Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1 - ประมวลกฎหมายยาเสพติด

1 - ประมวลกฎหมายยาเสพติด

Published by จิณณะ สอนอุ่น, 2021-12-05 15:13:44

Description: 1 - ประมวลกฎหมายยาเสพติด

Search

Read the Text Version

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๑ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา พระราชบญั ญตั ิ ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๖๔ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรสี นิ ทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หวั ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เปน็ ปที ่ี ๖ ในรชั กาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่ โดยทเ่ี ปน็ การสมควรประกาศใชป้ ระมวลกฎหมายยาเสพตดิ พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๒๘ มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ และมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ใิ หก้ ระทาได้ โดยอาศัยอานาจตามบทบญั ญัตแิ หง่ กฎหมาย เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติน้ี เพ่ือกาหนดมาตรการในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ รวมท้ังเปน็ การบูรณาการการทางานรว่ มกันระหว่างหน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้องท้งั ภาครัฐ และภาคเอกชนอันจะเป็นประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม รวมถึงเพื่อปราบปราม การกระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในลักษณะองค์กรอาชญากรรมซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคง

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๒ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา แห่งราชอาณาจักร และป้องกันการสนับสนุนการกระทาความผิดขององค์กรดังกล่ าวในด้านต่าง ๆ ซ่ึงการตราพระราชบัญญัติน้ีสอดคล้องกับเงื่อนไขท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจกั รไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอม ของรัฐสภา ดงั ต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๔” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนด สามสบิ วันนบั แตว่ ันที่พระราชบญั ญัตินีม้ ีผลใชบ้ ังคับเปน็ ต้นไป มาตรา ๔ เมอื่ ประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ทา้ ยพระราชบญั ญตั ิน้ีไดใ้ ช้บงั คบั แลว้ ให้ยกเลิก (๑) พระราชบญั ญตั ปิ ้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ (๒) พระราชบัญญัติปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ (๓) พระราชบัญญัติป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ (๔) พระราชบัญญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๕ (๕) พระราชบญั ญัติยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ (๖) พระราชบัญญตั ยิ าเสพตดิ ให้โทษ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ (๗) พระราชบัญญัติยาเสพติดใหโ้ ทษ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๓๐ (๘) พระราชบญั ญัติยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ (๙) พระราชบัญญัติยาเสพตดิ ให้โทษ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ (๑๐) พระราชบญั ญตั ยิ าเสพติดให้โทษ (ฉบบั ท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (๑๑) พระราชบัญญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ (๑๒) พระราชบัญญตั ิยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ (๑๓) พระราชกาหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๓ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา (๑๔) พระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓ พ.ศ. ๒๕๔๒ (๑๕) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ (๑๖) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๐ (๑๗) พระราชบัญญตั มิ าตรการในการปราบปรามผูก้ ระทาความผิดเกย่ี วกบั ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ (๑๘) พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ (๑๙) พระราชบัญญตั ิฟ้นื ฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ (๒๐) พระราชบญั ญัติวตั ถุทีอ่ อกฤทธ์ิตอ่ จติ และประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ (๒๑) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๘/๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิบัติต่อผู้ต้อง สงสัยว่ากระทาความผดิ ตามกฎหมายเกี่ยวกบั ยาเสพติดเพื่อเข้าสู่การบาบัดฟื้นฟูและการดูแลผู้ผ่านการบาบัด ฟื้นฟู ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ (๒๒) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๙/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายว่าด้วยการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม พทุ ธศักราช ๒๕๕๗ (๒๓) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑๖/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพ่ิมเติม กฎหมายวา่ ด้วยมาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทาความผดิ เก่ียวกบั ยาเสพติด ลงวนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ (๒๔) คาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๐/๒๕๖๑ เร่ือง แก้ไขเพ่ิมเติม บัญชีท้ายประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๘/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ มาตรา ๕ ให้สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจัดให้ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เข้ารับการฝึกอบรมก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ เพ่ือให้มีการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ภาคปฏบิ ตั ิ รวมถงึ การจดั ฝกึ อบรมเพ่ือเพม่ิ ทักษะและความเชีย่ วชาญ ทั้งน้ี ตามหลักสตู รการฝกึ อบรมทีไ่ ดร้ บั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๔ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๖ ให้ข้าราชการของสานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซ่ึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ แต่งต้ังเปน็ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. โดยไดร้ บั อนุมตั ิ จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือจากคณะอนุกรรมการท่ีคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดมอบหมาย และผ่านการฝึกอบรมตามมาตรา ๕ เป็นตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน และในการกาหนดให้ได้รับเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่ง ท่ีมีเหตุพิเศษ ให้คานึงถึงภาระหน้าท่ี คุณภาพของงาน และการดารงตนอยู่ในความยุติธรรม โดยเปรียบเทียบกับค่าตอบแทนของผู้ปฏิบัติงานอ่ืนในกระบวนการยุติธรรมด้วย ท้ังนี้ ให้เป็นไป ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกาหนด โดยได้รับความเห็นชอบ จากกระทรวงการคลัง มาตรา ๗ เม่ือประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับแล้ว บทบัญญัติ แห่งกฎหมายใดอ้างถึงบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ พระราชบญั ญตั ิยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชกาหนดปอ้ งกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ พระราชบัญญัตฟิ ้นื ฟูสมรรถภาพผูต้ ิดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือพระราชบัญญตั วิ ตั ถทุ ีอ่ อกฤทธ์ติ ่อจิต และประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ใหถ้ อื ว่าบทบัญญตั แิ ห่งกฎหมายนัน้ อ้างถงึ บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย ยาเสพตดิ ท้ายพระราชบัญญตั ิน้ี ในบทมาตราทีม่ นี ัยเชน่ เดียวกนั มาตรา ๘ บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ พระราชบัญญตั ยิ าเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชกาหนด ป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิด เก่ียวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ พระราชบัญญัติฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ หรือประกาศคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐๘/๒๕๕๗ เร่ือง การปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยว่ากระทาความผิด ตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อเข้าสู่การบาบัดฟ้ืนฟูและการดูแลผู้ผ่านการบาบัดฟ้ืนฟู ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมาย ยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติน้ี หรือจนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออก

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๕ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติน้ีหรือตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติวธิ ีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ ใชบ้ ังคับ มาตรา ๙ ในกรณีที่มีบทบัญญัติใดในประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ กาหนดให้การลงโทษผู้กระทาผดิ หรือการขออนญุ าต หรอื การอนญุ าต หรือการปฏบิ ัติตามบทบญั ญัติน้ัน ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเง่ือนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ห้ามมิให้ใชบ้ ทบัญญัติดังกลา่ วจนกว่าจะมีการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรอื ประกาศนัน้ แลว้ มาตรา ๑๐ ในระหวา่ งทยี่ งั มไิ ดม้ กี ฎกระทรวง ระเบยี บ หรือประกาศตามประมวลกฎหมาย ยาเสพตดิ ท้ายพระราชบัญญัตินี้ (๑) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยการเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ผู้อนุญาต หรือผู้อนุญาตโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด แล้วแต่กรณี มีอานาจในการพิจารณาอนุญาตการผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย มีไว้ในครอบครอง นาผ่าน หรือโฆษณาซ่ึงยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิ การผลิตหรือนาเข้าตัวอย่างของตารับวัตถุออกฤทธิ์ และการขึ้นทะเบียนตารับยาเสพติดให้โ ทษ ในประเภท ๓ หรือตารับวัตถุออกฤทธ์ิ โดยนาบทบัญญัติเกี่ยวกับการอนุญาตผลิต นาเข้า ส่งออก ขาย จาหน่าย มีไว้ในครอบครอง นาผ่าน หรือโฆษณาซ่ึงยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ ผลิต หรือนาเข้าตัวอย่างของตารับวัตถุออกฤทธิ์ และการขึ้นทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ หรือตารับวัตถอุ อกฤทธ์ิ ซ่งึ ออกตามพระราชบัญญัตยิ าเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือพระราชบญั ญตั ิ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ แล้วแต่กรณี มาใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าท่ีไม่ขัด หรือแย้งกบั ประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ท้ายพระราชบญั ญัตินี้ (๒) ให้ผู้ได้รับการยกเว้นให้ดาเนินการผลิต นาเข้า ส่งออก ขาย จาหน่าย หรือมีไว้ ในครอบครองเพ่ือจาหน่ายซง่ึ ยาเสพติดใหโ้ ทษหรือวัตถอุ อกฤทธ์ิ โดยไมต่ ้องขออนุญาตตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติวัตถุท่ีออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นผไู้ ด้รบั การยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตตามมาตรา ๓๒ แหง่ ประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบญั ญัตนิ ี้

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๖ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา (๓) การพกั ใช้ใบอนุญาต การเพกิ ถอนใบอนุญาต คณุ สมบัติและหนา้ ท่ีของผ้รู ับอนญุ าต และ หน้าท่ีของเภสัชกร ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือ พระราชบญั ญัตวิ ัตถทุ ่อี อกฤทธติ์ อ่ จิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๑๑ ใหเ้ จา้ พนักงานและพนักงานเจา้ หน้าท่ตี ามพระราชบญั ญตั ิป้องกันและปราบปราม ยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๑๙ พระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชกาหนดป้องกนั การใช้ สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ พระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือพระราชบัญญัติ วัตถุท่ีออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ แล้วแต่กรณี ซึ่งปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ในวันก่อนวันท่ี ประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปจนกว่าจะมี การแตง่ ต้งั ใหมต่ ามประมวลกฎหมายยาเสพติดทา้ ยพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๑๒ บรรดาคดีที่ได้มีการส่ังตรวจสอบทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติมาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทาความผดิ เก่ยี วกับยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ก่อนวันท่ีประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน คณะอนุกรรมการตรวจสอบ ทรัพย์สิน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงาน อัยการ และศาล ดาเนินการตามพระราชบัญญัตมิ าตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิดเกี่ยวกบั ยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ตอ่ ไปจนกวา่ คดจี ะถงึ ทส่ี ุด มาตรา ๑๓ คาขอใด ๆ ที่ได้ย่ืนไว้ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือพระราชบญั ญัติวัตถุทีอ่ อกฤทธ์ติ อ่ จิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ และยังอยู่ในระหว่างการพจิ ารณา ให้ถือว่าเป็นคาขอตามประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติน้ีด้วยโดยอนุโลม และถ้าคาขอ ดังกล่าวมีข้อความหรือเอกสารประกอบคาขอแตกต่างไปจากคาขอตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบัญญัติน้ี ให้ผู้อนุญาตมีอานาจส่ังให้แก้ไขเพิ่มเติมคาขอเพื่อให้เป็นไปตามประมวลกฎหมาย ยาเสพติดท้ายพระราชบัญญตั นิ ี้ได้ มาตรา ๑๔ บรรดาใบอนุญาต ใบสาคัญการข้ึนทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ ใบสาคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุตารับ หนังสือสาคัญ ใบแจ้งการนาเข้า ใบแจ้งการส่งออก ใบแทน ใบอนุญาต ใบแทนใบสาคัญการข้ึนทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ ใบแทนใบสาคัญ การข้ึนทะเบียนวัตถุตารับ และใบแทนหนังสือสาคัญท่ีออกให้ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๗ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือพระราชบัญญัติวัตถุท่ีออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ก่อนวันที่ ประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ทา้ ยพระราชบัญญัตินีใ้ ชบ้ งั คับ ใหค้ งใชไ้ ด้ต่อไปจนกวา่ จะส้ินอายุ มาตรา ๑๕ ให้ผู้รับอนุญาตผลิต นาเข้า ส่งออก ขาย จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือ พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ในวันก่อนวันท่ีประมวลกฎหมาย ยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ยังคงดาเนินกิจการต่อไปได้จนกว่าใบอนุญาตน้ันสิ้นอายุ และถ้าประสงค์จะดาเนินกิจการต่อไปให้ยื่นคาขอรับใบอนุญาตตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบญั ญตั ิน้กี อ่ นใบอนุญาตเดิมจะสิน้ อายุ มาตรา ๑๖ ในวาระเร่ิมแรก ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน และคณะกรรมการบาบัดรักษา และฟ้ืนฟูผู้ติดยาเสพติด ประกอบด้วยกรรมการโดยตาแหนง่ ตามมาตรา ๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๖๓ และมาตรา ๑๐๙ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ใ ห้ เ ล ข า ธิ ก า ร ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ย า เ ส พ ติ ด เ ป็ น ก ร ร ม ก า ร แ ล ะ เ ล ข า นุ ก า ร ของคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ และคณะกรรมการตรวจสอบทรพั ยส์ ิน ให้เลขาธกิ าร คณะกรรมการอาหารและยาเป็นกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด และ ให้รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขซ่ึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายเป็ นกรรมการและเลขานุการ ของคณะกรรมการบาบัดรักษาและฟืน้ ฟูผู้ติดยาเสพตดิ ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งปฏิบัติหน้าท่ีคณะกรรมการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะได้มีการแต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามประมวล กฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งต้องไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด ทา้ ยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคบั ใ ห้ ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ท่ี แ ต่ ง ต้ั ง โ ด ย ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ย า เ ส พ ติ ด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ และคณะอนุกรรมการท่ีแต่งตั้ง โดยคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินตามพระราชบญั ญัตมิ าตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิด เก่ียวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันท่ีประมวลกฎหมายยาเสพติด

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๘ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งใหม่ตามประมวลกฎหมาย ยาเสพตดิ ทา้ ยพระราชบัญญัตนิ ี้ มาตรา ๑๗ ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าท่ี หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง เงินงบประมาณ และรายได้ของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ ที่มีอยู่ในวันกอ่ นวันทปี่ ระมวลกฎหมายยาเสพตดิ ท้ายพระราชบัญญัตินีใ้ ช้บังคับ ไปเป็นของกองทุนปอ้ งกนั ปราบปราม และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดทา้ ยพระราชบญั ญตั นิ ้ี มาตรา ๑๘ ผู้ต้องหาซ่ึงอยู่ในระหว่างการตรวจพิสูจน์และการฟ้ืนฟูสมรรถภาพ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ อยู่ในวันก่อนวนั ที่ประมวลกฎหมาย ยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้บังคับตามพระราชบัญญัติฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ไดต้ อ่ ไปเพียงเท่าทีไ่ มข่ ดั หรือแย้งกับประมวลกฎหมายยาเสพติดทา้ ยพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๑๙ ให้คณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คณะอนุกรรมการ คณะอนุกรรมการประจาเขตพ้ืนท่ี และพนักงานเจ้าหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติฟ้ืนฟูสมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ซ่ึงปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ในวันก่อนวันที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบญั ญัตนิ ้ใี ชบ้ ังคับ มหี น้าท่แี ละอานาจปฏบิ ตั งิ านทีค่ า้ งอยตู่ อ่ ไปจนเสร็จส้ิน ในกรณีท่ีตาแหน่งกรรมการหรืออนุกรรมการตามวรรคหนึ่งว่างลง และมีกรรมการหรือ อนุกรรมการที่เหลืออยู่ไม่ครบองค์ประกอบ หรือไม่พอที่จะเป็นองค์ประชุม ให้กรรมการหรือ อนุกรรมการท่เี หลอื อยูด่ าเนนิ การต่อไปได้ ให้สถานที่เพ่ือการตรวจพิสูจน์ การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด หรือการควบคุมตัว และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดมีหน้าที่และอานาจและดาเนินการตามพระราชบัญญัติฟื้ นฟู สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ จนกว่าจะดาเนินการตรวจพิสูจน์หรือฟื้นฟูสมรรถภาพ ผตู้ ดิ ยาเสพตดิ เสรจ็ สนิ้ มาตรา ๒๐ คดีที่ได้มีการออกหมายบังคับคดีแต่งตั้งข้าราชการในสานักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นเจ้าหนี้ตามคาพิพากษาอยู่ในวันก่อนวันท่ีประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดดาเนินการ ตามพระราชบญั ญตั ิวิธีพจิ ารณาคดยี าเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ ตอ่ ไปจนเสรจ็ สิ้น

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๙ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๒๑ ให้บทบัญญัติที่ให้สันนิษฐานว่าเป็นการกระทาเพ่ือจาหน่ายซ่ึงยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และเพ่ือขายซึ่งวัตถุออกฤทธ์ิตามพระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติน้ียังคงมีผลใช้บังคับ แก่คดีที่ศาลชั้นต้นมีคาพิพากษาแล้วก่อนวนั ที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติน้ีใช้บงั คบั แล้วแตก่ รณี จนกว่าคดถี งึ ท่ีสุด ค ดี ซ่ึ ง ค้ า ง พิ จ า ร ณ า อ ยู่ ใ น ศ า ล ชั้ น ต้ น อ ยู่ ใ น วั น ก่ อ น วั น ท่ี ป ร ะ ม ว ล ก ฎ ห ม า ย ย า เ ส พ ติ ด ท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายยื่นคาแถลงขอสืบ พ ย า น ห ลัก ฐานเพ่ิ ม เติมว่ากา รกระท าขอ งจา เลย เป็น การกร ะทาเ พื่ อจา หน่าย หรือเ พ่ือขายหรือไม่ แลว้ แตก่ รณี กใ็ หศ้ าลสืบพยานหลักฐานเพิ่มเตมิ ได้ตามท่ีเหน็ สมควร มาตรา ๒๒ ให้ศูนย์เพื่อการคัดกรองผู้เข้ารับการบาบัดฟ้ืนฟูและศูนย์เพ่ือประสานการดูแล ผผู้ า่ นการบาบัดฟืน้ ฟูตามประกาศคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๘/๒๕๕๗ เรือ่ ง การปฏบิ ตั ิ ต่อผู้ต้องสงสัยว่ากระทาความผิดตามกฎหมายเก่ียวกับยาเสพติดเพ่ือเข้าสู่การบาบัดฟื้นฟูและการดูแล ผู้ผา่ นการบาบดั ฟนื้ ฟู ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม พทุ ธศักราช ๒๕๕๗ เป็นศนู ยค์ ดั กรอง และศนู ยฟ์ นื้ ฟู สภาพทางสังคมตามประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ จนกว่า จ ะ มี ก า ร จั ด ต้ั ง ศู น ย์ คั ด ก ร อ ง ห รื อ ศู น ย์ ฟื้ น ฟู ส ภ า พ ท า ง สั ง ค ม ต า ม ป ร ะ ม ว ล ก ฎ ห ม า ย ย า เ ส พ ติ ด ท้ายพระราชบญั ญัตินี้ มาตรา ๒๓ ในวาระเริ่มแรกภายในระยะเวลาสองปีนับแต่วันท่ีประมวลกฎหมายยาเสพติด ท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การอนุญาตนาเข้ายาเสพติดให้โทษซึ่งเป็นกัญชาเพ่ือประโยชน์ ทางการแพทย์หรือการรักษาผู้ป่วยตามมาตรา ๓๕ แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญตั นิ ้ี ให้นาเขา้ ได้เฉพาะเมล็ดพนั ธ์ุ ความในวรรคหนง่ึ ไม่ใช้บงั คบั แกก่ รณดี ังตอ่ ไปน้ี (๑) ผู้ขออนุญาตเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าท่ีศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอน ทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือเกษตรศาสตร์ หรือมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ เภสัชกรรม หรือวิทยาศาสตร์ หรือมีหน้าที่ให้บริการทางเกษตรกรรมเพ่ือประโยชน์ทางการแพทย์หรือ เภสัชกรรม หรอื หน่วยงานของรฐั ท่มี ีหนา้ ทใ่ี นการปอ้ งกนั ปราบปราม และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ หรอื สภากาชาดไทย

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๑๐ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา (๒) ผู้ขออนุญาตเป็นผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจาเป็นต้องนายาเสพติดให้โทษ ซงึ่ เป็นกัญชาตดิ ตัวเขา้ มาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรเพอ่ื ใช้รกั ษาโรคเฉพาะตวั (๓) ผู้ขออนุญาตซึ่งมีวัตถุประสงค์เพ่ือการดาเนินการเก่ียวกับการศึกษาวิจัยและพัฒนา ตามมาตรา ๓๕ วรรคสอง แหง่ ประมวลกฎหมายยาเสพตดิ ท้ายพระราชบัญญตั นิ ี้ มาตรา ๒๔ ให้ประธานศาลฎีกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และตามประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ ท้ังน้ี ในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับหน้าที่ และอานาจของตน ให้ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของท่ีประชุมใหญ่ศาลฎีกามีอานาจออกข้อบังคับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอานาจแต่งตั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่ และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีอานาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติน้ีและ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติน้ี ท้ังน้ี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าท่ีและอานาจ ของตน ข้อบังคับ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บงั คับได้ ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๑๑ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา ประมวลกฎหมายยาเสพติด ภาค ๑ การป้องกนั ปราบปราม และควบคุมยาเสพตดิ ลกั ษณะ ๑ บทบญั ญตั ทิ ว่ั ไป มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายนี้ “ยาเสพตดิ ” หมายความวา่ ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ หรือสารระเหย “ยาเสพติดให้โทษ” หมายความว่า สารเคมี พืช หรือวัตถุชนิดใด ๆ ซ่ึงเมื่อเสพแล้ว ทาให้เกิดผลต่อร่างกายและจติ ใจในลกั ษณะสาคัญ เช่น ต้องเพม่ิ ขนาดการเสพขน้ึ เปน็ ลาดับ มอี าการถอนยา เม่ือขาดยา มีความต้องการเสพท้ังทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงตลอดเวลา และสุขภาพโดยทั่วไป จะทรุดโทรมลง กับให้รวมถึงสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษด้วย แต่ไม่หมายความรวมถึง ยาสามญั ประจาบา้ นบางตารับทม่ี ียาเสพตดิ ใหโ้ ทษผสมอยตู่ ามกฎหมายว่าด้วยยา “วัตถุออกฤทธ์ิ” หมายความว่า วัตถุที่ออกฤทธ์ิต่อจิตและประสาทท่ีเป็นส่ิงธรรมชาติหรือ ทไี่ ดจ้ ากสง่ิ ธรรมชาติ หรอื วัตถุท่ีออกฤทธติ์ อ่ จิตและประสาททเี่ ปน็ วตั ถุสังเคราะห์ “สารระเหย” หมายความว่า สารเคมีหรือผลิตภัณฑ์ที่อาจนาไปใช้เพ่ือสนองความต้องการ ของร่างกายหรือจิตใจซ่งึ ทาใหส้ ขุ ภาพโดยทัว่ ไปทรุดโทรมลง “ความผดิ เกีย่ วกบั ยาเสพตดิ ” หมายความวา่ ความผดิ ตามท่ีบัญญัตไิ ว้ในประมวลกฎหมายน้ี “ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” หมายความว่า ความผิดเก่ียวกับการผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติด เว้นแต่มีไว้ในครอบครองเพ่ือเสพ และให้ หมายความรวมถงึ การสมคบ สนบั สนนุ ชว่ ยเหลือ หรอื พยายามกระทาความผดิ ดังกล่าวด้วย “ทรัพย์สินที่เก่ียวเน่ืองกับการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด” หมายความว่า เงินหรือทรัพย์สินท่ีได้รับมาเนื่องจากการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด และให้หมายความ รวมถึง เงินหรือทรัพย์สินท่ีได้มาโดยการใช้เงินหรอื ทรัพย์สินดังกล่าวซื้อหรือกระทาไม่วา่ ดว้ ยประการใด ๆ

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๑๒ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ให้เงินหรือทรัพย์สินน้ันเปล่ียนสภาพไปจากเดิม ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนสภาพกี่คร้ัง และไม่ว่าเงินหรือ ทรัพย์สนิ น้นั จะอยูใ่ นความครอบครองของบคุ คลอื่น โอนไปเปน็ ของบุคคลอน่ื หรอื ปรากฏตามหลักฐาน ทางทะเบียนว่าเปน็ ของบุคคลอ่นื กต็ าม “ผลิต” หมายความว่า เพาะ ปลูก ทา ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป และสังเคราะห์ ทางวิทยาศาสตร์ “นาเข้า” หมายความวา่ นาหรอื ส่ังเข้ามาในราชอาณาจกั ร “สง่ ออก” หมายความว่า นาหรือสง่ ออกนอกราชอาณาจักร “จาหน่าย” หมายความว่า ขาย แลกเปล่ียน จ่าย แจก หรือให้โดยมีสิ่งตอบแทน หรือผลประโยชน์อยา่ งอ่ืน และใหห้ มายความรวมถึงมีไวเ้ พอ่ื จาหนา่ ย “นาผ่าน” หมายความว่า นาหรือส่งผา่ นราชอาณาจักร แต่ไม่รวมถึงการนาหรือส่งยาเสพติด ผา่ นราชอาณาจักร โดยมิได้มีการขนถ่ายออกจากอากาศยานที่ใชใ้ นการขนสง่ สาธารณะระหว่างประเทศ “เสพ” หมายความว่า การรบั ยาเสพติดเขา้ สรู่ ่างกายโดยร้อู ยู่วา่ เป็นยาเสพติดไมว่ ่าดว้ ยวธิ ีใด “คณะกรรมการ ป.ป.ส.” หมายความว่า คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด “สานกั งาน ป.ป.ส.” หมายความวา่ สานกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด “เลขาธกิ าร ป.ป.ส.” หมายความวา่ เลขาธกิ ารคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ “สานกั งาน อย.” หมายความวา่ สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา “เลขาธกิ าร อย.” หมายความวา่ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา “กองทุน” หมายความวา่ กองทนุ ปอ้ งกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด “เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.” หมายความว่า ผู้ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ส. แต่งตั้งโดยได้รับอนุมัติจาก คณะกรรมการ ป.ป.ส. หรอื จากคณะอนกุ รรมการท่คี ณะกรรมการ ป.ป.ส. มอบหมาย เพอ่ื ปฏบิ ตั กิ าร ตามประมวลกฎหมายนี้ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซ่ึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้ง เพือ่ ปฏบิ ตั ิการเก่ียวกับการควบคุมยาเสพตดิ ตามภาคน้ี มาตรา ๒ ในกรณีมีปัญหาเกย่ี วกับการปฏิบัตกิ ารใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายและแผนระดบั ชาติ ว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือเป็นไปตามหน้าท่ีและอานาจของ คณะกรรมการต่าง ๆ และของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐท่ีมีอานาจเกี่ยวกับ

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๑๓ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ยาเสพติด ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. เป็นผู้วินิจฉัยและวางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการและ การประสานงาน ให้สานักงาน ป.ป.ส. ดาเนินการเผยแพร่คาวินิจฉัยและระเบียบปฏิบัติท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ส. กาหนดตามวรรคหนึง่ ใหแ้ ก่หน่วยงานทีเ่ กยี่ วข้องทราบ ลกั ษณะ ๒ การป้องกนั ปราบปราม และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ หมวด ๑ นโยบายและแผนระดบั ชาตวิ ่าดว้ ยการปอ้ งกัน ปราบปราม และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด มาตรา ๓ เพ่ือให้การป้องกัน ปราบปราม และแกไ้ ขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างมีเอกภาพ ความต่อเนือ่ ง กระบวนการในการดาเนนิ การอย่างเปน็ ระบบและประสิทธภิ าพอนั จะก่อให้เกิดประโยชน์ แก่เศรษฐกิจ สังคม ความสงบเรียบร้อย และความม่ันคงของรัฐ ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีนโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดตามข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการ ป.ป.ส. นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด อยา่ งนอ้ ยต้องมีในเร่ืองดังต่อไปนี้ (๑) เป้าหมายและยุทธศาสตร์ในการดาเนินงาน รวมถึงการกาหนดและการบริหารจัดการ ดา้ นงบประมาณในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปญั หายาเสพติด โดยการกาหนดตวั ชว้ี ัดใหช้ ดั เจน (๒) มาตรการในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโรงเรียน สถานศึกษา ครอบครัว และชุมชน ตลอดจนการบาบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยการส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบอาชีพ การจัดหางาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึง การส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนและผู้ประกอบธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินการ ตามมาตรการดังกล่าว และการกาหนดมาตรการส่งเสริมแก่ผู้ประกอบธุรกิจในการรับผู้ผ่าน การบาบดั รกั ษาเขา้ ทางาน

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๑๔ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๓) การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และ ภาคประชาชน เพ่อื ให้เกิดการบูรณาการในการปอ้ งกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้ง การบาบัดรักษาและฟ้ืนฟูผู้ติดยาเสพติดให้สามารถดารงชีวิตในสังคม การประกอบอาชีพ การศึกษา และการสงเคราะหอ์ ่นื ๆ (๔) ยุทธศาสตร์และแนวทางในการประสานความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ หรือองค์กร ระหว่างประเทศ เพื่อปราบปรามการลกั ลอบผลิตและคา้ ยาเสพตดิ รวมท้ังประสานงานการข่าวเพอ่ื สกัดก้ัน และปราบปรามจับกมุ ขบวนการและเครอื ขา่ ยการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ (๕) การส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย และพัฒนาด้านวิชาการเก่ียวกับยาเสพติด มาตรการป้องกนั ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ และส่งเสริมให้มกี ารเผยแพรค่ วามรู้ความเขา้ ใจ แก่ประชาชนและเยาวชนทั้งในและนอกสถานศกึ ษา (๖) การตดิ ตามและประเมินผลการป้องกัน ปราบปราม และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ เม่ือมีการประกาศใช้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไข ปัญหายาเสพติดแล้ว หน่วยงานของรัฐท่ีเกี่ยวข้องต้องดาเนินการตามหน้าท่ีและอานาจของตน ใหส้ อดคล้องกบั นโยบายและแผนระดับชาติดงั กลา่ ว นโยบายและแผนระดบั ชาติตามวรรคหน่งึ เมือ่ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้มผี ลใชบ้ ังคบั ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. ดาเนินการทบทวนนโยบายและแผนระดับชาติทุกห้าปี ในกรณี ที่มีความจาเป็นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือความจาเป็นอ่ืนเก่ียวกับ การป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ดาเนินการปรับปรุงและแก้ไขนโยบายและ แผนระดับชาติดังกลา่ วและเสนอคณะรัฐมนตรีเพ่อื ขอความเห็นชอบและประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาตอ่ ไป หมวด ๒ คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ มาตรา ๔ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด” เรียกโดยย่อวา่ “คณะกรรมการ ป.ป.ส.” ประกอบดว้ ย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุตธิ รรม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงแรงงาน รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๑๕ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงอุตสาหกรรม ปลดั กระทรวงการตา่ งประเทศ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา เลขาธิการสานักงานศาลยุติธรรม ผู้อานวยการสานักงบประมาณ อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิน่ เลขาธิการ อย. และปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการโดยตาแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะรฐั มนตรีแต่งต้ังไม่เกินสามคน ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. แต่งตั้ง ข้าราชการในสานกั งาน ป.ป.ส. จานวนไมเ่ กนิ สองคนเปน็ ผู้ช่วยเลขานกุ าร เพื่อประโยชน์ในการดาเนินการตามหน้าที่และอานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ส. คณะกรรมการ ป.ป.ส. อาจมีมติให้เชิญรัฐมนตรีหรือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐท่ีมีหน้าที่และอานาจ โดยตรงเก่ียวกับเร่ืองท่ีจะพิจารณา หรือผู้ซ่ึงมีความรู้ความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ท่ีเก่ียวกับ การป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เข้าร่วมประชุมเป็นครงั้ คราวในฐานะกรรมการ ด้วยก็ได้ ในกรณีเช่นน้ี ให้ผู้ซึ่งได้รับเชิญและมาประชุมมีฐานะเป็นกรรมการตามวรรคหน่ึงสาหรับ การประชมุ ครง้ั ที่ไดร้ ับเชญิ นั้น มาตรา ๕ ใหค้ ณะกรรมการ ป.ป.ส. มีหน้าทแี่ ละอานาจ ดังต่อไปน้ี (๑) เสนอนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหา ยาเสพติดต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา ๓ รวมท้ังดาเนินการตามนโยบายและแผนระดับชาติดังกล่าว แล้วรายงานผลการดาเนนิ การใหค้ ณะรัฐมนตรที ราบอยา่ งนอ้ ยปลี ะหน่ึงครั้ง (๒) ติดตาม ดูแล ประสาน สนับสนุน และเร่งรัดการดาเนินการของคณะกรรมการ ที่มีหนา้ ที่และอานาจเก่ียวกับยาเสพติด เพ่อื ใหม้ ีการดาเนินการสอดคล้องกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติ วา่ ด้วยการปอ้ งกนั ปราบปราม และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ (๓) ให้คาแนะนาหรือข้อเสนอแนะแก่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด คณะกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สนิ และคณะกรรมการบาบัดรกั ษาและฟ้นื ฟูผ้ตู ิดยาเสพติด

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๑๖ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา (๔) ให้ความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ ว่ายาเสพติดให้โทษช่ือใดอยู่ในประเภทใดและการเพิกถอนหรือเปล่ียนแปลงชื่อหรือประเภทยาเสพติด ให้โทษดังกลา่ วตามมาตรา ๒๙ วรรคสอง (๕) กาหนดเขตพ้ืนที่เพื่อทดลองเพาะปลูก ผลิตและทดสอบ หรือเสพหรือครอบครอง ยาเสพติดตามมาตรา ๕๕ (๖) กาหนดมาตรการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการกระทาความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดในสถานประกอบการและกาหนดให้สถานที่ซ่งึ ใช้ในการประกอบธุรกิจใด ๆ เป็นสถานประกอบการ ที่อยู่ภายใต้บงั คบั ของมาตรการดังกลา่ วตามมาตรา ๕๖ (๗) วางระเบียบเก่ียวกับการบริหารและการดาเนินการของกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ตามมาตรา ๘๙ (๘) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการหรอื งาน แผนงาน หรือโครงการของหน่วยงานของรัฐทมี่ หี น้าท่แี ละอานาจในการปฏิบตั กิ ารตามประมวลกฎหมายน้ี รวมทงั้ การปรับปรุงแกไ้ ขกฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกับการปอ้ งกัน ปราบปราม และแก้ไขปญั หายาเสพติด (๙) ควบคุม เร่งรัด และประสานงานในการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าท่ี และอานาจในการสบื สวน สอบสวน ปราบปราม และการบงั คบั โทษตามประมวลกฎหมายนี้ (๑๐) กาหนดสถานะของพ้ืนท่ีหรือกลุ่มพ้ืนที่ในแต่ละปี หรือพ้ืนท่ีท่ีมีความจาเป็นเร่งด่วน และกาหนดผู้รับผิดชอบในพ้ืนที่ดังกล่าวเพ่ือป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมกับกาหนดให้มีกลไก โครงสร้าง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมท้ังจัดสรรทรัพยากรท่ีเหมาะสมกับสถานะของปัญหาและ ใหห้ นว่ ยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามทรี่ อ้ งขอ (๑๑) กากับและติดตามการใช้งบประมาณของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เก่ียวข้องกับ การป้องกนั ปราบปราม และแกไ้ ขปญั หายาเสพติด (๑๒) วางโครงการและดาเนินการ ตลอดจนสั่งให้หน่วยงานของรัฐท่ีเก่ียวข้องดาเนินการ เผยแพร่ความรเู้ กยี่ วกับยาเสพตดิ (๑๓) สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปญั หายาเสพติด (๑๔) ประสานงานและกากบั เกยี่ วกับการบาบัดรักษาและฟื้นฟสู มรรถภาพผู้ติดยาเสพติด

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๑๗ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๑๕) พจิ ารณาอนมุ ตั ิหรอื มอบหมายใหค้ ณะอนุกรรมการพจิ ารณาอนุมตั ิการแตง่ ตง้ั เจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. เพ่อื ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายนี้ (๑๖) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามที่ประมวลกฎหมายน้ีหรือกฎหมายอ่ืนกาหนดให้เป็นหนา้ ท่ีและอานาจ ของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ให้คณะรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการดาเนินการตาม (๑) พร้อมด้วยข้อสังเกตของ คณะรัฐมนตรีต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ท้ังน้ี รายงานผลการดาเนินการอย่างน้อยให้มี สาระสาคัญเกี่ยวกับการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด การตรวจสอบทรัพย์สิน การบาบัดรักษาและฟนื้ ฟูผู้ติดยาเสพติด และการดาเนนิ การอนื่ ตามประมวลกฎหมายน้ี มาตรา ๖ ในการพิจารณาเร่ืองใด ๆ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ส. เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ส. มีมติเป็นประการใดแล้ว ให้มติของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ผูกพันหน่วยงานซ่ึงมีผู้แทนร่วม เป็นกรรมการโดยตาแหน่งอยู่ด้วย แม้ว่าในการพิจารณาวินิจฉัยเร่ืองน้ันผู้แทนของหน่วยงานท่ีเป็น กรรมการโดยตาแหนง่ จะมไิ ดเ้ ข้ารว่ มพจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ก็ตาม ถ้ามคี วามเหน็ แตกตา่ งกนั ใหบ้ นั ทกึ ความเหน็ ของกรรมการทกุ ฝา่ ยไว้ใหป้ รากฏในเรอื่ งน้ันด้วย ให้นาความในวรรคหน่ึงไปใช้บังคับแก่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด คณะกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สนิ และคณะกรรมการบาบัดรกั ษาและฟืน้ ฟผู ้ตู ดิ ยาเสพตดิ ด้วยโดยอนุโลม มาตรา ๗ กรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ มิ วี าระการดารงตาแหน่งคราวละสามปี เมื่อครบกาหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้แต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงพ้นจากตาแหน่งตามวาระน้ันอยู่ในตาแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิซึง่ ได้รบั แตง่ ตัง้ ใหม่เขา้ รับหนา้ ที่ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ซิ ึ่งพ้นจากตาแหน่งตามวาระอาจไดร้ บั แตง่ ตั้งอกี ได้ แต่จะดารงตาแหน่ง ติดต่อกันเกินสองวาระไมไ่ ด้ มาตรา ๘ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๗ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พน้ จากตาแหนง่ เม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๑๘ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๓) คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะเหตุบกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่ หรือความประพฤติ เส่อื มเสียหรอื หย่อนความสามารถ (๔) เป็นบุคคลลม้ ละลายหรอื เคยเป็นบุคคลล้มละลายทจุ รติ (๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๖) ได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิด ทีไ่ ด้กระทาโดยประมาทหรอื ความผิดลหโุ ทษ (๗) ถูกสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพอืน่ มาตรา ๙ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ ให้แต่งตั้งผู้อื่น ดารงตาแหนง่ แทน เวน้ แตว่ าระของกรรมการผูท้ รงคณุ วฒุ จิ ะเหลอื ไม่ถงึ เกา้ สบิ วนั จะไมแ่ ตง่ ตงั้ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิแทนก็ได้ และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตาแหน่งท่ีว่างนั้นอยู่ในตาแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ ของกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ซิ งึ่ ไดแ้ ต่งต้งั ไว้แลว้ ในระหว่างท่ียงั ไม่ไดแ้ ตง่ ตงั้ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ แิ ทนตาแหนง่ ทวี่ า่ ง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่ มาตรา ๑๐ การประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่า ก่ึงหนึง่ ของจานวนกรรมการท้งั หมด จงึ จะเปน็ องค์ประชุม ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ไี ด้ ใหท้ ่ปี ระชมุ เลือกกรรมการคนหน่ึงเปน็ ประธานในทป่ี ระชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชมุ ให้ถือเสียงขา้ งมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเทา่ กัน ใหป้ ระธานในที่ประชุมออกเสียงเพม่ิ ขนึ้ อีกเสยี งหนง่ึ เปน็ เสยี งชข้ี าด คณะกรรมการ ป.ป.ส. ตอ้ งมกี ารประชุมอยา่ งนอ้ ยปลี ะส่คี ร้ัง มาตรา ๑๑ คณะกรรมการ ป.ป.ส. มีอานาจแต่งต้ังคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือ ปฏิบตั กิ ารอยา่ งหนึ่งอย่างใดตามทค่ี ณะกรรมการ ป.ป.ส. มอบหมายกไ็ ด้ การประชมุ ของคณะอนุกรรมการใหน้ าความในมาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ้ งั คับดว้ ยโดยอนโุ ลม

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๑๙ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา หมวด ๓ สานกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ มาตรา ๑๒ ให้สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรียกโดยย่อว่า “สานักงาน ป.ป.ส.” มีหน้าที่และอานาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ดาเนินงานในฐานะหน่วยงานปฏิบัติของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ตามหน้าท่ีและอานาจ ทก่ี าหนด (๒) พิจารณาให้คาแนะนาและประสานงานกับราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอ่ืนของรัฐ เพ่ือจัดทาแผนงานและ โครงการด้านการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด เพ่ือให้เป็นไปตามนโยบายและ แผนระดบั ชาตวิ ่าดว้ ยการปอ้ งกัน ปราบปราม และแก้ไขปญั หายาเสพติดของประเทศ (๓) ประสานนโยบาย แผน งบประมาณ และการปฏิบัติงานด้านการป้องกัน ปราบปราม และแกไ้ ขปัญหายาเสพติดกบั หนว่ ยงานอื่นท่ีเก่ยี วข้องทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชน (๔) ประสาน ติดตาม และประเมินผลการดาเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไป ตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด เพ่ือเสนอ คณะกรรมการ ป.ป.ส. (๕) เป็นหน่วยงานกลางของประเทศในการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์สภาพปัญหาและ มาตรการดา้ นการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพตดิ และสนับสนุนขอ้ มลู ข่าวสารวิชาการ ตลอดจนพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศและต่างประเทศ รวมท้ังส่งเสรมิ ใหม้ ีการประชาสัมพันธ์และเผยแพรค่ วามร้แู ละความเข้าใจแก่ประชาชนเก่ียวกบั ยาเสพตดิ (๖) ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการตามประมวลกฎหมายนี้ เพ่ือประโยชน์ในการปฏิบตั งิ านตามหนา้ ทแี่ ละอานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ส. และสานกั งาน ป.ป.ส. (๗) ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศในด้านการป้องกัน ปราบปราม และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ (๘) ออกระเบียบเพื่อให้มีการปฏบิ ัตกิ ารตามประมวลกฎหมายน้ี

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๐ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา (๙) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามท่ีประมวลกฎหมายน้ีหรือกฎหมายอ่ืนกาหนดให้เป็นหน้าท่ีและ อานาจของสานกั งาน ป.ป.ส. หรือตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ส. มอบหมาย มาตรา ๑๓ ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มีหน้าท่ีควบคุมดูแลโดยทั่วไปซ่ึงราชการของสานักงาน ป.ป.ส. และเปน็ ผู้บงั คบั บญั ชาข้าราชการในสานกั งาน ป.ป.ส. โดยมรี องเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นผชู้ ว่ ย ปฏิบัติราชการ มาตรา ๑๔ เพ่ือประโยชน์ในการประสานงานให้เกิดการบรู ณาการการปฏิบัติหนา้ ทเี่ กย่ี วกบั การป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด เลขาธิการ ป.ป.ส. โดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการ ป.ป.ส. จะเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือพิจารณาเก่ียวกับการให้ความดี ความชอบหรือโยกย้ายหรือลงโทษทางวินัยต่อข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถ่ิน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐซึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีเก่ียวกับการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือซ่ึงเข้าไปเก่ียวข้องกับการกระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ตลอดจน ขอให้หน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดเร่งรัดการดาเนินการท่ีเก่ียวข้อง รวมทั้งให้ความคุ้มครองแก่ข้าราชการ และเจ้าหนา้ ท่ขี องรัฐซ่ึงปฏิบตั งิ านด้านยาเสพตดิ ในกรณีท่ีคณะรัฐมนตรีมีมติให้โยกย้าย ให้ความดีความชอบ หรือลงโทษทางวินัย ให้แจ้ง ต้นสงั กัดเพ่ือดาเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดงั กล่าว ลักษณะ ๓ การควบคมุ ยาเสพตดิ หมวด ๑ บทบัญญัตทิ วั่ ไป มาตรา ๑๕ ในลกั ษณะน้ี “ตารับยาเสพติดให้โทษ” หมายความว่า สูตรซ่ึงระบุส่วนประกอบและปริมาณของส่ิงปรุง ทีม่ ียาเสพติดใหโ้ ทษรวมอยู่ด้วย “ตารับวัตถุออกฤทธ์ิ” หมายความว่า สูตรซ่ึงระบุส่วนประกอบและปริมาณของสิ่งปรุงท่ีมี วตั ถอุ อกฤทธริ์ วมอย่ดู ้วย

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๑ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา “วัตถตุ ารับ” หมายความวา่ สิ่งปรุงไม่ว่าจะมีรปู ลักษณะใดทมี่ วี ตั ถุออกฤทธ์ริ วมอยู่ดว้ ย ทั้งน้ี รวมท้ังวตั ถอุ อกฤทธิ์ทมี่ ลี กั ษณะเปน็ วตั ถุสาเร็จรปู ทางเภสัชกรรมซงึ่ พรอ้ มท่ีจะนาไปใชแ้ กค่ นหรอื สตั วไ์ ด้ “วัตถุตารับยกเว้น” หมายความว่า วัตถุตารบั ท่ีรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุขประกาศ กาหนดใหไ้ ดร้ บั การยกเว้นจากมาตรการควบคมุ บางประการสาหรบั วตั ถอุ อกฤทธ์ทิ ่ีมอี ยู่ในวตั ถตุ ารบั นน้ั “ฉลาก” หมายความว่า รูป รอยประดิษฐ์ เครื่องหมาย หรือข้อความใด ๆ ซ่ึงแสดงไว้ ท่ีภาชนะหรือหบี หอ่ บรรจยุ าเสพตดิ “ผูร้ บั อนุญาต” หมายความว่า ผ้ไู ดร้ ับใบอนญุ าตตามบทบญั ญตั ใิ นลกั ษณะน้ี “ผู้อนุญาต” หมายความว่า เลขาธิการ อย. หรอื ผซู้ ึง่ ไดร้ บั มอบหมายจากเลขาธกิ าร อย. “หนว่ ยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภมู ิภาค ราชการส่วนท้องถนิ่ รฐั วสิ าหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอืน่ ของรฐั มาตรา ๑๖ บทบัญญัติในหมวด ๔ การอนญุ าตเกย่ี วกับยาเสพติดใหโ้ ทษและวตั ถอุ อกฤทธ์ิ และหมวด ๕ การข้ึนทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ และการข้ึนทะเบียนตารบั วัตถอุ อกฤทธ์ิ ไม่ใช้บงั คับแกส่ านักงาน อย. มาตรา ๑๗ ในกรณีที่สานักงาน อย. ผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิแ์ ละได้รับยกเว้นตามมาตรา ๑๖ โดยไม่ต้องปฏิบตั ิ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายน้ี ให้สานักงาน อย. รายงานการรับ การจ่าย และการเก็บรักษาซึ่งยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธ์ิดังกล่าว และวิธีการปฏิบัติอย่างอ่ืนที่เก่ียวกับ การควบคุมยาเสพติดให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดทราบทุกหกเดือนของปีปฏิทิน แล้วให้ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเสนอรายงานพร้อมกับให้ความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพอื่ ส่งั การตอ่ ไป มาตรา ๑๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอานาจออกกฎกระทรวงกาหนด ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ได้ให้บริการ รวมท้ังกาหนดอัตราค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราตามบัญชี ท้ายประมวลกฎหมายนี้หรือยกเวน้ ค่าธรรมเนยี ม กฎกระทรวงนนั้ เมอื่ ไดป้ ระกาศในราชกิจจานเุ บกษาแล้วใหใ้ ช้บังคบั ได้ มาตรา ๑๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือเลขาธิการ อย. มีอานาจมอบหมาย ให้เจ้าหน้าท่ีในความรับผิดชอบของตน หรือผู้เช่ียวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐ

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๒๒ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา หรือองค์กรเอกชนท้ังในประเทศและตา่ งประเทศ ซึ่งได้รับการข้ึนบัญชีโดยสานักงาน อย. ปฏิบัติงานตา่ ง ๆ เกีย่ วกับกระบวนการพจิ ารณาอนุญาตยาเสพติดใหโ้ ทษหรอื วตั ถอุ อกฤทธ์ไิ ดต้ ามความเหมาะสม การขึ้นบัญชีผู้เช่ียวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยสานักงาน อย. ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข ท่ีรฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนด มาตรา ๒๐ คา่ ธรรมเนยี มตาม (๑๗) (๑๘) (๑๙) (๒๐) และ (๒๑) ในอตั ราคา่ ธรรมเนยี ม ท้ายประมวลกฎหมายนี้ ให้ตกเป็นของสานักงาน อย. เพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่เก่ียวกับ ยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธ์ิ หรือเป็นค่าตอบแทนแก่ผู้ปฏิบัติงานตามมาตรา ๑๙ ทั้งน้ี ตามระเบยี บที่รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนดโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั มาตรา ๒๑ การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการจ่ายเงินตามมาตรา ๒๐ ให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลัง มาตรา ๒๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการ ควบคมุ ยาเสพติด มีอานาจประกาศกาหนดเกย่ี วกบั ยาเสพติดใหโ้ ทษ ดงั ต่อไปน้ี (๑) กาหนดมาตรฐานว่าด้วยปริมาณ ส่วนประกอบ คุณภาพ ความบริสทุ ธิ์ หรอื ลกั ษณะอน่ื ของยาเสพตดิ ให้โทษ ตลอดจนการบรรจุและการเก็บรักษายาเสพติดใหโ้ ทษ (๒) กาหนดจานวนและจานวนเพ่ิมเติมซ่ึงยาเสพติดให้โทษที่จะต้องใช้ในทางการแพทย์ และทางวทิ ยาศาสตร์ทวั่ ราชอาณาจกั รประจาปี (๓) กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการกาหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษที่ผู้อนุญาต จะอนญุ าตใหผ้ ลิต นาเข้า จาหนา่ ย หรือมีไวใ้ นครอบครองได้ (๔) ระบุช่ือและประเภทยาเสพติดให้โทษที่ต้องมีคาเตือนหรือข้อควรระวัง และข้อความ ของคาเตือนหรือข้อควรระวังเป็นตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายให้ผู้ใช้ระมัดระวังตามความจาเป็น เพอื่ ความปลอดภัยของผูใ้ ช้ (๕) กาหนดสถานท่ีแห่งใดในราชอาณาจักรให้เป็นด่านตรวจสอบยาเสพติดให้โทษท่ีนาเข้า ส่งออก หรือนาผา่ น (๖) กาหนดการอ่ืนเพือ่ ประโยชน์แก่การปฏบิ ตั ติ ามลักษณะนี้

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๒๓ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๒๓ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการ ควบคุมยาเสพติด มอี านาจประกาศกาหนดเกย่ี วกับวตั ถุออกฤทธ์ิ ดังต่อไปนี้ (๑) ระบุช่ือและจัดแบ่งประเภทวัตถุออกฤทธ์ิว่าวัตถุออกฤทธ์ิใดอยู่ในประเภท ๑ ประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ (๒) กาหนดมาตรฐานว่าดว้ ยปริมาณ ส่วนประกอบ คุณภาพ ความบริสุทธ์ิหรือลักษณะอื่น ของวตั ถอุ อกฤทธ์ิ ตลอดจนการบรรจแุ ละการเกบ็ รกั ษาวัตถุออกฤทธ์ิตาม (๑) (๓) เพิกถอนหรือเปลีย่ นแปลงช่อื หรือประเภทวัตถุออกฤทธ์ติ าม (๑) (๔) ระบชุ ่อื และประเภทวัตถุออกฤทธิท์ ี่ห้ามผลิต นาเข้า สง่ ออก จาหนา่ ย มีไวใ้ นครอบครอง หรอื นาผา่ น (๕) ระบุชอื่ วัตถอุ อกฤทธใิ์ นประเภท ๒ ซ่งึ อนญุ าตใหผ้ ลติ เพ่อื สง่ ออกหรือส่งออกได้ (๖) ระบวุ ตั ถุตารบั ใหเ้ ปน็ วตั ถุตารบั ยกเวน้ และเพิกถอนวตั ถตุ ารับยกเวน้ (๗) กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการกาหนดปริมาณวัตถุออกฤทธ์ิท่ีผู้อนุญาตจะอนุญาต ให้ผลติ นาเขา้ จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง (๘) ระบุช่ือและประเภทวัตถุออกฤทธิท์ ่ีต้องมีคาเตือนหรือข้อควรระวงั และขอ้ ความของคาเตอื น หรอื ข้อควรระวังเป็นตัวอกั ษร ภาพ หรือเครอ่ื งหมายใหผ้ ู้ใชร้ ะมดั ระวงั ตามความจาเป็นเพอื่ ความปลอดภัย ของผใู้ ช้ (๙) กาหนดปริมาณวัตถุออกฤทธ์ิที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ช้นั หนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ หรอื สาธารณสุขอนื่ มีไวใ้ นครอบครองไดต้ ามมาตรา ๓๒ (๑๐) ระบชุ อ่ื หน่วยงานของรัฐตามมาตรา ๓๓ (๔) (๑๑) ระบุชือ่ และประเภทวตั ถุออกฤทธิท์ ปี่ ระเทศหนงึ่ ประเทศใดหา้ มนาเข้าตามมาตรา ๔๔ (๑๒) กาหนดสถานท่ีแห่งใดในราชอาณาจักรให้เป็นด่านตรวจสอบวัตถุออกฤทธ์ิท่ีนาเข้า ส่งออก หรือนาผ่าน (๑๓) กาหนดการอ่นื เพอ่ื ประโยชน์แก่การปฏิบัติตามลกั ษณะนี้

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๔ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๒๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด มีอานาจประกาศกาหนดเก่ียวกับสารระเหย ดังต่อไปน้ี (๑) ระบชุ ่ือ ประเภท ชนดิ หรือขนาดบรรจุของสารเคมี หรอื ผลิตภัณฑท์ ่เี ป็นสารระเหย (๒) เพิกถอนหรือเปล่ียนแปลงชื่อ ประเภท ชนิด หรือขนาดบรรจุของสารเคมี หรอื ผลิตภัณฑ์ทเ่ี ปน็ สารระเหยตาม (๑) (๓) กาหนดการอน่ื เพอ่ื ประโยชน์แก่การปฏบิ ตั ติ ามลักษณะนี้ หมวด ๒ คณะกรรมการควบคมุ ยาเสพตดิ มาตรา ๒๕ ให้มีคณะกรรมการคณะหน่ึงเรียกว่า “คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบดีกรมโรงงาน อุตสาหกรรม อธบิ ดีกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดกี รมศุลกากร อธบิ ดีกรมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ อธิบดีกรมสุขภาพจิต อธิบดีกรมอนามัย เลขาธิการ ป.ป.ส. นายกแพทยสภา นายกสภาการแพทย์ แผนไทย และนายกสภาเภสัชกรรม เป็นกรรมการโดยตาแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซ่ึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแต่งต้ังจานวนสิบคนจากผู้ซ่ึงมีความรู้และความเช่ียวชาญ ในด้านวิสัญญีแพทย์ จิตแพทย์ อายุรแพทย์ เภสัชศาสตร์ หรือด้านอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ ต่อการดาเนินการของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ในจานวนนี้ ให้แต่งต้ังจากภา คเอกชน ไมน่ ้อยกวา่ สามคน ให้เลขาธิการ อย. เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการ อย. แต่งต้ังข้าราชการ ในสานกั งาน อย. จานวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ชว่ ยเลขานุการ มาตรา ๒๖ ใหค้ ณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติดมีหนา้ ที่และอานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) กาหนดมาตรการการควบคมุ ยาเสพตดิ

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๕ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) เสนอแนะต่อรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุข หรือรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แล้วแต่กรณี ในการระบุช่ือหรือประเภทยาเสพติด รวมทง้ั การเพิกถอนหรอื การเปลี่ยนแปลงชื่อหรอื ประเภทยาเสพตดิ (๓) ให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือผู้อนุญาต แลว้ แตก่ รณี ในการปฏบิ ตั ิการตามลกั ษณะน้ี (๔) ให้ความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้อนุญาตตามมาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๕ (๕) ให้ความเห็นตอ่ กระทรวงสาธารณสุขหรอื ผู้ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายในการทาลาย หรือนาไปใชป้ ระโยชนซ์ งึ่ ยาเสพติดใหโ้ ทษหรือวตั ถุออกฤทธต์ิ ามมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๕ และมาตรา ๖๐ (๖) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามที่ประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอ่ืนกาหนดให้เป็นหน้าท่ีและ อานาจของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด หรือตามทีร่ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ มอบหมาย มาตรา ๒๗ ให้นาความในมาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ มาใชบ้ ังคับ แกค่ ณะกรรมการควบคุมยาเสพติดด้วยโดยอนโุ ลม มาตรา ๒๘ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดมีอานาจแต่งต้ังคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณา หรอื ปฏบิ ตั ิการอย่างหน่ึงอยา่ งใดตามทคี่ ณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติดมอบหมายกไ็ ด้ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตามวรรคหน่ึงอย่างน้อยต้องแต่งต้ังคณะอนุกรรมการยาเสพติด ให้โทษ คณะอนกุ รรมการวตั ถอุ อกฤทธ์ิ และคณะอนกุ รรมการสารระเหย การประชุมของคณะอนุกรรมการให้นาความในมาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ้ งั คับดว้ ยโดยอนโุ ลม หมวด ๓ ประเภทของยาเสพตดิ ให้โทษและวตั ถอุ อกฤทธิ์ มาตรา ๒๙ ยาเสพติดให้โทษแบง่ ออกเปน็ ๕ ประเภท คอื (๑) ประเภท ๑ ยาเสพติดใหโ้ ทษชนิดรา้ ยแรง เชน่ เฮโรอีน (Heroin)

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๖ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๒) ประเภท ๒ ยาเสพติดให้โทษท่ัวไป เช่น มอร์ฟีน (Morphine) โคคาอีน (Cocaine) โคเดอีน (Codeine) หรอื ฝิน่ ยา (Medicinal Opium) (๓) ประเภท ๓ ยาเสพตดิ ให้โทษทีม่ ีลักษณะเป็นตารบั ยา และมียาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๒ ผสมอยู่ด้วย ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยการเสนอแนะของ คณะกรรมการควบคุมยาเสพตดิ ประกาศกาหนด (๔) ประเภท ๔ สารเคมีท่ีใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ เช่น อาเซตคิ แอนไฮไดรด์ (Acetic Anhydride) (๕) ประเภท ๕ ยาเสพติดให้โทษที่มไิ ดเ้ ข้าอยู่ในประเภท ๑ ถึงประเภท ๔ เช่น พืชฝิ่น การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษวา่ ยาเสพติดให้โทษชื่อใดอยู่ในประเภทใดตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) (๔) และ (๕) และการเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงชื่อหรือประเภทยาเสพติดให้โทษดังกล่าว ให้เป็นไป ตามท่รี ัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ประกาศกาหนด เพ่ือประโยชน์แห่งมาตรานี้ คาว่า “ฝ่ินยา (Medicinal Opium)” หมายความว่า ฝน่ิ ท่ไี ด้ผา่ นกรรมวิธปี รงุ แต่งโดยมีความม่งุ หมายเพือ่ ใช้ในทางยา มาตรา ๓๐ วตั ถอุ อกฤทธ์ิแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ (๑) ประเภท ๑ วัตถุออกฤทธ์ิท่ีไม่ใช้ในทางการแพทย์ และอาจก่อให้เกิดการนาไปใช้หรือ มแี นวโน้มในการนาไปใช้ในทางทผ่ี ดิ สงู (๒) ประเภท ๒ วัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ และอาจก่อให้เกิดการนาไปใช้หรือ มีแนวโน้มในการนาไปใช้ในทางที่ผดิ สงู (๓) ประเภท ๓ วัตถุออกฤทธิ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ และอาจก่อให้เกิดการนาไปใช้หรือ มแี นวโนม้ ในการนาไปใชใ้ นทางที่ผิด (๔) ประเภท ๔ วัตถุออกฤทธ์ิที่ใช้ในทางการแพทย์ และอาจก่อให้เกิดการนาไปใช้หรือ มแี นวโน้มในการนาไปใช้ในทางท่ีผิดน้อยกวา่ ประเภท ๓ ท้ังน้ี การระบุชื่อวัตถุออกฤทธิ์วา่ วัตถุออกฤทธิ์ช่ือใดอยู่ในประเภทใด และการเพิกถอน หรอื เปล่ียนแปลงช่ือหรือประเภทวัตถอุ อกฤทธด์ิ งั กล่าว ให้เป็นไปตามที่รฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยการเสนอแนะของคณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติดประกาศกาหนด

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๗ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๓๑ ในกรณีที่วัตถุตารับมีวัตถุออกฤทธ์ิในประเภทหน่ึงประเภทใดปรุงผสมอยู่ ให้ถอื วา่ เป็นวตั ถุออกฤทธ์ใิ นประเภทนั้นดว้ ย ในกรณที ีว่ ัตถุตารับมีวตั ถอุ อกฤทธอิ์ ันระบุอย่ใู นประเภทตา่ งกนั ผสมอยู่ ใหถ้ ือว่าเป็นวตั ถอุ อกฤทธิ์ ในประเภทที่มีการควบคุมเข้มงวดกว่าในประเภททีผ่ สมอย่นู ัน้ หมวด ๔ การอนุญาตเกี่ยวกบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษและวตั ถอุ อกฤทธิ์ ส่วนท่ี ๑ ยาเสพติดใหโ้ ทษและวตั ถอุ อกฤทธิ์ซง่ึ ไมต่ ้องขออนุญาต มาตรา ๓๒ การผลิต นาเข้า ส่งออก จาหนา่ ย หรือมไี ว้ในครอบครองซึง่ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ หรอื วตั ถุออกฤทธิ์ เพือ่ ประโยชน์แกผ่ ูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม ผูป้ ระกอบวชิ าชพี ทนั ตกรรม ผู้ประกอบ วิชาชีพการสัตวแพทย์ช้ันหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ หรือสาธารณสุขอ่ืน หรือเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐหรือสภากาชาดไทย ไม่ต้องขออนุญาต ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการควบคมุ ยาเสพตดิ ประกาศกาหนด มาตรา ๓๓ การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ในกรณีดังต่อไปน้ี ไม่ตอ้ งขออนญุ าต (๑) การมียาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ไว้ในครอบครองไม่เกินปริมาณเท่าที่จาเป็นสาหรับใช้รักษาโรคเฉพาะตัวตามคาสั่ง ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมซง่ึ เป็นผู้ให้การรกั ษา หรือผู้ประกอบวิชาชีพ การสตั วแพทย์ช้ันหนึง่ สาหรับใชใ้ นการบาบัดหรือป้องกนั โรคสาหรับสตั วท์ ใ่ี หก้ ารรักษานั้น (๒) การมียาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ หรอื ประเภท ๕ หรือวัตถอุ อกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรอื ประเภท ๔ ไวใ้ นครอบครองในปริมาณเท่าท่จี าเป็นตอ้ งใชป้ ระจาในการปฐมพยาบาล หรือในกรณเี กดิ เหตุฉกุ เฉนิ ในยานพาหนะท่ีใช้ในการขนส่งสาธารณะระหวา่ งประเทศซ่ึงไมไ่ ด้จดทะเบยี น ในราชอาณาจักร โดยให้ได้รับการยกเว้นจากมาตรการควบคุมสาหรับการนาเข้า ส่งออก หรือนาผ่าน

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๘ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ทั้งนี้ ผู้ควบคุมยานพาหนะดังกล่าวต้องจัดให้มีการป้องกันตามสมควรเพื่อมิให้ยาเสพติดให้โทษหรือ วัตถอุ อกฤทธสิ์ ูญหายหรอื มีการนาเอาไปใชโ้ ดยมิชอบ (๓) การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์สาหรับกิจการของผู้รับ อนุญาตผลติ นาเขา้ สง่ ออก จาหน่าย หรือนาผ่านซงึ่ ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถอุ อกฤทธิป์ ระเภทนั้น ๆ (๔) การมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ตามหน้าที่ของกระทรวง ทบวง กรม หรือสภากาชาดไทย หรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐตามท่ี รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด (๕) การมียาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ไว้ในครอบครองไม่เกินปริมาณท่ีจาเป็นสาหรับ ใช้รักษาโรคเฉพาะตัว โดยมีใบสั่งยาหรือหนังสือรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบ วิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชพี การแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชพี การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพ้นื บ้านตามกฎหมายว่าดว้ ยวชิ าชีพการแพทยแ์ ผนไทยซง่ึ เป็นผใู้ หก้ ารรักษา ส่วนที่ ๒ การอนุญาตโดยรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ มาตรา ๓๔ ในกรณีจาเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการป้องกันและ ปราบปรามการกระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติดหรือความร่วมมือระหว่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขมีอานาจอนุญาตให้ผู้ใดนาเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซงึ่ ยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๑ หรอื ประเภท ๔ ได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด มีอานาจอนุญาตให้ผู้ใดผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๑ หรือประเภท ๔ เพื่อการศึกษาวิจัย ประโยชน์ในทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ หรอื อุตสาหกรรม การขออนุญาต คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสขุ กาหนดในกฎกระทรวง

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๒๙ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา สว่ นท่ี ๓ การอนญุ าตโดยผู้อนญุ าต มาตรา ๓๕ ผู้อนญุ าตมอี านาจอนุญาต ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ให้ผู้ใดผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๒ (๒) ให้ผู้ใดผลิต นาเข้า สง่ ออก หรอื จาหนา่ ยซึง่ ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ (๓) ให้ผู้ใดนาเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ หรอื ประเภท ๔ ในปริมาณเลก็ น้อยทนี่ าไปใชเ้ ปน็ สารมาตรฐานในการตรวจวเิ คราะห์ (๔) ใหผ้ ้ใู ดจาหนา่ ยหรือมไี วใ้ นครอบครองซง่ึ ยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๕ (๕) ใหผ้ ู้ใดผลิต นาเข้า สง่ ออก จาหนา่ ย มไี ว้ในครอบครอง หรือนาผา่ นซึ่งวัตถุออกฤทธ์ิ ผู้อนุญาตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดมีอานาจอนุญาต ให้ผู้ใดผลติ นาเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ การแพทย์ การรกั ษาผ้ปู ว่ ย การศึกษาวจิ ัยหรือประโยชนอ์ ื่นตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง การขออนุญาต คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอ่ื นไขที่รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุขกาหนดในกฎกระทรวง ผู้รับอนุญาตตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสองผู้ใดประกอบกิจการภายหลังที่ใบอนุญาตส้ินอายุแล้ว ให้ถือว่าผนู้ ั้นประกอบกจิ การโดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต เว้นแตจ่ ะไดย้ น่ื คาขอตอ่ อายุใบอนุญาตภายในสามสิบวนั นับแต่วันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ โดยแสดงเหตุที่ไม่สามารถย่ืนคาขอต่ออายุใบอนุญาตภายในกาหนดและ ผอู้ นุญาตหรือผ้อู นญุ าตโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการควบคมุ ยาเสพติด แล้วแต่กรณี เหน็ สมควร ใหต้ อ่ อายใุ บอนุญาตได้ มาตรา ๓๖ การนาเข้าหรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิของผู้รับอนุญาต นาเข้าหรือส่งออกตามมาตรา ๓๔ หรือมาตรา ๓๕ นอกจากจะตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาตตามมาตราดังกลา่ วแลว้ ในการนาเข้าหรือส่งออกซ่ึงยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิของผู้รับอนุญาตในแต่ละครั้งต้องได้รับ ใบอนุญาตเฉพาะคราวจากผู้อนุญาตทุกคร้ังที่นาเข้าหรือส่งออกอีกด้วย ท้ังน้ี การขออนุญาตและ

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๓๐ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา การออกใบอนญุ าต ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงอื่ นไขทร่ี ฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๓๗ ผู้รับอนุญาตผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย มีไว้ในครอบครอง หรือนาผ่าน ซึ่งยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิตามมาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๕ และผู้รับอนุญาตเฉพาะคราว นาเข้าหรือส่งออกตามมาตรา ๓๖ ต้องจัดเก็บรักษา ดาเนินการขออนญุ าตและจดั ใหม้ กี ารควบคมุ ดูแล การโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวตั ถุออกฤทธิ์ จัดให้มีการทาบญั ชีและเสนอรายงานเกย่ี วกบั การดาเนนิ กิจการตามท่ีได้รับอนุญาต หรือดาเนินการอื่นเพ่ือประโยชน์ในการควบคุมกากับดูแลยาเสพติดให้โทษ หรือวัตถุออกฤทธ์ิ ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กาหนดในกฎกระทรวง การขออนุญาตโฆษณายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิตามวรรคหนึ่งของผู้รับอนุญาต การออกใบอนุญาต และเง่ือนไขในการโฆษณาตามใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่อื นไขที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดกาหนดโดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๓๘ ใบอนุญาตตามมาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๕ และใบอนุญาตเฉพาะคราว เพื่อการนาเข้าหรือส่งออกตามมาตรา ๓๖ ให้คุ้มกันถึงลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับอนุญาตซ่ึงได้ กระทาไปตามหน้าทท่ี ไ่ี ด้รบั มอบหมายจากผูร้ ับอนุญาต ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการกระทาของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับอนุญาตที่ได้กระทาไป ตามหนา้ ทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมายเปน็ การกระทาของผ้รู บั อนญุ าตดว้ ย มาตรา ๓๙ ผู้อนุญาตอาจอนุญาตให้ผู้ป่วยซ่ึงเดินทางระหว่างประเทศนายาเสพติดให้โทษ ซึ่งต้องใช้รักษาโรคเฉพาะตัวติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมใบอนุญาตด้วย โดยมี ใบสั่งยาหรือหนังสือรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือหมอพ้ืนบ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทยซึ่งเป็นผู้ให้การรักษา ท้ังน้ี การขออนุญาตและ การออกใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขท่ีรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดในกฎกระทรวง การนาวตั ถอุ อกฤทธใ์ิ นประเภท ๒ ประเภท ๓ หรอื ประเภท ๔ ตดิ ตวั เข้ามาในหรอื ออกไป นอกราชอาณาจกั รไม่เกนิ ปรมิ าณที่จาเปน็ ต้องใช้รกั ษาโรคเฉพาะตวั ภายในสามสิบวนั โดยมีใบสงั่ ยาหรือ

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๓๑ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา หนังสือรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพ การสัตวแพทยช์ ้ันหนงึ่ ไมต่ ้องขออนุญาต กรณีการนาติดตวั เพอ่ื ใช้รักษาโรคเกินกวา่ สามสิบวนั ต้องไดร้ บั ใบอนุญาต ทง้ั นี้ การขออนุญาตและการออกใบอนญุ าต ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงอ่ื นไข ทรี่ ฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุขกาหนดในกฎกระทรวง การนายาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร ตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ไม่เป็นความผิดฐานนาเข้าหรือส่งออกยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิ ตามประมวลกฎหมายน้ี มาตรา ๔๐ ให้ผู้รับอนุญาตผลิต นาเข้า ส่งออก จาหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซ่ึงยาเสพติด ให้โทษในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๕ หรือผู้รับอนุญาตผลิต นาเข้า ส่งออก หรือ จาหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ต้องจัดให้มีเภสัชกรอยู่ประจา ควบคุมกิจการตลอดเวลาทาการซึ่งระบุไว้ในใบอนุญาต พร้อมท้ังต้องดูแลให้เภสัชกรได้ปฏิบัติหน้าท่ี ท้งั นี้ ตามทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๔๑ ในการนาผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธ์ิทุกประเภท ห้ามผู้ใดเปลี่ยนแปลงการส่งวัตถุออกฤทธิ์ ไปยังจุดหมายอื่นที่มิได้ระบุในใบอนุญาตส่งออกท่ีส่งมาพร้อมกับวัตถุออกฤทธิ์ เว้นแต่ได้รับอนุญาต เป็นหนังสือจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจของประเทศผู้ออกใบอนุญาตน้ัน และเลขาธิการ อย. ใหค้ วามเห็นชอบด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือ่ นไขทร่ี ัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กาหนดในกฎกระทรวง ในกรณีท่ีไม่อาจส่งวัตถุออกฤทธ์ิไปยังจุดหมายท่ีกาหนดตามวรรคหนึ่งได้ ให้ผู้รับอนุญาต ส่งวัตถุออกฤทธิ์กลับคืนไปยังประเทศท่ีส่งออกภายในกาหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันที่วัตถุออกฤทธิ์ ดังกลา่ วเขา้ มาในราชอาณาจักร หากผูร้ บั อนุญาตไมด่ าเนนิ การใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในเวลาที่กาหนด ให้วัตถุ ออกฤทธิ์นน้ั ตกเป็นของกระทรวงสาธารณสขุ และใหก้ ระทรวงสาธารณสขุ หรือผซู้ ง่ึ กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายทาลายหรือนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ตามระเบยี บท่รี ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ กาหนด มาตรา ๔๒ ในระหว่างที่มีการนาผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธ์ิในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ การแปรรูปหรือแปรสภาพวัตถุออกฤทธ์ิให้เป็นอย่างอ่ืน หรือเปลี่ยนหีบห่อท่ีบรรจุวัตถุออกฤทธิ์ ต้องได้รบั อนญุ าตเป็นหนังสือจากเลขาธกิ าร อย.

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๓๒ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๔๓ ในการนาเข้าซ่ึงวัตถุออกฤทธ์ิทุกประเภท การส่งวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวไปยัง บุคคลอื่นหรือสถานที่อ่ืนนอกเหนือไปจากบุคคลหรือสถานท่ีที่ระบุในใบอนุญาตเฉพาะคราวเพื่อนาเข้า สามารถกระทาได้ในกรณีทม่ี ีเหตุจาเปน็ โดยไดร้ บั อนุญาตเปน็ หนังสอื จากเลขาธิการ อย. มาตรา ๔๔ เม่ือกระทรวงสาธารณสุขได้รับแจ้งการห้ามนาเข้าซ่ึงวัตถุออกฤทธ์ิในประเภทหน่ึง ป ร ะ เ ภ ท ใ ด ที่ ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ด้ แ จ้ ง ผ่ า น เ ล ข า ธิ ก า ร ส ห ป ร ะ ช า ช า ติ ร ะ บุ ห้ า ม น า เ ข้ า ไ ป ยั ง ป ร ะ เ ท ศ ใ ด ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนดการหา้ มนาเข้าประเทศน้ัน ห้ามผู้ใดส่งออกซ่ึงวัตถุออกฤทธิ์ไปยังประเทศที่ระบุห้ามนาเข้าตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่ ไดร้ ับอนญุ าตพิเศษเฉพาะคราวจากประเทศน้ันและใบอนญุ าตพเิ ศษเฉพาะคราวจากเลขาธกิ าร อย. การขอรับใบอนุญาตพิเศษเฉพาะคราวและการออกใบอนุญาตพิเศษเฉพาะคราว ให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่รี ฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๔๕ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตเลิกกิจการ ไม่ขอต่ออายุใบอนุญาต ไม่ได้รับอนุญาต ให้ต่ออายุใบอนุญาต หรือตาย ให้ผู้รับอนุญาต ทายาท ผู้จัดการมรดกของผู้ตาย หรือผู้ครอบครอง ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ของผู้ตาย แล้วแต่กรณี ปฏิบัติตามข้อกาหนดท่ีผู้อนุญาตหรือ ผู้อนุญาตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้วแต่กรณี มิฉะน้ัน ให้ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิที่เหลืออยู่ตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข และให้กระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายทาลายหรือนาไปใช้ประโยชน์ได้ ตามระเบยี บทีร่ ัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุขกาหนด มาตรา ๔๖ ผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษหรือผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธ์ิ ซงึ่ ไดด้ าเนนิ การตามประมวลกฎหมายน้ีแลว้ ให้ได้รบั การยกเว้นไมต่ อ้ งปฏบิ ัติตามกฎหมายว่าดว้ ยยา ส่วนท่ี ๔ การพักใช้ใบอนญุ าตและการเพิกถอนใบอนญุ าต มาตรา ๔๗ ผู้รับอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหมวดน้ี หรือกฎกระทรวง หรือ ประกาศท่ีออกตามหมวดน้ี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยการเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ผู้อนุญาต หรือผู้อนุญาตโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด แล้วแต่กรณี ว่ากล่าวตกั เตือน สั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือเพกิ ถอน

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๓๓ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา ใบอนุญาต ตามสมควรแกก่ รณี ตามหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเงือ่ นไขทีร่ ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๔๘ ผู้ถูกส่ังพักใช้ใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตใด ๆ ในระหว่างถูกส่ัง พักใช้ใบอนญุ าตอีกไมไ่ ด้ ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตใด ๆ ตามหมวดน้ีอีกไม่ได้ จนกว่าจะพ้นสามปี นบั แตว่ นั ที่ถกู เพกิ ถอนใบอนญุ าต ในกรณีที่นิติบุคคลถูกเพิกถอนใบอนุญาต ให้นาความในวรรคสองมาใช้บังคับกับกรรมการ ผูจ้ ดั การ และผู้รบั ผดิ ชอบในการดาเนนิ งานของนิตบิ ุคคลนัน้ ด้วยโดยอนโุ ลม หมวด ๕ การขนึ้ ทะเบยี นตารับยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๓ และการขนึ้ ทะเบยี นตารบั วตั ถุออกฤทธ์ิ มาตรา ๔๙ ผ้รู ับอนุญาตผลติ หรือนาเข้าซง่ึ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๓ ตามมาตรา ๓๕ (๒) หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ตามมาตรา ๓๕ (๕) จะผลิตหรือนาเข้าซึ่งตารับ ยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถอุ อกฤทธิท์ ี่มีวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวปรุงผสมอยู่ ต้องขอข้ึนทะเบียนตารับ ยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธ์ิน้ันต่อผู้อนุญาตก่อน และเมื่อได้รับใบสาคัญการข้ึนทะเบียน ตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธ์ิแล้วจึงจะผลิตหรือนาเข้าซึ่งตารับยาเสพติดให้โทษหรือ ตารับวัตถุออกฤทธนิ์ ั้นได้ การขอข้ึนทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธิ์ การออกใบสาคัญ การข้นึ ทะเบียนตารบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษหรอื ตารับวตั ถอุ อกฤทธิ์ การต่ออายใุ บสาคัญการข้นึ ทะเบยี นตารบั ยาเสพติดใหโ้ ทษหรือตารับวตั ถอุ อกฤทธิ์ การออกใบแทนใบสาคญั การขน้ึ ทะเบยี นตารับยาเสพตดิ ให้โทษ หรือตารับวัตถุออกฤทธิ์ การแจ้งรายการในการยื่นคาขอ และการขอแก้ไขรายการท่ีได้รับอนุญาต ใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขทรี่ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุขกาหนดในกฎกระทรวง ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่ผู้รับอนุญาตผลิตหรือนาเข้าซ่ึงตารับยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๓ หรือตารับวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตหรือ นาเข้าตัวอย่างของตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธิ์ ท่ีจะขอขึ้นทะเบียนตารับยาเสพติด

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๓๔ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา ให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธ์ิ การขออนุญาตและการอนุญาตให้ผลิตหรือนาเข้าตัวอย่างของตารับ ยาเสพติดให้โทษหรอื ตารับวตั ถุออกฤทธิ์ ให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขกาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๕๐ ผู้อนุญาตโดยคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดอาจไม่รับ ข้ึนทะเบยี นตารับยาเสพติดใหโ้ ทษหรอื ตารบั วัตถุออกฤทธ์ิ ในกรณีดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) การขอขึ้นทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธิ์ท่ีไม่เป็น ไป ตามมาตรา ๔๙ (๒) ตารับยาเสพติดให้โทษหรอื ตารบั วตั ถอุ อกฤทธิ์ท่ีขอข้นึ ทะเบยี นไมเ่ ปน็ ท่เี ชื่อถอื ในสรรพคณุ หรอื อาจไม่ปลอดภยั แก่ผใู้ ช้ (๓) ตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธ์ิที่ขอข้ึนทะเบียนใช้ช่ือในทานองโอ้อวด ไมส่ ุภาพ หรืออาจทาให้เขา้ ใจผดิ จากความจริง (๔) ตารบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษหรอื ตารบั วัตถอุ อกฤทธทิ์ ่ขี อขึน้ ทะเบียนเปน็ ตารับยาเสพตดิ ให้โทษ หรอื ตารับวัตถุออกฤทธิ์ท่รี ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ สง่ั เพิกถอนตามมาตรา ๕๑ (๕) ตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธ์ิที่ขอขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติดให้โทษ หรือวตั ถุออกฤทธ์ปิ ลอมตามมาตรา ๕๒ มาตรา ๕๑ เมื่อคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเห็นว่าทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๓ หรือทะเบียนตารับวัตถุออกฤทธ์ิท่ีมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ใด ท่ีได้ใบสาคัญการขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ต่อมาปรากฏว่าไม่มีสรรพคุณตามที่ข้ึนทะเบียนตารับยาเสพติด ให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธิ์ไว้ หรืออาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ หรือมีเหตุผลอันไม่สมควรที่จะอนุญาต ให้ต่อไป ให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอานาจสั่งเพิกถอนทะเบียนตารับยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ หรือทะเบียนตารับวัตถุออกฤทธ์ิท่ีมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ นั้นได้ โดยประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษา หมวด ๖ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษหรือวตั ถุออกฤทธ์ปิ ลอม ผดิ มาตรฐาน หรอื เส่อื มคุณภาพ

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๓๕ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๕๒ ห้ามผู้ใดผลิต นาเข้า ส่งออก หรือจาหนา่ ยซง่ึ ยาเสพตดิ ให้โทษในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรอื ประเภท ๕ หรือวัตถุออกฤทธ์ใิ นประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ปลอม ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธ์ิ หรือส่ิงดังต่อไปน้ี ให้ถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษหรือ วตั ถุออกฤทธ์ปิ ลอม (๑) สิ่งท่ีทาเทียมยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ท้ังหมดหรือแต่บางส่วน เพื่อแสดงว่า เปน็ ยาเสพติดให้โทษแท้หรอื วตั ถอุ อกฤทธ์ิแท้ (๒) ยาเสพติดให้โทษหรือวตั ถุออกฤทธทิ์ แี่ สดงชื่อวา่ เป็นยาเสพติดใหโ้ ทษหรือวัตถอุ อกฤทธอิ์ น่ื หรอื แสดงวัน เดอื น ปี ที่ยาเสพตดิ ให้โทษหรอื วตั ถอุ อกฤทธสิ์ นิ้ อายุแลว้ วา่ ยงั ไม่สิน้ อายุ (๓) ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิท่ีแสดงชื่อหรือเคร่ืองหมายของผู้ผลิตหรือที่ตั้ง ของสถานที่ผลิตซงึ่ มิใช่ความจรงิ (๔) ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิท่ีผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน ถึงขนาด สารออกฤทธ์ิขาดหรอื เกนิ กวา่ ร้อยละสิบของปริมาณที่กาหนดไว้จากเกณฑ์ต่าสุดหรือสูงสุดตามที่กาหนด ไวใ้ นประกาศของรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสุขตามมาตรา ๒๒ (๑) หรือมาตรา ๒๓ (๒) หรอื ตามที่กาหนดไว้ในตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับวัตถุออกฤทธ์ิท่ไี ด้ข้ึนทะเบยี นตารบั หรือที่ผู้อนญุ าต ไดอ้ นุญาตให้ผลติ นาเข้า หรอื สง่ ออกไว้ มาตรา ๕๓ ห้ามผู้ใดผลิต นาเข้า ส่งออก หรือจาหน่ายซ่ึงยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๕ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ผดิ มาตรฐาน ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิดังต่อไปน้ี ให้ถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิ ผิดมาตรฐาน (๑) ยาเสพติดให้โทษหรอื วตั ถุออกฤทธ์ทิ ่ผี ลติ ข้ึนไม่ถกู ตอ้ งตามมาตรฐานโดยสารออกฤทธ์ิขาด หรือเกินจากเกณฑ์ตา่ สุดหรอื สงู สุด ตามท่ีกาหนดไวใ้ นประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ ตามมาตรา ๒๒ (๑) หรือมาตรา ๒๓ (๒) หรือตามตารับของตารับยาเสพติดให้โทษหรือตารับ วตั ถุออกฤทธิ์ทข่ี ึ้นทะเบยี นไวต้ ามมาตรา ๔๙ แต่ไม่ถึงขนาดดงั กลา่ วในมาตรา ๕๒ (๔) (๒) ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ท่ีผลิตข้ึนโดยมีความบริสุทธ์ิหรือลักษณะอ่ืนซ่ึงมี ความสาคัญตอ่ คุณภาพของยาเสพตดิ ใหโ้ ทษหรอื วตั ถอุ อกฤทธผ์ิ ดิ ไปจากเกณฑท์ กี่ าหนดไวใ้ นประกาศของ

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๓๖ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามมาตรา ๒๒ (๑) หรือมาตรา ๒๓ (๒) หรือตามตารับ ของตารบั ยาเสพติดใหโ้ ทษหรอื ตารับวตั ถุออกฤทธทิ์ ขี่ ึน้ ทะเบยี นไว้ มาตรา ๕๔ ห้ามผู้ใดนาเข้า ส่งออก หรือจาหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๕ หรือวัตถุออกฤทธ์ิในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ เสื่อมคุณภาพ ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ดังต่อไปน้ี ให้ถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิ เสอ่ื มคณุ ภาพ (๑) ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธ์ิท่ีส้ินอายุตามท่ีแสดงไว้ในฉลากซ่ึงข้ึนทะเบียนตารับ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษหรือตารบั วัตถอุ อกฤทธไ์ิ ว้ (๒) ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถอุ อกฤทธ์ิท่ีแปรสภาพจนมีลกั ษณะเช่นเดยี วกบั ยาเสพติดใหโ้ ทษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ปลอมตามมาตรา ๕๒ (๔) หรือยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ผิดมาตรฐาน ตามมาตรา ๕๓ หมวด ๗ มาตรการควบคมุ พิเศษ มาตรา ๕๕ ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ส. เห็นสมควรเพ่ือประโยชน์ในการศึกษาวิจัย การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด และการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด จะกาหนดเขตพนื้ ท่ีหนงึ่ พืน้ ทใ่ี ด เพือ่ กระทาการอยา่ งหนึง่ อย่างใดดงั ต่อไปนี้กไ็ ด้ (๑) ทดลองเพาะปลูกพืชที่เป็นหรือให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ หรือ อาจใชผ้ ลิตเปน็ ยาเสพติดให้โทษหรือวตั ถอุ อกฤทธิ์ (๒) ผลิตและทดสอบเกย่ี วกบั ยาเสพตดิ (๓) เสพหรือครอบครองยาเสพติดตามประเภทและปรมิ าณทก่ี าหนด การกาหนดพื้นที่และการกระทาการตามวรรคหนึ่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และ พระราชกฤษฎกี าดังกลา่ วอยา่ งน้อยต้องมีมาตรการควบคุมและตรวจสอบการกระทาดังกล่าวดว้ ย ใหก้ ารกระทาการในเขตพืน้ ท่ีทีก่ าหนดในวรรคหนงึ่ ซง่ึ อย่ภู ายใต้มาตรการควบคมุ และตรวจสอบ ไม่เป็นความผดิ

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๓๗ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๕๖ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. มีอานาจออกประกาศกาหนดมาตรการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการกระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ และประกาศกาหนด ให้สถานท่ีซึ่งใช้ในการประกอบธุรกิจใด ๆ เป็นสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการ ดงั กล่าว ท้งั นี้ โดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๕๗ ในกรณีที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการกระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ ตามมาตรา ๕๖ หรือพบว่ามีการกระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติดในสถานประกอบการตามมาตรา ๕๖ หากเจ้าของหรอื ผู้ดาเนินกิจการสถานประกอบการดงั กล่าวไม่สามารถช้ีแจงหรือพิสูจน์ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. เชื่อได้วา่ ตนไดใ้ ช้ความระมดั ระวังตามสมควรแกก่ รณีแลว้ ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มอี านาจสงั่ ให้ ดาเนินมาตรการทจี่ าเป็นเพื่อปอ้ งกันมใิ หม้ กี ารกระทาความผิดเกดิ ข้ึนอีก หรือใหค้ ณะกรรมการ ป.ป.ส. มีอานาจส่ังปิดสถานประกอบการแห่งนั้นชั่วคราว หรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการสาหรับ การประกอบธุรกิจน้ัน แล้วแต่กรณี เว้นแต่ในกรณีจาเป็นเร่งด่วน ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มีอานาจ ดาเนินการดังกล่าว ท้ังน้ี การสั่งปิดชั่วคราวหรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการต้องไม่เกินครั้งละ สามสบิ วันนบั แต่วนั ทีเ่ จ้าของหรือผูด้ าเนนิ กิจการสถานประกอบการนน้ั ทราบคาส่งั ในกรณีท่ีสถานประกอบการซึ่งถูกสั่งปิดชั่วคราวหรือถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต ประกอบการ ตามวรรคหน่ึงเป็นสถานประกอบการซ่ึงอยู่ภายใต้การควบคุมการประกอบการตามกฎหมายอื่น ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. แจ้งให้หน่วยงานซ่ึงควบคมุ การประกอบการนั้นทราบ และให้หน่วยงานดังกลา่ ว ถอื ปฏบิ ตั ติ ามน้นั การส่ังปิดชั่วคราวหรือการสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบการ และการแจ้งให้เจ้าของหรือ ผู้ดาเนินกิจการสถานประกอบการทราบตามวรรคหน่ึง และการแจ้งให้หน่วยงานทราบตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ ป.ป.ส. กาหนดโดยประกาศ ในราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๕๘ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาจประกาศกาหนดยาเสพติดให้โทษ ในประเภท ๕ ท่ีให้เสพเพ่ือการรักษาโรคตามคาส่ังของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพ ทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือ หมอพ้นื บ้านตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวชิ าชีพการแพทย์แผนไทยทีไ่ ดร้ บั ใบอนุญาต หรือเสพเพอื่ การศึกษาวิจัย

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๓๘ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา ผู้ประกอบวิชาชพี การแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบา้ นตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนดโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการควบคมุ ยาเสพตดิ มาตรา ๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาจประกาศกาหนดให้วัตถุตารับใด ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปน้ีเป็นวัตถุตารับยกเว้นได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข ทร่ี ฐั มนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกาหนดในกฎกระทรวง (๑) มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ อย่างหน่ึงอย่างใดหรือ หลายอย่างปรงุ ผสมอยู่ (๒) มลี ักษณะทีไ่ ม่อาจกอ่ ให้เกดิ การใช้ท่ผี ิดทาง (๓) ไม่สามารถจะแยกสกัดเอาวัตถุออกฤทธิ์ที่มีอยู่ในวัตถุตารับนั้นกลับมาใช้ในปริมาณ ท่ีจะทาใหเ้ กดิ การใช้ท่ผี ดิ ทาง และ (๔) ไมก่ อ่ ให้เกดิ อันตรายทางดา้ นสุขภาพและสังคมได้ วัตถุตารับยกเว้นที่ประกาศตามวรรคหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาจประกาศ เพกิ ถอนไดเ้ มือ่ ปรากฏวา่ วตั ถุตารับนั้นไม่ตรงลกั ษณะท่กี าหนดไว้ มาตรา ๖๐ ในการนาผ่านซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ ประเภท ๔ และ ประเภท ๕ ตอ้ งมีใบอนญุ าตของเจ้าหนา้ ท่ีผู้มีอานาจของประเทศทีส่ ่งออกนั้นมาพร้อมกับยาเสพติดให้โทษ แสดงใบอนุญาตดังกล่าวต่อพนักงานศุลกากร ยินยอมให้พนักงานศุลกากรเก็บรักษาหรือควบคุมยาเสพติด ให้โทษ และนายาเสพติดให้โทษที่นาผ่านมาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจสอบยาเสพติดให้โทษ ท่ีกาหนดไว้ในประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามมาตรา ๒๒ (๕) เพ่ือทาการตรวจสอบ ตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงอื่ นไขทีร่ ฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนด ใหพ้ นักงานศลุ กากรเกบ็ รกั ษาหรอื ควบคุมยาเสพตดิ ใหโ้ ทษตามวรรคหน่ึงไวใ้ นท่ีสมควร จนกวา่ ผู้ทีน่ าผา่ นซึ่งยาเสพติดใหโ้ ทษจะนายาเสพติดใหโ้ ทษดงั กล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร ในกรณีท่ีผู้นาผ่านซึ่งยาเสพติดให้โทษตามวรรคหน่ึงไม่นายาเสพติดให้โทษดังกล่าวออกไป นอกราชอาณาจักรภายในกาหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันนาเข้า ให้พนักงานศุลกากรรายงาน ให้เลขาธิการ อย. ทราบ เลขาธิการ อย. มีอานาจออกคาส่ังให้ผู้นาผา่ นซ่ึงยาเสพตดิ ให้โทษนายาเสพตดิ ให้โทษดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกาหนดหกสิบวันนับแต่วันท่ีออกคาสั่ง ถ้าผู้ได้รับคาส่ัง

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๓๙ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา ไมป่ ฏิบตั ติ าม ใหย้ าเสพตดิ ให้โทษดงั กล่าวตกเปน็ ของกระทรวงสาธารณสขุ และให้กระทรวงสาธารณสขุ หรือผู้ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายทาลายหรือนาไปใช้ประโยชน์ได้ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขกาหนด มาตรา ๖๑ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซ่ึงปฏิบัติการเก่ียวกับการควบคุมยาเสพติดตามภาคนี้ มีหน้าท่แี ละอานาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) เข้าไปในสถานทที่ าการของผู้รับอนญุ าตนาเข้าหรอื ส่งออก สถานที่ผลิต สถานท่จี าหนา่ ย สถานที่เก็บยาเสพติด หรือสถานท่ีที่ต้องได้รับอนุญาตตามภาคนี้ ในเวลาทาการของสถานที่นั้น เพือ่ ตรวจสอบการปฏบิ ตั ิตามภาคน้ี (๒) ยึดหรืออายัดยาเสพติดที่มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือทรัพย์สินอ่ืนใดที่ได้ใช้หรือ จะใชใ้ นการกระทาความผดิ ตามภาคน้ี (๓) มีหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคา หรือให้ส่งเอกสารหรือวัตถุใดมาเพื่อประกอบ การพิจารณา พนักงานเจา้ หนา้ ท่ีตามวรรคหน่ึง ตาแหนง่ ใด ระดับใด หรือชั้นยศใด จะมีหน้าท่ีและอานาจ ตามที่กาหนดไว้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือจะตอ้ งได้รับอนมุ ตั ิจากบุคคลใดก่อนดาเนินการ ให้เป็นไป ตามทร่ี ฐั มนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุขกาหนดโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพตดิ มาตรา ๖๒ ในการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๖๑ (๑) ให้พนักงาน เจ้าหน้าท่ีมีอานาจนายาเสพติดจากสถานท่ีน้ันในปริมาณพอสมควรไปเพื่อเป็นตัวอย่างในการตรวจสอบ หรือวิเคราะห์ และหากปรากฏว่ายาเสพติดใดเป็นยาเสพติดท่ีไม่ปลอดภัยหรืออาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ให้ประกาศผลการตรวจสอบหรือวิเคราะห์คุณภาพของยาเสพติดที่นาไปตรวจสอบหรือวิเคราะห์น้ัน ใหป้ ระชาชนทราบตามวธิ ีการทเ่ี ห็นสมควร โดยได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการ อย. เพ่ือประโยชน์แก่การคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ใช้ยาเสพติด ในกรณีที่ปรากฏต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่อันเชื่อได้ว่ายาเสพติดใดเป็นยาเสพติดท่ีไมป่ ลอดภัยหรอื อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ให้พนักงาน เจ้าหน้าท่ียึดหรืออายัดยาเสพติดดังกล่าวไว้ หรือสั่งให้ผู้รับอนุญาตงดผลิต นาเข้า ส่งออก หรือ จาหน่ายซ่ึงยาเสพติด เรียกเก็บยาเสพติดดังกล่าวกลับคืนมาภายในระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าท่ี กาหนด และอาจสั่งทาลายยาเสพติดดังกล่าวเสียได้ ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่ อนไข ท่คี ณะกรรมการควบคุมยาเสพตดิ กาหนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๔๐ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา ลกั ษณะ ๔ การตรวจสอบทรัพย์สนิ หมวด ๑ คณะกรรมการตรวจสอบทรพั ย์สิน มาตรา ๖๓ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการ อัยการสูงสุด เลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ อธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมบังคบั คดี อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมสรรพากร และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ โดยตาแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงคณะกรรมการ ป.ป.ส. แต่งต้ังจานวนสองคนจากบุคคล ซ่ึงมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบทรัพยส์ นิ ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นกรรมการและเลขานุการ และคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน จะแต่งตัง้ ข้าราชการคนใดคนหน่ึงในสานักงาน ป.ป.ส. เป็นผู้ชว่ ยเลขานุการก็ได้ มาตรา ๖๔ ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรพั ยส์ ินมหี นา้ ท่แี ละอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) เสนอแนะตอ่ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงยุตธิ รรมเกี่ยวกับการออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๗๑ มาตรา ๗๓ มาตรา ๗๔ และมาตรา ๘๒ (๒) ตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวเน่ืองกับการกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและ มคี าส่งั ตามมาตรา ๖๘ (๓) วินิจฉัยว่าทรัพย์สินใดเป็นทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเน่ืองกับการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับ ยาเสพติดตามมาตรา ๗๓ (๔) มมี ตใิ หย้ ึดหรืออายดั ทรัพย์สินไวต้ ามมาตรา ๗๓ (๕) วางระเบียบเกี่ยวกับการสั่งตรวจสอบทรพั ย์สินตามมาตรา ๖๘ ระเบียบเกี่ยวกบั การยตุ ิ การตรวจสอบทรัพย์สินและการคืนทรัพย์สินท่ียึดหรืออายัดไว้ช่ัวคราวตามมาตรา ๗๑ และระเบียบ เกี่ยวกับการเก็บรักษาทรัพย์สิน การนาทรัพย์สินออกขายทอดตลาด การนาทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ และการประเมินคา่ เสยี หายและคา่ เสื่อมสภาพตามมาตรา ๗๕

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๔๑ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา (๖) แต่งต้ังคณะอนุกรรมการหรือคณะทางานเพ่ือปฏิบัติตามท่ีคณะกรรมการตรวจสอบ ทรพั ยส์ ินมอบหมาย (๗) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามท่ีประมวลกฎหมายน้ีหรือกฎหมายอ่ืนกาหนดให้เป็นหน้าที่และ อานาจของคณะกรรมการตรวจสอบทรพั ย์สิน คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินอาจมอบหมายให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ตามมาตรา ๖๖ หรือเลขาธิการ ป.ป.ส. ดาเนินการตรวจสอบทรัพย์สินตาม (๒) ดาเนินการยึด หรืออายัดตาม (๔) หรือมอบหมายใหค้ ณะอนุกรรมการตาม (๖) ดาเนินการวินจิ ฉัยทรพั ย์สนิ ตาม (๓) แลว้ รายงานให้ทราบก็ได้ มาตรา ๖๕ การประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินต้องมีกรรมการมาประชุม ไม่นอ้ ยกว่าสองในสามของจานวนกรรมการท้งั หมด จงึ จะเปน็ องค์ประชุม ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ใหท้ ีป่ ระชุมเลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานในท่ปี ระชมุ การวินิจฉัยชี้ขาดของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้างมาก เว้นแต่การวินิจฉัยช้ีขาดตามมาตรา ๖๔ (๒) (๓) และ (๔) ให้ถือเสียงสองในสามของกรรมการที่มาประชุม กรรมการคนหน่ึงให้มีเสียงหน่ึง ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเทา่ กัน ใหป้ ระธานในทป่ี ระชมุ ออกเสียงเพ่ิมขนึ้ อกี เสยี งหนง่ึ เปน็ เสียงชีข้ าด มาตรา ๖๖ ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ทรัพย์สินคณะหน่ึงหรือหลายคณะประกอบด้วย อธิบดีอัยการซ่ึงอัยการสูงสุดมอบหมายเป็นประธาน อนกุ รรมการ ผแู้ ทนสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ ผ้แู ทนกรมทีด่ ิน ผ้แู ทนกรมบงั คบั คดี ผู้แทนกรมศุลกากร ผู้แทนกรมสรรพากร ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนสามคน ซึ่งประธานอนุกรรมการแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ความเช่ียวชาญเกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สิน จากภาครัฐหรอื ภาคเอกชนเปน็ อนกุ รรมการ ให้ผู้อานวยการสานักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดหรือผู้อานวยการสานักงานป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติดภาค สานักงาน ป.ป.ส. แล้วแต่กรณี เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ และ ประธานอนุกรรมการจะแต่งต้ังข้าราชการคนใดคนหนงึ่ ในสานักงาน ป.ป.ส. เปน็ ผชู้ ว่ ยเลขานุการกไ็ ด้ ให้นาความในมาตรา ๖๕ มาใช้บังคับแก่การประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ด้วยโดยอนุโลม

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๔๒ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๖๗ ให้นาความในมาตรา ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ มาใชบ้ ังคับแกค่ ณะกรรมการ ตรวจสอบทรัพยส์ นิ ดว้ ยโดยอนุโลม หมวด ๒ มาตรการตรวจสอบทรัพยส์ นิ มาตรา ๖๘ ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าทรัพย์สินของผู้ต้องหารายใดเป็นทรัพย์สิน ท่ีเกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน สั่งให้มกี ารตรวจสอบทรัพย์สนิ ของผนู้ นั้ ในกรณีที่มีความจาเป็นเร่งด่วน เลขาธิการ ป.ป.ส. อาจส่ังให้มีการตรวจสอบทรัพย์สิน ของผ้ตู อ้ งหาไปก่อน แล้วรายงานให้คณะกรรมการตรวจสอบทรพั ย์สนิ ทราบก็ได้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการส่ังตรวจสอบทรัพย์สิน ให้เป็นไปตามระเบียบ ทีค่ ณะกรรมการตรวจสอบทรัพยส์ ินกาหนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๖๙ เพื่อประโยชน์ในการส่ังตรวจสอบทรัพย์สินตามมาตรา ๖๘ เม่ือเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รับรายงานเกย่ี วกับทรัพย์สินท่ีมีเหตุอันควรสงสัยว่าเก่ยี วเน่ืองกับการกระทาความผิดร้ายแรง เก่ียวกับยาเสพติด ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. ทาความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน เพือ่ พจิ ารณาดาเนินการต่อไป หากเห็นว่าเป็นทรัพย์สินที่มีอยู่หรือได้มาไม่เกินกว่าฐานะหรือความสามารถในการประกอบอาชีพ หรือกิจกรรมอย่างอื่นโดยสุจริต หรือเป็นทรัพย์สินที่บุคคลท่ัวไปสามารถมีได้ตามฐานานุรูป หรือ ตามความจาเป็นในการดารงชีพ ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. รายงานให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ทราบด้วย มาตรา ๗๐ ในการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหา หากมีหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินใด ของผู้อื่นเป็นทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติดของผู้ต้องหา โดยได้รับทรัพย์สินน้ันมาโดยเสน่หาหรือรู้อยู่ว่าทรัพย์สินน้ันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเน่ืองกับการกระทา ความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินมีอานาจสั่งให้มีการตรวจสอบ ทรัพย์สินของผู้น้ันด้วย และในกรณีที่มีความจาเป็นเร่งด่วน ให้นาความในมาตรา ๖๘ วรรคสอง มาใช้บงั คบั ดว้ ยโดยอนโุ ลม

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๔๓ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๗๑ คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. แล้วแต่กรณี อาจมอบหมายให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ดาเนินการตรวจสอบทรัพย์สินแทนแล้วรายงานให้ทราบก็ได้ ในการดาเนินการตรวจสอบทรัพย์สินให้แจ้งผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซ่ึงอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สินทราบ เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ตรวจสอบ เพ่ือพิสูจน์ว่าทรัพย์สินนั้นไม่เก่ียวเน่ืองกับการกระทาความผิดร้ายแรง เกีย่ วกบั ยาเสพติด ในกรณีท่ีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายดาเนินการตรวจสอบทรัพย์สินแล้วพบว่า การดาเนินการตรวจสอบต่อไปจะไมก่ ่อใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ทางราชการ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับ มอบหมายแจ้งผลการตรวจสอบพร้อมกับความเห็นต่อคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อพิจารณา หากคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สนิ เห็นด้วยกับความเหน็ ของเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ผู้ไดร้ บั มอบหมาย คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินอาจสั่งให้ยุติการตรวจสอบทรัพย์สินน้ันก็ได้ ในกรณีท่ีคณะกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สินส่ังให้ยุติการตรวจสอบทรัพย์สิน หากคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินเห็นสมควร จะสง่ั ใหค้ นื ทรพั ย์สินทีม่ กี ารยดึ หรืออายัดไว้ชว่ั คราวในระหวา่ งการตรวจสอบให้แกเ่ จ้าของทรพั ยส์ นิ กไ็ ด้ การตรวจสอบทรัพย์สินและการแจ้งตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เง่ือนไขท่รี ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงยุตธิ รรมกาหนดในกฎกระทรวง การยุติการตรวจสอบทรัพย์สินและการคืนทรัพย์สินท่ียึดหรืออายัดไว้ช่ัวคราวตามวรรคสอง ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บทีค่ ณะกรรมการตรวจสอบทรัพยส์ ินกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๗๒ ในกรณีท่ีทรพั ย์สินที่เก่ียวเนื่องกบั การกระทาความผดิ ร้ายแรงเกยี่ วกับยาเสพติด เป็นทรัพย์สินที่สามารถดาเนินการตามกฎหมายอ่ืนได้และการดาเนินการตามกฎหมายอื่นจะก่อให้เกิด ประโยชน์แก่ทางราชการมากกว่า คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินอาจมีคาสั่งให้ส่งทรัพย์สินน้ัน ไปดาเนินการตามกฎหมายอ่นื กไ็ ด้ มาตรา ๗๓ ในการตรวจสอบทรัพย์สิน ถ้าผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของ ทรัพย์สินไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ว่าทรัพย์สินที่ถูกตรวจสอบไม่เกี่ยวเน่ืองกับการกระทาความผิดร้ายแรง เก่ียวกับยาเสพติด หรือได้รับโอนทรัพย์สินน้นั มาโดยสจุ ริตและมคี ่าตอบแทน หรือเป็นทรัพย์สินทไ่ี ดม้ า ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี หรือในทางกุศลสาธารณะ ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินส่ังยึด หรอื อายัดทรพั ย์สินนัน้ ไว้จนกวา่ ศาลจะยกคาร้องขอให้รบิ ทรพั ยส์ ิน

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๔๔ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา เพ่อื ประโยชนใ์ นการตรวจสอบทรัพย์สิน หากมเี หตุอนั ควรเชอ่ื ไดว้ า่ ทรัพย์สนิ รายใดอาจมีการโอน ยักย้าย ซุกซ่อน หรือเป็นกรณีที่มีเหตุผลและความจาเป็นอย่างอ่ืน ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน มีอานาจสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินรายนั้นไว้ช่ัวคราวจนกว่าจะมีการวินิจฉัยว่าทรัพย์สินใดเป็นทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด ทั้งน้ี ไม่ตัดสิทธิผู้ถูกตรวจสอบหรือ ผูซ้ ่งึ อา้ งวา่ เป็นเจา้ ของทรพั ยส์ ินท่ีจะยนื่ คารอ้ งขอผ่อนผันเพื่อขอรบั ทรพั ย์สินนน้ั ไปใชป้ ระโยชนโ์ ดยไม่มปี ระกนั หรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกันก็ได้ และในกรณีที่มีความจาเป็นเร่งด่วน ให้นาความ ในมาตรา ๖๘ วรรคสอง มาใช้บงั คับด้วยโดยอนุโลม เม่ือมีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวแล้ว ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินจัดให้มี การพิสูจน์ตามวรรคหนึ่งโดยเร็ว และในกรณีท่ีผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซ่ึงอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สิน สามารถพิสจู น์ตามวรรคหนึ่งได้ ก็ให้คืนทรพั ย์สินให้แกผ่ ู้น้นั แต่ถ้าไม่สามารถพิสูจนไ์ ด้ ให้ถือว่าการยดึ หรอื อายัดตามวรรคสองเปน็ การยึดหรอื อายัดตามวรรคหนง่ึ การยื่นคาร้องขอผ่อนผันตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข ที่รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยตุ ธิ รรมกาหนดในกฎกระทรวง เพือ่ ประโยชนต์ ามมาตราน้ี คาวา่ “ทรพั ยส์ ิน” ให้หมายความรวมถงึ (๑) ทรัพย์สินที่เปล่ียนสภาพไป สิทธิเรียกร้อง ผลประโยชน์ และดอกผลจากทรัพย์สิน ดังกลา่ ว (๒) หน้ีทีบ่ คุ คลภายนอกถึงกาหนดชาระแกผ่ ตู้ ้องหา (๓) ทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเน่ืองกับการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติดของผู้ต้องหา ที่ได้ขาย จาหน่าย โอน หรือยักย้ายไปเสียในระหว่างระยะเวลาสิบปีก่อนมีคาสั่งยึดหรืออายัด และ ภายหลังน้ัน เว้นแต่ผู้รับโอนหรือผู้รับประโยชน์จะพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินได้ว่า การโอนหรือการกระทานนั้ ได้กระทาไปโดยสุจรติ และมคี ่าตอบแทน มาตรา ๗๔ เม่ือคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. แล้วแต่กรณี ได้มีคาส่ังใหย้ ึดหรอื อายัดทรัพย์สินใดแล้ว ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ไดร้ ับมอบหมายดาเนินการยึดหรอื อายดั ทรัพย์สินและประเมินราคาทรพั ยส์ นิ นั้นโดยเรว็ แล้วรายงานให้ทราบ

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๔๕ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา การยึดหรืออายัดทรัพย์สินและการประเมินราคาทรัพย์สินท่ียึดหรืออายัดไว้ให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกาหนดในกฎกระทรวง ทั้งน้ี ใหน้ าประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความแพ่งเกี่ยวกบั การยดึ หรืออายัดทรพั ย์มาใช้บังคบั ดว้ ยโดยอนุโลม มาตรา ๗๕ การเก็บรักษาทรัพย์สินท่ีคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. แล้วแต่กรณี ได้มีคาสั่งให้ยึดหรืออายัดไว้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการตรวจสอบ ทรพั ยส์ นิ กาหนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ในกรณที ีท่ รพั ย์สินตามวรรคหนึง่ ไม่เหมาะสมทีจ่ ะเกบ็ รกั ษาไว้หรือหากเกบ็ รกั ษาไว้จะเป็นภาระ แก่ทางราชการมากกว่าการนาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เลขาธิการ ป.ป.ส. อาจสั่งให้นาทรัพย์สินน้ัน ออกขายทอดตลาดหรือไปใช้เพ่ือประโยชน์ของทางราชการแล้วรายงานให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ทราบกไ็ ด้ การนาทรัพย์สินออกขายทอดตลาดหรือการนาทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบท่ีคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลัง ถ้าความปรากฏในภายหลังว่าทรัพย์สินที่นาไปใช้ตามวรรคสองมิใช่ทรัพย์สินท่ีเก่ียวเน่ืองกับ การกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ให้คืนทรัพย์สินนั้นพร้อมท้ังชดใช้ค่าเสียหายและ ค่าเส่ือมสภาพตามจานวนที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินกาหนด โดยใช้จากเงินกองทุนให้แก่ เจ้าของหรือผู้ครอบครอง ถ้าไม่อาจคืนทรัพย์สินได้ ให้ชดใช้ราคาทรัพย์สินนั้นตามราคาท่ีประเมินได้ ในวันท่ียึดหรืออายัดทรัพย์สินหรอื ตามราคาทีไ่ ดจ้ ากการขายทอดตลาดทรัพยส์ นิ นัน้ แลว้ แตก่ รณี การประเมินค่าเสียหายและค่าเสื่อมสภาพตามวรรคสี่ ให้เป็นไปตามระเบียบท่ีคณะกรรมการ ตรวจสอบทรพั ย์สนิ กาหนดโดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๗๖ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและสั่งตรวจสอบทรัพย์สิน หรือยึดหรืออายัด ทรพั ยส์ ินตามหมวดนี้ ให้กรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน อนุกรรมการ เลขาธิการ ป.ป.ส. รองเลขาธกิ าร ป.ป.ส. และเจ้าพนกั งาน ป.ป.ส. ผไู้ ดร้ บั มอบหมาย มอี านาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการ องค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจมาเพื่อให้ถ้อยคา ส่งคาชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งบัญชีเอกสารหรือหลักฐานใด มาเพือ่ ตรวจสอบหรอื เพอื่ ประกอบการพิจารณา

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๔๖ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา (๒) มหี นงั สอื สอบถามหรือเรียกบคุ คลใดซ่งึ เกย่ี วข้องมาเพอื่ ใหถ้ ้อยคา สง่ คาชแี้ จงเปน็ หนงั สอื หรือส่งบัญชีเอกสารหรือหลักฐานใดมาเพ่ือตรวจสอบ หรือเพ่ือประกอบการพิจารณา ทั้งน้ี รวมถึง การตรวจสอบขอ้ มูลจากธนาคาร ตลาดหลกั ทรพั ย์ และสถาบนั การเงนิ ดว้ ย (๓) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ หรือยานพาหนะใดท่ีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทา ความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด หรือมีทรัพย์สินตามมาตรา ๗๓ ซุกซ่อนอยู่ เพื่อทาการตรวจค้น หรือเพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบ ยึด หรืออายัดทรัพย์สินในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตย์ข้ึนถึง พระอาทิตยต์ ก ในกรณีทมี่ ีเหตุอันควรเชื่อไดว้ า่ หากไมด่ าเนินการดงั กล่าวในทนั ทีทรัพย์สินน้นั จะถูกยักย้าย กใ็ หม้ อี านาจเขา้ ไปในเวลากลางคืน ในกรณีตาม (๓) ประธานกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ประธานอนุกรรมการตรวจสอบ ทรัพย์สิน หรือเลขาธิการ ป.ป.ส. จะมอบหมายให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ปฏิบัติการแทน แล้วรายงาน ใหท้ ราบกไ็ ด้ ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผูไ้ ดร้ บั มอบหมายตามวรรคสองตอ้ งแสดงเอกสาร มอบหมายต่อบคุ คลซงึ่ เกย่ี วข้องทุกครง้ั มาตรา ๗๗ เม่อื พนักงานอยั การมคี าส่งั ฟอ้ งและคณะกรรมการตรวจสอบทรัพยส์ นิ วนิ จิ ฉัยว่า ทรัพย์สินใดเป็นทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติด ให้พนักงาน อัยการย่ืนคาร้องเพ่ือขอให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินนั้น โดยจะย่ืนคาร้องไปพร้อมกับคาฟ้องหรอื ในเวลาใด ๆ ภายในหนึง่ ปนี บั แตว่ นั ที่ศาลมคี าพพิ ากษาถงึ ท่ีสดุ ในกรณีที่พบวา่ มีทรพั ยส์ ินที่เกี่ยวเน่ืองกบั การกระทาความผดิ รา้ ยแรงเก่ียวกบั ยาเสพติดเพม่ิ ข้ึนอีก ใหย้ ืน่ คารอ้ งเพอื่ ขอให้ศาลสง่ั ริบทรพั ย์สนิ น้นั ภายในหน่ึงปีนับแตว่ ันที่ศาลมีคาพพิ ากษาถึงท่ีสดุ ในกรณีทไี่ ม่อาจดาเนินคดไี ดเ้ พราะไม่อาจจับตวั ผู้ต้องหาหรือจาเลยไดห้ รอื เพราะเหตทุ ผ่ี ูต้ ้องหา หรือจาเลยรายใดถึงแก่ความตาย หรือพนักงานอัยการมีคาสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ให้พนักงานอัยการ ยื่นคาร้องต่อศาลท่ีมีเขตอานาจเพื่อขอให้ศาลส่ังริบทรัพย์สินน้ันภายในหนึ่งปีนับแต่วันท่ีคณะกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สินมีคาวินิจฉัย หรือในกรณีที่มีการยื่นคาร้องตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ศาลพิจารณา คาร้องนนั้ ต่อไปได้ตามมาตรา ๘๒ มาตรา ๗๘ เมื่อศาลส่ังรับคาร้องของพนักงานอัยการตามมาตรา ๗๗ แล้ว ให้ศาล สั่งให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มีหนังสือแจ้งผู้ซึ่งอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สินมายื่นคาร้องขอเข้ามาในคดี

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๔๗ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา ก่อนคดีถึงท่ีสุด โดยแจ้งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามท่ีอยู่ครั้งหลังสุดของผู้นั้นเท่าที่ปรากฏหลกั ฐาน ในสานวนการสอบสวน กรณีท่ีไม่อาจแจ้งตามวิธีการดังกล่าวได้ ให้วางหรือปิดหนังสือนั้นไว้ ในทซี่ ึ่งเหน็ ไดง้ ่ายตามทอ่ี ยู่ดงั กลา่ วตอ่ หนา้ พนักงานฝา่ ยปกครองหรอื ตารวจ โดยใหถ้ อื ว่าผู้นน้ั ไดร้ ับทราบ หรอื ได้รับแจ้งแล้ว ค่าใชจ้ ่ายในการแจง้ ใหจ้ า่ ยจากเงินของกองทนุ มาตรา ๗๙ ให้ศาลไต่สวนคาร้องที่พนักงานอัยการได้ย่ืนต่อศาลตามมาตรา ๗๗ หากคดี มีมูลว่าเป็นทรัพย์สินท่ีเก่ียวเน่ืองกบั การกระทาความผิดรา้ ยแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ศาลส่ังริบทรัพยส์ นิ น้ัน เว้นแต่บุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ย่ืนคาร้องขอคืนทรัพย์สินดังกล่าวก่อนคดีถึงท่ีสุดและ แสดงใหศ้ าลเห็นวา่ (๑) ตนเป็นเจ้าของที่แท้จริงและทรัพย์สินน้ันไม่ได้เก่ียวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรง เก่ียวกบั ยาเสพติด หรือ (๒) ตนเป็นผู้รับโอนหรือผู้รับประโยชน์และได้ทรัพย์สินนั้นมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน หรอื ไดม้ าตามสมควรในทางศีลธรรมอนั ดีหรือในทางกุศลสาธารณะ เพ่อื ประโยชนแ์ ห่งมาตรานี้ ถา้ ปรากฏหลักฐานวา่ จาเลยหรือผูถ้ ูกตรวจสอบเปน็ ผูเ้ ก่ยี วขอ้ งหรือ เคยเกีย่ วข้องกับการกระทาความผดิ ร้ายแรงเกีย่ วกบั ยาเสพติดมากอ่ น ใหส้ นั นิษฐานไวก้ อ่ นว่าบรรดาเงนิ หรือทรัพย์สินท่ีผู้นั้นมีอยู่หรือได้มาเกินกว่าฐานะ หรือความสามารถในการประกอบอาชีพหรือกิจกรรม อยา่ งอ่ืนโดยสุจริต เปน็ ทรพั ย์สนิ ที่เกย่ี วเน่อื งกับการกระทาความผิดร้ายแรงเกย่ี วกับยาเสพติด กรณีที่ศาลไต่สวนแล้วมีมูลว่าทรัพย์สินรายการใดเป็นทรัพย์สินที่เก่ียวเน่ืองกับการกระทา ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และศาลมีคาส่ังว่าทรัพย์สินรายการนนั้ เป็นทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเนื่องกบั การกระทาความผดิ รา้ ยแรงเกยี่ วกับยาเสพติด แต่ไม่สามารถบงั คบั คดเี อาแก่ทรัพยส์ นิ นนั้ ได้ ให้พนักงาน อัยการย่ืนคาร้องต่อศาลเพื่อบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของจาเลยหรือผู้ถูกตรวจสอบได้ภายในสิบปี นับแต่วนั ทีศ่ าลมคี าสั่ง แตต่ อ้ งไม่เกนิ มลู คา่ ของทรพั ย์สนิ น้ัน มาตรา ๘๐ ในกรณีท่ีผู้ขอคืนทรัพย์สินตามมาตรา ๗๙ วรรคหนึ่ง ไม่ทราบว่าพนักงาน อัยการได้มีคาร้องขอให้ศาลริบทรัพย์สิน จนศาลได้มีคาส่ังให้ริบทรัพย์สินนั้นแล้ว ผู้ขอคืนทรัพย์สิน ดังกลา่ วอาจยื่นคารอ้ งขอคืนทรัพย์สินต่อศาลได้ภายในเวลาหน่งึ ปนี ับแตว่ ันทศี่ าลมคี าสั่งให้ริบทรพั ย์สิน มาตรา ๘๑ ทรัพย์สินทศ่ี าลมคี าสั่งให้ริบตามมาตรา ๗๙ วรรคหนงึ่ ใหต้ กเปน็ ของกองทุน

เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๗๓ ก หน้า ๔๘ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๘๒ ในกรณีที่พนักงานอัยการมีคาส่ังเดด็ ขาดไมฟ่ ้องคดผี ู้ต้องหาหรือศาลมีคาพิพากษา ถึงทสี่ ดุ ให้ยกฟอ้ งจาเลยรายใดให้ศาลไต่สวนคาร้องของพนักงานอัยการท่ขี อใหศ้ าลส่งั ริบทรัพย์สินที่ได้ย่ืนไว้ ตามมาตรา ๗๗ นั้นต่อไปได้ หากปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินในคดีน้ันเป็นทรัพย์สิน ทเ่ี ก่ยี วเน่อื งกับการกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ทรัพย์สินที่ไม่ปรากฏตัวเจ้าของที่ได้ยึดหรืออายัดไว้เน่ืองจากการกระทาความผิดของผู้ต้องหา หรือจาเลยรายน้ัน ถ้าไม่มีผู้ใดมาขอรับคืนภายในห้าปีนับแต่วันท่ีมีคาส่ังเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือ มคี าพพิ ากษาถงึ ท่ีสดุ ใหย้ กฟอ้ ง ให้ตกเป็นของกองทุน การขอรับทรัพย์สินคืนและการคืนทรัพย์สิน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยตุ ิธรรมกาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๘๓ ในกรณีท่ีต้องคืนทรัพย์สินอย่างอ่ืนนอกจากเงินให้แก่เจ้าของแต่ไม่อาจคืนได้ ใหใ้ ช้ราคาทรพั ย์สินแทนจากกองทุนตามราคาท่ปี ระเมนิ ไดใ้ นวันยึดหรืออายัดทรพั ย์สนิ หมวด ๓ มาตรการตรวจสอบทรพั ย์สนิ ตามมลู คา่ มาตรา ๘๔ ในกรณีท่ีคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพิจารณาพยานหลักฐานที่ได้จาก การตรวจสอบแล้ววินิจฉัยว่าผู้ถูกตรวจสอบได้รับทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรง เกย่ี วกับยาเสพติด ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สนิ คานวณมูลค่าของทรัพย์สินดังกล่าวเป็นจานวนเงิน ที่แน่นอน พร้อมส่งสานวนการตรวจสอบทรัพย์สิน เอกสาร และพยานหลักฐานไปยังพนักงานอัยการ ใหพ้ นักงานอัยการย่ืนคารอ้ งเพื่อขอใหศ้ าลส่ังริบมูลค่าของทรพั ย์สนิ น้นั การขอให้ศาลส่ังริบมูลค่าของทรัพย์สินและการไต่สวนคาร้องของพนักงานอัยการ ให้นา ความในมาตรา ๗๗ มาตรา ๗๙ วรรคหนึ่งและวรรคสอง และมาตรา ๘๒ มาใชบ้ งั คับด้วยโดยอนุโลม มาตรา ๘๕ กรณีท่ีศาลไต่สวนแล้วมีมูลว่ามูลค่าของทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเนื่องกับการกระทา ความผิดร้ายแรงเก่ียวกับยาเสพติดท่ีศาลสั่งริบนั้นไม่สามารถติดตามหรือตรวจสอบหาทรัพย์สิน ท่ีเก่ียวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดตามมูลค่าดังกล่าวได้ ให้พนักงานอัยการ ย่ืนคาร้องต่อศาลเพ่ือบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของจาเลยหรือผู้ถูกตรวจสอบได้ภายในสิบปีนับแต่ วนั ท่ศี าลมคี าสัง่ แต่ตอ้ งไม่เกนิ มลู คา่ ของทรัพย์สนิ ทศ่ี าลสัง่ รบิ นั้น

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๔๙ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ในกรณที ต่ี ้องมีการบงั คับคดกี บั ทรพั ย์สินตามวรรคหนงึ่ ใหถ้ อื วา่ สานกั งาน ป.ป.ส. เป็นเจา้ หนี้ ตามคาพิพากษา และให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ท่ีได้รับมอบหมายจากสานักงาน ป.ป.ส. มีหน้าที่ สืบหาทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องของจาเลยหรือผู้ถูกตรวจสอบ เพื่อบังคับคดีให้เป็นไปตามคาส่ังศาล โดยคาแนะนาของพนกั งานอัยการ การขอคนื มลู ค่าของทรพั ย์สิน ให้นาความในมาตรา ๘๐ มาใช้บังคับดว้ ยโดยอนโุ ลม มาตรา ๘๖ ทรัพย์สินท่ีได้จากการบงั คับคดีตามมาตรา ๘๕ ใหต้ กเป็นของกองทุน หมวด ๔ กองทุนป้องกนั ปราบปราม และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด มาตรา ๘๗ ใหจ้ ดั ต้ังกองทุนป้องกนั ปราบปราม และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ขน้ึ ในสานกั งาน ป.ป.ส. มวี ตั ถุประสงค์เพอ่ื ประโยชนใ์ นการปอ้ งกัน ปราบปราม และแก้ไขปญั หายาเสพตดิ โดยมหี นา้ ที่ และอานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) สง่ เสริมและสนับสนนุ การปอ้ งกนั ปราบปราม บาบดั รกั ษา ฟืน้ ฟูสมรรถภาพ และฟนื้ ฟู สภาพทางสังคมผูต้ ดิ ยาเสพติด และตดิ ตามชว่ ยเหลือผผู้ ่านการบาบัดรักษา (๒) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการศึกษา วิจัย ทดสอบ ทดลอง ฝึกอบรม ประชุม หรือ สัมมนาเก่ียวกับการป้องกัน ปราบปราม บาบัดรักษา ฟ้ืนฟูสมรรถภาพ และฟ้ืนฟูสภาพทางสังคม ผตู้ ิดยาเสพติด (๓) ส่งเสริมและสนบั สนุนให้มีผ้เู ชี่ยวชาญซงึ่ มคี วามรหู้ รอื ความเช่ียวชาญในด้านตา่ ง ๆ ทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ เพ่ือทาหน้าที่ให้คาปรึกษา แนะนา ฝึกอบรม ประชุม หรือสัมมนาเก่ียวกบั การป้องกนั ปราบปราม บาบัดรักษา ฟ้ืนฟสู มรรถภาพ และฟ้นื ฟูสภาพทางสงั คมผูต้ ดิ ยาเสพติด (๔) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการให้บริการหรือจัดกิจกรรมอันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ การป้องกัน ปราบปราม บาบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และฟ้ืนฟูสภาพทางสังคมผู้ติดยาเสพติด ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาผู้ติดยาเสพติด ผู้เข้ารับการบาบัดฟื้นฟู และผู้ผ่านการบาบัดฟ้ืนฟู ให้สามารถดารงชวี ิตในสังคมได้

เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๕๐ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๕) ส่งเสริมและสนับสนุนการประสานงานระหว่างหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องหรือมสี ่วนช่วยเหลอื หรือสนับสนุนการป้องกัน ปราบปราม บาบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และฟ้ืนฟูสภาพทางสังคม ผู้ตดิ ยาเสพติด ทงั้ ในประเทศและระดบั ต่างประเทศ (๖) เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการป้องกัน ปราบปราม บาบัดรักษา ฟ้ืนฟูสมรรถภาพ และฟื้นฟูสภาพทางสังคมผูต้ ิดยาเสพติด (๗) กิจการอื่นท่ีจาเป็นเพ่ือประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามประมวลกฎหมายน้ี บุคคลหรือหน่วยงานท่ีได้รับการสนับสนุนเงินในลักษณะเดียวกันจากกองทุนหมุนเวยี นอ่ืนแล้ว ไม่มสี ทิ ธขิ อรับเงนิ สนับสนุนจากกองทนุ น้ี มาตรา ๘๘ กองทุนประกอบดว้ ยเงนิ และทรพั ยส์ ิน ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) เงินและทรัพย์สินท่ีโอนมาจากกองทุนป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ตามพระราชบัญญตั ิ มาตรการในการปราบปรามผูก้ ระทาความผดิ เก่ียวกบั ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ (๒) ทรัพย์สนิ ท่ีตกเป็นของกองทนุ ตามมาตรา ๘๑ มาตรา ๘๒ มาตรา ๘๖ และมาตรา ๑๘๖ (๓) เงนิ และทรพั ย์สินที่ไดจ้ ากการบริจาค (๔) เงนิ และทรัพย์สนิ ทไ่ี ดร้ ับจากรัฐบาล (๕) ผลประโยชนท์ ่เี กิดจากทรัพย์สนิ ตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) เงินและทรพั ย์สนิ ของกองทนุ ตามวรรคหนึ่ง ไมต่ ้องสง่ คลงั เป็นรายไดแ้ ผ่นดิน มาตรา ๘๙ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. วางระเบียบเก่ียวกับการบริหารและการดาเนินการ ของกองทนุ ในเรือ่ ง ดงั ต่อไปน้ี (๑) การแต่งตั้ง การพ้นจากตาแหน่ง และหน้าที่และอานาจของคณะอนุกรรมการและ การบริหารจดั การกองทุนตามกฎหมายว่าดว้ ยการบริหารทุนหมนุ เวียน (๒) การจัดหาผลประโยชน์ การจัดการ และการจาหนา่ ยทรพั ย์สินของกองทนุ (๓) การรับเงิน การจา่ ยเงนิ และการเก็บรกั ษาเงนิ ของกองทนุ (๔) ค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนอ่ืนใดซ่ึงจาเป็นตอ้ งจ่ายแก่หนว่ ยงาน บุคคลภายนอก พนักงาน เจา้ หนา้ ท่ี เจา้ พนกั งาน ป.ป.ส. ขา้ ราชการ หรือเจ้าหนา้ ทใ่ี นการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ช่วยเหลอื หรอื สนบั สนนุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook