5102161 ความเหนียวของวัสดุ

P แผนการจัดการเรียนรูรายช่ัวโมงวิชา วทิ ยาศาสตร ชน้ั ประถมศกึ ษาชนั้ ปที่ 5 ครูผสู อน นายยุทธนา วองทิพากรหนวยการเรยี นรูท่ี 1 เรื่อง สมบตั ขิ องวัสดใุ นชีวติ ประจําวนั ครผู ูสอน ……………………………………..แผนการจดั การเรียนรูที่ 2 เร่ือง ความเหนียวของวัสดุชัน้ ป.5/1 วันท่ี ........................................ คาบที.่ ......... ช้นั ป.5/3 วันท่ี ........................................ คาบท่ี..........ช้นั ป.5/2 วนั ท่ี ........................................ คาบท่ี.......... เวลา 2 ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ 1/25611. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชีว้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐาน ว 3.1 เขาใจสมบตั ขิ องสาร ความสมั พันธร ะหวางสมบตั ขิ องสารกบั โครงสรางและแรงยดึ เหนย่ี วระหวางอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูแ ละจติ วทิ ยาศาสตร สื่อสารส่งิ ท่เี รียนรู และนําความรไู ปใชประโยชน ตัวช้วี ดั สิง่ ที่นกั เรยี นตอ งรู ส่งิ นกั เรยี นตองปฏิบัติว 3.1 ป.5/1 ทดลองและ สมบตั ิของวสั ดุชนิดตา ง ๆ 1. สืบคนความหมายและสมบตั เิ กี่ยวกบั ความเหนยี วของวัสดุชนดิอธิบายสมบตั ขิ องวัสดชุ นิด เกีย่ วกับความยดื หยุน ตาง ๆตาง ๆ เก่ียวกับความ ความแข็ง ความเหนยี ว 2. ทดลอง เปรียบเทยี บ และระบสุ มบตั ิเกี่ยวกับความเหนียวของยดื หยนุ ความแขง็ ความ การนําความรอ น การนํา วสั ดชุ นิดตา ง ๆเหนยี ว การนาํ ความรอน ไฟฟา และความหนาแนน 3. อธบิ ายการตอ ความเหนยี วของวสั ดุชนดิ ตา ง ๆการนําไฟฟา และความ 4. รายงานแสดงสมบตั ิเก่ยี วกับความเหนียวของวสั ดุชนดิ ตา ง ๆหนาแนน 5. ใบกิจกรรมกลมุ 6. กจิ กรรมท่ี 1.2 ในชดุ กิจกรรมการพฒั นาการเรยี นรู วชิ า วิทยาศาสตร ป.5 ของ พว.ว 3.1 ป.5/2 สบื คน ขอมูล การนาํ วัสดไุ ปใชใน 1. สบื คนขอ มูลการนําสมบัตเิ กย่ี วกับความเหนยี วของวัสดุชนดิ ตางและอภิปรายการนาํ วัสดุ ชวี ติ ประจําวัน ๆไปใชใ นชีวิตประจาํ วนัไปใชในชวี ิตประจาํ วัน 2. อภปิ รายการนาํ สมบัติเกย่ี วกบั ความเหนยี วของวสั ดุชนดิ ตา ง ๆ ไปใชใ นชีวติ ประจําวัน มาตรฐาน ว 8.1 ใชกระบวนการทางวิทยาศาสตรและจิตวทิ ยาศาสตรในการสบื เสาะหาความรู การแกปญหา รูวาปรากฏการณทางธรรมชาติทเี่ กดิ ขนึ้ สว นใหญม รี ปู แบบทแ่ี นน อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได ภายใตขอมูลและเครอื่ งมือท่ีมีอยูในชวงเวลานั้น ๆ เขา ใจวาวิทยาศาสตร เทคโนโลยี สังคม และสง่ิ แวดลอมมีความเก่ยี วขอ งสมั พนั ธก นั ตวั ชี้วดั สิ่งท่ีนกั เรียนตองรู สง่ิ นักเรยี นตองปฏิบัติว 8.1 ป.5/1 ตั้งคาํ ถาม เก่ียวกบั ประเด็น หรอื ต้ังคาํ ถามเก่ียวกบั สมบตั เิ ก่ยี วกบั ความเหนยี วของวัสดุ ตั้งคาํ ถามเรือ่ ง หรอื สถานการณท่ีจะศึกษา ตามที่ ชนดิ ตา ง ๆกาํ หนดใหแ ละตามความสนใจว 8.1 ป.5/2 วางแผน การสงั เกต เสนอการ วางแผนการสงั เกตเกีย่ วกบั สมบตั ิเกีย่ วกบั ความเหนยี ว วางแผนการสังเกตสาํ รวจตรวจสอบ หรือศกึ ษาคน ควา และ ของวัสดุชนดิ ตา ง ๆคาดการณส ่ิงท่จี ะพบจากการสํารวจตรวจสอบ

ตัวช้วี ัด สิง่ ทนี่ กั เรยี นตองรู สิง่ นกั เรียนตองปฏบิ ัติว 8.1 ป.5/3 เลือกอุปกรณที่ถูกตอ งเหมาะสม เลอื กอุปกรณที่ถกู ตองเหมาะสมในการสํารวจตรวจสอบ เลือกอปุ กรณท่ใี ชในในการสาํ รวจ ตรวจสอบใหไ ดขอมลู ที่เชือ่ ถือ เกี่ยวกบั สมบตั เิ กีย่ วกบั ความเหนยี วของวสั ดุชนดิ ตาง ๆ การทดลองได บันทึกขอมูลในเชิงปรมิ าณและคณุ ภาพ เกี่ยวกับสมบตั ิ บนั ทึกขอ มูลว 8.1 ป.5/4 บันทึกขอมลู ในเชิงปริมาณและ เกยี่ วกับความเหนยี วของวสั ดุชนิดตา ง ๆคุณภาพ และตรวจสอบผลกบั สงิ่ ท่ีคาดการณ สรา งคาํ ถามใหมไว นาํ เสนอผลและขอสรุป สรางคาํ ถามใหมเพ่ือการสํารวจตรวจสอบตอ ไป เกยี่ วกับ สมบตั เิ กีย่ วกับความเหนียวของวัสดชุ นิดตา ง ๆ แสดงความคดิ เห็นว 8.1 ป.5/5 สรา งคําถามใหมเ พ่อื การสาํ รวจ แสดงความคดิ เหน็ อยา งอสิ ระเกย่ี วกบั สมบัตเิ กยี่ วกับตรวจสอบตอไป ความเหนียวของวัสดุชนดิ ตา ง ๆ บันทกึ และอธบิ ายผล บนั ทกึ และอธิบายผล เก่ยี วกบั สมบตั ิเกย่ี วกับความว 8.1 ป.5/6 แสดงความคดิ เห็นอยางอิสระ เหนยี วของวัสดชุ นดิ ตาง ๆ นาํ เสนอผลการทดลองอธบิ าย และสรุปสง่ิ ทไ่ี ด เรยี นรู นาํ เสนอผล เกีย่ วกบั สมบตั ิเกยี่ วกบั ความเหนยี วของวสั ดุ สํารวจ และสรปุ ผล ชนิดตา ง ๆ การทดลองว 8.1 ป.5/7 บนั ทกึ และอธบิ ายผลการสาํ รวจตรวจสอบตามความเปน จรงิ มกี ารอางองิว 8.1 ป.5/8 นาํ เสนอ จัดแสดง ผลงาน โดยอธิบายดวยวาจา หรือเขียนอธิบายแสดงกระบวนการและผลของงานใหผอู น่ื เขาใจ2. จุดประสงคก ารเรียนรูสูต วั ชี้วดั 2.1. ทดลองเก่ยี วกบั วสั ดตุ า งชนิดกนั มคี วามเหนียวตางกัน (P) 2.2. เปรียบเทยี บความเหนียวของวสั ดตุ า งชนดิ กนั ได (P) 2.3. อธบิ ายไดวา วสั ดุตา งชนดิ มคี วามเหนียวตางกัน (K) 2.4. บอกไดว าความเหนยี วเปน สมบตั ิอยา งหนงึ่ ของวสั ดุ (K) 2.5. เปน คนชางสงั เกต ชางคิด ชางสงสยั และเปน ผทู ม่ี ีความกระตือรอื รนในการเสาะแสวงหาความรู (A)3. สาระสําคัญ ความเหนียวของวสั ดุ หมายถึง ความสามารถของวสั ดใุ นการเปลย่ี นแปลงรูปรางเม่อื ถูกกระตุก หรอื กระแทก หรอื รบั นํ้าหนัก โดยไมค วรเกิดการขาดหรอื แตกหัก วสั ดุท่ีมคี วามเหนียวนอยเมื่อกระตุก กระแทก ฉกี หรือใหร ับน้าํ หนกั ท่ีมาก จะขาดจาก กนั ไดงาย สวนวสั ดทุ ม่ี ีความเหนยี วมากเมือ่ กระตกุ กระแทก ฉกี หรอื ใหรบั นาํ้ หนักท่ีมาก จะขาดจากกนั ไดย าก4. สาระการเรยี นรู สมบตั ิของวัสดุ (ความเหนียวของวสั ดุ)5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค ใฝเรียนรู ตวั ชี้วดั ที่ 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา รวมกจิ กรรมการเรยี นรู ตัวชี้วัดท่ี 4.2 แสวงหาความรูจ ากแหลง เรยี นรตู าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี นดว ยการเลอื กใชส อ่ื อยา งเหมาะสมบันทึกความรู วเิ คราะห สรปุ เปนองคค วามรู สามารถนําไปใชใ นชวี ิตประจาํ วันได6. สมรรถนะสาํ คัญของผเู รยี น 6.1. ความสามารถในการสื่อสาร การอธิบาย การเขยี นบนั ทกึ การพดู หนาช้นั เรียน 6.2. ความสามารถในการคดิ การสังเกต การคดิ วิเคราะห การเปรียบเทยี บ การจัดระบบความคิดเปน แผนภาพ การสรางคาํ อธิบาย การอภิปราย การสอื่ ความหมาย การทํากจิ กรรมทดลองโดยใชกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร 6.3. ความสามารถในการแกป ญหา การแกปญ หาขณะปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการทดลอง 6.4. ความสามารถในการใชท กั ษะชีวติ การแสวงหาความรเู พ่ิมเตมิ เกยี่ วกับการนําสมบัตดิ านความแข็งของวัสดุไปใชในชวี ติ ประจาํ วนั 6.5. ความสามารถในการใชเทคโนโลยี การสบื คนขอมลู และการนําเสนอ

7. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รองรอยแสดงความร)ู7.1. รายงาน ผลการทดลองเลือกวัสดใุ นบานทสี่ นใจมาศึกษาสมบัตขิ องความเหนียวของวสั ดุชนดิ นนั้7.2. ใบกิจกรรมกลมุ7.3. นาํ เสนอผลงานจากใบกจิ กรรมกลมุ7.4. กจิ กรรมท่ี 1.2 ในชุดกจิ กรรมการพัฒนาการเรยี นรู วิชาวิทยาศาสตร ป.5 ของ พว.8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู8.1. Step 1 ชั้นรวบรวมขอมูล (Learning to Question : Q)8.1.1. นักเรยี นสังเกตความเหนียวของวัสดุ แลวครรู ะบคุ าํ ถามสําคัญดังน้ี8.1.1.1. กอนอฐิ มอญกับถงุ พลาสตกิ อะไรมคี วามเหนียวกวากนั (กอนหนิ )8.1.1.2. ความเหนียวของวสั ดหุ มายถงึ อะไร (ความเหนยี วของวัสดุ หมายถงึ ความสามารถของวัสดุในการ เปลยี่ นแปลงรูปรา ง เมอ่ื ถกู กระตกุ หรอื กระแทก หรอื รบั น้าํ หนกั โดยไมค วรเกดิ การขาดหรือแตกหัก)8.1.1.3. กระจกกับพลาสตกิ มคี วามแขง็ เหมอื นกนั แตก ระจกจะเปราะบางและแตกงายกวา พลาสตกิ วัสดตุ างชนดิ กันมี ความเหนยี วแตกตางกันอยา งไร (แตกตางกัน โดยวัสดุที่มีความเหนยี วมากจะรบั นํ้าหนักไดมากกวาวัสดุที่มี ความเหนยี วนอ ย)8.1.2. นักเรยี นแตล ะกลมุ ศกึ ษา อานวิธที าํ รว มกนั อภิปรายกอนทาํ กจิ กรรม ทาํ กิจกรรม และบนั ทกึ ผล8.2. Step 2 ขนั้ วเิ คราะหและสรุปความรู (Learning to Search : S) นักเรียนแตล ะกลมุ รวมกนั อภิปราย และสรปุ ความรูเกี่ยวกับความเหนยี วของวสั ดุชนิดตา ง ๆ8.3. Step 3 ขัน้ ปฏิบัตแิ ละสรุปความรูหลังการปฏบิ ัติ (Learning to Construct : C ) นกั เรยี นเขยี นสมุดภาพความเหนยี วของวสั ดชุ นิดตาง ๆ แลว ออกแบบวิธีนาํ เสนอ8.4. Step 4 ขั้นสอ่ื สารและนาํ เสนอ (Learning to Communicate : C) ผแู ทนกลุมนําเสนอ โดยใชส มดุ ภาพความเหนยี วของวัสดชุ นิดตาง ๆ พรอมอธบิ ายประกอบหนาช้ันเรยี น8.5. Step 5 ขนั้ ประเมนิ เพ่ือเพิ่มคณุ คา บริการสงั คม และจิตสาธารณะ (Serve : S)8.5.1. นักเรยี นแตล ะคนเลือกประดิษฐค วามเหนยี วของวสั ดชุ นิดตาง ๆท่ีสนใจ และลองทาํ การทดลองเหมือนกับกจิ กรรมดงั กลาว บนั ทกึ ผล พรอมเขียนภาพรายงานพอสงั เขป8.5.2. นักเรยี นนําเสนอผลการศกึ ษา พรอ มสะทอ นแนวคดิ รว มกัน9. สื่อ/แหลง การเรยี นรู9.1. ตวั อยางวสั ดุทมี่ ขี นาดเทากัน เชน กระดาษ ผา พลาสตกิ อยางละ 1 ช้ิน9.2. ถุงทรายขนาด 200 กรมั 10 ถงุ9.3. ใบงาน เร่อื ง วสั ดุตา งชนิดกนั มีความเหนยี วตา งกันอยา งไร9.4. แหลงเรียนรภู ายในและภายนอกชน้ั เรยี น10. การประเมนิ ผลการเรยี นรูวิธีการวดั และการประเมนิ เคร่ืองมือวัดและประเมิน เกณฑการประเมิน1. ตรวจจากใบกจิ กรรมใน 1. กจิ กรรมที่ 1.2 ในชุดกจิ กรรมการพฒั นาการเรยี นรู นักเรียนไดระดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปหนงั สือเรียน (K) วิชาวิทยาศาสตร ป.5 ของ พว. ของเกณฑป ระเมินดา นความรู2. ตรวจผลงานจากใบ 2. ใบกิจกรรมกลมุ นกั เรียนไดระดับคณุ ภาพ 2 ขน้ึ ไปกจิ กรรมกลุม (P) 3. รายงานแสดงสมบตั ิเก่ียวกบั ความเหนียวของวสั ดุชนดิ ของสมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น ตาง ๆ3. สังเกตพฤติกรรมขณะทํา 4. แบบประเมินทกั ษะการทดลอง นักเรยี นไดระดบั คณุ ภาพ 2 ขึน้ ไปการทดลอง (A) 5. การนาํ เสนอผลงาน ของคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค

11. กิจกรรมเสนอแนะ นกั เรยี นทาํ กิจกรรมการทดลองตอไปน้ี กจิ กรรม เร่ือง ความเหนยี วของวัสดุวัสดอุ ปุ กรณ1. ถงุ ทรายขนาด 200 กรัม 10 ถุง2. วสั ดุชนิดตา ง ๆ ที่ตองการนาํ มาทดสอบ ไดแ ก แผนกระดาษขนาด A4แผน กระดาษชาํ ระ ผา ขาวบาง ถุงพลาสติกใส และแผนไมขนาด 30เซนตเิ มตร × 30 เซนติเมตร อยางละ 1 ชิน้วธิ ีทาํ1. ใหน ักเรียนวางถงุ ทรายหนัก 200 กรัม จาํ นวน 1 ถงุ บนแผนกระดาษขนาด A4 จากน้นั ยกขอบกระดาษท้ัง 2 ขางสูงจากพ้นื ประมาณ 10 เซนตเิ มตร คอย ๆ เพ่มิ จํานวนถงุ ทรายทลี ะถงุ จนครบ 10 ถงุ (หรอื จนกวา แผน กระดาษขนาด A4 การยกถุงทราย 1 ถุงจะขาด) นับจํานวนถุงทรายทีแ่ ผน กระดาษขนาด A4 สามารถรบั ใหส งู จากพนื้ ดวยแผน กระดาษขนาด A4น้ําหนักได บนั ทกึ ผล2. ใหนักเรียนทาํ ซาํ้ ขอ 1 แตเ ปลยี่ นจากแผน กระดาษขนาด A4 เปน แผน กระดาษชาํ ระ ผา ขาวบาง ถุงพลาสตกิ ใส และแผนไมแ ทนคาํ ถามกอนทาํ กจิ กรรม  สงั เกตจากนา้ํ หนกั ของถุงทรายที่บรรจใุ นแตล ะถงุ ๆใหน ักเรียนเขยี นเครอ่ื งหมาย  ลงใน  หนาคาํ ตอบท่ถี ูกตอ งนกั เรียนทราบไดอยา งไรวา วสั ดชุ นิดใดมคี วามเหนยี วมากกวากนั  สงั เกตจากจํานวนถงุ ทรายทว่ี สั ดุสามารถรับนา้ํ หนักไดบนั ทึกผลการทํากิจกรรม แผนกระดาษชําระ ผา ขาวบาง ถงุ พลาสตกิ ใส แผนไมตาราง ความเหนียวของวสั ดชุ นดิ ตาง ๆ วสั ดทุ ่ตี องการทดสอบ แผน กระดาษขนาด A4 จํานวนถงุ ทรายทว่ี สั ดุ สามารถรับน้ําหนกั ได (ถงุ )คาํ ถามหลงั ทาํ กิจกรรม1. วัสดชุ นดิ ใดทีร่ ับนํา้ หนกั ถงุ ทรายไดมากท่สี ดุ  แผนกระดาษขนาด A4  แผนกระดาษชําระ  ผา ขาวบาง  ถงุ พลาสตกิ ใส  แผน ไม2. วัสดชุ นิดใดทร่ี บั นา้ํ หนักถงุ ทรายไดน อ ยทสี่ ดุ  แผน กระดาษขนาด A4  แผนกระดาษชาํ ระ  ผาขาวบาง  ถงุ พลาสตกิ ใส  แผน ไม3. สรปุ ผลการทดลองน้ีไดอยางไร  วัสดุทมี่ ีความเหนียวมากกวา จะรับน้าํ หนักไดม ากกวา  วัสดทุ ่ีมคี วามเหนยี วนอ ยกวา จะรบั นํา้ หนกั ไดม ากกวา4. วัสดุทม่ี คี วามเหนยี วหมายความวาอยา งไร  วัสดทุ ี่สามารถรบั นา้ํ หนกั ไดมากกวา  วัสดุทสี่ ามารถรบั นา้ํ หนักไดน อ ยกวา

5. ใหนักเรียนเขียนหมายเลข 1-5 ลงใน  แสดงลําดบั วสั ดทุ ม่ี คี วามสามารถในการรับนํ้าหนักจากมากไปนอ ย แผน กระดาษขนาด A4  ถุงพลาสตกิ ใส แผน กระดาษชาํ ระ  ผา ขาวบาง  แผน ไม6. ถาในทองถนิ่ ของนกั เรียนกาํ ลงั จะสรางสะพาน นกั เรียนจะมสี วนรว มในการเสนอเกย่ี วกบั การเลือกใชวัสดชุ นิดใดในการกอ สรางสะพานจงึ จะเหมาะสมทส่ี ุดในการรองรับนํา้ หนกั เพอ่ื ใหคนในชมุ ชนสามารถเดนิ ขามคลองไดอยา งสะดวก และปลอดภยั แผนพลาสติก  แผน ไม  แผน ยาง