vnd.openxmlformats-officedocument.presentationml.presentation_rendition=1

เทคโนโลยกี ารสอื่ สาร ขอ้ มูลและระบบ เครอื ข่าย

เคา้ โครงเนือ้ หา  1.ความหมายของการสอื่ สารขอ้ มลู และเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์  2.องคประกอบของการส่ือสารขอ้ มูล  3.ทศิ ทางของการสอื่ สารขอ้ มูล  4.ชนิดของสญั ญาณขอ้ มูล  5.ส่ือกลางในการส่ือสารขอ้ มูล  6.อุปกรณเช่ือมตอ่ ระหว่ งเครือขา่ ย  7.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร  8.โครงสรา้ งเครือขา่ ยคอมพิวเตอร

การส่อื สารขอ้ มลู การส่ือสารข(อ้ มูล คือ การรบั -สง่ โอนยา้ ยหรือ แลกเปล่ียนขอ้ มูลและสารสนเทศะหวา่ ง อปุ กรณส่ือสารตา่ งๆ ผา่ น)ส่ือนาขอ้ มูล

ความหมายของการส่อื สารขอ้ มลู และเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ การส่ือสารขอ้ มูล เครือขา่ ยคอมพิวเตอร () ()  หมายถึงการแลกเปล่ียนโอนยา้ ยขอ้ มูล และสารสนเทศ จากท่ี • หมายถึง การนาเคร่ืองคอมพิวเตอรต์ งั้ แต่ 2 เคร่ือง หน่ึงไปยงั อีกท่ีหน่ึง โดยผา่ นทางอุปกรณส่ือสารขอ้ มูลชนิดตา่ งๆ ข้ึนไปเช่ือมต่อกนั โดยใชอ้ ุปกรณส์ ่ือสาร

องคป์ ระกอบของการ  4.ส่ือนาขอ้ มูล( ) หมายถึง ส่ิงท่ีทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางในการ ส่อื สารขอ้ มลู ขนถา่ ยขอ้ มูลจากผูส้ ง่ ไปยงั ผ็รบั เชน่ สายเคเบิล สายใยแกว้ นาแสง คล่ืนวิทยุ คล่ืนไมโ่ ครเวฟ เป็นตน้  5.โพลโทคอล( ) หมายถึง กฎเกณฑหรือวิธีท่ีถูกกาหนด ข้ึนเพ่ือการส่ือสารขอ้ มูล ซ้ึงทงั้ ผูส้ ง่ และผูร้ บั ตกลงกนั ไวก้ อ่ น  1.ผูส้ ง่ ขอ้ มูล( ) หมายถึงอปุ กรณท่ีสง่ ขอ้ มูลไปยงั จุดหมายท่ีตอ้ งการ  2.ผูร้ บั ขอ้ มูล ( ) หมายถึง อุปกรณท่ีทาหนา้ ท่ีรบั ขอ้ มูลท่ีถูกสง่ มาจากผูส้ ง่ ขอ้ มูล  3.ขอ้ มูล( ) หมายถึง ส่ิงท่ีผูส้ ง่ ตอ้ งการสง่ ไปยงั ผูร้ บั อาจจะอยู่ ในรูปแบบขอ้ ความ เสียง ภาพเคล่ือนไหว และอ่ืนๆ

ทศิ ทางของการส่อื สารขอ้ มลู ทิศทางของการส่ือสารขอ้ มูล หมายถึง ทิศทางของสญั ญาณท่ี เดินทางจากอุปกรณรบั ขอ้ มูลโดยผา่ นส่ือนาขอ้ มูล ทิศทางของการ ส่ือสารขอ้ มูล แบง่ ออกเป็น 3 รูปแบบ ดงั น้ี  1. แบบทิศทางเดียว( )  2.แบบก่ึงสองทิศทาง( )  3.แบบสองทิศทาง( )

ขอ้ มูลจะถกู สง่ ไปในทางเดยี วเทา่ น้ัน เชน่ การกระจายเสยี งของสถานีวทิ ยุ การเผยแพรภ่ าพและรายการตา่ งๆ ของสถานีโทรทศั น์ เป็ นตน้ simplex

 เป็นรูปแบบการส่ือสารท่ีทง้ั สองฝ่ายสามารถสง่ ขอ้ มูลสวนทางกนั ไดแ้ ตต่ อ้ งสลบั กนั สง่ เชน่ วิทยุส่ือสารของตารวจ HALF DUPLEX

 สามารถสง่ ขอ้ มูลสวนทางกนั ไดต้ ลอดในชว่ งเวลาเดียวกนั เชน่ การพูดคุยโทรศพั ท การวีดีโอคอล ไมต่ อ้ ง กดสวิตชเพ่ือเปล่ียนสถานะกอ่ นท่ีจะส่ือสาร

ชนิดของสญั ญาณขอ้ มลู สญั ญาณแอนะล็อก สญั ญาณดิจิทลั ()  (DIGITAL SIGNAL)  เป็นสญั ญาณแบบตอ่ เน่ืองมีลกั ษณะเป็นคล่ืนไซน (sine เป็นสญั ญาณแบบไมต่ อ่ เน่ืองเป็นสญั ญาณท่ีใชแ้ ทนขอ้ มูลใน wave)โดยแตล่ ะคล่ืนจะมีความถ่ีและความเขม้ ตา่ งกนั คอมพิวเตอรอยูใ่ นระบบของเลขฐานสอง คือ 0 กบั 1

ส่อื กลางในการส่อื สารขอ้ มลู  ทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางในการส่ือสารขอ้ มูลในรูปแบบของสญั ญาณไฟฟา้ จากผูส้ ง่ ไปยงั ผูร้ บั ขอ้ มูล สามารถเป็นส่ือกลางออกเป็น 2 ประเภท คือ ส่ือนาขอ้ มูลแบบมีสาย (wired media) และส่ือนาขอ้ มูลแบบไรส้ าย(wireless media)

สื่อกลางในการสอ่ื สารขอ้ มลู ส่ือนาขอ้ มูลแบบมีสาย สายคูบ่ ดิ เกลยี ว (twisted-pair cable:UTP,STP) (wired media)  สายคูบ่ ิดเกลียวท่ีพบเห็นโดยทว่ั ไป คือ สายโทรศพั ทมีฉนวนหุม้  ท่ีนิยมใชม้ ี 3 ชนิด ไดแ้ ก่ จบั คูพ่ นั เป็นเกลียวเพ่ือลดสญั ญาณรบกวน ประกอบดว้ ยสาย ทองแดง 2 เสน้ สายคูต่ ีเกลียว1คู่ จะแทนการส่ือสารได้ 1  สายคูบ่ ิดเกลียว(twisted-pair ชอ่ งทางส่ือสาร cable:UTP,STP)  สายคูบ่ ิดเกลียว ท่ีใชก้ บั คอมพิวเตอรเป็นสายทองแดง8เสน้ 4คู่  สายโคเอกเซียล(coaxial cable) แลว้ เช่ือมตอ่ ดว้ ยคอนเนคเตอร  สายใยแกว้ นาแสง(optical cable)

สอ่ื กลางในการส่อื สารขอ้ มลู (twistedส-าpยaคirูบ่ cดิ aเbกlลeยี :UวTP,STP) (twistedส-าpยaคirูบ่ cดิ aเbกlลeยี :UวTP,STP)  สายคูบ่ ิดเกลียวไมห่ ุม้ ชนวน(Unshielded Twisted  สายคูบ่ ิดเกรียวแบบมีฉนวน (Shielded Twisted Pair : Pair : UTP ) สายแบบยูทีพีเสน้ สายท่ีมีราคาถูกและหา STP ) สายแบบ STP เป็นสายแบบมีฉนวนป้องกนั ชนวนโลหะ งา่ ยแตป่ ้องกนั สญั ญาณรบกวนจากอานาจแมเ่ หล็กไดไ้ มด่ ีเทา่ สญั ญาณรบกวนท่ีมีความถ่ีสูงไดร้ าคาจะแพงกวา่ สายยูทีพีมากสามารถต่ืน สายแบบSTP สายไดย้ าวกวา่ ยูท่ีพ่ี

สายโคแอกเซียล สอื่ กลางในกาCรoสaอื่xiสalาcรaขblอe้ มูล  ประกอบดว้ ยแกนทองแดงหุม้ ดว้ ยฉนวนภายนอกฉนวน ก็ถูกหุม้ ดว้ ยโลหะอีกชน้ั หน่ึงเพ่ือป้องกนั สนามไฟฟา้ รบกวนจากภายนอกและสายดิน(ลกั ษณะเป็นฝอย) แลว้ หุม้ ดว้ ยฉนวนบางอีกที สายโคแอกเซียล สามารถรองรบั ความเร็วสูงสุดในการรบั และสง่ ขอ้ มูลท่ี 10 mbps สายนาสญั ญาณแบบน้ีจะใช้ connecter เฉพาะใน การเช่ือมตอ่ กบั เคร่ืองคอมพิวเตอรและจุดตา่ งๆภายในเครือขา่ ย ปัจจุบนั ไดเ้ ปล่ียนสายดินลวดทองแดงเสน้ ลวดเงินทงั้ น้ีเพ่ือป้องกนั อาการรบกวนท่ีเกิดจาก สายสญั ญาณขา้ งเคียง

สอื่ กลางในการสสายอื่ ใยสแกาว้ นราแขสงอ้ มูล (optical cable)  เป็นสายนาสญั ญาณท่ีใชร้ ูปแบบของแสงในการรบั สง่ ขอ้ มูล อุปกรณทงั้ สองตวั มีหนา้ ท่ีแปลงสญั ญาณแสงใหเ้ ป็นสญั ญาณท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอรรูจ้ กั (ดิจิตอล) สายใย แกว้ นาแสง มีประสิทธิภาพในการรบั สง่ ขอ้ มูลเร็วท่ีสุดเม่ือเปรียบเทียบกบั ไซดกนั ยาฉันอ่ืนรองรบั ความเร็วในการรบั ส่565-1300 mbps  ขอ้ ดี ทนทานตอ่ คล่ืนรบกวน ดว้ ยชนวนฉันนอก สญั ญาณคงท่ีในการสง่ ขอ้ มูลแมร่ ะยะทางไกลไมต่ อ้ งอาศยั อุปกรณเพ่ิมสญั ญาณ มีความปลอดภยั ของขอ้ มูลสูงกวา่ สายเคเบิลชนิ ดอ่ ื น  ขอ้ จากดั มีราคาแพงเน่ืองจากตน้ ทุนการผลิตสูง มีความยุง่ ยากในการติดตง้ั และการบารุงรกั ษา

สอื่ กลางในการสอื่ สารขอ้ มูล ส่ือนาขอ้ มูลแบบไรส้ าย(wireless media)  สามารถสง่ ขอ้ มูลไดท้ ุกทิศทางโดยมีอากาศเป็นตวั กลางในการส่ือสาร ซ่ึงส่ือนาขอ้ มูลแบบไรส้ ายจะประกอบดว้ ย คล่ืนวิทยุ ไมโครเวฟ แสงอินฟราเรด การส่ือสารผา่ น ดาวเทียมเป็ นตน้

สอื่ กลางในการสอื่ สารขอ้ มูล สอื่ นาขอ้ มูลแบบไรส้ าย(wireless media)  คลื่นวิทยุ เป็นส่ือกลางในการใชส้ ง่ สญั ญาณไปในอากาศ  ไมโครเวฟ เป็นส่ือกลางชนิดหน่ึงท่ีมีความถ่ีสูงระดบั โดยสามารถสง่ ในระยะทางใกลแ้ ละไกล GHz เป็นคล่ืนเสน้ ตรงในระดบั สายตา ตอ้ งมีการรบั สง่ ตาม ยอดตึก/เขา เพ่ือสง่ ตอ่ สญั ญาณท่ีมีความเร็วสูงสามารถติดตง้ั ไดง้ า่ ยและประหยดั สภาวะอากาศมีฝนตกสญั ญาณ * สญั ญาณ ไมโครเวฟมีขอ้ จากดั เร่ืองระยะทา

สอื่ กลางในการสอื่ สารขอ้ มูล สอื่ นาขอ้ มูลแบบไรส้ าย(wireless media)  แสงอินฟราเรด เป็นส่ือกลางท่ีใชจ้ ดั สง่ ขอ้ มูลระยะใกล้  การสื่อสารผ่านดาวเทียม มีสถานีภาคพ้ืนดินทา เชน่ remote control วิทยุ/ทีวี มีความถ่ีสน้ั และ หนา้ ท่ีสง่ สญั ญาณไปยงั ดาวเทียมและดาวเทียมก็จะทาหนา้ ท่ีเป็น ชอ่ งทางส่ือสารนอ้ ย มีความเร็วประมาณ 4-16 mbps สถานีทวนสญั ญาณกอ่ นท่ีสง่ สญั ญาณขอ้ มูลไปตอ่ ยงั สถานี ภาคพ้ืนดินท่ีทาหนา้ ท่ีรบั สญั ญาณการส่ือสารผา่ นดาวเทียมจะมี ทะลุผา่ นวตั ถุไมไ่ ดต้ อ้ งวางแนวเสน้ ตรงไมเ่ กิน1-2เมตร ระยะทางท่ีไกลมากนิยมใชก้ บั การส่ือสารระหวา่ งประเทศ

อุปกรณส์ ำหรับเช่ือมตอ่ ระหวำ่ งเครือข่ำย  ระบบเครือขา่ ยท่ีใชใ้ นการเช่ือมตอ่ ภายในหน่วยงาน หรือองคกรตา่ งๆ อาจจะมีหลายเครือขา่ ยภายในระหวา่ งหน่วยงานเดียวกนั ระยะทางในการ เช่ือมตอ่ เครือขา่ ย มีระยะทางไกลหรือเป็นการเช่ือมตอ่ ระหวา่ งเครือขา่ ยระหวา่ งอาคาร และเพ่ิมจานวนเคร่ืองคอมพิวเตอรเครือขา่ ย ไดแ้ ก่ การดเช่ือมโยงเครือขา่ ย ฮบั /สวิตซ เราทเตอร โมเด็ม AocessPoint WirelessCard

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง เครอื ข่าย  ฮบั /สวิทซ(์ hub/switch) เป็น อุปกรณท่ีทาหนา้ ท่ีเช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรหลายหลายเคร่ืองเขา้ ดว้ ยกนั และเป็นอุปกรณท่ี ชว่ ยในการกระจายสญั ญาณ โดยท่ีฮบั จะมีการแบง่ ชอ่ งสญั ยานตามจานวนผูใ้ ชแ้ ต switch ไมม่ ีการแบง่  การทางานของฮบั (hub)

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง เครอื ข่าย ความแตกตา่ งระหวา่ งฮบั /สวิทซ(hub/switch)  Hub เป็น เพียงตวั ขยายสญั ญาณขอ้ มู/จดั การสญั ญาณ  Switch จะ มีการทางานท่ีซบั ซอ้ นกวา่ การรบั - ท่ีสง่ มาจากคอมพิวเตอรและกระจายสญั ญาณไปยงั คอมพิวเตอร สง่ ขอ้ มูลจากพอรตหน่ึงของอุปกรณไปยงั อีกพอรต ปลายทางท่ี เคร่ืองอ่ืนๆหากมีการสง่ สญั ญาณพรอ้ มพรอ้ มกนั ความเร็วจะ เช่ือมอยูก่ บั อีกเคร่ืองพ่ีตอ้ งการสง่ ขอ้ มูล สง่ ขอ้ มูลไดพ้ รอ้ มกนั ใน ลดลงไมเ่ หมาะท่ีจะนามาใชก้ บั เคร่ือขา่ ยขนาดใหญ่ เวลาเดียวกนั เป็นท่ีนิยมใชใ้ นงานระบบเครือขา่ ยมากกวา่ ฮบั

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง เครอื ข่าย การดเช่ือมโยงเครือขา่ ย(Network interface card)  เป็นอุปกรณท่ีทาหนา้ ท่ีเช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรเขา้ กบั สายเคเบิลของเครือขา่ ย และควบคุมการรบั สง่ ขอ้ มูลระหวา่ งคอมพิวเตอรกบั เครื อขา่ ยบางครงั้ เรียกวา่ LAN CARD

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง เครอื ขา่ ย เราทเตอร(Router)  เป็นอุปกรณท่ีทาหนา้ ท่ีเช่ือมตอ่ เครือขา่ ยแตล่ ะประเภทเขา้ ดว้ ยกนั โดยคน้ หาเสน้ ทางท่ีดีท่ีสุดในการสง่ ผา่ นขอ้ มูล

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ งเครอื ข่าย โมเด็ม(Modem)  เป็นอุปกรณท่ีทาหนา้ ท่ีแปลงสญั ญาณดิจิตอลของคอมพิวเตอรใหส้ ามารถว่ิงบนทรายโทรศพั ท (สญั ญาณอนาล็อก) เพ่ือทาการติดตอ่ ส่ือสารไดม้ ี 2 ชนิด คือ แบบ ติดตงั้ ภายใน และแบบติดตง้ั ภายนอก

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง เครอื ขา่ ย ลกั ษณะการเช่ือมตอ่ โมเด็ม

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง เครอื ข่าย Access point  ใชใ้ นการเช่ือมตอ่ กบั เคร่ืองคอมพิวเตอร กลบั ระบบเครือขา่ ยแบบไรส้ า(wireless) Access point หรือเรียกแบบสน้ั ๆ วา่ AP ซ่ึงจะทาหนา้ ท่ีเป็นจุด กระจายและเช่ือมตอ่ สญั ญาณแบบไรส้ าย เพ่ือเช่ือมตอ่ ปกรณไรส้ ายทุกชนิด

อปุ กรณส์ าหรบั เชอื่ มตอ่ ระหวา่ ง เครอื ข่าย Wireless Card  ติดตง้ั บนเคร่ืองคอมพิวเตอรเพ่ือเช่ือมตอ่ กบั ระบบเครือขา่ ยแบบไรส้ าย

) ระบบเครือข่ายแบ่งออกเป็ น 3ประเภท ดงั น้ี 1.Wan(wide area network) 2.Man(metropolitan area network 3.Lan(local area network ) ประเภทของเครือข่ำยคอมพวิ เตอร์

ประเภทของเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร ์ ระบบเครือขา่ ยระยะใกล:้ LAN(local area network )  เป็นการเช่ือมตอ่ เครือขา่ ยขนาดเล็กในพ้ืนท่ีไมใ่ หญม่ ากนกั เชน่ ภายในหอ้ ง หรือภายในตวั อาคาร จุดประสงคของการเช่ือมตอ่ คือแบง่ ปันทรพั ยากรท่ีมีอยูอ่ ยา่ งจากดั เชน่ ฟิลเตอรเทนเนอรรวมทง้ั ขอ้ มูลและโปรแกรมตา่ งๆรวมถึงอานวยความสะดวกในการติดตอ่ ส่ือสาร

ประเภทของเครอื ระขบบเคา่ รือยขา่ ยคระอหวา่มงเมพือง วิ เตอร ์ Man(metropolitan area network  เป็นการเช่ือมตอ่ เครือขา่ ยท่ีมีขนาดท่ีใหญข่ ้ึนกวา่ แลนดมกั เกิดจากการเช่ือมโยงเครือขา่ ยแลนดในบริเวณเดียวกนั เขา้ ดว้ ยกนั เชน่ การเช่ือมตอ่ ระหวา่ งองคกรกบั องคกร

ประเภทของเครอื รขะบบ่าเครยือขคา่ ยรอะยะมไกลพวิ เตอร ์ Wan(wide area network )  เป็นเครือขา่ ยบริเวณกวา้ งซ่ึงอาจมีขอบเขตการเช่ือมตอ่ ท่ีกวา้ งไกลข้ึนจากแลนดและแมนซ่ึงไมเ่ ช่ือมตอ่ จะกอ่ ใหเ้ กิดเป็นระบบเครือขา่ ยในประเทศจงั หวดั หรือขา้ มทวีป ได ้

โครงสร้ำงเครือข่ำยคอมพวิ เตอร์  โครงสรา้ งเครือข่ายคอมพิวเตอร(์ network topology ) คือ การนาเอาคอมพิวเตอรมาเช่ือมตอ่ กนั เพ่ือประโยชนของการส่ือสารรูปแบบการจดั การความคอมพิวเตอร การเดินสายสญั ญาณคอมพิวเตอรในเครือขา่ ยรวมถึงหลกั การของ ไหลเวียนของขอ้ มูลในเครือขา่ ยสามารถทาไดห้ ลายรูปแบบ แตล่ กั ษณะท่ีนิยมใชน้ ั้นมีอยูด่ ว้ ยกนั 4 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1. โครงสรา้ งเครือขา่ ยแบบสั (bus topology) 2. โครงสรา้ งเครือขา่ ยแบบดาว(star topology) 3. โครงสรา้ งเครือขา่ ยแบบวงแหวน(ring topology) 4. โครงสรา้ งเครือขา่ ยแบบเมซ(mesh topology)

โครงสรา้ งเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร ์  โครงสรา้ งเครือข่ายแบบบสั (bus topology) เป็น ลกั ษณะของการนาเคร่ืองคอมพิวเตอรมาเช่ือมตอ่ กบั ระบบ เครือขา่ ยดว้ ยสายเคเบิลยาวตอ่ เน่ืองกนั ไปเร่ือยเร่ือยโดยมีคนเนคตอรในการเช่ือมตอ่ โดยลกั ษณะของการสง่ ขอ้ มูลรบั ขอ้ มูลจะเป็นการสง่ ขอ้ มูลท่ีรกั เคร่ืองในชว่ งเวลาหน่ึงเทา่ นั้น  ขอ้ ดี เป็นโครงสรา้ งท่ีเช่ือมตอ่ งา่ ยไมซ่ บั ซอ้ นประหยดั สายสญั ญาณ  ขอ้ เสีย หากมีการสง่ ขอ้ มูลจากคอมพิวเตอรสองเคร่ืองพรอ้ มกนั จะทาใหข้ อ้ มูลสูญหายเน่ืองจากการชนของขอ้ มูลการส่งขอ้ มูลใหม่

โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร ์  โครงสรา้ งเครือข่ายแบบดาว(star topology) เครือขา่ ย แบบดาวคือคอมพิวเตอรทุกเคร่ืองจะตอ้ งตอ่ กบั อุปกรณท่ีอยูHUB เพียงตวั เดียว เม่ือตอ้ งการสง่ ขอ้ มูลจะตอ้ งสง่ ผา่ นHUB กอ่ นเป็นรูปแบบการตอ่ ท่ีนิยมมากท่ีสุด  ขอ้ ดี งา่ ยตอ่ การตรวจเช็คเม่ือคอมพิวเตอรมีปญั หาสง่ ขอ้ มูลไมไ่ ดล้ ดปญั หาการชนของขอ้ มูล  ขอ้ เสีย HUB เป็นตวั กลางของก็สง่ ขอ้ มูลถา้ เสียระบบก็ลม่

โครงสรา้ งเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร ์  โครงสรา้ งเครือข่ายแบบวงแหวน(ring topology) เครือขา่ ยแบบวงแหวนคือ การตอ่ สายผา่ นคอมพิวเตอร และแตล่ ะเคร่ืองเป็นวงการสง่ ขอ้ มูลจะสง่ ผา่ นวงแหวนรถผา่ นนะมึงวนั โดยผา่ นเคร่ืองคอมพิวเตอรแตล่ ะเคร่ืองท่ีรองรับขอ้ มูล  ขอ้ ดี เคร่ืองคอมพิวเตอรในเครือขา่ ยจะมีโอกาสในการสง่ ขอ้ มูลไดเ้ ทา่ เทียมกนั ไมม่ ีปญั หาเร่ืองการชนของขอ้ มูล  ขอ้ จากดั การสง่ ขอ้ มูลจะชา้ กวา่ ทุกระบบเพราะตอ้ งสง่ ผา่ นทีละเคร่ืองตน้ ทุนเคร่ืองท่ีรองรบั ขอ้ มูล

โครงสรา้ งเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร ์  โครงสรา้ งเครือข่ายแบบเมซ(mesh topology) เป็น การเช่ือมตอ่ เครือขา่ ยท่ีสมบูรณเคร่ืองคอมพิวเตอรทุก เคร่ืองในเครือขา่ ยท่ีเช่ือมตอ่ ถึงกนั ไดท้ ง้ั หมดดว้ ยสญั ญาณมีความเป็นอิสระในการสง่ ขอ้ มู  ขอ้ ดี ในกรณีสายเคเบ้ิลบางทรายชารุดเครือขา่ ยทงั้ หมดยงั สามารถใชไ้ ดท้ าใหร้ ะบบมีเสถียรภาพโม  ขอ้ จากดั ส้ินเปลืองคา่ ใชจ้ า่ ยใชส้ ายเคเบิลมากกวา่ การตอ่ แบบอ่ืนๆยากตอ่ การติดตงั้ เดินสายเคล่ือนยา้ ยปรบั เปล่ียนและการประมูลสาแบบ เครือขา่ ย

ตวั อย่ำงของกำรส่ือสำรโทรคมนำคม  การคุยกนั ผ่านทางโทรศพั ท์  การเล่นเกมออนไลนต์ ่างๆ  การส่งอีเมล  การคุยกนั ผ่านวิทยุ  ชดั แชท  การดโู ทรทศั นเ์ คเบิลทีวี  การส่งโทรเลข  การส่งแฟกซ์  การส่งโทรสาร

จดั ทาโดย สถาพร พรหทรตั น์ ปวส.สารวจ ปี ที่ 1 เลขท1ี่ 1