3 หน่วยที่ 1 ความสาคญั ของโภชนศาสตร์ ศัพท์เทคนิคทางโภชนศาสตร์สัตว์และความหมายจุดประสงค์การสอนจุดประสงค์ทว่ั ไป 1. ผเู้ รียนเขา้ ใจความสาคญั ของอาหารสตั ว์ 2. ผเู้ รียนทราบประโยชน์ของอาหารสัตว์ 3. ผเู้ รียนทราบความหมายของศพั ทเ์ ทคนิคทางอาหารสัตว์ 4. ผเู้ รียนมีคุณธรรม จริยธรรมท่ีพึงประสงค์จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. ผเู้ รียนบอกความสาคญั ของอาหารสตั วไ์ ด้ 2. ผเู้ รียนบอกประโยชน์ของอาหารสตั วไ์ ด้ 3. ผเู้ รียนอธิบายศพั ทเ์ ทคนิคทางอาหารสตั วไ์ ด้ 4. ผเู้ รียนมีความสนใจใฝ่ เรียน มีความรับผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา ทางานเป็นกลุ่มได้สาระสาคญั การเล้ียงสัตวใ์ นปัจจุบนั นบั เป็นอาชีพที่สาคญั ท้งั น้ีเพราะมีเกษตรกรผเู้ ล้ียงสัตวจ์ านวนมากที่ประสบผลสาเร็จในอาชีพน้ี การเล้ียงสัตวจ์ ะประสบผลสาเร็จไดต้ อ้ งอาศยั ความรู้ความสามารถหลาย ดา้ นเช่นดา้ นพนั ธุ์สัตว์ การจดั การเล้ียงดู การสุขาภิบาล การตลาดและอาหารสตั ว์ ในกรณีของอาหารสตั วน์ ้นันบั วา่ มีความสาคญั มาก เนื่องจากตน้ ทุนการเล้ียงสัตวส์ ่วนใหญจ่ ะเป็นค่าอาหารสัตว์ เช่น ค่าใชจ้ ่ายในการเล้ียงสุกรจะเป็นค่าอาหารถึง 80% การเล้ียงโคนม แล ะการเล้ียงไก่จะเป็นค่าอาหารประมาณ 50-60%ฉะน้นั ถา้ ผเู้ ล้ียงสตั วส์ ามารถลดค่าใชจ้ ่ายในดา้ นอาหารสตั วล์ งไดจ้ ะทาใหผ้ เู้ ล้ียงสัตวม์ ีกาไรเพ่ิมมากข้ึน
4เนือ้ หาสาระ ความหมายของโภชนศาสตร์สตั ว์ และคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ ง โภชนศาสตร์สัตว์ (Animal Nutrition) หมายถึง วชิ าที่ศึกษาเก่ียวกบั โภชนะหรือสารอาหารท่ีมีอยใู่ นอาหารสตั ว์ รวมถึงการเปล่ียนแปลงของสารดงั กล่าวในร่างกายสัตว์ จนกระทง่ั สามารถนาไปใช้ประโยชน์ โภชนศาสตร์จดั เป็นวทิ ยาศาสตร์ประยกุ ต์ โภชนะ (Nutrient) หมายถึง สารประกอบหรืออ งคป์ ระกอบที่มีอยใู่ นอาหารสัตวท์ ่ีเป็นประโยชน์ตอ่ ร่างกายสัตว์ ถูกจดั แบ่งออกเป็น 6 หมตู่ ามองคป์ ระกอบทางเคมีที่เหมือนกนั หรือมีหนา้ ท่ีต่อร่างกายสัตวค์ ลา้ ยคลึงกนั อาหารสัตว์ (Feed) หมายถึง วตั ถุใด ๆ ที่มีตามธรรมชาติ หรือถูกสร้างสังเคราะห์ข้ึนเพื่ อให้สตั วก์ ิน ร่างกายของสตั วส์ ามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ไดโ้ ดยปราศจากความเป็นพษิ อาหารหยาบ (Roughage) หมายถึง วตั ถุดิบอาหารสัตวท์ ่ีมีองคป์ ระกอบของสารเยอ่ื ใยอยมู่ ากเกินกวา่ 18 เปอร์เซ็นต์ อาหารข้น (Concentrate) หมายถึง วตั ถุดิบอาหารสตั วท์ ่ีมีโภชนะมากกวา่ หน่ึงชนิดข้ึนไปเป็นส่วนประกอบอยสู่ ูง มีสารเยอ่ื ใยต่า อีกความหมายหน่ึงที่ใชใ้ นทางการคา้ หมายถึงหวั อาหารท่ีผลิตข้ึนมาเพอื่จาหน่าย ก่อนการนาไปเล้ียงสัตวต์ อ้ งเจือจางดว้ ยอาหารหลกั หรืออาหารจาพวกพลงั งานเสียก่อน อาหารหลกั (Basal Feed) หรืออาหารฐาน หมายถึงจาพวกอาหารขน้ ชนิดหน่ึงที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตจาพวกแป้ ง อยมู่ าก เป็นองคป์ ระกอบส่วนใหญ่ในสูตรอาหารของสตั ว์กระเพาะเดี่ยว มีโปรตีนอยตู่ ่า เช่น ราละเอียด เมลด็ ธญั พืช พชื หวั เป็นตน้ อาหารเสริมโปรตีน (Protein Supplement) เป็นวตั ถุดิบอาหารสัตวท์ ่ีมีโปรตีนเป็นองคป์ ระกอบอยสู่ ูงเกินกวา่ 16 เปอร์เซ็นต์ ข้ึนไป อาจมาจากพชื เช่น กากถว่ั ต่าง ๆ หรือไดม้ าจากสตั ว์ เช่นปลาป่ น ขนไก่ป่ น สารเสริมอาหาร (Feed Additive) หมายถึง สารใด ๆ ท่ีนามาผสมลงในอาหารใหส้ ัตวก์ ิน มีจุดประสงคใ์ นการใชจ้ าเพาะอยา่ ง อาจเป็นสารจาพวกโภชนะหรือไม่ใช่ก็ได้ เช่น ยาปฏิชีวนะ สารกนั บิดหรือสารป้ องกนั การหืนของไขมนั ฯลฯ
5 Diet หมายถึง ส่ิงใด ๆ ที่สตั วก์ ินหรือด่ืมในแตล่ ะวนั Ration หมายถึง อาหารผสมหรืออาหารท่ีจดั ไวส้ าหรับสตั วก์ ิ นในช่วงระยะ 24 ชวั่ โมง อาจเพียงพอตอ่ ความตอ้ งการของสตั วห์ รือไม่ก็ได้ หากสตั วไ์ ดร้ ับโภชนะทุกตวั อยา่ งเพียงพอ เรียกอาหารน้ีวา่Balance Rationประวตั คิ วามเป็ นมา นกั เคมีชาวฝรั่งเศส ช่ือ Lavoisier พ.ศ. 2286-2337 ไดร้ ับการยกยอ่ งใหเ้ ป็นบิดาแห่งโภชนศ าสตร์ผลงานที่ไดร้ ับการยกยอ่ ง คือการศึกษาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กระบวนการเมตาบอลิซึม ซ่ึงไดอ้ ธิบายวา่การเผาผลาญอาหารเป็นปฏิกิริยาออกซิเดชนั ช้ีใหเ้ ห็นวา่ การหายใจของร่างกายสตั วม์ ีผลเก่ียวขอ้ งกบั การรวมตวั ของธาตุ คาร์บอน ไฮโดรเจน เขา้ กบั ออกซิเจนที่หายใจเขา้ ไป ปริมาณของออกซิเจนที่ใชไ้ ป และคาร์บอนไดออกไซดท์ ่ีหายใจออกมา ผนั แปรข้ึนอยกู่ บั ชนิดของอาหารที่กินและการทางานของร่างกายนบั จากน้นั มา วชิ าเคมีนบั เป็นเคร่ืองมือท่ีสาคญั ต่อการศึกษาโภชนศาสตร์ เม่ือประยกุ ตเ์ ขา้ กบั วชิ าสรีรวทิ ยา ไดช้ ่วยใหม้ ีความเขา้ ใจถึงความตอ้ งการโภชนะจาพวก โปรตีน ไขมนั คาร์โบไฮเดรตตอ่ ร่างกาย ความกา้ วหนา้ ของวชิ าน้ีรุดหนา้ ไปอยา่ งรวดเร็ว ภายหลงั จากการคน้ พบวติ ามิน ในราว พ .ศ. 2456และการคน้ พบหนา้ ท่ีของกรดอะมิโนตา่ ง ๆ รวมถึงแร่ธาตุท่ีจาเป็น ในปัจจุบนั เราทราบว่ าร่างกายสตั ว์ตอ้ งการโภชนะตา่ ง ๆ มากกวา่ 40 ชนิด เม่ือเทียบกบั เพยี ง 3 ชนิดในระยะร้อยปี ที่ผา่ นมา การเจริญของโภชนศาสตร์ ซ่ึงจดั เป็นวทิ ยาศาสตร์ประยกุ ต์ อาศยั ความรู้และเทคโนโลยจี ากสาขาวชิ าตา่ ง ๆ เช่น สรีรวทิ ยาและชีวเคมีที่มีมายาวนาน ช่วยใหท้ ราบควา มตอ้ งการอาหารและการเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึน วชิ าเคมี ช่วยในการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์โภชนะ วชิ าฟิ สิกส์ เกี่ยวขอ้ งกบั เคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการศึกษา เช่น X-Ray ,Spectrograph , Isotopes , Chromatography และเคร่ืองมืออ่ืน ๆอีกมากมาย วชิ าพนั ธุศาสตร์ ช่วยใหค้ น้ พบ ความตอ้ งการโภชนะท่ีแตกตา่ งไปของสัตวต์ ่างชนิด ตา่ งสายพนั ธุ์ วชิ าจุลชีววทิ ยา ช่วยใหเ้ กิดการเรียนรู้หนา้ ที่ของจุลินทรียท์ ี่เกี่ยวกบั การใชป้ ระโยชน์ของอาหารในกระเพาะรูเมน วชิ าสถิติ ช่วยในการวดั ค่าขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการศึกษา และอ่ืน ๆ อีกหลายสาขาวชิ า รวมถึงการพฒั นาในดา้ นการคา้ ที่ช่วยในดา้ นการศึกษาทดลองในดา้ นการใหอ้ าหารสัตว์ ในปัจจุบนั สามารถกาหนดตารางแสดงคา่ ความตอ้ งการโภชนะ ของสัตวเ์ ล้ียงต่าง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ งตามท่ีสัตวต์ อ้ งการในแตล่ ะระยะ เป็นผลสืบเน่ืองมาจากการเจริญพฒั นาในทุก ๆ ดา้ นของสาขาวชิ าที่เก่ียวขอ้ งกบั โภชนศาสตร์ ทาใหผ้ ลการศึกษาทดลองถูกตอ้ งแม่นยา นามาใชป้ ระโยชนใ์ นทางการผลิตสั ตว์อยา่ งแทจ้ ริง
6ความสาคัญของโภชนศาสตร์สัตว์ 1. ช่วยลดตน้ ทุนในการผลิตสัตว์ เพราะสามารถจดั หาอาหารที่ประกอบดว้ ยโภชนะครบถว้ นตามที่สตั วต์ อ้ งการ สตั วม์ ีการเจริญเติบโตรวดเร็ว เน่ืองจากตน้ ทุนในการผลิตสตั วม์ ากเกินกวา่60 เปอร์เซ็นตเ์ ป็นคา่ อาหาร ดงั น้นั การเล้ียงสัตวด์ ้ วยอาหารที่มีคุณภาพสูง โภชนะครบ เป็นปัจจยั ช่วยร่นระยะเวลาการเล้ียงใหส้ ้นั ลง ส่งผลใหต้ น้ ทุนการผลิตต่า 2. ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใชอ้ าหารของสัตวเ์ ล้ียง อาหารท่ีมีโภชนะครบถว้ นช่วยใหส้ ัตว์มีสุขภาพแ ขง็ แรง มีความตา้ นทานต่อโรคสูง มีอตั ราการเจริญเติบโตรวดเร็ว กินอาหารปริมาณนอ้ ยแต่สามารถเปลี่ยนไปเป็นผลผลิตที่ตอ้ งการไดเ้ พ่ิมข้ึน 3. ส่งผลดีต่อการจดั การโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ วธิ ีการเล้ียงสัตวร์ ะบบขงั คอก (Intensive System)สัตวไ์ มส่ ามารถหาอาหารกินเ องได้ จาเป็นตอ้ งใชค้ วามรู้ในทุกดา้ นรวมถึงดา้ นอาหารสัตว์ จึงจะส่งผลให้สตั วเ์ จริญเติบโตเป็นปกติ ในการเล้ียงสัตวร์ ะบบปล่อย (Extensive System) สัตวส์ ามารถหากินเองไดอ้ ยา่ งอิสระ ไดร้ ับโภชนะต่าง ๆ จากวตั ถุดิบตามธรรมชาติ แตใ่ นปัจจุบนั วธิ ีการเล้ียงเช่นน้ีมีขอ้ จากดั เนื่องจากท่ีดินมีราคาแพงและถูกนาไปใชป้ ระโยชนด์ า้ นอื่น ทาใหก้ ารเล้ียงสัตวแ์ บบปล่อยไมค่ ุม้ ค่าของการลงทุน 4. ส่งผลดีตอ่ เศรษฐกิจ ช่วยใหเ้ กิดการปฏิรูปดา้ นอุตสาหกรรมตอ่ เนื่อง การเจริญพฒั นาของโภชนศาสตร์ ส่งผลใหเ้ กิดการพฒั นาอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น เครื่องมืออุปกรณ์ท่ีใชเ้ พอื่ การประเมินคุณค่าอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์เพ่ือการผลิตอาหารสัตว์ เช่น เคร่ืองบด เคร่ืองผสมอาหาร เครื่องอดั เมด็ อุปกรณ์การใหอ้ าหารแบบอตั โนมตั ิ ส่งผลตอ่ การนาเอาผลพลอยไดจ้ ากอุตสาหกรรมอ่ืน ๆ มาเป็นวตั ถุดิบอาหารสตั วแ์ ทนการทิง้ ไปโดยเปล่าประโยชน์ เช่น การนาเอากากเมลด็ พชื น้ามนั มาเล้ียงสตั ว์คาจากดั ความเพอ่ื การศึกษาเพม่ิ เติม1. ประสิทธิภาพในการใชอ้ าหารของสตั ว์ (Feed efficiency) คือปริมาณอาหารท่ีสัตวก์ ินเขา้ ไปหน่ึงหน่วย แลว้ สัตวจ์ ะสามารถนาไปเพม่ิ น้าหนกั ตวั ได้ เพม่ิ ข้ึน ประสิทธิภาพการใชอ้ าหารจะลดต่าลงเมื่อสัตวม์ ีอายมุ ากข้ึนประสิทธิภาพการใชอ้ าหาร = น้าหนกั ตวั ปริมาณอาหารท่ีกินอาจจะแสดงค่าตวั เลขไม่มีหน่วย หรือ มีหน่วยเป็น % ก็ได้ โดยคูณดว้ ย 100 ค่ายง่ิ สูงยงิ่ ดี
72. อตั ราการเปลี่ยนอาหารเป็นเน้ือ (Feed conversion rate) คือปริมาณอาหารท้งั หมดท่ีสัตวก์ ินเขา้ ไป ทาใหน้ ้าหนกั ของสัตวเ์ พมิ่ ข้ึนได้ 1 หน่วย อตั ราการเปลี่ยนอาหารเป็นเน้ือ = น้าหนกั อาหารที่กินท้งั หมด น้าหนกั ตวั ที่เพม่ิ หน่วยเป็นอตั ราส่วน ท้งั สองคา่ ยงิ่ ตา่ งกนั นอ้ ยยงิ่ ดี3. การยอ่ ยได้ (Digestibility) การยอ่ ยอาหารเป็นขบวนการทาใหอ้ าหารแตกตวั เลก็ ลงเป็น โมเลกลุ เล็ก ๆ พอที่สตั วจ์ ะดูดซึมไปใชป้ ระโยชน์ได้ การหาการยอ่ ยไดข้ องอาหารจึงเป็น วธิ ีการวดั และประเมินคุณค่าของอาหารที่ดีวธิ ีหน่ึง อาหารที่ยอ่ ยไดม้ ากจะเป็นประโยชนต์ ่อ สัตวม์ ากกวา่ อาหารท่ียอ่ ยไดน้ อ้ ย สูตรหาการยอ่ ยได้ คือ %การยอ่ ยได้ = (อาหารท่ีกิน - อาหารในมูล) x 100 อาหารที่กิน4. โปรตีนรวม (Crude protein) คือปริมาณโปรตีนท้งั หมดที่มีอยใู่ นอาหาร หาไดจ้ าก ปริมาณ N ท้งั หมดที่มีอยใู่ นอาหาร x 6.25 คา่ น้ีไม่สามารถบง่ บอกไดว้ า่ ปริมาณ N ท้งั หมดท่ีมีในอาหารจะถูกร่างกายใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ได้ มากนอ้ ยเพียงใด5. โปรตีนท่ียอ่ ยได้ (Digestible crude protein) สูตร DCP = CP ในอาหาร - CP ในมลู คา่ ท่ีไดส้ ามารถบอกไดว้ า่ N ในอาหารน้นั ๆ มีประโยชนต์ อ่ ร่างกายเพยี งใด
8 เอกสารอ้างองิตรีพล เจาะจิตต์. 2527. เตรียมสอบวชิ าสัตวบาล เล่ม 1. กรุงสยามการพิมพ,์ กรุงเทพฯ.พนั ทิพา พงษเ์ จียจนั ทร์. 2539. หลกั การอาหารสัตว์เล่ม 2. สานกั พิมพ์ิโอเดียนสโตร์, กรุงเทพมหานคร.เสาวนิต คูประเสริฐ. 2537. โภชนศาสตร์สัตว์. ภาควชิ าสัตวศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ, มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์.ศิริศกั ด์ิ โกศลคุณาภรณ์. 2538. อาหารและการให้อาหารสัตว์. คณะวชิ าเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตนครศรีธรรมราช, สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล.ศิริลกั ษณ์ วงส์พิเชษฐ และคณะ. 2546. หลกั โภชนศาสตร์และอาหารสัตว์. มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. สานกั พิมพม์ หาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมธิราช. นนทบุรี.อุทยั คนั โธ. 2529. อาหารและการผลติ อาหารเลยี้ งสุกรและสัตว์ปี ก. ศูนยว์ จิ ยั และฝึกอบรมการเล้ียงสุกร แห่งชาติ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ นครปฐม. 297 น.
9 ใบงานที่ 11.1 แบบฝึ กหดั ท้ายบท1.1.1 จงตอบคาถามในช่องว่างให้ได้ใจความสมบูรณ์1. จงอธิบายคาจากดั ความของคาวา่ Feed………………………………………………………...2. จงอธิบายคาจากดั ความของคาวา่ Inorganic matter………………………………...…………3. จงอธิบายคาจากดั ความของคาวา่ Organic matter…………………………………….………4. Crude protein คือ......................................................................................................................5. Crude protein ตา่ งกบั Digestible protein คือ ..................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................6. Feed efficiency คือ....................................................................................................................7. Feed efficiency ตา่ งกบั Feed ratio คือ ……………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: