม่ี ีความกระตอื รอื รน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A)3. สาระสาคัญ ความยดื หยุ่นของวสั ดุ หมายถงึ ลักษณะของวสั ดุเมอ่ื ถกู ดึง บบี หรอื กระแทก และสามารถคืนสสู่ ภาพเดิมได้ หรอื ใกล้เคยี งสภาพเดมิ ได้ แตถ่ ้าวสั ดทุ ่มี คี วามยดื หย่นุ ถกู แรงกระทาใหเ้ กิดความยืดหย่นุ มาก ๆ จะทาใหว้ สั ดุนน้ั ๆ สญู เสยี สภาพความ ยดื หยนุ่ ได้4. สาระการเรียนรู้ สมบัตขิ องวสั ดุ (ความยืดหยนุ่ ของวัสดุ)5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวช้วี ัดที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัดท่ี 4.2 แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี นด้วยการเลือกใชส้ อ่ื อย่างเหมาะสมบันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 6.1. ความสามารถในการสื่อสาร การอธบิ าย การเขยี นบันทึก การพดู หนา้ ช้นั เรียน 6.2. ความสามารถในการคดิ การสังเกต การคดิ วิเคราะห์ การเปรยี บเทยี บ การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสร้างคาอธิบาย การอภิปราย การส่ือความหมาย การทากิจกรรมทดลองโดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 6.3. ความสามารถในการแก้ปญั หา การแก้ปญั หาขณะปฏิบตั กิ ิจกรรมการทดลอง 6.4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ การแสวงหาความร้เู พมิ่ เตมิ เกยี่ วกับการนาสมบตั ดิ ้านความแขง็ ของวสั ดุไปใช้ในชีวติ ประจาวัน 6.5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การสืบค้นขอ้ มูลและการนาเสนอ
7. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู)้7.1. รายงาน ผลการทดลองเลือกวสั ดใุ นบา้ นทส่ี นใจมาศกึ ษาสมบตั ิของความยดื หยุ่นของวสั ดชุ นิดน้นั7.2. ใบกจิ กรรมกลุ่ม7.3. นาเสนอผลงานจากใบกจิ กรรมกลมุ่7.4. กจิ กรรมท่ี 1.3 ในชดุ กิจกรรมการพัฒนาการเรยี นรู้ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5 ของ พว.8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้8.1. Step 1 ช้ันรวบรวมขอ้ มูล (Learning to Question : Q)8.1.1. นักเรียนสงั เกตความยดื หยุน่ ของวสั ดุ แลว้ ครรู ะบุคาถามสาคญั ดงั น้ี8.1.1.1. ก้อนหินกบั ยางรัดของส่งิ ใดมคี วามยืดหยุ่นมากกว่ากนั (ยางรดั ของ)8.1.1.2. ความยดื หยุน่ ของวัสดุหมายถงึ อะไร (ความยืดหยุ่นของวัสดุ หมายถงึ ลกั ษณะของวสั ดุเมือ่ ถูกดงึ บบี หรอื กระแทก และสามารถคนื สสู่ ภาพเดิมได้ หรอื ใกลเ้ คยี งสภาพเดมิ ได)้8.1.1.3. วัสดแุ ตล่ ะชนดิ มีความยดื หยนุ่ เท่ากนั หรือไม่ (ไมเ่ ทา่ กนั )8.1.1.4. นอกจากความแข็ง และความเหนยี วแล้ว วสั ดุบางชนิด ยังมสี มบตั ยิ ดื หยุน่ ได้ วสั ดยุ ืดหยุ่นอยา่ งไร (วสั ดทุ ี่มี สมบัตขิ องความยืดหยุน่ มลี กั ษณะดังนี้ ลกั ษณะของวสั ดเุ ม่อื ถูกดงึ บบี หรือกระแทก แลว้ สามารถคนื สู่ สภาพเดมิ หรือใกลเ้ คียงสภาพเดิมได้)8.1.2. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ศึกษา อ่านวิธีทาร่วมกนั อภปิ รายก่อนทากจิ กรรม ทากจิ กรรม และบันทกึ ผล8.2. Step 2 ขั้นวเิ คราะห์และสรุปความรู้ (Learning to Search : S) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภิปราย และสรปุ ความรู้เกยี่ วกับความยดื หยุ่นของวัสดุชนดิ ตา่ ง ๆ8.3. Step 3 ขั้นปฏิบตั แิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏิบตั ิ (Learning to Construct : C ) นกั เรียนเขียนสมดุ ภาพความยืดหยนุ่ของวสั ดุชนิดต่าง ๆ แลว้ ออกแบบวิธีนาเสนอ8.4. Step 4 ขัน้ สอื่ สารและนาเสนอ (Learning to Communicate : C) ผู้แทนกลุม่ นาเสนอ โดยใช้สมดุ ภาพความยดื หยุ่นของวสั ดชุ นดิ ตา่ ง ๆ พรอ้ มอธบิ ายประกอบหนา้ ชน้ั เรยี น8.5. Step 5 ข้ันประเมนิ เพ่ือเพ่ิมคณุ ค่า บรกิ ารสังคม และจิตสาธารณะ (Serve : S)8.5.1. นกั เรียนแตล่ ะคนเลือกประดษิ ฐค์ วามยืดหย่นุ ของวสั ดชุ นิดตา่ ง ๆทสี่ นใจ และลองทาการทดลองเหมอื นกับกจิ กรรมดงั กลา่ ว บันทึกผล พร้อมเขยี นภาพรายงานพอสังเขป8.5.2. นกั เรยี นนาเสนอผลการศึกษา พรอ้ มสะทอ้ นแนวคิดรว่ มกนั9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้9.1. ฟองน้า ดินนา้ มัน อิฐ และไม้ ชนดิ ละ 1 ชิ้น9.2. ไมบ้ รรทดั 1 อนั9.3. เส้นยางยาว 10 เซนตเิ มตร 1 เส้น9.4. ถุงพลาสตกิ 1 ใบ9.5. ลวดเสียบกระดาษ 1 อนั9.6. ถ่านไฟฉายก้อนใหญ่ 7 ก้อน9.7. คานไม้ 1 อัน9.8. ใบงาน เร่ือง วัสดุท่มี สี ภาพยดื หยนุ่ มีลกั ษณะอย่างไร9.9. แหลง่ เรียนรภู้ ายในและภายนอกชน้ั เรยี น
10. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้วิธีการวดั และการประเมนิ เครอื่ งมอื วัดและประเมนิ เกณฑ์การประเมิน นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไป1. ตรวจจากใบกิจกรรมใน 1. กิจกรรมท่ี 1.3 ในชดุ กิจกรรมการพัฒนาการเรียนรู้ ของเกณฑ์ประเมินดา้ นความรู้ นักเรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ข้นึ ไปหนังสือเรียน (K) วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5 ของ พว. ของสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น2. ตรวจผลงานจากใบ 2. ใบกิจกรรมกลมุ่ นกั เรยี นได้ระดับคณุ ภาพ 2 ขึ้นไป ของคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์กิจกรรมกลุม่ (P) 3. รายงานแสดงสมบตั ิเกยี่ วกับความยดื หยุ่นของวัสดุ ชนิดต่าง ๆ3. สงั เกตพฤตกิ รรมขณะทา 4. แบบประเมนิ ทักษะการทดลองการทดลอง (A) 5. การนาเสนอผลงาน11. กิจกรรมเสนอแนะ นกั เรยี นทากิจกรรมการทดลองต่อไปน้ี กิจกรรม เร่ือง ความยืดหยุน่ ของวัสดุวัสดอุ ุปกรณ์1. เส้นยางยาว 10 เซนติเมตร 1 เส้น เส้นยาง2. ถุงพลาสตกิ 1 ใบ 10 เซนติเมตร3. ลวดเสียบกระดาษ 1 อนั ลวดเสยี บกระดาษ4. ถา่ นไฟฉายก้อนใหญ่ 7 กอ้ น5. คานไม้ 1 อัน ถุงพลาสตกิวิธีทา1. ใหน้ กั เรยี นผูกปลายเส้นยางด้านหน่งึ กับคานไมใ้ ห้มีความยาวจากคานไมล้ งมาประมาณ 10 เซนตเิ มตรจากนั้นนาลวดเสียบกระดาษมาง้างออกเพอ่ื ทาเป็น ถ่านไฟฉายตะขอเก่ยี วทีป่ ลายของเส้นยาง แขวนถงุ พลาสติกเปลา่ การทดลองความยดื หยนุ่ ของวสั ดุวดั ความยาวของเสน้ ยาง บันทกึ ผล2. ให้นักเรียนนาถ่านไฟฉายก้อนใหญ่ 1 กอ้ น ใสล่ งในถุงพลาสติก วัดความยาวของเส้นยาง บนั ทึกผล3. ให้นักเรยี นจับเวลา 1 นาที จากนัน้ นาถ่านไฟฉายออกจากถงุ พลาสติกวัดความยาวของเสน้ ยาง บนั ทกึ ผล4. ใหน้ ักเรียนทาซา้ ข้อ 1-3 แตเ่ พม่ิ จานวนถ่านไฟฉายทีละกอ้ นจนครบทัง้ 7 ก้อนคาถามกอ่ นทากจิ กรรม สังเกตจากน้าหนกั ของถงุ ทรายท่ีบรรจุในแตล่ ะถุงๆให้นักเรยี นเขียนเคร่ืองหมาย ลงใน หนา้ คาตอบที่ถูกตอ้ งนกั เรียนทราบได้อยา่ งไรวา่ วสั ดชุ นดิ ใดมีความเหนียวมากกว่ากัน สงั เกตจากจานวนถุงทรายท่วี สั ดสุ ามารถรบั นา้ หนักได้บันทึกผลการทากจิ กรรมตาราง ความยาวของเสน้ ยางก่อนและหลงั ใสถ่ ่านไฟฉายในถุงพลาสตกิความยาวของเสน้ ยาง จานวนถ่านไฟฉาย (ก้อน)(เซนติเมตร) 1 2345671. ก่อนใสถ่ า่ นไฟฉาย2. ขณะใส่ถา่ นไฟฉาย3. หลงั ใสถ่ ่านไฟฉาย
คาถามหลังทากจิ กรรม1. กอ่ นและขณะใสถ่ ่านไฟฉาย เสน้ ยางมีความยาวเทา่ กนั หรือไม่ อยา่ งไร เท่ากัน โดยก่อนใสถ่ า่ นไฟฉาย เส้นยางมคี วามยาวเทา่ กับขณะใสถ่ ่านไฟฉาย ไม่เทา่ กนั โดยกอ่ นใส่ถ่านไฟฉาย เสน้ ยางมคี วามยาวสนั้ กว่าขณะใส่ถ่านไฟฉาย2. เสน้ ยางมสี มบตั ขิ องวัสดุในด้านใด เป็นวสั ดทุ ีม่ ีความแขง็ เปน็ วัสดุท่มี คี วามยืดหยุ่น3. สรุปผลการทดลองนี้ได้อย่างไร วัสดทุ ี่มีความยืดหยนุ่ เม่อื ถูกแรงกระทา วสั ดนุ ัน้ จะเพิ่มความสามารถในการยดื หยนุ่ ไดม้ าก วัสดทุ มี่ ีความยดื หยุ่นเม่อื ถูกแรงกระทา วสั ดนุ ัน้ สามารถเกดิ การเปลย่ี นแปลงรูปรา่ งได้ และเมือ่ หยดุ ออกแรงกระทา วสั ดุน้นัสามารถมรี ูปร่างกลับส่สู ภาพเดมิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: