การจดั เก็บและการค้นคืน สารสนเทศ 421-321 อาจารย์ ดร.นวพล แกว้ สวุ รรณ สาขาการจดั การสารสนเทศ ภาควิชาบรรณารกั ษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์
จุดมุ่งหมายรายวชิ า เพอื่ ให้นกั ศึกษามีความรู้ ความเข้าใจ ความหมาย ความสาคญั บทบาท ของสารสนเทศ เพ่ือให้นักศึกษาตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการศึกษาค้นควา้ เพอื่ การศกึ ษาในระดบั อดุ มศกึ ษา เพ่ือใหน้ กั ศกึ ษามีความรู้ ความเข้าใจในระบบการจดั เก็บและการใช้ ทรพั ยากรสารสนเทศ เพื่อใหน้ กั ศึกษามีทักษะในการสบื ค้นสารสนเทศด้วยเทคโนโลยี
การประเมินผลการเรียน ประเมนิ ผลจากพฤติกรรมการเขา้ หอ้ งเรยี น ประเมนิ ผลการร่วมกจิ กรรมในช้นั เรยี น ประเมินผลจากการส่งงานที่ได้รับมอบหมายตรงตาม เวลา
บทที่ 1 ความรเู้ บอื้ งต้นเก่ยี วกบั สารสนเทศ
ความหมายของสารสนเทศ สารนเิ ทศ อ่านว่า สา-ระ-นิ-เทด หมายถึง การชแ้ี นะ แนะนา ข่าวสาร หรอื ขอ้ มูลตา่ งๆ สารสนเทศ อ่านว่า สา-ระ-สน-เทด หรอื สาน-สน-เทด หมายถึง ข่าวสาร ข้อช้แี จง ข้อมูลต่างๆ ซึ่งตรงกบั ภาษาอังกฤษคาว่า “Information” ทสี่ ามารถแปลเปน็ ภาษาไทยไดห้ ลายคา นอกเหนอื จากคาว่า สารนเิ ทศ หรือ สารสนเทศ อาทิ คาว่า ขอ้ มลู ข้อสนเทศ ขา่ วสาร และยงั มี นักวิชาการในศาสตร์สาขาทางดา้ น สารสนเทศศาสตร์ บรรณารักษศาสตร์ ได้นยิ ามความหมายไว้ อีกหลายความหมาย เชน่ สารสนเทศ คอื ขอ้ มลู เร่อื งราว ความรูท้ ี่ถกู เขียนขน้ึ เพื่อใช้ในการสื่อสาร (Reitz, 2005) ความรู้ เรอ่ื งราว ข้อมูล ที่ถูกบนั ทกึ และจดั การตามหลกั วชิ าการเพ่อื การเผยแพร่เป็น ประโยชน์ในการพัฒนาด้านต่างๆ (แมน้ มาส ชวลิต,2532: 5) สรปุ ไดว้ า่ สารสนเทศ คือ เร่อื งราว ความรู้ ขอ้ สนเทศ รวมท้ังทอ่ี ยใู่ นรปู แบบของวสั ดุตีพมิ พ์ และวสั ดุไมต่ พี มิ พ์ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการพัฒนาบคุ คลและสงั คม
ความสาคัญของสารสนเทศ ในสังคมยุคปจั จบุ นั สารสนเทศได้เขา้ มามีบทความตอ่ ทกุ ภาคสว่ น ทัง้ ในชวี ิตประจาวันของ บุคคล เศรษฐกิจและสังคม ผ้ใู ดไมส่ ามารถกา้ วทนั สารสนเทศได้ ก็อาจจะสง่ ผลก่อใหเ้ กดิ การ กา้ วไม่ทันตอ่ เหตุการณ์ แต่หากผใู้ ดสามารถกา้ วทนั และนามาใชป้ ระโยชน์ได้เปน็ อยา่ งดี กจ็ ะ สามารถมีอานาจ (การตัดสนิ ใจ การนาไปตอ่ ยอด) ดังคากลา่ วทว่ี ่า Information is Power ซง่ึ อาภากร ธาตุโลหะ (2547:3) ไดส้ รุปไวด้ งั น้ี 1. ดา้ นการเรียนการสอน เชน่ การเผยแพร่ในรปู ของหนงั สือ ตารา สิ่งตีพิมพ์ สื่อ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สามารถค้นหาและเข้าถึงไดส้ ะดวกมากยงิ่ ข้ึน 2. ด้านการศึกษาค้นคว้า วิจยั เช่น การนาความรู้ (สารสนเทศ) ที่มีอยูน่ าไปถ่ายทอดให้ ผูอ้ น่ื แบง่ ปัน (Knowledge transfer/Sharing) การจัดการวางแผนจากความรู้ต่างๆ นา สารสนเทศทม่ี อี ยูม่ าใช้ในการวางแผน ป้องกัน สรา้ งฐานหรอื โครงสร้างตา่ งๆให้ม่ันคง และ ประกอบการตดั สินใจในการดาเนินการด้านตา่ งๆ
ความสาคญั ของสารสนเทศ (ต่อ) 3. ด้านสังคม เชน่ การนาสารสนเทศท่ไี ด้รับมาตดั สินใจในการบรโิ ภค อปุ โภค สินค้าและบรกิ ารด้านต่างๆ หรอื ในการเลือกคู่ครอง การตัดสินใจทางการเมอื ง การ เดินทาง การศึกษาตอ่ หรือการดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน อกี ทั้งสร้างความเขา้ ใจอันดี ระหวา่ งกันในดา้ น ศาสนา ชาติพันธ์ุ ประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยม และทศั นคติทีด่ ตี ่อ สงั คม 4. ด้านวัฒนธรรม สารสนเทศกอ่ ใหเ้ กดิ การถา่ ยทอดวัฒนธรรมอย่างต่อเนอ่ื ง (การบอกตอ่ แบ่งปนั เล่าตอ่ ๆกัน) ทาใหค้ วามรู้ หรอื สารสนเทศยังคงอยสู่ ืบต่อไป 5. ดา้ นงบประมาณ และเวลา เปน็ การนาสารสนเทศทีม่ ีอย่แู ล้วจากชัน้ ปฐมภูมิ ทตุ ิยภูมิ ตตยิ ภมู ิ มาใชป้ ระโยชน์ตอ่ และได้ขอ้ มูลเชิงลึกมากย่งิ ข้นึ ไป
ความสาคญั ของสารสนเทศ (ตอ่ ) 6. ด้านวทิ ยาการ และเทคโนโลยีตา่ งๆ สงั คมโลกปัจจุบนั มคี วามเคลอ่ื นท่ไี ปด้วยความ รวดเร็ว โดยยึดถือวา่ โลกเปลีย่ น ความร้เู ปลีย่ น ดังนน้ั สารสนเทศจึงถูกนามาประยกุ ต์ใชก้ ับ หลายศาสตรส์ าขา ทง้ั ทางดา้ น การแพทย์ (สารสนเทศดา้ นสุขภาพ) การเมือง (สารสนเทศ ทางการเมือง) การศึกษา (เทคโนโลยีการศึกษา) การเงนิ (สารสนเทศทางการเงนิ /Fin Tech) ธุรกจิ ภาครัฐ (Startup/E-Government) เป็นต้น สรปุ ปัจจบุ ันสารสนเทศเขา้ มามีบทความในทุกภาคสว่ น อยตู่ ลอดเวลา ดังน้นั ในการ ดาเนินชีวิต หรอื การนาสารสนเทศไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ผ้ใู ช้จาเปน็ จะตอ้ งตระหนักถึง ความสาคัญของสารสนเทศ และนาไปใชป้ ระโยชนอ์ ย่างสูงสุดอยา่ งคมุ้ ค่า
คุณสมบัตขิ องสารสนเทศ ไดม้ นี ักวชิ าการหลายทา่ น ทาการระบุคณุ สมบตั ขิ องสารสนเทศเอาไว้มากมาย แต่ ณ ทนี่ ขี้ อยกตัวอย่างการ กาหนดคุณสมบัติของสารสนเทศ ตามแนวคดิ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ชชั วาลย์ วงษป์ ระเสริฐ สาขาสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ (2548,49-50) ดงั น้ี 1. สามารถเขา้ ถึงได้ (Accessibility) สะดวก รวดเร็วในการนามาประกอบการตัดสินใจ ซ่ึงความรวดเรว็ ต้องสามารถวดั ได้ เช่น 1 นาที 3 นาที 2. ความครบถ้วน (Completeness) สารสนเทศทไ่ี ดร้ ับต้องครบถ้วนในเน้ือหา โดยพจิ ารณาจากคุณภาพ ของสารสนเทศทส่ี ามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ไดม้ ากกว่าปรมิ าณ 3. ความถกู ต้องเทยี่ งตรง (Accuracy) สารสนเทศทไ่ี ด้รบั ตอ้ งไมม่ คี วามผดิ พลาด เพราะจะก่อใหเ้ กิดการ บดิ เบอื นของขอ้ มลู จากระหว่างการบันทึก คัดลอก คานวณ หรือถ่ายโอน
คณุ สมบัติของสารสนเทศ (ต่อ) 4. ความเหมาะสม (Appropriateness) สารสนเทศท่ที าการผลิต หรอื เผยแพร่ น้ัน ตอ้ งตรงกบั ความต้องการของผู้บรโิ ภค หากไม่ตรงกบั ความต้องการก็จะเกดิ ขอ้ สญู เปล่าทางด้านงบประมาณ และจานวนขยะทางสารสนเทศ 5. ความทันเวลา (Timeliness) ระยะเวลาในการประมวลผล หรือดาเนนิ การของ ข้อมลู ตอ้ งมีความรวดเรว็ ทนั ตอ่ ความต้องการของผใู้ ช้ 6. ความชัดเจน (Clarity) สารสนเทศต้องมคี วามชัดเจนท้ังในความหมาย สอ่ื ทจ่ี ะ แสดงใหผ้ ูใ้ ช้เห็น ไม่กากวม เพราะหากไม่มคี วามชดั เจนแลว้ จะส่งผลตอ่ งบประมาณ ในการผลติ เผยแพร่และจะกลายเปน็ สารสนเทศท่ีผใู้ ชไ้ ม่ต้องการในทีส่ ุด
คุณสมบตั ขิ องสารสนเทศ (ตอ่ ) 7. ความยดื หยุ่น (Flexibility) สารสนเทศตอ้ งสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์แกบ่ คุ คลในวง กว้าง หรือสามารถนาไปใช้ประโยชน์รว่ มกันได้ 8. ความสามารถในการพิสูจนไ์ ด้ (Vertifiability) สารสนเทศนัน้ ตอ้ งสามารถตรวจสอบ และพิสูจน์ซ้าๆไดว้ า่ มีความถกู ต้องอย่างแทจ้ รงิ 9. ความซ้าซอ้ น (Redundancy) สารสนเทศตอ้ งไมม่ ีจานวน หรือปริมาณเกนิ ต่อความ จาเป็นในการนาไปใชป้ ระโยชน์ เพราะจะก่อให้เกดิ ความสน้ิ เปลืองงบประมาณตามมาใน ภายหลังดว้ ย 10. ความไมล่ าเอียง (Bias) สารสนเทศตอ้ งไม่เป็นไปตามอคติ หรอื การคาดการณผ์ ล เอาไว้ลว่ งหน้า เพราะส่งผลให้ผู้ใชส้ ารสนเทศ ได้รับสารสนเทศทีไ่ มเ่ ป็นความจรงิ ตาม สภาพการณ์ หรือตามธรรมชาติของผู้ใช้
สรปุ จะเห็นได้วา่ การกาหนดคณุ สมบัติของสารสนเทศนน้ั จะเป็นการ กาหนดเพอื่ ตอบสนองความต้องการ หรอื พฤติกรรมของผใู้ ช้เปน็ สาคญั ดงั นัน้ ในการสรา้ ง ผลติ หรือเผยแพร่ สารสนเทศน้นั จึงมคี วามจาเปน็ อย่างยิง่ ทจี่ ะต้องทาการศกึ ษาพฤติกรรมของผู้ใช้ (Information Behavior) เพอ่ื ทาการกาหนดสารสนเทศใหต้ รงกับความต้องการต่อไป
บทบาทของสารสนเทศ 1. บทบาทดา้ นพฒั นาวิทยาการ สารสนเทศสามารถประยุกตใ์ ชก้ บั ศาสตร์ตา่ งๆ ได้อยา่ งหลากหลาย สามารถพฒั นา สหวิทยาการในดา้ น การศกึ ษา การแพทย์ การเมอื ง เศรษฐกจิ ใช้สาหรับการจดั เก็บ รวบรวม ประมวลผล ให้มีความเจรญิ ก้าวหน้า 2. บทบาทด้านการพัฒนาประเทศ ช่วยให้เกิดการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ร่วมกนั เพราะในยุกต์ท่สี งั คมเปลย่ี น โลกเปลี่ยน ความรจู้ ึงเปลี่ยนรปู และเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเรว็ ดงั นั้นสารสนเทศจงึ ชว่ ยตอบสนองให้ เกดิ ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ กอ่ ใหบ้ คุ คล และสังคมจาเปน็ ตอ้ งเอ้ือท่ีจะเรยี นรซู้ ่งึ กนั และกนั
บทบาทของสารสนเทศ (ตอ่ ) 3.บทบาทดา้ นการพาณชิ ย์ ปัจจุบนั การแข่งขนั ทางด้านธุรกจิ มีความรนุ แรงทวเี พิ่มข้ึน การวิเคราะห์ขอ้ มลู ของค่คู ้า หรือคแู่ ขง่ ทางด้าน การตลาดจึงจาเปน็ เปน็ อย่างยิง่ ในการนามาใช้เปน็ ข้อมูลเพ่อื ให้สามารถสร้างมลู คา่ ทางการตลาด การผลิต สินค้าและบรกิ าร การดงึ ดุดลูกคา้ ซงึ่ สง่ิ เหลา่ นต้ี อ้ งผา่ นการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะหม์ าจากสารสนเทศในดา้ น ต่างๆ อีกท้งั ในสว่ นของลกู คา้ เองกจ็ าเป็นทจ่ี ะตอ้ งมกี ารศกึ ษาข้อมูล ขา่ วสารเพือ่ นามาประกอบในการตดั สนิ ใจ ทจี่ ะอปุ ดภค หรือบริโภคผลิตภณั ฑต์ า่ งๆ เขน่ กัน 4. บทบาทดา้ นการศึกษา การแสวงหาความรู้ในยุคแหง่ สงั คมแห่งการเรียนรูเ้ พ่อื ให้สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในการดาเนนิ ชีวิตได้ น้นั จาเป็นต้องผา่ นกระบวนการเรียนรู้ และศึกษาจากแหลง่ ข้อมูล หรือสารสนเทศตา่ งๆ อาทิ หอสมุดกลาง ศูนยส์ ารนิเทศ แหลง่ เรยี นรู้ชุมชน ทที่ าการจัดเกบ็ รวบรวม ขอ้ มูลด้านต่างๆเอาไว้ ซง่ึ สิ่งเหล่านจ้ี ะเป็นสถานท่ี จดั เกบ็ ความรูเ้ พอ่ื ใชใ้ นกระบวนการเรยี นรูข้ องบุคคล ให้เกิดการเช่อื มโยงความรู้ทมี่ ีคณุ ค่า กวา้ งขวาง และ ครบถว้ น ถกู ต้อง
บทบาทของสารสนเทศ (ต่อ) 5. บทบาทด้านการเมอื งการปกครอง ปัจจุบนั สารสนเทศได้เปล่ยี นรปู แบบทห่ี ลากหลายเพ่มิ มากข้ึน ทาให้ประชาชนในสงั คม สามารถเพม่ิ ชอ่ งทางในการเข้าถงึ และรบั รู้ อาทิ นโยบาย ระบอบการบริหาร สภาพปญั หาต่างๆทวั่ โลก และยังสง่ เสรมิ การจดั ต้งั ศูนยต์ รวจสอบ และฐานขอ้ มูลพน้ื ฐาน และยังเป็นชอ่ งทางในการ ตรวจสอบการปฏบิ ัติงานของภาคประชาชน กลุ่มส่อื สารมวลชนอย่างกวา้ งขวางดว้ ย 6. บทบาทดา้ นอุตสาหกรรม ในการพัฒนาและเดินทางในภาคเศรษฐกิจ ทกุ ประเทศจาเปน็ ทจี่ ะต้องมกี ารพัฒนา ภาคอตุ สาหกรรม ในด้านวทิ ยาการและเทคโนโลยเี พื่อเพม่ิ มลู คา่ ในการผลติ จงึ จาเป็นท่ีจะต้อง แสวงหาสารสนเทศ (Information Seeking) เพือ่ ทาการศึกษาค้นควา้ หาวิธกี ารแปลกใหมท่ ี่ สามารถเสริมสร้างมูลค่าเพ่มิ ใหแ้ ก่ภาคอุตสาหกรรม อีกท้งั มกี ารผลกั ดนั การถ่ายทอดความรู้และ รวบรวมมาใช้ประโยชน์ตอ่ ไป อาทิ ศนู ยเ์ ทคโนโลยีอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ ละคอมพวิ เตอรแ์ ห่งชาติ (NECTEC) ท่ีให้บริการสารสนเทศเพอ่ื การวจิ ยั ในการผลติ
บทบาทของสารสนเทศ (ต่อ) 7. บทบาทดา้ นวัฒนธรรม ประเทศไทยเปน็ ประเทศท่ีใหค้ วามสาคญั ทางวัฒนธรรม และยงั คงมกี ารอนุรักษ์ สิง่ เหล่านใี้ ห้คงอย่สู บื ไป อีกท้งั ขอ้ มูลสารสนเทศทางวัฒนธรรมเป็นสิง่ ท่ีทรงคณุ ค่าแก่ การเก็บรกั ษา อาทิ ผนงั ถ้า ศลิ าจารึก หนังสตั ว์ ผา้ ไหม หนงั สอื วารสาร ซงึ่ แสดงให้ เหน็ ถึงเอกลักษณ์ ศกั ดศ์ิ รีของประเทศชาติ โดยขอ้ มูลทางดา้ นสารสนเทศทาง วฒั นธรรมส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของข้อมลู ดิบ จึงเป็นหนา้ ทข่ี องนกั สารสนเทศ / นัก เอกสนเทศทจ่ี ะตอ้ งช่วยกันจดั เกบ็ สะสม รวบรวมแลว้ นามาปรบั ปรงุ ให้เปน็ ระบบ เหมาะสม ไว้เป็นมรดกแก่ชนรุน่ หลังสบื ไป
ตดิ ต่อผ้สู อน อาจารยน์ วพล แก้วสุวรรณ เบอรโ์ ทร : 095-954-9634 อีเมล์ : [email protected] : [email protected] นกั ศึกษาระดบั ปริญญาเอก หลกั สูตรปรชั ญาดุษฎีบัณฑติ ภาควิชาสารสนเทศ และการสอื่ สาร สาขาสารสนเทศศกึ ษา คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: