โปรแกรมตารางคาํ นวณ Microsoft Excel
คํานํ า รายงานเล่มน้ีจัดทาํ ข้ึนเพ่ือเป็นส่วนหน่ึงของวชิ า โปรแกรมตารางงาน เรียบเรยี งและจดั ทาํ ข้ึนโดยมเี น้ือหาเก่ียวกับเรื่อง การคํานวณตา่ งๆใน Microsoft Excel เพื่อให้ผู้ท่สี นใจท่ีจะศึ กษาหาข้อมูลในเร่ืองดงั กลา่ ว ไดศ้ ึ กษาหาความรูจ้ าก โครงงานเลม่ น้ีและได้ศึ กษาอย่างเข้าใจเพ่ือให้เป็นประโยชน์ในการเรียน ผจู้ ดั ทาํ หวังวา่ รายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์กบั ผู้อ่านหรอื นักเรยี น นักศึ กษา ท่ีกาํ ลังหาข้อมูลเก่ยี วกบั เรอ่ื งน้ีอยู่ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทํา ขออภยั มา ณ ท่นี ้ีดว้ ย
สารบญั หน้ า 4 ความหมายของ Microsoft Excel 5-6 ส่วนประกอบของหน้าตา่ ง Microsoft Excel 2013 7-8 คุณสมบตั ขิ อง Microsoft Excel ฟังก์ชันการใช้งานตา่ งๆ 9-28
Microsoft Excel เป็นโปรแกรมประเภท สเปรดชีต (spreadsheet) หรือตารางคํานวณอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ท่ใี ช้เก็บบนั ทกึ ข้อมลู ในลกั ษณะตา่ งๆ ซ่ึงส่วนใหญ่มักเกบ็ ข้อมลู ประเภทการคํานวณ โดยจะเกบ็ ข้อมูลลงในตารางส่ีเหล่ยี มท่ีเรยี กว่า เซล (Cell)ท่สี ามารถนําเอาเซลมาอา้ ง องิ ใส่ในสตู ร เพื่อให้โปรแกรมคํานวณหาผลลัพธจ์ ากข้อมูลท่บี ันทกึ ไว้ได้ เป็น โปรแกรมหน่ึง ท่ีอย่ใู นชุด Microsoft Office มีจุดเด่นในดา้ น การคํานวณเก่ยี วกบั ตวั เลข ไฟล์ของ Excel เปรยี บเสมือนเอกสารหนังสือ 1 เล่ม ท่ปี ระกอบไปด้วยหน้า หลาย ๆ หน้า เรียกว่าสมุดงาน (Workbook) โดยในแตล่ ะหน้าเรียกว่า แผน่ งาน (Worksheet) ในแตล่ ะแผน่ งานจะแบ่งออกเป็นตาราง ซ่ึงประกอบไปด้วย ช่อง ตารางซ่ึงเป็นส่วนท่ีตดั กันของแถวและคอลัมน์เรยี กวา่ เซลล์(Cell) ในแผน่ งานหน่ึง ๆ จะมีแถวทงั้ หมด 1,048,576 แถว และ 16,384 คอลัมน์ โดยใช้ช่ือคอลมั น์เป็นตวั อกั ษรภาษาอังกฤษ ตงั้ แต่ A จนถึง Z และ ตอ่ ด้วยAA จนถึง AZ, BA จนถึง BZ ไป จนถึง XFD
ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม Microsoft Excel 2013 1. แถบชื่อเรอื่ ง (Title Bar) = เป็นส่วนท่ใี ช้แสดงชื่อโปรแกรม และรายช่ือไฟลท์ ่ไี ด้ เปิดใช้งาน 2. แถบเคร่ืองมือดว่ น (Quick Access) = เป็นส่วนท่ีใช้ในการแสดงคําสั่งท่ใี ช้งาน บ่อย 3. ป่มุ ควบคุม = เป็นส่วนท่ีใช้ควบคุมการเปิด หรือปิดหน้าตา่ งโปรแกรม 4. ริบบอน (Ribbon) = เป็นส่วนท่ีใช้แสดงรายการคําสั่งตา่ ง ๆ ท่ใี ช้ในการทํางาน กบั เอกสาร 5. Name Box = เป็นช่องท่ใี ช้แสดงช่ือเซลล์ท่ใี ช้งานอยใู่ นขณะนั้น เช่น ถ้ามีการใช้ งานข้อมูลในเซลล์ A1 รายชื่อเซลลน์ ้ีก็จะไปแสดงอย่ใู นช่อง Name Box 6. แถบสูตร (Formula Bar) = เป็นช่องท่ใี ช้แสดงการใช้งานสตู รการคํานวณตา่ ง ๆ
7. เซลล์ (Cell) = เป็นช่องตารางท่ใี ช้สําหรับบรรจขุ ้อมลู ตา่ ง ๆ ซ่ึงช่องเซลลแ์ ตล่ ะ ช่องนั้นจะมีชื่อเรยี กตามตาํ แหน่งแถว และคอลมั น์ ท่ีแสดงตาํ แหน่งของเซลล์ เช่น เซลล์ B1 จะอยใู่ น คอลมั น์ B ในแถวท่ี 1 เป็นตน้ 8. คอลัมน์ (Column) = เป็นช่องเซลลท์ ่เี รียงกันในแนวตงั้ ของแผน่ งาน (Worksheet) 9. แถว (Row) = เป็นช่องเซลลท์ ่เี รียงกนั ในแนวนอนของแผ่นงาน 10. Sheet Tab = เป็นแถบท่ีใช้แสดงจาํ นวนแผ่นงานท่เี ปิดข้ึนมาใช้งาน 11. แถบสถานะ (Status Bar) = เป็นส่วนท่ใี ช้แสดงจํานวนหน้ากระดาษ และ จํานวนตวั อกั ษรท่ีใช้ในเอกสาร
คุณสมบตั ขิ องโปรแกรม Microsoft Excel 1. สร้างและแสดงรายงานของข้อมูล ตวั อกั ษร และตวั เลข โดยมคี วามสามารถใน การ จดั รูปแบบให้สวยงามน่าอา่ น เช่น การกาํ หนดสีพ้ืน การใส่แรเงา การกาํ หนด ลกั ษณะและสีของ เส้นตาราง การจดั วางตาํ แหน่งของตวั อกั ษร การกาํ หนดรูปแบบ และสีตวั อักษร เป็นตน้ 2. อาํ นวยความสะดวกในดา้ นการคํานวณตา่ ง ๆ เช่น การบวก ลบ คูณ หารตวั เลข และยังมีฟังกช์ ั่นท่ีใช้ในการคํานวณอีกมากมาย เข่น การหาผลรวมของตวั เลข จํานวนมาก การหา ค่าทางสถิตแิ ละการเงิน การหาผลลพั ธข์ องโจทยท์ าง คณิตศาสตร์ เป็นตน้ 3. สร้างแผนภมู ิ (Chart) ในรูปแบบตา่ ง ๆ เพื่อใช้ในการแสดงและการเปรียบเทยี บ ข้อมูลไดห้ ลายรูปแบบ เช่น แผนภมู ิคอลัมน์ แผนภมู เิ ส้น แผนภมู วิ งกลม ฯลฯ
4. มรี ะบบขอความช่วยเหลอื (Help) ท่ีจะคอยช่วยให้คําแนะนํา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทํางานไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว เช่น หากเกิดปัญหาเก่ยี วกับการใช้งาน โปรแกรม หรือสงสัย เก่ียวกบั วิธีการใช้งาน แทนท่ีจะตอ้ งเปิดหาในหนังสือคู่มอื การใช้งานของโปรแกรม ก็สามารถขอ ความช่วยเหลือจากโปรแกรมไดท้ นั ที 5. มีความสามารถในการค้นหาและแทนท่ขี ้อมูล โดยโปรแกรมจะตอ้ งมี ความ สามารถในการค้นหาและแทนท่ีข้อมูล เพื่อทาํ การแกไ้ ขหรือทาํ การแทนท่ีข้อมลู ได้ สะดวก และรวดเร็ว
ฟังกช์ ันการใช้งาน 1. SUM (การหาผลรวมของข้อมลู ) รู ปแบบ =SUM(Number1,Number2,...) Number เป็นกลมุ่ ของข้อมูลท่ตี อ้ งการหาผลรวมซ่ึงสามารถจะใส่ได้มากกวา่ 1 กลมุ่ โดยใช้ เครือ่ งหมาย , คั่นกลางระหว่างแตล่ ะกลมุ่ ข้อมูล เช่น ให้หาผลรวม ตงั้ แตเ่ ซลล์ A1 ถึงเซลล์ A10 =SUM(A1:A10)
2.SUMIF (การหาผลรวมแบบมเี ง่ือนไข) รู ปแบบ =SUMIF(Range,Criteria,Sum_range) Range ขอบเขตของข้อมูลท่ตี อ้ งการ Criteria เงือ่ นไขท่กี ําหนดให้คํานวณหาผลรวม Sum_range ช่วงของเซลล์ท่ตี รวจขสอบตามเงอ่ื นไขเพื่อนํามาคํานวณ เช่น ให้หาผลรวมเฉพาะเส้ือสีฟ้าโดยเซลล์ท่อี า้ งคือเซลล์ B1 ถึงเซลล์ B12 และให้อา้ งเซลลร์ าคาของเส้ือสีฟ้าท่ีเซลล์ C1 ถึงเซลล์ C12 =SUMIF(B1:B12,”เส้ื อฟ้า”,C1:C12)
3.MIN (การหาค่าตาสดุ ของจํานวน) รู ปแบบ =MIN(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมลู ท่ตี อ้ งการหาค่าตาาสุด เช่น ให้หาค่าตาสุดของเซลล์ B3 ถึงเซลล์ B12 =MIN(B3:B12)
ตวั อย่าง ให้หาคะแนนท่ีมคี ่าน้อยท่สี ุด โดยปฏบิ ตั ติ ามขั้นตอนดงั น้ี 1. คลิกเลอื กเซลลท์ ่ีตอ้ งการจะใส่สูตรและพิมพ์เคร่ืองหมาย = ตามด้วยฟังก์ชัน MIN และตามดว้ ยช่วงของกลมุ่ เซลลท์ ่ีตอ้ งการคํานวณคือ (C2:C6) 2. กดปุ่ม Enter
4. MAX (การหาค่าสูงสุดของจาํ นวน) รู ปแบบ =MAX(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมลู ท่ีตอ้ งการหาค่าสงู สุด เช่น ให้ค่าสงู สดุ ของ เซลล์ B2 ถึงเซลล์ F2 =MAX(B2:F2)
5. AVERAGE (การหาค่าเฉล่ียของข้อมูล) รู ปแบบ =AVERAGE(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมลู ท่ตี อ้ งการหาค่าเฉล่ยี เช่น ให้ค่าเฉล่ียของเซลล์ F1 ถึงเซลล์ F8 =AVERAGE(F1:F8)
6. COUNT (การนับจาํ นวนข้อมลู ท่ีเป็นเฉพาะตวั เลข) รู ปแบบ =COUNT(Value1,Value2,...) Value ช่วงของกล่มุ เซลล์ท่ีนํามาใช้ในการนับจํานวน เช่น ให้นับ จํานวนรหัสนักเรียนวา่ มีก่คี น โดยอา้ งท่ีเซลล์ C2 ถึงเซลล์ C10 =COUNT(C2:C10)
7. COUNTA (การนับจาํ นวนข้อมูลท่เี ป็นทงั้ ข้อความและตวั เลขปนกนั ) รู ปแบบ =COUNTA(Value1,Value2,...) Value ช่วงของกล่มุ เซลล์ท่ีนํามาใช้ในการนับจํานวน เช่น ให้นับ รหัสของสินค้าวา่ มจี ํานวนเท่าใด โดยอ้างท่เี ซลล์ A3 ถึงเซลล์ A20 =COUNTA(A3:A20)
8. COUNTIF (การนับจาํ นวนข้อมลู แบบมเี งอ่ื นไข) รู ปแบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ช่วงของเซลลท์ ่ีตอ้ งการนับตามเงอ่ื นไข Criteria เงือ่ นไขท่ใี ช้ตรวจสอบและนับจาํ นวนของเซลล์ เช่น ให้นับเฉพาะ นักเรยี นท่ผี า่ นกิจกรรม โดยอา้ งอิงท่ีเซลล์ G2 ถึงเซลล์ G40 =COUNTIF(G2:G40,”ผ่าน”)
9. VAR (การหาค่าความแปรปรวน) รู ปแบบ =VAR(Number1,Number2,...) Number เป็นกลมุ่ ของข้อมลู ท่ตี อ้ งการหาค่าแปรปรวน เช่น ให้หาค่าความ แปรปรวนท่เี ซลล์ C1 ถึงเซลล์ C16 =VAR(C1:C16)
10. STDEV (การหาค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน) รู ปแบบ =STDEV(Number1,Number2,...) Number เป็นกล่มุ ของข้อมลู ท่ีตอ้ งการหาค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน เช่น ให้หา ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานท่ีเซลล์ B1 ถึงเซลล์ B8 =STDEV(B1:B8)
11. MEDIAN (การหาค่ากลาง) รู ปแบบ =MEDIAN(Number1,Number2,...) Number เป็นกลมุ่ ของข้อมลู ท่ีตอ้ งการหาค่ากลาง เช่น ให้หาค่ากลางท่เี ซลล์ G4 ถึงเซลล์ G9 =MEDIAN(G4:G9)
12. ROUND (การปัดจดุ ทศนิยมข้ึนหรอื ลง) รู ปแบบ =ROUND(Number1,Num_digits) Number เป็นกลมุ่ ของข้อมลู ท่ตี อ้ งการกําหนดปัดจุดทศนิยม Num_digits จํานวนหลกั ของทศนิยม เช่น ให้กําหนดทศนิยมเป็น 0 ท่เี ซลล์ C3 ถึงเซลล์ C6 =ROUND(C3:C6,0)
13. IF (การหาค่าจริงหรือเท็จจากเง่ือนไขท่รี ะบ)ุ รู ปแบบ =IF(Logical,Value_if_ture,Value_if_false) Logical เง่อื นไขท่ีใช้ในการเปรยี บเทยี บหรอื ตรวจสอบข้อมูล Value_if_ture ค่าของเงอ่ื นไขท่ีถูกตอ้ ง (จริง) Value_if_false ค่าของเงื่อนไขท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง (เท็จ) เช่น ถ้าท่เี ซลล์ B2 มากกว่าหรือเท่ากบั 60 ให้แสดงผา่ น ถ้าท่ีเซลล์ B2 น้อย กว่า 60 ให้เเสดงไมผ่ ่าน =IF(F2>=60,”ผ่าน”,”ไมผ่ ่าน”)
14. DATE (การระบขุ ้อมูลท่เี ป็นวันท่)ี รู ปแบบ =DATE(Year,Month,Day) Year ใส่ค่า ค.ศ. Month ใส่ค่าเดอื น Day ใส่ค่าวันท่ี เช่น =DATE(2010,06,11)ผลลพั ธ์ 11มถิ ุนายน2010
15.DATEDIF (การระบเุ งอื่ นไขในการหาข้อมลู ท่ีเป็นวนั ท่)ี รู ปแบบ =DATEDIF(ระบเุ งื่อนไข) เช่น การหาอายุ =DATEDIF(F2,TODAY(),”Y”)&”ปี”&DATEDIF(F2,TODAY(),” YM”)&”เดือน หากผ้ใู ช้พิมพ์ข้อมลู ท่ชี ่อง F2 คือ 5/12/1985 ผลลัพธ์ คือ อายุ 24 ปี 4 เดอื น
ตวั อยา่ ง ให้หาอายุ โดยปฏิบตั ติ ามขั้นตอนดังน้ี 1. คลกิ เลือกเซลล์ท่ตี อ้ งการจะใส่สตู รและพิมพ์เครอ่ื งหมาย = ตามดว้ ยฟังกช์ ัน DATEDIF และตามดว้ ยช่วงของกล่มุ เซลล์ท่ตี อ้ งการคํานวณคือ (C2,TODAY(),”Y”)&”ปี”&DATEDIF(C2,TODAY(),”YM”)&”เดือน 2. กดปุ่ม Enter
16. NOW (การหาวันท่ีเเละเวลาปัจจุบัน) รู ปแบบ =NOW() เช่น =NOW()ผลลัพธ์ 7/11/2015 14:24
17. HOUR (การหาชั่วโมง) รู ปแบบ =HOUR(Serial_number) Serial_number ค่าของตวั เลขหรอื ข้อความท่อี ย่ใู นรูปแบบของเวลา เช่น ท่ีเซลล์ A5 คือ 8:32 น. ให้หาชั่วโมง =HOUR(A5)ผลลัพธ์8
18. VLOOKUP (การค้นหาและแสดงข้อมูล) รู ปแบบ =VLOOKUP(Lookup_value,Table_array,Col_index_num,Range_lookup) Lookup_value ค่าท่ีใช้ในการค้นหา Table_array ตารางข้อมูลท่ีใช้สํ าหรับแสดงผลและค้นหาข้อมลู Col_index_num คอลัมน์ท่ีตอ้ งการข้อมลู โดยคอลมั น์แรกมคี ่าเป็น 1 และ คอลมั น์ตอ่ ไปจะเป็น 2,3,...ตามลาํ ดบั Range_lookup ค่าทางตรรกะท่กี ําหนดในการค้นหามี 2 รูปแบบ False ใช้ค้นหาค่าท่ตี รงกับค่าท่ีใช้ในการค้นหา True ใชเค้นหาค่าท่ีใกลเ้ คียงท่ีสดุ ท่นี ้อยกวา่ ค่าในการค้นหา
ประวตั สิ ่วนตวั ช่ือ : นส.ปพิชญา วงษ์บญุ มี ศึ กษาท่ี : วิทยาลยั เทคนิคปทมุ ธานี ชั้น ปวช.1/2 แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกจิ รหัสนักศึ กษา : 62202040070 วันเกดิ : 26 ธนั วาคม 46 อายุ : 16 ปี
อาจารยผ์ สู้ อน วิชาโปรแกรมตารางคํานวณ (2204-2103) ช่ือ รัตนภรณ์ จนั ทะวงศ์ (อาจารย์ฟ้า) วิทยาลัยเทคนิ คปทุมธานี
79 หมู่5 ต.บา้ นกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี วทิ ยาลัยเทคนิคปทมุ ธานี (Pathumthani Technical College) แผนกคอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ Bussiness Computer
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: