Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 1 หลักการ แนวคิด การวัดและประเมินผลทางการเรียนรู้

บทที่ 1 หลักการ แนวคิด การวัดและประเมินผลทางการเรียนรู้

Published by benjamas, 2020-06-14 04:15:14

Description: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้

Keywords: การวัด,เกณฑ์

Search

Read the Text Version

-ก- คำนำ เอกสารประกอบการสอน รายวิชาการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (Learning Measurement and Evaluation) ได้เรียบเรียงขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนสาหรับ นักศึกษาที่เรียนทางการศึกษากลุ่มวิชาชีพครู ตลอดจนอาจารย์ นักวิชาการและบุคคลที่สนใจ ซึ่งผู้เขียนได้เรียบเรียงเนื้อหาจากหนังสือ ตารา เอกสารที่เกี่ยวข้องในด้านการวัดและ ประเมินผล รวมท้ังประสบการณ์ในจัดการเรยี นการสอนรายวิชานี้ ผู้เขียนได้แบ่งเน้ือหาของเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ไว้ 11 หัวเร่ือง โดยเรียบเรียง เนื้อหาให้เป็นไปตามลาดับขั้นตอนที่ง่ายต่อการศึกษา ประกอบด้วยหัวข้อ 1) หลักการ แนวคิด การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 2) พฤติกรรมทางการศึกษา 3) แนวปฏิบัติการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ 4) วิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 5) เคร่ืองมือวัดพฤติกรรมด้าน พุทธิพิสัย 6) เคร่ืองมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 7) เคร่ืองมือวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย 8) การวิเคราะหค์ ณุ ภาพเครอ่ื งมือวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 9) สถิตเิ บือ้ งตน้ สาหรบั การวัด และประเมินผลการเรียนรู้ 10) การนาผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาผเู้ รียน และ 11) การวดั และประเมินผลในศตวรรษที่ 21 ผู้เขียนขอขอบพระคุณอาจารย์ นักวิชาการ เจ้าของหนังสือ ตารา เอกสารวิชาการ ต่าง ๆ ที่ใช้ในการค้นคว้าและอ้างอิง ที่ทาให้ผลงานเล่มนี้มีความสมบูรณ์ ครอบคลุมเน้ือหา รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุนและอานวยความสะดวกจนสาเร็จลุล่วงเป็นรูปเล่มได้ด้วยดี คุณงาม ความดีของเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ ผู้เขียนขอมอบแด่บุพการี ครอบครัว ผู้มีพระคุณ ทุกท่าน ตลอดจนคณาจารย์ทุกท่านในมหาวิทยาลัย ที่ให้การสนับสนุนตลอดมา ผู้ เขียน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เนื้อหาสาระของเอกสารเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์และให้ความรู้แก่นักศึกษา และผสู้ นใจทว่ั ไป เบญจมาศ พุทธิมา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลาปาง

-ข- คำนำ ฉบับปรับปรุงคร้งั ที่ 1 เอกสารประกอบการสอน รายวิชาการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (Learning Measurement and Evaluation) ผู้เขียนได้จัดทาขึ้นและใช้ในการเรียนการสอน เม่ือปีการศึกษา 2559 และได้ปรับปรุงเนื้อหาในปีการศึกษา 2561 โดยเพิ่มเติมกรอบแนวคิดการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และตัวอย่างเคร่ืองมือวัดความรู้ความสามารถระดับ สากล (PISA) ในบทที่ 11 เพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบถึงการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการสร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ให้เป็นไปตาม กรอบการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ ผู้เขียนขอขอบพระคุณอีกคร้ังต่ออาจารย์ นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ หน่วยงานต่าง ๆ ผู้เป็นเจ้าของผลงานที่ใช้ในการค้นคว้าและอ้างอิง ตลอดจนคณาจารย์ทุกท่านในมหาวิทยาลัย และผู้อานวยความสะดวกทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนตลอดมาจนสาเร็จลุล่วง คุณงามความดี ของเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ ผู้เขียนขอมอบแด่บุพการี ครอบครัว ผู้มีพระคุณทุกท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ จะให้ความรู้และเป็นประโยชน์ต่อการ นาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในสถานศกึ ษาได้เป็นอย่างดี เบญจมาศ พทุ ธิมา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลาปาง พฤษภาคม 2561

-ค- สำรบัญ เร่อื ง หน้ำ คำนำ ก สำรบัญ ค สำรบญั ภำพ ฉ สำรบญั ตำรำง ช บทท่ี 1 หลักกำร แนวคดิ กำรวัดและประเมินผลทำงกำรเรียนรู้ 1 ความหมายของการวดั การประเมิน และการประเมินผล 2 หลักการ แนวคิด การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 6 จุดมงุ่ หมายของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 8 ประเภทของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 13 ข้ันตอนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 14 ประโยชน์ของการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 16 คุณธรรมของนกั วัดและประเมินผลการเรียนรู้ 19 บทท่ี 2 พฤติกรรมทำงกำรศึกษำ 37 พฤติกรรมการเรียนรู้ 39 จดุ มงุ่ หมายการศกึ ษา การจาแนกพฤติกรรมจากตัวช้วี ัดที่กาหนดในหลักสตู ร 43 44 บทท่ี 3 แนวปฏิบตั ิกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ 45 จดุ มงุ่ หมายของการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การกากับดแู ลคณุ ภาพการศกึ ษา 59 แนวทางในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 59 60 บทท่ี 4 วิธีกำรวดั และประเมินผลกำรเรียนรู้ 72 ความหมายของวิธีการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ วิธีการวัดพฤติกรรมดา้ นพุทธิพิสัย วิธีการวัดพฤติกรรมดา้ นจติ พิสัย วิธีการวดั พฤติกรรมดา้ นทักษะพิสัย

-ง- สำรบญั (ต่อ) หน้ำ เร่อื ง 79 บทท่ี 5 เครือ่ งมือวดั พฤติกรรมด้ำนพทุ ธิพสิ ยั 80 82 เครือ่ งมือวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสยั 89 ประเภทของแบบทดสอบ 94 หลกั การสร้างแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน 97 การสรา้ งแบบทดสอบตามลาดบั ขั้นตอนของการเรียนรู้ ข้ันตอนการสร้างแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น 103 การบริหารการสอบ 111 บทท่ี 6 เครื่องมือวดั พฤติกรรมด้ำนจติ พิสยั เครือ่ งมือวัดพฤติกรรมด้านจติ พิสัย 115 ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือวัดพฤติกรรมดา้ นจติ พิสยั 119 บทท่ี 7 เครือ่ งมือวดั พฤติกรรมทักษะพิสัย 123 1. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย 2. ขั้นตอนการสร้างเครือ่ งมือวัดพฤติกรรมดา้ นทกั ษะพิสัย 127 เกณฑก์ ารประเมินและเกณฑก์ ารให้คะแนน 129 บทท่ี 8 กำรวเิ ครำะห์คณุ ภำพเครื่องมือวดั และประเมินผลกำรเรียนรู้ 130 ลกั ษณะของเครื่องมอื วัดและประเมินผลการเรียนรู้ทีด่ ี 138 การวิเคราะหแ์ ละประเมินผลแบบอิงกลุ่มและอิงเกณฑ์ 144 การวิเคราะหค์ ณุ ภาพโดยการหาค่าความเทีย่ งตรง 152 การวิเคราะหค์ ณุ ภาพโดยการหาค่าความเช่ือมั่น การวิเคราะหค์ ณุ ภาพโดยการหาค่าความยากและอานาจจาแนก การนาเครื่องมอื การวัดและประเมินผลไปใช้

-จ- สำรบญั (ตอ่ ) หน้ำ เรอ่ื ง 155 บทท่ี 9 สถิติทเ่ี กีย่ วข้องกบั กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ 155 156 ความหมายของสถิติ 158 ประเภทของสถิติ 159 มาตรการวดั ข้อมูลหรอื ระดับการวัด 173 สถิตเิ บอื้ งตน้ ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ สถิตทิ ีใ่ ชใ้ นการบรรยายลกั ษณะของขอ้ มูล 181 สถิตทิ ีใ่ ชใ้ นการแปลความหมายคะแนน 182 บทท่ี 10 กำรตัดเกรดและกำรนำผลกำรประเมินไปใช้ในกำรพฒั นำผูเ้ รยี น 186 คะแนน 187 การตดั เกรด 192 การให้ระดับผลการเรียน 208 เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การรายงานผลการเรียน 213 การนาผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาผเู้ รียน 215 บทท่ี 11 กำรวดั และประเมินผลในศตวรรษท่ี 21 216 กรอบแนวคิดทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 219 ทกั ษะเพื่อการดารงชีวติ ในศตวรรษที่ 21 221 พฒั นาการของการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 228 การประเมนิ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การทดสอบทางการศกึ ษาในศตวรรษที่ 21 เครื่องมือวดั ความรคู้ วามสามารถระดบั สากล

-ฉ- สำรบญั ภำพ ภำพที่ หน้ำ 1.1 องค์ประกอบของการจัดการศกึ ษา 4 1.2 ขั้นตอนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 13 2.1 พฤติกรรมดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) 23 2.2 การปรับปรงุ พฤติกรรมด้านพทุ ธิพิสยั (Revised Bloom’s Taxonomy) 24 2.3 ลาดับข้ันพฤติกรรมด้านจิตพิสัย 33 2.4 องค์ประกอบของจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 37 3.1 การประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน 46 3.2 การประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 คุณลักษณะ 50 3.3 รูปแบบการประเมนิ แบบกลุ่มสาระการเรียนรู้และผทู้ ีร่ บั ผดิ ชอบพฒั นา 51 และประเมินทุกคณุ ลักษณะ 3.4 รปู แบบการประเมนิ แบบกลุ่มสาระการเรียนรู้และผทู้ ีร่ ับผดิ ชอบเลือก 52 พัฒนาและประเมินเฉพาะคุณลกั ษณะที่เหมาะสม 3.5 รปู แบบการประเมนิ แบบครูประจาช้ันหรอื ครปู ระจาวิชาพฒั นาและ 53 ประเมิน หรอื ร่วมพัฒนาและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3.6 รูปแบบการจดั กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 55 3.7 องค์ประกอบของการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 56 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 8.1 ผลการทดสอบจากการใชเ้ ครื่องมอื ทีม่ คี วามเช่อื ม่นั 129 8.2 ความสัมพนั ธ์ระหว่างความเที่ยงตรงกับความเชือ่ มน่ั 138 9.1 การแจกแจงความถีแ่ บบโค้งปกติและไม่เปน็ โค้งปกติ 168 9.2 ภาพโค้งปกติ คะแนนมาตรฐาน Z-Score T-Score สเตไนน์ และ 175 เปอร์เซ็นไทล์ 11.1 กรอบแนวคิดเพือ่ การเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st Century Learning 213 Framework) 11.2 กรอบการประเมนิ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 229 11.3 ภาพปิรามิดแห่งการเรยี นรู้ (Learning Pyramid) 220

-ช- สำรบญั ตำรำง ตำรำงท่ี การเปรียบเทียบระหว่างการวัดและการประเมินผล หน้ำ 1.1 ข้อแตกต่างระหว่างการประเมินผลแบบอิงกลุ่มและอิงเกณฑ์ 2 1.2 การเปรียบเทียบข้อดแี ละข้อเสียของการประเมินองิ กลุ่ม 10 1.3 การเปรียบเทียบข้อดแี ละข้อเสียของการประเมินองิ เกณฑ์ 11 1.4 ตวั อย่างองค์ประกอบของการวัด 11 1.5 ตวั อย่างองค์ประกอบของการประเมินผลการเรียนรู้ 12 1.6 การปรบั ปรงุ จดุ มุ่งหมายทางการศึกษาด้านพทุ ธิพิสัยใหม่ 12 2.1 การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมท่วั ไปเปน็ พฤติกรรมทีส่ งั เกตได้ด้านพทุ ธิพิสัยใหม่ 27 2.2 การอธิบายความหมายของมิติความรู้ 28 2.3 การเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมทั่วไปเป็นพฤติกรรมที่สงั เกตได้ด้านจติ พิสัย 30 2.4 การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทว่ั ไปเปน็ พฤติกรรมที่สังเกตได้ด้านทักษะพิสยั 34 2.5 การจาแนกพฤติกรรมจากตัวช้ีวดั ที่กาหนดในหลักสตู ร 36 2.6 ขอบเขตการประเมินแตล่ ะระดับช้ัน เกีย่ วกบั การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน 39 3.1 ตวั ช้วี ัดความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน 47 3.2 ตัวช้วี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้คณุ ลกั ษณะรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 48 4.1 ตวั ช้วี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้คุณลักษณะซื่อสัตย์สจุ ริต 66 4.2 ตวั ช้วี ดั และพฤติกรรมบ่งชี้คุณลักษณะมีวนิ ัย 67 4.3 ตัวช้วี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้คุณลักษณะใฝ่เรยี นรู้ 67 4.4 ตวั ช้วี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้คุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง 68 4.5 ตวั ช้วี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้คุณลกั ษณะมุ่งม่ันในการทางาน 69 4.6 ตวั ช้วี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้คุณลกั ษณะรักความเปน็ ไทย 70 4.7 ตัวช้วี ดั และพฤติกรรมบ่งชี้คุณลกั ษณะมีจิตสาธารณะ 70 4.8 การกาหนดน้าหนกั ในตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู รสงั คมศึกษา ศาสนาและ 71 5.1 วฒั นธรรม ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 96 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบภาพรวมของการประเมนิ การพดู ภาษาองั กฤษ 7.1 เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบแยกองค์ประกอบของแบบประเมินทักษะปฏิบัติการ 123 7.2 ทดลอง 124

-ซ- สำรบญั ตำรำง (ตอ่ ) ตำรำงท่ี ความแตกต่างของการวิเคราะห์และการประเมินผลแบบอิงกลุ่มและอิง หน้ำ 8.1 เกณฑ์ 130 มาตรการวดั 9.1 การเทียบระดบั ผลการเรียนด้วยระบบต่าง ๆ ระดบั ประถมศึกษา 158 10.1 การเทียบระดับผลการเรียนด้วยระบบตวั เลขของระดับมัธยมศกึ ษา 186 10.2 การเรียนซ้าชั้นของผเู้ รียนระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศกึ ษา 187 10.3 การเลื่อนช้ันของระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศกึ ษา 189 10.4 การสอนซ่อมเสริมสาหรบั ผเู้ รียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศกึ ษา 189 10.5 เกณฑก์ ารจบการศกึ ษาสาหรบั ผู้เรยี นระดับประถมศึกษาและมัธยมศกึ ษา 190 10.6 เป้าหมายการรายงานของกลุ่มเป้าหมายและการใชข้ ้อมูล 190 10.7 การเปรียบเทียบการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามแนวคิดเดิมกับการวัด 209 11.1 และประเมินทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 217

-9- 4.1.2 จําแนกตามวิธีการแปลความหมายผลการเรียนรู แบงเปน 3 ประเภท ดงั นี้ 1) การวัดและประเมินผลแบบอิงกลุม (Norm-Referenced Evaluation) เปนการนําคะแนนที่ไดจากการทดสอบไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น ๆ ที่ไดทําแบบทดสอบ ฉบับเดียวกัน การประเมินแบบอิงกลุมเปนการใชเพื่อจําแนกหรือจัดลําดับบุคคลในกลุมการ ประเมินแบบนี้มักใชกับการประเมินเพื่อคัดเลือกเขาศึกษาตอในสถาบันการศึกษาตาง ๆ หรือ จดั ลาํ ดบั อาวุโสของผเู รียน หรอื ภายหลังสาํ เรจ็ การศึกษาของผเู รียน 2) การวัดและประเมินผลแบบอิงเกณฑ (Criterion-Referenced Evaluation) เปนการนําคะแนนที่ ไดจากแบบทดสอบหรือผลงานของบุคคลใดบุคคลหนึ่งไปเปรียบเทียบกับ เกณฑหรือเปาหมายที่กําหนดไว เชน การประเมินระหวางการจัดการเรียนรูวาผูเรียนได บรรลผุ ลการเรียนรูทีค่ าดหวงั ทีไ่ ดกําหนดไวหรอื ไม 3) การประเมินแบบอิงเกณฑและอิงกลุม (Norm-Criterion Referenced) เปนการประเมินที่ผสมผสานกัน โดยมีแนวความคิดต้ังอยูบนทฤษฎีที่วา เม่ือผูเรียนผานการ ตรวจสอบความรู ความสามารถระหวางการจัดการเรียนรูแลว นาจะทําใหการเปรียบเทียบ คะแนนรวมภายในกลุมผูเรียนหลังเสร็จสิ้นการจัดการเรียนรู มีความเหมาะสม และสามารถ ตัดสินระดับการเรยี นรูของผูเรียนไดดียิ่งข้นึ 4.1.3 จําแนกประเภทการวัดและการประเมินผลตามกลุมผูประเมิน (Evaluator) (ทิวตั ถ มณีโชต,ิ 2549) แบงออกเปน 1) การประเมินตนเอง (Self-Assessment) หรือการประเมินภายใน (Internal Evaluation) เปนการประเมินเพื่อนําผลการประเมินมาพัฒนาหรือปรับปรุงตนเอง การประเมิน ประเภทนี้สามารถประเมินไดทุกกลุม ผูเรียนประเมินตนเองเพื่อปรับปรุงการเรียนรูของตนเอง ครูผูสอนประเมินเพื่อปรับปรุงการจัดการเรียนรูของตนเอง ลักษณะการประเมินอาจจะมี คณะเดียวประเมินทุกสวน หรือจะใหแตละสวนประเมินตนเองหรือภายในสวนของตนเอง เชน แตละระดับช้ันเรียน แตละหมวดวิชาหรือกลุมสาระการเรียนรู แตละฝาย และในแตละฝาย มีการประเมิน เชน ฝา ยปกครอง ฝายวิชาการ ฝา ยอาคารสถานที่ เปนตน 2) การประเมินโดยผูอื่นหรือการประเมินภายนอก (External Evaluation) สืบเนื่องจากการประเมินตนเองหรือการประเมินภายใน มีความสําคัญมากในการพัฒนา ปรับปรุง ซึ่งบุคคลภายนอกมักคิดวาการประเมินภายในน้ันมีความลําเอียง ผูประเมินตนเอง มักจะเขาขางตนเอง ดังนั้นจึงมีการประเมินโดยผูอื่นหรือประเมินโดยผูประเมินภายนอก เพื่อยืนยันการประเมินภายใน และการประเมินภายนอกควรมาจากความตองการของ

-10- ผูถูกประเมิน เชน ครูผูสอนใหผูเรียน ผูปกครอง หรือเพื่อนครูประเมินการจัดการเรียนรู ของตนเอง สถานศึกษาใหผูปกครองหรือนักประเมินมืออาชีพ (ภายนอก) ประเมินคุณภาพการ จดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ตารางท่ี 1.2 ขอแตกตางระหวางการประเมินผลแบบอิงกลุมและอิงเกณฑ (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2553; พเยาว เนตรประชา, 2559 : ออนไลน) รายการ การประเมินผลแบบอิงกลุม การประเมินแบบอิงเกณฑ หลกั การ/ เปน การเปรียบเทียบคะแนนที่ไดกบั คะแนน เปนการเปรียบเทียบคะแนนที่ไดกับ จดุ มงุ หมาย ของคนอ่นื ๆ กบั ผเู รียนในกลุมเดียวกัน เกณฑทีไ่ ดกําหนดไว ยึดความแตกตางของผูเรียนระหวางบุคคล ยึดการเรียนรูทีผ่ เู รียนสามารถบรรลุ เพราะผูเรียนแตล ะคนเรียนรูไมเทากนั จุดประสงคได การสราง สรางรายการขอคาํ ถามตามจุดประสงค สรางรายการขอคาํ ถามตาม และหา ท่วั ไป จุดประสงคเชงิ พฤติกรรม คุณภาพ เนนความเทีย่ งตรงทุกชนิด เนนความเทีย่ งตรงเชงิ เนื้อหา เครื่องมอื แบบทดสอบควรมีความยากงายพอเหมาะ ไมเนน ความยากงาย แตอ ํานาจจําแนก มีอํานาจจําแนกสูง ควรมีพอเหมาะ ความเช่ือม่ัน วิเคราะหผลจากการวัดคร้ัง ความเชอ่ื มน่ั วิเคราะหผลจากการวดั เดียวหรือสองครง้ั หลังสอนก็ได กอนและหลังเรียน การนาํ ไปใช นิยมใชในการสอบแขงขนั นิยมใชส าํ หรบั การพัฒนาหรือปรับปรงุ การจัดการเรียนรู ใชแบบทดสอบเดียวกันสําหรับผูเรียนทั้ง ไมจาํ เปน ตองใชแ บบทดสอบฉบับ กลุมหรอื อาจใชแ บบทดสอบคูขนาน เดียวกัน เพราะไมไดเปรียบเทียบกบั คน เพื่อใหสามารถเปรียบเทียบกันได อื่น ๆ คะแนน คะแนนจะถกู นําเสนอในรูปของรอ ยละหรอื คะแนนจะถูกนําเสนอในรปู ของผาน-ไม คะแนนมาตรฐาน ผา นตามเกณฑทีก่ าํ หนดไว การแปล แปลโดยใชค ะแนนมาตรฐาน จะประเมนิ แปลโดยใชค ะแนนดิบ ผลการประเมิน ความหมาย ออกมาในรูปแบบทวิพนั ธ เชน ได-ตก จะออกมาในรูปแบบเกรด A B C D ผา น-ไมผาน แตส ามารถแปลงเปนเกรดได และ F เพือ่ ใหทราบวาผูเรียนมี เพื่อใหทราบวาผูเรยี นมีความสามารถ ความสามารถมากเทาใดเม่ือเทียบกับ เทาใดเมอ่ื เทียบกับปริมาณทั้งหมดที่สอบ เกณฑที่กาํ หนด

-11- 4.1.4 ขอดีและขอเสียของการประเมินอิงกลมุ การประเมินผลอิงกลุมและอิงเกณฑมีขอดีและขอเสีย ดังที่ พิชิต ฤทธิจ์ รญู (2553) กลาวไว โดยมีรายละเอียดดังนี้ ตารางท่ี 1.3 แสดงการเปรียบเทียบขอดีและขอ เสียของการประเมินองิ กลุม ขอดีของการประเมินอิงกลุม ขอ เสียของการประเมินอิงกลุม 1.สงเสริมใหเกิดการพฒั นาตนเองเนือ่ งจาก 1. เกิดการแขงขนั กนั มากกวาการชว ยเหลอื กัน ตองเปรียบเทียบกบั เพือ่ น 2. สะดวกในการออกขอสอบเพราะใชฉบับ 2. ไมสามารถนําคะแนนไปใชประเมินผลแบบ เดียวกันทั้งหมด อิงเกณฑได 3. ใชไดดีในการสอบคดั เลือกและพยากรณ 3. เปนการประเมินผลผูเรียนเปนสวนใหญไม เนนกระบวนการจดั การเรยี นรู 4.1.5 ขอ ดีและขอ เสียของการประเมินอิงเกณฑ ตารางท่ี 1.4 แสดงการเปรียบเทียบขอดีและขอ เสียของการประเมินองิ เกณฑ ขอ ดีของการประเมินอิงเกณฑ ขอ เสียของการประเมินอิงเกณฑ 1. เปน การประเมินเพือ่ ปรับปรุงการจัดการเรยี นรู 1. วิธีดาํ เนินการสอบคอนขางยุงยากแก ครูผสู อน 2. สงเสริมการชว ยเหลอื กนั มากกวาการแขงขัน 2. ไมเนนความยากงา ยของขอสอบ 3. เปน การประเมินทั้งผเู รียนและกระบวนการ 3. สรางเกณฑใหเ หมาะสมทาํ ไดยาก จดั การเรียนรู 4.2 องคป ระกอบของการวัดและประเมินผลการเรียนรู 4.2.1 องคประกอบของการวดั แบงออกเปน 3 ประการ ดังนี้ 1) ปญหาหรอื สิ่งที่จะวดั 2) เครือ่ งมอื วดั หรือเทคนิควิธีการวดั และรวบรวมขอมลู 3) ขอมูลเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพ หากเปนขอมูลเชิงปริมาณจะตองมี จํานวนและหนวยวัด หรือหากเปนขอมูลเชิงคุณภาพจะตองมีรายละเอียดแสดงคุณลักษณะ ซึ่งอาจไมใชตวั เลข

-12- ตารางที่ 1.5 แสดงตวั อยางองคประกอบของการวัด ปญ หา (สิ่งทีจ่ ะวดั ) เครอื่ งมือวัด(วธิ ีการวัด) ผลการวัด(ขอ มูล) 90 คะแนน 1. เดก็ หญิงณัฐชาสอบไดกีค่ ะแนน แบบทดสอบ 1,290 บาท 30 คน 2. กระเปาใบนรี้ าคาเทาไร การสอบถาม อวน ผิวพรรณดี ผมยาว 3. นกั ศึกษาในหอ งน้มี จี าํ นวนกีค่ น การนับ 28 กิโลกรมั 4. ขณะน้คี ุณเจนมีรูปรางอยางไร การสังเกต 5. เด็กชายภมู ินทรน ้าํ หนักเทาไร เครือ่ งช่งั น้ําหนัก 4.2.2 องคประกอบของประเมินผลการเรียนรู แบงออกเปน 3 ประการ ดงั นี้ 1) ขอมูลเชิงปริมาณหรือคุณภาพทีไ่ ดจากการวดั 2) เกณฑ อาจกาํ หนดข้ึนเองหรือใชเกณฑมาตรฐาน 3) การตดั สินคณุ คาหรอื การตัดสินใจ โดยนําขอ มลู จากการวดั เทียบกับเกณฑ ตารางที่ 1.6 แสดงตัวอยางองคประกอบของการประเมินผลการเรียนรู การตดั สินคุณคา เกณฑ เอกพลไดคะแนนสูงสุด เอกสิทธิไ์ ดค ะแนนตา่ํ สดุ ขอ มลู เปรียบเทยี บกับขอมลู ทีม่ อี ยู เอกพลไดเกรด A เอกพลสอบได 80 คะแนน คะแนน 80-100 ถือวาเกงมากไดเกรด A เอกรตั นไดเกรด F เอกรัตนส อบได 47 คะแนน คะแนน 75–79 ถือวาเกงไดเกรด B+ เอกพันธไดเกรด B+ เอกพนั ธสอบได 75 คะแนน 70–74 ถือวาคอนขางเกงไดเกรด B เอกราชไดเกรด C+ เอกราชสอบได 65 คะแนน 65-69 ถือวาปานกลางไดเกรด C+ เอกสิทธิ์ไดเกรด F เอกสิทธิ์สอบได 44 คะแนน 61-64 ถือวาพอใชไ ดเกรด C 55-60 ถือวาออนไดเกรด D+ 50-54 ถือวาคอนขางออนไดเกรด D ตา่ํ กวา 50 ถือวาออนมากไดเกรด F จากตัวอยางองคประกอบของการประเมินผล หากใชเกณฑตางกัน การตัดสินคุณคา หรือการตัดสินใจยอมแตกตางกันดวย ท้ังนี้กระบวนการของการวัดและประเมินผลมีความ ตอเนื่องกัน กลาวคือ เม่ือมีการวัดผลแลวจะไดรายละเอียดหลายดาน แลวนําผลท้ังหลาย มาพิจารณาหรือที่เรียกวาประเมินผล ผลการประเมินจะถูกตองเหมาะสมเพียงใดยอมขึ้นกับ ผลของการวัดเปน ประการสาํ คัญ

-13- 5. ขนั้ ตอนการวดั และประเมินผลการเรียนรู ข้ันตอนการวัดและประเมินผลการเรียนรูมคี วามเช่ือมโยงกับจุดประสงคการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนรูของครูผูสอน ประกอบดวย 7 ขั้นตอน (ทิวัตถ มณีโชติ, 2549; พิชิต ฤทธิจ์ รูญ, 2553) ดงั แสดงในภาพที่ 1.2 กาํ หนดจุดประสงคเชงิ พฤติกรรม กาํ หนดวิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู เลือกหรือสรา งเครื่องมือวดั และประเมินผลการเรยี นรู ปรบั ปรงุ กระบวนการ ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ จัดการเรียนรูหรือ เกบ็ รวบรวมขอมลู ปรับปรงุ หลกั สูตร ใหผลปอนกลบั จากการวัดและประเมนิ ตดั สินผลการเรียนรูจากการวัด ภาพที่ 1.2 แสดงขั้นตอนการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู 5.1 กําหนดจุดประสงคเชิงพฤติกรรม เปนการกําหนดจุดมุงหมายของแตละหนวย การเรียนรูหรือรายวิชาใหสอดคลองกับหลักสูตร ซึ่งตองมีการวิเคราะหหลักสูตร วิเคราะห เนื้อหา และกําหนดพฤติกรรมของผูเรียนที่มีการเปลี่ยนแปลงไปหลังจากจบการเรียนแลว เปนพฤติกรรมที่วัดได สังเกตได เพื่อใหครูผูสอนกําหนดหรือเลือกวิธีสอนและเครื่องมือในการ วัดและประเมนิ ผลใหสอดคลองกับพฤติกรรมของผูเรียนที่จะเกิดขนึ้ 5.2 กาํ หนดวิธีการวดั และประเมินผล เปนการหาแนวทางในการเลือกวิธีการวดั และ ประเมินผลใหสอดคลองกับจดุ ประสงคเชิงพฤติกรรม และยังสอดคลองกับหลกั ฐานการเรียนรู (ช้ินงาน/ภาระงาน) และเครื่องมือวัดผลการเรียนรูอีกดวย เชน จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ตองการวัดความรูของผูเรียน วิธีการวัดคือการทดสอบดวยเครื่องมือการวัดผลการเรียนรู คือแบบทดสอบ เปนตน 5.3 เลือกหรือสรางเครื่องมือวัดผลการเรียนรู ในขั้นตอนนี้ครูผูสอนตองมีความรู เกีย่ วกบั ประเภท ลักษณะ และหลักการสรางเครื่องมือสามารถเลือกหรือสรางใหสอดคลองกับ วิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู และจุดประสงคเชิงพฤติกรรมที่ตองการจะวัด โดยที่

-14- เครื่องมือตองมีคุณสมบัติที่ดี เชน ตองวัดในสิ่งที่ตองการไดตรงกับจุดมุงหมาย ใหผลการวัดที่ แนนอนคงเสนคงวาไมเปลี่ยนแปลง มีความชัดเจน เขาใจไดตรงกัน เครื่องมือที่ใชวัดผล การเรียนรูของผูเรียนมีหลายประเภท เชน แบบทดสอบ แบบวัดเจตคติ แบบสังเกต แบบ สัมภาษณ แบบสอบถาม เปนตน ซึ่งเครื่องมือวัดผลการเรียนรูสามารถเลือกเครื่องมือที่ผูอื่น ไดสรางไวแลว หรือเครื่องมือมาตรฐาน หรือครผู ูสอนตองสรา งขึ้นเองและตองมีการตรวจสอบ คุณภาพของเครื่องมือดว ย 5.4 ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ เปนการยืนยันวาเครื่องมือที่สรางขึ้นมาน้ัน มีคุณภาพ สามารถนําไปใชและไดผลการวัดที่สอดคลองกับจุดมุงหมายที่กําหนดไว การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือในเรื่อง ความเที่ยงตรง ความเช่ือมั่น ความยาก อํานาจ จําแนก และความเปนปรนัย เครื่องมือที่มีคุณ ภาพจะชวยใหการวัดผลการเรียนรู มีความถกู ตองนาเชอ่ื ถือได ผลการประเมินที่ไดยอมนาเชอ่ื ถือไดดวย 5.5 เก็บรวบรวมขอมูล สามารถดําเนินการได 3 ระยะ คือ กอนเรียน ระหวางเรียน และหลังเรียน เปนการนําเครื่องมือไปใชกับผูเรียนเพื่อใหผูเรียนแสดงพฤติกรรมออกมา แลวตีความหมายเปนคะแนน และรวบรวมเรียบเรียงขอมูลเปนสามารถสนเทศ ซึ่งคะแนนที่ได จะนําไปใชใ นการตดั สินผลการเรียน 5.6 ตัดสินผลการเรียนรจู ากการวัด การประเมินผลการเรียนของผูเรียนที่ปฏิบัติกัน มากในปจจุบัน คือ การตัดเกรดหรือการใหระดับผลการเรียนซึ่งกระทําเม่ือประเมินภายหลัง สิ้นสุดการจัดการเรียนรู และอาจจะกระทําเฉพาะสิ้นสุดการจัดการเรียนรูแตละตอนก็ได เชน ใหเกรดในการสอบยอย ใหเกรดผลงาน การใหเกรดตอนทายของบทเรียนแตละบทเรียน เปนตน ซึ่งครผู สู อนจาํ เปน ตองมีความรูเกี่ยวกับหลักในการตดั เกรด และวิธีการตัดเกรดที่ดี 5.7 ใหผลปอนกลับจากการวัดและประเมิน ข้ันตอนนี้เปนการใหขอเสนอแนะ ต อ ก ร ะ บ ว น ก า ร แ ล ะ ผ ล ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เมิ น ผ ล ว า ผู เรี ย น บ ร ร ลุ จุ ด มุ ง ห ม า ย เพี ย ง ใ ด ซึ่งขอเสนอแนะเหลานี้จะนําไปวางแผนเพื่อปรับปรุงหลักสูตรหรือจุดมุงหมายของรายวิชา การปรบั ปรงุ กระบวนการจดั การเรียนรู รวมท้ังการกาํ หนดจดุ ประสงคเชิงพฤติกรรมอกี ดวย 6. ประโยชนข องการวัดและประเมินผลการเรียนรู ประโยชนของการวัดและประเมินผลเรียนรูที่สําคัญ คือ มุงนําผลการวัดและประเมิน มาปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษา สงผลตอการปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู เพื่อพฒั นาผูเรียน ซึ่งประโยชนท ี่ไดรบั จากการดาํ เนินงานน้ันจะคุมคามากนอยเพียงใด เปน สิ่งที่ ผเู กี่ยวของตอ งคาํ นึงถึง สามารถสรปุ ประโยชนใ นดานตา ง ๆ ดังนี้

-15- 6.1 ประโยชนตอ ผูเรียน 1) ทําใหผเู รียนทราบจดุ มุงหมายของการจัดการเรยี นรทู ีช่ ัดเจน 2) ทาํ ใหเกิดความเขาใจในเนือ้ หาทีเ่ รียนชัดเจนยิง่ ข้นึ 3) ทําใหเกิดแรงจูงใจในการเรียนเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะรักษามาตรฐานไวและชวยใหผล การเรียนดีข้นึ ตามลาํ ดับ 4) ทําใหทราบถึงสถานภาพทางการเรียนของตนเองวา เดน-ดอย ในเรื่องใด ความสามารถของตนอยูในระดับใด เพื่อที่จะไดปรับปรุงตนเอง ตลอดจนแกไขขอบกพรอง ทางการเรยี นของตนใหดียิ่งขนึ้ 5) ทําใหเกิดการพัฒนาตนเองในแนวทางที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยพิจารณาจาก ผลการประเมินความสามารถของตนเอง 6.2 ประโยชนต อครผู สู อน 1) ทําใหครูผูสอนทราบเกี่ยวกับพฤติกรรมเบื้องตนของผูเรียน เพื่อที่จะรูวาผูเรียน มีความรูพื้นฐานพรอมที่จะเรียนในเรื่องตอไปหรือไม ถาหากวาผูเรียนคนใดยังไมพรอม ครูผสู อนกจ็ ะหาทางสอนซอมเสริม 2) ทําใหครูผูสอนไดทราบผลการเรียนของผูเรียนวาเกง-ออนเพียงใด เพื่อหาทาง ชว ยเหลอื และสงเสริมไดถูกตอง 3) ผลการประเมินจะทําใหครูใชเปนแรงกระตุนใหผูเรียนเกิดความสนใจในการ เรียนยิ่งขนึ้ 4) ทําใหครูผูสอนทราบผลการบรรลุจุดประสงคการเรียนของผูเรียนวาผาน จุดประสงคมากนอยเพียงใด สะทอนใหเห็นวาครูผูสอนมีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู เพียงใด ขอมูลที่ไดน้ันจะนําไปใชในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู กําหนดจุดมุงหมาย การจดั การเรียนรทู ี่เหมาะสม และกาํ หนดเทคนิควิธีสอนทีเ่ หมาะสมใหแ กผเู รียนตอไป 6.3 ประโยชนตอผูปกครอง ทําใหผูปกครองทราบความสามารถ หรือสมรรถภาพในการเรียนของบุตรหลาน ชวยใหทราบวามีความเจริญงอกงามเปนอยางไร เพื่อเตรียมสนับสนุนในการศึกษาตอ ตลอดจนการเลือกอาชีพของบตุ รหลาน 6.4 ประโยชนตอการแนะแนว ใชเปนขอมูลในการใหคําปรึกษา ชวยใหแนะแนวการเลือกวิชาเรียน การศึกษาตอ การเลือกประกอบอาชีพของผูเรียนใหสอดคลองเหมาะสมกับความรูความสามารถและ บุคลิกภาพ

-16- 6.5 ประโยชนต อ ผูบริหารและการบรหิ ารสถานศึกษา 1) ทําใหทราบมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนในดานตาง ๆ เชน มาตรฐาน ความสามารถของผูเรียน มาตรฐานความสามารถของครูผูสอน เปนตน วามีคุณภาพ ตามเกณฑมาตรฐานหรือไม 2) ทาํ ใหทราบขอมูลผลการเรียนของผเู รียนเพื่อใชใ นการกําหนดนโยบาย วางแผน พัฒนา และปรบั ปรงุ แกไขการจัดการเรียนรขู องสถานศกึ ษา 3) ผลจากการวัดและประเมินผลการเรียนรูชว ยในการคดั เลือกผูเรียน การจัดแยก ประเภทผูเรียน คัดเลือกครูผูสอน และคัดเลือกบุคลากรตาง ๆ ที่จะเขามาเรียนและทํางาน ในสถานศึกษา รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติงานดวย 4) ใชเ ปน ขอมูลในการประชาสัมพันธโรงเรียนใหผปู กครองและประชาชนไดทราบ 6.6 ประโยชนตอ การวิจัย 1)เครื่องมอื ในการวัดและประเมินผลสามารถนําไปใชเปนเครือ่ งมอื ในการทําวจิ ัยได 2) ขอมูลจากการวดั และประเมินผลสามารถนาํ ไปเปนขอมลู พ้ืนฐานในการวิจยั ตอไป 3) ผลจากการวัดและประเมินผลการเรียนรู ชวยวินิจฉัยขอบกพรองในการ บริหารงานของโรงเรียน การจัดการเรียนรูของครูผูสอน และขอบกพรองของผูเรียน และนําไปสู การวิจยั การทดลองตาง ๆ อนั จะเปนประโยชนตอ การศกึ ษามากยิ่งข้นึ 7. คุณธรรมของนกั วัดและประเมินผลการเรียนรู การประเมินผลจะมีคุณภาพเพียงใดขึ้นอยูกับความมีคุณธรรมของผูที่ทําหนาที่วัดและ ประเมินผลเปนสาํ คญั (พิชิต ฤทธิจ์ รญู , 2553) ดงั นี้ 7.1 มีความยุติธรรม การวัดและประเมินผลในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งขาดความ ยุติธรรมแลว ผลการวัดและการประเมินยอมขาดความเช่ือถือได หากนําผลการประเมินไปใช ในการตัดสินใจยอมกอใหเกิดความผิดพลาดซ้ําสอง ดังนั้นสิ่งที่ครูผูสอนควรคํานึง คือ วัดและ ประเมินตามหลกั วิชา ตดั สินใจ ดวยความบริสุทธิใ์ จ ไมมีความลาํ เอยี ง 7.2 มีความซือ่ สตั ย นกั วดั ผลตอ งมคี วามซือ่ สตั ยตอวิทยาการวดั ผลและหนาที่ของตน ไมนําความสามารถของตนไปใชในทางทุจริตหรือเกิดผลเสียหายตอหนาที่ เชน บอกขอสอบ หรอื ขายขอสอบ เปลี่ยนแปลงคะแนน หรอื ผลการเรยี นโดยไมยึดหลักวิชา เปน ตน 7.3 มีความรับผิดชอบ เนื่องจากความรับผิดชอบเปนคุณธรรมสําคัญที่ทําให ผูที่วัดและประเมินผลทํางานสําเร็จลุลวงไปดวยดี ปฏิบัติงานที่ไดรับมอบหมายใหทัน ตามกําหนดเวลา เชน สงขอ สอบตามทีก่ าํ หนด ควบคมุ การสอบใหเปนไปตามระเบียบ เปน ตน

-17- 7.4 มีความละเอียดรอบคอบ งานวัดและประเมินผลเปนงานที่ตองใชความละเอียด รอบคอบในการวัดและการตดั สินใจ เพื่อใหการวัดและประเมินผลมีความเที่ยงตรง และเช่อื ถือ ไดมากที่สุด กิจกรรมที่ตองการความละเอียดรอบคอบ เชน การออกขอสอบ การใหคะแนน การตรวจทานคะแนน การรวมคะแนน การตัดเกรด เปน ตน 7.5 มีความอดทน เนื่องจากงานวัดและประเมินผลเปนงานที่ตองการความละเอียด รอบคอบ อดทน ทุมเทกําลังกาย กําลังใจ และกําลังสติปญญาเพื่อใหงานบรรลุเปาหมาย กิจกรรมที่ตองมีความอดทน เชน การตรวจขอสอบอัตนัยซึ่งตองใชเวลามาก การตรวจแบบฝก ผเู รียนในแตละคร้ังทีส่ อน รวมทั้งการประเมินผลผูเรียนดวยวิธีการที่หลากหลายรูปแบบเพื่อให ไดขอมูลตามสภาพที่แทจริงและมีความครอบคลุม การวิเคราะหคุณภาพของขอสอบเปน รายขอ การนําผลการวดั และประเมินไปปรับปรงุ และพัฒนาการจดั การเรยี นรู เปน ตน 7.6 มีความรูและสนใจใฝรใู นหลกั วิชาการวัดและประเมินผล เนื่องจากวิชาการวัด และประเมินผลเปนวิชาชีพขั้นสูง มีวิทยาการทางการวัดผลเกิดขึ้นใหมๆเสมอ ผูที่ทําหนาที่ ประเมินผลจําเปนตองสนใจใฝรูเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลอยูเสมอ เพื่อพัฒนางานและ วิชาชีพของตนเอง สรปุ การวัดและประเมินผลการเรียนรู มีความสําคัญตอการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งการวัด การประเมิน และการประเมินผล เปนกระบวนการที่มีความเช่ือมโยงกัน ผลจาก การวัดจะไดขอมูลที่เปนตัวเลข แลวนํามารวบรวมเปนสารสนเทศผานการประเมิน เพื่อประกอบการตัดสินใจที่เรียกวาการประเมินผล การประเมินแบงเปนการประเมินกอนเรียน ระหวางเรียน และหลังเรียน รวมถึงการประเมินอิงกลุมและอิงเกณฑ ซึ่งการวัดตองอาศัย องคประกอบ 3 ประการ คือ สิ่งที่จะวัด เครื่องมือหรือวิธีการวัด และขอมูลที่เปนผลจาก การวดั โดยขอมูลนจี้ ะนําไปสูองคประกอบในการประเมินผล ประกอบดวย ขอมูลที่ไดจากการ วดั เกณฑ และตัดสินใจ จุดมุงหมายของการวัดและประเมินผลการเรียนรูเพื่อการจัดตําแหนง เพื่อการเปรียบเทียบ เพื่อการวินิจฉัย เพื่อพยากรณ และเพื่อการประเมินผล ผลที่ไดจะเปน ขอมูลในการปรับปรุงการจัดการเรียนรูหรือการประเมินผล รวมถึงการพัฒนาวิธีสอนของ ครูผูสอน และปรับปรุงหลักสูตรตอไป อีกท้ังยังเปนประโยชนตอผูเรียน ครูผูสอน การบริหาร สถานศึกษา ผูปกครอง การแนะแนว และการวิจัย ซึ่งผูที่ดําเนินการวัดและประเมินผลการ เรียนรูควรมีคุณธรรมในดาน ความยุติธรรม ความซื่อสัตย ความรับผิดชอบ ความละเอียด รอบคอบ ความอดทน และมีความรูและสนใจใฝรูในหลกั วิชาการวัดและประเมนิ ผล

-18- แบบฝกหัด 1. จงบอกความหมายของการวัด การประเมิน และการประเมินผล 2. จากสิง่ ที่กาํ หนดใหตอ ไปนี้ จงพจิ ารณาวา ขอ ใดเปนการวัด หรอื การประเมินผล 2.1 ณัฐณรามสี วนสูง 154 เซนติเมตร 2.2 ณัฐชาสอบไดคะแนนสูงที่สดุ ในหอ ง 2.3 ณัฐฐีสอบไดคะแนนวชิ าดนตรี 74 คะแนน 2.4 ณฐั ฐาไดเกรด B ในวิชาวิทยาศาสตร 2.5 ณฐั กานตเ ปน คนสวย 3. จงพิจารณาและอธิบายความสําคัญของการประเมินผลการเรียนระหวางเรียน (Formative) และการประเมินผลแบบสรุปรวม (Summative) 4. จงอธิบายความสัมพันธระหวางการองคประกอบของการวัดและองคประกอบของ การประเมินผล 5. จงเปรียบเทียบความแตกตางระหวางการประเมนิ ผลแบบอิงกลุมและองิ เกณฑ 6. จงบอกขอดีและขอเสียของการประเมนิ ผลแบบอิงกลุมและองิ เกณฑ 7. ข้ันตอนของการวัดและประเมินผลการเรียนรู ขั้นตอนใดมีความสําคัญมากที่สุด เพราะเหตุใด จงใหเ หตผุ ลประกอบ 8. จงบอกประโยชนข องการวดั และประเมินผลมาอยางนอย 5 ขอ 9. ผทู ีท่ ําหนาทีว่ ัดและประเมินผลการเรยี นรูควรมีคณุ ลกั ษณะใด 10. จงอธิบายหลกั การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู โดยจัดทาํ เปนแผนผังความคิด (Mind Mapping)