หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ งานประดษิ ฐ์ คดิ สรา้ งสรรค์
สาระการเรยี นรู้ ๑. ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของงานประดิษฐจ์ ากวสั ดุเหลือใช้ ๒. วสั ดุเหลือใช้ ๓. อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานประดิษฐ์ ๔. การออกแบบงานประดิษฐอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ๕. หลกั การทางานประดิษฐ์ ๖. การประดิษฐข์ องใชห้ รือของตกแตง่ บา้ นจากวสั ดุเหลือใช้
ความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ อง งานประดิษฐจ์ ากวสั ดเุ หลือใช้ วสั ดุเหลือใช้ หมายถึง วสั ดุตา่ ง ๆ ท่ีเหลือจากการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจาวนั จาก ครวั เรือน จากการทาเกษตรกรรม จากรา้ นคา้ หรือสถานประกอบการตา่ ง ๆ ในชุมชน ซ่ ึงมีมากมายหลายชนิ ด งานประดิษฐว์ สั ดุเหลือใช้ หมายถึง การนาวสั ดุตา่ ง ๆ ท่ีเหลือจาก การอุปโภคบริโภคในชีวิตประจาวนั มาทาเป็นผลิตภณั ฑใ์ หม่ โดยการใชค้ วามคิด สรา้ งสรรคข์ องมนุษยม์ าสรา้ งหรือประดิษฐ์ ทาใหเ้ กิดคุณคา่ ทางความงามและ ใชป้ ระโยชนไ์ ดต้ ามวตั ถุประสงค์
๑. REFUSE ลดปริมาณขยะ ๓. RECYCLE ดว้ ยแนวคิด 7R การปฏิเสธหรื อหลีกเล่ ียงส่ ิงของ การแยกขยะท่ียงั ใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เชน่ หรือบรรจุภณั ฑท์ ่ีจะสรา้ งปัญหา ๒. REFILL พลาสติก แกว้ กระป๋ องอะลูมิเนียม ขยะ รวมทง้ั เป็นมลพิษตอ่ เพ่ือใหง้ า่ ยตอ่ การจดั เก็บ และสง่ แปรรูป ส่ิงแวดลอ้ ม เชน่ กลอ่ งโฟม หรือ การเลือกใชส้ ินคา้ ชนิดเติม หรือหลอมแลว้ ข้ึนรูปนามาใชใ้ หม่ ขยะมีพิษอ่ืน ๆ ซ่ึงใชบ้ รรจุภณั ฑน์ อ้ ยกวา่ ขยะก็จะนอ้ ยลง ๗. REUSE ๔. RETURN ๕. REPAIR ๖. REDUCE การนาบรรจุภณั ฑท์ ่ีใชแ้ ลว้ การเลือกใชส้ ินคา้ ท่ี กลบั มาใชใ้ หม่ เชน่ นา สามารถสง่ คืนบรรจุภณั ฑ์ การซอ่ มแซมเคร่ืองใช้ การลดการบริโภค ขวดโหลบรรจุขนมมาใชเ้ ป็น กลบั สูผ่ ูผ้ ลิตได้ เชน่ ขวด ใหส้ ามารถ ใช้ และหาทางเพ่ ิม ขวดโหลบรรจุน้าตาลทราย เคร่ืองด่ืมประเภทตา่ ง ๆ ประโยชน์ไดต้ อ่ ไป ประสิทธิภาพการใช ้ เป็ นตน้ งานส่ ิงของเคร่ ื องใช ้ โดยไมท่ ้ิงเป็นขยะ ตา่ ง ๆ
ประโยชนข์ องงานประดิษฐจ์ ากวสั ดเุ หลือใช้ ❖ ชว่ ยลดปริมาณขยะโดยนาขยะหรือของเหลือใชไ้ ปดดั แปลงใหเ้ กิดประโยชน์ ❖ ฝึกใหร้ ูจ้ กั ประหยดั ❖ สง่ เสริมการใชค้ วามคิดสรา้ งสรรค์ ในการสรา้ งส่ิงประดิษฐใ์ หม้ ีรูปรา่ งแปลกใหม่ ❖ กระตุน้ และสรา้ งจิตสานึกใหม้ ีสว่ นร่วมในการจดั การและแกป้ ัญหาขยะมูลฝอย ❖ ฝึกการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ❖ สรา้ งเสริมลกั ษณะนิสยั ใหม้ ีความอดทน มีระเบยี บวินยั ในตนเอง ❖ ฝึกใหร้ ูจ้ กั การวางแผนทางานอยา่ งเป็นระบบ ปฏิบตั ิงานเป็นขนั้ ตอน ❖ เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง ❖ เป็นแนวทางในการสรา้ งอาชีพ เพ่ิมพูนรายไดจ้ าก การนาส่ิงประดิษฐไ์ ปจาหน่ายในโอกาสตา่ ง ๆ
กระดาษ (Paper) ตวั อย่างงานประดิษฐจ์ ากวสั ดเุ หลือใช้ พลาสติก (Plastic) แกว้ (Glass) โลหะ (Metal)
เศษผา้ ตวั อย่างงานประดิษฐจ์ ากวสั ดเุ หลือใช้ (Scrap Fabric) วสั ดจุ ากพืช (Material of plants) วสั ดุจากสตั ว์ (Material of animals)
กรรไกร อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นงานประดิษฐ์ กรรไกรตดั ผา้ เป็นเคร่ืองมือท่ีใชส้ าหรับตดั วสั ดุตา่ ง ๆ เชน่ กรรไกรตดั ผา้ กรรไกรตดั กระดาษ กรรไกรตดั แผน่ โลหะ กรรไกรตดั ก่ิงไม้ ควรเลือกใชก้ รรไกรใหเ้ หมาะสมกบั งาน กรรไกรตดั กระดาษ กรรไกรตดั แผ่นโลหะ กรรไกรตดั กิ่งไม้
คตั เตอร์ อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานประดิษฐ์ คือ แผน่ ใบมีดบาง ๆ ซอ่ นในดา้ มจบั ท่ีทาจากพลาสติกหรือโลหะ เม่ือเวลาตอ้ งการ ใชง้ านตอ้ งดนั ใหใ้ บมีดเล่ือนออกมา ใชส้ าหรบั งานตดั หรือกรีดกระดาษ โฟม หรือวสั ดุ ท่ีไมแ่ ข็งเกินไป คตั เตอร์ คตั เตอรว์ งเวียน
คีม อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นงานประดิษฐ์ คีมปากขยาย ใชส้ าหรับการหนีบจบั ช้ินงาน หรือตดั วสั ดทุ ่ีไมแ่ ข็งมากนัก เชน่ สายไฟฟ้า ลวด คีม มีรูปร่างและขนาดตา่ ง ๆ กนั ตามลกั ษณะการใชง้ าน คีมปากจระเข้ คีมปากจ้ิงจก
เข็มเย็บผา้ อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นงานประดิษฐ์ ปื นยิงกาวซิลิโคน ใชเ้ ย็บผา้ เนาผา้ ตรึงผา้ หรือวสั ดชุ ้ินบาง ๆ ท่ีไมแ่ ข็งเกินไปใหต้ ิดกนั หรือรอ้ ยวสั ดุให้ ขนาดเล็ก เป็นเสน้ สาหรับยึดติดตกแตง่ กบั วสั ดอุ ีกช้ินหน่ึง เคร่ืองรีดกลีบดอกไม้ ใชร้ ่วมกบั กาวแทง่ ซิลิโคน เพ่ือชว่ ยยึดวสั ดใุ หต้ ิดกนั อยา่ งรวดเร็ว เป็นอปุ กรณท์ ่ีชว่ ยในการทาลวดลายบนผา้ กระดาษ หรือพลาสติก ในสว่ นท่ีตอ้ งการ ใหเ้ กิดลวดลายเลียนแบบธรรมชาติ
การออกแบบประดิษฐช์ ้ินงานควรนาหลกั ศิลปะมาใช้ ๑. ความเป็ นเอกภาพ (Unity) เป็นหลกั การสาคญั ของการออกแบบ หมายถึงการออกแบบใหเ้ กิดความเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั จดั องคป์ ระกอบใหม้ ีความสมั พนั ธเ์ ก่ียวขอ้ ง กนั อยา่ งลงตวั สามารถส่ืออารมณค์ วามรูส้ ึกและความหมายของช้ินงานไดง้ า่ ยและรวดเร็ว ๒. ความสมดุล (Balance) หมายถึง การจดั องคป์ ระกอบของช้ินงานใหเ้ กิดความรูส้ ึกวา่ แตล่ ะสว่ นมีน้าหนักตอ่ กนั โดยการรบั รูท้ างสายตา ความสมดุลมี ๒ ลกั ษณะ คือ ๒.๑ ความสมดุลแบบเทา่ กนั เป็นการประดิษฐท์ ่ีมีลกั ษณะซา้ ยขวาเหมือนกนั และเทา่ กนั ๒.๒ ความสมดุลแบบไมเ่ ทา่ กนั เป็นการประดิษฐท์ ่ีสรา้ งใหม้ ีสว่ นประกอบดา้ นซา้ ยและขวา ของช้ินงานท่ีไมเ่ ทา่ กนั และไมเ่ หมือนกนั แตด่ ูภาพรวมแลว้ มีน้าหนักหรือปริมาณของช้ินงานใกลเ้ คียงกนั ๓. ความกลมกลืน (Harmony) เป็นการออกแบบท่ีนาส่ิงท่ีใกลเ้ คียงกนั มาประกอบไว้ ดว้ ยกนั ใหด้ ูสวยงามเป็นทิศทางเดียวกนั โดยใชส้ ี รูปทรงของวสั ดุ เป็นตน้
การออกแบบประดิษฐช์ ้ินงานควรนาหลกั ศิลปะมาใช้ ๔. การซา้ (Repetition) หมายถึง การใชส้ ี เสน้ ลาย รูปทรงท่ีเหมือนหรือ ๕.คลา้ ยคลึงกนั ออกแบบงานประดิษฐใ์ หเ้ กิดความงาม การตดั กนั (Contrast) เป็นการนาส่ิงท่ีแตกตา่ งกนั มาก ๆ หรือตรงขา้ มกนั มาจดั ไวด้ ว้ ยกนั กอ่ ใหเ้ กิดความรูส้ ึกต่ืนเตน้ ดงั นั้น นักออกแบบจึงตอ้ งใชก้ ารตดั กนั บา้ ง อยา่ งพอประมาณเพ่ือใหเ้ กิดความสวยงาม ช้ินงานดูน่าสนใจย่ิงข้ึน เชน่ การใชค้ ูส่ ีตดั กนั ๖. การลดหลนั่ (Arrangement) การใชล้ กั ษณะพ้ืนผิววสั ดุท่ีตา่ งกนั เป็นตน้ ๗.หมายถึง การจดั ลาดบั หรือออกแบบ จุดเด่น (Dominance) ใหง้ านประดิษฐม์ ีความตา่ งชน้ั กนั เชน่ คือ จุดท่ีน่าสนใจท่ีสุด ควรมีเพียงจุดเดียวโดย เลือกตาแหน่งท่ีเหมาะสม ไมม่ ากหรือนอ้ ยเกิน เช่ือมตอ่ ช้ินงานจากขนาดเล็กไปขนาดใหญ่ ไป การสรา้ งจุดเดน่ ใหช้ ้ินงานทาไดห้ ลายวิธี เชน่ การจดั ลาดบั ช้ินงานใหม้ ีความสูง–ต่า จะชว่ ย ใหเ้ กิดความรูส้ ึกเคล่ือนไหว น่าสนใจ การใชส้ ี การใชว้ สั ดุท่ีตา่ งกนั การใชร้ ูปทรง ท่ีแปลกตามาประกอบช้ินงาน เป็นตน้
หลกั การทางานประดิษฐ์ ๑. ศึกษารายละเอยี ดของงานท่ีจะนา ๒. วางแผนการทางาน กาหนด มาประดิษฐใ์ หเ้ ขา้ ใจ คน้ ควา้ หาความรู้ ขน้ั ตอนการทางานใหส้ ะดวก รวดเร็ว เพ่ิมเติมเก่ียวกบั รูปแบบตา่ ง ๆ ของงานและเลือก ประหยดั เวลา แรงงาน คา่ ใชจ้ า่ ย ทาส่ิงประดิษฐใ์ หเ้ หมาะสมกบั ความรูค้ วามสามารถ และออกแบบรายละเอยี ดวิธีการ ของตนเอง และเป็นส่ิงท่ีสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ ประดิษฐไ์ วใ้ หค้ รบถว้ น เพ่ือความสะดวกใน ในชีวิตประจาวนั ได้ การปฏิบตั ิงาน ๓. จดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณท์ ่ีจะใชใ้ น ๔. ลงมือปฏิบตั ิงานตามขน้ั ตอนท่ี การทางานประดิษฐไ์ วใ้ หค้ รบถว้ นและใชใ้ ห้ วางแผนไว้ ขณะท่ีทาการประดิษฐ์ เหมาะสมกบั ท่ีออกแบบไว้ โดยทว่ั ไปการเลือก เม่ือเกิดปญั หาไมค่ วรทอ้ ถอย ควรปรึกษา วสั ดุมาใชใ้ นงานประดิษฐ์ นิยมเลือกใชว้ สั ดุท่ีมี ผูร้ ูแ้ ละควรพยายามตงั้ ใจปฏิบตั ิงาน อยูใ่ นทอ้ งถ่ิน หรือวสั ดุท่ีมีอยูภ่ ายในบา้ น ตอ่ ไปจนกวา่ งานจะสาเร็จ ซ่ึงหาไดง้ า่ ยและมีราคาถูก
การประดิษฐน์ กยงู วสั ดุอุปกรณ์ ๑. แผน่ โฟมเหลือใช้ ขนาดประมาณ ๗ x ๗ น้ิว ๑ แผน่ และขนาด ๔ x ๕ น้ิว ๒ แผน่ ๑. เศษกระดาษยน่ อยา่ งแบบสีฟา้ เขม้ ๒. ใบบางยอ้ มสีฟา้ สีฟ้าอมเขียว สีเหลืองและสีเขียว สีละประมาณ ๑๕ ใบ ๓. ถุงน้ายาปรับผา้ นุ่มหรือถุงขนมท่ีมีสีฟ้า สีเขียว สีมว่ ง และสีเหลือง ๕. ด้ินทอง ๖. ลวดพนั กา้ นดว้ ยกระดาษยน่ สีเขียวอมฟ้า ๗. กาวลาเท็กซ์ ๘. กรรไกร ๙. คตั เตอร์
การประดิษฐน์ กยงู วิธีทา ๑. วาดภาพโครงรา่ งตวั หงสล์ งบน ๔. เกลาแตง่ โฟมใหเ้ ป็นรูปหงสท์ ่ีมี กระดาษขาวใหม้ ีขนาดตามตอ้ งการ ความกลมกลึง ๒. วางแบบตวั หงสล์ งบนแผน่ โฟม ๕. ทากาวบนโฟมแลว้ ปิดดว้ ย แลว้ ตดั โฟมตามแบบ กระดาษยน่ ใหท้ ว่ั ตวั หงส์ แลว้ ปิดทบั ดว้ ยใบบางสีฟา้ อกี ชน้ั หน่ึง ๓. นาเศษแผน่ โฟมมาทากาวแลว้ ๖. ขดด้ินทองเป็นรูปหยดน้าขนาด ประกบทงั้ สองขา้ ง เพ่ือเพ่ิมความหนา ของตวั หงส์ ตา่ ง ๆ ทากาวแลว้ นาไปติดบนถุง ขนมบริเวณสีท่ีตอ้ งการ เม่ือกาวแหง้ ตดั ถุงขนมตามแนวด้ินทอง
การประดิษฐน์ กยูง วิธีทา ๗. ทากาวบนลวด วางทาบบนใบ ๑๐. แยกขนาดขนนกแลว้ เร่ิมติด บางขดด้ินทองใหห้ ยกั ตามแนวลาด ขนนกจากสว่ นหาง โดยใหส้ ว่ นปลายหยกั เป็นรูปหยดน้า ความยาวของขนนกตา่ ง ๆ กนั ไป ๑๑. ติดขนนกไลร่ ะดบั จากสว่ น สว่ นขนนกขนาดสนั้ ๆ ใหข้ ดด้ินเป็น รูปหยดน้าสน้ั - ยาวไลข่ นาดกนั ไป หางข้ึนไปหาสว่ นลาคอ แตง่ ทรงขน แลว้ ตดั ใบบางตามแนวด้ินทอง นกใหส้ วยงาม ๘. แยกประเภทและขนาดขนนก ๑๒. ติดใบบางรูปหยดน้าบริเวณ เพ่ ื อสะดวกในการหยิบใช ้ ลาตวั นกยูงใหแ้ ตล่ ะชนั้ สบั หวา่ งกนั ๙. เรียงถุงขนมสีตา่ งๆ ท่ีขลิบ ๑๓. ตดั ใบบางเป็นรูปหยดน้าขนาด ด้ินทองเป็นรูปหยดน้าใหซ้ อ้ นกนั ประมาณ ๑/๒ ซม. ๑๐ ช้ิน นาใบบาง๒ ช้ินทากาว นาไปแตง่ ปลายขนนก เฉพาะแบบ ประกบกนั โดยมีลวดแทรกอยูต่ รงกลาง ขลิบริมดว้ ย ขนนกขนาดยาว ด้ินทองทง้ั ๒ ดา้ นทาทง้ั หมด ๕ ช้ิน แลว้ นาไปเสียบ บนหวั นกยูงใหเ้ รียงกนั เป็นแผง ติดตาทาขานก โดยนากระดาษยน่ สีน้าตาลพนั ลวดใหห้ นาพองาม เสียบติดท่ีสว่ นทอ้ งของนกยูง
การประดิษฐด์ อกไมจ้ ากขวดพลาสติก วสั ดุอุปกรณ์ แบบท่ี ๑ ๑. ขวดน้าพลาสติกชนิดขาวขุน่ จานวน ๓ ใบ ๒. ลวดพนั กา้ นความยาวตามตอ้ งการ ๓. เย่ือกระดาษหรือกระดาษทิชชู ๔. ฟลอร่าเทป ๕. ลูกปดั ขนาด ๑๐ มิลลิเมตร จานวน ๖ เม็ด ๖. กาวแทง่ ซิลิโคน ๗. ปื นยิงกาว ๘. กรรไกร ๙. เคร่ืองรีดกลีบดอกไม้
การประดิษฐด์ อกไมจ้ ากขวดพลาสติก วิธีทา ๑. วาดแบบกลีบดอกไมข้ นาดตาม ๔. ประกอบดอกโดยเร่ิมติดกลีบ ตอ้ งการใหม้ ีขนาดกลีบเล็ก กลาง ดอกขนาดเล็กใหต้ ่าจากปลายลวด และใหญ่ ลดหลน่ั กนั ไป ประมาณ ๑/๒ ซม. โดยใชก้ าวรอ้ น ชนั้ ท่ี ๑ และชน้ั ท่ี ๒ ติดกลีบเล็กชนั้ ๒. วางแบบตดั ลงบนขวดบริเวณ ละ ๓ กลีบ ชน้ั ท่ี ๓ และชนั้ ท่ี ๔ ติด กลีบขนาดกลางชน้ั ละ ๓ กลีบ ชนั้ ท่ี ผิวเรียบไมม่ ีลวดลายหรือสีหมึกพิมพ์ ๔ และชน้ั ท่ี ๕ ติดกลีบขนาดใหญ่ วาดแบบ แลว้ ตดั ขวดพลาสติกตาม ชน้ั ละ ๓ กลีบ โดยติดกลีบดอกแตล่ ะ แบบขนาดละ ๖ กลีบ ชนั้ ใหส้ บั หวา่ งกนั ๓. ใชเ้ คร่ืองรีดกลีบดอกไมช้ นิด ๕. หยดกาวท่ีปลายลวดซ่ึงอยู่ ๒ ร่อง รีดกลีบจากปลายกลีบ กลางดอก แลว้ นาลูกปดั มาเสียบติด ดา้ นบนเขา้ หาโคนกลีบดอกใหก้ ลีบ ใหแ้ น่น ดอกพล้ิวสวยงาม
การประดิษฐด์ อกไมจ้ ากขวดพลาสติก วิธีทา ๖. ตดั ทิชชูเป็นเสน้ ยาว ใชพ้ นั ๘. ดอกไมท้ ่ีประดิษฐแ์ ลว้ พรอ้ ม เสริมกา้ นดอกใหโ้ คนดอกเป็น นาไปใชต้ กแตง่ ช้ินงานตามตอ้ งการ กระเปาะ และกา้ นดอกกลมกลึง ๗. ใชฟ้ ลอร่าเทปพนั ทบั ทิชชูให้ กา้ นดอกเรียบเนียน
การประดิษฐด์ อกไมจ้ ากขวดพลาสติก วสั ดอุ ุปกรณ์ แบบท่ี ๒ ๑. ขวดน้าพลาสติก ๓ ใบ ๒. เศษเชือกฟางเลือกใชส้ ีตามตอ้ งการ ๓. ลวดพนั กา้ นความยาวตามตอ้ งการ ๔. เย่ือกระดาษหรือกระดาษทิชชู ๕. ฟลอร่าเทป ๖. เมล็ดพืชหรือดอกไมแ้ หง้ ทรงกลมท่ีมี เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ ๑/๒ น้ิว เชน่ ดอกตะแบก ๗. กาวแทง่ ซิลิโคน ๘. ปื นยิงกาว ๙. กรรไกร
การประดิษฐด์ อกไมจ้ ากขวดพลาสติก วิธีทา ๑. ตดั ขวดพลาสติกเป็นรูป ๓. นาดอกไมแ้ หง้ เสียบติดท่ีปลาย กลีบดอกไมต้ ามแบบท่ีตอ้ งการ ลวดแลว้ ติดกลีบดอกไมใ้ หร้ อบโคน เกสร ดว้ ยกาวซิลิโคน พนั ทบั ดว้ ย ๒. ตดั เชือกฟางยาว ๒ ๑/๒ ดา้ ยใหแ้ น่นอีกคร้ัง ใชท้ ิชชูพนั เสริม กา้ นดอกใหส้ วยงาม แลว้ พนั ทบั ดว้ ย เทา่ ของความยาวกลีบดอก ฟลอร่าเทปใหส้ วยงาม หุม้ กลีบดอกใหม้ ิดแลว้ ใชด้ า้ ย มดั รวบเชือกฟางบริเวณโคน ๕. นาดอกไมไ้ ปเขา้ ชอ่ กลีบดอกใหแ้ น่น แลว้ นาไปใชต้ กแตง่ ตามตอ้ งการ เชน่ นาไปจดั แจกนั ดอกไม้
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: