เร่ืองดินสอพอง ผูจ้ ดั ทำ นำยอยั กำร พุม่ พฤกษ์ 63301010021 นำยปรเมษ เครือครุ่ย 63301010006 นำยปิ ยะชยั จำปำทิพย์ 63301010008 นำยธนำกร สุขทวีสถติ ยก์ ลุ 63301010003 นำยภำณุ สุขเทพ 63301010011 เอกสำรฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ประกอบกำรเรียนรำยวชิ ำชีวิตกบั สงั คมไทย วทิ ยำลยั เทคนิคลพบุรี สังกดั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ ภำคเรียนท่ี 2 ปี กำรศึกษำ 2563
เร่ืองดินสอพอง ผจู้ ดั ทำ นำยอยั กำร พมุ่ พฤกษ์ 63301010021 นำยปรเมษ เครือครุ่ย 63301010006 นำยปิ ยะชยั จำปำทิพย์ 63301010008 นำยธนำกร สุขทวสี ถิตยก์ ลุ 63301010003 นำยภำณุ สุขเทพ 63301010011 เอกสำรฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของกำรศึกษำคน้ ควำ้ ประกอบกำรเรียนรำยวิชำชีวิตกบั สังคมไทย วิทยำลยั เทคนิคลพบรุ ี สังกดั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ ภำคเรียนที่ 2 ปี กำรศกึ ษำ 2563
ชื่อเรื่อง : ดินสอพอง ผจู้ ดั ทำ : นำยอยั กำร พุม่ พฤกษ์ นำยปรเมษ เครือครุ่ย นำยปิ ยะชยั จำปำทพิ ย์ นำยธนำกร สุขทวีสถติ ยก์ ุล นำยภำณุ สุขเทพ ทปี่ รึกษำ : ครูทีป่ รึกษำศริ ิโสภำ วิศิษฏว์ ฒั นะ ปี กำรศึกษำ : 2563 บทคัดย่อ เรื่องดินสอพอง เพ่ือควำมจุดมุง่ หมำยทศี่ ึกษำกำรทำดนิ สอพองวธิ ีข้นั ตอนในกำรทำดนิ สอพอง เพื่อใหร้ ู้ว่ำชำวบำ้ นทท่ี ำดนิ สอพองข้ึนมำน้นั ทำอยำ่ งไรโดยจะแบ่งเป็นข้นั ตอนในกำรทำทีละข้นั ตอน ต้งั แตก่ ำรฉีดน้ำใส่ดินมำลจำกน้นั สูบน้ำกบั ดนิ มำลม์ ำใส่บ่อพกั ให้ตกตะกอนแลว้ ตกั ดินทตี่ กตะกอนเอำ มำใส่แม่พิมพต์ ำ่ งแลว้ มำตำกแดดใหแ้ หง้ เป็นตน้ และละยะเวลำในกำรสืบคน้ ขอ้ มลู ประมำณ 3 สปั ดำห์ บทสรุปทำให้รูว้ ำ่ ทชี่ ำวบำ้ นทีย่ งั ทำดนิ สอพองอยนู่ ้นั เพื่อรักษำภูมปิ ัญญำให้คงอยู่และยงั เป็นอำชีพใหแ้ ก่ ลุกหลำนไดอ้ กี ดว้ ยประโยชนข์ องดนิ สอพองยงั มำทำทม่ี ำคร์ ไขเ่ ค็มดนิ สอพอง ครีมดนิ สอพองและอื่นๆ แหล่งท่ีสืบคน้ จำกทำงอนิ เทอร์เนต็ ท้งั หมด
กติ ตกิ รรมประกาศ คำขอบคณุ ผชู้ ่วยเหลือตำ่ งๆ
สารบัญ หน้า ค เร่ือง ง บทคดั ย่อ จ กิตตกิ รรมประกำศ ซ สำรบญั สำรบญั ภำพ บทที่ 1 บทนำ 1. 1 ควำมเป็นมำ 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.3 ขอบเขต 1.4 ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั บทที่ 2 ทฤษฎที ่ีเก่ยี วขอ้ ง 2.1 2.2 2.3 2.4 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนินงำน 3.1 กำรขนดนิ มำร์ลใส่บอ่ กำก 3.2 ทิ้งดินให้ตกตะกอนใตบ้ ่อ 3.3 นำดนิ สอพองใส่แม่พมิ พ์ 3.4 นำดนิ สอพองไปตำกให้แหง้ บทท่ี 4 ผลกำรศึกษำคน้ ควำ้ 4.1 4.2 4.3
สารบญั (ต่อ) บทที่ 5 สรุปผล อภปิ ลำยและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรุปผล 5.2 ปัญหำและอุปสรรคในกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ แหลง่ ขอ้ มูลทีส่ ืบคน้ ภำคผนวก ก. ภำคผนวก ข. ประวตั ิผศู้ กึ ษำ
สารบญั ภาพ หนำ้ ภำพที่ 3-1 ฉีดน้ำใส่กองดินมำร์ล ภำพที่3-2 ท้งิ ดินให้ตกตะกอนใตบ้ อ่ ภำพท่ี3-3 นำดินสอพองใส่แมพ่ ิมพแ์ ลว้ นำไปตำก ภำพท่ี 3-4 ตำกดินสอพองให้แห้ง 2-3 วนั
บทท่ี 1 บทนา 1. ความเป็ นมา สมยั โบรำณใชเ้ ป็นเครื่องประทนิ ผวิ ทำตวั เดก็ แกผ้ ืน่ คนั ใชท้ ำพ้ืนทลี่ งรกั ใหเ้ หน็ ลำยชดั เจน ดนิ สอพองทใี่ ชท้ ำยำจะนำไปสะตุ โดยอบในหมอ้ ดนิ จนแหง้ ดนิ สอพองสะตุใชท้ ำยำรกั ษำ แผลกำมโรค แผลเร้ือรงั คำว่ำสอในดินสอพองน้นั มำจำกภำษำเขมรแปลวำ่ ขำว ดนิ สอพองจงึ หมำยถึงดนิ สีขำวท่ไี มแ่ ขง็ ตวั 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 ศึกษำวำ่ ข้นั ตอนในกำรทำดินสอพอง 2.2 กำรทำดินสอพองตอ้ งใชเ้ วลำในกำรทำเทำ่ ไร 2.3 เพอ่ื ส่งทอดกำรทำดนิ สอพองให้ลูกหลำนเพือ่ ทำเป็นอำชีพต่อไปได้ 2.4 เพอ่ื สืบสำนภมู ิปัญญำในกำรทำดินสอพองเอำไว้ 3. ขอบเขต (ระบขุ อบเขตของงำนที่ทำ) 3.1 สถำนที่ หม่บู ำ้ นหินสองกอ้ นตำบลทะเลชบุ ศร อำเภอเมอื ง (บริเวณสะพำน 6) 3.2 ระยะเวลำ 12 มกรำคม - 29 มกรำคม 2564 3.3 ตวั แปรหรือประชำกรและกลุม่ ตวั อย่ำง(เลอื กตำมวิธีกำรศึกษำคน้ ควำ้ ) 3.1 ตวั แปรตน้ คอื ทำดนิ สอพองอยำ่ งไร 3.2 ตวั แปรตำม คอื ไปดูวิธกี ำรทำดนิ สอพองจำกอินเทอร์เนต็ 3.3 ตวั แปรควบคุม คอื กำรนำดินมำรลม์ ำทำดินสอพอง 3.1 ประชำกร คอื ชำวบำ้ นทท่ี ำดนิ สอพอง 3.2 กล่มุ ตวั อยำ่ ง คือ ชำวบำ้ นหินสองกอ้ น 4. ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ ไดร้ ู้วำ่ กำรที่เขำทำดนิ สอพองอยเู่ พรำะยงั ไม่อยำ่ งใหก้ ำรทำดินสอพองหำยจำกไปจำกภูมิปัญญำ ของคนไทยหำยจำกไปและยงั คงส่งต่ออำชีพน้ีใหแ้ ก่คนรุ่นหลงั ตอ่ ไปได้
บทที่ 2 ทฤษฎีทเ่ี ก่ยี วข้อง ในการศึกษาเรื่อง ดนิ สองพอง ผู้จัดทาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างๆจากเอกสารท่ี เก่ียวข้องดงั ต่อไปนี้ 2.1 ความรู้เก่ยี วกบั โครงการท่ีทา 2.2 ทฤษฎที ี่เกยี่ วข้อง 2.3 ประวตั ทิ ่ีปรึกษาโครงการ 2.1 ความรู้เกีย่ วกบั โครงการท่ที า • ดินสอพองมีฤทธ์ิเป็นด่ำงสำมำรถใชฆ้ ำ่ เช้ือและลดกำรอกั เสบของผวิ ได้ จึงนิยมนำมำใชร้ กั ษำสิว แกผ้ ดผน่ื และ อำกำรคนั รวมถงึ นำมำใชข้ ดั ผวิ เพ่อื ชว่ ยให้ผวิ เรำกระจำ่ งใส เนียนนุ่ม อกี ท้งั ดินสอพองยงั มี ฤทธ์ิเยน็ ไมท่ ำให้ร่ำงกำยเหนียวเหนอะหนะแลว้ ยงั ช่วยลดควำมรอ้ นหรืออณุ หภมู ขิ องผิวไดจ้ งึ นิยมนำมำใช้ ผสมน้ำปะพรมกนั ในวนั สงกรำนต์ การแบ่งประเภทของดินสอพอง • ดนิ สอพอง หรือ มาร์ล เป็นเป็นผงแร่ท่ไี ดจ้ ำกธรรมชำติ มลี กั ษณะเป็นกอ้ นหรือผงสีขำว สีขำวขนุ่ ขำวออก เหลอื งข้นึ อยกู่ บั องคป์ ระกอบ นิยมนำมำใชส้ ำหรบั ร่ำงกำยในดำ้ นควำมสวยควำมงำม และมีใชใ้ นภำค ครวั เรือน และอตุ สำหกรรมบำงส่วน • ดินสอพองมีองค์ประกอบหลกั เป็ นแคลเซียมคาร์บอเนต หรือเรียกว่ำ หินปนู เน้ือดนิ รวมถึงส่วนประกอบ อนื่ ๆ เชน่ แมกนีเซียม แคลเซียม ซิลกิ ำ เหลก็ และอำรำโกไนต์ เป็นตน้ สำมำรถพบไดใ้ นช้นั ดนิ ท่ีมกี ลมุ่ ของ หินปูนเน้ือดินซ่ึงจะพบอตั รำส่วนของแคลเซียมคำร์บอเนตมำกกวำ่ แร่ดินเหนียว ลกั ษณะของกลุ่มดนิ สอ พองทีพ่ บในช้นั ดนิ จะมีลกั ษณะเป็นกลุ่มดินสีขำวข่นุ แทรกตวั อยใู่ นช้นั ดนิ
ประโยชน์ของดินสอพอง • ใชส้ ำหรับเป็นส่วนผสมสำหรับประเทอื งผวิ และในดำ้ นควำมสวยควำมงำมต่ำงๆ • ใชเ้ ป็นสำรปรับปรุงดิน เน่ืองจำกมีส่วนประกอบของแคลเซียมคำร์บอเนตเป็นส่วนใหญท่ ีใ่ หค้ วำมเป็นด่ำง ไดด้ ีสำหรับปรบั สภำพดนิ ท่เี ป็นกรด และสำหรบั กำรฆ่ำเช้อื ในดนิ นอกจำกน้นั ยงั มีส่วนประกอบของแร่ ธำตุอนื่ ๆ เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดยี มทีอ่ ยูใ่ นรูปสำรประกอบต่ำงๆ สำมำรถเป็นแร่ ธำตุอำหำรให้แก่พืชได้ • ใชส้ ำหรับกำรปรับควำมเป็นกรด-ด่ำง ของน้ำ ทำใหน้ ้ำมสี ภำพเป็นด่ำงมำกข้ึน เชน่ กระบวนกำรบำบดั น้ำ เสีย หรือ เตมิ ปรบั สภำพน้ำในแหลง่ น้ำขงั ตำมบำ้ น ฟำร์ม แปลงเกษตร เป็นตน้ •ใชส้ ำหรบั กำรฆำ่ เช้ือในดนิ ฆ่ำเช้ือในแหลง่ น้ำ เช่น ใชโ้ รยฆำ่ เช้ือบริเวณฟำร์มหรือคอกปศุสตั ว์ เป็นตน้ • ใชใ้ นงำนไม้ งำนกอ่ สร้ำง เช่น กำรรองพ้นื กอ่ นทำสี กำรปะปิ ดร่องหรือรูไม้ รูผนงั ปูน เป็นตน้ • ใชใ้ นอตุ สำหกรรมต่ำงๆ อำทิ – อตุ สำหกรรมผลิตปูน เช่น เป็นส่วนผสมของกำรผลิตปูนซีเมนตป์ อร์ตแลนด์ ปนู ซีเมนตข์ ำว – อตุ สำหกรรมแปรรูปไม้ เชน่ ใชข้ ดั ผวิ ไม้ ขดั เฟอร์นิเจอร์ – อตุ สำหกรรมข้ึนรูปโลหะ เชน่ ใชข้ ดั ทำควำมสะอำดผลติ ภณั ฑท์ อง ทองแดง เงนิ นำค อะลูผลิตภณั ฑ์ โลหะอ่ืนๆ
วสั ดกุ ารในการทาดินสอพอง ข้นั แรก คอื กำรหำแหล่งบอ่ ดนิ สอพอง และขุดตกั มำกองบริเวณบ่อแยกกำกหรือบ่อกำก เพื่อแยก ส่วนประกอบอยำ่ งอนื่ ออก เชน่ เศษหิน เศษไม้ เป็นตน้ ดว้ ยกำรใส่ดินสอพองลงในบอ่ และเตมิ น้ำให้ทว่ ม พร้อมเดนิ ยำ่ บอ่ ให้ดนิ ละลำย ส่วนทเี่ ป็นดินสอพองจะแขวนลอยอยู่ดำ้ นบน ส่วนท่ีเป็นเศษหินหรือดนิ จะ นอนตกตะกอนลงส่วนล่ำง ข้นั ท่สี อง ตกั หรือดดู น้ำจำกบอ่ เน้ือลงในบ่อตกตะกอนหรือบ่อทำแผ่น โดยทงิ้ ไว้ 1 คนื เพอื่ ดนิ สอพอง ตกตะกอน หลงั จำกน้นั ทำตกั น้ำส่วนดำ้ นบนออกจนเหลือแต่ตะกอนดนิ สอพองที่มีลกั ษณะเป็นโลนเหลว อยดู่ ำ้ นล่ำง ข้นั ท่ีสำม ทำกำรตกั โคลนดนิ สอพองใส่ในแมพ่ ิมพห์ รือป้ันเป็นกอ้ นวำงตำกบนลำนตำกท่ีปรู องพ้ืนดว้ ย ผำ้ ใบเพ่ือดดู ซบั น้ำ ท้ิงไวป้ ระมำณ 2-5 ชวั่ โมง กอ้ นดินสอพองจะหมำดเกำะกนั เป็นกอ้ นจนสำมำรถหยิบจบั ได้ แลว้ จึงนำมำตำกบนตะแกรงไมไ้ ผ่ตอ่ ประมำณ 2-3 วนั ก็จะเป็นกอ้ นแหง้ สนิท ข้อแนะนา – กำรใชด้ ินสอพองในกำรพอกหนำ้ อำจทำให้หนำ้ ตงึ และลดควำมชุ่มช้ืนได้ เน่ืองจำกดินสอพองสำมำรถดดู ซบั ควำมช้ืนไดด้ ี และเม่ือละลำยน้ำจะมฤี ทธ์ิเป็นด่ำง โดยเฉพำะดินสอพองท่มี ลี กั ษณะเป็นผงสีขำวมำก เพรำะมีควำมบริ สุทธ์ ิของแคลเซียมคำร์บอเนตสูง – ดนิ สอพองที่ผลิตไมค่ วรใกลแ้ หล่งโลหะหนกั หรือไมค่ วรมีโลหะหนกั ปะปน เชน่ ตะกว่ั ปรอท แคดเมียม เป็ นตน้ – กำรใชด้ ินสอพองแบบผง เชน่ กำรหว่ำนโรย ควรสวมผำ้ ปิ ดจมูกทกุ คร้ังเพื่อป้องกนั กำรสูดดมเขำ้ ร่ำงกำย
2.3 ทฤษฎีทีเ่ กยี่ วข้อง • ดนิ สอพอง เมด็ แป้งสีขำวนวลรูปทรงสำมเหลย่ี มจบี ทำ้ ยกลมคลำ้ ย ๆ ขนมอลวั เป็นทีร่ ูจ้ กั และคนุ้ ตำกนั แทบทุกคน หรือจะเรียกอกี ชื่อวำ่ ดนิ มำร์ลหรื ปูนมำร์ ซ่ึงเป็นดนิ ทเ่ี กดิ จำกกำรผุพงั ของหินปนู และถูกน้ำพดั พำมำสะสมอยตู่ ำมเชิงเขำหรือบริเวณแหลง่ ท่ีลมุ่ แหล่งดนิ มำร์ลท่สี ำคญั ของประเทศไทยกระจำยอยใู่ นหลำย จงั หวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั ลพบุรี จงั หวดั สระบุรี จงั หวดั นครสวรรค์ และจงั หวดั กำญจนบรุ ี ทมี งำนสำนกั ข่ำว กรมประชำสมั พนั ธ์ ลงพ้นื ที่ บำ้ นหินสองกอ้ น ตำบลทะเลชบุ ศร อำเภอเมือง จงั หวดั ลพบรุ ี ทีแ่ ห่งน้ีมกี ำรจดั ต้งั เป็น ศนู ยก์ ำรเรียนรูด้ นิ สอพองบำ้ นหินสองกอ้ น มีกำรผลิตดนิ สอพองเพอ่ื จำหน่ำย ส่งและปลีก โดยกระบวนกำรผลิตดินสอพองจะเริ่มต้งั แตน่ ำกองดนิ มำร์ลมำละลำยกบั น้ำในบ่อกำกและ กรองดว้ ยตะแกรงท่ีละเอยี ดลงในบอ่ กรอง ตำมข้นั ตอนดงั น้ี ข้นั ตอนแรก ตอ้ งฉีดน้ำไปทก่ี องดินมำร์ลทก่ี องเตรียมไวใ้ ห้ดนิ ละลำยมำรวมท่กี น้ บ่อจนขน้ ไดท้ ่ี แลว้ สูบ ผ่ำนตะแกรงลงในบอ่ กรองหรือทเ่ี รียกกนั วำ่ บ่อเน้ือ เพื่อแยกเอำหิน กรวด หรือเศษหญำ้ ขยะตำ่ ง ๆ ออกจำก ดินมำร์ลในข้นั ตอนน้ี ข้นั ตอนท่สี อง ท้ิงดนิ มำร์ลทีก่ รองแลว้ น้นั ไวห้ น่ึงคืน ดนิ น้นั กจ็ ะตกตะกอนนอนกน้ บอ่ ดำ้ นบนจะเป็นน้ำ ใสๆ จำกน้นั ตอ้ งดดู น้ำใสๆน้นั ออกให้หมด เหลอื ไวแ้ ตแ่ ป้งดนิ มำร์ลสีขำวนวลเน้ือนิ่มเหมือนโคลนสีขำว ในข้นั ตอนน้กี ็จะเร่ิมเหน็ เป็นเน้ือดินสอพองแบบน่ิมๆแลว้ ข้นั ตอนทีส่ ำม ตกั โคลนดนิ สอพองที่ไดม้ ำหยอดดว้ ยแมพ่ มิ พท์ กี่ ดดว้ ยมอื ซ่ึงบอกเลยวำ่ ใครไม่ชำนำญกำร กดหรือ หยอดพมิ พด์ นิ สอพองน้ี ไมง่ ่ำยนกั ทมี งำนเองไดท้ ดลองหยอดดนิ สอพอง หยอดคร้ังแรกไม่สวย หยอดคร้ังทสี่ องไมต่ ้งั ยอดแถมลม้ ลงนอนอกี ดว้ ย จำกน้นั เมอื่ หยอดดนิ สอพองใหเ้ ป็นรูปเมด็ ยอดแหลมๆ ตำมลกั ษณะคนุ้ ๆ ตำของดินสอพองแลว้ กจ็ ะทง้ิ ไวใ้ หแ้ ห้งหมำดๆ พอที่จะใชม้ อื หยบิ ได้ จงึ นำดินสอพอง น้นั ไปวำงบนตะแกรงไมไ้ ผเ่ พื่อผ่ึงแดดใหแ้ ห้งสนิทอีกคร้ัง กำรตำกแดดน้ีหำกวนั ไหนแดดจดั ตำกเพียง 1 วนั กจ็ ะแห้งสนิท แตห่ ำกดนิ สอพองยงั ไม่แห้งสนิทก็ตอ้ งตำกตอ่ ไป 2-3 วนั จนกว่ำจะแหง้ สนิท จึงเก็บและ บรรจุจำหน่ำยตอ่ ไป ปัจจุบนั ดนิ สอพองทลี่ พบุรีจำหน่ำยท้งั แบบขำยส่งปริมำณมำกใหโ้ รงงำนอตุ สำหกรรมเพอื่ นำไปใชเ้ ป็นผง ขดั เฟอร์นิเจอร์และผงโลหะตำ่ งๆ เช่น ทอง เงิน นำก รวมถงึ ขดั กระจกเงำ ซ่ึงในกำรขำยให้ภำคอตุ สำหกรรม น้ีผผู้ ลติ ดนิ สอพองจะผลติ ดนิ สอพองเป็นกอ้ นขนำดใหญ่ลกั ษณะแบนๆ กลม ๆ เส้นผ่ำนศูนยก์ ลำงประมำณ 20 เซ็นตเิ มตร ในรำคำที่ไมส่ ูงมำกนกั กโิ ลกรมั ละประมำณ 1-3 บำท
ดนิ สองพอง ยงั มีอีกสำรพดั ประโยชน์ ท้งั สำมำรถนำไปทำผวิ เพ่อื ขจดั ผดผน่ื คนั เป็นเครื่องประทนิ ผวิ โดย นำไปผสมกบั สมนุ ไพรทำตรงรอยปูด บวม จะชว่ ยลดอำกำรปวดลงได้ ทบี่ วมโนก็จะยบุ หำยไป หรือถำ้ ใคร เป็นสิวขอแนะนำสูตร ดนิ สองพองละลำยกบั น้ำขน้ แลว้ แตม้ ทิง้ ไวท้ ่ีหวั สิวขำ้ มคนื รุ่งเชำ้ สิวก็จะฝ่อยุบไป และหำกสิวน้นั ทิ้งรอยแผลไวอ้ ีก ก็ใชด้ นิ สองพองเชน่ เดิมแต่เปลี่ยนเป็นน้ำมะนำวมำผสมละลำยขน้ ๆแลว้ แตม้ ทกุ วนั พอแห้งแลว้ ลำ้ งออก รอยแผลกจ็ ะจำงลงเร็วย่ิงข้นึ สำหรบั ช่ำงงำนฝีมอื จะนำดินสอพองไปย่ำงไฟ ออ่ นๆ แลว้ นำมำบดใหล้ ะเอียด แลว้ ห่อผำ้ ทำเป็นลกู ประคบเอำไวต้ บลำยบนพ้นื ทจี่ ะลงรกั สีดำเพือ่ ให้เหน็ ลำยชดั เจนข้ึน ดว้ ยประโยชน์และคณุ สมบตั ขิ องดินสอพองทีม่ ำกมำย แตม่ ูลคำ่ ไม่สูง จงึ เกดิ เป็นแนวคดิ ของสถำนศกึ ษำใน จงั หวดั ลพบุรี นำโดยรองศำสตรำจำรย์ ดร.นนั ทนำ แจง้ สุวรรณ์ อธิกำรบดี มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั เทพสตรี จงั หวดั ลพบุรีและคณะ ผอู้ ำนวยกำรแผนงำน ชดุ โครงกำร กำรวจิ ยั และพฒั นำผลติ ภณั ฑจ์ ำกดินสอพอง เพื่อ ถำ่ ยทอดเทคโลยีกำรผลิตและสรำ้ งเครือข่ำยผปู้ ระกอบกำร โดยไดร้ ับกำรสนบั สนุนทุนวจิ ยั และพฒั นำจำก หน่วยงำนดำ้ นกำรวจิ ยั หลำยหนว่ ยงำน จนสำมำรถพฒั นำดนิ สอพองเม็ดสำเร็จรูปรำคำไมก่ ส่ี ิบบำทต่อหน่ึง ถุง ใหเ้ กดิ เป็นผลิตภณั ฑ์ เครื่องสำอำงที่มีมลู คำ่ มำกข้นึ ดร.จริ ำวรรณ ฉำยำวฒั น์ อำจำรยม์ หำวิทยำลยั รำชภฏั เทพสตรี จงั หวดั ลพบรุ ี คณะชดุ โครงกำร กำรวิจยั และ พฒั นำผลติ ภณั ฑจ์ ำกดินสอพอง เพอ่ื ถ่ำยทอดเทคโลยีกำรผลิตและสร้ำงเครือข่ำยผปู้ ระกอบกำร เปิ ดเผยว่ำ โครงกำรน้ีมกี ำรวจิ ยั และพฒั นำผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยกนั 4 ประเภท คอื ศลิ ปะร่วมสมยั จำกดินสอพอง เคร่ืองสำอำง จำกดนิ สอพอง ครีมขดั โลหะจำกดินสอพอง และสีรองพ้นื ภำพเขียนจำกดนิ สอพอง โดยเนน้ ควำมสำคญั ของ คุณภำพมำตรฐำน ควำมปลอดภยั จำกกำรใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ และดนิ สอพองเกดิ มูลคำ่ ทเ่ี พ่ิมข้นึ ศลิ ปะร่วมสมยั จำกดินสอพอง เมื่อนำงำนวิจยั เขำ้ มำจะสำมำรถพฒั นำดินสอพองเป็นดินป้ันสูตรดนิ สอพอง ทำเป็นเครื่องประดบั ไดอ้ ยำ่ งงดงำม ดว้ ยเน้ือดนิ ท่มี คี วำมยดื หยุ่น ทนทำนสำมำรถลงรำยละเอยี ดชิน้ งำนไดด้ ี มคี วำมคงตวั และแหง้ ไวโดยไมต่ อ้ งใชค้ วำมร้อน อีกรูปแบบ คอื ประดษิ ฐ์เป็นตุก๊ ตำลิง ทีเ่ ป็นอกี สญั ลกั ษณ์ หน่ึงของจงั หวดั ลพบรุ ี โดยป้ันเป็นลงิ ในอริ ิยำบทตำ่ งๆในท่ำแมไ่ มม้ วยไทยไดอ้ ยำ่ งน่ำรกั น่ำเอน็ ดู ส่วนเคร่ืองสำอำงจำกดนิ สอพอง ไดด้ งึ จุดเด่นของสรรพคณุ แกพ้ ษิ รอ้ นให้ร่ำงกำย ถอนพษิ อกั เสบ แกผ้ ด ผนื่ มำผลิตเป็น โคลนพอกตวั พอกหนำ้ ผงขดั และบำรุงผิว แป้งอดั แข็งทำหนำ้ และแป้งฝ่นุ โรยตวั 2.3 ประวตั ทิ ป่ี รึกษาโครงการ นางศิริโสภา วศิ ิษฏ์วฒั นะ
บทที่ 3 วิธีการศึกษาค้นคว้า กล่ำวถงึ กำรดำเนินกำรโดยละเอียด 3.1 กำรขนดินมำร์ลใส่บ่อกำก แลว้ ปล่อยน้ำลงไปผสมให้ดินละลำย เมื่อดนิ ละลำยน้ำดแี ลว้ ตกั น้ำในบ่อ กำกเทใส่ตะแกรงลงในบ่อกรองหรือบ่อเน้ือเพื่อแยกเอำหินกรวด และเศษหญำ้ ทง้ิ กำกทีเ่ หลอื น้ีนำไปใชถ้ ม ทไี่ ด้ ภำพที่ 3-1 กำรขนดนิ มำร์ลใส่บ่อกำก
3.2 ทง้ิ ไวห้ น่ึงคนื ดนิ ขำวจะตกตะกอนนอนกน้ บอ่ ตอนบนจะเป็นน้ำใสๆ ผผู้ ลติ จะคอ่ ยๆชอ้ น หรือดดู เอำ น้ำใสๆออกจำกบอ่ จนเหลอื แต่แป้งดนิ ขำวขน้ เหมือนดนิ โคลน ซ่ึงก็คอื ดนิ สอพองทต่ี อ้ งกำร ภำพที่3-2 ทิ้งดนิ ให้ตกตะกอนใตบ้ อ่ 3.3ตกั ดนิ โคลนดนิ สอพองหยอดในแมพ่ มิ พก์ ลม ท้ิงไวก้ ลำงแจง้ จนดนิ สอพองหมำดเกำะกนั เป็นกอ้ นแขง็ พอทใ่ี ชม้ อื หยบิ ได้ ภำพท3่ี -3 นำดนิ สอพองใส่แม่พิมพ์
3.4 นำแผ่นดินสอพองไปวำงไวบ้ นตะแกรงไมไ้ ผ่เพอื่ พงึ แดดให้แห้งสนิท ส่วนเวลำท่ีใชใ้ นกำรตำกน้นั พบว่ำวนั ไหนแดดจดั ก็ใชเ้ วลำตำกเพียงวนั เดียว แตถ่ ำ้ ดนิ สอพองยงั แห้งไม่สนิท กต็ อ้ งตำกต่อไป 2-3 วนั เมื่อ แผน่ ดินสอพองแหง้ ดีแลว้ กน็ ำไปเก็บเพื่อส่งจำหน่ำยต่อไป ภำพที่ 3-4 นำดนิ สอพองไปตำกใหแ้ หง้
บทท่ี 4 ผลการศึกษาค้นคว้า สืบคน้ มำกจำทำงอนิ เทอร์เน็ตและยทู ปู ตำมวดิ โี อกบั เพจทนี่ ำเสนอกำรทำดนิ สอพองทมี่ ีคนทำกำรศกึ ษำกำร ทำดินสอพองมขี อ้ มลู ทเี่ พียงพอกบั กำรทำโครงกำรน้ี 1.ไดร้ ู้วธิ ีข้นั ตอนกำรทำดินสอพอง 2.ไดร้ ูว้ ่ำกำรนำดนิ สอพองมำทำเป็นผลติ ภณั ฑต์ ำ่ งๆ 3.ไดร้ ู้ถึงสรรพคุณของดินสอพอง
สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 5.1สรุปผลการทดลอง จำกกำรทดลองน้ีพบวำ่ กำรทำดินสองพองตอ้ งทำกำรลำ้ งดนิ เพือ่ ให้ชำละลำ้ งสิ่งสกปรกจำกน้นั ไปกรอกเศษ หินออกบอ่ พกั พอตกตะกอนแลว้ นำใส่แมพ่ มิ พแ์ ลว้ ไปตำกใหแ้ ห้งซ่ึงกำรทำใหแ้ ห้งมนั ตอ้ งใหเ้ วลำเพรำะมนั ข้นึ อยูก่ บั ขนำดดินสอพอดว้ ยถำ้ ไม่มแี ดดจะทำให้ดนิ สอพองแห้งชำ้ มำก 5.2ปัญหาและอปุ สรรคในการศึกษาค้นคว้า สถำนกำรณ์โควดิ ที่ทำไมใ่ หอ้ อกไปสืบคน้ ขอ้ มลู และกำรทไี่ มม่ ีขอ้ มูลทเี่ รำยงั ตอ้ งกำร 5.3ข้องเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา ควรหำขอ้ มลู และทำกำรศกึ ษำในรูปแบบอ่ืน ๆ นอกจำกน้เี พิม่ ข้ึนที่ไดศ้ กึ ษำมำยงั ถือว่ำนอ้ ยไป
แหล่งข้อมลู ที่สืบค้น เวบ็ ไซต์ http://dinsor-pong.blogspot.com/2013/09/blog-post.html https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/960912/ http://nattanich5301425.blogspot.com/2011/05/blog-post_11.html https://www.youtube.com/watch?v=tQUCay8y6Eo
ประวัติผู้จดั ทา เร่ือง ดินสอพอง 1.นำย ธนำกร สุขทวสี ถติ ยก์ ุล ประวัตสิ ่วนตัว วนั ท่ี 20 ตลุ ำคม 2544 อำยุ 19 บำ้ นเลขที่ 2หมู่ 5 ต.ทำ้ ยตลำด อ.เมือง จ.ลพบรุ ี ประวตั กิ ำรศึกษำ ปี พ.ศ 2556 ช้นั ป.6 รร.อนุบำลลพบรุ ี ปี พ.ศ 2559 ช้นั ม.3 รร.ค่ำยนำรำยณ์ศกึ ษำ ปี พ.ศ 2562 ช้นั ปวช.3 วลิ ยั เทคนิคลพบุรี ปี พ.ศ 2563 ช้นั ปวส.1/1 ช่ำงยนต์ รหสั 63301010003 2.นำย ภำณุ สุขเทพ ประวตั ิส่วนตวั วนั ท่ี 31 มกรำคม 2545 อำย1ุ 8 บำ้ นเลขท่ี31 หม่3ู ต.เกำะเเกว้ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2551 ช้นั ป.1 รร นำรำยณ์วิทยำ ปี พ.ศ 2557 ช้นั ม.1 รร ชยั บำดำลวิทยำ ปี พ.ศ 2560 ช้นั ปวช 1 วิทยำลยั เทคนิคลพบุรี ปี พ.ศ 2563 ช้นั ปวส 1 วิทยำลยั เทคนคิ ลพบรุ ี
3.นำย ปรเมษ เครือครุ่ย ประวัติส่วนตัว วนั ท่ี 9 เมษำยน 2545 อำยุ18 บำ้ นเลยที่ 80/2 ต.ทะเลชุบศร อ.เมอื ง จ.ลพบรุ ี ประวตั ิการศึกษา ปี พ.ศ 2556 ช้นั ป.6 รร.เทศบำล 3 ปี พ.ศ 2559 ช้นั ม.3 รร.เทศบำล 3 ปี พ.ศ 2562 ช้นั ปวช 3 วยิ ำลยั เทคนิคลพบุรี ปี พ.ศ 2563 ช้นั ปวส 1/1 ชำ่ งยนต์ รหัส 63301010006 4. นำย ปิ ยะชยั จำปำทิพย์ ประวัตสิ ่วนตวั วนั ท่ี 17 ตุลำคม 2540 อำยุ 23 บำ้ นเลขท่ี 59 หมู่ 11 ต.ห้วยหอม อ.ตำคลี จ.นครสวรรค์ ประวัตกิ ำรศกึ ษำ ปี พ.ศ 2546 ช้นั ป.6 รร.อสุ ำหะวิทยำ ปี พ.ศ 2552 ช้นั ม.3 รร.ชอ่ งแคพิทยำคม ปี พ.ศ 2560 ช้นั ปวช 3 วยิ ำลยั เทคนิคลพบรุ ี ปี พ.ศ 2563 ช้นั ปวส 1/1 ช่ำงยนต์ รหัส 63301010008
5.นำย อยั กำร พุม่ พฤกษ์ ประวตั ิส่วนตัว วนั ที1่ 6 สิงหำคม 2543 อำย2ุ 0 บำ้ นเลขท1่ี 02/30 หมู1่ ต.ถนนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ.2550 ช้นั ป.1 โรงเรียนเมอื งใหม่ ปี พ.ศ.2556ช้นั ป.6โรงเรียนเมอื งใหม่ ปี พ.ศ.2557 ช้นั ม.1 โรงเรียนเมืองใหม่ ปี พ.ศ.2559 ช้นั ปวช 1 วทิ ยำเทคนิคลพบรุ ี ปี พ.ศ.2563 ช้นั ปวส 1/1 ชำ่ งยนต์ รหัส 63301010021
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: