{ มไี ขแ้ ลว้ ทำไมไมใ่ หย้ าลดไขบ้ อ่ ยๆ? ตอบ การใหย้ าลดไขพ้ าราเซตามอลมากเกนิ ไป จะมผี ลทำใหม้ ภี าวะตบั อกั เสบไดถ้ า้ ผปู้ ว่ ยไดร้ บั ยาเกนิ ขนาด ทแ่ี นะนำ บางรายภาวะตบั อกั เสบอาจรนุ แรงถงึ ขน้ั ตบั วายได้ ดงั นน้ั การใหย้ าลดไข้ จะใหเ้ มอ่ื ไขส้ งู เกนิ 39 องศา เซลเซยี ส และใหห้ า่ งกนั ไมน่ อ้ ยกวา่ 4-6ชว่ั โมงเทา่ นน้ั ทง้ั นเ้ี พอ่ื ลดความสงู ของไขเ้ พอ่ื ปอ้ งกนั การชกั โดยเฉพาะ ในเดก็ เลก็ หรอื เดก็ ทม่ี ปี ระวตั ชิ กั มากอ่ น ระหวา่ งนน้ั ถา้ ยงั มไี ขส้ งู ควรเชด็ ตวั ให้ { การฉดี ยาลดไข้ จะชว่ ยใหผ้ ปู้ ว่ ยมไี ขล้ ดลงไดห้ รอื ไม?่ ตอบ การฉดี ยาลดไขจ้ ะชว่ ยใหผ้ ปู้ ว่ ยไขล้ ดลงเพยี งเลก็ นอ้ ยเทา่ นน้ั เนอ่ื งจากรา่ งกายยงั มเี ชอ้ื ไวรสั ในกระแส เลอื ดอยู่ และการฉดี ยาเขา้ กลา้ มทกุ ชนดิ เปน็ ขอ้ หา้ มในผปู้ ว่ ยทส่ี งสยั วา่ เปน็ โรคไขเ้ ลอื ดออก เนอ่ื งจากผปู้ ว่ ย มเี สน้ เลอื ดเปราะแตกงา่ ย และในบางรายอาจมเี กลด็ เลอื ดตำ่ รว่ มดว้ ย ทำใหม้ เี ลอื ดออกมากในกลา้ มเนอ้ื บรเิ วณ ทฉ่ี ดี ยา ซง่ึ นอกจากจะทำใหม้ อี าการเจบ็ ปวดแลว้ ยงั อาจจะทำใหม้ กี ารตดิ เชอ้ื แทรกซอ้ นตามมาได้ { ทำไมตอ้ งเชด็ ตวั บอ่ ยๆ ดว้ ยนำ้ อนุ่ ไมใ่ ชน้ ำ้ เยน็ หรอื นำ้ แขง็ ? ตอบ การเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว ซึ่งเป็นการช่วยให้ผิวหนังระบายความร้อนได้ดีขึ้น ชว่ ยใหค้ วามสงู ของไขล้ ดลง โดยเฉพาะในรายทใ่ี หย้ าลดไขแ้ ลว้ ไขย้ งั คงสงู อยู่ ควรเชด็ ตวั นาน 10-15 นาที เช็ดทุกส่วนของร่างกาย โดยเช็ดจากส่วนปลายมือ แขน ขา เข้าหาหัวใจ ซึ่งเป็นการเช็ดย้อนรูขุมขน เพื่อ เปดิ รขู มุ ขนใหร้ ะบายความรอ้ น และวางผา้ ชบุ นำ้ ไวต้ ามขอ้ พบั แขน ขา ซอกรกั แร้ ซอกคอ หนา้ ผาก เปลย่ี น ผา้ ชบุ นำ้ บอ่ ยๆ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งถผู า้ ไปมานานเกนิ ควร หรอื แรงเกนิ ไป ซง่ึ อาจทำใหม้ จี ดุ เลอื ดออกใตผ้ วิ หนงั ได้เนื่องจากผู้ป่วยมีเส้นเลือดเปราะแตกง่ายอยู่แล้ว การใช้น้ำเย็นเช็ดตัวจะทำให้เส้นเลือดหดตัว ร่างกาย ไมส่ ามารถระบายความรอ้ นออกไปได้ และนำ้ เยน็ จะทำใหผ้ ปู้ ว่ ยหนาวสน่ั ได้ { ตอ้ งอยโู่ รงพยาบาลนานกว่ี นั ? ตอบ ผปู้ ว่ ยสว่ นใหญจ่ ะอยโู่ รงพยาบาลเฉลย่ี 3-4 วนั ถา้ ไมม่ ภี าวะแทรกซอ้ น แตอ่ าจนานกวา่ นถ้ี า้ รบั ผปู้ ว่ ย อยใู่ นโรงพยาบาลตง้ั แตร่ ะยะแรกทม่ี ไี ขส้ งู (สว่ นใหญจ่ ะรบั ผปู้ ว่ ยไวใ้ นโรงพยาบาลเมอ่ื ผปู้ ว่ ยกำลงั จะเขา้ สู่ ระยะวกิ ฤตของโรค) { ทำไมไมใ่ หน้ ำ้ เกลอื ทกุ รายทางเสน้ เลอื ด? ตอบ การให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดจะให้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนมากระยะที่มีไข้สูง ผู้ป่วยไม่จำเป็น ตอ้ งไดน้ ำ้ เกลอื ทางเสน้ เลอื ด ยกเวน้ ผปู้ ว่ ยทอ่ี าเจยี นและมอี าการขาดนำ้ อยา่ งมาก ถา้ ใหน้ ำ้ เกลอื โดยไมจ่ ำเปน็ ในระยะนอ้ี าจมผี ลเสยี ทำใหผ้ ปู้ ว่ ยมกี ารตดิ เชอ้ื แทรกซอ้ นหรอื มภี าวะนำ้ เกนิ ได้ ระยะทจ่ี ำเปน็ ตอ้ งใหน้ ำ้ เกลอื ทางเสน้ เลอื ดคอื ระยะวกิ ฤตทม่ี กั ตรงกบั เวลาทไ่ี ขล้ ง ถา้ ผปู้ ว่ ยไมส่ ามารถดม่ื นำ้ เกลอื แร่ หรอื รบั ประทานอาหาร ได้ตามความต้องการและมีการรั่วของน้ำเหลืองออกไปนอกเส้นเลือดมาก ผู้ป่วยทุกรายสภาพการรั่วของ นำ้ เหลอื งแตล่ ะคนจะไมเ่ ทา่ กนั ผปู้ ว่ ยทม่ี กี ารรว่ั มากจนมคี วามเขม้ ขน้ ของเลอื ดสงู ตอ้ งใหน้ ำ้ เกลอื ในอตั ราท่ี เรว็ กวา่ ผปู้ ว่ ยทม่ี คี วามเขม้ ขน้ ของเลอื ดตำ่ กวา่ { อาการปวดทอ้ งมสี าเหตจุ ากอะไร? ตอบ มหี ลายสาเหตทุ พ่ี บบอ่ ยในระยะวนั แรกๆ ของไขค้ อื ผปู้ ว่ ยรบั ประทานอาหารไดน้ อ้ ยกวา่ ปกติ หรอื มีอาเจียน ทำให้น้ำย่อยซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดทำลายเยื่อบุกระเพาะ จึงมีอาการเหมือนเป็นโรคกระเพาะ ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคกระเพาะอยู่เดิมจะมีอาการมากขึ้น การรักษาคือ การให้ยาเคลือบกระเพาะหรือ ใหย้ าลดกรดในกระเพาะรว่ มดว้ ย อกี สาเหตทุ พ่ี บไดบ้ อ่ ยคอื กอ่ นระยะทผ่ี ปู้ ว่ ยจะมภี าวะชอ็ กหรอื กำลงั ชอ็ ก ผปู้ ว่ ยจะมอี าการปวดทอ้ งมาก จนบางครง้ั อาจเหมอื นอาการไสต้ ง่ิ อกั เสบทต่ี อ้ งไดร้ บั การผา่ ตดั อยา่ งเรง่ ดว่ น 91แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
อาการปวดท้องนี้น่าจะเกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงกระเพาะอาหาร/ ลำไส้น้อยลง ดังนั้นในผู้ป่วยที่มีอาการ ปวดทอ้ งมาก ตอ้ งรบี นำสง่ โรงพยาบาล เพอ่ื การวนิ จิ ฉยั และรกั ษาอยา่ งถกู ตอ้ ง { ทำไมมแี นน่ ทอ้ ง ทอ้ งอดื โต? ตอบ มีการรั่วของน้ำเหลืองเข้าไปอยู่ในช่องปอดและช่องท้อง ทำให้ผู้ป่วยมีท้องอืด อึดอัด แน่นท้อง แนน่ หนา้ อก ถา้ มนี ำ้ ในชอ่ งปอด ชอ่ งทอ้ งมาก ผปู้ ว่ ยจะมหี ายใจหอบเหนอ่ื ย { ทำไมตอ้ งงดอาหารสดี ำ แดง นำ้ ตาล ในผปู้ ว่ ยโรคไขเ้ ลอื ดออก? ตอบ ในผู้ป่วยไข้เลือดออกเฉพาะที่มีอาการรุนแรงจะมีเลือดออกในอวัยวะต่างๆ ที่พบบ่อยคือในระบบ ทางเดนิ อาหาร เมอ่ื รบั ประทานอาหารสดี ำ แดง หรอื นำ้ ตาลแลว้ ผปู้ ว่ ยอาเจยี นออกมา อาจทำใหเ้ ขา้ ใจผดิ วา่ เป็นเลือดออกในทางเดินอาหาร เนื่องจากเลือดที่ออกในกระเพาะหรือลำไส้จะถูกกรดในกระเพาะ เปลย่ี นสเี ปน็ สนี ำ้ ตาลออกดำเหมอื นกนั { ทำไมเมอ่ื แพทยส์ งสยั เปน็ ไขเ้ ลอื ดออก ไมใ่ หผ้ ปู้ ว่ ยนอนโรงพยาบาล และทำไมตอ้ งนดั เจาะเลอื ดทกุ วนั ? ตอบ ในระยะไขข้ องโรคไขเ้ ลอื ดออก โดยทว่ั ไปจะไมม่ อี นั ตราย นอกจากบางรายอาจมอี าการชกั จากไขส้ งู การดูแลลดไข้ และให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ รับประทานอาหาร รวมถึงให้มีการพักผ่อนก็เพียงพอแล้ว การ เจาะเลอื ดทกุ วนั นน้ั เพอ่ื ตดิ ตามการเปลย่ี นแปลงของโรคอยา่ งใกลช้ ดิ การเจาะเลอื ดจะดจู ำนวนเมด็ เลอื ดขาว ถ้าน้อยกว่า 5,000 เซล/ลบ.มม. เกล็ดเลือด ถ้าต่ำกว่า 100,000 เซล/ลบ.มม. และความเข้มข้นของเลือด ถา้ เพม่ิ ขน้ึ มากกวา่ เดมิ 10-20% เหลา่ นแ้ี สดงวา่ ผปู้ ว่ ยกำลงั จะเขา้ สรู่ ะยะอนั ตราย ซง่ึ จำเปน็ ตอ้ งไดร้ บั การดแู ล รกั ษาอยา่ งใกลช้ ดิ แพทยจ์ งึ จะรบั ไวร้ กั ษาในโรงพยาบาล ถา้ ไมเ่ จาะเลอื ด ตดิ ตามแตด่ เู ฉพาะอาการทางคลนิ กิ อาจจะวนิ จิ ฉยั ภาวะวกิ ฤตผดิ พลาดไป เนอ่ื งจากผปู้ ว่ ยสว่ นใหญจ่ ะมอี าการทางคลนิ กิ ดี เกอื บจนนาทสี ดุ ทา้ ย ของชวี ติ { ทำไมนำ้ เกลอื หยดไมเ่ ทา่ กนั ในผปู้ ว่ ยแตล่ ะคน หรอื ในแตล่ ะชว่ งเวลา? ตอบ เพราะปริมาณการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำจะขึ้นกับน้ำหนักของผู้ป่วย และอัตราความเร็ว ของการไหลของสารนำ้ ขน้ึ อยกู่ บั ความเขม้ ขน้ ของเลอื ดผปู้ ว่ ย ซง่ึ จะทราบจากการเจาะเลอื ดทบ่ี รเิ วณปลายนว้ิ { ทำไมผปู้ ว่ ยบางรายเปน็ ไขเ้ ลอื ดออกปลี ะหลายๆ ครง้ั ? ตอบ การเปน็ ไขเ้ ลอื ดออกสว่ นใหญจ่ ะเปน็ เพยี งครง้ั เดยี ว การวนิ จิ ฉยั ไขเ้ ลอื ดออกทถ่ี กู ตอ้ งและยอมรบั ได้ อย่างน้อยที่สุดต้องมีการรัดแขนและเจาะเลือด ถ้าได้รับการวินิจฉัยโดยไม่ได้มีการรัดแขนและเจาะเลือด ให้ถือว่าอาจไม่ถูกต้อง อีกประการหนึ่งคือผู้ป่วยอาจเป็นเพียงไข้เดงกี ไม่ใช่ไข้เลือดออก โรคไข้เดงกีนี้ เกิดจากไวรัสเดงกีชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออก แต่ความรุนแรงน้อยกว่า โรคนี้จะไม่มีการรั่ว ของนำ้ เหลอื งออกไปนอกเสน้ เลอื ด จงึ ไมม่ โี อกาสเกดิ ภาวะชอ็ กและเสยี ชวี ติ ไขเ้ ดงกอี าจเปน็ ซำ้ ไดถ้ งึ 4 ครง้ั และการเปน็ แตล่ ะครง้ั จะหา่ งกนั ไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เดอื นถงึ 1 ปี { เปน็ ไขเ้ ลอื ดออกแลว้ เปน็ อกี ไดห้ รอื ไม?่ ตอบ สว่ นใหญโ่ อกาสเปน็ ไขเ้ ลอื ดออกซำ้ จะนอ้ ยมาก พบประมาณรอ้ ยละ 0.5 ของผปู้ ว่ ยเทา่ นน้ั และการ เปน็ ซำ้ จะไมร่ นุ แรงเทา่ กบั การเปน็ ครง้ั แรก { การรดั แขนมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร? จดุ สแี ดงเลก็ ๆ ทผ่ี วิ หนงั เกดิ จากอะไร? ตอบ การรัดแขนช่วยในการวินิจฉัยโรคตั้งแต่ระยะแรก จุดแดงเล็กๆ คือจุดที่มีเลือดออกใต้ผิวหนัง เกิดจากการที่เราใช้ความดันรัดแขน ความดันนี้ทำให้เส้นเลือดแตก ทำให้เม็ดเลือดออกมาอยู่ภายนอก เปน็ จดุ สแี ดงเลก็ ๆ ในผปู้ ว่ ยไขเ้ ลอื ดออกจะมเี สน้ เลอื ดเปราะแตกงา่ ย จงึ จะตรวจพบมจี ดุ แดงๆ นจ้ี ำนวนมาก 92แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เป็น โดยถ้ามีจุดแดงนี้มากกว่า 10 จุดต่อหนึ่งตารางนิ้วจะช่วยทำให้นึกถึงโรค ไขเ้ ลอื ดออกมากขน้ึ { ผปู้ ว่ ยไขเ้ ลอื ดออกเมอ่ื แพทยใ์ หก้ ลบั บา้ นจะทำอะไรได้ ตอ้ งระวงั อะไรบา้ ง? ตอบ ทำกิจกรรมได้ตามปกติ สามารถไปโรงเรียนได้ แต่งดการออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้ได้รับการกระทบกระแทกเช่น ขี่จักรยาน เล่นฟุตบอล เตะตะกร้อ ชกต่อย ถอนฟัน เป็นต้น เพราะจะทำให้เลือดออกได้ เนื่องจากหลังจากผู้ป่วยพ้นระยะวิกฤต ปริมาณของเกล็ดเลือดยังไม่เพิ่มขึ้น จนถงึ ระดบั ปกติ ควรงดกจิ กรรมเหลา่ นเ้ี ปน็ เวลา 1-2 สปั ดาห์ { ทำอยา่ งไรไมใ่ หเ้ ปน็ โรคไขเ้ ลอื ดออก? ตอบ ไมใ่ หย้ งุ กดั ตลอดวนั และไมใ่ หม้ ยี งุ ลายและแหลง่ เพาะพนั ธย์ุ งุ ลายในบา้ น โรงเรยี น โรงพยาบาล วดั สถานทท่ี ำงาน ฯลฯ 93แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
94แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
ภาคผนวก ภาคผนวก 1 QUEEN SIRIKIT NATIONAL INSTITUTE OF CHILD HEALTH Form TPR & BP for DHF ( ) Shock BP = mm Hg ( ) Non Shock Date Time B.P. T. P. R. Hct Treatment Symptom Remark CBC แรกรบั OPD Maintenance Fluid BW = Kgs. Day of fever = Hct. = WBC = M = Day of illness = Plt = Lym = ATL = M + 5%D = T.T. = Liver = Name Bleeding = Epistaxis = Department Age. Yr. Mo D. H.N. A.N. Ward Attending Physician Pulse F = Full, M = Moderate, W = Weak, N = Not Palpable 95แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
QUEEN SIRIKIT NATIONAL INSTITUTE OF CHILD HEALTH I.V. Transfusion Date Type of Fluid Starting Rate Ending Total Amount Note Time qtts/min Time Absorbed Name Age Hospital No. Location in Hospital Attending Physician 96แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
Fluid Balance Chart INTAKE OUTPUT Subc. Date Time Oral I.V.Drip I.M. Total Time Urine Catheter Vomit Suction Total Rectal 24 Hours Passed 24 Hours 97แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
ภาคผนวก 2 Colloidal solutions COLLOIDAL SOLUTION OSMOLARITY MW 10% Dextran-40 in NSS > 600 40,000 Rheomacrodex > 600 40,000 Hespander 310 48,000 6% Haes-steril 308 200,000 10% Haes-steril 420 200,000 Haemaccel 350 30,000-35,000 98แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
ภาคผนวก 3 ขอ้ มลู ประกอบใบสง่ ตอ่ ผปู้ ว่ ยไขเ้ ลอื ดออกไปโรงพยาบาล___________________________ จากโรงพยาบาล______________________________ วนั ท่ี ________________HN___________________ ชอ่ื ________________________________________ อายุ _______________ นำ้ หนกั ________________กก. วนั ทเ่ี รม่ิ มไี ข_้ ______________________ วนั ทช่ี อ็ ก________________________เวลา_______________ แรกรับ ขณะช็อก กอ่ นสง่ ตอ่ วนั ท,่ี เวลา consciousness อณุ หภมู ิ ความดนั โลหติ ชพี จร การหายใจ Tourniquet test ขนาดของตบั (ซม.) Hct (%) Platelets count/smear Blood sugar อาการเลอื ดออก การรกั ษาทไ่ี ดร้ บั : 5% D/N/3, 5% D/N/2, ____________________ วนั ท่ี _____________เวลา______________________ ml. 5% D/NSS, 5% DLR, 5% DAR, ____________ วนั ท่ี _____________เวลา______________________ ml. Colloid : Dextran-40, _____________________ วนั ท่ี _____________เวลา______________________ ml. FDP, FFP, plasma,_______________________ วนั ท่ี _____________เวลา______________________ ml. FWB, PRC_____________________________ วนั ท่ี _____________เวลา______________________ ml. รวมปรมิ าณสารนำ้ ทไ่ี ดท้ ง้ั หมดกอ่ นสง่ ตอ่ ________________________ml. ในเวลา________________ชม. IV fluid ทใ่ี หก้ อ่ นสง่ ตอ่ _______________Rate(ไมค่ วรเกนิ 10 มล./กก./ชม.) ______________ มล./กก./ชม. ขอ้ สงั เกตเุ พม่ิ เตมิ ________________________________________________________________________ ตดิ ตอ่ กบั โรงพยาบาลทจ่ี ะรบั สง่ ตอ่ แลว้ โดยมแี พทย/์ พยาบาลทร่ี บั ผดิ ชอบคอื ________________________ แพทยผ์ ดู้ แู ลผปู้ ว่ ยกอ่ นสง่ ตอ่ ______________________________________โทร._____________________ 99แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
100แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
พมิ พท์ ่ี : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกดั 101แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
102แนวทางการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาโรคไขเ้ ลอื ดออกในระดบั โรงพยาบาลชมุ ชน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112