Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ ๑ หลักการเกษตรอินทรีย์ (2)

หน่วยที่ ๑ หลักการเกษตรอินทรีย์ (2)

Published by Mam Sup-a-nan, 2019-08-25 10:38:13

Description: หน่วยที่ ๑ หลักการเกษตรอินทรีย์ (2)

Keywords: organic principle ,plant organic

Search

Read the Text Version

ระยะปรบั เปลี่ยน เปนเกษตรอินทรีย พื้นทผี่ ลติ ตอ งพน ระยะ พืชลมลกุ และพชื ไร ใชเ วลา กรณีสงออกไปสหภาพยุโรป ปรับเปล่ียนตามมาตรฐาน ปรับเปลย่ี น 12 เดอื น* กอน ผลผลิตจงึ จะ ถือวา พืชลม ลกุ และพืชไร ใชเวลา ไมย ืนตน ใชเวลา ปรบั เปลี่ยน 24 เดือน* เปนผลผลิตอินทรีย ปรบั เปลีย่ น 18 เดอื น ไมย นื ตนใชเวลา ปรบั เปลีย่ น 36 เดือน

ระยะปรบั เปล่ยี น เปน เกษตรอินทรยี  กรณีใชส ารตองหามมากอน มกท.และ มกษ. อาจเพิ่ม/ลด ตองบันทกึ และมหี ลกั ฐานใน ปรบั เปนระบบอินทรยี  ระยะปรับเปล่ียนได ตามประวัติ การปฏบิ ตั ิตามมาตรฐาน ผลผลติ ตอ งเก็บเกยี่ ว การใชส ารเคมี หรือ การปฏิบตั ิ เกษตรอินทรยี ท สี่ ามารถ ตามระบบเกษตรอินทรียอ ยาง หลงั จากหยดุ ใช 36 เดือน ตรวจสอบได เครงครัด

ชนิดและพนั ธขุ องพชื ปลกู เมล็ดพันธุและสวนขยายพนั ธพุ ชื ทน่ี ํามา ปลูก ตอง ผลิตจากระบบ เกษตรอนิ ทรยี  กรณีหาไมไ ด. .. อนุโลมใหใ ช  เมลด็ พนั ธแุ ละสวนขยายพนั ธพุ ชื จากแปลงที่ ไดรับการรบั รองระยะปรับเปล่ยี น หรอื แปลงที่ ไดรบั การรบั รองเกษตรอนิ ทรียแบบมีสวนรว ม  เมลด็ พนั ธุทีม่ คึ ลกุ สารเคมี หรอื ตอ งลางเมลด็ สารเคมอี อกจากเมล็ดกอนทําการเพาะปลูก

ชนดิ และพันธขุ องพืชปลูก เมล็ดพนั ธแุ ละสวนขยายพันธพุ ืช ทน่ี าํ มา ปลกู ตอง ผลิตจากระบบเกษตรอินทรยี  กรณหี าไมไ ด... (ตอ )  อนญุ าตใหใ ชเ มลด็ พันธุขางตนไดในกรณี ตอ ไปน้ี  ไมม ีผจู าํ หนาย  มกี ารพิสจู นว า พนั ธทุ ต่ี องใชเ ปน สายพนั ธุ ทจี่ ําเพาะไมเคยมีการผลติ ในระบบอินทรีย และผผู ลิตพันธุ ตองไดรับอนุญาตจาก มกท.  เกิดเหตุสดุ วิสัย/ภัยธรรมชาติทที่ าํ ให เมลด็ /สวนขยายพนั ธอุ ินทรียเ สียหาย

ความหลากหลาย ของพืชในฟารม • การณปี ลูกพชื ลม ลกุ ตอ งปลูกพืชแบบ หมนุ เวยี น เพอ่ื ลดการระบาดของโรค แมลง และ วัชพชื รวมถงึ การปลกู พชื บํารุงดนิ • กรณีปลูกไมย ืนตน ตองมพี ืชอ่นื ๆปลูก รว มดวย เชน พืชคลุมดนิ หรอื พชื ลมลุกอายหุ ลายป เชน กลวย มะละกอ

การผลติพชคื ขู นาน/ Parallel production ตองปองกนั การปะปนพชื ทไ่ี มอยู พืชท่ีปลูกในแปลงเกษตรทั่วไปที่ ในระบบการผลิตแบบอนิ ทรียได ปลกู คขู นาน ตอ งไมเ ปนชนดิ อยางชดั เจน เดยี วกบั พืชในแปลงอนิ ทรีย กรณีปลกู พืชยืนตน ทีข่ ยายพ้นื ทก่ี าร ผลิตใหม (อยูในระยะปรบั เปลีย่ น) โดย ผูผลิตตอ ง...  ตอ งแจงแผนการผลิตตอ มกท.  มีบนั ทึกการผลติ และการเกบ็ เกย่ี ว ทีห่ องกันการปะปน  ตองทําพื้นท่ีขยายใหเปน อินทรีย ภายใน 5 ป

การจัดการดนิ น้ํา และ ปุย Soil, Water, and Fertilizer Management ควรปรบั pH ของดินให ไมควรใหพ ื้นท่ีวา งเปลา ควรปลกู พชื บํารงุ ดนิ กอน หลกี เลยี่ งการใช เหมาะสมกับพืชทีป่ ลกู ควรปลูกพชื คลมุ ดิน ทาํ การเพาะปลกู เครอื่ งจักรขนาดใหญ ควรมกี ารอนรุ ักษและใชน ํา้ ควรมกี ารปลูกพืชหมนุ เวียน อยางมีประสิทธภิ าพ ปองกันดนิ เค็ม/เสื่อม

การปรับปรุงบาํ รุงดนิ ตองใชอินทรยี วตั ถภุ ายในฟารม สารปรับปรงุ ดินตอ ง หา มใชป ยุ คอกสด กบั หามใชป ุย จากอจุ จาระ ใหเ กิดประโยชนส ูงสดุ และนาํ เขา เปน ไปตามรายการท่ี พชื ท่ีมโี อกาสปนเปอน ของมนษุ ยและปุยหมัก มาจากภายนอกนอ ยทีส่ ุด อนญุ าติเทานน้ั กบั สว นท่บี ริโภค จากขยะเมอื ง

การปรับปรงุ บํารุงดิน กรณีใชม ูลสัตวจ ากภายนอก อนุญาตใหใชปยุ หมัก ทง้ั ที่ นาํ ปุยหมกั จากภายนอก ตองเปนการเลีย้ งแบบปลอ ย และ ผลิตเองและจากภายนอก ที่มา หรือมวี สั ดุทเ่ี สยี่ งตอ การ จากอินทรียวัตถุตามทกี่ ําหนด ปนเปอนโลหะหนกั มกท. แจง แหลงท่มี าให มกท. ทราบ อาจใหน าํ ปยุ ไปตรวจกอนใช เทานั้น การใชป ยุ ท่ีเปน ธาตอุ าหาร อนุญาติใหใ ชจ ุลนิ ทรีย หามใช Chilean Nitrate รอง จะอนุญาตเม่ือพชื มกี าร เพอ่ื การปรับปรุงดนิ แต และปุยไนโตรเจนสงั เคราะห ไมใหใ ชจลุ ินทรยี  GMO ทุกชนดิ รวมถงึ ปยุ ยูเรีย ขาดธาตอุ าหารรองอยาง ชดั เจน และตองแกป ญ หา ดว ยวิธีอื่นกอ น

การอนรุ ักษดนิ และนํ้า หามเผา อนิ ทรียวตั ถุ ยกเวนเหตุจาํ เปนในการ ทาํ ลายศัตรูพชื และการทําไรห มุนเวียนในท่สี งู ไมอ นุญาตใหขนยา ยดนิ ออกจาก ปอ งกนั การชะลาง พังทลาย ฟารม ยกเวนติดไปกบั ผลผลติ ของหนาดิน ดวยการปลูกพืช กรณมี ีการเล้ียงสตั วใ นพื้นท่ี ตอ งมี ขวางแนวลาดเอยี ง การจัดการทงุ หญาท่ีไมทาํ ใหดนิ เสือ่ ม ตองมีมาตรการปองกันดินเค็ม หรือมผี ลกระทบตอ แหลง นํ้า

การปองกนั กําจดั ศัตรูพชื /โรคพชื /วชั พชื Prevention and Control of Disease, Insect and Weed . หามใชสารเคมีสงั เคราะหทุกชนดิ ใหใชก ารปอ งกนั กําจดั ดว ยชวี วธิ ี

การปอ งกนั /กําจดั ศตั รูพืชดวย “ชวี วธิ ”ี  ใชต วั หาํ้ ตัวเบียฬ  ปลกู พืชไลแมลง เชน ดาวเรือง ตะใครห อม  หลกี เล่ยี งการปลกู พชื ชนดิ เดิม ซ้ําๆ ควรปลกู พชื หมุนเวียน พชื รวม หรือ พชื คลุมดิน

มาตรการ ชีววธิ ี เพิ่มเติม  ระบบการผลติ ตองเอือ้ ตอ ความสมดุลของ ส่ิงมชี ีวติ  การใชส ารปอ งกันศตั รูพชื ตอ งไดร ับ อนญุ าตตาม มกท.***  หามใชผ งซกั ฟอกและสารจับใบทุกชนิด  อนญุ าตใหใ ช “วิธกี ล” แตตองคํานงึ ถึง สมดลุ ของระบบนิเวศ  อนุญาตใหใ ชค วามรอนในการอบฆาเช้ือได เฉพาะในโรงเพาะชาํ  อนญุ าตใหใช พลาสตกิ คลุมดิน/มุงกัน แมลง ทีท่ ําจาก PP/ PE เทา น้ัน  สารท่ี มกท. อนญุ าตใหใชในการดกั ลอ แมลง จะตองจัดการไมใหสัมผัสพืชท่ีปลกู และปนเปอ นในสิง่ แวดลอ ม

สารเรงก ารเจรญเิ ตบโิ ตและสารอนๆ่ื / Growth Hormones and Others  หา มใช สารเคมี สังเคราะหในการเรง การ เจริญเตบิ โตทุกสว นของ พชื  หา มใชส ีสังเคราะหใน การยอมสผี ลไม  สารเรง การเตบิ โตที่ อนญุ าตใหใ ช ระบุไวใ น ภาคผนวก ***

การปอ งกนั การปนเปอ น Protection of contamination  การปอ งกนั การปนเปอนจากแปลงขางเคียง ตองทําแนวกนั ชนกวาง > 1 เมตร โดยมลี กั ษณะดงั น้ี  การปนเปอ นทางอากศ ปลกู พชื แนวกนั ลม และตอ งเปน พชื คนละชนิด/พันธุ กับพชื อนิ ทรีย  การปนเปอนทางน้ํา ตอ งทําคนั ดินลอ มรอบแปลง  การณีมคี วามเสี่ยงในการปนเปอนสารเคมี/โลหะหนกั ในดนิ และนํา้ ผูผลติ ตอ ง ตรวจสอบเพ่อื ยนื ยนั ความปลอดภัยดวย

การปอ งกนั การปนเปอ น Protection of contamination  กรณมี คี วามเสีย่ งตอการปนเปอ น GMO ผูผลิตตองมีหนังสือรบั รอง/ขอ มูล ยืนยันความปลอดภัย จากความเสย่ี งน้ี  หามใชเคร่ืองมอื ฉดี พน สารปองกัน กาํ จัดศัตรพู ชื ปะปนกบั การผลิตแบบเคมี  กรณีใชเ คร่อื งเก็บเก่ียวรวมกับเกษตรเคมี ตอ งทําความสะอาดอยางดกี อน นาํ มาใชกบั ผลผลิตอนิ ทรีย  ตองแยกเก็บปจจัยการผลิตออกจากกันอยางชัดเจน

การเก็บเกย่ี วและการปฏบติ ัหลิ ังการเกบ็ เกยี่ ว การปฎบิ ตั ิหลังเกบ็ เกย่ี ว การรวบรวม การคัด ตัดแตง Harvest and Post Harvest Management แปรรูป และ บรรจุ  ทกุ ข้นั ตอนการเก็บเกี่ยวและการปฏิบัตหิ ลงั เก็บเก่ยี วตอ ง หมวด 7 ฉลากและการ ใชตรารับรองเกษตร ไดรบั การตรวจสอบและรับรองจาก มกท  ถาผผู ลติ จะทาํ การแปรรูปเองในครัวเรือน ตอ งมวี ัตถดุ ิบ อนิ ทรยี  อนิ ทรยี ใ นฟารม ไมตาํ่ กวา 95% ตองแจง ให มกท. รบั รองพรอ มกบั การตรวจรบั รองฟารม  กรณใี ชวตั ถดุ ิบภายนอกฟารม ตองขอรับรองการจัดการ แปรรปู เพิม่ เติมจาก มกท.ดว ย  กรณีใชต รารับรับรอง/ฉลาก “เกษตรอนิ ทรยี ” ตอง ปฏิบัติตามมาตรฐาน หมวด 7 ดว ย

การปลูกพชใื นโรงเรอื น/ Protected cropping  ญาตใิ หใ ชแ สงสวา งเพ่อื การขยายพนั ธุห รือทดแทนแสงธรรมชาติ ไมเกนิ 16 ชม./วนั  ผผู ลติ ตองมกี ารบันทึกการพลงั งานภายในฟารม และดแู ลการใชพ ลงั งานใหมปี ระสิทธิภาพ

การปรบัปรงุ พนัธพุชือนิทรย/์ี Breeding of organic varieties *** ใชเฉพาะกรณที ่ีผูประกอบการมกี ารปรบัปรงุพนั ธุ พชื อนิ ทรยี เ ทาน้นั  พนั ธพุ ชื และวิธีเพาะขยายพนั ธตุ องเปนไปตามมาตรฐาน เกษตรอินทรียห รือเทียบเทา ยกเวน การเพาะเลยี้ เนอื้ เยือ่  พันธุพชื ตอ งไมปนเปอนพืช GMOs  ผปู รบั ปรุงพันธตุ อ งเปดเผยวิธีการทีใ่ ช ใหส าธารณะไดรับ ทราบ  หามใชวิธแี ทรกแซงจโี นม เชน การฉายรังสี การดดั แปล DNA/RNA หรอื โปรตนี  หา มใช เทคนิคการทรกแซงเซลลทที่ คี่ ดั แยกมาเลย้ี งบน อาหารเลย้ี งเชอ้ื

การเพาะเห็ด Mushroom Production  วสั ดเุ พาะตองไดม าจากระบบอนิ ทรียเทา นั้น (เศษพชื เศษขเ้ี ลอื่ ย มูลสัตว ดิน และนาํ้ )  ถา หามูลสัตวใ นระบบอินทรียไ มได ใหใชวสั ดุ ตามภาคผนวก ๑ ในสัดสว นไมเ กนิ ๒๕%

ขอบคณุ



การปรบั เปลี่ยนเขา สรู ะบบอนิ ทรีย 1 มหี ลักการตามมาตรฐานใด มาตรฐานหนง่ึ เปน หลักยดึ เชน IFOAM, USDA, JAS, Organic Thailand, PGS orgnic 2 ทําความเขาใจระบบ หลกั เกณ็ ฑ เงื่อนไขใหเขาใจเปนอยางดีกอ นลงมอื ทาํ 3 มีความตงั้ ใจจรงิ เชอ่ื มน่ั ในระบบเกษตรอินทรยี  ขยนั หม่ันเพยี ร ไมท อ ถอย 4 มีวนิ ัย ในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ/ ขอกําหนด อยา งถูกตอ ง ครบถวน 5 ตอ งไดร ับการตรวจรับรองมาตรฐาน จากหนวยตรวจรบั รองทไี่ ดม าตรฐาน

การเกษตรอนิ ทรียแบบองครวม (Wholistic Organic Farming) เปนระบบเกษตรกรรม ทร่ี วบรวมผสมผสาน ภมู ิ ปญ ญา วธิ ีทําการเกษตร ของคนยคุ โบราณ รวมทั้งหลักการแนวคดิ และวิธีการท่ีเปน ขอ ดีของ ระบบเกษตรกรรมทางเลอื ก และ เกษตรกรรม ยั่งยนื ที่มีประสทิ ธภิ าพตา งๆ จากท่วั โลก เขา กับ ความรวู ิทยาศาสตร เทคโนโลยี และการบรหิ าร จัดการทเี่ ปน ระบบของยุคปจ จุบนั ดวยความเขาใจ วถิ ขี องธรรมชาติ โดยมองวาทุกสิง่ ในธรรมชาตมิ ี ความเกยี่ วโยงเปน หนง่ึ เดยี ว

การเกษตรอนิ ทรยี แบบองครวม (Wholistic Organic Farming) ใหค วามสําคญั กบั ทุกองคประกอบของ ธรรมชาตทิ ีม่ ีผลตอ การเติบโตของพชื ท้งั ทีม่ องเหน็ และมองไมเ ห็น

Fully Editable Icon Sets: A You can Resize without losing quality You can Change Fill Color & Line Color FREE PPT TEMPLATES www.allppt.com

Fully Editable Icon Sets: B You can Resize without losing quality You can Change Fill Color & Line Color FREE PPT TEMPLATES www.allppt.com

Fully Editable Icon Sets: C You can Resize without losing quality You can Change Fill Color & Line Color FREE PPT TEMPLATES www.allppt.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook