แผนการจัดการเรียนการสอนโดยสงั เขป (Course Outline) รายวิชา วทิ ยาการคำนวณพืน้ ฐาน รหสั วชิ า ว 32109 ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 หอ้ ง ม.5/1 - ม.5/16 ครปู ระจำวิชา 1. นายชวลิต แสงศริ ทิ องไชย ห้อง ม.5/1 - ม.5/9 (ชื่อที่ระบุในตาราง) 2. นายสุรจิตร โลหะมาศ ห้อง ม.5/10 - ม.5/16 (ช่อื ทรี่ ะบุในตาราง) 3. นางสาวนภาพร พละศักดิ์ ห้อง ม.5/1 - ม.5/9 นิสิตฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู 4. นายอันเดรยี ส คลมี ้าชคา ห้อง ม.5/10 - ม.5/16 นิสติ ฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู คำชี้แจง 1. ครผู ้สู อนบนั ทึกเอกสารฉบับน้ีทุกรายวิชา และทุกกจิ กรรมทตี่ นเองรับผดิ ชอบตามคำส่ังปฏิบัติการสอน 2. ครูผู้สอนทุกท่านสามารถเปิดฐานการเรียนร้ใู นคาบลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น 1 คน/1 ฐาน หรือ 1 คนสามารถเปดิ ฐานการเรยี นรู้ ไดท้ ง้ั ม.1, ม.2 และ ม.3 จำนวนนักเรียนฐานละ 15-40 คน 3. สำหรบั ครูทส่ี อนในระดบั ม.ตน้ ต้องเปิดฐานการเรยี นรูอ้ ยา่ งน้อย 1 ฐาน ส่วนครูทส่ี อนระดบั ม.ปลาย สามารถเปิดฐาน การเรยี นรูไ้ ดต้ ามความสมัครใจ หรือตามอตั รากำลงั ท่ีกล่มุ สาระกำหนดในคำส่งั ปฏิบัติการสอน 4. ครูทเี่ ปิดฐานการเรยี นรูส้ ามารถเพ่ิมเป็นอตั รากำลังตามคำสัง่ ปฏบิ ัติงานสอน คือ 1 คาบของฐานการเรยี นรเู้ ทา่ กับ 1 ช่ัวโมง ลงชอ่ื ........................................................ ลงชือ่ ........................................................ ลงชอ่ื ........................................................... ลงชอื่ ........................................................... (นางสาวนภาพร พละศกั ดิ์) (นายอนั เดรยี ส คลมี า้ ชคา) (นายชวลิต แสงศริ ทิ องไชย) (นายสรุ จติ ร โลหะมาศ)
คำอธิบายรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 32109 รายวิชา วิทยาการคำนวณพน้ื ฐาน สาระที่ 4 เทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ศึกษาหลักการของวิทยาการข้อมลู และหลักการคิดเชงิ ออกแบบเพ่ือเพ่ิมมลู คา่ ให้บริการหรอื ผลติ ภณั ฑ์ วิธีการเกบ็ ข้อมลู และเตรียมขอ้ มูล การวเิ คราะหข์ ้อมูล การ ประมวลผลข้อมลู เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการประมวลผลข้อมลู การจัดเก็บข้อมลู การนำเสนอข้อมูล การแปลงขอ้ มลู ใหเ้ ป็นภาพ การเลอื กใชข้ ้อมูลจาก ฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ การใช้ประโยชนจ์ ากขอ้ มูลและตวั อย่างกรณ๊ศึกษา ตวั ชวี้ ดั ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมูล และใช้ความรดู้ า้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่อื ดิจิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศในการแก้ปัญหาหรอื เพิ่มมลู ค่าใหก้ บั บริการหรอื ผลติ ภัณฑ์ที่ ใช้ในชวี ติ จริงอย่างสร้างสรรค์
รหสั วชิ า ว 32109 รายวชิ า วิทยาการคำนวณพ้ืนฐาน ตารางวิเคราะหค์ ำอธิบายรายวชิ า เวลา 20 ชวั่ โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 0.5 หน่วยกิต ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรม 1. รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู - การนำความรดู้ ้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทลั และเทคโนโลยีสารสนเทศมาแก้ปัญหากบั ชีวิตจรงิ ศกึ ษาปฏบิ ัติ และใช้ความรดู้ ้านวิทยาการ - การเพิ่มมูลคา่ ให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ แบบทดสอบ คอมพวิ เตอร์ สื่อดิจทิ ัล - การเกบ็ ข้อมูลและการจัดการเตรียมขอ้ มลู ให้พร้อมกบั การประมวลผล เทคโนโลยสี ารสนเทศในการ - การวเิ คราะห์ข้อมลู ทางสถติ ิ แกป้ ญั หาหรือเพ่ิมมลู คา่ - การประมวลผลขอ้ มลู และเคร่อื งมือ ใหก้ บั บริการหรือผลิตภณั ฑท์ ี่ - การทำข้อมูลใหเ้ ป็นภาพ (data visualization) เช่น barchart, scatter, histogram ใช้ในชีวติ จริงอยา่ งสรา้ งสรรค์ - การเลือกใช้แหล่งข้อมลู เช่น data.go.th, wolfram, OECD.org, ตลาดหลักทรัพย์, word economic forum - คุณค่าของขอ้ มูลและกรณศี ึกษา - กรณีศกึ ษาและวิธกี ารแกป้ ัญหา - ตัวอย่างปัญหา เช่น - รปู แบบของบรรจภุ ัณฑ์ท่ดี งึ ดูดความสนใจ และตรงตามความต้องการผู้ใช้ในแตล่ ะประเภท - การกำหนดตำแหน่งปา้ ยรถเมล์เพ่ือลดเวลาเดนิ ทางและปญั หาการจราจร - สำรวจความต้องการรับประทานอาหารในชุมชน และเลอื กขายอาหารท่ีจะได้กำไรสูงสุด
ตวั ช้วี ัด กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 32109 รายวชิ า วิทยาการคำนวณพ้ืนฐาน ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ........................................................................................................................................................................................................................................................ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูล และใชค้ วามรูด้ า้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สอ่ื ดจิ ทิ ัล เทคโนโลยสี ารสนเทศในการแกป้ ัญหาหรือเพิ่มมลู ค่าให้กับบริการ หรอื ผลิตภณั ฑท์ ่ีใช้ในชวี ิตจรงิ อย่างสรา้ งสรรค์
รหัสวิชา ว32109 โครงสร้างการจัดหน่วยการเรยี นรู้ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณพ้ืนฐาน นำ้ หนกั คะแนน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด จำนวน (ชั่วโมง) 10 10 1 ขอ้ มูลมีคุณค่า ว 4.2 ม.5/1 3 20 10 2 การเก็บรวบรวมและสำรวจข้อมูล ว 4.2 ม.5/1 4 10 สรุป/ทบทวน (สอบกลางภาค) ว 4.2 ม.5/1 - 10 30 3 การวเิ คราะห์ข้อมลู ว 4.2 ม.5/1 5 100 4 การทำข้อมูลให้เปน็ ภาพและการสอื่ สารด้วย ว 4.2 ม.5/1 8 ขอ้ มลู คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ -- สรุป/ทบทวน (สอบปลายภาค) ว 4.2 ม.5/1 - รวม 20
โครงสรา้ งแผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 2/2562 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี แผนการจดั การเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั จำนวน (ช่วั โมง) 1. ขอ้ มลู มีคณุ ค่า ว 4.2 ม.5/1 1 - ผ.1 ปฐมนเิ ทศ ว 4.2 ม.5/1 1 2. การเกบ็ รวบรวมและสำรวจข้อมูล - ผ.2 ข้อมูลมีคณุ คา่ ว 4.2 ม.5/1 1 3. การวิเคราะห์ข้อมูล - ผ.3 รู้จักกับวิทยาการข้อมลู และแนวคดิ เชงิ ออกแบบ - ทบทวน/ทดสอบ ว 4.2 ม.5/1 4 4. การทำข้อมูลใหเ้ ป็นภาพและการ - ผ.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล สื่อสารดว้ ยข้อมลู - ทบทวน/ทดสอบ 2 - ผ.5 การวิเคราะห์เชิงพรรณนา 3 - ผ.6 การวเิ คราะหเ์ ชิงทำนาย - ทบทวน/ทดสอบ 1 - ผ.7 การสื่อสารด้วยข้อมลู 3 - ผ.8 การทำข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพอย่างเหมาะสม 1 - ผ.9 ข้อความระวงั ในการนำเสนอขอ้ มูล 3 - ผ.10 การเลา่ เรื่องราวจากข้อมลู - ทบทวน/ทดสอบ
ตารางกำหนดน้ำหนักคะแนน กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว32109 รายวิชา วิทยาการคำนวณพ้ืนฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต หน่วย หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ ความรู้ (K) การวดั /ประเมนิ ผล กลางภาค รวม การ ตัวช้ีวัด ระหวา่ งเรียน ปลายภาค เรยี นรทู้ ี่ 5 25 ว 4.2 ม.5/1 5 ทักษะ คุณลกั ษณะ 25 1 ขอ้ มลู มีคุณค่า ว 4.2 ม.5/1 5 (P) (A) 10 5 20 2 การเก็บรวบรวมและสำรวจข้อมูล ว 4.2 ม.5/1 5 10 5 20 3 การวิเคราะห์ข้อมูล ว 4.2 ม.5/1 5 10 4 การทำข้อมลู ให้เป็นภาพและการสอ่ื สารด้วยข้อมูล 20 5 10 100 5 10 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5 รวมทั้งส้ินตลอดภาคเรยี น 20 30 10 20 10
1 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ชน้ิ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชือ่ เรื่อง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล 1 1 ปฐมนิเทศ การปฐมนิเทศรายวิชา ดา้ นความรู้ (K) ว 4.2 ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน 1.สอื่ - สังเกตจากการตอบ 1.1 ส่อื ประกอบการสอน คำถาม คอื การแนะนำขอบข่าย 1. นกั เรียนมีความรคู้ วาม ม 5/1 1. ครูกล่าวทักทายนกั เรียนและแนะนำตวั เองเพื่อสรา้ งความคนุ้ เคย จากนัน้ Microsoft PowerPoint - สงั เกตพฤตกิ รรมของ 1.2 แบบทดสอบก่อนเรยี น นกั เรยี นระหว่าง รายวิชา และวิธีการเรียนการ เขา้ ใจเกีย่ วกับขอบเขตของ ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ออนไลน์ Google Forms เรือ่ ง วิทยาการคำนวณพ้ืนฐาน สอนในรายวิชา ว 32109 เนอ้ื หา จดุ ประสงค์การ ขนั้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิทยาการคำนวณพืน้ ฐาน เรียนรู้ เกณฑก์ ารวดั และ 2. ครชู แี้ จงขอบเขตเนอ้ื หา มาตรฐานตวั ชว้ี ัด เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล 2. แหล่งเรยี นรู้ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ประเมนิ ผลในรายวิชา ว และข้อตกลงในการใช้ห้องเรยี นคอมพวิ เตอรใ์ ห้นักเรียนทราบ 2.1 ห้องเรียนออนไลน์ Google Classroom มาตรฐาน ตัวช้ีวดั การวัด 32109 วทิ ยาการคำนวณ 2.2 สืบค้นอินเทอร์เน็ตจาก www.google.co.th และประเมนิ ผลผู้เรียน รวม พ้นื ฐาน ขัน้ สรปุ ผลการเรียนรู้ ไปถงึ การสรา้ งข้อตกลงในช้ัน ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 3. สุ่มถามนักเรียน 2 – 3 คน เกี่ยวกบั รายวิชา ว 32109 วิทยาการคำนวณ เรยี น ซ่งึ เปน็ แนวทางในการ 1. นกั เรียนปฏิบตั ิตาม พืน้ ฐาน วา่ นักเรียนมีความเขา้ ใจมากน้อยเพียงใด ทีจ่ ะทำให้นกั เรยี นบรรลุ ระเบียบขอ้ ตกลงในช้ันเรียน วตั ถุประสงคท์ ต่ี งั้ ไว้ ได้อย่างเหมาะสม ดา้ นคุณลักษณะ (A) 1.นกั เรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบ เอาใจใส่ และมเี จตคติทีด่ ีต่อ รายวิชา ว 32109 วทิ ยาการ คำนวณพน้ื ฐาน 2 2 ขอ้ มลู มีคุณค่า ยุคของข้อมลู และ ดา้ นความรู้ (K) ว 4.2 วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es - ใบกจิ กรรมที่ 1. สื่อ - ตรวจกิจกรรมที่ 1.1 สารสนเทศ เป็นยุคของการ 1. นกั เรยี นสามารถบอก ม 5/1 Instructional Model) 1.1 ข้อมลู ช่วย 1.1 ส่ือประกอบการสอน - ตรวจสอบผลคะแนน ใชข้ อ้ มูล ทีม่ อี ยู่จำนวน ความหมายของขอ้ มลู และ ชั่วโมงท่ี 1 ชุมชนและโลก Microsoft PowerPoint บทที่ จากแบบทดสอบหลัง มหาศาล มาสร้างมูลคา่ ให้ สารสนเทศได้ ขนั้ นำ อย่างไร (ออนไลน์ 1 เรื่อง ข้อมลู มีคุณค่า เรียน เกดิ ประโยชน์กบั บุคคล หรือ ด้านทักษะกระบวนการ (P) ขน้ั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) Google Form) 1.2 ใบกิจกรรมท่ี 1.1 ข้อมลู - สังเกตพฤติกรรมของ องคก์ ร การจะใชป้ ระโยชน์ 1. นักเรยี นสามารถคน้ หา 1. ครใู ห้นกั เรียนทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ขอ้ โดยใช้ Kahoot - แบบทดสอบ ชว่ ยชมุ ชนและโลกอย่างไร นักเรียนระหวา่ งเรียน และรวบรวมจากแหลง่ ข้อมูล (ออนไลน์ Google Form) จากข้อมลู เพือ่ เพ่ิม บนเว็บไซตเ์ พอ่ื แกป้ ัญหา 2. ครูตัง้ คำถามชวนคดิ “นกั เรยี นดูภาพน้ีแลว้ สามารถอธิบายเก่ียวกบั กอ่ นเรยี น 1.3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประสทิ ธภิ าพการทำงาน 2. นักเรยี นสามารถสื่อสาร รายได้ หรือสภาพเศรษฐกิจของประชากรของประเทศไทยไดอ้ ยา่ งไร” (แนว (ออนไลน์ (ออนไลน์ Kahoot) หรอื การใชช้ ีวติ ของตนเอง และนำเสนอขอ้ มูลผลลัพธ์ใน ตอบ : จากภาพสามารถแบง่ รายได้ของประชากรตามภูมิภาค แบง่ ออกเป็น 6 Kahoot) 1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น จะต้องนำข้อมูลท่เี กบ็ รูปแบบของตนเอง ภูมภิ าค ได้แก่ 1. ประชากรทางภาคเหนอื มีรายได้ประมาณ 15000-20000 บาท - แบบทดสอบ (ออนไลน์ Quizizz) รวบรวมดว้ ยตนเอง หรอื อาจ 2. ประชากรทางภาคกลางมรี ายได้ประมาณ 25000-30000บาท 3.ประชากรทาง หลังเรยี น นำขอ้ มลู ทุตยิ ภูมิทีม่ ผี ู้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือมรี ายไดป้ ระมาณ 15000-20000 บาท 4. ประชากรทาง (ออนไลน์ 2. แหล่งเรยี นรู้ 1. นกั เรียนมคี วาม ภาคตะวันออกมีรายได้ประมาณ 30000 บาท 5. ประชากรทางภาคตะวนั ตกมี 2.1 ห้องเรียนออนไลน์ Google รวบรวมหรอื สรปุ ไวแ้ ล้ว มา รับผิดชอบและมเี จตคตทิ ี่ดี รายไดป้ ระมาณ 15000 บาท 6. ประชากรทางภาคใตม้ รี ายไดป้ ระมาณ 30000 Quizizz) Classroom ผา่ นกระบวนการประมวลผล ตอ่ รายวชิ าวิทยาการคำนวณ บาท) 2.2 สืบค้นอินเทอรเ์ นต็ จาก ข้อมลู ให้เป็นสารสนเทศ พ้นื ฐาน 3. ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกับ Data Analytics “องคก์ รทง้ั ภาครฐั และภาค www.google.co.th นอกจากนก้ี ารนำเสนอขอ้ มูล ธุรกิจ ลว้ นแลว้ แตใ่ ชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู เพอื่ นำไปสกู่ ารตัดสนิ ใจในการแก้ปัญหาท่ี ดว้ ยภาพ และเร่อื งราวบน อาจไม่สามารถแกไ้ ขไดใ้ นอดตี กระบวนการวิทยาการข้อมูลมกี ารนำขอ้ มูลท่ี พ้ืนฐานของขอ้ มูล จะทำให้ เก่ยี วขอ้ งมาวเิ คราะห์ (data analytics) เพือ่ อธิบายคน้ หาคำตอบ หรอื ทำนาย ผ้อู ื่นเข้าใจ เห็นความสำคัญ ปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึน การทำขอ้ มูลให้เป็นภาพ (data visualization) หรือการเลา่ และคุณค่าของข้อมลู เร่อื งราวท่เี กดิ จากขอ้ มลู (data story telling) ทำให้ผ้ใู ชไ้ ด้รบั ความรู้และเขา้ ใจได้ งา่ ย” ขนั้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
2 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ชิ้นงาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ช่อื เร่อื ง สาระสำคัญ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล 4. ครเู ปิดรปู ภาพแผนทกี่ ระดาษ vs ระบบแผนทีน่ ำทาง อ่นื ๆ ใหน้ ักเรียนดู พรอ้ มถามนกั เรียนว่า “นักเรียนเหน็ ความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างจาก 2 ภาพนี”้ (แนวตอบ : รูปภาพท่ี 1 จะแสดงตำแหนง่ ของสถานท่ีต่าง ๆ แต่จะไมแ่ สดงข้อมูล การจราจรทเี่ ป็นปจั จบุ ัน ทำใหผ้ ู้ใช้ไม่สามารถวางแผนการเดินทางได้ แต่ระบบแผนท่ี นำทาง (Global Positioning System : GPS) นอกจากจะแสดงตำแหน่งของ สถานที่ตา่ ง ๆ แล้ว ยงั มีข้อมลู เก่ียวกบั สภาพการจราจร ระยะเวลาท่ตี อ้ งใช้ในการ เดนิ ทางถึงจดุ หมาย ชว่ ยทำให้ผู้ใช้วางแผนการเดินทางไดอ้ ย่างแม่นยำ เปน็ การ ประหยัดทงั้ เวลาและคา่ ใช้จ่าย) 5. ครูอธบิ ายกับนักเรยี นว่า “การจดั เก็บข้อมูลมกี ารเปลยี่ นแปลง จากแบบเดมิ ทำ ให้การนำข้อมลู มาใช้ไม่สะดวก ไม่ทันกาล สญู หายง่าย แตก่ ารจดั เก็บขอ้ มลู ใน รูปแบบใหม่ รูปแบบดจิ ทิ ลั (digitization) และการพฒั นาการของการส่ือสารบน อินเทอรเ์ น็ต ช่วยทำใหผ้ ูใ้ ชส้ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลและสารสนเทศได้ทุกท่ที ุกเวลา” 6. นักเรียนศึกษา ค้นควา้ ขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ จากอินเทอร์เน็ตเก่ียวกบั Big data ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 7. ครูส่มุ นักเรยี น 2-3 คน ให้อธบิ ายเก่ยี วกบั Big data 8. ครูอธิบายความรูเ้ สริมจากเนื้อหาเพ่ือขยายความรู้เกยี่ วกับขอ้ มลู มีคา่ ด่ัง นำ้ มนั ดิบ Big data นักวทิ ยาศาสตรข์ ้อมลู (data scientist) วทิ ยาการ ข้อมลู ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 9. ครูยกตัวอย่างของการใชว้ ิทยาการข้อมลู ในชีวิตประจำวัน เพื่อประโยชน์ ในดา้ นตา่ ง ๆ เพ่ือให้นกั เรยี นเขา้ ใจมากข้ึน 10. ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามจากกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื ง ข้อมูลช่วยชุมชนและโลก อย่างไร โดยใช้ Google Form ขน้ั การสรุป ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 11. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียนจำนวน 10 ข้อ 12. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และตรวจสอบการสรา้ งช้ินงานของนักเรียน 3 3 ร้จู กั กับ “วทิ ยาการขอ้ มลู ” เป็น ด้านความรู้ (K) ว 4.2 ข้ันนำเข้าส่บู ทเรียน - ใบกจิ กรรมที่ 1. ส่ือ - ตรวจสอบใบกิจกรรม วทิ ยาการ 1.2 เธอชอ่ื อะไร 1.1 สอื่ ประกอบการสอน ที่ 1.2 เธอช่อื อะไร ข้อมลู และ การศึกษาถึงกระบวนการ 1. นกั เรียนสามารถอธบิ าย ม 5/1 1. ครูทักทายนกั เรยี น เช็คชอ่ื เข้าเรียน Microsoft PowerPoint เรอ่ื ง - การสังเกตพฤตกิ รรม แนวคดิ เชงิ รจู้ กั กับวิทยาการข้อมลู และ ของนกั เรียนในระหว่าง วธิ ีการ หรือเทคนคิ ทีน่ ำ กระบวนการวิทยาการขอ้ มูล 2. ครูตงั้ คำถามเพ่ือกระตุ้นความสนในวา่ “นักเรยี นเคยรู้สึกตกหลมุ รกั ใคร ออกแบบ แนวคิดเชงิ ออกแบบ การทำงาน ขอ้ มลู จำนวนมหาศาล มา และแนวคดิ เชิงออกแบบได้ สักคนไหมคะ” (แนวตอบ : เคย/ไมเ่ คย) จากนั้นครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ความรู้ 1.2 Simulator KidBright : https://www.kid- ประมวลผล เพ่อื ใหไ้ ดอ้ งค์ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) เพอื่ เชอ่ื มโยงเข้าสบู่ ทเรียน bright.org/simulator/home ความรู้ เขา้ ใจปรากฏการณ์ 1. นักเรยี นสามารถสือ่ สาร 1.3 ใบกจิ กรรมที่ 1.2 เธอชือ่ สามารถตคี วาม ทำนายหรือ และนำเสนอข้อมลู ผลลัพธ์ใน ขั้นจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ อะไร พยากรณ์ คน้ หารูปแบบหรือ รูปแบบของตนเอง 3. ครเู สนอสถานการณ์ “จีจ้ีเป็นคนขีอ้ าย แต่ต้องการที่จะบอกความร้สู ึก แนวโน้มจากข้อมูล เพอื่ ของตนเองใหเ้ ปรมไดร้ ู้ จีจี้จึงบอกความร้สู ึกของตนเองโดยผ่านจอ LED” 2. แหล่งเรียนรู้ นำมาวเิ คราะห์ต่อยอดและ ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) 4. ครูสาธิตการเขียนโคด้ โดยใช้แบบจำลองเสมือนจริง KidBright ในการ บอกความรู้สึกผา่ นจอ LED แนะนำทางเลอื กทเ่ี หมาะสม ในการตัดสินใจ
3 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ช้นิ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชอ่ื เร่อื ง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล กระบวนการวทิ ยาการ 1. นักเรยี นมคี วาม 5. ครอู ธิบายเกีย่ วกับกระบวนการวทิ ยาการข้อมูลและแนวคดิ เชิงออกแบบ 2.1 ห้องเรียนออนไลน์ Google Classroom ข้อมลู ประกอบด้วย การต้งั รบั ผิดชอบและมเี จตคตทิ ่ีดี 6. เปดิ โอกาสให้นกั เรยี นสังเกตและศกึ ษาองคค์ วามรู้เก่ียวกบั กระบวนการ คำถาม การเกบ็ รวบรวม ต่องานท่ีได้รบั มอบหมาย วทิ ยาการขอ้ มูลจากห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ที่เครอื่ ง ข้อมลู การสำรวจขอ้ มูล การ คอมพวิ เตอร์ของตนเอง วิเคราะห์ขอ้ มลู การสอ่ื สาร 7. ให้นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 1.2 เรอื่ ง เธอชอื่ อะไร และการทำผลลัพธ์ใหเ้ ปน็ ข้นั สรุปผลการเรียนรู้ ภาพ เพอ่ื เผยแพร่ไปยังกลุ่ม 8. ครูประเมนิ ผลนกั เรียนจากการสงั เกตการณ์ตอบคำถาม ความสนใจใน ผเู้ ปา้ หมาย การเรยี น การทำกิจกรรม 9. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปเก่ยี วกับ “วิทยาการข้อมลู และแนวคิดเชงิ การใช้วทิ ยาการข้อมลู ให้ ออกแบบ” เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ผใู้ ช้งาน ต้องอาศยั แนวคดิ เชิงออกแบบ (design thinking) หลกั การพนื้ ฐาน ของแนวคดิ เชิงออกแบบ ได้แก่ การมองในมุมมองของ ผู้ใช้ การลองผิดลองถกู การ เรียนรผู้ ่านการทดลองกับ กลุ่มผู้ใชจ้ ริง การทำซ้ำและ ปรับปรุง 4-7 4-7 การเกบ็ ข้อมูลทตุ ิยภูมทิ ่ีเผยแพร่ ด้านความรู้ (K) ว 4.2 ชัว่ โมงที่ 1 - ใบกจิ กรรมที่ 1. สอื่ - การสงั เกตพฤติกรรม รวบรวมและ 1.1 ส่ือประกอบการสอน ของนกั เรียนในระหวา่ ง สำรวจข้อมูล บนอนิ เทอรเ์ น็ต มีอยู่ 1. นกั เรียนสามารถอธิบาย ม 5/1 ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรียน 2.1 เรอ่ื ง ค้นหา Microsoft PowerPoint เร่อื ง การทำงาน การเก็บรวบรวมและสำรวจ - ตรวจสอบใบกิจกรรม หลากหลายรปู แบบ เชน่ xls, การเกบ็ รวบรวมและสำรวจ 1. ครใู หน้ กั เรียนทดสอบกอ่ นเรียน จำนวน 10 ข้อ โดยใช้ Kahoot แหล่งข้อมลู ขอ้ มูล ท่ี 2.1 คน้ หา xlsx, odp, csv หรือ อยใู่ น ข้อมูลได้ 2. ครตู ง้ั คำถามชวนคดิ “นกั เรยี นดูภาพนี้แล้ว สามารถบอกได้หรือไมว่ า่ - ใบกิจกรรมท่ี 1.2 เวบ็ ไซต์ แหล่งข้อมูล https://data.go.th/default. - ตรวจสอบใบกจิ กรรม รปู แบบรายงานหรอื ตาราง ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ข้อมลู ถูกจัดเกบ็ ในรปู แบบไฟล์ชนดิ ใด” (แนวตอบ : จากภาพสามารถบอกไดว้ า่ 2.2 เร่ือง . aspx ที่ 2.2 ผจู้ ัดการข้อมูล เว็บไซต์ แหล่งขอ้ มลู ทุติยภูมิ 1. นักเรยี นสามารถคน้ หา ไฟล์ .xls, .xlsx, csv มาจากโปรแกรม Microsoft Excel ไฟล์ .doc, .docx มาจาก ผู้จัดการขอ้ มูล 1.3 ใบกิจกรรมท่ี 2.1 เรอื่ ง - ตรวจสอบใบกิจกรรม เช่น เวบ็ ไซต์ใหบ้ รกิ ารขอ้ มูล แหล่งขอ้ มลู สาธารณะที่ โปรแกรม Microsoft Word ไฟล์ .pdf มาจากโปรแกรม Microsoft Excel, - ใบกจิ กรรมท่ี คน้ หาแหลง่ ข้อมลู ที่ 2.3 นกั สำรวจ ของสำนักงานพฒั นารัฐบาล น่าเชือ่ ถอื ได้ Microsoft Word, Adobe Photoshop เป็นตน้ ) 2.3 เร่อื ง นัก ดิจทิ ลั data.go.th 2. นักเรียนสามารถเตรียม 3. ครอู ธิบายเพือ่ เช่อื มโยงเข้าสู่บทเรยี นวา่ “ในปจั จุบันแหลง่ ข้อมูลทตุ ยิ ภูมิมี สำรวจ 1.4 ใบกิจกรรมที่ 2.2 เรอื่ ง . สำนกั งานสถิตแิ หง่ ชาติ ข้อมลู ก่อนการประมวลผลได้ การเผยแพรบ่ นอนิ เทอร์เนต็ และอยู่ในหลากหลายรูปแบบ (format) ในการ ผู้จัดการข้อมูล 3. นักเรียนสำรวจข้อมลู เพื่อ นำไปใชง้ านอาจมวี ธิ ีจัดการข้อมูลทแี่ ตกต่างกัน ขึ้นอย่กู บั รปู แบบท่เี ผยแพร”่ 1.5 ใบกิจกรรมท่ี 2.3 เร่ือง นัก www.nso.go.th ทำความเข้าใจรปู แบบ สำรวจ การพิจารณาความ ความสมั พนั ธ์ และผลลัพธ์ ขัน้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. แหล่งการเรยี นรู้ เชงิ พรรณนาเบ้ืองต้น 4. ครูอธบิ ายเก่ียวกับการเกบ็ รวบรวมข้อมลู โดยมเี นื้อหา ดังนี้ 2.1 ห้องเรียนออนไลน์ Google เหมาะสมของแหล่งขอ้ มลู เกยี่ วกับขอ้ มลู ได้ สามารถใชม้ ุมมองทง้ั 5 ด้าน 4.1 แหล่งขอ้ มลู ทุติยภูมิ Classroom ได้แก่ ความทนั สมยั ของ ดา้ นคุณลักษณะ (A) 4.2 ความเหมาะสมของแหล่งขอ้ มูล ขอ้ มูล ความสอดคลอ้ งกับ 1. นักเรยี นมีความ 5. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นศกึ ษาองค์ความรู้เกี่ยวกบั การเกบ็ รวบรวมข้อมูล รับผิดชอบและมเี จตคติท่ีดี จากห้องเรยี นออนไลน์ (Google Classroom) ทีเ่ ครื่องคอมพิวเตอร์ของ การใช้งาน ความน่าเชื่อถือ ต่องานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ตนเอง ของแหล่งข้อมลู ความ 6. ให้นักเรยี นทำกิจกรรมที่ 2.1 เรอ่ื ง ค้นหาแหลง่ ขอ้ มูล โดยให้นักเรียน ถกู ต้องแมน่ ยำ และ ศึกษาแหล่งขอ้ มลู ทตุ ิยภูมทิ ่เี ผยแพร่ของประเทศไทย โดยอธบิ ายว่ามขี ้อมูล จุดมงุ่ หมายของแหลง่ ขอ้ มลู ใดท่เี ผยแพรใ่ นเว็บไซตเ์ หล่าน้บี า้ ง การจัดเตรียมขอ้ มูล (data preparation) เพอ่ื
4 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ช้นิ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชอ่ื เรือ่ ง สาระสำคญั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ การวดั และประเมินผล เตรยี มพร้อมสำหรับการ ช่วั โมงที่ 2 - ตรวจสอบใบกิจกรรม ประมวลผล ประกอบด้วย 7. ครูตง้ั คำถามชวนคดิ “เมอ่ื เก็บรวบรวมขอ้ มลู มาแลว้ มีขอ้ มลู จำนวนมาก ท่ี 3.1 การวิเคราะห์เชิง การทำความสะอาดข้อมูล หากต้องการเปรียบเทียบขอ้ มลู เพียงบางสว่ นจะต้องทำอย่างไร แลว้ ถา้ พรรณนา (data cleansing) การแปลง ขอ้ มูลหายไปจะแก้ไขอย่างไร” (แนวตอบ : เมื่อเลือกแหลง่ ขอ้ มูลและรวบรวม ข้อมลู (data ข้อมลู ไดแ้ ล้ว ข้ันตอนถัดไป คอื เตรียมขอ้ มลู เพ่ือเตรียมพร้อมสำหรับการ transformation) และการ ประมวลผล จะตอ้ งมคี วามถกู ต้อง ครบถว้ น สมบูรณ์ และไม่มขี อ้ มลู ท่ีมีคา่ ผดิ ปกติ ก่อนจะนำมาใช้ จะตอ้ งมกี ารจัดเตรียมขอ้ มูล และทำความสะอาดข้อมลู ) เชือ่ มโยงข้อมูล (combining 8. ครูอธบิ ายเกยี่ วกับการเตรียมขอ้ มูล โดยมีเน้ือหา ดงั น้ี data) 8.1 การทำความสะอาดขอ้ มูล (data cleansing) การสำรวจข้อมลู (data 8.2 การแปลงขอ้ มูล (data transformation) exploration) เป็นการทำ 8.3 การเช่อื มโยงข้อมูล (combining data) ความเข้าใจเพอื่ พจิ ารณา 9. ใหน้ ักเรียนดาวน์โหลดไฟล์ “รายได้เฉลย่ี ต่อเดอื นต่อครัวเรอื น 41- ภาพรวมของข้อมูล โดยอาจ 58.xls” ซ่งึ เปน็ ชุดข้อมลู รายได้เฉลี่ยตอ่ เดือนต่อครวั เรอื น จำแนกตามภาค และจงั หวัดพ.ศ. 2541 – 2558 จากหอ้ งเรยี นออนไลน์ (Google ใชแ้ ผนภาพ หรอื กราฟของ Classroom) ข้อมูลในรปู แบบตา่ ง ๆ 10. ครสู าธิตการทำความสะอาดขอ้ มูลโดยการใช้ โปรแกรม Microsoft ระหว่างการสำรวจอาจจะ Excel พบขอ้ ผดิ พลาดหรือปญั หา 11. ให้นักเรียนทำความสะอาดข้อมลู โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft excel อน่ื ๆ จากการตั้งคำถาม แลว้ ตอบคำถามกิจกรรมที่ 2.2 เร่ือง ผู้จัดการข้อมลู หรือการรวบรวมข้อมลู ซง่ึ ช่วั โมงที่ 3-4 ทำให้ต้องกลับไปดำเนินการ 12. ครทู บทวนกระบวนการจดั เตรียมขอ้ มลู จากกิจกรรมที่ผา่ นมา และให้ แก้ไขให้ถกู ต้อง เคร่ืองมอื ที่ นักเรียนดาวนโ์ หลดไฟล์ชุดข้อมูล จาก Google Classroom ใชใ้ นการสำรวจข้อมูลอาจใช้ โปรแกรมสำเร็จรปู หรือการ 14.1 1-GraphForStudent.xlsx เขยี นโปรแกรมภาษา 14.2 2-HistogramForStudent.xlsx 14.3 3-ScatterPlotForStudent.xlsx สอบกลางภาค ว 4.2 ม.5/1 การวเิ คราะห์เชงิ ดา้ นความรู้ (K) 14.4 4-BoxPlotForStudent.xlsx พรรณนา (descriptive 13. ครูสาธิตการสำรวจข้อมลู โดยการใช้ โปรแกรม Microsoft Excel 8-9 8-9 การวเิ คราะห์ analytics) เป็นการ 14. ให้นักเรยี นสำรวจข้อมลู โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft excel แลว้ ตอบ เชิงพรรณนา คำถามกิจกรรมท่ี 2.3 เร่อื ง นักสำรวจ ข้ันการสรปุ 14. ครปู ระเมินผลนกั เรยี นจากการสงั เกต การตอบคำถาม ความสนใจใน การเรยี น การทำกิจกรรม 15. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกับเร่อื ง “การเกบ็ รวบรวมและสำรวจ ข้อมูล” แบบทดสอบ จำนวน 40 ขอ้ ว 4.2 ชวั่ โมงที่ 1 - แบบทดสอบ 1. สือ่ ม 5/1 ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรยี น ก่อนเรียน 1. ครูให้นกั เรยี นทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ขอ้ โดยใช้ Kahoot
5 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ชน้ิ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชอ่ื เร่ือง สาระสำคญั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ การวดั และประเมินผล วเิ คราะหข์ ัน้ พน้ื ฐาน ทีท่ ำให้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ าย 2. ครูและนกั เรยี นทบทวนบทเรียนเรื่อง การเก็บรวบรวมสำรวจขอ้ มูล และ (ออนไลน์ 1.1 ส่ือประกอบการสอน - ตรวจสอบใบกิจกรรม เห็นภาพรวมของข้อมูล และ หลกั การวเิ คราะห์ข้อมูลเชงิ ช้แี จงการเรยี นในบทนโี้ ดยใชส่ ถานการณ์ของสิงโตและสุนขั จิ้งจอก และ Kahoot) Microsoft PowerPoint เร่อื ง ที่ 3.2 สัมพันธก์ นั ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มูล พรรณนาได้ เช่อื มโยงการวเิ คราะห์เขา้ สู่บทเรยี น - ใบกิจกรรมที่ การวิเคราะห์เชงิ พรรณนา หรือไม่ ช่วยอธบิ ายวา่ เกดิ อะไรขน้ึ 2. นักเรยี นสามารถอธบิ าย 3.1 เรือ่ ง การ 1.2 เวบ็ ไซต์ - การสงั เกตพฤติกรรม บา้ งในช่วงท่ผี า่ นมา และอาจ ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลเชงิ ข้ันจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ วเิ คราะห์เชิง https://data.go.th/default. ของนกั เรียนในระหวา่ ง นำมาช่วยตัดสินใจ โดยอาจ พรรณนา 3. ครอู ธบิ ายเก่ียวกบั การวิเคราะห์ข้อมลู โดยมเี น้ือหา ดงั น้ี พรรณนา aspx การทำงาน ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) ใชส้ ถิติ เชน่ การหาสดั สว่ น 1. นกั เรียนสามารถเลอื กใช้ 3.1 การวิเคราะห์ขอ้ มลู เชิงพรรณนา - ใบกจิ กรรมท่ี 1.3 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หรอื รอ้ ยละ การวัดคา่ กลาง ค่าสถิตทิ ีเ่ หมาะสมในการ 3.2 เร่ือง สมั พันธ์ (ออนไลน์ Kahoot) ของข้อมูล (central วิเคราะหข์ อ้ มลู เชงิ พรรณนา 4. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนศกึ ษาองค์ความรเู้ กย่ี วกบั การวเิ คราะห์เชิงพรรณนา กันหรือไม่ 1.4 ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 เรื่อง tendency) การหา ได้ จากหอ้ งเรยี นออนไลน์ (Google Classroom) ทีเ่ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ของ การวิเคราะหเ์ ชงิ พรรณนา ความสัมพันธ์ของชดุ ข้อมลู 2. นกั เรยี นสามารถใช้ ตนเอง 1.5 ใบกิจกรรมที่ 3.2 เร่อื ง (correlation) โปรแกรมสำเร็จรปู หรือ 5. ให้นักเรยี นตอบคำถามกจิ กรรมที่ 3.1 เรื่อง การวเิ คราะห์เชงิ พรรณนา สัมพันธก์ ันหรอื ไม่ โปรแกรมภาษาเพอ่ื วเิ คราะห์ โดยใช้ Google ข้อมูลเชงิ พรรณนา 2. แหล่งการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 2 2.1 ห้องเรียนออนไลน์ Google ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) Classroom 1. นักเรียนมีความ 6. ครูซกั ถามเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “นักเรียนรจู้ ักสถิติทใ่ี ช้ รบั ผดิ ชอบและมเี จตคตทิ ี่ดี ในการวิเคราะห์ข้อมลู ใดบ้าง” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสงคข์ อง ตอ่ งานที่ได้รับมอบหมาย ตนเองโดยคำตอบขึ้นอยู่กบั ดุลยพนิ ิจของผู้สอน เช่น การหาสัดส่วนหรือร้อย ละ การวัดค่ากลางของขอ้ มูล ได้แก่ ค่าเฉลีย่ มัธยฐาน ฐานนิยม เปน็ ต้น) 7. ครูอธบิ ายเก่ยี วกบั การวเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยมีเนื้อหา ดงั น้ี 7.1 สถิตสิ ำหรับวเิ คราะห์ข้อมูล เชน่ คา่ กลาง ค่าต่ำสดุ สงู สุด 7.2 การหาความสัมพนั ธ์ของชุดขอ้ มลู 8. ให้นักเรยี นดาวนโ์ หลดไฟล์ “predator_dataset.csv” ซ่ึงเป็นชดุ ขอ้ มลู จำนวนววั ปา่ และม้าลายในป่าแอฟริกา จากห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom) 9. ครูสาธิตการวิเคราะห์การใชค้ ่ากลางของขอ้ มูลเพอื่ อธิบายลักษณะของ ขอ้ มูล และการหาค่าความสัมพนั ธ์ของจำนวนวัวปา่ และม้าลาย 10. เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนศึกษาองค์ความรูเ้ ก่ียวกบั การคำนวณหา ความสัมพนั ธข์ องจำนวนววั ปา่ และม้าลายโดยใช้โปรแกรมภาษาต่าง ๆ จาก หอ้ งเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ที่เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 11. ให้นักเรียนตอบคำถามกิจกรรมท่ี 3.2 เร่อื ง สัมพนั ธก์ นั หรอื ไม่ 10- 10- การวิเคราะห์ การวเิ คราะหเ์ ชงิ ทำนาย ดา้ นความรู้ (K) ข้ันสรุปผลการเรียนรู้ - ใบกจิ กรรมที่ 1. สอ่ื - ตรวจสอบใบกจิ กรรม 12 12 เชิงทำนาย (predictive analysis) เป็น 1. นกั เรยี นสามารถอธิบาย 12. ครูประเมนิ ผลนกั เรียนจากการสงั เกต การตอบคำถาม ความสนใจใน 3.3 เรอ่ื ง การ 1.1 สื่อประกอบการสอน ท่ี 3.3 การวิเคราะห์เชงิ การวเิ คราะห์ข้อมลู ในอดีต ความหมายวเิ คราะห์ข้อมลู การเรยี น การทำกิจกรรม วเิ คราะห์เชิง Microsoft PowerPoint เร่ือง ทำนาย 13. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั เรอ่ื ง “การวิเคราะหเ์ ชิงพรรณนา” เพอ่ื หารปู แบบความสมั พันธ์ เชงิ ทำนายโดยใชต้ ัวเลขได้ ทำนาย การวเิ คราะหเ์ ชิงทำนาย - ตรวจสอบใบกิจกรรม ในชุดขอ้ มลู ที่สามารถนำมา 2. นักเรยี นสามารถอธิบาย ว 4.2 ช่วั โมงที่ 1 - ใบกจิ กรรมท่ี 1.2 เว็บไซต์ ท่ี 3.4 ยอดววิ เปน็ ตน้ แบบในการทำนาย ผลการทำนายเชิงตวั เลขได้ ม 5/1 ขนั้ นำเข้าสู่บทเรียน 3.4 เรอ่ื ง ยอดววิ data.programming.in.th - ตรวจสอบใบกิจกรรม การคาดการณผ์ ลหรอื สิง่ ท่ี 1.3 ใบกิจกรรมที่ 3.3 เร่ือง ท่ี 3.5 ชีวิตฉนั คลา้ ย นา่ จะเกดิ ข้นึ ในอนาคต ซึง่ จะ 1. ครูทบทวนความรู้เดมิ กับนักเรียน จากช่ัวโมงทผ่ี ่านมาเก่ียวกับการ การวิเคราะหเ์ ชงิ ทำนาย ใคร วิเคราะห์เชิงพรรณนา 2. ครูซกั ถามเพื่อกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นว่า “นักเรียนคดิ ว่าเวลาท่ี นักเรยี นใชอ้ ่านหนังสอื สอบสามารถทำนายเกรดของนกั เรยี นได้หรือไม่” 3. ครูอธิบายกับนกั เรยี นเพือ่ เช่อื มโยงเข้าสู่บทเรยี น ขั้นจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
6 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ชนิ้ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชื่อเรอื่ ง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล ชว่ ยให้บคุ คลหรอื องค์กร 3. นักเรียนสามารถอธบิ าย 4. เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนศึกษาองค์ความรเู้ ก่ียวกบั การวิเคราะหเ์ ชงิ ทำนาย 1.4 ใบกิจกรรมที่ 3.4 เรื่อง - การสังเกตพฤตกิ รรม สามารถตัดสินใจได้อย่างมี หลกั การทำนายเชงิ หมวดหมู่ จากหอ้ งเรยี นออนไลน์ (Google Classroom) ทเ่ี คร่ืองคอมพิวเตอร์ของ ยอดวิว ของนกั เรยี นในระหว่าง ประสทิ ธิภาพ ด้วยวธิ ี K-NN ตนเอง 1.5 ใบกิจกรรมที่ 3.5 เรื่อง การทำงาน 5. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกีย่ วกบั การวเิ คราะหข์ ้อมูลเชงิ ทำนาย โดยมีเนือ้ หา ชีวติ ฉนั คล้ายใคร การทำนายข้อมูลเชงิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ดงั น้ี 2. แหล่งการเรียนรู้ ตวั เลข (numeric 1. นกั เรียนสามารถทำนาย 2.1 ห้องเรียนออนไลน์ Google prediction) เปน็ การใช้ ค่าโดยใชส้ มการเชิงเสน้ และ 5.1 ความหมายของการทำนายเชงิ ตวั เลข คำนวณค่าคลาดเคล่อื นใน 5.2 การทำนายค่าจากเสน้ แนวโนม้ โดยใช้กราฟและใชส้ มการเชงิ เส้น Classroom ขอ้ มูลในอดีตมาวเิ คราะห์หา การทำนาย 5.3 การหาค่าความคลาดเคลอื่ นในการทำนาย ความสัมพนั ธ์ระหว่างชดุ 2. นกั เรียนสามารถใช้ 6. ให้นักเรียนตอบคำถามกจิ กรรมท่ี 3.3 เรอ่ื ง การวเิ คราะห์เชงิ ทำนาย โดย ขอ้ มลู และสรา้ งแบบจำลอง โปรแกรมสำเรจ็ รปู หรือ ใช้ Google Form ในการทำนายท่ีให้ผลลพั ธ์ โปรแกรมภาษาในการ เป็นตัวเลข โดยทวั่ ไปมี ทำนายเชงิ ตัวเลขได้ ชว่ั โมงที่ 2 วิธีการทำนาย 2 วิธี คอื การ 7. ให้นักเรียนดาวนโ์ หลดไฟล์ “predator_dataset.csv” ซึ่งเปน็ ชดุ ข้อมลู ด้านคุณลกั ษณะ (A) จำนวนวัวป่าและม้าลายในปา่ แอฟริกา จากห้องเรยี นออนไลน์ (Google ทำนายโดยใช้กราฟและการ 1. นกั เรยี นมีความ Classroom) ทำนายโดยใชส้ มการเชิงเสน้ รบั ผิดชอบและมเี จตคติที่ดี 8. ครสู าธิตการวิเคราะห์การหาสมการเส้นแนวโนม้ โดยใชโ้ ปรแกรมภาษา ต่องานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ไพทอนสำหรับชดุ ขอ้ มลู การทำนายเชงิ หมวดหมู่ 9. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายขอ้ ดี-ขอ้ เสียของการทำนายจากเสน้ ค่า เป็นการทำนายขอ้ มลู ทไ่ี ม่ใช่ แนวโนม้ โดยใชก้ ราฟ สมการเชิงเส้น โปรแกรมสำเร็จรูป หรอื การเขียน ข้อมลู ตัวเลข ซงึ่ จะใช้ข้อมูล โปรแกรมภาษา ในอดีตท่มี กี ารระบุหมวดหมู่ 10. เปิดโอกาสให้นักเรยี นศึกษาองคค์ วามรูเ้ พม่ิ เติมเกยี่ วกับการหาสมการ เสน้ แนวโน้ม โดยใชโ้ ปรแกรมภาษาต่าง ๆ จากหอ้ งเรียนออนไลน์ (Google มาแลว้ มาวิเคราะหเ์ พือ่ Classroom) ทเี่ คร่ืองคอมพวิ เตอรข์ องตนเอง ทำนายข้อมลู ชดุ ใหมท่ ี่ยังไม่ 11. ให้นักเรยี นตอบคำถามกจิ กรรมท่ี 3.4 เร่อื ง ยอดวิว ทราบหมวดหมู่ หน่ึงเทคนคิ ท่ีใชใ้ นการจดั หมวดหมทู่ ี่เป็น ชั่วโมงที่ 3 ทร่ี ้จู กั กนั ดี คอื วิธกี ารคน้ หา 12. ครซู กั ถามเพอ่ื กระต้นุ ความสนใจของนักเรียนว่า “นกั เรยี นฟงั เพลง เพื่อนบ้านใกลเ้ คียงท่สี ุด K สากลหรอื ไม่ และชอบฟงั เพลงสากลประเภทไหน” และคำถาม “หากมี เพลงใหม่เขา้ สู่ตลาด นักเรียนจำแนกไดอ้ ย่างไรวา่ เพลงน้ัน เป็นเพลง ตวั (K-Nearest Neighbors: ประเภทไหน” ให้ผู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ ตามอิสระ K-NN) 13. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นศกึ ษาองค์ความรู้เกี่ยวกับการวเิ คราะหเ์ ชงิ ทำนาย จากหอ้ งเรียนออนไลน์ (Google Classroom) ที่เครอื่ งคอมพิวเตอร์ของ ตนเอง 14. ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ เก่ียวกบั การวเิ คราะห์ข้อมลู เชงิ ทำนาย โดยมเี นื้อหา ดงั นี้ 14.1 ความหมายของการทำนายเชิงหมวดหมู่ 14.2 การทำนายโดยใช้ K-NN เพ่ือจำแนกข้อมูล 14.3 การประเมนิ ความถูกต้องในการจำแนกข้อมลู 15. ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน แลว้ ตอบคำถามกิจกรรมที่ 3.5 ชวี ิต ฉนั คล้ายใคร และให้เปรียบเทยี บกบั เพอ่ื นคนอนื่ ๆ ว่าเหมือนหรอื แตกตา่ ง กนั อยา่ งไร ขั้นสรปุ ผลการเรยี นรู้
7 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ชิน้ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชอื่ เรอื่ ง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ การวัดและประเมินผล 16. ครปู ระเมินผลนักเรียนจากการสงั เกต การตอบคำถาม ความสนใจใน การเรยี น การทำกิจกรรม 17. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั เรอื่ ง “การวิเคราะห์เชิงทำนาย” 13 13 การสื่อสาร ขอ้ มูลทจ่ี ะนำไป ดา้ นความรู้ (K) ว 4.2 วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es - แบบทดสอบ 1. สอื่ - ตรวจสอบใบกจิ กรรม ด้วยข้อมูล ประชาสมั พันธห์ รือเผยแพร่ 1. นกั เรียนสามารถอธิบาย ม 5/1 Instructional Model) กอ่ นเรยี น 1. 1 บทเรียนออนไลน์ เร่อื ง ท่ี 4.1 การสื่อสารด้วย ให้แกผ่ ู้รบั สารได้รบั รูถ้ ึงสิ่งท่ี หลกั การและจุดประสงค์ของ ขัน้ ที่ 1 (ออนไลน์ การสอื่ สารดว้ ยขอ้ มูล ข้อมลู ผู้สรา้ งต้องการสือ่ สาร ให้ การส่ือสารด้วยข้อมูลได้ ขนั้ นำ Kahoot) 1.2 แบบทดสอบก่อนเรยี น เข้าใจตรงกันนั้น เปน็ เร่อื งท่ี ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ขน้ั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) - ใบกิจกรรมที่ (ออนไลน์ Kahoot) - การสงั เกตพฤตกิ รรม ทำไดย้ าก (โดยปกติแลว้ การ 1. นกั เรียนสามารถใช้ข้อมูล 1. ครใู ห้นักเรยี นทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ข้อ โดยใช้ Kahoot 4.1 เรอ่ื ง การ 1.3 ใบกจิ กรรมท่ี 4.1 เร่อื ง ของนักเรียนในระหวา่ ง ทำความเขา้ ใจข้อมลู เป็นสง่ิ ที่ ได้อย่างเหมาะสม 2. ครตู ั้งคำถามชวนคิด “จะเกิดอะไรขนึ้ หากขอ้ มลู ไมส่ ามารถสง่ ไปยังผรู้ ับได้ สอื่ สารด้วยข้อมูล การสอ่ื สารด้วยข้อมูล การทำงาน ทำไดย้ าก) เพราะผ้สู รา้ ง เนื่องจากมปี ริมาณมากเกินไปหรืออยใู่ นรปู แบบทไี่ มส่ ามารถทำความเข้าใจ 2. แหล่งเรียนรู้ จะตอ้ งพยายามศึกษาวา่ ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ไดง้ ่าย” (แนวตอบ : ใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคิดเห็นตามอิสระ) 2.1 ห้องเรยี นออนไลน์ Google ข้อมลู ส่วนไหนสำคัญ ขอ้ มลู 1. นักเรียนมคี วาม 3. ครูอธิบายกับนกั เรียนเพอ่ื เช่อื มโยงเข้าส่บู ทเรยี น Classroom ส่วนไหนมีรูปแบบที่น่าสนใจ รบั ผิดชอบและมเี จตคติท่ีดี ขัน้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ย่ิงหากเป็นขอ้ มูลตัวเลขที่มี ตอ่ งานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) จำนวนมาก ผูท้ พ่ี ยายามจะ 4. นักเรียนศึกษาเน้ือหาและทำกิจกรรมการเรียนรู้จากเว็บไซต์ “บทเรยี น ทำความเขา้ ใจขอ้ มูลน้นั ๆ ออนไลน์ เรอ่ื ง การสอื่ สารด้วยขอ้ มูล” ซ่งึ ครูคอยให้คำแนะนำและให้ อาจตอ้ งใชเ้ วลานาน หรอื คำปรึกษา ในแต่ละกจิ กรรมนักเรียนจะต้องดำเนินการตามระยะเวลาท่ี อาจทำใหไ้ มส่ ามารถมองเห็น กำหนด ความรู้ หรือประเดน็ สำคญั ที่ ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) อยูภ่ ายใต้ขอ้ มูลน้นั ๆ แต่วธิ ี 5. ครอู ธิบายเพิ่มเติมกบั นกั เรยี นว่า “การถ่ายทอดขอ้ มูลหรือการสื่อสารจาก หน่งึ ท่ีจะทำให้ผู้รบั สารรบั รู้ แหลง่ ขอ้ มลู ไปยังผรู้ บั สารน้นั บางครงั้ เป็นเรอ่ื งท่ีทำได้ยาก เนื่องจากข้อมูลมปี รมิ าณ ส่ิงทีผ่ ู้สรา้ งต้องการสือ่ สาร มาก หรืออยใู่ นรปู แบบทไ่ี มส่ ามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ด้วยเหตนุ ี้ การส่อื สาร ระหวา่ งบคุ คล จำเป็นทีจ่ ะต้องจัดรูปแบบของขอ้ มลู และนำข้อมลู ไปแสดงในบรบิ ทท่ี คอื การใชภ้ าพ ดงั กล่าวทีว่ ่า เหมาะสม เพือ่ ให้ผรู้ บั สารเข้าใจ หรือมองเหน็ ประเดน็ สำคญั ท่ีต้องการสือ่ สารภายใต้ “ภาพหน่ึงภาพแทนคำพดู ข้อมูลนั้น จงึ ตอ้ งมีการทำขอ้ มูลให้เป็นภาพ เพอื่ ชว่ ยตอบคำถาม ชว่ ยในการตดั พันคำ” (A picture is สอนใจ ช่วยให้มองเหน็ ข้อมลู ในบรบิ ททีเ่ หมาะสม ช่วยคน้ หารูปแบบ รวมทั้งชว่ ย worth a thousand สนับสนนุ คำพดู หรือการเล่าเรื่องราวท่ีมีอย่ใู นข้อมูลชดุ นัน้ ๆ” words) ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 6. นักเรยี นตอบคำถามกจิ กรรมที่ 4.1 เรอ่ื ง การสอ่ื สารดว้ ยข้อมลู ขั้นการสรปุ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 7. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และ ตรวจสอบการสร้างช้นิ งานของนกั เรยี น 14- 14- การทำขอ้ มูล ข้อมลู ทเี่ ราไดม้ านั้น ด้านความรู้ (K) ว 4.2 วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es - ใบกิจกรรมท่ี 1. ส่อื - ตรวจสอบใบกจิ กรรม 16 16 ใหเ้ ป็นภาพ ส่วนใหญ่จะอยู่ในรปู ของ 1. นกั เรียนสามารถอธบิ าย ม 5/1 Instructional Model) 4.2 เร่อื ง การทำ 1.1 บทเรยี นออนไลน์ เรือ่ ง ท่ี 4.2 การทำขอ้ มลู ให้ อย่างเหมาะสม จำนวน และมีเป็นจำนวน ความหมายของการทำข้อมูล ชั่วโมงที่ 1 ข้อมูลใหเ้ ป็นภาพ การทำขอ้ มูลให้เปน็ ภาพอย่าง เปน็ ภาพ มาก แม้วา่ การตอบคำถามที่ ให้เป็นภาพได้ ขน้ั นำ - ใบกจิ กรรมท่ี เหมาะสม - ตรวจสอบใบกจิ กรรม เราสนใจ หรอื ส่ิงท่ีเรา 2. นกั เรยี นสามารถบอกข้อดี ขัน้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 4.3 เรื่อง 1.2 ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 เร่ือง ที่ 4.3 นำเสนออย่าง อยากจะนำเสนอ จะมีอยู่ ของการทำข้อมูลให้เป็นภาพ 1. ครูซกั ถามนกั เรยี นเกี่ยวกับผลลพั ธข์ องการวิเคราะห์ขอ้ มลู เชงิ ทำนาย นำเสนออย่างมือ การทำข้อมลู ใหเ้ ป็นภาพ มอื อาชีพ แลว้ ในขอ้ มูลเหล่านัน้ แต่ ได้ อาชพี
8 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ช้นิ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชื่อเรอื่ ง สาระสำคญั จุดประสงค์การเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล ยากทจ่ี ะทำความเขา้ ใจ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 2. ครอู ธบิ ายเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนวา่ “เนอ่ื งจากผลลพั ธ์ของการวิเคราะห์ 1.3 ใบกิจกรรมที่ 4.3 เรอื่ ง - การสังเกตพฤตกิ รรม หรอื ไม่อาจสือ่ สารไดโ้ ดยง่าย 1. นกั เรียนสามารถเลอื กใช้ ข้อมูลมกั เป็นขอ้ มูลในลักษณะตัวเลข ขอ้ ความ อีกทง้ั ผลลพั ธ์ยังเปน็ ขอ้ มูลท่มี ีปริมาณ นำเสนออย่างมอื อาชพี ของนกั เรยี นในระหว่าง วธิ กี ารทำข้อมูลให้เป็นภาพ สงู ซึ่งค่อนข้างยากย่อการทำความเข้าใจ ดงั นน้ั หากสามารถนำผลลพั ธท์ ่ีได้จากการ 2. แหล่งเรียนรู้ การทำงาน กระบวนการทำขอ้ มลู ให้ ได้อย่างเหมาะสม วเิ คราะหม์ านำเสนอเป็นภาพจะทำให้ผรู้ บั ขอ้ มูลเขา้ ใจผลลพั ธ์ได้งา่ ยข้นึ ”3. ครู 2.1 ห้องเรยี นออนไลน์ Google เป็นภาพ เปน็ การจัดการ 2. นกั เรียนสามารถนำเสนอ อธิบายเพ่ิมเตมิ เก่ียวกบั Data Analytics “องคก์ รทง้ั ภาครัฐ และภาคธุรกจิ ล้วนแลว้ แต่ Classroom หรอื การดัดแปลงข้อมลู ใหอ้ ยู่ ขอ้ มูลในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ ในรูปของแผนภาพ แผนภมู ิ อย่างเหมาะสม ใช้ประโยชนจ์ ากขอ้ มลู เพือ่ นำไปสกู่ ารตดั สินใจในการแก้ปญั หาท่อี าจไมส่ ามารถแกไ้ ขได้ในอดีต กระบวนการวิทยาการขอ้ มลู มกี ารนำข้อมลู ทเ่ี ก่ียวขอ้ งมาวิเคราะห์ (data analytics) เพอื่ หรอื กราฟที่เหมาะสมกบั ชดุ ดา้ นคุณลักษณะ (A) อธบิ ายค้นหาคำตอบ หรือทำนายปรากฏการณท์ ีเ่ กดิ ขนึ้ การทำขอ้ มลู ใหเ้ ป็นภาพ (data ข้อมลู ที่ต้องการนำเสนอ โดย 1. นกั เรยี นมคี วาม visualization) หรือการเล่าเร่ืองราวทเ่ี กดิ จากขอ้ มลู (data story telling) ทำใหผ้ ู้ใช้ได้รบั สามารถเลอื กใช้ตวั แปรใน รบั ผดิ ชอบและมีเจตคติท่ีดี ความรแู้ ละเขา้ ใจได้ง่าย” การมองเหน็ ทท่ี ำใหผ้ ูร้ บั สาร ต่องานทีไ่ ด้รับมอบหมาย เข้าใจถูกตอ้ ง ตรงประเด็น ข้นั จดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชดั เจน และดึงดูดความสนใจ ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 3. นกั เรียนศกึ ษาเนอื้ หาและทำกิจกรรมการเรียนรู้จากเวบ็ ไซต์ “บทเรียน ออนไลน์ เรอ่ื ง ความหมายของการทำขอ้ มูลให้เป็นภาพ” ซ่ึงครคู อยให้ คำแนะนำและใหค้ ำปรกึ ษา ในแต่ละกิจกรรมนักเรียนจะตอ้ งดำเนนิ การตาม ระยะเวลาท่กี ำหนด 4. นกั เรียนตอบคำถามกจิ กรรมที่ 4.2 เร่ือง การทำข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพขนั้ ท่ี 3 ชั่วโมงท่ี 2 5. นักเรียนศกึ ษาเน้ือหาและทำกิจกรรมการเรียนรู้จากเวบ็ ไซต์ “บทเรียน ออนไลน์ เร่ือง วธิ ีการทำขอ้ มูลใหเ้ ป็นภาพ” ซงึ่ ครคู อยใหค้ ำแนะนำและให้ คำปรกึ ษา ในแต่ละกิจกรรมนักเรยี นจะต้องดำเนินการตามระยะเวลาที่ กำหนด ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 6. ครูอธิบายกับนักเรยี นวา่ “การทำข้อมลู ให้เป็นภาพมีหลากหลายลกั ษณะ เช่น 1) การนำเสนอขอ้ มูลด้วยแผนภมู ิ 1.1) แผนภูมิคอลัมน์ 1.2) แผนภูมิแท่ง 1.3) แผนภูมิกราฟเสน้ 1.4) แผนภูมิวงกลม 2) อนิ โฟกราฟกิ ซ่ึงแต่ละลกั ษณะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกนั ดังน้ันจึงต้องเลอื กให้ เหมาะสมกบั ลกั ษณะของขอ้ มูล”ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 7. ครยู กตวั อย่างของการใชว้ ทิ ยาการขอ้ มูลในชวี ิตประจำวนั เพอื่ ประโยชน์ ในดา้ นต่าง ๆ เพอ่ื ให้นักเรียนเขา้ ใจมากขึน้ 8. ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามจากกจิ กรรมที่ 1 เรอื่ ง ขอ้ มลู ชว่ ยชุมชนและโลก อยา่ งไร โดยใช้ Google Form ขัน้ การสรปุ ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 9. ใหน้ ักเรียนตอบคำถามจากกจิ กรรมท่ี 4.3 เรื่อง นำเสนออยา่ งมืออาชีพ
9 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ช้ินงาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ช่ือเรอ่ื ง สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล 17 17 ข้อควรระวังใน การใชต้ ัวแปรในการ ด้านความรู้ ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. สอื่ -รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์ 10. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรยี น 1.1 บทเรียนออนไลน์ เรอื่ ง ข้อ -ประเมินตามสภาพจรงิ การนำเสนอ มองเหน็ ผลลัพธ์ของขอ้ มลู 1. นักเรียนสามารถบอกขอ้ และตรวจสอบการสรา้ งชิน้ งานของนกั เรียน ควรระวังในการนำเสนอขอ้ มูล ขอ้ มูล น้นั จะตอ้ งระวังไม่ให้ตัวแปร ควรระวงั ในการนำเสนอ ว 4.2 วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es ม 5/1 Instructional Model) ทใี่ ช้แสดงผลด้านอ่นื ๆ ทไี่ ม่ ข้อมลู ได้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น ดงั้ ใจโดดเด่นข้ึนมา เพราะ ดา้ นกระบวนการ ขัน้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูตง้ั คำถามชวนคิด “หากมกี ารนำเสนอขอ้ มลู ไมถ่ ูกต้อง ไม่ตรงประเด็น จะทำให้ผูร้ ับสารตคี วามไม่ 1. นักเรียนสามารถเลอื ก จะสง่ ผลตอ่ ผู้รับสารมากน้อยเพียงใด” (แนวตอบ : ให้ผเู้ รียนแสดงความคิดเหน็ ตามอสิ ระ) ตรงกับข้อมลู ขอ้ มูลนำเสนอได้อยา่ ง 2. ครูอธบิ ายกับนักเรยี นเพือ่ เช่ือมโยงเข้าส่บู ทเรยี น ถูกต้อง ขน้ั จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) ด้านจติ พิสัย 3. นกั เรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาและทำกิจกรรมการเรียนร้จู ากเวบ็ ไซต์ “บทเรียน 1. นกั เรียนมีความ ออนไลน์ เรื่อง ข้อควรระวังในการนำเสนอข้อมูล” ซ่ึงครูคอยให้คำแนะนำ และใหค้ ำปรึกษา ในแต่ละกิจกรรมนักเรยี นจะต้องดำเนินการตามระยะเวลา รับผดิ ชอบและมเี จตคตทิ ่ีดี ท่กี ำหนด ต่องานท่ีได้รับมอบหมาย ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมเกี่ยวกับการนำเสนอขอ้ มูลที่ถกู ต้องและเหมาะสม ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 5. ครูซักถามนกั เรียนเก่ียวกับข้อควรระวงั ในการนำเสนอข้อมูล และเปิด ภาพขอ้ มูลเปรยี บเทยี บให้นักเรียนตอบคำถาม ข้นั สรปุ ผลการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 6. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และ ตรวจสอบการสร้างชน้ิ งานของนักเรียน 18- 18- การเลา่ การทำเนอ้ื หาหรอื ด้านความรู้ ว 4.2 วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es - ใบกิจกรรมที่ 1. สอื่ - การสงั เกตพฤตกิ รรม 20 20 เรื่องราวจาก 1.1 บทเรยี นออนไลน์ เรอื่ ง ของนักเรียนในระหว่าง ความรู้ ให้อยู่ในรปู แบบท่ี 1. นกั เรยี นสามารถบอก ม 5/1 Instructional Model) 4.4 เรอื่ ง เรื่อง การเล่าเร่ืองราวจากข้อมลู การทำงาน ข้อมลู 1.2 ใบกจิ กรรมที่ 4.4 เร่ือง - ตรวจสอบใบกิจกรรม สามารถถา่ ยทอดหรือสอ่ื สาร รปู แบบการเลา่ เร่ืองราวจาก ชั่วโมงที่ 1 รอ้ ยเรือ่ งราวสู่ เรอ่ื งรอ้ ยเร่ืองราวส่สู ังคม ที่ 4.4 เร่อื งรอ้ ย ไปยังผู้อา่ น หรือผ้ฟู งั ได้อยา่ ง ขอ้ มูลได้ ข้นั นำ สังคม 2. แหล่งเรยี นรู้ เร่อื งราวสู่สังคม 2.1 ห้องเรียนออนไลน์ Google น่าสนใจ รวมทงั้ เขา้ ใจในสงิ่ ท่ี ดา้ นกระบวนการ ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) Classroom ผู้เขียนหรือผ้สู รา้ งเน้อื หาน้นั 1. นกั เรียนสามารถเลอื กใช้ 1. ใหน้ ักเรียนดูตวั อย่างเกยี่ วกับ การเลา่ เร่อื งราวจากข้อมูล (data ๆ ต้องการส่อื สารออกมา คง กระบวนการวิทยาการข้อมลู storytelling) จากเวบ็ ไซต์ https://www.vertical-leap.uk/blog/what- ไม่ใชเ่ พยี งแคก่ ารรายงาน เพิม่ มูลคา่ ให้หบั บริการหรอื is-data-storytelling/ แลว้ ตัง้ คำถามว่า “จากตัวอย่างมีการใช้ข้อมูลในการ ผลลพั ธ์ท่ีเกิดขน้ึ จากขอ้ มลู ผลติ ภณั ฑ์ได้ เลา่ เร่ืองราวอยา่ งไรใหน้ ่าสนใจและน่าติดตาม” หรอื ข้อเท็จจริงท่ไี ด้เก็บ 2. นักเรียนสามารถนำเสนอ ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ รวบรวมมา โดยผ่านการ ข้อมลู ดว้ ยภาพและเล่า ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) วิเคราะหแ์ ละประมวลผล เรอ่ื งราวจากข้อมลู ได้ จนไดผ้ ลลัพธอ์ อกมาเป็น เหมาะสมกับเน้ือหา
10 สัปดา ์ห ี่ท ภาระงาน/ คาบ ่ีท ชิน้ งาน มาตรฐาน/ ตัว ้ีช ัวด หมายเหตุ/ บันทึกห ัลงสอน ชอ่ื เรือ่ ง สาระสำคญั จุดประสงค์การเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล ภาพ กราฟ หรือแผนภมู ิ ด้านจติ พสิ ัย 2. นักเรียนศกึ ษาเน้ือหาและทำกิจกรรมการเรียนรู้จากเวบ็ ไซต์ “บทเรยี น แบบตา่ ง ๆ การท่ีจะประสบ 1. นกั เรยี นมคี วาม ออนไลน์ เรื่อง การเลา่ เร่อื งราวจากขอ้ มูล” ซึง่ ครูคอยใหค้ ำแนะนำและให้ ผลสำเรจ็ นนั้ จำเปน็ ตอ้ งมี รับผิดชอบและมีเจตคตทิ ี่ดี คำปรึกษา ในแต่ละกจิ กรรมนกั เรยี นจะต้องดำเนนิ การตามระยะเวลาที่ กลวธิ ีในการเลา่ เร่ืองราว ต่องานท่ีไดร้ ับมอบหมาย กำหนด (story) เพอ่ื เช่ือมโยงหรือ 3. นักเรยี นตอบคำถามกิจกรรมที่ 4.4 เรอ่ื ง รอ้ ยเรือ่ งราวสู่สงั คม ข้อที่ 1-2 ส่ือสารอยากอ่านเรอ่ื งราวนี้ ชั่วโมงท่ี 2 จนจบ และมคี วามเขา้ ใจตรง 4. นกั เรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาและทำกิจกรรมการเรียนรู้จากเวบ็ ไซต์ “บทเรียน ตามความตอ้ งการของผู้สร้าง ออนไลน์ เร่อื ง การเลา่ เร่อื งราวจากข้อมลู ” ซง่ึ ครคู อยใหค้ ำแนะนำและให้ เนอื้ หา คำปรกึ ษา ในแตล่ ะกจิ กรรมนักเรียนจะต้องดำเนินการตามระยะเวลาท่ี กำหนด สอบปลายภาค ว 4.2 ม.5/1 5. นักเรียนตอบคำถามกิจกรรมท่ี 4.4 เร่อื ง รอ้ ยเร่ืองราวสูส่ ังคม ข้อท่ี 3-6 ชวั่ โมงที่ 3 ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 6. ครูอธบิ ายความรู้เสริมจากเน้ือหาเก่ียวกับการนำเสนอขอ้ มลู ที่ดีในการทำ โครงงานวิทยาการขอ้ มูล 7. ให้นักเรยี นสงั เกตตวั อยา่ งของการนำเสนอข้อมลู ทดี่ ใี นการทำโครงงาน วิทยาการขอ้ มูลจากท่ีครเู พิม่ เตมิ ให้ ข้ันท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 8. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนองานกจิ กรรมที่ 4.4 เรื่องรอ้ ยเรือ่ งราวสสู่ ังคม เพอ่ื นำเสนอกับเพ่ือนรว่ มชน้ั 9. เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอข้อมูลหน้าช้ันเรียนโดยครูคอยให้ คำแนะนำ ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติมอย่างเหมาะสม ขัน้ สรปุ ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 10. ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรยี น และตรวจสอบการสร้างชิ้นงานของนักเรียน แบบทดสอบ จำนวน 60 ข้อ
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: