หน่วยที่ 5 โรงเรือนและอปุ กรณ์เลยี้ งสัตว์ หัวข้อเรื่อง 1. หลกั การสร้างโรงเรือนเล้ียงสัตว์ 2. ประเภทและแบบของโรงเรือน 3. เคร่ืองมือและอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการเล้ียงสัตว์ การเลือกสถานท่ีต้งั ฟาร์มสัตว์ เป็นปัจจยั หน่ึงที่สาคญั ต่อความสาเร็จของการเล้ียงสตั ว์ หาก ไดท้ ี่ต้งั ฟาร์มไม่เหมาะสม ปัญหาต่าง ๆ ย่อมจะเกิดข้ึนมากมาย ในทานองเดียวกนั เมื่อเลือกสถาน ที่ต้งั ฟาร์มไดเ้ หมาะสมแลว้ จะตอ้ งพิจารณาวางรูปแบบโรงเรือนตลอดจนการเลือกใชอ้ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ ใหเ้ หมาะสมกบั สถานท่ีและชนิดของสัตวท์ ่ีจะเล้ียง 1. หลกั การสร้างโรงเรือนเลยี้ งสัตว์ การสร้างโรงเรือนตอ้ งเหมาะสมกบั ชนิด ประเภท และจานวนสัตวท์ ี่จะเล้ียง โดยพิจารณาถึง หลกั ทวั่ ๆ ไป ดงั น้ี 1.1 ความสะอาด ส่ิงที่ตอ้ งคานึงถึงในการสร้างโรงเรือน คือ สภาพโรงเรือนสามารถทาความสะอาดไดง้ ่าย โดยเลือกใช้วสั ดุที่ทาความสะอาดได้ง่าย เช่น พ้ืนสแลตทาความสะอาดได้ง่ายกว่าพ้ืนคอนกรีต พ้ืนคอนกรีตทาความสะอาดได้ง่ายกว่าพ้ืนไม้และพ้ืนดินเป็ นต้น ในการออกแบบก่อสร้าง ตอ้ งคานึงถึงหลกั สุขาภิบาล โดยพิจารณาความลาดเทของพ้ืนคอกและการระบายน้า โรงเรือนที่ สร้างตอ้ งไมม่ ีซอกมุม ซ่ึงจะทาใหย้ งุ่ ยากในการทาความสะอาด 1.2 ความสะดวกในการปฏบิ ัตงิ าน โรงเรือนที่สร้างนอกจากทาความสะอาดได้ง่ายแล้ว จะตอ้ งออกแบบให้สะดวกในการ ปฏิบตั ิงาน เช่น หลงั คาไม่ต่าจนเกินไป สภาพภายในสามารถเดินไปมาไดส้ ะดวกโดยไม่ตอ้ งออ้ ม ไปออ้ มมาทาใหเ้ สียเวลาและโรงเรือนท่ีดีตอ้ งต่อเติมไดใ้ นอนาคต
86 1.3 ความสบาย โครงสร้างโรงเรือนตอ้ งอาศยั ความสบายของสัตวท์ ี่อาศยั อยู่เป็ นหลกั ดงั น้นั โรงเรือนที่ สร้างตอ้ งระบายอากาศไดด้ ี เพ่ือให้บรรยากาศในโรงเรือนเยน็ สบาย สามารถป้ องกนั ฝนสาดไดด้ ี แดดไม่ส่องมากเกินไปและตอ้ งไม่มีศตั รูของสัตวร์ บกวน พ้ืนคอกไม่ขดั มนั บริเวณรอบโรงเรือน ตอ้ งแห้งสะอาด เลือกใช้วสั ดุมุงหลงั คาท่ีทาให้สัตวอ์ ยู่ได้สบาย เช่น กระเบ้ืองจะเยน็ สบายกว่า สงั กะสี นอกจากน้ีขนาดของโรงเรือนจะตอ้ งเหมาะสมกบั จานวนสัตวท์ ่ีเล้ียง ความตอ้ งการพ้ืนท่ีต่อ ตวั แตกต่างกนั ตามชนิด ประเภท ขนาดและอายขุ องสตั ว์ 1.4 ราคาถูก เลือกใชว้ สั ดุที่มีราคาถูกและหาไดง้ ่ายในทอ้ งถิ่น วสั ดุมีความแขง็ แรงทนทาน และตอ้ งมีที่ เก็บอาหาร ตลอดจนอุปกรณ์ท่ีจาเป็นต่อการเล้ียงสตั วค์ รบถว้ น คาวา่ “ราคาถูก” ในที่น้ีไม่ไดห้ มายถึงโรงเรือนท่ีใช้ค่าก่อสร้างต่าเพียงอย่างเดียวแต่ตอ้ ง คานึงถึงอายกุ ารใชง้ านของโรงเรือนดว้ ย แลว้ นามาคิดค่าเส่ือมโรงเรือนดงั น้ี ค่าเส่ือมโรงเรือน = ราคาทุน อายกุ ารใชง้ าน โรงเรือนท่ีมีค่าเสื่อมต่อปี ต่าแสดงวา่ โรงเรือนน้ันราคาถูก ยกตวั อย่างเช่น นายแดงสร้าง โรงเรือนขนาดกวา้ ง 6 เมตร ยาว 30 เมตร เสาทาด้วยไม้ หลงั คามุงดว้ ยจาก ลงทุนค่าก่อสร้างไป ท้งั หมด 36,000 บาท ประมาณการวา่ โรงเรือนหลงั น้ีมีอายกุ ารใชง้ าน 3 ปี ดงั น้นั ค่าเส่ือมต่อปี ของ โรงเรือนนายแดงเท่ากบั 12,000 บาท แตใ่ นขณะเดียวกนั นายเขียวสร้างโรงเรือน ขนาดเดียวกนั กบั ของนายแดง แต่นายเขียวใช้เสาคอนกรีตและหลงั คามุงดว้ ยกระเบ้ืองอย่างดี ลงทุนค่าก่อสร้างไป ท้งั หมด 150,000 บาท ประมาณอายุการใช้งาน 15 ปี ดังน้ันค่าเส่ือมต่อปี ของโรงเรือนนายเขียว เท่ากบั 10,000 บาท จากตวั อยา่ งน้ีจะเห็นไดว้ า่ โรงเรือนของนายเขียวค่าก่อสร้างแพงก็จริง แต่อายุ การใชง้ านมากเม่ือเปรียบเทียบค่าเสื่อมต่อปี แลว้ โรงเรือนของนายเขียวมีราคาถูกกวา่ โรงเรือนของ นายแดง
87 2. ประเภทและแบบของโรงเรือน 2.1 ประเภทของโรงเรือน การจาแนกประเภทของโรงเรือนมีดงั น้ี 2.1.1 จาแนกตามลกั ษณะการใช้งาน สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 1) โรงเรือนรวม โรงเรือนรวมมีลกั ษณะเป็ นโรงเรือนหลงั เดียวขนาดใหญ่ ภายใน ก้นั เป็ นคอกยอ่ ยสาหรับสัตวแ์ ต่ละกลุ่มอายุ โรงเรือนแบบน้ีราคาจะถูกกวา่ แบบอ่ืน ๆ แต่เนื่องจาก เป็นโรงเรือนท่ีสัตวอ์ ยรู่ วมกนั จึงมีโอกาสเกิดโรคระบาดไดง้ ่าย เช่นโรงเรือนเล้ียงโคทวั่ ไปในฟาร์ม วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยี ทุกแห่งทว่ั ประเทศ 2) โรงเรือนเด่ียว ลกั ษณะโรงเรือนแบบน้ีคลา้ ยกบั แบบแรก แต่มีขนาดเล็กกวา่ สัตว์ แต่ละเพศ แต่ละอายจุ ะแยกกนั อยตู่ ามโรงเรือนแต่ละหลงั เช่น โรงเรือนสุกรพนั ธุ์ โรงเรือนสุกรขุน โรงเรือนไก่ไข่ โรงเรือนไก่กระทงและโรงรีดนมโคเป็ นตน้ โรงเรือนแบบน้ีสามารถป้ องกนั โรคได้ ดี แต่เล้ียงสตั วไ์ ดน้ อ้ ย ตน้ ทุนในการก่อสร้างสูง 2.1.2 จาแนกตามลกั ษณะการควบคุมอณุ หภูมิ โรงเรือนเล้ียงสัตวจ์ าแนกตามลกั ษณะการควบคุมอุณหภูมิ สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็ น 2 ประเภท คือ 1) โรงเรือนแบบควบคุมอณุ หภูมไิ ม่ได้หรือโรงเรือนแบบเปิ ด เป็ นโรงเรือนท่ีพบเห็น โดยทวั่ ไปที่จดั สร้างข้ึนมาเพ่ือใชเ้ ล้ียงสัตว์ โรงเรือนในฟาร์มวิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีเกือบ ทุกแห่งในประเทศไทยส่วนใหญ่ยงั เป็นโรงเรือนลกั ษณะน้ี 2) โรงเรือนแบบควบคุมอุณหภูมิได้หรือโรงเรือนแบบปิ ด โรงเรือนแบบน้ีเป็ น โรงเรือนท่ีสร้าง ข้ึนมาโดยมุ่งเนน้ การกาหนดทิศทางการถ่ายเทของอากาศท่ีผา่ นโรงเรือนเป็ นหลกั ดงั น้ันการสร้างโรงเรือนแบบน้ีจึงนิยมสร้างแบบปิ ดมิดชิด คือให้มีช่องอากาศเข้าและออกใน ทิศทางที่ต้องการ โดยช่องทางที่อากาศเข้าจะมีแผ่นรังผ้ึงก้ันอยู่และมีน้าหล่อเล้ียงจนเปี ยกชุ่ม ตลอดเวลา ส่วนช่องที่กาหนดให้อากาศออกจะอยดู่ า้ นตรงขา้ มกบั ช่องอากาศเขา้ และติดต้งั พดั ลม ดูดอากาศไว้ เพื่อดูดอากาศผา่ นโรงเรือน เม่ือเดนิ พดั ลมอากาศภายนอกจะถกู ดดู ผา่ นแผน่ รังผงึ ้ เข้า ภายในโรงเรือน ภายในโรงเรือนจะเย็นสบายโดยใช้หลกั การระเหยของนา้ โรงเรือนแบบน้ีสามารถ ต้งั ค่าอุณหภูมิภายในโรงเรือนได้ตามตอ้ งการ และเล้ียงสัตวต์ ่อพ้ืนที่ได้จานวนเพิ่มมากข้ึนกว่า โรงเรือนแบบควบคุมอุณหภมู ิไมไ่ ด้
88 ภาพท่ี 5.1 แสดงแผน่ รังผ้งึ โรงเรือนแบบควบคุมอุณหภมู ิได้ ทมี่ า : จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 2.2 แบบของโรงเรือน โรงเรือนแต่ละประเภทสามารถจาแนกออกไดห้ ลายแบบตามลกั ษณะรูปทรงของหลงั คา คือ 2.2.1 แบบเพงิ หมาแหงน โรงเรือนแบบน้ีสร้างง่ายกว่าโรงเรือนแบบอื่น มีลักษณะหลังคาด้านหน้าสูงกว่า ดา้ นหลงั ตน้ ทุนค่าก่อสร้างต่า มีขอ้ เสียคือถา้ หนั หนา้ เขา้ ในแนวทางของลมมรสุมฝนจะสาดไดม้ าก และมีอายกุ ารใชง้ านส้ัน 2.2.2 แบบหน้าจั่ว เป็ นแบบที่สร้างยากข้ึน ลกั ษณะหลงั คาเป็ นรูปสามเหล่ียมหนา้ จว่ั โรงเรือนแบบน้ีมี ขอ้ เสียคือค่าวสั ดุและค่าแรงงานจะสูงเมื่อเปรียบเทียบกบั แบบเพิงหมาแหงนแต่กนั แดดกนั ฝนได้ ดีกวา่ นอกจากน้ีเมื่อเล้ียงสัตวอ์ ุณหภูมิจากตวั สัตวท์ ่ีแผอ่ อกมารวมกบั ความร้อนที่หลงั คาไดร้ ับจาก แสงแดดจะกลายเป็ นแหล่งของความร้อนท่ีอาจจะสะทอ้ นกลบั ลงมาทาให้สัตวอ์ ยไู่ ม่สบาย ดงั น้นั เพื่อแกป้ ัญหาดงั กล่าวในปัจจุบนั เกษตรกรผเู้ ล้ียงสัตวจ์ ึงนิยมสร้างโรงเรือนท่ีมีหลงั คาแบบหนา้ จว่ั ใหเ้ ป็นโรงเรือนแบบควบคุมอุณหภมู ิได้ 2.2.3 แบบหน้าจั่ว 2 ช้ัน เป็ นโรงเรือนที่แกไ้ ขขอ้ บกพร่องของแต่ละแบบ จดั วา่ เป็ นแบบท่ีดีท่ีสุดในปัจจุบนั เพราะจวั่ ช้ันบนเป็ นที่ระบายอากาศภายในโรงเรือนได้ดีกว่าทุกแบบ แต่เป็ นแบบที่สิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายมากกว่าแบบอื่น ผู้ที่จะเลือกใช้โรงเรือนแบบน้ีควรคานึงถึงสภาพภูมิประเทศและ
89 ภูมิอากาศในฟาร์มของตนให้ดี ถ้าลมโกรกอยู่เสมอก็ไม่ควรเลือกใช้แบบน้ี เพราะสิ้นเปลือง คา่ ใชจ้ า่ ยมากเกินไป ใชแ้ บบหนา้ จวั่ กน็ ่าจะเพยี งพอ เพ่ือประหยดั ตน้ ทุนและปรับปรุงให้โรงเรือนกนั แดด กนั ลม กนั ฝนสาดไดด้ ียง่ิ ข้ึน เกษตรกรบางรายจึ งดัดแปล งต่อเติ มรู ปแบ บห ลังคาให้เห มาะส มต่อส ภาพ พ้ืนท่ี แล ะนิ ย มเรี ยก โรงเรือนที่มีการดดั แปลงรูปแบบหลงั คาวา่ แบบกลาย เช่น แบบเพิงหมาแหงนกลาย แบบหน้าจว่ั กลาย และแบบหนา้ จว่ั สองช้นั กลาย เป็นตน้ หลงั คาหน้าจว่ั หลงั คาหน้าจวั่ สองช้ัน ภาพท่ี 5.2 แสดงตวั อยา่ งรูปแบบหลงั คาโรงเรือน ทม่ี า : จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548
90 2.3 ข้อควรพจิ ารณาในการสร้างโรงเรือนเลยี้ งสัตว์ชนิดต่าง ๆ ความแตกต่างของโรงเรือนเล้ียงสตั วข์ ้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ดงั น้ี 2.3.1 ชนิด ประเภท อายแุ ละขนาดของสัตว์ ชนิด ประเภท อายแุ ละขนาดของสัตวท์ ่ีต่างกนั จะมีความตอ้ งการความสะดวกสบาย ไม่เหมือนกนั ตลอดจนพฤติกรรมท่ีแตกตา่ งกนั จึงทาใหโ้ รงเรือนสัตวแ์ ตล่ ะชนิดไมเ่ หมือนกนั 2.3.2 วธิ ีการเลยี้ งดูทตี่ ่างกนั วิธีการเล้ียงดูที่ต่างกนั เช่น วิธีการให้อาหาร ใช้วิธีการให้อาหารสัตวถ์ ึงคอกหรือ ปล่อยสัตว์หาอาหารกินเองหรือวิธีการเล้ียง เช่น เล้ียงไก่ไข่ในกรงตบั กับเล้ียงแบบปล่อยพ้ืน การสร้างโรงเรือนยอ่ มแตกตา่ งกนั 2.3.3 สภาพภูมิอากาศแต่ละท้องถ่นิ การสร้างโรงเรือนตอ้ งมีความแตกต่างกนั ตามสภาพภูมิอากาศแต่ละจงั หวดั แต่ละ ภาคและหรือแต่ละประเทศเพอ่ื ใหส้ ตั วส์ ามารถอยไู่ ดอ้ ยา่ งสบายในสภาพภมู ิอากาศน้นั ๆ 2.3.4 วสั ดุทใ่ี ช้ในการก่อสร้างโรงเรือน วสั ดุที่ใชส้ ร้างโรงเรือนมีหลายชนิด จึงตอ้ งสร้างโรงเรือนไปในลกั ษณะท่ีแตกต่าง เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั วสั ดุท่ีใช้ 2.3.5 วตั ถุประสงค์ของการเลยี้ งสัตว์แต่ละประเภท วตั ถุประสงคข์ องการเล้ียงสัตวจ์ ะเป็ นตวั กาหนดวา่ ควรจะสร้างโรงเรือนแบบใด จึง จะเหมาะสมกบั สตั วท์ ี่เล้ียงเพ่อื วตั ถุประสงคน์ ้นั ๆ 2.3.6 ปริมาณสัตว์ทเี่ ลยี้ ง ปริมาณสัตวท์ ่ีเล้ียงมีมากนอ้ ยไม่เท่ากนั โรงเรือนท่ีสร้างยอ่ มจะแตกต่างกนั 2.4 ขนาดของโรงเรือนเลยี้ งสัตว์ ขนาดของโรงเรือนท่ีจะสร้างตอ้ งมีความสัมพนั ธ์กบั จานวนสัตวท์ ี่เล้ียง และการถ่ายเท อากาศภายในโรงเรือน โดยทว่ั ไปโรงเรือนเล้ียงสัตวค์ วรมีความกวา้ งไม่เกิน 10 เมตร เพราะถา้ กวา้ ง เกินไปก็จะทาให้หลงั คากวา้ งและลาดมากอากาศจะถ่ายเทไม่สะดวกในทางตรงกนั ขา้ มถา้ โรงเรือน แคบเกินไปก็จะกนั ฝนสาดไม่ได้ ส่วนความยาวให้พิจารณาถึงความสะดวกต่อการจดั การเป็ นหลกั แต่จะสร้างโรงเรือนขนาดใดตอ้ งคานึงถึงความตอ้ งการพ้ืนท่ีโรงเรือนของสตั วเ์ ป็นสาคญั เพราะสัตว์ แต่ละชนิด แต่ละประเภท มีความต้องการพ้ืนที่ต่อตวั ของโรงเรือนแตกต่างกนั เช่นไก่ระยะไข่ (20-74 สัปดาห์) เล้ียงบนพ้ืนคอนกรีต ใชพ้ ้ืนท่ี 6-7 ตวั ต่อตารางเมตร ในขณะเดียวกนั หากเล้ียงบน กรงตบั สามารถเล้ียงได้ถึง 20 ตวั ต่อตารางเมตร หรือเล้ียงไก่กระทงในโรงเรือนท่ีควบคุมอุณหภูมิ
91 ไม่ไดจ้ ะเล้ียงไดเ้ พียง 8-10 ตวั ต่อตารางเมตร แต่หากเล้ียงในโรงเรือนที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ สามารถเล้ียงไดถ้ ึง 14-16 ตวั ตอ่ ตารางเมตร เป็นตน้ ตารางที่ 5.1 แสดงความตอ้ งการพ้นื ที่โรงเรือนของสตั วแ์ ต่ละชนิด ชนดิ ของสัตว์ ความต้องการพนื้ ท่ี หมายเหตุ พ้ืนคอนกรีตขงั รวมไมเ่ กิน 2,000ตวั *ไก่ไขอ่ ายุ 1 วนั – 6 สปั ดาห์ 21-35 ตวั /ตารางเมตร พ้นื คอนกรีต ไก่ไข่อายุ 7-20 สปั ดาห์ 6-11 ตวั /ตารางเมตร กรงตบั ไก่ระยะไข่ (20-74 สปั ดาห์) พ้นื คอนกรีต ไก่กระทง 20 ตวั /ตารางเมตร เป็ ดอายุ 1 วนั – 7 สปั ดาห์ 8-10 ตวั /ตารางเมตร ขงั รวมไมเ่ กิน 250 ตวั เป็ ดอายุ 8-20 สปั ดาห์ 6-8 ตวั /ตารางเมตร เป็ ดระยะไข่ (20-72 สปั ดาห์) 5-6 ตวั /ตารางเมตร ขงั รวมพ้ืนคอนกรีต เป็ ดเน้ือ ขงั รวมพ้ืนคอนกรีต ลูกสุกรอายุ 3-10 สปั ดาห์ 5 ตวั /ตารางเมตร ขงั รวมพ้นื คอนกรีต สุกรเลก็ อายุ 10 สปั ดาห์ – 35 กก. 7 ตวั /ตารางเมตร ขงั รวมพ้นื คอนกรีต สุกรรุ่น (35-60 กก.) 0.4-0.6 ตารางเมตร/ตวั ยกพ้นื ขงั เด่ียว สุกรขนุ (60-100 กก.) 0.6-0.8 ตารางเมตร/ตวั พ้ืนคอนกรีตขงั รวม 4-8 ตวั **ลูกโคนม 0.8-1.0 ตารางเมตร/ตวั ความกวา้ งซองรีดนม โคนมรุ่น 1.2-1.5 ตารางเมตร/ตวั โคใหน้ ม 1.2x1.2 ตารางเมตร/ตวั - โคพ้นื เมืองหยา่ นม 2.0x2.5 ตารางเมตร/ตวั - โคพ้นื เมืองรุ่น 1.1-1.5 เมตร/ตวั - โคพ้ืนเมืองพอ่ 2.48 ตารางเมตร/ตวั - โคพ้นื เมืองแม่ 5.32 ตารางเมตร/ตวั - โคลูกผสมบราห์มนั พ้ืนเมืองหยา่ นม 7.39 ตารางเมตร/ตวั - โคลกู ผสมบราห์มนั พ้นื เมืองรุ่น 5.75 ตารางเมตร/ตวั - โคลกู ผสมบราห์มนั พ้นื เมืองพอ่ 3.58 ตารางเมตร/ตวั - โคลกู ผสมบราห์มนั พ้นื เมืองแม่ 5.58 ตารางเมตร/ตวั - โคลกู ผสมชาร์โรเลส์พ้ืนเมืองหยา่ นม 8.49 ตารางเมตร/ตวั - โคลูกผสมชาร์โรเลส์พ้ืนเมืองรุ่น 6.74 ตารางเมตร/ตวั - โคลูกผสมชาร์โรเลส์พ้นื เมืองพอ่ 3.70 ตารางเมตร/ตวั - โคลกู ผสมชาร์โรเลส์พ้นื เมืองแม่ 6.21 ตารางเมตร/ตวั 8.86 ตารางเมตร/ตวั 8.27 ตารางเมตร/ตวั ทมี่ า : *กรมอาชีวศึกษา, 2537 **คณาจารยม์ หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, 2532
92 ตัวอย่าง การคานวณพ้ืนที่โรงเรือนเล้ียงไก่กระทงในโรงเรือนแบบควบคุมอุณหภูมิได้ จานวน 12,000 ตวั โดยกาหนดพ้ืนท่ี 1 ตารางเมตร เล้ียงไม่เกิน 15 ตวั สามารถคานวณไดด้ งั น้ี 2.4.1 คานวณพนื้ ทที่ ต่ี ้องการ การคิดพ้ืนท่ีสามารถคิดไดด้ งั น้ี ไก่ 15 ตวั ตอ้ งการพ้ืนท่ี 1 ตารางเมตร ไก่ 12,000 ตวั ตอ้ งการพ้ืนที่ 12,00015= 800 ตารางเมตร 2.4.2 กาหนดความกว้างของโรงเรือน สมมติวา่ ตอ้ งการสร้างโรงเรือนกวา้ ง 8 เมตร ก็นาความกวา้ งไปคานวณหาความยาว ของโรงเรือน ซ่ึงทาไดโ้ ดยนาพ้ืนที่ท้งั หมดต้งั หารด้วยความกวา้ ง ผลที่ออกมาคือความยาวของ โรงเรือนหลงั ท่ีตอ้ งการสร้าง (800/8 = 100 เมตร) ดงั น้ันถา้ จะเล้ียงไก่กระทงในสัดส่วน 15 ตวั ต่อ พ้ืนที่โรงเรือน 1 ตารางเมตร จานวน 12,000 ตวั ตอ้ งสร้างโรงเรือนขนาดกวา้ ง 8 เมตร ยาว 100 เมตร จานวน 1 หลงั 2.5 หลกั การจัดหมวดหมู่ของโรงเรือน การจดั หมวดหมู่ของโรงเรือนเป็ นหลกั เบ้ืองตน้ ในการจดั การฟาร์ม การจดั หมวดหมู่ของ โรงเรือนที่ถูกตอ้ งทาให้สะดวกในการปฏิบตั ิงาน สัตวอ์ ย่ไู ดส้ บายและสัตวส์ ะอาดปราศจากการ ติดตอ่ ของโรค การจดั หมวดหมู่ของโรงเรือนควรคานึงถึงหลกั การตอ่ ไปน้ี 2.5.1 โรงเรือนทอี่ ย่อู าศัยของสัตว์กบั สถานท่ีเกบ็ อาหาร โรงเรือนที่อยู่อาศยั ของสัตวก์ บั สถานท่ีเก็บอาหารหรือโรงผสมอาหาร ควรอยู่ใน ตาแหน่งท่ีสะดวกต่อการนาอาหารไปใชเ้ ล้ียงสตั ว์ 2.5.2 โรงเรือนรักษาสัตว์ป่ วย โรงเรือนรักษาสัตวป์ ่ วยแยกอย่อู ย่างอิสระและอยูห่ ่างจากโรงเรือนอื่น เพ่ือป้ องกนั การแพร่ระบาดของโรค 2.5.3 สถานทจ่ี ัดเกบ็ เวชภัณฑ์และอปุ กรณ์ทจี่ าเป็ น สถานที่จดั เก็บเวชภณั ฑ์และอุปกรณ์ที่จาเป็ นกบั สัตวใ์ นกลุ่มน้นั ๆ เก็บไวป้ ระจาใน โรงเรือนแต่ละหลงั ยกเวน้ เวชภณั ฑ์และอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกนั หรือนาน ๆ ใช้คร้ังควรจดั เก็บไวใ้ น ศูนยก์ ลางท่ีใดที่หน่ึงซ่ึงสะดวกในการนามาใชง้ าน 2.5.4 คอกคลอด คอกคลอดควรจดั ให้อยู่ใกล้ผูเ้ ล้ียงมากที่สุดเพื่อสะดวกต่อการปฏิบัติงาน และ ช่วยเหลือสัตวเ์ มื่อมีปัญหาไดท้ นั ที
93 2.5.5 ระยะห่างระหว่างโรงเรือน โรงเรือนแต่ละหลงั ควรอยหู่ ่างกนั ไม่นอ้ ยกวา่ 30 เมตร เพ่ือเป็ นการป้ องกนั การแพร่ ระบาดของโรค แตถ่ า้ อยหู่ ่างเกินไปกจ็ ะเสียเวลาในการปฏิบตั ิงานและสิ้นเปลืองเน้ือท่ี 2.6 ส่วนประกอบของโรงเรือนเลยี้ งสัตว์ โรงเรือนเล้ียงสตั วม์ กั ประกอบไปดว้ ยส่วนสาคญั ดงั ต่อไปน้ี 2.6.1 เสา เสาโรงเรือนสามารถทาดว้ ยวสั ดุต่างกนั เช่น ไมไ้ ผ่ ตน้ หมาก ไมเ้ น้ือแขง็ เหล็ก หรือ คอนกรีตเสริมเหล็ก เสาจากวสั ดุแต่ละแบบยอ่ มมีขอ้ ดีขอ้ เสียต่างกนั กล่าวคือเสาไม้ เสาเหล็กมกั มี ปัญหาเรื่องเสาขาดคอดินอาจแกไ้ ขไดโ้ ดยการหล่อคอนกรีตหุ้มโคนเสาสูงจากพ้ืนดินพอประมาณ ส่วนเสาคอนกรีตเสริมเหล็กมีความคงทนถาวรดีมากแต่มีปัญหาในการสร้างเพราะไม่สามารถตี ตะปูไดต้ อ้ งใชน้ ๊อตยึดเท่าน้นั ส่วนเสาไมเ้ น้ืออ่อน ไมไ้ ผ่ อายกุ ารใชง้ านจะส้ันเพราะมีความคงทน นอ้ ย 2.6.2 หลงั คา การสร้างหลงั คาโรงเรือนแบบใดข้ึนอยกู่ บั วตั ถุประสงค์และความเหมาะสมเพราะ หลงั คาทุกแบบจะมีส่วนประกอบที่สาคญั อยู่ 2 ส่วนคือโครงหลงั คาและวสั ดุมุงหลงั คา 1) โครงหลังคา หากสร้างเป็ นโรงเรือนชว่ั คราวอาจจะใชไ้ มไ้ ผ่ ไมร้ วก แต่ถา้ สร้าง เป็นโรง เรือนถาวรตอ้ งใชโ้ ครงไมเ้ น้ือแขง็ หรือโครงเหลก็ กไ็ ด้ 2) วัสดุมุงหลังคา หากเป็ นโรงเรือนชั่วคราวนิยมใช้หญ้าคา ใบจาก ใบตองตึง เพราะอายกุ ารใชง้ านค่อนขา้ งส้ัน และทาให้อากาศภายในโรงเรือนเยน็ สบาย ถา้ เป็ นโรงเรือนถาวร นิยมใชก้ ระเบ้ืองหรือสังกะสี 2.6.3 ผนังโรงเรือน สัตวแ์ ตล่ ะชนิดจะใชว้ สั ดุก้นั หรือผนงั โรงเรือน แตกตา่ งกนั 1) สัตว์ใหญ่ไม่จาเป็ นตอ้ งมีผนงั โรงเรือน แต่จะใชไ้ มห้ รือเหล็กก้นั ให้ห่างพอไม่ให้ สัตวล์ อดออกไปขา้ งนอกได้ เรียกวา่ ร้ัว 2) สัตว์เล็กพวกแพะและแกะ วสั ดุก้นั โรงเรือนจะก้นั แนวต้งั หรือใช้ตาข่ายขนาด ใหญแ่ ทน 3) สัตว์ปี ก วสั ดุก้ันโรงเรือนสัตวป์ ี กนิยมใช้ตาข่ายขนาดไม่เกิน 1x1 นิ้ว เพราะ นอกจากจะเป็ นการกกั บริเวณสัตวแ์ ลว้ ผนงั โรงเรือนตอ้ งสามารถป้ องกนั ศตั รูเขา้ มาทาร้ายสัตวป์ ี ก และป้ องกนั สัตวซ์ ่ึงเป็นพาหะนาโรคไดด้ ว้ ย
94 2.6.4 พนื้ โรงเรือน พ้ืนโรงเรือนถือว่ามีความสาคญั ต่อการเล้ียงสัตวม์ าก พ้ืนเป็ นส่วนของโรงเรือนท่ี สตั วท์ ุกชนิดตอ้ งสัมผสั อยตู่ ลอดเวลา ในการสร้างพ้ืนโรงเรือนนอกจากจะถูกตอ้ งตามชนิดของสัตว์ แลว้ จะตอ้ งคานึงถึงความทนทาน การสุขาภิบาลและความสะดวกสบายของสัตวเ์ ป็ นหลกั สามารถ แบง่ พ้นื โรงเรือนไดด้ งั น้ีคือพนื้ คอนกรีต พนื้ ไม้ระแนง พนื้ ดนิ และพนื้ สแลต 1) พนื้ คอนกรีต เป็ นพ้ืนโรงเรือนท่ีนิยมใช้มากเพราะสร้างง่าย ทนทานและสะดวก ในการดูแลรักษาทาความสะอาดไดง้ ่าย แตส่ ัตวอ์ าจไดร้ ับอนั ตรายไดถ้ า้ พ้นื น้นั หยาบหรือล่ืนเกินไป จึงนิยมเทพ้นื คอนกรีตโดยไม่ขดั มนั และตอ้ งมีความลาดเอียงประมาณ 2-3 องศา เพอื่ ป้ องกนั น้าขงั 2) พนื้ ไม้ระแนง นิยมใชก้ บั โรงเรือนแพะ แกะ โดยใชไ้ มร้ ะแนงขนาด 1x2 นิ้ว ตีเวน้ ช่องห่างกนั ประมาณ 3/4 นิ้ว เพื่อให้มูลแพะ แกะ หล่นลงขา้ งล่างได้ ทาให้โรงเรือนสะอาด ใน ทานองเดียวกนั ถา้ ห่างเกินไป เทา้ ของแพะ แกะ ลอดช่องลงไปทาใหเ้ ป็นอนั ตรายได้ 3) พนื้ ดิน เป็ นพ้ืนที่นิยมในอดีตโดยใชด้ ินถมเป็ นเนินอดั แน่นเพ่ือป้ องกนั ไม่ให้น้า ท่วมขงั ปัจจุบนั ยงั ใชก้ นั บา้ งในโรงเรือนโคกระบือ พ้ืนดินจะดูแลรักษาและทาความสะอาดไดย้ าก ช้ืนแฉะง่ายเป็นที่สะสมของเช้ือโรค เป็นผลต่อสุขภาพของสตั วท์ ี่เล้ียงในฟาร์ม 4) พื้นสแลต จดั เป็ นพ้ืนโรงเรือนที่ทนั สมยั ที่สุด นิยมใช้มากในฟาร์มขนาดใหญ่ ในปัจจุบนั มีพ้ืนสแลตท่ีทาจากปูนซีเมนต์ ทาจากพลาสติกแข็งและพ้ืนสแลตที่ทาจากเหล็กถกั ที่ นิยมมากคือทาจากปูนซีเมนต์และพลาสติกแข็ง พ้ืนแบบน้ีมีขอ้ ดีคือทาความสะอาดไดง้ ่าย การ ระบายอากาศภายในโรงเรือนดี โรงเรือนแห้งสะอาด ในพ้ืนท่ีเท่ากนั สามารถเล้ียงสัตวไ์ ดจ้ านวน มากตวั กวา่ พ้ืนชนิดอื่น พ้ืนชนิดน้ีมีขอ้ เสียคือราคาแพง พนื้ คอนกรีต(ขีดรอยหยาบ ๆ) พนื้ สแลต(ปูนซีเมนต)์ พนื้ สแลต(พลาสติคแขง็ ) ภาพที่ 5.3 แสดงตวั อยา่ งรูปแบบพ้นื โรงเรือน ทมี่ า : จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548
95 2.6.5 วสั ดุรองพนื้ วสั ดุรองพ้ืนไม่จดั เป็ นส่วนประกอบของโรงเรือนโดยตรง แต่วสั ดุรองพ้ืนมีความ จาเป็ นสาหรับสัตวท์ ี่เล้ียงบนพ้ืนคอนกรีตและพ้ืนดิน เพื่อตอ้ งการใหส้ ัตวอ์ ยอู่ ยา่ งสบาย และสะดวก ในการทาความสะอาด จาเป็ นตอ้ งใชว้ สั ดุรองพ้ืนโรงเรือนใหม้ ีความหนาประมาณ 2-3 นิ้ว วสั ดุรอง พ้ืนที่นิยมใช้ได้แก่ แกลบ ข้ีกบ ข้ีเล่ือย เป็ นต้น จะใช้วสั ดุชนิดใดรองพ้ืนข้ึนอยู่กับฤดูกาลและ สามารถหาไดง้ ่ายในทอ้ งถิ่นรวมถึงความเหมาะสม เช่นนิยมใชแ้ กลบหรือข้ีเล่ือยเป็ นวสั ดุรองพ้ืน เล้ียงไก่กระทง แตจ่ ะใชข้ ้ีกบรองพ้ืนเล้ียงเป็ดและไก่ไขเ่ ป็นตน้ 3. เคร่ืองมอื และอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการเลยี้ งสัตว์ เครื่องมือและอุปกรณ์ในการเล้ียงสตั วท์ ่ีนิยมใชโ้ ดยทวั่ ไปมีดงั น้ี 3.1 อปุ กรณ์ให้นา้ ให้อาหาร อุปกรณ์กลุ่มน้ีมีอย่หู ลายแบบท้งั แบบติดต้งั ถาวรและแบบเคล่ือนท่ีได้ แบบธรรมดาและ แบบอตั โนมตั ิ วสั ดุท่ีใชม้ ีเหลก็ พลาสติกและคอนกรีต อุปกรณ์ให้น้าใหอ้ าหารสตั วจ์ าแนกตามชนิด ของสตั วด์ งั น้ี 3.1.1 อุปกรณ์ให้นา้ ให้อาหารโค กระบือ รางน้าโคกระบืออาจจะใชท้ ่อซีเมนตป์ ิ ดกน้ ก่ออิฐฉาบปูนเป็ นอ่างขนาดใหญ่ หรือถา้ เป็ น โคท่ีเล้ียงแบบผกู ยนื โรงนิยมใชท้ ่ีใหน้ ้าแบบอตั โนมตั ิ ส่วนรางอาหารถา้ เป็ นอาหารขน้ จะก่อรางปูน เป็นรางยาวตลอดโรงเรือน ส่วนอาหารหยาบนิยมทารางใหอ้ ยใู่ นระดบั ที่ใหโ้ คกินไดส้ ะดวกโดยใช้ ไมร้ ะแนงตีห่าง ๆ 3.1.2 รางนา้ รางอาหารแพะ แกะ รางน้ารางอาหารแพะ แกะเช่นเดียวกบั โค กระบือ แต่มีขนาดเล็กกว่า เนื่องจากแพะ แกะ มีนิสยั ชอบกินอาหารในท่ีสูงจึงจาเป็นตอ้ งสร้างรางอาหารหยาบใหส้ ูงเพ่ือป้ องกนั การสูญเสีย 3.1.3 รางนา้ รางอาหารสุกร สุกรพ่อพนั ธุ์ แม่พนั ธุ์ใช้รางอาหารธรรมดา เพราะตอ้ งควบคุมปริมาณอาหารท่ีให้ สุกรขนุ อาจใชร้ างอาหารอตั โนมตั ิ ส่วนรางน้านิยมจุบ๊ น้าอตั โนมตั ิจานวน 1 จุบ๊ ตอ่ สุกร 10 ตวั
96 *รางนา้ โคแบบก่ออฐิ ฉาบปูน **ทใี่ ห้นา้ โคแบบอตั โนมตั ิ *รางอาหารโค *ถาดอาหารลูกไก่ *รางอาหารสุกร *จ๊บุ นา้ สุกร ภาพท่ี 5.4 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์ใหน้ ้าใหอ้ าหาร ทมี่ า : *จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 และ **กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
97 3.1.4 รางนา้ รางอาหารไก่ รางน้ารางอาหารไก่ข้ึนอยกู่ บั ประเภทและวธิ ีการเล้ียง การเล้ียงบนพ้ืนนิยมใชท้ ่ีใหน้ ้า แบบขวดคว่าขนาด 1 ลิตร สาหรับไก่เล็ก ขนาด 1 แกลลอนสาหรับไก่รุ่นและขนาด 2 แกลลอน สาหรับไก่ใหญ่ หรืออาจใช้รางอตั โนมตั ิ 1 รางแทนที่ให้น้าแบบขวดคว่าขนาด 2 แกลลอนก็ได้ เพราะสะดวกและประหยดั เวลาในการปฏิบตั ิงาน ส่วนรางอาหารไก่เล็กอาจใชถ้ าดให้อาหารหรือ กล่องใส่ลูกไก่ก็ได้ เม่ือไก่มีขนาดใหญ่ข้ึนจึงค่อยเปลี่ยนมาใช้รางอาหารอตั โนมตั ิแทน ส่วนไก่ท่ี เล้ียงบนกรงตบั เป็นไก่ที่โตเกือบเตม็ ที่ (ไก่รุ่นสาว) รางน้ารางอาหารนิยมใชแ้ บบรางยาวตลอดแนว ตารางท่ี 5.2 แสดงจานวนขนาดท่ีใหน้ ้าและอาหารของสัตวเ์ ล้ียง ชนิดของสตั ว์ แบบถงั (ตวั /ถงั ) แบบราง(ความยาวตาราง/ตวั ) ที่ใหน้ ้า(ซม.) ท่ีใหอ้ าหาร(ซม.) ที่ใหน้ ้า ท่ีใหอ้ าหาร *ไก่อายุ 1-7 วนั 100 25 2.5 2.5 ไก่อายุ 8-21 วนั 50 25 5.0 4.5 ไก่อายุ 22-56 วนั 25 25 5.0 7.5 ลกู เป็ ด 50 50 2.5 2.5 เป็ ดเลก็ 25 25 2.5 5.0 เป็ ดใหญ่ 25 25 5.0 5.0 สุกรเลก็ - 20 10-15 10-15 สุกรรุ่น - 15 15-21 15-21 สุกรใหญ่ - 10 21-25 21-25 สุกรพนั ธุ์ เล้ียงรวม - 10 20-30 20-30 สุกรพนั ธุ์ เล้ียงเด่ียว - 1 20 20 **โคพ้นื เมืองหยา่ นม - 32 โคพ้ืนเมืองรุ่น - 49 โคพ้ืนเมืองพอ่ พนั ธุ์ - 57 โคพ้ืนเมืองแม่พนั ธุ์ - 51 ทมี่ า : *กรมอาชีวศึกษา, 2537 และ **คณาจารยม์ หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, 2532
98 3.2 อปุ กรณ์ในการกก การกกคือการใหค้ วามอบอุ่นแก่สัตว์ ลูกสัตวเ์ ล็ก ๆ ท่ียงั ไม่แข็งแรงมีความจาเป็ นอยา่ งยิ่ง ที่ตอ้ งใหค้ วามอบอุน่ โดยเฉพาะสตั วป์ ี กและสุกร วธิ ีการกกท่ีนิยมใชใ้ นปัจจุบนั มีดงั น้ี 3.2.1 ใช้กระแสไฟฟ้ า อาจใชห้ ลอดไฟขนาด 60-100 วตั ต์ หรือใชข้ ดลวดไฟฟ้ า อุปกรณ์หาซ้ือไดง้ ่าย ราคา ถูก แต่สิ้นเปลืองไฟมากคิดรวมแลว้ ตน้ ทุนจะสูง 3.2.2 ใช้แก๊ส อุปกรณ์ที่ใชซ้ ้ือหาไดย้ าก ราคาเร่ิมตน้ ค่อนขา้ งสูงแต่เม่ือรวมแลว้ ตน้ ทุนจะต่ากวา่ ใช้ กระแสไฟฟ้ า การกกท้งั สองวิธีส่วนใหญ่จะใชอ้ ุปกรณ์ที่มีฝาหรือกระโจมครอบเพื่อใหค้ วามร้อน ตกลงมายงั บริเวณที่ตอ้ งการ สาหรับเกษตรกรรายย่อยไม่สะดวกในการใช้อุปกรณ์ท้งั สองชนิด ตามท่ีกล่าวมาแลว้ อาจจะใชต้ ะเกียงหรือเตาถ่านก็ได้ ภาพที่ 5.5 แสดงอุปกรณ์กกไก่แบบใชห้ ลอดไฟฟ้ า ทมี่ า : จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 3.3 อปุ กรณ์ในการผสมอาหาร อุปกรณ์กลุ่มน้ีประกอบดว้ ยตาชง่ั เครื่องบดอาหาร พลว่ั และเครื่องผสมอาหาร อุปกรณ์ ผสมอาหารควรมีที่เก็บต่างหากเพ่ือสะดวกในการผสมทาให้อาหารที่ได้สะอาดมีคุณ ภาพและ สะดวกในการท่ีจะนาไปเล้ียงสตั ว์
99 ภาพที่ 5.6 แสดงเคร่ืองผสมอาหารสตั วแ์ บบแกนต้งั ทม่ี า : จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 3.4 อปุ กรณ์ในการตอนสัตว์ อุปกรณ์ในการตอนสตั วจ์ ะมีขนาดและความแตกต่างกนั ตามชนิดและจุดประสงคใ์ นการ ตอน อุปกรณ์ในการตอนสัตวท์ ี่นิยมใช้ พอจะจาแนกไดต้ ามชนิดของสตั ว์ ดงั น้ี 3.4.1 อุปกรณ์ในการตอนไก่ อุปกรณ์หรือเครื่องมือตอนไก่มี 2 แบบ คือแบบผา่ ขา้ งและแบบฝังฮอร์โมน แบบผา่ ขา้ งประกอบดว้ ย คนั ธนู ตะขอเกี่ยวปี กและขา มีดผา่ ตดั คีมถ่างแผล ห่วงเก่ียวเมด็ อณั ฑะ ช้อนตกั เมด็ อณั ฑะและยาฆ่าเช้ือ ส่วนแบบฝังฮอร์โมนประกอบดว้ ยเขม็ ฝังฮอร์โมน และฮอร์โมน 3.4.2 อปุ กรณ์ในการตอนสุกร สุกรนิยมตอนโดยผ่าถุงอณั ฑะเพ่ือเอาเม็ดอณั ฑะออก อุปกรณ์ท่ีจาเป็ นต้องใช้ ประกอบดว้ ย โต๊ะตอน มีดผ่าตดั คีมหนีบเส้นเลือด ด้ายผูกเส้นเลือด ยาฆ่าเช้ือ และยาโรยแผล ป้ องกนั แมลง แตถ่ า้ เป็นสุกรพอ่ พนั ธุ์นิยมตอนโดยใชค้ ีมตอนเช่นเดียวกบั การตอนโค
100 3.4.3 อปุ กรณ์ในการตอนโค-กระบือ การตอนโค-กระบือในปัจจุบันนิยมใช้คีมหนีบท่อนาน้าเช้ือให้ขาด อุปกรณ์ท่ี จาเป็นตอ้ งใชป้ ระกอบดว้ ย คีมตอน เชือกบงั คบั ยาฆา่ เช้ือและยาโรยแผลป้ องกนั แมลง ภาพท่ี 5.7 แสดงคีมตอนโค ทม่ี า : จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 3.5 อปุ กรณ์ในการทาเครื่องหมาย การท าเค รื่ องห ม ายมี ท้ ังแบ บ ชั่วคราวแล ะแบบ ถาวรการท าเครื่ องหม ายแต่ละวิธี จะ เหมาะสมกบั สัตวต์ ่างประเภท ต่างชนิด ต่างอายกุ นั โดยทว่ั ไปอุปกรณ์ในการทาเคร่ืองหมายที่นิยม มีดงั น้ี คือ 3.5.1 อุปกรณ์ทาเคร่ืองหมายบริเวณใบหู อุปกรณ์ทาเคร่ืองหมายบริเวณใบหูเช่น ชุดสักเบอร์หู กรรไกรตดั เบอร์หู และ ป้ ายติดเบอร์หู 3.5.2 อปุ กรณ์ทาเคร่ืองหมายบริเวณปี ก อุปกรณ์ทาเครื่องหมายบริเวณปี ก เช่น ป้ ายติดปี กไก่ 3.5.3 อุปกรณ์ทาเครื่องหมายบริเวณลาตัว อุปกรณ์ทาเครื่องหมายบริเวณลาตวั เช่น ชุดตีเบอร์ร้อน ชุดตีเบอร์เยน็ ท่ีตีไหล่สุกร และแท่งสีเขียนตวั สตั ว์ 3.5.4 อปุ กรณ์ทาเครื่องหมายในตาแหน่งอน่ื ๆ อุปกรณ์ทาเคร่ืองหมายในตาแหน่งอ่ืน ๆ เช่น ชุดตีเบอร์เขา และป้ ายโซ่คอ
101 **ชุดตดิ เบอร์หู *ชุดสักเบอร์หู สุกร **ชุดตเี บอร์ร้อน **ชุดตเี บอร์เยน็ *ชุดตดิ เบอร์หูพลาสตคิ ภาพที่ 5.8 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์ทาเครื่องหมายสัตว์ ทม่ี า : *จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 และ **กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
102 3.6 อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื และเวชภณั ฑ์รักษาสัตว์ เป็ นอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการรักษาสัตวแ์ ละให้วคั ซีนสัตว์ ประกอบดว้ ยปรอทวดั อุณหภูมิสัตว์ เทปประเมินน้าหนกั สัตว์ ที่กรอกยาสัตว์ เข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา ท่ีสอดยาเขา้ มดลูก หมอ้ ตม้ น้า ร้อน อุปกรณ์ผา่ ตดั เขม็ หยอดวคั ซีนไก่และเขม็ แทงปี กไก่เป็นตน้ **เทปประเมนิ นา้ หนกั สัตว์ *ทกี่ รอกยา สัตว์ **เขม็ แทงปี ก **เขม็ ฝังฮอร์โมน **เขม็ หยอดวคั ซีน ไก่ ไก่ ไก่ *กระบอกฉีดยาอตั โนมตั ิ ภาพท่ี 5.9 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์เคร่ืองมือและเวชภณั ฑร์ ักษาสัตว์ ทม่ี า : *จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 และ **กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
103 3.7 อปุ กรณ์ช่วยคลอดและจดั การหลงั คลอด ประกอบด้วยเคร่ืองมือตรวจการต้งั ทอ้ ง คีมดึงช่วยคลอด โซ่ช่วยคลอด คีมตดั หางสุกร และคีมตดั เข้ียวสุกรเป็นตน้ **เคร่ืองตรวจการเป็ นสัด *เคร่ืองตรวจการต้งั ท้อง **คมี ตดั หาง/สายสะดอื **คีมตดั เขีย้ วสกุ ร **โซ่ช่วยคลอด ภาพที่ 5.10 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์ช่วยคลอดและจดั การหลงั คลอด ทมี่ า : *จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 และ **กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
104 3.8 อปุ กรณ์ตดั แต่งรักษากบี เป็นอุปกรณ์ที่ใชต้ ดั แต่งรักษาใหก้ ีบอยใู่ นรูปทรงปกติ ประกอบดว้ ย คีมตดั กีบ มีดปาดกีบ ตะไบแต่งกีบ กรรไกรตดั แตง่ กีบและมีดตดั แตง่ กีบเป็นตน้ ภาพที่ 5.11 แสดงชุดอุปกรณ์แตง่ กีบสตั ว์ ทม่ี า : กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
105 3.9 อปุ กรณ์บังคบั สัตว์ เพ่ือสะดวกในการปฏิบตั ิต่อสัตว์ จะตอ้ งบงั คบั ใหส้ ัตวอ์ ยนู่ ่ิงพอท่ีจะปฏิบตั ิการต่าง ๆ ได้ อุปกรณ์กลุ่มน้ีประกอบดว้ ยคีมดึงจมูกโค ห่วงจมูกโค ขลุมโค ที่ถ่างปากโค กา้ นป้ องกนั โคเตะ ลวด มดั ปากสุกร ที่ไล่ตอ้ นสัตว์ ซองบงั คบั สตั ว์ เป็นตน้ **ทถี่ ่างปากโค **คมี ดงึ จมกู โค **ทไ่ี ล่ต้อนสัตว์ *ห่วงจมูกโค **ลวดมดั ปากสุกร *ซองบงั คบั สัตว์ ภาพที่ 5.12 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์บงั คบั สตั ว์ ทม่ี า : *จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 และ **กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
106 3.10 อปุ กรณ์ผสมเทยี ม อุปกรณ์ผสมเทียมประกอบดว้ ยเครื่องมือตรวจการเป็ นสัด ชุดรีดน้าเช้ือ ทอ่ ยางผสมเทียม สุกร ถงั เก็บน้าเช้ือแช่แขง็ ถงั ไนโตรเจนเหลว ปื นฉีดน้าเช้ือแช่แขง็ ถุงมือผสมเทียม เป็นตน้ 12 3 5 4 6 78 10 9 11 14 12 13 1 ปื นฉีดน้าเช้ือ 6 กรรไกรตดั หลอดน้าเช้ือ 11 โกลบเบด็ 2 กระบอกเก็บปื นฯ 7 แซนนิตารี ชีท 12 รองเทา้ บูท 3 พลาสติกชีท 13 ถงั สนาม 4 ถุงมือ 8 ผา้ กนั เป้ื อน 14 ถงั เก็บน้าเช้ือ 5 ปากคีบ 9 กระติกน้าร้อน 10 แคนิสเตอร์ ภาพที่ 5.13 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์ผสมเทียมโค ทม่ี า : สตั วแพทยส์ ภา, 2548
107 3.11 อปุ กรณ์อนื่ ๆ ทจ่ี าเป็ น 3.11.1 อปุ กรณ์อน่ื ๆ ทจ่ี าเป็ นในสัตว์ใหญ่ อุปกรณ์อ่ืน ๆ ที่จาเป็ นในสัตว์ใหญ่ เช่น เคร่ืองรีดนม ถังนม ชุดตรวจสอบ คุณภาพน้านม อุปกรณ์ทาลายเขา อุปกรณ์เจาะกระเพาะโค แท่งแม่เหล็กและอุปกรณ์ป้ อนแท่ง แม่เหล็ก และอุปกรณ์ถ่างช่องคลอดโคเป็นตน้ คมี ตดั เขา หลอดควกั เขา เคร่ืองสูญเขาไฟฟ้ า คมี ตดั เขา ภาพท่ี 5.14 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์ทาลายเขา ทม่ี า : กิสส์ มาร์เก็ตติง้ , มปป.
108 *เคร่ืองรีดนม *ถงั นม *แท่งแม่เหลก็ และอปุ กรณ์ป้ อนแท่งแม่เหลก็ **อุปกรณ์ถ่างช่องคลอดโค *อปุ กรณ์เจาะกระเพาะโค ภาพท่ี 5.15 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์อ่ืน ๆ ท่ีจาเป็นในสัตวใ์ หญ่ ทม่ี า : * จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 และ **กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
109 3.11.2 อปุ กรณ์อนื่ ๆ ทจี่ าเป็ นในสัตว์เลก็ อุปกรณ์อ่ืน ๆ ท่ีจาเป็ นในสัตว์เล็ก เช่น เคร่ืองวดั ความหนาไขมนั สันหลงั สุกร ซองคลอด และคอกอนุบาลสุกร เป็นตน้ ** เครื่องวดั ความหนาไขมนั สันหลงั สุกร *ซองคลอด *กรงอนุบาล ภาพท่ี 5.16 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จาเป็นในสัตวเ์ ล็ก ทม่ี า : * จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548 และ **กิสส์ มาร์เกต็ ติง้ , มปป.
110 3.11.3 อุปกรณ์อนื่ ๆ ทจ่ี าเป็ นในสัตว์ปี ก อุปกรณ์อื่น ๆ ท่ีจาเป็ นในสัตวป์ ี ก เช่น เครื่องฟักไข่ ที่ส่องไข่ แผงใส่ไข่ เครื่องตดั ปาก กรงตบั รังไข่ เป็นตน้ เครื่องตดั ปากไก่ กรงตบั ไก่ไข่ เคร่ืองถอนขนไก่ ภาพที่ 5.17 แสดงตวั อยา่ งอุปกรณ์อื่น ๆ ท่ีจาเป็นในสัตวป์ ี ก ทม่ี า : จดั ทาโดยผเู้ ขียน, 2548
111 3.11.4 อุปกรณ์ทั่วไปท่ีใช้ในฟาร์ม เช่น ส้อมโกยหญา้ พล่ัว สายยาง ไม้กวาดหยากไย่ ไมก้ วาด ผา้ กนั เป้ื อน และรองเทา้ บตู๊ เป็นตน้ อุปกรณ์ต่าง ๆ ตามท่ีกล่าวมาแล้วมีมากมายหลายชนิด จะต้องใช้ให้ถูกต้องและ เหมาะสมกบั ชนิดของสัตว์ เพราะอุปกรณ์บางชนิดสามารถใชร้ ่วมกนั ได้ แตบ่ างชนิดกจ็ ะใชเ้ ฉพาะ สัตว์ ไม่สามารถใช้ร่วมกนั กบั สัตวช์ นิดอื่นได้เลย และควรจดั เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ไวใ้ นสภาพที่ พร้อมจะใช้งานตลอดเวลา หม่ันดูแลรักษาและควรทาความสะอาดทันทีหลังใช้งานเสร็จ พร้อมเก็บเขา้ ท่ีเดิมเพื่อสะดวกในการใชง้ านคร้ังตอ่ ๆ ไป สรุป การเล้ียงสัตวต์ อ้ งสร้างโรงเรือนให้สัตวอ์ ยไู่ ดอ้ ยา่ งสบาย ปลอดภยั มีขนาดถูกตอ้ งตรงตาม ชนิด ประเภทของสัตวท์ ี่เล้ียง มีราคาถูก และตอ้ งเลือกอุปกรณ์ให้ถูกตอ้ ง เพียงพอตามชนิดและ ประเภทของสัตวน์ ้นั ๆ
112
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: