เทพปกรณัมกรีกและโรมันโบราณ

เทพกรกี เเละโรมันโบราณ Ancient Greek and Roman Mythology

กรีกโรมนั โบราณ Content ปฐมบท เทพปกรณมั กรกี และโรมนั โบราณ การแบ่งชนช้ันของ เทพกรีก โรมนั ความสมั พันธ์ของเทพกรกี โรมนั ต่อ มนุษย์ 2

ปฐมบท เทพปกรณมั กรกี และโรมัน แรกทส่ี ุดของจักรวาลนน้ั มีแตค่ วามว่างเปลา่ เทพเจ้าองค์แรกมาจาก ตอ่ มา ไกอา และ อรู านอส มาคืนดกี ัน ไดก้ �ำ เนิดแฝดสาม นา่ ละอองหมอกขมกุ ขมวั ข้นคล่กั ซึ่งมสี สารของทงั้ จกั รวาลลอยไปรอบ ๆ เกลยี ดน่ากลัวมาก พวกเขาตัวใหญ่ทรงพลงั เหมอื นไททัน งมุ่ ง่าม นสิ ยั ห่าม เป็นเทพที่ชือ่ ว่า “เคออส (Chaos)”แลว้ ตอ่ มาความโกลาหลก็ลดนอ้ ยลง กว่า มขี นทั่วตัว พวกเขาแตล่ ะตน จะมีดวงตาดวงเดียวอยู่กลางหนา้ ผาก สสารบางส่วนกจ็ บั ตวั แขง็ ขึ้นมาเป็นโลกของเรา. และได้พฒั นาเปน็ พวกเขาแฝดท้ังสาม นางไกอา ตงั้ ชื่อเปน็ “ไซคลอปสอ์ าวุโส {The Elder ตวั ตนที่มีชวี ิตจติ ใจขนึ้ มานางหนงึ่ นางเรียกตนเองว่า “ไกอา (Ga- Kyklopes (Cyclopes)}”12 และทา้ ยทส่ี ุด พวกเขากใ็ ห้ก�ำ เนิดไซคลอปส์ พันธุ์ ia)”เทพีแห่งพ้ืนพิภพ หรือแมพ่ ระธรณี. หลัง ๆ ออกมา ไกอา นแี่ หละคอื โลกของเราท้งั ใบจริง ๆ เลย ทัง้ กอ้ นหนิ เนนิ เขา หุบเขา อูรานอสจับไซคลอปส์ทัง้ สามไวแ้ น่น แล้วโยนลงส่ทู ารท์ ารัส นางชอบเดินไปทว่ั โลก (หรือเดนิ ไปบนตัวของนางเอง) ในรา่ งของสตรี ท�ำ ใหล้ กู ๆ ที่เป็นไททันทัง้ สิบสองตน กลวั เขามาก วัยกลางคนท่ีสวมชดุ กระโปรงสเี ขยี วยาวสยาย มีผมหยกั ศกสีด�ำ และมี ต่อมา แม้ว่าไกอากับอูรานอสจะทะเลาะกนั ต่างก็ปรับความ รอยยิ้มสงบบนใบหน้า รอยยม้ิ นัน้ วา่ กันวา่ “ปดิ บงั จุดประสงคช์ วั่ ร้ายท่ี เขา้ ใจ ไกอากใ็ หก้ �ำ เนิดแฝดสามอีกชดุ หนง่ึ น่าเกลยี ดนา่ กลวั มากกว่าไซคลอ ซอ่ นเรน้ ไว้” ซ่ึงจะได้กล่าวต่อไป. ปส์ เพราะแต่ละตนมแี ขนหนง่ึ รอ้ ยแขนกระจกุ รวมกนั อยู่ที่หน้าอก เหมือน ไกอา รูส้ ึกเหงา ๆ มองไปก็มีแตค่ วามวา่ งเปลา่ น่าจะมที ้องฟ้า เป็นบรุ ุษ หนามของเมน่ ทะเล มหี ัวเล็ก ๆ 50 หวั อยูบ่ นบา่ นางไกอาเรียกพวก ๆ ชดุ หล่อเหลาทีเ่ ธอจะตกหลุมรกั ได้ด้วยยิง่ ดี อาจจะเป็นเพราะ เคออส ให้ สามแฝดนว้ี า่ “พวกรอ้ ยมือ {Hecatonchires (Hundred-hand ed-ones)}” อูรา ความรว่ มมอื (หรือไม่กไ็ ม่รู้) ไกอาก็เพง่ จติ ด้วยตนเอง แล้วกม็ ีทอ้ งฟา้ นอสกจ็ บั พวกเขาลา่ มโซ่แลว้ โยนลงทารท์ ารัส เหมอื น ถงั ใสข่ ยะรไี ซเคลิ ยัง ปรากฎขึ้นเหนอื พื้นโลก เปน็ โดมป้องกันทม่ี สี ีนำ�้ เงนิ ในเวลากลางวัน ไงยังงั้น. และมสี ดี �ำ ในเวลากลางคนื ทอ้ งฟ้าตั้งชื่อตนเองวา่ “อรู านอส ตอ่ มาบรรดาพวกรอ้ ยมอื ไดเ้ ปน็ ยามเฝา้ ทางเข้าทาร์ทารัส ไกอา (Ouranos)” ซง่ึ เป็นเจ้านภา ซ่ึงมีนสิ ัยขห้ี งุดหงดิ ในรา่ ง ทมี่ ีเลือดเนอ้ื เขาตัวสงู ล�่ำ และมผี มยาวสเี ข้ม สวมแต่ โกรธ อูรานอส มากทท่ี �ำ กับแฝดสามลูกของนางเชน่ นี้ นางชกู �ำ ปั้นบันดาล ผา้ เตย่ี ว ผิวพรรณกเ็ ปลยี่ นสสี นั ไปเรอ่ื ย ๆ บ้างเปน็ ใหแ้ ผน่ ดนิ สะเทือน นางเรียกสสารทแ่ี ขง็ ทส่ี ุดในปฐพี (Adamant) เปน็ สีน�ำ้ เงินลายเมฆเล่อื นลอยไปท่ัวกล้ามเน้ือ บ้างก็เปน็ สี ใบมดี เหล็กโค้งยาวประมาณสามฟุต นางน�ำ กงิ่ ไมเ้ ลก็ ๆ มาประกบ ด�ำ มดื โดยมแี สงดาวพร่างพราว.บางครง้ั เราอาจจะเห็นอู เป็นดา้ มจบั - นางกลา่ ววา่ เป็นอุปกรณแ์ ห่งการลา้ งแค้น นั่นคือ “ รานอสในภาพวาดถือกงล้อจกั รราศีท่ีเปน็ ตัวแทนของกลมุ่ เคียว (Scythe)” - (An adamant Scythe) ดาวตา่ ง ๆ ซึ่งเคลอื่ นคล้อยผ่านท้องฟา้ ซ้ำ�ไปซ�ำ้ มาตลอดกาล. กลับมาที่ไททันกลุ่มแรก. โครนอส (Cronos) ซึง่ สงู ประมาณเกา้ และแล้วอูรานอสกับไกอาก็สมรสกัน. ต่อมา เคออส กเ็ รมิ่ สนุกขึน้ มาอีก หยดน�ำ้ กลัน่ ตวั ออกมาจากหมอกแหง่ ฟุต เจา้ เล่ห์ “จอมอุบาย” มกั เล่นสกปรกในเวลาเลน่ มวยปล�ำ้ ชอบอยใู่ นที่ที่ เคออส ไหลไปรวมกนั ในสว่ นลกึ ของโลก จนเกดิ เป็นทะเลผืนแรก ๆ ซึ่ง ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ รอยยมิ้ เหมือนแม่ และมผี มหยกั โศกสเี ข้ม ความโหดร้ายมา กม็ ชี วี ิตจิตใจขนึ้ มา เป็นเทพช่อื ว่า “พอนตสั (Pontus)” นั่นเอง. จากพอ่ หนวดเคราน่าสะพรงึ กลวั มกี ระจุกหน่ึงแทงลงมาจากคาง เขาเกลยี ด เคออส ก็สนุกตอ่ ไปอีก เพลนิ คดิ ต่อไปวา่ เอาโดมแบบทอ้ งฟา้ อีกอนั แต่ การถกู เมนิ เบ่อื หน่ายเตม็ ทีกบั การเป็นลูกคนเล็กท่ีต้องใสเ่ สือ้ ตวั เก่า ๆ ของพี่ อยู่ใต้โลก เป็นไง...!! คงเจง๋ ไม่เบา แล้วเกิดมีโดมอกี อันข้นึ มาใตพ้ ้ืนโลก และแล้วอุบายช่ัวร้ายกไ็ ดอ้ ุบัติข้นึ . ไกอาเชิญอูรานอส มาทานในงานเล้ยี งใน มันมืด เหนยี วเหนอะ โดยรวมแลว้ คอื ไม่น่าอยู่เพราะแสงจากท้องฟา้ ไม่ หบุ เขา ลกู ๆ ไททนั หา้ คนไดร้ ่วมมอื กันลอบสังหารโดย โคออส ไอแอพติ ัส เคยสอ่ งถึง และนกี่ ค็ อื “ทาร์ทารัส (Tartarus)” นนั่ เอง เป็นหลุมแหง่ ความ ไครอัส และไฮเพอเรยี น จบั ตรงึ ตัวไว้ สว่ นโครนอสใชเ้ คียวสงั หาร. ชั่วรา้ ยทั้งปวง. บางตำ�รากลา่ ววา่ ด้วยแผนอนั ชว่ั ร้ายของไกอานั้น โครนอสจะ ตอ้ งรอจนกวา่ อรู านอสมาสมสกู่ ับไกอา เม่ืออูรานอสมา โครนอสซึ่งอยู่ใน ปัญหาตอ่ มากค็ อื ท้ังพอนตัส และ ทารท์ ารัส ตา่ งก็ชอบไกอา ซึ่งสรา้ ง ท้อง ก็จะใชม้ ดี ตดั อวัยวะเพศของอูรานอส แลว้ พาพ่ีนอ้ งหนีออกมา เมื่อ แรงกดดนั ให้กับความสัมพนั ธ์ระหวา่ งนางกับอูรานอส ไมน่ ้อย. สำ�เรจ็ ตามแผนและออกมาแลว้ โครนอสจะนำ�อวยั วะเพศของพ่อไปทิง้ ทะเล ต่อมากม็ เี ทพผุดขนึ้ มามากมาย ทีส่ �ำ คัญคอื เคออส กับ ทาร์ เมอ่ื ตกโดนทะเลกจ็ ะเกดิ ฟองขน้ึ มากมาย ท่ามกลางฟองเหล่านั้น กจ็ ะเกิด ทารสั น้นั มีลกู ดว้ ยกนั ก็ยงั งง ๆ วา่ มลี กู ดว้ ยกันอย่างไรหนอ? เกิดเปน็ “ เทพชื่อ อะโฟรไดท์ (Aphrodite) (ในภาษากรกี คำ�วา่ Aphrodite แปลว่า เกิด นกิ ซ์ (Nyx)” หรือรัตตกิ าลน่นั เอง จากฟอง) และด้วยเหตนุ อี้ ะโฟรไดท์ จงึ เปน็ เทพแี ห่งความรกั และตัณหา ( นิกซ์ ด้วยตัวคนเดยี วอย่างไรไมท่ ราบใหก้ ำ�เนิดธดิ าช่อื “เฮ เปน็ ทมี่ าของค�ำ ภาษาอังกฤษ aphrodisiac ท่ีแปลว่า ยาปลุกอารมณท์ างเพศ) เมร่า (Hemera)” ขึ้นมา บางต�ำ นานเลา่ ว่า เคออส สร้าง “อรี อส (Eros)”เ ก่อนท่อี รู านอสจะตาย ก็สาปโครนอสไว้วา่ ต่อไปลกู ๆ ของเจา้ จะมาตอ่ ตา้ น ทพเจ้าแหง่ การให้ก�ำ เนดิ ขนึ้ มา บางต�ำ นานกลา่ ววา่ อีรอสเปน็ บุตรแห่ง “ ทรยศเจ้า. อะโฟรไดต์ (Aphrodite)” เลอื ดของอรู านอส กระเดน็ ไปหลายส่วน โลหิตของอูรานอส เป็นสที องเรยี ก ไกอา และ อรู านอส เรม่ิ มีลูกดว้ ยกัน ผลลัพธผ์ สมปนเปมาก วา่ “อิคอร์ (Ichor)” แรกสดุ ใหก้ ำ�เนดิ กลุม่ สิบสองข้ึนมา หญงิ หก ชายหก ที่เรียกวา่ “ไททัน อิคอร์ กระเด็นไปยอ้ มหนิ กลายเปน็ ส่ิงมชี ีวิตก�ำ เนดิ ขน้ึ มา เปน็ ปีศาจสาม (Titan)”10 ลกู ๆ กลมุ่ นี้ดูเหมอื นมนุษย์ แต่ตัวสงู กว่า ทรงพลังมากกว่า กลุ่ม กลุ่มแรกคือ “เฟียวรี่ หรือ แอเรนเยส (Furies หรอื Erinyes)” กล่มุ ท่ีสอง ไกอา และ อูรานอส กเ็ ร่ิมเหนิ ห่าง ทะเลาะกันเอง อรู านอส คือ “ไจแอน้ ท์ส์ (Giants)”18 กลุ่มทสี่ ามคือ “มีเลีย (Meliae)” หรือพวกผีสาง ตะโกนใส่พวกลูก ๆ บา้ ง นบั วา่ อรู านอสเป็นพอ่ ที่ไม่ได้เรือ่ ง นางไมต้ ่าง ๆ (Nymphs) KittiPong Sr. 3

กรีกโรมนั โบราณ การแบ่งชนช้นั ของเทพกรีก โรมนั ทพเจ้ากรีก แหง่ ยอดเขาโอลมิ ปัส นัน้ มหี ลายชนช้นั ทาํ ให้มีการจดั ชนช้ันของเทพกรกี โรมนั ข้นึ มาเพ่อื เเบ่งเเยก เทพเเตล่ ะ่ องค์วา่ อยสู่ ่วนไหน ของยอดเขา โอลมิ ปสั โดยวดั จากหนา้ ท่ี เเละ ถ่ินทอ่ี ย่กู ารกราบไหว้เเละคนรจู้ กั เทพโอลมิ ปสั หรอื เทพชั้นต้น เทพโอลมิ ปัส (The Olympians) เป็นเทพที่อาศยั บนยอดเขาโอลมิ ปสั (Olympus) มีทั้งหมด 12 องค์ แตถ่ า้ นับอยา่ งถถ่ี ้วนจะมที งั้ สนิ้ 16 องค์ เทพ 12 องคบ์ นยอดเขา Olympus เทพโอลมิ ปัส (The Olympians, Major gods) เปน็ เทพที่อาศยั บนยอดเขาโอลิมปัส (Olympus) มที ัง้ หมด 12 องค์ แตถ่ ้านับอย่างถี่ถว้ นจะมีทั้ง ส้นิ 16 องค์ ดังน้ี 1. ซุส (Zeus) เปน็ ราชาของบรรดาเทพเจา้ ทงั้ หลายและเหลา่ มนุษยบ์ นโลก ซีอูสมอี าวธุ เป็น Thunderbolt (สายฟ้า) เทพซีอูสมพี ่นี อ้ งซ่งึ เป็นเทพ ปกครองโลกรว่ มกนั 5 องค์ ไดแ้ ก่ เทพโพไซดอน เทพดี มี เิ ทอร์ เทพีเฮรา่ เทพฮาเดส และเทพเี ฮสเตีย 2. โพไซดอน (Poseidon) เทพเจ้าแห่งทอ้ งทะเล สัญลักษณ์ของพระองค์คือ “สามง่าม” หรอื “ตรศี ูล” ท่สี ามารถแหวกน้ำ�ทะเลและทำ�ให้เกดิ แผน่ ดิน ไหวได้ 3. ดิมิเทอร์ (Demeter) เทพีแหง่ ความอุดมสมบรู ณ์ เกษตรกรรม การเกบ็ เก่ยี ว 4. เฮรา (Hera) ราชนิ แี ห่งสวรรค์ เป็นท้ังน้องสาวของซีอูสและเปน็ ภรรยาดว้ ย เฮร่าเป็นเทพแี หง่ การให้กำ�เนิดทารก การสมรส และสตรี สตั วป์ ระจำ� พระองค์คอื นกยูง 5. เฮสเทยี (Hestia) เทพพี รมจรรยแ์ หง่ การครองเรอื น เทพแหง่ ครอบครวั ในฐานะของเทพีผู้รักษาบา้ น พระนางเป็นผทู้ ีส่ รา้ งบ้านขึน้ เป็นคนแรก วหิ าร ของพระนางอยูท่ ่กี รงุ โรม ซ่ึงจะได้รบั การบวงสรวงจากสาวพรหมจารี พระนางมีสัญลกั ษณ์เป็นไฟนริ ันดร 6. เอรีส (Ares) เทพแหง่ สงคราม บตุ รของ ซสู กับ เฮรา่ สตั ว์ประจำ�พระองคค์ อื เหยีย่ วและสนุ ขั มังกรไฟ (บางตำ�ราว่าเปน็ นกแร้ง) 7. อพอลโล (Apollo) เทพเจา้ แหง่ การทำ�นาย กีฬา การรกั ษาโรคภัย การดนตรี และ เป็นเทพแห่งพระอาทิตย์ เป็นบุตรแห่ง ซีอสุ และ เทพีลีโต้ (Leto) มนี อ้ งสาวฝาแฝดช่อื อารท์ ามสิ (Artemis) อะพอลโลม่ ตี น้ ไมศ้ กั ดสิ์ ทิ ธิค์ ือ ต้นลอเรล Laurel สตั วศ์ กั ดิ์สทิ ธิ์คอื นกกาเหว่าและหา่ น เครื่องดนตรีประจำ� พระองค์คอื พิณ วิหารศกั ดิ์สิทธิข์ องพระองคอ์ ยูท่ ่เี ดลฟ่ี Delphi ซง่ึ ที่นนั่ จะมนี ักบวชคอยบอกคำ�ทำ�นายของพระองคใ์ หแ้ ก่ประชาชนทีม่ าสักการบูชา 8. อารเ์ ทมีส (Artemis) เทพแี ห่งดวงจันทร์และ การลา่ สตั ว์ เป็นบุตรขี องซสู และ เทพีลโี ต้ เปน็ นอ้ งสาวแฝดของอะพอลโล่ พระองคเ์ ปน็ เทพี พรหมจรรยอ์ งคห์ น่ึงใน 3 องค์ ภาพที่ผคู้ นเหน็ อยู่เสมอๆ คือพระองคจ์ ะถือธนแู ละศร มีสนุ ขั ติดตาม สวมกระโปรงสัน้ บางครั้งอาจเห็นเธออยู่บนรถ ศึกเทียมด้วยกวางขาว 9. เฮอร์มีส (Hermes) เทพแหง่ การค้า การโจรกรรม และผู้ส่งสารของเหลา่ ทวยเทพ เปน็ บตุ รของ ซสู กับ มีอา พระองคม์ ักจะปรากฏกายในลักษณะ สวมหมวกขอบกวา้ ง สวมรองเทา้ มปี กี ถือคทาทมี่ ีงพู ัน 10. อะธีนา (Athena) เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และศิลปศาสตรท์ ุกแขนงของกรกี รวมถึงศิลปะการตอ่ สู้ด้วย ต้นไมศ้ ักดิส์ ทิ ธิข์ องพระองคค์ อื ต้น มะกอก เทพีอธีน่า เป็นผูท้ ่ีมอบมะกอกให้กบั มนษุ ยเ์ ป็นองค์แรก ทำ�ให้เมอื ง Athens ได้ใชช้ อ่ื ของพระองค์เปน็ ช่อื เมอื งเพือ่ เปน็ เกียรติ 11. อโฟรไดท์ (Aphrodite) เทพแี หง่ ความรักและความงาม เป็นบุตรขี อง ซสู กบั เทพไี ดโอนี่ (บางตำ�ราวา่ เกดิ จากฟองคล่ืน) สัตว์ศกั ด์ิสิทธข์ิ องเธอ ได้แกน่ กกระจอก นกนางแอน่ หา่ น และเตา่ ส่วนดอกไมแ้ ละผลไม้ศกั ดส์ิ ทิ ธข์ิ องพระนางได้แก่กุหลาบ Myrtle และแอปเปลิ กล่าวกันว่าพระนางเปน็ เทพีผูค้ มุ้ ครองเหล่าโสเภณดี ้วย 12. เฮฟเฟตสั (Hephaestus) เทพแหง่ ไฟ โลหะ และการชา่ ง เปน็ บุตรของ ซสู กับ เฮร่า (บางตำ�ราว่าเป็นบตุ รของ Hera ผเู้ ดยี ว) พระองคเ์ ป็นเทพที่ พกิ ารและอัปลักษณ์ 13. ไดโอไนซัส (Dionysus) เทพแหง่ ไวน์ การทำ�ไวน์ และการเก็บเก่ยี วผลไม้ เปน็ เทพองค์ล่าสุดท่ขี ้นึ ไปอยู่บนโอลิมปัส 14. เพอรเ์ ซโฟเน (Persephone) เทพีแห่งฤดูใบไมผ้ ลิ เป็นบตุ รีแหง่ ซสู และ ดีมเิ ทอร์ 15. อีรอส (Eros) กามเทพ รูจ้ ักกนั ดีในภาษาโรมันว่า คิวปิด Cupid เปน็ บตุ รแห่งเทพีความรัก อะโฟร์ไดตี้ และ เทพการศกึ สงคราม เอเรส 16. เฮเดส (Hades) เทพแห่งใต่พิภพยมโลก และเปน็ เทพดแู ลอัญมณใี ต้ดิน ชาวกรกี บูชาพระองคก์ อ่ นเสมอท่จี ะลงมอื ทำ�เหมอื งแร่ ปัจจบุ นั ได้จัดใหม้ แี ค่ 12 องค์ เพราะ ตามตำ�ราบางเลม่ บอกไวว้ ่าเทพรุ่นที่ 3 มแี ค่ 12 องค์ เทพช้นั รอง เทพชั้นรอง (Minor gods) เป็นเทพท่ไี มไ่ ด้อยูบ่ นเขาโอลมิ ปัส มีมากมายนบั ไมถ่ ้วน ซง่ึ เทพเหล่านี้ต่างกม็ หี นา้ ท่แี ละความสำ�คัญต่างๆ กันไป อาทิ เชน่ โพรมเี ธียส (Prometheus) ออี อส (Eos) เฮลิออส (Helios) เซเลนา่ (Selena) 4

ออโรรา่ (Aurora) แพน (Pan) ไอรสิ (Iris) กลมุ่ เทพอี ริ นิ อี ีส (The Erinyes) พวกอมนุษย์ พวกอมนุษย์ (The Immortals) กลมุ่ นีจ้ ะเป็นพวกนางไม้ (Nymphs) ท่อี ย่ตู ามป่า แมน่ ้ำ� ลำ�ธาร ถ้ำ� หรือ ในทะเล หรือพวกสัตวป์ ระหลาดอยา่ งเช่น ยกั ษ์ตาเดียว ฯลฯ เหลา่ อมุนษยข์ องกรกี น้นั มมี ากพอๆ กับพวกเทพเจา้ ดังนัน้ จะขอกลา่ วถงึ เฉพาะวรี บุรุษทส่ี ำ�คัญและเป็นท่ีรู้จักกันมากเท่านั้น เช่น นางไมเ้ อค็ โค่ (Echo) แซนทอร์ (Cantaurs) ยักษไ์ ซคลอปส์ (ยกั ษต์ าเดยี ว) (The Cyclops) ปศี าจฮารพ์ ีส์ (Harpies) เนดส์ (Naiads) นางพรายทะเลโอเซยี นดิ ส์ (The Oceanids) นางไม้อมลั เธยี (Amalthea) ซาไทร์ส (Satyrs) แมม่ ดกอรก์ อนส์ (The Gorgons) ยักษแ์ อทลัส (Atlas) พวกมนษุ ย์ พวกมนษุ ย์ (The Mortals) กลมุ่ นี้จะรวมท้งั เหล่าวรี บุรุษและวรี สตรขี องกรกี ดว้ ย (The Heroes and Heroines) เหล่าวีรบรุ ุษและวีรสตรขี องกรกี นน้ั มี มากพอๆ กบั พวกเทพเจ้า ดงั น้นั จะขอกลา่ วถงึ เฉพาะวีรบุรุษท่สี ำ�คญั และเป็นท่ีร้จู ักกันมากเท่านัน้ เฮอร์คิวลสี (Hercules) เปน็ ผูท้ ีท่ ำ�ภารกจิ ทง้ั 12 ประการได้สำ�เรจ็ เปน็ ผู้ที่มพี ละกำ�ลังมากทส่ี ดุ ในกรกี นอกจากนนั้ ยังสรา้ งวีรกรรมอีกมากมาย โอดซิ ีอสุ (Odysseus) เป็นวรี บรุ ุษในสงครามกรงุ ทรอย เน่ืองจากเป็นผูค้ ิดประดิษฐม์ า้ ไม้ขึน้ และยงั ได้ผจญภัยในทตี่ ่างๆ อกี ถึง 20 ปี ก่อนที่จะได้ กลับบ้าน เจสัน (Jason) เป็นหัวหน้าคณะ Argonaut ไปตามหาขนแกะทองคำ� เพอร์ซิอสุ (Perseus) เปน็ ผูส้ งั หาร เมดูซา ได้สำ�เรจ็ เบลเลโรโฟน (Bellerophon) เปน็ ผ้จู บั ท่ีเพกาซสั ไดแ้ ลว้ ขีม่ นั ไปสังหารไคเมร่า ธซี สู (Theseus) เปน็ ผู้สงั หาร Minotaur ไดส้ ำ�เรจ็ อตาลนั ตา้ (Atalanta) เป็นคนแรกที่ทำ�ให้หมูปา่ คาลิโดเน่ีย (Caledonian) บาดเจบ็ ได้ และเปน็ ผู้สังหาร Centaur ได้ มแี ลมพัส (Melampus) โอดิพสั (Oedipus) อคิลลิส (Achilles) เฮคเตอร์ (Hector) โอเรสเตส (Orestes) แอด็ มทิ สั และ อัลเซสติส (Admetus + Alcestis) อีนีอัส (Aeneas) แคสเตอร์ และ พอลลกั ซ์ (Caster + Pollux) ซิซิฟัส (Sisyphus) ไมดสั (King Midas) แทนทาลัส (Tantalus) แคดมสั (Cadmus) แอสคลีปอิ สั (Asclepius) ออร์ฟอิ ัส (Orpheus) KittiPong Sr. 5

กรีกโรมนั โบราณ ความสมั พันธข์ องเทพกรกี โรมนั ต่อ มนุษย์ เทพเจ้าของอารยธรรมกรกี -โรมันและอนิ เดยี ทม่ี ี ความสมั พนั ธเ์ กี่ยวขอ้ งกบั ธรรมชาติดว้ ยมนุษนุยม์ ี ความผกู พนั ใกล้ชิดกบั ธรรมชาติ มนุษนุย์จึงไดส้ ร้างเทพเจ้าข้นึ เพือ่ ไว้เคารพและ เปน็ ทยี่ ึดเหนีย่ วจติ ใจ เทพเจา้ ทส่ี ร้างข้นึ มานนั้ จึงมคี วามสัมพันธ์เกย่ี วขอ้ งกับธรรมชาตแิ ละ ปรากฏการณ์ทณท์ างธรรมชาตติ า่ ง ๆ ทีม่ คี วามสมั พนั ธ์ เก่ียวข้องกับธรรมชาตสิ ามารถจํา แนกกลุ่มของเทพเจ้าออกเป็น 8 กลุม่ 1.เทพแห่งทอ้ งฟ้าและแผน่ ดิน 2.มหาเทพ 3.เทพแห่งมหาสมุทรและทะเล 4.เทพเจา้ แห่งลมท้งั 4 5.เทพแหง่ ไฟ 6.เทพแหง่ พระจนั ทร์ 7.เทพแห่งพระอาทิตย 8.เทพทบี่ นั ดาลให้เกดิ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 1.เทพแหง่ ทอ้ งฟ้าและแผ่นดิน ตามตำ�นานกรีก-โรมันกล่าววา่ เทพเจา้ ท่ที ำ�หน้าทด่ี แู ลรกั ษา ปกปอ้ งสรรพส่งิ ทั้ง ปวงบนโลกมนุษย์น้นั เริ่มแรกมี 2 พระองค์ ได้แก่ พระนางกีอา และ เทพยเู รนัส พระนางกี อา หรอื เรยี กอกี ช่อื หนงึ่ ว่า เทพพระมารดา จอมมารดาของสรรพส่ิงทั้งปวง เป็นพระชายา ของเทพยูเรนสั ผปู้ กครองท้องฟา้ หรือ สวรรค์ตามความเชื่อของชาวกรกี -โรมนั พระนางกี อาใหก้ ำ�เนดิ เทพบุตรและเทพธดิ า ชดุ แรกจำ�นวน 12 พระองค์ รวมเรยี กว่า คณะไททัน (Titan) เทพเจา้ ทัง้ 12 องค์นนั้ มีร่างกายที่ใหญ่โต กอปรกับเทพยูเรนสั เกรงกลัวประวัติศาสตร์ จะซ้ำ�รอยในครง้ั ที่ตนโคน่ ลม้ อำ�นาจเทพบิดรดังน้นั เพอ่ื ไม่ใหล้ กู ๆ ตง้ั ตนเป็นศตั รกู ับตนจงึ จับ คณะเทพไททนั ลงไปขังไว้ในเหวลกึ ใต้บาดาล (Tartarus) ต่อมาพระนางกีอากใ็ ห้กำ�เนิดโอรส และธิดาชดุ ตอ่ มา แตก่ ถ็ ูกเทพยเู รนสั จบั โยนลงไปในทารท์ ะลัสทงั้ สิ้น แตเ่ ม่อื พระนางกีอาให้ กำ�เนดิ กลุ่มเทพอสูรไซคลอปส์ขึน้ มา เมอื่ ถกู โยนลงไปยังทารท์ ะลสั กลบั ทำ�ใหม้ แี สงสว่างเกดิ ขนึ้ ยงั ใต้พิภพ ทำ�ให้คณะโอรสและธดิ าทั้งหลาย เกิดความกล้าและตอ้ งการเป็นอสิ ระ ฝา่ ย พระนางกอี าก็ไม่พอใจในสิ่งทีเ่ ทพยูเรนสั ทำ�จึงยุให้ลกู ๆ ยึดอำ�นาจบิดาเสีย โดยโอรสองค์เล็ก เทพโครนัส ตอบรบั และข้นึ มายึดอำ�นาจบิดาไดส้ ำ�เรจ็ 2.มหาเทพ ตามตำ�นานกรีก-โรมนั ได้มกี ารยกย่องเทพเจ้าที่ทำ�หนา้ ท่ีปกครองหมู่เทพ และ สอดส่องดูแลความเปน็ ไปของมนุษยโ์ ลก คอื ซูสหรอื จปู เิ ตอร์ ให้เปน็ มหาเทพผปู้ กครอง เทพท้ังปวง ไดร้ บั การขนานนามวา่ เทพเจ้าสายฟา้ เนื่องจากอาวุธประจำ�กายคือสายฟ้า มี พระชายาคือ พระนางเฮรา ประทับอยบู่ น เทอื กเขาโอลมิ ปัก ซูส เปน็ บุตรของเทพโครนสั และพระนางรอี า ผทู้ ี่รอดพน้ จากการกลืนกินของบิดา (เทพโครนัส) ตามตำ�นานเลา่ ว่าเทพ โครนสั เกรงกลัวคำ�สาปแชง่ ของเทพยูเรนสั ทวี่ ่าลูกจะมายดึ อำ�นาจเช่นครั้งท่ตี นเผชิญ จงึ กลืน กินลกู ตวั เองเขา้ ไปเพอ่ื ทำ�ใหไ้ มเ่ กดิ เหตกุ ารณซ์ ำ้ �รอย แตส่ ุดท้าย ซูสผู้เปน็ โอรสองคส์ ุดท้ายท่ี รอดพน้ จากการกลนื กินเพราะกลอบุ ายของพระนางรีอาทใ่ี ห้เทพโครนัสกลืนกอ้ นหนิ ลงไปแทน เมอ่ื เติบใหญ่ซูสจงึ กลับ มายึดอำ�นาจพระบิดาไดส้ ำ�เรจ็ และตั้งตนขึน้ เปน็ ราชาแห่ง เทพเจา้ ท้ังหลาย ทำ�หนา้ ท่ปี กครองสวรรค์ (ทอ้ งฟ้า) และพิภพ 3.เทพแห่งมหาสมทุ รและทะเล ชาวกรีก-โรมัน เคารพนบั ถอื เทพแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร 2 องค์ คอื โอเซยี นั ส และ โพไซดอน ซง่ึ ทง้ั 2 องค์ ได้แบง่ หน้าท่ีกนั ดแู ลและปกครอง ทอ้ งทะเลและมหาสมุทร ดังตำ�นานตอ่ ไปน้ี โอเซียนสั หรอื เทพแหง่ หว้ งมหรรณพ หนง่ึ ในคณะเทพไททัน เม่ือหลบหนีออก จากทารท์ ะลัสและสศู้ ึก ไดส้ ำ�เร็จ เทพโครนสั ไดม้ อบหมายให้ปกครองมหาสมุทรและท้อง ทะเล โอเซยี นสั เรอื งอำ�นาจอยู่ในสมยั ของเทพเจา้ โครนสั หลงั จากเทพโครนสั ถูก ซูสยดึ อำ�นาจ มหาเทพซสู ไดม้ อบหมายให้เทพโพไซดอนปกครองทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนียนและแมน่ ำ้ �แทน แต่ เหตุเพราะเทพโอเซียนสั เขา้ รว่ มกบั กลมุ่ อำ�นาจใหม่ จงึ ไมถ่ กู เนรเทศออกจากท่ีเดมิ และแบ่ง อำ�นาจกับโพไซดอน โดยโอเซียนสั จะปกครองมหาสมุทรรอบนอกท่ีไหลวนรอบโลก และได้ รับ การยกยอ่ งเปน็ ผ้เู ฒา่ แห่งทอ้ งทะเลและมหาสมุทรอนั เป็นทีเ่ คารพของผ้อู ื่น โพไซดอน หรอื เนปจูน (ชอื่ โรมนั ) หน่งึ ในคณะเทพแหง่ โอลมิ ปสั เปน็ พี่ ชายของ มหาเทพซสู ครอบครองทะเลเมดเิ ตอร์เรเนยี นและแมน่ ้ำ�ทง้ั ปวง ภายหลงั จากรว่ มมอื กับซสู ทำ�สงครามกบั คณะเทพไททันได้สำ�เร็จจงึ ได้แบง่ อำ�นาจการปกครองทะเลเมดเิ ตอร์เรเนยี น และแมน่ ำ้ �ทงั้ ปวงมาจากโอเซียนสั ผ้มู ีศักด์เิ ป็นลงุ เม่อื ใดทท่ี รงราชรถทองคำ�ออกมาเท่ยี วบน ผวิ น้ำ� ทอ้ งทะเล และคลน่ื ลมจะสงบ แต่เมื่อใดทแ่ี กวง่ ตรศี ลู ทอ้ งทะเลกจ็ ะปน่ั ปว่ น .4 เทพเจา้ แหง่ ลมทง้ั 4 ในตำ�นานกรกี -โรมัน จะนับถอื เทพเจา้ แห่งลมทัง้ 4 ทิศ ไดแ้ ก่ เทพเจ้าแหง่ ลมเหนอื ใต้ ตะวันออก และ ตะวันตก เทพทั้ง 4 องค์นนั้ มีเทพธดิ าออี อส ( เทพอี ุษาเทวี) เป็น พระมารดา มหาเทพทง้ั 4 ลว้ นมีอิทธฤิ ทธทิ์ ่ีร้ายแรง ดังปรากฏในเหตุการณค์ ราวทมี่ หาเทพ ซูส มีเทวบัญชาใหเ้ ทพแห่งลมทั้ง 4 พัด กระหนำ่ �จนเกิด “นำ้ �ท่วมโลก” เดอื ดร้อนไปถงึ ดนิ แดนโอลมิ ปสั (ทอ่ี ยู่ของทวยเทพ) จงึ จำ�เปน็ จะตอ้ งมผี ู้คอยควบคมุ และให้ทำ�หนา้ ที่เพียงคร้ัง ละองค์ เท่านนั้ มเิ ช่นนนั้ โลกจะเกดิ ความป่นั ปว่ น 1. โบเรียส (Boreas) เทพแห่งลมอดุ ร (เหนือ) เมอื่ ได้รับมอบหมาย จะพัดตัวอยา่ ง รวดเรว็ และทำ�ใหเ้ กิดอากาศหนาวเยน็ รุนแรง ตน้ ไม้ล้ม ระเนระนาด และเกิดคลืน่ สงู ใหญใ่ น ทะเล 6

2. โนทสั (Notus) เทพแหง่ ลมทักษิณ (ใต)้ เมอ่ื ไดร้ ับมอบหมาย จะบีบตัวลอดรู หน้าผา เป็นเทพแหง่ ลมทีม่ คี วามชน้ื มากจนเกิดหยดน้ำ�ท่ี หนวดของพระองค์ ซำ้ �ยงั ปล่อยให้ หมอกปกคลมุ ไปท่ัวพื้นดินและท้องทะเล 3. เซฟเฟอร์(Zephyt) เทพแหง่ ลมประจิม (ตะวนั ตก) พดั อ่อนกวา่ เทพลมองค์ อ่นื ๆ ยามเมอื่ พัดจะนำ�พาก้อนเมฆไปด้วย ทำ�ให้ทอ้ งฟ้ายาม เทพเซฟเฟอร์ทำ�หนา้ ทดี่ ูสดขนื่ แจม่ ใส 4. ยูรสั (Eurus) เทพแห่งลมบูรพา (ตะวันออก) เทพนจี้ ะไม่ค่อยมีผูใ้ ดเรยี กใช้ และ มคี วามสำ�คัญนอ้ ยท่ีสดุ ในบรรดาเทพพี่นอ้ งแหง่ ลมทง้ั 4 .5. เทพแห่งไฟ ชาวกรีก-โรมนั มตี ำ�นานทเี่ ลา่ ขานเก่ียวกับเทพทท่ี ำ�หน้าที่ปกปอ้ งรกั ษาไฟ และ นำ�ไฟทแี่ ตเ่ ดมิ ใชก้ ันแค่เฉพาะในหม่เู ทพเจ้าลงมายังโลกมนษุ ย์ เพอ่ื ให้มนษุ ยน์ ้นั รู้จักใช้ไฟใน การประกอบกจิ วตั รประจำ�วัน นับว่าเป็นตน้ กำ�เนดิ ของความเจรญิ ทางอารยธรรมตา่ ง ๆ เทพท้ัง 2 องค์ ได้แก่ พระนาง เฮสเทีย และ โพรมิทิอุส ตามตำ�นานเลา่ ว่า พระนางเฮสเทีย เป็นพระธดิ าองค์โตในเทพโครนัสกับพระนาง รอี า และทรงเปน็ เชษฐภคินอี งคใ์ หญ่ สดุ ของมหาเทพซูส ทำ�หนา้ ทด่ี ูแลไฟศกั ดิส์ ิทธิภ์ ายใน ท้องพระโรง เทพธิดาเฮสเทียนน้ั มจี ิตใจอ่อนโยนและสภุ าพ ประชาชนสว่ นใหญ่จงึ ใหค้ วาม เคารพนับถอื และยกยอ่ งพระนางให้เป็นผู้ครองไฟ ทีใ่ ชบ้ นโลกมนุษย์ โดยเฉพาะเตาผิงตาม บา้ นเรอื นทช่ี าวกรกี -โรมันนับถอื เปน็ สถานทศ่ี กั ดส์ิ ิทธิ์ นอกจากนแ้ี ลว้ ยงั นับถอื พระนางใน ฐานะเทวีผู้คุ้มครองชีวติ ความผาสกุ ในบา้ นอกี ดว้ ย โพรมเี ทยี ส หรือ โพมทิ ิอสุ นั้น เป็นหนงึ่ ในคณะเทพไททนั มคี วามเฉลียวฉลาด เปน็ ผูข้ โมยไฟจากเทพีแหง่ เตาไฟ เทพเฮสเทีย ลงมายังโลกมนุษย์ ทำ�ให้มนุษยร์ ้จู กั ใชไ้ ฟใน การหงุ หาอาหาร และใชเ้ ป็นแสง สว่างในการสรา้ งอารยธรรมต่างๆ 6.เทพแห่งพระจนั ทร์ ตำ�นานปรัมปราของชาวกรกี -โรมนั ไดก้ ลา่ วถงึ การกำ�เนิดเวลากลางวัน กลางคืน โดยอาศัยเร่อื งเล่าเกย่ี วกับเทพเจา้ โดยเทพแหง่ พระจนั ทรจ์ ะเปน็ ผู้ ให้กำ�เนดิ เวลากลางคืน ไดแ้ ก่ เทพไฮเพอรเ์ รยี น เทพีอาร์ทมี สิ และเทพธดิ าซีลนิ ี ซง่ึ เทพแห่งพระอาทิตย์และ พระจันทร์จะมคี วามเกย่ี วขอ้ งสมั พันธ์ กัน ดังจะกลา่ วถึงในตำ�นานของเทพแหง่ พระอาทติ ย์ เป็นลำ�ดับต่อไป เทพไฮเพอรเ์ รียน หนึ่งในคณะเทพไททนั และพระชายาคอื เทพธิดาฟบี ี ได้ รบั มอบ หมายจากเทพโครนสั ให้ปกครองวถิ ีโคจรของดวงตะวนั และดวงจันทร์ โดยเชอื่ วา่ เทพท้ังสองไดผ้ ลดั กนั ขับรถส่องแสงสวา่ งในเวลากลาง วันและกลางคืน เทพีอารท์ มี สิ เป็นเทพฝาแฝดผพู้ ่ีของเทพอะพอลโล พระนางเปน็ เทพแี ห่งแสงจนั ทรา การลา่ สตั ว์ และเจา้ ของสัตวป์ า่ ทง้ั ปวง พวก นายพรานตา่ งกใ็ หค้ วามเคารพนบั ถือเทพีอารท์ มี สิ เพราะแสงจนั ทรจ์ ากพระนางไดเ้ กอ้ื กลู ต่อการเดินป่าและล่าสตั ว์ในเวลากลางคนื เทพธดิ าซลี ินี เปน็ นอ้ งสาวของเทพฮลี โี อส หลังจากที่สรุ ิยเทพเสรจ็ ส้ินภารกิจและ เขา้ พักผอ่ นในเวลากลางคนื พระนางจะขับมา้ สีขาวประดุจน้ำ�นมจากฟากฟา้ ฝัง่ ตะวันออก ไปยังฝ่งั ตะวันตก เชน่ นีใ้ นทกุ ๆ วัน 7.เทพแห่งพระอาทิตย์ ตามตำ�นานปรัมปราไดก้ ลา่ วถงึ ความสัมพนั ธ์ของเวลากลางวนั และเวลากลางคืน ไว้ว่ามีความเกีย่ วข้องสัมพนั ธ์กันในวถิ กี ารโคจรของดวงจนั ทร์ และดวงอาทติ ย์ ดงั นนั้ จงึ เปน็ ขอ้ สังเกตได้ว่า ตำ�นานเก่ยี วกับพระอาทติ ยแ์ ละพระจนั ทร์จะมีความสัมพนั ธก์ นั ดังนี้ เทพบุตรอะพอลโล โอรส ของมหาเทพซสู กบั นางแลโตนา (นางแลโตนา เปน็ ธิดา ของเทพไฮเพอร์เรยี น กบั เทพธิดาฟีบี ผ้คู วบคมุ การโคจรของพระอาทิตย์และพระจันทร์ ) เป็นเทพฝาแฝดกบั เทพีอารท์ มี สิ หรือ ไดอานา เทพอะพอลโลนนั้ เป็นเทพทช่ี าวกรกี -โรมัน ถอื วา่ มรี ูปงามท่สี ดุ และเปน็ เทพแห่งดวงอาทิตยเ์ ปน็ ผู้ ถา่ ยทอดวิชาการรักษาโรคให้แกม่ นุษย์ เปน็ เทพแห่งสจั วาจา เทพแหง่ ธรรมะและกฎหมาย ฮิลีโอส เป็นพระอนุชาของเทพธดิ าออี อส (เทพีแห่งรุง่ อรุณ) บางตำ�นานก็วา่ ฮิลี โอส เปน็ ผู้ขบั รถทรงของเทพอะพอลโล แตบ่ างตำ�นานก็วา่ ฮิลโี อ สนัน้ คอื เทพพระอาทิตย์ ดงั ตำ�นานทก่ี ล่าววา่ พระองค์ คือ สุริยเทพ มีร่างกายที่สว่างสุกใส มเี พียงเทพเจา้ ดว้ ยกันเทา่ นนั้ ท่ีจะสามารถมองเหน็ ด้วย ตาเปล่าได้ มรี ัศมวี งรอบเศียร และ รถทรงของพระองคน์ ัน้ ลุกแดง เหมือนดวงไฟ เทพฮลี ีโอสน้นั จะควบมา้ ไฟท้ัง 4 ตัว เม่ือไปถึงของฟากฟา้ หรือวัง ทางทศิ ตะวัน ตก ธิดาท้ัง 5 (เรยี กวา่ ฮเี ลยี ดส์) จะช่วยกนั ปลดม้าลงไปอาบน้ำ�ในมหาสมุทรและนำ�ขึน้ เรือก ลับวังทางทิศตะวนั ออก เพ่อื ทำ�หน้าทีใ่ น เช้าวนั ใหม่ เช่นน้ีตลอดนริ ันดร์ 8.เทพที่บนั ดาลใหเ้ กิดปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ชาวกรีก-โรมนั ไดส้ รา้ งเทพเจ้าท่ีเปน็ ผ้กู ำ�หนดความเปน็ ไปของปรากฏการณท์ าง ธรรมชาติไว้ 3 องค์ ซง่ึ เป็นคณะเทพท่เี ป็นพ่นี ้องกัน แต่ละองค์ จะทำ�หนา้ ทบ่ี นั ดาลให้เกิด ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ สายฟา้ เรยี กรวมวา่ กลุ่มเทพอสรู ไซคลอปส์ กลุม่ เทพอสรู ไซคลอปส์ เป็นบุตรของพระนางกอี ากับเทพ บิดายเู รนสั มีศักด์เิ ปน็ พระอนชุ าของเทพโครนสั และเปน็ พระปิตุลาของมหาเทพซสู ถือกำ�เนดิ หลังจากคณะเทพ ไททัน มีลกั ษณะใหญ่โต และมี ตาเพียงตาเดียวอยู่กลางหน้าผาก ทั้งสามนน้ั เปน็ ช่างตเี หล็ก ทีเ่ ก่งกลา้ และมีพละกำ�ลังมหาศาล เมอื่ ตเี หล็กจงึ ทำ�ใหเ้ กดิ ประกายไฟจากค้อนใหญ่ แลบ ขา้ มทอ้ งฟา้ และสว่างไสว เทพบดิ าจงึ ตดั สนิ ใจนำ�เทพอสรู ไซคลปิ สล์ งไปยงั ทารท์ ะลสั เมือ่ ลงไปแลว้ ทำ�ใหเ้ กิดความสว่างไปท่วั ทำ�ให้คณะเทพไท ทนั เกดิ ความกลา้ ทีจ่ ะออกจากที่คุม ขัง กลมุ่ เทพอสูรไซคลอปส์ประกอบดว้ ยเทพ 3 องค์ คอื 1.บรอนทสี (Brontes) เทพอสรู ฟา้ รอ้ ง หรือ ฟา้ ลนั่ 2.ส เทโรฟสิ (Steropes)เทพอสรู ฟ้าแลบ 3.อาร์จีส (Arges) เทพอสรู แห่งสายฟ้าหรือแสงสวา่ ง KittiPong Sr. 7

กรีกโรมนั โบราณ เคออส (Chaos เปน็ สภาพแรกเรม่ิ ของการมอี ยู่ ก่อนการกำ�เนิดของ ) เหลา่ ทวยเทพรุน่ แรก หรอื อกี นยั หน่ึงกค็ อื ความ วา่ งเปลา่ อนั มืดดำ�ของอวกาศ ใน ธอี อโกนี หรือเทว พงศาวดารของเฮซิโอด (700 ปกี ่อนค.ศ.) “เคออส” เปน็ เทพดึกดำ�บรรพ์องค์แรกทีป่ รากฏขน้ึ จากน้ันจึง เกดิ มี ไกอา (โลก), ทารท์ ารสั (กน้ บง้ึ ), และ เอรอส (ความรัก) ตามมา ไกอา (Gaia) ป็นเทพอี งค์แรกของโลกตามต�ำ นานของชาวกรกี รา่ งกายของนางคือพนื้ พภิ พ นามในภาษาละตินของ นางคอื เทอรร์ า (Terra) แต่เดิมนัน้ ในโลกมเี พยี งความ วนุ่ วายและมืดมน นัน่ ก็คอื เคออส ตอ่ มาไกอาได้ถอื กำ�เนิดข้ึนเปน็ พ้นื พิภพ พร้อม ๆ กับนิกซ์ผเู้ ปน็ กลางคนื อีรีบสุ ผู้เป็นความมดื อีรอสหรือกามเทพ และทารท์ ารสั คุกใตพ้ ภิ พ ตอ่ มาไกอาจงึ สร้างอูรานอส หรือทอ้ งฟา้ ขึน้ ปกคลมุ เหนอื ผนื ดิน ปอนตสั หรอื ทะเล และโอยเู รยี หรอื ภเู ขาขึ้น 8

ดรามา่ ระดบั เทพ: ก�ำ เนิดเทพกรีก | Point of View KittiPong Sr. 9

กรีกโรมนั โบราณ 159. - GaGun Kittipong [email protected] 10