เอกสารประกอบการสอน วชิ าโครงงาน 2 ปีการศกึ ษา 2565 ม.6 นางยศวดี ศศิธร ตาแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนมหาวชิราวธุ จังหวัดสงขลา สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาสงขลา สตลู สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
คำนำ เอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ จัดทาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้วิชา ว33275 โครงงาน 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของนักเรยี นโครงการ SMA ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2565 นางยศวดี ศศธิ ร กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นมหาวชิราวุธ จังหวดั สงขลา
สารบัญ หนา้ เรอื่ ง 1 3 การเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 14 รายละเอยี ดการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 16 การเสนอและจัดแสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 21 รายละเอยี ดการนาเสนอบนแผงหรือบอร์ดแสดงผลงานของโครงงาน 22 เอกสารอา้ งอิง ประวัตผิ ูเ้ ขยี นเอกสาร
ครูยศวดี ศศธิ ร กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ 1ละเทคโนโลยี ใบความรทู้ ี่ 1 โรงเรียนมหาวชริ าวุธ จังหวดั สงขลา เร่ืองการเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีการส่ือความหมายที่มีประสิทธิภาพวธิ ีหน่ึง เพ่ือให้ คนอืน่ ๆ ได้เขา้ ใจถึงแนวคิด วิธดี าเนนิ การศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ที่รวบรวมได้ ผลของการศกึ ษา ตลอด จนขอ้ สรุป ประโยชน์และข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกย่ี วกับโครงงานนั้น ๆ หลักการทัว่ ไปของการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ คอื ตอ้ งเขียนให้ชัดเจน ภาษาทใ่ี ช้ต้องกะทดั รดั สัน้ และตรงไปตรงมา คาศพั ทท์ ีใ่ ชถ้ กู ต้อง วิธเี ขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มลี ักษณะหรอื แนวทางในการเขียนเช่นเดียวกับรายงาน ผลการวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ของนกั วทิ ยาศาสตร์น่ันเอง ซึ่งควรครอบคลุมสิง่ ตอ่ ไปน้ี 1. ชอ่ื โครงงาน 2. ชอื่ ผู้จัดทาโครงงาน 3. ชอื่ ครทู ่ีปรกึ ษาโครงงาน 4. บทคัดยอ่ 5. ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน 6. วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน 7. สมมตฐิ านของโครงงาน 8. วธิ ดี าเนินการ 9. ผลการศกึ ษาค้นควา้ 10. สรุปผลของการศกึ ษาค้นคว้า 11. ขอ้ เสนอแนะ 12. เอกสารอ้างองิ หวั ขอ้ ตา่ ง ๆ ในรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประกอบดว้ ยส่วนต่าง ๆ ดังตอ่ ไปน้ี 1. ปกหนา้ ของรายงาน 2. ปกในของรายงาน 3. บทคัดย่อ 4. กติ ตกิ รรมประกาศ 5. สารบญั 6. เนือ้ หาหลกั ของโครงงาน 6.1 บทที่ 1 บทนา 6.2 บทท่ี 2 บทเอกสารหรือบททฤษฎี และหลกั การ 6.3 บทที่ 3 วธิ ีดาเนนิ การ 6.4 บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา 6.5 บทที่ 5 สรุปผล ประโยชน์และข้อเสนอแนะ 7. บรรณานกุ รม 8. ภาคผนวก
2 ปจั จบุ ัน สมาคมวทิ ยาศาสตรแ์ ห่งประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์ไดก้ าหนดการเขยี นรายงานโครงงาน วิทยาศาสตร์ ไว้ดังนี้ เน้ือหาหลักของโครงงาน ต้ังแต่ บทที่ 1 – บทที่ 5 รวมกันไม่เกิน 20 หน้า และให้มี ภาคผนวก ได้อีกไม่เกิน 10 หน้า โดยเน้ือหาหลักของโครงงาน ใช้ตัวอักษร Angsana new หรือ Cordia new ขนาด 16 point หรอื ขนาด 14 point หากรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์เรอ่ื งใดพมิ พเ์ กนิ กวา่ ทก่ี าหนดไวจ้ ะถูก ตัดคะแนน
3 ใบความรูท้ ่ี 2 เรือ่ งรายละเอียดการเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เพ่ือใหน้ กั เรยี นไดเ้ ขา้ ใจในรายละเอียดของรายงาน จะขออธิบายวิธีเขยี นในแตล่ ะส่วน โดยเรยี งตง้ั แต่ หน้าปกของรายงาน จนถงึ ภาคผนวก ไดด้ งั นี้ 1. หนา้ ปกของรายงาน สิง่ ทนี่ ักเรียนจะตอ้ งนาเสนอและปรากฏบนหนา้ ปกของรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ มีดงั น้ี 1.1 ช่ือโครงงาน ควรเปน็ ชอ่ื ท่ีสื่อตรงไปตรงมา บอกชัดเจนวา่ ศึกษาอะไร ประดิษฐ์อะไร สารวจอะไร ควรตั้งชื่อเรื่องให้กระชับได้ใจความ อ่านแล้วผู้อ่านจับแนวทางว่าเป็นเรื่องเก่ียวกับอะไร ช่ือโครงงานจึงควร จะตอ้ งให้ค่อนข้างจะเป็นวชิ าการ ตวั อย่างชอื่ โครงงาน เช่น กระถางรไี ซเคลิ หนังเทยี มจากน้าตาลโตนด การบาบดั นา้ เสียด้วยดนิ เหนียวผสมขเ้ี ล่ือย รูปทรงเรขาคณิตกบั การออกแบบชดุ ฝึกทกั ษะตะกรอ้ เอทานอลและถ่านจากผลตาลโตนดแบบพอเพยี ง-สูช่ มุ ชน การใช้ฝนเทยี มและนาแขง็ เพอื่ กระต้นุ ใหก้ บวางไข่นอกฤดูกาล เปรยี บเทยี บผลผลติ ของแตงโมท่ปี ลกู แบบตดั ยอดกับไม่ตัดยอด การกระตนุ้ การงอกของเมล็ดพืชดว้ ยน้ารอ้ นและแชใ่ นสารสกัดจากยอดพืช 1.2 ช่อื ผูท้ าโครงงาน โดยมาตรฐานการทาโครงงานประเภททีม จะประกอบดว้ ยนักเรยี นจานวน 3 คน ผูท้ ม่ี ีส่วนร่วมรับผดิ ชอบในเน้ืองานมากที่สดุ ไว้เปน็ ชื่อแรก แล้วเรียงลาดบั ถัดกนั ลงไปตามแตท่ ม่ี ีส่วนรว่ มมากนอ้ ย เพียงใด 1.3 ขอ้ ความประกอบ มกั เปน็ ขอ้ ความทีบ่ อกสถานศึกษา ระดับการศึกษาของผู้จดั ทาโครงงาน และ ข้อความอยา่ งเป็นทางการทแ่ี สดงว่ารายงานน้ีทาเพอื่ อะไร เนอ่ื งในโอกาสอะไร 2. ปกในของรายงาน สิง่ ท่ีนกั เรียนจะตอ้ งนาเสนอและปรากฏบนปกในของรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มีดงั นี้ 2.1 ชื่อโครงงาน (เหมือนปกหน้า) 2.2 ช่อื ผ้ทู าโครงงาน (เหมือนปกหนา้ ) 2.3 ข้อความประกอบ มักเป็นช่ือของสถานศกึ ษา และทตี่ งั้ ของสถานศึกษา 2.4 ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน และชือ่ ทปี่ รกึ ษาพิเศษ เพื่อเปน็ การให้เกยี รติ แสดงความเคารพ และแสดง การยอมรับในคาปรึกษา ความคิดเหน็ ของทา่ น จงึ ควรทผี่ ูท้ าโครงงาน จะตอ้ งใสช่ ือ่ ผู้ใหค้ าปรึกษา ให้ปรากฏไว้ ในตัวเอกสารรายงานด้วย
4 ตัวอยา่ งปกหนา้ ของรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง การเลยี้ งกบคอนโดดว้ ยขวดพลาสตกิ เพอื่ พัฒนาสอู่ าชพี จดั ทาโดย นายสทิ ธชิ ยั เพชรนุ่น นางสาวชาครยิ า ตสิ รพงศ์ นางสาวบุญสติ า สงั ข์ศลิ ปช์ ัย โรงเรยี นมหาวชริ าวุธ จงั หวดั สงขลา รายงานฉบับนเ้ี ปน็ ส่วนประกอบโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ในการประกวดโครงงานวทิ ยาศาสตร์ จดั โดย สมาคมวทิ ยาศาสตรแ์ ห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถัมถ์ การประกวดระดับประเทศ เนอ่ื งในงานเวทีนักวิทยาศาสตรร์ นุ่ เยาว์แหง่ ชาติ คร้ังที่ 13 ประจาปกี ารศึกษา 2560 ณ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
5 ตัวอยา่ งปกในของรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ เรือ่ ง การเลยี้ งกบคอนโดดว้ ยขวดพลาสตกิ เพอ่ื พฒั นาสอู่ าชพี จัดทาโดย เพชรนุ่น นายสทิ ธชิ ยั ตสิ รพงศ์ นางสาวชาครยิ า สังข์ศลิ ป์ชยั นางสาวบุญสติ า โรงเรียนมหาวชริ าวธุ จังหวดั สงขลา ครูทปี่ รึกษา นางยศวดี ศศธิ ร ครูทป่ี รึกษาพเิ ศษ นายทวี มสุ ิกะ รายงานฉบบั นเ้ี ปน็ ส่วนประกอบโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ในการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ จดั โดย สมาคมวทิ ยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ การประกวดระดับประเทศ เน่อื งในงานเวทนี กั วิทยาศาสตรร์ นุ่ เยาว์แห่งชาติ ครั้งที่ 13 ประจาปกี ารศกึ ษา 2560 ณ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั
6 3. กติ ตกิ รรมประกาศ (คาขอบคณุ ) กิตติกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ เปน็ กิจกรรมท่ีได้รบั ความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพอ่ื เป็นการส่งเสรมิ บรรยากาศของความรว่ มมือ จึงควรมีบทกล่าวขอบคณุ บคุ ลากร หรอื หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ท่ีมสี ่วนเกี่ยวขอ้ งและ ชว่ ยให้โครงงานน้สี าเร็จด้วยดี ทง้ั นส้ี ดุ แลว้ แตผ่ ้จู ดั ทาโครงงานจะเห็นสมควรว่าจะมหี รือไม่ การกลา่ วขอบคุณ (หากม)ี กค็ วรจะทาในนามของคณะผ้ทู างานทัง้ ชดุ ไม่จาเป็นต้องแยกเขยี นคาขอบคณุ โดยผู้ทาโครงงานเป็น ราย ๆ ไป ตัวอยา่ งกติ ตกิ รรมประกาศ กิตติกรรมประกาศ โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง การเล้ยี งกบคอนโดดว้ ยขวดพลาสตกิ เพือ่ พฒั นาสอู่ าชีพสาเรจ็ ลุล่วงได้ โดยได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างย่ิง คุณครูทวี มุสิกะ ผู้ให้ความรู้ด้านวิชาการ การออกแบบการเลี้ยงกบ ขอบคุณคุณครูยศวดี ศศิธร คณะครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ให้ ความช่วยเหลือด้านวิชาการแก่คณะผู้จัดทา กราบขอบคุณท่านผู้อานวยการ นายวัฒนา ถนอมศักดิ์ท่ี จัดสรรงบประมาณ และกราบขอบคุณบิดา มารดาท่ีทาให้การจัดทาโครงงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเสรจ็ สมบูรณ์ ขอกราบขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี้ คณะผู้จดั ทา
7 4. บทคดั ยอ่ เป็นการสรปุ วิธที าโครงงานวิทยาศาสตรเ์ รื่องน้นั ๆ โดยยอ่ โดยบรรยายถงึ ทมี่ าและความสาคญั ของ โครงงาน วตั ถุประสงค์ วธิ ดี าเนินการศึกษา และผลการศกึ ษา ตลอดจนขอ้ สรปุ ต่าง ๆ อยา่ งย่อ ประมาณ 300 – 350 คา (ไมเ่ กิน 1 หน้ากระดาษ A4 ) ตัวอย่างบทคัดย่อโครงงาน บทคดั ย่อ โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่อื ง การเล้ียงกบคอนโดด้วยขวดพลาสตกิ เพ่อื พัฒนาสู่อาชีพจัดทา ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ ศึกษาภาชนะเล้ียงกบท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกบ เพื่อศึกษา ขนาดของภาชนะเลี้ยงกบท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกบ เพ่ือศึกษาขนาดการปรับมุมของ ภาชนะเลี้ยงกบท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกบ เพื่อศึกษาปริมาณน้าท่ีใส่ในภาชนะเล้ียงกบที่ เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกบ เพ่ือศึกษาอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ท่ีเหมาะสมต่อการ เจริญเติบโตของกบ และออกแบบช้ันวางกบแบบใช้เสาโดยวางขวดเป็นชัน้ ๆเรียกว่า กบคอนโด ผลการศึกษาพบว่า กบที่เล้ียงในภาชนะขวดพลาสติกใสขนาด 1500-2000 ml. จะมีการ เจริญเติบโตได้ดีและมีสีผิวสีน้าตาลอมเหลืองตัวอ้วน เช่นเดียวกับกบท่ีเล้ียงในบ่อคอนกรีต ไม่มีกบตัว ใดตาย กบที่เลี้ยงในขวดพลาสติก ที่วางขวดทามุม 15 องศา มีความเหมาะสมที่สุด คือกบสามารถน่ัง ได้ทั้งในน้าและพื้นขวด อีกทั้งระดับน้าท่ีอยู่ในขวดจะทามุม 15 องศาอยู่ระดับปากกบพอดีเม่ือใส่ อาหารเม็ด อาหารจะลอยตรงปากช่วยให้กบเห็นชัดและกินอาหารได้สะดวกท่ีสุด กบเจริญเติบโตได้ดี ทสี่ ุด ปรมิ าณนา้ ที่เหมาะสมสาหรับใสใ่ นขวดมากทสี่ ุดคือ 300 cm3 สถานทที่ ่เี หมาะสมในการเล้ยี งกบ คอนโดคือ ใตร้ ่มไมท้ ่ีมีแสงราไร อณุ หภูมิ 34๐C ความชื้นสมั พัทธ์ 50% โดยเล้ยี งในขวดโคก้ ใสวางซอ้ น กันบนโครงเหล็ก โดยเชื่อมเหล็กเส้นทามุม 15 องศากับเสาหลักเป็นแขนย่ืนออกมาโดยรอบช้ันละ 5 ชุด รวม 30 ชุดโดยวาง แต่ละใบใส่น้า 300 ml ให้อาหารเช้า-เย็นเป็นเวลา 80 วัน เป็นช่วงที่ เหมาะสม กบเจริญเติบโตได้ดีค่าเฉล่ีย 285.36 g ปริมาณไขมันและขนาดกล้ามเนื้อ (โปรตีน) ของกบ คอนโดมีปริมาณไขมันมากท่ีสุด แต่ใกล้เคียงกับปริมาณไขมันของกบท่ีเลี้ยงในบ่อคอนกรีต ส่วนขนาด กล้ามเน้ือของกบคอนโดมีขนาดใหญ่รองจากกบท่ีเล้ียงในบ่อคอนกรีต ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้จาก การเลี้ยงกบเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมได้ตลอดท้ังปี โดยไม่ขาดทุน ลงทุนน้อย ใช้พ้ืนท่ีน้อย สามารถเล้ียงในบ้านหรือบริเวณรอบๆบ้านได้ โอกาสรอดของกบ 95-99 % ช่วยลดปัญหาภาวะโลก ร้อนจากการเผาขวดและการทิ้งขวดที่ทาลายทัศนียภาพโดยสามารถนามาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็น ภาชนะสาหรบั ใช้เล้ียงกบ
8 5. สารบัญ เปน็ การแสดงสรุปหัวข้อทสี่ าคญั ๆ ในตวั รายงาน พรอ้ มทงั้ บอกเลขหนา้ ของหัวข้อเหลา่ นนั้ ท่ปี รากฏใน รายงาน เพื่อผอู้ า่ นจะได้หาง่ายโดยทว่ั ไป สารบญั แสดงได้ 3 แบบ ดังนี้ 5.1 สารบัญทวั่ ไป 5.2 สารบญั ตาราง 5.3 สารบญั ภาพ ตัวอย่างสารบัญ หน้า สารบญั ก ข บทคัดยอ่ 1 กติ ตกิ รรมประกาศ 1 บทที่ 1 บทนา 1 1 ท่มี าและความสาคญั 1 วัตถุประสงค์ 2 สมมตฐิ าน 2 นยิ ามศัพท์ 3 ตวั แปรทเี่ กีย่ วขอ้ ง 3 ขอบข่ายการศกึ ษาคน้ ควา้ 7 บทที่ 2 บทเอกสาร 9 ความรู้เกย่ี วกบั กบ 9 ความร้เู กยี่ วกับการเลีย้ งกบคอนโด 10 บทท่ี 3 อุปกรณแ์ ละวิธกี ารทดลอง 10 อปุ กรณ์ 11 วธิ กี ารทดลอง 12 การทดลองท่ี 1 13 การทดลองที่ 2 14 การทดลองที่ 3 15 การทดลองท่ี 4 15 บทท่ี 4 ผลการทดลอง 15 บทที่ 5 สรุปผลและอภปิ รายผลการทดลอง 16 สรปุ ผลการทดลอง 17 อภิปรายผลการทดลอง 18 ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากโครงงาน 18 ขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก
ตวั อยา่ งสารบญั ตาราง 9 สารบญั ตาราง หนา้ 13 ตารางที่ 1 แสดงการเจริญเตบิ โตของกบเมือ่ เลย้ี งกบดว้ ย 14 ภาชนะท่แี ตกต่างกันเป็นเวลา 80วนั 15 16 ตารางท่ี 2 แสดงการเจรญิ เติบโตของกบเม่ือเลยี้ งกบในขวด โคก้ ใสที่มีขนาดตา่ งๆกัน เป็นเวลา 80วนั หน้า 5 ตารางที่ 3 แสดงการเจริญเติบโตของกบเมอื่ เล้ยี งกบในขวด 5 โค้กใสท่ีวางทามุมต่างๆกนั เป็นเวลา 80วัน 11 11 ตารางที่ 4 แสดงการเจรญิ เติบโตของกบเมอื่ เลย้ี งกบในขวด โค้กใสที่ใส่น้าในปรมิ าณทต่ี ่างๆกันเป็นเวลา 80วัน ตัวอยา่ งสารบญั ภาพ สารบัญภาพ ภาพที่ 1 กบ ภาพที่ 2 การผสมพันธ์ุของกบ ภาพที่ 3 ออกแบบทางด้านวิศวกรรมโครงสร้างคอนโด ภาพท่ี 4 วางขวดพลาสตกิ เลย้ี งกบคอนโด
10 6. เน้อื หาหลกั ของโครงงานวิทยาศาสตร์ การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ในส่วนน้ีเป็นเนื้อหาหลักจะมีลักษณะคล้ายกับการเขียน รายงานของงานวิจยั ทวั่ ๆ ไป กลา่ วคอื จะประกอบดว้ ยบทตา่ ง ๆ จานวน 5 บท ด้วยกันดังน้ี 6.1 บทท่ี 1 บทนา เป็นบทท่ีกล่าวแนะนาโครงงานวิทยาศาสตร์ท่ีจัดทาข้ึนในภาพกว้าง ๆ ประกอบด้วยหัวขอ้ ยอ่ ยดงั ตอ่ ไปน้ี ทีม่ าและความสาคญั จุดมงุ่ หมายของการศกึ ษาคน้ ควา้ สมมติฐานของการศกึ ษาคน้ คว้า (ถา้ ม)ี ขอบเขตของการศึกษาคน้ คว้า นิยามศัพทห์ รอื นิยามเชิงปฏิบัตกิ าร (ถา้ ม)ี ตัวแปรท่ีเกยี่ วข้อง รายละเอียดเกยี่ วกบั ขอ้ ยอ่ ย ๆ ได้อธบิ ายไวใ้ นเรื่องการจัดทาเคา้ โครงย่อของโครงงานวิทยาศาสตร์ 6.2 บทท่ี 2 บทเอกสารท่เี กยี่ วขอ้ งหรือบททฤษฎี เป็นบททีผ่ ู้จัดทาโครงงานเขยี นบรรยายความรทู้ ่ี แสดงถงึ การศกึ ษาข้อมลู หรือหลกั การ ทฤษฎีหรือวธิ ีการที่จะนามาใชใ้ นการออกแบบการทดลองตอ่ ไป 6.3 บทท่ี 3 อปุ กรณ์และวธิ ีการทดลอง บทน้ีบอกเกี่ยวกับสว่ นสาระสาคัญ ดังน้ี ระบวุ สั ดุอปุ กรณ์ สารเคมีตา่ ง ๆ หรือวัสดุทางชีววิทยา ทีต่ ้องใชใ้ นการทดลอง อธิบายข้ันตอนต่างๆ ของการทดลองโดยละเอียด หากอุปกรณ์หรือข้ันตอนวิธีการใด ยงุ่ ยาก ซบั ซอ้ น กอ็ าจใช้แผนภูมิ ภาพวาด หรอื ภาพถา่ ย ประกอบการบรรยายได้ 6.4 บทที่ 4 ผลการศึกษา เป็นการบอกผลท่ีบันทึกได้จากการทดลองต่าง ๆ ท่ีสังเกตรวบรวมได้ ซึ่ง อาจเป็นผลท่ีเกิดขึ้นเมื่อเสร็จการทดลองทีเดียว หรือเป็นผลท่ีเกิดข้ึนเป็นช่วง ๆ ในระหว่างการทดลองก็ได้ รวมท้ังเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลท่ีวิเคราะห์ได้ โดยสามารถนาเสนอข้อมูลในรูปตาราง แผนภูมิต่าง ๆ ตาม ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับสมมติฐานทตี่ ้งั ไว้ บางครั้งหากโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ทามีหลายการทดลองอาจนาเสนอผลการทดลอง ให้จบสิ้นเป็น ตอน ๆ ไป ก่อนที่จะเขียนถึงการทดลองใหม่ ทั้งน้ีเพ่ือให้ผู้อ่านติดตามได้ต่อเนื่อง และง่ายต่อการทาความ เขา้ ใจ 6.5 บทท่ี 5 สรุปผลและอภิปรายผลการทดลอง เป็นบทที่อภิปรายผลสรุปท่ีได้จากการทาโครงงาน เนอ้ื หาในบทนี้จะประกอบด้วย ข้อย่อย ดังต่อไปนี้ สรุปผลการทดลองท้งั หมดของโครงงาน อภิปรายผลการทดลอง ประโยชน์ท่ไี ด้รบั จากโครงงาน ขอ้ เสนอแนะ 7. บรรณานุกรม (เอกสารอ้างอิง) เป็นการรวบรวมรายช่ือหนังสือ/เอกสารต่าง ๆ ที่ผู้ทาโครงงานได้ค้นคว้า หรอื อา่ นเพื่อศึกษาหาข้อมลู รายละเอยี ดต่าง ๆ ทน่ี ามาใช้ประโยชน์ในการทาโครงงานนี้ การเขียนบรรณานกุ รม ประกอบดว้ ยส่วนสาคัญดังนี้ ช่ือ-สกุลของผู้แต่ง หรือผู้เขียนเอกสาร หรือบทความ หากมีผู้แต่งหลายคน ให้ใช้ข้อความ “และ คณะ” ต่อทา้ ยผ้เู ขียนคนแรก อาจใช้ชอื่ สถาบันลิขสิทธแิ์ ทนช่อื ผู้แตง่ ได้ ชอ่ื หนงั สือหรือตาราหรือบทความนั้น ๆ พิมพ์เน้นดว้ ยตัวหนา ตัวเอน หรอื ขีดเสน้ ใต้ คร้ังทพี่ ิมพห์ นงั สือ ตามดว้ ยจงั หวดั ทีพ่ ิมพ์ ชอื่ โรงพิมพ์ ปีพ.ศ.ทีพ่ ิมพ์
11 ตัวอยา่ งการเขียนบรรณานกุ รม บรรณานกุ รม จาแลง เช้อื ภักดี. (2538). ชุดฝึกปฏบิ ัติการเขยี นแผนการสอนที่เนน้ กระบวนการทางวิทยาศาสตรร์ ะดบั มัธยมศกึ ษา. โรงพิมพก์ รมสามญั ศึกษา, กรุงเทพมหานคร. ธรี ะชัย ปูรณโชต.ิ (2531). คูม่ อื สาหรบั ครกู ารสอนกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร.์ โรงพมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , กรงุ เทพมหานคร. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2531). แนวทางในการทาโครงงานวิทยาศาสตร.์ โรงพมิ พ์ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย,ี กรงุ เทพมหานคร. 8. ภาคผนวก เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าผู้จัดทาโครงงานได้ทาการทดลองจริงหรือไม่ใช้อุปกรณ์และเคร่ืองมือ สาคัญในการการทดลองอะไรบ้าง มีการบันทึกข้อมูลอย่างไร อาจบันทึกหลักฐานด้วยการถ่ายภาพ หรือการ บันทึกข้อมูลในสมุดบันทึกโดยละเอียด หรือสูตรการผสมสารเคมีต่าง ๆ ท่ีสลับซับซ้อน การคานวณเกินกว่าที่ จะเขียนไวใ้ นรายงาน 5 บท กส็ ามารถนามาแนบเป็นหลักฐานในภาคผนวก (ไมค่ วรเกนิ 10 หนา้ )
12 ใบกิจกรรมที่ 1 เร่อื งการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ บอกหัวข้อตา่ งๆ ในการเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ถูกตอ้ ง คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ให้ได้ใจความสมบรู ณ์ 1. การเขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรท์ ีถ่ ูกต้องประกอบด้วยกี่บท อะไรบ้าง .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 2. นกั เรยี นคดิ วา่ การเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรส์ ว่ นใดมคี วามสาคญั มากทส่ี ดุ จงใหเ้ หตผุ ล ประกอบ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3. ภาคผนวกของรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรม์ ีความสาคญั อย่างไร .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................
13 4. หวั ข้อสาคัญต่างๆ ตอ่ ไปนี้ควรบรรจอุ ย่ใู นสว่ นใดของการเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 4.1 สมมตฐิ านของการศกึ ษาคน้ คว้า .............................................................................................................................................................. 4.2 ตารางบันทึกผลการทดลอง .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.3 นยิ ามศพั ท์ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.4 ตาราหรือเอกสารท่ใี ชค้ น้ ควา้ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.5 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.6 ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.7 กราฟแทง่ กราฟเส้นตรง .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.8 ทฤษฎีและหลักการ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.9 ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4.10 ท่มี าและความสาคัญ .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 5. ให้นกั เรยี นเขยี นรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามที่แตล่ ะกลมุ่ คิดหวั ขอ้ เรอื่ งและทาการทดลองเสรจ็ เรยี บร้อยแล้ว ลงในแบบฟอร์มที่นกั เรยี นสร้างข้นึ เอง
14 ใบความรทู้ ี่ 3 เรอื่ งการเสนอและจดั แสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ เปน็ ขน้ั ตอนสาคญั ของการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ เพอื่ แสดงออกถงึ ผลติ ผลของความคิด ความ พยายามในการทางานท่ผี ทู้ าโครงงานได้ทุ่มเท และเปน็ วธิ ที ีท่ าใหผ้ ู้อนื่ ได้รบั ร้เู ขา้ ใจถงึ ผลงานน้ัน วิธีการเสนอและจัดแสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ อาจทาไดใ้ นรปู แบบต่าง ๆ กนั ดงั น้ี 1. เสนอโดยวิธเี ขยี นรายงานทางวชิ าการ หรอื วธิ ีเขยี นบทความ (ดังตวั อยา่ งซ่งึ ได้กล่าวมาแล้วในใบ ความรู้ท่ี 1) 2. เสนอโดยวิธีจดั แสดงโปสเตอร์ หรอื แผน่ พับ 3. เสนอโดยวธิ ีจัดแสดงแผงโครงงานและอธบิ ายด้วยคาพูด 4. เสนอโดยวิธรี ายงานด้วยคาพูดต่อทป่ี ระชมุ การเสนอโดยวธิ ีจัดแสดงโปสเตอร์ ข้อความสาคญั ที่ตอ้ งปรากฏบนโปส๊ เตอรห์ รือแผ่นพบั ควรแบง่ ออกไดเ้ ป็น 4 ส่วนดังน้ี สว่ นที่ 1 หัวขอ้ เร่ืองท่จี ัดทาและขอ้ มลู เบ้อื งต้นของบคุ คลท่ีเกีย่ วขอ้ งประกอบด้วย ชื่อโครงงาน ชื่อผูจ้ ดั ทาโครงงาน ชอ่ื ครทู ่ีปรกึ ษาโครงงาน ชือ่ สถานศึกษา ส่วนท่ี 2 บทคดั ย่อ เป็นขอ้ ความโดยยอ่ ของเนือ้ งานทีท่ าทงั้ หมด รวมท้ังสรปุ วิเคราะหแ์ ละขอ้ เสนอแนะ บทคดั ยอ่ ท่ีดคี วร ใชค้ าง่าย ๆ และความยาวไมเ่ กิน 1 หนา้ กระดาษ หรือประมาณ 300 - 350 คา สว่ นท่ี 3 เป็นส่วนทแ่ี สดงเน้ือหาของงาน ประกอบดว้ ย วัตถุประสงค์ ทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน วธิ ีดาเนนิ การ ควรอธิบายเป็นข้อ ๆ โดยย่อหรืออาจแสดงเปน็ ภาพแผนภมู ทิ ่ีชัดเจนเข้าใจงา่ ย ผลการศึกษาทดลอง ควรเสนอแบบสรุปตรง ๆ ทาอะไรไดอ้ ะไร อาจจะมีรปู ภาพประกอบ กราฟ ตาราง หรือแผนภูมิ ซง่ึ แสดงขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทีเ่ ปน็ ผลจากการศกึ ษาทดลอง กรณที โ่ี ครงงานวิทยาศาสตร์ ประกอบดว้ ยการทดลองหลาย ๆ ตอน กส็ ามารถนาเสนอผลการทดลองของแต่ละตอนตอ่ เนอ่ื งกันไปจนจบ เพอื่ ใหง้ ่ายต่อการตดิ ตามทาความเข้าใจ ส่วนท่ี 4 เป็นสว่ นที่แสดงการสรปุ ผลงาน ประโยชนแ์ ละขอ้ เสนอแนะ ประกอบด้วย การสรุปผลทไ่ี ดจ้ ากการทดลองทั้งหมดของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประโยชนท์ ีไ่ ด้จากโครงงานวิทยาศาสตร์ ขอ้ เสนอแนะ
15 การเสนอโดยวธิ ีจัดแสดงแผงโครงงานและอธบิ ายดว้ ยคาพดู ขอ้ ความท่ีปรากฏบนแผงโครงงาน โดยทั่วไปจะคล้ายคลึงกับการเสนอผลงานแบบโป๊สเตอร์ เพียงแต่ ตอ้ งจดั ต้ังแสดงวัสดุ อุปกรณ์ ผลผลิต ผลงานจากการทดลอง หรือชนิ้ งานท่ีประดิษฐ์ได้มาแสดงด้วย พรอ้ มกับ ตวั นกั เรยี นต้องคอยอธบิ ายไปดว้ ยคาพูดให้แก่ผชู้ มหรอื คณะกรรมการฟัง รปู แบบการจดั แผงหรือบอร์ดแสดงผลงานของโครงงาน การแสดงผลงานของโครงงานอาจจัดได้หลายรูปแบบ จัดแสดงบนโต๊ะ โดยมีแผงประกอบสามด้าน กล่าวคือ มีแผงกั้นหลังและกั้นด้านข้างทั้งสองด้าน ส่วนด้านหน้าจะเปิดเพื่อให้ผู้ชมเข้าชมด้วยสะดวก บนแผง ก้ันท้ังสามน้ันเป็นที่ติดภาพหรือแผนภูมิอธิบายประกอบเรื่อง พ้ืนท่ีบนโต๊ะเป็นท่ีวางส่ิงของอุปกรณ์ประกอบ คาอธิบายบนแผง แผงดังกล่าวกาหนดขนาดไว้ดังนี้ คือด้านข้างจานวน 2 แผ่น ความยาว 60 เซนติเมตร สูง 60 เซนติเมตร ตรงกลาง จานวน 1 แผ่น ความยาว 120 เซนติเมตร สูง 60 เซนตเิ มตร แล้วนามาประกอบกัน โดยใช้บานพับยึดดงั รูป 120 cm 60 cm ปัจจบุ ันการทาโครงงานวิทยาศาสตร์มเี นือ้ หา รูปภาพ กราฟ และตารางมากขึน้ จึงทาให้ขนาดแผงเดิม ไม่พอท่ีจะบรรจุลงได้ท้ังหมด ทางสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยได้อนุโลมให้มีการเพ่ิมขนาดของแผง ด้านข้าง จานวน 2 แผ่น ความยาว 60 เซนติเมตร สูง 100 เซนติเมตร ตรงกลาง จานวน 1 แผ่น ขนาดกว้าง 120 เซนติเมตร สงู 100 เซนติเมตร แลว้ นามาประกอบกนั โดยใช้บานพับยึดดงั รปู 100 cm
16 ใบความรทู้ ี่ 4 เรอ่ื งรายละเอียดการนาเสนอบนแผงหรอื บอรด์ แสดงผลงานของโครงงาน สาหรบั รายละเอียดที่จะเขียนบนแผงโครงงาน แฮมริคและฮาร์ตี (Hamrick and Harty. 1983) ได้ เสนอแนะไวด้ ังนี้ แผงด้านซ้ายบนสุดเขียนสมมตฐิ านหรือปัญหาที่ศึกษา ถัดมาตรงกลางเขียนคาอธิบายถึงวธิ กี ารท่ใี ชใ้ น การศกึ ษา แผงตรงกลางแสดงข้อมลู ต่าง ๆ ทไ่ี ด้จากการศึกษาคน้ ควา้ หรอื ทดลอง แผงดา้ นขวาสรุปผล การศกึ ษาค้นควา้ ชื่อผทู้ าโครงงาน ชือ่ โรงเรียน หรืออนื่ ๆ โดยนักเรียนทจ่ี ัดทาโครงงานต้องจัดแผงหรอื บอรด์ โครงงาน อาจเขยี นหรอื พิมพ์ และเพ่ิมสสี นั ใหส้ วยงามด้วยความพึงพอใจ เม่ือทาโครงงานวิทยาศาสตร์เสร็จแล้ว ต้องเตรียมเสนอผลงานและจัดแสดงผลงานซ่ึงอาจทาได้ ใน รูปแบบต่าง ๆ กัน แล้วแต่ทางโรงเรียนจะจัดเป็นงานนิทรรศการ หรือการประชุมวิชาการของโรงเรียน ของ ระดบั จงั หวดั ระดับเขตการศึกษา ระดับภาค และระดับประเทศตอ่ ไป ส่ิงทค่ี วรคานึงถึงในการจัดแสดงแผงโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 1. ความปลอดภยั ของการจดั แสดง ต่อเจา้ ของโครงงาน และตอ่ ผู้เข้าชมด้วย 2. ความเหมาะสมกบั เนอ้ื ท่ใี ช้จดั แสดง 3. คาอธบิ ายหรอื ข้อความท่แี สดง ควรเน้นเฉพาะจดุ สาคญั ๆ และนา่ สนใจโดยใช้ความกะทัดรดั ชดั เจนตรงไปตรงมาและเขา้ ใจง่าย 4. การดึงดูดความสนใจของผเู้ ขา้ ชมโดยใช้รูปแบบการแสดงท่ีน่าสนใจใช้สีทสี่ ดใส 5. พยายามใช้ตารางและรูปภาพประกอบโดยจัดวางให้เหมาะสมไม่ควรนาเสนอเป็นเนื้อหา ตวั อกั ษรมาก ๆ เพราะผชู้ มจะเบอ่ื หน่ายที่ต้องอา่ นยาว ๆ 6. ส่ิงท่ตี งั้ แสดงและขอ้ ความทีเ่ ขยี นต้องถูกตอ้ ง ถูกหลักการ 7. ในกรณที ี่เปน็ สง่ิ ประดษิ ฐ์ ตอ้ งอยู่ในสภาพพร้อมสาธิต และทางานไดส้ มบูรณ์
17 ใบกจิ กรรมที่ 2 เรื่องการจัดบอร์ดแสดงผลงานของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ออกแบบบอรด์ แสดงผลงานของโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนวางแผน ออกแบจดั แผงหรอื บอรด์ แสดงผลงานของโครงงาน โดยกาหนดหวั ขอ้ ตา่ งๆ บรรจลุ งในแผงหรือบอร์ดโครงงานทางซีกซ้าย แผงตรงกลาง และแผงซีกขวาใหช้ ดั เจน
18 ใบกิจกรรมที่ 3 เรอ่ื งการนาเสนอผลงานโดยวิธีรายงานดว้ ยคาพูดต่อทป่ี ระชมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นาเสนอผลงานโดยวิธรี ายงานดว้ ยคาพูดตอ่ ทีป่ ระชุดได้ คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ใี ห้ครบถ้วน สมบรู ณ์ 1. ขั้นตอนในการเสนอผลงานโดยวธิ รี ายงานดว้ ยคาพูดตอ่ ท่ีประชุมมีอะไรบ้าง (ระบุเปน็ ข้อ ๆ) .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 2. ข้อคานงึ ในการเสนอผลงานโดยวธิ รี ายงานดว้ ยคาพดู ต่อทป่ี ระชุมมอี ะไรบ้าง (ระบุเป็นข้อ ๆ) .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................
19 ใบกิจกรรมที่ 4 เรือ่ งการนาเสนอและจดั แสดงผลงานของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เสนอและจดั แสดงผลงานของโครงงานวิทยาศาสตร์ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ได้ใจความสมบรู ณ์ 1. การเสนอและจัดแสดงผลงานของโครงงานวิทยาศาสตรม์ ีความสาคญั อยา่ งไร .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 2. เดก็ ชายพงศธร มสุ กิ ะและคณะจัดทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรื่องเคร่ืองแยกไขด่ ้วยใยตาล มาเสนอ และจดั แสดงผลงาน สิ่งทเี่ ดก็ ชายพงศธร มสุ ิกะและคณะต้องเน้นเป็นพเิ ศษในการนาเสนอคอื อะไร .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. เพราะอะไร .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 3. ข้อมูลเบ้ืองต้นทีค่ วรจะนามาจดั บนแผงแสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ประกอบด้วยอะไรบ้าง .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 4. ข้อมลู เปน็ ตาราง กราฟ หรือแผนภมู ิ ควรจัดแสดงบนแผงโครงงานหรือไม่ อยา่ งไร .............................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................
20 5. เดก็ หญงิ นงลักษณ์ พรอ้ มมูล และคณะจัดทาโครงงานวิทยาศาสตรเ์ รอ่ื ง เอทานอลและถา่ นจากผล ตาลโตนดแบบพอเพียงสชู่ มุ ชน เสนอต่อคณะกรรมการประกวดโครงงาน เรมิ่ ต้นในการนาเสนอ เดก็ หญิงนงลักษณ์ พรอ้ มมูลและคณะ ควรนาเสนอเร่ืองใดกอ่ น อธบิ าย พร้อมยกตวั อยา่ งการนาเสนอ .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. 6. มารยาทในการนาเสนอผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ในตอนสุดท้ายผู้เสนอควรกลา่ วถึงเรอ่ื งใด เปน็ สาคัญ อธบิ ายพรอ้ มยกตัวอย่าง .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................
21 เอกสารอา้ งองิ สมาคมวทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์. (2561). โครงงานวิทย์ พชิ ติ เวทโี ลก. นานมบี ๊คุ สพ์ บั ลเิ คชั่นส,์ กรงุ เทพมหานคร. รศ.ดร. สมพงศ์ จันทร์โพธิ์ศรี. (2558). โครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษา (ฉบับปรับปรุงใหม่). ไฮเอ็ดพบั ลิชชง่ิ , กรุงเทพมหานคร. ศุภวลั ย์ ตนั วรรณรกั ษ.์ (2553). โครงงานวทิ ย์ระดับ A+. นานมบี ๊คุ สพ์ ับลเิ คช่นั ส์, กรงุ เทพมหานคร. มนธิดา สิตะธน.ี (2551). หนงั สอื ส่งเสริมการพัฒนาการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ระดบั โรงเรียน “โครงงาน วิทยาศาสตรแ์ บบงานวจิ ัย”. สานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาต,ิ ปทุมธาน.ี
ชอ่ื – นามสกลุ 22 ประวตั ิการศึกษา ประวตั ิผเู้ ขียนเอกสาร พ.ศ. 2554 นางยศวดี ศศิธร พ.ศ. 2557 หลกั สูตรวิทยาศาสตรบณั ฑติ สาขาชีววทิ ยา มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพมหานคร หลักสูตรการศกึ ษามหาบัณฑติ สาขาวิชาการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยทักษณิ สงขลา
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: