บทที่3

การผลิต(Productiบoทnท่ี)3http://gg.gg/UnitS3

1. ความหมายของการผลติ กระบวนการ (Process)ในการแปรรูปปจั จยัการผลติ เข้ากับวตั ถุดบิ โดยหน่วยการผลติเพ่ือให้เกดิ การเป็นสินค้าและบรกิ ารต่างๆ นาไปสนองความต้องการของมนษุ ย์ปัจจยั การผลติ หนว่ ยการผลติ ผลผลิต วตั ถดุ ิบ

2. การสรา้ งอรรถประโยชน์1. อรรถประโยชนท์ ่ีเกดิ จากการเปล่ยี นรูป (Form Utility) คือ การเปล่ยี นแปรงรปู ร่างไปจากเดมิ และ ทาใหส้ นองความต้องการของมนุษย์ให้ มากขึ้น เชน่ เปลี่ยนแปง้ เป็นขนมปัง เปล่ียนไม้เปน็ โต๊ะ เปลยี่ นเหลก็ เป็นรถยนต์

2. อรรถประโยชน์ท่ีเกดิ จากการเปล่ยี นสถานท่ี (Place Utility) การเคลอ่ื นย้ายสินคา้ และบรกิ ารจากสถานท่ีหน่ึงไปยงั อกี สถานท่หี น่ึงเพื่อใหส้ นองความต้องการของมนุษย์ไดม้ ากขนึ้เชน่ การนาไมม้ าจากปา่ มาในกรุงเทพฯ การขนสง่ เงาะจากจงั หวัดจันทบรุ ีไปยังกรงุ เทพฯ

3. อรรถประโยชน์ท่เี กิดจากการเปลี่ยนเวลา (Time Utility) การรกั ษาสินค้าจนกว่าจะมีผู้ต้องการ เชน่ พอ่ คา้ ขายส่งเก็บสินคา้ ไวใ้ น โกดัง เมอ่ื เหน็ วา่ สนิ คา้ ขาดตลาด ราคาก็จะสงู ขนึ้ จึงนาออกมาขาย หรือการเก็บไวนผ์ ลไมไ้ วน้ านๆ จน รสชาตดิ ีและเปน็ ท่ีต้องการมากขนึ้

4. อรรถประโยชนท์ ีเ่ กดิ จากการเปลย่ี นกรรมสิทธิ์ (Possession Utility) การทาใหท้ รพั ย์สนิ เปลีย่ นมือจากผูห้ นึ่งไปยังอีกผหู้ นึง่ เชน่ นายหน้าตดิ ต่อขายบา้ นและท่ีดินจนกระทั่งมกี ารซอื้ ขายกรรมสทิ ธิ์จากอีกคนหนึง่ ไปยังอีกคนหนง่ึ

2. การสร้างอรรถประโยชน์5. อรรถประโยชนท์ ่เี กดิ จากการใหบ้ รกิ าร (Service Utility) เปน็ การสร้างอรรถประโยชนท์ ี่มองไมเ่ หน็ รปู รา่ ง เช่น ให้คาปรกึ ษาของทนายความ การเดินทางโดยใช้มอเตอรไ์ ซคร์ บั จ้าง ชา่ งตดั ผมใหล้ ูกคา้

3. ปัจจัยการผลิต ท่ดี ิน แรงงาน ทนุ ผู้ประกอบการ องคป์ ระกอบทใ่ี ชใ้ นการผลติ สินคา้ และบรกิ ารเพอ่ื ใหเ้ กดิ สินค้าและบริการ ปัจจยั การผลิตแบง่ ออกเปน็ 4 ประเภท ได้แก่ทดี่ นิ หรือทรพั ยากรธรรมชาติ แรงงานทนุ และการประกอบการ

4. การผลติ ขนาดใหญ่ เปน็ การผลิตทต่ี ้องใชเ้ ครื่องจกั ร เครอ่ื งท่นุ แรง การจดั การและวิทยาการทันสมัยเขา้ ชว่ ย เพือ่ ผลิตสินค้าให้ไดค้ ราวละมากๆ สนองตอบความต้องการของประชาชนท่เี พมิ่ มากขนึ้ สินคา้ ทีผ่ ลิตได้มีราคาถกู เพราะการผลติขนาดใหญ่สามารถปรหยัดค่าใช้จ่ายไดม้ าก

5. ลาดับชนั้ ในการผลติ1. การผลิตข้ันประถม(Primary Production) การผลติ ที่ใชท้ รัพยากรธรรมชาติ เปน็ ปจั จยั สาคญั ไดแ้ ก่ การผลิต ทางด้านเกษตร เชน่ การเพาะปลูก การเลีย้ งสตั ว์ การปา่ ไม้ การประมง

5. ลาดบั ชนั้ ในการผลิต2. การผลติ ขน้ั มธั ยม (Secondary Production) การผลิตทน่ี าเอาผลผลิตทีไ่ ด้จากการผลิตขน้ั ประถมมาผลิตอีกต่อหน่ึงเพ่อื ให้เกิดเปน็ สินค้าและบริการชนดิใหม่ เช่น การนายางพารามาทาเปน็ ยางรถยนต์ การนาไม้มาทาเฟอรน์ เิ จอร์

5. ลาดบั ชน้ั ในการผลิต3. การผลิตขนั้ อดุ ม (Tertiary Production) เปน็ การให้บรกิ ารเพอื่ อานวยความสะดวกในดา้ นการบริการสขุ ภาพ การขนส่ง การเงนิ การธนาคาร การ ทอ่ งเท่ียว การประกนั ภัย

6. หนว่ ยการผลิต (Firm)หน่วยการผลิต คอื ผทู้ ่ปี ระกอบกิจกรรมการผลิตสินคา้ และบริการรวมท้ังการขนสง่ การนาจ่ายเพือ่ตอบสนอง ความต้องการของผบู้ ริโภค หน่วยการผลิตมที ง้ัขนาดเล็กและขนาดใหญ่

การประกอบการ แบ่งออกได้ 5 ประเภท 6.1 เจ้าของคนเดียว (Single Proprietorship) 6.2 ห้างหนุ้ ส่วน (Partnership) มบี ุคคลต้งั แต2่ คนข้ึนไป 6.3 บรษิ ัทจากดั (Corporation) ผรู้ ่วมลงทนุ ตงั้ แต่ 7คนข้นึ ไป 6.4 สหกรณ์ (Cooperative) 6.5 รฐั วิสาหกิจ (Government Enterprise)