Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักการเหนี่ยวนำของมอเตอร์

หลักการเหนี่ยวนำของมอเตอร์

Published by praewpha_n, 2021-09-11 08:50:26

Description: หลักการเหนี่ยวนำของมอเตอร์

Search

Read the Text Version

หลกั การทางานของมอเตอรเ์ หน่ยี วนา

1 แผนการจดั การเรยี นรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท.ี่ .....1...... ชื่อหนว่ ย มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ (20104–2008) สอนครั้งท.ี่ ..1..... ชอ่ื เรอ่ื ง หลักการทำงานของมอเตอรเ์ หนยี่ วนำ ชัว่ โมงรวม...126... จำนวนชว่ั โมง..7.. 1.สาระสำคญั มอเตอร์เหนยี่ วนำ คือ เครอื่ งกลไฟฟา้ ทที่ ำหน้าท่เี ปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล ซึ่งการทำงานของ มอเตอรอ์ าศยั หลักการเหนย่ี วนำทางแม่เหล็กไฟฟา้ ระหวา่ งขดลวดสเตเตอร์กบั โรเตอร์ เพอ่ื ทำใหโ้ รเตอร์เกดิ แรงบดิ ส่งผลให้มอเตอร์หมุน มอเตอร์เหนีย่ วนำทำงานโดยอาศัยการเหนี่ยวนำทางแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ซ่งึ อาศยั การตัดกันระหว่างตวั นำกับ สนามแม่เหล็ก ส่งผลใหเ้ กิดแรงดันไฟฟ้าเหนีย่ สนำ กระแสไฟฟ้าเหนีย่ วนำ และสนามแม่เหล็กไฟฟา้ ทโ่ี รเตอร์ สามารถหาทิศทางแรงดนั ไฟฟ้าเหนย่ี วนำ กระแสไฟฟา้ เหนยี่ วนำ และสนามเหล็กไฟฟ้าไดโ้ ดยใชก้ ฎต่างๆท่ี เกย่ี วกับมอเตอร์ 2.สมรรถนะประจำหนว่ ย 2.1.แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการทางานของมอเตอร์เหนี่ยวนา 2.2.ถอด ประกอบและเตรยี มโครงมอเตอร์ 1 เฟส 3.จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 จำแนกชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับได้ 3.1.2 อธบิ ายหลกั การเหนยี่ วนำทางแมเ่ หล็กไฟฟา้ ได้ 3.1.3 อธบิ ายการทำงานของมอเตอร์เหนย่ี วนำได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ 3.2.1 พนั ขดลวดใหม่ของมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ 1 เฟสได้ 3.2.2 รอื้ ขดลวดออกจากสเตเตอร์ได้ 3.2.3 ทาฉนวนรองร่องสลอตได้ 3.3.4 ปฏบิ ัตกิ ารเตรียมโครงมอเตอร์ 1 เฟสได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 3.3.1 แสดงออกดา้ นความสนใจใฝร่ ู้ 3.3.2 การตรงต่อเวลา 3.3.3 ความซือ่ สตั ย์

2 แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที.่ ......1....... ชอื่ หน่วย มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ (20104–2008) สอนครั้งท.่ี ...1....... ช่ือเร่ือง หลกั การทำงานของมอเตอรเ์ หนยี่ วนำ ช่ัวโมงรวม...126... จำนวนชวั่ โมง..7.. 3.3 คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ (ต่อ) 3.3.4 สจุ รติ 3.3.5 ความมีน้าใจและแบ่งบนั 3.3.6 ความรว่ มมือ/ยอมรับความคดิ เห็นสว่ นใหญ่ 3.4 หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3.4.1 ความพอประมาณ 3.4.2 ความมเี หตผุ ล 3.4.2 มภี ูมิคุ้มกันทด่ี ี 4.ความรพู้ น้ื ฐานทีค่ วรมีก่อนเรยี น -ไมม่ ี- 5.เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ มอเตอร์ หมายถึง เคร่อื งกลไฟฟา้ ซง่ึ ทาหนา้ ทเี่ ปล่ียนพลงั งานไฟฟ้าเปน็ พลังงานกล มอเตอร์แบง่ ตามพลงั งานไฟฟ้าท่ใี ช้เป็น 2 ชนิด ดังนี้ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง และมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั แบ่งเป็น 3 ชนิด ดงั นี้ 1. มอเตอรเ์ หน่ยี วนา 2. มอเตอร์ซงิ โครนัส 3. มอเตอรค์ อมมวิ เตเตอร์ มอเตอรเ์ หน่ยี วนา หมายถงึ มอเตอรท์ ี่ไมไ่ ด้รับพลังงานไฟฟา้ จากแหลง่ จ่ายไฟฟ้าเข้าสโู่ รเตอร์โดยตรง แตไ่ ด้รับ พลังงานไฟฟ้าโดยอาศยั การเหนยี่ วนาทางแมเ่ หล็กไฟฟา้ จากสเตเตอร์ มอเตอรเ์ หนี่ยวนา 1 เฟส แบ่งตามวธิ ีการซ่งึ ทาให้โรเตอร์หมุนได้ 3 ชนดิ ดังน้ี 1. มอเตอร์สปลิตเฟสหรือมอเตอร์แยกเฟส 2. มอเตอร์คาปาซิเตอร์ 3. มอเตอรเ์ ชดเดดโพล มอเตอร์ซงิ โครนสั แบง่ ตามระบบไฟฟ้าได้ 2 ชนดิ ดงั นี้ มอเตอรซ์ งิ โครนัส 3 เฟส และมอเตอร์ซิงโครนัส 1 เฟส

3 หลักการทางานของมอเตอรเ์ หน่ียวนา เมื่อเกิดสนามแม่เหล็กหมนุ ที่สเตเตอร์ เส้นแรงแม่เหล็กจะเหนี่ยวนาตัวหมุน หรือโรเตอร์ ส่งผลให้เกดิ แรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนาไหลในโรเตอร์ ซึ่งกระแสไฟฟ้าท่ไี หลในโรเตอร์จะ แผนการจดั การเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่.ี ......1....... ช่ือหน่วย มอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ (20104–2008) สอนคร้ังที.่ ...1....... ช่ือเร่ือง หลักการทำงานของมอเตอรเ์ หน่ยี วนำ ชั่วโมงรวม...126... จำนวนชั่วโมง..7.. 5.เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ (ต่อ) สร้างเสน้ แรงแมเ่ หล็กมาต้านสนามแม่เหลก็ ท่ีสเตเตอร์ สง่ ผลทาใหโ้ รเตอร์หมนุ ในทิศทางเดยี วกบั สนามแมเ่ หล็กแตม่ ี ความเร็วช้ากว่าความเร็วของสนามแมเ่ หลก็ หมุน การเหนี่ยวนาทางแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า หมายถงึ การทาใหเ้ กดิ แรงดนั ไฟฟา้ และกระแสไฟฟา้ เหนี่ยวนา โดยการ เคลื่อนท่ตี ัดกันระหวา่ งสนามแมเ่ หลก็ และตวั นา 6.กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 การนำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์ สมรรถนะและคำอธิบายรายวิชา การวัดผลและประเมินผล การเรียน คณุ ลกั ษณะนสิ ัยทีต่ ้องการใหเ้ กดิ ขึ้น และข้อตกลงในการเรยี น 2. ครูให้หนังสือเรียนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั ของสำนักพิมพ์ศูนย์หนังสือเมืองไทย 3. ครนู ำเข้าสู่บทเรยี น และครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียน 6.2 การเรียนรู้ 1. ครูสอนเน้ือหาสาระ 2. แบง่ กลุม่ นกั เรยี นเพอ่ื เตรยี มปฏบิ ัติงานตามใบงาน 3. นกั เรียนลงมอื ปฏิบัตงิ านตามขน้ั ตอนในใบงาน 4. ครตู รวจผลงานภาคปฏบิ ตั ิของนกั เรียน 5. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ย 6.3 การสรปุ 1. ใหน้ กั เรียนทำความสะอาดเครอื่ งมอื อปุ กรณ์ และบรเิ วณพืน้ ที่ปฏิบตั ิงานใหเ้ รียบรอ้ ย 2. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปบทเรียน และผลการปฏบิ ัตงิ าน 6.4 การวัดและประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล 1. แบบสังเกตการทางานกลุ่มและนาเสนอผลงานกล่มุ เกณฑผ์ า่ น 60% 2. ใบงานและแบบประเมิน เกณฑผ์ า่ น 60%

4 3. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยท่ี 1 เกณฑ์ผา่ น 50% 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 60% แผนการจัดการเรยี นร้มู งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท.ี่ ......1....... ชอื่ หน่วย มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ (20104–2008) สอนคร้งั ที่.....1..... ช่อื เรอื่ ง หลักการทำงานของมอเตอร์เหนีย่ วนำ ชว่ั โมงรวม...126.. จำนวนชว่ั โมง..7.. 7.ส่อื การเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 ส่ือสิ่งพมิ พ์ 7.1.1 คารม สนิ ธูระหฐั (2562). มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั (20104–2008). นนทบุรี : ศูนย์หนงั สือเมืองไทย. 7.2 สอื่ โสตทัศน์ (ถา้ ม)ี 7.2.1 Power Point เรือ่ ง หลกั การทำงานมอเตอร์เหน่ยี วนำ 7.3 ห่นุ จำลองหรอื ของจริง (ถ้าม)ี -ไมม่ ี- 7.4 อ่นื ๆ (ถ้ามี) -ไม่มี- 8.เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) งานท่มี อบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ให้ศกึ ษามอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับและสนามแมเ่ หลก็ หมุน 9.การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วิชาอนื่ วิชาเครื่องกลไฟฟา้ กระแสตรง วิชาเครอื่ งกลไฟฟ้ากระแสสลบั วิชาเครอ่ี งกำเนิดไฟฟา้ กระแสสลบั วชิ าหมอ้ แปลง ไฟฟา้

5 แผนการจดั การเรยี นร้มู ุง่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท.่ี ......1........ สอนครง้ั ท.่ี ...1....... ชอ่ื หนว่ ย มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั (20104–2008) ชัว่ โมงรวม..126.... ชอ่ื เรื่อง หลกั การทำงานของมอเตอรเ์ หนย่ี วนำ จำนวนชั่วโมง..7... 10.การวัดและประเมนิ ผล 10.1 ก่อนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง หลกั การทำงานของมอเตอรเ์ หนยี่ วนำ 10.2 ขณะเรียน มกี จิ กรรม ใหน้ กั เรียน ขณะเรยี น คอื ฟงั การบรรยาย จดบันทกึ มีการถาม-ตอบ เกีย่ วกับเรอ่ื งที่เรยี น เพอ่ื วดั ความรู้ความเข้าใจในเรื่องท่เี รียน 10.3 หลังเรียน แบบฝึกหัดหลงั เรยี น และ แบบทดสอบหลังเรียน เรอ่ื ง หลกั การทำงานของมอเตอร์เหนี่ยวนำ

6

7 แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่.......1...... ชอ่ื หนว่ ย มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (20104–2008) สอนคร้ังที่....1...... ช่ือเร่อื ง หลกั การทำงานของมอเตอรเ์ หนยี่ วนำ ช่วั โมงรวม...126.... จำนวนช่วั โมง..7.. 11.บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ 11.1 ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ จำนวนเน้อื หา มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับจำนวนเวลา เพราะเหตใุ ด............................................................... การเรียงลำดับเนอื้ หา มีความเหมาะสม ไม่เหมาะสมกับความเข้าใจของผ้เู รยี น เพราะเหตุใด................................................ การนำเขา้ สู่บทเรยี น มคี วามเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนอ้ื หาแต่ละหวั ข้อ เพราะเหตุใด...................................................... วิธีการสอน มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนอื้ หาแต่ละหวั ขอ้ เพราะเหตุใด..................................................... สอื่ การสอน มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนอ้ื หาแตล่ ะหวั ข้อ เพราะเหตุใด...................................................... งานทก่ี ำหนดใหท้ ำ มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนอ้ื หา/เวลา/วัตถุประสงค์ เพราะเหตใุ ด........................................... การนำเสนอ มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับเนือ้ หา/เวลา/วตั ถปุ ระสงค์ เพราะเหตุใด........................................... การประเมนิ ผล มีความเหมาะสม ไมเ่ หมาะสมกับวตั ถุประสงค์หน่วย เพราะเหตุใด....................................................... อ่นื ๆ ........................................................................................................................................................................

8 แผนการจดั การเรยี นร้มู ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่.ี .....1....... ชื่อหน่วย มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ (20104–2008) สอนครัง้ ท่ี....1...... ช่อื เรอื่ ง หลกั การทำงานของมอเตอรเ์ หนยี่ วนำ ชวั่ โมงรวม...126.... จำนวนชวั่ โมง...7... 11.2 ผลการเรยี นรขู้ องผู้เรียน ............................................................................................................................. ...................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ..................................................... 11.3 แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ...................................................... ........................................................................................................................................................................ ........... ....................................................................................................................... ............................................................ ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................................ ....................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... ............................................................................................................................. ......................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook