ตีบ พัณณิตา

Bartolomeu Dias บารต์ ูลูเมว ดอี ัช จัดทาโดย นางสาวชตุ มิ า รักษา เลขที่ 18 นางสาวพณั ณิตา สิงห์คะ เลขที่ 27 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6/8 เสนอ ครเู ชน โพธิศ์ รี

Bartolomeu Dias [1] (ค.ศ. 1450 – 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1500) เป็น กะลาสเี รือและนกั สารวจชาวโปรตุเกส ในปี ค.ศ. 1488 เขาไดก้ ลายเป็นนัก เดนิ เรอื ชาวยุโรปคนแรกที่เดนิ รอบปลายดา้ นใตข้ องทวปี แอฟรกิ า และเพื่อ แสดงให้เห็นวา่ เสน้ ทางลงใต้ท่มี ปี ระสิทธภิ าพมากทส่ี ุดสาหรับเรือวางอยูใ่ น มหาสมุทรเปดิ ไปจนถงึ ทางตะวนั ตกของชายฝง่ั แอฟรกิ า การค้นพบของเขา ไดส้ รา้ งเส้นทางเดินเรอื ระหวา่ งยโุ รปและเอเชยี อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

ชวี ิตในวยั เด็ก Bartolomeu Dias เกิดในโปรตเุ กสราวปี ค.ศ. 1450 ครอบครวั ของเขามีพน้ื เพเก่ียวกบั การ เดนิ เรอื และหนึง่ ในบรรพบรุ ษุ ของเขาคอื Dinis Dias e Fernandes ได้สารวจชายฝงั่ แอฟรกิ า ในปี ค.ศ. 1440 และค้นพบ หมเู่ กาะ เคปเวริ ์ดในปี ค.ศ. 1444 ไมค่ ่อยมใี ครรจู้ ักชวี ิตในวยั เดก็ ของเขา และการตดิ ตามชวี ประวตั ขิ องเขานัน้ ซบั ซอ้ นเน่อื งจาก มนี ักเดินเรือชาวโปรตุเกสรว่ มสมยั หลายคนทม่ี ีชื่อเดียวกัน เห็นได้ชดั ว่าเขาเปน็ กะลาสีเรือที่มี ประสบการณม์ ากมายและอาจซอื้ ขายงาชา้ งตามแนวชายฝัง่ กนิ ตี ้งั แต่ ค.ศ. 1478 ในปี ค.ศ. 1481 ดิอาสได้เดนิ ทางไปพรอ้ มกบั คณะสารวจ นาโดยDiogo de Azambujaเพอ่ื สรา้ งป้อม ปราการและเสาการคา้ ทเี่ รียกว่าเซา Jorge da Minaในอา่ วกนิ ี . [4]หลักฐานทางอ้อมยัง ชี้ใหเ้ ห็นถงึ ความเป็นไปได้ในการเขา้ รว่ ม การสารวจครัง้ แรกของ Diogo Cão (1482-1484) ลงจากชายฝง่ั แอฟริกาไปยงั แม่น้าคองโก

การเดินทางรอบแอฟริกา Diogo Cão ไดเ้ ดินทางสองครง้ั เพอ่ื พยายามไปใหถ้ ึงทางใตส้ ุดของชายฝงั่ ตะวนั ตกของแอฟริกา แต่ลม้ เหลวทัง้ สอง ครั้ง อยา่ งไรกต็ ามพระเจา้ จอห์นที่ 2 แห่งโปรตุเกสยงั คงมุ่งมัน่ ทจี่ ะดาเนนิ การตอ่ ไป ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1486 เขาไดม้ อบหมายใหด้ อิ าสเป็นผู้นาการสารวจเพอื่ คน้ หาเส้นทางการคา้ บรเิ วณตอนใต้สดุ ของทวปี แอฟรกิ า นอกจากน้ี ดอิ าสยงั ถูกตั้งขอ้ หาตามหาเพรสเตอร์ จอห์นบุคคลในตานานทเ่ี ชอ่ื กนั ว่าเปน็ ผูป้ กครองอาณาจกั รครสิ เตียนทีม่ ีอานาจเหนือดนิ แดนแหง่ ใดทห่ี นึ่งนอกยุโรป ซึง่ อาจอยู่ในการตกแต่งภายในของแอฟรกิ า เดยี สได้รับกอง คาราวานสองคนั ซึ่งแตล่ ะลามนี า้ หนักประมาณ 50 ตัน และเรือเสบยี งหัวเหลี่ยมทมี่ ี Diogo นอ้ งชายของเขาเป็น กัปตนั เขาคดั เลอื กนักบินชัน้ นาบางคนในสมยั นั้น รวมทัง้ Pero de Alenquerและ João de Santiago ซึง่ เคยแล่น เรือกบั Cãoมาก่อน

ไมพ่ บเอกสารร่วมสมยั ทรี่ ะบุรายละเอยี ดการเดนิ ทางครง้ั ประวตั ิศาสตรน์ ้ี ข้อมลู ทม่ี ีอยสู่ ว่ นใหญ่มาจากนัก ประวัติศาสตรใ์ นศตวรรษทส่ี ิบหกJoão de Barrosผู้เขยี นเกย่ี วกบั การเดนิ ทางเมือ่ หกสบิ ปตี อ่ มา ภาพประกอบของเซาคริ สโตโว และเซาปานตาเลา กองเรือขนาดเล็กออกจากลสิ บอนในหรอื ราวๆ กรกฏาคม ค.ศ. 1487 เชน่ เดยี วกับบรรพบรุ ุษของเขา Cão เดยี สถือชดุ ของpadrãosเสาหินแกะสลกั เพอื่ ใช้ทาเคร่ืองหมายความก้าวหนา้ ของเขาที่แผ่นดินสาคญั บนเรอื มี ชาวแอฟรกิ นั หกคนทีถ่ ูก Cao ลกั พาตวั ไปและสอนภาษาโปรตุเกส แผนของดิอสั จะส่งพวกเขาไปทจ่ี ดุ ต่างๆ ตามแนวชายฝง่ั แอฟรกิ าเพอ่ื ทพ่ี วกเขาจะได้เปน็ พยานถงึ ความยง่ิ ใหญข่ องอาณาจกั รโปรตุเกสและสอบถาม เกย่ี วกับทีอ่ ยขู่ องเพรสเตอร์ จอหน์

การเดินทางแล่นตรงไปยงั คองโกและจากทน่ี นั่ ดาเนนิ ไปอยา่ งระมดั ระวงั มากขน้ึ ตามชายฝงั่ แอฟรกิ า มกั ตง้ั ชื่อลกั ษณะทางภูมศิ าสตร์ทโี่ ดดเด่นตามนักบุญท่ไี ดร้ บั เกียรติในปฏิทนิ ของครสิ ตจกั รคาทอลกิ เมอ่ื พวกเขาช่ังน้าหนักสมอเรือที่เมอื งปอรโ์ ต อเลก็ ซานเดร ประเทศแองโกลา ซึ่งปัจจุบันคือเมอื งปอรโ์ ต อเลก็ ซานเดร แองโกลาดอิ าสไดท้ งิ้ เรือเสบียงไวข้ ้างหลังเพื่อทจี่ ะไดจ้ ดั เตรียมพวกมนั ใหมใ่ นภายหลัง ระหวา่ งการเดนิ ทางกลับ ในเดอื นธนั วาคม Dias ได้ผ่านจดุ ทไ่ี กลท่ีสดุ ท่ี Cão ไปถึง และในวนั ที่ 8 ธันวาคม 1487 เขาก็มาถงึ Golfo da Conceicão (ปัจจุบนั คืออ่าว Walvis นา มิเบีย). หลงั จากเคลื่อน ตวั ไปตามชายฝั่งนามเิ บยี อยา่ งช้าๆ เรือทง้ั สองลากห็ ันไปทางตะวนั ตกเฉยี งใตห้ า่ งจากแผน่ ดิน นกั ประวตั ิศาสตรต์ ่างถกเถยี งกนั วา่ สงิ่ น้เี กดิ ขึ้นเพราะพวกเขาถูกพายพุ ัดออกจากฝ่งั หรือเพราะพวกเขาจงใจ พยายามคน้ หาลมทเ่ี ออื้ อานวยมากกว่า ไม่วา่ ด้วยสาเหตใุ ด การเปลยี่ นแปลงแน่นอนทาใหพ้ วกเขา ประสบความสาเรจ็ เรอื ลากไปตามส่วนโคง้ กวา้ งรอบปลายทวปี แอฟรกิ า และในวนั ท่ี 4 กุมภาพนั ธ์ ค.ศ. 1488 หลงั จากผา่ นไป 30 วนั ในมหาสมุทรเปดิ พวกเขาก็มาถึงแหลมทางตอนใตข้ องทวปี และเข้า สสู่ ิ่งท่จี ะเกิดขึ้นในภายหลัง เรียกวา่ มอสเซลเบย์

เรอื แลน่ ต่อไปทางตะวนั ออกช่ัวขณะหนงึ่ และยนื ยนั วา่ ชายฝง่ั คอ่ ยๆ เคลอ่ื นตวั ไปทาง ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ดอิ าสตระหนกั ว่าพวกเขาไดบ้ รรลผุ ลตามเปา้ หมายอนั ยาวนานของโปรตุเกสแล้ว พวกเขาไดป้ ัดเศษบริเวณแหลมทางตอนใตข้ องแอฟริกา การเดินทางของ Dias มาถงึ จุดที่ไกลทสี่ ุดเม่อื วันท่ี 12 มนี าคม ค.ศ. 1488 เมอ่ื จอดทอดสมออยู่ทKี่ waaihoekใกลป้ ากแมน่ ้า Boesmans ซึ่ง เป็นที่ที่ พวกเขาได้สร้าง Padrão de São Gregório ถงึ เวลาน้นั ลูกเรือเรม่ิ กระสบั กระสา่ ยและเรียกร้องใหเ้ ดียส หันหลงั กลับ เสบียงมีนอ้ ยและเรอื ถูกทบุ ตี แมว้ ่าดิอาสตอ้ งการจะดาเนินการต่อ แตเ่ จ้าหน้าทที่ เี่ หลอื มี มตเิ ปน็ เอกฉนั ท์ให้กลบั ไปโปรตุเกส ดังนัน้ เขาจึงตกลงที่จะหันหลังกลับ ในการเดนิ ทางกลับ พวกเขา แล่นเรือเข้าใกล้ชายฝง่ั ตะวนั ตกเฉยี งใตข้ องแอฟรกิ ามากพอจะพบกบั แหลมกดู๊ โฮปเปน็ ครั้งแรกใน เดอื นพฤษภาคม ค.ศ. 1488 ตามประเพณมี วี ่าดอิ าสเดิมตง้ั ช่อื วา่ แหลมพายุ ( Cabo das Tormentas ) และพระเจ้าจอหน์ ที่ 2 ภายหลงั ได้เปล่ยี นช่อื เป็นแหลมกูด๊ โฮป ( Cabo da Boa Esperança ) เพราะมัน เปน็ สัญลักษณข์ องการเปิด ของเสน้ ทางเดินเรอื จากตะวนั ตกไปตะวนั ออก

ทีแ่ หลม ดิอาสไดส้ รา้ งแพดราโอตวั สดุ ทา้ ยแล้วมุ่งหนา้ ไปทางเหนือ พวกเขาไปถงึ เรอื เสบียงในเดือนกรกฎาคม หลังจาก หายไปนาน 9 เดือน และพบวา่ หกในเกา้ ของลูกเรือเสียชีวติ ในการต่อสู้กบั ชาวพนื้ เมือง ภาชนะนั้นเนา่ เสียดว้ ยตวั หนอน พวกเขาจงึ ขนเสบยี งที่ตอ้ งการออกจากภาชนะ แล้วเผาท้ิงทช่ี ายหาด มีรายละเอยี ดเล็กนอ้ ยเก่ียวกับส่วนทเ่ี หลอื ของการ เดินทาง เรอื จอดทป่ี รินซิปี , รโี อโดเรสเกท (ในปจั จุบันคอื ไลบีเรยี ) และเสาการคา้ ของโปรตุเกสทเ่ี ซาจอรเ์ กดามีนา เดียสกลับมาทีล่ ิสบอนในเดอื นธนั วาคม ค.ศ. 1488 หลงั จากห่างหายไปถงึ 16 เดือน

การเดินทางของ Dias ไดส้ ารวจแนวชายฝงั่ แอฟรกิ าเป็นระยะทางกวา่ พนั ไมล์มากกว่าการ สารวจครงั้ กอ่ น มนั โค้งมนทางตอนใตส้ ดุ ของทวปี และไดแ้ สดงใหเ้ ห็นแล้ววา่ เสน้ ทาง เดินเรอื ไปทางทศิ ใตท้ ี่มปี ระสทิ ธิภาพมากที่สดุ อยใู่ นบ่อน้าทะเลเปดิ ทางตะวนั ตกของชายฝั่ง แอฟริกา ซ่งึ เปน็ เส้นทางที่จะตามมาดว้ ยลกู เรือชาวโปรตเุ กสหลายช่วั อายคุ น แม้จะประสบ ความสาเรจ็ เหลา่ นี้ การรบั ของ Dias ท่ศี าลกถ็ ูกปิดเสยี ง ไม่มีการประกาศอยา่ งเปน็ ทางการ และในขณะนน้ั Dias ไมค่ อ่ ยรบั รถู้ ึงความสาเร็จของเขา

ปีต่อมา ภายหลงั ไดอัสไดร้ ับเกียรติจากความสาเรจ็ ของเขา และในปี 1494 เขาดารงตาแหน่งเปน็ เสนาบดีในราชสานักของ กษตั รยิ จ์ อหน์ ท่ี 2 เขายังทาหน้าทเี่ ปน็ ผ้กู ากบั โกดังเก็บของของราชวงศต์ ง้ั แตป่ ี ค.ศ. 1494 ถึง ค.ศ. 1497 หลงั การกลบั มาของ Dias จากการเดนิ ทางครั้งแรกทป่ี ระสบความสาเร็จรอบแหลมทางตอนใตข้ องแอฟรกิ า โปรตเุ กสได้หยดุ พกั จากการสารวจมหาสมทุ รอนิ เดยี เป็นเวลานานนับทศวรรษ กษตั ริย์จอหน์ ประสบปัญหามากมาย รวมถงึ การสนิ้ พระชนมข์ องพระโอรสองคเ์ ดยี วของพระองค์ สงครามในโมรอ็ กโก และสขุ ภาพทอี่ อ่ นแอของพระองค์ เอง จนกระท่งั ถึงปี 1498 กม็ กี ารออกเดนิ เรอื อกี คร้ังและขอให้ Dias ให้ความชว่ ยเหลือจากประสบการณ์ของเขากับ การสารวจทางทะเล Dias มีสว่ นในการออกแบบและสรา้ งเรอื São Gabriel และนอ้ งสาว ของเรอื São Rafael นี่คือ เรือสองลาที่Vasco da Gamaใช้ในปี 1498 เพือ่ แล่นรอบแหลมกดู๊ โฮปและไปต่อทอี่ นิ เดีย ดอิ าสเขา้ ร่วมในการ เดนิ ทางครง้ั แรกของดา กามา แต่อยู่ข้างหลังหลงั จากไปถงึ หมเู่ กาะเค ปเวริ ์ด

สองปีตอ่ มาเขาเป็นหน่ึงในแม่ทัพของการ เดนิ ทาง ครง้ั ทส่ี องของอนิ เดียนาโดยPedro Álvares Cabral กองเรอื รบน้ีเป็นเรอื รบลาแรกทไ่ี ปถึงบราซลิ โดยลงจอดทน่ี ัน่ เมอ่ื วนั ที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1500 และ เดินทางตอ่ ไปทางตะวนั ออกสู่อินเดีย ดิอาสเสยี ชวี ติ ในเดอื นพฤษภาคม ค.ศ. 1500 ขณะเป็นกปั ตัน เรอื ใกลก้ บั แหลมกู๊ดโฮปซึ่งกอ่ นหนา้ น้เี ขาเคยตั้งช่ือว่า 'แหลมแหง่ พายุ' กอ่ นหนา้ น:้ี เรอื สลี่ า รวมทั้ง ของดิแอส ประสบพายุขนาดใหญน่ อกแหลม และสูญหายไปเมือ่ วนั ท่ี 29 พฤษภาคม

ชวี ติ ส่วนตัว ดิอาสแตง่ งานและมีบตุ รชายสองคนคอื ซีเมา ดอิ าส เด โนวายสแ์ ละอันโตนโิ อ ดอิ าส เด โนวายส์ หลานชาย ของเขาPaulo Dias de Novaisกลายเป็นผ้วู า่ การคนแรกของโปรตุเกสแองโกลาและในปี ค.ศ. 1576 ผู้กอ่ ต้งั เซาเปาโลเดอลูอันดา มรดก รฐั บาลโปรตุเกสไดส้ รา้ งสัญญาณนาทางสองดวง ไดแ้ ก่Dias Crossและda Gama Cross เพ่อื ราลึกถึง Dias และ Vasco da Gamaซึง่ เป็นนกั สารวจชาวยโุ รปสมยั ใหมค่ นแรกทไ่ี ปถึง Cape of Good Hope เมือ่ เขา้ แถวแลว้ จดุ ขา้ มเหล่านี้ช้ีไปที่Whittle Rock ซึ่งเปน็ อนั ตราย จากการขนสง่ สินคา้ ขนาดใหญท่ ีจ่ มอยูใ่ ตน้ า้ อย่าง ถาวรในFalse Bay

THANK YOU