พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง
สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ (พระนามเดมิ : หม่อมราชวงศส์ ริ กิ ติ ิ์ กติ ยิ ากร ; พระราชสมภพ 12 สงิ หาคม พ.ศ. 2475) เป็นสมเดจ็ พระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เป็นสมเดจ็ พระบรมราชชนนีพนั ปีในสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพ ยวรางกรู และโดยพระชนมายจุ งึ นบั เป็นพระกลุ เชษฐพ์ ระองคป์ ัจจบุ นั ในพระบรมราชจกั รวี งศ์ เน่ืองจากสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชินี เป็นผสู้ าเรจ็ ราชการแทนพระองคข์ ณะท่ีพระราช สวา มีเสด็จออกผนวช ระหวา่ งวนั ท่ี 22 ตลุ าคม พ.ศ. 2499 - 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 พระองคจ์ งึ ไดร้ บั การสถาปนาขึน้ เป็น สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ เม่ือวนั ท่ี 5 ธนั วาคม พ.ศ. 2499 ปี เดียวกนั นน้ั ถือเป็นสมเดจ็ พระบรมราชินีนาถพระองคท์ ่ีสองของกรุงรตั นโกสนิ ทรต์ อ่ จากสมเดจ็ พระนางเจา้ เสาวภาผ่องศรี พระบรมราชนิ ีนาถในรชั กาลท่ี5 (ภายหลงั คือ สมเด็จพระศรพี ชั รนิ ทราบรมราชินีนาถ พระ บรมราชชนนีพนั ปีหลวง) สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ เป็นพระธิดาพระองคใ์ หญ่ของหมอ่ มเจา้ นกั ขตั รมงคล กติ ิยากร (ภายหลงั เป็นพระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ นกั ขตั รมงคล กรมหม่ืนจนั ทบรุ สี รุ นาถ) ประสตู แิ ต่ หม่อมหลวงบวั กติ ิยากร สกลุ เดิม: สนิทวงศ)์ เม่ือวนั ศกุ รท์ ่ี 12 สงิ หาคม พ.ศ. 2475 ณ บา้ นของพลเอก เจา้ พระยาวงษานปุ ระพทั ธ์ (หม่อมราชวงศส์ ทา้ น สนิทวงศ)์ บา้ นเลขท่ี 1808 ถนนพระรามท่ี 6 ตาบลวงั ใหม่ อาเภอปทมุ วนั จงั หวดั พระนคร อนั เป็นบา้ นของพระอยั กาฝ่ายพระมารดา มีพระเชษฐา 2 พระองคค์ ือ หมอ่ มราชวงศก์ ลั ยาณกิตแิ์ ละหม่อมราชวงศอ์ ดลุ กติ ิ์ และมีพระกนิษฐาพระองคห์ น่งึ คือหมอ่ มราชวงศบ์ ษุ บา กิติยากร สาหรบั พระนาม \"สริ กิ ิต\"ิ์ ไดร้ บั พระราชทานจากพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู วั มี ความหมายวา่ \"ผเู้ ป็นศรแี ห่งกติ ิยากร\" เรยี กโดยลาลองวา่ \"คณุ หญิงสริ \"ิ สว่ นพระราชสวามีจะทรงเรยี กวา่ \"แม่สริ \"ิ เม่ือหมอ่ มราชวงศส์ ริ กิ ติ ิม์ ีอายรุ าว 2 ปี ขณะท่ีพ่ีเลยี้ งอมุ้ อยนู่ นั้ ก็มีแขกเลยี้ งววั เขา้ มาทานายทาย ทกั วา่ เดก็ ผหู้ ญิงคนนีจ้ ะมีบญุ วาสนาไดเ้ ป็นราชินีในอนาคต ดงั ท่ีทา่ นผหู้ ญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยธุ ยา ได้ เลา่ ไว้ ความวา่
การศึกษา พ.ศ. 2479 เม่ือหม่อมราชวงศห์ ญิงสิริกติ ิ์ ทรงมอี ายุได้ 4 ชันษา กไ็ ด้เข้ารับ การศกึ ษาครัง้ แรกในชัน้ อนุบาลทโ่ี รงเรียนราชินี ทว่าในขณะนั้น แม้เหตุการณด์ ้าน การเมืองภายในประเทศไทยจะสงบลง แต่สถานการณร์ ะหว่างประเทศกไ็ ม่สงบ กล่าวคือ สงครามมหาเอเชยี บรู พาเรมิ่ แผ่ขยายมาถงึ ประเทศไทย กรุงเทพมหานครถูก โจมตที างอากาศหลายครั้งจนการคมนาคมไม่สะดวก พระบดิ าจงึ ใหห้ ม่อมราชวงศ์ สริ ิกติ ยิ์ ้ายไปเรียนทโี่ รงเรียนเซนตฟ์ รังซสี ซาเวียรค์ อนแวนต์ เพราะอยู่ใกล้วังพระบดิ า ไดเ้ รียนทน่ี ่ันตงั้ แตช่ ั้นประถมศึกษาปี ท่ี 2 จนถงึ ชัน้ มัธยมศึกษา หม่อมราชวงศห์ ญงิ สิริกติ ไิ์ ด้เร่ิมเรียนเปี ยโน ซงึ่ เรยี นไดด้ แี ละเร็วเป็ นพเิ ศษ นอกจากนีย้ ังได้ศึกษา ภาษาอังกฤษและภาษาฝร่ังเศสซง่ึ ทรงสันทดั เช่นกัน พ.ศ. 2489 ครัน้ เม่ือสงครามโลกครัง้ ทส่ี องสงบลง หม่อมเจ้านักขัตรมงคล ตอ้ งเสดจ็ ไปดารงตาแหน่งอัครราชทตู ผู้มอี านาจเตม็ ประจาสานักเซนตเ์ จมส์ ประเทศ อังกฤษ ทงั้ นีโ้ ดยไดท้ รงพาครอบครัวทงั้ หมดไปอยูด่ ว้ ย ในเวลานั้นหม่อมราชวงศห์ ญิง สริ ิกติ ิ์ มีอายุได้ 13 ปี เศษ และเรยี นจบชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 3 แล้ว ขณะทอ่ี ยใู่ นประเทศอังกฤษ หม่อมราชวงศห์ ญงิ สริ ิกติ ไิ์ ด้ศกึ ษาต่อทงั้ วิชา ภาษาอังกฤษและฝร่ังเศส และวิชาเปี ยโนกับครูพเิ ศษ หลังจากนั้นไม่นาน พระบดิ า ยา้ ยไปประเทศเดนมารก์ และฝร่ังเศสตามลาดับ ขณะทห่ี ม่อมราชวงศส์ ิรกิ ติ กิ์ ย็ งั คง เรยี นเปี ยโนและตัง้ ใจจะศกึ ษาต่อในวิทยาลัยการดนตรที มี่ ีชอื่ เสียงของกรุงปารสี จนจบ ระหว่างทอ่ี ย่ใู นประเทศฝร่ังเศส หม่อมราชวงศห์ ญิงสริ กิ ติ ไิ์ ดม้ ีโอกาสรับเสดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช (ขณะนั้นทรงศึกษาต่อทป่ี ระเทศ สวิตเซอรแ์ ลนดห์ ลังจากเสดจ็ ขนึ้ ครองราชย)์ ซงึ่ พระองคเ์ สดจ็ ประพาสกรุงปารีสเพอื่ ทอดพระเนตรโรงงานทารถยนต์ ทงั้ นีเ้ นื่องจากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ฯ โปรด การดนตรเี ป็ นพเิ ศษ ขณะทห่ี ม่อมราชวงศห์ ญิงสิรกิ ติ กิ์ ส็ นใจศิลปะเช่นกนั ทาใหเ้ กดิ ความสัมพนั ธข์ นึ้
พระราชกรณียกิจดา้ นการสาธารณสุข ในด้านการสาธารณสุข นอกจากทรงช่วยเหลือผู้ทไ่ี ด้รับความเดอื ดร้อน โดย จัด “หน่วยแพทยพ์ ระราชทาน” ตามเสดจ็ ไปรักษาพยาบาลราษฎรในถนิ่ ทรุ กันดาร แล้ว ยังทรงช่วยเหลือกลุ่มผู้ประสบภัยธรรมชาติ ทรงช่วยเหลือทหาร ตารวจ และ ราษฎรอาสาสมัครตามชายแดน ทรงรเิ ริม่ จัดตัง้ มูลนิธิสายใจไทยในพระบรม ราชูปถมั ภ์ ในกรณีทที่ รงพบราษฎรเจบ็ ป่ วยกจ็ ะทรงรับไว้เป็ นคนไข้ในพระบรมราชานุ เคราะห์ ทรงอุปถัมภอ์ งคก์ รการกศุ ล สมาคม มูลนิธิตา่ งๆ เป็ นจานวนมาก ปลายปี พ.ศ. ๒๔๙๘ สมเดจ็ พระพันวัสสาอัยยกิ าเจ้าเสดจ็ สวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ได้ทรงแตง่ ตงั้ สมเดจ็ พระบรมราชนิ ี ใหท้ รงดารง ตาแหน่งสภานายกิ าสภากาชาดไทยแทน เมื่อวันท่ี ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถไดท้ รงปฏบิ ตั พิ ระราชภารกจิ ด้านนีอ้ ย่างเตม็ ที่ กจิ การของสภากาชาดไทยเจริญกา้ วหน้า ไดร้ ับความร่วมมอื จากตา่ งประเทศและจาก ประชาชนไทยทกุ ชั้นเป็ นอย่างดตี วั อยา่ งทเ่ี หน็ ได้ชัดคือ การบริจาคโลหติ ซงึ่ จะมี ประชาชนบรจิ าคโลหติ ถวายเป็ นพระราชกศุ ลเน่ืองในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพระราชสมภพ และวันประสูตขิ องพระบรมวงศม์ ากเป็ นพเิ ศษ สร้างความประทับใจ แก่วงการกาชาดท่วั โลกเป็ นอย่างยง่ิ สมเดจ็ พระบรมราชนิ ีนาถทรงบาเพญ็ พระราชกศุ ลด้านการสังคมสงเคราะห์ ตลอดเวลาพระองคโ์ ดยเสดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ไปทกุ หนทกุ แหง่ ไม่ว่าจะ เป็ นทอ้ งถน่ิ ทรุ กันดารเพยี งใด ทาใหท้ รงทราบถงึ ปัญหาทกุ ขส์ ุขตา่ งๆ ของราษฎร และ วิธีดาเนินการแก้ไข ไดท้ รงบาเพญ็ พระราชภารกจิ นีอ้ ยา่ งกว้างขวาง ทรงช่วยเหลอื ราษฎรทเี่ จบ็ ไข้ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการรักษาแก่ราษฎรเป็ น จานวนปี ละหลายพนั คน โดยทรงใช้จา่ ยจากพระราชทรัพยส์ ่วนพระองค์ มพี ระราช เสาวณียใ์ หน้ างสนองพระโอษฐ์ และเจ้าหน้าทก่ี องราชเลขานุการในพระองคส์ มเดจ็ พระบรมราชนิ ีนาถ ตลอดจนอาสาสมัครทมี่ าร่วมปฏบิ ตั งิ านถวายช่วยกนั ดูแลราษฎรท่ี เจบ็ ป่ วยนีอ้ ยา่ งใกล้ชดิ และใหป้ ฏบิ ตั ติ ่อราษฎรทป่ี ่ วยไข้เสมอื นญาติ
พระราชกรณยี กจิ ด้านการศึกษา พระราชกรณียกจิ สาคัญประการต่อมา ทรงเป็ นผู้วางรากฐานการศกึ ษา ทรง ส่งเสริมด้านการศึกษา ดว้ ยทรงมวี สิ ัยทศั นอ์ ันกว้างไกลมาตัง้ แต่ครัง้ ทรงพระเยาว์ มี พระราชดารัสเกย่ี วกับการศึกษาอยู่เนืองๆ ทรงตระหนักถงึ ความสาคัญว่า ผลของ การศึกษาในวันนีจ้ ะเป็ นตวั กาหนดอนาคต พระราชทานทนุ การศกึ ษา และส่งเสริมการ พัฒนาความรู้ในดา้ นต่างๆ ทรงมีกระแสพระราชดารัส ด้วยความหว่ งใยในการเรียนรู้ ประวัตศิ าสตรไ์ ทยของนักเรยี น นิสิตนักศึกษา ว่าการศกึ ษาประวัตศิ าสตรข์ องชาติ เดก็ ไทยควรมคี วามรู้ เกยี่ วกบั ความเป็ นมาของประเทศชาติ ว่ามีวิวัฒนาการมาอย่าง ต่อเน่ือง และเปลย่ี นแปลงมาสู่ปัจจุบันได้อยา่ งไร นอกจากนีย้ งั ทรงพระกรุณาช่วยเหลือด้านการศกึ ษาแก่ราษฎรทม่ี บี ุตรมากและ ยากจนซง่ึ ทรงพบท่วั ไปในพระราชอาณาจักร ทรงหว่ งใยราษฎรตามชนบททขี่ าด การศกึ ษาเป็ นอยา่ งมาก และทรงมุ่งหวังทจี่ ะใหร้ าษฎรไทยเป็ นประชากรทมี่ ีคุณภาพ พงึ่ ตนเองได้ ตลอดจนไม่ถกู หลอกลวงโดยผู้ทม่ี ุ่งหวังเอารัดเอาเปรยี บผู้ทมี่ กี ารศึกษา น้อย ดงั นั้นเมอ่ื ได้มพี ระราชปฏสิ ันถารกับราษฎรและทรงทราบว่าครอบครัวใดมบี ตุ รท่ี ยงั อยู่ในวัยศกึ ษาเล่าเรียนแตค่ รอบครัวนั้นไม่สามารถส่งบตุ รใหศ้ กึ ษาต่อจากภาค บังคับได้ กจ็ ะพระราชทานทนุ การศึกษาแก่บุตรของครอบครัวนั้น ๑ คน โดยพจิ ารณา เดก็ ทมี่ คี วามสามารถพอจะศึกษาใหจ้ บอยา่ งน้อยหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งเป็ นเกณฑ์ เพอื่ ทจ่ี ะกลับมาเป็ นทพี่ งึ่ ของครอบครัวในการทามาเลีย้ งชพี และส่งเสียใหส้ มาชิก ครอบครัวรายอื่นๆได้รับการศกึ ษาต่อไป ซง่ึ พระองคไ์ ดพ้ ระราชทานทนุ การศึกษาแก่ เดก็ เหล่านีแ้ ล้วเป็ นจานวนหลายพันรายท่วั ประเทศ
ศิลปาชีพ สมเดจ็ พระบรมราชนิ ีนาถ ได้โดยเสดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ไปทรง เยยี่ มราษฎรครบทกุ ภาค ทงั้ ภาคกลาง อสี าน เหนือ และใต้ ทรงแบง่ เวลาเป็ นหลาย คราว และหลายปี ดว้ ยกันจนท่วั ทงั้ พระราชอาณาจกั ร ทาใหท้ รงเหน็ สภาพความ เป็ นอยูอ่ ันแทจ้ รงิ ของราษฎร ทรงรู้จกั คนไทยท่วั ทงั้ ประเทศดวี ่าภาคไหนมีอาชีพใด มี ทกุ ขส์ ุขอยา่ งไรบา้ งทราบถงึ ความตอ้ งการรายไดเ้ สรมิ เพอ่ื ใหพ้ อเพยี งต่อการยังชีพใน ปัจจุบัน และทรงสนใจงานฝี มือพนื้ บ้าน หรือในวัตถุดบิ พนื้ บา้ น อันจะนามาประกอบ เป็ นงานฝี มือได้ ดงั นั้น ทกุ ทอ้ งทซ่ี งึ่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ไดพ้ ระราชทาน พระราชดารเิ ป็ นโครงการอาชีพหลักทางดา้ นเกษตรกรรม สมเดจ็ พระบรมราชนิ ีนาถก็ จะพระราชทานอาชพี เสริม อันหมายถงึ งานหตั ถกรรมต่างๆไว้ควบคู่กันไปดว้ ย พระองคจ์ งึ ทรงจัดใหเ้ ปิ ดการฝึ กอบรมอาชพี ต่างๆ ตามความถนัดของราษฎร แตล่ ะภาคโดยเร่ิมจากการวมกลุ่มทอผ้าไหมมัดหม่ี ผ้าแพรวา ผ้าขิดขนึ้ ในภาคอีสาน ภาคเหนือส่งเสรมิ ใหป้ ลูกหม่อนเลยี้ งไหม การปักผ้า การทาเครอ่ื งเงนิ การทา เครอื่ งปั้นดนิ เผา การแกะสลักไม้ ภาคกลางใหม้ ีการอบรมทาดอกไม้ประดษิ ฐ์ การปั้น ตุ๊กตาชาววัง และการถนอมอาหาร ภาคใต้ ส่งเสรมิ ใหจ้ ักสานยา่ ลิเภา ใหม้ กี ารฟื้นฟู การทอผ้าลายดอกพกิ ุล ลายราชวัตร ลายดอกมะลิ ฯลฯ เมอ่ื ผลงานจากโครงการหตั ถกรรมตา่ งๆ เป็ นทที่ ราบกันกว้างขวางขนึ้ จงึ มีข้า ราชบริพารและผู้มจี ติ ศรัทธาทลู เกล้าฯ ถวายเงนิ โดยเสดจ็ พระราชกศุ ลเพอ่ื ทรงใช้จ่าย ในกจิ การเหล่านีแ้ ละไดข้ อพระราชทานพระมหากรุณาใหท้ รงก่อตงั้ มูลนิธิขึน้ ในทส่ี ุด กท็ รงพระกรุณาโปรดเกล้าฯกอ่ ตงั้ มูลนิธิขึน้ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ พระราชทานชอ่ื ว่า “มูลนิธิส่งเสรมิ ศิลปาชพี พเิ ศษในพระบรมราชนิ ูปถัมภ”์ ซง่ึ ต่อมาภายหลังได้ เปล่ยี นช่ือเป็ น “มูลนิธิส่งเสรมิ ศลิ ปาชีพในสมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ” และทรงรับเป็ นประธานกรรมการของมูลนิธิดว้ ยวัตถปุ ระสงค์ หลักของมูลนิธิกค็ อื เพอ่ื จดั หาอาชพี เสรมิ เพม่ิ รายไดใ้ หแ้ ก่ชาวนา ชาวไร่ กบั เพอื่ ธารง รักษาและสนับสนุนศิลปหตั ถกรรมไทยใหเ้ ป็ นทน่ี ิยมของคนท่วั ไป มูลนิธิส่งเสรมิ ศิลปาชพี ฯ ไดข้ ยายงานออกไปอย่างกว้างขวางมีสมาชิก มากมายกว่าแสนคน มศี ูนยศ์ ลิ ปาชีพใหญ่ ๘ ศูนย์ และมโี ครงการศิลปาชีพกระจายอยู่ ท่วั ประเทศนับร้อยๆโครงการ
ทรงเป็ นพทุ ธมามกะทดี่ ี ทรงเป็ นพุทธมามกะทดี่ ี และทรง สนับสนุนทศุ าสนาทอ่ี ย่ใู นประเทศไทย เพราะศาสนามีประโยชนต์ อ่ คนทุกผู้ เป็ น ทพี่ ง่ึ ทางใจ เป็ นบอ่ เกดิ ของจริยธรรม รวม ไปถงึ ศลิ ปวฒั นธรรม ทรงบาเพญ็ พระราช กุศลในวันสาคัญทางศาสนา ทรงปฏบิ ตั ิ ตามหลักธรรมาพรหมวหิ าร ๔ เมตตา กรุณา มุทติ า และอุเบกขา
บรรณานุกรม เรียนรู้วชิ า.com พระราชประวัตแิ ละพระราชกรณียกจิ พระราชประวัติ สมเดจ็ พระ นางเจา้ สิริกติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง สบื ค้น ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓ https://sites.google.com/site/aon753159/phra-rach-krniykic
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: