Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ๒โควิด19 ตอนที่ ๒-๑ ไวรัส-คน-ยา-วัคซีน 25-5-63

๒โควิด19 ตอนที่ ๒-๑ ไวรัส-คน-ยา-วัคซีน 25-5-63

Published by sirapornbellagio, 2020-06-10 05:49:30

Description: ๒โควิด19 ตอนที่ ๒-๑ ไวรัส-คน-ยา-วัคซีน 25-5-63

Keywords: อ สยมพร ศิรินาวิน

Search

Read the Text Version

25-05-63 ปริมาณไวรัส แตย่ ังสรปุ ไมไ่ ด้ เพราะเป็นการเปรียบเทยี บ คนละชว่ งเวลา การรักษาดา้ นอื่นๆ น่าจะมคี วามแตกตา่ งกัน การวิจยั ผลของยาโลพนิ าเวียรต์ ่อไวรสั เมอรส์ (MERS- CoV)ในห้องปฏบิ ัติการและในสัตวท์ ดลอง พบว่าโลพินาเวียร์ มฤี ทธิ์ยบั ยง้ั ไวรสั เมอร์ส และมีรายงานผู้ปว่ ยจานวนหนง่ึ ชี้แนะว่า การใหย้ าคาเลทรา รว่ มกบั ไรบาวิรนิ และอินเตอ- เฟอรอนอัลฟา ชว่ ยในการกาจัดไวรสั และมีผลให้ผู้ป่วยรอด ชวี ิต แตย่ ังไมม่ ขี อ้ มูลจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถอื ทีจ่ ะบอกถึง ผลจากการใช้ยานี้ งานวิจยั การรกั ษาโรคโควดิ -19 จากประเทศจนี ซึ่งลง พมิ พ์ในวารสารการแพทยช์ ้ันนา (NEJM) เมอื่ 18 มีนาคม 2563 ซงึ่ ใชร้ ะเบียบวธิ ีวิจัยทม่ี กี ลุ่มเปรียบเทียบและสมุ่ เลอื ก (RCT; Randomized Controlled Trial) ในผู้ปว่ ยโควดิ -19 จานวน 199 คน ซ่งึ มอี าการหนกั คอื มีระดับออกซเิ จนใน เลอื ดตา่ เปรยี บเทียบผลการรกั ษาด้วยยาคาเลทราR กับ ยา หลอก (placebo)ไมพ่ บวา่ มีความแตกตา่ ง ของผลการรักษา ระหวา่ ง 2 กลมุ่ น้ี ท้งั น้ีอัตราตายในผู้ปว่ ยกลุ่มน้ี สงู ถงึ 22% ซึ่งบ่งบอกว่าเปน็ กล่มุ ผปู้ ่วยทอี่ าการหนกั มาก สรุป: ยาคาเลทราRไมน่ า่ จะใชไ้ ดผ้ ลในผปู้ ว่ ยโควดิ -19 ทมี่ ีอาการหนกั แตย่ ังมีงานวจิ ยั อน่ื ท่ีดาเนินตอ่ ไป เพราะ ยาคาเลทราอาจจะใชไ้ ด้ผลดี โดยเฉพาะหากให้เรว็ ขนึ้ กอ่ นทผ่ี ้ปู ่วยจะมีอาการหนัก ๕๑

25-05-63 1.4 ยารกั ษาไขห้ วดั ใหญ่ ยาฟาวพิ ริ าเวยี ร์ (favipiravir or AviganR) ยาฟาวพิ ริ าเวยี ร์ ปน็ อนพุ นั ธขุ์ อง pyrazinecarboxamide มีท้ังชนิดกนิ และฉีด เปน็ ยาต้านไวรัสทีม่ ขี ายอยแู่ ลว้ เพ่ือ ใช้รกั ษาไข้หวดั ใหญ่ในญ่ีปนุ่ ต้ังแต่ พ.ศ. 2557 ผลิตโดย บริษทั ยาญป่ี นุ่ Fujifilm Toyama Chemical บางคร้งั ถูก เรยี กวา่ “Japan flu drug” มกี ารวจิ ยั การใช้กับการตดิ เชอื้ ไวรสั ชนิดอนื่ ๆด้วย กลไกการกาจัดไวรัส นา่ จะเกิดจากยับยงั้ การทางาน ของเอน็ ซยั ม์ RNA-polymerase ซง่ึ จาเป็นในการเพ่มิ จานวนของไวรัสชนิดRNA มงี านวจิ ัยอ่นื ชี้แนะว่ายาฟาวริ ิ- พาเวียร์ ทาใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลง RNA ของไวรัส ทาให้ ไวรสั หมดฤทธ์ิ ไดเ้ ริ่มทดลองการใช้ยาฟาวพิ ิราเวียร์รกั ษาโรคโควิด-19 ในประเทศจีน ตัง้ แตก่ มุ ภาพันธุ์ 2563 และ ขยายไปวจิ ัยใน ประเทศอ่ืน เชน่ ญป่ี ุ่น อติ าลี ผลในเบอื้ งตน้ ช้แี นะวา่ นา่ จะมี ประสิทธภิ าพและความปลอดภัยดี ตอ้ งรอผลการวิจัยต่อไป 1.5 ยารกั ษาไขห้ วดั ใหญ่ ยายมู ฟิ โี นเวยี ร์ (Umifenovir, ArbidolR) ยายูมฟิ โี นเวียร์ (อารบ์ ดิ อลR) เปน็ ยากนิ ผลิตโดยบริษัท ยาของรสั เซีย เป็นยาตา้ นไวรสั ไข้หวัดใหญ่ ท่ีใช้มานาน แลว้ ในประเทศรัสเซยี และประเทศจีน ๕๒

25-05-63 มีฤทธติ์ อ่ ไวรัสหลายชนิด ทัง้ ชนิดท่มี แี ละไมม่ ีเยอ่ื หุม้ (enveloped virus และ non-enveloped virus) ออกฤทธ์ิ โดยการสกดั กนั้ การเช่อื มตอ่ ของไวรสั กับผนังเซลล์ (anti- fusion) ทาใหไ้ วรสั เขา้ เซลล์ไม่ได้ มีงานวิจัยขนาดใหญ่ในคน ดา้ นการรกั ษาโควดิ -19 ท่ี เมืองซีเจียง ประเทศจนี เพอื่ ประเมินประสทิ ธภิ าพ และความ ปลอดภัยของการฉดี recombinant cytokine gene-derived protein ร่วมกับยมู ฟิ ีโนเวยี ร์ และคาเลทราR เพ่ือดผู ลรวม ของการกระตนุ้ ภมู ติ า้ นทาน และ ยังมี งานวิจยั ในคน ขั้นตอนท่ี 4 ทปี่ ระเทศจีน เปรียบเทียบ 3 กลุ่ม ทีใ่ ช้ยูมฟิ ี โนเวยี ร์ขนาด 200 มก. หรือ 400 มก. เพม่ิ เขา้ ไปกับยาต้าน ไวรัสท่ีใช้อยเู่ ป็นมาตรฐาน โดยกลุ่มทใ่ี ช้ยาตา้ นไวรัส มาตรฐานเป็นกลมุ่ ควบคมุ 1.6 ยาเรมเดซเิ วยี ร์ (Remdesivir) ยาเรมเดซิเวียร์ ผลิตโดย บริษัท Gilead Sciences ประเทศอเมริกา เคยทดลองกับเชอื้ ไวรัสอโี บลาแลว้ พบวา่ ได้ผลเพียงเลก็ น้อย ยาเรมเดซิเวียร์ เป็นสารที่คล้ายกับนิวคลิโอไทด์ ชนิด อะดีโนซีน (adenosine analog) สอดเข้าไปใน RNA ของ ไวรัส ทาให้ RNA ผิดปรกติ และไมส่ ามารถผลิตสาเนาได้ การวิจยั ในห้องทดลอง พบว่ายาเรมเดซิเวียร์ยบั ยง้ั การ เพิ่มจานวนของไวรัสชนิด RNA ทาใหไ้ วรัสโคโรนาท่ีเขา้ ๕๓

25-05-63 เซลลแ์ ล้วเพิ่มจานวนไมไ่ ด้ ซึง่ ได้พิสจู น์แล้วกับไวรสั ทีท่ า ให้เกดิ โรคซารส์ และ เมอร์ส การทดลองในสัตวพ์ บว่ายา ชนิดน้ปี ้องกนั และรกั ษาการติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา ท้ังสาย พันธทุ์ ที่ าให้เกดิ โควิด-19 ซารส์ และเมอร์ส ขณะนี้ ยาเรมเดซเิ วยี ร์เปน็ ยาทีใ่ ช้รกั ษาผปู้ ่วยโควดิ -19 ในอเมริกา และมกี ารวจิ ัยขนาดใหญใ่ นคนทป่ี กั กง่ิ ประเทศ จีน ในขัน้ ตอนที่ 3 ด้วยการทดลองแบบสุม่ และมีกลุ่มควบคุม ซง่ึ ควรจะสรปุ ผลไดใ้ นเร็วๆนี้ 1.7 ยา EIDD-2801 EIDD ยอ่ จาก Emory Institute of Drug Development สหรฐั อเมรกิ า เป็นรหัสของยาใหมท่ ีย่ งั ไม่ไดต้ ้งั ชอ่ื EIDD-2801 เปน็ ยากนิ ผลการทดลองกับเซลลจ์ าก ปอด และทางเดินหายใจของคน ดูเหมอื นว่าจะได้ผลต่อ ไวรสั โควิด-19 ยาชนิดน้ีอาจจะสกดั ไวรัสโคโรนา รวมท้ัง ไวรสั โควดิ -19 ได้ดกี วา่ เรมดซิ ิเวียร์ เป็นยาทีเ่ ปน็ ความหวงั ในขณะน้ี EIDD-2801 ทาใหไ้ วรัสผลติ สาเนาที่ผิดปรกติ โดยสอด ชน้ิ สว่ นของยนี ที่ได้ทาใหผ้ ิดปรกติ เข้าไปใน RNA ของ ไวรัส และเมื่อ RNA สรา้ งสาเนา ก็ไดส้ าเนาท่ีผิดปรกติซงึ่ ไมส่ ามารถก่อการตดิ เช้ือทีเ่ ซลล์ ยานี้จึงเปน็ ยาที่มฤี ทธ์ิกว้างขวางต่อไวรสั RNA หลายชนดิ ซึ่งคาดว่าจะใช้ได้กับไวรสั RNA ท่อี าจจะกลายพันธต์ุ ่อไป อกี ด้วย ๕๔

25-05-63 กลา่ วกนั ว่า ถา้ จะเปรยี บเทียบกบั การระบาดของไข้หวดั ใหญส่ ายพันธุ์ใหม-่ 2009 ยา EIDD-2801 เปรยี บได้กบั ยา โอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir, TamifluR)ในช่วงนน้ั แต่ยัง ตอ้ งรอผลการวจิ ยั ในคนก่อนวา่ ปลอดภยั และไดผ้ ลดีจรงิ ไหม ซ่ึงกาลงั จะดาเนินการโดย นกั วิจัยจาก Emory University, UNC Chapel Hill and Vanderbilt University Medical Center in Nashville สหรฐั อเมริกา II. ยาลดการหลง่ั ไซโตไคน์ ในการเจบ็ ป่วยจากการตดิ เช้อื นนั้ บางครงั้ จะเกิดปฏกิ ิริยา จากระบบภมู ติ า้ นทาน เช่น DIC, hemophagocytic syndrome, systemic inflammatory response syndrome (SIRS) และ cytokine storm syndrome (CSS) หรอื เรียกว่า “พายไุ ซ- โตไคน์” ซีง่ เปน็ ภาวะท่รี ุนแรงและเกิดขน้ึ รวดเร็ว เกดิ การ อกั เสบของเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย ผปู้ ่วยมอี าการรุนแรง และอตั ราตายสูง ไซโตไคน์ เป็นสารสาคญั ในระบบภมู ติ ้านทานปรกติ ของมนุษย์ แตถ่ ้าหล่งั ออกมามากๆในทนั ทีทาใหเ้ กดิ อันตราย ได้ “พายุไซโตไคน์” อาจเกดิ จากการติดเช้ือ โรคแพ้ภมู ิ ตนเอง หลังการรกั ษาบางชนดิ เปน็ สาเหตุของการเกดิ โรค โควิด-19 ทร่ี ุนแรง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ภาวะปอดอกั เสบ ๕๕

25-05-63 2.1 ยาโทซลิ ิซแู มบ (tocilizumab, ActemraR) ยาโทซลิ ิซแู มบ ผลิตโดยบรษิ ัทโรช (Roche) ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ เป็นยากดภูมิต้านทาน (ชนิด monoclonal antibody) โดยปิดกนั้ ไมใ่ ห้เกดิ การหล่งั ไซโตไคนช์ นิดอินเตอรล์ คู นิ -6 (interleukin 6, IL-6) ในร่างกาย ใชใ้ นการรกั ษาโรครูมา ตอยด์ และ “พายุไซโตไคน์” ในคนไข้มะเรง็ บรษิ ัทโรชไดเ้ ร่มิ ทดลองใช้ยาโทซิลฟิ แู มบ ในการรว่ ม รักษาโรคโควิด-19 กับการรกั ษามาตรฐาน ในผู้ปว่ ยทมี่ ี ปอดอกั เสบ เมื่อมีนาคม 2563 โดย โดยเปรียบเทยี บการใช้ ยาโทซลิ ซิ ูแมบ กับ ยาหลอก ขณะน้ี มโี ครงการวจิ ัยการรกั ษาผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ 15 โครงการ ในประเทศจีน สหรัฐอเมรกิ า และทวปี ยโุ รป ทั้งมี กลุ่มเปรียบเทยี บ หรือ ไมม่ กี ล่มุ เปรียบเทียบ 2.2 ยาซารลิ แู มบ (sarilumab, KevzaraR) ยาซาริลแู มบ ผลิตโดยบรษิ ทั Sanofi สหรฐั อเมริกา คลา้ ยกับยาโทซิลซิ ูแมบ คือ เป็น monoclonal antibody ยบั ยง้ั การหลงั่ ไซโตไคน์ชนิดอินเตอร์ลวิ คิน-16 (IL-6) ใช้ รกั ษาโรคข้ออกั เสบจากโรคภมู ิตา้ นทานตนเอง เชน่ รูมาตอยด์ ขณะนี้ กาลงั อยใู่ นการวิจัยในคน ระยะที่ 3 และกาลัง ปรบั การวิจัยมงุ่ เฉพาะการรว่ มรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทอี่ าการ หนักเท่านั้น โดยเฉพาะผู้ปว่ ยท่มี ภี าวะ “พายไุ ซโตไคน์” ๕๖

25-05-63 2.3 ยารโู สลทิ นิ ิบ (ruxolitinib, JakaviR ) ยารูโสลทิ ินิบ ผลิตโดยบรษิ ัท Novartis, Incyte สวสิ เซอร์- แลนด์ เปน็ ยาทใี่ ช้รักษาโรคทเี่ กดิ จากภูมติ ้านทานตนเอง เช่นเดียวกับยาโทซลิ ซิ ูแมบ และยาซาริลูแมบ แต่คนละ กลุ่มกนั ขณะนี้มีการวิจัยในคนในการรกั ษาโรคโควดิ -19 ในผู้ป่วยทม่ี อี าการหนัก และมีภาวะ “พายไุ ซโตไคน์” ที่ ประเทศแคนาดา และเม็กซโิ ก III. ยาลดการอกั เสบของทางเดินหายใจ 3.1 ซิเคลอโซไนด์ (Ciclesonide inhalation, AlvescoR) เปน็ กลโู คคอตคิ อยด์ (glucocorticoid) ชนิดพน่ ใช้รกั ษา โรคหอบหดื และ จมกู อกั เสบจากภูมิแพ้ ผลติ โดยบริษัท Takeda ประเทศญ่ีปนุ่ ใช้มาแล้วสิบกวา่ ปี ยาซิเคลอโซไนด์ ถกู เปลย่ี นเป็นสารที่ออกฤทธิค์ อื des- ciclesonide (des-CIC)โดยเอน็ ซยั มเ์ อสเทอเรสที่อยู่ในเซลล์ ซง่ึ สามารถจับกับตัวรับกลโู คคอตคิ อยดท์ ่ีผนงั เซลลไ์ ดด้ มี าก ออกฤทธิไ์ ดด้ ีกว่ากลโู คคอติคอยด์ที่รา่ งกายสรา้ งเอง ทมี แพทย์จากโรงพยาบาลอาชกิ ะราคามิ ประเทศญี่ป่นุ ไดร้ ายงานการรกั ษาผู้ป่วย 3 คนซึง่ มีการตดิ เชื้อโควดิ -19 และมีปอดอกั เสบรุนแรง ท่รี ับมาจากเรือสาราญ ไดมอนด์ พรินเซสส์ โดยใช้ยาซิเคลอโซไนด์ ชนดิ พน่ เข้าทางเดนิ หายใจ พบวา่ ช่วยรกั ษาใหห้ ายได้ หลังจากน้นั ใช้รกั ษา ๕๗

25-05-63 ผูป้ ว่ ยอกี 10 ราย และ ขณะนไี้ ด้มีการวิจัยการรักษาในคน อยา่ งเปน็ ระบบทญ่ี ปี่ ่นุ และเกาหลี ท้งั น้ี น่าจะเปน็ ผลจากการ ลดการอกั เสบของปอด และ ยับย้งั การเพม่ิ จานวนของไวรสั วคั ซนี ป้องกนั โควดิ -19  การวจิ ยั เพอ่ื พฒั นาวคั ซนี ชนดิ ใหม่ มขี ้นั ตอนโดยทัว่ ไป ดังนี้ 1. การวิจยั ในหอ้ งปฏบิ ัติการ และในสัตวท์ ดลอง (Pre- clinical stage) 2. การวิจยั ในคน (Clinical trial) 3. การพิจารณาและอนมุ ตั ิตามกฎระเบียบ (Regulatory review and approval) 4. การผลติ วคั ซนี (Manufacturing) 5. การควบคมุ คุณภาพ (Quality control) I. การวจิ ยั วคั ซนี ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และในสตั วท์ ดลอง เพอ่ื ให้ไดข้ ้อมลู ของวคั ซนี ท่จี ะทดลอง ทางฟิสกิ ส์ เคมี และ ชีวภาพ ตลอดจนตวั ชวี้ ดั ความปลอดภยั และการสรา้ งภูมิ ตา้ นทานในสตั วท์ ดลอง รวมท้งั การเตรียมการวิจยั ในคน II. การวจิ ยั วคั ซนี ในคน แบ่งออกเปน็ 4 ระยะ ระยะที่ 1 (Phase I) (Safety, tolerability and immunogenicity) ศกึ ษาความปลอดภัย การรับได้ และ การสรา้ งภูมิคุ้มกนั ใน ผใู้ หญ่ทสี่ ขุ ภาพดีจานวนไม่กี่สิบคน ๕๘

25-05-63 ระยะท่ี 2 (Phase II) (Safety and immunogenicity) ศึกษาในคนจานวนมากข้นึ ท่ีมีลักษณะคล้ายประชากรที่จะใช้ วคั ซนี นน้ั เพอ่ื จะไดข้ อ้ มลู เบือ้ งตน้ เกยี่ วกบั การสรา้ งภมู ิคุ้มกัน ระยะที่ 3 (Phase III) (Protective efficacy and safety) ศกึ ษาในคนเพ่มิ ข้ึนเปน็ หลายพนั คน เพ่อื ดูประสิทธภิ าพใน การปอ้ งกนั โรคและความปลอดภัย พร้อมกับเตรยี มการผลติ และการขออมุมตั ติ ามตามกฎระเบียบ เพ่ือจะผลติ มาใชต้ อ่ ไป ระยะที่ 4 (Phase IV) (Effectiveness, long-term immunity and safety) การตดิ ตามผลหลังจากวัคซีนออกสู่ตลาดแล้ว  วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคตดิ เชือ้ มหี ลายลกั ษณะ ได้แก่ 1. Inactivated (Killed) v. คือ เชอ้ื โรคท่ีตาย หรอื ถกู ทาให้ หมดฤทธิ์ เชน่ วคั ซนี โรคพษิ สนุ ขั บ้า ตับอกั เสบชนิดเอ และ วัคซีนโปลโิ อชนิดฉดี (IPV) 2. Attenuated v. คือ เชอ้ื โรคที่มชี ีวติ แต่ถูกทาให้ออ่ นฤทธิ์ เชน่ วคั ซนี โปลโิ อชนดิ กนิ (OPV) และวัคซีนโรคคางทูม หดั หดั เยอรมนั (MMR) 3. Toxoid v. คือ สารพษิ จากแบคทเี รยี ที่ถกู ทาให้หมดฤทธ์ิ เชน่ วคั ซนี บาดทะยกั คอตบี 4. Subunit v. คือ สว่ นใดสว่ นหนึ่งของเชอ้ื โรค เชน่ วัคซีน ตบั อักเสบชนดิ บี ท่ีใชส้ ่วนแอนติเจนที่ผิว(surface antigen) ๕๙

25-05-63 5. Conjugated v. คอื วัคซีนท่ีเปน็ โพลีแซคคาไรด์แอนติเจน ซ่งึ สร้างภมู ติ ้านทานไดไ้ ม่ดี ตอ้ งใช้โปรตนี มารว่ มดว้ ย เชน่ วคั ซีนนิวโมคอคคสั วคั ซนี ฮบิ (Hib) 6. Heterotypic v. คือวัคซีนจากเชื้อโรคอืน่ ทคี่ ลา้ ยคลงึ กัน แต่ไม่กอ่ โรคในคนปรกติ เช่น วคั ซนี BCG ป้องกนั วณั โรค มาจาก M. bovis ซ่งึ กอ่ โรคเตา้ นมอกั เสบในววั ในขณะที่ วณั โรคในคนเกดิ จาก M. tuberculosis 7. Experimental v. คอื การผลิตวคั ซนี ด้วยวิธกี ารใหมท่ ่ี กาลงั อยู่ในข้นั ตอนพัฒนา เชน่ RNA vaccine, recombinant vector vaccine  วคั ซนี โควดิ -19 ทก่ี าลงั วจิ ยั WHO ไดร้ วบรวมข้อมลู พบวา่ ขณะนี้ (22พค.63) มี วัคซีนโควดิ -19 ทีก่ าลงั วิจัยทั่วโลก ประมาณ 124 ชนิด 1. การวจิ ยั ในขนั้ ตอนการวิจยั ในคน ระยะที่ 1-2 จานวน 10 โครงการ ไดแ้ ก่ วคั ซนี ชนดิ RNA v., non- replicating virus vector v., inactivated v., และ protein subunit v. 2.การวจิ ยั ในขัน้ ตอนการวจิ ยั ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และการ ทดลองในสตั ว์ จานวน 114 โครงการ ไดแ้ ก่ วัคซีนชนิด DNA v., inactivated v., live-attenuated v., protein subunit v., VLPC (virus subunit particle) ๖๐

25-05-63  วคั ซนี ชนิด RNA (RNA vaccine) เปน็ กระบวนการผลติ วคั ซนี แบบใหม่ เรมิ่ ทดลองวธิ ีน้ีมา หลายปี ในการหาวคั ซนี ป้องกันการติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา เชน่ โรคซารส์ และกาลงั ใช้วิธีนเี้ พ่อื หาวคั ซีนโควดิ -19 หากสาเรจ็ จะไดว้ คั ซีนทผ่ี ลติ จานวนมากได้ง่ายกว่าวิธดี ั้งเดมิ สถาบนั วัคซีนแห่งชาติ ร่วมกบั มหาวทิ ยาลยั จุฬาลงกรณ์ และกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ กาลังดาเนนิ การวิจัยวคั ซนี โควดิ -19 โดยวิธีนี้ ขณะน้อี ย่ใู นระยะการทดลองในสัตว์. วัคซีนชนดิ RNA ประกอบดว้ ย mRNA ของไวรัสชนิด สงั เคราะห์ (synthetic mRNA) ซง่ึ มีรหสั การสรา้ งสไปค์ โปรตนี (spike protein) เม่ือมนษุ ย์ไดร้ ับวคั ซนี น้ี ไรโบโซม (ribosome)ซึ่งเปน็ เครื่องสาเนาไวรัส จะอ่านรหัสจากmRNA ชนิดสังเคราะห์น้ี และสร้างสไปค์โปรตีน ซึ่งจะกระตนุ้ การ สรา้ งภมู ติ ้านทานตอ่ สไปค์ (SARS-CoV-2 spike protein antibody) ป้องกันไม่ใหไ้ วรัสเกาะจบั ทผ่ี วิ เซลล์ mRNA เปน็ ตวั นารหสั ในการผลิตโปรตนี เพ่ือจะผลิต สาเนาของไวรัสต่อไป สไปค์โปรตนี หรอื S-protein เป็นโปรตนี ท่ีเยือ่ หุ้มไวรัส ชนดิ เดียวทท่ี าหน้าท่ีนาทางเข้าเซลล์ โดยจบั กบั ตวั รับทผ่ี ิว เซลล์และหลอมรวมเขา้ ด้วยกัน (fusion) ขณะนี้ มีการวิจัยวัคซีนโดยวธิ นี ้ีหลายโครงการ รวมทง้ั ในประเทศไทย ทง้ั ที่อยูใ่ นข้นั ตอนการทดลองในสตั ว์ และ การทดลองในคน ระยะที่ 1-2 ๖๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook