เทศโนโลยีดิจิทัลที่ควรเรียนรู้ (1)

เทคโนโลยีดิจิทัล ที่ควรเรียนรู้

1) Digital transformation ในยุคที่มีการแข่งขันสูง Digital transformation คือส่วนสำคัญใน การสร้างศักยภาพในการแข่งขัน ทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างเท่าทัน เทคโนโลยีและมีการพั ฒนาไปสู่สิ่งที่ ลูกค้าคาดหวัง แต่ก็ยังมีอีกหลาย องค์กรที่ยังคงไม่แน่ใจว่าจะเริ่ม ดำเนินการที่ตรงไหน

Digital Transformation เป็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรหรือ ธุรกิจ โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเครื่องมือในการปรับเปลี่ยน หรือปรับปรุงให้ธุรกิจหรือองค์กรมี ความพร้อมในโลกดิจิตอลมากขึ้น

2) Big Data ในยุคที่กำลังขับเคลื่อนด้วย ดิจิทัล การเก็บข้อมูลในรูปแบบ กระดาษของแต่ละองค์กร อาจ จะเป็นเรื่องที่ทำให้การทำงานช้า ลงไปแล้ว เพราะในตอนนี้ข้อมูล ทุกอย่างสามารถเก็บเอาไว้บน Cloud ซึ่งจะเป็นที่เก็บข้อมูล ขนาดใหญ่ที่เรียกใช้ได้จากทุกที่ ทุกเวลา

Big Data คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีทั้งหมด Item 5 Item 1 ภายในองค์กรไม่ว่าจะเป็น 20% 20% ข้อมูลของบริษัท Item 4 Item 2 ข้อมูลติดต่อของลูกค้า 20% 20% ข้อมูลติดต่อของผู้ร่วมธุรกิจ ลักษณะของผู้บริโภค Item 3 การทำรายการธุรกิจต่างๆ ในแต่ละวัน 20% ตัวอักษร ไฟล์เอกสาร รูปภาพ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ แทบทุกประเภทที่อยู่บนโลก ออนไลน์ เบื้องต้นการเก็บข้อมูลแบบ Big Data นี้ สามารถ นำไปวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่างๆ เพื่ อนำไปวางแผน และตัดสินใจ ในการดำเนินธุรกิจ หรือช่วยเพิ่ ม โอกาสในการทำธุรกิจให้ก้าวหน้ามากขึ้น

3) ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) AI ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเครื่องจักรมีความสามารถที่จะ เรียนรู้นั่นเอง ซึ่ง AI ก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ ตามความสามารถหรือความฉลาด โดยจะวัดจากความ สามารถในการ ให้เหตุผล การพู ด และทัศนคติของ AI ตัวนั้นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์อย่างเราๆ

4) 5G (Generation 5) เรียกได้ว่าเป็น รุ่นที่ 5 ของการ สื่อสารที่อนาคตจะไม่ใช่แค่โทรศัพท์ มือถือแล้ว แต่จะรวมถึงอุปกรณ์ทุก ชนิดที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้ (Internet of Things หรือ IoT) ซึ่งหากเราเข้าสู่ยุค 5G เราจะ ดาวน์โหลดวีดีโอ หนัง หรือแอปฯ ได้เร็วถึง 10,000 Mbps ถ้าใช้ 4G ดูวิดีโอออนไลน์ (ขนาด 8K) หรือ ดาวน์โหลดหนังต้องรอ 6 นาที แต่ ถ้ามี 5G ใช้เวลาแค่ 6 วินาที

5G เหนือกว่า 4G อย่างไร? 1. ตอบสนองไวกว่า ถ้าเราใช้ 4G สั่งงานควบคุมสิ่งต่างๆได้เร็วที่ 20 – 30 ms (Milli-second คือ 1:1,000 วินาที) แต่ถ้าใช้ 5G จะ เร็วขึ้น 10 เท่า จะสั่งงาน IoT หรือสมาร์ทดีไวซ์ได้เร็วจริง ถึง 3-4ms 2. รับส่งข้อมูลได้มากกว่า 4G ถ้า 4G รับส่งข้อมูลต่อเดือนได้แค่ 7.2 Exabytes 5G จะ ทำให้เรารับส่งข้อมูลได้เพิ่ มขึ้น 7 เท่า คือ 50 Exabytes ต่อเดือน

3. มีความถี่สำหรับใช้งานมากกว่า ตอนใช้ 4G มีให้ใช้ถึงแค่ 3GHz แต่ถ้าเป็น 5G เราใช้งาน คลื่นความถี่ได้ถึง 30GHz 4. รับรองการใช้งานในแต่ละพื้ นที่ได้มากกว่า ถ้า 4G รับคนได้ราว 1 แสนคนต่อพื้ นที่ 1 ตร.กม. 5G จะ รับได้ 10 เท่าคือรับได้ 1 ล้านคนต่อพื้ นที่ 1 ตร.กม. 5. ถ่ายโอนข้อมูลต่อวินาทีได้เยอะกว่า ถ้า 4G โอนข้อมูลเข้าเครื่องได้แค่ 1 GB ต่อวินาที 5G จะ ทำได้ถึง 20 GB ต่อวินาทีหรือ 20 เท่าของ 4G

5) บล็อกเชน (Blockchain) คือเทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บ ข้อมูลแบบกระจายศูนย์ หรือที่เรียกว่า Distributed Ledger Technology (DLT) ซึ่งเป็นรูปแบบการบันทึกข้อมูลที่ ใช้หลักการ Cryptography ร่วมกับ กลไก Consensus โดยข้อมูลที่ถูก บันทึกในระบบ Blockchain นั้นจะ สามารถทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ยาก ช่วยเพิ่ มความถูกต้อง และความน่าเชื่อ ถือของข้อมูล

NDID คือ ตัวตนของผู้ใช้บริการบนโลก 6) (National Digital ID - ดิจิทัล ที่สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ NDID) เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ การ สมัครขอสินเชื่อออนไลน์ เป็นต้น โดยไม่ต้อง เดินทางไปที่สาขา หรือสำนักงาน เพื่อทำการ แสดงตนสำหรับสมัครบริการ

7) IT Security/Data Privacy Data Privacy คือ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยให้ความคุ้มครองและปฏิบัติตามกฎหมาย รวมไปถึงการปกป้องข้อมูลต่าง ๆ โดยเน้นไปที่วิธีการรวบรวม ประมวลผล การเปิดเผยข้อมูล การจัดเก็บและการลบ ข้อมูลนั้น ๆ

ตัวอย่างของ Data Privacy: - การบริหารดูแลจัดการสัญญา และนโยบายการนำ - กฎหมายและข้อกำหนดต่างๆมาประยุกต์ใช้ (เช่น GDPR หรือ PDPA เป็นต้น) - การบริหารบุคคลภายนอก

8) FinTech/Mobile Payment Item 5 Item 1 20% 20% ​Mobile Payment คืออะไร Mobile Payment คือ การทำธุรกรรมการชำระ Item 4 Item 2 เงินผ่านเครือข่ายของระบบโทรศัพท์มือถือ โดย 20% 20% ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสื่อในการโอนเงิน หรือชำระ เงินให้แก่ร้านค้า รวมทั้งการชำระค่าสินค้าหรือ Item 3 บริการต่าง ๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 20%

9) การรักษาปลอดภัยทางดิจิทัล Item 5 Item 1 กฎหมายทางดิจิทัล 20% 20% ปัจจุบันภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์นับเพิ่ มขึ้น Item 4 Item 2 เพราะอินเตอเน็ตได้รับความนิยมกว่าแต่ก่อน 20% 20% กลาย ช่องทำเงินของเหล่าบรรดาแฮกเกอร์ สร้างความเสียหายให้กับผู้ใช้บริการและองค์กร ต่างๆนับวันจะมีมูลค่าเพิ่ มสูงขึ้น Item 3 20%