เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ถงุ เงิน หอมหวล รายงงานนีเ้ ป็ นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาวิชาการค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ สาขาเทคโนโลยดี จิ ิทัลเพอ่ื การศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ถงุ เงิน หอมหวล รายงงานนีเ้ ป็ นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาวิชาการค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ สาขาเทคโนโลยดี จิ ิทัลเพอ่ื การศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564
ก คานา รายงานฉบบั น้ีจดั ทาข้ึนเพ่ือปฏิบตั ิการเขียนรายงานการคน้ ควา้ ท่ีถูกตอ้ งอยา่ งเป็ นระบบ อนั เป็ น ส่วนหน่ึงของการศกึ ษารายวิชา 01-210-017 การคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซ่ึงจะนาไปใชใ้ น การทารายงานคน้ ควา้ สาหรับรายวชิ าอ่ืนไดอ้ ีกต่อไป การท่ีผจู้ ดั ทาเลือกทาเรื่อง “เทคโนโลยีสารสนเทศทาง การศึกษา” เน่ืองด้วยในปัจจุบนั การนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยปฏิบตั ิงานในด้านต่าง ๆ อย่างมี ประสิทธิผล มีมากมายหลายดา้ น ดงั น้ัน จึงมีความจาเป็ นอยา่ งมากที่จะตอ้ งนาเสนอความรู้ความเข้าใจที่ ถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา รายงานเล่มน้ีกล่าวถึงเน้ือหาเก่ียวกับความหมาย ประเภท ความสาคัญ วัตถุประสงค์ของการ บารุงรักษาเครื่องจักร เหมาะสาหรับผูท้ ี่ตอ้ งการรับรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน ชีวติ ประจาวนั ทถ่ี ูกตอ้ ง และทราบแนวทางการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจาวนั ขอขอบคุณผชู้ ่วยศาตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ท่ีกรุณาให้ความรู้และคาแนะนาโดยตลอด และ ขอขอบคณุ บรรณารักษ์และเจา้ ท่ีของสานกั วิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนสนเทศ และห้องสมดุ คณะครุ ศาสตร์อตุ สาหกรรม ทใ่ี หค้ วามสะดวกในการคน้ หาขอ้ มูล รวมไปถึงทา่ นเจา้ ของหนงั สือ บทความ ท่ีผเู้ ขยี น ใชอ้ า้ งอิงทกุ ทา่ น หากมขี อ้ บกพร่องประการใด ผเู้ ขียนขอ้ นอ้ มรับไวเ้ พอ่ื ปรับปรุงต่อไป ถงุ เงิน หอมหวล 7 พฤศจิกายน 2564
ข สารบญั หน้า คานา.......................................................................................................................................................... ก สารบญั ....................................................................................................................................................... ข บทที่ 1 บทนา………………………………………………………………………………………..…………..1 1.1 ความหมายเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา …………………………….………………….1 1.2 ความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ ………………………………………………….………3 1.3 บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา …………………………………………...………4 1.4 ประโยชนข์ องเทคโนโลยีสารสนเทศ…………………………………………………...………12 1.5 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อชีวิตความเป็นอยแู่ ละสังคม…………………………..16 2 ข้นั ตอนของการใชเ้ ทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั ……………………………………………………….19 2.1 วิเคราะหเ์ น้ือหาของการใชเ้ ทคโนโลยี ……………………………………………………..…20 2.2 ระบคุ าสาคญั หรือคาคน้ หา เขยี นสาระสาคญั เขยี นแหลง่ อา้ งอิงของคาสาคญั ………………..…20 2.3 กาหนดช่องทางการเผยแพร่ฐานความรู้ของการใชเ้ ทคโนโลยี………………………….………20 2.4 ดาเนินการอธิบายเก่ียวกบั การใชเ้ ทคโนโลยี……………………………………………………21 2.5 ประเมนิ คุณภาพของการใชเ้ ทคโนโลยี………………………………………………..…………21 3 การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ………….………………………………………..……………23 3.1 คน้ หาความรู้และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ…………………………………………………. 23 3.2 คน้ หาทรัพยากรความรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ………………………………...…………. 25 3.3 อธิบายการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทรัพยากรความรู้………………………………………..... 27 เกี่ยวกบั การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 4 สรุป………………………………………………………………………………………………….. 29 บรรณานุกรม……………………………………………………………………………...…………… 30
บทที่ 1 บทนา เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หมายถึง กระบวนการใชเ้ ทคโนโลยใี ดๆเพื่อใหไ้ ดม้ าซ่ึงสารสนเทศ การใช้เทคโนโลยใี นชีวิตประจาวนั ในยคุ น้ีคงจะ ไม่สามารถที่จะปฏิเสธไดเ้ ลยว่าเทคโนโลยีไม่มีความจาเป็นสาหรบั การดาเนินชีวติ ของมนุษย์ เพราะทกุ คน ลว้ นใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ืออานวยความสะดวกในชีวติ ในทุก ๆ ดา้ น ต้งั แต่การตืน่ นอนจนถงึ การเขา้ นอน ดงั น้ัน เทคโนโลยีจึงเป็ นส่ิงที่จาเป็ นสาหรับมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผูท้ ี่อาศัยอยู่ในเมืองที่ชีวิตประจาวนั มีแต่ ความเร่งรีบตอ้ งแข่งขนั กับเวลา การนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงมีความจาเป็ นอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยี สมยั ใหมน่ อกจากจะช่วยอานวยความสะดวกในการทางานแลว้ ยงั ช่วยยน่ ระยะเวลาทากิจกรรม ให้ส้นั ลง แต่อย่างไรก็ตาม การนาเอาเทคโนโลยีมาใชใ้ นชีวิตประจาวนั ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะใน บางคร้ังก็นาโทษมาใหแ้ ก่มนุษยด์ ว้ ยเช่นกนั ยกตวั อยา่ งท่ีสามารถเห็นไดช้ ดั เจนกค็ งจะหนีไม่พน้ เร่ืองท่ีเป็น ขา่ วตามหนา้ หนงั สือพมิ พใ์ นเรื่องของการถกู ลวงไปขม่ ขนื โดยสาเหตุหลกั ๆ ของการถูกลอ่ ลวงไปข่มขืน ก็ เป็นผลมาจากการใชเ้ ทคโนโลยใี นทางทผ่ี ดิ ซ่ึงส่วนใหญก่ ม็ าจากการพดู คุยกนั ผา่ นทางโปรแกรมการสนทนา ออนไลน์(Chat) และจากการที่ส่ืออินเตอร์เน็ตเป็ นส่ือเสรีไม่มีองค์กรใด ๆ เขา้ มาควบคุมดูและจึงทาให้ อินเตอร์เน็ตกลายเป็นช่องทางหน่ึงในการติดต่อส่ือสารกนั ระหว่างกลุ่มคนท่ีไม่หวงั ดี เช่น กลุ่มก่อการร้าย หรือ กลมุ่ คนทีต่ อ้ งการกอ่ ดงั น้นั กลุ่มขา้ พเจา้ คิดโครงงานน้ีเพ่ือศึกษาหาความรู้ เก่ียวกบั เทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั และเพ่ือเป็น แนวทางในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทคได้อย่างถูกต้องและหลากหลาย จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีมีท้ังประโยชน์และโทษ ดังน้ันการใช้เทคโนโลยีท่ีถูกวิธีจึงเป็ นส่ิงที่สาคัญ และต้องไม่ใช้ เทคโนโลยีในทางที่ผิดทีจ่ ะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อท้งั ตนเองและผอู้ ่นื และในขณะเดียวกนั มนุษยเ์ ราก็ จะตอ้ งหันกลบั มาพ่ึงพาตวั เองบา้ ง และใชเ้ ทคโนโลยีเฉพาะเทา่ ที่จาเป็น 1.1 ความหมายของการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจาวัน 1.1.1 ทาให้งานมคี วามสะดวกรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง แม่นยา อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่นามาใชใ้ นงาน สานักงาน ได้แก่ เคร่ืองพิมพ์ดีด อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ เครื่องถ่ายเอกสาร ผลิตภัณฑ์เหล่าน้ีนาไป ประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานสานกั งานไดห้ ลายลกั ษณะ เช่น 1.งานจัดเตรียมเอกสาร เป็ นการใช้เคร่ืองประมวลผลคาหรือเครื่องประมวลผลเน้ือหา เป็ น เครื่องมือในการจดั เตรียม อปุ กรณ์ประกอบการใชเ้ ทคโนโลยีเหล่าน้ีไดแ้ ก่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ โมเด็ม และ ช่องทางการสื่อสาร ระบบประมวลผลคา แบ่งออกได้ 2 ระบบ คอื ระบบเดี่ยว (Stand – alone) เป็ นระบบท่ีสามารถประมวลผลไดภ้ ายในคอมพิวเตอร์ชุดเดียว หรือจะเช่ือมโยงไปยงั คอมพวิ เตอร์อื่น ๆ
2 ระบบเช่ือมโยงกบั ข่ายการสื่อสาร เป็นระบบที่มีการเช่ือมโยงสารสนเทศซ่ึงกนั และกนั ผ่าน เครือข่ายโทรคมนาคม เช่น เครือข่ายโทรศพั ท์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์งานกระจายเอกสาร เป็ นการกระจาย ขอ้ มูลสารสนเทศไปยงั ผูใ้ ช้ ณ จุดต่าง ๆ อาจกระทาโดยการเช่ือมโยงผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีสามารถปฏิบัติงานกระจายเอกสารได้โดยอัตโนมัติ ได้แก่ ระบบเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ งานจดั เก็บและค้นคืนเอกสาร สามารถทาได้ท้ังระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ผ่าน เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ หรือผ่านเครือขา่ ยโทคมนาคมรูปแบบอนื่ เช่นระบบฐานขอ้ มลู เป็นตน้ งานจดั เตรียมสารสนเทศในลกั ษณะภาพ เทคโนโลยสี ารสนเทศที่ใชด้ าเนินงานดงั กล่าว ไดแ้ ก่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เคร่ืองสแกนเนอร์ โทรทศั น์ งานสื่อสารสนเทศดว้ ยเสียง เช่น โทรศพั ท์ การประชุมทางโทรศพั ท์ งานส่ือสารสนเทศดว้ ยภาพและเสียง เช่น ระบบมลั ตมิ ีเดีย ระบบการประชุมทางไกลดว้ ยภาพ และเสียง เป็นตน้ 2. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานอตุ สาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การเขา้ มาช่วยในการจดั การระบบงานการผลิต การสง่ั ซ้ือ การพสั ดุการเงนิ บุคลากร และงานดา้ นอ่ืน ๆ 3. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของเครื่องเบิกถอนเงินอตั โนมตั ิ เพื่ออานวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน และนาคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เขา้ มาช่วยในการทางานประจาวนั ของ ธนาคารดว้ ยการเช่ือมโยงขอ้ มลู ของธนาคารตา่ งสาขา ต่างธนาคาร ทาให้ผใู้ ชบ้ ริการสามารถเบกิ ถอน โอน เงินชาระเงินค่าใชจ้ า่ ยตา่ ง ๆ ไดโ้ ดยสะดวก 4. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในงานดา้ นการสื่อสาร ไดแ้ ก่ การบริการโทรศพั ท์วิทยุ โทรทศั น์ เคเบิลทีวี การคน้ คืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และ โครงขา่ ยบริการส่ือสารร่วมระบบดิจิตอล 5. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานดา้ นสาธารณสุข ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ถูกนามาใช้ในระบบงานเวชระเบียน ระบบขอ้ มูลยาการรักษาพยาบาล การ คดิ เงิน รวมท้งั การส่งเวชระเบยี นผ่านระบบโทรคมนาคมที่อาจเรียกวา่ โทรเวชได้ ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนามาใช้ในการดูแลรักษาโรคระบาดในทอ้ งถิ่น เช่น เมือ่ มผี ปู้ ่ วยโรคอหิวาตกโรคในหมู่บา้ น ซ่ึงอาจกลายเป็นโรคระบาดได้ ระบบผู้เชี่ยวชาญ เป็ นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยโรค เช่น ระบบ Mycinของ มหาวิทยาลยั สแดนฟอร์ด โดยเริ่มมาใชใ้ นการวินิจฉัยโรคพืชและโรคสัตว์ ทใ่ี ช้หลกั การเก็บขอ้ มูลต่าง ๆ ไว้ โดยละเอยี ดแลว้ ใชห้ ลกั ปัญญาประดิษฐเ์ ขา้ มาช่วยวเิ คราะห์ เป็นแนวคิดในการทาให้คอมพิวเตอร์ทางานได้ เหมอื นมนุษย์
3 6. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศกบั งานดา้ นการฝึกอบรมการศึกษา การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็ นการนาเอาคาอธิบายบทเรียนมา บรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้วนาบทเรี ยนน้ันมาแสดงแก่ผู้เรี ยน เม่ือผู้เรียนอ่านคาอธิบายเหล่าน้ัน คอมพิวเตอร์จะมีส่วนที่ใช้ทดสอบความเข้าใจของผู้เรียนด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ หากเข้าใจไม่ถูกต้อง คอมพิวเตอร์จะทาการอธิบายเน้ือหาเพ่มิ เติมใหเ้ ขา้ ใจมากข้นึ แลว้ ถามซ้าอีก การศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีใช้ในการจดั การศึกษาทางไกลมีหลายแบบต้งั แต่ แบบง่าย ๆ เช่น การเรียนการสอนผ่านส่ือวิทยุ โทรทัศน์ ออกอากาศให้ผู้เรียนศึกษาเอง ตามเวลาที่ ออกอากาศ ไปจนถึงใช้ระบบแพร่ภาพการสอนผ่านดาวเทียม หรือการประยกุ ตใ์ ช้ระบบประชุมทางไกล โดยผสู้ อนและผเู้ รียนสามารถสื่อสารถึงกนั ไดท้ นั ท่ี เพือ่ สอบถามขอ้ สงสัยหรืออธิบายคาสอน เพิม่ เติม เครือข่ายการศึกษา เป็นการจดั ทาเครือขา่ ยการศึกษาเพอ่ื ใหค้ รูอาจารยแ์ ละนกั ศึกษามีโอกาสใช้ เครือข่ายเพือ่ แสวงหาความรู้ที่มอี ยมู่ ากมายในโลก และใชบ้ ริการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ทาง การศกึ ษา เช่น บริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail : E-mail) การเผยแพร่และค้นหา ข้อมูลในระบบ เวิลดไ์ วดเ์ วบ็ (World Wide Web) การใช้งานในห้องสมุด มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการดาเนินงานโดยมี เครือข่ายต่าง ๆ ที่ให้การส่งเสริมสนบั สนุนในการให้บริการห้องสมดุ การนาเทคโนโลยี สารสนเทศมาใชใ้ นห้องสมุดให้ความสะดวกแก่ผใู้ ชม้ ากข้ึน ไม่ว่าจะเป็นบริการยืม คืน การคน้ หาหนงั สือ วารสาร ส่ิงพมิ พ์ หรือการคน้ หาขอ้ มูลท่ีตอ้ งการทาไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็วมาก การใช้งานในห้องปฏิบัติการ มีการนาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทางานใน ห้องปฏิบตั ิการร่วมกบั อุปกรณ์เคร่ืองมืออื่น ๆ เช่น การจาลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟ้ า การ ควบคุม การทดลอง การใช้ในงานประจาและงานบริหาร เช่น การจดั ทาทะเบียนประวตั ิของนักเรียน นกั ศึกษา การ เลือกวชิ าเรียน การลงทะเบยี นเรียน การแสดงผลการเรียน การแนะแนวอาชีพ การแนะแนวการศึกษาตอ่ การ เก็บขอ้ มูลผปู้ กครองหรือขอ้ มูลครู ซ่ึงทาให้ครูอาจารยส์ ามารถติดตามและดูแล นักเรียนไดใ้ กลช้ ิดมากข้ึน รวมท้งั ครูอาจารยส์ ามารถพฒั นาตนเองไดส้ ูงข้ึน 1.2 ความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีพฒั นาการที่เจริญกา้ วหนา้ อยา่ งรวดเร็ว มีการปรับปรุงเคร่ืองมอื เครื่องใช้ ที่เป็นประโยชน์กบั งานสารสนเทศอยตู่ ลอดเวลา ทาใหว้ งการวชิ าชีพหนั มาปรับปรุงกลไกในวชิ าชีพของตน ให้ทนั กบั สังคมสารสนเทศ เพ่อื ให้ทนั ต่อกระแสโลก จึงทาให้เกิดการบริการรูปแบบใหมๆ่ ข้ึนมากมาย ไม่ ว่าจะเป็ นการซ้ือขายผ่านอินเตอร์เน็ต การให้บริการส่งข่าวสาร SMS หรือการโหลดเพลงผ่านเครือข่าย โทรศพั ทม์ อื ถอื นอกจากน้ีหน่วยงานต่างๆ ยงั ไดส้ ร้างระบบงานสารสนเทศในหน่วยงานของตนเองข้นึ เป็ น จานวนมาก เช่น การทาเว็บไซด์ของหน่วยงานเพ่ือใช้ประโยชน์จากสารสนเทศเหล่าน้ันเพื่อให้เกิด
4 ประโยชน์อยา่ งกวา้ งขวางและคุม้ ค่า โดยสารสนเทศเขา้ มามีบทบาทในการจดั ทากิจกรรมต่างๆ เพ่ือใช้ใน การส่ือสาร การประชาสัมพนั ธ์ การปฏิบตั ิงาน การแก้ปัญหา หรือการตดั สินใจ เพื่อการวางแผนและการ จดั การดังน้ันเทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีบทบาทและความสาคญั มากในปัจจุบัน และมีแนวโน้วที่จะมี บทบาทมากย่ิงข้ึนในอนาคต เพราะเทคโนโลยีเป็นเครื่องมอื ในการดาเนินงานสารสนเทศให้เป็นไปอยา่ งมี ประสิทธิภาพ นับต้ังแต่การผลิต การจัดเก็บ การประมวลผล การเรียกใช้ การสื่อสารสารสนเทศ การ แลกเปลี่ยนและใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกนั ให้เกิดประโยชน์อยา่ งเต็มที่ความสาคญั ของเทคโนโลยี สารสนเทศ (สุนทร แกว้ ลาย. 2531:166) พอสรุปไดด้ งั น้ี 1.ช่วยในการจดั ระบบข่าวสารจานวนมหาสารในแต่ละวนั 2.ช่วยเพม่ิ ประสิทธิภาพการผลติ สารสนเทศ 3.การจดั เรียงลาดบั สารสนเทศ ฯลฯ 4.ช่วยในการจดั เกบ็ สารสนเทศไวใ้ นรูปท่ีเรียกใชไ้ ดท้ กุ คร้ังอยา่ งสะดวก 5.ช่วยในการจดั ระบบอตั โนมตั ิ เพอื่ การจดั เกบ็ การประมวลผล และการเรียกใชสารสนเทศ 6.ช่วยในการเขา้ ถึงสารสนเทศไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากข้นึ 7.ช่วยในการสื่อสารระหว่างกนั ไดอ้ ย่างสะดวก รวดเร็ว ลดอุปสรรคเกี่ยวกบั เวลาและระยะทาง โดยใชร้ ะบบโทรศพั ท์ และอื่นๆ 1.3 บทบาทเทคโนโลยสี ารสนเทศต่อการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทต่อการศึกษาอย่างมากโดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้าน คอมพวิ เตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคม มบี ทบาททส่ี าคญั ตอ่ การพฒั นาการศึกษาดงั น้ี 1. เทคโนโลยีสารสนเทศไดเ้ ขา้ มามีส่วนร่วมช่วยเร่ืองการเรียนรู้ ปัจจุบนั เครื่องมือที่ช่วยสนบั สนุนการ เรียนรู้หลายดา้ น มีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบสนับสนุนการรับรู้ข่าวสาร เช่น การคน้ หา ขอ้ มูลขา่ วสารเพอื่ การเรียนรู้ใน World Wide Web เป็นตน้ 2. เทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาสนบั สนุนการจดั การศึกษา โดยเฉพาะการจดั การศึกษาสมยั ใหม่จาเป็ น ตอ้ งอาศยั ขอ้ มลู ข่าวสารเพื่อการวางแผน การดาเนินการ การติดตามผลและประเมินผลซ่ึงอาศยั คอมพิวเตอร์ และระบบส่ือสารโทรคมนาคมเขา้ มามบี ทบาททส่ี าคญั 3. เทคโนโลยีสารสนเทศกบั การสื่อสารระหว่างบุคคล ในเกือบทุกวงการท้งั ดา้ นการศึกษาจาเป็ นตอ้ ง อาศยั สื่อสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคล เช่น การส่ือสารระหว่างผสู้ อนกบั ผเู้ รียน โดยใช้องคป์ ระกอบท่ีสาคญั ช่วย สนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพในการดาเนินงาน เช่น การใช้โทรศพั ท์ โทรสาร ไปรษณียอ์ ิเล็กทรอนิกส์ เทเลคอม เฟอเรนซ์ เป็นตน้ ประโยชน์อย่างหน่ึงของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศควบคู่ไปกบั การเรียนรู้ในห้องเรียนแบบเดิมก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเรียนรู้ของผเู้ รียนโดยการสนบั สนุนให้ผเู้ รียนไดร้ ับการเรียนรู้แบบมีการ โตต้ อบและเป็นแบบเห็นจริงอนั จะเอ้ืออานวยให้เขา้ ใจแนวความคิดทีซ่ ับซอ้ นและไดร้ ับขอ้ มูลความรู้อยา่ ง ถูกตอ้ งมากกว่าการนั่งฟังบรรยายเพียงอยา่ งเดียวเนื่องจากว่าการศึกษาในหลายสาขาวิชาน้ันตอ้ งการการ
5 อบรมที่ให้เห็นเสมือนเป็นการทางานจริงคือมีการโตต้ อบและแสดงผลโดยภาพกราฟิ กที่มีคุณภาพดี หรือ ภาพเคลอ่ื นไหวรวมถงึ การมีแบบทดสอบเพือ่ วดั ความรู้ของตนเอง ระบบการเรียนการสอนแบบ e-learning เป็นส่วนหน่ึงของการนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ น กระบวนการจดั การเรียนการสอนผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ซ่ึงอาจเป็ นไดท้ ้งั สื่อแบบ offline, online หรือweb- based หรือแมแ้ ต่ผา่ นเครื่องใช้ไฟฟ้ าหลายๆชนิดเช่นโทรทศั น์,วิทย,ุ เทป,ซีดีรอมหรือแมแ้ ต่โทรศพั ท์ มือถือ ทต่ี ่อเช่ือมกบั อินเตอร์เน็ตไดร้ วมถึงการติดต่อผ่านระบบดาวเทียมท่ีไม่ไดม้ ีการพิมพอ์ อกมาเป็นหนังสือทา ให้การปรบั ปรุงแกไ้ ขทาไดโ้ ดยสะดวกและรวดเร็ว ดงั น้ันจึงอาจกล่าวไดว้ ่าการจัดการเรียนการสอนด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็ นการจัด การศกึ ษาทเี่ ป็นการศึกษาตลอดชีวติ นนั่ คือการจดั การศกึ ษาในภาพรวมท้งั หมดที่เกิดจากการผสมผสาน_ ระหว่างการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั ที่จดั ให้แก่บุคคลทุกช่วงอายุ ต้งั แตเ่ กิดจนตายเพ่ือมุ่งพฒั นาบุคคลอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพให้มคี วามรู้ ทกั ษะและประสบการณ์อยา่ งเพียงพอต่อ การดารงชีวิตการประกอบอาชีพและการปรบั ตวั เขา้ กบั สภาพสังคมส่ิงแวดลอ้ มที่เปล่ียนแปลงไปไดอ้ ย่าง เหมาะสมในทุกช่วงชีวิต เทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทต่อการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้าน คอมพิวเตอร์และการส่ือสารโทรคมนาคมมีบทบาททส่ี าคญั ต่อการพฒั นาการศึกษา ดงั น้ี 1. เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนช่วยเรื่องการเรียนรู้ ปัจจุบันมีเคร่ืองมือท่ีช่วยสนับสนุนการ เรียนรู้ หลายดา้ น มีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ระบบสนับสนุนการรับรู้ข่าวสาร เช่น การคน้ หา ขอ้ มลู ขา่ วสารเพอ่ื การเรียนรู้ใน World Wide Web เป็นตน้
6 2. เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาสนบั สนุนการจดั การศึกษา โดยเฉพาะการจดั การศกึ ษาสมยั ใหมจ่ าเป็น ตอ้ งอาศยั ขอ้ มูลข่าวสารเพ่ือการวางแผน การดาเนินการ การติดตามและประเมินผลซ่ึงอาศยั คอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารโทรคมนาคมเขา้ มามีบทบาทท่สี าคญั 3. เทคโนโลยีสารสนเทศกบั การส่ือสารระหวา่ งบุคคล ในเกือบทุกวงการท้งั ทางดา้ นการศึกษาจาเป็น ตอ้ งอาศยั สื่อสัมพนั ธร์ ะหว่างตวั บคุ คล เช่น การส่ือสารระหวา่ งผสู้ อนกบั ผเู้ รียน โดยใชอ้ งคป์ ระกอบ ท่ีสาคัญช่วยสนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพในการดาเนินงาน เช่น การใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ อิเลก็ ทรอนิกส์ เทเลคอมเฟอเรนซ์ เป็นตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการศึกษาสาหรับคนพิการ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสาหรับคนพิการตอ้ งปรับใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ความสามารถที่คนพกิ าร มีอยู่ เช่น ทานาฬิกาให้พูดบอกเวลาไดห้ รือมีการสั่นสะเทอื นผกู ไวก้ บั ขอ้ มือ สาหรับคนพิการหูหนวก หูตึง เป็นตน้ การยอมรับและการเผยแพร่การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสาหรับคนพิการมีประเด็นสาคญั ที่จะนา ไปสู่ความสาเร็จ 3 ประการ คอื 1. การยอมรับของคนพิการ หมายถึง การยอมรับเทคโนโลยี หรือพยายามปรบั ตวั เขา้ รับเทคโนโลยี หรือพยายามปรับตวั เข้ารับเทคโนโลยี รวมถึงความต้ังใจจริงยอมรับการฝึ กหัดยอมอดทนฝึ กฝนการใช้ เทคโนโลยีน้นั จนชานาญ และเกิดผลประโยชน์แก่ตน 2. การจดั สรรเทคโนโลยที ่ีเหมาะสม หมายถงึ การท่ีรัฐหรือหน่วยงานสามารถจดั เทคโนโลยีเหล่า น้นั ให้คนพิการไดอ้ ย่างเหมาะสมมีคณุ ภาพและเพียงพอ 3. การมีนกั วิชาการสอนเทคโนโลยี หมายถึง คนที่
7 สอนเทคนิคการใช้หรือทาหน้าท่ีปรับไดเ้ พื่อคนพิการจนคนพิการใช้ได้ผลดี สามารถสอนจนคนพิการ สามารถเรียนรู้ได้ เม่อื กล่าวถงึ เทคโนโลยีสารสนเทศทส่ี อดคลอ้ งกบั คนพิการ อาจจาแนกไดด้ งั ตอ่ ไปน้ี 1. คอมพิวเตอร์ ซ่ึงมลี กั ษณะทวั่ ไปไมแ่ ตกต่างจากทค่ี นปกติใชก้ นั อยู่ อาทิ ระบบปฏิบตั ิการท่ีเป็น DOS, Windows, Macintosh, Unix หรืออ่ืนๆ แต่คอมพิวเตอร์สาหรับคนพิการ เช่น ตาบอด ได้รับการ ออกแบบพิเศษ สาหรับผูท้ ี่เคยชินกับการใช้แป้ นพิมพ์ท่ีเป็ นอักษรเบรลล์ ซ่ึงเป็ นลักษณะท่ีแตกต่างจาก แป้ นพิมพท์ วั่ ๆ ไป 2. อปุ กรณช์ ่วยเป็นอุปกรณ์อานวยความสะดวกในการทางานกบั เครื่องคอมพิวเตอร์ (ใชแ้ ทนจอมอนิเตอร์ท่คี นทว่ั ไปสามารถอา่ นไดด้ ว้ ยตา) 2.1 เครื่องสงั เคราะหเ์ สียง (Speech Synthesizer 2.2 เบรลลเ์ อาตพ์ ตุ (Braille Output) 3. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ท่ีออกแบบมาทาหนา้ ที่เฉพาะดงั ต่อไปน้ี 3.1 เคร่ืองอา่ นหนา้ จอ (Screen Reader) 3.2 เคร่ืองขยายหนา้ จอ (Screen Enlarge ment) 3.3 เคร่ืองแปลอกั ษรเบรลล์ (Braille Translation) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศึกษา เทคโนโลยสี ารสนเทศทน่ี ามาใชส้ าหรับการสอนเป็นการใช้เทคโนโลยีสมยั ใหมห่ ลายอยา่ ง ทาให้การ เรียนการสอนดว้ ยอุปกรณ์ท่ีทนั สมยั ห้องเรียนสมยั ใหม่ มีอุปกรณ์วิดีโอโปรเจคเตอร์ (Video Projector) มี เครื่องคอมพิวเตอร์ มีระบบอ่านขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์แบบต่างๆ รูปแบบของการส่ือสารที่นามาใช้ในการ เรียนการสอนก็มีหลากหลาย ข้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสมในการนามาใช้ เช่น มลั ติมีเดีย อิเล็กทรอนิกส์ วดิ ีโอ เทเลคอนเฟอเรนซ์ ระบบวิดีโอออนดีมานด์ ไฮเปอร์เทกซ์ คอมพิวเตอร์ และระบบอนิ เตอร์เน็ต เป็นตน้ 1. คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน คอมพวิ เตอร์ช่วยสอนเป็นการนาเอาเทคโนโลยีรวมกบั การออกแบบโปรแกรมการสอนมาใชช้ ่วยสอน ซ่ึงเรียกกนั โดยทวั่ ไปว่าบทเรียน ซีเอไอ ยอ่ มาจากคาในภาษาองั กฤษวา่ Computer-Assisted Instruction หรือ เรียกยอ่ ๆ วา่ ซีเอไอ(CAI) การจดั โปรแกรมการสอนโดยใชค้ อมพวิ เตอร์ช่วยสอนในปัจจบุ นั มกั อยใู่ นรูปของ ส่ือประสม (Multimedia) น้ันหมายถึงนาเสนอไดท้ ้งั ภาพ ขอ้ ความ เสียง ภาพเคล่ือนไหวฯลฯโปรแกรมช่วย สอนน้ีเหมาะกบั การศึกษาดว้ ยตนเอง และเปิ ดโอกาสให้ผเู้ รียนสามารถโตต้ อบกบั บทเรียนไดต้ ลอดจนมผี ล ป้ อนกลบั เพอ่ื ให้ผเู้ รียนรู้ บทเรียนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เขา้ ใจในเน้ือหาวชิ าของบทเรียนน้นั ๆ
8 ลกั ษณะคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจึงเป็นบทเรียนที่ช่วยในการเรียนการสอน และมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ช่วยจดั บทเรียนใหเ้ ป็นระบบและเหมาะสมกบั นกั เรียนแต่ละคน โดยมลี กั ษณะสาคญั ๆ ดงั น้ี 1. เร่ิมจากสิ่งทีร่ ู้ไปสู่ส่ิงทีไ่ ม่รู้ จดั เน้ือหาเรียงไปตามลาดบั จากง่ายไปสู่ยาก 2. การเพิ่มเน้ือหาใหก้ บั ผเู้ รียนตอ้ งค่อยๆ เพ่ิมทลี ะนอ้ ย และมีสาระใหม่ไม่มากนกั นกั เรียนสามารถเรียนรู้ได้ ดว้ ยตนเองอยา่ งเขา้ ใจ 3. แตล่ ะเน้ือหาตอ้ งมีการแนะนาความรู้ใหมเ่ พยี งอยา่ งเดียวไมใ่ ห้ท่ีละมากๆ จนทาใหผ้ เู้ รียนสบั สน 4. ในระหว่างเรียนต้องให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับบทเรียน เช่น มีคาถามมีการตอบมีทาแบบฝึ กหัด แบบทดสอบ ซ่ึงทาใหผ้ เู้ รียนสนใจอยกู่ บั การเรียนไมน่ ่าเบอ่ื หน่าย 5. การตอบคาถามที่ผิด ตอ้ งมีคาแนะนาหรือทบทวนบทเรียนเก่าอีกคร้ัง หรือมีการเฉลย ซ่ึงเป็ นการเพ่ิม เน้ือหาไปดว้ ย ถา้ เป็นคาตอบทถ่ี ูกผเู้ รียนไดร้ บั คาชมเชย และไดเ้ รียนบทเรียนต่อไปทีก่ า้ วหนา้ ข้นึ 6. ในการเสนอบทเรียนตอ้ งมกี ารสรุปทา้ ยบทเรียนแต่ละบทเรียนช่วยให้เกิดการวดั ผลไดด้ ว้ ยตนเอง 7. ทุกบทเรียนตอ้ งมีการกาหนดวตั ถุประสงคไ์ วใ้ ห้ชดั เจน ซ่ึงช่วยให้แบ่งเน้ือหาตามลาดบั ไดด้ ีระบบการ เรียนการสอนทางไกล ประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน การนาเอาคอมพวิ เตอร์มาช่วยในการสอนมปี ระโยชน์หลายประการดงั น้ี 1. ทาใหน้ กั เรียนไดม้ ีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนการสอนมากข้นึ 2. ทาให้นกั เรียนสามารถเลือกเรียนไดห้ ลายแบบตามความถนดั ของแต่ละบคุ คล 3. ทาใหไ้ ม่เปลืองสมองในการทอ่ งจาสิ่งทไ่ี มค่ วรตอ้ งจา ใชส้ มองในการคดิ วเิ คราะห์และตดั สินใจแทน 4. ทาให้สามารถปรบั ปรุงเปลยี่ นแปลงการเรียนการสอนไดเ้ หมาะสมกบั แต่ละบุคคล 5. ทาใหผ้ เู้ รียนมอี ิสระภาพในการเรียน ไมต่ อ้ งคอยครู อาจารย์ ผเู้ รียนสามารถเรียนรู้ไดท้ ุกเวลาทตี่ อ้ งการ 6. ทาให้ผเู้ รียนสามารถสรุปหลกั การ เน้ือหา สาระของบทเรียนแตล่ ะบทเรียนได้ 2. การใช้มลั ติมีเดียเพ่ือการเรียนการสอน การใชม้ ลั ติมเี ดียเพ่ือเพิ่มทางเลือกในการเรียนการสอนและสนองต่อรูปแบบของการเรียนการสอนของ นักเรียนที่แตกต่างกัน การจาลองสภาพการณ์ของวิชาต่างๆ เป็ นวิธีการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนได้รับ ประสบการณ์ตรงตอ่ การลงมอื ปฏิบตั จิ ริง โดยสามารถที่จะทบทวนข้นั ตอนและกระบวนการไดเ้ ป็นอย่างดี
9 นกั เรียนอาจเรียนหรือฝึกซ้าได้ และใช้มลั ติมเี ดียในการฝึกภาษาต่างประเทศโดยเนน้ เรื่องของการออกเสียง และฝึ กพูด มลั ติมีเดียสามารถเช่ือมทฤษฏีและการปฏิบตั ิเขา้ ดว้ ยกนั คือ ให้โอกาสผใู้ ชบ้ ทเรียนไดท้ ดลองฝึกปฏิบตั ิ ในสิ่งท่ีได้เรียนในห้องเรียน และช่วยเปลี่ยนผูใ้ ช้บทเรียนจากสภาพการเรียนรู้ในเชิงรับ มาเป็ นเชิงรุก ใน ดา้ นของผูส้ อนใช้ มลั ติมีเดียในการนาเสนอการสอนในช้ันเรียนแทนการสอนโดยใชเ้ คร่ืองฉายภาพขา้ ม ศีรษะ ท้งั น้ีเน่ืองจากมลั ตมิ ีเดียจะสามารถนาเสนอความรู้ในหลายส่ือและเสมือนจริงไดม้ ากกว่าสื่อประเภท แผ่นใสเพยี งอยา่ งเดียว ดงั น้นั จึงอาจสรุปไดว้ า่ การทม่ี ลั ตมิ ีเดียแทนขอ้ มูลข่าวสารไดม้ ากและน่าสนใจ ตลาดของมลั ตมิ ีเดียจึง กว้างขวางและเป็ นตลาดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในวงการศึกษา มัลติมีเดียมีความเหมาะสมสาหรับ องคป์ ระกอบการเรียนรู้เป็นอยา่ งย่ิง เพราะเป็นส่ือเพอ่ื การเรียนรู้โดยตอบรบั ประสาทสัมผสั ไดม้ ากกว่า_ มลั ติมีเดียจึงเป็นส่ือทางการเรียนการสอนและการศึกษาท่มี ขี อบเขตกวา้ งขวาง เพ่ือทางเลือกในการ เรียนและการสอน สามารถสนองต่อรูปแบบของการเรียนการสอนของนกั เรียนทีแ่ ตกต่างกนั ได้ สามารถจา ลองสภาพการณ์ของวิชาต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ได้ นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงก่อนลงมือปฏิบัติจริง สามารถท่จี ะทบทวนข้นั ตอนและกระบวนการไดเ้ ป็นอยา่ งดี จึงกล่าวไดว้ ่า มลั ติมีเดียมีความเหมาะสมที่นา มาใชใ้ นการสอนและการศกึ ษา 3. อเิ ลก็ ทรอนิกส์บ๊คุ พฒั นาการดา้ นหน่ึงคือการเก็บข้อมูลจานวนมากดว้ ยซีดีรอม ซีดีรอมหน่ึงแผ่นสามารถเก็บขอ้ มูล ตวั อกั ษรไดม้ ากถึง 600 ลา้ นตวั อกั ษร ดังน้นั ซีดีรอมหน่ึงแผ่นสามารถเก็บขอ้ มูลหนังสือ หรือเอกสารได้ มากกว่าหนงั สือหน่ึงเลม่ และที่สาคญั คือการใชค้ อมพิวเตอร์ทาใหส้ ามารถเรียกคน้ หาขอ้ มลู ภายในซีดีรอม ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ดชั นี สืบค้นหรือสารบัญเรื่อง ซีดีรอมจึงเป็ นสื่อท่ีมีบทบาทต่อการศึกษาอย่างย่ิง เพราะในอนาคตหนังสือต่างๆจะจดั เก็บอยใู่ นรูปซีดีรอม และเรียกอ่านดว้ ยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า อิเล็กทรอนิกส์บุ๊ค ซีดีรอมมีขอ้ ดีคือ สามารถจดั เกบ็ ขอ้ มูลในรูปของมลั ติมีเดีย และเมื่อนาซีดีรอมหลายแผ่น ใส่ไวใ้ นเคร่ืองอ่านชุดเดียวกนั ทาให้ซีดีรอมสามารถขยายการเก็บขอ้ มลู จานวนมากยิ่งข้ึนได้ ปัจจบุ นั แนวโนม้ ดา้ นราคาของซีดีรอมมแี นวโนม้ ถูกลงเรื่อยๆ จนแน่ใจว่าสื่อซีดีรอมจะเป็นสื่อทีน่ ามา ใชแ้ ทนหนงั สือท่ีใชก้ ระดาษในอนาคต ท้งั น้ีเชื่อว่า ส่ือท่ีใชก้ ระดาษมีแนวโนม้ ราคาสูงข้นึ ในการประยกุ ตอ์ ิเล็กทรอนิกส์บุคมาใช้ทางการศึกษา มกั ใช้เพื่อเป็นส่ือแทนหนังสือ หรือตารา หรือ ใช้เพ่ือเป็ นสื่อเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เรียนนาแผ่นซีดีท่ีบรรจุข้อมูลหนังสือท้ังเล่มมาอ่านด้วย คอมพวิ เตอร์ และเมอื่ ตอ้ งการขอ้ มลู ส่วนใดก็สามารถคดั ลอกและอา้ งอิงนามาใชไ้ ดท้ นั ทีโดยไม่ตอ้ งจดั พมิ พ์ ใหม่ โปรแกรมประยกุ ต์ในปัจจุบนั ท่ีใชอ้ า่ นขอ้ มูลท่ีจดั เก็บในแผ่นซีดีรอม ไดแ้ ก่ Acrobat Reader, Nescape Navigator, Internet Explorer เป็นตน้ 4. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
10 การเรียนการสอนทางไกล หมายถึง การเรียนการสอนท่ีผเู้ รียนและผสู้ อนอยไู่ กลกนั ใช้วิธีการถ่ายทอด เน้ือหาสาระ และประสบการณ์โดยอาศัยสื่อประสมในหลายรูปแบบได้แก่สื่อที่เป็ นหนังสือ ส่ือทาง ไปรษณีย์ ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ วทิ ยกุ ระจายเสียง โทรทศั น์ การประชุมทางไกลดว้ ยภาพและเสียง (Video Conference) อนิ เตอร์เนต็ เป็นตน้ ช่วยใหผ้ เู้ รียนท่ีอยตู่ า่ งถ่ินต่างทกี่ นั สามารถศกึ ษาความรู้ได้ องค์ประกอบทส่ี าคญั ของระบบการเรียนการสอนทางไกล มดี งั น้ี 1. ผูเ้ รียนเน้นผูเ้ รียนเป็ นศูนยก์ ลางท่ีมีอิสระในการกาหนด เวลา สถานท่ี และวิธีเรียนโดยผูเ้ รียน สามารถเรียนรู้จากแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ไดห้ ลายรูปแบบ เช่น จากการสอนสดโดยผ่านการสื่อสาร ทางไกลและเรียนผา่ นระบบสารสนเทศทางอนิ เตอร์เนต็ เป็นตน้ 2. ผสู้ อนเน้นการสอนโดยใช้การสื่อสารทางไกลแบบ 2 ทางและอาศยั สื่อหลากหลายชนิดซ่ึงช่วยให้ ผเู้ รียนไดด้ ว้ ยตนเองหรือเรียนเสริมภายหลงั ได้ 3. ระบบบริหารและการจดั การ จดั โครงสร้างอ่ืนๆ เพื่อเสริมการสอน เช่น การจดั ศูนย์วิทยบริการ จดั ระบบอาจารยท์ ปี่ รึกษาระบบการผลิตส่ือ และจดั ส่งสื่อให้ผเู้ รียนโดยตรง เป็นตน้ 4. การควบคุมคุณภาพจดั ทาอย่างเป็ นระบบและดาเนินการต่อเน่ืองสม่าเสมอโดยเน้นการควบคุม คณุ ภาพดา้ นขององคป์ ระกอบของการสอน เช่น ข้นั ตอนการวางแผนงานละเอียดกระบวนการเรียนการสอน วิธีการประเมินผลและการปรับปรุงกระบวนการ เป็ นต้น 5. การติดต่อระหว่างผู้เรียน ผู้สอน และ สถาบนั การศกึ ษาเป็นการตดิ ตอ่ แบบ 2 ทาง โดยใชโ้ ทรทศั น์ โทรสาร ไปรษณียอ์ เี ลก็ ทรอนิกส์ เป็นตน้ 5. วดิ โี อเทเลคอนเฟอเรนซ์ วดิ ีโอเมเลคอนเฟอเรนซ์ หมายถึง การประชุมทางจอภาพโดยใชเ้ ทคโนโลยีการส่ือสารกนั ไดผ้ ่านทาง จอการประชุมร่วมกนั ระหว่างบุคคลหรือคณะบุคคลท่ีอยู่ต่างสถานที่และห่างไกลคนละซีกโลก ด้วยสื่อ ทางดา้ นมลั ติมีเดียท่ีให้ท้งั ภาพเคล่ือนไหว ภาพนิ่ง เสียง และขอ้ มลู ตวั อกั ษรในการประชุมเวลาเดียวกนั และ เป็นการสื่อสาร 2 ทาง จึงทาใหด้ เู หมือนวา่ ไดเ้ ขา้ ร่วมประชุมร่วมกนั ตามปกติ ดา้ นการศึกษาวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ ทาให้ผเู้ รียนและผสู้ อนสามารถติดต่อส่ือสารกนั ไดผ้ ่านทาง จอภาพ โทรทศั น์และเสียงง นกั เรียนในห้องเรียนท่ีอยู่ห่างไกลสามารถเห็นภาพและเสียงของครู สามารถ เกบ็ อากบั กิริยาของผสู้ อน เห็นการเคล่ือนไหวและสีหนา้ ของครูในขณะเรียน
11 คณุ ภาพของภาพและเสียงข้ึนอยกู่ บั ความเร็วของช่องทางการสื่อสารท่ีใชเ้ ช่ือมตอ่ ระหว่างสองฝั่งที่มี การประชุมกนั ไดแ้ ก่ จอโทรทัศน์ หรือจอคอมพิวเตอร์ ลาโพง ไมโครโฟน กล้อง อุปกรณ์เขา้ รหัสและ ถอดรหสั ผา่ นเครือข่ายการสื่อสารความเร็วสูงแบบไอเอสดีเอน็ (ISDN) องค์ประกอบพนื้ ฐานของวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ ประกอบดว้ ย 2 ส่วน คอื 1. เครือขา่ ยโทรคมนาคม มหี นา้ ทีเ่ ชื่อมสัญญาณจากผรู้ ่วมประชุมแตล่ ะฝ่ายเขา้ ดว้ ยกนั เพอื่ การประชุม 2. อปุ กรณ์เชื่อมต่อ (Terminal) เป็นอปุ กรณ์ดา้ นทางและปลายทาง ทาหนา้ ทรี่ ับและถา่ ยทอดภาพ และ เสียง ไดแ้ ก่ จอโทรทศั น์ เครื่องฉาพภาพนิ่ง กลอ้ งวิดีทศั น์ ไมโครโฟน เป็นตน้ รูปภาพ แสดงอปุ กรณเ์ ชื่อมตอ่ (Terminal) ของระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ 6. อนิ เตอร์เนต็ เพ่อื การศึกษา 1. การใช้เป็ นระบบส่ือสารส่วนบุคคล บนอินเตอร์เน็ตมีอิเล็กทรอนิกส์เมล์หรือเรียกย่อๆว่า อีเมล์ (E- mail) เป็ นระบบที่ทาให้การสื่อสารระหว่างกนั เกิดข้ึนได้ง่าย แต่ละบุคคลจะมีตู้จดหมายเป็ นของตัวเอง สามารถส่งขอ้ ความถึงกนั ผ่านในระบบน้ีโดยส่งไปยงั ตูจ้ ดหมายของกันและกันนอกจากน้ียงั สามารถ ประยกุ ตไ์ ปใชท้ างการศึกษาได้ 2. ระบบข่าวสารบนอินเตอร์เน็ต มีลกั ษณะเหมือนกระดานข่าวที่เชื่อมโยงถึงกนั ทว่ั โลกทกุ คนสามารถ เปิ ดกระดานขา่ วท่ีตนเองสนใจหรือสามารถส่งข่าวสารผ่านกลุ่มข่าวบนกระดานน้ีเพ่อื โตต้ อบข่าวสารกนั ได้ 3. การใช้เพ่ือสืบคน้ ข้อมูลข่าวสารต่างๆ บนอินเตอร์เน็ตมีแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ท่ีเช่ือมโยงกัน และ ติดต่อกับห้องสมุดทั่วโลกทาให้การคน้ หาข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
12 หมายถึงสามารถคน้ หาและไดม้ าซ่ึงขอ้ มลู โดยใชเ้ วลาอนั ส้ันโดยเฉพาะบนอินเตอร์เน็ตจะมีคาหลกั (Index) ไวใ้ หส้ าหรับการสืบคน้ ทรี่ วดเร็ว 4. ฐานขอ้ มูลเครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web) เป็นฐานขอ้ มลู แบบเอกสาร(Hypertext) และแบบมี รูปภาพ (Hypermedia) จนมาปัจจุบนั ฐานขอ้ มลู เหล่าน้ีไดพ้ ฒั นาข้ึนจนเป็นแบบมลั ตมิ เี ดีย(Multimedia) ซ่ึงมี ท้งั ขอ้ ความ รูปภาพ วีดีทศั น์ และเสียงผใู้ ชเ้ ครือข่ายน้ีสามารถสืบคน้ กนั ไดจ้ ากทต่ี ่างๆ ทวั่ โลก 5. การพูดคุยแบบโตต้ อบหรือคุยเป็นกลุ่ม บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่อกนั และพูดคยุ กนั ได้ ดว้ ยเวลาจริง ผพู้ ดู สามารถพิมพข์ อ้ ความโตต้ อบกนั ไดไ้ มว่ ่าจะอยทู่ ่ีใดบนเครือขา่ ย 6. การส่งถ่ายขอ้ มูลระหว่างกนั แบบ FTP (Files Transfer Protocol) คือสามารถทจี่ ะโอนยา้ ยถา่ ยเทขอ้ มูล ระหว่างกนั เป็นจานวนมากๆ ได้ โดยส่งผา่ นระบบเครือขา่ ยอินเตอร์เนต็ ซ่ึงทาให้สะดวกตอ่ การรับ-ส่งขอ้ มูล ขา่ วสารซ่ึงกนั และกนั โดยไมต่ อ้ งเดินทางและขา่ วสารถงึ ผรู้ บั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วยง่ิ ข้ึน 7. การใชท้ รัพยากรทหี่ ่างไกลกนั ผเู้ รียนอาจเรียนอยู่ท่ีบา้ นและเรียกใชข้ อ้ มูลที่เป็นทรัพยากรการเรียนรู้ ของมหาวิทยาลยั ได้ และยงั สามารถขอใชท้ รัพยากรคอมพวิ เตอร์ในตา่ งมาวทิ ยาลยั ได้ 1.4 ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ การนาเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้กับสังคมสารนิเทศใน ปัจจุบันก่อให้เกิดการสื่อสารและการใช้ ประโยชน์ จากสารนิเทศไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ และมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารนิเทศมีดงั ต่อไปน้ี คอื 1. ช่วยให้ติดต่อส่ือสารระหว่างกนั อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยใช้โทรศพั ท์ คอมพิวเตอร์หรือในรูปของ สิ่งพิมพต์ า่ ง ๆ 2. ช่วยในการจดั ระบบข่าวสารจานวนมหาศาล ซ่ึงผลติ ออกมาในแต่ละวนั 3. ช่วยให้เกบ็ สารนิเทศไวใ้ นรูปท่สี ามารถเรียกใชไ้ ดค้ ร้งั แลว้ คร้งั เลา่ อยา่ งสะดวก 4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสารนิเทศ เช่น ช่วยนกั วทิ ยาศาสตร์ วศิ วกร ดว้ ยการช่วยคานวณตวั เลขท่ียงุ่ ยาก ซบั ซอ้ นซ่ึงไมส่ ามารถทาใหส้ าเร็จไดด้ ว้ ยมอื 5. ช่วยให้สามารถจดั ระบบอตั โนมตั เิ พือ่ การเกบ็ เรียกใชแ้ ละประมวลผลสารนิเทศ 6. สามารถจาลองแบบระบบการวางแผนและทานาย เพือ่ ทดลองกบั สิ่งทยี่ งั ไม่เกิดข้นึ 7. อานวยความสะดวกในการเขา้ ถึงสารนิเทศดีกวา่ สมยั ก่อน ทาให้ผใู้ ชส้ ารนิเทศมี ทางเลือกท่ีดีกว่า มปี ระสิทธิภาพกวา่ และสามารถแขง่ ขนั กบั ผอู้ ่ืนไดด้ ีกวา่ 8. ลดอุปสรรคเก่ียวกบั เวลาและระยะทางระหวา่ งประเทศ เทคโนโลยีสารนิเทศเบ้ืองตน้ ที่ควรนามาใช้ในการดาเนินงานทวั่ ๆไป คือการใชเ้ คร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ ในการจดั การขอ้ มลู
13 ในบรรดาองคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารนิเทศท้งั หมดคอมพิวเตอร์นบั ว่ามบี ทบาทมากท่ีสุดต่อการ เป็ นองค์ประกอบท่ีสาคญั คอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณ์สื่อสารนิเทศท่ีมีบทบาทอย่างมากต่อสังคมสารนิเทศ คอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงสภาพการให้บริการสารนิเทศในห้องสมุดจากการเสียเวลาสืบคน้ สารนิเทศหลาย ๆ นาทหี รือหลายชว่ั โมงมาเป็นเสียเวลาเพียงไม่กี่วินาที คอมพิวเตอร์เปลย่ี นแปลงสภาพความเป็นอยขู่ องคน ในสังคมเป็ นเคร่ืองมอื ในการดารงชีวิตท่ีมีบทบาทย่ิงกว่าเคร่ืองมือหรืออุปกรณใ์ ด ๆ ท่ีมนุษยไ์ ดผ้ ลิตข้ึนใช้ ในโลกมาก่อน คนในสังคมสมัยสังคมสารนิเทศจะเห็นพฒั นาการด้านน้ีได้อยา่ งเด่นชัด นับต้ังแต่มีการ ประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ข้ึนใช้เป็นคร้ังแรก คอมพิวเตอร์ไม่ใช่เพียงส่ิงประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์เท่าน้ัน แต่กลบั เป็ นสิ่งท่ีคนในสังคมสารนิเทศตอ้ งรู้จกั และมีส่วนเกี่ยวขอ้ งดว้ ยอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ เป็นอุปกรณ์ และองค์ประกอบที่สาคัญของเทคโนโลยีสารนิเทศที่บรรณารักษ์จะต้องนามาใช้อยู่ตลอดเวลา เคร่ือง คอมพิวเตอร์ไดร้ บั การพฒั นามาโดยลาดบั ต้งั แต่ยคุ แรก (พ.ศ. 2487-2501) จนถงึ ยคุ ปัจจบุ นั (พ.ศ. 2531 เป็น ตน้ มา) ไดม้ ีการนาเครื่อง คอมพวิ เตอร์มาใชง้ านกนั อยา่ งแพร่หลาย เช่น งานจดั การเอกสารขอ้ มลู แบบ ตา่ ง ๆ งานระบบสารนิเทศเพื่อการจดั การและงานดา้ นระบบสนับสนุนการตดั สินใจ (Decision Support System) เป็นตน้ และจากการแขง่ ขนั ในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กทาให้เครื่องคอมพวิ เตอร์มรี าคาถูก และ สามารถใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายเป็นสิ่งหน่ึงทจี่ าเป็นในสงั คมสารนิเทศปัจจบุ นั ในสังคมสารนิเทศปัจจุบนั กลา่ วไดว้ ่า คอมพิวเตอร์เขา้ มามีบทบาท ในชีวิตประจาวนั ของคนในสงั คม มากย่ิงข้ึน บทบาทของคอมพิวเตอร์มีมากย่ิงข้ึนสาหรับผูท้ ี่ตอ้ งการสารนิเทศ และสาหรับผทู้ ่ีไม่ตอ้ งการ สารนิเทศเพ่ือใชป้ ระโยชน์ กบั ตนเองกห็ ลีกเล่ยี งการ ใชค้ อมพิวเตอร์เพ่ือประโยชน์ดา้ นอ่ืน ๆ ไมไ่ ดบ้ ทบาท ของคอมพิวเตอร์ทม่ี ตี ่อการใชส้ ารนิเทศในสังคมมดี งั ตอ่ ไปน้ี ดา้ นการศกึ ษา การใช้คอมพิวเตอร์ในดา้ นการศึกษา แบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ ใชเ้ ป็ นเคร่ืองมือในการศึกษา และใช้ เป็นเครื่องมือในการสอน การใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาเกี่ยวขอ้ งกบั การบริหารการศึกษา ซ่ึงผูบ้ ริหาร การศึกษา จาเป็นตอ้ งทราบสารนิเทศต่าง ๆ ทางดา้ น นกั ศกึ ษา ดา้ นแผนการเรียน ดา้ นบุคลากร ดา้ นการเงิน และด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ ข้อมูลแต่ละดา้ นที่ได้จากคอมพิวเตอร์ ผูบ้ ริหารการศึกษาสามารถ นามาใชช้ ่วย ในการตดั สินใจได้ การใชค้ อมพิวเตอร์เพ่ือเป็ นเครื่องมือในการสอน เป็ นการช่วยให้ครูใช้ ความรู้ ความสามารถพเิ ศษให้เป็นประโยชน์แกร่ ะบบการศกึ ษาไดม้ ากข้ึน การนาคอมพวิ เตอร์เขา้ มามีส่วน ช่วยในการสอน และการศึกษามปี ระโยชน์ในเรื่องดงั ต่อไปน้ี คือ 1. เพ่อื การสอนแบบตวั ต่อตวั 2. เพ่อื ฝึกทกั ษะต่าง ๆ ในการเรียน 3. เพอื่ การสาธิต 4. เพอ่ื การเลน่ เกมและสถานการณ์จาลอง 5. เพื่อสอนงานดา้ นการเขยี น 6. เพอื่ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั การเรียนการสอน
14 7. เพือ่ ช่วยผเู้ รียนท่ีมีปัญหาเฉพาะตวั ปัจจุบนั คอมพิวเตอร์กาลงั มีบทบาทต่อการศึกษาดา้ นภาษาเป็นเพราะว่าแต่เดิมมาน้ัน คอมพิวเตอร์มี บทบาทเฉพาะการเก็บขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ภาษาองั กฤษ ท้งั น้ีเพราะคอมพิวเตอร์ไดร้ ับการประดิษฐ์ข้ึนใน ประเทศท่ใี ชภ้ าษาองั กฤษแตใ่ นขณะน้ีสังคมข่าวสารไมไ่ ดส้ กดั ก้นั ในการรับรู้สารนิเทศในภาษาอืน่ ๆ มกี าร สร้างโปรแกรมภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน รัสเซีย สเปน และแมแ้ ต่ภาษาทางดา้ น ตะวนั ออก เช่น ภาษาอารบิค จีน ฮิบรู ญี่ป่ ุน เกาหลี การสร้างโปรแกรมภาษาต่าง ๆ จดั ทาโดยผทู้ ี่รู้ภาษาน้ัน ๆ โดยตรงหรือผทู้ ี่สนใจในการสร้างโปรแกรมภาษาต่าง ๆ เช่น การสร้างโปรแกรม การใช้ภาษาไทย หรือ ภาษาลาว ตลอดจนการใช้โปรแกรมภาษาพม่า ซ่ึงประดิษฐข์ ้ึนโดยวศิ วกรไทย คอมพิวเตอร์จะเป็นตวั กลาง ในการขจดั ปัญหาเรื่องความไม่เขา้ ใจภาษาระหวา่ งชนชาตใิ นอนาคต ในประเทศสหรฐั อเมริกา คอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลมีบทบาทในดา้ นการศึกษามีการใชค้ อมพิวเตอร์มากข้ึนในระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษามี การคาดหมายว่าจะมีการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในช้นั เรียน จาก 1:40 ในปี พ.ศ. 2529 เป็น 1 ต่อ 20 ภายในปี พ.ศ. 2533 คอมพิวเตอร์มีบทบาทตอ่ การถ่ายทอดขอ้ มูลข่าวสาร ทางดา้ นการศึกษาได้ เป็นอยา่ งดีไม่เฉพาะ แต่ภายในสถานศึกษาเท่าน้นั บริษทั เอกชนต่าง ๆ สามารถนาคอมพิวเตอร์ มาใช้ฝึกอบรมเจา้ หนา้ ที่ของตน ให้ไดร้ ับการศึกษาหรือฝึกอบรมในงานหน้าที่ได้เป็ นอย่างดีดว้ ย การใชค้ อมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาจะเป็ น เร่ืองธรรมดาในระบบการศกึ ษาต่อไป ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข คอมพิวเตอร์มีบทบาทอย่างสูงทางด้านการแพทยแ์ ละสาธารณสุข คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือท่ีช่วย อานวยความสะดวกอยา่ งย่ิงในดา้ นการแพทย์ เริ่มต้งั แต่การรักษาพยาบาลทว่ั ๆไป โรงพยาบาลบางแห่งใช้ คอมพิวเตอร์ในการทาทะเบียนคนไขต้ ลอดจนการวินิจฉัย และรักษาโรคต่าง ๆ จากการใชป้ ระโยชน์ของ สารนิเทศท่ไี ด้ จากเครื่องคอมพิวเตอร์การใชค้ อมพิวเตอร์ทางดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุขอาจเกี่ยวขอ้ งใน ด้านต่อไปน้ี คือ ด้านการ รักษาพยาบาลทั่วไป ด้านการบริหารการแพทย์ ด้านห้องทดลอง ด้านตรวจ วินิจฉัยโรค และด้านการศึกษา และวิจยั ทางการแพทย์ การใช้ขอ้ มูลจากคอมพิวเตอร์ดา้ นการแพทยแ์ ละ สาธารณสุขที่สาคญั ในปัจจุบนั คือดา้ นวินิจฉยั โรคและดา้ นการศกึ ษาและวจิ ยั ทางการแพทย์ นกั วิทยาศาสตร์ การแพทยส์ ามารถคน้ คว้าข้อมูลทางการแพทยเ์ พิ่มเติมได้ตลอดเวลาเป็ นการพฒั นาความก้าวหน้าทาง วิทยาศาสตร์การแพทยแ์ ละการสาธารณสุขอย่างไม่หยดุ ย้งั คอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการให้ขอ้ มูลเพ่ือการ วินิจฉัยโรคสาหรับทาการรักษาได้อยา่ งรวดเร็วและแม่นยาข้ึน ในวงการแพทยเ์ ร่ิมรู้จกั ใช้เครื่องเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ท่ี เรียกว่า อีเอ็มไอสแกนเนอร์ (EMI Scanner) เมื่อปี พ.ศ. 2515 เคร่ืองเอกซเรยค์ อมพิวเตอร์ เคร่ืองน้ีใช้ถ่ายภาพสมองมนุษยเ์ พื่อตรวจดูเน้ืองอก พยาธิ เลือดออกในสมองและความผิดปกติอื่น ๆ ใน สมอง ต่อมาได้พัฒนาให้ถ่ายภาพหน้าตัดได้ทั่วร่างกาย เรียกช่ือว่าซีเอที (CAT-Computerized Axial Tomographic Scanner) มวี ิธีการฉายแสงเป็นจงั หวะไปรอบ ๆ ร่างกายของมนุษยท์ ต่ี อ้ งการ ถ่ายเอกซเรยแ์ ละ
15 เครื่องรับแสงเอ็กซเรยท์ ่ีอยูต่ รงขา้ มจะเปลี่ยนแสงเอกซเรยใ์ ห้เป็นสัญญาณไฟฟ้ าไปเก็บไวใ้ นจานหรือแถบ แมเ่ หลก็ แลว้ นาสัญญาณไฟฟ้ าเหลา่ น้ีเขา้ ไปวเิ คราะห์ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซ่ึงเมอื่ ไดผ้ ลลพั ธ์ออกมากน็ าไป เกบ็ ในส่วนความจา และพิมพภ์ าพออกมาหรือแสดงเป็นภาพทางจอโทรทศั น์ เครื่องเอกซเรยค์ อมพิวเตอร์จึง เป็นตวั อยา่ งของการใชค้ อมพวิ เตอร์ในการวนิ ิจฉัยและรกั ษาโรค ดา้ นอตุ สาหกรรม คอมพิวเตอร์มีส่วนช่วยพฒั นาความกา้ วหน้าทางดา้ นอุตสาหกรรม โดยนักวิทยาศาสตร์ไดป้ ระดิษฐ์ หุ่นยนตเ์ พ่ือใช้ในบา้ นและหุ่นยนตอ์ ุตสาหกรรม ท้งั น้ีหุ่นยนต์จะเป็นอุปกรณ์ท่ีสร้างข้ึนเพ่ือเลียนแบบการ ทางานของอวยั วะ ส่วนบนของมนุษยป์ ระกอบดว้ ยระบบทางกลของหุ่นยนตแ์ ละระบบควบคุมหุ่นยนต์ ประกอบดว้ ยอุปกรณ์ควบคุมซ่ึงควบคุมการทางานของหุ่นยนตโ์ ดยอตั โนมตั ิดว้ ยคอมพิวเตอร์ นบั เป็นส่วน สาคญั ที่สุดของหุ่นยนต์ ระบบควบคุมน้ีทาหนา้ ที่เป็ นสมองเก็บขอ้ มูลส่ังหุ่นยนต์ให้ทางานตรวจสอบและ ควบคุมรายละเอียดของการทางานให้ถูกตอ้ ง การประดิษฐ์หุ่นยนต์อุตสาหกรรมอานวยประโยชน์ในการ ช่วยทางานในอุตสาหกรรมท่ีสาคัญคืองานท่ีต้องเสี่ยงภยั และเป็ นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรงงานยา ฆ่า แมลง โรงงานสารเคมี งานท่ีต้องการความละเอียดถูกตอ้ ง และรวดเร็ว เช่น โรงงาน ทาฟันเฟื องนาฬิกา โรงงานทาเลนส์กลอ้ งถา่ ยรูป และงานท่ีตอ้ งทาซ้า ๆ ซาก ๆ และ น่าเบื่อหน่าย เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานประกอบวงจรเบ็ดเสร็จ หรือไอซี และโรงงานทาแบตเตอรี่ เป็ นต้น การประดิษฐ์ส่ิงของหรือ ผลิตภณั ฑ์บางอย่าง ในโรงงานอุตสาหกรรม คอมพิวเตอร์เขา้ มามีบทบาทอยา่ งสูงต่อการ ควบคุม การผลิต สินคา้ โดยไม่ตอ้ งใชแ้ รงงานคนมาก เป็นการประหยดั แรงงาน นอกจากดา้ นการผลิตสินคา้ แลว้ คอมพวิ เตอร์ ยงั มีส่วนช่วยตอ่ การจดั ส่งสินคา้ ตามใบส่งั สินคา้ การควบคมุ วสั ดคุ งคลงั และการคิดราคาตน้ ทุนสินคา้ ดา้ นเกษตรกรรม การนาคอมพิวเตอร์มาใชป้ ระโยชน์ในดา้ นเกษตรกรรม ไดแ้ ก่ การจดั ทาระบบขอ้ มลู เพ่ือการเกษตร ซ่ึง อาจมีท้งั ระดบั ทอ้ งถ่ิน ระดบั ชาติ และระดบั นานาชาติสาหรับระดบั นานาชาติน้นั อาจจะเร่ิมดว้ ยสามะโน เกษตรนานาชาติ ซ่ึงสถาบันการเกษตรระหว่างประเทศ (International Institute of Agriculture) ไดเ้ ริ่มต้น ต้งั แต่ พ.ศ. 2473โดยมีประเทศต่าง ๆ ร่วมเก็บขอ้ มูลรวม 46 ประเทศ ตอ่ มาองค์การอาหารและเกษตร(FAO) ไดด้ าเนินงานต่อในปี พ.ศ. 2493 และมปี ระเทศต่าง ๆ ร่วมโครงการเพิ่มเตมิ มากข้ึน ทาให้ประเทศต่าง ๆ ทว่ั โลกได้ข้อมูลเพื่อเกษตรกรรมทางดา้ นสามะโนเกษตร นอกจากน้ียงั ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทาแบบจาลอง พยากรณ์ความตอ้ งการพยากรณผ์ ลผลติ ดา้ นการเกษตร เป็นตน้ ดา้ นการเงินการธนาคาร การใชค้ อมพิวเตอร์ในดา้ นการเงินและการธนาคาร เป็นการนาคอมพิวเตอร์มาช่วยในงานด้านการ บัญชี และด้านการบริหาร การฝากถอนเงิน การรับจ่าย การโอนเงิน แบบอิเล็กทรอนิกส์_การหักบญั ชี อตั โนมตั ิ ดา้ นสินเช่ือ ดา้ นแลกเปล่ยี นเงนิ ตรา บริการข่าว สารการธนาคาร บริการฝากถอนเงินนอกเวลาและ บริการอ่ืน ๆ การใชค้ อมพิวเตอร์ดา้ นการเงนิ การธนาคารที่ประชาชนรู้จกั และใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย ไดแ้ ก่
16 บริการฝากถอนเงนิ นอกเวลา ซ่ึงมีใชก้ นั ท้งั ในตา่ งประเทศและในประเทศไทย ซ่ึงเรียกชื่อว่า บริการเงินดว่ น หรือบริการเอทีเอม็ ( Automatic Teller Machine - ATM ) ท่ีธนาคารต่าง ๆ สามารถให้บริการเงินด่วนแก่ลูกค้าได้ ทาให้เกิด ความสะดวกรวดเร็วตอ่ การใชเ้ งินในการดาเนินงานทางธุรกิจต่างๆได้ ดา้ นธุรกิจการบนิ ธุรกิจสายการบนิ มีความจาเป็นตอ้ งนาคอมพวิ เตอร์มาใช้เพ่ือให้สามารถให้บริการไดร้ วดเร็ว เพื่อการ แข่งขนั กบั สายการบินอื่น ๆ และเพ่ือรักษาความปลอดภัยในการบินโดยช่วยตรวจสอบสภาพเคร่ืองและ อุปกรณ์ได้ อยา่ งถกู ตอ้ งแน่นอนและสม่าเสมอ ธุรกิจท่มี ีการนาคอมพิวเตอร์มาใชด้ า้ นการบิน อาจแบง่ เป็น 3 ประเภท คือ ผโู้ ดยสาร สินคา้ พสั ดุภณั ฑ์ และ บริการอน่ื ๆของสายการบิน ตวั อยา่ งทเ่ี ห็นไดช้ ดั เจน คอื ระบบ บริการผูโ้ ดยสาร อาจจะเร่ิมดว้ ยระบบบนั ทึกตารางการบิน ซ่ึงบนั ทึกและเปล่ียนแปลงแกไ้ ขขอ้ มูลเท่ียวบิน เส้นทางบิน เวลาออกและเวลาถึง จานวนที่นงั่ สารนิเทศดา้ นการบริการผโู้ ดยสารมีความสาคญั อย่างมาก และจาเป็นตอ้ งไดร้ ับขอ้ มลู อย่างรวดเร็ว โดยปราศจากปัญหาทางดา้ นเวลา และสถานท่ี รายการบินตา่ ง ๆ จึง ไดแ้ ข่งขนั ในการสร้างฐานขอ้ มูล ทางดา้ นน้ี บางสายการบนิ ไดร้ วมตวั กนั เพ่ือให้เกิดความคล่องตวั ในการใช้ สารนิเทศร่วมกนั ดา้ นกฎหมายและการปกครอง ทางดา้ นกฎหมายและการปกครอง มีการใชค้ อมพิวเตอร์แกป้ ัญหาดา้ นกฎหมาย คอื งานระบบขอ้ มลู ทาง กฎหมายมีการนาสารนิเทศที่เก่ียวข้องกับตวั บทกฎหมายทุกฉบับ รัฐธรรมนูญทุกฉบบั กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง พระราชบญั ญตั ิ พระราชกาหนด พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวงประกาศตา่ งๆและอื่น ๆ เขา้ คอมพิวเตอร์ท้งั หมด หลงั จากน้นั คอมพิวเตอร์จะ ช่วยในการคน้ สารนิเทศทางดา้ นกฏหมายไดอ้ ย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้ คอมพิวเตอร์ระบบแอสเปน (Aspen System Corporation) ซ่ึงเป็ นระบบข้อมูลทางด้านกฎหมายท่ีใช้กัน มากกวา่ 50 แห่ง นกั กฎหมายและผทู้ ีเ่ กี่ยวขอ้ งจึงไดป้ ระโยชนใ์ นการคน้ สารนิเทศในเวลาอนั รวดเร็ว 1.5 ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศต่อชีวติ ความเป็ นอย่แู ละสังคม ผลกระทบดา้ นบวกเพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลิต ชีวิตคนในสังคม ไดร้ ับความสะดวกสบาย เช่น การติดตอ่ ผ่านธนาคารดว้ ยระบบธนาคารที่บา้ น (Home Banking) การทางาน ทีบ่ า้ น ตดิ ตอ่ สื่อสารดว้ ยระบบเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต การบนั เทิงพกั ผ่อนดว้ ยระบบมลั ตมิ ีเดีย เป็นตน้ เป็ นสังคมโลกแห่งการสื่อสารเกิดข้ึน โดยสามารถเอาชนะเรื่องระยะทาง เวลา และสถานท่ีได้ ดว้ ย ความเร็วในการติดต่อส่ือสารที่เป็ นเครือข่ายความเร็วสูง และที่เป็ นเครือข่าย แบบไร้สาย ทาให้มนุษย์ สามารถตดิ ตอ่ ถงึ กนั อยา่ งรวดเร็ว
17 มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ในฐานข้อมูลความรู้ เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านที่เกี่ยวกับ สาธารณสุขและการแพทย์ แพทยท์ ี่อยใู่ นชนบทก็สามารถวินิจฉัยโรคจากฐานขอ้ มูลความรู้ของ ผเู้ ชี่ยวชาญ เฉพาะทางการแพทย์ ในสถาบนั การแพทยท์ ่ีมีช่ือเสียงได้ทัว่ โลก หรือใช้วิธีปรึกษา แพทยผ์ ูเ้ ชี่ยวชาญใน ระบบทางไกลไดด้ ว้ ย เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ หรือผดู้ ้อยโอกาสจากการพิการทางร่างกาย เกิดการ สร้างผลิตภณั ฑช์ ่วยเหลือคนพิการ ให้สามารถพฒั นาทกั ษะและความรู้ได้ เพื่อให้คน พิการเหล่าน้นั สามารถ ช่วยเหลอื ตนเองได้ ผพู้ กิ ารจึงไมถ่ กู ทอดท้งิ ให้เป็นภาระของสังคม พฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยเกิดการศึกษาในรูปแบบใหม่ กระตุ้นความสนใจแก่ผูเ้ รียน โดยใช้ คอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอน (Computer-Assisted Instruction : CAI) และการ เรียนรู้โดยใชคอมพิวเตอร์ ( Computer-Assisted Learning : CAL ) ทาให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจในในบทเรียนมากย่ิงข้ึน ไม่ซ้าซาก จาเจผูเ้ รียนสามารถเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ ไดด้ ว้ ย นอกจากน้ันยงั มีบทบาท ต่อการนามาใช้ในการสอนทางไกล (Distance Learning) เพอ่ื ผดู้ อ้ ยโอกาสทางการศกึ ษาไดอ้ ีกดว้ ย การทางานเปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดีข้ึน กล่าวคือช่วยลดเวลาในการทางานให้นอ้ ยลง แต่ไดผ้ ลผลิต มากข้ึน เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยคิดบญั ชี การสร้างกราฟ แผนภูมิ ออกแบบงานลกั ษณะต่างๆ เป็ นตน้ ผูบ้ ริโภคไดร้ ับประโยชน์จากการบริโภคสินคา้ ท่ีหลากหลายและมีคุณภาพดีข้ึน ความกา้ วหน้าทาง เทคโนโลยี ทาให้รูปแบบของผลิตภัณฑ์มีความแปลกใหม่และหลากหลายมากยิ่งข้ึน ผผู้ ลิตผลิตสินคา้ ท่ีมี คุณภาพ ผบู้ ริโภคสามารถเลอื กซ้ือไดต้ ามตอ้ งการ และช่องทางทางการคา้ ก็มีใหเ้ ลอื กมากข้นึ เช่น การเลอื ก ซ้ือสินคา้ ทางอินเทอร์เน็ตและการพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นตน้ ผลกระทบดา้ นลบ ก่อให้เกิดความเครียดในสังคมมากข้ึน เน่ืองจากมนุษยไ์ ม่ชอบการเปล่ียนแปลง เคยทาอะไรแบบใด มกั จะชอบทาอยา่ งน้นั ไม่ชอบการเปลีย่ นแปลง แต่เทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ ไปเปลีย่ นแปลงบุคคลท่ีรบั ต่อ การเปลี่ยนแปลงไม่ไดจ้ ึงเกิดความวิตกกงั กล จนกลายเป็นความเครียด กลวั วา่ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สารสนเทศจะทาให้ คนตกงาน เพราะส่ิงเหล่าน้ีจะเขา้ มาทดแทนมนุษย์ ก่อให้เกิดการรับวฒั นธรรม หรือแลกเปล่ียนวฒั นธรรมของคนในสังคมโลกทาให้ พฤติกรรมที่ แสดงออก ด้านการแต่งกาย และการบริโภคเปล่ียนแปลงไป การมอมเมาเยาวชน ในรูปของเกมส์ อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลกระทบต่อการพฒั นาอารมณ์และจิตใจของเยาวชน เกิดการกลืนวฒั นธรรมด้งั เดิมซ่ึง แสดงถึงเอกลกั ษณข์ องสงั คมน้นั ๆ ก่อให้เกิดผลด้านศีลธรรม การติดต่อส่ือสารที่รวดเร็วในระบบเครือข่ายมีผลก่อให้เกิดโลกไร้ พรมแดน แต่เม่ือพิจารณาศีลธรรมของแต่ละประเทศพบว่ามีความแตกตา่ งกนั ประเทศต่างๆ ผคู้ นอยรู่ ่วมกนั
18 ได้ดว้ ยจารีตประเพณี และศีลธรรมดีงามของประเทศน้ันๆ การแพร่ภาพหรือข้อมูลข่าวสารที่ไม่ดีไปยงั ประเทศตา่ งๆ มผี ลกระทบตอ่ ความรู้สึกของคนในประเทศน้นั ๆ ที่นบั ถือศาสนาแตกต่างกนั การมีส่วนร่วมของคนในสังคมลดน้อยลง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทาให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการสื่อสาร และการทางาน แต่ในอีกด้านหน่ึงการมีส่วนร่วมของกิจกรรมทาง สังคมที่มีการ พบปะสังสรรคก์ นั จะมีนอ้ ยลง ผคู้ นมกั อยแู่ ตท่ บี่ า้ นหรือทท่ี างานของตนเองมากข้นึ การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลโดยการเผยแพร่ข้อมูลหรือรูปภาพต่อสาธารณชน ซ่ึงขอ้ มูล บางอยา่ งอาจไม่เป็นจริงหรือยงั ไม่ไดพ้ ิสูจนค์ วามถกู ตอ้ งออกสู่สาธารณชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบคุ คล โดยไม่สามารถป้ องกนั ตนเองได้ การละเมิดสิทธิส่วน บุคคล เช่นน้ีตอ้ งมีกฎหมายออกมาให้ความคุม้ ครอง เพอ่ื ให้นาขอ้ มลู ตา่ งๆ มาใชใ้ นทางท่ถี ูกตอ้ ง เกิดช่องว่างทางสงั คม การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศจะเก่ียวขอ้ งกบั การลงทนุ ผใู้ ชจ้ ึงเป็นชนช้ันในอีก ระดบั หน่ึงของสังคม ในขณะทช่ี นช้นั ระดบั รองลงมามีอยจู่ านวนมากกลบั ไม่มี โอกาสใช้ และผูท้ ่ียากจนก็ ไมม่ ีโอกาสรู้จกั กบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ อาชญากรรมบนเครือข่าย ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ ข้ึน เช่น ปัญหาอาชญากรรม ตวั อยา่ งเช่น อาชญากรรมในรูปของการขโมยความลบั การขโมย ขอ้ มลู สารสนเทศ การ ให้บริการ สารสนเทศท่มี กี ารหลอกลวง รวมถึงการบ่อนทาลายขอ้ มลู และไวรสั ก่อให้เกิดปัญหาดา้ นสุขภาพ นับต้งั แต่คอมพิวเตอร์เขา้ มามีบทบาทในการทางาน การศึกษา บนั เทิง ฯลฯ การจอ้ งมองคอมพิวเตอร์เป็ นเวลานานๆ มีผลเสียต่อสายตาซ่ึงทาให้สายตา ผิดปกติ มีอาการแสบตา เวยี นศรีษะ นอกจากน้นั ยงั มผี ลตอ่ สุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท
บทที่2 ข้นั ตอนของการใช้เทคโนโลยีในชีวติ ประจาวนั ในยุคน้ีคงจะไม่สามารถที่จะปฏิเสธไดเ้ ลยว่าเทคโนโลยีไม่มีความจาเป็ นสาหรับการดาเนินชีวิต ของมนุษย์ เพราะทุกคนลว้ นใช้เทคโนโลยีเพ่ืออานวยความสะดวกในชีวติ ในทุก ๆ ดา้ น ต้งั แต่การตื่นนอน จนถงึ การเขา้ นอน ดงั น้นั เทคโนโลยจี ึงเป็นส่ิงทจี่ าเป็นสาหรบั มนุษย์ โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ผทู้ ี่อาศยั อยใู่ นเมืองที่ ชีวิตประจาวนั มีแต่ความเร่งรีบตอ้ งแข่งขันกับเวลา การนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงมีความจาเป็ นอย่างย่ิง เพราะเทคโนโลยีสมยั ใหม่นอกจากจะช่วยอานวยความสะดวกในการทางานแล้วยงั ช่วยย่นระยะเวลาทา กิจกรรมต่าง ๆ ให้ส้นั ลง แต่อย่างไรก็ตาม การนาเอาเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจาวนั ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะใน บางคร้ังก็นาโทษมาใหแ้ ก่มนุษยด์ ว้ ยเช่นกนั ยกตวั อยา่ งทีส่ ามารถเห็นไดช้ ดั เจนก็คงจะหนีไมพ่ น้ เรื่องที่เป็น ข่าวตามหนา้ หนงั สือพิมพใ์ นเรื่องของการถูกลวงไปข่มขนื โดยสาเหตหุ ลกั ๆ ของการถูกลอ่ ลวงไปข่มขืน ก็ เป็นผลมาจากการใชเ้ ทคโนโลยีในทางทีผ่ ดิ ซ่ึงส่วนใหญ่ก็มาจากการพูดคุยกนั ผ่านทางโปรแกรมการสนทนา ออนไลน์(Chat) ท่ีเมื่อมกี ารพดู คุยกนั ก็มีการนดั มาเจอกนั และเกิดเหตุการณ์การล่อลวงไปข่มขืน เพราะการ พูดคุยผ่านการChat น้ีเป็ นการพูดคุยท่ีอิสรเสรี ผพู้ ูดสามารถท่ีจะพูดคุยอะไรออกไปกไ็ ดไ้ ม่ว่าจะเป็นความ จริงหรือไมก่ ต็ าม และนอกจากน้ีก็ยงั มกี ารนาเสนอเวป็ ไซดท์ ่ีเป็นเวป็ ไซดโ์ ป๊ หรือมกี ารนาเสนอส่ิงทอี่ นาจาร ลงในเว็ปไซด์ และทาให้เป็นการยวั่ ยทุ างอารมณ์ของผเู้ ล่นจนนามาสู่การกระทาอนั ผิดศีลธรรม และเกิดคดี ความได้ และจากการท่สี ่ืออินเตอร์เน็ตเป็นสื่อเสรีไม่มีองคก์ รใด ๆ เขา้ มาควบคุมดูและจึงทาให้อนิ เตอร์เน็ต กลายเป็นช่องทางหน่ึงในการตดิ ต่อส่ือสารกนั ระหว่างกลุม่ คนทไ่ี ม่หวงั ดี เช่น กลุ่มก่อการร้าย หรือ กล่มุ คน ที่ตอ้ งการก่ออาชญากรรม โดยกลุ่มคนเหล่าน้ีก็จะใชอ้ ินเตอร์เน็ตเป็ นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสาร ระหว่างกนั โดยอาจมีเว็ปไซดเ์ ป็นกลุ่มของตนเอง หรือใช้การส่ง E-mail เป็นทอด ๆ ระหว่างกนั และมีการ แปลรหัสจากการส่ง E-mail โดยไม่มีใครสามารถท่ีจะล่วงรู้ได้ และในบางคร้ังก็มีคนที่มีความสามารถใน การใชค้ อมพวิ เตอร์และอินเตอร์เนต็ เป็นอยา่ งดี คนเหล่าน้ีก็นาความเกง่ กาจของตนเองมาใชใ้ นทางที่ผิด เช่น การลกั ลอบขโมยขอ้ มูลในองค์กรตา่ ง ๆ เพ่ือนามาใชก้ อ่ อาชญากรรม เช่น ลกั ลอบคน้ ขอ้ มูลของบริษทั บตั ร เครดิต หรือ ธนาคาร หรือขอ้ มลู บญั ชีเงนิ ฝากและATM เพือ่ ลกั ลอบนาเงินไปใช้ นอกจากน้ีบางคร้ังก็มีการ ใชอ้ ินเตอร์เน็ตเพ่ือปล่อยหรือสร้างข่าวทม่ี ีความบดิ เบือน เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจผิดและสร้างความหวาดกลวั ให้กบั ประชาชน เช่น ในบางคร้ังกลุ่มก่อการร้าย ก็อาจใช้ส่ืออินเตอร์เน็ตเพื่อสร้างข่าวบิดเบือน เพ่ือจูงใจ ประชาชนใหม้ าเขา้ ร่วมในขบวนการและร่วมเป็นส่วนหน่ึงในการกอ่ การรู้_
20 นอกจากน้ีจากการท่ีมนุษยเ์ ราพ่ึงพาเทคโนโลยีมากจนเกินไป ก็ทาให้เกิดผลเสียแก่ตวั เราไดด้ ว้ ย เช่นกนั เพราะการพ่ึงพาเทคโนโลยีมากเกินไปจะทาให้คนเราเกิดความเคยชินจากการนาเทคโนโลยีมาใช้ อานวยความสะดวกในชีวิต จนทาใหบ้ างคร้งั เราก็ทาอะไรไม่เป็นไม่สามารถคิดอะไรไดเ้ พราะมีเทคโนโลยี มาช่วย และอาจส่งผลใหใ้ นอนาคตมนุษยจ์ ะมีความสามารถลดนอ้ ยลง และเทคโนโลยหี รือเครื่องจกั รต่าง ๆ กจ็ ะมีความสาคญั มากกว่ามนุษย์ จากท่ีกล่าวมาจะเห็นไดว้ ่าเทคโนโลยีมที ้งั ประโยชนแ์ ละโทษ ดงั น้นั การใช้เทคโนโลยที ่ีถูกวิธีจึง เป็นส่ิงท่ีสาคญั และตอ้ งไม่ใช้เทคโนโลยีในทางท่ีผิดท่ีจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อท้งั ตนเองและผอู้ ื่น และในขณะเดียวกนั มนุษยเ์ ราก็จะตอ้ งหันกลบั มาพ่ึงพาตัวเองบ้าง และใช้เทคโนโลยีเฉพาะเท่าที่จาเป็ น เทา่ น้นั และในบางคร้งั ผใู้ หญห่ รือผปู้ กครองกต็ อ้ งเขา้ มาดูแลเด็ก และให้คาแนะนาแกเ่ ดก็ ดว้ ยเพื่อไม่ให้เด็ก เหลา่ น้ีเขา้ ไปเสพยส์ ่ือท่ผี ิดบิดเบือนและผดิ ศลี ธรรม 2.1 วเิ คราะห์เนอ้ื หาของการใช้เทคโนโลยใี นชีวิตประจาวนั เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) หมายถึง เทคโนโลยที ี่ใชจ้ ดั การ สารสนเทศ เป็น เทคโนโลยที ี่เก่ียวขอ้ งต้งั แต่การรวบรวม การจดั เก็บขอ้ มูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การ สื่อสารขอ้ มูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศยงั รวมถงึ เทคโนโลยีทท่ี าให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และ การดูแลขอ้ มูลดว้ ย 2.2 ระบุคาสาคญั หรือคาค้นหา เขยี นสาระสาคัญ เขียนแหล่งอ้างองิ ของคาสาคัญ และจดั เขา้ กลุ่มตามเน้ือหา และสาระในเรื่องน้นั ๆ ประกอบดว้ ยข้นั ตอนยอ่ ย ดงั น้ี คาสาคญั หรือคาคน้ หาจากส่ือ เป็นการนาคาคน้ หาหรือขอ้ ความท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ น้ือหาท่ีบนั ทกึ ไว้ ในแบบบนั ทึกคาสาคญั แลว้ จัดเรียงตามเน้ือหาของสื่อ และนามาจดั เรียงอีกคร้ังตามพยญั ชนะในแต่ละ เน้ือหา คาสาคญั หลายคา เรียกวา่ ชุดคาสาคญั หรือชุดคาคน้ หา เขยี นสาระสาคญั ของแตล่ ะคาไขหรือคาสาคญั เป็นการให้ความหมายของคาสาคญั โดยนามาจากส่ือนา คาสาคญั ท่ีคดั เลือกมาจากเน้ือหาในส่ือที่รวบรวมคาสาคญั ท่ีมีลกั ษณะเจาะจงและลกั ษณะรอง แลว้ นามา ปรับปรุงภาษาให้ง่าย ส้ันกะทัดรัด อ่านเข้าใจง่าย ดงั น้ัน คาสาคัญ คาไข หรือคาค้นหาทุกคาจะตามดว้ ย “หมายถึง” และคาอธิบายความของคาสาคญั น้นั ซ่ึงเกิดจากหลายๆ คามารวมกนั เขียนแหล่งอา้ งอิงของคาสาคญั เป็นการระบทุ ี่มาของคาสาคญั นน่ั ประกอบดว้ ย ชื่อและนามสกุลผเู้ ขียน ปี พุทธศกั ราชที่เขียน ช่ือหน่วย หนา้ ท่ีอา้ งอิง ชื่อชุดวชิ า และตามดว้ ยสาขาหรือคณะ และช่ือมหาวิทยาลยั น้ัน เพ่ือใหผ้ สู้ นใจไดค้ น้ หาเพม่ิ เตมิ ต่อไป 2.3 กาหนดช่องทางการเผยแพร่ฐานความรู้ของการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั เป็ นการเผยแพร่ฐานความรู้แบบออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ประหยดั ค่าใชจ้ ่ายและสามารถ เผยแพร่ไปยงั ผู้สนใจจานวนมากสามารถใช้งานได้ทุกท่ี ทุกเวลาท่ีมีออนไลน์ (Online) ผ่านเครือข่าย อินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์ท่ีรองรับการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ไดแ้ ก่ Google, Wikipedia, Bing,
21 Facebook, Line เป็ นต้น ในรูปแบบออนไลน์ยงั มีเครื่ องมือที่ใช้ในการสื่ อสารแบบประสานเวลา (Synchronous Communication Tool) และเครื่องมือแบบไม่ประสานเวลา (Asynchronous Communication Tool) ซ่ึงช่วยให้การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผูใ้ ช้ฐานความรู้มีประสิทธิภาพมากข้ึน และแบบออฟไลน์ (Offline) ผ่านทาง DVD, Flash Drive, SD Cards และ Memory zones 2.4 ดาเนนิ การอธบิ ายเก่ียวกับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจาวัน 1.เทคโนโลยีสารสนเทศทาใหส้ งั คมเปล่ยี นจากสงั คมอตุ สาหกรรมมาเป็นสงั คมสารสนเทศ 2.เทคโนโลยีสารสนเทศทาให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็ นเศรษฐกิจโลก ท่ีทาให้ ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพนั กับทุกประเทศความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทาให้เกิดสังคม โลกาภวิ ฒั น์ 3.เทคโนโลยีสารสนเทศทาให้องค์กรมีลกั ษณะผกู พนั มีการบงั คบั บญั ชาแบบแนวราบมากข้ึน หน่วย ธุรกิจมีขนาดเล็กลง และเช่ือมโยงกนั กบั หน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย การดาเนินธุรกิจมีการแข่งขนั กนั ใน ดา้ นความเร็วโดยอาศยั การใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการส่ือสารโทรคมนาคมเป็ นตวั สนับสนุน เพือ่ ให้เกิดการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลไดง้ า่ ยและรวดเร็ว 4.เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผสั และสามารถตอบสนองตามความต้องการ การใชเ้ ทคโนโลยใี นรูปแบบใหมท่ ีเ่ ลือกไดเ้ อง 6.เทคโนโลยสี ารสนเทศทาให้เกิดสภาพทางการทางานแบบทกุ สถานทแ่ี ละทกุ เวลา 7.เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดาเนินการระยะยาวข้ึนอีกท้ังยงั ทาให้วิถีการ ตดั สินใจหรือเลือกทางเลอื กไดล้ ะเอียดข้ึน 2.5 ประเมินคุณภาพของการใช้เทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวัน ในชีวิตประจาวนั ของเรา เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทกบั การดาเนินชีวิตในปัจจุบนั เป็ นอยา่ งมาก ในขณะท่ีในทกุ ๆ วนั เทคโนโลยีมีการเปล่ียนแปลงตลอดเวลา เราเองก็ตอ้ งเรียนรู้และปรบั ตวั ใหท้ นั ตอ่ การ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีน้ันมีท้ังคุณประโยชน์และโทษในเวลาเดียวกัน เพื่อให้เรามีความรู้และสามารถใชเ้ ทคโนโลยีไดอ้ ยา่ งมีประโยชน์และปลอดภยั ก็จาเป็ นที่จะตอ้ งมีความรู้ เก่ียวกบั ความรู้ทางดา้ นตา่ ง ๆ ตอ่ ไปน้ี 1.การรู้เทา่ ทนั สื่อ 2.แนวทางการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมีจริยธรรม 3.การรกั ษาขอ้ มลู ส่วนตวั 4.การรบั มือการคุกคามทางออนไลน์ 5.ลขิ สิทธ์ิและความเป็นเจา้ ของผลงาน 6.กฎหมายเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์และการกระทาความผิดทางคอมพวิ เตอร์
22
23 บทที่3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความจาเป็ นในชีวิตประจาวนั และเป็ นส่วนท่ีช่วยให้การดาเนิน ภาระกิจในประจาวนั มีความสะดวกรวดเร็ว เทคโนโลยีสารสนเทศทาให้สามารถรับรู้ขา่ วสารขอ้ มูลไดอ้ ยา่ ง รวดเร็วไม่ว่าจะอย่ใู นสถานท่ีห่างไกลกนั มากๆ ฉะน้ันในการดาเนินชีวิตในประจาวนั จึงมีความจาเป็ นท่ี จะตอ้ งมีเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มามีส่วนเกี่ยวขอ้ งเพ่ืออานวยความสะดวกในการติดต่อส่ือสารระหว่าง กนั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ลดระยะเวลาโดยการ่ติดต่อทางโทรศพั ท์ กระประชุมผ่านทางอินเตอร์เน็ต ช่วยให้การ ทางานมปี ระสิทธิภาพสูงข้ึน มีความถกู ตอ้ ง เเม่นยา และสามารถช่วยในการจดั เก็บขอ้ มลู ทีม่ คี วามสะดวกต่อ การเรียกใชง้ าน นามาใชเ้ ป็นเเหล่งข้อมูลในการศึกษาคน้ ควา้ ในการเรียนรู้ อีกท้งั ยงั นามาใช้ในการดาเนิน ธุรกิจในหลายๆดา้ นไม่วา่ จะเป็น ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจขายสินคา้ ออนไลน์ (E commerce) เป็ นตน้ 3.1 ค้นหาความรู้และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจาวนั ปฏิเสธไม่ไดว้ ่าปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีท่ีคอยมาช่วยเหลือเราในชีวิตประจาวนั และแน่นอนไม่ว่าคุณจะ ธุรกิจไหนก็ตอ้ งมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหน่ึง วนั น้ีเราเลยมานาเสนอ เทคโนโลยี10ประเภทท่ถี ูกนามาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ของเรา 1. เทคโนโลยใี นธุรกิจ ทุกวนั น้ีในธุรกิจมีการแขง่ ขนั กนั สูง ดา้ นเจา้ ของธุรกิจก็ตอ้ งการลดตน้ ทุนแต่ยงั คงคุณภาพในตวั สินคา้ และบริการอยู่ การดึงเอาเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจทาให้สามารถประหยดั ตน้ ทุนทางธุรกิจได้ เม่ือ เปรียบเทียบกบั จานวนเงนิ ที่ใชจ้ า้ งพนกั งานและการมีความตรงต่อเวลาสูง 2. การใชเ้ ทคโนโลยีในการส่ือสาร ในอดีตเมอื่ การสื่อสารถูกจากดั เฉพาะการเขียนจดหมาย และรอใหไ้ ปรษณียส์ ่งมอบขอ้ ความของ คุณ แต่ปัจจุบนั เทคโนโลยที าให้ขอ้ มูลการตดิ ต่อสื่อสารเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถร่างขอ้ ความธุรกิจและส่ง อีเมลห์ รือแฟกซไ์ ดภ้ ายในสองวินาทีโดยทพี่ วกเขาสามารถตอบกลบั คุณทนั ทีเช่นกนั จึงทาใหส้ ะดวกสบาย และทาให้การเตบิ โตเป็นไปไดม้ ากย่ิงข้นึ 3. การใชเ้ ทคโนโลยีในความสัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษย์ ในขณะทโ่ี ลกกาลงั พฒั นาผคู้ นทางานหนกั ข้ึนทาให้พวกเขาไม่ค่อยมีเวลา ทีจ่ ะหาความสัมพนั ธ์ ดงั น้นั เทคโนโลยจี ึงมีส่วนช่วยในเร่ืองน้ีอยา่ งมาก วนั น้ีผูค้ นใช้ App โทรศพั ทม์ ือถือเพ่อื พบปะและเช่ือมต่อ กบั เพ่ือนเก่าและใหม่ เครือข่ายทางสังคมเช่น Facebook.com , Tagged.com อย่างไรก็ตามความสัมพนั ธ์ เสมือนไมแ่ ข็งแรงเท่าความสัมพนั ธ์ทางกายภาพ ดงั น้นั ฉนั จึงแนะนาใหค้ ุณสละเวลาและพบคนที่ตอ้ งการจะ สานสัมพนั ธ์
24 4. การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา วนั น้ีเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงคร้ังใหญ่ในโลกการศึกษา ดว้ ยการประดิษฐ์เทคโนโลยีและ App บนอุปกรณ์เคลื่อนท่ีซ่ึงจะช่วยให้เรียนรู้ไดง้ า่ ยข้ึน คุณสามารถเขา้ ถงึ ห้องสมุดแบบเต็มรูปแบบผ่านApp บนอปุ กรณ์เคล่อื นทผี่ ่าน Smartphone หรือ iPad ได้ 5. การใชเ้ ทคโนโลยีในซ้ือของออนไลน์ เทคโนโลยีทาให้การซ้ือและขายมีความยืดหยนุ่ ด้วยระบบการชาระเงินแบบ e-Payment เช่น Paypal.com และ Net bank ต่างๆ ผใู้ ชส้ ามารถซ้ือสิ่งต่างๆทางออนไลนไ์ ดโ้ ดยไม่ตอ้ งออกจากบา้ นเพ่ิมความ สะดวกสบายในบา้ น 6. การใชเ้ ทคโนโลยใี นการเกษตร ดูจะไม่เป็นเรื่องที่ไปดว้ ยกันไดซ้ ักเท่าไหร่แต่เทคโนโลยีแสดงให้เห็นว่ามนั สามารถทาไดท้ ุก อยา่ ง แมแ้ ตเ่ รื่องเกี่ยวกบั การเกษตร ดว้ ยการประดิษฐ์ Mobile App สาหรบั เกษตรกรพวกเขาสามารถใช้ App เช่น \"FamGraze\" เพ่ือให้ทางานได้เร็วข้ึนและแม่นยาย่ิงข้ึน ตัวอย่างเช่น App\"FamGraze\" จะช่วยให้ เกษตรกรจดั การหญา้ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพมากข้นึ โดยการแนะนาอาหารทถ่ี กู ทส่ี ุดสาหรับปศสุ ัตวข์ องตน app น้ีจะคานวณปริมาณของหญา้ สตั วข์ องคณุ มีในเขตขอ้ มูล ช่วยใหค้ ณุ มีเวลามากข้นึ ในขณะทีอ่ ยใู่ นไร่ 7. การใชเ้ ทคโนโลยีในการธนาคาร ขณะน้ีธนาคารพาณิชยโ์ อนไดง้ ่ายมาก การสร้างบตั รวีซ่าอิเลคโทรนิคทาให้การโอนเงินทาได้ ง่ายข้ึนโดยไม่ตอ้ งกลวั ว่าจะถูกโจรกรรมไป คุณสามารถซ้ืออะไรก็ไดด้ ว้ ยบตั รวีซ่าอิเลคโทรนิค ดงั น้ันใน กรณีน้ีคณุ จะไม่ตอ้ งพกเงินสด ธนาคารใชซ้ อฟตแ์ วร์เครือข่ายเพื่อตรวจจบั การฉ้อโกง ซอฟต์แวร์มปี ระสิทธ์ิ ภาพสูงในการจาแนกรูปแบบดงั น้นั หากโปรไฟล์ของคุณมีลกั ษณะคลา้ ยกบั ของผทู้ ่ีต้งั ค่าเริ่มตน้ ธนาคารจะ ดาเนินการและช่วยคุณจากการถูกปลน้ 8. การ ใชเ้ ทคโนโลยีในการควบคมุ ธรรมชาติ ธรรมชาติส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจทุกวนั ตวั อย่างเช่น น้าท่วมพ้ืนที่เพาะปลูกและที่อยู่อาศัย ของพวกเขา ทาให้ดินช้ันบนท่ีอุดมสมบูรณ์เสียหายและทาลายการเจริญเติบโตของพืช นอกจากน้ียงั ก่อให้เกิดไฟไหม้อาคารพืชผลและป่ าไม้ท่ีส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ อยา่ งไรก็ตามเทคโนโลยีช่วยให้ มนุษยส์ ร้างเข่ือนขนาดใหญ่ซ่ึงสามารถกักน้าส่วนเกินและใช้น้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ าได้ นอกจากน้ี แสงอาทิตยย์ งั ช่วยใหบ้ า้ นของเราอุน่ และแปลย่ื นแปลงพลงั งานกลบั มาใชม้ ีการใช้ลมเพ่ือผลิตกระแสไฟฟ้ า ท้งั หมดน้ีเป็นผลมาจากการใชเ้ ทคโนโลยีในการควบคุมธรรมชาติ 9.การใชเ้ ทคโนโลยใี นการคมนาคมขนส่ง การคมนาคมเป็นหน่ึงในพ้ืนฐานของทุกอตุ สากรรม เวลาคือเงินดงั น้นั เราตอ้ งมีวิธีการขนส่งที่มี ประสิทธิภาพลองจินตนาการถึงชีวิตท่ีไม่ตอ้ งเสียไปบนทอ้ งถนน หรือสามารถส่งสินคา้ ไดท้ นั ทีท่ีลูกคา้ สั่ง อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีการขนส่งมีการเปล่ยี นแปลงมาเร่ือยๆจนถึงปี ที่ผ่านมา และตอนน้ีเทคโนโลยีการ
25 ขนส่งท่ีกาลงั เขา้ มามีชื่อว่า Hyperloop One ทสี่ ามารถสร้างความเร็วไดท้ ่ี 1,200 กิโลเมตร/ช่วั โมง หรือเทียบ ง่ายๆคือจากกรุงเทพไปจงั หวดั ลาพูนใช้เวลา 35 นาที ซ่ึงไวกว่าเคร่ืองบินมาก และทาให้เราประหยดั เวลา ไดม้ ากข้นึ 10. เทคโนโลยีใหม่ที่เราจะไดใ้ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั แน่นอนว่าความตอ้ งการของเราไม่สิ้นสุดและเทคโนโลยีใหม่ๆจะมาช่วยตอบโจทยส์ ิ่งเหล่าน้ัน ซ่ึงบางยา่ งกด็ ใู ชเ้ ฉพาะกลุ่มเป็นอยา่ งมากและแน่นอนวา่ พวกมนั ช่วยทาใหช้ ีวติ เรามีคุณภาพข้นึ อยา่ งแน่นอน ถงึ ตอนน้ีผอู้ า่ นคงอยากรู้แลว้ ว่ามนั มีอะไรบา้ ง อยา่ งน้นั เรามาเร่ิมทชี่ ิ้นแรกกกนั เลย HAPIfork มนั เป็นตวั ปรับปรุงพฤตกิ รรมการกินและสุขภาพของคณุ HAPIfork น้ีเป็นสอ้ มอจั ฉริยะที่ติดตาม ส่ิงทีค่ ุณกาลงั นิสยั การกิน สาหรบั ผทู้ ่ตี อ้ งการลดน้าหนักเทคโนโลยีสอ้ มอจั ฉริยะน้ีจะช่วยใหค้ ุณรบั ประทาน ไดม้ ีสุขภาพดีและยงั ช่วยกาหนดความเร็วในการรับประทานอาหาร ถา้ คุณตอ้ งการตรวจสอบความเร็วท่คี ุณ กาลงั รับประทานอยคู่ ณุ จะปรับปรุงระบบการยอ่ ยอาหารของคุณและลดน้าหนกั ของคณุ ดว้ ย 3.2 ค้นหาทรัพยากรความรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การนาเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาช่วยปฏิบตั ิงานในดา้ นต่าง ๆ อยา่ งมีประสิทธิผล มีมากมายหลาย ดา้ น ไดแ้ ก่ 1. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานสานักงาน ปัจจุบันสานักงานได้นาเทคโนโลยี สารสนเทศเขา้ มาประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งแพร่หลาย เพื่อให้งานในสานกั งานมีประสิทธิภาพสูงข้ึน กล่าวคือ ทาให้ งานมคี วามสะดวกรวดเร็ว ถูกตอ้ ง แมน่ ยา อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีนามาใช้ในงานสานกั งาน ไดแ้ ก่ เครื่องพิมพ์ดีด อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ เคร่ืองถ่ายเอกสาร ผลิตภณั ฑ์เหล่าน้ีนาไปประยุกต์ใช้กบั งาน สานกั งานไดห้ ลายลกั ษณะ เช่น งานจดั เตรียมเอกสาร เป็นการใชเ้ คร่ืองประมวลผลคาหรือเครื่องประมวลผลเน้ือหา เป็นเคร่ืองมือใน การจดั เตรียม อปุ กรณ์ประกอบการใช้เทคโนโลยเี หลา่ น้ีไดแ้ ก่ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โมเด็ม และช่องทางการ ส่ือสาร ระบบประมวลผลคา แบง่ ออกได้ 2 ระบบ คือ ระบบเดี่ยว (Stand – alone) เป็นระบบท่ีสามารถประมวลผลไดภ้ ายในคอมพวิ เตอร์ชุดเดียว หรือจะเชื่อมโยง ไปยงั คอมพวิ เตอร์อ่ืน ๆ ระบบเช่ือมโยงกบั ข่ายการส่ือสาร เป็นระบบท่ีมีการเช่ือมโยงสารสนเทศซ่ึงกนั และกนั ผ่านเครือข่าย โทรคมนาคม เช่น เครือขา่ ยโทรศพั ท์ เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ งานกระจายเอกสาร เป็ นการกระจายข้อมูลสารสนเทศไปยงั ผูใ้ ช้ ณ จุดต่าง ๆ อาจกระทาโดยการ เชื่อมโยงผ่านเครือขา่ ยโทรคมนาคม อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถปฏบิ ตั งิ านกระจายเอกสารได้ โดยอตั โนมตั ิ ไดแ้ ก่ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
26 งานจดั เก็บและคน้ คืนเอกสาร สามารถทาไดท้ ้งั ระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ผ่านเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ หรือผา่ นเครือขา่ ยโทคมนาคมรูปแบบอืน่ เช่นระบบฐานขอ้ มลู เป็นตน้ งานจัดเตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีใช้ดาเนินงานดังกล่าว ได้แก่ เคร่ือง คอมพวิ เตอร์ เคร่ืองสแกนเนอร์ โทรทศั น์ งานสื่อสารสนเทศดว้ ยเสียง เช่น โทรศพั ท์ การประชุมทางโทรศพั ท์ งานส่ือสารสนเทศดว้ ยภาพและเสียง เช่น ระบบมลั ตมิ ีเดีย ระบบการประชุมทางไกลดว้ ยภาพและ เสียง เป็นตน้ 2. การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมนาเทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ือการจดั การเขา้ มาช่วยในการจดั การระบบงานการผลิต การสั่งซ้ือ การพสั ดุการเงนิ บุคลากร และงานดา้ นอ่ืน ๆ ในโรงงาน 3. การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน รูปแบบของเครื่องเบิกถอนเงินอัตโนมัติ เพ่ืออานวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน และนา คอมพวิ เตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เขา้ มาช่วยในการทางานประจาวนั ของธนาคารดว้ ยการเชื่อมโยง ขอ้ มลู ของธนาคารต่างสาขา ต่างธนาคาร ทาใหผ้ ใู้ ช้บริการสามารถเบกิ ถอน โอนเงินชาระเงินคา่ ใชจ้ ่ายต่าง ๆ ไดโ้ ดยสะดวก 4. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านการส่ือสาร ไดแ้ ก่ การบริการโทรศัพท์วิทยุ โทรทศั น์ เคเบิลทวี ี การคน้ คนื สารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบ ดิจิตอล 5. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านสาธารณสุข เช่นระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ถูกนามาใชใ้ นระบบงานเวชระเบียน ระบบขอ้ มูลยาการรกั ษาพยาบาล การคดิ เงนิ รวมท้งั การส่งเวชระเบยี น ผา่ นระบบโทรคมนาคมที่อาจเรียกวา่ โทรเวชได้ ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยสี ารสนเทศถกู นามาใช้ในการดูแลรักษาโรคระบาดในทอ้ งถิ่น เช่น เม่ือ มีผปู้ ่ วยโรคอหิวาตกโรคในหม่บู า้ น ซ่ึงอาจกลายเป็นโรคระบาดได้ ระบบผเู้ ช่ียวชาญ เป็นระบบทใี่ ช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยโรค เช่น ระบบ Mycinของมหาวิทยาลยั ส แดนฟอร์ด โดยเร่ิมมาใชใ้ นการวินิจฉัยโรคพืชและโรคสัตว์ ที่ใชห้ ลกั การเก็บขอ้ มูลต่าง ๆ ไวโ้ ดยละเอียด แล้วใช้หลกั ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เป็ นแนวคิดในการทาให้คอมพิวเตอร์ทางานไดเ้ หมือน มนุษย์ 6. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศกบั งานดา้ นการฝึกอบรมการศึกษา ดงั น้ี การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็ นการนาเอาคาอธิบาย บทเรียนมาบรรจุไวใ้ นคอมพวิ เตอร์ แลว้ นาบทเรียนน้นั มาแสดงแก่ผเู้ รียน เมื่อผูเ้ รียนอ่านคาอธิบายเหล่าน้นั คอมพิวเตอร์จะมีส่วนท่ีใช้ทดสอบความเข้าใจของผู้เรียนด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ หากเข้าใจไม่ถูกต้อง คอมพิวเตอร์จะทาการอธิบายเน้ือหาเพิ่มเติมใหเ้ ขา้ ใจมากข้นึ แลว้ ถามซ้าอกี
27 การศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีใชใ้ นการจดั การศึกษาทางไกลมีหลายแบบต้งั แต่แบบ งา่ ย ๆ เช่น การเรียนการสอนผ่านส่ือวิทยุ โทรทศั น์ ออกอากาศใหผ้ เู้ รียนศึกษาเอง ตามเวลาทอี่ อกอากาศ ไป จนถึงใช้ระบบแพร่ภาพการสอนผ่านดาวเทียม หรือการประยกุ ตใ์ ชร้ ะบบประชุมทางไกล โดยผูส้ อนและ ผเู้ รียนสามารถสื่อสารถงึ กนั ไดท้ นั ท่ี เพอ่ื สอบถามขอ้ สงสัยหรืออธิบายคาสอน เพ่มิ เติม เครือข่ายการศึกษา เป็ นการจดั ทาเครือข่ายการศึกษาเพื่อให้ครูอาจารยแ์ ละนักศึกษามีโอกาสใช้ เครือข่ายเพ่อื แสวงหาความรู้ท่ีมีอยมู่ ากมายในโลก และใชบ้ ริการตา่ ง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ทาง การศึกษา เช่น บริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail : E-mail) การเผยแพร่และค้นหา ข้อมูลในระบบ เวิลดไ์ วดเ์ วบ็ (World Wide Web) การใช้งานในหอ้ งสมุด มีการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใชใ้ นการดาเนินงานโดยมีเครือข่ายตา่ ง ๆ ทใี่ หก้ ารส่งเสริมสนบั สนุนในการให้บริการหอ้ งสมดุ การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมา ใช้ในห้องสมุดให้ความสะดวกแก่ผูใ้ ช้มากข้ึน ไม่ว่าจะเป็ นบริการยืม คืน การค้นหาหนังสือ วารสาร สิ่งพมิ พ์ หรือการคน้ หาขอ้ มูลที่ตอ้ งการทาไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็วมาก การใช้งานในห้องปฏิบัติการ มีการนาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทางานใน ห้องปฏิบตั ิการร่วมกบั อุปกรณ์เคร่ืองมืออื่น ๆ เช่น การจาลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟ้ า การ ควบคุม การทดลอง การใชใ้ นงานประจาและงานบริหาร เช่น การจดั ทาทะเบียนประวตั ิของนกั เรียน นกั ศึกษา การเลือก วชิ าเรียน การลงทะเบียนเรียน การแสดงผลการเรียน การแนะแนวอาชีพ การแนะแนวการศึกษาต่อ การเก็บ ข้อมูลผูป้ กครองหรือขอ้ มูลครู ซ่ึงทาให้ครูอาจารย์สามารถติดตามและดูแล นักเรียนไดใ้ กล้ชิดมากข้ึน รวมท้งั ครูอาจารยส์ ามารถพฒั นาตนเองไดส้ ูงข้ึน 3.3 อธิบายการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจาวันทรัพยากรความรู้เก่ียวกับการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในชีวติ ประจาวนั ดงั น้นั จึงกล่าวไดว้ า่ ในสังคมปัจจุบนั เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสาคญั และมีความจะเป็นอยา่ งมาก ในชีวิตประจาวนั ช่วยอานวยความสะดวกในการติดต่อส่ือสารให้มีความรวดเร็ว เเม่นยา ทนั ต่อเวลา และ ประหยดั และมแี นวโนว้ ท่จี ะมีบทบาทมากย่งิ ข้ึนในอนาคต เพราะเทคโนโลยีเป็ นเครื่องมือในการดาเนินงานสารสนเทศให้เป็ นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ นับต้งั แต่การ ผลิต การจัดเก็บ การประมวลผล การเรียกใช้ การสื่อสารสารสนเทศ การแลกเปล่ียนและใช้ทรัพยากร สารสนเทศร่วมกนั ใหเ้ กิดประโยชนอ์ ยา่ งเต็มท่ี 1. การประยุกตใ์ ชใ้ นดา้ นการศึกษา การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในการสอน เช่น การสอนดว้ ย ส่ืออุปกรณืท่ีทนั สมยั ใช้ (Video Projector) คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เป็นการนาเอาเทคโนโลยีรวมกบั การออก เเบบโปรเเกรมการสอนมาช่วยใชใ้ นการสอน ซ่ึงเรียกนั ว่า บทเรียน CAI (Computer-Assisted Instruction) เป็ นตน้
28 2. การประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานทะเบียนของสถานศึกษา การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการลงทะเบียน เรียน การประมวลผลการเรียน การตรวจสอบการจบการศกึ ษา และการส่งงานของนกั ศึกษา เป็นตน้ 3. การประยุกต์ใช้ในดา้ นการเเพทย์ เป็นการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นการลงทะเบียนผปู้ ่ าย การ ให้คาปรึกษาทางไกลโดยเเพทยผ์ ูช้ านาญ ช่วยในการส่งข้อมูลที่เปนเอกสารหรือภาพเพื่อประกอบการ พิจารณาของเเพทยไ์ ด้ 4. การประยุกต์ใช้ในสานักงานของภาครัฐและเอกชน การนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วงการ ทางานดา้ นต่างๆ เช่นการทาบตั รประจาตวั ประชาชน การจ่ายค่าสาธารณูปโภคตา่ งๆ การนาเทคโนโลยมี าใช้ ในสานกั งานเพือ่ อานวยความสะดวกและมคี วามรวดเร็วยิง่ ข้นึ 5. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน รูปแบบของเครื่องเบกิ ถอนเงินอตั โนมตั ิเพ่อื อานวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงนิ และนาคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เขา้ มาช่วยในการทางานประจาวนั ของธนาคารดว้ ยการ เชื่อมโยงข้อมูลของธนาคารต่างสาขา ต่างธนาคารทาให้ผูใ้ ช้บริการสามารถเบิก ถอน โอนเงินชาระเงิน คา่ ใชจ้ ่ายตา่ ง ๆไดโ้ ดยสะดวก 6. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรมโรงงานอุตสาหกรรมนาเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการจดั การเขา้ มาช่วยในการจดั การระบบงานการผลิต การส่ังซ้ือ การพสั ดกุ ารเงนิ บุคลากร และงานดา้ นอ่ืน ๆในโรงงาน 7. การประยุกต์ใช้ในงานดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มนักวิทยาสตร์ วิศวกรที่ต้องการศึกษา พฤติกรรมบางอยา่ งของส่ิงมีชีวตรวมถึงสิ่งแวดลอ้ มตา่ งๆ เช่นศึกษาชีวิตความเป็นอยขู่ องสัตวป์ ่ าต่าง ๆ การ พ่งึ พาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั ตลอดจนระบบนิเวศวทิ ยา ความสนใจในการจาลองความเป็นอยขู่ องสิ่งมีชีวิตไดม้ ี มานานแลว้ โดยการใชโ้ ปรเเกรมตา่ งๆท่ีคดิ คน้ ข้ึนมาสาหรับงานดา้ นวทิ ยาศาสตร์ 8. การประยุกต์ใช้ในงานด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม เทคโนโลยีของการสื่อสารและ โทรคมนาคมในปัจจุบนั กา้ วไกลไปมากมีบริการมากมายท่ีทนั สมยั และตอบรบั กบั การนามาประยุกต์ใช้ใน การดาเนินธุรกิจ เช่น การใชโ้ ทรศพั ทใ์ นปัจจบุ นั น้ีก็มไิ ดม้ ีไวเ้ พียงสาหรับคยุ สนทนาเพียงอยา่ งเดียวอีกตอ่ ไป แต่มนั สามารถช่วยงานไดม้ ากข้ึน 9. การประยุกตใ์ ชใ้ นงานห้องสมุด เพอ่ื ให้มสี ะดวกรวดเร็วความรวดเร็วในการคน้ ควา้ หนงั สือในแตล่ ่ะ หมวด สะดวกในการใหบ้ ริการยืมคนื การคน้ หาหนงั สือ วรสาร สิ่งพมิ พต์ ่างๆไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
บทท4่ี สรุป ในยคุ น้ีคงจะไม่สามารถที่จะปฏิเสธไดเ้ ลยว่าเทคโนโลยีไม่มีความจาเป็ นสาหรับการดาเนินชีวิต ของมนุษย์ เพราะทุกคนลว้ นใช้เทคโนโลยีเพ่ืออานวยความสะดวกในชีวติ ในทุก ๆ ดา้ น ต้งั แต่การต่นื นอน จนถงึ การเขา้ นอน ดงั น้นั เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งท่จี าเป็นสาหรับมนุษย์ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ผทู้ ี่อาศยั อยใู่ นเมอื งที่ ชีวิตประจาวนั มีแต่ความเร่งรีบต้องแข่งขันกบั เวลา การนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงมีความจาเป็ นอย่างย่ิง เพราะเทคโนโลยีสมยั ใหม่นอกจากจะช่วยอานวยความสะดวกในการทางานแลว้ ยงั ช่วยย่นระยะเวลาทา กิจกรรมตา่ ง ๆ ใหส้ ้ันลง การนาเอาเทคโนโลยีมาใชใ้ นชีวิตประจาวนั ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะในบางคร้ังกน็ าโทษมาใหแ้ ก่ มนุษยด์ ว้ ยเช่นกนั ยกตวั อยา่ งท่สี ามารถเห็นไดช้ ดั เจนก็คงจะหนีไม่พน้ เร่ืองท่ีเป็นข่าวตามหน้าหนงั สือพมิ พ์ ในเร่ืองของการถูกลวงไปข่มขืน โดยสาเหตุหลัก ๆ ของการถูกล่อลวงไปข่มขืน ก็เป็ นผลมาจากการใช้ เทคโนโลยีในทางที่ผิดซ่ึงส่วนใหญ่ก็มาจากการพูดคุยกนั ผ่านทางโปรแกรมการสนทนาออนไลน์(Chat) ที่ เมือ่ มีการพูดคยุ กนั กม็ ีการนดั มาเจอกนั และเกิดเหตกุ ารณ์การล่อลวงไปข่มขนื เพราะการพดู คุยผ่านการChat น้ีเป็นการพูดคุยทอี่ ิสรเสรี ผพู้ ูดสามารถทีจ่ ะพูดคยุ อะไรออกไปก็ไดไ้ ม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไมก่ ็ตาม และ นอกจากน้ีก็ยงั มีการนาเสนอเวบ็ ไซดท์ ีเ่ ป็นเวบ็ ไซดโ์ ป๊ หรือมีการนาเสนอสิ่งทีอ่ นาจารลงในเวบ็ ไซด์ และทา ให้เป็นการยวั่ ยุทางอารมณข์ องผเู้ ล่นจนนามาสู่การกระทาอนั ผดิ ศีลธรรม และเกิดคดีความได้ และจากการท่ี สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นส่ือเสรีไม่มีองคก์ รใด ๆ เขา้ มาควบคมุ ดแู ละจึงทาให้อนิ เตอร์เน็ตกลายเป็นช่องทางหน่ึง ในการติดต่อส่ือสารกันระหว่างกลุ่มคนที่ไม่หวังดี เช่น กลุ่มก่อการร้าย หรือ กลุ่มคนที่ต้องการก่อ อาชญากรรม โดยกลุ่มคนเหล่าน้ีก็จะใช้อินเตอร์เน็ตเป็ นช่องทางหลกั ในการติดต่อส่ือสารระหว่างกนั โดย อาจมีเวบ็ ไซดเ์ ป็นกลุ่มของตนเอง หรือใชก้ ารส่ง E-mail เป็นทอด ๆ ระหว่างกนั และมกี ารแปลรหสั จากการ ส่ง E-mail โดยไม่มใี ครสามารถที่จะลว่ งรู้ได้ และในบางคร้งั ก็มีคนที่มีความสามารถในการใชค้ อมพวิ เตอร์ และอินเตอร์เนต็ เป็นอย่างดี คนเหลา่ น้ีก็นาความเกง่ กาจของตนเองมาใชใ้ นทางที่ผิด เช่น การลกั ลอบขโมย ขอ้ มูลในองค์กรต่าง ๆ เพ่ือนามาใช้ก่ออาชญากรรม เช่น ลักลอบค้นข้อมูลของบริษทั บัตรเครดิต หรือ ธนาคาร หรือข้อมูลบัญชีเงินฝากและATM เพ่ือลักลอบนาเงินไปใช้ นอกจากน้ีบางคร้ังก็มีการใช้ อินเตอร์เน็ตเพ่ือปล่อยหรือสร้างข่าวที่มีความบิดเบือน เพ่ือให้เกิดความเขา้ ใจผิดและสร้างความหวาดกลวั ให้กบั ประชาชน เช่น ในบางคร้ังกลุ่มก่อการร้าย ก็อาจใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเพื่อสร้างข่าวบิดเบือน เพื่อจูงใจ ประชาชนให้มาเขา้ ร่วมในขบวนการและร่วมเป็ นส่วนหน่ึงในการก่อการร้ายจะเห็นไดว้ ่าเทคโนโลยีมีท้ัง ประโยชน์และโทษ ดงั น้นั การใช้เทคโนโลยีท่ถี ูกวิธีจึงเป็นส่ิงท่ีสาคญั และตอ้ งไม่ใช้เทคโนโลยีในทางทผี่ ิด
29 ทจี่ ะส่งผลให้เกิดความเสียหายตอ่ ท้งั ตนเองและผอู้ นื่ และในขณะเดียวกนั มนุษยเ์ รากจ็ ะตอ้ งหนั กลบั มาพ่งึ พา ตวั เองบา้ ง และใชเ้ ทคโนโลยีเฉพาะเทา่ ทจี่ าเป็นเทา่ น้นั และในบางคร้งั ผใู้ หญ่หรือผปู้ กครองก็ตอ้ งเขา้ มาดูแล เดก็ และให้คาแนะนาแก่เด็กดว้ ยเพ่อื ไม่ให้เด็กเหล่าน้ีเขา้ ไปเสพยส์ ่ือทีผ่ ดิ เบือนและผิดศลี ธรรม
บรรณานุกรม “การนาเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาใช”้ [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/lifezgaming/khwam-sakhay-laea-bthbath-khxng-thekhnoloyi-sarsnthem [สืบคน้ เม่ือ 7 พฤศจิกายน 2564]. “การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://hborinz.blogspot.com/2013/11/blog-post_11.html [สืบคน้ เมอ่ื 7 พฤศจิกายน 2564]. “กาหนดช่องทางการเผยแพร่ฐานความรู้ของการใชเ้ ทคโนโลยีในชีวิต” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/informationsystemis2/8rabb-sar-sn-the-sxun/rabb-phu-cheiywchay 2559. [สืบคน้ เมอ่ื 7 พฤศจิกายน 2564]. “ข้นั ตอนของการใชเ้ ทคโนโลยี” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/thekhnoloyisarsnthes05/bthkhwam-thi-keiywkhxng/kar-chi-thekhnoloyi-ni- chiwit-praca-wan [สืบคน้ เม่อื 7 พฤศจิกายน 2564]. “คน้ หาความรู้และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://dip-sme-academy.com/knowleagehub/article/40-10 - [สืบคน้ เมอื่ 7 พฤศจิกายน 2564]. “คน้ หาทรพั ยากรความรู้การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/perarpong/sarsnthes-ni-chiwit-praca [สืบคน้ เม่ือ7 พฤศจิกายน 2564]. “ความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/technologyby403/tawxyang-thekhnoloyi-ni-chiwit-praca-wa [สืบคน้ เม่อื 7 พฤศจิกายน 2564]. “ความหมายของการใชเ้ ทคโนโลยีในชีวิต” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/kasesayapak39656/khorng-ngan-reuxng-kar-chi-thekhnoloyi-sarsnthes-ni- chiwit-praca-wan [สืบคน้ เมื่อ7 พฤศจิกายน 2564]. “ดาเนินการอธิบายเก่ียวกบั การใชเ้ ทคโนโลยี” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://comkrubee.blogspot.com/2020/. [สืบคน้ เม่อื 7 พฤศจิกายน 2564]. “ประเมนิ คุณภาพของการใชเ้ ทคโนโลยี” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.scimath.org/article-technology/item/11534-2020-05-01-03-32-41 [สืบคน้ เม่ือ7 พฤศจิกายน 2564]. “ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/rattikan581031029/prayochn-khxng-thekhnoloyi-sarsnthes [สืบคน้ เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2564].
29 บรรณานุกรม(ต่อ) “ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศต่อชีวติ ความเป็นอยแู่ ละสงั คม” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/teknology20169/bth-thi-1-khwam-ru-beuxng-tn-keiyw-kab-thekhnoloyi- sarsnthes/1-5-phlk-ra-thb-khxng-thekhnoloyi-sarsnthes [สืบคน้ เมื่อ7 พฤศจิกายน 2564 “ระบคุ าสาคญั หรือคาคน้ หา เขียนสาระสาคญั เขียนแหล่งอา้ งอิงของคาสาคญั ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://www.gotoknow.org/posts/354835 , [สืบคน้ เมื่อ7 พฤศจิกายน 2564]. “วเิ คราะห์เน้ือหาของการใชเ้ ทคโนโลยี” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://comkrubee.blogspot.com/2020 / [สืบคน้ เม่อื 7 พฤศจิกายน 2564]. “สรุป” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://phatcharinloetru5711165145.wordpress.com/2015/08/10/ [สืบคน้ เมื่อ7 พฤศจิกายน 2564]. “อธิบายการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทรัพยากรความรู้เกี่ยวกบั การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศใน ชีวิตประจาวนั ” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://hborinz.blogspot.com/2013/11/blog-post_11.html [สืบคน้ เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2564].
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: