Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Who was Thomas Alva Edison

Who was Thomas Alva Edison

Published by อาฟีฟะ มาหะมะ, 2019-10-24 23:34:53

Description: หนังสือเล่มนี้เป็นฉบับการแปลจากหนังสือต้นฉบับภาษาอังกฤษ Who was Thomas Alva Edison ซึ่งเป็นผลงานของรายวิชา การแปลเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพ โดยนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

Keywords: Who was Thomas Alva Edison

Search

Read the Text Version

ห ลังจากการพ บป ะ และการต้อนรับผา่ นไปหลายวัน ประธานาธิบดี Rutherford B. Hayes ข อ ใ ห้ Tom ม า ท่ี ทาเนียบขาว เขาไปถึงทนี่ นั่ เวลา 2 3 .0 0 น . ป ร ะ ธ า น าธิ บ ดี ประทับใจในแผ่นเสียงของTom เข าส าม ารถ ท าให้ คุ ณ น าย Hayes ลุกออกจากเตียงเพื่อฟัง มัน ตอนแรก Tom คิดว่าหลาย ๆ บริษัทคงจะใช้แผ่นเสียงของ เขาในการทาธุรกิจ เขามองว่ามันเป็นเหมือนเครื่องโทรเลขสาหรับ การเขียนจดหมายต่าง ๆ หลายกิจการก็เคยใช้มาแล้ว พ ว ก เข า เรี ย ก ส่ิ ง นี้ ว่ า Ediphone แต่ในช่วงชีวิตของเขา Tom ไม่คาดคิดว่าความ นิ ยม ข องเครื่องเสี ยงจะ เติบโตขนาดน้ี

มีผู้ฟังดนตรีมากมายในลานคอนเสิร์ตและในร้าน Penny Arcades คนหลาย ๆ คนสามารถฟังเพลงในเวลาเดียวกันเพียงใชเ้ งิน เเค่ 5 เซ็นต์ อีกไม่นานผู้คนก็ต้องการให้มีแผ่นเสียงในบ้านเป็นของ ตัวเอง หลายปีผ่านไป Tom ใช้เวลา1วันในการเขียนบทความ เกย่ี วกับเสน้ ทางของเเผ่นเสียง เขาเห็นภาพอนาคตอนั แสนไกล เขาได้ ทานายเกย่ี วกับเทปเสยี ง เขาเรยี กส่ิงเหล่านีว้ ่า \"หนังสือพูดได้\"

Tom มักจะใชห้ ลายๆความคิดในเวลาเดียวกันในการทางาน จนบางทีเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเเผ่นเสียงของเขาเท่าท่ีควร บริษัท Edison Speaking Phonograph ในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็น บ ริ ษั ท ข อ ง เข า ไ ด้ ใ ช้ กระบอกของเขาในการ จัดท าและจัดจาหน่าย แผ่นเสียง แต่บริษัทอ่ืน ๆ ได้ พั ฒ น า เค รื่ อ ง จั ก ร ท่ี มี ความนิยมมากกว่าโดยใช้ แผ่นดิสก์ที่เรียกว่าเคร่ือง บนั ทกึ Tom ได้ คิ ด ค้ น แผ่นเสียงเม่ืออายุเพียงแค่ 30 ปี ตอนท่ีเขายังหนุ่ม เขามีฉายาว่า \"พ่อมดแห่ง Menlo Park”

แผ่นเสียงอาจจะเปน็ \"ลูกรัก\" ของ Tom และเป็นส่ิงที่เขาช่ืนชอบ แต่ มนั เป็นสิ่งประดิษฐช์ ้ินถัดไปที่ทาให้เขามาไกลกว่ามีชื่อเสียง Tom คือ คนที่จะเปลย่ี นเสน้ ทางชวี ติ ของผู้คนตลอดไป

บทท่ี 5 เปดิ ไฟ ชว่ งฤดูร้อนของปี พ.ศ. 2421 ( ค.ศ. 1878 ) ทอมไดท้ างาน อยา่ งหนกั เป็นเวลานาน เขากาลงั คิดถงึ เรอื่ งวันหยุดของตัวเอง จากนัน้ เพอ่ื นคนหน่งึ ไดช้ วนเขาเขา้ ร่วมกล่มุ ของนกั วิทยาศาสตร์ พวก เขาเดนิ ทางไปท่ี Wyoming โดยใชร้ ถไฟในการเดนิ ทาง เพ่อื ที่จะไปดู การเกิดสุริยปุ ราคา ทอมตดั สนิ ใจวา่ จะไป เขาได้พยายามคดิ คน้ เครือ่ งมอื ชนดิ หน่งึ เรียกวา่ เทซเิ มเตอร์ ( tasimeter ) ใชใ้ นการวัดอณุ หภูมิ และ เขาเหน็ วา่ การเดินทางครั้งนเ้ี หมอื นเป็นโอกาสทดี่ ีในการลองใช้ เครือ่ งมือชนิดนี้ ทอมรสู้ กึ เพลดิ เพลนิ ในการสนทนากับบรรดา นกั วิทยาศาสตรค์ นอ่นื ๆ หลงั จากไดด้ ูการเกดิ สรุ ยิ ปุ ราคาแล้ว เขา และเพ่ือน ๆ ไดเ้ ดนิ ทางด้วยกันโดยรถไฟอีกครง้ั เหมอื นกบั วา่ นกั วิศวกรรถไฟไดเ้ ชิญทอมไปนั่งในดา้ นหน้าสดุ ของรถไฟ วธิ นี ี้ทาให้ทอม ได้เหน็ ทศั นยี ภาพทดี่ แี ละนา่ ดทู สี่ ุด จนกระทงั่ รถไฟไดเ้ ข้าไปในอโุ มงค์ เขาเลยกลบั ไปนง่ั ในตัวรถไฟเช่นเดมิ

ในขณะเดยี วกัน ทอมยังไม่แนใ่ จวา่ เขาจะทางานอะไร หลงั จากน้ี การเดนิ ทางไปฝั่งตะวันตกคร้ังนี้ เขาไดย้ นื ดแู มน่ ้าPlette

กาลังไหลตามมา เขาเกดิ ความสงสัย จึงตะโกนไปหาเพื่อนวา่ ทาไม กาลงั การไหลของแมน่ า้ ไมส่ ามารถใช้อานวยไฟฟ้าให้กับชาวบา้ นทห่ี า เหมืองแรใ่ นละแวกน้นั ได้ พวกเขาขุดหาแร่ดว้ ยมือ เหน็ ไดช้ ัดว่ามันช้า แถมยงั ต้องทางานหนัก เพือ่ นของทอมเล่าใหท้ อมฟังเกี่ยวกับผชู้ ายคนหน่งึ ทเ่ี ขาเคย รจู้ กั ในรฐั คอนเนตทคิ ัทวา่ ผู้ชายคนน้ไี ดค้ น้ พบวิธีท่ี นา่ สนใจในการใช้กาลังของ พลังงานไฟฟ้า เขาสามารถ ส่งกาลังไฟฟา้ มากพอในการ ทาใหห้ ลอดไฟเกิดแสงสว่าง ไมใ่ ชแ่ คห่ ลอดไฟหลอดเดียว แต่เขาสามารถทาได้ทั้งหมด 8 หลอด โคมไฟจะสวา่ งเมือ่ กระแสไฟฟ้ากระโดดข้าม พ้นื ทีว่ ่างระหว่างแทง่ คารบ์ อน 2 แท่ง ปัญหาคือ แสงไฟท่ีได้มานน้ั มันสว่างจา้ มาก ๆ โคมไฟก็เช่นกนั มนั จะส่งประกายออกมาและสามารถทาให้ไฟ ไหมใ้ นบ้านได้ มันจงึ เหมาะกบั การใชน้ อกบา้ นมากกวา่

จนกระทงั่ ตอนน้ี แสงไฟในบ้านจะมาจากแสงเทยี น ตะเกียง นา้ มนั หรอื ตะเกียงก๊าซ แสงไฟพวกน้ีไมส่ ามารถใหแ้ สงสวา่ งมากพอ ไดใ้ นตอนกลางคืน ตะเกียงถูกใชม้ ากตัง้ แตใ่ กล้ ๆ ปีพ.ศ. 2343 ( ค.ศ. 1800 ) แต่มันมรี าคาท่สี งู ตะเกียงก๊าซก็ทาใหผ้ นังบา้ นกลายเป็นสีดา และสกปรก บางครง้ั กลิ่นมนั เหม็นจนทาใหป้ วดหัวได้ กา๊ ซสามารถ เปน็ อันตรายได้เช่นกัน หากมันรัว่ ไหลหรอื ระเบิดขึ้นมา แต่ตะเกยี ง ก๊าซก็ยงั คงเปน็ ทีน่ ิยม เพราะมนั เป็นแสงไฟ ทีด่ ีทส่ี ุดทส่ี ามารถใช้ ประโยชน์ได้

ก๊าซไฟฟา้ ในปี พ.ศ. 2359 ( ค.ศ. ) หลอดไฟทเี่ กดิ จากการเผ่าไหม้ ของถา่ นหิน สอ่ งแสงบนถนน Baltimore เมือง Maryland เปน็ ถนนเสน้ แรกของอเมรกิ นั ทมี่ ไี ฟฟา้ หลงั จากน้นั ไฟฟา้ ถูกนามาใช้ ในบ้านหลายๆเรือน ปีพ.ศ. 2363 ( ค.ศ. 1820 ) ก๊าซธรรมชาติได้ถกู คน้ พบ จากใต้พนื้ ดนิ ในเมอื ง Fredonia ในนิวยอรก์ ชาว Lafayette ด้งั เดิม ฮโี ร่ของวิวฒั นาการของชาวอเมรกิ ัน ได้มาเยย่ี มเยียน และ รับประทานมอื้ คาทไ่ี ด้ทาจากเตาแกส๊ ในห้องทีม่ ีแตก่ ๊าซไฟฟ้า ถือ เป็นเรื่องมศั จรรย์มากในเวลานัน้

ก๊าซไฟเหลา่ น้ีสามารถเจอไดใ้ นบ้านเรอื น สานกั งาน โรงงาน และข้างนอกของเมืองหรือหม่บู ้านใหญ่ ๆ ท่วั ประเทศได้ ทอมอยากกระตอื รือรน้ อยากเห็นว่าผชู้ ายในรฐั คอนเนตทิคตั คนนั้นใช้วธิ ไี หนในการใชก้ ระแสไฟฟา้ ในการทาใหห้ ลอดไฟทงั้ 8 หลอดเกิดแสงสว่างได้ เขารสู้ ึกแปลกใจและสนใจวา่ ผชู้ ายคนน้คี น้ พบ การใชไ้ ฟฟ้าโดยไม่ใชแ้ บตเตอร์ร่ี แตใ่ ช้เครื่องกาเนดิ ไฟเล็ก ๆ สรา้ ง แมเ่ หล็กและการขดตัวของลวด ทอมประทบั ใจมาก ๆ กบั หลอดไฟ 8 หลอดหลอดนน้ั แต่ เขาได้ไปบ้านของผู้รคู้ นนั้น หากเขาประสบความสาเร็จกบั หลอด ไฟฟ้า เขาต้องพัฒนาหลอดไฟง่าย ๆ ได้ หลอดไฟทที่ าใหเ้ กดิ แสง สว่างได้ แสงอ่อน ๆ ทเ่ี กดิ จากเสน้ ใยความรอ้ น หรอื วัสดขุ า้ งใน หลอดไฟ ทาให้รู้ว่าสง่ิ นี้ทาใหเ้ กดิ แสงไฟสว่าง ทอมมีไฟมากในการทาการทดลองเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าครัง้ น้ี และเขากร็ วู้ า่ คนอืน่ ๆ ทั่วโลกกาลังศกึ ษาเรื่องนอี้ ยู่เช่นกนั ทอม ต้องการเป็นคนแรกทปี่ ระสบความสาเร็จในด้านนี้ แตเ่ ขารู้วา่ การ คดิ ค้นเกีย่ วกบั การทางานของหลอดไฟยังไมเ่ พยี งพอ เขาต้อง ประดษิ ฐบ์ างอยา่ งท่ีสามารถขายออกในราคาที่คนทัว่ ไปสามารถซ้อื ได้

หลอดไฟ แสงไฟถูกสสรา้ งเม่ือหลอดไฟของกระแสไฟฟา้ เกดิ ปฏกิ ิรยิ าระหว่างแทง่ ควบคมุ 2 แท่ง มันจะทาให้เกดิ แสงสวา่ ง ข้นึ มกี ลิ่น และมรี าคาสูง สาหรับใช้ในบ้านและออฟฟิซ

ทอมรู้ด้วยวา่ เขาจะต้องคิดค้นวิธที ีจ่ ะจดั เตรยี มกาลังของ กระแสไฟฟา้ ทที่ าให้เกิดแสงสว่างกับเพอื่ นบ้านทุกคน ท่ัวทง้ั เมือง และท่วั ประเทศนใี้ นควาทเปน็ จรงิ กระแสไฟฟ้า มาจากโรงงานไฟฟ้า ทอมไมเ่ คยอายท่จี ะพูดเกีย่ วกับการทดลองของตวั เอง เขาได้ เขยี นในสมดุ จดของเขาวา่ “ กระแสไฟฟา้ คอื แสงสวา่ งแห่งอนาคต และมันจะเปน็ แสงสวา่ งของฉัน นอกเสยี จากวา่ เพือ่ นคนอนื่ ๆ จะ สามารถสร้างทดี่ ีกว่า ” เวลาผา่ นไปไม่นาน ทอมได้คยุ โวโออ้ วดกับนักเขยี นข่าวว่า เขาจะผลติ หลอดไฟภายในไมก่ ่สี ัปดาห์ ไมเ่ พียงแคน่ นั้ เขายังจะสร้าง แหล่งกาเนิดไฟฟ้าทถี่ นน Pearl ในเมืองแมนแฮตตนั อีกด้วย มันจะนา แสงสวา่ งมาทว่ั เขตในนิวยอรก์ พ้นื ทีท่ ่เี ขาไดเ้ ลอื กนน้ั เป็นศนู ยก์ ลาง ทางการเงินของเมอื งน้ี ทาไมทอมจะตอ้ งประกาศออกไปแบบนั้น? เขายังไม่มไี อเดยี ท่ีจะทามันดว้ ยซา้ หรือบางทเี ขาอยากจะขม่ นักประดษิ ฐ์คนอื่น ๆ อยู่ หรือไมก่ ็เขากาลงั เรียกรอ้ งความสนใจจากนกั ประดิษฐพ์ วกนน้ั ทอม ตอ้ งใช้เงินเป็นจานวนมากในการสร้างสง่ิ เหลา่ นใ้ี ห้เกิดขึ้น ในท่ีสุดเขากไ็ ดเ้ งินจากคนรวยคนหนึง่ ในนวิ ยอรก์ ความสามารถนอ้ี าจจะเก่ยี วกับการท่ีเขาต้องการจะกาจดั บรษิ ทั แก๊ส

ใหอ้ อกจากวงการธรุ กิจ กระแสไฟฟา้ ใหม่ ๆ อาจจะสร้างเงินได้ มหาศาล พวกเขาไม่อยากทาพลาด ก่อนทท่ี อมจะแสดงใหค้ นอนื่ เหน็ นักประดิษฐ์ไดค้ น้ พบบริษทั กระแสไฟฟ้าของเอดิสัน ทอมชอบทจ่ี ะใหค้ นมาดูงานท่ีหอ้ งปฏิบตั กิ ารของเขาใน Menlo Park เขาชอบแสดงสิง่ ประดิษฐ์ท่เี ขาคิดค้น โดยเฉพาะอยา่ ง ยิ่ง แสดงใหก้ กบั พวกนักข่าว ตอนนท้ี กุ อยา่ งเปลี่ยนไป เขาไมต่ ้องให้ใครคนไหนมาชม หอ้ งปฏิบตั ิการอกี แลว้ เขาตอ้ งการอวดกระแสไฟฟ้าท่ีเกอื บจะสาเร็จ ในไมช่ ้านี้ แตม่ นั ยังไม่สาเรจ็ เขาจงึ ไปจดลิขสทิ ธเิ์ พื่อปกป้องไอเดยี ของตัวเองไว้ ทอมและคนงานของเขา อทุ ิศตัวใหก้ ับงานนีเ้ ปน็ เวลานาน และทางานกนั อยา่ งหนกั หนว่ ง สงิ่ แรกที่สาคัญที่สุด พวกเขาต้องสร้างหลอดไฟทเ่ี ป็นแบบ สุญญากาศ หมายความวา่ มันต้องไมม่ ีออกซเิ จน เปน็ หลอดไฟกลวง ใยข้างในจะต้องให้ความสวา่ งได้ยาวนานถ้าความรอ้ นอยใู่ นพื้นที่ที่ สูญญากาศ



ทอมไดจ้ ้างช่างเป่าแกว้ ชนั้ ดี คนท่ีสามารถทาใหห้ ลอดไฟมี ความสมบูรณแ์ บบมากทส่ี ดุ นั่นก็คือ หลอดมีช่องโหว่ และโชคดีมากท่ี ในเวลาน่นั เครอ่ื งสญุ ญากาศถกู คิดคน้ มาแลว้ มันสามารถดดู อากาศท่ี อย่ใู นหลอดไฟออกเกือบหมด ภาระอันหนักอ้ึงทีส่ ุดคอื การล้วงความคิดในการคิดคน้ ใยท่ี เหมาะสมทสี่ ุด วัสดอุ ปุ กรณ์ทจี่ ะนากระแสไฟฟ้า และทาใหเ้ กดิ แสง สวา่ งในหลอดไฟไดย้ าวนาน มปี ญั หาอย่างอนื่ อกี เช่นกันคอื แสงไฟไม่สามารถเดินไฟเป็น ขน้ั ๆ ได้ ต้องให้หน่ึงในน้ตี ามอกี อนั หนึง่ ในลวดเส้นเดียวกัน เพราะ อะไร? ทาไมพออันใดอนั หนึ่งไฟสามารถเดนิ ได้ แลว้ อันอื่น ๆ ทเ่ี หลือ กส็ ามารถทาได้ด้วย 6 สปั ดาหผ์ ่านมาแล้วก็ผ่านไป เพอ่ื นบา้ นในนิวยอรก์ เป็น อยา่ งไรบ้าง ท่ีครง้ั หนงึ่ ทอมเคยบอกไว้วา่ แสงสว่างกาลงั จะมา? หนังสือพิมพห์ ลายสานัก เริ่มเขยี นเรื่องราวเก่ียวกับการโอ้อวดของ เขาแลว้

ทอมยงั คงทาการทดลองเพอ่ื หาใยท่เี หมาะสมอยู่ เขาทดลอง กบั อุปกรณ์ทุกอย่างแล้ว เชน่ สายเบด็ ตกปลา ไม้ไผ่ ใยแมงมมุ แม้ กระทง้ั เสน้ ผมบหวั ของคนงานคนหนงึ่ ขณะนน้ั เองเขาได้คิดวา่ ทองคาขาวสามารถทาให้เกดิ กระแสไฟได้ แต่ถึงแมว้ า่ มนั จะสามารถ ทาได้ มันกย็ งั แพงสาหรบั การนามาใชท้ าหลอดไฟ

บางคร้งั ทอมก็จะดดี น้ิวตัวเองเคาะเปน็ จังหวะเพลง เพราะ มนั จะทาให้เขาคิดออก คนงานยังคงทดลองทกุ อยา่ งตอ่ ไปเท่าท่ีเขา สามารถคดิ ได้ อปุ กรณท์ ่ีใชท้ งั้ หมดราว ๆ 3000 ชิน้ ทอมรวู้ ่าการหาส่ิงที่ทาให้ไม่เกดิ กระแสไฟ สาคญั พอ ๆ กบั การค้นหา สิง่ ท่ีทาใหเ้ กดิ กระแสไฟ 1 ปคี รึ่งผา่ นไปพร้อมกบั ความว่างเปลา่ แตท่ อมไม่ ยอมแพ้ และ วันหนึ่งเขาก็ ไดค้ าตอบ มนั คอื การเยบ็ ด้าย แบบง่าย ๆ ใหค้ รอบแทง่ คารบ์ อน และเผาในอณุ หภูมทิ พ่ี อเหมาะ วนั ท่ี 22 ตลุ าคม พ.ศ. 2422 ( ค.ศ. 1879 ) หลอดไฟของ ทอมสว่างนานถงึ 13.30 ชวั่ โมง และหลอดต่อไฟสว่างถงึ 100 ชั่วโมง

ทอมและทมี งานของเขารูส้ กึ ปลาบปลื้มใจมาก พวกเขาทา สาเร็จแล้ว ตอนน้นั ทอมอายเุ พยี ง 32 ปเี ท่านน้ั ทอมไดจ้ ดั ตงั้ หลอดไฟใน Menlo Park ในเทศกาลวันหยดุ เดอื นธนั วาคม พวกเขาเอากาลังไฟฟา้ จากเคร่อื งกาเนดิ ไฟในรา้ น

เครอื่ งจกั ร มันสูงถงึ 7.62 เมตร ( 25 ฟุต ) และหนักถึง 226.8 กิโลกรัม ( 500 ปอนด์ ) ผูค้ นกวา่ 3000 คนพรง่ั พรูมาทเี่ มมอื ง Menlo Park เมื่อมา ดสู ิ่งทพี่ ่อมดคนนไ้ี ด้สร้างไว้ พวกเขาเดนิ ทางมาโดยรถไฟ และเดนิ ไป รอบ ๆ ทะเลเมือ่ ไปท่หี อ้ งปฏิบัตกิ าร พวกเขาจอ้ งมองไปยงั หลอดไฟ ดว้ ยความทง่ึ มีหลอดไฟกวา่ 100 ดวงส่องแสงสว่างตลอดทาง ครั้ง หนง่ึ พวกเขารู้สกึ มึนกบั ห้องทสี่ วา่ งโดยกระแสไฟฟ้า

ปัจจุบนั ทอมเปิดแสงสวา่ งให้กับสว่ นหน่ึงของเมอื งนวิ ยอร์ก เขาตอ้ งการสร้างกาลังเพม่ิ เดินสายไฟใต้ดนิ สวติ ซไ์ ฟ มเิ ตอร์ ติดต้งั หลอดไฟ และหลายหลายสงิ่ หลายอย่างที่เขาเขาใหส้ ญั ญาไว้

ใช้เวลาในการสรา้ งทัง้ หมด 2 ปีครงึ่ วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2425 ( ค.ศ. 1882 ) บา่ ย 3 นาฬกิ า สวิตซไ์ ฟถูกตดิ ตงั้ ทีศ่ ูนย์กลาง สถานีทีถ่ นน Pearl ในถนน Wall หน่งึ ในสานักงานที่ของผ้คู ิดค้นคน สาคัญของเขา ทอมเปดิ ไปใหก้ ับสานักงานใหม่ของเขากว่า 106 แหง่ ทอมรู้วา่ ที่พ่งึ จะเรมิ่ ตน้ วันใดวันหนงึ่ หลอดไฟฟา้ ของเขาจะมีคนใชท้ ่ัว ทงั้ โลก

บทท่ี 6 การสร้างภาพยนตร์ ในปี พ.ศ.2427 (ค.ศ. 1884) ซ่งึ เป็นช่วงที่ประสบ ความสาเรจ็ สงู สุด Tom ได้ สญู เสยี Mary ผู้ซง่ึ เปน็ ภรรยา ของเขาเสียชวี ติ ดว้ ยโรครา้ ย เธอมอี ายุเพยี ง 29 ปี เท่านนั้ ลกู ของ Tom อยทู่ ่ี นครนวิ ยอร์ก และเขากม็ ธี รุ กิจ ไฟฟ้าอยทู่ ีน่ ั่นด้วย เขาต้องใช้ เวลากบั ส่งิ นัน้ มากทีส่ ดุ ตอนน้ัน Marion อายุ 12 ปี Thomas อายุ 8 ปี และ William ซ่ึงมีอายเุ พียง 5 ปี ต่อมาในปี พ.ศ.2428 (ค.ศ.1885) Tom ได้พบกับหญิงสาวผู้ หนึง่ มนี ามว่า Mina Miller ครอบครัวของเธอมาจาก Ohio

พอ่ ของ Mina เป็นนกั ธุรกจิ และนักประดิษฐ์ เศรษฐี ผทู้ ี่ ประสบความสาเรจ็ ในการพฒั นาเครอ่ื งจกั ร เขาได้รบั สทิ ธิบัตร ทงั้ หมด 92 ใบ Tom ตกหลมุ รัก Mina ทันทีท่เี หน็ เธอดูนา่ สนใจและดมู ี การศึกษา นอกจากนีแ้ ลว้ Tom ยังสอนระบบการส่งข้อความดว้ ย สญั ญาณเสยี งและไฟ (Morse code) ให้กับเธออกี ด้วย เพอ่ื ทีพ่ วกเขา จะได้ “พูดคยุ ” กันอยา่ งลับ ๆ แม้แตใ่ นหมเู่ พอื่ น วา่ กนั ว่า Tom เคาะฝ่ามือของเธอและพดู ว่า “คุณจะแตง่ งานกับผมมัย้ ครับ” และ Mina กเ็ คาะกลบั และตอบไปว่า “ตกลงคะ่ ”

Mina และ Tom แต่งงานกันในปี พ.ศ. 2429 (ค.ศ.1886) และยา้ ยไปอย่บู า้ นหลงั ใหญ่หลังหนึง่ ท่ี Glenmont ใน West Orange รฐั นวิ เจอรซ์ ีย์ “มนั เปน็ ส่งิ ที่ดีเกนิ ไปสาหรบั ผม แต่มนั ไม่ถงึ คร่ึงหน่งึ ของภรรยาผม” Tom กล่าว Tom และ Mina อยดู่ ้วยกนั อย่างมคี วามสขุ และ Tom ยังมี งานท่ีต้องทามากทส่ี ดุ เท่าทเ่ี คยมมี า เม่ือ Mary ยังมชี วี ติ อยู่ และ ต้งั แต่ท่ีพอ่ ของ Mina ยงั เป็นนกั ประดิษฐน์ ั้นอาจจะทาให้ Mina เข้าใจโลกของ Tom มากขึน้

อย่างไรกต็ ามมันไมใ่ ชเ่ รื่องงา่ ยเลยที่ Mina ที่มีอายุเพียง 20 ปี ต้องกลายเปน็ แมข่ องลกู ทั้ง 3 คน แตเ่ ปน็ เร่อื งง่ายสาหรบั Marion ผ้ทู ี่มีอายุ 24 ปี และเปน็ เพือ่ นกบั พอ่ ของเธอได้ ในปตี ่อมาเธอบอก Mina ว่า “ยังเด็กเกินไปทจ่ี ะเป็นแม่ของฉัน แต่กแ็ ก่เกินไปท่จี ะเปน็ เพอื่ นกัน” Mina และ Tom มลี ูกด้วยกัน 3 คน คือ Madeleine Charles และ Theodore

ทกุ วนั หยุดเปน็ ช่วงเวลาที่ Tom ชอบอยู่บา้ นกบั ครอบครวั ใหญ่ ของเขา Mina ไดว้ างแผนจดั งานเลี้ยง สุดหรสู าหรบั วันขอบคณุ พระเจ้า วนั คริสตม์ าส และวันอสี เตอร์ แต่วันท่ี 14 กรกฎาคม เป็นวันของ Tom ทั้งหมด ทกุ คนจะออกไปข้าง นอกบ้านแต่เช้า กระท่งั ก่อนอาหาร เชา้ เพ่อื ดดู อกไม้ไฟที่ Tom ทาดว้ ย ตัวเอง และหลงั จากทานอาหารเช้า และงบี แล้ว เดก็ ๆ กจ็ ะรบี ออกไปทา กิจกรรมต่าง ๆ ขา้ งนอกบา้ น เช่น ปิกนิกด้วยแตงโมและไอศกรมี และใน ตอนเย็นจบด้วยการแสดงดอกไมไ้ ฟ ขนาดใหญ่อกี คร้งั

ตา่ งจาก Mary Mina ชอบการเข้าสงั คม เธอมกั จะจดั งาน เลี้ยงสุดหรู ในขณะท่ี Tom มักจะพยายามหลีกเลีย่ งการจดั งานโดย แกลง้ ทาเปน็ ปว่ ย ในสมดุ รายชื่อแขกเตม็ ไปด้วยชอื่ ของคนทมี่ ชี อ่ื เสยี ง เชน่ Orville Wright ผ้ทู คี่ ิดค้นเครอ่ื งบิน Helen Keller นกั เขยี น และวิทยากรผทู้ ่ตี าบอดและหหู นวกตัง้ แต่อายุ 2 ปี และ Henry Ford ผผู้ ลิตรถยนต์ เขาเขียนในตอนทา้ ยว่า “การพกั ผ่อนกับ ครอบครัวเปน็ 2 วันทดี่ ที สี่ ุด ทเี่ คยอย่มู า” การย้ายไปที่ Glenmont ทาให้ Tom ตดั สนิ ใจออกจาก ห้องปฏบิ ตั ิการ Menlo Park และเขาได้สรา้ งห้องปฏิบัตกิ ารแหง่ ใหม่ข้นึ ที่ West Orange โดยห่างจากบา้ นของเขา 1.61 กิโลเมตร (1ไมล์ ) Tom ตอ้ งการใหม้ นั ดที ส่ี ุดในโลก “ฉนั จะมสี ่งิ อานวยความ สะดวกทีด่ ที ่ีสดุ และใหญส่ ดุ เพือ่ การพฒั นาอยา่ งรวดเร็วและดว้ ย ราคาที่ถูก” Tom กล่าวประกาศ Tom ไม่เคยลมื ความปรารถนาของเขาท่ีจะให้สง่ิ ทคี่ น ต้องการเพราะ ความสาเรจ็ อันยิ่งใหญ่ของเขากบั การสรา้ งหลอดไฟ เขามอี านาจเงินอย่างมากและมีอิทธิพลที่จะทามัน

West Orange complex เปดิ เดอื นพฤศจิกายน ในปพี .ศ. 2430 (ค.ศ.1887) มหี ้องปฏบิ ตั กิ ารฟสิ ิกส์ ห้องปฏบิ ัตกิ ารเคมี และ หอ้ งปฏิบัตกิ ารส่วนตวั สาหรบั Tom เพื่อท่ีเขาสามารถจะไดม้ ีสมาธิ และคิดโดยไม่ติดขดั

แตส่ าหรบั Tom ศนู ยก์ ลางของ West Orange เปน็ หอ้ งสมดุ ขนาดใหญ่ ท่ีมหี อ้ งแสดงผลงานศิลปะสองแหง่ คือ มีเพดาน 6 เมตร (40 ฟตุ ) ผนงั ท่เี ตม็ ไปดว้ ยรูปถ่ายและโล่ และชนั้ วางหนงั สือ และนิตยสารกวา่ หมื่นเลม่ จากทัว่ ทุกมมุ โลก ทีน่ ่ันมโี ตะ๊ ทางานและ โต๊ะประชุม ที่ ๆ Tom ไดพ้ บปะกับเพอ่ื นนกั ข่าวและนักลงทนุ นกั ขา่ วและบรรณาธกิ าร West Orange มีขนาดใหญ่กว่า Menlo Park ถึง 10 เท่า และมีคนงาน ในคราวเดยี วมากถึง 1 หมน่ื คน ในช่วงนัน้ มี “บริษัท”30 แหง่ ทางานในโครงการต่าง โดยมี Tom กากับงาน นอกเหนือจากความคิดใหม่ ๆ แลว้ Tom ไม่เคยสนใจทีจ่ ะ พฒั นา “แผ่นเสยี ง” ของเขาให้ดขี ้ึน เขาอาจจะหลงทางและทางาน กับสิง่ ประดิษฐอ์ น่ื ๆ แตเ่ ขากลบั มาสนใจแผน่ เสียงเสมอ ไม่ใชท่ ุกอย่างทจี่ ะประสบผลสาเร็จ หนึง่ ในนัน้ คอื “เด็กชาย” ทพ่ี ูดถึง Tom ในการทาต๊กุ ตาพดู ได้ของบริษัท Boston ในต๊กุ ตาจะมีกระบอกเล็ก ๆ อยู่ สงู 0.6 เมตร(2 ฟตุ ) เพ่อื ใช้ในการ หมุนกระบอกจากข้างหลงั ตุ๊กตา ตุก๊ ตาใชไ้ ด้ดตี อนทีอ่ ยู่ในโรงงาน โดย ทมี่ นั สามารถจาพวกกลอนและคาสัมผสั ของเดก็ ได้ แต่เมอ่ื อยู่ใน ร้านค้า ไมส่ ามารถทางานไดเ้ หมือนตอนท่ีอยู่ในโรงเรยี น เพราะ เสยี ง ท่ีกระแทกบนพ้นื ทาให้ ไปรบกวนระบบเครอ่ื งของตกุ๊ ตา ก็เลยทาให้ ตกุ๊ ตาส่วนใหญท่ างานไม่ได้

ต๊กุ ตาใช้ไดด้ ีตอนท่อี ยู่ในโรงงาน โดยทมี่ นั สามารถจาพวกกลอน และคาสัมผัสของเด็กได้ แตเ่ ม่ือ อยใู่ นร้านค้า ไม่สามารถทางาน ได้เหมือนตอนที่อยใู่ นโรงเรียน เพราะ เสียงที่กระแทกบนพนื้ ทาให้ ไปรบกวนระบบเครอ่ื ง ของตุก๊ ตา กเ็ ลยทาใหต้ กุ๊ ตาสว่ น ใหญท่ างานไม่ได้ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2432 (ค.ศ.1889) Mina และ Tom ไปยังไงปารีสเพือ่ เขา้ ร่วมงาน Universal Exhibition เปน็ งานจัด แสดงสินค้าขนาดใหญซ่ ง่ึ โดยมีสนิ ค้ามาจากหลายๆประเทศ

มกี ารจัดการแสดงสินคา้ คร้งั ใหญข่ อง Edison โดยที่ แผ่นเสียง เปน็ สง่ิ ท่ีได้รับความนิยมมากทสี่ ดุ โดยเฉพาะ Eiffel Tower แห่งใหมซ่ ึ่งมีโครงสรา้ งท่ีสงู ที่สดุ ในโลก ณ เวลานั้น

Eiffel Tower

“LA TOUR EIFFEL” สูง 299.92เมตร(984 ฟุต) ซงึ่ อยเู่ หนือเมือง ปารสี ในการสร้างใช้แรงงานคน 300 คน ในเวลา 2 ปี ชนิ้ สว่ นเหล็ก ท่ใี ชส้ รา้ งน้ัน 15,000 ชิ้น ในการประกอบนนั้ ใช้หมุดจานวน 2.5 ล้านชนิ้ Eiffel Tower สามารถโยกไปมาได้ประมาณ 8 นว้ิ เพือ่ ตา้ น ลม และจาเปน็ ต้องใชส้ ี 40 ตนั เพอ่ื เคลอื บหอคอย Eiffel Tower ยงั เปน็ โครงสร้างทส่ี ูงที่สดุ ในโลกจนถึงปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ.1930) จากนัน้ กม็ ีการสร้างตึก Chrysler ตามด้วยตกึ Empire State ซง่ึ ถูก สร้างขน้ึ ในนิวยอร์ก Eiffel Tower สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2432 (ค.ศ.1889) เพอ่ื วันครบรอบรอ้ ยปีของการปฏิวัติของประเทศฝรัง่ เศส แบบของ Eiffel Tower ออกแบบโดย Gustave ผทู้ ี่ชนะ การแข่งขนั จาก 700 รายการท่สี ่งประกวด เมื่อหลายปีกอ่ น เขาได้ ออกแบบโครงสรา้ งเหล็กสาหรบั ดา้ นในของเทพีเสรีภาพและเขาได้ ดูแลเลยี้ งดูสตรีผู้ที่มชี อื่ เสยี งคนหนงึ่ ไว้ท่ที ่าเรอื ในนวิ ยอร์กเมื่อปี พ.ศ. 2429 (ค.ศ.1886)

ในระหว่างการเดินทางของ Tom น้นั เขาไดไ้ ปเยยี่ มชม ชาว ฝรงั่ เศสท่มี ี “ปืนอัดเสียง” ซงึ่ เอาไวย้ ิงสัตว์ทเ่ี คลือ่ นไหวอยา่ งเชน่ นก ทก่ี าลังบิน Tom สนใจภาพเคลื่อนไหวในเดอื นตลุ าคม ปี พ.ศ.2731 (ค.ศ.1888) เขาไดเ้ ขยี นว่า “ฉนั กาลงั ทดลองกบั เคร่ืองมือท่ีทาเพื่อ ดวงตาและเครือ่ งเลน่ จานเสียงซง่ึ ทาเพ่อื หู สง่ิ นี้ เรียกวา่ “Kinetoscope”

Tom เปน็ ผ้บู ุกเบิกในการพัฒนาระบบการถา่ ยทาและแสดง ภาพเคลือ่ นไหว kinetograph ของเขาคอื กล้องถ่ายรูป ซึ่งไว้ ถ่ายภาพ kinetoscope ของ Tom เปน็ วธิ มี องดพู วกเขา ในปี พ.ศ.2436 (ค.ศ.1893) หอ้ งทางานภาพเคลอ่ื นไหว แหง่ แรกอยู่ท่ี อเมริกา ถูกสรา้ งข้ึนใน West Orange เขาตงั้ ช่อื มันว่า Black Maria

ภาพถ่าย กระบวนการถา่ ยภาพทป่ี ระสบความสาเรจ็ เป็นครั้งแรก คอื Daguerreotype ซงึ่ ไดต้ ้งั ชื่อตามชาวฝรั่งเศส คอื Luis J.M. Daguerre ในปี พ.ศ.2380 (ค.ศ.1837) เปน็ ภาพขาวดาที่มี รายละเอียดและอธิบายวา่ เป็น “กระจกเงาโดยการจา” การคน้ พบครง้ั สาคญั ครงั้ ถดั มาเกิดข้ึนในปี พ.ศ. 2394 (ค.ศ. 1851) เมอ่ื Frederick Scott Archer ซึ่งเป็นช่างภาพชาวองั กฤษ ได้ค้นพบวธิ ีท่ีจะใหง้ านพมิ พ์มจี านวนมากทสี่ ดุ เทา่ ท่เี ขาต้องการ

ตอ่ มาในปี พ.ศ.2431 (ค.ศ.1888) George Eastman ชาว อเมริกนั ได้เปิดตัวกล้อง Koduk Box ซึ่งเปน็ กล้องท่ีพกพาไดส้ ะดวก ทาให้พวกชา่ งภาพไม่จาเปน็ ต้องอยูใ่ นหอ้ งทางานทเ่ี ปน็ ห้องมดื อกี ตอ่ ไป นอกจากนแี้ ลว้ ตวั กลอ้ งยงั ราคาถูกและสะดวกในการใช้งานอกี ดว้ ย มว้ นของเซลลูลอยด์หรือพลาสติกฟิลม์ อาจจะใชแ้ ผ่นเสยี งสีดา และสีขาวร้อยแผ่นภาพยนตร์ ซึง่ Edison ใช้สิง่ นีใ้ นการถา่ ย ภาพยนตร์

Black Maria ซ่ึงเปน็ โครงสร้างทม่ี คี วามยาวประมาณ 16.76 เมตร (50 ฟตุ ) และเปน็ โครงสรา้ งที่ดูแปลก คือ มหี ลังคาเอยี งที่ สามารถเปดิ ได้โดยการใชร้ อกเพือ่ ใหด้ วงอาทติ ยส์ อ่ งถงึ มนั วางบนฐานงาน (Platform) ที่เปน็ ทรงกลมซ่ึงมเี หล็ก เหมอื นรางรถไฟ และเคล่อื นทเี่ ป็นวงกลมตามทศิ ของดวงอาทิตย์ การถา่ ยทาใน Black Maria เรม่ิ ขึ้นในปี พ.ศ.243 (ค.ศ. 1893) ในตอนต้นภาพยนตร์สามารถแสดงให้เหน็ ภาพชายคนหน่งึ จาม “แสดง” อย่างมีความสุข ชา่ งทถี่ ่ายทาน้ันทางานอยู่ท่ี West Orange

คร้ังแรกทถี่ า่ ยทาการ แข่งขนั ชกมวย ซงึ่ ครงั้ นน้ั คนที่ ชนะ คอื “Jim” Corbett นอกจากนแ้ี ล้ว Edison ยงั ถ่ายทากลุ่มนักเตน้ รา กายกรรม นกั แสดงตลก นกั เลน่ มายากล กระทั่งผู้ชาย ทแ่ี ขง็ แกรง่ ทสี่ ุดในโลกอกี ด้วย เม่อื การแสดง Wild West ของ Buffalo Bill มาถึงเมืองนัก แมน่ ปืน Annie Oakley ก็ถ่ายทาทีน่ น่ั เช่นกนั สว่ นใหญเ่ ปน็ ระยะเวลาสั้น ๆ ซงึ่ กินเวลาประมาณ 20 หรอื 30 วินาที

หนึง่ ใน “เรื่องราว” แรกเร่มิ ได้ถา่ ยทาท่ี West Orange ซ่งึ เปน็ เรอื่ งของ เจ้าหนา้ ที่ดับเพลงิ นัก ดับเพลิงเตือนภยั ดว้ ยการใช้ สัญญาณเตอื นไฟไหม้ และ ผ้คู นก็รบี หนอี อกจากที่ไฟ ไหม้ไป พวกเขาไดช้ ่วยเดก็ ทารกและชว่ ยดบั ไฟ โดยไม่ มีเสยี งใดๆ ถงึ จะเปน็ เช่นน้นั ผูค้ นกต็ ่างตืน่ เตน้ ทีจ่ ะไดเ้ หน็ มัน

ความสนใจหลักของ Tom ในภาพยนตร์คือ การสรา้ ง อปุ กรณ์ที่ดกี วา่ เชน่ kinetoscope และ kinetograph ของเขา แต่ เมอ่ื เวลาผา่ นไปเขาก็ออกไปทางานในแนวความคดิ อืน่ ๆ เขาไม่ไดม้ ี ส่วนร่วมอยา่ งใกล้ชิดเหมอื นกบั ท่ีเขาเคยเลน่ กับแผน่ เสียงและ หลอดไฟ เขาเสนอคาแนะนากบั ทมี ของเขา แต่เขาปล่อยให้พวกของ เขาทาตามความคิดและการปรบั ปรงุ โดยไม่มเี ขา ในที่สดุ เขาก็ ตัดสนิ ใจท่ีจะออกจากธุรกิจภาพยนตร์

บทที่ 7 ประดิษฐต์ ลอด Tom เปน็ คนทไี่ ม่เคยมคี วามคิดเลย แมว้ า่ Tomจะได้ยนิ ยาก แตเ่ ขาไม่เคยสญู เสียการได้ยนิ อยา่ งสมบรู ณ์ เขาไมป่ ล่อยใหม้ นั กลายเป็นปัญหาแม้ว่าการไดย้ ินของเขาจะแยล่ งในขณะทเ่ี ขาโตข้ึน ในความเป็นจรงิ เขาบอกว่ามันเป็นสง่ิ ท่ีดเี พราะเขาอาจเพิกเฉยตอ่ เสยี งดงั ๆทหี่ มุนวนรอบตัวเขา เขาสามารถมสี มาธิกับสิ่งทส่ี าคัญ สาหรับเขา พอถึงจุดหนงึ่ Tomก็บอกว่าการผา่ ตัดอาจรกั ษาอาการหู หนวกของเขาได้ เขาไมต่ ้องการมนั และเขากไ็ มไ่ ด้สนใจในการพัฒนา เคร่อื งช่วยฟัง

Tom พบวธิ ีแก้ไขปัญหาของเขา เขาพยายามฟงั ผเู้ ล่นเปยี โน ทีท่ ดลองใช้สาหรับการบนั ทกึ แผ่นเสียงของเขาโดยการกัดโลหะแผ่นท่ี แนบกับเปยี โน สงิ่ นี้ทาให้เขาได้ยินเพลงผา่ นการสั่นสะเทอื นทีเ่ ดิน ทางผา่ นกระดกู ขากรรไกรของเขาเขากาลังฟังผ่านฟันของเขา มีคนรจู้ ักผลงานของทอมมากจากบนั ทึกทีเ่ ขาเก็บไว้กว่าเจด็ สิบปีที่เขาประดิษฐ์ เขาเติมและเขยี นสมดุ โนต้ สี่พนั และวาดโน้ต มากกว่าสามล้านตวั อักษรและภาพร่าง

ความคดิ ของTomไมใ่ ชท่ งั้ หมดที่ประสบความสาเร็จในปี พ.ศ.2434 (ค.ศ.1891) เขาซ้ือเหมอื งในทิศตะวันตกเฉียงเหนอื ของรัฐ นิวเจอรซ์ ยี ์ เขาตอ้ งการหาวธิ ีผลิตเหล็กคณุ ภาพต่าแยกแรอ่ อกจากหนิ และทราย แตห่ ลังจากสบิ ปีเขาต้องยอมแพเ้ ม่ือพบแร่เหลก็ คณุ ภาพสงู ในมนิ นิโซตา (Minnesota) โดยคราวนีเ้ Tomสยี เงินหลายลา้ น ดอลลาร์ ถึงกระน้นั ประสบการณ์ของกบั Tomการทาเหมอื งแร่พาเขา ไปทธี่ ุรกิจปนู ซิเมนต์อืน่ เขาคิดวิธที ่จี ะเทบา้ นซีเมนตใ์ นเวลาเพยี งหก ชว่ั โมง

โดยใช้แมพ่ มิ พ์และเครื่องจักรทีเ่ ขาพัฒนาในธุรกิจการทาเหมอื งของ เขา ซีเมนต์ของเขาถกู ใช้เพอ่ื สร้างสนามกฬี าแยงกนี วิ อรก์ (New York’s Yankee Stadium) และคลองปานามา ตอนนเี้ ปน็ ชว่ งเปล่ยี นศตวรรษ รถยนตก์ าลงั จะระเบิดในที่ เกดิ เหตุ Tomเดิมเชื่อวา่ รถยนตไ์ ฟฟา้ จะเปน็ รถยนตท์ ี่ดที ส่ี ดุ สาหรับ อนาคต เขาออกเดินทางเพอ่ื ผลิตแบตเตอร่ีเพ่อื ขับเคลื่อนรถยนต์ดว้ ย ไฟฟ้า เขาร้วู ่ามันจะสะอาดกวา่ กา๊ ซท่นี ักประดษิ ฐ์รายอ่นื พยายาม แต่ เขาตอ้ งสรา้ งแบตเตอร่ที ่จี ะเก็บกระแสไฟฟ้าเพยี งพอสาหรับใช้รถเป็น เวลานานมาก มันยงั จะต้องมรี าคาถกู พอท่ีจะทา

HENRY FORD เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) เฮนรี่ ฟอรด์ (Henry Ford)เป็นคนแรกท่ีทำรถ เป็ น ค น แ ร ก ที่ ท ำ ร ถ รำคำถกู เพียงพอสำหรับชำวอเมริกันสว่ นใหญท่ จ่ี ะ ร ำ ค ำ ถู ก เ พี ย ง พ อ ซอ้ื ในปีพ.ศ .2451(ค.ศ.190ส8)ำรหถยรนับตช์ยำอวดอนเิยมมรขิกอั นง เขำรุ่นThe Modal T รำคำหลำยร้อยดอลลำรแ์ ละเขำ ส่วนใหญ่ท่ีจะซ้ือ ในปี มีคำส่ังซ้อื เพิ่มเตมิ มำกกวำ่ ท่ีเขำจะผลติ ภำยในสอง พ . ศ . 2451(ค .ศ .1908) ปี Ford Cameขนึ้ กบั คนงำนสำยกำรประกอบของเขำ ร ถ ย น ต์ ย อ ด นิ ย ม ข อ ง ประกอบหรือรวมตัวกัน รถยนตแ์ ตล่ ะคันเดนิ ทำง เขำรุ่นThe Modal T รำคำ ไปตำมสำยพำนทีก่ ำลังเคลือ่ นท่ี คนงำนทงั้ สอง หลำยร้อยดอลลำร์และ ขำ้ งเพมิ่ สว่ นต่อไปจำเปน็ ในตอนทำ้ ยของบรรทดั ท่สี ปขมร้ึนบะกรู กับณอคบ์รนุ่นหงรMำือนoรdสวeำlมTยตถกัวกู ำกขรนั ปับมเขรรอำะถำอกกยมกกอนีคพบวตำร่ขำสแ์อ้ ทอ่ัตงมงี่เซ่ลสขเขะำื้อำคหำเจพนั ระับิ่มผเลติิตม เดนิ ทำงไปตำมสำยพำนภทำยกี่ ใำนลสังเอคงลปอื่ ี Fนoทrd่ี Came คนงำนทงั้ สองขำ้ งเพิม่ ส่วนต่อไปจำเป็น ใน ตอนทำ้ ยของบรรทัดทส่ี มบูรณ์รุ่น Model T ถูก ขับออกพร้อมสำหรบั ลูกค้ำ Ford ทำ Model T เป็น เวลำ 19 ปี เขำขำยได้มำกกวำ่ 15.5 ลำ้ นใน อเมรกิ ำ

ในท่ีสดุ Tomกค็ ดิ แบตเตอรี่ทด่ี แี ต่เขาสายเกนิ ไป สาหรับรถยนต์ ในปี พ.ศ.2446 (ค.ศ.1903) เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford)ขายรถแบบขับค ล่ือนด้วยนา้ มัน Model A ใหก้ บั ลูกคา้ แบตเตอร่ีทีเ่ ก็บของมTี omประโยชนม์ ากแมว้ ่ามันไม่ไดเ้ พ่ิม พลังเหมือนฟอรด์ (Ford) กองทพั เรอื นามันมาใชเ้ พือ่ สองแสงของเรอื และใช้กับตอรป์ ิโด ทางรถไฟสอ่ งรถยนต์และสญั ญาณไฟดว้ ย รถบรรทกุ ส่งบางคันขบั เคล่ือนโดยมนั ไฟบนหมวกของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน เหมอื งถ่านหินกเ็ ช่นกนั แบตเตอร่ีทเี่ กบ็ กลาเป้นผู้ผลติ รายใหญ่ทีส่ ดุ ของเขาโดย นา่ อศั จรรย์ บางทนี ัน่ อาจทาให้ ประหลาดใจแม้แตT่ omท่ีเคยคาดหวัง ว่าแผน่ เสยี งของเขา “จะเติบโตเปน็ เพ่อื นที่ดีและสนบั สนนุ ฉนั ในวยั ชรา ”

ดว้ ยความสาเร็จท้ังหมดของทอม เขาจึงพร้อมเสมอทีจ่ ะคิด ต่อไป เชน่ เดียวกับความลม้ เหลวของเขา เขาไม่ได้มองยอ้ นกลบั ไป และบน่ และเขาไมเ่ คยยอมแพจ้ นกว่าเขาจะไดล้ องทุกความเปน็ ไปได้ Tom เคยพดู ว่า “คุณเจอส่ิงท่คี ุณไมเ่ ขา้ ใจ คณุ อยา่ หยดุ พกั จนกว่าจะ หมดแรง คนสว่ นใหญล่ องทาอะไรสกั อย่างแลว้ เลกิ ฉันไม่เคยหยดุ จนกว่าฉันจะพบสิ่งทีฉ่ ันตามหา” Tom ทางานในช่วงเวลาท่ีคนอืน่ ๆคิดแขง่ และทาตาม ความคดิ ทด่ี ีตอ่ ไป โลกดเู หมอื นมีชีวิตอยกู่ บั ความเป็นไปได้ Tom เข้าใจงาน เขาชอบมัน เขาเคยพูดว่า “อฉั ริยะคือแรง บนั ดาลใจ1%และออกเหงอื่ 99%” ของอัฉรยิ ะเขาพูดว่า “ติดมัน เปน็ อฉั ริยะ” ในปี พ.ศ.2457 (ค.ศ.1914) มไี ฟลุกลามผ่านอาคาร West Orange ของเขา” แตถ่ ึงอยา่ งน้ันก็Tomไมย่ อ่ ทอ้ เขาเรม่ิ สร้างใหมท่ นั ที แตแ่ มก้ ระทั่งTomกย็ งั ใจแคบ เขาไม่มีอะไรดที จี่ ะพดู เกยี่ วกบั วทิ ยุ เขาแนใ่ จว่ามนั คงอยไู่ มไ่ ด้



เมอ่ื Tomแก่ขนึ้ เขาก็ไม่หยดุ ทางาน มีรูปถ่ายของTomในยคุ 70 ของเขายงั คงเป็น West Orange เม่ือเขาอายุ 65 เขาติดตั้ง นาฬกิ าบอกเวลา คนงานของเขากดการด์ เพ่อื บันทกึ เวลาท่ีพวกเขา มาถงึ และเวลาทพี่ วกเขาจากไป ทอมก็เช่นกัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook