หน่วยที่ 3 ชนิดประเภทและพนั ธ์ุสัตว์เศรษฐกจิ หัวข้อเรื่อง 1. ชนิด ประเภท พนั ธุ์ และลกั ษณะประจำพนั ธุ์สัตวใ์ นกลุ่มสตั วใ์ หญ่ 2. ชนิด ประเภท พนั ธุ์ และลกั ษณะประจำพนั ธุ์สัตวใ์ นกลุ่มสตั วเ์ ล็ก 3. ชนิด ประเภท พนั ธุ์ และลกั ษณะประจำพนั ธุ์สัตวใ์ นกลุ่มสตั วป์ ี ก 4. ส่วนตำ่ ง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยสตั ว์ สัตวท์ ี่นิยมเล้ียงโดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือทำรำยไดไ้ ห้กบั ผเู้ ล้ียงโดยไม่รวมสัตวน์ ้ำ ในปัจจุบนั มีหลำยชนิดดว้ ยกนั เช่น โค กระบือ แพะ แกะ สุกร ไก่และเป็ ด ซ่ึงสัตวแ์ ต่ละชนิดยงั แบ่งออกได้ เป็ นหลำยประเภท และหลำยพนั ธุ์ ซ่ึงพอจะจดั แบ่งได้เป็ นกลุ่ม ๆ ตำมสรีระ ระบบโครงร่ำงหรือ ขนำดของสัตว์ ดงั ต่อไปน้ีคือกลุ่มสัตวใ์ หญ่ไดแ้ ก่ โคและกระบือ กลุ่มสัตวเ์ ล็กไดแ้ ก่ สุกร แพะ แกะ และกระต่ำย และกลุ่มสตั วป์ ี กไดเ้ เก่ ไก่ เป็ด ห่ำนและนก 1. ชนิด ประเภท พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุสัตว์ในกล่มุ สัตว์ใหญ่ 1.1 ประเภท พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุโค โคมีชื่อวทิ ยำศำสตร์วำ่ Bos spp. สำมำรถแบง่ ออกไดเ้ ป็ น 2 กลุ่มคือโคที่มีถ่ินกำเนิดในเขต ร้อน (Bos indicus) นิยมเรียกวำ่ “โคอินเดีย” อีกกลุ่มเป็ นโคท่ีมีถิ่นกำเนิดในเขตหนำว (Bos taurus) นิยมเรียกวำ่ “โคยุโรป” โคท้งั สองกลุ่มน้ีมีลกั ษณะและขอ้ ดีขอ้ เสียต่ำงกนั พอจะสรุปไดว้ ำ่ โคอินเดีย สำมำรถทนต่อสภำพเเวดลอ้ มเเละโรคแมลงในเขตร้อนได้ดีแต่ให้ผลผลิตต่ำ ส่วนโคยุโรปทนต่อ สภำพแวดลอ้ มและโรคแมลงในเขตร้อนไม่ดีหรือบำงพนั ธุ์ทนไม่ไดแ้ ต่ให้ผลผลิตสูง โดยทวั่ ไปโค สำมำรถเเบ่งออกได้ 4 ประเภทตำมลกั ษณะกำรใช้ประโยชน์คือโคนม (Dairy Type) โคเน้ือ (Beef Type) โคก่ึงเน้ือก่ึงนม (Dual Purpose Type) และโคใชแ้ รงงำน (Draft Type)
28 1.1.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุโคประเภทนม โคนมเป็ นโคท่ีเล้ียงโดยมีจุดประสงคห์ ลกั เพ่ือตอ้ งกำรน้ำนมใชป้ ระโยชน์ ดงั น้นั โค ประเภทน้ีจะมีลกั ษณะค่อนขำ้ งผอม ร่ำงกำยส่วนช่วงอกเล็กกว่ำช่วงทอ้ งและบ้นั ทำ้ ย เตำ้ นมมี ขนำดใหญ่กวำ่ ปกติ ทำใหม้ องรูปลกั ษณะของโคพนั ธุ์น้ีค่อนขำ้ งจะเป็ นรูปสำมเหล่ียมรูปล่ิม ไม่ว่ำ จะมองทำงดำ้ นขำ้ งหรือมองทำงดำ้ นบน พนั ธุ์โคนมที่สำคญั ไดแ้ ก่ 1) พันธ์ุโฮลสไตน์ ฟรีเชียน (Holstein Friesian) หรือพันธ์ุขำว-ดำ (Black and White) เป็ นโคท่ีมีถ่ินกำเนิดในประเทศเนเธอร์แลนด์ ลกั ษณะประจำพนั ธุ์ท่ีสำคญั คือลำตวั มีสีขำว สลบั สีดำโดยไม่ระบุตำแหน่งสีขำวและสีดำท่ีแน่นอน สำหรับโคพนั ธุ์แท้ ปลำยขำท้งั ส่ีและพู่หำง ตอ้ งมีสีขำวเท่ำน้นั 2) พันธ์ุบรำวน์สวิส (Brown Swiss) เป็ นโคท่ีมีถ่ินกำเนิดในประเทศสวิส เซอร์ แลนด์ มีสีน้ำตำลอ่อนจนถึงสีน้ำตำลเขม้ เกือบดำ บริเวณแนวหลงั รอบปำกและเตำ้ นมมีสีจำงกวำ่ ส่วนอ่ืน ๆ กีบเทำ้ พหู่ ำง บริเวณคอและหวั ไหล่จะมีสีเขม้ กวำ่ ส่วนอื่น ๆ 3) พันธ์ุเรดเดน (Red Dane) หรือ เรดเเดนิช (Red Danish) มีถิ่นกำเนิดในประเทศ เดนมำร์ค มีสีแดงเขม้ ท้งั ตวั เตำ้ นมใหญแ่ ตห่ ยอ่ นยำน 4) พันธ์ุเจอร์ซี่ (Jersey) มีถิ่นกำเนิดบนเกำะเจอร์ซี่ประเทศองั กฤษ จดั เป็ นโคขนำด เล็ก มีเตำ้ นมที่มีลกั ษณะสมบูรณ์เเบบ โคพนั ธุ์น้ีมีสีต่ำง ๆ กนั ต้งั แต่สีเทำปนเหลืองหรือสีเทำปน น้ำตำลไปจนถึงสีเกือบดำเป็นโคท่ีมีไขมนั ในน้ำนมสีเหลือง 5) พันธ์ุเกิร์นซี่ (Guernsey) มีถิ่นกำเนิดบนเกำะเกิร์นซ่ีประเทศองั กฤษจดั เป็ น โคนมที่มีขนำดเล็ก มีลักษณะสีลำตัวใกล้เคียงกับพันธุ์เจอร์ซ่ีและไขมันในน้ ำนมสีเหลือง เช่นเดียวกบั พนั ธุ์เจอร์ซ่ี 6) พันธ์ุแอร์ไชร์ (Ayrshire) กำเนิดในประเทศสก๊อตแลนด์ มีลกั ษณะประจำพนั ธุ์ คือมีสีแดงลำยจุดขำวหรือสีขำวลำยจุดแดงก็ได้ โคพนั ธุ์น้ีจดั เป็นโคนมท่ีมีรูปร่ำงเขำ้ ตำมลกั ษณะใน อุดมคติ (Ideal Type) มำกท่ีสุด 7) พันธ์ุเรดซินดี้ (Red Sindhi) เป็ นโคท่ีจดั อยู่ในกลุ่มโคอินเดียมีถ่ินกำเนิดใน ประเทศปำกีสถำน ลกั ษณะโดยทว่ั ไปคลำ้ ยกบั โคพนั ธุ์พ้ืนเมืองของไทยเป็ นโคท่ีมีลำตวั สีแดงเขม้ บำงตวั มีสีเเดงอ่อนเกือบเป็ นสีเหลืองหรืออำจมีจุดขำวท่ีหนำ้ ผำกและเหนียงคอ เป็นโคท่ีทนทำนต่อ โรคและแมลงในเขตร้อนไดด้ ีแตใ่ หผ้ ลผลิตต่ำเม่ือเทียบกบั โคกลุ่มยโุ รป 8) พันธ์ุซำฮิวำล (Sahiwal) เป็ นโคท่ีมีถ่ินกำเนิดในปำกีสถำนเช่นเดียวกับพนั ธุ์ เรดซินด้ีลกั ษณะโดยทวั่ ไปก็คลำ้ ยคลึงกนั เป็ นโคท่ีมีสีแดงโดยทว่ั ไปสีมกั อ่อนกว่ำพนั ธุ์เรดซินด้ี ขนำดตวั ใหญ่กวำ่ ยำวกวำ่ และลึกกวำ่ พนั ธุ์เรดซินด้ี
29 พนั ธ์ุโฮลสไตน์ ฟรีเชียน (Holstein Friesian) พนั ธ์ุบรำวน์ สวสิ (Brown Swiss) พนั ธ์ุแอร์ไชร์ (Ayrshire) พนั ธ์ุเจอร์ซ่ี (Jersey) พนั ธ์ุเรดซินดี้ (Red Sindhi) พนั ธ์ุซำฮิวำล (Sahiwal) ภำพท่ี 3.1 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์โคประเภทนม ทมี่ ำ : Australian Meat Livestock Corporation, 1989
30 1.1.2 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุโคประเภทเนือ้ โคเน้ือเป็ นโคที่เล้ียงโดยมีจุดประสงคห์ ลกั เพอ่ื นำเน้ือมำใชป้ ระโยชน์ดงั น้นั ลกั ษณะ ของโคประเภทน้ีค่อนขำ้ งเจำ้ เน้ือโดยมีแนวหลงั และพ้ืนทอ้ งขนำนกบั พ้ืนดินมำกท่ีสุด ทรงต่ำ ลำตวั ยำว ลึกและกวำ้ ง คอส้ันหนำมีเน้ือแน่นเต็มไม่เห็นรอยของกระดูกโดยเฉพำะกระดูกเชิงกรำนและ กระดูกกน้ กบ กำรเคล่ือนไหวเชื่องชำ้ อืดอำด ไม่วำ่ จะมองทำงดำ้ นใดลำตวั จะเป็นรูปสี่เหล่ียมผนื ผำ้ พนั ธุ์โคเน้ือท่ีสำคญั ไดแ้ ก่ 1) พันธ์ุชอร์ทฮอร์น (Short Horn) กำเนิดในประเทศองั กฤษ เป็ นโคขนำดใหญ่เขำ ส้ันมี 3 สำยพนั ธุ์ คือ พนั ธุ์สีขำว พนั ธุ์สีแดงและพนั ธุ์สีโรน (Roan) นิยมเล้ียงพนั ธุ์สีแดงและสีโรน 2) พันธ์ุเฮียร์ฟอร์ด (Hereford) เรียกอีกอย่ำงว่ำพนั ธุ์หน้ำขำว (White Face) กำเนิด ในประเทศองั กฤษ มีเขำ ลำตวั สีแดง บริเวณหนำ้ ใตท้ อ้ ง พหู่ ำง ปลำยเทำ้ ตอนเหนือกีบเเละซอกขำมี สีขำว 3) พันธ์ุอะเบอร์ดีน เเองกัส (Aberdeen Angus) นิยมเรียกวำ่ พนั ธุ์แองกสั กำเนิดใน ประเทศสกอ๊ ตแลนด์ เป็นโคท่ีไมม่ ีเขำ ขนเรียบ สีดำสนิทท้งั ตวั 4) พันธ์ุชำโรเลส์ (Charolais) กำเนิดในประเทศฝร่ังเศส มีสีขำวหรือสีครีม เขำส้ัน นิยมนำเขำ้ มำผสมกบั โคพนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มนั และโคลูกผสมอเมริกนั บรำห์มนั กบั โคพ้ืนเมืองใน ประเทศไทยเพือ่ ปรับปรุงคุณภำพผลผลิตเน้ือ 5) พันธ์ุลิมัวซิน (Limousin) กำเนิดในประเทศฝร่ังเศสรูปทรงคล้ำยกับโคพนั ธุ์ ชำโรเลส์ มีสีลำตวั ต้งั แตส่ ีน้ำตำลอ่อนจนถึงสีแดงเขม้ เเละดำ 6) พันธ์ุเดร้ำท์มำสเตอร์ (Drought Master) เป็ นโคท่ีปรับปรุงพันธุ์ข้ึนทำงตอน เหนือของออสเตรเลีย มีสำยเลือดโคยุโรป 50 เปอร์เซ็นต์และโคอินเดีย 50 เปอร์เซ็นต์ ลกั ษณะ โดยทว่ั ไปไม่มีเขำ ลำตวั สีทองออกไปทำงสีน้ำผ้งึ (Golden Honey) ถึงสีแดงเขม้ 7) พันธ์ุซำนต้ำเกอร์ ทรูดีส (Santa Gertrudis) โคพันธุ์น้ีถูกปรับปรุงพันธุ์ใน สหรัฐอเมริกำโดยนำโคพนั ธุ์เอเมริกนั บรำห์มนั ผสมกบั พนั ธุ์ชอร์ทฮอร์น ลำตวั มีสีแดงเขม้ ส่วน ใหญ่จะมีเขำเเตบ่ ำงตวั อำจไม่มีเขำ เหนียงคอและสะดือคอ่ นขำ้ งหยอ่ นยำน 8) พันธ์ุแบรงกัส (Brangus) เป็ นโคท่ีถูกปรับปรุงพนั ธุ์ในสหรัฐอเมริกำ โดยนำโค พนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มนั ผสมกบั พนั ธุ์แองกสั ลำตวั มีสีดำสนิทไม่มีเขำ 9) พันธ์ุชำร์เบรย์ (Charbray) เป็ นโคลูกผสม มีสำยเลือดโคพนั ธุ์ชำโรเลส์ อย่ำง นอ้ ย 50 เปอร์เซ็นตแ์ ละมีสำยเลือดของโคพนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มนั ระหวำ่ ง 12.5-25 เปอร์เซ็นต์ ลำตวั สีขำวครีม ไมม่ ีเขำ เหนียงคอคอ่ นขำ้ งหยอ่ นยำน
31 10) พันธ์ุอเมริกันบรำห์มัน (American Brahman) เป็ นโคท่ีปรับปรุงพนั ธุ์ข้ึนใน สหรัฐอเมริกำ โดยกำรนำโคอินเดียหลำยสำยพันธุ์ไปผสมและคัดเลือกพันธุ์จนได้เป็ นพนั ธุ์ อเมริกนั บรำห์มนั รูปทรงโดยทวั่ ไปจะมีลกั ษณะเหมือนโคอินเดียคือมีตะโหนก รูปทรงสูง ทนต่อ สภำพภูมิอำกำศและโรคแมลงในเขตร้อนไดด้ ี โคพนั ธุ์น้ีมีสองสำยพนั ธุ์คือพนั ธุ์สีขำว และพนั ธุ์สี แดง เพศผบู้ ริเวณคอ ตะโหนกและบ้นั ทำ้ ยจะมีสีคล้ำกวำ่ บริเวณอื่น 11) พันธ์ุอินดูบรำซิล (Indu Brazil) เป็ นโคถูกนำไปปรับปรุงพนั ธุ์ในประเทศ บรำซิล เกิดจำกกำรนำโคอินเดียมำผสมและปรับปรุงพนั ธุ์เช่นเดียวกับพนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มัน ลกั ษณะโดยทว่ั ไปจะคลำ้ ยกบั พนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มนั แต่หน้ำผำกจะโหนกกว่ำ เหนียงคอจะหยอ่ น ยำนกวำ่ ใบหูยำวมำกและปลำยใบหูบิด 12) พันธ์ุซิมเมนทอล (Simmental) มีถ่ินกำเนิดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มี ลกั ษณะประจำพนั ธุ์คือหนำ้ ขำว ลำตวั สีแดง 13) พันธ์ุกำแพงแสน (Kamphaengsaen) เป็ นโคที่ปรับปรุงพนั ธุ์ข้ึนในประเทศ ไทย โดยมหำวิทยำลยั เกษตรศำสตร์ วิทยำเขตกำเเพงเเสน มีสีขำวครีมท้งั ตวั มีสำยเลือดโคพนั ธุ์ พ้นื เมือง 25 เปอร์เซ็นต์ พนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มนั 25 เปอร์เซ็นตแ์ ละพนั ธุ์ชำโรเลส์ 50 เปอร์เซ็นต์ 14) พนั ธ์ุตำก เป็นโคที่มีขนสีครีม ถึงสีน้ำตำลอ่อนถูกปรับปรุงข้ึนโดยศูนยว์ จิ ยั และ บำรุงพนั ธุ์สัตวต์ ำก เกิดจำกกำรผสมแบบสลบั พ่อพนั ธุ์ระหว่ำงโคพนั ธุ์ชำโรเลส์กบั พนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มนั มีระดบั สำยเลือดโคพนั ธุ์ชำโรเลส์ 62.5 เปอร์เซ็นตแ์ ละสำยเลือดโคพนั ธุ์อเมริกนั บรำห์มนั 37.5 เปอร์เซ็นต์ โคพนั ธุ์น้ีจดั เป็ นโคเน้ือท่ีโตเร็ว เล้ียงง่ำยหำกินเก่ง แทะเล็มหญำ้ ไม่เลือก ทนต่อ สภำพอำกำศร้อนของประเทศไทย ใหเ้ น้ือคุณภำพดี และไมม่ ีปัญหำดำ้ นควำมสมบูรณ์พนั ธุ์
32 พนั ธ์ุชอร์ทฮอร์น (Short Horn) พนั ธ์ุเฮียฟอร์ด (Hereford) พนั ธ์ุชำโรเลส์ (Charolais) พนั ธ์ุลมิ ูซิน (Limousin) พนั ธ์ุเดร้ำท์มำสเตอร์ (Drought Master) พนั ธ์ุซำนต้ำเกอร์ทรูดสี (Santa Gertrudis) พนั ธ์ุซิมเมนทอล (Simmental) พนั ธ์ุอเมริกนั บรำมนั ห์ (American Brahman) ภำพท่ี 3.2 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์โคประเภทเน้ือ ทม่ี ำ : Australian Meat Livestock Corporation, 1989
33 1.1.3 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุโคประเภทกง่ึ เนือ้ กงึ่ นม โคก่ึงเน้ือก่ึงนมมีลักษณะก้ำก่ึงระหว่ำงโคนมและโคเน้ือ ดังน้ันโคประเภทน้ี สำมำรถใชป้ ระโยชน์โดยมีจุดประสงค์เป็ นโคนมเพ่ือรีดน้ำนมก็ได้ หรือจะเล้ียงโดยจุด ประสงค์ เพ่ือตอ้ งกำรเน้ือก็ได้ พนั ธุ์โคก่ึงเน้ือก่ึงนมที่สำคญั ไดแ้ ก่ 1) พันธ์ุมิลคิ้ง ชอร์ทฮอร์น (Milking Short Horn) ถิ่นกำเนิดในประเทศองั กฤษ มี 3 สำยพันธุ์เช่นเดียวกับพันธุ์ชอร์ทฮอร์น โคตัวผูจ้ ะอ้วนกว่ำโคนม ส่วนตัวเมียเต้ำนมใหญ่ พอสมควรและเตำ้ นมไดส้ ดั ส่วนดีพอใช้ แต่จะอว้ นมีเน้ือมำกกวำ่ โคนม 2) พันธ์ุเรดโพล (Red Poll) ถิ่นกำเนิดประเทศองั กฤษ มีสีแดงเขม้ ไม่มีเขำ ท้งั ตวั ผู้ และตวั เมียอว้ นมีเน้ือมำก 3) พนั ธ์ุเดวอน (Davon) ถิ่นกำเนิดประเทศองั กฤษ ลำตวั สีแดงผวิ หนงั สีเหลือง พนั ธ์ุเรดโพล (Red Poll) พนั ธ์ุเดวอน (Davon) ภำพท่ี 3.3 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์โคประเภทก่ึงเน้ือก่ึงนม ทม่ี ำ : Australian Meat Livestock Corporation ,1989 1.1.4 พนั ธ์ุและ ลกั ษณะประจำพนั ธ์ุโคประเภทใช้แรงงำน โคประเภทน้ีเป็ นโคท่ีเล้ียงโดยมีจุดประสงคห์ ลกั เพื่อใชแ้ รงงำน ดงั น้นั โคประเภทน้ี จึงมีคอและหนำ้ อกใหญ่หนำ ส่วนบ้นั ทำ้ ยค่อนขำ้ งเรียวเล็ก โคท่ีเล้ียงเพื่อใชแ้ รงงำนส่วนใหญ่แลว้ จะเป็นโคท่ีทนร้อนไดด้ ี โคประเภทน้ีไดแ้ ก่ 1) พันธ์ุพื้นเมืองของไทย โคพันธุ์พ้ืนเมืองของไทยมีสีต่ำง ๆ กัน ต้งั แต่สีดำ สี น้ำตำล สีน้ำตำลอ่อน สีฟำงขำ้ วและสีลำย แต่ที่พบบ่อย ๆ คือสีน้ำตำลอ่อนและสีดำ ขนบริเวณใต้ ทอ้ งและซอกขำมกั มีสีจำงกวำ่ ส่วนอ่ืนของร่ำงกำย โดยทวั่ ไปเขำส้ันถึงยำวปำนกลำงโคเพศผมู้ ีตะ โหนกตรงเหนือไหล่ สันหลงั ลำดข้ึนจำกสะเอวไปสู่ตะโหนกแลว้ ลำดลงตำมบ้นั ทำ้ ยไปสู่โคนหำง โคเพศเมียไมม่ ีตะโหนก มีเตำ้ นมเลก็ เป็นรูปฝำชีใหน้ มนอ้ ย
34 2) พนั ธ์ุขำวลำพูน โคขำวลำพนู จดั เป็ นโคพ้ืนเมืองของไทยอีกพนั ธุ์หน่ึง กำเนิดทำง ตอนเหนือของประเทศไทย เป็ นโคที่มีสีขำวปลอดท้งั ตวั ตำดำไม่เป็ นสีชมพู ใชแ้ รงงำนไดด้ ี ใหล้ ูก ปี ละตวั ในสภำพกำรเล้ียงดูแบบชำวบำ้ น ทนต่ออำกำศร้อนช้ืนและโรคแมลงในเขตร้อนไดเ้ ป็ น อยำ่ งดี จดั เป็นโคท่ีมีรูปร่ำงดีพนั ธุ์หน่ึง แตใ่ นปัจจุบนั โคพนั ธุ์เเทเ้ หลือจำนวนนอ้ ยมำก ภำพที่ 3.4 แสดงตวั อยำ่ งโคพนั ธุ์พ้ืนเมือง ทม่ี ำ : จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548 1.2 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุกระบอื กระบือมีช่ือวิทยำศำสตร์ว่ำ Bos bubalus เป็ นสัตว์ท่ีมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน มีควำม ทนทำนในกำรทำงำน โดยเฉพำะในพ้ืนที่ท่ีเป็ นโคลนตมกระบือจะทำงำนไดด้ ีกวำ่ โค กระบือนิยม เล้ียงกนั มำกในเขตที่มีน้ำบริบูรณ์ กระบือแบ่งออกไดเ้ ป็ น 2 ประเภทคือ กระบือประเภทนม หรือ กระบือเเม่น้ำ (River Buffalo) และกระบือประเภทเน้ือหรือกระบือปลกั หรือกระบืองำน (Swamp Buffalo) 1.2.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุกระบือประเภทนม กระบือประเภทนมหรือกระบือแม่น้ำท่ีนำเขำ้ มำเล้ียงในประเทศไทย ในปัจจุบนั มี เพียงพนั ธุ์เดียวคือพนั ธุ์ มูรำห์หรือเดลฮี (Murrah or Delhi) ซ่ึงนิยมเล้ียงเเพร่หลำยในรัฐปัญจำบ เมืองเดลฮี และเมืองกำรำจีของประเทศอินเดีย และในประเทศปำกีสถำน มีลกั ษณะประจำพนั ธุ์คือมี เขำส้ัน โคง้ งอ บิดขมวดชิดเขำ้ หำโคนเขำ ขนและผิวหนังสีดำ มีสีขำวท่ีหำงและหน้ำผำก เตำ้ นม สวยงำม และมีขนำดใหญ่พอสมควร จดั เป็ นพนั ธุ์ที่ให้นมมำกท่ีสุดในอินเดีย เป็ นกระบือนมพนั ธุ์ แรกที่นำเขำ้ มำเล้ียงในประเทศไทย นอกจำกพนั ธุ์มูรำห์แลว้ ในต่ำงประเทศยงั มีกระบือแม่น้ำอีกหลำยพนั ธุ์ท่ีนิยมเล้ียง เช่นพนั ธุ์เซอร์ติ (Surti) พนั ธุ์เมห์ซำน่ำ (Mehsana) พนั ธุ์นำกปูรี (Nagpuri) พนั ธุ์สุรำท (Surat) ของ อินเดีย และพนั ธุ์นิลี (Nili) พนั ธุ์รำวี (Ravi) ของปำกีสถำน เป็นตน้
35 1.2.2 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุกระบอื ประเภทเนือ้ กระบือประเภทเน้ือหรือปลกั มีลกั ษณะโดยทวั่ ไปคือมีรูปร่ำงล่ำสัน บึกบึน ทอ้ ง ใหญ่ ทรงเต้ียลำตวั ส้ัน คอยำว เขำยำวโคง้ ไปขำ้ งหลงั ไดร้ ะดบั กบั หนำ้ ผำก เพศผจู้ ะมีอวยั วะสืบพนั ธุ์ อยใู่ นปลอกหุ้มลึงค์ซ่ึงติดกบั ลำตวั โดยทว่ั ไปลำตวั มีสองสีคือสีเทำและสีดำ ท่ีนิยมล้ียงคือกระบือ พ้นื เมืองของไทยไดแ้ ก่ พนั ธุ์อุทยั ธำนี พนั ธุ์ลำพนู พนั ธุ์แม่สอด พนั ธุ์ชุมพรและพนั ธุ์สิชล *กระบอื แม่นำ้ **กระบอื ปลกั ภำพท่ี 3.5 แสดงตวั อยำ่ งประเภทกระบือ ทมี่ ำ :* ยอดชำย ทองไทยนนั ท์ , 2542 และ ** จดั ทำโดยผเู้ ขียน,2548
36 2. ชนิด ประเภท พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุสัตว์ในกลุ่มสัตว์เลก็ 2.1 ประเภท พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุสุกร สุกรมีช่ือวทิ ยำศำสตร์วำ่ Sus spp. นิยมเล้ียงเพ่ือใชเ้ น้ือบริโภคเป็ นอำหำรเพียงอยำ่ งเดียว สุกรเป็นสัตวท์ ่ีสำมำรถปรับตวั เขำ้ กบั สภำพดินฟ้ ำอำกำศไดห้ ลำยชนิด เป็ นสัตวท์ ่ีผลิตเน้ือมำก เล้ียง ง่ำย ใหล้ ูกดก แบ่งออกไดเ้ ป็ น 3 ประเภทตำมลกั ษณะและคุณสมบตั ิของสุกรคือ ประเภทมนั (Lard Type) ประเกทเบคอน (Bacon Type) และประเภทเน้ือ (Meat Type) 2.1.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุสุกรประเภทมนั สุกรประเภทน้ีปัจจุบันไม่นิยมเล้ียง เพรำะเจริญเติบโตช้ำและมีส่วนที่เป็ นมัน มำกกวำ่ เน้ือ รูปร่ำงอว้ นกลม ตวั ส้ัน สะโพกเล็ก แต่มีขอ้ ดีคือหำอำหำรกินเองเก่ง ใหล้ ูกดกและทน ต่อสภำพแวดล้อมไดด้ ีกวำ่ พนั ธุ์ต่ำงประเทศ ในอดีตนิยมเล้ียงอยู่ในประเทศไทยหลำยพนั ธุ์ ส่วน ใหญเ่ ป็นพนั ธุ์พ้นื เมืองของไทย ไดเ้ เก่พนั ธุ์ไหหลำ พนั ธุ์ควำย และพนั ธุ์พวง พนั ธ์ุไหหลำ พนั ธ์ุพวง ภำพท่ี 3.6 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์สุกรประเภทมนั ทมี่ ำ : กรมปศุสตั ว,์ ม.ป.ป. 2.1.2 พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุ สุกรประเภทเบคอน ลกั ษณะของสุกรประเภทน้ีลำตวั จะยำวกวำ่ ประเภทอ่ืน ๆ มีเน้ีอมำกมีมนั น้อยชำว ยโุ รปนิยมเล้ียงสุกรประเภทน้ีเพื่อใชเ้ น้ือมำทำผลิตภณั ฑท์ ่ีเรียกวำ่ Bacon พนั ธุ์สุกรประเภทเบคอนที่ นิยมเล้ียงในประเทศไทยไดแ้ ก่ 1) พันธ์ุลำร์จไวท์ (Large White) กำเนิดในประเทศองั กฤษ หนังเเละขนสีขำว ตลอดลำตวั แต่บำงตวั อำจจะมีจุด ถือวำ่ เป็ นเรื่องธรรมดำ หูต้งั ลำตวั ยำว ไหล่หนำมีเน้ือมำก มนั ใต้ ผวิ หนงั บำง
37 2) พันธ์ุแลนด์เรซ (Landrace) กำเนิดในประเทศเดนมำร์ค มีสีขำวท้งั ตวั รูปร่ำง ค่อนขำ้ งลึก ลำตวั ยำวกวำ่ พนั ธุ์ลำร์จไวท์ (มีซ่ีโครง 16-17 คู่) สะโพกใหญ่เด่นชดั หลงั ค่อนขำ้ งตรง เต้ียกวำ่ สุกรพนั ธุ์ลำร์จไวท์ หวั เลก็ เรียวรับกบั คอ หูใหญ่ปรกลงขำ้ งหนำ้ พนั ธ์ุลำร์จไวท์ (Large White) พนั ธ์ุแลนด์เรช (Landrace) ภำพท่ี 3.7 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์สุกรประเภทเบคอน ทม่ี ำ : อินเตอร์เวทฯ, ม.ป.ป. 2.1.3 พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุสุกรประเภทเนือ้ สุกรประเภทน้ีมีรูปร่ำงสันทัด โปร่งบำงกว่ำประเภทมนั ลำตวั ส้ันกว่ำประเภท เบคอนแต่มีควำมหนำและควำมลึกของลำตวั มำกกวำ่ หลงั โก่งคลำ้ ยคนั ธนู ไหล่และสะโพกใหญ่ พนั ธุ์ท่ีนิยมเล้ียงในประเทศไทยคือ 1) พนั ธ์ุดูร็อคเจอร์ซี (Duroc Jersey) กำเนิดในสหรัฐอเมริกำ สีแดงเขม้ ท้งั ตวั หรือ เป็นสีอิฐ บำงตวั สีเกือบเป็นสีทอง หูปรกเล็กนอ้ ย รูปร่ำงหนำ ลึก หลงั โคง้ สะโพกใหญ่ 2) พันธ์ุแฮมเชียร์ (Hamshire) กำเนิดในสหรัฐอเมริกำ ลำตวั มีสีดำและมีคำดขำว เฉพำะบริเวณหวั ไหล่จรดขำหนำ้ ท้งั สอง หูต้งั ขนำดลำตวั เล็กกวำ่ พนั ธุ์ดูร็อคเจอร์ซี ลกั ษณะดีเด่น กวำ่ สุกรพนั ธุ์อ่ืนคือสำมำรถใชห้ ญำ้ เป็นอำหำรไดม้ ำก
38 3) พันธ์ุเพียเทรียน(Pietrains) กำเนิดในประเทศเบลเยียม เป็ นสุ กรท่ีมีควำม สำมำรถในกำรให้เน้ือแดงสูงผิวหนังสีขำวอมชมพูและมีป้ื นดำตำมลำตวั สะโพกกลมแน่น นิยม นำมำเล้ียงเพือ่ ผสมกบั พนั ธุ์อื่นเพ่ือปรับ ปรุงพนั ธุ์ พนั ธ์ุดูร็อค เจอร์ซี (Duroc Jersey) พนั ธ์ุแฮมเชียร์(Hamshire) พนั ธ์ุเพยี เทรียน (Pietrains) ภำพที่ 3.8 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์สุกรประเภทเน้ือ ทมี่ ำ : อินเตอร์เวทฯ, ม.ป.ป.
39 2.2 ประเภท พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุแพะ แพะเป็ นสัตวเ์ ศรษฐกิจท่ีเล้ียงง่ำยขยำยพนั ธุ์ได้เร็ว ให้ผลผลิตท้งั นม เน้ือและขน ตวั มี ขนำดเล็กสะดวกในกำรเล้ียงดู หำอำหำรกินเก่ง กินอำหำรไดห้ ลำยชนิด เป็ นหนุ่มเป็ นสำวเร็ว มี ควำมสมบูรณ์พนั ธุ์สูง ใชพ้ ้ืนที่ในกำรเล้ียงนอ้ ย สำมำรถปรับตวั เขำ้ กบั สภำพแวดลอ้ ม และทนทำน ตอ่ สภำพอำกำศแลง้ และร้อนไดด้ ี โดยทว่ั ไปแพะแบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท คือ 2.2.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุแพะประเภทนม ส่วนมำกเเพะประเภทน้ีปรำดเปรียว ลำคอบำงเล็กไม่คอ่ ยมีเน้ือ มีน้ำนม มำก ตวั ผทู้ ี่ ตอนแลว้ ขุนเป็ นแพะเน้ือได้ น้ำนมแพะจะมีส่วนประกอบเหมือนน้ำนมโคแต่กำรยอ่ ยไดจ้ ะง่ำยกวำ่ น้ำนมจำกโค แพะประเภทน้ีมีอยหู่ ลำยพนั ธุ์ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ 1) พนั ธ์ุซำเนน (Saanen) กำเนิดในประเทศสวสิ เซอร์แลนด์ มีสีขำวตลอดลำตวั ขน ส้ันและละเอียด รูปร่ำงเป็นเหล่ียม หูต้งั อำรมณ์สงบใหน้ มมำก 2) พันธ์ุท๊อกเกนเบิร์ก(Toggenburg) กำเนิดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โตเต็มที่ น้ำหนกั ประมำณ 55 กิโลกรัม น้ำนมมีไขมนั 3.7 เปอร์เซ็นต์ 3) พันธ์ุบริติช แอลไพน์ (British Alpine) กำเนิดบนเกำะบริ เตนใหญ่ ลำตัว โดยทว่ั ไปมีสีดำ ขนส้ัน หูต้งั หนำ้ มีแถบสีขำว ใหน้ มดี น้ำนมมีไขมนั เฉลี่ย 4 เปอร์เซ็นต์ 2.2.2 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุแพะประเภทเนือ้ แพะประเภทน้ีเป็ นแพะพนั ธุ์ท่ีมีตัวโต มีเน้ือมำกใช้เน้ือเป็ นอำหำร ให้นมน้อย เพียงพอแก่กำรเล้ียงลูกเท่ำน้นั ที่นิยมเล้ียงได้ แก่พนั ธุ์คุทชิ (Cutchi) ของอินเดีย พนั ธุ์ซูดำน(Sudan) และพนั ธุ์ไพรีเนียน (Pyrenian) จำกยุโรป แต่พนั ธุ์ท่ีนิยมเล้ียงในประเทศไทยคือแพะพนั ธุ์แองโกล นูเบียน (Anglo Nubian) และพนั ธุ์บอร์ (Boer) 1) พันธ์ุแองโกล นูเบียน (Anglo Nubian) กำเนิดในประเทศองั กฤษ มีสีน้ำตำลปน เเดงเป็ นประหรือแตม้ สีน้ำตำล ขนส้ัน ลำตวั แคบ ใบหูปรก จมูกโคง้ นูน ทนตอ่ สภำพอำกำศร้อนได้ ดี สำมำรถเล้ียงไดท้ ้งั เป็นแพะเน้ือและแพะนม น้ำนมมีไขมนั 4-5 เปอร์เซ็นต์ 2) พนั ธ์ุบอร์ (Boer) กำเนิดในแอฟริกำใต้ ร่ำงกำยมีควำมแข็งแกร่ง บึกบึน หวั และ คอใหญ่สีน้ำตำลแดง ตำใหญ่ ส่วนหนำ้ ผำกเทลำดเชื่อมต่อกบั จมูก เขำบนหวั โคง้ งอไปขำ้ งหลงั ขน ตำมลำตวั สีขำวปกคลุมลำตวั บำง ๆ ผวิ หนงั มีลกั ษณะพเิ ศษในกำรปรับตวั เขำ้ กบั สภำพแวดลอ้ มและ ภูมิอำกำศไดด้ ี และตำ้ นทำนต่อกำรรบกวนของปำรำสิต
40 พนั ธ์ุซำแนน (Saanen) พนั ธ์ุท๊อกเกนเบิร์ก (Toggenburg) ภำพท่ี 3.9 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์แพะประเภทนม ทมี่ ำ : สุรชน ต่ำงววิ ฒั น์, 2546 พนั ธ์ุแองโกล นูเบียน (Anglo Nubian) พนั ธ์ุบอร์ (Boer) ภำพที่ 3.10 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์แพะประเภทเน้ือ ทม่ี ำ : จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548 2.2.3 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุแพะประเภทขน ส่วนมำกมีถ่ินกำเนิดในประเทศท่ีเป็ นเทือกเขำ หรือเป็ นท่ีท่ีหนำวจดั แพะพวกน้ีมี ขนยำวอ่อนเหมำะท่ีใชท้ ำเคร่ืองนุ่งห่ม ท่ีนิยมเล้ียงมีสองพนั ธุ์ คือ 1) พนั ธ์ุแองกอร่ำ (Angora) กำเนิดในประเทศเตอรกี (Turkey) มีขนสีขำว-ครีม ยำว ละเอียดเป็ นมนั หอ้ ยหยกิ และขมวดเป็ นประกำย เขำแบนแบะไปดำ้ นขำ้ ง กลำงเขำบิดเล็กนอ้ ย เขำ ยำวเป็นคลื่น หูแนวนอนหรือตกลง 2) พันธ์ุเเคชเมียร์ (Cashmere) กำเนิดในประเทศอินเดีย มีขนต้งั แต่สีน้ำตำล สีเทำ อ่อน ถึงสีขำว ขนนุ่ม เขำเล็กยำวไปข้ำงหลังปลำยเขำโค้งลงและแบะออกนอกลำตัว ทนต่อ สภำพแวดลอ้ มไดด้ ี
41 พนั ธ์ุแองกอร่ำ (Angora) พนั ธ์ุแคชเมยี ร์ (Cashmere) ภำพท่ี 3.11 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์แพะประเภทขน ทมี่ ำ : Australian Meat Livestock Corporation,1989 2.3 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุแกะ แกะมีช่ือวิทยำศำสตร์ว่ำ Ovis aries เป็ นสัตวเ์ ค้ียวเอ้ืองเช่นเดียวกบั โค กระบือและแพะ นิยมเล้ียงกนั มำกในเมืองหนำว เพรำะใชข้ นเป็ นเคร่ืองนุ่งห่มและใชเ้ น้ือเป็ นอำหำร ในประเทศร้อน ก็มีเล้ียงกนั อยบู่ ำ้ ง แต่มีจุดประสงคเ์ พื่อใชเ้ น้ือเป็ นอำหำรเพียงอยำ่ งเดียวโดยทว่ั ไปแกะเเบ่งออกได้ เป็น 2 ประเภทคือ แกะประเภทขนและแกะประเภทเน้ือ 2.3.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุแกะประเภทขน แกะประเภทขนเป็นเเกะที่เล้ียงเพื่อนำขนมำทำเคร่ืองนุ่งห่ม เม่ือไม่สำมำรถใหข้ นได้ แลว้ จะนำเน้ือมำเป็ นอำหำรหรือใชท้ ำเป็ นอำหำรสัตว์ แกะประเภทน้ีท่ีนิยมเล้ียง คือพนั ธุ์เมอริโน และพนั ธุ์คอร์ริเดล พนั ธ์ุเมอริโน (Merino) พนั ธ์ุคอร์ริเดล (Corriedale) ภำพที่ 3.12 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์แกะประเภทขน ทมี่ ำ : Australian Meat Livestock Corporation, 1989
42 1) พันธ์ุเมอริโน (Merino) เป็ นแกะที่มีกำรเจริญเติบโตเร็วขนสีขำวละเอียด ยำว ประมำณ 5-10 เซนติเมตร เพศผตู้ ดั ขนได้ 4-5 กิโลกรัมต่อตวั ต่อปี เพศเมียตดั ขนได้ 3-4 กิโลกรัม ต่อตวั ต่อปี ลกั ษณะของหำงเป็ นแบบหำงเล็กแต่ยำว สำมำรถปรับตวั เขำ้ กบั สภำพแวดลอ้ มไดด้ ี ทน ตอ่ อำกำศร้อน เเตค่ ุณภำพของเน้ือไมค่ ่อยดี 2) พนั ธ์ุคอร์ริเดล (Corriedale) เป็ นเเกะท่ีปรับปรุงพนั ธุ์ในประเทศนิวซีแลนด์ โดย นำพนั ธุ์ลินคอล์นผสมกบั พนั ธุ์เมอริโนเพ่ือให้ไดล้ ูกดกและเน้ือมีคุณภำพดีลกั ษณะของขนมีสีขำว หำงเล็ก ยำว แกะพนั ธุ์น้ีสำมำรถปรับตวั เขำ้ กบั สภำพแปลงหญำ้ ไดด้ ี ทนทำนต่ออำกำศร้อนและ อำยยุ นื 2.3.2 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุแกะประเภทเนือ้ เป็ นแกะท่ีให้เน้ือมำก นิยมเล้ียงท้งั ในเขตร้อนและเขตหนำว มีหลำยพนั ธุ์ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ 1) พันธ์ุพืน้ เมืองของไทย ลกั ษณะโดยทวั่ ไปแบ่งออกไดต้ ำมเช้ือสำยจำกแหล่งท่ีมำ ดงั น้ี (1) แกะพ้ืนเมืองในภำคเหนือและภำคกลำง มีเช้ือสำยมำจำกแกะแถบตอนใต้ ของประเทศจีนและแถบประเทศทำงตะวนั ตกของประเทศไทย มีรูปร่ำงลกั ษณะคลำ้ ยแกะพนั ธุ์พม่ำ หำงยำว คือมีขนสีน้ำตำลหรือสีน้ำตำลไหม้ หนำ้ โหนกไมแ่ หลม หำงยำวเลยขอ้ เขำ่ (2) แกะพ้ืนเมืองในภำคใต้ มีเช้ือสำยมำจำกแกะพนั ธุ์กลนั ตนั (Kelantan) ของ ประเทศมำเลเซียคือมีขนสีขำวเป็ นส่วนใหญ่ มีบำงตวั ที่มีสีเขม้ ปะปนอยบู่ ำ้ ง หูมีขนำดเล็กมำก ตวั ผู้ มีเขำยำวตัวเมียไม่มีเขำขนมีสีขำวอมดำ หูยำวพอประมำณหน้ำแหลม หำงยำวประมำณ 8 เซนติเมตร เล้ียงง่ำยทนทำน หำกินรวดเร็ว 2) พันธ์ุดอร์ เซ็ท (Dorset) มีท้ังชนิดท่ีมีเขำ (Dorset Horn) และชนิดท่ี ไม่มีเขำ (Dorset Poll) เน้ือมีคุณภำพดี เพศเมียสำมำรถผสมพนั ธุ์ไดต้ ลอดปี และมีน้ำนมดีมำก แกะพนั ธุ์น้ี สำมำรถทนต่อสภำพอำกำศร้อนไดด้ ี แต่มีขอ้ เสียคือตอ้ งกำรทุ่งหญำ้ ที่อุดมสมบูรณ์ ลกั ษณะเป็ น แกะที่มีหำงเลก็ ยำว ถิ่นกำเนิดด้งั เดิมอยใู่ นองั กฤษ 3) พันธ์ุซัฟฟอล์ค (Suff Folk) กำเนิดในประเทศองั กฤษ มีขนำดใหญ่หวั เล็ก หน้ำ หูเเละขำมีสีดำ ส่วนลำตวั คอเป็ นสีขำวและต้งั แต่หวั เข่ำลงไปถึงเทำ้ ไม่มีขน ทนทำนต่ออำกำศร้อน และแม่แกะมีควำมสำมำรถในกำรเล้ียงลูกดี 4) พันธ์ุวิลท์ไชร์ฮอร์น (Wiltshire Horn) กำเนิดในประเทศองั กฤษ ให้เน้ือมำก มีขนส้ันและสำมำรถสลดั ขนทิ้งไดเ้ องในฤดูร้อน แกะพนั ธุ์น้ีเหมำะท่ีจะใช้สำหรับปรับปรุงพนั ธุ์ แกะเน้ือในเขตร้อน
43 พนั ธ์ุดอร์เซ็ท (Dorset) พนั ธ์ุซัฟฟอล์ค (Suff Folk) พนั ธ์ุดอร์เซ็ท ฮอร์น (Dorset Horn) พนั ธ์ุวลิ ท์ไชร์ฮอร์น (Wiltshire Horn) ภำพที่ 3.13 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์แกะประเภทเน้ือ ทม่ี ำ : Australian Meat Livestock Corporation, 1989
44 2.4 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะ ประจำพนั ธ์ุกระต่ำย กระต่ำยมีชื่อวิทยำศำสตร์วำ่ Oryctolagus cuniculus เป็ นสัตวก์ ินพืชที่มีสมรรถภำพใน กำรเปล่ียนหญำ้ เศษผกั ใหเ้ ป็ นเน้ือไดด้ ีกวำ่ ไก่เเละสุกร กระตำ่ ยเป็ นสัตวท์ ่ีเติบโตเร็วให้ผลตอบแทน เร็วและขยำยพนั ธุ์ได้เร็ว เล้ียงง่ำย ดูแลรักษำไม่ยุ่งยำก สำมำรถแบ่งออกไดเ้ ป็ น 3 ประเภท ตำม ขนำดของลำตวั คือ พนั ธุ์ขนำดเลก็ พนั ธุ์ขนำดกลำง และ พนั ธุ์ขนำดใหญด่ งั น้ี 2.4.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุกระต่ำยขนำดเลก็ กระต่ำยประเภทน้ีโตเต็มท่ีเม่ืออำยุ 4 เดือน น้ำหนักประมำณ 1.8-3.2 กิโลกรัม ท่ีนิยมเล้ียงไดแ้ ก่ 1) พันธ์ุหิมำลำยัน (Himalayan) กำเนิดบริเวณตอนเหนือและตอนใตข้ องเทือกเขำ หิมำลยั ขนสีขำวส้นั ปลำยจมกู ใบหู ปลำยเทำ้ และหำงสีดำ นิยมเล้ียงไวด้ ูเล่น 2) พันธ์ุดัทช์ (Dutch) มีหลำยชนิดแต่ท่ีนิยมเป็ นชนิดพนั ธุ์สีดำขำว หรือน้ำเงินขำว รูปร่ำงกะทดั รัดนิยมเล้ียงเพ่อื ควำมเพลิดเพลิน แต่ใชเ้ ป็ นกระต่ำยเน้ือหรือกระต่ำยในหอ้ งทดลองได้ เป็นอยำ่ งดี 3) พันธ์ุเร็กซ์ (Rex) เป็ นกระต่ำยที่มีขนหนำอ่อนนุ่มงดงำม ขนมีลกั ษณะส้ันต้งั ตรง คลำ้ ยกำมะหยี่ ส่วนขนช้นั นอกส้นั กวำ่ ขนช้นั ใน พนั ธ์ุฮิมำลำยนั (Himalayan) พนั ธ์ุดทั ช์ (Dutch) ภำพที่ 3.14 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์กระตำ่ ยขนำดเล็ก ทม่ี ำ : ธนำกร ฤทธ์ิไธสง, ม.ป.ป. 4) พันธ์ุไซมีสเซบิล (Siamese Sable) เป็ นกระต่ำยที่มีเช้ือสำยมำจำกกระต่ำยแถบ ประเทศไทย อินโดจีน และพมำ่ สีเทำอ่อน เล้ียงง่ำย ขยำยพนั ธุ์ดี นิยมเล้ียงเป็นกระต่ำยเน้ือหรือเล้ียง ในงำนศึกษำวจิ ยั
45 5) พันธ์ุไทย (Thai Rabbit) หมำยถึงกระต่ำยที่เล้ียงกันท่ัวไปในประเทศไทย กระต่ำยเหล่ำน้ีผสมพนั ธุ์กนั โดยไม่มีกำรคดั เลือกพนั ธุ์มีหลำยสีท่ีพบมำกคือสีเทำ สีดำขำว และสี น้ำตำลเทำ เล้ียงง่ำยและอดทนต่อสภำพแวดลอ้ มไดด้ ี ใชป้ ระโยชน์จำกอำหำรหยำบไดม้ ำกไม่ตอ้ ง เอำใจใส่มำกในกำรเล้ียงดูเหมือนกระต่ำยพนั ธุ์เน้ือของต่ำงประเทศ 2.4.2 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุกระต่ำยขนำดกลำง กระต่ำยประเภทน้ี โตเต็มที่เมื่ออำยุ 5-6 เดือนน้ ำหนักมำกกว่ำ 4-4.5 กิโลกรัม ท่ีนิยมเล้ียงไดแ้ ก่ พนั ธุ์คำลิฟอร์เนียน และพนั ธุ์นิวซีแลนด์ 1) พันธ์ุคำลิฟอร์เนียน (Californian) เป็ นกระต่ำยสีขำว มีสีดำหรือสีเทำดำบริเวณ ใบหู จมูก ปลำยเทำ้ และปลำยหำง ตำสีชมพู มีช่วงไหล่และช่วงทำ้ ยใหญ่ เล้ียงเพื่อใชป้ ระโยชน์ท้งั สำมทำง คือ เน้ือ ขน และสวยงำม 2) พันธ์ุนิวซีแลนด์ (New Zealand) กระต่ำยพนั ธุ์น้ีมีหลำยสี ท้ังสีขนและสีตำ แต่พนั ธุ์ท่ีนิยมเล้ียงกนั แพร่หลำยท่ีสุดไดแ้ ก่พนั ธุ์สีขำว ตำสีชมพู เหมำะสำหรับเล้ียงเป็ นกระต่ำย เน้ือและใชใ้ นหอ้ งทดลอง พนั ธ์ุคำลฟิ อร์เนยี น (Californian) พนั ธ์ุนิวซีแลนด์ไวท์ (New Zealand White) ภำพท่ี 3.15 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์กระต่ำยขนำดกลำง ทมี่ ำ : กนกวรรณ ศรีทศั นีย,์ 2541 2.4.3 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุกระต่ำยขนำด ใหญ่ พนั ธุ์ขนำดใหญ่ โตเตม็ ที่เมื่ออำยุ 6-7 เดือน น้ำหนกั มำกกวำ่ 5.5 กิโลกรัม ท่ีนิยมเล้ียง มีอยพู่ นั ธุ์เดียวคือพนั ธุ์เฟลมิชไจเเอนท์ (Flemish Giant) กำเนิดในประเทศเบลเยยี่ ม มีหลำยชนิดและ สีต่ำง ๆ กนั ท่ีนิยมในสหรัฐอเมริกำคือพนั ธุ์สีเทำ เน่ืองจำกเป็ นกระต่ำยขนำดใหญ่เม่ือนำมำเล้ียงใน เขตร้อนจึงมกั ทนอำกำศร้อนไม่ได้
46 2.5 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุกวำง กวำงเป็นสัตวก์ ีบคู่เล้ียงลูกดว้ ยนม มีเตำ้ นม 4 เตำ้ โดยทว่ั ไปจะมีเขำเฉพำะตวั ผู้ ในปัจจุบนั “กวำง” สำมำรถเพำะเล้ียงในเชิงกำรคำ้ ได้ โดยตอ้ งขออนุญำตจำกกรมป่ ำไม้ เพื่อป้ องกนั ควบคุม กำรลกั ลอบซ้ือขำยสัตวป์ ่ ำ กำรเล้ียงกวำงโดยทวั่ ไปจะมีระบบกำรจดั กำรเช่นเดียวกบั กำรเล้ียงแพะ แต่กำรเล้ียงกวำงในปัจจุบนั ตอ้ งใชต้ น้ ทุนสูงท้งั คำ่ ร้ัว และค่ำสำยพนั ธุ์ พนั ธ์ุกวำงทสี่ ำมำรถนำมำเลยี้ งเป็ นสัตว์เศรษฐกจิ ในประเทศไทยได้แก่1 2.5.1 กวำงป่ ำ หรือกวำงม้ำ (Sambar deer) มีถ่ินกำเนิดในประเทศมำเลเซีย เกำะสุมำตรำ อินเดีย ไตห้ วนั กมั พูชำ สำธำรณรัฐ ประชำชนจีน สำธำรณรัฐประชำชนลำว และไทย เป็นกวำงท่ีมีขนำดใหญ่ สีน้ำตำลเขม้ 2.5.2 เนือ้ ทรำย (Hog deer) มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย พบไดใ้ นพมำ่ กมั พชู ำ ลำว เวยี ดนำม และไทย มีขนำดเลก็ - กลำง 2.5.3 กวำงดำว (Chital deer) เป็ นกวำงขนำดเล็ก เล้ียงมำในประเทศไทยมำนำนกวำ่ 50 ปี อุปนิสัยค่อนขำ้ งเช่ือง กวำ่ กวำงพนั ธุ์อื่น ๆ 2.5.4 กวำงรูซ่ำ (Rusa deer) มีถ่ินกำเนิดในประเทศอินโดนีเซียและมำเลเซีย ขนำดกลำงสีขนเทำจนถึงน้ำตำล เหลือง 2.5.5 กวำงซีก้ำ (Sika deer) มีถิ่นกำเนิดในประเทศญี่ป่ ุน จีน เวียดนำม เป็ นกวำงที่มีขนำดกลำง ขนสีเหลือง ออกน้ำตำล นิยมเล้ียงเพ่ือตดั เขำกวำงอ่อน 2.5.6 กวำงฟอลโล (Follow deer) มีถิ่นกำเนิดในยโุ รป ลำตวั สีเทำ-น้ำตำล มีจุดสีขำว หำงยำว 2.5.7 กวำงแดง(Red deer) มีถ่ินกำเนิดในยโุ รป มีขนสีน้ำตำลแดง มีขนำดใหญ่ 1 คมจกั ร, 2545
47 กวำงรูซ่ำ (Rusa deer) เนือ้ ทรำย (Hog deer) กวำงฟอลโล (Follow deer) กวำงม้ำ (Sambar deer) กวำงแดง (Red deer) ภำพท่ี 3.16 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์กวำงที่สำมำรถเล้ียงไดใ้ นประเทศไทย ทม่ี ำ : คมจกั ร พิชยั รณรงคส์ งครำม และคณะ, 2545
48 3. ชนิด ประเภท พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุสัตว์ในกล่มุ สัตว์ปี ก 3.1 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุไก่ ไก่มีชื่อวิทยำศำสตร์วำ่ Gallus spp. ไก่เป็ นสัตวป์ ี กจำพวกเดียวกบั นก นิยมเล้ียงเพื่อนำไข่ และเน้ือมำเป็ นอำหำร ไก่นิยมเล้ียงกนั ทวั่ ไปในรูปแบบของกำรเล้ียงแบบหลงั บำ้ น เล้ียงเป็ นงำน อดิเรกหรือเล้ียงเป็ นอำชีพ โดยทวั่ ไปไก่สำมำรถแบ่งออกไดเ้ ป็ น 4 ประเภท คือไก่ประเภทไข่ (Egg Type) ไก่ประเภทเน้ือ (Meat Type) ไก่ประเภทก่ึงเน้ือก่ึงไข่ (Dual Purpose Type) และไก่ประเภท สวยงำม (Fancy Type) 3.1.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุไก่ประเภทไข่ ไก่ประเภทน้ีเป็ นไก่ที่มีรูปร่ำงขนำดเล็ก ท่ำทำงปรำดเปรียวและวอ่ งไวตื่นตกใจง่ำย มีน้ำหนกั ประมำณ 1.5 กิโลกรัม เป็ นไก่พนั ธุ์ท่ีให้ไข่ดกไม่ชอบฟักไข่ เน้ือมีคุณภำพต่ำ รสชำติจืด รับประทำนไมอ่ ร่อย ส่วนใหญแ่ ลว้ เป็นไก่ที่มีถ่ินกำเนิดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไดแ้ ก่ 1) พนั ธ์ุเลก็ ฮอร์น (Leghorn) ไก่พนั ธุ์น้ีมีอยู่ 3 สีคือ พนั ธุ์สีน้ำตำล (Brown Leghorn) พนั ธุ์สีขำว (White Leghorn ) และพนั ธุ์สีดำ (Black Leghorn) แต่พนั ธุ์ที่นิยมเล้ียงคือพนั ธุ์เล็กฮอร์น สีขำวเป็ นพนั ธุ์ที่มีหงอนจกั รและหงอนกุหลำบ ตุม้ หู หนงั และเปลือกไข่สีขำว แขง้ สีเหลือง นิยม เล้ียงพนั ธุ์หงอนจกั รมำกที่สุด * พนั ธ์ุเลก็ ฮอร์นขำว ( White Leghorn) ** พนั ธ์ุแอนดำลูเช่ียน (Andalusian) ภำพท่ี 3.17 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์ไก่ประเภทไข่ ทม่ี ำ : * กรมปศุสัตว,์ ม.ป.ป. และ **บริษทั อินเตอร์เวทฯ, ม.ป.ป.
49 2) พันธ์ุไมนอร์ก้ำ (Minorca) ไก่พนั ธุ์น้ีมี 3 สี คือ สีดำ สีขำวและสีน้ำเงิน เป็ นไก่ท่ี มีลกั ษณะหงอนแบบหงอนจกั ร หนงั ตุม้ หูและเปลือกไขม่ ีสีขำว แขง้ สีหินชนวน 3) พนั ธ์ุแอนดำลเู ชี่ยน (Andalusians) ไก่พนั ธุ์น้ีมีขนสีน้ำเงินจึงนิยมเรียกบลูแอนดำ ลูเช่ียน มีลกั ษณะหงอนเเบบหงอนจกั ร ตุม้ หู หนงั และเปลือกไข่สีขำว แขง้ สีหินชนวน 4) ไก่พันธ์ุไข่ที่นิยมเลีย้ งในปัจจุบัน ไก่พนั ธุ์ไข่ท่ีนิยมเล้ียงในเมืองไทยในปัจจุบนั เป็นพนั ธุ์ลูกผสม เปลือกไขส่ ีน้ำตำล ส่วนมำกขนสีน้ำตำล ไข่ดกกินอำหำรนอ้ ย ทนอำกำศร้อน ซ่ึงมี หลำยพนั ธุ์ มีช่ือกำรคำ้ แตกต่ำงกนั ไป เช่นพนั ธุ์บรำวน์นิค พนั ธุ์เอ เอ บรำวน์ พนั ธุ์ไฮเซค บรำวน์ พนั ธุ์อีซ่ำ บรำวน์ และพนั ธุ์ซี พี บรำวน์ เป็นตน้ 3.1.2 พนั ธ์ุเเละลกั ษณะประจำพนั ธ์ุไก่ประเภทเนือ้ ไก่ประเภทน้ีเป็ นไก่ท่ีมีน้ำหนักตวั มำกเคล่ือนท่ีช้ำนิสัยเชื่องไข่ไม่ดกลกั ษณะของ ลำตวั บ่งเด่นชดั วำ่ ค่อนขำ้ งเจำ้ เน้ีอคือมีอกเตม็ กลำ้ มเน้ือขำใหญ่ ไดแ้ ก่ไก่พนั ธุ์โคชิน พนั ธุ์แลงชำน และพนั ธุ์บรำม่ำ ซ่ึงเป็ นไก่ท่ีมีถ่ินกำเนิดมำจำกทวีปเอเชียในประเทศจีนและอินเดีย ส่วนไก่พนั ธุ์ คอร์นิช และพนั ธุ์พลีมทั ร็อคสีขำวเป็ นไก่ท่ีมีถ่ินกำเนิดจำกยุโรป รวมถึงพนั ธุ์เบตงและเกำ้ ชง่ั ซ่ึง เป็นไก่ท่ีพบทำงตอนใตข้ องประเทศไทย 1) พันธ์ุบรำม่ำ (Light Brama) ไก่พนั ธุ์น้ีมีอยู่ 2 สี คือพนั ธุ์สีดำและพนั ธุ์สีขำวมี ลกั ษณะหงอนแบบเมล็ดถว่ั หรือหงอนถว่ั ตุม้ หูสีแดง หนงั และแขง้ สีเหลือง มีขนปกคลุมที่แขง้ ถึง นิ้วเทำ้ เปลือกไข่สีน้ำตำล พนั ธ์ุบรำม่ำ พนั ธ์ุแลงชำนดำ พนั ธ์ุพลมี ทั ร็อคขำว (Light Brama) (Black Langshans) (White Plymouth Rocks) ภำพที่ 3.18 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์ไก่ประเภทเน้ือ ทม่ี ำ : กรมปศุสตั ว์ , ม.ป.ป.
50 2) พันธ์ุพลีมัทร็อคขำว (White Plymouth Rocks) กำเนิดในสหรัฐอเมริกำ ขนสี ขำว หงอนแบบหงอนจกั ร ตุม้ หูสีแดง หนงั และแขง้ สีเหลือง เปลือกไข่สีน้ำตำล 3) พันธ์ุโคชิน (Cochins) ไก่พนั ธุ์น้ีมีหลำยสี เช่น สีดำ สีเหลืองอ่อน ลกั ษณะหงอน แบบหงอนจกั ร ตุม้ หูสีแดง หนงั และแขง้ สีเหลือง มีขนท่ีแขง้ เปลือกไข่สีน้ำตำล 4) พันธ์ุแลงชำนดำ (Black Langshans) ไก่พนั ธุ์น้ีมีขนสีดำ มีลกั ษณะแบบหงอน จกั ร ตุม้ หูสีแดง หนงั สีขำว แขง้ สีน้ำเงินแกมดำ และมีขนท่ีแขง้ เปลือกไข่สีน้ำตำล 5) พันธ์ุคอร์นิช (White Cornish) แหล่งกำเนิดในองั กฤษ ไก่พนั ธุ์น้ีมีอยู่ 2 สี คือ พนั ธุ์สีดำจะมีขนสีดำเเกมเขียว และพนั ธุ์สีขำว มีลกั ษณะหงอนแบบเมล็ดถวั่ ตุม้ หูสีแดง หนงั และ แขง้ สีเหลือง เปลือกไขส่ ีน้ำตำล 6) พันธ์ุไก่เนื้อเพ่ือกำรค้ำ พนั ธุ์ไก่เน้ือเพื่อกำรคำ้ หรือเรียกอีกอยำ่ งหน่ึงวำ่ ไก่กระทง ที่นิยมเล้ียงเป็ นไก่ลูกผสมท้งั สิ้น ไก่กระทงเหล่ำน้ีเจริญเติบโตดี แข็งแรง อตั รำกำรเปล่ียนอำหำร เป็นเน้ือดี มีขนสีขำว ใชเ้ วลำเล้ียงส้ัน ที่นิยมเล้ียงมีช่ือกำรคำ้ ต่ำงกนั ไป เช่น พนั ธุ์เอเอ พนั ธุ์ฮบั บำร์ด พนั ธุ์รอสวนั พนั ธุ์เชพเวอร์สตำร์โบร พนั ธุ์เอเนค พนั ธุ์อำซ่ำ เเละพนั ธุ์เอเวยี น เป็นตน้ 3.1.3 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุไก่กง่ึ เนือ้ กงึ่ ไข่ ไก่ประเภทน้ีออกไข่และให้เน้ือเปอร์เซ็นตค์ ่อนขำ้ งสูง ดงั น้นั จึงสำมำรถเล้ียงไวเ้ พ่ือ บริโภคไข่และเน้ือ ไก่พนั ธุ์น้ีที่รู้จกั กนั ในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ พนั ธุ์โรดไอแลนดแ์ ดง พนั ธุ์พลีมทั ร็อคลำย พนั ธุ์นิวแฮมเชียร์ เเละพนั ธุ์ออสตร้ำลอร์ป ส่วนใหญ่แลว้ เป็ นไก่ที่กำเนิดในสหรัฐอเมริกำ ยกเวน้ พนั ธุ์ออสตร้ำลอร์ป ซ่ึงกำเนิดในองั กฤษ พนั ธ์ุโรดไอแลนด์แดง พนั ธ์ุนิวแฮมเชียร์ พนั ธ์ุพลมี ทั ร็อคลำย (Rhode lsland Red ) (New Hamshire) (Barred Plymouth Rock) ภำพที่ 3.19 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์ไก่ประเภทก่ึงเน้ือก่ึงไข่ ทมี่ ำ : กรมปศุสัตว,์ ม.ป.ป.
51 1) พันธ์ุโรดไอแลนด์แดง (Rhode Island Red) เป็ นไก่ท่ีมีลำตวั ค่อนขำ้ งยำวเป็ น สี่เหลี่ยมผืนผำ้ ขนสีแดงปนน้ำตำล มีลกั ษณะหงอนเป็ นแบบหงอนจกั รและหงอนกุหลำบ ตุม้ หูสี แดง หนงั และแขง้ สีเหลือง เปลือกไขส่ ีน้ำตำล 2) พันธ์ุนิวแฮมเชี ยร์ (New Hamshire) เป็ นไก่ที่ปรับปรุ งพันธุ์มำจำกพันธุ์ โรดไอแลนด์แดง สีขนแดงเหลือง เป็ นไก่ท่ีมีลกั ษณะหงอนเป็ นแบบหงอนจกั ร ตุม้ หูสีแดง หนัง และเเขง้ สีเหลือง เปลือกไขส่ ีน้ำตำล 3) พันธ์ุพลีมัทร็อคลำย (Barred Plymouth Rock) เป็ นไก่ท่ีท่ีมีลำตวั ค่อนขำ้ งยำว กวำ้ งและลึก ขนลำยดำสลบั ขำว ในเพศผแู้ ถบสีขำวจะมีขนำดเท่ำกบั เเถบสีดำ ในเพศเมียแถบสีดำมี ขนำดกวำ้ งกว่ำแถบสีขำวคร่ึงหน่ึงลกั ษณะหงอนเป็ นแบบหงอนจกั ร ตุม้ หูสีแดง หนงั และแขง้ สี เหลือง เปลือกไขส่ ีน้ำตำล 3.1.4 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุไก่สวยงำม เป็ นไก่ที่มีลักษณะเต้ียเล็ก มีรูปร่ำงสวยงำมน่ำรัก เล้ียงไวเ้ พ่ือดูเล่น เพื่อควำม เพลิดเพลิน ไม่ค่อยมีควำมสำคญั ทำงเศรษฐกิจมำกนกั ในประเทศไทยไก่สวยงำมท่ีนิยมเล้ียงไดแ้ ก่ ไก่แจ้ ซ่ึงในอดีตนิยมปล่อยเล้ียงตำมวดั แต่ในปัจจุบนั มีกำรปรับปรุงสำยพนั ธุ์เกิดสีสันสวยงำม หลำกหลำย มีกำรประกวด แข่งขนั ทำใหไ้ ก่แจไ้ ดร้ ับควำมนิยมมำกพอสมควร 3.2 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุเป็ ด เป็ดเป็ นสัตวป์ ี กที่มีนิสัยชอบเล่นน้ำวำ่ ยน้ำเก่ง ที่นิยมเล้ียงในปัจจุบนั มี 2 กลุ่มคือ เป็ ดพนั ธุ์ พ้ืนเมืองของไทย และเป็ดพนั ธุ์ตำ่ งประเทศซ่ึงมีท้งั ประเภทไข่ ประเภทเน้ือและประเภทสวยงำม 3.2.1 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุ เป็ ดพนั ธ์ุพนื้ เมืองของไทย 1) พันธ์ุปำกน้ำ หรือเป็ ดจังหวัดสมุทรปรำกำร ขนตวั สีดำ อกสีขำว ปำกดำ เทำ้ ดำ ไข่ดกและไข่เร็วกว่ำพนั ธุ์นครปฐมแต่ไข่ฟองเล็กกว่ำเป็ ดนครปฐม ตำมขนำดรูปร่ำงซ่ึงเล็กกว่ำ ลกั ษณะตวั ผแู้ ละตวั เมียมีสีคลำ้ ยกนั แต่ตวั ผมู้ ีท่ีสงั เกตคือขนท่ีหวั มีสีเขียวบรอนซ์ 2) พันธ์ุนครปฐม ตวั เมียขนสีลำยกำบออ้ ย ส่วนตวั ผูม้ ีขนลำตวั สีเทำ หัวสีเขียว คอ ขว้นั ขำว อกสีแดง ปำกสีเทำ เทำ้ สีเหลืองแก่หรือสีส้ม ตวั โต น้ำหนกั มำก ไข่ฟองใหญ่กวำ่ เป็ ดพนั ธุ์ ปำกน้ำ เม่ือหยดุ ไขน่ ิยมนำออกขำยเป็นเป็ดเน้ือ 3.2.2 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุ เป็ ดพนั ธ์ุต่ำงประเทศประเภทไข่ 1) พันธ์ุกำกีแคมป์ เบลล์ (Khaki Campbell) เป็ นพนั ธุ์ท่ีให้ไข่ดกที่สุดโดย ทวั่ ไป ท้งั ตวั เมียและตวั ผมู้ ีลกั ษณะค่อนขำ้ งสูง ตวั เมียขนสีกำกี ขนที่หลงั และปำกสีกำกีอ่อน ปำกสีเขียวแก่ หรืออมดำ หำงส้ันและเล็กกว่ำเป็ ดพนั ธุ์อ่ืน ขำและเท้ำสีกำกีเหมือนสีที่ขน ตัวผูข้ นท่ีหัว ลำคอ
52 ปลำยหำง ปลำยปี กมีสีเขียวแกมสีเหลืองน้ำตำลอ่อน ขนลำตวั กบั หนำ้ อกมีสีกำกี ปำกสีเขียวแก่และ เทำ้ สีเขียวจดั 2) พันธ์ุอินเดียนรันเนอร์ (lndian Runner) ไข่ดกรองจำกกำกีแคมป์ เบลล์ ขำท้งั สองต้งั อยคู่ ่อนขำ้ งไปทำงหลงั มำก กำรเดินจึงมีลกั ษณะคลำ้ ยนกเพนกวิน เป็ดพนั ธุ์น้ีแบ่งออกไดเ้ ป็ น 3 สำยพนั ธุ์ คือพนั ธุ์สีเทำแกมเหลือง พนั ธุ์สีขำวเเละพนั ธุ์สีลำย พนั ธ์ุกำกแี คมป์ เบลล์ (Khaki Campbell) พนั ธ์ุอนิ เดยี น รันเนอร์ ( Indian Runner) ภำพท่ี 3.20 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์เป็ดประเภทไข่ ทมี่ ำ : กรมปศุสตั ว,์ ม.ป.ป. 3.2.3 พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุเป็ ดพนั ธ์ุต่ำงประเทศประเภทเนือ้ 1) พนั ธ์ุมัสโควี่ (Muscovy) นิยมเรียกโดยทว่ั ไปวำ่ “เป็ ดเทศ” มีถ่ินกำเนิดในอเมริกำ ใต้ ขนำดใหญ่กวำ่ เป็ ดพนั ธุ์พ้ืนเมือง ตรงหวั เเละหน้ำท้งั เพศผแู้ ละเพศเมียจะมีผวิ หนงั เป็ นผิวสีแดง ขรุขระ บำงแห่งเป็ นหนงั สีแดงย่นและหยำบ มีสองสำยพนั ธุ์ คือพนั ธุ์สีขำวและพนั ธุ์สีดำ มสั โควี่ พนั ธุ์สีขำวจะมีขนสีขำวบริสุทธ์ิ แขง้ สีเหลืองหรือสีส้มอ่อน ปำกสีชมพสู ด ส่วนพนั ธุ์สีดำจะมีขนสี น้ำเงินแก่ คอ่ นขำ้ งดำ ตำมลำตวั หนำ้ อกเเละกลำงหลงั มีขนสีขำวแซมอยบู่ ำ้ ง ตรงปี กขนสีน้ำเงินจะ เป็นมนั ชอบฟักไขแ่ ละเล้ียงลูกเอง แตม่ ีขอ้ เสียคือบินเก่ง 2) พันธ์ุปักกิ่ง (Pekin) กำเนิดในประเทศจีน รูปร่ำงค่อนขำ้ งใหญ่ ลำตวั กวำ้ ง ลึก เเละหนำ ขนสีขำว ขำและเทำ้ สีหมำกสุก จงอยปำกสีเหลือง ไม่ชอบฟักไขแ่ ละบินไม่คอ่ ยได้
53 3) พันธ์ุบำร์บำรี (Barbary) จดั เป็ นเป็ ดเทศสำยพนั ธุ์หน่ึงท่ีไดร้ ับกำรปรับปรุงพนั ธุ์ โดยประเทศฝรั่งเศส มีลกั ษณะประจำพนั ธุ์คือมีขนสีขำวตลอดลำตวั เมื่อแรกเกิดขนออ่ นลำตวั สีขำว หวั มีจุดสีดำหรือมีแถบขนสีตรงกลำงหวั และไม่มีขนคิว้ สีดำเหมือนเป็ ดเทศพนั ธุ์พ้ืนเมือง จงอยปำก สีชมพู ขำสีเหลืองออ่ น *พนั ธ์ุมสั โควี่ (Muscovy) *พนั ธ์ุปักกงิ่ (Pekin) **พนั ธ์ุบำร์บำรี (Barbary) ภำพที่ 3.21 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์เป็ดประเภทเน้ือ ทม่ี ำ : * กรมปศุสัตว,์ ม.ป.ป. และ ** จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548
54 3.2.4 พนั ธ์ุเเละลกั ษณะประจำพนั ธ์ุเป็ ดพนั ธ์ุต่ำงประเทศประเภทสวยงำม เป็ ดประเภทน้ีมีอยู่หลำยพนั ธุ์ เช่น พนั ธุ์แบลคอีสท์อินเดียน (Black East Indian) พนั ธุ์คอลล์ (Call) พนั ธุ์ไวทเ์ ครสท์ (White Crested) และพนั ธุ์แมนดำริน (Mandarin) เป็ นเป็ดท่ีนิยม เล้ียง ตำมสวนสำธำรณะ สวนสตั ว์ พนั ธ์ุคอลล์ (Call) พนั ธ์ุแมนดำริน (Mandarin) ภำพท่ี 3.22 แสดงตวั อยำ่ งพนั ธุ์เป็ดประเภทสวยงำม ทม่ี ำ : นิรนำม, ม.ป.ป. 3.3 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุห่ำน ห่ำนกบั เป็ ดเป็ นสัตวป์ ี กที่มีลกั ษณะนิสัยคลำ้ ยกนั หลำยอยำ่ ง ไม่วำ่ จะเป็ นดำ้ นอำหำรหรือ ควำมชอบน้ำ แต่ห่ำนจะข้ีต่ืนมำกกวำ่ เป็ด บำงคนนิยมเล้ียงห่ำนโดยจุดประสงคเ์ พอ่ื ใหเ้ ฝ้ ำบำ้ นแทน สุนัขท่ีสำคญั คือห่ำนสำมำรถใช้อำหำรหยำบได้ดี เมื่อเทียบกบั สัตวใ์ นกลุ่มเดียวกัน พนั ธุ์ห่ำนที่ สำคญั ได้แก่ พนั ธุ์ทูเลำส์ (Toulouse) พนั ธุ์เอ็มเด็น(Emden) พนั ธุ์แอฟริกนั (African) พนั ธุ์แคนำดำ (Canada) พนั ธุ์พิลกริม (Pilgrim) พนั ธุ์สีทอง (Buff) และพนั ธุ์ท่ีนิยมเล้ียงมำกท่ีสุดในประเทศไทย คือพนั ธุ์จีน (Chinese) ห่ำนพนั ธุ์จีน กำเนิดในประเทศจีน ลกั ษณะมีปมนูนเด่นขนำดเล็กท่ีฐำนปำกเหนือหวั ตำ ห่ำนพนั ธุ์จีนเป็ นห่ำนที่มีขนำดเล็กกว่ำห่ำนพนั ธุ์อื่น มีรูปร่ำงค่อนขำ้ งคลำ้ ยหงส์ แบ่งออกไดเ้ ป็ น 2 ชนิดคือ ชนิดสีเทำน้ำตำล และชนิดสีขำว ใหไ้ ข่เร็วและไขด่ กกวำ่ พนั ธุ์อ่ืน ในประเทศไทยนิยมเล้ียง สีเทำเป็นห่ำนเน้ือและเล้ียงสีขำวไวเ้ ฝ้ ำบำ้ น
55 3.4 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุสัตว์ปี กชนิดอนื่ ๆ 3.4.1 ประเภท พนั ธ์ุ และลักษณะประจำพนั ธ์ุนกกระจอกเทศ นกกระจอกเทศเป็ นสัตวป์ ี กท่ีจดั อยใู่ นกลุ่มนกท่ีบินไม่ได้ (Ratites) เช่นเดียวกบั นก อีมู และนกกีวี แต่นกกระจอกเทศเป็นนกที่มีขนำดใหญ่ ตวั ผโู้ ตเตม็ ท่ีจะมีน้ำหนกั 100-165 กิโลกรัม ส่วนตวั เมียจะมีน้ำหนกั 90-110 กิโลกรัม ท้งั ตวั ผูแ้ ละตวั เมียจะมีควำมสูงเท่ำกนั คือสูงประมำณ 1.50-2.50 เมตร นกชนิดน้ีเป็ นสัตว์ป่ ำท่ีอำศัยอยู่ในทวีปแอฟริกำแต่เนื่องจำกเป็ นสัตว์ที่ให้ ประโยชน์หลำยทำง ท้งั ใชเ้ น้ือเป็นอำหำร หนงั และขนทำเครื่องนุ่งห่ม ส่วนขนปี กและเปลือกไข่ใช้ ทำเคร่ืองประดบั นกกระจอกเทศท่ีเล้ียงในปัจจุบนั เป็ นพนั ธุ์ท่ีถูกปรับปรุงข้ึนเพื่อกำรคำ้ ตวั ผูจ้ ะมี ขนสีดำตลอดลำตวั ยกเวน้ ปลำยหำงและปลำยปี กจะมีสีขำว ส่วนตวั เมียจะมีขนสีน้ำตำลเทำตลอด ลำตัวดังน้ันกำรแบ่งพันธุ์จึงแบ่งตำมสี ของผิวหนังเป็ นหลัก โดยเเบ่งออกเป็ น 3 พันธุ์คือ พนั ธุ์คอแดง (Red neck) พนั ธุ์คอน้ำเงิน (Blue neck) และพนั ธุ์คอดำ (Black neck ) ภำพท่ี 3.23 แสดงรูปร่ำงลกั ษณะนกกระจอกเทศเพศผ(ู้ สีดำ)และเพศเมีย(สีน้ำตำล) ทมี่ ำ : จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548
56 3.4.2 ประเภท พนั ธ์ุและลกั ษณะประจำพนั ธ์ุนกกระทำ นกกระทำเป็ นสัตวป์ ี กอยู่ในตระกูลเดียวกับไก่ นกกระทำมีอยู่ทั่วไปในเอเชีย ยุโรป แอฟริกำและสหรัฐอเมริกำ ซ่ึงมีอยู่มำกมำยหลำยพนั ธุ์ แต่พนั ธุ์ที่สำคญั และรู้จกั กนั ดีใน ปัจจุบนั ไดแ้ ก่ นกกระทำเวอร์จิเนีย (Bob White Quail) นกกระทำแคลิฟอร์เนีย (California Quail) นกกระทำยโุ รป (European Quail) และนกกระทำญ่ีป่ ุน (Japanese Quail) นกกระทำที่เล้ียงในปัจจุบนั เล้ียงในสองลกั ษณะคือเพื่อผลิตเน้ือและเพื่อผลิตไข่ ที่ เล้ียงเพื่อผลิตเน้ือส่วนใหญ่จะเป็นนกกระทำเพศผู้ นกกระทำกะเทยและนกกระทำเพศเมียท่ีหยุดไข่ นกกระทำท่ีเล้ียงเพ่ือผลิตไข่นิยมเล้ียงนกกระทำพนั ธุ์ญ่ีป่ ุน ซ่ึงเป็ นนกกระทำที่มีขนำดรูปร่ำงสีสัน คลำ้ ยนกคุ่ม มีขนำดตวั เท่ำกบั กำป้ัน สีขนลำยน้ำตำลเขม้ ไข่ดก ตวั เมียจะมีขนสีเทำดำ้ นล่ำง และมี ขนท่ีคอสีดำหรือคล้ำ ส่วนตวั ผจู้ ะมีขนสีแดงตอนดำ้ นล่ำงของลำตวั 3.4.3 ประเภท พนั ธ์ุ และลกั ษณะประจำพนั ธ์ุไก่งวง ไก่งวง (Turkeys) มีช่ือวิทยำศำสตร์ว่ำ Meleagris gallopavo นิยมเล้ียงไวเ้ พ่ือดูเล่น หรือใชเ้ น้ือเป็ นอำหำร โดยลกั ษณะรูปร่ำงจะมีงวงหรือเหนียงหยอ่ นยำนน่ำเกลียด ทำใหค้ นไทยไม่ นิยมบริโภคเน้ือ แต่ชำวต่ำงประเทศจะนิยมบริโภคเน้ือไก่งวงมำกกว่ำเน้ือไก่ชนิดอื่น ท่ีนิยมเล้ียง มี 3 พนั ธุ์คือพนั ธุ์นอร์ฟัคแบลค (Norfolk Black) พนั ธุ์แมมมธั บรอนซ์ (Mammoth Bronze) พนั ธุ์ เบลทส์ วลิ ล์ สมอลล์ ไวท์ (Beltsville Small White) ภำพท่ี 3.24 แสดงตวั อยำ่ งไก่งวงพนั ธุ์ Norfolk Black ทมี่ ำ : จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548
57 4. ส่วนต่ำง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยสัตว์เศรษฐกจิ กำรรู้จกั ตำแหน่ง หรือช่ือเรียกส่วนต่ำง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยสัตวเ์ ป็ นเร่ืองที่สำคญั ประกำรหน่ึง เพรำะกำรศึกษำลกั ษณะประจำพนั ธุ์ของสัตวแ์ ต่ละชนิด ประเภทและพนั ธุ์น้นั จะจำแนกออก ตำม ลักษณะที่มองเห็นเท่ำน้ัน ในที่น้ีจะกล่ำวถึงเฉพำะช่ือเรียกส่วนต่ำง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยสัตว์ เศรษฐกิจ ที่สำคญั ไดแ้ ก่ โค สุกร และไก่เท่ำน้นั 30 29 ส่วนต่ำง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยโค 1 กระหมอ่ ม (Poll) 2 หนำ้ ผำก (Fore head) 3 หู (Ear) 4 จมูก (Nose) 5 รูจมกู (Nostril) 6 ปำก (Mouth) 7 เน้ือจมูก (Muzzle) 8 เหนียงคอ (Dewlap) 9 เสือร้องไห้ (Brisket) 10 เขำ่ หนำ้ (Knee) 11 กีบ (Hoof) 12 ซอกขำหนำ้ (Fore flank) 13 ลึงค์ (Penis) 14 ซอกขำหลงั (Rear flank) 15 ถุงหุม้ อณั ฑะ (Scrotum) 16 กีบลอย (Dew claw) 17 หนำ้ แขง้ (Shank) 18 เขำ่ หลงั (Hock) 19 พหู่ ำง (Switch) 20 ตน้ ขำหลงั (Thigh) 21 บ้นั ทำ้ ย (Rump) 22 โคนหำง (Tail head) 23 สะโพก (Hip) 24 สะเอว (Loin) 25 สันหลงั (Chine) 26 ป่ ุมหลงั (Wither) 27 คอ (Neck) 28 ตำ (Eye) 29 ซี่โครง (Rib) 30 หลงั (Back) ภำพท่ี 3.25 แสดงส่วนตำ่ ง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยโค(เพศผ)ู้ ทมี่ ำ : จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548
58 ส่วนต่ำง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยสุกร 1 จมกู (Nose) 2 สันจมกู (Bridge of Nose) 3 หู (Ear) 4 คอ (Neck) 5 ไหล่ (Shoulder) 6 หลงั (Back) 7 สะเอว (Loin) 8 บ้นั ทำ้ ย (Rump) 9 หำง (Tail) 10 สะโพก (Hip) 11 กีบลอย (Dew Claw) 12 ขำพบั หลงั (Rear Flank) 13 เขำ่ หลงั (Hock) 14 ขอ้ เทำ้ (Pastern) 15 ลึงค์ (Penis) 16 ทอ้ ง (Belly) 17 ขำพบั หนำ้ (Fore Flank) 18 เข่ำหนำ้ (Knee) 19 กีบ (Hoof) 20 ลำคอ (Throat) 21 แกม้ (Cheek) 22 หนำ้ (Face) 23 คำง (Jowl) 24 ดำ้ นขำ้ ง (Side) ภำพที่ 3.26 แสดงส่วนตำ่ ง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยสุกร(เพศผ)ู้ ทมี่ ำ : จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548
59 ภำพท่ี 3.27 แสดงส่วนตำ่ ง ๆ ภำยนอกร่ำงกำยไก่ ทมี่ ำ : จดั ทำโดยผเู้ ขียน, 2548 สรุป สัตวเ์ ศรษฐกิจที่สำคญั มีหลำยชนิด แต่ละชนิดยงั แบ่งออกเป็ นประเภทตำมลกั ษณะกำรใช้ ประโยชน์ แต่ละประเภทยงั จำแนกออกเป็นพนั ธุ์ ซ่ึงแต่ละพนั ธุ์มีลกั ษณะเด่นแตกตำ่ งกนั ออกไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: