แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 วชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) นางกณั ชนิกา จนั ทรเ์ จริญ ครผู ้สู อน ประกอบการพิจารณา การสอบแข่งขนั เพ่ือบรรจแุ ละแต่งตัง้ บคุ คลเข้ารับราชการเป็น ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาแหน่งครผู ู้ช่วย
คำนำ ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัดสาระเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพ่อื ใหส้ ถานศึกษานำไปใช้เป็นกรอบทิศทางในการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษา วางแผนการจดั การเรียนการสอน และจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพฒั นาผู้เรียนให้มคี วามรู้ความสามารถ และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามเป้าหมายของ หลกั สตู ร ตลอดจนให้เกิดผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ของการปฏริ ปู การศึกษา ดงั นัน้ ขน้ั ตอนการนำหลักสูตรสถานศึกษา ไปปฏิบตั ิจรงิ ในชนั้ เรียนของครผู ูส้ อน จึงจัดเปน็ หวั ใจสำคญั ในการพฒั นาผเู้ รยี น ผูจ้ ดั ทำ ได้จดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ข้ึน เพื่อประกอบการพิจารณาการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย สังกัดสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ปี พ.ศ. 2564 ผ้จู ดั ทำหวงั ว่าแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ฉบบั น้ี จะทำให้ทุกท่านทอี่ ่านได้เห็นคณุ ค่าและความสามารถโดยรวมของข้าพเจา้ นางกณั ชนกิ า จันทร์เจรญิ 19 มีนาคม 2565
สารบัญ หนา้ เร่ือง 1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 3 คำอธิบายรายวิชา 4 โครงสร้างรายวิชา 6 โครงสรา้ งแผนการจดั การเรยี นรู้ 12 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรื่อง การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม 27 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้
1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่พี บในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.2 1. แสดงลำดับขัน้ ตอนการทำงานหรือการ การแสดงขั้นตอนการแกป้ ญั หา ทำได้โดยการเขยี น แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ หรือขอ้ ความ ปัญหาอย่างงา่ ย เช่น เกมตัวตอ่ 6-12 ชิ้น การแต่งตวั 2. เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวร์ มาโรงเรยี น หรือสอื่ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของ โปรแกรม ตวั อยา่ งโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมสัง่ ใหต้ วั ละคร ทำงานตามท่ีต้องการ และตรวจสอบข้อผดิ พลาด ปรบั 3. ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ แก้ไขใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามทกี่ ำหนด ค้นหา จดั เก็บ เรียกใชข้ ้อมูลตาม วัตถุประสงค์ การตรวจหาขอ้ ผิดพลาด ทำได้โดยตรวจสอบคำส่งั ที่แจ้ง ขอ้ ผิดพลาด หรือหากผลลพั ธ์ไมเ่ ปน็ ไปตามทีต่ ้องการให้ ตรวจสอบการทำงานทลี ะคำส่ัง ซอฟต์แวร์หรือสื่อที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น ใช้บัตร คำสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.Org การใชง้ านซอฟตแ์ วร์เบอื้ งต้น เช่น การเข้าและออกจาก โปรแกรม การสรา้ งไฟล์ การจดั เกบ็ การเรียกใช้ไฟล์ การ แก้ไขตกแต่งเอกสาร ทำได้ในโปรแกรม เช่น โปรแกรม ประมวลคำ โปรแกรมกราฟกิ โปรแกรมนำเสนอ การสรา้ ง คดั ลอก ย้าย ลบ เปล่ียนชื่อ จัดหมวดหมูไ่ ฟล์ และโฟลเดอรอ์ ย่างเป็นระบบจะทำใหเ้ รียกใช้ ค้นหา ข้อมูลไดง้ า่ ยและรวดเรว็
2 ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 4. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย การใช้เทคโนโลยรสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น รจู้ ัก ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ ข้อมูลส่วนตวั อนั ตรยจากการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว และ ร่วมกัน ดแู ลรกั ษาอปุ กรณเ์ บื้องตน้ ใชง้ าน ไมบ่ อกขอ้ มลู ส่วนตวั กบั บคุ คลอื่นยกเว้นผปู้ กครองหรือครู อยา่ งเหมาะสม แจ้งผเู้ กี่ยวขอ้ งเม่ือตอ้ งการความช่วยเหลือเก่ียวกับการใช้ งาน ขอ้ ปฏิบตั ใิ นการใชง้ านและการดูแลรักษาอปุ กรณ์ เชน่ ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ ทำความสะอาด ใชอ้ ุปกรณ์อยา่ ง ถกู วิธี
3 คำอธิบายรายวิชา รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) รหสั วิชา (ว12101) ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 20 ชว่ั โมง/ปกี ารศกึ ษา จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ได้กำหนดให้ รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) อยู่ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาผู้เรียนให้ใช้ทักษะเกี่ยวกับการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการ แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ เขยี นโปรแกรมโดยใช้ส่ือ สรา้ ง จัดเก็บ และเรียกใช้ไฟล์ตามวตั ถุประสงค์ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย ดูแลรักษาอุปกรณ์และใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม รวมไปถึงการมีจริยธรรม คุณธรรม และ ค่านิยมท่เี หมาะสม หลักสูตรวิทยาการคำนวณนี้ใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ประกอบด้วย การศึกษาการแสดงลำดบั ขัน้ ตอนการทำงาน หรอื แก้ปัญหาอยา่ งงา่ ย โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ ตลอดจนการเขียนโปรแกรม สร้างลำดับของคอมพิวเตอร์ ทำงาน และตรวจหา ข้อผิดพลาดของโปรแกรม ศึกษาการใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บื้องตน้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้าง และจัดการกบั ข้อมลู อย่างเปน็ ระบบ รวมถงึ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Base Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนเกิดการ เรียนร้จู ากการฝึกแก้ปัญหาต่างๆ ผ่านกระบวนการคิด การปฏิบตั ิอยา่ งเป็นระบบ และสรา้ งองค์ความรู้ใหม่ จากการใช้ ปัญหาทเี่ กดิ ขึ้นจริงในชีวิตประจำวันได้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เท่า ทนั และมีจรยิ ธรรม มาตรฐานตัวช้วี ัด ป.2/1 แสดงลำดับขัน้ ตอนการทำงานหรอื การแกป้ ัญหาอย่างง่าย โดยใชภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื ขอ้ ความ ป.2/2 เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือสื่อ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จดั เกบ็ เรียกใชข้ ้อมลู ตามวตั ถุประสงค์ ป.2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแล รักษา อปุ กรณเ์ บื้องต้น ใช้งานอย่างเหมาะสม รวม 4 ตัวชว้ี ดั
4 โครงสรา้ งรายวชิ า รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) รหัสวชิ า (ว12101) ระดับช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 20 ชว่ั โมง/ปีการศึกษา จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ลำดับ ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้ จำนวน นำ้ หนัก ที่ เรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน 1. การแกป้ ัญหา ว 4.2 ป.2/1 แสดง - การแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหา ทำได้ 4 15 อยา่ งเป็น ลำดบั ขั้นตอนการ โดย การเขียนบอกเลา่ วาดภาพ หรอื ขั้นตอน ทำงานหรอื การ ใช้สญั ลักษณ์ เช่น เกมสต์ วั ต่อ การแต่ง แกป้ ัญหาอย่างงา่ ย กายมาโรงเรียน โดยใชภาพ สัญลกั ษณ์ หรือข้อความ 2. การตรวจหา ว 4.2 ป.2/2 เขียน - ตัวอยา่ งปรแกรม เช่น เขยี นโปรแกรม 4 20 7 20 ขอ้ ผิดพลาดของ โปรแกรมอยา่ งง่าย สัง่ ใหต้ ัวละครทำงานตามที่ตอ้ งการ โปรแกรม โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือ และตรวจสอบข้อผิดพลาด ปรับแกไ้ ข ส่ือ และตรวจหา ใหไ้ ด้ผลลพั ธต์ ามท่กี ำหนด ข้อผิดพลาดของ - การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำได้โดย โปรแกรม ตรวจสอบคำสั่งทีแ่ จ้ง - ข้อผิดพลาด หรือหากผลลพั ธไ์ ม่ เป็นไปตามทีต่ ้องการ ให้ตรวจสอบการ ทำงานทีละคำส่งั - ซอฟตแ์ วร์ หรอื ส่ือทีใ่ ชใ้ นการเขยี น โปรแกรม เช่น ใช้บตั รคำสั่งแสดงการ เขยี นโปรแกรม , Code.Org 3. การจดั การไฟล์ ว 4.2 ป.2/3 ใช้ - การใช้งานซอฟต์แวรเ์ บื้องต้น เช่น อย่างมรี ะบบ เทคโนโลยใี นการสร้าง กการเข้าและออกจากโปรแกรม การ จดั หมวดหมู่ คน้ หา สรา้ งไฟล์ การจัดเกบ็ การเรียกใช้ไฟล์ จดั เก็บ เรียกใชข้ ้อมูล การแก้ไขตกแตง่ เอกสาร ทำไดใ้ น ตามวตั ถปุ ระสงค์ โปรแกรม เชน่ โปรแกรมประมวลผลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ
5 ลำดับ ชื่อหน่วยการ มาตรฐานตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้ จำนวน นำ้ หนัก ท่ี เรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน - การสรา้ ง คดั ลอก ยา้ ย ลบ เปล่ียนชอ่ื จัดหมวดหมู่ไฟล์ และโฟลเดอร์อยา่ ง เปน็ ระบบ จะทำใหเ้ รียกใช้ คน้ หา ข้อมูลไดง้ ่าย และรวดเร็ว 4. การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ป.2/4 ใช้ - การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง 5 15 20 70 สารสนเทศอยา่ ง เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปลอดภัย เช่น รู้จักข้อมลู ส่วนตวั ปลอดภยั อยา่ งปลอดภยั ปฏบิ ตั ิ อนั ตรายจากการเผยแพรข่ ้อมูลสว่ นตวั ตามข้อตกลงในการใช้ และไม่บอกข้อมลู สว่ นตัวกับบุคคลอ่นื คอมพวิ เตอรร์ ว่ มกัน ยกเวน้ ผู้ปกครองหรือครู แจง้ ดูแล รกั ษาอุปกรณ์ ผเู้ กีย่ วขอ้ งเมอ่ื ต้องการความช่วยเหลือ เบื้องตน้ ใช้งานอยา่ ง เกย่ี วกับการใชง้ าน เหมาะสม - ขอ้ ปฏบิ ัตใิ นการใชง้ านและการดแู ล รักษาอปุ กรณ์ เชน่ ไม่ขีดเขียนบน อุปกรณ์ การทำความสะอาดอปุ กรณ์ ใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี รวม 4 คะแนนระหวา่ งเรยี น 70 คะแนนกลางภาค 10 คะแนนสอบปลายภาค 20 รวมคะแนนท้ังปี 100
6 โครงสรา้ งแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) รหสั วิชา (ว12101) ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปกี ารศกึ ษา 2564 เวลา 20 ชวั่ โมง/ปกี ารศึกษา จำนวน 0.5 หน่วยกติ หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธสี อน/วธิ กี ารจัด ทักษะทีไ่ ด้ การประเมนิ เวลา กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) 1. ทกั ษะการสื่อสาร 1 การแกป้ ญั หาอย่าง แผนท่ี 1 การแกป้ ญั หาเบ้อื งตน้ แบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน 2. ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ 1 เป็นขนั้ ตอน 3. ทกั ษะการแกป้ ญั หา (problem- based learning) 4. ทักษะการสงั เกต ท่ี 1 การแก้ปญั หาเบ้ืองต้น 2. ตรวจใบงานที่ 1.1.1 เรอื่ ง แก้ปัญหากันดีกวา่ 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 4. สงั เกตความมวี นิ ยั ความรับผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ในการทำงาน แผนที่ 2 การแสดงขนั้ ตอนการ แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน 1. ทกั ษะการสื่อสาร 1. ตรวจใบงานที่ 1.2.1 เรอ่ื ง การแสดงขัน้ ตอน 2 แกป้ ัญหา (problem- based learning) 2. ทกั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ 3. ทักษะการแกป้ ัญหา การแกป้ ญั หา 4. ทกั ษะการสงั เกต 5. ทักษะการทำงานร่วมกัน 2. ตรวจใบงานที่ 1.2.2 เรือ่ ง การเขยี นผังงาน 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 4. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 5. สงั เกตความมวี นิ ยั ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน แผนที่ 3 การหารปู แบบของปญั หา แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1. ทกั ษะการส่อื สาร 1. ประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) กจิ กรรม 1 อย่างงา่ ย (5Es Instructional Model) 2. ทักษะการคิดเชิงคำนวณ 3. ทกั ษะการแก้ปญั หา การแก้ปัญหา 4. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 2. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 4. สงั เกตความมวี ินยั ความรับผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 5. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ ท่ี 1 การแกป้ ญั หาเบ้ืองตน้
7 หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ ีสอน/วิธีการจดั ทักษะท่ีได้ การประเมนิ เวลา แผนท่ี 1 การเรียนรู้ชุดคำสง่ั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) 2 การตรวจหา 1. ทักษะการส่อื สาร 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ ข้อผิดพลาดของ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 2. ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณ ที่ 2 การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 1 โปรแกรม 3. ทกั ษะการแกป้ ญั หา (5Es Instructional Model) 4. ทักษะการทำงานร่วมกนั 2. ตรวจใบงานที่ 2.1.1 เรอ่ื ง การเรียนร้ชู ดุ คำสง่ั 1 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แผนท่ี 2 การเขียนโปรแกรมแบบ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1. ทกั ษะการสอ่ื สาร 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 1 วนซ้ำ (5Es Instructional Model) 2. ทกั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 3. ทกั ษะการแก้ปญั หา 6. สงั เกตความมีวินยั ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 1 4. ทักษะการทำงานร่วมกัน มงุ่ ม่ันในการทำงาน แผนที่ 3 การตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1. ทักษะการสือ่ สาร 1. ตรวจใบงานที่ 2.1.2 เร่อื ง การหาเสน้ ทาง จากการเขยี นโปรแกรม (5Es Instructional Model) 2. ทักษะการคิดเชิงคำนวณ 2. ประเมินการนำเสนอผลงาน 3. ทกั ษะการแก้ปญั หา 3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 4. ทักษะการทำงานร่วมกัน 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 5. สังเกตความมีวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ แผนท่ี 4 ตัวอย่างการเขยี นโปรแกรม แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1. ทกั ษะการสอื่ สาร 2. ทักษะการคดิ เชิงคำนวณ มุง่ มน่ั ในการทำงาน ด้วย Code.org (5Es Instructional Model) 3. ทกั ษะการแก้ปัญหา 1. ตรวจใบงานที่ 2.2.1 เรอ่ื ง การตรวจหา 4. ทกั ษะการสงั เกต 5. ทักษะการทำงานรว่ มกนั ขอ้ ผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรม 2. ประเมินการนำเสนอผลงาน 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 5. สงั เกตความมีวินยั ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 1. ตรวจใบงานท่ี 2.3.1 เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรม ดว้ ย Code.org 2. ประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) กจิ กรรม การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ สี อน/วธิ ีการจัด ทักษะทไี่ ด้ การประเมิน 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ทักษะการสื่อสาร 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล เวลา 3 การจัดไฟลอ์ ย่างมี แผนที่ 1 การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บอ้ื งตน้ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 2. ทักษะการถ่ายทอดความคดิ 5. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ (ชว่ั โมง) ระบบ (5Es Instructional Model) 3. ทกั ษะการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 6. สังเกตความมีวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ 4. ทักษะการสงั เกต 2 มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ 1 ท่ี 2 การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม 1 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ ท่ี 3 การจดั ไฟล์อย่างมีระบบ 2. ตรวจใบงานท่ี 3.1.1 เรอื่ ง วาดภาพตัวฉัน 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน 4. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 5. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 6. สงั เกตความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการทำงาน แผนที่ 2 การแก้ไขตกแต่งเอกสารด้วย แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1. ทักษะการส่ือสาร 1. ตรวจใบงานที่ 3.2.1 เร่อื ง การสร้างนทิ าน 2. ทกั ษะการถา่ ยทอดความคดิ 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน โปรแกรมประมวลคำ (5Es Instructional Model) 3. ทักษะการคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 4. ทักษะการสังเกต 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 5. ทักษะการทำงานรว่ มกัน 5. สงั เกตความมวี นิ ยั ความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน แผนท่ี 3 การนำเสนอข้อมลู ดว้ ย แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1. ทกั ษะการสอื่ สาร 1. ประเมินการนำเสนอผลงาน โปรแกรมนำเสนอ (5Es Instructional Model) 2. ทกั ษะการถ่ายทอดความคดิ 2. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 3. ทักษะการคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ 3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 4. ทกั ษะการสงั เกต 4. สังเกตความมีวินยั ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 5. ทักษะการทำงานร่วมกนั ม่งุ ม่ันในการทำงาน
9 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ สี อน/วธิ ีการจัด ทกั ษะทไ่ี ด้ การประเมิน เวลา แผนท่ี 4 การจัดการกับไฟล์ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ชวั่ โมง) 1. ทักษะการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู 1. ตรวจใบงานท่ี 3.4.1 เรือ่ ง การจัดหมวดหมขู่ อ้ มลู แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน 2. ทักษะการสื่อสาร 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 1 3. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล (problem - based learning) 4. ทักษะการสังเกต 4. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 1 5. ทกั ษะการทำงานร่วมกนั 5. สังเกตความมวี นิ ยั ความรับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ 1 แผนที่ 5 การลบและการเปลยี่ นชือ่ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1. ทักษะการสือ่ สาร มงุ่ มัน่ ในการทำงาน (5Es Instructional Model) 2. ทักษะการแลกเปลยี่ นข้อมลู 1. ตรวจใบงานที่ 3.5.1 เรอ่ื ง การลบไฟลแ์ ละ 3. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทกั ษะการสงั เกต โฟลเดอร์ 5. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 2. ตรวจใบงานที่ 3.5.2 เร่ือง การเปลย่ี นชอื่ ไฟลแ์ ละ แผนที่ 6 การจัดเรยี งและแยกประเภท แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 1. ทักษะการสื่อสาร โฟลเดอร์ ไฟล์ (5Es Instructional Model) 2. ทกั ษะการถ่ายทอดความคดิ 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน 3. ทกั ษะการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 4. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 5. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 5. ทักษะการแก้ปญั หา 6. สังเกตความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ 6. ทกั ษะการสังเกต 7. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน มงุ่ ม่ันในการทำงาน 1. ตรวจใบงานที่ 3.6.1 เร่อื ง การจดั เรยี งไฟล์ 2. ประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) กิจกรรม การจดั การไฟล์อย่างมรี ะบบ 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 6. สงั เกตความมีวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน 7. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ ท่ี 3 การจดั การไฟลอ์ ย่างมรี ะบบ
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธสี อน/วธิ ีการจดั ทักษะที่ได้ การประเมนิ 10 แผนท่ี 1 ร้จู ักขอ้ มลู สว่ นตัว กิจกรรมการเรียนรู้ 4 การใชเ้ ทคโนโลยี 1. ทกั ษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ เวลา สารสนเทศอย่าง แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 2. ทักษะการสอ่ื สาร ที่ 4 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั (ช่วั โมง) ปลอดภยั 3. ทกั ษะกาคิดวเิ คราะห์ (5Es Instructional Model) 4. ทักษะการสำรวจ 2. ตรวจใบงานที่ 4.1.1 เรือ่ ง มารู้จักข้อมูลส่วนตัว 1 5. ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 3. ตรวจใบงานที่ 4.1.2 เรอ่ื ง ขอ้ มูลสว่ นตวั ของเรา 4. ประเมินการนำเสนอผลงาน 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 6. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 7. สังเกตความมวี นิ ยั ความรับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน แผนท่ี 2 อนั ตรายจากการเผยแพร่ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1. ทกั ษะการสือ่ สาร 1. ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 เรื่อง อันตรายจากการ 1 ขอ้ มลู สว่ นตัว (5Es Instructional Model) 2. ทักษะการแลกเปลยี่ นข้อมลู เผยแพรข่ ้อมลู สว่ นตัว 3. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 4. ทักษะการสังเกต 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 5. ทักษะการประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ในการแกป้ ัญหา 5. สงั เกตความมวี นิ ยั ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ 6. ทกั ษะการทำงานร่วมกัน มงุ่ มั่นในการทำงาน แผนที่ 3 ขอ้ ควรปฏิบัติในการใช้งาน แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es 1. ทักษะการสื่อสาร 1. ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 เรอ่ื ง การใชง้ านอปุ กรณ์ 1 2. ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมลู เทคโนโลยี อปุ กรณเ์ ทคโนโลยี (5Es Instructional Model) 3. ทกั ษะการคดิ อยา่ งมี 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน วจิ ารณญาณ 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 4. ทักษะการแสวงหาความรู้ 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 5. ทักษะการทำงานรว่ มกัน 5. สงั เกตความมีวินยั ความรบั ผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
11 หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธีสอน/วธิ ีการจดั ทักษะทไี่ ด้ การประเมนิ เวลา กจิ กรรมการเรียนรู้ (ชว่ั โมง) แผนท่ี 4 การดแู ลรักษา 1. ทักษะการแลกเปลี่ยนข้อมลู 1. ตรวจใบงานท่ี 4.4.1 เรอ่ื ง การดแู ลรักษาอปุ กรณ์ อปุ กรณ์เทคโนโลยี แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 2. ทักษะการส่ือสาร 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 1 3. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (5Es Instructional Model) 4. ทักษะการสังเกต 4. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 1 5. ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 5. สงั เกตความมีวนิ ยั ความรับผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ แผนท่ี 5 การใชง้ านอปุ กรณ์เทคโนโลยี แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es 6. ทกั ษะการสืบค้นข้อมลู 1. ทกั ษะการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู มุง่ มน่ั ในการทำงาน อย่างเหมาะสม (5Es Instructional Model) 2. ทักษะการสอ่ื สาร 1. ตรวจใบงานที่ 4.5.1 เรื่อง ขั้นตอนการใช้งาน 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4. ทกั ษะการสังเกต อุปกรณเ์ ทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม 5. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 2. ประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) กิจกรรม การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 6. สงั เกตความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ ท่ี 4 การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง ปลอดภัย
12 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม กลุ่มสาระการเรยี นเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) รหัสวิชา (ว12101) ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 จำนวน 4 ชว่ั โมง ผู้สอน นางกณั ชนกิ า จนั ทรเ์ จรญิ ครผู ู้สอนรายวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวัด ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาท่พี บในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นขัน้ ตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหา ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รูเ้ ท่าทัน และมีจรยิ ธรรม ว 4.2 ป.2/2 เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือส่ือ และตรวจหาข้อผดิ พลาด ของโปรแกรม 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 1) ตวั อยา่ งโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมส่งั ใหต้ วั ละครทำงานตามทต่ี ้องการ และตรวจสอบ ข้อผดิ พลาด ปรับแก้ไขให้ไดผ้ ลลัพธต์ ามทกี่ ำหนด 2) การตรวจหาขอ้ ผิดพลาด ทำไดโ้ ดยตรวจสอบคำสัง่ ท่ีแจง้ ขอ้ ผดิ พลาด หรือหากผลลพั ธ์ไม่เปน็ ไป ตามทีต่ ้องการใหต้ รวจสอบการทำงานทลี ะคำส่งั 3) ซอฟต์แวรห์ รือสอ่ื ทใ่ี ช้ในการเขียนโปรแกรม เชน่ ใชบ้ ตั รคำสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org 2.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่ การใช้เทคโนโลยีเพ่ือสง่ เสรมิ และสบื สาน 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การเขยี นโปรแกรม หมายถึง การเขยี นชุดคำส่ังให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามเง่ือนไขท่ีกำหนด สว่ นการเขียนโปรแกรม แบบวนซ้ำ จะช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายและสะดวกขึ้น โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมซ้ำกันหลาย ๆ คร้ัง และเมื่อทำการ เขียนโปรแกรมเสร็จแล้วจะต้องทำการตรวจสอบข้อผิดพลาด ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญในการเขียนโปรแกรม โดย ในขัน้ ตอนนีจ้ ะต้องตรวจสอบวา่ ได้ผลลัพธ์ตรงตามทต่ี ้องการหรือไม่ และถา้ พบข้อผิดพลาดจะต้องทำการแก้ไขให้เรียบร้อย นอกจากนั้นการเขียนโปรแกรมด้วย Code.org เป็นการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมโดยใช้เกมส์เป็นส่ือช่วยดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน โดยในบทเรียนประกอบด้วย การเรียนรู้คำสั่งที่ใช้เขียนโปรแกรมแบบจัดลำดับ การ เขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ และการตรวจสอบข้อผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรม
13 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินัย รับผิดชอบ - ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรียนรู้ 2. ความสามารถในการคดิ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน - ทกั ษะการคดิ เชงิ คำนวณ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการแกป้ ัญหา - ทักษะการสงั เกต 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต - ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 6. การวดั และการประเมินผล วิธีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ รายการวัด - ตรวจชิน้ งาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชนิ้ งาน ระดับคุณภาพ 2 6.1 การประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน /ภาระงาน (รวบ ผ่านเกณฑ์ (รวบยอด) เรื่อง การตรวจหา ยอด) ข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 6.2 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อน ประเมินตามสภาพจรงิ เรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง การตรวจหาข้อผดิ พลาด ก่อนเรยี น ของโปรแกรม 6.3 ประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ 1) การเรียนรู้ชุดคำส่ัง - ตรวจใบงานท่ี 2.1.1 - ใบงานท่ี 2.1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การหาเส้นทาง - ตรวจใบงานท่ี 2.1.2 - ใบงานที่ 2.1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3) การตรวจหาข้อผดิ พลาด - ตรวจใบงานท่ี 2.2.1 - ใบงานที่ 2.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ จากการเขยี นโปรแกรม - ใบงานที่ 2.3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 4) การเขียนโปรแกรมดว้ ย - ตรวจใบงานที่ 2.3.1 Code.org
14 รายการวดั วิธีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 5) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน 6) พฤติกรรมการทำงาน ผลงาน การนำเสนอผลงาน เกณฑ์ รายบคุ คล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ การทำงานรายบุคคล 7) พฤติกรรมการทำงานกลุม่ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกต ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ การทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 8) คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ 6.4 การประเมนิ หลงั เรยี น ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมน่ั อันพงึ ประสงค์ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบหลังเรยี น ในการทำงาน - แบบทดสอบหลัง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 - ตรวจแบบทดสอบ เรยี น เรื่อง การตรวจหาข้อผิดพลาด หลงั เรียน ของโปรแกรม 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
15 เร่ืองที่ 1 : การเรียนรู้ชดุ คำสั่ง เวลา 1 ชั่วโมง วธิ ีการสอนโดยเนน้ การจดั การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขัน้ นำ ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามนักเรียนวา่ “นกั เรยี นรู้หรอื ไม่ว่าการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำมลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร” และ “นักเรียนคิดวา่ การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำมีข้อดีอย่างไร” 2. จากนัน้ ครอู ธิบายเกีย่ วกับการเขยี นโปรแกรมเพอ่ื เช่ือมโยงเข้าส่บู ทเรยี น ขัน้ สอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. ครถู ามคำถามเพ่ือกระตนุ้ ความคดิ ของนักเรียนว่า“นกั เรียนคิดว่าน้ำผ้งึ เกดิ ขึน้ ได้อยา่ งไร ใครเป็นผ้ผู ลติ ข้นึ มา และมีกระบวนการผลติ น้ำผงึ้ อย่างไร” 2. นกั เรียนรว่ มกันออกแบบกระบวนการผลิตนำ้ ผ้ึงโดยครูคอยบนั ทึกลงบนกระดานหน้าช้ันเรียน 3. ครูถามคำถามกบั นักเรียนว่า“นักเรียนคิดว่ากระบวนการผลิตนำ้ ผ้ึงมกี ารทำงานซำ้ ๆ กัน หรือไม่ อยา่ งไรบ้างที่ต้องทำงานซำ้ ๆ” 4. นกั เรียนสังเกตและศึกษาสญั ลกั ษณข์ องชดุ คำส่งั จากหนังสือเรียน หรอื ศึกษาเกีย่ วกับความหมายของ ชุดคำสัง่ จากใบงานท่ี 2.1.1 เร่อื ง การเรียนร้ชู ดุ คำสั่ง ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 5. ครูอธิบายชดุ คำสัง่ โดยใชบ้ อร์ดชดุ คำส่ัง ใหน้ กั เรียนได้เข้าใจมากยิ่งขน้ึ 6. ครูสมุ่ นักเรยี น 3-5 คน ออกมาอภิปรายหนา้ ช้ันเรียนเกย่ี วกับชดุ คำสง่ั 7. ครอู ธบิ ายเกรด็ น่ารูเ้ พื่อใหน้ ักเรยี นเกดิ ความเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 8. ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ลงมือทำใบงานที่ 2.1.1 เร่อื ง การเรยี นรชู้ ดุ คำสัง่ เพื่อขยายความเข้าใจ โดยใหน้ ักเรยี นเขียนคำตอบให้สัมพันธ์กบั สญั ลักษณ์ที่กำหนดให้ 9. จากนน้ั ให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอการเรียนรชู้ ุดคำส่งั หนา้ ชนั้ เรยี น 10. ครูคดั เลือกผลงานการเรยี นรูช้ ดุ คำสง่ั ท่ีสมบูรณ์ท่สี ดุ มาตรวจสอบ โดยครู ใหข้ อ้ เสนอแนะกบั นักเรยี นตามความเหมาะสม ข้ันสรปุ ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครตู รวจสอบและสรุปคำตอบจากใบงานที่ 2.1.1 การเรยี นรชู้ ดุ คำส่ังท่ีถกู ตอ้ งให้นกั เรยี นดู 2. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปเกี่ยวกบั ชดุ คำส่งั
16 เร่ืองท่ี 2 : การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ เวลา 1 ชั่วโมง วธิ กี ารสอนโดยเนน้ การจดั การเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขัน้ นำ ข้ันที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครกู ลา่ วคำทักทายนักเรียน 2. ครูทบทวนความรเู้ ดมิ เรื่อง ชดุ คำส่งั ในการเขยี นโปรแกรม โดยครยู กตวั อยา่ งบัตรภาพชดุ คำสง่ั ให้นกั เรยี นดู แล้วตอบว่าคือสัญลักษณ์คำสั่งอะไร จากนนั้ นำบตั รภาพคำสง่ั ทำซ้ำใหน้ ักเรียนดู 3. จากนัน้ ครูเปดิ วดิ โี อ เพลงผ้ึงน้อย ให้นกั เรียนดู ข้ันสอน ข้ันท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. เมื่อดูวีดโี อจบ ครูถามคำถามเพื่อกระตนุ้ ความคิดของนกั เรียนวา่ “นักเรียนเหน็ อะไรในคลิปวดี ีโอที่ครู เปิดใหด้ ู นกั เรียนคิดวา่ นำ้ ผงึ้ เกิดข้นึ ได้อยา่ งไร” นักเรยี นตอบตามความคิดของตนเอง 2. ครูขออาสาสมัครออกมาหน้าชั้นเรียน 3 คน เพื่อทำกิจกรรมสาธิต ขัน้ ตอนการผลิตนำ้ ผ้งึ โดยให้ นกั เรยี นใสส่ ่ือสวมหวั - นักเรยี นคนที่ 1 แสดงเป็นผึ้ง - นักเรียนคนที่ 2 แสดงเป็นดอกไมแ้ ละถือบตั รภาพหยดน้ำหวาน 2 หยด - นกั เรียนคนท่ี 3 แสดงเปน็ รวงผึง้ ให้ผ้ึงเดนิ ไปหาดอกไมเ้ พือ่ ดดู นำ้ หวาน 2 คร้ัง จากเกสรดอกไม้ จากนั้น ผึง้ นำหยดน้ำหวานไปหยดทร่ี วงผง้ึ เพ่อื ผลิตน้ำหวาน 3. ครถู ามคำถามกบั นักเรียนวา่ “นกั เรียนคดิ วา่ กระบวนการผลิตนำ้ ผง้ึ กวา่ จะได้นำ้ ผง้ึ นนั้ ผง้ึ มีขั้นตอนการ ทำงานซำ้ ๆ กนั หรือไม่ แลว้ ข้นั ตอนใดบา้ งท่ีต้องทำงานซ้ำ ๆ” นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามครู และครู อธิบายกบั นกั เรียนอีกว่า “กระบวนการทำงานของผ้งึ ก็เช่นกัน หากถูกนำมาเขียนเป็นโปรแกรม บาง ขั้นตอนต้องใช้คำสง่ั ทำซำ้ เพื่อให้ทำงานซ้ำกันหลายๆ รอบ หรอื เรียกวา่ การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ” ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครอู ธบิ ายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ โดยใชส้ อื่ Coding Board และสุ่มใหน้ ักเรียนออกมาทำ กิจกรรมหนา้ ช้ันเรียน 5. ครใู ห้นกั เรียนศกึ ษา และทำใบงานท่ี 2.1.2 การหาเส้นทาง 6. ครูอธิบายให้นกั เรยี นเกิดความเขา้ ใจมากยิ่งขนึ้ “จากการทำกจิ กรรม Coding Borad ถา้ เรานำหลักการ นไ้ี ปเขียนโปรแกรม แบบใช้คำสัง่ ทำซำ้ จะชว่ ยให้การเขียนโปรแกรมงา่ ยข้ึน มีความสะดวกมากยง่ิ ขน้ึ โดยย ไมต่ ้องเขียนโปรแกรมซ้ำกนั หลายๆ รอบ ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน”
17 ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 7. ครูอธบิ ายและยกตัวอย่างการเขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำสัง่ ทำซ้ำ ให้นักเรยี นชว่ ยกันเขียนโปรแกรมแบบ วนซ้ำ จากเวบ็ ไซต์ Code.org เลอื กคอรส์ ท่ี 1 ต่อดว้ ยบทเรียนท่ี 14 ผ้งึ : ลปู (Loops) ให้ผึง้ สามารถเดินไป เกบ็ น้ำหวานจากดอกไม้ และนำไปผลติ เป็นน้ำผึง้ ได้ 8. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคน เข้าเว็บไซต์ Code.org เลือกคอร์สท่ี 1 ตอ่ ด้วยบทเรยี นที่ 14 ผึ้ง: ลปู (Loops) ใหน้ ักเรยี นเขยี นคำสัง่ ให้ผ้ึงสามารถเดินไปเกบ็ น้ำหวานจากดอกไม้และนำไปผลิตนำ้ ผ้ึงได้ โดยใชค้ ำสั่งทำซำ้ ใหถ้ กู ต้อง ครเู ดินดูนักเรียนเป็นรายบคุ คล ขน้ั สรุป ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูตรวจสอบผลการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ของนักเรยี นแต่ละคน และให้คะแนน 2. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เก่ยี วกบั ประโยชน์ของการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ 3. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม “การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ จะชว่ ยให้การเขยี นโปรแกรมสะดวกและง่ายขึ้น โดย ไมต่ ้องเขยี นโปรแกรมคำสง่ั ซ้ำกันหลายๆ ครัง้ ช่วยใหป้ ระหยัดระยะเวลาในการเขยี นโปรแกรม”
18 เรื่องท่ี 3 : การตรวจสอบข้อผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรม เวลา 1 ชั่วโมง วิธีการสอนโดยเน้นการจัดการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ข้นั นำ ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามคำถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของนกั เรียนวา่ “ในชวี ิตประจำวนั นกั เรยี นพบ ความผดิ พลาดอะไรบา้ ง และนกั เรียนจะมวี ิธีการช่วยลดความผิดพลาดท่เี กิดขึ้นได้อยา่ งไร” 2. ครูทบทวนความรู้จากชั่วโมงท่ีผ่านมา พร้อมซกั ถามคำถามประจำหวั ขอ้ เพ่ือกระตุน้ ความสนใจ ของนักเรยี นว่า“การตรวจสอบข้อผิดพลาดมปี ระโยชนอ์ ย่างไรต่อการเขยี นโปรแกรมคำสง่ั ” จากนั้นครูกลา่ วเพ่อื เช่ือมโยงเขา้ ส่บู ทเรียน ขัน้ สอน ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม โดยใหน้ ักเรยี นสงั เกตสญั ลักษณ์ ของชุดคำส่งั จากใบงานที่ 2.2.1 เรอื่ ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดจากการเขียนโปรแกรม และ ศึกษาเนื้อหาสถานการณ์ตัวอยา่ งจากหนังสือเรยี น ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 2. ครูสมุ่ นกั เรียน 2-3 กลุ่มออกมาอภปิ รายเก่ียวกับข้นั ตอนการตรวจสอบข้อผดิ พลาด หน้าชน้ั เรยี น และมอบหมายใหน้ ักเรยี นแต่ละคนทำกิจกรรมฝกึ ทักษะจากหนังสือเรียน เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ โดยให้นกั เรยี นแก้ไขขอ้ ผิดพลาดให้ถกู ต้องจากนั้นบันทึกคำตอบ ลงในสมุดประจำตัว 3. เปิดโอกาสให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ศกึ ษาสถานการณ์ตวั อย่างจากการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาด ของโปรแกรมทลี ะคำสง่ั จากหนังสือเรียน จากนัน้ ครูอธิบายเกร็ดน่าร้ใู หน้ ักเรียนฟงั ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 4. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันศึกษาการเขียนโปรแกรมจากชดุ คำสงั่ ในใบงาน โดยหาขอ้ ผดิ พลาดของคำสั่ง จากนน้ั แกไ้ ขคำสงั่ ให้ถูกต้อง และให้แกต่ละกลุ่มออกมานำเสนอ ข้ันตอนการแก้ไขคำส่งั หนา้ ช้ันเรยี น 5. ครูให้นักเรียนทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสือเรยี นเพือ่ ขยายความเข้าใจมากยิ่งข้นึ โดยให้นกั เรยี น พิจารณาบัตรคำสั่ง และหาผลลพั ธท์ ่ีเกิดขน้ึ ให้ถูกตอ้ ง โดยเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสามารถพดู คยุ แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ รว่ มกนั ภายในหอ้ งเรียน
19 ข้ันสรปุ ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครสู มุ่ นกั เรียน 2-3 คน รว่ มกันตอบคำถามว่า“นักเรยี นจะนำวธิ ีการตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดท่ไี ด้ เรียนรู้น้ี ไปช่วยลดข้อผิดพลาดทีอ่ าจจะเกิดข้ึนในชีวิตประจำวนั ของตนเองได้อย่างไร” 2. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 2.2.1 และการทำกิจกรรมฝึกทกั ษะ 3. นกั เรยี นและครสู รุปเน้ือหารว่ มกนั เกี่ยวกับการตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรม
20 เรอื่ งที่ 4 : การหารปู แบบของปญั หาอยา่ งงา่ ย เวลา 1 ช่ัวโมง วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขน้ั นำ ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูทบทวนความร้เู ดิมของนกั เรียน และถามคำถามกบั นักเรียนวา่ “นักเรียนรู้จกั การเขยี น โปรแกรมดว้ ย Code.org หรือไม่ และการเขยี นโปรแกรมด้วย Code.org มปี ระโยชนอ์ ย่างไร” 2. ครพู ูดกระตุ้นความสนใจของนักเรียนวา่ “วนั นคี้ รจู ะให้นักเรยี นทดลองใชเ้ วบ็ ไซต์ Code.org” พร้อมอธิบายเพ่ือเช่ือมโยงเข้าสบู่ ทเรียน ข้นั สอน ขัน้ ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรียนเขา้ สเู่ วบ็ ไซต์ Code.org โดยทำตามข้ันตอนทคี่ รูอธบิ าย 2. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนได้ศึกษาการเขียนโปรแกรมจากเวบ็ ไซต์ Code.org ในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ของตนเอง โดยกำหนดระยะเวลาตามความเหมาะสม 3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพอ่ื ศึกษาสถานการณต์ วั อย่าง และคำสั่งควบคมุ การทำงานของผ้งึ โดยใช้โปรแกรม Code.org จากหนังสอื เรยี น ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครใู ชค้ ำถามท้าทายการคดิ ขัน้ สูงของนักเรียนว่า“ในการทำนายผลลพั ธ์ นอกจากจะใชว้ ิธกี าร พิจารณาทลี ะคำสัง่ แล้ว นักเรียนมวี ิธีการทำนายผลลัพธใ์ นรูปแบบอ่นื อีกหรือไม่ อย่างไร” ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ลงมือทำใบงานที่ 2.3.1 เร่อื ง การเขียนโปรแกรมด้วย Code.org โดยลากเสน้ จับคูส่ ถานการณ์กบั โปรแกรมคำสง่ั ใหถ้ ูกต้องตรงกัน และเลือกโปรแกรมคำสั่ง จากสถานการณท์ ี่กำหนดไว้ได้อยา่ งถูกต้อง 6. นกั เรยี นออกมานำเสนอผลงานจากการทำใบงานหน้าชน้ั เรียน 7. นกั เรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะจากหนังสอื เรยี นเพ่อื ขยายความเขา้ ใจ จากน้ันบันทึกคำตอบ ลงในสมดุ ประจำตัว และนำมาอภปิ รายรว่ มกนั ในช้ันเรยี น
21 ข้ันสรุป ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูตรวจสอบการเขียนโปรแกรมคำสั่งของนกั เรียนจากการทำใบงานและการทำกจิ กรรม ฝกึ ทักษะ และถามนักเรยี น 2-3 คนวา่ “จากการเลน่ เกมส์ในเวบ็ ไซต์ Code.org นกั เรยี น ไดเ้ รียนรู้วธิ กี ารเขยี นโปรแกรมคำสงั่ อย่างไรบ้าง” 2. นักเรยี นและครูสรุปรว่ มกนั และใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 3. นกั เรยี นทำกิจกรรมเสรมิ สรา้ งการเรียนรู้จากหนงั สือเรียนและทำช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง การตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม จากนน้ั บนั ทึกคำตอบลงในสมุดและนำมาสง่ ในช่วั โมงถัดไป
22 8. นวตั กรรมทางการศึกษา 8.1 ส่ือและอุปกรณ์การเรยี นรู้ 8.1.1 หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม 8.1.2 ใบงานท่ี 2.1.1 เรื่อง การเรยี นรชู้ ดุ คำสง่ั 8.1.3 ใบงานท่ี 2.1.2 เรื่อง การหาเส้นทาง 8.1.4 ใบงานท่ี 2.2.1 เร่ือง การตรวจหาข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม 8.1.5 ใบงานที่ 2.3.1 เร่ือง การเขยี นโปรแกรมด้วย Code.org 8.1.6 บัตรภาพ ชดุ คำสง่ั 8.1.7 เว็บไซต์ Code.org 8.1.8 วีดโี อเพลงผึง้ น้อย 8.1.9 สื่อสวมหัว 8.1.10 Coding Board 8.1.11 เชอื ก 8.1.12 เครือ่ งคอมพิวเตอร์ 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 8.2.1 อินเทอรเ์ น็ต 8.2.2 ห้องคอมพิวเตอร์
23 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. จงเรยี งลำดับการทำงานของผ้ึงในการออกหา 4. ข้อใดกล่าวถึงการทำงานแบบวนซ้ำได้ถูกต้องทีส่ ดุ นำ้ หวานจากเกสรดอกไม้เพ่อื นำมาผลติ นำ้ ผึ้ง ก. เป็นการทำงานตามลำดับขน้ั ตอนท่ไี ดว้ างแผนไว้ ทีร่ วงผงึ้ ข. เปน็ การทำงานที่ซบั ซ้อนและมขี ้นั ตอนซ้ำ ๆ a. เดินทางออกจากรวงผึง้ ค. เปน็ การทำงานแบบเดิมซำ้ กนั หลาย ๆ รอบ b. ผลิตนำ้ ผ้งึ ทร่ี วงผึ้ง c. หาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ 5. สถานการณ์ในข้อใดจำเป็นต้องเขียนคำส่ังแบบวนซำ้ ก. a → b → c ก. มดลำเลยี งอาหารเข้ารงั ข. a → c → b ข. ปลวกกดั แทะอาหารอยู่ภายในรงั ค. c → b → c ค. ผ้งึ อาศัยอย่รู วมกนั เปน็ ฝูง 2. การเขียนชุดคำส่ังให้คอมพิวเตอรท์ ำงาน 6. จงเขยี นเส้นทางการเกบ็ น้ำหวานจากดอกไม้ 3 ดอก ตามเงอื่ นไขที่กำหนด มีแนวคดิ ในการเขียน เพ่ือนำมาผลติ นำ้ ผง้ึ ทร่ี วงผงึ้ 3 รวงให้ไดส้ ั้นที่สุด โปรแกรมตามข้อใด จากสถานการณท์ ี่กำหนดให้ ดังน้ี ก. การออกแบบ → การเขยี นชดุ คำสง่ั → การตรวจสอบผลลพั ธ์ 33 ข. การวิเคราะหข์ อ้ มลู → การออกแบบ → การเขียนชดุ คำสัง่ ก. (บิน) → (บิน) → (เกบ็ ) → (เก็บ) → (เกบ็ ) ค. การเขียนชุดคำสง่ั → การตรวจสอบผลลัพธ์ → (บิน) → (ผลติ ) → (ผลิต) → (ผลติ ) → การนำไปใช้ ข. (บิน) → (บิน) → (เกบ็ น้ำหวานซำ้ 3 ครั้ง) 3. ข้อใดคือสัญลักษณ์ของการทำซ้ำ → (บิน) → (ผลิตน้ำผึ้งซ้ำ 3 ครั้ง) ก. ค. (บนิ ไปทางขวาซ้ำ 2 ครง้ั ) → (เก็บน้ำหวาน ซำ้ 3 ครัง้ ) → (บนิ ไปทางขวา 1 คร้งั ) → (ผลติ น้ำผึง้ ซ้ำ 3 คร้งั ) ข. ค.
24 7. การเขยี นโปรแกรมคำสั่งในขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั 9. จากสถานการณ์และโปรแกรมคำสง่ั ท่ผี ดิ พลาด สถานการณด์ งั ต่อไปนี้ ควรแก้ไขตามข้อใดใหผ้ ึ้งสามารถเก็บน้ำหวาน ไดส้ ำเร็จ ก. ก. ข. ข. ค. ค. 8. การเขียนโปรแกรมคำส่ังในขอ้ ใดสามารถพานก สีแดงไปหาเจ้าหมูได้อยา่ งปลอดภยั 10. จากภาพสถานการณแ์ ละโปรแกรมคำส่ัง สว่ นใดท่ีทำให้โปรแกรมคำสง่ั เกดิ ข้อผิดพลาด ก. ข. ก. ข. ค. ค. เฉลย 1. ข 2. ก 3. ค 4. ค 5. ก 6. ค 7. ค 8. ข 9. ก 10. ก
25 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ให้นกั เรยี นพจิ ารณาภาพด้านลา่ ง และเลอื กคำสัง่ 3. สัญลกั ษณ์ หมายถงึ ขอ้ ใด เสน้ ทางทีพ่ าแมน่ กเข้ารงั ไดอ้ ย่างปลอดภยั ก. การวนซำ้ ๆ โดยแม่นกจะตอ้ งไมบ่ ินผ่านตน้ ไมแ้ ละอีกา ข. การเวียนซ้ำ ค. การทำซ้ำ 4. วิธกี ารเขียนโปรแกรมแบบใด ทำให้คอมพวิ เตอร์ ทำงานตามขน้ั ตอนแบบเดิมซำ้ ๆ ลดนอ้ ยลง ก. การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ข. การเขยี นโปรแกรมแบบทำซำ้ ค. การเขยี นโปรแกรมแบบเวียนซำ้ 5. การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ใช้ไดก้ ับสถานการณ์ ในข้อใด ก. วินัยทำการบา้ นสง่ ครูเปน็ ประจำ ข. เดชาขนของจำนวน 10 ชิน้ เก็บไว้ในห้องเกบ็ ของ ก. ค. สมศรตี ้ังใจเรยี นจนได้เกรดดีอยา่ งต่อเน่ือง 6. โปรแกรมคำส่งั ดงั ต่อไปนี้ ตรงกบั ภาพเสน้ ทางของผง้ึ ข. ในข้อใด ค. (บนิ ไปทางขวา 1 ครั้ง) → (เกบ็ น้ำหวาน) 2. ข้อใดคือแนวคิดในการเขียนโปรแกรม → (บนิ ไปทางขวา 2 คร้ัง) → (ผลติ นำ้ ผ้ึง) เพื่อใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงานตามทีก่ ำหนด ก. ก. การวิเคราะห์ขอ้ มูล → การออกแบบ → การเขยี นชดุ คำสงั่ ข. ข. การออกแบบ → การเขยี นชดุ คำสงั่ → การตรวจสอบผลลพั ธ์ ค. ค. การเขียนชุดคำส่ัง → การตรวจสอบผลลพั ธ์ → การนำไปใช้
26 7. การเขยี นโปรแกรมคำสงั่ ในขอ้ ใดสอดคล้องกับ 9. จากสถานการณแ์ ละโปรแกรมคำสง่ั ท่ผี ดิ พลาด สถานการณด์ ังต่อไปนี้ ควรแกไ้ ขตามข้อใดใหผ้ ้งึ สามารถเก็บน้ำหวาน ไดส้ ำเรจ็ ก. ก. ข. ข. ค. ค. 8. โปรแกรมคำส่ังดงั ต่อไปนต้ี รงกับเสน้ ทาง 10. จากภาพสถานการณ์และโปรแกรมคำส่ัง การพานกสแี ดงไปหาเจา้ หมูในภาพใด สว่ นใดทท่ี ำใหโ้ ปรแกรมคำส่ังเกดิ ข้อผิดพลาด ก. ก. ข. ข. ค. ค. เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ข 6. ค 7. ค 8. ข 9. ข 10. ค
27 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) รหสั วิชา (ว12101) ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม จำนวน 4 ชัว่ โมง แผนการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 วันท่ี 19 มนี าคม 2565 จำนวน 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางกัณชนกิ า จันทร์เจรญิ ชั่วโมงท่ี 6 ครผู สู้ อนรายวชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 1. สาระสำคัญ การเขียนโปรแกรม หมายถึง การเขียนชุดคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยเริ่ม กระบวนการตั้งแต่การออกแบบโปรแกรม การเขียนชุดคำสั่งเพื่อให้โปรแกรมทำงานตามที่ออกแบบไว้ จนกระทั่ง ตรวจสอบผลลัพธ์การทำงานท่ีได้ และทำการแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบ ส่วนการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ จะช่วยให้การ เขียนโปรแกรมงา่ ยและสะดวกขนึ้ โดยไม่ตอ้ งเขียนโปรแกรมซ้ำกนั หลาย ๆ ครงั้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นขนั้ ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตัวช้วี ัด ป.2/2 เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือส่อื และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (K-P-A) 1. อธบิ ายขั้นตอนในการเขยี นโปรแกรมและการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำได้ (K) 2. เขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ได้ถกู ต้อง (P) 3. เหน็ ความสำคญั และประโยชนข์ องการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ (A) 4. สาระการเรียนรู้ การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำ - ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น เขยี นโปรแกรมส่ังให้ตวั ละคร ทำงานตามท่ตี ้องการ และตรวจสอบข้อผดิ พลาด ปรับแกไ้ ขใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามทก่ี ำหนด - ซอฟตแ์ วร์หรอื สื่อที่ใช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น ใช้บตั รคำสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org
28 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ วธิ กี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขนั้ นำ ข้นั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูกลา่ วคำทักทายนักเรียน 2. ครทู บทวนความรู้เดิม เรื่อง ชดุ คำส่งั ในการเขยี นโปรแกรม โดยครูยกตัวอย่างบัตรภาพชุดคำส่ัง ให้นักเรียนดู แล้วตอบว่าคือสัญลกั ษณ์คำสง่ั อะไร จากนัน้ นำบัตรภาพคำสง่ั ทำซำ้ ให้นักเรียนดู 3. จากนน้ั ครูเปดิ วิดโี อ เพลงผ้ึงน้อย ใหน้ กั เรยี นดู ขนั้ สอน ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. เมอ่ื ดูวดี โี อจบ ครูถามคำถามเพ่ือกระตนุ้ ความคิดของนักเรียนว่า “นักเรยี นเห็นอะไรในคลิปวีดีโอที่ครู เปดิ ให้ดู นักเรยี นคดิ วา่ นำ้ ผึง้ เกดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไร” นักเรยี นตอบตามความคดิ ของตนเอง 2. ครขู ออาสาสมัครออกมาหน้าชัน้ เรียน 3 คน เพ่ือทำกิจกรรมสาธติ ข้นั ตอนการผลติ น้ำผง้ึ โดยให้ นกั เรยี นใส่ส่อื สวมหัว - นกั เรยี นคนท่ี 1 แสดงเป็นผึ้ง - นกั เรียนคนที่ 2 แสดงเป็นดอกไมแ้ ละถือบตั รภาพหยดนำ้ หวาน 2 หยด - นกั เรียนคนที่ 3 แสดงเป็นรวงผง้ึ ให้ผงึ้ เดินไปหาดอกไมเ้ พือ่ ดูดนำ้ หวาน 2 ครัง้ จากเกสรดอกไม้ จากน้ัน ผึ้งนำหยดนำ้ หวานไปหยดทรี่ วงผง้ึ เพื่อผลิตนำ้ หวาน 3. ครถู ามคำถามกบั นักเรยี นวา่ “นกั เรยี นคิดว่ากระบวนการผลิตนำ้ ผ้ึงกวา่ จะไดน้ ้ำผงึ้ นั้น ผึง้ มีขนั้ ตอนการ ทำงานซ้ำ ๆ กนั หรือไม่ แล้วข้นั ตอนใดบ้างท่ีต้องทำงานซำ้ ๆ” นักเรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามครู และครู อธบิ ายกบั นกั เรยี นอีกวา่ “กระบวนการทำงานของผง้ึ กเ็ ชน่ กนั หากถูกนำมาเขียนเปน็ โปรแกรม บาง
29 ขนั้ ตอนต้องใช้คำสัง่ ทำซ้ำ เพ่ือใหท้ ำงานซำ้ กันหลายๆ รอบ หรือเรียกวา่ การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ” ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครอู ธิบายการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชส้ อื่ Coding Board และส่มุ ให้นักเรียนออกมาทำ กิจกรรมหนา้ ชนั้ เรยี น 5. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษา และทำใบงานท่ี 2.1.2 การหาเส้นทาง 6. ครูอธบิ ายให้นักเรยี นเกดิ ความเข้าใจมากยงิ่ ข้นึ “จากการทำกิจกรรม Coding Borad ถ้าเรานำหลกั การ นีไ้ ปเขยี นโปรแกรม แบบใชค้ ำสง่ั ทำซ้ำ จะชว่ ยใหก้ ารเขียนโปรแกรมงา่ ยข้ึน มีความสะดวกมากยิ่งขน้ึ โดยยไม่ต้องเขยี น โปรแกรมซ้ำกนั หลายๆ รอบ ช่วยลดความซำ้ ซ้อนในการทำงาน” ขัน้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 7. ครูอธบิ ายและยกตวั อย่างการเขยี นโปรแกรมโดยใชค้ ำสง่ั ทำซำ้ ให้นักเรยี นช่วยกนั เขยี นโปรแกรมแบบ วนซ้ำ จากเวบ็ ไซต์ Code.org เลอื กคอร์สท่ี 1 ต่อด้วยบทเรียนที่ 14 ผึ้ง: ลปู (Loops) ให้ผงึ้ สามารถเดินไป เกบ็ น้ำหวานจากดอกไม้ และนำไปผลิตเปน็ น้ำผง้ึ ได้ 8. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะคน เขา้ เว็บไซต์ Code.org เลือกคอรส์ ท่ี 1 ต่อด้วยบทเรียนที่ 14 ผง้ึ : ลปู (Loops) ใหน้ ักเรยี นเขยี นคำสงั่ ใหผ้ งึ้ สามารถเดินไปเกบ็ นำ้ หวานจากดอกไมแ้ ละนำไปผลิตน้ำผงึ้ ได้ โดยใช้คำสั่งทำซำ้ ให้ถกู ต้อง ครเู ดนิ ดูนกั เรียนเป็นรายบคุ คล ขั้นสรปุ ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูตรวจสอบผลการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำของนักเรยี นแตล่ ะคน และให้คะแนน 2. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ เกี่ยวกบั ประโยชนข์ องการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ 3. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ “การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำจะชว่ ยให้การเขียนโปรแกรมสะดวกและงา่ ยข้ึน โดย ไม่ต้องเขียนโปรแกรมคำสัง่ ซ้ำกนั หลายๆ ครงั้ ชว่ ยใหป้ ระหยัดระยะเวลาในการเขยี นโปรแกรม” 8. นวัตกรรมทางการศึกษา 8.1 สื่อและอุปกรณ์การเรยี นรู้ 8.1.1 เวบ็ ไซต์ Code.org 8.1.2 วีดีโอเพลงผึง้ น้อย 8.1.3 บตั รภาพ ชดุ คำสั่ง 8.1.4 ส่ือสวมหวั 8.1.5 Coding Board 8.1.6 ใบงานท่ี 2.1.2 เรื่อง การหาเส้นทาง 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 8.2.1 อินเทอรเ์ น็ต
30 8.2.2 ห้องคอมพิวเตอร์ 9. การวัดผลและประเมนิ ผล (K-P-A) การวัดและ วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน ประเมนิ ผล - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ จดุ ประสงค์ - ผ่านการประเมิน 60% 1. นกั เรียนสามารถอธิบาย - ถามตอบในหอ้ งเรยี น - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ - ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ ขนั้ ตอนในการเขยี น ทำงานรายบคุ คล โปรแกรมแบบวนซ้ำได้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถเขยี น - ถามตอบในหอ้ งเรียน - ใบงานที่ 2.1.2 เร่ือง การ โปรแกรมแบบวนซำ้ ได้ - การทำกิจกรรมระหวา่ ง หาเส้นทาง ถูกต้อง (P) เรียน - การเขยี นโปรแกรมใน Code.org 3. นักเรียนเห็นความสำคัญ - การคน้ หาคำตอบ การตอบ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ และประโยชนข์ องการเขียน คำถาม การทำงานในเวลาที่ อันพงึ ประสงค์ โปรแกรมแบบวนซ้ำ (A) กำหนด ขนั้ ตอนในการ ทำงาน ปฏิบตั ิตามขั้นตอนที่ วางแผนไว้ -การทำกจิ กรรมในใบงาน 10. บนั ทึกการใชแผนการจัดการเรยี นรู้ ผลการสอน ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................
31 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ..................................................... ครูผสู้ อน ( นางกณั ชนกิ า จนั ทร์เจรญิ ) ตำแหน่ง .................................... ความเห็นของครูพเี่ ลี้ยง ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่อื ..................................................... ครูผ้สู อน ( .............................................. ) ตำแหน่ง .................................... ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ..................................................... ครผู สู้ อน ( .............................................. ) ตำแหน่ง ....................................
32 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 พฤตกิ รรม เลข ชื่อสกลุ ความสนใจ การแสดง การตอบ ทำงานที่ สรุป ที่ ความคิดเหน็ คำถาม ไดร้ ับ มอบหมาย 4321432143214321 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารวัดผผลให้คะแนนระดบั คุณภาพของแต่ละพฤตกิ รรมดังน้ี ดีมาก = 4 มคี วามสนใจ ไมพ่ ูดคยุ ในชนั้ เรยี น ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานสง่ ครบ และตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 80% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 60% ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรยี น แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงเวลา ลงชอ่ื ..................................................... ผู้สงั เกต ( นางกัณชนกิ า จนั ทรเ์ จริญ ) วนั ที่ ........... เดอื น .......................... พ.ศ. .............
33 แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วทำเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ กษตั รยิ ์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่สี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนับถือ ปฏิบตั ิตามหลักศาสนา 2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี กี่ยวกกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ตามทีโ่ รงเรียน 3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 4. ใฝเ่ รยี นรู้ จัดขึ้น 2.1 ใชข้ ้อมลู ที่ถูกต้อง และเป็นจรงิ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิง่ ทีถ่ ูกต้อง 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ และตรงต่อเวลา 6. มุ่งมั่นในการ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้ ทำงาน 4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 7. รักความเป็นไทย 4.3 เช่อื ฟงั คำสัง่ สอนของบดิ า มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง 8. มีจติ สาธรณะ 4.4 ตงั้ ใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยัดและรู้คณุ คา่ 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงนิ 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออปุ สรรค เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จกั การดแู ล รักษาทรัพย์สมบตั ิและสงิ่ แวดล้อม รวม เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ตำ่ กว่า 30 ปรับปรุง
34 เกณฑ์การให้คะแนน ได้ 3 คะแนน ได้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ได้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ลงชอ่ื ..................................................... ผูส้ งั เกต ( นางกัณชนกิ า จันทรเ์ จริญ ) ตำแหนง่ .............................
35 ใบงานท่ี 2.1.2 เร่ือง การหาเส้นทาง วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 ชื่อ ................................................... นามสกุล .................................................. ชน้ั ................. เลขท่ี .............. คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นศึกษาความหมายของชุดคำสัง่ ตอ่ ไปนี้ ชุดคำสั่ง สญั ลักษณ์ ความหมาย เดินข้ึนข้างบน เดินลงข้างล่าง เดนิ ไปทางขวา เกบ็ เดินไปทางซา้ ย น้ำหวาน เก็บน้ำหวาน ผลิตน้ำผึ้ง ผลิตน้ำผง้ึ
36 ชดุ คำส่ัง สัญลกั ษณ์ ความหมาย การทำซ้ำ 2 การทำซำ้ 2 ครั้ง 3 การทำซำ้ 3 ครงั้ 4 การทำซำ้ 4 ครง้ั ? การทำซำ้ … คร้ัง
37 คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนเขยี นโปรแกรมคำสง่ั โดยนำผ้งึ เดนิ ทางไปเกบ็ น้ำหวานจากเกสรดอกไมแ้ ละผลิตน้ำผึ้ง ที่รวงผึ้งไดส้ ำเรจ็ ตามเสน้ ทางทกี่ ำหนด สถานการณ์ 3 3 โปรแกรมคำสั่ง 123 45
38 คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมคำสงั่ โดยนำผงึ้ เดินทางไปเก็บนำ้ หวานจากเกสรดอกไม้และผลิตน้ำผึ้ง ท่ีรวงผ้ึงได้สำเร็จตามเส้นทางที่กำหนด เฉลย สถานการณ์ 3 3 โปรแกรมคำสง่ั 123 45 23 3 เก็บ ผลติ นำ้ หวาน น้ำผ้ึง
39 ส่อื ประกอบการสอน 1. โปรแกรมผึ้งเกบ็ น้ำหวาน จากเวบ็ ไซต์ Code.org 2. วดี โี อเพลงผึ้งน้อย จากเว็บไซต์ www.youetube.com
40 3. บัตรภาพ ชดุ คำสง่ั
41
42
43
44 5. บตั รภาพ ผ้ึงน้อย 6. บัตรภาพดอกไม้
45 5. บตั รภาพ รวงผึ้ง 6. บตั รภาพ หยดน้ำหวาน
46 8. บตั รคำสง่ั
47 ผลิตนำ้ ผ้งึ ผลิตนำ้ ผ้งึ ผลิตน้ำผึ้ง เก็บน้ำหวาน เกบ็ นำ้ หวาน เก็บน้ำหวาน
Search