Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มอเตอร์เหนี่ยวนำ 1 เฟส

มอเตอร์เหนี่ยวนำ 1 เฟส

Published by praewpha_n, 2021-09-11 09:05:53

Description: มอเตอร์เหนี่ยวนำ 1 เฟส

Search

Read the Text Version

มอเตอร์เหนี่ยวนำ 1 เฟส

1 แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่......3........ สอนครั้งที่...3-8.... ชื่อหน่วย มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั (20104–2008) ชั่วโมงรวม..126.... ชอ่ื เรอื่ ง มอเตอรเ์ หนี่ยวนำ 1 เฟส จำนวนช่วั โมง..7.. 1.สาระสำคัญ มอเตอร์เหนีย่ วนำ 1 เฟส สว่ นมากเปน็ มอเตอรข์ นาดเลก็ มีขนาดแรงตำ่ หรือเรยี กว่า มีขนาดพิกดั เป็นเศษสว่ น ของแรงมา้ มอเตอรช์ นิดนีอ้ อกแบบใชก้ บั เครื่องใช้ไฟฟา้ ภายในครวั เรือน รวมท้ังเครอ่ื งอำนวยความสะดวกต่างๆ มอเตอรเ์ หนย่ี วนำ 1 เฟส มหี ลายชนดิ เช่น มอเตอรค์ าปาซเิ ตอร์ มอเตอรส์ ปลติ เฟส และมอเตอรเ์ ชดเดดโพด เป็นตน้ 2.สมรรถนะประจำหนว่ ย 2.1. แสดงควำมรูเ้ ก่ียวกับมอเตอร์เหนีย่ วนำ 1 เฟส 2.2 ทำแบบฟอรม์ ขดลวดและพนั ขดลวดด้วยแบบฟอร์มขดลวด 2.3 ดำเนินกำรลงขดลวดในร่องสลอต 2.4 ต่อวงจรและกำรมดั ขดลวดมอเตอร์ 1 เฟส 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 จำแนกชนิดของมอเตอรเ์ หนย่ี วนำ 1 เฟสได้ 3.1.2 อธบิ ำยโครงสรำ้ งของมอเตอร์เหนี่ยวนำ 1 เฟส แต่ละชนิดได้ 3.1.3 อธิบำยหลักกำรทำงำนของมอเตอร์เหน่ียวนำ 1 เฟส แตล่ ะชนิดได้ 3.1.4 อธบิ ำยวิธีกำรกลบั ทิศทำงกำรหมนุ ของมอเตอร์เหน่ียวนำ 1 เฟส แตล่ ะชนิดได้ 3.2 ดา้ นทักษะ 3.2.1 ทำแบบฟอรม์ ขดลวดตำมแบบได้ 3.2.2 พนั ขดลวดดว้ ยแบบฟอรม์ ขดลวดตำมข้ันตอนได้ 3.2.3 บรรจขุ ดลวดในสลอตและตอ่ วงจรขดลวดได้ 3.2.4 ปฏิบตั กิ ำรมดั ขดลวดและประกอบชิ้นส่วนมอเตอรไ์ ด้ 3.2.5 เตรยี มเคร่ืองมือในกำรลงขดลวดในร่องสลอตได้ 3.2.6 ลงขดลวดในรอ่ งสลอตตำมขั้นตอนกำรดำเนนิ กำรได้ 3.2.7 กำหนดรหสั กำรต่อวงจรขดลวดได้ 3.2.8 ปฏบิ ตั ิกำรปดิ ปำกรอ่ งสลอตได้ 3.2.9 ตอ่ วงจรมอเตอร์ 1 เฟสตำมแบบได้

2 3.2.10. มัดขดลวดมอเตอร์ 1 เฟสตำมแบบได้ แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท.ี่ ......3...... สอนครงั้ ที.่ ...3-8... ชื่อหน่วย มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั (20104–2008) ชว่ั โมงรวม...126... ชือ่ เรอ่ื ง มอเตอรเ์ หน่ยี วนำ 1 เฟส จำนวนชั่วโมง..7. 3.3 คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ 3.3.1 แสดงออกด้านความมีวนิ ัย 3.3.2 ความมมี นุษย์สัมพันธ์ 3.3.3 ความรับผิดชอบ 3.3.4 ความเชือ่ ม่ันในตนเอง 3.4 หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3.4.1 ความพอประมาณ 3.4.2 ความมีเหตผุ ล 3.4.3 มีภมู ิคุ้มกนั ท่ดี ี 4.ความรูพ้ น้ื ฐานที่ควรมีกอ่ นเรียน -ไมม่ ี- 5.เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ มอเตอร์เหนีย่ วนำ 1 เฟส แบง่ ตามวิธีการท่ีทำให้มอเตอร์เริ่มหมุนเป็น 3 ชนิด ดงั นี้ 1. มอเตอรส์ ปลติ เฟสหรือแบบแยกเฟส 2. มอเตอรค์ าปาซิเตอร์ 3. มอเตอร์เชดเดดโพล หลกั การทำงานของมอเตอรเ์ หนีย่ วนำ 1 เฟส มอเตอร์สปลิตเฟสอาศัยหลกั การแยกเฟสหรือการตา่ งเฟสของกระแสไฟฟ้าในขดลวดรนั และขดลวดสตารต์ เน่อื งจากค่าความต้านทานและค่าความต้านทานเนอ่ื งจากการเหนย่ี วนำของขดลวดรนั และขดลวดสตารต์ ซ่ึงทำ ให้เกิดสนามแม่เหลก็ หมุนในสเตเตอร์ สง่ ผลทำให้โรเตอรห์ มุน มอเตอร์คาปาซิเตอร์อาศัยหลกั การทำงานเชน่ เดยี วกบั มอเตอร์สปลิตเฟส เพียงแตเ่ พม่ิ ตัวเกบ็ ประจุหรือคาปา ซิเตอร์ต่ออนุกรมกับขดลวดสตาร์ต เพ่อื ทำใหก้ ระแสไฟฟา้ ในขดลวดสตาร์ตต่างเฟสกับกระแสไฟฟ้าของขดลวด รนั เปน็ มุมโตขึ้น ซงึ่ จะสง่ ผลทำใหแ้ รงบดิ สูงกว่ามอเตอร์สปลิตเฟสในขณะเร่ิมหมุน

3 แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท.ี่ ......3...... ชอื่ หน่วย มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ (20104–2008) สอนคร้ังที.่ ...3-8.. ชือ่ เรือ่ ง มอเตอร์เหนี่ยวนำ 1 เฟส ช่วั โมงรวม..126.... จำนวนชั่วโมง...7.. 5.เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ (ต่อ) มอเตอร์เชดเดดโพลอาศยั หลักการเคลอื่ นท่ีหรือการหมนุ ของสนามแม่เหล็กเมนจากอนั เชด- เดดโพลเคลอื่ นไปยงั เชดเดดโพล ซง่ึ เป็นผลมาจากการต้านระหว่างสนามแม่เหลก็ เมนกบั สนามแมเ่ หลก็ ที่ ขดลวดเชดเดด สง่ ผลใหโ้ รเตอรม์ แี รงบดิ ซึง่ ทำใหม้ อเตอร์หมนุ การกลับทศิ ทางหมนุ ของมอเตอรเ์ หนีย่ วนำ 1 เฟส - มอเตอร์สปลิตเฟสสามารถกลับทศิ ทางหมุนโดยการสลบั สายไฟของขดลวดรนั หรือ ขดลวดสตารต์ - มอเตอร์คาปาซเิ ตอร์สามารถกลับทิศทางหมุนโดยหลกั การเดยี วกับมอเตอรส์ ปลติ เฟส - มอเตอรเ์ ชดเดดโพลสามารถกลับทิศทางการหมนุ โดยการออกแบบใหม้ ขี ดลวดเชดเดด ทขี่ ้วั แมเ่ หล็กสเตเตอร์ 2 ด้าน เพื่อตอ่ ให้ครบวงจรและเกิดขัว้ แม่เหลก็ ด้านใดด้านหน่ึง ซ่งึ ส่งผลให้ สนามแม่เหลก็ เคลอ่ื นที่เปลยี่ นทิศทาง 6.กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 การนำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครนู ำเข้าสู่บทเรียน โดยใหน้ กั เรียนช่วยกันคิดและหาคำตอบเกีย่ วกบั อปุ กรณ์ท่ีใช้และแจง้ จุดประสงคใ์ น หนว่ ย 2. ครสู อนเน้ือหาสาระ 6.2 การเรียนรู้ 1. แบง่ กลุ่มนกั เรียนเพ่ือเตรยี มปฏบิ ัตงิ านตามใบงาน 2. นกั เรยี นลงมือปฏบิ ัติงานตามข้นั ตอนในใบงาน 6.3 การสรุป 1. ครูตรวจผลงานภาคปฏิบตั ิของนักเรียน 2. ให้นกั เรียนทำความสะอาดเคร่อื งมือ อุปกรณ์ และบรเิ วณพืน้ ท่ปี ฏบิ ตั ิงานให้เรยี บรอ้ ย 3. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปบทเรยี น และผลการปฏิบัตงิ าน

4 แผนการจดั การเรยี นรู้มุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี.....3....... ชอ่ื หน่วย มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั (20104–2008) สอนครั้งที.่ ...3-8.. ชื่อเร่อื ง มอเตอรเ์ หน่ยี วนำ 1 เฟส ชว่ั โมงรวม...126... จำนวนชวั่ โมง..7.. 6.4 การวดั และประเมนิ ผล การประเมินผล เกณฑผ์ ่ำน 60% การวดั ผล เกณฑผ์ ำ่ น 60% 1. แบบสงั เกตกำรทำงำนกลมุ่ และนำเสนอผลงำนกลมุ่ เกณฑ์ผำ่ น 50% 2. ใบงำนและแบบประเมนิ เกณฑ์ผ่ำน 60% 3. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตำมสภำพจริง 7.ส่ือการเรยี นรู/้ แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สอื่ สงิ่ พิมพ์ 7.1.1 คารม สินธรู ะหฐั (2562). มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ (20104–2008). นนทบุรี : ศนู ย์หนังสอื เมืองไทย. 7.2 ส่ือโสตทศั น์ (ถา้ ม)ี 7.2.1 Power Point เร่อื ง มอเตอรเ์ หน่ยี นำ 1 เฟส 7.3 หุ่นจำลองหรอื ของจรงิ (ถ้าม)ี -ไม่มี- 7.4 อื่น ๆ (ถา้ มี) -ไม่มี- 8.เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) งานทมี่ อบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ใหศ้ กึ ษามอเตอร์เหน่ยี วนำ 1 เฟส 9.การบูรณาการ/ความสมั พนั ธก์ ับวิชาอ่ืน วิชาเครือ่ งกลไฟฟ้ากระแสตรง วิชาเคร่อื งกลไฟฟา้ กระแสสลบั วิชาเครอ่ี งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั วิชาหมอ้ แปลงไฟฟ้า

5 แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่......3........ ช่ือหนว่ ย มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (20104–2008) สอนครง้ั ท.ี่ ...3-8.... ชื่อเรื่อง มอเตอร์เหน่ยี วนำ 1 เฟส ชั่วโมงรวม..126.... จำนวนชั่วโมง..7... 10.การวัดและประเมนิ ผล 10.1 ก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง มอเตอรเ์ หน่ียวนำ 1 เฟส 10.2 ขณะเรียน มกี จิ กรรม ให้นกั เรียน ขณะเรียน คอื ฟังการบรรยาย จดบนั ทกึ มีการถาม-ตอบ เก่ยี วกบั เรื่องทีเ่ รียน เพ่ือวดั ความรู้ความเข้าใจในเรื่องทเ่ี รียน 10.3 หลังเรยี น แบบฝึกหดั หลงั เรยี น และ แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง มอเตอร์เหนีย่ วนำ 1 เฟส

6 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท.ี่ ....3....... ชอื่ หน่วย มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ (20104–2008) สอนครงั้ ท่.ี ..3-8.. ชอ่ื เรื่อง มอเตอรเ์ หน่ยี วนำ 1 เฟส ชัว่ โมงรวม....126... จำนวนชว่ั โมง...7.... 11.บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ 11.1 ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ จำนวนเนือ้ หา มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับจำนวนเวลา เพราะเหตใุ ด............................................................... การเรียงลำดบั เนอ้ื หา มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับความเขา้ ใจของผู้เรยี น เพราะเหตุใด................................................ การนำเขา้ สู่บทเรียน มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับเน้อื หาแตล่ ะหัวขอ้ เพราะเหตุใด...................................................... วธิ ีการสอน มคี วามเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนอ้ื หาแตล่ ะหวั ข้อ เพราะเหตุใด..................................................... ส่ือการสอน มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนือ้ หาแต่ละหวั ข้อ เพราะเหตุใด...................................................... งานท่ีกำหนดใหท้ ำ มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับเนอ้ื หา/เวลา/วตั ถปุ ระสงค์ เพราะเหตใุ ด........................................... การนำเสนอ มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับเน้อื หา/เวลา/วัตถุประสงค์ เพราะเหตใุ ด........................................... การประเมนิ ผล มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับวัตถุประสงคห์ น่วย เพราะเหตุใด....................................................... อื่นๆ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................

7 แผนการจัดการเรยี นร้มู ุง่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่......3....... ชอ่ื หน่วย มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั (20104–2008) สอนครั้งท่ี....3-8... ช่อื เรอ่ื ง มอเตอรเ์ หน่ียวนำ 1 เฟส ชวั่ โมงรวม...126... จำนวนชว่ั โมง...7.. 11.2 ผลการเรียนร้ขู องผู้เรยี น ............................................................................................................................. ...................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................................................................. ...... ............................................................................................................................ ....................................................... ............................................................................................................................. ..................................................... 11.3 แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ...................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ........................................................................................................................................................ ........................... ....................................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ......................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook