Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิถีชีวิตกับโรคกระดูก

วิถีชีวิตกับโรคกระดูก

Description: วิถีชีวิตกับโรคกระดูก

Search

Read the Text Version

วถิ ีชีวติ กบั โรค | 93 ทาให้เกิดอาการปวดไหลไ่ ด้สงู ขนึ ้ โดยเฉพาะในเพศชาย อย่างไรก็ตามไม่พบความสมั พนั ธ์ กบั ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั 5 การสบู บุหรี่ มีผลต่อการหดตวั ของหลอดเลือดทาให้เลือดไปเลีย้ งเส้นเอ็นใต้ กระดกู สะบกั ได้น้อยลง ซึ่งจุดเกาะเส้นเอ็นใต้สะบกั ในบางตาแหน่งมีเส้นเลือดมาเลีย้ ง คอ่ นข้างน้อย (hypovascular area) อาจเป็นปัจจยั เสี่ยงท่ีทาให้บริเวณนีม้ ีการฉีกขาดที่ มากกว่าตาแหน่งอ่ืนๆ มีหลายการศึกษาพบว่า คนที่สูบบุหรี่มีภาวะเส้นเอ็นใต้กระดูก สะบกั ฉีกขาดสงู กวา่ คนไม่สบู นอกเหนือจากนนั้ คนสบู บหุ ร่ีจะมีขนาดของการฉีกขาดของ เส้นเอ็นใต้สะบกั ที่มีขนาดใหญ่กวา่ จากการศกึ ษาของ Baumgarten และคณะ6 พบว่าคน ท่ีสบู บหุ รี่จะเพ่ิมโอกาสมีเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ฉีกขาดจากความเสื่อม สงู กว่าคนไม่สบู บหุ รี่ถึง 1.74 เท่า (odds ratio 1.23-2.44) และคนที่มีอาการปวดหวั ไหล่และสบู บหุ รี่ ภายใน 10 ปีภายในก่อนทีอาการปวด จะมีความเสี่ยงท่ีจะมีการฉีกขาดของเส้นเอ็นใต้ กระดกู สะบกั มากกวา่ คนที่หยดุ สบู บหุ รี่ หรือเคยสบู บหุ ร่ี แตเ่ ลกิ มามากกว่า 10 ปี ถึง 4.24 เท่า (odds ratio 1.75-10.25) ในสว่ นของปริมาณท่ีสบู พบว่า ถ้าสบู มากกว่า 1 ถึง 2 ซอง ตอ่ วนั จะเพ่ิมความเสี่ยงมากขนึ ้ 1.66 เท่า และ 3.35 เท่าในคนที่สบู มากกวา่ 2 ซองตอ่ วนั ในขณะท่ีคนท่ีสบู น้อยกวา่ 1 ซองตอ่ วนั มีความเส่ยี งเพมิ่ ขนึ ้ เลก็ น้อย แตไ่ มม่ ีนยั สาคญั ทางสถิติ สรุป สารอาหารหลายชนิดมีผลต่อการบาดเจ็บเรื้อรงั ของเสน้ เอ็นใตก้ ระดูกสะบกั มีทงั้ ปัจจยั ที่ช่วยลดการบาดเจ็บ (PUFAs) และ ปัจจยั เสีย่ งต่อการเกิดการบาดเจ็บ (hypercholesterolemia) อย่างไรก็ตามปัจจยั ข้างต้น ยงั มีข้อโต้แย้งและไม่มีข้อสรุปที่ ชดั เจน ดงั นนั้ ปัจจยั ดา้ นสารอาหารจึงอาจเป็นเพียงปัจจยั เสริม ไม่ใช่ปัจจยั หลกั ทีม่ ี ความสาคญั ต่อภาวะการบาดเจ็บเรื้อรังของเสน้ เอ็นใตก้ ระดูกสะบกั นอกจากนี้การสูบ บุหรี่ยังเพ่ิมโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดการฉีกขาดของเส้นเอ็นใต้กระดูกสะบัก โดยมี ความสมั พนั ธ์กบั ปริมาณ และระยะเวลาทีส่ ูบ

94 | วถิ ีชีวติ กบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั การอยู่อาศยั การใช้เคร่ืองช่วยเดิน (gait aid) อาจจะสง่ ผลทาให้เกิดแรงกระทาตอ่ โครงสร้าง ข้อไหลไ่ ด้ โดยเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั มกั จะได้รับแรงมากขนึ ้ ในระหว่างการใช้เคร่ืองช่วย เดนิ อย่างไรก็ตามยงั ไม่มีการศกึ ษาอตั ราการเกิดการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ในคนที่ใช้เครื่องช่วยเดนิ มีเพียงการศกึ ษาอตั ราการเกิดอาการปวดไหล่ (shoulder pain) กบั การใช้เคร่ืองมือช่วยเดินในผ้ปู ่ วยท่ีมีการบาดเจ็บของไขกระดกู (spinal cord injury) พบอาการปวดไหล่ ถึงร้ อยละ 35.4 และ 47.6 ในผู้ป่ วยที่ใช้รถเข็น (manual wheelchair) และ ใช้อปุ กรณ์ช่วยเดนิ เชน่ ไม้คา้ ยนั รักแร้ หรือ ไม้เท้า ตามลาดบั 7 สว่ นการ ใช้อุปกรณ์ช่วยเดินที่สมั พันธ์กันการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดูกสะบกั ยงั ไม่มี การศึกษาโดยเฉพาะเจาะจง แต่มีการศึกษาท่ีใกล้เคียงในกลุ่มผู้ป่ วยอัมพาตครึ่งล่าง (paraplegia) ที่ใช้อปุ กรณ์ช่วยเดนิ ด้วยรถเขน็ (wheelchair) และสามารถใช้รถเขน็ ได้ด้วย ตนเอง โดยใช้แขน และข้อไหล่ ออกแรงดนั และหมนุ ล้อ (hand rim wheel chair propulsion) พบว่า ในขณะผู้ป่ วยออกแรงดนั ล้อให้หมุนแรงท่ีมากระทาที่เส้นเอ็นใต้ กระดกู สะบกั จะสงู ขนึ ้ เท่ากบั 1ถึง 1.65 เท่าของนา้ หนกั ตวั 8 Akbar และคณะ9 ศกึ ษา เปรียบเทียบกลมุ่ ผ้ปู ่ วยอมั พาตครึ่งล่าง กบั คนปกติที่มีอายใุ กล้เคียงกนั และเพศเดียวกนั พบว่ากลุ่มผู้ป่ วยอัมพาตคร่ึงล่าง มีเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ฉีกขาดสูงถึงร้ อยละ 63 ในขณะที่กลมุ่ เปรียบเทียบมีเพียงร้อยละ 15 โดยปัจจยั เส่ียงที่มีผลตอ่ การฉีกขาดที่พบ คือ อายทุ ่ีมากขนึ ้ และระยะเวลาที่ใช้รถเขน็ 10 สรุป ลกั ษณะการอยู่ของผูป้ ่ วยมีผลต่อภาวะการบาดเจ็บเรื้อรงั ของเสน้ เอ็นใต้ กระดูกสะบกั ในผูป้ ่ วยทีต่ อ้ งใชเ้ ครื่องช่วยเดิน หรือรถเข็น เป็นระยะเวลานานจะเพ่ิมความ เสีย่ งทาใหเ้ กิดภาวะนีม้ ากข้ึน

วถิ ีชีวติ กบั โรค | 95 การนอนหลับ/พกั ผ่อนหย่อนใจ โดยปกติผ้ปู ่ วยส่วนใหญ่ที่มีภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้ กระดกู สะบกั จะมีอาการปวดเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลานอนตะแคงทับข้างท่ีมีอาการ หลายคนเช่ือว่าการนอนตะแคงอาจจะทาให้มีการบาดเจ็บของเส้นเอ็นมากขึน้ จาก การศกึ ษาของ Werner และคณะ11 พบวา่ ทา่ นอนหงายจะมีความดนั ในช่องวา่ งใต้กระดกู สะบกั ต่ากว่าท่านอนคว่า และนอนตะแคง โดยเชื่อว่าความดนั ที่สงู ขนึ ้ จะทาให้เลือดที่มา เลีย้ งเส้นเอ็นลดลง ทาให้การซ่อมแซมเส้นเอ็นที่บาดเจ็บลดลง ทาให้เกิดภาวะการ เส่อื มสภาพของเส้นเอ็นตามมา การออกกาลงั กายท่ีถกู ต้อง ในกลมุ่ ผ้ปู ่วยที่มีภาวะเส้นเอ็นใต้สะบกั บาดเจ็บเรือ้ รัง สามารถช่วยลดอาการ และทาให้การใช้งานข้อไหล่ดีขึน้ 14-12 หลกั การของการออกกาลงั กายในภาวะนี ้ได้แก่ การฝึกพิสยั การเคลื่อนไหวของข้อไหล่กลบั มาสสู่ ภาวะปกติ ร่วมกบั การฝึกกล้ามเนือ้ ใต้กระดูกสะบกั และกลุ่มท่ีทาหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของกระดูก สะบกั (scapular stabilizer group) ให้แข็งแรงมากขนึ ้ กล้านเนือ้ รอบข้อไหลท่ ่ีแข็งแรงจะ ช่วยทาให้การเคลื่อนไหวของข้อไหล่กลบั เป็นปกติ จากการศกึ ษาของ Lewis13 พบว่าใน ผ้ปู ่ วยกลมุ่ ที่มีภาวะเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั อกั เสบเรือ้ รัง (impingement syndrome) เม่ือ ฝึกกล้ามเนือ้ ทัง้ สองกลุ่มให้แข็งแรง จะสามารถลดการรักษาโดยการผ่าตัดได้ เมื่อ เปรียบเทียบกบั กล่มุ ควบคมุ พบว่า ทกุ ๆ 3 คนท่ีออกกาลงั กายตามท่ีกาหนด จะมีความ ต้องการที่จะรักษาโดยวิธีผ่าตดั น้อยลง 1 คน เมื่อเปรียบเทียบกบั กลมุ่ ท่ีไม่ได้ออกกาลงั กาย หรือออกกาลงั กายทว่ั ๆไป (number-needed-to treat; NNT =3, ช่วงความเชื่อมน่ั ร้อยละ 95: 1.6-3.9) ซง่ึ ผลการศกึ ษามีทิศทางเดยี วกบั การศกึ ษาของ Litchfield12 ท่ีพบวา่ การออกกาลงั กายฝึกกล้ามเนือ้ ทงั้ สองกล่มุ ให้แข็งแรง มีผลทาให้กลมุ่ ผ้ปู ่ วยที่มีภาวะการ

96 | วิถีชีวติ กบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั อกั เสบเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั และวางแผนรอผ่าตดั ตดั สินใจเลือกวิธีการรักษา โดยวิธีการผา่ ตดั ลดลงถงึ 7 เทา่ เม่ือเปรียบเทียบกบั กลมุ่ ที่ออกกาลงั กายข้อไหลท่ ว่ั ไป การเล่นกีฬาพบว่ามีการบาดเจ็บของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั อย่างชดั เจนซ่ึงจะ เป็นภาวะที่พบในนกั กีฬาใช้ข้อไหลเ่ ป็นหลกั เช่นนกั เบสบอล ซงึ่ การบาดเจ็บในกลมุ่ นีจ้ ะมี ลกั ษณะที่แตกต่างจากการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ของกล่มุ ประชากร สูงอายุ ทัง้ ตาแหน่ง และกลไกการเกิด รวมถึงการดาเนินโรค ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมใน บทความนี ้ สว่ นการออกกาลงั กายทว่ั ไปอาจจะทาให้เกิดภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็น ใต้กระดกู สะบกั ได้ ดงั การศกึ ษาของ Couanis และคณะ15 ที่ศกึ ษาในกลมุ่ นกั กีฬาวา่ ยนา้ พบว่าในการฝึกซ้อม (training) จะทาให้เกิดภาวะบาดเจ็บของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั และสง่ ผลทาให้เกิดการหนาตวั ของเนือ้ เยือ้ อ่อนที่คลมุ เส้นเอ็นอยู่ (bursa) โดยในกลมุ่ ที่มี อาการปวดข้อไหลจ่ ากภาวะการอกั เสบเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั มกั จะมีการหนา ตวั ของเนือ้ เยือ้ อ่อน (bursa) มากขนึ ้ เช่นเดยี วกบั การศกึ ษาของ Batalha และคณะ16 ที่ พบว่าเทคนิคการฝึกว่านา้ ในลกั ษณะ macrocycle อาจจะทาให้เกิดความไม่สมดลุ ของ กล้ามเนือ้ รอบหวั ไหล่ และนาไปสกู่ ารบาดเจ็บของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ได้มากขนึ ้ สรุป ลกั ษณะการนอนตะแคง นอนคว่า อาจจะส่งผลต่อการเกิดการบาดเจ็บ เรื้อรงั ของเสน้ เอ็นใตก้ ระดูกสะบกั ได้ แต่ปัจจบุ นั ยงั ไม่มีหลกั ฐานทีช่ ดั เจนยืนยนั ความคิดนี้ การออกกาลงั กายกลา้ มเนือ้ หรือการฝึก พบว่า การฝึกกลา้ มเนือ้ ใตก้ ระดูกสะบกั และกล่มุ ทีท่ าหนา้ ทีค่ วบคมุ การเคลื่อนทีข่ องกระดูกสะบกั ช่วยลดอาการปวดไดด้ ี ในขณะการฝึ กที่ ไม่สมดลุ ของกลา้ มเนือ้ รอบขอ้ ไหล่อาจจะส่งผลเสียมากกว่า

วิถีชีวิตกบั โรค | 97 การมีสัมพนั ธ์กับคนรัก/คนใกล้ชดิ แม้ท่าทางในการมีสัมพันธ์กับคนรัก/คนใกล้ชิดทาให้ข้อไหล่รับนา้ หนักตัวใน ชว่ งเวลาหนง่ึ อาจมีผลตอ่ การบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ได้ จากการสืบค้น ข้อมลู ยงั ไม่มีการศึกษาถึงความสมั พนั ธ์ทางเพศกบั คนรัก/คนใกล้ชิด (sexual activity) กบั ภาวการณ์บาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั การส่ือสาร การสื่อสารในปัจจบุ นั ท่ีมีการใช้โทรศพั ท์มือถือในท่างอแขนร่วมกบั งอไหลเ่ ลก็ น้อย แม้จะทาซา้ ๆหรือทาเป็นระยะเวลานานแต่ไม่มีการใช้งานข้อไหล่ในลกั ษณะยกขึน้ เหนือ ศีรษะ โอกาสทาให้เกิดการบาดเจ็บของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั น่าจะน้อยมาก อย่างไรก็ดี จากการสืบค้นข้อมลู ยงั ไมม่ ีการศกึ ษาถึงความสมั พนั ธ์ในด้าน การส่ือสาร กบั ภาวะการ บาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั การทางาน การบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั สว่ นหนง่ึ เชื่อวา่ เกิดจากการใช้งาน ขึน้ ทาให้เส้นเอ็นเสียดสีกับด้านหน้าของกระดูกสะบกั หรือมีการบาดเจ็บของเส้นเอ็น ในขณะทางานยกขนึ ้ จากการศกึ ษาของ Yamamoto และคณะ17 ซ่งึ ทาการสารวจกล่มุ ประชากรในหม่บู ้านแห่งหน่ึง จานวน 683 คน พบว่าประชากรในกลมุ่ ท่ีมีภาวะบาดเจ็บ เรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ท่ีมีการฉีกขาดของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั พบมากใน กล่มุ ประชากรท่ีมีอายมุ าก ทางานในลกั ษณะใช้แรงงาน (heavy labor) แขนข้างถนดั ประวตั ิได้รับอบุ ตั ิเหตุ และมีอาการอ่อนกาลงั ของกล้ามเนือ้ ข้อไหล่ อย่างไรก็ตามจากการ วิเคราะห์ทางสถิติ พบว่า มีเพียง ปัจจยั อายทุ ่ีมาก แขนข้างถนดั และประวตั ิอบุ ตั ิเหตทุ ี่มี ผลต่อการเกิดการฉีกขาดของเส้นเอ็นใต้กระดูกสะบัก เช่นเดียวกับการศึกษาของ Silverstein และคณะ18 ที่พบว่าในกลมุ่ คนงานท่ีมีภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้

98 | วิถีชีวิตกบั ภาวะบาดเจบ็ เรือ้ รังของเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั กระดกู สะบกั ได้ทาการขอเงินคา่ ทดแทน และคา่ รักษา จะมีลกั ษณะงานท่ีใช้แรงในการยก ของ (manual handling) และมีลกั ษณะทางานซา้ ๆ (repetitive work) โดยมีงานท่ีมีอตั รา การเกิดภาวะนีส้ งู ได้แก่ คนงานตดิ ตงั้ ผนงั คนงานปหู ลงั คา และคนเก็บขยะ Van rijn และคณะ19 รวบรวมการศกึ ษาอย่างเป็นระบบ (systematic review) พบว่าอาชีพมีผลต่อการเกิดภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ภาวะนี ้ มกั จะเกิดในอาชีพที่มีการยกของหนกั กวา่ 20 กิโลกรัม และมากกวา่ 10 ครัง้ ตอ่ วนั ร่วมกบั งานท่ีใช้กาลงั มอื มากกวา่ 1 ชวั่ โมงตอ่ วนั ทงั้ สามปัจจยั จะเพิ่มความเส่ียงให้เกิดภาวะนีไ้ ด้ สงู ขึน้ 2.8 ถึง 4.2 เท่า ส่วนการทางานในลกั ษณะท่ีมีการเคลื่อนไหวข้อไหล่ซา้ ๆ และ ทางานในลกั ษณะท่ีมืออยสู่ งู กวา่ ศีรษะพบวา่ เพม่ิ ความเสย่ี งขนึ ้ 1.04 ถึง 4.7 เท่า สรุป อาชีพทีม่ ีการเคลื่อนไหวซ้าๆ ใชก้ าลงั มากหรือสูง หรือ ทางานในลกั ษณะ มืออยู่เหนือศีรษะจะเพ่ิมความเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บเรื้อรังของเสน้ เอ็นใต้กระดูก สะบกั ซึ่งสาเหตหุ ลกั เชือ่ ว่าเกิดจากการบาดเจ็บซ้าๆ การเรียนรู้ จากการสืบค้นข้อมลู ยงั ไม่มีการศกึ ษาถึงความสมั พนั ธ์ในด้าน การเรียนรู้ กบั ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ผลกระทบของภาวะการบาดเจบ็ เรือ้ รังของเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบักต่อวิถีชีวติ การอุปโภค/บริโภค ผ้ปู ่ วยท่ีมีภาวะเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั บาดเจ็บเรือ้ รังมกั จะไม่มีปัญหาการใช้งาน ข้อไหลใ่ นกิจกรรมของการกินอาหาร เนื่องจากกิจกรรมตา่ งๆ มกั จะไม่มีการใช้งานข้อไหล่ ในลกั ษณะยกขึน้ เหนือศีรษะ (overhead activity) ยกของท่ีมีนา้ หนกั มาก หรือต้องใช้

วถิ ีชีวิตกบั โรค | 99 กาลงั ข้อไหล่ ทาให้ภาวะนีอ้ าจจะไม่มีผลกระทบต่อการกิน และไม่มีการศกึ ษาใดรายงาน ผลกระทบตอ่ การกิน ผลของอาการปวดท่ีมีต่อความอยากอาหาร อาจจะส่งผลบ้างไม่แตกต่างกับ อาการปวดเรือ้ รังอ่ืนๆ และคาดว่าอาจจะส่งผลไม่มาก เน่ืองจากอาการปวดในผ้ปู ่ วยที่มี ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั มกั จะมีอาการในบางกิจกรรมเท่านนั้ ไมม่ ีอาการปวดตลอดเวลา ตามการศกึ ษาของ Smith และคณะ20 พบว่ามีเพียงร้อยละ 32 ของผ้ปู ่วยที่มีภาวะดงั กลา่ วมีอาการปวดในขณะพกั (feel uncomfortable at rest) สรุป ภาวะการบาดเจ็บเรื้อรังของเสน้ เอ็นใตก้ ระดูกสะบกั มีผลนอ้ ย หรือไม่มีผล ต่อ วิถีชีวิตในดา้ นการอปุ โภค/บริโภค การอยู่อาศยั ในผ้ปู ่ วยที่มีภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั มกั จะมีอาการ ปวดข้อไหล่ โดยเฉพาะอย่างย่ิง ในทิศทางของการเคลื่อนไหวที่มีการยกแขนมาด้านหน้า หบุ แขนเข้าหาตวั และหมนุ ข้อไหล่ ทาให้การพิสยั การเคล่ือนไหวของข้อไหลล่ ดลง ในบาง รายมีการอ่อนกาลงั ของข้อไหล่ ทาให้ไม่สามารถทากิจกรรมบางอย่างได้ เช่น การยกของ หรือจดั ของขนึ ้ บนท่ีสงู เช่น ตู้ หรือ ชนั้ วางของได้ และการยกของระดบั ข้อไหล่ เช่น การเตมิ นา้ ในกานา้ ชา ในบางกิจกรรมที่ใช้ข้อไหล่เคล่ือนไหวในทิศทางการหมนุ ในผ้ปู ่ วยอาจจะ ทาไมไ่ ด้หรือทาด้วยความลาบาก เชน่ การแตง่ กาย ปลอดตะขอเสอื ้ ชนั้ ในด้านหลงั การขบั รถ และการล้วงกระเป๋ าทางด้านหลงั ในการเล่นกีฬา อาจจะทาให้ผ้ปู ่ วยไม่สามารถเล่นได้โดยเฉพาะกีฬาที่ใช้ข้อไหล่ ยกขนึ ้ เหนือศีรษะ (overhead activity) หรือต้องใช้กาลงั ข้อไหล่ เชน่ เทนนิส กอล์ฟ Smith และคณะ20ได้รายงานการประเมินการใช้งานข้อไหล่ในผ้ปู ่ วยที่มีภาวะนี ้ พบวา่ ร้อยละ 75 ไม่สามารถทาความสะอาดร่างกายบริเวณไหลด่ ้านหลงั ได้ วางของบนท่ี

100 | วิถีชีวติ กบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั สงู เช่น หลงั ตู้ หรือชนั้ วางของได้ลาบาก โดยเฉพาะอย่างย่ิงของที่มีนา้ หนักมากกว่า 2 ปอนด์ และร้อยละ 55 ไม่สามารถติดตะขอเสือ้ ทางด้านหลงั หรือใช้มือจับศีรษะทาง ด้านหลงั ได้ สรุป ผู้ป่ วยที่มีภาวะเส้นเอ็นใต้กระดูกสะบักบาดเจ็บเรื้อรัง จะทาให้การใช้ ชีวิตประจาวนั ไดย้ ากลาบากมากข้ึน ทง้ั การการทาความสะอาดร่างกาย การแต่งตวั และ การจดั ของในบา้ นประสบปัญหาไม่สามารถทาได้ การนอนหลับ/พกั ผ่อนหย่อนใจ ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั มกั จะทาให้ผ้ปู ่ วยมีอาการ ปวดเวลานอน และอาการปวดจะรบกวนการนอน ทาให้ไม่สามารถนอนได้สนิท หรือมี อาการปวดมากขนึ ้ ในขณะเปล่ียนท่านอน ในบางรายทาให้นอนไม่หลบั ไมส่ ามารถหาท่า นอนท่ีสบายได้ หรือหลบั ไม่สนิท จากการศกึ ษาของ Smith และคณะ20 ในการดกู ารใช้งาน ข้อไหลท่ ี่ลดลงหลงั มีภาวะฉีกขาดของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั พบว่าร้อยละ 86 ของผ้ทู ี่มี ภาวะนี ้ไมส่ ามารถนอนตะแคงทบั ข้อไหลท่ ี่มีการบาดเจ็บได้ อีกปัจจยั หน่ึงซง่ึ มีผลกระทบต่อการนอน ทาให้ผ้ทู ่ีมีภาวะเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั บาดเจ็บเรือ้ รังมีปัญหาการนอน นอนไม่หลับ คือ ภาวะเครียด (anxiety) และ ภาวะ ซมึ เศร้า (depression) จากการศกึ ษาของ Cho และคณะ21 พบว่าผ้ปู ่ วยที่มีเส้นเอ็นใต้ กระดกู สะบกั บาดเจ็บเรือ้ รัง มีภาวะเครียด และ ภาวะซึมเศร้า สงู ถึงร้อยละ 23.4 และ 26.2 ตามลาดบั ซงึ่ ภาวะนีท้ าให้ผลของการรักษาแยล่ ง สรุป ภาวะการบาดเจ็บเรื้อรังของเส้นเอ็นใต้กระดูกสะบกั มีผลต่อการนอนใน ผู้ป่ วยอย่างมาก ทาให้คุณภาพชีวิ ตโดยรวมแย่ลง และส่งผลกระทบ ทาให้เกิ ด ความเครียด และซึมเศร้าได้

วิถีชีวิตกบั โรค | 101 การมีสัมพนั ธ์กบั คนรัก/คนใกล้ชดิ แม้อาการปวดไหล่จากการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั อาจรบกวน กิจกรรมดังกล่าว โดยเฉพาะการใช้ข้อไหล่ การนอนตะแคงหรือการนอนคว่าซึ่งมีแรง กระทาตอ่ ข้อไหลม่ ากขนึ ้ และการนอนหงายน่าจะเป็นการหลีกเล่ียงแรงกระทาต่อข้อไหล่ ได้ดีที่สดุ อยา่ งไรก็ดยี งั ไมม่ ีรายงานทางการแพทย์ท่ีชดั เจนในหวั ข้อนี ้ การส่ือสาร ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ยงั ไม่มีรายงานทางการแพทย์ท่ี ชดั เจนในหวั ข้อนี ้แตม่ ีความเป็นไปได้วา่ อาการปวดข้อไหลอ่ าจรบกวนการถือโทรศพั ท์เพื่อ การสอื่ สารหากต้องใช้ข้อไหลใ่ นทา่ ฝืนธรรมชาตเิ ป็นระยะเวลานานตอ่ เนื่อง การทางาน ผลกระทบต่อการทางาน พบว่า อาการปวดข้อไหล่ทาให้การใช้งานลดลง ซงึ่ มีผลต่อ การทางานอยา่ งไรก็ตามภาวะนีม้ กั จะเกิดในกลมุ่ ประชากรสงู อายุ ซงึ่ มีบางสว่ นไมไ่ ด้ทางานแล้ว ในกล่มุ ที่มีลกั ษณะงานที่ไม่ได้ใช้แรงงาน ยกหรือ แบกหาม เช่น ผ้ชู ่วยพยาบาล พบวา่ อาการปวดข้อไหลจ่ ากภาวะเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั อกั เสบเรือ้ รังมผี ลกระทบตอ่ งาน สงู ถึงร้อยละ 68.822 ผลกระทบของอาการปวดทาให้ไม่สามารถทางานได้มีรายงานอย่างชัดเจน ใน การศกึ ษาของ Silverstein และคณะ18 พบวา่ มีการเรียกร้องคา่ ชดเชยจากภาวะเส้นเอน็ ใน กระดกู สะบกั บาดเจ็บเรือ้ รัง โดยมีอบุ ตั ิการณ์สงู ถึง 19.9 ในคนงานจานวน 10,000 คน และมีคา่ ใช้จ่ายเฉลี่ยในการรักษา และหยดุ งานเท่ากบั 15,790 เหรียญ คนงานท่ีเรียกร้อง คา่ ทดแทนมกั จะมลี กั ษณะงานที่ต้องมกี ารยกของและทางานซา้ ๆ จากการศึกษาของ Mather และคณะ 23 ได้เปรียบเทียบ ค่าใช้จ่ายในการดแู ล ผ้ปู ่วยที่มีภาวะเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั ฉีกขาด โดยดจู ากคา่ ใช้จ่ายในการผ่าตดั คา่ ใช้จ่าย

102 | วิถีชีวติ กบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั ในการทากายภาพ ค่ายา และค่าใช้จ่ายทางอ้อม เช่น ค่าสูญเสียโอกาสในการทางาน คา่ ใช้จ่ายในการหยดุ งาน คา่ ใช้จ่ายอ่ืนๆ ท่ีเกิดจากการมีภาวะนี ้เปรียบเทียบกบั คณุ ภาพ ชีวิต พบว่า ในกล่มุ ผ้ปู ่ วยอายรุ ะหว่าง 30 ถึง 39 ปี ถ้าผ้ปู ่ วยได้รับการผ่าตดั จะช่วยลด คา่ ใช้จ่ายโดยรวมประมาณ 77,662 เหรียญ ในกลมุ่ ผ้ปู ่วยอายรุ ะหวา่ ง 70 ถึง 79 ปี จะลด ค่าใช้จ่ายเพียง 13,771 เหรียญ ค่าใช้จ่ายท่ีมากขึน้ ในกล่มุ ผ้ปู ่ วยอายนุ ้อย เนื่องจากมี ค่าใช้จ่ายท่ีเกิดจากการไม่สามารถทางานได้ และการผ่าตดั สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายท่ี เกิดขนึ ้ ในผ้ปู ่วยที่มีภาวะเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั ฉีกขาด สรุป ภาวะการบาดเจ็บเรื้อรังของเส้นเอ็นใต้กระดูกสะบกั มีผลต่อการทางาน สูญเสียโอกาสในการทางาน ไม่สามารถทางานได้ อย่างไรก็ตามภาวะนี้มกั เกิดในกลุ่ม ผูส้ งู อายุ ทีเ่ กษียณอายหุ รือหยดุ ทางานแลว้ การเรียนรู้ ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดูกสะบัก ยังไม่มีรายงานทาง การแพทย์ท่ีชดั เจนในหวั ข้อนี ้ บทวเิ คราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล วิถีชีวิตตา่ งๆ ท่ีมีผลต่อภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั โดยสรุป ได้แก่ ปัจจยั ในด้านการอยู่ และการทางาน โดยการทางาน หรืออาชีพท่ีมีผลต่อการเกิด การบาดเจ็บนีม้ กั จะต้องมีลกั ษณะ ใช้กาลงั มีการใช้งานในลกั ษณะทาซา้ ๆ และหรือใช้ข้อ ไหลใ่ นลกั ษณะท่ีแขนอยเู่ หนือศีรษะ สว่ นปัจจยั ท่ีกระต้นุ ให้เกิดภาวะนีไ้ ด้ง่าย ได้แก่การสบู บหุ รี่ ซงึ่ สง่ ผลกระทบตามปริมาณ และระยะเวลาที่บริโภค สว่ นการออกกาลงั กายที่ถกู ต้อง จะช่วยลดอาการท่ีเกิดจากภาวะนีไ้ ด้ ในทางตรงข้าม ถ้าทาไมถ่ กู ต้องอาจจะสง่ ผลเสีย ทา ให้เพมิ่ ความเสย่ี งตอ่ การเกิดภาวะนีไ้ ด้ (รูปท่ี 2)

วถิ ีชีวิตกบั โรค | 103 ปัจจยั ท่ีไม่มีผลโดยตรง แต่อาจจะส่งผลกระทบทางอ้อมได้แก่ การกิน การนอน การขาดสารอาหารบางประเภท หรือภาวะอ้วนลงพงุ ซง่ึ เพิ่มโอกาสที่จะมีการปวดข้อไหล่ ได้ โดยในกล่มุ ท่ีมีอาการปวดไหล่อาจจะมีผ้ปู ่ วยบางส่วนมีภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้น เอ็นใต้สะบกั ส่วนในการนอนลกั ษณะการนอนตะแคง และการนอนคว่าอาจจะเพ่ิมความ เส่ียงตอ่ การบาดเจ็บได้ ส่วนปัจจยั ด้านการมีสมั พนั ธ์กับคนรัก/คนใกล้ชิด (sexual activity) การเรียนรู้ และการส่อื สาร ไม่พบความเก่ียวเนื่องโดยตรงกบั การบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้สะบกั

104 | วถิ ีชีวิตกบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั รูปท่ี 2 วถิ ีชีวติ ตา่ งๆ ที่มีผลตอ่ ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอน็ ใต้กระดกู สะบกั

วถิ ีชีวติ กบั โรค | 105 ผลของภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้สะบกั ที่มีตอ่ วิถีชีวิต โดยส่วนใหญ่ จะกระทบชีวิตความเป็นอยู่ การนอน รวมไปถึงการทางาน โดยมีความปวด และการอ่อน กาลงั ทาให้ผ้ปู ่วยที่มีภาวะนีไ้ ม่สามารถทากิจกรรม ออกกาลงั กาย หรือทางานเพื่อหาเลีย้ ง ชีพได้ โดยภาพรวมแล้วภาวะนีท้ าให้คณุ ภาพชีวติ ลดลง ในปัจจบุ นั สงั คมไทยเริ่มเข้าสสู่ งั คมผ้สู งู อายุ และสงั คมอตุ สาหกรรม ทาให้จานวน ผ้สู งู อายุท่ีมีอาชีพใช้แรงงานเพิ่มมากขึน้ ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดูก สะบักเพ่ิมขึน้ ตามจานวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึน้ ส่งผลกระทบต่อการใช้ จ่ายในการ รักษาพยาบาลท่ีสงู ขนึ ้ ภาวะนีเ้ก่ียวเนื่องกบั วิถีชีวิตโดยตรง ซงึ่ วิถีชีวิตตา่ งๆที่ต้องทาเป็นประจาสง่ ผลให้ เกิดภาวะนีไ้ ด้ เช่นการทางาน ในบางกรณีไม่สามารถหลีกเล่ียง ไมส่ ามารถเปล่ียนงาน ไม่ ตระหนักถึงความสาคัญของการใช้ งานข้อไหล่ท่ีหนักเกินไป หรือการใช้งานผิดวิธี เน่ืองจากภาวะนีเ้กิดจากการบาดเจ็บซา้ ๆ จนมีการเปล่ียนแปลงของโครงสร้างของกระดกู และเส้นเอ็นรอบข้อไหล่ ซึ่งใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานในการแสดงอาการ ดงั นัน้ ผู้ป่ วย มกั จะมีอาการในช่วงอายุท่ีมากหรือเกิดขึน้ หลงั เกษียณ และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่นการ ทางาน การสบู บุหรี่ การออกกาลงั กายท่ีผิดนนั้ เกิดขึน้ มาค่อนข้างนานก่อนที่จะมีอาการ การเปล่ียนแปลงวิถีชีวิตในช่วงเวลาท่ีมีอาการ แม้จะทาให้อาการปวดท่ีเกิดจากภาวะนีด้ ี ขนึ ้ แตม่ กั จะไมเ่ ปล่ยี นแปลงพยาธิสภาพท่ีเกิดขนึ ้ บริเวณเส้นเอน็ มากนกั ดงั นนั้ การปอ้ งกนั ให้ความรู้กับประชาชน และการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง น่าจะช่วยลด ภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ได้ ข้อเสนอแนะ ในปัจจบุ นั พบภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ได้บอ่ ยมากขนึ ้ ซ่ึงมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจาวนั การนอน การอยู่ และการทางาน ในบางครัง้ จะ

106 | วิถีชีวิตกบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั ส่งผลเสียในระยะยาว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เช่นภาวะข้อไหล่เสื่อมสภาพ อบุ ตั กิ ารณ์เกิดพบมากขนึ ้ ตามอายขุ องกลมุ่ ประชากรที่เพิม่ ขนึ ้ ปัจจยั เส่ียงเกิดขนึ ้ จากหลายปัจจยั ร่วมกนั โดยปัจจยั เส่ียงหลกั บางส่วนที่พบเกิด จาก ปัจจยั จากตวั ผ้ปู ่วยเอง เช่นการเสือ่ มสภาพของเส้นเอ็น ซง่ึ ไมส่ ามารถเปล่ียนแปลงได้ และปัจจัยที่เกิดจากสภาพแวดล้อม เช่นการใช้งาน การสูบบุหร่ี ซึ่งเป็นปัจจัยห ลักท่ี สามารถปรับเปลี่ยนได้ การป้องกนั ตงั้ แตเ่ ร่ิมต้นในกลมุ่ ผ้ปู ระชากรท่ีมีความเสี่ยง โดยการ ลดปัจจยั เสย่ี ง การสง่ เสริมการฝึกกล้ามเนือ้ ในกลมุ่ เสยี่ ง จะช่วยลดการเกิดภาวะนีไ้ ด้ แนวทางในการปฏบิ ตั ิ 1. ตงั้ เปา้ หมายหาประชากรกลมุ่ เสย่ี ง a. กลมุ่ ประชากรท่ีมีลกั ษณะอาชีพเสี่ยง b. กลมุ่ ประชากรที่มีการสบู บหุ รี่ c. กลมุ่ ประชากรที่มีปัจจยั เสี่ยงภายใน เชน่ มปี ระวตั คิ รอบครัว 2. เน้นยา้ ให้กลมุ่ เส่ียงเห็นหรือตะหนกั ถึงความสาคญั ของปัจจยั เสี่ยง และโรคท่ีจะ เกิดในอนาคต 3. ลดปัจจยั เสย่ี ง a. หาแนวทางปอ้ งกนั หรือปรับลกั ษณะของงานที่ทา b. รณรงค์ให้กลมุ่ เสยี่ งหยดุ สบู บหุ รี่ c. เสริมสร้างกล้ามเนือ้ รอบข้อไหล่ ให้แข็งแรงอยา่ งถกู วิธี 4. ทาการศกึ ษาเพ่ิมเติมเกี่ยวกบั ผลกระทบของภาวะการบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็น ใต้กระดกู สะบกั ท่ีมีต่อวิถีชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง กิจกรรมเฉพาะที่มี เฉพาะในคนไทย เช่น งานกอ่ สร้าง งานในโรงงาน หรืองานทางภาคเกษตรกรรม

วิถีชีวิตกบั โรค | 107 บทสรุป วิถีชีวิตด้านต่างๆ มีผลตอ่ ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั สง่ ผล ตอ่ คณุ ภาพชีวติ และคา่ ใช้จา่ ยในอนาคต ซง่ึ หากไมไ่ ด้รับการปอ้ งกนั อย่างถกู ต้องจะสง่ ผล ต่อไปเป็นปัญหาสุขภาพที่สาคัญของคนไทย การตระหนักถึงความสาคัญและการลด ปัจจยั เสี่ยงต่างๆ ในกล่มุ เส่ียงที่ไม่มีอาการจะช่วยลดภาวะนีไ้ ด้ การรวบรวมข้อมูลยงั มี ข้อจากดั ในหลายด้าน เช่น การศกึ ษาทาในต่างประเทศ วฒั นธรรม หรือวิถีชีวิต อาจจะมี ความแตกตา่ งในบางแง่มมุ ทาให้มีข้อจากดั ที่จะนามาประยกุ ต์ใช้ในคนไทย เอกสารอ้างองิ 1. Lewis JS, Sandford FM. Rotator cuff tendinopathy: is there a role for polyunsaturated Fatty acids and antioxidants? J Hand Ther 2009;22:49-55; quiz 6. 2. Abboud JA, Kim JS. The effect of hypercholesterolemia on rotator cuff disease. Clin Orthop Relat Res 2010;468:1493-7. 3. Longo UG, Franceschi F, Ruzzini L, Spiezia F, Maffulli N, Denaro V. Higher fasting plasma glucose levels within the normoglycaemic range and rotator cuff tears. Br J Sports Med 2009;43:284-7. 4. Angeline ME, Ma R, Pascual-Garrido C, Voigt C, Deng XH, Warren RF, et al. Effect of diet-induced vitamin D deficiency on rotator cuff healing in a rat model. Am J Sports Med 2014;42:27-34. 5. Rechardt M, Shiri R, Karppinen J, Jula A, Heliovaara M, Viikari-Juntura E. Lifestyle and metabolic factors in relation to shoulder pain and rotator cuff tendinitis: a population-based study. BMC Musculoskelet Disord 2010;11:165.

108 | วิถีชีวิตกบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั 6. Baumgarten KM, Gerlach D, Galatz LM, Teefey SA, Middleton WD, Ditsios K, et al. Cigarette smoking increases the risk for rotator cuff tears. Clin Orthop Relat Res 2010;468:1534-41. 7. Jain NB, Higgins LD, Katz JN, Garshick E. Association of shoulder pain with the use of mobility devices in persons with chronic spinal cord injury. PM R 2010;2:896-900. 8. Veeger HE, Rozendaal LA, van der Helm FC. Load on the shoulder in low intensity wheelchair propulsion. Clin Biomech (Bristol, Avon) 2002;17:211-8. 9. Akbar M, Balean G, Brunner M, Seyler TM, Bruckner T, Munzinger J, et al. Prevalence of rotator cuff tear in paraplegic patients compared with controls. J Bone Joint Surg Am 2010;92:23-30. 10. Akbar M, Brunner M, Balean G, Grieser T, Bruckner T, Loew M, et al. A cross-sectional study of demographic and morphologic features of rotator cuff disease in paraplegic patients. J Shoulder Elbow Surg 2011;20:1108- 13. 11. Werner CM, Ossendorf C, Meyer DC, Blumenthal S, Gerber C. Subacromial pressures vary with simulated sleep positions. J Shoulder Elbow Surg 2010;19:989-93. 12. Litchfield R. Progressive strengthening exercises for subacromial impingement syndrome. Clin J Sport Med 2013;23:86-7. 13. Lewis JS. A specific exercise program for patients with subacromial impingement syndrome can improve function and reduce the need for surgery. J Physiother 2012;58:127.

วถิ ีชีวิตกบั โรค | 109 14. Holmgren T, Bjornsson Hallgren H, Oberg B, Adolfsson L, Johansson K. Effect of specific exercise strategy on need for surgery in patients with subacromial impingement syndrome: randomised controlled study. BMJ 2012;344:e787. 15. Couanis G, Breidahl W, Burnham S. The relationship between subacromial bursa thickness on ultrasound and shoulder pain in open water endurance swimmers over time. J Sci Med Sport 2014. 16. Batalha N, Marmeleira J, Garrido N, Silva AJ. Does a water-training macrocycle really create imbalances in swimmers' shoulder rotator muscles? Eur J Sport Sci 2014:1-6. 17. Yamamoto A, Takagishi K, Osawa T, Yanagawa T, Nakajima D, Shitara H, et al. Prevalence and risk factors of a rotator cuff tear in the general population. J Shoulder Elbow Surg 2010;19:116-20. 18. Silverstein B, Welp E, Nelson N, Kalat J. Claims incidence of work-related disorders of the upper extremities: Washington state, 1987 through 1995. Am J Public Health 1998;88:1827-33. 19. van Rijn RM, Huisstede BM, Koes BW, Burdorf A. Associations between work-related factors and specific disorders of the shoulder--a systematic review of the literature. Scand J Work Environ Health 2010;36:189-201. 20. Smith KL, Harryman DT, 2nd, Antoniou J, Campbell B, Sidles JA, Matsen FA, 3rd. A prospective, multipractice study of shoulder function and health status in patients with documented rotator cuff tears. J Shoulder Elbow Surg 2000;9:395-402.

110 | วถิ ีชีวิตกบั ภาวะบาดเจ็บเรือ้ รังของเส้นเอ็นใต้กระดกู สะบกั 21. Cho CH, Seo HJ, Bae KC, Lee KJ, Hwang I, Warner JJ. The impact of depression and anxiety on self-assessed pain, disability, and quality of life in patients scheduled for rotator cuff repair. J Shoulder Elbow Surg 2013;22:1160-6. 22. Martins LV, Marziale MH. Assessment of proprioceptive exercises in the treatment of rotator cuff disorders in nursing professionals: a randomized controlled clinical trial. Rev Bras Fisioter 2012;16:502-9. 23. Mather RC, 3rd, Koenig L, Acevedo D, Dall TM, Gallo P, Romeo A, et al. The societal and economic value of rotator cuff repair. J Bone Joint Surg Am 2013;95:1993-2000.

วิถีชีวิตกบั โรค | 111 วถิ ชี ีวติ กับโรคกระดกู และข้อทางมือ อ.นพ. เทพรัตน์ กาญจนเทพศกั ดิ์

112 | วิถีชีวติ กบั โรคทางมือและโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียน วถิ ชี ีวติ กับโรคกระดกู และข้อทางมือ อ.นพ. เทพรัตน์ กาญจนเทพศกั ดิ์ ท่มี าและความสาคัญของปัญหา ปัจจบุ นั ได้พบผ้ปู ่ วยโรคกระดกู และข้อทางมือที่มีความสมั พนั ธ์กบั วิถีชีวิตจานวน มากขนึ ้ เชน่ โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียนท่ีข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) โรค ปลอกห้มุ เส้นเอ็นที่ข้อมืออกั เสบ (de Quervian disease) โรคนิว้ ลอ็ ค (Trigger finger) เป็นต้น แต่กลบั พบว่ายงั มีช่องว่างของแพทย์กบั ผ้ปู ่ วย เนื่องจากแพทย์จานวนไม่น้อยยงั ขาดทกั ษะในการสื่อสารความรู้ท่ีตนมีไปส่สู าธารณชน ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย น่าสนใจ และเป็นไปได้ในทางปฏบิ ตั ิ นอกจากนีย้ งั มีช่องว่างขององค์ความรู้ทางการแพทย์ที่ศกึ ษา ความสมั พนั ธ์ระหว่างปัจจยั ทางวิถีชีวิตกบั โรคทางมือที่พบบอ่ ย ท่ีแสดงออกมาในรูปแบบ ของอาการ และอาการแสดงตา่ งๆ โดยสว่ นใหญ่แล้วแพทย์มกั จะทาการศกึ ษาวจิ ยั เจาะลกึ เกี่ยวกบั ตวั โรค โดยมิได้นามาประกอบเช่ือมโยงกบั วิถีชีวิตประจาวนั ของมนษุ ย์ จึงทาให้มี ความยากลาบากท่ีจะพฒั นากระบวนการดแู ลรักษาผ้ปู ่วยให้มีความครบถ้วนและตอ่ เนื่อง ตงั้ แตก่ ารสง่ เสริมสขุ ภาพ การปอ้ งกนั การรักษา และการฟื น้ ฟู ในการนี ้ ผู้วิจัยเล็งเห็นถึงความสาคัญของประเด็นดังกล่าว และสนใจที่จะ ดาเนินการวิจยั และพฒั นาองค์ความรู้เกี่ยวกบั วิถีชีวิตของประชากร กบั โรคกระดกู และข้อ บริเวณมือภายใต้แนวคิดการสร้ างเสริมสุขภาพแบบอิงวิถีชีวิต ท่ีมุ่งเน้นวิถีชีวิตของ ประชากรใน 7 มิติ ซง่ึ จะครอบคลมุ วถิ ีชีวติ ประจาวนั ของประชากรได้ทงั้ หมด ได้แก่ 1. การอปุ โภค/บริโภค 2. การอยอู่ าศยั 3. การนอนหลบั พกั ผอ่ น

วิถีชีวิตกบั โรค | 113 4. การมีสมั พนั ธ์กบั คนรักหรือคนใกล้ชิด 5. การสอื่ สาร 6. การทางาน 7. การเรียนรู้ ขอบเขตการทบทวนวรรณกรรม ศึกษาทบทวนวรรณกรรม เพื่อวิเคราะห์ สังเคราะห์ปัจจัยทางวิถีชีวิตกับโรค กระดกู และข้อทางมือท่ีพบบอ่ ย โดยมงุ่ เน้นวิถีชีวิตของประชากรใน 7 มิติดงั ที่กลา่ วข้างต้น โดยครอบคลมุ หวั ข้อตา่ งๆ ดงั นี ้  องค์ความรู้ในตา่ งประเทศ และประเทศไทยเก่ียวกบั วิถีชีวติ ของประชากรทงั้ 7 มิติ ที่ได้รับการศึกษาวิจยั แล้วว่ามีความสมั พนั ธ์ในแง่ของ ปัจจยั เส่ียงท่ีเป็นสาเหตุ ของโรคนนั้ ๆ หรือโรคนนั้ ๆ มีผลกระทบตอ่ วถิ ีชีวิตในแตล่ ะมิตอิ ย่างไรบ้าง  การทบทวนวรรณกรรมนีจ้ ะทาการศึกษาในโรคที่พบบ่อย คือ โรคพงั ผืดกดทับ เส้นประสาทมีเดียนที่ข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) และโรคนิว้ ล็อค (Trigger finger)  วิเคราะห์ และสงั เคราะห์ข้อมลู ที่ได้ เพื่อนาไปสกู่ ารปอ้ งกนั หรือลดทอนปัจจยั เสย่ี งตา่ งๆ

114 | วถิ ีชีวติ กบั โรคทางมือและโรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมเี ดียน วถิ ีชีวติ กับโรคพังผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียนท่ขี ้อมือ อ.นพ. เทพรัตน์ กาญจนเทพศกั ดิ์

วถิ ีชีวติ กบั โรค | 115 วิถีชีวิตกบั โรคพงั ผืดกดทับเส้นประสาทมีเดยี นท่ขี ้อมือ อ.นพ. เทพรัตน์ กาญจนเทพศกั ดิ์ โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดยี นท่ขี ้อมือ (Carpal tunnel syndrome) โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียน (Median nerve) บริเวณข้อมือ หรือ Carpal tunnel syndrome (CTS) พบได้บอ่ ยท่ีสดุ ในกลมุ่ โรคเส้นประสาทถกู กดทบั เส้นประสาท มีเดียนจะลอดผ่านช่องบริเวณข้อมือเพื่อไปเลีย้ งกล้ามเนือ้ ในมือ และรับความรู้สกึ ที่ปลาย นิว้ มือ ภายในช่องนีจ้ ะมีกระดูกข้ อมือเป็นฐาน และมีพังผืดที่หนาคลุมอยู่ด้านบน (Transverse carpal ligament) นอกจากนนั้ ยงั มีเส้นเอ็นของนิว้ มืออยภู่ ายในช่องนีด้ ้วย (รูปท่ี 1 และ 2) เพราะฉะนนั้ ถ้ามีการอกั เสบ และหนาตวั ของเยื่อห้มุ เส้นเอ็นก็จะทาให้เกิด การกดทบั เส้นประสาทมีเดียนได้เช่นกนั หรือในตอนที่ทากิจกรรมในท่าท่ีข้อมืองออยู่เป็น เวลานานๆ หรือทางานที่ใช้มือซา้ ๆ หรืองานท่ีมีแรงสนั่ สะเทือนต่อข้อมือ ทงั้ การอกั เสบ หนาตัวของเยือ้ หุ้มเส้นเอ็น และลักษณะท่าทางของข้อมือจะทาให้เกิดการกดทับต่อ เส้นประสาทซง่ึ จะทาให้เลอื ดไปเลยี ้ งเส้นประสาทได้น้อยลง ผ้ปู ่วยจะมีอาการชา หรือปวด ท่ีนิว้ หวั แม่มือ นิว้ ชี ้ นิว้ กลาง และครึ่งหนึ่งของนิว้ นาง บางครัง้ อาจปวดร้าวขึน้ ไปท่ีท่อน แขน และมกั เป็นตอนกลางคืนขณะหลบั หรือตอนเช้าหลงั ตื่นนอน ถ้าเส้นประสาทถกู กด ทบั มากขนึ ้ หรือเป็นเวลานานจะทาให้กล้ามเนือ้ บริเวณนิว้ หวั แม่มือออ่ นแรงจนการใช้งาน ของมือลดลง (รูปท่ี 3) การตรวจร่างกายโดยการให้ผ้ปู ่วยเอาหลงั มือชนกนั ในลกั ษณะให้ ปลายนิว้ ชีล้ งท่ีพืน้ (Modified Phalen’s test) ถ้าผ้ปู ่ วยมีอาการชา หรือปวดไปที่ปลาย นิว้ หวั แมม่ ือ นิว้ ชี ้นิว้ กลาง หรือคร่ึงหนงึ่ ของนิว้ นางภายในเวลา 1 นาที ให้สงสยั ว่าอาจจะ มีภาวะพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดยี นนอกจากนีก้ ารตรวจวดั กระแสไฟฟา้ ของเส้นประสาทมีเดยี น ก็จะชว่ ยยืนยนั การวนิ จิ ฉยั และบอกความรุนแรงของโรคได้

116 | วิถีชีวิตกบั โรคทางมือและโรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมีเดียน ในการศกึ ษาที่ผา่ นมาพบวา่ สาเหตขุ องการเกิดโรคนีม้ ีหลายปัจจยั คือ ปัจจยั จาก ตวั ผ้ปู ่ วยเอง เช่น เพศหญิง ภาวะอ้วน อายุ เคยมีกระดกู บริเวณข้อมือหกั ข้อมือเส่ือม โรค ข้ออกั เสบรูมาตอยด์ โรคเบาหวาน1,2 และปัจจัยจากภายนอก เช่น ลกั ษณะการทางาน การใช้งานข้อมือ การใช้ยาบางอยา่ ง เช่น ยาเบาหวาน ยาไทรอยด์2 เป็นต้น ซงึ่ ผ้เู ขียนเห็น วา่ ปัจจยั ต่างๆ เหล่านีน้ ่าจะมีความสมั พนั ธ์กบั วิถีการดาเนินชีวิตของประชากรทวั่ ไป โดย จะแยกวิเคราะห์ว่า วิถีชีวิตทงั้ 7 มิตินีม้ ีผลกระทบ หรือมีความสมั พนั ธ์กบั การเกิดโรค อยา่ งไร และตวั โรคเองมีผลกระทบกบั วิถีชีวิตในแตล่ ะมติ อิ ยา่ งไร ดงั นี ้ รูปท่ี 1 แสดงกายวิภาคของเส้นประสาทมเี ดยี น (Median nerve) ท่ีบริเวณข้อมือซงึ่ จะ ลอดผา่ นชอ่ งข้อมือโดยมีพงั ผืดคลมุ อยดู่ ้านบน

วถิ ีชีวิตกบั โรค | 117 i รูปท่ี 2 กายวิภาคภาพตดั ขวางแสดงให้เห็นเส้นประสาทมีเดียน (Median nerve) ที่ บริเวณข้อมือ ซง่ึ จะลอดผา่ นช่องข้อมือพร้อมกบั เส้นเอ็นท่ีใช้ในการงอนิว้ โดยมีพงั ผืดคลมุ อย่ดู ้านบน (ดดั แปลงจาก MAYO FOUNDATION FOR MEDICALEDUCATION AND RESEARCH) การใช้งาน ความดนั ใน เส้นประสาท เส้นประสาท ระยะแรกจะ ระยะต่อมา ข้อมอื ซา้ ๆ ช่องกระดกู มีเดียนขาด บวม และถกู มีอาการชาที่ จะมี หรือการ เลือดไปเลีย้ ง กระดกข้อมอื ข้อมือ ทาลาย ปลายนิว้ กล้ามเนือ้ ค้างไว้นานๆ เพ่ิมขนึ ้ ออ่ นแรง รูปท่ี 3 ภาพแสดงพยาธิสภาพของการเกิดโรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมีเดียนท่ีข้อมือ วิถชี วี ติ ท่มี ีผลต่อการเกดิ โรคพังผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดยี นท่ขี ้อมือ มือ เป็นอวยั วะที่ใช้งานเกือบตลอดเวลา วิถีชีวิตทงั้ 7 มิติ คือ กิน อยู่ หลบั นอน ส่ือสาร ทางาน และเรียนรู้นนั้ จะเห็นว่าเกือบทุกมิติจะมีการใช้มือเข้าไปเก่ียวข้อง ซึ่งวิถี ชีวติ ตา่ งๆ นีจ้ ะมีการใช้มือในลกั ษณะท่าทางตา่ งๆ กนั ไป ซง่ึ อาจจะเป็นปัจจยั โดยตรง หรือ เป็นปัจจยั ส่งเสริมที่จะนาไปส่โู รคพงั ผืดกดทับเส้นประสาทมีเดียนที่ข้อมือได้ เช่น การที่

118 | วถิ ีชีวิตกบั โรคทางมือและโรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมเี ดียน ข้อมืออยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมไม่ว่าจะตอนใช้งาน หรือไม่ได้ใช้งาน เช่น ขณะนอนหลบั กล่าวคือ มีการกระดกข้อมือขนึ ้ มากเกิน 32.7 องศา หรือกระดกข้อมือลงมากเกิน 48.6 องศา เป็นเวลานานเกิน 2 ชวั่ โมงจะทาให้เส้นประสาทมีเดยี นถกู กดทบั มากขนึ ้ 3 การอุปโภค/บริโภค การกนิ มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอย่างไร การกินท่ีมากเกินไปจะทาให้เกิดภาวะอ้วน โดยปัจจบุ นั จะใช้ดชั นีมวลกาย (Body mass index: BMI) เพ่อื มาคานวณหาความสมดลุ ของร่างกาย ซงึ่ จะใช้นา้ หนกั ตวั หารด้วย สว่ นสงู ยกกาลงั สอง โดยใช้นา้ หนกั ตวั เป็นกิโลกรัม และสว่ นสงู เป็นเมตร เมอ่ื ได้คา่ จากการ คานวณแล้ว ให้นามาเปรียบเทียบกบั เกณฑ์ ดงั นี ้น้อยกวา่ 18 ถือวา่ ผอม มากกวา่ หรือเท่า 18 แตน่ ้อยกว่า 25 ถือวา่ ปกติ มากกวา่ หรือเท่ากบั 25 แตน่ ้อยกว่า 30 ถือวา่ นา้ หนกั เกิน มากกวา่ หรือเท่ากบั 30 แตน่ ้อยกวา่ 40 ถือวา่ อ้วน มากกวา่ หรือเท่ากบั 40 ถือว่าอนั ตราย จากการศกึ ษาพบว่าภาวะอ้วน หรือมี BMI มากกวา่ 30 คือปัจจยั เส่ียงตอ่ โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมเี ดียนท่ีข้อมือ1 การอย่อู าศัย การอย่อู าศัยมีความสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร การอย่อู าศยั ในที่นีจ้ ะกล่าวถึงกิจกรรมที่ทาในบ้าน เช่น การทางานบ้าน การทา ครัว การทาสวน เป็นต้น ได้มีการศึกษาพบว่าการใช้มือในลกั ษณะเดิมซา้ ๆ ร่วมกับการ เกร็งข้อมือขณะกาสงิ่ ของจะทาให้เกิดภาวะพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทได้เพิม่ ขนึ ้ 4 โดยทว่ั ไป การทางานบ้านมกั จะมีการกาวตั ถใุ นมือร่วมกบั การใช้งานในท่าทางซา้ ๆ เช่น การจบั ไม้ กวาด หรือไม้ถพู ืน้ การทาครัว เช่น การจบั มีดหนั่ เนือ้ สตั ว์หรือผกั การทาสวน เช่น การจบั

วถิ ีชีวติ กบั โรค | 119 ตัดกิ่งไม้ เป็นต้น ซ่ึงน่าจะเป็นปัจจัยท่ีส่งเสริมให้เกิดโรคนีไ้ ด้ อย่างไรก็ตามยังไม่มี การศกึ ษาอยา่ งชดั เจนในเรื่องความสมั พนั ธ์ของการทางานบ้านกบั การเกิดโรคนี ้ เพศหญิงเป็นปัจจยั เสี่ยงตอ่ การเกิดโรคนีม้ ากกว่าเพศชาย เป็นท่ีน่าสงั เกตว่าโดย ส่วนใหญ่ผ้หู ญิงมกั ได้รับบทบาทในการทางานบ้าน หรือทาครัวมากกว่าผ้ชู าย ซ่ึงอาจจะ เป็นไปได้วา่ สาเหตทุ ่ีเพศหญิงพบโรคนีม้ ากกว่าอาจจะมาจากการท่ีต้องทางานในลกั ษณะ ที่เส่ยี งตอ่ การเกิดโรคมากกวา่ อยา่ งไรก็ดขี ้อสงั เกตนีเ้ป็นเพียงสมมติฐานยงั ไมม่ ีการศกึ ษา ชดั เจน การนอนหลับ/พกั ผ่อนหย่อนใจ การนอนหลับมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอย่างไร ผู้ป่ วยท่ีมีภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทมีเดียนท่ีข้อมือมกั มีอาการชาในตอน กลางคืนขณะนอนหลบั จนทาให้ต้องตื่นกลางดึก หรือหลงั ต่ืนนอนตอนเช้าจะมีอาการชา มาก ซงึ่ อาจเกิดจากการท่ีข้อมืออยใู่ นทา่ ที่ไม่เหมาะสม ได้มีผ้ศู กึ ษาถึงท่านอนระหวา่ งการ นอนหลบั พบว่าการนอนตะแคงมีความสมั พนั ธ์กบั การเกิดโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาท มีเดียนในข้างนนั้ ๆ5 เน่ืองจากการนอนตะแคงจะทาให้ข้อมืออย่ใู นท่างอ หรือเอียงมากกวา่ ปกติ ซง่ึ จะทาให้ไปเพ่ิมความดนั ในช่องข้อมือที่เส้นประสาทมีเดียนลอดผา่ น ทาให้เกิดการ กดทบั ของเส้นประสาทมากขนึ ้ จากข้อมลู ข้างต้นอาจจะทาให้เราสามารถปอ้ งกนั หรือลด ปัจจยั เสย่ี งในการเกิดโรคได้

120 | วถิ ีชีวติ กบั โรคทางมือและโรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมีเดยี น การมสี ัมพนั ธ์กบั คนรัก/คนใกล้ชดิ การมีสัมพันธ์กับคนรัก/คนใกล้ชดิ มีความสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร การมีสมั พนั ธ์กับคนรัก หรือการร่วมรักอาจจะมีผลต่อการเกิดโรคพงั ผืดกดทับ เส้นประสาทท่ีข้อมือ โดยการร่วมรักในท่าท่ีมีการกระดกข้อมือขึน้ เป็นเวลานาน ร่วมกับ การท่ีต้องแบกรับนา้ หนกั ของร่างกายส่วนบนนนั้ มีความสมั พนั ธ์กับการเกิดโรคพงั ผืดกด ทบั เส้นประสาทที่ข้อมือได้ โดยคนท่ีมีนา้ หนกั ตวั มาก ขนาดหน้าอก และรอบอกที่ใหญ่จะ ทาให้เกิดแรงกดท่ีข้อมือได้มากขนึ ้ มีโอกาสเกิดโรคได้มากขนึ ้ 6 การส่ือสาร การส่ือสารมีความสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร ปัจจุบนั เป็นยคุ ของข้อมลู ข่าวสาร เทคโนโลยีในการส่ือสารจึงได้พฒั นาเพ่ือให้มี การรับรู้ และส่งต่อข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว จะเห็นว่ามีการใช้โทรศพั ท์มือถือมากขึน้ กว่าอดีต นอกจากใช้ โทรศัพท์แล้วยังสามารถใช้งานในลักษณะอื่นได้มากขึน้ เช่น อินเตอร์เนต การรับสง่ ข้อมลู ข่าวสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซงึ่ กาลงั เป็นที่นิยมในปัจจบุ นั โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน และแทปเล็ตได้เข้ามาช่วยให้การติดต่อส่ือสารสะดวกและรวดเร็ว มากยิ่งขนึ ้ ทาให้ประชากรสว่ นใหญ่ใช้เวลาอยกู่ บั โทรศพั ท์มือถือ และแทปเล็ตมากขนึ ้ ซง่ึ การใช้งานอปุ กรณ์อิเลกโทรนิกส์เหล่านีห้ ลีกเล่ียงไม่ได้เลยท่ีจะทาให้มนุษย์ใช้มือมากขึน้ ซงึ่ อาจจะเป็นปัจจยั ส่งเสริมทาให้เกิดโรคนีม้ ากขึน้ อย่างไรก็ดียงั ไม่มีการศึกษาในเร่ืองนี ้ มากอ่ น

วิถีชีวิตกบั โรค | 121 การทางาน การทางานมีความสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร การทางานในท่ีนีห้ มายถึงกิจกรรมที่ทาเป็นอาชีพ โดยลกั ษณะการทางานท่ีมีการ เคล่ือนไหวมือซา้ ๆร่วมกับการเกร็งข้ อมือขณะท่ีกาวัตถุส่ิงของ หรือการทางานที่มี แรงสนั่ สะเทือนต่อข้อมือ หรือมีแรงกด มีแรงกระทาตอ่ ข้อมือมากมีความสมั พนั ธ์กบั อตั รา การเกิดโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียนท่ีข้อมือสงู ขนึ ้ 4 การทางานโดยท่ีข้อมือไมไ่ ด้อยู่ ในท่าตรงเป็นเวลานานมีความเสี่ยงตอ่ การเป็นโรคถึง 2 เท่า7 สว่ นการทางานโดยมีการ เคล่ือนไหวมือ และข้อมือซา้ ๆ เช่น ทางานในโรงงานมีโอกาสเป็นโรคมากกว่าคนท่ีทางาน เกี่ยวกบั การใช้คอมพิวเตอร์8 และจากการศกึ ษาของ Zakia M. 20149 โดยการทา meta- analysis พบวา่ ยงั ไมม่ ีความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการทางานท่ีใช้คอมพวิ เตอร์กบั การเกิดโรคนี ้ การเรียนรู้ การเรียนรู้มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอย่างไร ยงั ไม่พบข้อมลู ในเร่ืองของความสมั พนั ธ์ระหว่างการเรียนรู้และโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดยี นที่ข้อมือ ผลกระทบของโรคพังผืดกดทบั เส้นประสาทต่อวถิ ชี ีวติ จากข้อมลู ข้างต้น ทาให้ทราบแล้วว่าโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทที่ข้อมือทาให้ เกิดอาการชาท่ีปลายนิว้ มือในขณะที่ข้อมืออยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม ขณะทางานท่ีมีการ เคล่ือนไหวซา้ ๆ หรือขณะนอนหลบั ดงั นนั้ อาการของโรคนีก้ ็ยอ่ มจะมีผลกระทบตอ่ วิถีชีวิต ในการทางาน หรือมิติอื่นๆได้เช่นกนั โดยผ้เู ขียนจะขอกล่าวแยกในแต่ละมิติว่าตวั โรคมี ผลกระทบในลกั ษณะอยา่ งไร

122 | วถิ ีชีวิตกบั โรคทางมือและโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียน การอุปโภค/บริโภค โรคมีผลกระทบกับการกนิ อย่างไร ในระยะแรกๆ ของโรคอาจจะมีผลกระทบกบั การกินไม่มากนกั โดยการจบั ช้อน ส้อม หรือตะเกียบขณะรับประทานอาหารเป็นเวลานานๆ อาจจะทาให้เกิดอาการชาได้บ้าง แต่ หากใช้มีดในการหน่ั อาหารอาจจะทาให้มีอาการได้มากกว่า หากตวั โรคเป็นมากขึน้ จะมี อาการออ่ นแรงของกล้ามเนือ้ มือ ซงึ่ จะทาให้มีปัญหาในการใช้งานช้อน ส้อม ตะเกียบ หรือ มีดเวลารับประทานอาหารได้ การอย่อู าศัย โรคมีผลกระทบกับการอย่อู าศัยอย่างไร ได้มีการศึกษาผู้ป่ วยในกลุ่มโรคการบาดเจ็บสะสมของ รยางค์บน (Upper extremity cumulative trauma disorder) กบั การบกพร่องในกิจวตั รประจาวนั (Activities of daily living) โดยพบว่าผ้ปู ่ วยเหลา่ นีจ้ ะมีความยากลาบากในการทากิจวตั รประจาวนั อย่างชดั เจน เช่น การทาความสะอาดพืน้ การเทนา้ จากขวดลงแก้วนา้ การเขียนหนงั สือ การทาอาหาร หรือการเปิดประตหู น้าตา่ ง ซง่ึ โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียนท่ีข้อมือ เป็นโรคท่ีพบมากที่สดุ ในกลมุ่ โรคดงั กลา่ ว10 การนอนหลับ/พักผ่อนหย่อนใจ โรคมีผลกระทบกับการนอนหลับอย่างไร จากข้อมลู ที่กลา่ วมาผ้ปู ่ วยท่ีมีภาวะพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดยี นที่ข้อมือมกั มี อาการชาในตอนกลางคืนขณะนอนหลบั ได้มีการศึกษาพบว่าผู้ท่ีเป็นโรคพังผืดกดทับ เส้นประสาทมีเดียนท่ีข้อมือมีความสมั พนั ธ์กับการนอนหลบั โดยจะทาให้ลดระยะเวลา ของการนอนหลบั และลดคณุ ภาพของการนอนหลบั เช่น เพิ่มระยะเวลาการนอนไม่หลบั

วถิ ีชีวิตกบั โรค | 123 การตื่นกลางดกึ การใช้ยานอนหลบั และผลกระทบตอ่ การทางานในช่วงกลางวนั โดยผ้ทู ่ีมี อาการของโรคมากกว่าจะเกิดผลกระทบต่อการนอนหลบั ได้มากกว่าผ้ทู ่ีมีอาการของโรค น้อยกว่าอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติ11 นอกจากนีย้ งั ได้มีการศกึ ษาเปรียบเทียบผ้ปู ่ วยที่เป็น โรคกบั คนปกติในเรื่องของอาการท่ีรบกวนการนอนหลบั พบว่านอกจากอาการชาที่เป็น มากกว่าในกลมุ่ ของผ้ทู ่ีเป็นโรคแล้วนนั้ ยงั พบว่าผ้ทู ี่เป็นโรคยงั มีอาการอ่ืนๆ ท่ีรบกวนการ นอนหลบั ด้วย เชน่ อาการปวดหลงั ปวดคอ และอาการปวดตามข้อ เป็นต้น5 การมีสัมพนั ธ์กบั คนรัก/คนใกล้ชดิ โรคมีผลกระทบต่อการมีสัมพันธ์กับคนรัก/คนใกล้ชิดอย่างไร ดงั ที่กลา่ วไปตอนต้นวา่ การมีสมั พนั ธ์กบั คนรัก หรือการร่วมรักนนั้ ทา่ ที่ต้องกระดก ข้อมือขึน้ เป็นเวลานาน และผ้ทู ่ีมีนา้ หนกั ตวั มากจะทาให้เกิดโรคนีไ้ ด้ ในทางกลบั กนั ผู้ท่ี เป็นโรคนีอ้ ย่แู ล้วเวลามีการร่วมรักในท่าท่ีต้องกระดกข้อมือขนึ ้ ก็จะทาให้ เกิดอาการขนึ ้ มา ได้เช่นกนั อยา่ งไรก็ดยี งั ไมม่ ีผลการศกึ ษาในเร่ืองดงั กลา่ ว การส่ือสาร โรคมีผลกระทบต่อการสื่อสารอย่างไร ปัจจบุ นั เป็นยุคของข้อมลู ข่าวสาร เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ในการสื่อสารได้พฒั นา ไปมากเพื่อให้สะดวกและรวดเร็วในการรับสง่ ข้อมลู ข่าวสาร ซงึ่ หลีกเล่ียงไม่ได้ที่จะทาให้ มนุษย์ต้องใช้มือมากขึน้ เพราะฉะนัน้ ผู้ที่เป็นโรคนีอ้ าจจะมีผลกระทบเวลาที่จะใช้งาน อปุ กรณ์เหล่านี ้จะใช้งานได้ไม่นาน มีผลกระทบต่อการส่ือสาร การแลกเปลี่ยนข้อมลู ซงึ่ อาจจะกระทบตอ่ งานท่ีทาได้

124 | วถิ ีชีวิตกบั โรคทางมือและโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมเี ดยี น การทางาน โรคมีผลกระทบต่อการทางานอย่างไร ได้มีรายงานสาเหตุหลักของการหยุดงานของคนงานในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าเกิดจากกลมุ่ โรคการบาดเจ็บสะสมของรยางค์บน (Upper extremity cumulative trauma disorder) ซงึ่ โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมเี ดยี นที่ข้อมือเป็นโรคที่พบมากท่ีสดุ ใน กลมุ่ โรคดงั กลา่ ว โดยมีคา่ เฉลี่ยของการหยดุ งานถึง 25 วนั ตอ่ ปี โดยกลมุ่ ตวั อย่างที่ศกึ ษา มีทงั้ คนท่ีทางานในโรงงาน ทางานในออฟฟิ ศ และทางานท่ีเกี่ยวข้องกับการบริการ หรือ การขาย10 เพราะฉะนนั้ ผ้ทู ่ีเป็นโรคนีอ้ าจจะทาให้ต้องหยุดงานบ่อย ขาดรายได้ เส่ียงต่อ การถูกเลิกจ้างงาน แต่จากการค้นข้อมูลยังไม่พบว่าผู้ท่ีเป็นโรคนีม้ ีความสัมพันธ์กับ ประสทิ ธิภาพของการทางานที่ลดลงหรือไม่ การเรียนรู้ ยงั ไมพ่ บข้อมลู ในเรื่องของความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการเรียนรู้และโรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียนที่ข้อมือ

วิถีชีวิตกบั โรค | 125 บทวเิ คราะห์ จากการทบทวนวรรณกรรมพบว่า โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดียนท่ีข้อมือมี ความสมั พนั ธ์กบั วิถีชีวติ 7 มิติของประชากร ทงั้ ในแงท่ ี่วา่ วิถีชีวติ เหลา่ นีเ้ป็นสาเหตขุ องการ เกิดโรค และตวั โรคเองก็ย้อนกลบั มามผี ลกระทบกบั วิถีชีวติ ในแตล่ ะมิติด้วย จึงขอสรุปเป็น แผนภมู ิไดอะแกรมเพื่อทาให้เห็นภาพรวมของความสมั พนั ธ์นี ้(รูปท่ี 4 และ 5) เพราะฉะนนั้ จาก การท่ีเรารู้ความสมั พนั ธ์ของโรคกบั วิถีชีวิตแล้วนนั้ ทาให้เราสามารถหามาตรการป้องกนั หรือลดทอนปัจจยั เสี่ยงต่อการเกิดโรค และทาให้ผ้ทู ่ีเป็นโรคสามารถดแู ลตวั เองได้ดียิ่งขนึ ้ เพื่อไมใ่ ห้อาการแยล่ ง รูปท่ี 4 ไดอะแกรมแสดงวิถีชีวิต 7 มติ มิ ีความสมั พนั ธ์ตอ่ โรคพงั ผืดกดทบั เส้นประสาท มีเดียนท่ีข้อมอื

126 | วถิ ีชีวิตกบั โรคทางมือและโรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมีเดยี น รูปท่ี 5 ไดอะแกรมแสดงโรคมีผลกระทบตอ่ วิถีชีวิตในแตล่ ะมิติ สรุป โรคพังผืดกดทับเส้ นประสาทมีเดียนท่ีข้ อมือเป็ นโรคที่พบได้ บ่อยที่สุดในกลุ่ม อาการเส้นประสาทถกู กดทบั และพบได้มากในประชากรไทย นอกจากปัจจยั เส่ียงตอ่ โรคนี ้ ที่ทราบกนั ดีอย่แู ล้ว เช่น เพศหญิง ภาวะอ้วน ยงั พบว่าวิถีชีวิตของประชากรในแตล่ ะมิติมี ความสัมพันธ์กับโรค ทัง้ ท่ีเป็นสาเหตุ หรือปัจจัยเสริม และตวั โรคเองก็ยังมีผลกระทบ กลบั มาสวู่ ิถีชีวิต ซงึ่ ยงั ไมค่ อ่ ยมีผ้กู ลา่ วถึงและให้ความสาคญั กบั ประเด็นนีม้ ากนกั ความรู้ ที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรมนีส้ ามารถนาไปตอ่ ยอดในอนาคต เพ่อื มงุ่ หวงั ที่จะลดภาระ โรคโดยการให้ความรู้ และรณรงค์ให้ประชากรไทยปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ห่างไกลจากโรค พงั ผืดกดทบั เส้นประสาทมีเดยี นที่ข้อมือ

วถิ ีชีวิตกบั โรค | 127 เอกสารอ้างองิ 1. Becker J, Nora DB, Gomes I, Stringari FF, Seitensus R, Panosso JS, et al. An evaluation of gender, obesity, age and diabetes mellitus as risk factors for carpal tunnel syndrome. Clin Neurophysiol 2002;113:1429-34. 2. Geoghegan JM, Clark DI, Bainbridge LC, Smith C, Hubbard R. Risk factors in carpal tunnel syndrome. J Hand Surg Br 2004;29:315-20. 3. Keir PJ, Rempel DM. Pathomechanics of peripheral nerve loading. Evidence in carpal tunnel syndrome. J Hand Ther 2005;18:259-69. 4. Laoopugsin N, Laoopugsin S. The study of work behaviours and risks for occupational overuse syndrome. Hand Surg 2012;17:205-12. 5. McCabe SJ, Gupta A, Tate DE, Myers J. Preferred sleep position on the side is associated with carpal tunnel syndrome. Hand (N Y) 2011;6:132-7. 6. Zenian J. The role of sexual intercourse in the etiology of carpal tunnel syndrome. Med Hypotheses 2010;74:950-2. 7. You D, Smith AH, Rempel D. Meta-analysis: association between wrist posture and carpal tunnel syndrome among workers. Saf Health Work 2014;5:27-31. 8. Mohammadi A, Ghasemi-Rad M, Mladkova-Suchy N, Ansari S. Correlation between the severity of carpal tunnel syndrome and color Doppler sonography findings. AJR Am J Roentgenol 2012;198:W181-4. 9. Mediouni Z, de Roquemaurel A, Dumontier C, Becour B, Garrabe H, Roquelaure Y, et al. Is carpal tunnel syndrome related to computer exposure at work? A review and meta-analysis. J Occup Environ Med 2014;56:204-8.

128 | วถิ ีชีวติ กบั โรคทางมือและโรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมีเดียน 10. Keogh JP, Nuwayhid I, Gordon JL, Gucer PW. The impact of occupational injury on injured worker and family: outcomes of upper extremity cumulative trauma disorders in Maryland workers. Am J Ind Med 2000;38:498-506. 11. Patel A, Culbertson MD, Hashem J, Jacob J, Edelstein D, Choueka J. The negative effect of carpal tunnel syndrome on sleep quality. Sleep Disord 2014;2014:962746.

วิถีชีวิตกบั โรค | 129 วถิ ีชีวิตกับโรคนิว้ ล็อค (Trigger finger) อ.นพ. เทพรัตน์ กาญจนเทพศกั ดิ์

130 | วถิ ีชีวติ กบั โรคนิว้ ลอ็ ค วถิ ชี ีวติ กับโรคนิว้ ล็อค (Trigger finger) อ.นพ. เทพรัตน์ กาญจนเทพศกั ดิ์ โรคนิว้ ล็อค (Trigger finger) นิว้ ล็อคเกิดจากการที่ปลอกห้มุ เส้นเอ็น และเส้นเอ็นท่ีใช้ในการงอนิว้ หนาตวั ขนึ ้ ท่ี ตาแหน่งฝ่ามือ (A1 pulley) ทาให้เวลางอเหยียดนิว้ จะเกิดการเคลื่อนผ่านของเส้นเอ็นได้ ลาบาก เชื่อว่าเกิดจากเวลางอนิว้ หรือกามือแน่นจะทาให้เส้นเอ็นและปลอกห้มุ เส้นเอ็นมี แรงกระทาตอ่ กนั มากท่ีตาแหน่งนี ้(รูปที่ 1 ) ถ้าปลอกห้มุ เส้นเอ็น หรือเส้นเอ็นหนาตวั มาก อาจจะทาให้เกิดการติดขดั หรือสะดดุ เวลางอเหยียดนิว้ ได้ (รูปที่ 2) ซง่ึ สามารถเกิดได้กบั ทกุ นิว้ และสามารถเกิดได้พร้อมกันหลายนิว้ โดยนิว้ หวั แม่มือพบมากท่ีสดุ รองลงมาคือ นิว้ นาง, นิว้ กลาง, นิว้ ก้อย และนิว้ ชีต้ ามลาดบั พบในผ้หู ญิงมากกว่าผ้ชู าย 2-6 เท่า ช่วง อายทุ ่ีพบมากที่สดุ คอื 50-60 ปี ได้มีผ้แู บง่ ความรุนแรงของโรคเป็น 4 ระดบั ดงั นี1้ ระดบั ที่ 1: ปวด และกดเจ็บที่ปลอกห้มุ เส้นเอ็นตาแหน่งฝ่ามือ, มีประวตั งิ อเหยียด นิว้ แล้วสะดดุ แตต่ รวจร่างกายอาจไมพ่ บการสะดดุ ระดบั ท่ี 2: ตรวจพบการสะดดุ เวลางอเหยียดนิว้ , ยงั สามารถเหยยี ดนิว้ เองได้สดุ ระดบั ท่ี 3: นิว้ ตดิ ล็อคต้องใช้มือช่วยเหยยี ด หรืองอจงึ จะสดุ ระดบั ที่ 4: นิว้ ตดิ ล็อคไม่สามารถเหยียดนิว้ ให้สดุ ได้ การรักษาแรกเริ่มโดยการให้พกั การใช้งาน กินยาต้านการอกั เสบ แช่นา้ อ่นุ หรือใส่ ท่ีดามนิว้ การรักษาด้วยการฉีดยากล่มุ สเตียรอยด์มีรายงานว่าได้ผลดี แต่ไม่ควรฉีดบ่อย เกินไปเพราะอาจทาให้เส้นเอ็นขาดได้ หากเกิดโรคนิว้ ล็อคร่วมกบั โรคอื่นๆ เช่น เบาหวาน ข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคไตวาย โรคเก๊าต์ จะทาให้การดาเนินโรคไม่ดี รักษาด้วยวิธี

วิถีชีวิตกบั โรค | 131 ประคบั ประคองไม่คอ่ ยได้ผล ในรายที่อาการเป็นมาก หรือไม่ตอบสนองตอ่ การรักษาด้วย วธิ ีข้างต้นจงึ จะรักษาโดยการผา่ ตดั ขยายปลอกห้มุ เส้นเอ็น กามือแน่น เส้นเอ็นและปลอก เส้นเอน็ และปลอก ติดขดั สะดดุ หรือ ห้มุ เส้นเอ็นท่ีฝ่ามือมี ห้มุ เส้นเอน็ หนาตวั ลอ็ คเวลางอเหยียด งอนิว้ มือนาน หรือ แรงกระทาตอ่ กนั มาก ซา้ ๆ นิว้ รูปท่ี 1 แสดงพยาธิสภาพการเกิดโรคนิว้ ลอ็ ค รูปท่ี 2 แสดงการหนาตวั ของเส้นเอ็นขณะเคลือ่ นผา่ นปลอกห้มุ เส้นเอน็ วิถีชีวิตท่มี ีผลต่อการเกิดโรคนิว้ ล็อค การอุปโภค/บริโภค การกนิ มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอย่างไร ยงั ไม่มีผ้ศู กึ ษาความสมั พนั ธ์ระหว่างการกินกบั การเกิดโรคนิว้ ล็อค แต่มีรายงาน ในผู้ป่ วยเบาหวานว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคนี ้ อย่างที่ทราบกันดีการกินที่มาก

132 | วถิ ีชีวติ กบั โรคนิว้ ลอ็ ค เกินไปทาให้เกิดภาวะอ้วนซงึ่ จะเสีย่ งตอ่ การเกิดโรคเบาหวาน ได้มีผ้ศู กึ ษาพบวา่ ร้อยละ 10 ของผ้ปู ่ วยเบาหวานมีประวตั ิการเกิดโรคนิว้ ล็อค และร้อยละ 4 เกิดมากกว่าหน่ึงนิว้ โดย ความเส่ียงจะมีมากขึน้ โดยผู้ท่ีเป็นเบาหวานชนิดที่ต้องใช้อินซูลิน นอกจากนีย้ งั พบว่า อบุ ตั กิ ารณ์การเกิดโรคนิว้ ลอ็ คในผ้ปู ่วยเบาหวานสงู กวา่ คนปกตถิ งึ 4 เท่า2 การอย่อู าศัย การอย่อู าศัยมีความสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร ผ้ทู ่ีเป็นนิว้ ล็อคมกั พบในผ้หู ญิงวยั กลางคนถึงวยั เกษียณ ซงึ่ กล่มุ ผ้ปู ่ วยเหล่านีม้ กั ได้รับบทบาทให้ต้องอยกู่ บั บ้าน เนื่องจากไมต่ ้องออกไปทางานนอกบ้านแล้วจงึ มีเวลามาก ที่จะทางานภายในบ้าน การอยู่อาศยั ภายในบ้านมกั จะต้องมีกิจกรรมท่ีต้องใช้มือเป็น สว่ นมาก เช่น การทาความสะอาดบ้าน การซกั ล้างการซกั เสือ้ ผ้า การทาครัว การทาสวน เหล่านีม้ กั จะต้องมีการใช้งานมือในลกั ษณะท่าทางซา้ ๆ จากการศึกษาพบว่า กิจกรรมท่ี ต้องกามอื แนน่ และเกร็งข้อมือมีความสมั พนั ธ์ตอ่ การเกิดโรคนิว้ ลอ็ ค การใช้งานมือซา้ ๆ จะ ทาให้เกิดโรคนิว้ ลอ็ คมากขนึ ้ ถงึ 2 เทา่ 3 การนอนหลับ/พักผ่อนหย่อนใจ การนอนหลับมีความสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร การนอนหลบั อาจจะไมค่ อ่ ยมีผลกบั การเกิดโรคนิว้ ลอ็ คเพราะไม่มีการกามือแน่นๆ หรือใช้งานของมือในขณะนอนหลบั ท่าทางของข้อมือไม่มีผลตอ่ การเกิดโรคนี ้ซง่ึ ตา่ งจาก โรคพงั ผดื กดทบั เส้นประสาทมีเดยี นที่ข้อมือ แตผ่ ้ปู ่วยมกั จะมีอาการนิว้ ล็อคมากขนึ ้ ในช่วง หลงั ตื่นนอน โดยเฉพาะตอนที่เริ่มขยบั นิว้ งอเหยียดจะมีอาการปวดจากการสะดดุ ล็อค ของเส้นเอ็นและปลอกห้มุ เส้นเอ็น ซงึ่ พอได้งอเหยียดไปสกั ระยะหนงึ่ อาการจะดีขนึ ้

วิถีชีวิตกบั โรค | 133 การมีสัมพนั ธ์กับคนรัก/คนใกล้ชดิ การมีสัมพันธ์กับคนรัก/คนใกล้ชดิ มีความสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร ยงั ไมพ่ บข้อมลู ในเร่ืองของความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการมีสมั พนั ธ์กบั คนรักและโรคนิว้ ลอ็ ค การส่ือสาร การสื่อสารมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอย่างไร การใช้งานอปุ กรณ์ส่ือสารท่ีเข้ามามีบทบาทมากขึน้ ในชีวิตประจาวนั ของมนุษย์ ทาให้เราต้องใช้มือ และนิว้ มากขนึ ้ การใช้งานในลกั ษณะดงั กลา่ วมกั จะเป็นการใช้งานซา้ ๆ ซงึ่ อาจจะมีความสมั พนั ธ์กบั การเกิดโรคนิว้ ลอ็ ค อยา่ งไรก็ดยี งั ไม่มีการศกึ ษาชดั เจนในเรื่อง ดงั กลา่ ว การทางาน การทางานมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอย่างไร ได้มีรายงานการพบโรคนิว้ ลอ็ คมากขนึ ้ ในผ้ทู ่ีทางานโดยใช้คอมพิวเตอร์ อปุ กรณ์ท่ี ต้องทางานในลกั ษณะซา้ ๆ การใช้งานในลกั ษณะท่ีมีแรงกดท่ีฝ่ามือในขณะกามือ หรืองอ นิว้ มืออาจจะมีความสมั พนั ธ์กบั การเกิดโรคนิว้ ล็อค (Green’s Operative Hand Surgery) หรือเกร็งงอนิว้ เป็นเวลานาน เช่น จากการสงั เกตของผ้เู ขียนจะพบนิว้ หวั แม่มือล็อคในผ้ทู ี่ เขียนหนงั สอื เป็นเวลานานๆ แตก่ ็มีรายงานการศกึ ษาพบวา่ การกระจายตวั ของโรคนิว้ ลอ็ ค ในคนที่ทางานนนั้ ไม่แตกต่างจากประชากรทว่ั ไป4 จึงทาให้ยงั เป็นท่ีถกเถียงกนั ว่าการ ทางานนนั้ มคี วามสมั พนั ธ์กบั การเกิดนิว้ ลอ็ คหรือไม่

134 | วถิ ีชีวิตกบั โรคนิว้ ลอ็ ค การเรียนรู้ การเรียนรู้มคี วามสัมพันธ์กับการเกดิ โรคอย่างไร ยงั ไม่พบข้อมลู ในเร่ืองของความสมั พนั ธ์ระหว่างการเรียนรู้และโรคนิว้ ล็อค การ เรียนรู้ที่เก่ียวกบั หตั ถกรรมอาจเพ่ิมความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิว้ ล็อค หากมีการเหยียดงอ หรือกดนิว้ ซา้ ๆ เช่น การทาดอกไม้ประดิษฐ์ การเย็บปักถักร้ อย อย่างไรก็ดีการเรียนรู้ หตั ถการเหลา่ นีเ้ป็นเพียงระยะสนั้ ๆ ไมไ่ ด้ทาเป็นประจาเป็นอาชีพ โอกาสเกิดโรคนิว้ ลอ็ คจึง ต่ามาก สาหรับการเขียนหนังสือหรือจดงานขณะเรียนหนังสือ มีการงอและเกร็งนิว้ ต่อเน่ืองเป็นระยะเวลานาน อย่างไรก็ดีมักมีอาการเม่ีอยมือจนต้องหยุดพกั เป็นระยะๆ ดงั นนั้ อาจมคี วามเสยี่ งตอ่ การเกิดโรคนิว้ ลอ็ คคอ่ นข้างน้อย ผลกระทบของโรคนิว้ ล็อคต่อวถิ ชี ีวิต การอุปโภค/บริโภค โรคมีผลกระทบกับการกนิ อย่างไร ในผ้ทู ่ีเป็นโรคนิว้ ลอ็ คกิจกรรมใดที่ต้องกามอื นาน หรืองอเหยียดนิว้ ซา้ ๆ อาจจะทา ให้มีอาการมากขึน้ ได้ในระหว่างการทากิจกรรมนนั้ ๆ เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ ช้อนส้อม หรือมีดเป็นเวลานานๆ หรือในผ้ทู ี่มีอาการรุนแรงของโรคมากอาจจะทาให้ไมส่ ขุ สบายในขณะรับประทานอาหารได้ การอย่อู าศัย โรคมีผลกระทบกับการอย่อู าศัยอย่างไร ผ้ทู ี่เป็นโรคนีห้ ากต้องทากิจกรรมท่ีต้องกามือแน่น งอนิว้ นานๆ หรือซา้ ๆ อาจจะมี ปัญหาตอ่ กิจวตั รประจาวนั หรืองานท่ีทาภายในบ้านได้ เช่น ทาความสะอาดบ้าน ทาครัว

วถิ ีชีวิตกบั โรค | 135 เขียนหนังสือ ทาสวนตกแต่งก่ิงไม้ ทาให้ อาการของโรคนิว้ ล็อคเป็ นมากขึน้ และ ประสิทธิภาพในการทางานลดลง การนอนหลับ/พักผ่อนหย่อนใจ โรคมีผลกระทบกับการนอนหลับอย่างไร ยงั ไมม่ ีผ้ศู กึ ษาถงึ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งโรคนิว้ ลอ็ คกบั การนอนหลบั อาจเป็นไปได้ ว่าขณะหลบั ไม่มีการกามือแน่น หรืองอนิว้ มือนานๆ และจากการสงั เกตไม่พบว่าผ้ปู ่ วยที่ เป็นโรคนีม้ ีปัญหาขณะนอนหลบั แต่มกั จะมีอาการมากในช่วงหลงั ต่ืนนอนตอนที่เริ่มขยบั มืองอเหยียดนิว้ โรคมีผลกระทบกับการพักผ่อนหย่อนใจอย่างไร เมื่อเป็นโรคนิว้ ล็อคอาจมีข้อจากัดในการกิจกรรมเหล่านี ้ อาทิเช่น การพกั ผ่อน หย่อนใจหรืองานอดิเรกที่เป็นการเย็บปักถกั ร้อย การออกกาลงั กายที่ต้องมีการกาแบมือ เชน่ วอลเลย่ ์บอล บาสเกตบอล โบว์ลงิ่ เปตอง เป็นต้น การมีสัมพนั ธ์กับคนรัก/คนใกล้ชดิ โรคมีผลกระทบต่อการมสี ัมพันธ์กับคนรัก/คนใกล้ชิดอย่างไร ยงั ไมพ่ บข้อมลู ในเร่ืองของความสมั พนั ธ์ระหวา่ งโรคนิว้ ลอ็ คและการมีสมั พนั ธ์กบั คนรัก การส่ือสาร โรคมีผลกระทบต่อการสื่อสารอย่างไร นิว้ ล็อคน่าจะมีผลต่อการใช้งานอปุ กรณ์สื่อสาร เพราะส่วนใหญ่ต้องถืออุปกรณ์ เหล่านนั้ เป็นเวลานาน และยงั ต้องใช้นิว้ ในการกด ดงั นนั้ หากมีอาการนิว้ ลอ็ คอยกู่ ่อน การ

136 | วถิ ีชีวติ กบั โรคนิว้ ลอ็ ค ใช้งานอปุ กรณ์เหล่านีน้ ่าจะทาด้วยความลาบากมากขึน้ กระทบต่อการแลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสาร อยา่ งไรก็ดียงั ไมพ่ บงานวจิ ยั ท่ีบง่ บอกถงึ ผลกระทบดงั กลา่ วอยา่ งชดั เจน การทางาน โรคมีผลกระทบต่อการทางานอย่างไร ยงั ไมม่ ีการศกึ ษาถงึ ผลกระทบจากโรคนิว้ ลอ็ คตอ่ การทางาน แตจ่ ากการสอบถาม จากผ้ปู ่ วยส่วนใหญ่พบว่ามีปัญหาเวลาทางาน โดยเฉพาะงานที่ต้องกามือ งอนิว้ มือซา้ ๆ จะเกิดอาการปวด หรือสะดดุ ล็อคเม่ือทางานไประยะหน่ึงทาให้ต้องหยดุ พกั บ่อยขึน้ หรือ บางทีรู้สกึ ไม่อยากท่ีจะทางานนนั้ ๆ บางครัง้ ต้องหยดุ หรือลางานเพื่อที่จะไปรักษาอาการ ดงั กลา่ วที่โรงพยาบาล การเรียนรู้ โรคมีผลกระทบต่อการเรียนรู้อย่างไร ยงั ไมพ่ บข้อมลู ในเร่ืองของความสมั พนั ธ์ระหว่างโรคนิว้ ล็อคและการเรียนรู้ แตโ่ รค นิว้ ลอ็ คอาจกระทบตอ่ การเรียนรู้ที่ต้องอาศยั มือ เช่น การจดงานหรือการเขียนหนงั สือ การ ประดิษฐ์สง่ิ ของ เป็นต้น ทาให้เกิดอปุ สรรคในการเรียนรู้ได้

วิถีชีวติ กบั โรค | 137 บทวเิ คราะห์ จากการทบทวนวรรณกรรมในเร่ื องของปัจจัยท่ีทาให้ เกิดโรคนิว้ ล็อคว่ามี ความสมั พนั ธ์กบั วิถีชีวิต 7 มิติอย่างไร และโรคนิว้ ล็อคนนั้ มีผลกระทบตอ่ วิถีชีวิตอย่างไร ซึ่งพบว่าวิถีชีวิตโดยส่วนใหญ่มีความสมั พนั ธ์ต่อโรคไม่ว่าจะเป็นสาเหตขุ องการเกิดโรค หรือเป็นปัจจยั เสริมท่ีทาให้ผ้ทู ี่เป็นโรคอยแู่ ล้วมีอาการมากขนึ ้ ผ้ทู ่ีเป็นโรคพอได้ทากิจกรรม ตามวิถีชีวิตตา่ งๆ ก็พบว่าเกิดปัญหากบั วิถีชีวิตในหลายๆ มิติ จะเห็นได้ว่าการดาเนินชีวิต ตามปกตนิ นั้ มคี วามสมั พนั ธ์ร่วมกนั กบั โรคนิว้ ลอ็ ค เพราะฉะนนั้ การศกึ ษาแยกในแตล่ ะมิติ โดยละเอียดจะทาให้เราเข้าใจปัญหาได้อย่างลึกซึง้ ซ่ึงจะสามารถแก้ไข ป้องกัน หรือ ลดทอนปัจจยั เสี่ยงได้อยา่ งถกู ต้อง บทสรุป โรคนิว้ ลอ็ คเป็นโรคท่ีพบได้บอ่ ยในกลมุ่ โรคทางมือ ซง่ึ พบในเพศหญิงมากกวา่ โดย เชื่อว่าเกิดจากการใช้มือในลกั ษณะซา้ ๆ การกามือแน่น งอเหยียดนิว้ ซา้ ๆ ทาให้เส้นเอ็น และปลอกหุ้มเส้นเอ็นหนาตวั ขึน้ เกิดการสะดดุ ล็อคเวลางอเหยียดนิว้ จากการทบทวน วรรณกรรมพบว่า โรคนิว้ ลอ็ คนีม้ ีความสมั พนั ธ์กบั วิถีชีวิตทงั้ 7 มิติของประชากรโดยทว่ั ไป ซง่ึ ความรู้ท่ีได้จากการทบทวนวรรณกรรมนีส้ ามารถนาไปตอ่ ยอดในอนาคต เพ่ือม่งุ หวงั ท่ี จะลดภาระโรคโดยการให้ความรู้ และรณรงค์ให้ประชากรไทยปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ หา่ งไกลจากโรคนิว้ ลอ็ ค

138 | วถิ ีชีวติ กบั โรคนิว้ ลอ็ ค เอกสารอ้างองิ 1. Wolfe SW, Hotchkiss RN, Pederson WC, Kozin SH. Green's Operative Hand Surgery 6th ed: Churchill Livingstone; 2011. 2. Koh S, Nakamura S, Hattori T, Hirata H. Trigger digits in diabetes: their incidence and characteristics. J Hand Surg Eur Vol 2010;35:302-5. 3. Laoopugsin N, Laoopugsin S. The study of work behaviours and risks for occupational overuse syndrome. Hand Surg 2012;17:205-12. 4. Trezies AJ, Lyons AR, Fielding K, Davis TR. Is occupation an aetiological factor in the development of trigger finger? J Hand Surg Br 1998;23:539-40.

วถิ ีชีวติ กบั โรค | 139 ภาวะหมอนรองกระดกู สันหลังเคล่ือนส่วนเอว อ.นพ.

140 | วิถีชีวิตกบั ภาวะหมอนรองกระดกู สนั หลงั เคล่ือนสว่ นเอว ภาวะหมอนรองกระดกู สันหลังเคล่ือนส่วนเอว (Lumbar intervertebral disc herniation) อ.นพ. เน่ืองจากทรัพยากรบคุ คลที่สาคญั ในการทางานเพ่ือพฒั นาประเทศสว่ นใหญ่เป็น กลมุ่ ประชากรในช่วงอายุ 30-50 ปีซง่ึ ตรงกบั ช่วงอายทุ ่ีพบภาวะหมอนรองกระดกู สนั หลงั เคลื่อนส่วนเอวได้บ่อยที่สดุ จากการศึกษาพบว่าโอกาสเสี่ยงในการเกิดภาวะหมอนรอง กระดกู สนั หลงั เคลื่อนส่วนเอวในช่วงชีวิตคนคนหนึ่ง (Life time prevalence) พบได้ ประมาณร้อยละ 1.6 ฉะนนั้ หากเราทราบถงึ ปัจจยั เสยี่ ง วิธีการปอ้ งกนั และการดแู ลรักษา ผ้ปู ่ วยท่ีเกิดจากภาวะหมอนรองกระดกู สนั หลงั เคล่ือนสว่ นเอวได้เป็นอย่างดี ก็จะสง่ ผลให้ สังคมไม่สูญเสียทรัพยากรบุคคลท่ีสาคัญเหล่านีไ้ ปจากอาการเจ็บป่ วย และสามารถ ทางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซ่ึงจะก่อให้เกิดความมั่นคงและความก้าวหน้าของ ประเทศชาตติ อ่ ไป ที่ 1 (Annulus fibrosus) ดงั รูป (Lumbar nerve root) (Nucleus pulposus)

วิถีชีวติ กบั โรค | 141 รูปท่ี 1 1 1. ภาวะนีจ้ ะเกิดขึน้ เมื่อมีการเพ่ิมขึน้ ของความดนั ภายในหมอนรองกระดกู สนั หลงั อยา่ งรวดเร็วและรุนแรงปัจจยั ท่ีทาให้เกิดการเพม่ิ ขนึ ้ ของความดนั ภายในหมอนรองกระดกู สนั หลงั ได้แก่ ท่าทางของผ้ปู ่ วย (Posture) ดงั เช่นการศกึ ษาของ McKenzie และคณะ2 พบว่า การก้มหลงั ทาให้เกิดความดนั ภายในหมอนรองกระดกู สนั หลงั มากกวา่ การนงั่ การ ยืน และการนอน ตามลาดบั , การเบ่ง (valsava), การไอ จาม และการบิดเอีย้ วตวั เป็นต้น

142 | วถิ ีชีวิตกบั ภาวะหมอนรองกระดกู สนั หลงั เคลือ่ นสว่ นเอว (รูปท่ี 2) ฉะนนั้ กลไกท่ีทาให้เกิดการบาดเจ็บของหมอนรองกระดกู สนั หลงั ท่ีพบได้บอ่ ยๆ คือ การหกล้มก้นกระแทกพนื ้ การบดิ เอีย้ วตวั อยา่ งรุนแรงฉบั พลนั การก้มหลงั ยกของหนกั หรือการก้มหลงั อยา่ งรวดเร็ว การไอ การจาม และการเบง่ ถา่ ยอจุ จาระอยา่ งรุนแรง เป็นต้น รูปท่ี 2 (Intradiscal pressure of lumbar spine) 2 รูปท่ี 3 (Nucleus pulposus) 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook