เร่อื ง เคร่อื งใหอ้ าหารปลาอตั โนมตั ิ โดย 1. นายธรี ไนย เพิกปุ้ย 2. นายนำโชค ลอ้ มวงษ์ 3. นายภเู บศวร์ ดอกกหุ ลาบ 4. นายวรุตม์ ผ่องใส 5. นายศรราม โชคชยั สมบรู ณ์ 6. นายณัฐพงษ์ แก้วเรือง ครทู ปี่ รึกษา นางสาวจิราพร ล้ิมประเสริฐ
เร่อื ง เคร่อื งใหอ้ าหารปลาอตั โนมตั ิ โดย 1. นายธรี ไนย เพิกปุ้ย 2. นายนำโชค ลอ้ มวงษ์ 3. นายภเู บศวร์ ดอกกหุ ลาบ 4. นายวรุตม์ ผ่องใส 5. นายศรราม โชคชยั สมบรู ณ์ 6. นายณัฐพงษ์ แก้วเรือง ครทู ปี่ รึกษา นางสาวจิราพร ล้ิมประเสริฐ
ก ชอื่ เร่ือง เครื่องใหอ้ าหารปลาอตั โนมตั ิ ผูจ้ ัดทำ 1. นายธรี ไนย เพิกป้ยุ 2. นายนำโชค ลอ้ มวงษ์ 3. นายภูเบศวร์ ดอกกุหลาบ 4. นายวรตุ ม์ ผ่องใส 5. นายศรราม โชคชัยสมบรู ณ์ 6. นายณัฐพงษ์ แก้วเรอื ง อาจารย์ที่ปรกึ ษา 1. นางสาวจิราพร ล้มิ ประเสริฐ โรงเรยี น บรรหารแจม่ ใสวทิ ยา 1 อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี บทคดั ย่อ โครงงานสิ่งประดิษฐ์นี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษากลไกการทำงานของเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติ2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติ 3) เพื่อลดภาระงานและพัฒนาการเลี้ยงปลาของ เกษตรกร เมื่อนำท่อ PVC ตัวตั้งเวลาเปิดปิดไฟ กล่องพลาสติกทรงกลม แบตเตอรี่ สายไฟฟ้าและมอเตอร์มาใชใ้ น การประดิษฐเ์ ครือ่ งใหอ้ าหารปลาอัตโนมตั ิ จะทำใหไ้ ดอ้ ปุ กรณล์ กั ษณะทรงสีเ่ หล่ยี มดา้ นเท่าทมี่ ีความสามารถในการ ใหอ้ าหารปลาด้วยตัวเองตามเวลาท่ีได้ต้ังเอาไว้ โดยการทางานของมันจะเร่ิมข้ึนเม่ือถึงเวลาทต่ี ั้งไว้ กระแสไฟจะถูก ส่งไปยังมอเตอร์เพื่อหมุนกล่องที่ใส่อาหารปลาไว้ อาหารก็จะออกมาจากรูที่ได้เจาะไว้ที่กล่อง จากการทดสอบ ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องให้อาหารปลาอตั โนมตั ิ ซ่ึงในการทดลองทุกครั้งใช้อาหารจำวน 200 กรัม ใช้ เวลา 1 นาที พบว่าในการทดลองครั้งที่ 1 อาหารปลายังไม่ทั่วถึงท้ังอ่างและมีอาหารบางส่วนติดค้างภายในเครื่อง ในการทดลองครั้งที่ 2 อาหารปลาไปได้ทั่วทั้งอ่างแต่ยังมีบางส่วนติดค้างภายในเครื่อง และในครั้งที่ 3 อาหาร สามารถกระจายไปได้ทั่วทั้งอ่างและไม่มีอาหารตกค้างภายในเครื่อง ทั้งนี้สรุปได้ว่าประสิทธิภาพในการให้อาหาร ปลาของเคร่อื งให้อาหารปลาอัตโนมัตจิ ะเพม่ิ มากขึน้ ตามระยะเวลาในการทำงาน และจากการตรวจสอบความพึง พอใจหลงั ใชง้ านจากผู้ทดลอง ได้ทำทดลองใชเ้ ครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติ จำนวน 10 ขอ้ โดยใช้ผู้ทดลองจำนวน 20 คน พบวา่ เครือ่ งให้อาหารปลาอัตโนมัติไดร้ ับความพึงพอใจในข้อ 9 ด้านการประหยัดไฟมากทสี่ ดุ โดยมีค่าเฉลี่ย อยทู่ ่ี 4.75 และได้รับความพึงพอใจในข้อ 7 ความคดิ สร้างสรรคน์ ้อยทส่ี ุดโดยมีค่าเฉลีย่ อยูท่ ี่ 4.35
สารบัญ ข บทคดั ย่อ หนา้ กิตตกิ รรมประกาศ x สารบัญ x สารบัญตาราง x สารบัญรูปภาพ x บทที่ 1 บทนาํ x x ทม่ี าและความสําคัญ x วัตถปุ ระสงค์ x สมมุติฐานการศึกษา x ตัวแปรทศ่ี ึกษา x ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า x นิยามคําศัพท์เฉพาะท่ีใช้ในการศึกษา x ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั x บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเก่ยี วข้อง x สายพนั ธุข์ องปลาดุก x สายพันธ์ปุ ลานลิ ในประเทศไทย x มอเตอร์ไฟฟ้า x งานวจิ ยั ท่ีเกย่ี วข้อง x บทท่ี 3 อุปกรณ์และการดำเนินงาน x วสั ดุ-อปุ กรณ์ x ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน x บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน x บทที่ 5 สรปุ และอภปิ รายผลการทดลอง x บรรณานุกรม x ภาคผนวก x
สารบญั ตาราง ค แผนภูมทิ ี่ 1 แสดงจำนวนฟาร์มเลีย้ งปลานํา้ กร่อย ปี 2553 – 2562 หนา้ ตารางที่ 4.1 ผลการทดลองเปรยี บเทยี บความสามารถในการใหอ้ าหารปลา x ตารางท่ี 4.2 ความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเร่อื ง เครื่องใหอ้ าหารปลาอัตโนมัติ x x
สารบัญรปู ภาพ ง ภาพท่ี 1 แสดงปลาดุกอุย หนา้ ภาพท่ี 2 แสดงปลาดุกเทศ x ภาพที่ 3 แสดงปลาดุกบิก๊ อุย x ภาพที่ 4 แสดงปลาดุกด้าน x ภาพที่ 5 แสดงแสดงตารางการใหอ้ าหารปลาดุก x ภาพท่ี 6 แสดงปลิงใส x ภาพที่ 7 แสดงเห็บระฆัง x ภาพท่ี 8 แสดงจุดขาว x ภาพท่ี 9 แสดงโรคกกหูบวม ทอ้ งบวมน้ำ x ภาพที่ 10 แสดงโรคทเ่ี กดิ จากการขาดวติ ามนิ ซี x ภาพที่ 11 แสดงปลานิลพันธ์จุ ิตรลดา 1 x ภาพที่ 12 แสดงปลานลิ พันธุจ์ ิตรลดา 2 x ภาพที่ 13 แสดงปลานิลพนั ธุ์จิตรลดา 3 x ภาพที่ 14 แสดงปลานิลพันธุ์จติ รลดา 4 x ภาพที่ 15 แสดงภาพส่วนประกอบของมอเตอร์ไฟฟ้า x x
1 บทท่ี 1 บทนำ ท่มี าและความสำคญั การเลี้ยงปลาในประเทศไทยมีทั้งการเลี้ยงไว้สำหรับรับประทานกันในครอบครัวหรือเลี้ยงเพื่อขายและ ส่งออก ซึ่งในการเลี้ยงเพื่อขายหรือส่งออกถือว่าได้สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก สำหรับการเลี้ยงเพื่อ ขายและส่งออกสว่ นมากจะเปน็ การเล้ียงท่ใี ชพ้ ้ืนท่เี ลย้ี งปลาในบ่อที่มีขนาดใหญ่ ในปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเร่ิมมีจำนวนน้อยลง สาเหตุอาจมาจากการเลี้ยงปลาจำนวนมากจึงต้องใช้ เวลาในการดแู ละอย่างมาก เช่น การให้อาหารปลา ซ่ึงหากมีการดูแลท่ีไมด่ ีพอผลผลติ ท่ีได้จากการเล้ียงอาจจะไม่มี คุณภาพทำให้รายได้ที่ตามมาลดลงหรือขาดทุนทำให้จำนวนเกษตรกรผู้เล้ียงปลาลดลง ดังแสดงในแผนภูมิที่ 1 แสดงจำนวนฟาร์มปลานำ้ กร่อย ปี 2553 - 2563 ที่มา:กลุ่มสถิติการประมง กองนโยบายและพฒั นาการประมงกรมประมง กะทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากแผนภมู ิที่ 1 แสดงให้เหน็ ว่าต้ังแต่ปี 2559-2562 จำนวนผ้ปู ระกอบอาชีพ เกษตรกรผู้เล้ียงปลา ทำฟาร์มลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงปลา ประสบปัญหาในด้านต่าง ๆ ซึ่งปัญหาหลักของเกษตรกรผู้เล้ียงปลา คือ มเี วลาไม่พอหรือไม่มเี วลาในการดแู ลให้อาหาร ปลาเจริญเตบิ โตไดไ้ มเ่ ต็มที่ จึงส่งผลใหอ้ ตั ราการขยายพันธ์ุลดลง
2 จากสภาพปจั จบุ นั ปัญหาของเกษตรกรผู้เลย้ี งปลาคือ มเี วลาไมเ่ พยี งพอ สง่ ผลใหผ้ ลผลิตท่ีได้ลดน้อยลงจน เกิดการขาดทุนในการเลี้ยงปลาดังที่กล่าวมาข้างต้น คณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะประดิษฐ์ และพัฒนาโครงงาน เรอ่ื ง”เครอื่ งใหอ้ าหารปลาอตั โนมัติ”เพื่อแก้ไขปัญหาดงั กลา่ ว วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ศึกษากลไกการทำงานของเครื่องใหอ้ าหารปลาอตั โนมัติ 2. เพ่อื ศึกษาประสิทธภิ าพของเครื่องให้อาหารปลาอตั โนมัติ 3. เพือ่ ลดภาระงานและพฒั นาการเล้ียงปลาของเกษตรกร สมมตุ ฐิ าน ถ้าเคร่ืองให้อาหารปลาอตั โนมตั สิ ามารถใช้งานได้มปี ระสทิ ธภิ าพดังนน้ั จะสามารถลดระยะเวลาในการให้ อาหารปลาลงได้ ตวั แปร ตวั แปรตน้ เครอื่ งให้อาหารปลาอตั โนมตั ิ ตวั แปรตาม ประสิทธภิ าพการใหอ้ าหารปลาที่สามารถลดระยะเวลาในการใหอ้ าหารปลา ตวั แปรควบคมุ ขนาดบ่อ,สภาพแวดลอ้ ม,จำนวนปลา,ชนิดปลา,อายุของปลา,ปรมิ าณอาหาร,ชนิดของอาหาร,ระยะเวลาใน การให้อาหารปลา ขอบเขตโครงงาน ประชากร เกษตรกรผู้เลย้ี งปลาในอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 20 คน
3 กลมุ่ ตวั อยา่ ง เกษตรกรผเู้ ลยี้ งปลาในอำเภอดอนเจดีย์ จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี จำนวน 20 คน สถานที่ อำเภอดอนเจดีย์ จงั หวัดสพุ รรณบุรี ระยะเวลา มถิ นุ ายน 2564 - มกราคม 2565 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ เครอ่ื งให้อาหารอัตโนมัติ หมายถึง เครอื่ งมือทีส่ ามารถใหอ้ าหารปลาได้โดยอาศยั การทำงานของตวั ตั้งเวลา จา่ ยไฟและมอเตอร์ในการทำงานกลไกลการให้อาหารปลา ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะไดร้ บั 1. ได้ร้ถู ึงกลไกการทำงานของเครอื่ งให้อาหารปลาอัตโนมตั เิ พอื่ ใช้พฒั นาต่อไป 2. ลดการใชเ้ วลาในการใหอ้ าหารปลา 3. พัฒนาการให้อาหารปลาโดยอุปกรณ์แบบใหม่
4 บทท่ี 2 เอกกสารและงานวจิ ยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง 1 .สายพนั ธุข์ องปลาดุก ปลาดุก เป็นปลาสกุลปลาหนังน้ำจืดในสกุล Clarias มีการแพร่กระจายพันธุ์ในน้ำจืดและน้ำกร่อยตาม แหลง่ น้ำของทวีปเอเชียและแอฟริกา เปน็ ปลาไมม่ ีเกล็ด ลำตัวยาว มหี วั ท่ีแบนและแข็ง มีหนวดยาวแปดน้ิว มีครีบ หลงั และครบี กน้ ยาวเกินคร่งึ ของความยาวลำตวั จดุ เรมิ่ ตน้ ของครีบหลงั อย่ลู ำ้ หน้าจุดเรมิ่ ตน้ ของครีบท้อง ครีบหลัง ไม่มีเงี่ยงแข็ง ไม่มีครีบไขมัน ครีบหางมนกลม ครีบทั้งหมดเป็นอิสระจากกัน[2] สามารถหายใจและครีบคลานบน บกได้เมื่อถึงฤดูแล้ง เป็นปลาวางไข่ เป็นปลากินเนื้อโดยเฉพาะเมื่อตัวโตเต็มที่ชอบกินปลาอื่นที่ตัวเล็กกว่าเป็น อาหาร รวมถึงกินซากพืชและซากสัตว์อีกด้วย เป็นปลาที่รู้จักกันดีในแง่ของการเป็นปลาเศรษฐกิจ ที่นิยมบริโภค กนั โดยเฉพาะในทวปี เอเชีย (https://sites.google.com, 2564) สายพันธข์ุ องปลาดกุ ในประเทศไทย 1.1 ปลาดุกอุย ภาพที่ 1 แสดงปลาดุกอยุ ท่ีมา: https://www.grobest.com วันท่ีสบื ค้น 30 สิงหาคม 2564 • ปลาดกุ อยุ หรือ ปลาดกุ นา หรอื ในภาคใต้ เรยี กว่า \" ปลาดกุ เนอ้ื อ่อน \" • เป็นปลาท่มี ีรสชาติดี อร่อย เนอื้ ไมเ่ ละ • เป็นปลาทม่ี ีความทนทานต่อสภาพแวดลอ้ มไดด้ ีมาก แต่มีอตั ราการเจรญิ เติบโตและนำ้ หนกั ตวั ที่ นอ้ ย
5 1.2 ปลาดุกเทศหรือปลาดุกรสั เซยี ภาพท่ี 2 แสดงปลาดุกเทศ ทม่ี า: https://www.grobest.com วันท่ีสืบคน้ 30 สงิ หาคม 2564 • ปลาดกุ เทศหรอื ปลาดุกรัสเซยี เป็นปลาทข่ี นาดใหญส่ ดุ ในสกลุ Clarias ขนาดเม่อื โตเต็มทีย่ าวได้ ถงึ 1.70 เมตร • เปน็ ปลาพ้นื เมอื งของทวีปแอฟรกิ า พบได้ในตอนเหนอื และตอนตะวันออกของทวปี สำหรบั ใน ประเทศไทยได้ถูก นำเขา้ มาในปี พ.ศ. 2528 โดยเอกชนบางราย • เปน็ ปลาทม่ี ีอัตราการเจรยิ เติบโตท่สี ูง แต่มรี สชาติของเนื้อที่ไม่ค่อยอร่อและรับความนิยมเท่าไร เนือ่ งจากมีขนาดใหญ่ และมีเนอื้ สีขาวทีเ่ ละ
6 1.3 ปลาดุกบกิ๊ อุย ภาพท่ี 3 แสดงปลาดุกบิก๊ อยุ ที่มา: https://www.grobest.com วนั ท่ีสืบค้น 30 สงิ หาคม 2564 •ปลาดกุ บ้กิ อุย กรมประมงได้นำมาทดลองผสมข้ามพันธ์ุกบั ปลาดุกอุย • ปลาดุกบิก้ อยุ เป็นปลา ลกู ผสม ระหวา่ งพอ่ พนั ธุ์ “ปลาดุกเทศ” กับแม่พนั ธุ์ “ปลาดกุ อุย” • พบวา่ ปลาดกุ ลกู ผสมมผี ลการรอดสูง และมีการเจรญิ เตบิ โตเรว็ ท่ีสุด เนื้อมรี สชาตทิ ่ีดขี ้ึน จงึ สง่ เสริมและแพร่วิธีการเพาะขยายพันธุแ์ ละเลย้ี งดสู ่เู กษตรกรอย่างกว้างขวาง จนปจั จบุ ันน้ี กลายเปน็ ปลา เศรษฐกิจท่ีไดร้ บั ความนิยมชนดิ หนึ่งของไทย • เปน็ ปลาทส่ี ามารถเล้ยี งในสภาวะการเล้ยี งทม่ี ีความหนาแน่นสงู ทนต่อสภาวะคุณภาพนำ้ ต่ำ • และเป็นปลาท่ีมีเนอ้ื รสชาติดีมีการเจริญเติบโตรวดเร็ว • เปน็ ปลาทสี่ ามารถเลยี้ งในสภาวะการเลี้ยงทีม่ ีความหนาแน่นสงู ทนต่อสภาวะ คุณภาพนำ้ ต่ำ • และเปน็ ปลาท่มี เี นอ้ื รสชาติดีมีการเจรญิ เตบิ โตรวดเรว็
7 1.4 ปลาดกุ ดา้ น ภาพท่ี 4 แสดงปลาดุกด้าน ที่มา: https://www.grobest.com วันทส่ี ืบค้น 30 สิงหาคม 2564 • ปลาดกุ ดา้ น ขนาดเมอื่ โตเต็มท่อี ยูท่ ี่ประมาณ 50 เซนตเิ มตร • นอกจากจะมีการเล้ียงเป็นปลาเศรษฐกจิ แล้วปลาดุกยังถูกพฒั นาขึน้ เปน็ ปลาสวยงามท่ีมีสีสัน และลวดลายแตกตา่ งไปจากเดมิ โดยเฉพาะปลาที่มีลักษณะของสีเผอื กและปลาต่างซึ่งเป็นทต่ี ้องการใน กลมุ่ นกั เล้ยี งปลาแปลกอย่างมาก • และจากการสำรวจพบว่าปลาดกุ ลำพนั ในธรรมชาติมแี นวโน้มลดลง • เป็นปลาทีม่ กั จะพบ ในเขตบริเวณป่าพรุ • สีของลำตวั คอ่ นขา้ งดำ และ ลักษณะสีของลำตัวจะเปลยี่ นไปตามอายุ ขนาด และสภาพแวดล้อม ตัวโตเตม็ วยั จะมีลำตัวสีเขม้ แตเ่ ม่ือนำมาเลีย้ งในบ่อจะมีสีน้ำตาลเหลอื ง ขา้ งลำตัวมจี ุดสขี าวเรยี งเปน็ แถว ตามขวางประมาณ 13 - 20 แถว ยกเว้นบรเิ วณท้อง (https://www.grobest.com,2563)
8 2. วธิ กี ารเลย้ี งปลาดกุ ปลาดุกเปน็ ปลาทส่ี ามารถเล้ียงได้ง่าย โตเร็ว และอดทนต่อสภาพแวดล้อมจงึ ทำให้มผี ู้ท่ีสนใจในการเลย้ี ง มากขน้ึ ในปัจจบุ ัน การเลย้ี งปลาดุกในปจั จบุ นั ปลาดุกทีน่ ยิ มเลย้ี งกนั มากลักษณะท่ัวไปของปลาดุก คอื เป็นปลาไม่มี เกลด็ ตัวยาวเรยี ว ครบี หลงั ยาวไมม่ ีกระโดง ครบี ท้องยาวเกอื บถึงโคนหางมีอวัยวะชว่ ยในการหายใจซ่งึ ช่วยให้ปลา ดุกมคี วามอดทนสามารถในสภาพน้ำทไ่ี มห่ มาะสม หรืออยู่พน้ น้ำได้นาน ชอบกินอาหารจำพวกเนือ้ สัตว์ แต่ถ้านำมา เล้ยี งในบ่ออาจให้อาหารจำพวกพชื และสามารถฝกึ นิสัยให้ปลาดกุ ขนึ้ มากนิ อาหารบริเวณผวิ น้ำได้ 2.1 การเตรยี มบ่อเลีย้ งปลา มีวิธีการเตรยี มบอ่ ดังน้ี 2.1.1 บ่อใหม่ - ใส่ปูนขาวเพ่ือปรับสภาพดินในอัตรา 60-100 กิโลกรัม/ไร่ โดยให้ท่วั พนื บอ่ - ใสป่ ุ๋ยคอกอัตรา 200 กิโลกรัม/ไร่ โดยโรยใหท้ วั่ บ่อ - เตมิ นำ้ ให้ไดร้ ะดับ 40-50 เซนตเิ มตร ท่้ิงไว้ 1-2 วัน จนน้ำเปน็ สีเขยี วระวงั อยา่ ใหเ้ กดิ แมลง หรอื ศตั รูของปลา 2.1.2 บอ่ เกา่ - หลังจากจับสัตว์น้ำาออกจากบ่อหมดแล้วสูบน้ำจากบ่อเลี้ยงให้แห้งพอหมาดเพราะการตากบ่อ จนแห้งจะเป็นการฆ่าจุลชีพที่มีประโยชน์ในดินจนหมดกําจัดวัชพืชหรือหญ้าตามขอบบ่อออกให้มากที่สุด การเลี้ยงสัตว์น้ำโดยทั่วไป จะประสบผลสําเร็จในช่วง 1-2 ปีแรกเท่านั้นหลังจากนั้นหากไม่มีการพักหรือ ฟื้นฟูสภาพบ่อ เกษตรกรมักจะประสบปัญหาผลผลิตลดลงปัญหาการเกิดโรคระบาดทําให้ไม่สามารถได้ ผลผลิตดเี หมือนกบั ที่เคยไดจ้ นตอ้ งขาดทุนอยเู่ สมอ ๆทเ่ี ปน็ เชน่ นเ้ี พราะ 1) เกษตรกรไมม่ ีการพักบ่อหรือเวน้ ระยะการเล้ยี ง 2) สภาพดนิ ในบอ่ เส่อื มโทรม 3) เกิดการสะสมของสารอินทรีย์ในดินกน้ บ่อ 4) เกิดการสะสมของสารพิษหรือก๊าซพิษในดนิ
9 5) ดินพืน้ บ่อกลายเป็นแหลง่ สะสมของเชอ้ื โรค 6) จุลินทรยี ์ทีÉเป็นประโยชน์ไมส่ ามารถเจริญได้ - สาดปนู ขาวในอัตรา 100-120 กโิ ลกรัม/ไร่ ให้ทวั่ พ้ืนกน้ บอ่ เพือ่ เปน็ การปรบั สภาพความเปน็ กรด-ด่างใหเ้ หมาะสมต่อการเจรญิ เติบโตของจุลชีพในการย่อยสลายของเสยี ในบอ่ - ตากบอ่ ทง้ิ ไว้1 สัปดาห์ จากนั้นพลกิ กลับหนา้ ดินชั้นลา่ งขึ้นมา โดยใชร้ ถไถหรอื คลาด เพ่อื ให้ของ เสียท่หี มักหมมในดนิ สัมผสั กบั อากาศและจลุ ินทรีย์จะทําการย่อยสลายของเสียไดด้ ยี ่งิ ขึ้น - สาดปูนขาวในอัตรา 100-120 กิโลกรมั /ไร่ ให้ท่วั พื้นกน้ บอ่ อกี ครั้ง จากนน้ั ตากบ่อปอีกเป็นเวลา 1 สปั ดาห์ ในบอ่ ท่ีใช้งานมากกวา่ 3 ปี ควรทําซำ้ อีกครัง้ จนครบ 3 คร้งั หรือใช้เวลาตากบ่ออย่างน้อย 3 สปั ดาห์ - นาํ น้ำเขา้ บ่อเลยี้ ง 1-2 วัน แลว้ ทาํ การปลอ่ ยสัตวน์ ำ้ กอ่ นปล่อยปลาควรตรวจวดั ความเป็นกรด- ดา่ งของนำ้ อีกคร้งั ถา้ ไมถ่ งึ 7.5-8.5 ควรนำปนู ขาวละลายน้ำสาดใหท้ ้ัวบ่อเพ่ือปรบั ความเปน็ กรด-ดา่ ง ให้ ได้ 7.5 -8.5 2.2. การเตรียมพนั ธ์ปุ ลา การแลกซื้อลูกปา้ ควรพิจารณาปัจจยั ตา่ งๆ ดงั นี้ 2.2.1. แหลง่ พนั ธฟ์ุ ัก ควรดจู าก - ความนา่ เชอ่ื ถอื และไว้วางใจ ได้เรือ่ งคณุ ภาพ - มนั คดั เลอื กพันธุ์ เพื่อใหไ้ ด้พันธุ์ท่มี ีคุณภาพ - มคี วามชำนาญในการขนส่งลูกปลา 2.3. การปล่อยลกู ปลา เมอ่ื ขนส่งลูกปลามาถงึ บ่อทเี่ ตรยี มไว้ควรแช่ถุงปลาไว้ในบ่อประมาณ 10-15 นาที เพ่ือปรับอุณหภูมิ ระหวา่ งน้ำในถงุ กับนำ้ ในบอ่ เพ่อื ป้องกนั ลูกปลาชอ็ ค ก่อนปล่อยลูกปลาควรมีการทาํ รม่ เงาไว้ในบ่อใหล้ ูกปลาได้ใช้ เป็นทีอ่ ยู่อาศัยอตั ราการปล่อย
10 2.4. อตั ราการปลอ่ ย เกษตรกรรายใหม่ ควรปลอ่ ยลกู ปลาขนาดปลานิว จะทาํ ให้อัตราการรอดสูง อัตราการปล่อย ปลาขนาด 3- 4 เซนติเมตร ปลอ่ ย 60,000-80,000 ตวั /ไร่ ก่อนปล่อยควรส่มุ นบั จํานวนเพือ่ ตรวจสอบให้รู้จาํ นวนจรงิ 2.5. อาหารและการให้อาหาร ตารางการใหอ้ าหารปลาดุก ภาพที่ 5 แสดงแสดงตารางการให้อาหารปลาดุก ที่มา: ฝา่ ยบรกิ ารวิชาการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วนั ที่สบื ค้น 30 สงิ หาคม 2564 ต้นทุนการผลิตปลาประมาณ 80% เปน็ ค่าอาหาร เพราะฉะนั้นในการเลยี้ งปลาการให้อาหารเปน็ สิง่ ทต่ี อ้ งให้ ความสําคัญ ท้ังในสว่ นของคุณภาพของอาหารและปริมาณทใี่ หต้ ้องเพียงพอกับความต้องการของปลาซงึ่ ถ้าใม่ เพียงพอจะทําให้ปลามีอัตราการเจรญิ เติบโตทไ่ี ม่ดี แต่ก็ไม่ควรมากเกินความต้องการเพราะจะเกดิ ปัญหาตา่ งๆ ตามมา เช่น สิ้นเปลอื งอาหาร อาหารเน่าเสียเร็วตอ้ งเสียค่าใชจ้ า่ ยในการเปลี่ยนถา่ ยนำ้
11 2.6. โรคของปลาดุกและการระวงั รักษา สาเหตุที่ทาํ ใหป้ ลาดุกเปน็ โรคนัน้ เน่อื งมาจากปลาเครียดและอ่อนแอ ทําใหเ้ ชอ้ื แบคทเี รียเขา้ ส่ตู วั ปลา แสดงพษิ ออกมาไดง้ ่ายขนึ้ ซึ่งสาเหตดุ งั กลา่ วนั้นมักเกิดขนึ้ เพราะ 1. นำ้ เสยี หรือกน้ บอ่ มีเศษอาหารเน่าเสยี หมักหมมอยูม่ าก 2. การปลอ่ ยปลามีจํานวนมากเกินไปในบ่อเดยี วกนั 3. โปรโตซัว เช้อื รา แบคทีเรีย ไวรสั 4. ปลาขาดธาตอุ าหารและมีอาหารไม่เพยี งพอในการเลี้ยงโรคทีเกดิ จากปรสติ ภายนอกปลิงใส ภาพที่ 6 แสดงปลงิ ใส ที่มา: ฝ่ายบริการวชิ าการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วนั ทีส่ บื ค้น 30 สงิ หาคม 2564 ภาพท่ี 7 แสดงเหบ็ ระฆงั ทม่ี า: ฝ่ายบริการวชิ าการอาหารสตั ว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วันที่สืบค้น 30 สิงหาคม 2564
12 ภาพท่ี 8 แสดงจุดขาว ทม่ี า: ฝ่ายบรกิ ารวิชาการอาหารสตั ว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วนั ทส่ี ืบคน้ 30 สงิ หาคม 2564 การปอ้ งกนั รกั ษา รกั ษาคณุ ภาพนำ้ หด้ ีอยู่เสมอ ฟอร์มาลิน 25 มลิ ลิลิตร ต่อน้ำ 1 ตนั โรคกกหบู วม ท้องบวมน้ำ ภาพท่ี 9 แสดงโรคกกหูบวม ทอ้ งบวมน้ำ ท่ีมา: ฝ่ายบรกิ ารวชิ าการอาหารสตั ว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วนั ที่สืบคน้ 30 สงิ หาคม 2564 สาเหตุ: เกิดจากแบคทีเรียท่อนสัÊน (แอโรโมแนส ไฮโดรฟิ ลลา) เมืÉอทําการแยกเชื Êอจากตับหรือม้าม สามารถ พบ แบคทีเรียจํานวนมาก และมีสาเหตุโน้มนํามาจาก การเปลีÉยนแปลงของสภาพแวดล้อม เช่น ฝนตก อากาศ เปลี่ยน โดยเฉพาะช่วงนําหลากหรือปลายฝนต้นหนาว ทําให้ปลาอ่อนแอ เกิดโรคง่ายการปอ้ งกันรักษา ลดหรืองด ให้อาหาร ผสมยาปฏิชีวนะ 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม ติดต่อกัน 5-7 วันเสริมวิตามินซีใน อาหาร 3-5 กรัม/ กโิ ลกรัม ในช่วงอากาศเปลยี่ น(รว่ มกับการเสรมิ ยาปฏชิ ีวนะ 3-5 กรมั / กิโลกรมั )
13 โรคที่ไม่ได้เกดิ จากการตดิ เชอื้ โรคทเี กิดจากการขาดวติ ามิน ซี ภาพท่ี 10 แสดงโรคทเี่ กดิ จากการขาดวติ ามินซี ทม่ี า: ฝ่ายบรกิ ารวิชาการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ วันทสี่ ืบค้น 30 สงิ หาคม 2564 อาการหรือลกั ษณะความผดิ ปกติ ตัวคดงอ คอพบั หัวกะโหลกเปน็ รู กะโหลกรา้ ว มแี ผลระหวา่ งคอ ปลา จะตายจํานวนมากระหว่างการจบั หรอื ขนส่ง การปอ้ งกนั รกั ษา - ใช้อาหารทเี่ สริมวิตามินซี 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรมั ติดต่อกัน นาน 5-7 วนั - เก็บ อาหารไวใ้ นทีร่ ม่ ให้หา่ งความชน้ื และแสงแดด การป้องกนั รักษา หลีกเลีย่ งการใช้อาหารสด ใช้อาหารสําเร็จรูปที่มคี ุณภาพ รกั ษาคุณภาพนำ้ ให้ดีอยเู่ สมอ ( ฝ่ายบริการวิชาการอาหารสัตว์ บ. เบทาโกร จก.(มหาชน):ออนไลน์ ) 3. ผลผลติ ของปลาดกุ ปลาดุกที่เลี้ยงจะเริม่ ทยอยจับได้ตั้งแต่ปลาอายุ 8-10 เดือน ซึ่งจะมีขนาด 6-10 ตัว/กก.แต่ยังมีขนาดเล็ก ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด สีสัน ภายนอกจะดูดีสู้ปลาจากธรรมชาติไม่ได้ แต่เมื่อนำมาบริโภครสชาติจะไม่ ต่างกันเนื้อปลาเมื่อสุกแล้วจะดูนิ่มและเหลืองน่ารับประทานการเลี้ยงปลาดุกอุยชนิดเดียวกันนี้จะเลี้ยงกันอย่าง แพร่หลายอยูร่ ะยะหนึง่ แลว้ หายไป ตอ่ มามกี ารนำปลาดกุ อุยไปปล่อยเล้ยี ง รวมกับปลานลิ ปลาสวาย ปลาชอ่ น แต่ จะปล่อยปลาดุกอุยตัวโต โดยไม่ได้ปล่อยปลาดุกอุยลงเลี้ยงเป็นปลาหลักเพียงแต่ปล่อยลงไปสมทบใน ปริมาณไม่ มากนักก็จะได้ปลาขนาดใหญ่สีสันดีขึ้นไม่แตกต่างจากปลาธรรมชาติและจำหน่ายได้ราคาดี เกษตรกรบางรายนำ ปลาดุกอยุ ไปปลอ่ ย รว่ มกับในนาปลาสลิดโดยหวังผลขา้ งตน้ ซง่ึ ไดป้ ลดเี ช่นเดียวกนั ทง้ั นี้ในปจั จบุ ันผเู้ ล้ยี งปลาดกุ ท่ัว
14 ประเทศมักนิยมเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย ซึ่งเป็นปลาที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างปลาดุก รัสเซียหรือปลาดุกอัฟริ กัน เพศผู้กับปลาดุกอุยเพศเมียปลาดุกลูกผสมที่ได้จะเติบโตเร็ว มีความต้านทานโรคสูง รูปร่างสีสันดีและเนื้อมี รสชาติใกล้เคียงกับปลาดุกอุย การเลี้ยงปลาชนิดนี้ปัจจุบันประสบผลสำเร็จยึดเป็นอาชีพหลักได้ทำให้การเลี้ยง แพร่กระจายท่ัวไป โดยเฉพาะในเขตพ้ืนทีท่ ี่หาอาหารปลาได้ง่ายราคาถูกและฝนไมต่ กชุกมากนักจนกระท่ังปัจจุบัน ปลาดุกบิ๊กอุยได้เข้ามาแทนทีก่ ารเลีย้ งปลาดกุ ด้านอย่างสิ้นเชิงและไม่พบผู้เลี้ยงปลาดกุ ด้านเปน็ การค้าซึง่ ในอดตี มี อย่มู ากมายได้หายไปหมดสนิ้ จากประเทศไทยในขณะนี้ (กรมประมง, 2563) 4. สายพนั ธป์ุ ลานลิ ในประเทศไทย ปลานิลสามารถอาศัยอยู่ได้ในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่แม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกา พบทั่วไป ตามหนอง บงึ และทะเลสาบในประเทศซดู าน, ยกู ันดา และทะเลสาบแทนกันยีกา ปลานิลนำเข้าสู่ประเทศไทยครั้ง แรกโดยสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ซึ่งทรงจัดส่งเข้ามา ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 จำนวน 50 ตัว ครั้งนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อนํ้าภายในสวนจิตรลดา เป็นหนึ่งโครงการในโครงการส่วน พระองค์ สวนจิตรลดา (สำนกั งานการปฏริ ูปท่ดี ินเพ่อื เกษตรกรรม, 2561) 4.1 ปลานิลพนั ธ์ุจติ รลดา 1 ภาพที่ 11 แสดงปลานิลพันธุจ์ ติ รลดา 1 ท่ีมา:กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตว์นำ้ จืด กรมปะมง, 2559, น.1-2 วนั ท่สี บื ค้น 30 สงิ หาคม 2564 ปลานิลสายพันธ์ุ จิตรลดา 1 เปน็ ปลานลิ ท่ีปรบั ปรุงพันธ์ุมาจากการคัดเลือกสายพันธุ์แบบภายใน ครอบครัว (within family selection) เริ่มดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 ซึ่งทดสอบพันธ์ุ แล้วพบว่าอัตราการเจริญเติบโตดีกว่าปลานิลพันธุ์ที่เกษตรกรเลี้ยง 22 % ลักษณะที่สำคัญ มีการ เจริญเตบิ โตดเี ลย้ี งงา่ ย ทนทาน และออกลกู งา่ ย
15 4.2 ปลานลิ พนั ธุ์จติ รลดา 2 ภาพที่ 12 แสดงปลานลิ พนั ธ์ุจติ รลดา 2 ท่ีมา:กองวิจยั และพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวน์ ำ้ จดื กรมปะมง, 2559, น.1-2 วันทส่ี ืบค้น 30 สิงหาคม 2564 ปลานิลสายพันธ์ุ จิตรลดา 2 ได้จากการปรับเปลี่ยนพันธกุ รรมปลานิลสายพันธุ์อียปิ ต์ ให้พ่อพันธุ์ มี โครโมโซมเพศเป็น “YY” เรียกวา่ “YY-male” หรือ Supermale เมือ่ น าไปผสมกบั แม่พนั ธป์ุ กติ จะได้ ลูกพนั ธุ์ปลานิลเป็นเพศผู้ทั้งหมด มีลักษณะส่วนหัวเลก็ ล าตวั กว้าง สีขาวนวลเน้ือหนาและแน่น รสชาติดี อายุ 6-8 เดือน สามารถเจริญเติบโตได้ขนาด 2-3 ตัวต่อกิโลกรัม ให้ผลผลิตต่อไร่ สูงกว่าปลา นิลพันธุ์ที่ เกษตรกรเลย้ี ง 45% และเน่อื งจาก ปลานลิ สายพันธนุ์ ีต้ อ้ งใช้เทคโนโลยขี ั้นสูงและยากตอ่ การเพาะพันธ์ุจึง ไม่นิยมนามาเลยี้ ง 4.3 ปลานลิ พันธุจ์ ิตรลดา 3 ภาพที่ 13 แสดงปลานิลพนั ธ์ุจติ รลดา 3 ที่มา:กองวิจยั และพัฒนาการเพาะเลยี้ งสตั ว์น้ำจดื กรมปะมง, 2559, น.1-2 วนั ทีส่ บื ค้น 30 สงิ หาคม 2564
16 “ปลานลิ สายพนั ธจ์ุ ติ รลดา 3” เป็นพนั ธ์ปุ ลานิลทไี่ ดร้ ับการพฒั นาปรับปรงุ พันธุ์ส าเร็จในปี 2550 โดยปรับปรุงจากปลานิลสายพันธ์ุGIFT (Genetic Improvement of Farmed Tilapia) รุ่นที่ 5 ของ หน่วยงาน International Center for Living Aquatic Resource Management (ICLARM) ประเทศ ฟลิ ปิ ปนิ ส์ (ซ่งึ มีสายพนั ธุจ์ ิตรลดาดั้งเดมิ ผสมอยูด่ ว้ ย) “ปลานลิ สายพนั ธจุ์ ติ รลดา 3” ผ่านการปรบั ปรุงพนั ธ์ุ ดว้ ยวธิ ีการคัดเลือกแบบหมู่ (Mass Selection) เพ่อื ให้มกี ารเจรญิ เติบโตดมี ีอัตรา รอดและให้ผลผลติ สงู มี ลักษณะเดน่ คือ หัวเล็ก ตวั หนา เนอ้ื แนน่ และมาก 4.4 ปลานลิ พันธจ์ุ ิตรลดา 4 ภาพที่ 14 แสดงปลานลิ พันธุ์จติ รลดา 4 ทม่ี า:กองวิจยั และพัฒนาการเพาะเลี้ยงสตั วน์ ำ้ จืด กรมปะมง, 2559, น.1-2 วนั ทสี่ ืบค้น 30 สงิ หาคม 2564 “ปลานิลสายพนั ธจ์ุ ิตรลดา 4” เป็นพันธป์ุ ลานลิ ท่ีไดร้ บั การพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ส าเรจ็ ในปี 2552 โดยปรับปรุงจากปลานลิ สายพนั ธ์ุGIFT ร่นุ ท่ี 9 จาก WorldFish Center ประเทศมาเลเซยี (ซ่ึงมีสาย พันธ์ุ จิตรลดาดั้งเดิมผสมอยู่เช่นเดียวกัน) “ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 4” ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ด้วย วิธีการ ประเมินจากค่าการผสมพันธุ์ (Estimated Breeding Value, EBV) ของน้ำาหนัก เพื่อให้ได้ ผลผลิตสูง มี ลักษณะเดน่ คือ สว่ นหวั เลก็ ลาตวั กว้าง สันหนา (กองวิจัยและพฒั นาการเพาะเลี้ยงสตั ว์น้ำจืด กรมปะมง, 2559, น.1-2)
17 5. วธิ กี ารเลย้ี งปลานลิ การเตรยี มบอ่ เปน็ ข้นั ตอนข้ันตอนที่สำคญั ข้ันตอนหน่ึงของการเล้ียงปลา ก่อนปลอ่ ยพันธ์ุลกู ปลาเกษตรกร ต้องเตรยี มความพรอ้ มของบ่อให้เรยี บร้อย โดยการตากบอ่ ให้แหง้ เพอื่ ปรับสภาพดินพ้นื บ่อ ฆา่ เช้ือ กำจัดวัชพืชและ พรรณไม้นำ้ ตา่ งๆ กำจัดศตั รูของปลา นำน้ำเข้าบอ่ สรา้ งอาหารธรมชาติ แลว้ จึงปล่อยลูกปลาโดย ซงึ่ มีรายละเอียด ดังนี้ 5.1 การตากบ่อ ควรมีการตากบ่อทุกครั้งหลังการจับปลาขาย เพื่อเป็นการปรับสภาพข องดิน พื้นบ่อ ที่อาจมีการสะสมของสิ่งขับถ่ายจากสัตวน์ ้ำท่ีเลี้ยง ซึ่งหากสะสมเป็นปริมาณมากจะก่อใหเ้ กิดก๊าซ แอมโมเนยี ซ่ึงเป็นพิษต่อสัตว์นำ้ การตากบ่อให้แห้งจะเปน็ วิธีการกำจัดกซ๊ แอมโมเนีย แนะนำให้มีการตาก บอ่ ใหแ้ หง้ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน หรือมากกวา่ ขน้ึ กบั สภาพบ่ อ และชว่ งเวลาท่ีตากบ่อการใส่ปูนขาว มี วัตถุประสงค์เพื่อการฆ่าเชื้อต่างๆ ที่สะสมอยู่บริเวณพื้นบ่อและปรับสภาพของดินในบ่อ ปริมาณปูนที่ใส่ แตกตา่ ง กันไปตามสภาพพื้นที่ เชน่ บรเิ วณท่เี ป็นดนิ กรดมีความต้องการปนู ขาวมากกว่า หรือบอ่ ที่ผ่านการเลยี้ งปลา มาเป็นเวลานานมี ความต้องการปูนขาวน้อยกว่าบ่อใหม่ อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำสำหรับการใส่ปูนขาว ให้ใสใ่ นปรมิ าณ 100 -1 50 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ โดยโรยใหท้ ั่วพ้นื ก้นบอ่ และขอบบ่อ 5.2 กำจัดวชั พชื และพรรณไม้น้ำต่างๆ เช่น กก หญา้ ผกั ตบชวา โดยนำมากองสุมไว้ เม่ือแห้งแล้ว นำมาใช้เป็นปุ๋ยหมักในขณะที่ปล่อยปลาลงเลี้ยงถ้าในบ่อมีเลนมากจำเป็นต้องสาดเลนขึ้น โดยนำไปเสริม คันดินที่ชำรดุ หรือใช้เปน็ ปุยแก่พืช ผัก ผลไม้ บริเวณใกล้เคียง พร้อมทั้งตกแต่งเชิงลาดและคันบ่อให้แน่น ด้วย หรือโดยการตากบอ่ ให้แห้งแลว้ ดนั ดินก้นบ่อขน้ึ หลังจากตากบ่อแห้งแลว้ นำดนิ ไปเสรมิ คันบ่อให้แนน่ 5.3 กำจัดศัตรูปลา ศัตรูปลานิลได้แก่ กลุ่มปลากินเนื้อ เช่น ช่อน ชะโด หมอ ดุก นอกจากนี้ก็มี สัตว์พวก กบ เขียด งู เป็นต้น ดังนั้นก่อนปล่อยปลานิลลงบ่อเลี้ยง จำเป็นต้องกำจัดศัตรูดงั กล่าวเสียก่อน โดยวิธีระบายน้ำออกให้เหลือน้อยที่สุด ใชโ้ ล่ติ๊นสดหรอื แห้งประมาณ 1 กโิ ลกรมั ต่อปริมาณน้ำในบ่อ 100 ลูกบาศก์เมตร ทุบหรือบดโล่ติ๊นให้ละเอียดนำลงแช่น้ำประมาณ 1-2 ปี๊บ ขยำโล่ติ๊นให้น้ำสีขาวออกมา หลายๆ ครัง้ จนหมด นำไปสาดให้ทั่วบอ่ ปลาที่ค้างอยู่ทีพ่ ืน้ บอ่ จะลอยหวั ข้นึ มาภายหลงั สาดโล่ตน๊ิ ประมาณ 30 นาทีใช้สวิงจับขึน้ มาบริโภคได้ ปลาที่เหลือตายพื้นบ่อจะลอยในวันรุ่งขึน้ ส่วนศัตรูจำพวก กบ เขียด งู จะหนีออกจากบ่อไป และกอ่ นปล่อยปลาลงเล้ียงควรทิ้งระยะไวป้ ระมาณวันเพื่อให้ฤทธข์ิ องโล่ติ๊นสลายตัว ไปหมดเสยี กอ่ น นอกจากใช้โลต่ ิ๊นในการกำจัดศตั รปู ลาในบอ่ แลว้ ยังอาจใช้ปนู ขาวและกากชาในการกำจัด
18 ศตั รู ปลาได้อีกด้วยใชก้ ากชา 2 กิโลกรมั ตอ่ นำ้ 20 ลิตร แช่ทง้ิ ไว้ประมาณ 1 วัน หลังจากนนั้ ก็นำเฉพาะน้ำ ท่ีไดไ้ ปสาดใหท้ ัว่ บ่อทีม่ เี น้ือท่ีของบ่อประมาณ 2 ไร่ 5.4 การลอกเลน มีความจำเป็นถ้าหากว่ามกี ารสะสมของเลนในพื้นบ่อปริมาณมาก แ ละการตาก บ่อเพยี งอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ดงั นัน้ จงึ ตอ้ งมกี ารลอกเลน ซง่ึ อาจมกี ารลอกเลนปีละครั้ง หรอื ทกุ 2 ปี 3 ปหี รือ 5 ปี ข้ึนอยกู่ บั สภาพการสะสมของเลนพื้นบ่อ การลอกเลนทำได้โดยการตากบ่อให้แห้งแล้วใช้รถ แทรกเตอร์ดันเลนแหง้ ที่บริเวณผิวหนา้ พืน้ บอ่ ขน้ึ ไปตบแตง่ คั นบ่อใหแ้ น่นหนา 5.5 การนำนำ้ เขา้ บ่อ ใชอ้ วนตาถส่ี องชั้นหุ้มทีป่ ลายท่อนำน้ำเข้าบ่อ เพ่ือกรองไข่และลูกปลาขนาด ท่จี ะเข้ามาในบ่อการใส่ปยุ๋ ปลานิลเปน็ ปลาทก่ี ินอาหารได้หลากหลายชนิด ในบ่อเลี้ยงปลาควรให้มีอาหาร ธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพื่อเร่งให้ เกิดอาหารธรรมชาติจำพวกแพลงก์ตอนพืช (พืช น้ำขนาดเล็ก) เป็นอันดับแรก ซึ่งจะเหนี่ยวนำให้เกดิ อาหารธรรมชาตอิ ื่นๆ ตามมา ได้แก่ แพลงก์ตอนสตั ว์ ไรน้ำและตวั ออ่ นของแมลง ป้ยุ ทใี ชไ้ ด้แก่ มลู วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ นอกจากมูลสัตว์แล้วอาจใชป้ ้ยุ หมกั และ ฟางข้าวหรือปุ้ยพืชสดต่างๆ ได้เชน่ กนั การใส่ปยุ๋ คอกในระยะแรกควรใสป่ ระมาณ 250-300 กิโลกรัมต่อไร่ ตอ่ เดือนสว่ นในระยะหลังให้ลดลงครึ่งหน่ึงโดยการสังเกตสีนำ้ ในบ่อ วธิ ี ใสป่ ุ๋ยคอกควรตากให้แห้งเสียก่อน เพราะปยุ้ สดจะทำให้มีแก๊สแอมโมเนียทเี่ ป็นอนั ตรายตอ่ ปลา การใส่ปยุ๋ คอกใชว้ ธิ หี ว่านลงไปในบ่อ ส่วนป้ย หมกั หรือปุ้ยพืชสดควรกองสุมไว้ตามมุมบ่อ 2-3 แหง่ โดยมีไม้ปักล้อมเป็นคอกรอบกองปุ๊ยเพ่ือป้องกันมิให้ ส่วนทย่ี ังไม่ละลายตวั กระจัดกระจาย และในกรณที ห่ี าป้ยุ คอกไม่ได้กอ็ าจใช้ปุ๋ยวทิ ยาศาสตรส์ ตู ร 15:15:15 ใส่ประมาณ 5 กิโลกรัมต่อไร่ต่อเดือน นอกจากปุ๋ยวิทยาศาสตร์แล้วการเตรียมบ่อเลี้ยงปลานิลในปัจจุบนั ยังพบว่าปราชญ์อ่างทองมีการใส่ อามิอามิ สาดทั่วบ่อ (บ่อขนาด 25 ไร่) บ่อละ 100-200 ลิตร จะช่วยให้ นำ้ มอี าหารตามธรรมชาติเรว็ ข้นึ ปราชญ์จังหวัดสมุทรปราการมีการใสน่ ้ำหมักชวี ภาพ ทุก 7-10 วนั เตรียม น้ำหมักชีวภาพโด ยผสม พด.2 และ พด 6อย่างละ 1 ซอง กับเศษผัก 20 กิโลกรัม เปลือกสับปะรด 4 กิโลกรัม กากน้ำตาล 5 กิโลกรัม แล้วเติมน้ำจนได้ปริมาตร 100 ลิตร หมักนาน 15-20 วัน จากนั้นนำน้ำ หมักชีวภ าพที่ได้ 20 ลิตร ผสมมูลไก่ 25 กิโลกรัมกากน้ำตาล 4 ลิตร น้ำ 50 ลิตร หมักนาน 4 วันแล้ว ผสมน้ำ 100 ลิตร จากนั้นจึงนำไปสาดให้ทั่วบ่อ ทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน จึงตรวจสอบคุณสมบัติของน้ำ เช่น ความเป็นกรดเป็นด่าง ความเป็นด่าง ความกระด้างและคามโปร่งแสงตัวอย่างการเตรียมบ่อของ ปราชญ์จงั หวัดชัยภูมิ การเตรียมบอ่ เลยี้ งจะเหมือนกันกับการเตรยี มบ่ออนบุ าลต่างกันตรงที่หลังจากหว่าน ปนู ขาวปล่อยไว้ อาทิตยแ์ ลว้ จะทำการหว่านข้าวและปล่อยให้วัซพชื เจรญิ เตบิ โตประมาณ 1 เดือน จากน้ัน จะตัดต้นกล้าและวัชพืชที่ขึ้นให้หมดนำต้นกล้าและวัชพืชที่ได้ไปทำปุ้ยหมักไว้มุมบ่อปลาเพื่อเป็นแหล่ง
19 อาหารธรรมชาติ โดยจะปกั ไมก้ ั้นไม่ให้กองปุย๊ หมกั กระจัดกระจาย วางตน้ ข้าวและวัชพืชสลับกับขี้วัวแห้ง เปน็ ชัน้ ๆ ใชข้ ว้ี วั แห้งประมาณ 100 กิโลกรมั ต่ไร่จากนน้ั นำนำ้ เข้าประมาณ 30เซนติเมตร พักไว้ 1 อาทิตย์ เพิ่มน้ำอกี ประมาณ 20 เซนตเิ มตรสงั เกตสุ ีนำ้ ถ้าเปน็ สขี ่นุ แก้ไขโดยใสปยุ๋ ยูเรีย 5-6 กิโลกรัมแต่ปกติจะเป็น สีเขียวโดยไม่ต้องใส่ปุ๊ยยูเรีย(การทำปุ๋ยหมักนี้จะทำไปเรื่อยจนกว่าจะจับปลาจำหน่ายหากกองปุ้ยหมัก เหลือน้อยก็จะหาฟางหรือหญ้าที่ตัดจากขอบบ่อมาทำปุ๋ยหมักเพิ่มโดยใช้ขี้วัวแห้งมาสลับชั้นเหมือนเดิม )(สำนักวิจัยและพัฒนาประมงนำ้ จืดกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2554, น.16-17) 6. ผลผลติ ของปลานลิ ปลานิลเป็นปลาที่มีการเจริญเติบโตเร็ว เมื่อได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องจะมีขนาดเฉลี่ย 500 กรัม ใน เวลา 1 ปี ผลผลติ ไม่น้อยกว่า 500 กก./ไร่/ปี ในกรณีเลีย้ งในกระชังที่คุณภาพน้ำดี มอี าหารสมทบอย่างสมบูรณ์ สามารถให้ผลผลติ ไม่นอ้ ยกวา่ 5 กโิ ลกรมั /ลกู บาศกเ์ มตร (ชลานนท์ ชูสาด:ออนไลน์) นอกจากนี้ในโครงการใหญ่ๆ ที่ใช้กังหันลมขนาดกลางที่ได้รับการทดสอบประสิทธิภาพ จะมี ศักยภาพในการปฏิบัติงาน 98% อย่างสม่ำเสมอโดยอาศัยลม ซึ่งหมายถึงต้องซ่อมแซมเป็นระยะเวลา เพียง 2% ซงึ่ เปน็ ประสิทธภิ าพการทำงานทีส่ งู กวา่ ประสิทธภิ าพท่คี าดหวังไดจ้ ากโรงไฟฟ้าทว่ั ไปอยา่ งมาก
20 7.มอเตอรไ์ ฟฟา้ มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังกล มอเตอร์ที่ใช้งานในปัจจุบัน แต่ละ ชนดิ กจ็ ะมคี ณุ สมบัติที่แตกต่างออกไปต้องการความเร็ว รอบหรอื กำลังงานที่แตกต่างกัน ซึง่ มอเตอร์แต่ละชนิด จะ แบ่งได้เป็น 2 ชนิด ตามลักษณะการใช้งานกระเเสไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้าแบ่งออกตามการใช้ของกระแสไฟฟ้าได้ 2 ชนดิ ดงั นี้ 1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current Motor) หรือเรียกว่าเอ.ซี มอเตอร์ (A.C. MOTOR) การแบง่ ชนิดของมอเตอรไ์ ฟฟ้าสลบั แบ่งออกเป็น 3 ชนดิ ได้แก่ 1.1 มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับชนดิ 1 เฟส หรือเรยี กวา่ ซิงเกิลเฟสมอเตอร์ (A.C. Sing Phase) จะใชก้ บั แรงดนั ไฟฟ้า 220 โวลต์มีสายไฟ เข้า 2 สาย มแี รงมา้ ไม่สูง ส่วนใหญต่ ามบา้ นเรอื น - สปลิทเฟส มอเตอร(์ Split-Phase motor) - คาปาซิเตอร ม์ อเตอร์ (Capacitor motor) - รพี ัลชนั่ มอเตอร์ (Repulsion-type motor) - ยนู เิ วอรแ์ วซลมอเตอร์ (Universal motor) - เชด็ เดดโพล มอเตอร์ (Shaded-pole motor) 1.2 มอเตอร์ไฟฟา้ สลบั ชนิด 2 เฟสหรอื เรียกว่าทเู ฟสมอเตอร์ (A.C.Two phas Motor) 1.3 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั ชนิด 3 เฟสหรือเรียกวา่ ทีเฟสมอเตอร์ (A.C. Three phase Motor) เป็น มอเตอรท์ ่ใี ชใ้ นงานอุตสาหกรรมต้องใชร้ ะบบไฟฟา้ 3 เฟส ใช้แรงดัน 380 โวลต์ มสี ายไฟเข้ามอเตอร์ 3 สาย 2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current Motor ) หรอื เรยี กวา่ ด.ี ซี มอเอตร์ (D.C. MOTOR) การ แบ่งชนิดของมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงแบง่ ออกไดด้ งั น้ี มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบง่ ออกเป็น 3 ชนิดไดแ้ ก่ 2.1 มอเตอร์แบบอนุกรมหรือเรยี กวา่ ซีรสี ์มอเตอร์ (Series Motor) 2.2 มอเตอร์แบบอนุขนานหรือเรยี กวา่ ชนั ท์มอเตอร์ (Shunt Motor) 2.3 มอเตอรไ์ ฟฟ้าแบบผสมหรือเรยี กว่าคอมเปาวด์มอเตอร์ (Compound Motor) ((psptech.co.th),2564 : ออนไลน์)
21 ภาพที่ 15 แสดงภาพสว่ นประกอบของมอเตอร์ไฟฟา้ ทีม่ า: (psptech.co.th) วันที่สืบค้น 30 สงิ หาคม 2564 งานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ปิยวัฒน์ สุขสวัสด์ิ ได้ศึกษางานวิจัยเรื่องเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติ ผลการทดลองพบว่าบการจาย อาหารปลานั้นมีความแตกตางกันของปริมาณอาหารในแตละครั้ง แตโดยรวมแลวมีความแตกตางกันไมมากนัก การจายอาหารปลา 30 ครั้ง แตละคร ้ังใชเวลา 10 วินาทีผลเฉล่ีย การใหอาหารปลาอยู ที่ 0.51 กิโลกรัม และผล การทดสอบประสิทธิภาพของเซนเซอรในการแสดงผลผาน แอพพลิเคช่ันไลนนั้น ผลการทดสอบเซนเซอรวัด ปรมิ าณอาหาร เซนเซอรสามารถแสดงผลผานแอพพลิเคช่นั ไลนไดดีมีความแมนยำรอยละ 100 ในสวนของเซนเซ อรการวดั ความเปนกรด-ดาง พบวาคาความเปนกรด-ดาง ทว่ี ัดไดจากเซนเซอรมีคาถกู ตองรอยละ 80 ณัฐณิชา โกศินานนท์ ได้ศึกษางานวิจัยเรื่องเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติ ผลการทดลองพบว่าหลักการ ทำงานเคร่ืองให้อาหารปลาอัตโนมัติ เริ่มจากการใช้กระบอกพลาสติกมาเปน็ วัสดุในการใส่อาหารปลา หลังจากนั้น นำกระบอกพลาสติกมาติดตั้งกับเซ็นเซอร์ Servo Motor เพื่อใช้ในการหมุนเปิดปิดกระบอกพลาสติกเครื่องให้ อาหารปลา และติดตั้งเซนเซอร์ Ultrasonic เพื่อใช้วัดระยะทางของอาหารปลาที่หมดไปโดยเมื่อ อาหารปลาลด ต่ำลงมากกว่า 10 เซนติเมตรจะทำการแจ้งเตือนผ่านทางสมาร์ทโฟน และผู้ใช้สามารถกดปุ่ม Off เพื่อสั่งงานให้ Servo Motor เปิดปิด และสามารถทราบระยะอาหารที่หมดไปบนแอพพลิเคชั่น Blynk เครื่องให้อาหารปลา
22 อัตโนมัติสามารถลดขั้นตอนในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ผู้เลี้ยงปลาสามารถรู้ปริมาณอาหารท่ี เหลืออยูใ่ นแทงค์ได้ซง่ึ สง่ ผลดตี อ่ ผู้เลยี้ งปลาทำใหล้ ดกำลังคนในการดูแลปลา เจริญชัย ฮวดอุปัด ได้ศึกษางานวิจัยเรื่องเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติ ผลการทดลองพบว่าเครื่องให อาหารปลาสามารถจาย อาหารไดเที่ยงตรงโดยมีคาความผิดพลาดเฉลี่ยสูงสุด 5 เปอรเซ็นต (ทดลองที่ 200 กรัม) เครื่องใหอาหารปลาสามารถทํางานไดทั้งจาก แหลงจายไฟฟา 220 โวลต และจากแหลงจายพลังงานไฟฟาจาก เซลล แสงอาทิตย สุไลหมาน หมาดโหยด ได้ศึกษางานวิจัยเรือ่ งเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติ ผลการทดลองพบว่าเกษตรกร สามารถใช้งานกระบวยตักอาหารปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่มีข้อเสนอแนะด้านรูปทรง ที่ใหญ่เกินไป มือจับ ควรอย่ดู ้านบนและควรใหแ้ ปน้ ตักอาหารโคง้ งอจะสามารถตกั อาหารและเพ่ิมแรง เหวี่ยงอาหารไดร้ ะยะไกล
23 บทท่ี 3 วัสดอุ ุปกรณแ์ ละวธิ ีการดำเนนิ งาน วัสดุ-อปุ กรณ์ 1. Timer หรอื ตัวต้ังเวลาเปดิ ปดิ ไฟ 2. กล่องพลาสตกิ ทรงกลม 3. กาวแทง่ 4. แกนหมนุ มอเตอร์ 5. ข้อตอ่ ทอ่ PVC 6. ตะกวั่ บัดกรี 7. ท่อ PVC ยาว 15 เซนติเมตร 8. แบตเตอรี่ 9 โวลต์ 9. แผ่นไมก้ ระดาน 16 × 16 เซนติเมตร 10. มอเตอร์ 11. มีดหรือกรรไกร 12. เลอื่ ย 13. สายไฟ 14. หวั แรง้ 15. หางปลาทองเหลือง ขนั้ ตอนการดำเนินงาน ตอนท่ี 1 การประดิษฐ์เรอื ให้อาหารปลา 1. เรมิ่ ทำวงจรของเคร่ืองให้อาหารปลากอ่ น โดยบัดกรีสายไฟเชื่อมแบตเตอรเี่ ขา้ กบั Timer หรอื ตัวต้ัง เวลาเปดิ ปดิ ไฟ 2. นำกลอ่ งพลาสติกทรงกลมมาเจาะรูที่จดุ กลางฝากล่องและก้นกลอ่ ง ขนาดเทา่ ความกวา้ งของแกน หมนุ จากนน้ั ทำสว่ นทจ่ี ะให้อาหารออกบริเวณดา้ นขา้ งของกลอ่ ง ซ่ึงที่ทำจะตอ้ งคำนึงถึงขนาดของ เม็ดอาหารที่ให้ปลาด้วย
24 3. ตอ่ แกนหมุนเข้ากบั มอเตอร์ จากนน้ั นำไปนำกล่องพลาสติกทเ่ี จาะรแู ละตดั แลว้ ตอ่ เข้ากับแกหมนุ เป็น อันเสรจ็ ในสว่ นของกลไก 4. นำท่อ PVC ยาว 15 เซนตเิ มตร และข้อตอ่ ท่อ PVC กระกอบเปน็ โครงรปู ทรงลูกบาศก์ 5. นำแผ่นไม้กระดาน 16 × 16 เซนติเมตร มาปิด 3 ด้านของโครงรปู ทรงลกู บาศก์คือ ด้านซ้าย ดา้ นขวา และดา้ นหลัง 6. ข้ันสุดท้ายคือการนำกลไกมาติดตั้งเขา้ กบั โครงของอปุ กรณ์ โดยใชก้ าวแท่งตดิ ตงั้ ตวั ตง้ั เวลาไวด้ า้ น นอกของแผน่ ไม้ และทำรางใส่แบตเตอร่ีไว้ด้านใน ซ่ึงไม่ควรทำใหแ้ นน่ จนเกินไป จากนัน้ ติดตงั้ มอเตอร์และสว่ นกล่องให้อาหารไวด้านใน ซงึ่ ควรทำการเก็บสายไฟและล็อคส่วนแกนหมุนด้วย ตอนที่ 2 การประเมนิ ความพึงพอใจส่ิงประดษิ ฐ์ 1. ออกแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ 2. นำแบบประเมนิ แจกใหก้ บั กลุ่มตวั อย่างเปน็ ผปู้ ระเมนิ 3. รวบรวมแบบสอบถาม คำนวณหาคา่ เฉล่ีย ( x̅ ) พร้อมทั้งแปลผลการประเมินความพงึ พอใจ
25 บทที่ 4 ตารางท่ี 4.1 ผลการทดลองเปรยี บเทยี บความสามารถในการใหอ้ าหารปลา การทดลอง เรือให้อาหารปลา ครัง้ ท่ี ระยะเวลา ปรมิ าณ ความทวั่ ถึงของอาหาร อาหารภายในเคร่ือง ปลา 1 1 นาที 200 กรัม ไมท่ ว่ั ถงึ ตกคา้ ง 2 2 นาที 200 กรัม ทว่ั ถึง ตกค้าง 3 3 นาที 200 กรัม ทวั่ ถึง ไมต่ กค้าง จากตารางที่ 4.1 ผลการทดลองเปรียบเทียบความสามารถในการให้อาหารปลา โดยใช้ปริมาณอาหารที่ เท่ากันแต่เวลาในการให้อาหารแตกต่างกัน พบว่า ในการทดลองครั้งที่ 1 ทดลองอาหารจำวน 200 กรัม เวลา 1 นาที อาหารปลายังไม่ทวั่ ถึงทั้งอ่าง ในการทดลองครง้ั ที่ 2 และ 3 ตามลำดบั ในการทดลองคร้งั ที่ 2 อาหารปลาไป ได้ทั่วทั้งอ่างแต่ยังมีบางส่วนติดค้างภายในเครื่อง และในครั้งที่ 3 อาหารสามารถกระจายไปได้ทั่วทั้งอ่างและไม่มี อาหารตกค้างภายในเครือ่ ง
26 ตารางที่ 4.2 ความคดิ เห็นเกี่ยวกับเร่อื ง เคร่ืองให้อาหารปลาอตั โนมัติ ความพงึ พอใจ ข้อ รายการ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ค่าเฉล่ีย ที่สดุ กลาง ที่สดุ 4.5 4.65 (5) (4) (3) (2) (1) 4.6 4.55 1. ประสิทธภิ าพในการทำงาน 10 10 - - - 4.5 4.5 2. ความประหยดั งบประมาณ 12 7 1 - - 4.35 4.55 3. ความแขง็ แรง คงทน 12 8 - - - 4.75 4.45 4. ความสะดวกในการใชง้ าน 11 9 - - - 5. ความเหมาะสมของขนาด 11 8 1 - - 6. ความเหมาะสมของวสั ดุ 11 8 1 - - อุปกรณ์ 7. ความคิดสร้างสรรค์ 10 7 3 - - 8. ความสวยงาม 11 9 - - -- 9. การประหยดั พลงั งานไฟฟ้า 15 5 - - - 10. ระยะเวลาในการทำงาน 9 11 - - -
27 จากตารางที่ 4.2 ความคิดเห็นเกย่ี วกับเร่อื ง เครอื่ งใหอ้ าหารปลาอัตโนมตั ิ พบวา่ คนส่วนใหญเ่ ห็นวา่ สิ่งประดษิ ฐ์มีการประหยดั ไฟมากที่สดุ โดยมีคา่ เฉลีย่ อยทู่ ี่ 4.75 รองลงมาได้แก่ ความประหยดั งบประมาณ มี คา่ เฉล่ยี อยู่ท่ี 4.65 และรองลงมาคือ ความแข็งแรง คงทน, ความสะดวกในการใชง้ าน, ความสวยงาม, ความ เหมาะสมของขนาด, ความเหมาะสมของวัสดุอปุ กรณ์, ประสิทธิภาพในการทำงาน, ระยะเวลาในการทำงาน, ความคดิ สรา้ งสรรค์ มีค่าเฉลย่ี เปน็ 4.6, 4.55, 4.55, 4.5, 4.5, 4.5, 4.45 และ 4.35 ตามลำดับ
28 บทที่ 5 สรปุ และอภปิ รายผลการทดลอง โครงงานเคร่ืองให้อาหารปลาอัตโนมัติ ผูด้ ำเนินโครงงานได้ดำเนินจนสำเรจ็ ตามขั้นตอนวิธีการเรยี บร้อยจงึ ไดส้ รุปผลและข้อเสนอแนะดงั ต่อไปนี้ 5.1 สรปุ ผล 5.1.1 สรปุ ผลการทดลองตอนท่ี 1 การประดิษฐ์เครื่องให้อาหารปลาอัตมตั ิ เม่อื เรานำท่อ pvc เหลือใช้ มอเตอร์ของเล่น แผ่นไมอ้ ดั เหลือที่ไม่ต้องการ สายไฟ กระปุกขนาด เล็กเหลือใช้ และ timer switch เราจะสามารถประดิษฐ์เครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติที่ดีและมีประสิทธิภาพได้ โดยหลักการทำงานของเครอื่ งให้อาหารปลาอัตโนมตั ิคือ ให้มอเตอรห์ มุนกระปุกขนาดเล็กทีม่ ีอาหารอยู่เพื่อหมุนให้ อาหารหลน่ ลงไป ในนำ้ เพื่อใหอ้ าหารปลา 5.1.2 สรุปผลตอนท่ี 2 การทดลองการเคร่ืองให้อาหารปลาอตั โนมัติ จากการทดลองประสิทธิภาพในการให้อาหารปลาของเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัตินั้นจะพบวา่ เครือ่ งให้อาหารปลาอัตมัติมปี ระสิทธิในการทำงานที่ดีมาก ในการให้อาหารในอ่างเพาะเลี้ยงขนาดกลาง-ขนาดเล็ก นั้นเครื่องสามารถทำงานได้ดีแต่ในบ่อที่ขนาดใหญ่-ใหญ่มากเครื่องนั้นไม่สามารถกระจายอาหารได้ทั่วถึงจำเป็น จะต้องใช้ขนาดที่ใหญ่กว่านี้ ทั้งนี้สามารถสรุปได้ว่า เครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติสามารถทำงานได้รวดเร็วและมี ประสิทธภิ าพมากกวา่ การทค่ี นใหอ้ าหารเอง 5.1.3 สรุปผลตอนที่ 3 ความคิดเหน็ เก่ียวกับเครื่องใหอ้ าหารปลาอัตโนมตั ิ จากการตรวจสอบแบบสอบถามวามพึงพอใจหลังจากกลุ่มตัวอย่าง ไดท้ ำการทดลองใช้เคร่ืองให้ อาหารปลาอัตโนมัติ จำนวน 10 ข้อ โดย,uกลุ่มตัวอย่างทัง้ 10 คน พบว่าเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติได้รับความ พึงพอใจในข้อ 1 ด้านการประหยัดไฟฟ้าที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.75 และได้รับความพึงพอในในข้ อที่ 2 ด้าน ความคดิ สรา้ งสรรค์โดยมีคา่ เฉลย่ี อย่ทู ่ี 4.35
29 5.2 ขอ้ เสนอแนะ 1. การเปรียบเทียบขนาดและประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องให้อาหารปลาอัตโนมัติอาจจะไม่ เหมาะสม กบั บ่อที่มขี นาดใหญ่ 2. ควรปรบั เปล่ียนวสั ดุและอุปกรณใ์ หม้ ีความแขง็ แรงคงทนมากขน้ึ ตามขนาดความต้องการของการใช้งาน น้ันๆ 3. ควรเพิ่มความจุของแหล่งไฟฟ้าให้มีความจุไฟฟ้ามากข้ึนเพื่อเพิ่มระยะเวลาใช้งานหรือต่อเข้าไฟฟ้าใน บ้าน
ง บรรณานุกรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: