Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อบรมความปลอดภัย JET GW

อบรมความปลอดภัย JET GW

Published by Safety UJE R-29, 2022-06-10 04:38:14

Description: อบรมความปลอดภัย JET GW

Search

Read the Text Version

อ า ชีว อ น า มัย แ ล ะ ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ใ น ก า ร ทำ ง า น ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 1 สำหรับพนักงานและผู้รับเหมา GW - R29 อุดรธานี

2

3

บริษัท อุดรธานี เจ็ท เฉอล็อกงวัซน์คเรพบรอรบสปีที่ จ15ำกัด ได้จัดทำหนังสือคู่มือ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับพนักงาน และผู้รับเหมา เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการปฏิบัติงานให้พนักงานมีสุขอนามัยที่ดี และมีความปลอดภัยในการทำงาน ปราศจากการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย การเกิด โรคจากการทำงาน ความพิการ และเสียชีวิต รวมไปถึงทรัพย์สินเสียหาย การสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน จะส่งผล ให้เข้าใจถึงปัญหา สาเหตุของการประสบอันตราย รวมถึงรับทราบบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ และแนวทางในการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย การดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการ ทำงานของบริษัทฯ จะเกิดประสิทธิผลได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากพนักงาน ทุกท่าน ในการใช้คู่มือความปลอดภัยฉบับนี้ให้เกิดประโยชน์ นำไปปฏิบัติตาม ด้วยความเข้าใจ และตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงาน 4

สิทธินายจ้างและลูกจ้าง 1.นายจ้างและลูกจ้างมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน 2.นายจ้างมีหน้าที่จัดและดูแลสถานประกอบกิจการและลูกจ้างให้มีสภาพการทํางานและสภาพแวดล้อมในการทํางานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของลูกจ้างมิให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ และสุขภาพอนามัย 3.นายจ้างมีหน้าที่จัดและดูแลให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ได้มาตรฐาน ถ้าลูกจ้างไม่สวมใส่อุปกรณ์ดังกล่าว ให้นายจ้างสั่ง ให้หยุดการทํางาน จนกว่าลูกจ้างจะสวมใส่อุปกรณ์นั้น 4.นายจ้างมีหน้าที่จัดให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน และลูกจ้างทุกคนได้รับการฝึกอบรมให้สามารถบริหารจัดการและดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานได้อย่างปลอดภัยก่อนการเข้าทํางาน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานที่ทํางาน หรือเปลี่ยนแปลงเคร่ืองจักรหรืออุปกรณ์ 5.นายจ้างมีหน้าที่แจ้งให้ลูกจ้างทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทํางาน และแจกคู่มือปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนที่ลูกจ้างจะเข้าทํางาน เปลี่ยน งาน หรือเปลี่ยนสถานที่ทํางาน 6.นายจ้างมีหน้าที่ติดประกาศ คําเตือน คําสั่ง หรือคําวินิจฉัยของอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พนักงานตรวจความปลอดภัย หรือคณะกรรมการ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน แล้วแต่กรณี 7.นายจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน 8.ลูกจ้างมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับนายจ้างในการดําเนินการและส่งเสริมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน โดยคํานึงถึง สภาพของงานและหน้าที่รับผิดชอบ 9.ลูกจ้างมีหน้าที่แจ้งข้อบกพร่องของสภาพการทํางาน หรือการชํารุดเสียหาย ของอาคาร สถานที่ เครื่องมือ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ด้วยตนเองต่อเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางาน หัวหน้างาน หรือผู้บริหาร 10. ลูกจ้างมีหน้าที่สวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่นายจ้างจัดให้และดูแลให้สามารถใช้งานได้ตามสภาพและลักษณะของงานตลอดระยะ เวลาทํางาน 11.ในสถานที่ที่มีสถานประกอบกิจการหลายแห่ง ลูกจ้างมีหน้าที่ปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์ เกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํา งานของนายจ้าง และสถานประกอบกิจการอื่นที่ไม่ใช่ของนายจ้างด้วย 12.ลูกจ้างมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการเลิกจ้าง หรือถูกโยกย้ายหน้าที่การงานเพราะเหตุที่ฟ้องร้อง เป็นพยาน ให้หลักฐาน หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับความ ปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานต่อพนักงานตรวจความปลอดภัย คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ แวดล้อมในการทํางาน หรือศาล 13.ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดในระหว่างหยุดการทํางาน หรือหยุดกระบวนการผลิตตามคําสั่งของพนักงานตรวจความปลอดภัย เว้น แต่ลูกจ้างที่จงใจกระทํา การอันเป็นเหตุให้มีการหยุดการทํางานหรือหยุดกระบวนการผลิต 5

เป้าหมายการอบรม ความปลอดภัย 1. ทราบเหตุผล วัตถุประสงค์ของการอบรม 2. ทราบความรู้เบื้องต้นของความปลอดภัย 3. ทราบอันตรายในพื้นที่ทำงานและข้อปฏิบัติ ให้ปลอดภัย 4. ทราบขั้นตอนการแจ้งอุบัติเหตุ 5. ทราบขั้นตอนการใช้งานถังดับเพลิง 6. ทราบวิธีการและเส้นทางการอพยพ 7. รับทราบกฎระเบียบด้านความปลอดภัย 6

หน่วยงาน บุคลากร และคณะทำงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน บริษัท อุดรธานี เจ็ท เอ็กซ์เพรส จำกัด กํากับ ดูแลให้พนักงานปฏิบัติตามข้อบังคับคู่มือความปลอดภัย บทบาทหน้าที่ของ จป.หัวหน้างาน วิเคราะห์งาน เพื่ อหาอันตรายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขั้น รายงานการประสบอันตราย เกิดอุบัติเหตุต่อจป.วิชาชีพโดยทันที ส อ น ขั้ น ต อ น ก า ร ทำ ง า น อ ย่ า ง ป ล อ ด ภั ย ใ ห้ พ นั ก ง า น ใ น ค ว า ม ดู แ ล ตรวจสอบหาสาเหตุการประสบอันตราย ร่วมกับจป.วิชาชีพ ตรวจสอบสภาพการทำงาน เครื่องมือ เครื่องจักรให้ปลอดภัย ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมความปลอดภัย กำกับดูแลให้พนักงานสวมอุปกรณ์คุ้มครองส่วนบุคคล (PPE) ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยตามที่ได้รับหมายจากนายจ้าง บทบาทหน้าที่ของ จป.วิชาชีพ ตรวจสอบ เสนอแนะให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย แนะนำ ฝึกสอน อบรมลูกจ้าง เพื่ อให้ปฏิบัติงานปลอดภัย วิเคราะห์งาน ชี้บ่งอันตราย กำหนดมาตรการป้องกัน/ขั้นตอน ประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย วิเคราะห์แผนงานโครงการ ข้อเสนอแนะ มาตรการความปลอดภัย ตรวจวัดและประเมินสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตรวจสอบสภาพการทำงาน เครื่องมือ เครื่องจักรให้ปลอดภัย ตรวจประเมินการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนงานและมาตรฐาน แนะนำให้ลูกจ้างปฏิบัติตามข้อบังคับ และคู่มือความปลอดภัย ตรวจสอบหาสาเหตุอุบัติการณ์ การประสบอันตราย รายงานผล และเสนอแนะ รวบรวมสถิติ จัดทำรายงาน และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการประสบอันตราย เสนอแนะต่อนายจ้างเพื่อให้มีการจัดการด้านความปลอดภัยอย่างเหมาะสม 7

หน่วยงาน บุคลากร และคณะทำงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน บริษัท อุดรธานี เจ็ท เอ็กซ์เพรส จำกัด ตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2549 ทางบริษัท อุดรธานี เจ็ท เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นสถานประกอบกิจการที่เข้าข่ายประเภทที่ 4 คือ ธุรกิจประเภทการขนส่งสินค้าโดยทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และรวมทั้งการบรรทุกขนถ่ายสินค้า ซึ่งตามรายละเอียดของกฎกระทรวง ดังกล่าว กำหนดให้ทางบริษัทฯต้องมีบุคลากรและคณะทำงานด้านความปลอดภัย ดังนี้ ตำแหน่งตามโครงสร้าง วิชาชีพเฉพาะตาม ตำแหน่งตามโครงสร้าง ขององค์กร กฎหมาย 1 ตำแหน่ง ขององค์กร 8

หน่วยงาน บุคลากร และคณะทำงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน บริษัท อุดรธานี เจ็ท เอ็กซ์เพรส จำกัด บทบาทหน้าที่ของ จป.บริหาร กำกับ ดูแล จป.ทุกระดับซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติงานตามแผนและมาตรฐาน เสนอแผนงานโครงการด้านความปลอดภัยในหน่วยงานต่อนายจ้าง ส่งเสริม สนับสนุน และติดตาม การดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานโครงการ กำกับ ดูแล และติดตามให้มีการแก้ไขข้อบกพร่องเพื่ อความปลอดภัยตามที่ได้รับรายงาน บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ พิจารณานโยบายและแผนงานความปลอดภัย เพื่ อป้องกันและลดอุบัติเหตุ ความปลอดภัยฯ พิจารณาข้อบังและคู่มือ มาตรฐานความปลอดภัย (คปอ.) รายงานและเสนอแนะมาตรการ หรือแนวทาง ให้ถูกต้องตามกฎหมาย มาตรฐาน สำรวจการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยในการทำงาน และตรวจสอบสถิติ วางระบบการรายงานสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยให้เป็นหน้าที่ลูกจ้าง พิจารณาโครงการ หรือแผนการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัย ส่งเสริม สนับสนุน กิจกรรมความปลอดภัยในการทำงาน 9

บทบาทหน้าที่ความร่วมมือ ของลูกจ้างต่อนายจ้าง ลูกจ้างต้องให้ความร่วมมือกับนายจ้างในการดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ 1. การปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด 2. การใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลอย่างถูกต้อง 3. หากพบสภาพการทำงานหรือการกระทำที่ไม่ปลอดภัยต่าง ๆ ต้องรีบแจ้งต่อ หัวหน้างานหรือ จป.วิชาชีพทราบโดยเร็ว 4. การเขารับการอบรมในหลักสูตรความปลอดภัยในการทำงานต่าง ๆ 5. การเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นระยะ ๆ เพื่ อเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน 6. เข้าร่วมจิกรรมและโครงการด้านความปลอดภัยฯ ที่นายจ้างจัดขึ้น 7. การเข้ารับการอบรมในหลักสูตรความปลอดภัย ในการทำงานต่าง ๆ 8. การเริ่มทำงานวันใหม่ด้วย 3 อ. (อาหารที่ดี ออกกำลังกาย อารมณ์สดใส) พักผ่อนให้เพียงพอ สุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส 10

11

ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หมายถึง การกระทำหรือสภาพการทำงานซึ่งปลอดจากเหตุอันจะทำให้เกิดการ ประสบอันตราย การเจ็บป่วย ความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ และสุขภาพอนามัย อันเนื่ องจากการทำงานหรือเกี่ยวกับการทำงาน การประสบอันตราย อันตราย การได้รับอันตรายหรือภัยจากการ โรคจากการทำงาน ทำงานที่ทำให้ได้รับความเสียหาย สิ่งหรือสถานการณ์ที่เป็นเหตุที่จำไป ด้านร่างกาย การบาดเจ็บ เจ็บป่วย สู่ความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการบาด หรือความเสียหายด้านทรัพย์สิน เจ็บ เจ็บป่วย ทรัพย์สินเสียหาย รวม การเจ็บป่วยเกิดขึ้นของผู้ ถึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 12ปฏิบัติงานเนื่ องจากการทำงาน

คำศัพท์เกี่ยควกวับามเรื่ปองลอดภัย INCIDENT Accident Near Miss INCIDENT เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ให้เกิด ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วมีผลทำให้ อุบัติการณ์ เกิดความสุญเสีย : อุบัติเหตุ (Accident) หรือไม่เกิดความ สูญเสีย : เกือบเกิดอุบัติเหตุ (Near Miss) ACCIDENT เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่คาดคิดในเวลา อุบัติเหตุ และสภานที่หนึ่งโดยไม่ทราบล่วงหน้า เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้เกิดผลกระทบ ความเสียหาย ความสูญเสีย ทั้งร่างกาย ทรัพย์สิน สิ่งแวดล้อม โอ๊ย!, เออะ! NEAR MISS เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่คาดคิดในเวลาและ สภานที่หนึ่ง โดยไม่ทรายล่วงหน้า ซึ่งเกิดขึ้นแล้วไม่ส่งผลให้เกิดผลกระ เกือบเกิด ทบความเสียหาย ความสูญเสีย ทั้งร่างกาย ทรัพย์สิน สิ่งแวดล้อม อุ๊ย ! 13

คำศัพท์เกี่ยควกวับามเรื่ปองลอดภัย INCIDENT Accident Near Miss INCIDENT นาย A ลื่นน้ำมันที่หก อุบัติการณ์ รั่วไหลบนพื้นทางเดิน ACCIDENT นาย A ลื่นแล้วล้มกระแทก อุบัติเหตุ พื้น ได้รับบาดเจ็บแผล ถลอก และหัวเขาฟกช้ำ NEAR MISS เกือบเกิด นาย A ลื่นแล้วสามารถยั้ง ตัวได้ และเกาะเสาหรือ ราวจับบริเวณนั้นได้ทัน 14

คำศัพท์เกี่ยควกวับามเรื่ปองลอดภัย INCI DENT Accident Near Miss INCIDENT นาย B ขับรถที่ถนนสายหลักด้วย อุบัติการณ์ ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง มีสุนัขวิ่งตัดหน้ารถ ACCIDENT นาย B ทำการเบรคและหักหลบ อุบัติเหตุ สุนัข ทำให้รถไถลตกไหล่ทาง ได้รับ บาดเจ็บ และรถพังเสียหาย NEAR MISS สุนัขวิ่งผ่านไปได้ โดยที่ เกือบเกิด นาย B เบรคและหักหลบได้ ไปอย่างฉิวเฉียด 15

สาเหตุของการเกิด อุบัติเหตุและการเจ็บป่วย การกระทําที่ไม่ปลอดภัย สภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เหตุการณ์นอกเหนือ Unsafe Action Unsafe Condition การควบคุม 8 8 เป็นการกระทําของผู้ปฏิบัติ 10 เป็นสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ 2 เป็นเหตุจากธรรมชาติ ตัวผู้ปฏิบัติงานในขณะทํางาน % งานในขณะทํางาน ซึ่งอาจจะ % % ที่ไม่สามารถกำหนด ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิด หรือควบคุมได้ อุบัติเหตุได้ ใช้เครื่องมือเครื่องจักโดยพลการ หรือ ไม่มีที่ครอบหรือการ์ดปิดคลุมส่วนที่หมุน ลมพายุ ไม่ได้รับมอบหมาย ไ ด้ แ ล ะ ส่ ว น ส่ ง ถ่ า ย กํ า ลั ง ข อ ง เ ค รื่ อ ง จั ก ร ฝนตก ใ ช้ เ ค รื่ อ ง จั ก ร ใ น อั ต ร า ที่เ ร็ว เ กิ น กํ า ห น ด ที่ค ร อ บ ห รือ ก า ร์ด ข อ ง เ ค รื่ อ ง จั ก ร ไ ม่ น้ำท่วม ซ่อมแซมหรือบํารุงรักษาในขณะที่ ปลอดภัยหรือไม่เหมาะสม น้ำหลาก เ ค รื่ อ ง ย น ต์ กํ า ลั ง ห มุ น เครื่องจักร เครื่องมือที่ใช้มีการออกแบบที่ ฟ้าผ่า ถอดอุปกรณ์ความปลอดภัยออกจาก ไม่เหมาะสม แผ่นดินไหว เ ค รื่ อ ง จั ก ร โ ด ย ไ ม่ เ ห ตุ อั น ส ม ค ว ร บริเวณพื้ นที่ทํางานลื่ น ขรุขระ หรือสกปรก ไฟป่า หยอกล้อกันในขณะทํางาน บริเวณที่ทํางานมีการวางของไม่เป็น ฯลฯ ทํางานในที่ที่ไม่ปลอดภัย ระเบียบ กีดขวางทางเดิน ใ ช้ เ ค รื่ อ ง มื อ ที่ชํ า รุ ด ห รือ ไ ม่ ถู ก วิ ธี การกองวัสดุสูงเกินไป หรือการซ้อนวัสดุ ยกหรือเคลื่ อนย้ายวัสดุด้วยท่าทาง ไม่ถูกวิธี วิธีการที่ไม่ปลอดภัย การจัดเก็บสารเคมีสารไวไฟต่าง ๆ ไม่ ไม่สวมใส่อุปกรณ์ PPE เหมาะสม ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับ แสงสว่างไม่ เหมาะสม เช่น แสงอาจสว่าง ข้อห้าม ป้ายหรือสัญลักษณ์เตือน ไม่ เพียงพอ หรือแสงจ้าเกินไป เป็นต้น ฯลฯ ไม่มีระบบการระบายและถ่ายเทอากาศที่ ฯลฯ ความบกพร่องในการจัดการของฝ่ายบริหารของสถานประกอบกิจการ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทําให้ 16 เกิดการประสบอันตรายและความสูญเสียในสถานประกอบกิจการ

ความสุญเสียของ การเกิดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย ทางตรง ทางอ้อม 17

การควบคุมอันตราย อุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยจากการทำงาน ป้องกันแหล่งกำเนิด ป้องกันทางผ่าน ป้องกันที่ผู้รับ SOURSE PASS WAY RECEIVER เครื่องมือ เครื่องจักร เครื่อง ทางผ่านของอันตรายเช่น ป้องกันจากตัวผู้รับเช่น กำบัง ระบบการทำงานของ อากาศ ลม แสง เสียง อบรมให้ความรู้ สวมใส่ PPE อุปกรณ์ และพลังงานต่าง ๆ 18

อุปกรณ์คุ้มครองอันตรายส่วนบุคคล PPE Personal Protective Equipment ข้อจำกัดของอุปกรณ์ อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล เหมาะ ส ม ใ น ก า ร ป้ อ ง กั น อั น ต ร า ย จ า ก ก า ร ใ น ช่ ว ง สั้ น ๆ อุปกรณ์ไม่สามารถกำจัดอันตรายจากสถานที่ทำงาน ได้ โดยเฉพาะเมื่ ออุปกรณ์ทำงานล้มเหลวจะทำให้ผู้ สวมใส่อุปกรณ์ได้รับสัมผัสกับอันตรายทันที อุปกรณ์ ป้องกันอันตรายจะใช้ไม่ได้ผลถ้าผู้สวมใส่ไม่มีความรู้ ความเข้าใจในวิธีการใช้ที่ถูกต้องและเลือกสวมใส่ โดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่จะต้องสัมผัส 19

เครื่องหมายและสัญลักษณ์ ความปลอดภัยในการทำงาน ห้าม บังคับ 20 เตือน สภาวะ ปลอดภัย อุปกรณ์ ดับเพลิง

21

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน เครื่องจักร 1. กำหนดให้พนักงานต้องแต่งกาย รัดกุมและไม่รุ่งริ่ง 22 2. ห้ามสวมใส่เครื่องประดับที่อาจเกี่ยวโยงกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ 3. รวบผมที่ปล่อยยาวเกินสมควร เพื่ อป้องกันการถูกดึงจากเครื่องจักร 4. พนักงานซึ่งไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าไปในบริเวณดังกล่าว 5. ต้องสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตามลักษณะงาน 6. ดำเนินการจัดทำรั้ว คอกกั้น หรือเส้นแสดงเขตอันตราย ณ บริเวณที่ตั้งของ เครื่องจักร ให้พนักงานเห็นได้ชัดเจน 7. เครื่องจักรที่มีการถ่ายทอดพลังงานโดยใช้เพลา สายพาน รอก เครื่องอุปกรณ์ ล้อตุนกำลังต้องมีตะแกรงหรือที่ครอบปิดคลุมส่วนที่หมุนและส่วนถ่ายกำลังให้ มิดชิด ป้องกันการถูกหนีบ ดึง เฉือน กระแทก ทับ จนเกิดอันตราย 8. การซ่อมเครื่องจักรต้องหยุดเครื่องจักรและต้องทำการ Lock Out & Tag Out 9. เครื่องจักรที่ใช้พลังงานไฟฟ้าต้องมีระบบหรือวิธีการป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว เข้าตัวบุคคล 10. ที่เกี่ยวข้องหรือเครื่องจักรและต้องต่อสายดิน 11. ต้องตรวจสอบเครื่องจักร ให้อยู่ในสภาพใช้การได้ดีและปลอดภัย 12. ปุ่มหยุดฉุกเฉิน Emergency Stop ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน เครื่องจักร 23

นอนเอาขาพาดโครงสร้างสายพาน ผล : ขาหัก 24

นิ้วมือถูกสายพานดูด 25

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน เครื่องจักร EMERGENCY STOP ปุ่มหยุดฉุกเฉิน กดปุ่มเพื่อตัดวงจรพลังงาน เครื่องจักรหรืออุปกรณ์หยุด ทำงานโดยทันที ในกรณี 1. อุบัติเหตุของบุคคล 2. อุบัติเหตุเครื่องจักรเสียหาย 3. เหตุฉุกเฉินต่าง ๆ 26

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน เครื่องจักร 27

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน เครื่องจักร 28

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน เครื่องจักร 29

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน ไฟฟ้า 1. อย่าเข้าใกล้หรือจับต้องอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีป้ายห้ามใช้ โดยไม่จำเป็น 30 2. ผู้ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ห้ามเข้าบริเวณติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า 3. หากตัวเปียกชื้ น ห้ามจับต้องอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า 4. ห้ามวางวัตถุไวไฟใกล้กับเต้ารับ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า 5. ต้องปิดสวิซต์ก่อนทำความสะอาดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกครั้ง 6. การซ่อมบำรุงต้องทำโดยช่างไฟฟ้าเท่านั้น 7. ห้ามใช้วิธีดึงหรือจับที่สายไฟ ขณะถอดหรือเสียบ 8. ห้ามคลุมหลอดไฟฟ้าด้วยกระดาษหรือผ้า เพราะอาจทำให้ เกิดอัคคีภัยได้ 9. ควรระวังอย่าวางสายไฟฟ้าขวางทางเดิน เพราะเมื่ อถูกเหยียบหรือกดทับนาน ฉนวนหุ้ม สายไฟฟ้าจะชำรุดฉีกขาดอันตรายย่อมเกิดขึ้น ได้ง่าย 10. อย่าให้หลอดไฟฟ้าซึ่งมีความร้อนสูงอยู่ติดกับวัตถุซึ่งเป็นเชื้ อเพลิงติดไฟง่าย 11. หลอดไฟฟ้าที่ขาดแล้ว ควรปิดช่องเสียบจนกว่าจะเปลี่ยนหลอดใหม่เพื่ อป้องกันไม่ให้ผู้ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเผอเรอเอานิ้วแหย่เข้าไป หากหลอดไฟฟ้ากระพริบติด ๆ ดับ ๆ ควรแจ้งให้มีการเปลี่ยนหรือซ่อมบำรุง 12. เมื่ อจะใช้โคมไฟฟ้านอกชายคา หรือใช้งานสมบุกสมบันแม้จะเป็นการชั่วคราว เช่น อู่ ซ่อมรถ ควรเลือกใช้โคมไฟฟ้าที่ดีได้มาตรฐาน มีตะแกรงครอบหลอดและมีสายชนิดที่มี ฉนวนหุ้มหนา 13. อย่าเข้าใกล้บริเวณที่มีการใช้กระแสไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง อื่ น ๆ เพราะเมื่ อเข้าใกล้ก็อาจเกิดอันตรายได้โดยไม่สัมผัส หากจุดที่ปฏิบัติงานอยู่ใกล้ สายไฟฟ้าแรงสูงต้องทราบอันตรายและแนวทางป้องกัน และอยู่ห่างในระยะที่ปลอดภัย

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน ไฟฟ้า เมื่ อประสบเหตุไฟไหม้อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือมี ลูกจ้างถูกไฟฟ้าช็อต ให้ดำเนินการ ดังนี้ ปิดสวิตซ์ไฟ ถ้าไม่สามารถทำได้ให้แจ้ง ช่างไฟฟ้าทันที กรณีไม่สามารถปิดสวิตซ์ไฟได้ทันทีเมื่ อ พบเห็นเหตุพบผู้ถูกไฟฟ้าช็อตให้พยายาม ช่วยเหลือผู้ประสบอันตรายออกจากกระแส ไฟฟ้า โดยใช้วัตถุที่ไม่เป็นสื่ อไฟฟ้า เช่น ผ้า แห้ง ไม้แห้งเชือกแห้ง สายยางแห้ง เป็นต้น เขี่ยสายไฟออกจากร่างกายผู้ประสบภัย อย่า ช่วยเหลือด้วยการจับต้องตัวผู้กำลังถูกไฟฟ้า ช็อคโดยตรง เพราะจะถูกไฟฟ้าช็อตด้วย 31

ขั้นตอนการกดนวดหัวใจ CPR (CARDIO PULMONARY RESUSCITATION) 1. ปลุกเรียกสติ, สังเกตุการหายใจ, ให้ทุกคนถอยห่าง เปิดพื้นที่โล่งให้อากาศถ่ายเทสะดวก 2. ขอความช่วยเหลือคนในบริวณนั้น ให้โทร 1669 (แจ้งเหตุ แจ้งสถานที่ เบอร์โทรติดต่อกลับ และเครื่อง AED มาด้วย) หากไม่มีให้โทรเองแล้ววางโทรศัพท์ เปิดลำโพง แล้วทำการนวดหัวใจได้เลย 3. ทำการกดนวดหัวใจที่ใต้ราวนมให้กดลึก 5-6 ซม. จำนวน 15-30 ครั้ง และเป่าผายปอด 2 ครั้ง = 1 ยก (ไม่สะดวกไม่ต้องผายปอด) 4. ทำการนวดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเข้าหน้าที่ฉุกเฉินจะมา โดยให้ทำ 5 - 6 ยก แล้วเปลี่ยนคนช่วยกดนวด 5. เมื่อเจ้าหน้าที่มา ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการช่วยเหลือได้เลยโดยใช้เครื่อง AED การช่วยฟื้นคืนชีพ CPR (CARDIOPULMONARY RESUSCITATION) เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED (AUTOMATED EXTERNAL DEFIBRILLATOR) กด ให้ ลึก กด ให้ ร้อย ปล่อยให้สุด อย่าหยุดกด 32

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน การใช้ยานพาหนะ ภ า ย ใ น บ ริษั ท ขับไม่เกิน 20 Km/hr รถบรรทุก 4, 6 ล้อใหญ่ ขับไม่เกิน 80 Km/hr รถยนต์ 4 ล้อ ขับไม่เกิน 100 Km/hr รถจักรยานยนต์ ขับไม่เกิน 80 Km/hr 1. ผู้ปฏิบัติงานที่ทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะต้องมีใบขับขี่ถูกต้องตามกฎหมาย 33 2. ตรวจสอบสภาพรถก่อนใช้งานทุกครั้ง 3. ในการขับรถผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องรักษากฎจราจร และเชื่ อฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอย่างเคร่งครัด 4. ผู้ขับขี่ต้องขับด้วยความเร็วตามกำหนด 5. ลดความเร็วลงเมื่ อถึงเขตชุมชน โรงเรียน ทางโค้ง ทางแคบ หรือถนนที่มีสภาพชำรุด ถนนที่มีฝุ่นทราย หรือน้ำมันไหลนองอยู่ให้ใช้เกียร์ต่ำช่วย อย่าเบรกรถโดยกะทันหันเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถพลิก คว่ำได้ และในกรณีที่สภาพแวดล้อมมีความเสี่ยง เช่น ฝนตก ลมแรง พายุเข้า เป็นต้น 6. เมื่ อจำเป็นต้องหยุดรถบนทางลาด ทางชัน หรือสภาพที่ที่รถอาจเคลื่ อนที่ได้ ต้องใช้หมอนรองล้อหนุนล้อ หน้าคนขับอย่างน้อย 1 คู่ เพื่ อกันไม่ให้รถเคลื่ อนที่ 7. ขณะขับรถลงที่ลาดชัน หรือลงจากเขาให้ใช้เกียร์ต่ำ อย่าปลดเกียร์ว่างให้รถไหลลงมาเองเป็นอันขาด 8. ผู้ปฏิบัติงานต้องขับขี่ยานพาหนะอย่างสุภาพ และมีความเห็นอกเห็นใจผู้ใช้รถอื่ น ๆ เสมอ 9. ให้สัญญาณรถคันอื่ น ๆ ทุกครั้งเมื่ อเปลี่ยนเส้นทางหรือจอดฉุกเฉิน 10. กรณีถอยรถให้ลดกระจกลงทั้ง 2 ข้าง เพื่ อฟังสัญญาณจากผู้อื่ น 11. จอดรถให้ดับเครื่องยนต์และดึงเบรกมือ ทุกครั้ง

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน การใช้ยานพาหนะ 34

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน การใช้ยานพาหนะ จักรยานยนต์ตัดหน้า (ข้าม 4 แยกขณะไฟเหลือง) รถกระบะตัดหน้า 35

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน การยกและเคลื่อนย้ายวัสดุ น้ำหนักที่ยกได้ เด็กหญิง (15-17 ปี) ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ตามกฎหมายกำหนด เด็กชาย (15-17 ปี) ไม่เกิน 25 กิโลกรัม ลูกจ้างหญิง ไม่เกิน 25 กิโลกรัม ลูกจ้างชาย ไม่เกิน 55 กิโลกรัม การยกและเคลื่ อนย้ายวัสดุในพื้ นที่การทำงาน 1. ใช้กำลังจากคน เช่น การยก การถือ และแบกหามโดยคน 2. เครื่องทุ่นแรง คือ รถเข็น รถลาก อุปกรณ์ลำเลียง (Conveyor) รถพ่วง รถบรรทุก การวางแผนการยก 1. ต้องประเมินน้ำหนักของวัสดุสิ่งของ ยกเพียงคนเดียวได้หรือไม่ 2. ถ้าไม่สามารถยกได้ต้องหาคนช่วยยก ไม่ควรพยายามยกโดยลำพัง 3. ตรวจสภาพบริเวณที่จะยกโดยรอบ เช่น ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทาง มีเนื้ อที่ว่างมากพอในการยกเคลื่ อนย้าย พื้ นจะต้องไม่ลื่ น เป็นต้น 4. ควรใช้เครื่องทุ่นแรงที่เหมาะสม เพื่ อลดการใช้กำลังแรงงานคน 5. จัดวางตำแหน่งวัสดุสิ่งของที่จะยก ไม่สูงเกินกว่าระดับไหล่ 6. การทำงานกับวัสดุสิ่งของที่มีน้ำหนักต่าง ๆ กัน เมื่ อยกของที่หนักแล้วให้สลับ มายกของเบาเพื่ อพักกล้ามเนื้ อ และเพื่ อช่วยลดความตึงตัวของกล้ามเนื้ อ 7. ควรใช้ถุงมือเพื่ อป้องกันขูดขีดและการถูกบาดจากของมีคม 8. สวมใส่รองเท้านิรภัยเพื่ อป้องกันการลื่ นและป้องกันการบาดเจ็บจากวัสดุ 36 สิ่งของหล่นทับ

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน การยกและเคลื่อนย้ายวัสดุ การยกของขึ้นอย่างถูกวิธีและปลอดภัย 1. ยืนชิดวัสดุสิ่งของ วางเท้าให้ถูกต้องและมีความมั่นคง 2. ย่อเข่าให้หลังเป็นแนวตรง เพื่ อให้แรงกดลงบน หมอนรองกระดูกสันหลังมีการกระจายตัวเท่าๆ กัน 3. จับวัสดุสิ่งของให้มั่นคงโดยใช้ฝ่ามือจับ 4. ควรให้แขนชิดลำตัว เพื่ อให้น้ำหนักของวัสดุสิ่งของผ่านลง ที่ต้ น ข า ทั้ ง ส อ ง ข้ า ง 5. ควรให้ตำแหน่งของศีรษะสัมพันธ์กับร่างกาย โดยให้ศีรษะ และกระดูกสันหลังอยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งจะทำให้มองเห็น ทางเดินได้ชัดเจนในขณะที่ยกขึ้นและเดิน 6. ค่อยๆ ยืดเข่า เพื่ อยืนขึ้นโดยใช้กำลังจากกล้ามเนื้ อขา และขณะที่ยืนขึ้น หลังจะอยู่ในแนวตรงหรือเป็นไปตาม ธรรมชาติ 37

ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงาน การยกและเคลื่อนย้ายวัสดุ การใช้รถลาก รถยกอย่างถูกวิธีและปลอดภัย 1. ห้ามนำรถเข็นยกของ (Hand Lift) ไปใช้ปฏิบัติสิ่งที่นอกเหนือจากหน้าที่ที่กำหนด และห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องนำรถยกออกไปใช้งาน 2. ห้ามเริ่มต้นทำงานหากยังไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในการควบคุมบังคับ รวมถึง ห้ามยกย้ายสิ่งของ ที่ไม่อยู่ในสภาพที่มีเสถียรภาพ หรือมัดรวมแบบหลวมๆ หรือยกของ หรือยกย้าย เกินกว่าสมรรถนะตามพิกัดของรถ 3. ห้ามนำรถเข็นยกของ (Hand Lift) ไปใช้ปฏิบัติงาน หากมือจับเปียกหรือลื่ น 4. ห้ามใช้รถเข็นยกของ (Hand Lift) ที่อยู่ในสภาพไม่ปลอดภัยหรือยัง ไม่ได้รับการซ่อมแซมไปใช้งาน โดยให้ปลดกุญแจรถออกเก็บไว้ต่างหาก 5. ห้ามปรับแต่งรถเข็นยกของ (Hand Lift) หรือถอดชิ้นส่วนใดของรถออกก่อนได้รับอนุญาต 6. ห้ามบรรทุกผู้โดยสารไปกับรถเข็นยกของ (Hand Lift) 7. ห้ามยืน หรือเดินผ่านใต้ส่วนที่ยกลอยสูงขึ้นยืนชิดวัสดุสิ่งของ วางเท้าให้ถูกต้องและมีความ มั่ น ค ง 8. เมื่ อลากผ่านทางลาด เปียกแฉะ หรือขรุขระ ให้เดินอย่างช้า ๆด้วย ความระมัดระวัง 9. เมื่ อถึงทางแยกหรือบริเวณมุมให้หยุดรถเพราะอาจชนกับเพื่ อนร่วมงานที่เดินผ่านมาได้ให้คน เดินก่อนเสมอ 10. ลากรถด้วยความเร็วสำหรับการเดินปกติ ห้ามวิ่งลาก 38

39

ขั้นตอนการแจ้งและรายงานอุบัติเหตุ ผู้ประสบเหตุหรือผู้ หัวหน้างานหรือผู้ที่ดูแล พบเห็นเหตุการณ์ เกิดเหตุ แจ้ง รายงานเหตุ ปฐมพยาบาล, ส่งผู้บาดเจ็บ หัวหน้างานแจ้ง เคลียร์หน้างาน, ประกันภัย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ, คู่กรณี แจ้ง แจ้ง รับแจ้งเหตุ แจ้งส่วนกลาง HQ และเจ้านาย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย แจ้ง กรณีร้ายแรง หยุดการ การดำเนินงาน, เสียชีวิต, แจ้งราชการ หยุดงานหรือใช้กองทุน เงินทดแทน สอบสวน สรุปรายงาน บันทึกเข้าระบบโดยเจ้า หน้าที่ความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย นัดสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง แชร์กรณีศึกษาแก่พนักงาน แชร์กรณีศึกษา ที่เกี่ยวข้องโดยเจ้าหน้าที่ ความปลอดภัย การแจ้งและรายงานอุบัติเหตุให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทราบภายใน 24 ชั่วโมง 40

การปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน 41

การปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน 42

การปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน กดคันโยก หรือคันบีบ ดึงสลัก ปลดสาย ส่ายปลายสาย ไปที่ฐานของไฟ43

การปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สารเคมีรั่วไหล เพลิงไหม้ การปฏิบัติขณะเกิดเหตุ ตั้งสติ ระงับเหตุเบื้องต้นด้วยตนเอง ตะโกนแจ้งเพื่อร่วมงานหรือผู้อยู่ใน แจ้งหัวหน้างาน หรือจป. บริเวณนั้นทราบ และระงับด้วยวัสดุ ดูดซับสารเคมี, ถังดับเพลิง แจ้งหัวหน้างาน หรือจป.เพื่อประเมิน สถานการณ์และประสานงานทีมระงับ เหตุ หรือหน่วยงานภายนอก ออกจากบริเวณจุดเกิดเหตุทันที ออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ไปในจุดที่ปลอดภัย รอฟังประกาศ หรือสัญญาณแจ้งอพยพ ขณะรอที่จุดปลอดภัย ให้รอฟังเสียงประกาศ ทำการอพยพไปจุดรวมพลตามขั้นตอน ปฏิบัติตามขั้นตอนการ อพยพอย่างเคร่งครัด 44

ขั้น ต อ น ก า ร อ พ ย พ ห นี ไ ฟ40 เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน มีเสียงสัญญาณอพยพ ให้พนักงานปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ STEP สัญญาณอพยพ STEP ออกจากอาคารโดยเร็ว 01 เมื่อเสียงสัญญาณดังให้ฟังเสียง 05 เมื่อถึงชั้นล่างสุดให้ออกจากอาคาร ประกาศ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และมุ่งหน้าสู่จุดรวมพลทันที STEP ลุกออกจากที่นั่ง STEP ถึงจุดรวมพล 02 ทิ้งสำภาระทั้งหมดไว้ที่โต๊ะ 06 ตรวจตรานับจำนวนสมาชิกของแผนกให้ และเดินออกจากโต๊ะ ตรงกับจำนวนที่มาทำงานในวันนั้น STEP เดินตามผู้นำอพยพ หากพบว่าสูญหายหรือยังติดอยู่ในอาคาร ให้แจ้งผู้บัญชาการเหตุฉุกเฉินทันที 03 ผู้นำอพยพถือธงนำอพยพ ให้เดินตามและออกจากห้อง เป็นแถวเรียงเดี่ยว เสียงสัญญาณอพยพเริ่มดัง พนักงานต้องทำการอพยพไป STEP เดินลงบันไดหนีไฟ ถึงจุดรวมพล ภายใน 5 นาที 04 เดินลงบันไดหนีไฟสูงสุด 2 แถวโดย ห้ามวิ่งเด็ดขาด ให้ใช้การเดินเร็วเท่านั้น 45

เ ส้น ท า ง ก า ร อ พ ย พ ห นี ไ ฟ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินมีเสียงสัญญาณอพยพดังขึ้น ให้พนักงานเดินตามเส้นทางที่กำหนด ดังนี้ ศูนย์กระจายสินค้าอุดรธานี GW-R29 จุดรวมพล GW เส้นทางที่ 2 เส้นทางที่ 1 คำอธิบายแผนผัง หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้ใช้เส้นทางอพยพดังนี้ 紧急出口ประตูทางออก 灭火器ถังดับเพลิง 1. เส้นทางออกฝั่งห้องสำนักงาน (ฝั่งขวา) ฉุกเฉิน 急救箱ตู้ยาและอุปกรณ์ 2. เส้นทางออกฝั่งซ้าย 疏散路线เส้นทางอพยพ ปฐมพยาบาล 46

การปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เบอร์โทรติดต่อฉุกเฉิน โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม 042-248-586, 1669 042-342-777, 1669 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยอุดรธานี สถานีตำรวจอุดรธานี 042-244-877, 199 042-222-285, 191 087-222-4029, 096-164-9176 042-248-463 สำนักงานอาคาร 042-117-117 คุณสมคิด ทำมา 061-043-2025 คุณธนะรัชน์ คำมูล 098-498-3137 คุณนิตินัย พาดี 064-640-0877 คุณอธิปพงศ์ บุญโสภา 098-636-2878 คุณพรพภา จอมทอง 085-003-0955 คุณณรงค์ เปี่ ยมฤทัยพินิจ 081-245-9541 47

48

กฎระเบียบด้านความปลอดภัย ใบเตือน พนักงาน : แจ้งเตือนด้วยวาจา และบันทึกลงในระบบ ผู้รับเหมา : แจ้งเตือนด้วยวาจา และบันทึกลงในระบบ ใบเหลือง พนักงาน : ทำการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร และบันทึกลงในระบบ ผู้รับเหมา : ปรับ 3,000 บาท แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร และบันทึกลงในระบบ ใบแดง พนักงาน : พักงาน 1-3 วันโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ผู้รับเหมา แจ้งโทษเป็นลายลักษณ์อักษร และบันทึกลงในระบบ : ปรับ 5,000 บาท พักงาน 1-3 วันโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน แจ้งโทษเป็นลายลักษณ์อักษร และบันทึกลงในระบบ 49

กฎระเบียบด้านความปลอดภัย 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook